Bubble Tea Accident
EP1
“ชานมเมล่อนแก้วใหญ่หนึ่งครับ ขอไข่มุกเยอะ ๆ” คนสั่งระบายยิ้มกว้างปิดท้ายให้คุณน้าแม่ค้า ก่อนถอยออกมายืนข้าง ๆ เพื่อให้คนที่ต่อแถวอยู่ด้านหลังได้สั่งบ้าง
“ได้แล้วลูก ซื้อทุกวันเลยนะ” ยกยิ้มกว้างอีกครั้งพลางรับแก้วชานมมาถือก่อนจะส่งเงินให้
“ก็ชานมคุณน้าอร่อย”
“โอ๊ย พูดแบบนี้มาคราวหน้าน้าจะแถมให้เยอะ ๆ”
“ฮี่” ยิ้มรับโดยไม่ปฏิเสธ ใครจะบอกปัดกันล่ะ โอกาสอย่างนี้ไม่ได้มีบ่อย ๆ เสียหน่อย ร่างเล็กเจาะหลอดบนฝาพลาสติกที่ถูกซีลอย่างดี แล้วดื่มด่ำกับชานมเมล่อนหอมมัน ไข่มุกเหนียวนุ่มเคี้ยวหนุบหนับเพลิดเพลิน แม้จะแอบหงุดหงิดเล็กน้อยเพราะพลาสติกฉีกขาดไปมากกว่าครึ่งเพราะเจาะไม่เข้าในตอนแรกจนต้องใช้มือช่วย สุดท้ายก็กะแรงไม่ถูก ฉีกไปเลย ฮือ
ทุกวันหลังเลิกเรียนเขาจะมาซื้อชานมไข่มุกร้านคุณน้าอยู่เป็นประจำ บางวันก็แวะซื้อก่อนเข้ามหา'ลัย หรือบางทีเรียนเสร็จก็ออกมาซื้อแล้วค่อยแวะเข้าไปใหม่ อย่างวันนี้ เขามีนัดทำงานกับเพื่อน ๆ จึงมาซื้อก่อนที่จะไปหาเพื่อน ระหว่างที่กำลังมีความสุขกับชานมไข่มุกนั้น เป็นจังหวะเดียวที่โทรศัพท์มือถือส่งเสียงร้องขึ้นมา ขาเรียวหยุดยืน ล้วงมือถือในกระเป๋ากางเกงออกมาดู เห็นเป็นชื่อเพื่อนจึงกดรับสายและยืนคุยอยู่ตรงนั้น
“ฮัลโหล มีไร?”
“มึงอยู่ไหนวะ เข้ามายัง?”
“กำลังอ่ะ”
“แวะซื้อของกินเข้ามาด้วย เดี๋ยวเอาเงินให้”
“อะ ได้” เขารับคำ จากนั้นจึงวางสายจากเพื่อน ใบหน้าจิ้มลิ้มขยับมองซ้ายขวาเพื่อดูรถ เมื่อแน่ใจแล้วจึงก้าวขาลงไปบนถนน
“น้อง!! ระวังรถ!!” “เฮือก!” ร่างเล็กเบิกตากว้างร้องไม่ออก แขนข้างที่ถือชานมไข่มุกถูกกระชาก แรงดึงทำให้น้ำหวานในมือกระฉอกเลอะเทอะ ที่สำคัญมันหกราดเสื้อของผู้ชายตัวสูงที่ดึงเขาออกจากถนนอีกด้วย!!!! เม็ดไข่มุกสีดำติดหนึบบนเสื้อนักศึกษาสีขาว สร้างรอยเปียกเป็นวงกว้าง
“เป็นอะไรหรือเปล่าน้อง?”
“ไม่ ไม่ครับ” เขาละล่ำละลักบอก “เอ่อ... เมื่อกี้มีอะไรเหรอครับ?”
“อ้าว น้องไม่เห็นเหรอว่ามีรถขับมาน่ะ” คนตัวเล็กสั่นหัว เขามองดีแล้วก่อนจะตัดสินใจข้าม ไม่เห็นจริง ๆ ว่ามีรถขับมา... “ทีหลังก็ดูรถดี ๆ นะครับ”
“ครับ...” พยักหน้าหงึกหงัก น้ำเสียงหงอยลงจนคนฟังรู้สึกได้
“เป็นอะไรน้อง”
“ชะ ชานม...” ปลายนิ้วเล็กชี้ไปยังชานมที่เลอะเสื้อของอีกฝ่าย คนตัวสูงมองตาม แล้วมองหน้าเด็กที่เขาช่วยจากการถูกรถชน
“เฮ้ย เรื่องนี้ไม่เป็นไรครับ พี่เป็นฝ่ายเข้ามาเองนี่นา” เขาบอกไปด้วยความจริงใจพร้อมกับส่งยิ้มให้จนเกิดรอยบุ๋มที่แก้มทั้งสองข้าง
“ชา ชานม... กินไม่ถึงครึ่งเลย...” น้ำเสียงสั่น ๆ เหมือนจะร้องไห้ทำเอาคนตัวโตกว่าหน้าเหวอ อะไรกัน ที่ชี้ ๆ นี่เพราะเสียดายชานมไข่มุกหรอกเหรอ เขานึกว่าจะรู้สึกผิดที่เสื้อเขาเลอะเสียอีก
“ไข่มุกหกเกือบหมดเลย”
“เอ่อ น้อง”
“อึก เดินมาไกลแล้วด้วย...”
“เดี๋ยวนะครับ น้องไข่มุกใจเย็น ๆ นะ” คนถูกเรียกว่าน้องไข่มุกเงยหน้าขึ้นมองพร้อมขมวดคิ้ว อะไร ไม่ได้ชื่อไข่มุกสักหน่อย เมื่อน้องไข่มุกมองคนตัวสูงก็ส่งยิ้มไปให้ เผยให้เห็นรอยบุ๋มบนแก้มทั้งสองข้างอีกครั้ง ไข่มุกกะพริบตาปริบ ๆ มองลักยิ้มค้าง
“เดี๋ยวพี่ซื้อให้ใหม่ โอเคไหมครับ?”
“หึ” คนน้องสั่นหัวปฏิเสธ “ห หายกัน”
“หืม?”
“ก็ ก็พี่ช่วยผมไม่ให้โดนรถชน ... หายกัน หายกันก็ได้”
“เอางั้นเหรอไข่มุก...?”
“อื้อ!” น้องไข่มุกที่คนตัวสูงโมเมเรียกพยักหน้าหงึกหงัก ถึงแม้จะตาวาวกับข้อเสนอของอีกฝ่าย หากเมื่อคิดดี ๆ แล้ว พี่คนนี้ช่วยชีวิตเขาไว้นะ มันก็คุ้มที่จะเสียชานมเมล่อนไข่มุกหนึบหนับไป ถึงจะเสียดายมาก ๆ ก็ตาม... “เสื้อพี่เปื้อนด้วย”
“เดี๋ยวค่อยซักก็ได้”
“เหนียวไหม?” ตากลม ๆ นั้นช้อนมอง “ผม ผมเอาไปซักให้นะ”
“ไม่เป็นไรครับ”
“เป็นสิ ผมทำเสื้อพี่ลักยิ้มเปื้อนนะ แถมมันต้องเหนียวมากแน่ด้วย!”
พี่ลักยิ้มเลิกคิ้วสูงกับชื่อที่อีกฝ่ายใช้เรียก รอยยิ้มบางประดับบนใบหน้าอีกครั้ง และไม่ได้เอ่ยแย้งอะไรออกไป อืม... ในเมื่อเขายังเรียกน้องว่าน้องไข่มุก จะโดนเรียกพี่ลักยิ้มแล้วจะเป็นอะไรไป
“ไม่เป็นไรจริง ๆ”
“อะ ก็ได้ อย่ามาทวงบุญคุณทีหลังแล้วกัน” พี่ลักยิ้มเผยยิ้มกว้างกับคำพูดน้อง “ผมไปนะ ขอบคุณมาก ๆ เลยนะพี่ลักยิ้ม”
“ครับ ...น้องไข่มุก”
“ไอ้เตี้ย! ทำไมมาช้าขนาดนี้วะ!!!” คนถูกตะโกนใส่สะดุ้งเฮือก ก่อนมองเพื่อนตาขวาง
“กูเดินมาไม่ได้หายตัว แล้วนี่จะแดกไหม!?” เขาชูถุงของกินที่ซื้อมาขึ้น เหล่าซอมบี้ที่พร้อมจะแหวกสมองเขาก็แปลงร่างเป็นลิตเติ้ลโพนี่ทันที
“แดกจ้า” พร้อมเพรียงเชียวนะพวกมึง!
“มึงไม่ซื้อชานมมาด้วยเหรอวะ?” เมื่อถูกถาม คนตัวเล็กก็หน้าจ๋อยลงทันที ทำเอาเพื่อน ๆ งงกันเป็นแถว “เป็นไรวะ?”
“ซื้อ... แต่มันหก”
“อ๋อ ๆ ๆ มานั่งเร็ว จะได้เริ่มแจกงาน”
เพื่อน ๆ รีบเปลี่ยนเรื่อง เพราะพวกเขารู้ดีว่าไข่มุกเซนส์ซิทีฟกับเรื่องนี้มากแค่ไหน เล่าไปใครจะเชื่อ แค่ชานมไข่มุกของมันหกก็น้ำตาคลอเบ้าแล้ว แถมยังซึมไปครึ่งค่อนวันจนกว่าจะได้แก้วใหม่มาครอง ช่วงแรกพวกเขาก็ไม่ได้ระวังอะไรมากหรอก มีพวกอยากลองของกับข่าวลือที่เป็นทอล์คออฟคณะและชั้นปี
คนลองไม่ใช่ใคร พี่รหัสของไอ้ไข่มุกเอง เดินดุ่ม ๆ เข้ามา คว้าแก้วจากมือมันไปแถมดูดปื๊ดเต็มสูบ ไข่มุกได้แต่อ้าปากค้าง น้ำตาเริ่มคลอเมื่อถูกแย่งของรักไปต่อหน้าต่อตา ซึ่งสิ่งที่ทำให้มันน้ำตาแตกกลางโรงอาหารนั่นก็คือ พี่รหัสดันบอกว่าชานมของไข่มุกไม่อร่อย เอาให้หมา หมาก็ไม่แดก ปิดท้ายด้วยการโยนลงถังขยะอย่างแม่นยำ เท่านั้นแหละจ้า แหกปากลั่นกันเลยทีเดียว จากนั้นไข่มุกก็ไม่คุยกับพี่รหัสไปเป็นเดือน
แค้นแรงเวอร์
เพราะเหตุการณ์คราวนั้นเหล่าผองเพื่อนก็ต้องรับบทเป็นอัศวินผู้ช่วยป้องปกชานมไข่มุกของคนตัวเล็กให้อยู่รอดปลอดภัยจากเงื้อมมือมาร...
“เย่!” ไข่มุกร้องเสียงใสพร้อมชูมือสูง “เสร็จแล้ว กลับได้”
“อย่าเพิ่งไอ้ห่า สรุปก่อนโว้ย”
“อ้าว...” ยู่ปากแล้วทรุดตัวนั่งลงที่เดิม “อยากกลับแล้ว”
“จะรีบไปร้านชานมล่ะสิ”
“ก็รู้นี่ ปล่อยตัวกูเถอะ”
“เบาหวานแดกแน่มึง” คนชอบชานมไข่มุกเป็นชีวิตจิตใจแยกเขี้ยวใส่เพื่อน พวกเขาช่วยกันดูรายงานอีกรอบ เมื่อเรียบร้อยแล้วจึงแยกย้ายกันกลับ ไข่มุกมีเพื่อนอาสาขับรถมาส่งที่หอ เพราะน้องชานมมอเตอร์ไซค์ออโต้ที่ใช้ขับประจำน้ำมันหมด ตอนนี้น้องกำลังรอไข่มุกเอาน้ำมันไปเติมให้อยู่
“ขึ้นห้องไปดี ๆ อย่าไปเด๋อที่ไหนนะมึง”
“อือ ๆ” พยักหน้าหงึกหงักและโบกมือให้เพื่อน เนื่องจากปากกำลังเคี้ยวไข่มุกเพลิน ๆ ก่อนมาหอเพื่อนผู้แสนดีพาแวะร้านชานมไข่มุกคุณน้าก่อน เพื่อนบอกว่าเห็นไข่มุกซึมเป็นส้วมแล้วทนไม่ไหว รำคาญลูกตา ไข่มุกก็ไม่ได้เถียงอะไร มองตาแป๋ว กะพริบอยู่สามที จากนั้นก็ได้ชานมเมล่อนของโปรดแก้วใหญ่มาไว้ในมือ แถมไม่ต้องเสียเงินสักบาทด้วย
ดีสุด ๆ
คิคิ
ตากลมเหลือบไปมองลิฟต์ที่กำลังจะปิด แม้จะใกล้ถึงแล้วแต่เขาก็ไม่ได้ตะโกนเรียกให้คนข้างในรอ เพราะคิดว่า ยังไงก็มีรอบต่อไป อีกอย่างคือปากจิ้มลิ้มนี้มันไม่ว่าง เนื่องจากกำลังดื่มด่ำกับความหอมหวานของชานมไข่มุกรสโปรด ทว่า...คนที่อยู่ข้างในไม่ได้คิดแบบนั้น
เจ้าของร่างสูงยื่นเท้าออกไปเพื่อกันประตูลิฟต์ขณะเดียวกันก็กดปุ่มเพื่อให้กล่องโดยสารนี้เปิดออกอีกครั้ง ทีแรกเขาไม่ได้สนใจอะไร หากเมื่อมองเห็นมือเล็ก ๆ ที่ถือแก้วน้ำหวานแก้วใหญ่นั้นทำให้นึกถึงเด็กที่เขาช่วยจากการโดนรถชนเมื่อตอนบ่ายขึ้นมา แต่ใครจะคิดว่าคนตรงหน้านี้กับน้องไข่มุกคือคนเดียวกัน
ตากลมของน้องไข่มุกเบิกกว้าง เรียวขาขยับก้าวถอยหลังพร้อมกับประคองแก้วชานมเอาไว้อย่างหวงแหน แถมยังเบี่ยงตัวหลบอีกด้วย! ท่าทางแบบนั้นให้พี่ลักยิ้มนึกเอ็นดู รอยยิ้มละมุนผุดขึ้นบนใบหน้า อวดหลุมเสน่ห์บนแก้มให้เห็นอีกครั้ง
“ไปด้วยกันไหมน้องไข่มุก รับรอง ชานมของน้องปลอดภัยแน่นอน”
น้องไข่มุกทำหน้าครุ่นคิด หรี่ตามองไม่ไว้ใจ เพราะเหตุการณ์เมื่อตอนบ่ายมันฝังใจ พี่ลักยิ้มคือบุคคลอันตรายต่อชานมแสนอร่อยของเขา!
“เข้ามาเถอะ” สุดท้าย ขาเรียวก็ค่อย ๆ ก้าวเข้าไปยืนในกล่องโดยสาร น้องไข่มุกทิ้งระยะห่างจากพี่ลักยิ้มพอสมควร ประคองแก้วชานมไว้มั่น ใช้ตากลม ๆ ลอบมองคนตัวสูงข้าง ๆ ด้วยความหวาดระแวง หากเต็มที่สิบ ไข่มุกให้ไปเลยสิบห้า!!!
“น้องไข่มุกอยู่ชั้นไหน?” พี่ลักยิ้มถาม เพื่อที่จะกดเลขชั้นให้ ดูเหมือนน้องจะไม่มีทางเข้ามาใกล้เขาแน่ ๆ ให้ตาย หวาดระแวงขนาดนี้ความผิดเขาคือทำชานมไข่มุกน้องหกหรือเผาร้านชานมที่น้องชอบกันแน่
“เก้าครับ”
“อ้าว ชั้นเดียวกับพี่เลย ไม่เห็นเคยเจอน้องไข่มุกเลย”
ผมก็ไม่เคยเจอพี่ลักยิ้มเหมือนกัน ไข่มุกคิดในใจ ไม่ได้พูดออกไป คนตัวเล็กเบียดตัวชิดกำแพงมากกว่าเดิมเมื่อพี่ลักยิ้มขยับเข้าไปหาอย่างลืมตัว คนพี่ยิ้มบาง ๆ แอบขำกับท่าทางคนน้องอยู่ในใจแต่ก็ยอมผละออกมา กลัวเหลือเกินว่าน้องไข่มุกจะเกร็งจนเป็นตะคริวไปก่อน
ติ๊ง! น้องไข่มุกสะดุ้ง ตากลมกะพริบถี่เหลือบมองเพื่อนร่วมทาง พี่ลักยิ้มผายมือให้น้องออกไปก่อน คนน้องผงกหัวเล็กน้อยขอบคุณแล้วเดินออกไป
“เอ่อ...”
“ว่าไงครับ?”
“เสื้อของพี่”
“อ๋อ อยู่ในตะกร้าน่ะ พี่ยังไม่ซักเลย”
“ผม... ซักให้นะ” พี่ลักยิ้มเลิกคิ้ว ก่อนจะส่ายหน้าแล้วบอกว่าไม่เป็นไร “ผมทำสกปรก ให้ผมนะ”
“ไม่เป็นไร พี่ซักได้”
“พี่ลักยิ้ม...” คนน้องเสียงเสียงค่อยและแหงนหน้าขึ้นมอง ตากลมส่องแววเว้าวอน ทำเอาคนพี่ใจกระตุกวูบ “นะครับ ผมไม่สบายใจ”
“... ก็ได้ครับ”
“เย่!” เผลอร้องอย่างที่ชอบทำเมื่อดีใจ กำปั้นเล็กชูขึ้นพร้อมรอยยิ้มกว้าง คนพี่มองรอยยิ้มสดใสนั่นค้าง ตาพร่าไปเลยทีเดียว พี่ลักยิ้มเกาท้ายทอยแก้เขิน เขาเองก็ไม่รู้ว่าทำไมแค่เห็นยิ้มของน้องแล้วทำตัวไม่ถูก
“น้องไข่มุกอยู่ห้องไหน เดี๋ยวพี่เอาไปให้”
“ห้องเก้าศูนย์เจ็ดครับ”
“เฮ้ย!” น้องไข่มุกสะดุ้งกับเสียงตะโกนของพี่ลักยิ้ม “โทษครับ ...พี่อยู่เก้าศูนย์แปด”
อ้าว ตรงข้ามกันเลยแฮะ
“อ๋อ ครับ”
น้องไข่มุกขอตัวเข้าห้องไปก่อน เหลือแค่พี่ลักยิ้มที่ยืนมองประตูห้องเก้าศูนย์เจ็ดอยู่ เขาพักอยู่ที่นี่มาก็นาน แต่ทำไมไม่เคยได้เจอกับน้องไข่มุกเลยนะ ไม่น่าเชื่อว่าน้องจะอยู่ใกล้แค่นี้ เพื่อชดเชยเวลาที่ผ่านมา เราจะได้เจอกันบ่อย ๆ แน่ เตรียมตัวไว้เลย! ร่างสูงหมายมั่นปั้นมืออยู่ในใจ
อาจเพราะใบหน้าเศร้าสร้อยเมื่อเห็นว่าชานมไข่มุกของโปรดหกแทบไม่เหลือ เห็นแล้วมันเขี้ยวอยากแกล้งให้ร้องไห้ แต่ความเอ็นดูแทรกเข้ามาจนอยากวิ่งไปซื้อชานมแก้วใหม่มาให้น้องเดี๋ยวนั้น คนอะไรไม่รู้ ทำหน้ามึนก็น่ารัก ทำหน้าหงอยก็น่าเอ็นดู เวลายิ้มแล้วโลกสดใสเป็นบ้า แต่ไม่ว่าจะทำหน้ายังไง ในความคิดของพี่ลักยิ้ม น้องก็สมควรจะเป็นของเขา
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้คิ้วเข้มก็ขมวดมุ่น น้องอยู่ตรงนี้มานานแค่ไหนแล้ว ตลอดเวลาที่ผ่านมา มีใครบ้างที่เห็นความน่ารักของน้อง แล้วจะมีใครมาตามจีบน้องหรือเปล่า แล้วที่แย่ไปกว่านั้น บางที... น้องอาจจะมีเจ้าของหัวใจไปแล้ว
เชี่ย! เศร้าเลยกู
แต่เดี๋ยวก่อน มันเป็นแค่การคิดไปเองเพียงคนเดียว ในเมื่อยังไม่รู้ก็แปลว่าน้องโสด เขาจีบได้ ถึงจะลืมวิชานาฏศิลป์ไทยไปแล้วก็เถอะ
เอาล่ะ กูจะจีบคนนี้! ก๊อก ก๊อก
ขาเล็กก้าวถอยออกมาหลังจากเคาะประตูไปแล้ว ตากลมจ้องมองไปข้างหน้า ในมือมีถุงกระดาษสีน้ำตาลซึ่งมีเสื้อนักศึกษาสีขาวสะอาดอยู่ภายใน เสื้อของพี่ลักยิ้มที่เจ้าตัวซักให้เมื่อวานตอนเย็น พอเช้ามาก็แห้งแล้ว ไข่มุกจึงตั้งใจจะเอามาคืน แต่ไม่รู้ว่าพี่ลักยิ้มจะอยู่ที่ห้องหรือเปล่า แต่ตอนนี้เพิ่งเจ็ดโมงเช้าเองนี่นา...
ก๊อก ก๊อก
ตัดสินใจเคาะประตูอีกครั้ง จะรออีกแค่สามนาทีเท่านั้น หากยังไม่ออกมา น้องไข่มุกจะเอาเสื้อแขวนไว้ที่ประตูแทน ตากลมหลุบมองตัวเลขดิจิทัลที่กำลังนับถอยหลังบนมือถือแทนการจ้องประตู เคาะเท้าเบา ๆ ตามตัวเลขที่ค่อย ๆ เปลี่ยน เสียงลมหายใจถูกผ่อนออกมาดังเฮือก ริมฝีปากจิ้มลิ้มกลายเป็นเส้นตรงด้วยความเบื่อ พี่ลักยิ้มคงไม่อยู่ห้อง ตอนนี้ใกล้ครบสามนาทีแล้วด้วย
05
04
03
02
01
แกรก!
“มาทำเหี้ย... น้องไข่มุก!!”
00
กริ๊งงงงงงงง~
ตาคมเบิกโพลง ความง่วงหายไปแทบหมดสิ้น คนน้องเงยหน้าจากโทรศัพท์ที่ส่งเสียงร้องเตือนขึ้นมา เห็นเจ้าของห้องเก้าศูนย์แปดจ้องเขาเหมือนไม่เชื่อสายตา ไข่มุกแอบสำรวจพี่ลักยิ้มนิดหน่อย กลุ่มผมสีดำยุ่งเหยิงชี้ฟูไม่เป็นทรง แม้จะเพิ่งตื่นนอนแต่พี่ลักยิ้มก็หล่ออยู่ดี ไข่มุกย่นจมูกไม่ชอบใจ ทำไมไข่มุกไม่หล่อแบบนี้บ้างนะ เมื่อมองต่ำลงแก้มใสก็ขึ้นสีแดงเรื่อ พี่ลักยิ้มไม่ใส่เสื้อ นั่นทำให้เห็นกล้ามเนื้ออกและยังมีกล้ามหน้าท้องสวยอีกด้วย แอบจับท้องตัวเองเบา ๆ แล้วเบะปาก อะไรกัน ทำไมไข่มุกมีแต่เนื้อนิ่ม ๆ ขอแบ่งกล้ามเนื้อจากพี่ลักยิ้มได้ไหม NFC มาได้หรือเปล่า หรือต้องส่งผ่านบลูทูธ
“มีอะไรเหรอครับ?” เสียงทุ้มแห้งแหบเนื่องจากตื่นนอนใหม่เอ่ยถาม เขาเห็นว่าน้องไข่มุกช้อนตามองแถมดวงตากลมยังสั่นไหวน้อย ๆ ริมฝีปากเบะเป็นเส้นโค้ง จู่ ๆ ก็ทำหน้าอ้อนแบบนี้เขาก็งงนะ ถึงจะน้องจะน่ารักมากจนอยากฉุดเข้ามาในห้องให้รู้แล้วรู้รอด
คนขอแบ่งกล้ามเนื้อที่เผลอทำหน้าอ้อนไม่รู้ตัวสั่นหัวปฏิเสธจนผมนุ่มกระจาย ยื่นมือส่งถุงกระดาษไปให้ เมื่อเห็นพี่ลักยิ้มเลิกคิ้วคนน้องจึงอธิบายว่ามันคืออะไร
“เสื้อของพี่ลักยิ้ม ผมซักให้แล้วครับ”
“อ๋อ ไม่ต้องรีบมาคืนก็ได้นี่ครับ”
“ก็มันแห้งแล้ว พี่ลักยิ้มต้องใช้ด้วยนี่”
พี่ลักยิ้มอมยิ้ม ก่อนเอื้อมมือไปรับถุงกระดาษจากน้องไข่มุก เขาอยากบอกเหลือเกินว่ามีเสื้อหลายตัว ไม่ต้องรีบ เพราะถ้าไม่มีเสื้อนี่ ก็ไม่รู้จะใช้อะไรไปอ้างเวลาอยากเจอน้อง เฮ้อ โดนตัดทางตั้งแต่ยังไม่เริ่มเลยว่ะ
“ขอบคุณครับ”
“ไม่เป็นไรครับ ผมไปก่อนนะ ขอโทษที่มากวนเวลานอนนะครับ”
“กวนได้ตลอดเวลาเลยครับ”
“หือ?”
“พี่บอกว่า น้องไข่มุกกวนได้ตลอดเลย ยินดีครับ”
“เอ่อ...” คนน้องยิ้มแหย สมองตีความคำพูดพี่ลักยิ้มไปไกลจนหน้าร้อนผ่าว “ผมไปเรียนก่อนนะครับ”
พี่ลักยิ้มเผยรอยยิ้มกว้างขณะมองแผ่นหลังเล็กกึ่งเดินกึ่งวิ่งไปที่ลิฟต์ ถึงแม้น้องจะรีบหันหน้าหนี แต่เขาก็ทันได้เห็นแก้มใส ๆ นั้นขึ้นสีแดงน่ามอง
น่ารักว่ะ
เริ่มต้นเช้าวันใหม่ด้วยความสดใสแบบนี้ วันนี้ของเขาต้องเป็นวันที่ดีแน่ เมื่อกลับเข้ามาในห้อง ร่างสูงจึงหยิบเสื้อนักศึกษาของตัวเองออกมา กลิ่นหอมอ่อน ๆ ลอยฟุ้ง คิ้วขมวดน้อย ๆ ก่อนจะดมกลิ่นหอมจากเสื้อ หืม นี่มันกลิ่นเดียวกับน้องไข่มุกเลยนี่หว่า หอมชะมัด ร่างสูงกำลังคิดหนัก เขาอยากใส่เสื้อตัวนี้ไปเรียนเพื่อที่จะได้ดมกลิ่นหอมนี้ทั้งวัน แต่อีกด้านหนึ่ง หากเขาใช้เสื้อตัวนี้ ก็เท่ากับว่า เมื่อหมดวัน ความหอมก็จะหายไป
ขอให้น้องเขาซักให้ทั้งตู้เลยได้ป่ะวะ
ถ้าเขาให้น้องซักเสื้อให้ เขาจะมีเสื้อหอม ๆ ใส่แค่ครั้งเดียว
แต่ถ้าเขาเอาน้องมาอยู่ด้วย เขาจะมีเสื้อหอม ๆ ใส่ตลอดไป.. เออ กูจะเอาน้องมาให้ได้
“นึกยังไงแดกชานมวะ ปกติกรอกแต่เหล้า”
“เรื่องของกู” เขาตัดบทเพื่อนไปแล้วสนใจน้ำหวานที่มีก้อนสีดำหนึบหนับอยู่ก้นแก้ว แค่อยากลองดูบ้างว่ามันอร่อยยังไง น้องไข่มุกถึงได้ชอบนัก แต่พอลองแล้วก็ไม่แย่ ดื่มเพลิน ๆ ดี
“หน้าตามึงชั่วร้ายมากรู้ตัวป่ะ?”
“ยังไง?”
“เหมือนกำลังคิดแผนร้าย โคตรโรคจิต กูกลัว”
“ประสาท” เขาว่าเพื่อนพร้อมกับสั่นหัว แค่คิดถึงน้องไข่มุกจะไปโรคจิตได้ยังไงกันวะ พวกเหี้ยนี่แม่ง ถึงแม้จะบอกปัดไปแล้วว่าไม่มีอะไร แต่เพื่อนทั้งสองของเขายังทำหน้าติดใจสงสัยอยู่ดี
ใช้เวลาไม่นานพวกเขาก็มาถึงโรงอาหารกลาง ถอนหายใจเซ็ง ๆ โรงอาหารที่คณะก็มี ไม่รู้จะถ่อมาถึงนี่ทำไม มือหนาแกว่งแก้วชานมไข่มุกในมือเบา ๆ ตอนนี้เหลืออยู่ครึ่งแก้วแล้ว เขาซื้อมาจากร้านในโรงอาหารคณะ แล้วจากนั้นก็ถูกเพื่อนลากมาที่นี่ ใจจริงอยากลองร้านที่น้องไข่มุกกินมากกว่า แต่เขาไม่รู้ว่าร้านมันอยู่ตรงไหนนี่สิ
ไว้ค่อยถามน้องแล้วกัน “นั่น มึงทำหน้าโรคจิตอีกแล้วไอ้หล่อ!”
“รีบไปซื้อข้าวไป” ออกปากไล่ตัดรำคาญ ไอ้พวกเวรนี่ จะจับผิดอะไรเขานักหนา
“ไอ้เตี้ย! จะแดกอะไร!?”
“ไม่เตี้ยสักหน่อย” พี่ลักยิ้มหันไปมองหาคนพูด ริมฝีปากหยักขยับขึ้นเป็นรอยยิ้ม แม้เพียงแค่เล็กน้อยก็สามารถผุดหลุมเล็ก ๆ บนแก้มได้ ขายาวค่อย ๆ ก้าวไปหาคนที่ยืนหันหลังอยู่ คนที่อยู่ด้วยคงเป็นเพื่อนกัน อยากเห็นชะมัดว่าน้องไข่มุกจะทำหน้าน่ารักสักแค่ไหน
“เออ ๆ จะแดกอะไร?”
“เดี๋ยวหาเอง มึงไปเหอะ”
“แน่นะมึง ไม่ใช่ร้องไห้ขี้มูกโป่ง กูไม่โอ๋นะเว้ย”
“มึงสิร้องไห้ ไปไหนก็ไปเลย ไอ้ห่า”
“อะอะ ไปก็ไป จำโต๊ะได้ใช่มะ?” น้องไข่มุกพยักหน้ารับคำเพื่อนพร้อมกับสะบัดมือไล่ เมื่อเพื่อนออกไปแล้ว คนตัวเล็กก็มองซ้ายมองขวา ขบคิดอยู่ในใจว่าเขาจะฝากท้องไว้ที่ร้านไหนดี แต่ละร้านคนก็เยอะชะมัดเลย เอาร้านที่คนน้อยที่สุดแล้วกัน เพราะตอนนี้ไข่มุกหิวมาก ๆ
พี่ลักยิ้มเดินตามน้องไปโดยไม่ทักทาย ต่อแถวอยู่ด้านหลังจนแทบจะสิงร่างอยู่แล้วแต่น้องก็ยังไม่รู้ตัว สุดท้ายเขาก็ทนไม่ไหว ก้านนิ้วยาวส่งไปสะกิดไหล่คนน้องเบา ๆ น้องไข่มุกสะดุ้ง เมื่อหันมาเจอคนแกล้งตากลมก็เบิกโพลง กะพริบตาปริบ ๆ มองพี่ลักยิ้มที่ยิ้มเสียกว้าง รอยบุ๋มข้างแก้มเกิดเป็นหลุมลึก
“พะ พี่ลักยิ้ม มาอยู่นี่ได้ไงอะ!?”
“เพื่อนที่ชวนมาหาอะไรกินที่นี่”
“ไม่ไม่ หมายถึงทำไมมาต่อแถวข้างหลังผมล่ะ?”
“อ๋อ พี่เห็นน้องไข่มุกต่อแถวอยู่เลยกะจะเข้ามาทักทายหน่อย”
“อ่า...”
“ไปครับ ถึงคิวแล้ว” พี่ลักยิ้มจับไหล่คนน้องหมุนแล้วดันเบา ๆ เพื่อให้น้องสั่งข้าว เมื่อน้องได้จานข้าวไปแล้วก็ถึงตาเขาบ้าง
น่ารักชะมัด ยืนรอด้วย
“โอ๊ะ!! ชานมไข่มุก!!!!” เสียงใสร้องขึ้นอย่างตื่นเต้น จ้องแก้วน้ำในมืออีกข้างของพี่ลักยิ้มตาเป็นประกาย
“พี่ลักยิ้มชอบเหรอ!?”
“ไม่เชิงว่าชอบหรอก พี่เห็นน้องไข่มุกกินเลยอยากกินบ้าง”
“จริงงะ!?”
พี่ลักยิ้มพยักหน้าเบา ๆ “แต่พี่ไม่รู้ว่าร้านที่น้องไข่มุกกินอยู่ตรงไหหน เลยซื้อจากโรงอาหารคณะมาแทน ก็ไม่แย่นะ”
“ว้า ถ้าพี่ลักยิ้มได้กินที่ร้านประจำของผมนะ รับรองต้องตกหลุมรักแน่ ๆ เลย!!”
พี่ลักยิ้มมองริมฝีปากจิ้มลิ้มขยับพูดเจื้อยแจ้วเพลิน จนแทบจับใจความสิ่งที่น้องพูดไม่ได้
ถ้าได้ลองแล้วจะตกหลุมรักแค่ไหนนะ ขนาดยังไม่ลองเขายังรู้สึกเหมือนหลงอยู่ในเขาวงกตเลย... “โม้หรือเปล่า?”
“ไม่โม้นะ!” น้องไข่มุกทำหน้ามุ่ย แถมแก้มยังพองลมขึ้นและมองพี่ลักยิ้มตาขวาง “ชานมไข่มุกร้านคุณน้าอร่อยมาก ๆ เลยนะพี่ลักยิ้ม พี่ลักยิ้มต้องไปลอง!”
“จริงเหรอครับ?” คนพี่ยังคงแหย่ไม่เลิก เห็นน้องไข่มุกงอแงแล้วมีความสุขชะมัด หน้ามุ่ย ๆ กับน้ำเสียงแง้ว ๆ เหมือนแมวนั่น
น่ารักเป็นบ้าเลย!
“จริง!!!”
“ถ้ายังไม่ลองพี่ไม่เชื่อหรอก น้องไข่มุกพาพี่ไปแล้วกัน”
“ได้!!! ถ้าอร่อยอย่างที่ผมบอกนะ พี่ลักยิ้มต้องเลี้ยงชานมไข่มุกผมสิบแก้วเลยรู้เปล่า!?”
คนตัวสูงยิ้มกว้างเสียจนดวงตาแทบปิด ลักยิ้มบนแก้มก็เกิดขึ้นอย่างชัดเจน ทำเอาน้องไข่มุกมองตาค้าง
อยากมีลักยิ้มบ้างจัง “ได้เลย ถ้าอร่อยนะ”
“อร่อย!!” ยืนยันหนักแน่น จะหงุดหงิดแล้วนะ ทำไมพี่ลักยิ้มไม่ยอมเชื่อว่าชานมไข่มุกร้านคุณน้าอร่อยจริง ๆ ฮือ! “โอ๊ะ ถึงโต๊ะผมแล้ว”
“ครับ ไว้เจอกันใหม่นะ อย่าลืมพาพี่ไปลองด้วยล่ะ”
“ได้เลย!! พี่ลักยิ้มเตรียมกระเป๋าฉีก!”
“ตัวเล็ก ๆ อย่างน้องไข่มุกจะกินเยอะแค่ไหนเชียว”
“ถ้าเป็นชานมไข่มุกนะ ต่อให้มีเป็นล้านลิตร ผมก็กินไม่เหลือ!”
“ฮะฮะ
คงต้องหาเงินไว้เยอะ ๆ แล้วสินะ” น้องไข่มุกทำหน้างงกับคำพูดประหลาดของพี่ลักยิ้ม คนพี่ส่งยิ้มบางให้น้อง “พี่ไม่กวนแล้วครับ ขอตัวก่อนนะ”
“อือ!” มองตามแผ่นหลังกว้างของพี่ลักยิ้มไปจนลับตา ทว่าเมื่อหันกลับมา ก็เจอสายตาของเหล่าผองเพื่อนจ้องมองด้วยความสงสัยค่อนไปข้างสอดรู้ สอดเห็น
“อะไร?” ไข่มุกตั้งคำถาม ก่อนตักข้าวเข้าปาก อือ รสชาติใช้ได้ ไม่อร่อยว้าว แต่ก็ไม่แย่
“มึงไปรู้จักคนดังของม.ได้ยังไง!?”
“คนดัง? ใคร?”
“คนที่คุยกับมึงเมื่อกี้ไงไอ้สัด!”
“อ๋อ พี่ลักยิ้ม พี่ลักยิ้มดังเหรอวะ?”
“ลักยิ้มห่าไร พี่เขาไม่ได้ชื่อลักยิ้ม”
“เอ๋า ก็กูไม่รู้ว่าพี่เขาชื่ออะไร เห็นยิ้มแล้วมีลักยิ้มก็เลยเรียกแบบนั้น”
“พอ มึงอย่าพามันออกไปไกล” เพื่อนอีกคนห้าม “แล้วไปรู้จักคนดังแบบนั้นได้ไง?”
“เมื่อวาน พี่เขาช่วยกูไม่ให้โดนรถชน แล้วทีนี้ชานมของกูมันก็หกราดพี่เขา ไข่มุกหล่นออกไปหมดเลย” เมื่อนึกถึงเรื่องเมื่อวาน ใบหน้าน่ารักก็ฉายแววเศร้า ยังเสียดายชานมไข่มุกแก้วนั้นไม่หาย เดี๋ยวเลิกเรียนแล้วต้องไปหาตัวตายตัวแทน!
อ๊ะ! ชวนพี่ลักยิ้มไปด้วยดีกว่า จะได้เลี้ยงเขาเลย คิคิ
“เหี้ย!” เพื่อนทั้งสองร้องขึ้นพร้อมกัน เสียงดังจนคนแถวนี้หันมามอง ไข่มุกได้แต่กะพริบตาปริบ ๆ ไม่เข้าใจว่าพวกมันตกใจอะไรกัน
กินข้าวดีกว่า...
--------------------------------------
สวัสดีค่ะ วันนี้มาลงเรื่องสั้น เป็นครั้งแรกเลย กลัวแป้กอ่ะ 555555555
เรื่องนี้อาจจะมีสองตอนจบหรือมากกว่านั้น แต่คงสองตอนจบแหละไม่น่าจะคิดออกแล้ว (อ้าว)
ฝากไว้ด้วยนะคะ หวังว่าจะชอบเนอะ
hashtag
#เรื่องสั้นอะไรก็ได้ หรือ
#พี่ลักยิ้มกับน้องไข่มุกจะชมจะติก็ได้ค่ะ ด่าอิฮบก.อิบ้าก็ได้ ฮือ
ขอบคุณที่แวะมาอ่านนะงับ ♥