L.O.S.T. สุขสันต์วันเสียตัว
ตอนที่ 9 “สรุปมึงมีเรื่องอะไรจะคุยกับกูเนี่ย”
หลังจากที่ผมเดินออกมาจากห้องสมุดคณะแพทย์แล้ว ผมก็โทรศัพท์ไปหาแพท
“เรื่องนี้น่าจะยาว มึงบอกกูมาก่อนดีกว่าว่าเมื่อกี้นี้มึงพูดอะไรของมึงวะ”
แพทถามผมเกี่ยวกับเรื่องที่พูดแปลกๆ ใส่มันไปในโทรศัพท์
“น้องวิทย์เรียกกูไปหาที่ห้องสมุด แต่ทิ้งกูไว้กับน้องเคนสองคน”
“ก็เลยใช้กูเป็นข้ออ้างที่จะหนีออกมาสินะ มึงนี่มันกะล่อนจริงๆ”
“แบบนี้เขาไม่เรียกว่ากะล่อน เขาเรียกว่าฉลาดต่างหาก”
“เออ ฉลาดก็ฉลาด เรื่องของมึงไม่มีอะไรแล้วใช่มั้ย กูจะได้เล่าเรื่องกูบ้าง”
“จริงๆ ก็มี แต่มึงเล่าเรื่องของมึงมาก่อนก็ได้”
ผมยังไม่ได้บอกแพทว่าน้องเคนจะต้องมาสัมภาษณ์ผมครับ ผมไม่รู้จะบอกมันยังไงดี เพราะมันบอกผมตลอดว่าการที่น้องเคนเขามีแฟนแล้ว แถมยังเป็นผู้หญิงด้วยนั้น มันก็ชัดเจนแล้วว่าน้องเขาไม่ได้รู้สึกอะไรกับผม ดังนั้นผมก็ควรจะอยู่ห่างๆ ไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับน้องเคนจนกว่าผมจะตัดใจจากน้องเคนได้
“เรื่องของเดือนคณะกูสองคนนั่นแหละ”
“ไอ้ริวกับน้องแชมป์อะนะ”
ผมพอจะนึกออกแล้วครับว่าวันนี้น่าจะเกิดอะไรขึ้น เพราะว่าวันนี้น้องแชมป์จะเอานาฬิกาไปให้ริวเป็นของขวัญวันเกิด
“ใช่เลย”
แพทตอบผม ผมก็รู้อยู่แล้วน่ะว่าสองคนนี้แหละ แต่ว่ามันเรื่องอะไรกันล่ะ
“สรุปน้องแชมป์มันให้ของขวัญหรือยังวะ”
ผมถามแพทไปด้วยความสงสัย
“เอาล่ะ ที่กูจะเล่าคือเมื่อเช้ากูเห็นน้องแชมป์ใส่นาฬิกาสีแดงว่ะ กูคุ้นๆ ว่าปกติน้องมันก็ไม่ได้ใส่นาฬิกานะ”
“อะไรกันวะ กูบอกให้มันซื้อให้ไอ้ริวนะ ไม่ใช่ให้มันมาใส่เอง”
“แต่เมื่อตะกี้นี้ สายข่าวกูรายงานว่าเห็นน้องแชมป์ไปเคาะประตูห้องไอ้ริวด้วย และไอ้ริวก็ยอมให้น้องแชมป์เข้าไปในห้อง แต่หลังจากนั้นไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น”
“สายข่าวมึงนี่เป็นใครวะ ทำไมถึงสอดรู้สอดเห็นได้ทุกเรื่องขนาดนี้”
ผมว่าก็คงเป็นตัวไอ้แพทเองนั่นแหละครับที่ไปแอบดูที่หน้าห้องของริวมา แพทนี่มันเป็นที่หนึ่งในเรื่องของความขี้เสือกจริงๆ
“มึงไม่ต้องรู้หรอกว่าใคร รู้แค่ว่าไม่ใช่กูก็พอ”
แพทบอกผม แต่ผมก็ไม่แน่ใจว่าจะเชื่อแพทมันได้มั้ย แต่ว่าสายข่าวคนนั้นจะเป็นใครมันก็ไม่สำคัญสักเท่าไหร่หรอกครับ
“แต่กูก็แปลกใจนะที่ริวมันยอมให้น้องแชมป์เข้าไปในห้องง่ายๆ เท่าที่ฟังเวลาริวมันพูดถึงน้องแชมป์ กูรู้สึกว่ามันก็ไม่ค่อยจะชอบน้องแชมป์สักเท่าไหร่”
“แต่เรื่องมันไม่ใช่แค่นั้นว่ะ ฝั่งน้องแนนเริ่มมีความเคลื่อนไหวแล้ว”
“ยังไงวะ”
“วันนี้น้องแนนเปิดตัวแฟนใหม่ พามากินข้าวถึงที่คณะเลยนะเว่ย ไม่ใช่ใครที่ไหนพี่ปอนด์รุ่นพี่ที่โรงเรียนเราไง”
ตอนแรกผมเองก็สงสัยเหมือนกันว่าทำไมน้องแนนถึงทิ้งคนอย่างริวไปได้ง่ายๆ เพราะริวมันหล่อถึงขั้นถึงเดือนมหาวิทยาลัย เรียนเก่งเป็นระดับต้นๆ ของตอนสมัยที่เรียนมัธยมด้วยกัน แถมบ้านมันยังรวยอีกต่างหาก แต่ถ้าแพทมันบอกว่าแฟนใหม่ของน้องแนนคือพี่ปอนด์แล้วล่ะก็ คู่นี้เรียกได้ว่ากินกันไม่ลงเลยล่ะครับ พี่ปอนด์เป็นรุ่นพี่ที่โรงเรียนของผมสมัยมัธยมปลาย ตอนนี้พี่ปอนด์เรียนวิศวะเคมีอยู่ปีสาม เป็นเดือนมหาวิทยาลัยด้วย ถ้าให้เทียบเรื่องความหล่อ ผมว่าสองคนนี้หล่อคนละแบบกัน ริวจะออกตี๋ๆ ส่วนพี่ปอนด์จะดูออกไปทางฝรั่งมากกว่า แต่ว่าผิวจะขาวเหมือนกัน ส่วนเรื่องเรียนก็เป็นตัวท็อปทั้งคู่ เรื่องความรวยก็ไม่แพ้กันเลย ผมไม่แปลกใจแล้วล่ะว่าทำไมน้องแนนถึงทิ้งริวมันไปได้ เพราะคนใหม่ของเธอก็ไม่ธรรมดาซะด้วย
“น้องแนนนี่ไม่ธรรมดาเลยว่ะ ได้เป็นแฟนกับเดือนมหาลัยไปสองคนแล้ว”
“แต่มึงคิดดูนะ ริวกับพี่ปอนด์มันก็รู้จักกัน ถ้าจะแย่งแฟนกันขนาดนี้กูว่าต้องมีเรื่องแน่ๆ”
“เออว่ะ จริงอย่างที่มึงบอก นี่พี่ปอนด์เขาไม่รู้เหรอวะว่าน้องแนนเป็นแฟนกับไอ้ริวอยู่แล้ว”
ผมเห็นด้วยกับที่แพทมันพูดครับ สองคนนี้ก็เป็นรุ่นพี่รุ่นน้องโรงเรียนเดียวกัน ถึงจะไม่ได้สนิทกันมากมายแต่ก็น่าจะรู้จักกันในระดับหนึ่ง แบบนี้มันจะไม่มีปัญหาได้ยังไง
“กูก็ไม่แน่ใจว่ะ เอาเป็นว่าถ้ามีความคืบหน้าอะไรกูจะรายงานมึงอีกทีนะครับ เรื่องของคนอื่นมึงไว้ใจกูได้เลย เออแล้วตอนนี้มึงอยู่ไหนเนี่ย”
“กูกำลังเดินกลับหอ ใกล้ถึงแล้วล่ะ”
ผมคุยกับแพทมันมาสักพักจนผมเดินใกล้จะถึงหอแล้วครับ
“เออ แล้วที่มึงบอกว่ามีเรื่องจะเล่าอีกนี่คือเรื่องอะไรวะ”
แพทถามผมถึงเรื่องที่ผมยังไม่ได้เล่าให้มันฟัง
“ที่น้องวิทย์เรียกกูไปวันนี้คือมันจะให้น้องเคนสัมภาษณ์กูส่งอาจารย์ว่ะ”
“อ๋อ วิชาการสื่อสารล่ะสินะ มึงนี่โชคดีจริงๆ คณะมีตั้งเยอะแยะทำไมไอ้น้องเคนมันต้องจับได้คณะวิศวะด้วยวะเนี่ย เออ แล้วมึงตอบตกลงมันไปหรือยัง”
“ก็ตกลงไปแล้ว จะปฏิเสธยังไงล่ะวะ”
“เออ ก็ดีแล้ว”
“อ้าว มึงจะไม่ห้ามกูสักหน่อยเหรอ”
ผมนึกแปลกใจที่แพทมันไม่ห้ามผมที่ผมจะไปให้น้องเคนสัมภาษณ์
“กูรู้ว่ามึงไม่น่าจะตัดใจจากน้องมันได้ง่ายๆ กูอาจจะคิดผิดเองก็ได้ว่าน้องเขาไม่มีทางชอบมึง เผื่อถ้าน้องเขาได้รู้จักมึงมากขึ้นเขาอาจจะชอบมึงก็ได้ จริงๆ เพื่อนกูหลายคนก็ได้แฟนจากการไปสัมภาษณ์วิชานี้นี่แหละ”
“นี่มึงจะให้กูแย่งแฟนคนอื่นเหรอวะ”
“ก็แล้วแต่มึง ถ้ามึงอยากจะแย่งกูก็คงไม่ห้ามมึงหรอก เพราะเรื่องร้าวฉานคืองานของกู”
พอแพทพูดเสร็จมันก็หัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง ผมไม่เข้าใจมันเหมือนกันว่าทำไมมันถึงเปลี่ยนอารมณ์ได้อย่างรวดเร็วขนาดนี้
“เออ พรุ่งนี้มึงจะมาว่ายน้ำกับกูมั้ย น้องวิทย์มันชวน”
“น้องมันชวนมึงมั้ย ไม่ได้ชวนกู แล้วมึงนี่ยังไงวะ ก็รู้อยู่ว่าไอ้น้องวิทย์นี่มันชอบมึง แล้วยังจะทำตัวเหมือนให้ความหวังมันอีก”
อย่างที่แพทมันพูดนั่นแหละครับว่าน้องวิทย์มันชอบผม น้องมันเคยบอกผมตั้งแต่ยังไม่รู้ว่าผมชอบเพื่อนมัน ตอนที่น้องมันมาสารภาพรักกับผม ผมก็อึ้งไปเลยครับ แต่ผมก็บอกความจริงน้องมันไปว่าผมน่ะชอบน้องเคนอยู่ หลังจากนั้นก็ดูเหมือนว่าน้องวิทย์จะช่วยผมจีบน้องเคนซะด้วยซ้ำ
“น้องมันก็รู้อยู่แล้วว่ากูชอบเพื่อนมัน กูว่าไม่เป็นไรหรอกมั้ง”
ผมบอกแพทไปตามที่ผมคิด ป่านนี้น้องวิทย์อาจจะเลิกชอบผมไปแล้วก็ได้
“กูว่ากูไปเป็นไม้กันหมาดีกว่าว่ะ กูไม่ไว้ใจไอ้เด็กนี่สักเท่าไหร่”
“สรุปนี่มึงกับน้องมันมีปัญหาอะไรกันแน่วะ ตอนแรกกูนึกว่ามึงจบกันไปแล้วซะอีก”
ผมล่ะสงสัยจริงๆ กับท่าทีของแพทที่มีต่อน้องวิทย์ แต่สิ่งที่ผมมั่นใจที่สุดคือแพทมันไม่ได้แอบชอบน้องวิทย์แน่นอนครับ เพราะน้องวิทย์นี่ไม่ใช่สเปกมันเลย แพทมันชอบผู้ชายตัวสูงๆ แต่น้องวิทย์ก็สูงแค่ 170 เซนติเมตรเท่านั้น คงจะออกแนวหมั่นไส้ซะมากกว่า
“มึงไม่ต้องรู้หรอก เอาเป็นว่ากูไม่ไว้ใจมัน”
“มึงไม่ต้องกลัวน้องมันมาปล้ำกูหรอกนะ กูว่ากูสู้แรงน้องมันได้”
ผมพูดเสร็จให้หัวเราะเบาๆ ใส่มันไป
“เออน่า เอาเป็นว่าพรุ่งนี้กูไปด้วย ห้าโมงเย็นเหมือนเดิมใช่มั้ย”
“ตกลงตามนั้น ห้าโมงเย็นเจอกันที่สระเลยนะ”
“เดี๋ยวกูไปอาบน้ำละ ไปก่อนนะ”
“บาย”
ทันทีที่พวกเราจบบทสนทนากันผมก็มาถึงห้องของผมพอดี ผมจัดการเตรียมอุปกรณ์สำหรับการว่ายน้ำในวันพรุ่งนี้ใส่ในกระเป๋าให้เรียบร้อย จากนั้นผมก็ไปอาบน้ำและเข้านอนตามปกติ
----------------------------------------
และวันอังคารก็มาถึง วันนี้ก็เป็นวันที่น่าเบื่ออีกวันหนึ่ง จริงๆ แล้วก็น่าเบื่อเกือบทุกวัน ยกเว้นวันเสาร์อาทิตย์นั่นแหละครับ เทอมนี้ผมเรียนเยอะมาก เรียนจนแทบจะไม่มีเวลาพักเลย จะมีก็แค่วันศุกร์ช่วงบ่ายที่ไม่มีเรียน แต่ถ้าที่คณะหรือภาควิชามีกิจกรรมอะไรก็เอามาใส่ไว้วันศุกร์ช่วงบ่ายตลอด สุดท้ายก็คือไม่ว่างเลยสักวันนั่นแหละครับ อย่างวันนี้ผมมีเรียนวิชาภาคสามวิชาตั้งแต่แปดโมงเช้าจนสี่โมงเย็น จะต่างจากวันจันทร์นิดหน่อยตรงที่วันนี้ทุกวิชาผมเรียนเซคเดียวกับมินครับ
“เย็นนี้มึงจะไปไหนวะ”
ผมกระซิบถามมิน ระหว่างที่นั่งเรียนวิชาช่วงบ่าย เป็นวิชาบรรยายที่น่าเบื่อมากๆ ครับ
“เดี๋ยวไปเล่นบาสกับไอ้ดิน แล้ววันนี้มึงจะไปไหนเนี่ย”
“ไปว่ายน้ำกับไอ้แพทน่ะ”
“มึงไม่ชวนกูเลย”
มินพูดกับผมพร้อมกับทำหน้าเศร้า
“แล้วกูจะชวนมึงทำไมล่ะ กูชวนมึงทีไรมึงก็บอกว่าไม่ไป”
ผมตอบมินพร้อมกับทำหน้าเอือมระอา ผมล่ะไม่เข้าใจมันเลย ถ้าชวนแล้วมันจะไปก็ว่าไปอย่าง แต่ผมชวนมันทีไรมันก็บอกว่าไม่ว่างบ้าง ไม่อยากว่ายบ้าง จนหลังๆ มาผมกับแพทก็ตกลงกันเลยว่าจะไม่ชวนมินมัน และที่ประหลาดคือทุกครั้งที่มินมันรู้ว่าพวกเราจะไปว่ายน้ำก็จะชอบทำหน้าเศร้าบอกว่าทำไมไม่ชวนมัน แต่พอถามว่าอยากไปด้วยเหรอมันก็บอกว่าไม่อยากไป อะไรของมันก็ไม่รู้ครับ
“เออ ก็บอกกูหน่อย เผื่อกูอยากไป”
มินตอบผมพร้อมกับทำหน้ากวนตีน
----------------------------------------
หลังจากผ่านการเรียนที่ยาวนานตลอดทั้งวัน ก็มาถึงช่วงเวลาที่ผมจะได้ผ่อนคลายเสียที ผมกับมินเดินไปที่ศูนย์กีฬาด้วยกัน เพียงแต่เรามีเป้าหมายกันคนละที่ คือมินมันจะไปที่สนามบาส ส่วนผมจะไปที่สระว่ายน้ำ
“มึงนัดไอ้แพทไว้กี่โมง”
มินหันมาถามผม ทันทีที่เดินมาถึงหน้าศูนย์กีฬา
“ห้าโมง”
ผมตอบมินพลางหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อดูเวลา ตอนนี้เพิ่งจะสี่โมงยี่สิบ
“ยังไม่สี่โมงครึ่งเลย มึงมาดูพวกกูเล่นบาสก่อนมั้ย”
มินเองก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อดูเวลาเช่นกัน ก่อนจะหันมาชวนผม
“เออ เอางั้นก็ได้”
----------------------------------------
ผมกับมินเดินขึ้นมาที่สนามบาสเกตบอลซึ่งอยู่ที่ชั้นสี่ของศูนย์กีฬา
“เฮ้ย โอมวันนี้มึงมาเล่นด้วยเหรอ”
ดินทักผมทันทีที่ผมเดินเข้าไปในสนามบาส มันคงแปลกใจที่เห็นผมที่นี่ เพราะถึงแม้ว่ามินมันจะมาเล่นบาสกับดินหลายครั้งแล้ว แต่ผมก็ไม่เคยมาที่นี่เลย
“เปล่า กูแค่มาดู เดี๋ยวกูไปว่ายน้ำต่อ”
ผมตอบดิน พร้อมกับหันไปดูโดยรอบสนาม ตอนนี้ยังมีคนไม่มากเท่าไหร่ แต่ที่สะดุดตาคือพี่ปอนด์ที่นั่งอยู่กับผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งผมเดาว่าน่าจะเป็นน้องแนนที่เคยเป็นแฟนกับริว แต่ตอนนี้กลายมาเป็นแฟนของพี่ปอนด์ซะแล้ว
“เออ เดี๋ยวกูแนะนำมึงให้รู้จักกับพวกเพื่อนกูหน่อย”
ดินบอกผมพร้อมกับพาผมกับมินเดินไปหากลุ่มเพื่อนของมันที่ตอนนี้นั่งอยู่ที่อัฒจันทร์
“เฮ้ย ทุกคนฟังทางนี้ นี่โอมเพื่อนกูเอง อยู่ปีสองภาคคอม”
ดินแนะนำผมให้เพื่อนๆ ของมันรู้จัก
“นี่ไอ้พูนเพื่อนกู อยู่ปีสามภาคโยธา ภาคเดียวกับกูแหละ คนนี้เรียนกับกูมาตั้งแต่มัธยม ไอ้นี่มันไม่ชอบอาบน้ำ กูเลยต้องอยู่ทีมเดียวกับมันตลอด ไม่อย่างนั้นตอนคลุกวงในกูต้องเป็นลมแน่ๆ”
ดินมันแนะนำตัวเพื่อนมันคนแรก คนนี้ผมคุ้นๆ หน้าอยู่เหมือนจะเคยเห็นเดินกับดินบ่อยๆ แค่คนแรกมันก็เรียกเสียงหัวเราะจากเพื่อนๆ ของมันทุกคนได้แล้ว จะมีก็แต่เพื่อนมันที่ชื่อพูนนี่แหละที่ทำหน้าโกรธแค้นมาก
“คนนี้ไอ้จุก อยู่ภาคเคมีปีสาม จริงๆ มันไม่ได้ชื่อจุกหรอก มันชื่อเป้ แต่พ่อมันชื่อจุก กูก็เลยเรียกมันว่าไอ้จุก”
ดินแนะนำเพื่อนมันคนต่อไป พร้อมกับเน้นคำว่าจุกทุกครั้งที่มันพูด
“อ้าว มึงไม่ได้ชื่อจุกเหรอวะ กูคิดว่ามึงชื่อจุกจริงๆ ซะอีก”
พี่พูนหันไปพูดกับพี่จุก เอ๋ หรือผมควรจะเรียกพี่เขาว่าพี่เป้ดี พอพี่พูนพูดจบทุกคนก็หัวเราะออกมา
“คู่นี้กูคงไม่ต้องแนะนำมั้ง มึงน่าจะรู้จักอยู่แล้ว”
ดินบอกผม ตอนที่มาถึงการแนะนำตัวของพี่ปอนด์กับน้องแนน
“ได้ไงวะ กูอยากรู้ว่ามึงจะแนะนำตัวกูยังไง”
พี่ปอนด์พูดกับดิน
“คนนี้ไอ้ปอนด์เดือนมหาลัยขี้เก๊ก เด็กวิศวะเคมี งานอดิเรกคือชอบแย่งแฟนชาวบ้าน”
ดินแนะนำตัวพี่ปอนด์แบบสุดยอด ผมไม่คิดว่ามันจะกล้าพูดขนาดนี้ ผมหันมองคนรอบข้างก็ได้แต่หัวเราะแหะๆ ผมไม่แน่ใจว่ามันเล่นมุกหรือว่าจะกัดพี่ปอนด์จริงๆ
“ก็น้องเขาชอบกูจะทำยังไงได้ล่ะวะ”
พี่ปอนด์พูดแล้วก็ยักไหล่ พร้อมกับโอบไหล่น้องแนน เรียกเสียงโห่จากทุกคนได้เป็นอย่างดี
“ส่วนนี้ก็น้องแนน ดาวคณะแพทย์ ว่าที่ดาวมหาลัย สวย หวาน น่ารัก ขี้เล่น เป็นกันเอง”
มาถึงน้องแนน ดินมันก็เปลี่ยนเสียงเป็นเสียงอ่อนเสียงหวาน พร้อมกับมองน้องแนนด้วยสายตาหยาดเยิ้ม ส่วนที่ดินมันบอกว่าน้องแนนเป็นว่าที่ดาวมหาวิทยาลัยก็เพราะว่าตอนนี้ยังไม่ถึงงานประกวดดาวเดือนเลยครับ แต่ว่าน้องแนนที่เป็นตัวเต็งของการแข่งขันคงจะไม่หลุดโผไปหรอกครับ
“ดินมึงใจเย็นนี่แฟนกู”
พี่ปอนด์หันมาพูดกับดิน
“เมื่อไหร่กูจะได้เล่นวะไอ้ดิน เสียเวลาชิบหาย”
เสียงใครสักคนพูดขึ้นมา เมื่อหันไปตามเสียงพูดนั้น ก็พบกับผู้ชายคนหนึ่งที่น่าจะเป็นรุ่นพี่ภาคคอมนี่แหละครับ คุ้นๆ ว่าเขาน่าจะชื่อกัน ฉายาของเขาคือไอ้ปากหมา เป็นฉายาที่พวกเพื่อนรุ่นผมตั้งให้ไอ้รุ่นพี่คนนี้ครับ เพราะว่ามันปากหมามาก มันมีเรื่องกับเพื่อนผมไปหลายคนแล้วครับ แต่พวกผู้หญิงจะชอบมันเพราะว่ามันหล่อ ขาว ตี๋ แบบที่สาวๆ เขานิยมกัน แต่เรื่องนิสัยนี่อย่าให้พูดเลยครับ
“ไอ้กันมึงใจเย็น เดี๋ยวก็ถึงคิวมึงแล้ว”
ดินมันหันไปบอกเพื่อนปากหมาของมัน
“ไอ้ดิน นี่กูมาเล่นบาสนะเว่ย ไม่ได้อยากจะมารู้จักเพื่อนใหม่ ไอ้สัส ถ้าเป็นผู้หญิงก็ว่าไปอย่าง”
พี่กันหันไปตอบดิน
“เออๆ มึงลงไปเล่นได้เลย เหลือแค่มึงกับไอ้แซนที่ยังไม่แนะนำตัว แต่เดี๋ยวน้องมันก็รู้จักพวกมึงเองแหละ”
ดินหันไปบอกพี่กัน ส่วนพี่แซนที่ดินมันพูดถึงก็เป็นรุ่นพี่ที่ภาคผมครับ ผมพอจะคุ้นหน้าอยู่
เนื่องจากวันนี้คนมาน้อย พวกนั้นเลยตกลงว่าจะเล่นสตรีทบาสกัน คือใช้แป้นบาสแค่ฝั่งเดียว และก็เล่นแค่ทีมละสามคน มีดิน มิน พี่พูน พี่จุก พี่ปอนด์ และก็พี่กัน ตอนนี้ผมก็นั่งดูอยู่กับพี่แซนและก็น้องแนน
“ตะกี้นี้อย่าไปถือสาไอ้กันมันเลยนะ มันก็เป็นอย่างนี้แหละ”
พี่แซนหันมาพูดกับผม
“ผมไม่ถือหรอกพี่ ผมรู้ว่าเขาก็เป็นอย่างนี้อยู่แล้ว เออ แล้วพี่ไม่เล่นเหรอวันนี้ เห็นพี่ใส่ชุดมาแล้ว”
ผมหันไปตอบพี่แซนที่ใส่ชุดบาสเต็มยศ แต่ดันไม่ยอมลงไปเล่นในสนามซะอย่างนั้น
“ถ้าพี่ลงก็ไม่ครบคู่สิ อีกอย่างวันนี้ก็รู้สึกขี้เกียจเล่นนิดนึงเลยมานั่งดูดีกว่า”
หลังจากที่ผมนั่งดูปสักพักก็พอจะสรุปได้ว่าคนที่เล่นเก่งที่สุดน่าจะเป็นมินนั่นแหละครับ ผมไม่ได้เข้าข้างเพื่อนผมหรอกนะ แต่ก็อย่างที่เห็นนั่นแหละครับ ส่วนอีกคนที่น่าจะสูสีก็คือพี่กัน ถึงผมจะไม่ค่อยชอบนิสัยรุ่นพี่คนนี้สักเท่าไหร่ แต่ก็ต้องยอมรับนั่นแหละครับว่าเวลาเล่นบาสมันดูมีเสน่ห์อย่างบอกไม่ถูก เล่นเอาคนที่หล่อกว่าอย่างพี่ปอนด์ดูหมองไปเลย
“เออ พี่ผมไปก่อนนะ นัดเพื่อนว่ายน้ำเอาไว้”
ผมมองนาฬิกาก็ใกล้จะห้าโมงแล้ว ผมจึงหันไปบอกลาพี่แซน ก่อนที่จะโบกมือให้น้องแนนอีกคน
“ไอ้ดิน ไอ้มินกูไปก่อนนะเว่ย”
ผมตะโกนบอกพวกมันสองคนที่กำลังเล่นอยู่ในสนาม ทั้งสองคนหันมามองผมพร้อมโบกมือลา
----------------------------------------
ผมค่อยๆ เดินลงจากชั้นสี่ของศูนย์กีฬาไปที่ชั้นสองเพื่อไปยังสระว่ายน้ำ สระว่ายน้ำของที่นี่จะอยู่ด้านข้างของอาคารศูนย์กีฬา ซึ่งการจะเข้าไปที่สระว่ายน้ำจะต้องเดินเข้าไปในศูนย์กีฬาก่อน แล้วเดินออกจากประตูด้านข้างของศูนย์กีฬาที่ชั้นสองเพื่อไปยังสระว่ายน้ำอีกทีหนึ่ง เมื่อเดินเข้าไปในส่วนของอาคารสระว่ายน้ำแล้วจะมาถึงเป็นห้องล็อกเกอร์ก่อน โดยห้องล็อกเกอร์จะแบ่งเป็นฝั่งผู้ชายและฝั่งผู้หญิง ซึ่งด้านในนั้นก็จะมีห้องอาบน้ำด้วย เมื่อผมเดินไปถึงห้องล็อกเกอร์แล้วก็จัดการเลือกล็อกเกอร์ที่ยังว่างอยู่และใส่กระเป๋าเข้าในตู้ พร้อมล็อกด้วยกุญแจที่เตรียมมา
“พี่วุฒิ”
ระหว่างที่ผมกำลังเดินไปที่ห้องอาบน้ำผมก็เจอกับคนที่ผมไม่ได้พบมานาน พี่วุฒิเคยเป็นครูฝึกสอนวิชาว่ายน้ำที่โรงเรียนของผมตอนที่ผมอยู่มอหก
“อ้าว โอม ไม่ได้เจอกันตั้งนาน หล่อขึ้นเยอะเลยนะเรา”
ตอนนี้พี่วุฒิอยู่ในชุดว่ายน้ำแล้ว ดูไปดูมาพี่วุฒิหุ่นดีกว่าสมัยก่อนเสียอีก หน้าตาก็ดูดีกว่าแต่ก่อน แถมยังไม่ได้ดูแก่ขึ้นกว่าเดิมเลยสักนิด
“พี่ก็พูดเกินไป เป็นยังไงบ้างพี่ ไม่เจอกันซะนานเลย”
“ก็สบายดี แล้วนี่เรามาว่ายคนเดียวหรือมากับเพื่อนเนี่ย”
“มากับเพื่อนครับพี่ แต่ผมยังไม่เจอเพื่อนเลย น่าจะเข้าไปว่ายแล้วมั้งพี่ แล้วพี่มาคนเดียวเหรอ”
“มาคนเดียวน่ะ เออ เดี๋ยวพี่เข้าไปก่อนนะ เราเข้าไปแต่งตัวเถอะ”
พี่วุฒิบอกผม แล้วก็เดินเข้าไปที่สระ
หลังจากนั้นผมก็เดินเข้าไปแต่งตัวในห้องอาบน้ำ จากนั้นก็เอาเสื้อผ้ามาเก็บที่ล็อกเกอร์ แล้วเข้าไปที่สระว่ายน้ำ วันนี้คนไม่เยอะมาก ผมพอจะมองเห็นอยู่ว่าน้องวิทย์กับแพทมันว่ายน้ำแข่งกันอยู่ แพทมันก็ตลกนะครับ ถึงจะบอกผมว่าไม่อยากให้ยุ่งกับน้องวิทย์ แต่มันก็มาว่ายน้ำแข่งกันซะเนี่ย และสุดท้ายก็เป็นน้องวิทย์ที่เข้าเส้นชัยไปก่อน
“แพท ทำไมมึงกากจังวะ สู้เด็กไม่ได้”
ผมเดินไปแซวแพท หลังจากที่มันมาถึงขอบสระที่เป็นเส้นชัยของมันแล้ว
“กูไม่ได้กากโว้ย กูแค่ออมมือให้เด็กมันนิดหน่อย”
แพทหันมาตอบผม แต่ดูท่าทางว่ามันจะไม่ได้ออมมือนะครับ เพราะดูเหมือนว่ามันจะเหนื่อยจนหอบเลยทีเดียว
“อ่อนซ้อมก็บอกมาเถอะครับ หอบอย่างกะมาว่ายเป็นสิบรอบ นี่เพิ่งรอบเดียวเองนะพี่”
น้องวิทย์หันไปแซวแพท ก่อนที่จะดันตัวขึ้นมายืนกับผม และสิ่งที่สะดุดตาผมที่สุดก็คือส่วนนั้นของน้องวิทย์ที่นูนออกมานี่แหละครับ ไม่รู้ว่าไปมีอารมณ์มาจากไหน ตลกดีครับ
“ทำไมเป้ามึงตุงจังวะไอ้วิทย์ นี่มึงเห็นเพื่อนกูแล้วมีอารมณ์เหรอ”
แพทมันหันไปแซวน้องวิทย์บ้าง
“ก็คงใช่ล่ะครับ”
น้องวิทย์พูดพร้อมกับทำหน้าเขิน ไม่รู้ว่าเขินจริงหรือว่าแกล้งเขินกันแน่ แต่มันก็ไม่เอามือไปปิดเป้าตัวเองนะครับ สงสัยว่าจะมั่นใจในขนาดของตัวเอง
“ทำไมวันนี้มึงมาช้าจังวะ”
แพทมันหันมาถามผมบ้าง
“กูไปดูไอ้มินเล่นบาสมา แล้วตะกี้นี้กูเจอพี่วุฒิด้วยเลยคุยกันแป๊บนึง”
ผมตอบแพทไป จากนั้นผมก็หย่อนตัวลงในสระ
“วุฒิไหนวะ”
แพทถามผม
“ก็พี่วุฒิที่สอนว่ายน้ำตอนมอหกไง”
สีหน้าของแพทเปลี่ยนไปทันทีหลังจากที่แพทได้ยินคำตอบจากผม
“มึงรู้มั้ยว่าเขาอยู่ไหน กูมีเรื่องจะคุยกับเขา”
พอแพทพูดเสร็จมันก็รีบดันตัวขึ้นมาจากสระทันที
“น่าจะอยู่ที่สระนี่แหละ มึงลองมองหาดูละกัน”
ผมตอบแพทไป แต่ดูเหมือนว่าแพทจะไม่ได้รอคำตอบของผม เพราะแพทนั้นเดินไปก่อนแล้ว ดูท่าทางว่ามันจะหาพี่วุฒิเจอแล้ว ผมหันมองไปมองน้องวิทย์ที่ทำหน้างงอยู่ จากนั้นผมกับน้องวิทย์ก็ว่ายน้ำด้วยกันสักพักใหญ่ ระหว่างนั้นผมก็พยายามมองหาแพทกับพี่วุฒิไปด้วย แต่ผมก็หาสองคนนั้นไม่เจอเลย
“พี่แพทเขาหายไปนานแล้วนะพี่ พี่ไปตามหน่อยมั้ย”
น้องวิทย์หันมาถามผม แต่ยังไม่ทันที่ผมจะตอบอะไร แพทก็มาอยู่ข้างๆ ผมแล้ว
“มึงไปไหนมาตั้งนานวะแพท”
ผมหันไปถามแพทที่ตอนนี้ลอยตัวอยู่ข้างๆ ผม
“ไม่มีอะไรหรอก แต่เดี๋ยวกูไปก่อนนะ กูมีธุระนิดหน่อย”
แพทหันมาบอกผมก่อนที่ขึ้นจากสระไป
“อะไรของมันวะเนี่ย”
ผมรำพึงกับตัวเอง
“อย่าไปสนใจเลยพี่ ว่ายน้ำกันต่อเถอะ”
น้องวิทย์บอกผม
----------------------------------------
หลังจากที่ผมว่ายน้ำกับน้องวิทย์อีกสักพัก น้องวิทย์ก็ขอกลับไปก่อน และดูเหมือนว่าคนจะเริ่มบางตาลง เพราะว่าฟ้าก็เริ่มมืดแล้ว ระหว่างที่ผมว่ายน้ำอยู่นั้นเองก็มีคนมาสะกิดที่เท้าของผมระหว่างที่ผมกำลังว่ายน้ำอยู่ เมื่อหันไปผมก็เจอกับพี่วุฒิ
“มีอะไรเหรอพี่”
ผมหยุดว่ายก่อนที่จะหันไปถามพี่วุฒิ
“คืนนี้ว่างมั้ยโอม”
พี่วุฒิถามผม
“ว่างนะพี่ จะชวนผมไปกินข้าวเหรอ”
ผมถามพี่วุฒิด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
“จริงๆ แล้วพี่อยากจะไปรำลึกความหลังกับเราน่ะ”
รำลึกความหลังอย่างนั้นเหรอ ผมพอจะเข้าใจแล้วล่ะว่าพี่วุฒิหมายถึงอะไร