บทที่ 27 > งานเข้า (ภาคหลัง) .+
เดินย้อนกลับไปหน้าซอย .. แล้วค่อยๆโผล่หน้าเข้ามาตามหาเซิ่นทีละร้านจนสุดซอย .. ไม่เจอแม้แต่เงา
ผมกลับมายืนเซ่ออยู่ที่เดิมหน้าหอเซิ่นอีกครั้ง .. หมดหนทางแล้วกู -*- ไปไหนดีวะ ...
หันซ้าย .. เจอร้านข้าว .. ไม่ กินอะไรไม่ลงแล้วตอนนี้ !
หันขวา .. เจอร้านเหล้า .. ไม่ เพิ่งจะห้าโมงเย็นมันยังไม่เปิด !
หันไปฝั่งตรงข้าม .. ลานจอดรถ .. ไม่ รถกูจอดอยู่คอนโดไอ้อาร์ม .. ที่จอดอยู่ไม่ใช่รถกูสักคัน !
หันไปเยื้องๆ ฝั่งตรงข้าม .. ร้านทำผม .. โอเค ! ตัวเลือกที่ดีที่สุด
.
" ทำอะไรคะน้อง " พนักงานสาว (ประเภทสอง) เอ่ยถามทันทีที่ผมก้าวเท้าเข้ามาในร้านได้แค่ข้างเดียว
" พี่ต้อมเข้าร้านป่ะครับ " ผมถามหาช่างประจำของผม
" อ้าว .. ว่าไงน้องตรอง มาทำไร " คนที่ถูกเอ่ยถึงลุกขึ้นจากหลังเค้าท์เตอร์มาทักทายผม
" ทำไรก็ทำเหอะพี่ .. แก้เซ็ง "
.
ผมนั่งมองหน้าตัวเองผ่านกระจกบานใหญ่ตรงหน้า .. พี่ต้อมยืนเอามือเท้าคางทำท่าคิดกับไอ้หัวกลมๆตรงหน้า
" ตกลงจะทำอะไรวะน้องตรอง "
" ตัดก็ได้พี่ "
" เพิ่งมาตัดไปเมื่ออาทิตย์ที่แล้วเองไม่ใช่เหรอ " พี่ต้อมแย้งกลับมา
" งั้นเซ็ทก็ได้พี่ "
" จะออกไปเที่ยวไหนล่ะจะได้เซทแนวถูก .. แต่แต่งตัวเหมือนเพิ่งตื่นนะเนี่ย "
" อืม .. เพิ่งตื่น แล้วก็กำลังจะกลับเข้าหอ " ผมตอบกลับไปตามความจริง
" กลับเข้าหอแล้วมาทำผมทำไมครับน้อง " ไอ้พี่ต้อมยังคงถามต่อ .. โดยที่มือเริ่มถือหวีกับไดร์ไว้ในท่าเตรียมพร้อมแล้ว
" ช่างเหอะพี่ .. เอาให้หล่อๆละกัน " ผมบอกก่อนจะหลับตาลง ...
... ร้านตัดผม .. เป็นอีกที่ที่ผมชอบไปเวลาอารมณ์ไม่ดี ... ผมว่ามันผ่อนคลายดีนะ .. หลายคนถามว่าแล้วทำไมไม่ไปสปา ..
.. สปาก็ชอบนะ แต่มันคนละอารมณ์กับร้านตัดผม .. ถ้าให้เลือกผมชอบที่จะมาร้านตัดผมมากกว่า ... แนวใครแนวมันครับ .. นานาจิตตัง ...
.. ผมเป็นคนชอบอะไรแล้วก็จะชอบไปเลยตลอด ... ดังนั้นตลอดสิบแปดปีที่ผ่านมา จึงมีร้านตัดผมเพียงไม่กี่ร้านที่จะได้มีโอกาสเอากรรไกรมาสัมผัสกับขนสีดำบนกบาลผม
" เอ้า .. หล่อแล้วน้องตรอง " พี่ต้อมปลดผ้าคลุมสีดำออกจากบ่าผมก่อนจะเอาลมจากไดร์ในมือเป่าเส้นผมที่เกาะอยู่บนเสื้อสีขาวของผมออกไป
" ขอบคุณครับพี่ " ผมลืมตามองไอ้หน้าตากวนตีนที่นั่งอยู่อีกด้านของกระจกก่อนจะยักคิ้วใส่
" วันนี้แปลกๆนะเรา "
" เหรอครับ " ผมรับคำก่อนจะลุกขึ้นมาจ่ายเงินที่เค้าท์เตอร์
" ขอบคุณนะคะ " หญิงสาวที่เค้าท์เตอร์ส่งเงินทอนให้ผมก่อนจะกล่าวขอบคุณ ..
.
" ลองชิมดูนะครับ .. ไม่รู้ว่าน้าจะชอบรึเปล่า " ผมวางถุงที่ใส่กล่องผัดไทลงบนโต๊ะให้น้ายาม
" โอย .. ซื้อมาอีกแล้วเหรอครับเนี่ย น้าบอกแล้วไงครับว่าไม่ต้องซื้อ น้าเกรงใจ " ประโยครูปแบบเดิมๆออกมาจากปากน้ายาม ..
" เล็กน้อยครับน้ายาม " ผมยิ้มรับ พลางนั่งลงบนขอบกระเบื้องหินหยาบสีน้ำตาลอ่อนหน้าหอข้างๆโต๊ะน้ายาม
" แล้วนี่กินอะไรมาหรือยังล่ะครับ "
" เรียบร้อยแล้วครับ " ประโยคนี้ผมโกหกน้ายามไป .. ตอนนี้ผมกินอะไรไม่ลงแล้วล่ะครับ ได้แต่รอคนที่หายไปไหนก็ไม่รู้
" เอ .. นี่ก็ค่ำแล้วนะครับ เกิดถ้าเพื่อนคุณไม่กลับมานอนที่นี่ จะทำยังไงล่ะครับ " คำถามของน้ายามแฝงด้วยความเป็นห่วง
" ผมจะรอจนกว่าเค้าจะกลับมาที่นี่ครับ "
" เอางั้นเหรอครับ "
" ครับ .. น้ายามทานเถอะครับเดี๋ยวเย็นแล้วจะไม่อร่อย " ผมบอกน้ายามก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินเข้ามินิมาร์ทที่อยู่ใต้หอ
" น้ำครับน้า " ผมวางขวดน้ำลงบนโต๊ะ พร้อมกับนั่งลงดูดไวตามิลค์ในขวดที่ถืออยู่
" โอย .. ซื้อมาทำไมกันครับ น้ามีเป็นกระติกเลย " น้ายามชี้ไปยังกระติกน้ำใต้โต๊ะ
" เผื่อน้ายามอยากกินน้ำเย็นมั่งไงครับ " ผมยิ้มตอบไป
.
เวลาผ่านไปจากนาทีเป็นชั่วโมง .. ผมมีน้ายามเป็นเพื่อนคุย
" แล้วนี่น้ายามเลิกกะกี่โมงครับเนี่ย "
" เที่ยงคืนก็หมดแล้ว " .. นั่นหมายถึงอีกไม่ถึงสองชั่วโมง น้ายามก็จะได้กลับไปพักผ่อนแล้ว .. เพื่อนคนเดียวของผมตอนนี้กำลังจะจากไป
" อืม .. แล้วไม่มีเพื่อนคนอื่นอีกเลยเหรอ ไปรอเค้าที่ห้องเพื่อนก่อนสิจะได้ไม่ต้องมานั่งตากยุงอย่างนี้ "
" มีครับ .. แต่ผมอยากรอเค้าที่นี่มากกว่า " ... เอาจริงๆเลยนะ ตอนนั้นแค่อยากให้เค้าเห็นว่าเราเป็นห่วงแค่ไหน ถึงยอมมานั่งลำบากลำบนขนาดนี้ ...
" อ้าว .. นั่นไงมาแล้วนี่ " น้ายามบอกผมให้หันไปมองดูคนที่เพิ่งลงจากรถเก๋งสีดำที่จออยู่อีกฝั่งของถนนในซอย
เซิ่นเปิดประตูลงออกมา .. ก่อนจะเดินข้ามถนนมายังฝั่งที่ผมนั่งอยู่ ... คนขับเปิดประตูออกก่อนจะวิ่งตามมา .. ไอ้ (หน้าเหมือน) อ๊อฟ ปองศักดิ์ !!! มันวิ่งมาหอมแก้มเซิ่นก่อนจะยิ้มแล้ววิ่งกลับขึ้นรถไป
เซิ่นยืนเอามือถูแก้มตัวเองก่อนจะเดินเข้าหอมา ...
" น้ายามหวัด ... ดี " เซิ่นทักทายน้ายามตามปกติ ก่อนจะทำท่าตกใจเมื่อเห็นหน้าคนที่นั่งอยู่ข้างๆน้ายาม
" ผมขอคุยกับคุณหน่อยสิ .. ขอตัวนะครับน้ายาม " ผมลากแขนเซิ่นมายังประตูหน้าหอก่อนจะทาบกระเป๋าสตางค์ลงบนที่สแกน (หอเซิ่น .. แต่ผมมีบัตรสแกน โฮะโฮะ ~)
" ปล่อยนะเค้าเจ็บ " ไอ้ตัวดีพยายามแกะมือผมออก .. แมร่งเว้ยลิฟท์แมร่งช้า ! ผมเลยลากไอ้ตัวดีเดินขึ้นบันไดแทน
.
ประตูห้องปิดลง .. เวร ! รูมเมทมันนั่งทำหน้าเหวออยู่บนในห้อง
" ขอใช้ห้องหน่อยนะครับ " ผมบอก .. รูมเมทเซิ่นมองหน้าผมสลับกับเซิ่นไปมา
" ไม่มีอะไรหรอก " เซิ่นบอก
" อืมๆ คืนนี้พี่ไปนอนห้องปาล์มนะ " รูมเมทซึ่งเป็นรุ่นพี่ที่โรงเรียนเก่ามันคว้ามือถือกับกระเป๋าตังค์ก่อนจะบอกแล้วเดินออกไป .. ดีนะที่เป็นผู้หญิง ไม่งั้นผมคงหึงอีกคน !
" มีอะไรอยากบอกผมไหม " ผมปล่อยแขนเซิ่นให้เป็นอิสระก่อนจะยืนกอดอกพิงประตู
" เซิ่น ... เซิ่น ... เซิ่นขอโทษ " ไอ้ตัวดียืนตาแดงอยู่ใกล้ผม
" คุณมาขอโทษผม .. คุณทำอะไรผิดล่ะครับ "
" ก็ไม่รู้ .. ก็ขอโทษทั้งหมด ขอโทษที่ทำให้โกรธ ขอโทษที่ทำให้ไม่พอใจ "
" ดีเนอะ .. ขอโทษ .. แต่ไม่รู้ว่าขอโทษเรื่องอะไร .. เก็บคำขอโทษของคุณไว้เถอะ .. ผมว่ามันไม่จริงใจ " ผมเมินหน้าไปทางอื่น เพราะกลัวว่าน้ำตาจะทำให้ผมใจอ่อน
" เซิ่น .... " คนตรงหน้าพูดได้แต่นั้น ก่อนจะก้มหน้าสะอื้น
" ถามอีกครั้งนะ ... มีอะไรอยากเล่าให้ผมฟังไหม " ผมถามช้าๆ .. คนตรงหน้าก้มหน้าร้องไห้อย่างเอาเป็นเอาตายหนักกว่าเดิม .. แรงสะอื้นทำให้ไหล่คู่นั้นสั่นไหวจนสังเกตได้
" โอเค . จบ ! ผมว่าคุณคงยังไม่พร้อมที่จะคุยตอนนี้ .. เอาเป็นว่าผมจะไม่ถามคุณอีก .. พร้อมเมื่อไรค่อยคุยละกัน " ผมพูดก่อนจะหันหลังก้าวเปิดประตู
" .... เฮีย " คนที่ยืนร้องไห้อยู่สวมกอดผมจากข้างหลัง .. ก้มหน้าร้องไห้ซบอยู่กับหลังผม
" คุณกำลังทำให้ผมลำบากใจ " ผมได้แต่ยืนนิ่งเป็นหุ่น
" เฮียจะไปไหน " เสียงอู้อี้ดังอยู่ใกล้ๆหู
" กลับบ้าน "
" เซิ่นขอโทษ .. เฮียอยู่กับเซิ่นนะ "
" หยุดร้องไห้ก่อนสิครับ .. ไม่งั้นเราก็คุยกันไม่รู้เรื่อง " ผมแกะแขนที่กอดไว้ออก ก่อนจะหมุนตัวมาหาคนที่ยืนก้มหน้าอยู่
" ทำไมขี้แยจังวะครับ .. แล้วอย่างนี้จะคุยกันยังไงล่ะเนี่ย " ผมใช้นิ้วโป้งทั้งสองข้างปาดน้ำตาที่แก้มของคนที่อยู่ตรงหน้า .. แล้วสุดท้ายผมก็เป็นโรคภูมิแพ้น้ำตาจริงๆซะด้วย
" ไหนบอกเฮียดิครับว่าใครแกล้ง " ผมลากเซิ่นมานั่งกอดบนเตียง .. เซิ่นยังนั่งก้มหน้าสะอื้น
" ไอ้นั่นมันชื่ออะไรครับ " ในเมื่อไม่ยอมเล่าผมก็ต้องค่อยๆตะล่อมถามไป ..
" ... อ๊อฟ " .. เวร ! หน้าเหมือนแล้วยังเสือกชื่อเหมือนอีก
" แล้วมันเป็นใครครับ "
" ... เขาเคยมาจีบๆ ตั้งนานแล้ว "
" แล้ว ? " ผมเอาคางเกยไหล่คนที่นั่งอยู่ข้างหน้าไว้ .. พยายามสงบสติอารมณ์ให้ได้มากที่สุด
" ... แล้วเซิ่นก็เคยคุยๆด้วย "
" อืม "
" แต่เซิ่นไม่ได้อะไรกับเขาแล้วนะ "
" แล้วทำไมวันนี้ถึงไปกับมันได้ล่ะครับ "
" ก็เขามาชวน .. เขาบอกว่าถ้าคิดว่าเค้าเป็นพี่ชายจริงๆก็ให้ไป "
" แล้วก็ไปเนี่ยนะ ? " ผมเอียงคอถาม
" ก็เซิ่นไม่ได้คิดอะไรแล้วจริงๆนี่หน่าเฮีย "
" ไม่กลัวมันทำอะไรเหรอ "
" เซิ่นโตแล้วนะ เซิ่นดูแลตัวเองได้ "
" เออ ! ให้จริง .. แล้วทำไมไม่บอกเฮียดีๆ "
" บอกไปเดี๋ยวเฮียก็คิดมากอีกอะ .. เซิ่นโทรกลับไปหาเฮียก็ปิดเครื่อง "
" เจ๊งกะบ๊งไปแล้วมือถืออะ " ผมบอกไป .. หมดประโยชน์ที่จะมานั่งค้นหาความจริง .. คนที่รู้ดีมันมีแค่เซิ่นกับไอ้นั่นแค่สองคน ..
.
' ถ้ามึงรักเค้า มึงก็ต้องเชื่อใจเค้า ! ' ประโยคธรรมดาๆของไอ้เยี่ยมลอยเข้ามาในหัว ..
.
นั่นดิ .. ในเมื่อเค้าเล่าให้มึงฟังแล้ว .. มึงก็ทำได้แค่ต้องเชื่อ .. แค่นั้น !
" เรื่องนี้เฮียขอเคลียร์ได้ปะครับ "
" ทำไงอะ ? " เซิ่นหันกลับมามองหน้าผม
" ยอมให้เคลียร์ปะล่ะครับ "
" อืม "
" งั้นขอมือถือหน่อย " ผมแบมือขอ
" เฮ้ย จะดีเหรอเฮีย "
" ก็ถ้ามันไม่มีอะไรจริงๆ " ผมบอก .. เซิ่นวางมือถือลงบนมือ
" แน่ใจแล้วนะ ? " ผมถามย้ำ
" อืม "
กดโทรออก .. อ๊อฟ !
" ว่าไงครับ " ไอ้นั่นรับสายด้วยน้ำเสียงดีอกดีใจ
" เป็นอะไรกับเซิ่นอะครับ " ผมถามก่อนจะกดเปิดลำโพง
" แฟนไงครับ .. เฮ้ยเดี๋ยว ! นี่ใครเนี่ย "
" หึหึ .. แน่ใจเหรอครับว่าสถานภาพนั้นมันถูกแล้ว " ผมปรายตามองไปยังคนที่นั่งทำหน้าตกใจอยู่บนเตียง
" .... แฟนเซิ่นเหรอ "
" อ้าว .. ก็เมื่อกี้คุณพูดเองนี่ว่าเป็นแฟนเซิ่น .. แล้วผมจะไปเป็นแฟนเค้าอีกคนได้ไง "
" จะเอาไงวะ " น้ำเสียงอีกฝ่ายเริ่มเปลี่ยนไป
" ก็ไม่เอาไงหรอกครับ .. แค่จะบอกว่าเลิกยุ่งกับแฟนผมได้แล้วนะครับ "
" เฮ้ย .. ให้คนกลางเค้าเป็นคนตัดสินใจดิวะ " ไอ้บ้านั่นตอกกลับมา .. ผมมองเซิ่น ..
" ให้มันจบแค่นี้แหละอ๊อฟ .. เซิ่นเคยบอกแล้วไงว่าเซิ่นเลือกเค้า "
" โอเค๊ ! โอเค .. มึงชนะ "
" ขอบคุณที่เข้าใจง่ายๆนะครับ " ... จบ ! ภารกิจนี้ เคลียร์ !!! ไปด่านต่อไป ... เย้เย้ (/-_-)/ ~ \(-_-\) .. ว่าแต่ทำไมมันยอมง่ายจังวะ แมร่งไม่หนุกเลย .. เลยอดเล่นแบบ MV เจ๊ปานเลยอะ TT^TT อยากสาดคารามายด์ วะฮ่าฮ่า ~!!!