บทที่35
‘ตื่อดึ้ง’
เสียงข้อความจากแอพสีเขียวที่ทำให้ต้องก้มหน้าลงไปดู ผมถอนหายใจออกมาอีกรอบเมื่อหน้าต่างเด้งเตือนขึ้นข้อความของกลุ่มเพื่อน ไอ้เซียร์ที่ทักแชทส่วนตัวแยกมาด่าผมโดยเฉพาะ
ซินเซียร์:[อิน้องฝา!! อิบ้า มึงวิ่งหนีไปไหนของมึง อิพี่รบนี่หน้าเหวอเลยนะรู้ไหม ]
กูจะรู้ได้ยังไงว่ามันหน้าเหวอหรือเปล่า ก็พอแม่งพูดออกมาแบบนั้น พวกคนรอบตัวที่ก็พากันโห่แซวแบบนั้น กูก็รีบก้าวถอยหลังแล้วกระชับกระเป๋าเป้ให้มั่น จากนั้นก็กลับหลังหันวิ่งออกมาเลย เรื่องอะไรพี่จะอยู่ตรงนั้นภายใต้สถานการณ์ที่เสียเปรียบแบบนั้นอ่ะ บ้าบอออ พี่ไม่โง่นะครับๆ
ซินเซียร์:[อ่านแล้วก็ตอบอิฝาหอย อย่าปล่อยให้เพื่อนเป็นห่วง มึงอยู่รูดากไหน!]
เห็นข้อความของไอ้เซียร์แล้วได้แต่ส่ายหน้า กูไม่น่าพลาดรู้จักมึงเพราะหลงหน้าตาน่ารักๆของมึงเลยเซียร์ จริงๆมึงมันไม่ใช่ผู้หญิง
ฝอฝา: [กูวิ่งมาแอบตรงสวนหลังตึกคณะ]
ซินเซียร์:[เอ๊าอินี่ พวกกูพากันออกมาจากมอแล้ว กูนึกว่ามึงหนีกลับบ้านไปแล้วอ่ะ]
ฝอฝา: [ไม่เป็นไรมึงๆ กูไม่เป็นไร...เดี๋ยวกูก็กลับแล้ว]
ซินเซียร์:[กูถามจริงๆนะไอ้ฝา ที่มึงหนีออกไปแบบนั้น กูมั่นใจว่ามึงเขินแน่ๆ แต่นอกจากเขิน...มึงตอบมาตรงๆ มึงกลัวมึงใจอ่อนให้พี่มันใช่ไหมล่ะ]
ผมที่กดอ่านข้อความของไอ้เซียร์แล้วก็ชะงักนิ้วที่กำลังจะพิมพ์ตอบ เม้มปากแน่นๆแล้วได้แต่หลุบตาลงต่ำ บางทีมึงก็ฉลาดไปนะเซียร์
ซินเซียร์:[เอาล่ะ กูไม่บังคับให้มึงตอบก็ได้ ไม่ต้องตอบกูตอบแค่ใจของมึงก็พอ...จริงๆยังรักพี่มันล่ะสิ กลัวที่จะกลับไปล่ะสิ ... แต่ว่านะมึง ถ้ารักกัน แล้วจะเลิกกันทำไมวะ ถ้ารักกันแล้วจะเสียเวลาทะเลาะกันให้เปลืองเวลาใช้ความสุขด้วยกันทำไม]
นั่นน่ะสิ ถ้ารักกันจะเสียเวลาไปทำไม
แต่ถึงแบบนั้น...
คนที่ทำให้คนที่ตัวเองบอกว่ารักเสียใจ
มันก็ไม่ควรจะปล่อยไปไม่ใช่หรอ...ถึงมันจะเป็นแบบนั้น แล้วความรู้สึกที่เคยเสียไปซ้ำซากๆของผมล่ะ ผมจะเอาตรงไหนมามั่นใจว่าคนที่ไม่เคยกล้ายอมรับว่าชอบผู้ชายแบบพี่มัน ตอนนี้...จะมั่นใจได้ยังไง ว่าต่อจากนี้มันจะกล้าพอที่จะไม่อายเวลาที่ต้องบอกใครๆว่ามันชอบผู้ชายด้วยกัน
ซินเซียร์:[ที่กูพูดแบบนี้ไม่ใช่ว่ากูยุให้มึงคืนดีกับพี่เค้านะ ความรู้สึกมึง มึงต้องเลือกเอง เพราะจริงๆตอนมึงเจ็บอ่ะ กูก็ไม่ได้เจ็บไปกับมึงด้วย ตอนมึงสุข กูก็ไม่รู้หรอกว่ามึงสุขมากแค่ไหน ... แต่ก็นั่นแหล่ะ อยากให้มึงคิดและเลือกทางของมึงดีๆ ไม่ว่ามึงจะเลือกทางไหน กูก็จะอยู่ข้างๆมึงเสมอนะ]
ผมหลุดยิ้มออกมาตอนที่ได้อ่านข้อความนั้น ซินเซียร์ ถึงมันจะเป็นคนร้ายๆแรงๆ แต่มันก็รักเพื่อน และเพราะว่ามันเป็นคนแบบนี้ เราถึงไม่เคยโกรธมันสักทีเวลาที่มันด่า
ฝอฝา: [พี่ฝาซึ้งจังเลยครับ คูลๆอ่ะเนอะ]
ซินเซียร์:[ฆ๊วย!]
จ๊ะ....เป็นผู้หญิงที่ช่างหยาบโลนจริงๆ .... ผมกลัวนะ กลัวว่าชาตินี้ทั้งชาติมันจะหาผัวไม่ได้ ต้องใช้ชีวิตอยู่อย่างโดดเดี่ยวกับมดลูกที่ขึ้นสนิมของมัน - - กดปิดหน้าแชทของไอ้เซียร์ทิ้งไปแล้วเปิดเข้าไปในเฟสบุ๊ค หน้าไทม์ไลน์ที่เลื่อนผ่านแชร์คลิปของไอ้รบที่มาร้องเพลงใต้ตึกคณะผมเต็มไปหมด โคตรจะเหี้ย
‘เฉียบมากเพื่อน งานเล่นใหญ่ไว้ใจมึง’
‘เซียร์อยากจะเกลียด แต่เห็นแบบนี้แล้วแพ้เลย เอาใจช่วยนะคะพี่นักรบ’
‘สู้ๆ ถ้าทำพี่ทำเพื่อนหมอกเสียใจอีก ไม่เอาใจช่วยแล้วนะเว่ยพี่’
‘ไอ้ฟัคฟัน มึงหน้าแดงว่ะเพื่อน @fuckfun’
‘น้องฝาจะโดนพี่บริหารคนนั้นกินจริงๆหรอ เสียดายเราเจอกันช้าไป’
‘กรี๊ดด เห็นเงียบๆกันมาสักพักนึกว่าเลิกกันแล้ว ทำไมพี่รบไม่โสด แอบรอเธอเลิกกันอยู่นะจ๊ะ แต่เธอไม่รู้บ้างเลย ’
‘ผมไม่โสดครับ มีแฟนแล้ว ตอนนี้แฟนโกรธเลยง้อแฟนอยู่ และอย่ามาเต๊าะแฟนกูกัน เพราะกูไม่ใช่คนใจดี หวงคนนี้มากกูบอกไว้ก่อน >> @fuckfun’
อ่านคอมเม้นต่างๆแล้วได้แต่อุทานว่าเหี้ยออกมาแรงๆอีกสักที ทั้งพี่เทียน ไอ้เซียร์ไอ้หมอกไอ้ธาร แห่เข้าไปคอมเม้นท์ใต้คลิปที่ไอ้รบแชร์มากันให้เพียบ แล้วหน้าแดงเชี่ยไร มึงไม่รู้อะไรไอ้สัดธาร พี่ฝาคนคูลเป็นคนขี้ร้อนหรอกเว่ย … แต่คอมเม้นท์สุดท้ายจัดได้ว่าเหี้ยสุด ถือเป็นเดอะเบสของความเหี้ยก็คือคอมเม้นท์ของไอ้พี่มันนั่นแหล่ะ แม่มเอ๊ย แฟนเชี่ยไรล่ะ เรียกว่าแฟนเก่าถึงจะถูกเว่ยไอ้พี่! ไอ้โมเม
“มานั่งเม้มปากทำหน้าแดงไรอยู่ตรงนี้คนเดียววะ หนีมาอ่อยกูใต้ต้นไม้หรอ” เสียงเข้มที่ทำเอาสะดุ้ง เงยหน้าขึ้นไปมองก็เห็นไอ้เหลืองยืนพิงต้นไม้ต้นตรงหน้าผมอยู่ตอนนี้ มันที่มองมาและยกยิ้มให้นิดๆ
“เชี่ย!”
“ดูพูดจา ทำไมไม่พูดจาน่ารักๆให้เข้ากับหน้าตาหน่อยวะ”
“แล้วมาเสือกเชี่ยไรด้วยวะไอ้พี่ ต่างคนต่างอยู่ไปไม่ได้อ่อ”
พูดออกไปแบบนั้น อีกคนที่ก็ทำตรงข้ามกับคำพูดกูมากๆ มันที่เดินตรงเข้ามาหาผมที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้ แขนแกร่งที่ก้มลงมาจับที่พนักพิงกั้นไม่ให้ผมได้ลุกหนีไปไหน หน้าของมันที่ยื่นเข้ามาใกล้จนผมต้องถอยตัวยืดไปด้านหลังพลางเสหน้าหันหนีไปทางอื่น
“หลบทำไม ทำไมไม่เห็นเก่งเหมือนแต่ก่อนเลย ไม่จีบกูแล้วหรอ”
“จีบเชี่ยอะไร ไม่จีบคนเหี้ยๆแบบมึงแล้วพี่”
“พูดทีหน้าสั่น แต่ไม่เป็นไรนะ คนเหี้ยๆแบบกูจะจีบมึงเอง”
“พี่มึงคิดว่าจีบแล้วจะติดหรอวะ”
หันหน้ากลับไปมองมันด้วยความอยากเถียง แล้วก็รับรู้ได้ถึงคำว่าพลาด เมื่อหันไปแล้ว ปลายจมูกดันเฉียดเข้ากับจมูกของอีกฝ่ายแบบจังๆ แถมตาคมของมันที่มองผมไว้ก่อนแล้ว ริมฝีปากยกยิ้มมุมปากแบบพอใจของอีกฝ่าย ก็ทำให้รู้สึกร้อนหน้าได้ไม่ยากเลยจริงๆ
“แล้วมึงไม่รู้หรอว่ากูเป็นคนยังไง กูเคยสนใจอะไรที่ไหนงั้นหรอ...ถ้ากูอยากได้ กูก็ต้องได้”
“ทำไมนิสัยเสียงี้วะ”
“ใครบอกว่ากูนิสัยดีล่ะ หื้ม” ยกยิ้มนิดๆก่อนจะเลื่อนหน้าเข้าไปหาอีกหน่อย จนคนร่างบางต้องยกมือขึ้นดันอกผลักอีกคนให้ออกห่าง
“ขยับออกไปเว้ย กูจะกลับแล้ว ไม่อยากพูดกับคนแบบมึงแล้ว”
“กลับไปไหน”
“เรื่องกู”
“อยากยุ่ง ไม่ได้รึไง”
“ไม่ได้เว่ย”
“อืม...งั้นไปกินข้าวกัน”
อะไรของมึงอ่ะ กูนี่นั่งงวินึงเลย คือฟังกูมาก กูบอกว่าหิวหรอหรืออะไร มึงฟังกูแบบไหนไอ้พี่!! ไม่พูดเปล่า อีกคนที่ผละตัวไปยืนดีๆ ก็คว้ามือมาเอื้อมจับมือผมแล้วฉุดให้ลุกไปด้วยกัน
“ปะ”
“ไม่ไปเว้ย ไม่หิว”
“กูอ่านรีวิวมาร้านนึง เค้าบอกว่าอร่อย เห็นแล้วคิดถึงมึงเลยว่ะ”
“นี่ มึงฟังกูอยู่ไหม”
“จริงๆอ่านมานานแล้วล่ะ คิดว่าจะพามึงไปกินแต่ก็ไม่มีเวลาไปสักที”
“................”
“และเพราะแบบนั้น...ไปกินข้าวกันเถอะ ตอนที่ไม่มีมึงกินข้าวด้วยกัน มันโคตรแย่เลยว่ะ”
ช้อนตามองหน้าของมัน อีกคนที่ก้มมาจ้องตาผมตอนที่พูดออกมาแบบนั้น มันเลยทำให้อดที่จะเม้มริมฝีปากของตัวเองให้แน่นๆไม่ได้
“ที่ร้านมีเค้กด้วยนะ มึงน่าจะชอบนะฝา...ไปกัน...นะ”
คำว่า ’นะ’ ที่ลงท้ายมาด้วยเสียงติดจะอ้อนวอนและขอร้องของมัน มาพร้อมรอยยิ้มนิดๆที่ส่งมาให้ผมแบบอบอุ่นจนหัวใจผมชา ครั้งสุดท้ายที่ได้เห็นรอยยิ้มแบบนี้ของพี่มัน มันเมื่อไหร่กันนะ...และไม่รู้ว่าเพราะอะไร สุดท้ายก็เดินตามมันไปช้าๆ ในช่วงเวลาที่เดินผ่านผู้คนมากมาย อีกฝ่ายก็ไม่ยอมที่จะปล่อยมือออกจากมือของผม ... ก้มหน้ามองลงต่ำไปที่ฝ่ามือของตัวเองที่ยังถูกฝ่ามือใหญ่ของคนตรงหน้ากุมมือของผมไว้แน่นๆ .... นานแค่ไหนแล้วที่ไม่ได้จับมือกันเดินแบบนี้ หรือจริงๆแล้ว เมื่อก่อนมันไม่เคยมีสักครั้งเลยที่อีกฝ่ายจะกล้าจับมือผมเดินไปด้วยกันให้คนอื่นได้เห็นแบบนี้...
.
.
.
“กินเยอะๆดิ อร่อยไหม”
ผมเงยหน้าขึ้นมาจากจานที่ตอนนี้มีอาหารนานาชนิดมากองพูนอยู่ในจาน คนตรงหน้าที่พยายามจับนู่นตักนี่มาวางใว้ให้ มันยิ้มกว้างๆออกมาตอนที่ถามผมแบบนั้น
“มึงเห็นกูเหมือนพระวัดป่าหรอวะ”
“ห๊ะ?”
“ตักทุกอย่างมารวมกันขนาดนี้ มึงไม่เอาขนมหวานมาเทใส่จานให้กูด้วยเลยล่ะ” ว่ามันออกไปแบบนั้น อีกคนที่ก็ยิ้มค้างๆ ก่อนจะทำหน้าแหยลงหน่อยๆ
“กูก็แค่คิดว่ามึงน่าจะชอบ”
มันที่ตอบผมมาด้วยเสียงอ่อยๆลง หน้ามันที่ดูจะเสียนิดหน่อยกับคำด่าของผม เห็นแบบนั้นแล้วก็รู้สึกไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่ เพราะอย่างน้อยๆมันก็พามา ผมเลยไม่ได้พูดอะไรต่อ แค่หยิบกุ้งทอดตรงหน้าขึ้นมากัดกิน มันที่เงยหน้ามามองแบบลุ้นๆ
“อืม อร่อยดี” บอกมันออกไปแบบนั้น อีกฝ่ายก็กลับมายิ้มให้ผมอีกที เป็นนักรบเว่อร์ชั่นใหม่ที่ดูแปลกตาดี
“งั้นกินเยอะๆนะ”
ไม่ได้ตอบอะไรมันออกไปอีก เพียงแค่ก้มหน้าก้มตากินข้าวต่อไปเงียบๆ มันเองก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาต่อ มีเพียงสายตาของมันที่คอยจับจ้องมองผมอยู่เงียบๆ หยิบนู่นหยิบนี่ให้บ้างเวลาที่มันเห็นผมกินหมดแล้ว
‘ตื่อดึ้ง’
เสียงแจ้งเตือนที่ดังมาจากมือถือของมัน ทำเอาทั้งผมและมันเงยหน้าขึ้นมาจากจานอาหาร ผมที่มองไปที่มือถือของมันที่วางอยู่บนโต๊ะ มองนิ่งๆและสุดท้ายก็เสสายตาไปหยิบปอเปี๊ยะแฮมชีสมากิน เพราะไม่ว่าจะเป็นใครหน้าไหนที่ทักมันมา ตอนนี้ก็ไม่เกี่ยวกับผม
“อะไร” ผมเงยหน้าไปถามมัน ตอนที่อีกคนเลื่อนมือถือมาไว้ตรงหน้าผม
“ให้มึงเช็ค ให้มึงดู ให้มึงทำอะไรก็ได้”
“ไม่จำเป็น ไม่ใช่เรื่องของกู”
“แต่กูอยากให้เป็นเรื่องของมึง นะฝา อ่านให้หน่อย จัดการให้หน่อย” ถอนหายใจหนักๆตอนที่มันทำหน้าตื๊อแบบไม่ยอม สุดท้ายก็หยิบมือถือของมันขึ้นมาเปิดอ่าน เป็นข้อความของพี่เทียน
เทียน: [ไอ้สัดรบ กูจะทำไงดีให้หมอกใจอ่อน มึงว่ากูเอาให้ดูดีไหม หมอกจะเชื่อไหมวะ เชี่ย คิดถึงเมีย]
ผมที่เปิดอ่านข้อความนั้นแต่ไม่ได้ตอบกลับไป แอบมองคนตรงหน้าหน่อยๆ ตอนนี้มันไม่ได้สนใจมือถือที่อยู่ในมือผม มันไปหยิบปลาหมึกกินแล้ว กดปิดข้อความของพี่เทียน แต่ก็ยังไม่ยอมที่จะส่งคืนเจ้าของ ลองเปิดดูในไลน์อื่นๆ ตอนนี้มันแทบจะไม่มีเพื่อนอยู่ในลิส พอไปเปิดดู ก็เห็นว่ามันจัดการบล็อคไปหมดแล้ว ล้วนแล้วแต่เป็นผู้หญิงนมโตและเด็กผู้ชายน่ารักๆ และหนึ่งในรายชื่อที่มันบล็อคไป ก็คือ...หลินหลิน
“อะ เอาคืนไป พี่เทียนทักมา”
“มันทักมาทำไร มึงตอบเลยดิ”
“ไม่เอา กูไม่เข้าใจว่าพี่มันหมายความว่าอะไร”
บอกออกไปแบบนั้นอีกฝ่ายก็พยักหน้ารับพร้อมรับมือถือกลับไป ในช่วงจังหวะที่มันรับโทรศัพท์ ฝ่ามือหนาที่หยิบมือถือไว้ ก็คว้ามือผมไว้ด้วยเช่นกัน
“อะไรของมึง ปล่อยมือกูไอ้พี่”
“กูบริสุทธิ์ใจนะ มึงเช็คหรือเปล่า กูไม่มีใครแล้วจริงๆนะฝา กูจะไม่ปิดอะไรมึงอีกนะต่อจากนี้ จริงๆนะ”
“พูดมาก” เลือกที่จะไม่ได้บอกมันว่าผมเช็คหรือเปล่า ทำแค่ดึงมือตัวเองออกมา เห็นมันที่แอบทำหน้าเสียดายหน่อยๆ แต่ก็ไม่พูดอะไรออกมา
“ฝา”
“อะไร จะแดกก็แดกไปดิ”
“คือกูอยากพูด”
“จะพูดอะไรของมึง”
“คือเรื่องของหลิน...” ผมชะงักช้อนที่กำลังจะตักยำแซลม่อนเข้าปาก ก่อนจะวางช้อนลง ไม่รู้ทำไม แต่แค่ได้ยินชื่อผมก็ไม่ชอบใจเท่าไหร่
“จริงๆแล้วมัน...”
“รบ รบคะ”
เสียงเรียกชื่อมันที่ดังมาจากด้านหลังของผม ทำให้มันชะงักคำพูดของตัวเอง ก่อนที่มันจะตาเบิกกว้างหน่อยๆเมื่อเงยหน้าไปมอง ตาคมที่ย้ายมามองหน้าผม เป็นจังหวะเดียวกันที่ผมหันหลังไปมอง และเห็นใบหน้าของเธอ เธอที่กำลังจะเป็นหัวข้อสนทนาของผมกับมัน
“คิดถึงจังเลยค่ะ”
สาวเจ้าที่เดินยิ้มร่าเข้ามา ก่อนจะวางมือลงบนไหล่ของพี่มันแบบเป็นกันเอง มองจากดาวอังคารกูยังรู้ว่ากำลังพยายามประกาศให้คนทั่วโลกรู้ว่า นี่ของกูนะ กูกับผู้ชายคนนี้เคยเล่นโล้สำเภาด้วยกันมาก่อน ... หงุดหงิดเหี้ยๆจนอยากลุกขึ้นถีบโต๊ะให้ฟาดสันดังไอ้นักรบ พี่ฝาไม่ชอบสถานการณ์ตอนนี้มากๆพูดเลย แม่งโคตรไม่คูลอ่ะ
“รบหายไปเลย ไม่ติดต่อหลินมาเลยตั้งแต่วัน...”
‘พรึบ’
“เห้ยเดี๋ยวฝา!”
พี่มันที่ลุกขึ้นจากเก้าอี้แทบจะทันทีพร้อมๆกับผม ก่อนจะรับเอื้อมมือมารั้งแขนผมไว้ไม่ให้เดินออกไปจากโต๊ะ แล้วกูจำเป็นต้องอยู่หรอวะ แค่เห็นหน้ายัยนี่ก็ไม่ไหวจะทน มันคงไม่ใช่เรื่องหน้าสนุกหรอกจริงไหม ที่ต้องมานั่งฟังเรื่องในวันนั้นอีกรอบ ... ไอ้รบควักแบงค์พันออกมาสองใบวางลงบนโต๊ะทันทีที่เห็นผมสะบัดแขนออกจากมือของมัน มันที่วิ่งตามผมออกจากร้านมาติดๆ และแน่นอนว่าแขนก็โดนมือมันคว้าเอาไว้ได้อีกครั้ง
“ฝา ใจเย็นๆ”
“ปล่อย กูจะกลับ”
“เดี๋ยวกูไปส่ง” มันที่ว่าแบบนั้นแล้วดึงผมให้เดินตามไป
“รบคะ”
“มึงปล่อยกู แล้วกลับไปกั....”
“อย่ายุ่งกับกูหลิน”
คำพูดของผมถูกคำพูดของมันตัดบททิ้งไปทันที มันที่หยุดเดินและหันไปพูดกับหญิงสาวที่วิ่งตามมาจับแขนมันไว้อีกที เป็นภาพที่โคตรแปลกประหลาดและน่าทุเรศหน่อยๆ มันจะต้องดูทุเรศแค่ไหนถ้าคนอื่นๆมองมา เราสามคนที่จับมือต่อๆกัน ดึงรั้งไปมาเหมือนเชือกชักคะเย่ออยู่แบบนี้
“อะไรนะรบ”
“กูบอกว่าให้มึงเลิกยุ่งกับกูหลิน”
“ทำไม...” เธอที่พูดเสียงดังออกมาในตอนนั้น ท่าทางที่ดูไม่พอใจแต่ก็ยังไว้ท่าทีได้ดี ไม่ได้แว๊ดๆจนน่าเกลียด
“จริงๆไม่น่าถามคำนี้ออกมา เราจบกันไปนานแล้วไหมวะ”
“แต่เรื่องคืนนั้น...”
“พูดออกมาเองก็ดี เพราะยังเห็นว่าเป็นผู้หญิงเลยไม่อยากจะพูดอะไรออกไปให้เสียหาย แต่เหมือนว่าเธอเองจะไม่ค่อยสะท้านเท่าไหร่ เพราะงั้นกูจะพูดแบบไม่ไว้น่าแล้วนะ”
นักรบที่จ้องอีกฝ่ายนิ่งๆ สายตาที่เต็มไปด้วยความเย็นชาถูกสาดใส่คนตรงหน้าแบบไม่คิดจะปิดบัง มันตอนนี้ทำให้ผมนึกถึงนักรบคนที่ผมได้รู้จักแรกๆ มันที่ไม่สนใจใครที่ตัวเองไม่แคร์ ปากเสียและไม่ไว้หน้าใครทั้งนั้น
“รบ!”
“คือไม่เข้าใจว่าต้องการอะไรจากกูวะหลิน เราจบกันไปนานจนกูลืมวิธีสอดใส่เธอไปแล้วนะเว่ย”
“นักรบ!”
“เรียกทำไมนักวะ น่ารำคาญ”
มันที่เอียงคอมองหน้าหญิงสาว เอาลิ้นดุนกระพุ้งแก้มแล้วพูดออกมาแบบนั้น พูดตรงๆถ้าทำกับกู กูจะตบให้เลือดกลบปาก กวนตีนน้อยเมื่อไหร่ล่ะไอ้ท่าทางแบบนั้น
“หลินไม่เชื่อว่ารบจะเลิกกับหลินแล้วไปพิศวาสจืดๆมีดุ้นแบบมัน” อ้าวๆ นี่มึงพาดพิงพี่ฝาใช่ไหมหือ
“อยู่บนเตียงกับกูหรอถึงมาพูดว่ามันจืด มันเผ็ดกว่าเธอเยอะเลยหลิน ที่แน่ๆมันไม่หลวม เพราะมีกูคนเดียวที่ได้มัน”
“นักรบ! พูดบ้าอะไรออกมาห๊ะ”
“ความจริงล้วนๆ”
ยักคิ้วไปอีก อิเชี่ยเหลือง มึงนี่แม่ง กวนตีนๆๆ กวนตีนหลินหรอ...ตอบเลยว่าเปล่า กวนตีนกูเนี่ย!
“นายจะบ้าไปแล้วหรอ รบเลิกกับหลินมาคบผู้ชายเนี่ยนะ ไม่อายบ้างรึไง!”
“ไม่อาย นี่แฟนกูใครจะทำไม”
แฟนเก่าเถอะไอ้สัด อยากจะตะโกนออกไปแบบนั้น แต่ใจกลับเต้นสั่นๆตอนที่มันพูดแบบนั้นออกไป ท่าทีที่มันพร้อมจะบวกเวลาที่หญิงสาวมองผมแบบเหยียดๆ มันทำให้ผมรู้สึกดีแปลกๆ
“อ้อ...แล้วถ้าจะพูดเรื่องคืนนั้นอีกล่ะก็นะ ก็ขอบอกว่า กูโคตรมั่นใจว่าkวยกูยังไม่ได้สอดใส่เข้าไปในช่องคลอดมึงแน่ๆอ่ะ ถึงกูจะมึนๆแล้วรู้สึกมีอารมณ์มากแปลกๆ แต่กูมั่นใจว่ากูไม่ได้พิศวาสขนาดเห็นเธอแล้วอยากจับเย คืนนั้นเธอเดินมานัวเราแล้วก็แก้ผ้าออกเองนะเว้ย ดันเราลงเตียงแล้วขึ้นคล่อม เราจำได้ว่าเกือบถีบเธอลงไปด้วย แต่ไม่ทันได้ทำเพราะไอ้รุกเข้ามาก่อน เธอเลยดิ้นลงไปนอนใต้ผ้าห่ม ทำเองทุกอย่างแล้วจะให้รับผิดชอบไรอีกหรอถามจริง”
นักรบที่พูดออกมารัวๆด้วยหน้าตายๆของมัน คำพูดของมันทำให้ผมอึ้งหน่อยๆ แต่คิดว่าหญิงสาวตรงหน้าก็คงจะช็อคไม่ต่างกัน เธอที่กำมือแน่นๆ จ้องหน้าร่างสูงแบบไม่ไหวจะอดทน แต่ไอ้คนข้างๆผมมันก็ดูไม่สน สายตาคมที่มองตรงไปที่เธอด้วยสายตาว่างเปล่า หน้ามึนๆของมันที่ไม่ได้สนใจว่าอีกฝ่ายกำลังทำหน้ายังไง และสุดท้าย มันที่ยกยิ้มมุมปากก่อนจะมองด้วยสายตาเหยียดแบบสุดๆแล้วพูดต่อ
“อายที่โดนกูบอกเลิก แล้วกูก็ดันมาเอาผู้ชายสินะ แต่ถามหน่อยดิ ที่ต้องทำขนาดนี้ไม่น่าอายกว่าหรอวะ?”
“กรี๊ดดด นักรบมันมากไปแล้วนะ!” เธอที่ยกมือขึ้นสูง ดูจากท่าทางคงตั้งใจจะตบให้ปากอี้บมันแตก แต่ร่างสูงที่จ้องหน้าอีกฝ่ายนิ่งๆ ก่อนจะยกนิ้วขึ้นชี้หน้า
“หยุด!”
“จะพูดให้ฟังชัดๆเป็นครั้งสุดท้าย....เลิกยุ่งกับกูซะหลิน เรื่องของเรามันจบไปนานแล้ว ตอนนี้กูมีคนที่รักแล้วจริงๆ”
มันที่หันมามองหน้าผมในจังหวะที่พูดออกมาแบบนั้น มือหนาที่เลื่อนลงไปกอบกุมมือผมไว้และบีบเบาๆให้รู้สึกว่ามันจะไม่ปล่อยไป
“และไม่ว่าเธอจะทำยังไง วิธีไหน กูก็ไม่กลับไปแน่นอน เธอจะเป็นผู้หญิงคนสุดท้ายที่คบด้วย และไอ้ฝา มันก็จะเป็นผู้ชายคนแรกที่กูรัก และก็จะจบลงที่มันแค่ตรงนี้ เพราะฉะนั้นอย่าพยายามทำอะไรก็ตามเพื่อรักษาหน้าตัวเอง อย่า!...คิดโง่ๆ”
“วิธีเดียวที่จะรักษาหนังหน้าลูกคุณหนูแบบเธอได้ดีที่สุดก็คือ พยายามไปยั่วผู้ชายที่หล่อกว่ากูแล้วจับมันไว้ให้ได้ ... แต่อาจจะยากหน่อยนะ พอดีหาคนหล่อกว่ากูยาก ... จบ บาย”
สัด
มั่นหน้ามั่นโหนก มันกระโหลกมั่นเบ้า มอบโล่กล้วเซรามิค10ถ้วยให้มึงเลยครับไอ้สัดพี่รบ
มันที่เปิดประตูรถแล้วจับผมยัดเข้าไปในรถ มันไม่ได้หันกลับไปมองหญิงสาวที่ยังยืนตัวสั่นอยู่ตรงนั้น มองจากตรงนี้ จริงๆมันก็ดูน่าสงสารไม่น้อย ลองคิดกลับกัน ถ้าเราเป็นผู้หญิงแล้วต้องโดนผู้ชายด่าด้วยประโยคของไอ้พี่มัน ไม่ใช่แค่หน้าชา แต่ความรู้สึกคงเหมือนลากไปแก้ผ้าและถูกถีบหน้ากลางสี่แยกไฟแดง
“ฝา”
“อะไร”
“จับมือหน่อย”
“เป็นเหี้ยอะไร”
หันไปด่าไอ้คนที่ขับรถออกมาด้วยความเร็ว มันที่พูดขอและพอผมด่าเสร็จ อีกฝ่ายก็ดึงมือผมไปจับไว้ทันที คือมึงขอกูทำไมน่ะหือ?
“คืนนั้นกูไม่ได้นอกใจไม่ได้นอกกายมึงจริงๆนะฝา กูสาบานได้ ที่กูพูดมันคือเรื่องจริงนะ kวยกูไม่ได้สอ...”
“พอ กูฟังมึงพูดไปรอบนึงแล้วไอ้พี่”
“กูกลัวมึงไม่เชื่อ”
“....................”
ผมเงียบไม่ตอบอะไรออกไป แต่แค่หันหน้าไปมองอีกฝ่ายที่ตายังคงจ้องอยู่ที่ถนน มองจากมุมข้างๆตรงนี้ อาจจะเคยพูดไปหลายทีว่าจริงๆพี่มันเป็นผู้ชายหน้าตาดีมากๆคนนึง ... เพราะแบบนี้ผมเลยตกหลุมรักมันง่ายๆล่ะมั้ง
“กูรู้นะว่ากูหล่อมาก ไม่ต้องจ้องเหมือนหิวกูขนาดนั้นก็ได้ กูยอมให้มึงเลียจนกูล้มอยู่แล้วฝา”
“สัดพี่! จังไร”
เลียจนล้มเชี่ยอะไรวะ
“ด่าทำไม กูอ่อยอยู่นะรู้ยัง”
“โว้ย ขับรถไปเงียบๆได้ไหม กูอยากถึงห้องกูแล้ว”
“กูจะเงียบๆก็ได้ แต่ฝา...”
“อะไรมึงอีก”
จังหว่ะที่รถค่อยๆลดความเร็วลงช้าๆก่อนจะหยุดนิ่ง เป็นช่วงเวลาทุ่มกว่าๆที่รถชอบติดเป็นพิเศษ พี่มันที่ดึงเบรคมือขึ้นก่อนจะหันหน้ามามองผม สายตาที่ว่างเปล่าก่อนหน้าตอนมันมองหลินนี้ไม่มีอีกแล้ว เหลือเพียงสายตาวาววับแปลกๆ ที่พอโดนมันจ้องอยู่ตอนนี้แล้วรู้สึกว่าใจสั่น
“กูรักมึงว่ะ”
“...............”
“เมื่อก่อนกูคงเป็นแฟนเหี้ยๆที่ดูไม่ชัดเจนเลยสินะ แต่ต่อจากนี้ไม่ต้องกลัวอีกแล้วนะ ไม่มีไอ้รบคนขี้ขลาดคนนั้นอีกแล้ว จะมีแต่นักรบ คนที่จะชัดเจนกับมึงแค่คนเดียวนะ”
มันที่ยิ้มออกมาให้ผม เป็นรอยยิ้มอุ่นๆที่รู้สึกไปถึงหัวใจ ผมผละถอยหลังออกมาหน่อยๆก่อนจะหันหน้าหนีออกไปมองนอกรถ มันเองที่ก็กลับไปเริ่มต้นขับรถอีกครั้งตอนที่ไฟจราจรเปลี่ยนสัญญาณเป็นสีเขียว ไม่มีเสียงพูดคุยอะไรมาจากมันอีกแบบที่มันสัญญาไว้จริงๆ บรรยากาศเงียบๆแต่กลับไม่รู้สึกอึดอัดอะไร
เสียงตบไฟเลี้ยวซ้ายทำให้มองเห็นว่าข้างหน้ากำลังจะเป็นซอยของหอผม รถที่จอดสนิท ผมเองที่ปลดเข็มขัดนิรภัยออกจากตัว
“จะรอดู”
“หื้ม?” หันไปมองหน้ามันที่กำลังเลิกคิ้วมองหน้าผมแบบงงๆ
“ที่มึงพูดก่อนหน้านี้...กูจะรอดู”
เดินลงจากรถ ตั้งใจจะไม่หันกลับไป แต่ก็ต้องเสียความตั้งใจเมื่อคนที่อยู่บนรถเมื่อกี้เดินลงมาตะโกนเรียกเอาไว้ซะก่อน หันหลังกลับไปเห็นรอยยิ้มกว้างๆของมัน เป็นรอยยิ้มที่ยิ้มออกมาทั้งตาทั้งปาก
“รอดูนะฝา รอกูนะ!”
ไม่ตอบอะไรกลับไป ก็ทำแค่เดินเข้าไปในตัวตึก ถึงห้องที่คุ้นเคยดี ตั้งใจจะไปอาบน้ำแต่ก็เผลอเดินออกไปที่ระเบียง มองลงไป ก็ยังเห็นว่าไอ้คนที่มาส่งยังยืนพิงรถเงยหน้ามามองกันอยู่ที่เดิม มันที่สบตากับผมแล้วยิ้มออกมาอีกครั้ง
ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่มึงเป็นคนยิ้มบ่อยแบบนี้กันนะ
ผ่านไปหลายนาทีที่ คิดว่าในที่สุดอีกฝ่ายก็ตัดสินใจได้ มันที่หมุนตัวกลับไปขึ้นรถ
‘ตื่อดึ้ง’
เสียงข้อความเข้าจากมือถือที่ผมถืออยู่ ก้มหน้าลงไปดูก็เห็นข้อความที่เข้ามาไม่ได้มาจากใครที่ไหน มาจากไอ้คนที่พึ่งเดินขึ้นรถไปเมื่อกี้นี้นี่แหล่ะ
นักรบ: [กลับแล้วนะ มึงเข้าห้องไปได้แล้ว มายืนทำไมวะ]
ฝอฝา: [ไม่เสือกดิ]
นักรบ: [ไม่ได้]
ฝอฝา: [ทำไมอีก]
นักรบ: [กูหวงของกู ไม่อยากให้ใครได้มองมึง]
ฝอฝา: [ประสาท]
นักรบ: [ประสาทแล้วยิ้มทำไม ยิ้มทำไมอ่ะครับฝา หน้าแดงเลย]
ฝอฝา: [หน้าแดงพ่องไอ้พี่! อยู่ตั้งไกลมึงเห็นได้ไง]
นักรบ: [หึ]
นักรบ: [พูดงี้แดงจริงสินะ นึกภาพออกเลยว่ะ อยากหอมแก้มมึง]
ฝอฝา: [ไม่คุยด้วยแล้วไอ้เหี้ย! กลับไปเลยไป๊]
นักรบ: [เขิน พิมพ์งี้ครับ]
ฝอฝา: [ฉัดดดด]
นักรบ: [น่ารักจังวะ อย่าน่ารักมากดิ กูไม่ไหวจะทนแล้วนะฝา อยากกอด อยากฟัด อยาก....]
ฝอฝา: [พอ! ไอ้หื่นเอ๊ย]
นักรบ: [หื่นไร คิดกามหรอมึง]
ฝอฝา: [กลับไปสักทีไอ้เหลือง เกะกะลานจอดรถหอกู]
นักรบ: [กูเคยพูดไปแล้วนะ]
ฝอฝา: [???]
นักรบ: [คนที่จะเรียกกูแบบนี้ได้...มีแค่เมียกูเท่านั้น]
นักรบ: [โอ๊ะ ลืมไป]
นักรบ: [มึงก็ต้องเรียกได้ดิ ก็มึง...เมียกูนี่เนอะ]
เนอะพ่องๆๆๆๆๆ
น่าเบื่อ
ไอ้สัดพี่เหลืองแม่งน่าเบื่อชิพหายเลย พี่ฝาเบื่อ
นักรบ: [เงียบเลยว่ะ ไม่สู้หรอวะ]
นักรบ: [ฝา]
ฝอฝา: [เรียกเชี่ยไรนักหนา กลับไปได้แล้วโว้ย]
นักรบ: [แค่อยากจะบอกว่า ... พี่อ่อยอยู่นะ ฝารู้ตัวยัง]
เชี่ย!!!
เออออออ กูรู้แล้วโว้ยยยย ไอ้คนขี้อ่อยเอ๊ย
รุกกูจังวะ มึงชื่อรุกหรอ มึงชื่อรบ ไอ้เชี่ยพี่นักรบอย่าผิดบทตัวเองสิวะ
ตัดสินใจหันหลังเดินหนีเข้ามาในห้อง ไม่เห็นว่าอีกคนตอบอะไรกลับมา และนั่นก็ถือว่าดีแล้ว แอบไปชะโงกหน้ามองอีกที ก็เห็นรถคันสีเหลืองที่กำลังเคลื่อนตัวออกไป
ไม่ไหวเลย
แบบนี้ไม่ไหวเลยนะ
ไอ้พี่นักรบหรอที่ไม่ไหว
เปล่า..
ใจกูเนี่ย เต้นเร็วจนพี่ฝาจะไม่ไหวแล้ว เหนื่อยจังครับหัวใจ อรุ่กๆๆๆ
-TBC-
-------------------------------
กรี๊ดดดดด แคทกลับมาแล้วจ้าาา โน๊ตบุ๊คไปซ่อมมาแล้วจ้าาา ขอเสียงคนคิดถึงเราหน่อยยยยย (กริบ..........)
เอาเป็นว่า ไม่มีใครคิดถึงไม่เป็นไร แต่เราคิดถึงทุกคนนะเอออ คนอ่านหายไปครึ่งนึง อาจเพราะเนื้อเรื่องมันไม่โดนใจ ขอโทษน้าาาา แต่ว่าตอนนี้....หลบหน่อยค่าาา หลบทางให้พระเอกเดินด้วย นี่พระเอกนะเว้ยๆๆๆ
แคทชอบพี่รบเวอร์นี้มัก บับ...ขี้อ่อย ขี้อ่อน ขี้เอา(เดี๋ยวๆๆๆ) -..-
ปล.มีใครสนใจสเปพี่รุกน้องเลิฟวันสงกรานต์ไหม ถ้ายังไม่ได้อ่าน ไปตำได้ที่One night...คืนเดียวก็เสียวได้ ในธัญวลัยจ้า
