คนฟังลุกขึ้นยืนแล้วก้าวยาวๆกลับไปที่รถโดยไม่บอกกล่าว ครู่เดียวก็กลับมาพร้อมเสื้อแจ็กเก๊ตหนังสีน้ำตาลที่ริวไม่ทันเห็นว่าเจ้าตัวหยิบติดมือมาด้วยตอนไหน เฮียยักษ์โปะเสื้อตัวใหญ่เหมือนเจ้าของลงบนไหล่ของเขา
“ใส่คลุมไว้ก่อน เดี๋ยวจับไข้”
“ขอบคุณครับ” ริวไม่รู้ว่ามันแปลกหรือเปล่าที่เจ้านายจะเอาเสื้อส่วนตัวมาให้ แต่เดาว่าคงเป็นเพราะเขาเป็นรุ่นน้องของอีกฝ่ายด้วยกระมัง ก็เลยได้รับการดูแลแบบพี่ชาย-น้องชายร่วมคณะฯ
อาหารมาเสิร์ฟพอดี ริวค่อยๆกระมิดกระเมี้ยนตักกินทีละอย่าง เขาแอบคายหอยจ้อปูทิ้งไปคำหนึ่งเพราะไม่ชอบกลิ่นน้ำมันผสมกับกลิ่นคาวปู หลังจากนั้นก็เลยไม่แตะจานจำพวกปูอีกเลย เน้นแต่ปลาทอดเท่านั้น
“เธอคงชอบกินปลา” ยักษ์ทักขึ้นหลังจากผ่านไปไม่นาน “กินปลาเขาว่าจะฉลาด”
“เฮียจะพูดว่าไม่จริงใช่มั้ยครับ” ริวรีบดักคอ
“เปล่านะ...เธอคิดไปเอง” คนฟังทำหน้าไม่เชื่อ “เธอนี่ยังไง เห็นฉันเป็นคนแบบไหน” ดวงตากลมๆที่ตวัดค้อนเขานั้นทำให้ยักษ์ยิ้มออกมาอีก “ไม่ลองกินปูเผาหน่อยเหรอ สดมากนะ เนื้อแน่นหวาน”
“ขอกินข้าวก่อนครับ” ริวอึกอัก “เฮียกินเลยครับ เดี๋ยวไม่อิ่ม”
“ฉันสั่งมาเผื่อเธอแล้ว กินเลยตามสบาย” คนพูดแทะเนื้อปูจิ้มน้ำจิ้มซีฟู้ดอย่างเอร็ดอร่อย ท่าทางเฮียยักษ์คงจะชอบกินปูมากๆจริงๆนั่นแหละ เศษซากอารยธรรมเปลือกปูกองโตเป็นพยานได้
“ขี้เกียจแกะล่ะสิ ฉันแกะให้” ปลายนิ้วเรียวยาวที่มีเล็บตัดสั้นนั้นแกะเนื้อปูออกมาอย่างคล่องแคล่ว ดูมืออาชีพมากราวกับชาติก่อนแกะเนื้อปูชั่งกิโลขาย...ริวค่อนขอดอยู่ในใจ มองเนื้อปูในจานแล้วอยากจะร้องไห้
“พอแล้วครับ ผมเริ่มอิ่มแล้ว เดี๋ยวกินไม่หมด”
“อิ่มอะไร กินไปนิดเดียว....หรือว่ารังเกียจขี้มือฉัน” คิ้วเข้มๆนั้นขมวดฉับ
“ไม่ใช่ครับ ...คือ ผมไม่ค่อยชอบทานปู” ลาภินจำต้องสารภาพออกไปในที่สุด เกรงใจอีกฝ่ายก็เกรงใจ แต่จะให้ฝืนกินเข้าไป เขาก็เสียดายของ
“อ้าว...แล้วทำไมไม่บอก” เฮียยักษ์พูดเสียงดัง แล้วคว้าจานตรงหน้าเขาไปดื้อๆ ริวมองตาค้างเมื่อเห็นอีกฝ่ายกวาดเนื้อปูในจานที่แกะให้เขาใส่จานตัวเองหน้าตาเฉย “ก็ดีสิ งั้นฉันจะได้กินให้หมด”
“.............”
เฮียยักษ์ดีดนิ้วเรียกพนักงานเดินมาหา รับเมนูมายื่นส่งให้ลาภินรับไว้
“เลือกมา ให้อีกสองเมนู อะไรก็ได้ที่เธอจะกินหมด”
“ขอเมนูเดียวได้มั้ยครับ”
“สั่งไปเลย” ยักษ์ตอบ มีปูเต็มปาก ท่าทางไม่สนใจอะไรอีกจนริวรู้สึกโล่งใจ เขากวาดตามองเมนูอาหารแล้วเลือกปลาหมึกผัดไข่เค็มมาทานเพิ่ม
“ไข่เค็มอีกแล้ว” อีกฝ่ายเคาะ
“จะทานด้วยกันมั้ยครับ”
“ไม่ล่ะ เมื่อเช้าก็เกินพอแล้ว” เฮียยักษ์ทำท่าเหม็นเบื่อได้ตลกมากจนเขาหัวเราะออกมา “มีความสุขล่ะสิ สั่งอาหารที่เราแย่งกินไม่ได้”
“เปล่านะ...” ริวปฏิเสธ “ว่าแต่ทำไมเฮียถึงไม่ชอบไข่เค็มล่ะครับ”
“แล้วทำไมเธอไม่ชอบปูล่ะ”
“ผมถามก่อน”
“แต่ฉันอยากได้คำตอบก่อน” พออีกฝ่ายเริ่มเม้มปาก ยักษ์ก็รีบเสริม “ไหนบอกว่าจะไม่ขัดใจไง นี่เริ่มอารมณ์เสียแล้วนะเนี่ย” เขาใช้ความรู้สึกผิดของริวขึ้นมาขู่
“ก็ได้...ผมไม่ชอบเพราะมันคาวๆอ่ะ”
“ฉันก็ไม่ชอบไข่เค็มเพราะมันมีกลิ่นแปลกๆ บอกไม่ถูก” ปลาหมึกผัดไข่เค็มถูกยกมาเสิร์ฟพอดี ยักษ์เลื่อนไปไว้ตรงหน้าอีกฝ่าย แถมยังเลื่อนจานปลาทอดมาวางข้างๆให้ตักง่ายๆด้วย “ทีนี้ก็เติมข้าวได้แล้วสิ”
ริวพยักหน้า รับโถข้าวมาตักข้าวสวยเพิ่ม
เวลาผ่านไปพร้อมอาหารที่หายลงท้องทั้งสองคน ริวเลิกแปลกใจกับความจุของกระเพาะของอีกฝ่ายแล้ว เดาว่าคงเป็นชูชกมาเกิดล่ะมั้ง
“เดินย่อยกันเถอะ” ยักษ์หันมาพูด หลังจากรับบัตรเครดิตมาเก็บใส่กระเป๋าสตางค์ ริวเห็นด้วย เขาอิ่มจนเหมือนพุงจะแตก กินเยอะกว่าทั้งอาทิตย์อีกมั้ง
ชายหนุ่มถอดรองเท้าฝากร้านเอาไว้ เดินเท้าเปล่าเหยียบเม็ดทรายนิ่มๆอุ่นๆเคียงข้างร่างสูงใหญ่ที่เดินช้าราวกับเดินจงกรมเล่น ความรู้สึกเจ็บตึงที่ข้อเท้าดีขึ้นแทบไม่รู้สึก ในมือของริวถือปลาทอดที่เหลือครึ่งตัวที่ร้านใส่กล่องแพ็คกลับบ้านให้เรียบร้อยไปด้วย แม้ว่ายักษ์จะท้วงแล้วว่าสั่งทอดใหม่ก็ได้ ทว่าริวก็ยังยืนยันจะเอาของที่เหลือกลับไป
“เอาอะไรเพิ่มอีกมั้ย เค้าจะอิ่มหรือเปล่า”
“แค่นี้พอแล้วครับ กินไม่เยอะหรอก เค้าชอบกินปลาเป็นพิเศษ” ริวตอบ
“ดีเนอะ ที่บ้านเธออยู่กันกี่คน”
“สองครับ ผมกับเค้า” ริวตอบเรียบๆ หยุดยืนให้น้ำทะเลซัดขึ้นมาถูกปลายเท้าเล่น แต่ไม่ยอมเดินลงไปลึกกว่านั้น ระวังไม่ให้ผ้ายืดที่พันเท้าเอาไว้เปียก “ในชีวิตผม นอกจากเพื่อนสนิทอีกสองคน ก็มีแค่เค้าแหละครับ” ริวป้องหน้ามองไปยังประกายระยิบระยับของแสงแดดที่สะท้อนกลับเกลียวคลื่น “เฮียล่ะครับ ที่บ้านอยู่กี่คน”
“สาม มีฉันกับแม่แล้วก็น้า..” เฮียยักษ์ก้มลงไปพับขากางเกงขึ้นมาถึงเข่า “แม่ฉันแก่แล้ว โชคดีมีน้ามาอยู่ด้วยเลยช่วยดูแลได้”
“พี่นิดก็เป็นญาติของเฮียหรอครับ”
“อืม เป็นญาติห่างๆ” ยักษ์ก้มลงดูอีกฝ่ายย่อตัวลงไปเก็บเปลือกหอยมาดูเล่น “ใครบอกเหรอว่าพี่นิดเป็นญาติฉัน”
“พี่นกครับ” ริวตอบ “เห็นพี่โอมบอกว่าเฮียไม่ใช่เจ้าของบริษัท ตอนแรกผมนึกว่าเฮียเป็นเจ้าของเสียอีก”
“อ๋อ...ไม่ใช่หรอก ไม่ใช่ชื่อฉัน” ยักษ์ตอบยิ้มๆ รับเปลือกหอยที่อีกฝ่ายส่งให้ไปพิศดูลวดลายของมันเล่น “ทำไมเธอถึงอยากรู้ล่ะว่าใครเป็นเจ้าของ”
“ผมก็แค่อยากรู้ว่าทำงานให้ใครอยู่”
“ฉันก็เป็นหัวหน้าของเธอไง จะเรียกว่าเจ้านายก็ได้ เธอทำงานให้ฉัน....แค่นี้ก็พอแล้ว” ท่าทางรุ่นพี่ไม่อยากพูดอะไรอีก ริวเลยหยุดคำถามเอาไว้เพียงแค่นั้น ทั้งที่ใจอยากถามถึงเรื่องอีกฝ่ายมากกว่านี้แท้ๆ
พวกเขาเดินย้อนกลับไปเอารองเท้าที่ฝากเอาไว้ที่ร้านอาหาร เฮียยักษ์ขับรถพาเขาไปที่สะพานปลา ริวไม่เคยมาที่นี่มาก่อน ก็เลยตื่นตาตื่นใจมากกับอาหารทะเลสดมากมายหลายชนิดที่วางเรียงเอาไว้เป็นพรืดตลอดแนวถนนสายเล็กๆแคบๆที่คับคั่งไปด้วยนักท่องเที่ยวและชาวบ้านที่มาเลือกซื้อของสด
“อยากซื้ออะไรก็ซื้อเลย เดี๋ยวใส่กล่องโฟม โปะน้ำแข็งกลับไปได้” เฮียยักษ์ที่ดูสนุกสนานเป็นพิเศษหันมาบอก มือก็ชี้เลือกกุ้งหอยปูปลาตรงหน้าใส่ถุงอย่างเพลิดเพลิน “หอยนางรมหน่อยมั้ย กินเป็นหรือเปล่า”
“ไม่เอาครับ เฮียซื้อเถอะ” ริวถอยมายืนหลบคนอยู่ที่หน้าร้านขายข้าวหลาม ขนมจาก เพราะไม่อยากขัดคอขาช้อปที่กำลังต่อราคากุ้งแห้งกับแม่ค้าอย่างดุเดือดอยู่ใกล้ๆ ...เห็นแล้วไม่เข้ากับหุ่นของเฮียเอาเสียเลย เขาได้แต่คิดในใจ หันไปขอบคุณแม่ค้าใจดีแบ่งข้าวหลามให้เขาชิม สุดท้ายริวก็เลยต้องซื้อมาสี่ลำด้วยความเกรงใจ พอยักษ์เดินกลับมาพร้อมกับกล่องโฟมใบใหญ่ในอ้อมกอด ริวก็เลยรีบแบ่งข้าวหลามให้ฝ่ายนั้นไปสองลำ
“ร้านนี้ไม่มาตรฐานเลยนะ” เฮียยักษ์พูดขึ้นลอยๆ ตอนที่เดินหิ้วของไปไว้ที่รถ พอเขาหันไปมองงงๆ อีกฝ่ายก็พูดต่อด้วยรอยยิ้มขัน “ข้าวหลามของฉันลำใหญ่กว่าของเธอเยอะเลย”
ริวเหลือบมองข้าวหลามในถุงของตัวเอง แล้วก็หันไปมองของอีกฝ่ายบ้าง...ก็เท่ากันนี่หว่า คิดแวบหนึ่งก็ตวัดสายตามองคนพูดอย่างฉุนๆ
“อย่ามั่นใจนักเลย ลำใหญ่แต่ข้าวข้างในอาจจะเม็ดเล็กก็ได้”
“นั่นสิ” ยักษ์รับคำ “แบบนี้ต้องพิสูจน์” ชายหนุ่มพูดต่อมาอย่างขึงขัง “งั้นเราไปหาที่พิสูจน์กันหน่อยดีมั้ย”
“พิสูจน์อะไรของเฮีย” ริวร้องขึ้น รู้สึกหน้าร้อนๆชอบกล สงสัยแดดริมทะเลคงจะแรงกว่าแดดในเมืองหลายเท่า
“ก็หาที่นั่งกินข้าวหลามไง เดินจนเมื่อยขา ขอพักหน่อยค่อยกลับ” ยักษ์ตอบกลับมา “คิดเรื่องอะไรเหรอ”
ริวมองคนตัวใหญ่ที่ประคองกล่องโฟมใส่เอาไว้ท้ายรถอย่างทะนุถนอมนั้นด้วยความรู้สึกทั้งฉุนทั้งขำ รู้สึกหมั่นไส้สีหน้าเหรอหราเหมือนไม่รู้เรื่องของอีกฝ่ายจนอยากยื่นมืออกไปหยิกให้เนื้อหลุด แต่สติก็บอกว่าเขาไม่ควรจะทำแบบนั้นกับคนที่เป็นทั้งรุ่นพี่และเจ้านาย
พอเก็บของเสร็จ เฮียยักษ์ก็พาเขาเดินเลียบหาดไปยังอีกด้านหนึ่ง พอริวเห็นป้ายบอกว่าจุดชมพระอาทิตย์ตก เขาก็เข้าใจ ไต่ขึ้นไปตามโขดหินจนมาถึงตำแหน่งเหมาะๆ ถัดลงไปมีชายหญิงหลายคู่นั่งจับจองที่กันอยู่ก่อนแล้ว เฮียยักษ์คอยหันมาถามตลอดเวลาว่าเดินไหวมั้ย เขาก็ตอบกลับไปด้วยประโยคเดิมๆว่าไหว
อยากรู้เหมือนกันว่าถ้าบอกไม่ไหว อีกฝ่ายจะทำยังไง
“ฉันเคยมานั่งดูพระอาทิตย์ตกที่นี่ครั้งเดียวเอง”
เฮียยักษ์พูดขึ้นหลังจากที่พอขึ้นมาถึงก็นั่งกอดเข่าเงียบอยู่นานจนริวนึกว่าหลับไปแล้ว
“ผมไม่เคยมาเลย” เขาตอบกลับไป พิศดูแสงสีส้มจากดวงอาทิตย์ดวงโตที่กำลังจะลอยลับหายไปในผืนน้ำ รู้สึกได้ถึงความรู้สึกเหงาๆแกมเศร้าแปลกๆที่แผ่ซ่านออกมาจากเนื้อตัวของคนตัวใหญ่ข้างๆ
แต่ริวก็ไม่ได้ถาม
และอีกฝ่ายก็ไม่ได้เล่า
พระอาทิตย์แตะผิวน้ำแล้วค่อยๆจมหาย ลาภินทอดสายตามองนิ่ง มันสวยมากจนแทบลืมหายใจ เขาไม่เคยได้มีโอกาสมาเห็นอะไรแบบนี้มาก่อนเลย ตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมาเขาเอาแต่ก้มหน้าก้มตาทำงานหาเงินเรียนหนังสือ กว่าจะรู้สึกตัว ก็พบว่าทำสิ่งที่เรียกว่าความสุขในชีวิตหล่นหายไปตอนไหนแล้วก็ไม่รู้
“.................” เขาสะดุ้งเมื่อจู่ๆคนที่นั่งกอดเข่าอยู่ข้างๆก็ล้มตัวลงมานอนพาดศีรษะลงกับตักของเขาเสียอย่างนั้น “เฮียยักษ์?” เอื้อมมือไปเขย่าไหล่หนาของอีกฝ่ายเบาๆ ทว่าฝ่ายนั้นกลับหลับตานิ่ง
“ขอพักสายตาหน่อย เดี๋ยวขับกลับไม่ไหว” เสียงห้าวๆนั้นพึมพำ
“แต่ว่า”
“ชู่ว” เสียงชู่วที่พ่นออกมาจากริมฝีปากนั้นกลับทำให้ริวเงียบลงไป เขานั่งมองใบหน้าคมเข้มที่ถือวิสาสะใช้ตักของเขาแทนหมอนด้วยความรู้สึกบอกไม่ถูก
ใจหนึ่งก็อยากจะลุกขึ้น ดันศีรษะหนักๆของอีกฝ่ายออกไป แต่อีกใจหนึ่งก็รู้สึกสงสาร....เฮียคงเหนื่อยมากวันนี้ ไหนจะต้องขับรถกลับอีก แถมเขายังทำเอกสารสำคัญทั้งแฟ้มสูญไปอีก
แค่ครู่เดียว...คงไม่เป็นอะไรหรอกมั้ง
.....................................................................................
มาอัพต่อจร้าาา ช่วงนี้คึกเนอะ555555 อยากไปทะเลมากอ่ะ ที่อยู่ตอนนี้มีเเต่ภูเขา แงๆ
เรื่องนี้มันก็จะหวานๆหน่อยนะ แต่พวกหวานก่อนมักจะขมตอนหลัง เอ๊ะ ล้อเล่นนน5555
เจอกันตอนหน้าเด้อ บอกเลยว่าไม่มีใครเดาเรื่องถูกหรอก ยากมากก เรื่องนี้พล็อตซับซ้อนกว่าแอบลักษณ์เยอะ หุๆๆ (เว่อแปบบ)
ใครตามเรื่องนี้ ชอบเรื่องนี้เเสดงตัวด้วย
ใครเล่นทวิต
#แอบยักษ์ นะคะ
ฝากเพจด้วยคร่าา
Melenelike 