มาถึงตอนนี้แล้วขอให้คนอ่านยิ้มสักนิดเดียว คนเขียนก็แสนจะปลื้มใจแล้วค่ะ

***************************************************
“พี่ต่ายลืมบอกอะไรผมรึเปล่า??”“หืมมม...ลืมอะไรเหรอ”
“ลืมต่ออีกรอบใช่ไม๊ หึหึ งั้นต่อกันเลยนะครับ”พี่ต่ายเอามือจับเอวผมแน่น ผมรีบเอามือปัดมือพี่ต่ายออก
“ไม่ใช่....เปิดช่องไม่ได้เลยนะหาทางเข้าเรื่องนี้ได้ตลอดเลยพี่ต่ายอ่ะ นี่โอมซีเรียสนะ จริงจังด้วย ไม่ตอบมาล่ะน่าดู”

ผมพยายามเอาบั้นท้ายผมขยับออกจากพี่ต่าย แต่พี่ต่ายซิครับก็เอามือมาจับกดสะโพกผมไว้ คนบร้าอะไรไม่รู้เอาของตัวเองมาฝากไว้กับคนอื่นไม่ยอมเอาคืนไป นี่ไม่ใช่ฝากตังค์นะ ดอกเบี้ยก็ไม่ได้มีแต่เสียยยย
“ก็พี่ต่ายยังไม่บอกผมเลยว่ากระซิบอะไรกับสาวเขียว เอ๊ย น้องป๋อม”พี่ต่ายทำหน้างงๆคิดอยู่ชั่วขณะก่อนที่จะนึกออกแล้วยิ้มออกมา
“โอเค...งั้นมานั่งคุยกันดีกว่านะโอมนะ”
ผมก็นึกว่าเราจะนั่งคุยกันดีๆเป็นกิจจะลักษณะ แต่วันนี้พี่ต่ายแกเหมือนเก็บกดอะไรมาไม่รู้
พี่ต่ายขยับตัวจะนั่งขึ้นครับ แต่ก็ไม่ยอมปล่อยผมสักที รั้งตัวเกี่ยวเอวให้ผมขึ้นมานั่งด้วยเลยกลายเป็นว่าตอนนี้ผมนั่งตักพี่ต่ายอยู่โดยที่ยังค้างคาอยู่แบบนั้น....... พี่ต่ายนะพี่ต่ายมันอึดอัดมากกกกกเลยครับ
“พี่ตายเอาออกก่อนไม่ได้เหรอ โอมอึดอัด”ผมหันหน้ายุ่งๆไปมองหน้าพี่ต่าย
พี่่ต่ายส่ายหน้ายิ้มกริ่ม แววตายังเจ้าเล่ห์อยู่เลยครับ ส่ายหัวตอบผม
“ไม่ต้องหรอกแบบนี้แหล่ะ คุยเสร็จจะได้ไม่ต้องเสียเวลาต่อกันไปได้เลย”
ผมได้แต่ถอนหายใจระอากับความดื้อของพี่ต่าย
“คนอะไรลามกขึ้นทุกวัน....เอ้า...งั้นก็บอกผมได้หรือยัง เรื่องน้องป๋อม คุยอะไรกันครับตอนที่จะแยกจากกันน่ะ”
“หึหึ ก็..ไม่มีอะไรมาก เจ้าหญิงเค้าบอกว่า ถ้าเป็นโอมเค้ายอมคืนสัญญาให้พี่”
คำตอบของพี่ต่ายไม่ชัดเจนครับ อย่ามาทำพูดขาดๆให้เอาไปคิดเองต่อ ผมชอบแบบชัดเจน
ผมก็เลยต้องถามต่ออีก “สัญญาอะไร สัญญาเมื่อสายัณฑ์ เหรอ ฮ่าๆๆๆๆ”ผมยังหัวเราะไม่หยุดพี่ต่ายเลยเขกหัวผมครับ
“ไหนบอกว่าจริงจังไงล่ะ พาออกนอกเรื่องอีกแล้วนะเรา แล้วจะคุยต่อไม๊หรือจะฮาอย่างเดียว”พี่ต่ายเขย่าหัวผมแล้วขยี้เบาๆ
ทีแรกผมก็ไม่คิดอะไร แต่เดี๋ยวก่อนเมื่อกี้มือพี่ต่ายทำ...กับน้องชายผม..อึ๋ย..สงสัยพรุ่งนี้ผมต้องสระผมใหม่อีกรอบแน่ๆ
“พี่เคยสัญญากับเจ้าหญิงไว้ว่าโตขึ้นพี่จะเป็นเจ้าบ่าวให้เค้า ก็ขำๆน่ะแบบเด็กๆ”
เหอๆๆๆ ทำยังกะนิยายทมยันตีเล่มละสิบบาทสมัยก่อน คำมั่นสัญญา พี่รินกับน้องดา เง้อมีด้วยเหรอเนี่ย
“พี่ต่ายกับน้องป๋อม”ชิส์

“เด็กๆที่ว่าน่ะกี่ขวบพี่ต่าย” จะจับให้มั่นต้องคั้นให้ตายครับ รู้เขารู้เรารบกี่ครั้งก็ชนะทุกครั้ง
“ก็ซัก 15 ได้มั๊ง แล้วเราก็แยกย้ายกันไป”พี่ต่ายทำเสียงมีความสุขเมื่อคิดถึงความหลัง
“15เนี่ยนะ ไม่เด็กแล้วพี่กำลังวัยรุ่นเลย พี่อย่าบอกนะว่าน้องป๋อมนี่เป็นรักแรกของพี่ที่บอกกับเบ็ตตี้น่ะ”ผมชักจะจับจุดถูกแล้วครับ มิน่าเวลาที่พี่ต่ายคุยกะน้องป๋อมถึงได้ทำสีหน้าชื่นบาน เริงร่าขนาดนั้น ชักอารมณ์ปริ๊ดส์สสสขึ้นไม่รู้ตัว

“เอ้ย...เบ็ตตี้มาบอกอะไรโอมเหรอ??”พี่ต่ายจับหน้าผมให้หันหน้ามามอง พี่ต่ายทำหน้าตกใจเลยครับ
“พี่ว่าพี่ไม่ได้พูดอะไรเลยนะ...หรือว่าเมาแล้วพูดอะไรไป”พี่ต่ายทำหน้าขมวดคิ้วนึกสงสัย ผมว่าท่าทางพี่ต่ายมีพิรุธนะเนี่ยคำพูดผมคงจะยิงตรงเป้าพอดี
“ไม่มีนะ...ไม่มี...บอกแค่ว่าโอมจะเป็นรักสุดท้ายของพี่ไง” ทำเสียงละล่ำละลัก รีบโบกไม้โบกมือปฎิเสธใหญ่เลยครับ

“แล้วใครเป็นรักแรก...น้องป๋อมเหรอ??”ผมหันหน้าไปมองหน้าพี่ต่ายเอามือจับหน้าพี่ต่ายไว้ พี่ต่ายหลบตาผมแล้วอมยิ้ม กลั้นหัวเราะ
“ขำอะไร..บอกมานะใช่ไม๊”ผมถามย้ำไปอีกครั้ง น้ำเสียงเริ่มเข้มขึ้น อารมณ์เมียสิงอีกแล้วครับ
“............เฮ้อ...”ทำเป็นมาถอนหายใจนะพี่ต่าย
ผมพยายามแกะมือพี่ต่ายออกจะลุกขึ้น เมื่อพี่ต่ายไม่ตอบคำถามผมชักงอน ทั้งที่ไม่รู้จะงอนไปทำไมในเมื่อตอนนี้พี่ต่ายก็มีผมอยู่ในอ้อมแขนคนเดียวแล้วนี่
ผมพยายามจะลุกแต่พี่ต่ายก็ไม่ยอมปล่อยตัวผม มันเลยทำให้ไอ้ของพี่ต่ายที่ยังคาราคาซังอยู่ที่ช่วงล่างผมมันเสียดสีครับ แล้วรู้สึกว่าเสียดไปสีมามันจะแปลงร่างแล้วครับ พี่ต่ายเริ่มส่งเสียงอีกครั้ง
“โอมมม....เบาๆหน่อยครับ..พี่...อึกกก”
“พี่ต่ายยย...เอาออกไป..อื้ออ...”
มันชักจะส่งผลถึงระบบหายใจของผมด้วยซิครับ ผมเริ่มหายใจขัดๆ ผมจะลุกขึ้นพี่่ต่ายก็กดลง พอผมจะลุกอีกพี่ต่ายก็ดันลงอีก คราวนี้เลยยิ่งทำให้ความรู้สึกว่าจะทนไม่ไหวมันมาเอง มันเลยกลายเป็นว่าเราสองคนกำลังยักแย่ยักยัน...กันอยู่...มันเป็นแบบนี้ได้ยังไงกันเนี่ยยยยย

“พี่.......ไม่มีใครรร...จริงงงงนะ....โอมมม.....อือ....เชื่อ.....อืมมม”
“ใคร....ก็ไม่สำคัญเท่าโอม....นะครับบบ”
“อาาา......ไม่เชื่อออ......” ผมว่าผมก็เริ่มพูดไม่เป็นภาษาแล้วครับ
ไม่รู้จะเถียงกันไปทำไมไม่รู้นะครับในเวลาแบบนี้ กร๊ากกกกก แต่พี่ต่ายก็พยายามอธิบายครับเพราะผมทำท่าจะลุกออกท่าเดียว แต่พี่ต่ายก็ดึงลงท่าเดียวเหมือนกัน ไปๆมาๆท่าเดียวของพี่ต่ายกับผมเลยกลายเป็นท่าเดียวกัน อิอิ
สุดท้ายต่างคนเลยต่างหมดคำพูดที่ฟังรู้เรื่อง มีแต่เสียงที่ไม่มีความหมายใดๆนอกจากเป็นเสียงที่แสดงความรู้สึกระหว่างกัน เมื่อช่วงเวลานั้นผ่านไป ผมกับพี่ต่ายถึงกับเหงื่อท่วม นอนหมดแรงเคียงข้างกันอยู่ พี่ต่ายเอามือมาลูบเหงื่อที่หน้าผากผม ผมเลยเอามือปัดมือพี่ต่ายออก
“อย่านะ....”
“อะไรครับ...อย่าอะไร เราเพิ่งฉลองแต่งงานกันวันนี้เองจะอย่าแล้วเหรอ หึหึ”
กวนไม๊ครับ ขนาดว่าออกกำลังไปขนาดนั้น เมาก็เมายังมีอารมณ์มาฮาอีก ผมเลยถองข้อศอกเข้าไปอีกหน
“โอ๊ย....โอมอ่ะพี่เจ็บนะ ถ้าศอกแรงกว่านี้หรือต่ำกว่านี้ ของพี่ใช้งานไม่ได้จะทำยังไงล่ะ”
“ไม่ทำยังไง...ใช้ไม่ได้ก็ของของพี่ ไม่ใช่ของผมซักหน่อย หึหึ”
“โอมน่ะแหล่ะจะเสียใจที่สุด..เชื่อพี่ ก็โอมน่ะแหล่ะใช้มากที่สุด”
“บร้า....พี่ต่ายอ่ะ” พี่ต่ายเมาไม่เลิกจริงๆครับ เมาแล้วต๊องไม่ไหว พี่ต่ายได้แต่หัวเราะถูกใจ
“ตกลงเราคุยต่อไม๊ ถ้าไม่คุยพี่นอนแล้วนะโอม ชักเพลีย” จะไม่เพลียยังไงล่ะสองรอบแล้วนะ
“คุยซิ พี่ยังไม่บอกผมเลยว่าตกลงใช่น้องป๋อมไม๊รักแรกของพี่น่ะ”
“..........”
เงียบครับ คนเราถ้าใจไม่คิดอะไรทำไมจะบอกไม่ได้ ทีแรกผมก็ถามไปอย่างนั้นเอง แต่พอพี่ต่ายมาทำอมพะนำ อ้ำๆอึ้งๆ เลยทำให้ผมหงุดหงิด อยากรู้ให้ได้แล้วล่ะตอนนี้ ผมกำลังจะโวยต่อ เสียงของพี่ต่ายก็แทรกขึ้นมา
“ใช่ครับ”
พอพี่ต่ายตอบออกมา ผมกลับไม่รู้จะพูดอะไรต่อไปได้อีก เหมือนมีคำถามร้อยพันที่มันอยู่ลึกๆในใจ แต่ไม่รู้ว่าจะถามอะไรดี
“แล้วโอมสงสัยอะไรต่อครับ ถามพี่มาได้เลยนะ พี่ตอบหมด”
“พี่ต่ายพูดเองดีกว่า ผมไม่ถาม”ผมเองก็อยากให้เค้าพูดเมื่อเค้าเต็มใจดีกว่าครับ “ผมไม่อยากฝืนใจใคร”
(ทั้งที่เพิ่งคาดคั้นเค๊าจะเป็นจะตายเมื่อกี๊อ่ะนะ ทำเป็นคนดีนะไอ้โอมเอ๊ย ฮ่าๆๆ)
พี่ต่ายถอนหายใจเบาๆ ก่อนที่จะค่อยๆเล่าเรื่องของพี่ต่ายกับน้องป๋อม “ก็อย่างที่เล่าให้โอมฟังว่าบ้านเราอยู่ใกล้ๆกัน แล้วตอนนั้นพี่ไม่มีเพื่อนผู้หญิงเลยสักคนเดียว แล้วเจ้าหญิงเค้าก็น่ารักขาวๆเหมือนตุ๊กตา พี่ก็แค่ชอบเค้าตามประสาเด็กๆน่ะ” พี่ต่ายลูบหัวผมเบาๆ
“พี่ต่ายรักเค้ามากไม๊”
ผมถามไปค่อยๆเหมือนกับว่ามันยากที่จะเอ่ยปาก แล้วก็ปวดใจนิดๆ ออกจะกลัวคำตอบของพี่ต่ายเหมือนกัน แต่ปากก็ถามไปแล้ว
“ตอนนั้นพี่ก็คิดว่าพี่รักนะ พี่ไม่เข้าใจหรอกว่าความรักสำหรับเด็กอายุ15เป็นยังไง”
“หรือว่าเป็นแค่ชอบละมั๊ง....ไม่แน่ใจมันนานมากเลยนะโอม”
“แต่คนที่ทำให้ใจพี่สั่นเวลามองตา คนที่ทำให้พี่ร้อนรนเวลาทะเลาะกัน หรือคนที่ทำให้พี่ไม่เป็นตัวของตัวเองเลยเวลาเค้างอนอะไรพี่ ก็มีเพียงคนเดียวเท่านั้นนะ”
“มีโอมคนเดียวเท่านั้นนะ”
พี่ต่ายจูบที่หน้าผากผมเบาๆแล้วกอดผมไว้แน่น ทำเอาผมปลื้มใจ ถึงแม้ว่าฟังดูมันแปลกๆเหมือนพี่ต่ายหลอกด่าผมไม๊เนี่ย ว่าผมชอบชวนทะเลาะบ่อยๆแล้วก็ชอบงอน

“แล้วพี่ต่ายเลิกกับเค้าได้ไง”ยังอยากรู้ต่อครับไหนๆก็เล่ามาแล้วก็ขอรู้ให้หมด ไม่อยากต้องไปมีภาคสองอีก
“เลิกเหรอ จะเลิกได้ไง ไม่ได้เริ่มเลย สัญญากันตอนเจ้าหญิงเค้าจะย้ายบ้านน่ะ แล้วช่วงนั้นเจ้าหญิงเค้างอแงร้องติดพี่ไม่ยอมไป พี่เลยสัญญาไปแบบนั้น”
“อ้าวเหรอ...”แค่เนี้ยเอง.....ว้าตำนานรักพี่ต่ายเชยๆ ไม่เร้าใจเลย ไม่สนุกอย่างที่คิด
“ก็โอมจะให้มีอะไรละครับ พี่ก็บอกแล้วว่าเป็นเรื่องเด็กๆโอมก็ไม่เชื่อพี่”
“ก็ผมไม่รู้นี่...”แค่ได้ยินว่ามีรักแรกก็แทบตาลุกแล้วล่ะครับ อยากรู้ไว้ก่อน
พี่ต่ายหัวเราะเยาะผมเสียงดัง เมื่อรู้ว่าผมคงผิดหวังว่าเรื่องน้องป๋อมมันไม่มีอะไรในกอไผ่เลย
“โอมน่ะ งอแง งอนพี่ เด็กขี้งอนเอ๊ย พี่ว่าจะพักก่อนยังไม่ต่อก็เลยต้องต่อเลย หึหึ”
ผมสะบัดตัวลุกขึ้นยืนบนเตียงเลยครับนาทีนี้ จะมาล้อกันมากไปแล้วนะ ถ้าผมทำร้ายพี่ต่ายนี่ผมจะผิดไม๊ พี่ต่ายยังคงเกาะแขนผมไว้แน่น แต่ผมก็ดิ้นหลุดขึ้นมายืนจนได้
“พี่ต่ายทำแบบนี้อีกแล้วนะ ชอบล้อผม ก็พี่ต่ายน่ะแหล่ะที่หื่น ขนาดเมาๆนะเนี่ย อย่าหวังเลยวันหลัง...งดไปเลยสองเืดือน”

“พี่ต่ายไม่ต้องคิดว่าผมจะให้อภัย หรือว่าผมจะหายโกรธไวๆนะ ไม่ต้องไปหาผมเลยสองเดือน”ผมเหลือบตามองพี่ต่ายที่นอนยิ้มกริ่มอยู่บนเตียง ไม่เห็นสะทกสะท้านกับคำขู่ผมเลยครับ อะไรกันเนี่ยหรือว่าเสียงไม่ดุพอ
“โอมอย่าชี้หน้าพี่ซิพี่กลัวแล้ว” เสียงพี่ต่ายสั่นๆหรือว่ากลัวผมตัดสิทธิจริงๆ ที่จริงก็พูดไปส่งๆน่ะครับ จะได้รู้ว่าเราโกรธมั่ง ล้อกันหลายหนแล้วเหมือนผมเป็นเด็กๆ ต้องขู่บ้าง
“ผมไปชี้หน้าพี่ตรงไหนกัน ผมกอดอกอยู่พี่ไม่เห็นเหรอ อย่ามาใส่ความกันนะ”ผมไม่เคยชี้หน้าใครเพราะรู้สึกว่ามันเป็นการไม่สุภาพ ก็เลยงงว่าพี่ต่ายบอกว่าผมชี้หน้าได้ไง
พี่ต่ายไม่ตอบผมแต่ชี้นิ้วขึ้นมาครับ ผมมองตามนิ้วพี่ต่ายแล้วก็พบว่า ผมลืมตัวลุกขึ้นยืนกอดอก พอพี่ต่ายชี้นิ้วมาผมก็เพิ่งขึ้นได้ว่าผมยังไม่ได้ใส่อะไรเลย ตัวผมน่ะยืนกอดอกก็จริงแต่อย่างอื่นมันชี้หน้าพี่ต่ายที่นอนอยู่ครับ กรูอายยย............ยืนเป็นชีเปลือยล่อนจ้อนอยู่แบบนี้

ผมขาอ่อนลงไปโดยอัตโนมัติเลยครับ ทรุดตัวลงไปบนเตียงแล้วก็
“โอ๊ยยยย....มาทุบพี่ทำไม”พี่ต่ายรวบมือของผมที่รัวทุบไปตามตัวพี่ต่ายแต่ก็ยังคงหัวเราะไม่หยุดอยู่ดี แววตาพราวระยับล้อเลียนผม
“ฮ่าๆๆๆๆ”
“พี่ต่ายมาล้อผมอีกแล้วนะ เพิ่งจะหมดเรื่องนึงก็มาล้อเรื่องใหม่อีก วันนี้กินยาบ้ามารึไง กวนจริงๆเลย”
พี่ต่ายรวบมือผมไปได้แล้วแล้วก็กอดผมแน่น แล้วก็หอมแก้มผม ทำให้ผมดิ้นไม่ถนัด พี่ต่ายพูดเสียงแหบพร่า
“พี่ไม่ต้องกินพี่ก็บ้าอยู่แล้วล่ะโอม”พี่ต่ายค่อยๆจูบปากผมเนิ่นนาน ก่อนที่จะถอนริมฝีปากออกแล้วสบตาหวามหวานกับผม
“พี่บ้ารักโอมคนเดียวไงครับ”
“อ่ะ.......” :-[ผมไม่ทันได้พูดอะไรเลยครับเพราะ พี่ต่ายไม่ปล่อยเวลาให้ผมได้ประท้วงโวยวายอีกต่อไป
พี่ต่ายประกบปากจูบผมอีกครั้งแล้วก็ไม่ปล่อยให้ผมหลุดจากอ้อมแขนอีกเป็นครั้งที่สาม ผมก็ยังคงพลิกตัวหนีไม่ทันมือแข็งแรงของพี่ต่ายที่จับผมไว้แน่นอีกจนได้ แล้วคืนนี้ก็คงเป็นคืนของพี่ต่ายอีกตามเคย
+
+
+
+
+
+
ผมลองบอกให้พี่ต่ายหยุดเผื่อพี่ต่ายจะเชื่อผมบ้าง..........ผมเพลียแล้วนะเนี่ย

“พี่ต่ายยย...พอเถอะนะ....เดี๋ยวพรุ่งนี้ตื่นไปทำงานไม่ไหวนะครับ”
“พี่ลางานได้..อืมมมมม”พี่ต่ายยังคงซุกไซร้ไปตามตัวผมไม่หยุดนิ่ง
“ลาอะไรอ่ะ วันจันทร์นะ....อื้อออ..พี่อ่ะ”ผมเองก็ชักจะควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ไหวแล้วครับ

“หืมมมม....ลาได้เหรอพี่...”
“ก็ลา......ฮันนีมูนไง.....โอมครับพี่ขออีกทีนะ.......”
“โอววว.....ม่ายยยย......อาาาาาาา”

***********************************************************************
จบแล้วค่ะ

ขอบคุณเพื่อนๆพี่ๆน้องๆ ที่ติดตามอ่านกันมาทั้งที่อ่านตั้งแต่ภาคแรกจนมาถึงภาคนี้นะค่ะ ขอขอบคุณจากใจจริงๆ ถ้าไม่มีคนอ่านก็คงจะไม่สามารถเขียนมาได้ยาวขนาดนี้ ยอมรับว่าครั้งแรกที่จะเขียนภาคนี้ก็แค่คิดเล่นๆว่าเขียนพอหายคิดถึงก็คงพอ กะว่าจะลงซัก 5-6 ตอนก็คงจบ แล้วก็ปรากฏว่าดันเตลิดเปิดเปิง เลยเถิดเรื่อยเปื่อยไปได้จนนานขนาดนี้ ตกใจในความเพ้อของตัวเองเหมือนกันว่าทำไปได้ อิอิ

ต้องขออภัยหากในภาคนี้อาจจะมีแฟนๆพี่ต่ายคิดว่าพี่ต่ายเปลี่ยนไป (หรือเป็นที่คนแต่งก็ไม่รู้ที่ธาตุไฟแตก ฮ่าๆๆๆๆ) แต่อยากจะบอกว่าเป็นเพราะเรารู้จักพี่ต่ายมากขึ้นต่างหากล่ะ ก็เหมือนกับเพื่อนที่เราคบใหม่ๆเราก็ไม่รู้ว่าเป็นคนแบบไหน แต่พอเราคบกันไปเรื่อยๆ เราก็รู้จักเค้าเพิ่มขึ้น ก็ได้แต่หวังว่าเมื่อรู้จักพี่ต่ายกับโอมเพิ่มขึ้นแล้วจะรักพี่ต่ายกับโอมเหมือนเดิมนะคะ
อีกเรื่องที่ต้องกล่าวถึงก็คือ ต้องขอขอบคุณเพื่อนๆในเล้าเป็ดที่อนุญาตให้นำชื่อมาเป็นตัวละครในนิยายเรื่องนี้ ถ้าผู้แต่งทำให้ขัดเคืองใจไปในประการใดก็ขออภัยมา ณที่นี้ด้วย แต่ถ้าหากว่าชอบก็ขอยกความดีให้กับคนอ่านทุกคนแล้วกันค่ะ

สุดท้ายนี้คิดว่าคงจะขอจบภาคเล่าสู่กันฟังณ.เพียงเท่านี้ ถ้าใครชอบก็ขอให้มารีพลายให้ชื่นใจหน่อยนะคะ ทั้งคนที่ไม่เคยรีแต่แอบอ่านด้วย แสดงตัวกันหน่อยนะคะ อยากรู้จักกับทุกคนเลย และถ้าไม่ชอบยังไงก็น้อมรับคำติทุกประการค่ะ เขียนบอกกันได้เลย (จะแอบอ่านไม่โวยวายเลย)
ขอบคุณค่ะที่รักพี่ต่ายรักโอม ขอบคุณจริงๆค่ะ
M@nfaNG
http://media.imeem.com/m/NmfeYRcnNu/aus=false/เสีงฟางห้าวไปหน่อยนะ กร๊ากกกกกกก แต่นั่นคือที่อยากบอกค่ะ