First Love Engineering รักแรกนายวิศวะ (ตอนที่ 10) 18/07/17
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: First Love Engineering รักแรกนายวิศวะ (ตอนที่ 10) 18/07/17  (อ่าน 4590 ครั้ง)

ออฟไลน์ Kratin

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 18
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
รักแรกนายวิศวะ #1


ผมชื่อต้นน้ำ เรียนอยู่ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งใน กทม. อีกไม่กี่อาทิตย์ผมก็จะเรียนจบ ม.ปลายแล้ว ช่วงนี้ผมก็วิ่งวุ่นสอบเข้ามหาลัยต่างๆ จนไม่มีเวลาสนใจเรื่องอื่นหรอก แม้กระทั้งเรื่องแฟนก็ตามพูดแล้วก็หน้าเศร้าผมเพิ่งเลิกกับแฟนเมื่อประมาณอาทิตย์ก่อนหลังจากนั้นผมก็ปฏิญาณกับตัวเองไว้ว่า ต่อไปนี้กูจะไม่มีแฟนแล้วโว้ยยย!! เพราะมีไปก็ช้ำใจซะเปล่าไม่มีมันซะเลยง่ายดี ตอนนี้ผมก็เลยสนใจแต่เรื่องเรียนให้จบและไปอยู่มหาลัยดีๆ แต่ความพังพินาศก็ได้บังเกิดขึ้น มหาลัยที่ผมเลือกจะไปสอบนั้นคะแนนผมดันไม่ถึงเกณฑ์ที่เค้ารับ ทำไงละผมก็ต้องเลือกมหาลัยอันดับที่สองที่ผมเลือกไว้ ถึงคณะที่ผมเลือกไปจะเป็นนิเทศศาสตร์หมดเลย แต่ผมก็อยากเรียนที่แรกมากกว่าเพราะมีพี่คนหนึ่งแนะนำว่า สังคมดี มหาลัยโอเค พูดมาซะขนาดนี้ใครจะไม่อยากไปเรียนบ้างละครับ แต่ไม่เป็นไรผมว่ามหาลัยอันดับที่สองที่ผมเลือกมันก็ไม่ได้แย่ซักเท่าไหร่หรอกมั้งนะ ฮ่าๆๆ จากนั้นอีกไม่กี่วันมีเบอร์โทรศัพท์แปลกปลอมโทรเข้ามายังเบอร์ผม ผมลังแลอยู่นานกว่าจะรับเพราะส่วนใหญ่แล้วถ้าเบอร์แปลกๆ ผมจะไม่ค่อยรับสายเพราะกลัวจะเป็น “สวัสดีคะ คุณได้สิทธิพิเศษดูดวงฟรี สำหรับลูกค้า..”แต่สุดท้ายแล้วผมก็ต้องรับเบอร์แปลกนั้นเผื่อเป็นทางมหาลัยโทรมาให้ไปรายงานตัว

“สวัสดีครับ?”
“สวัสดีค่ะ คุณ ต้นน้ำ พัชญา ใช่ไหมคะ?”
”ใช่ครับ เอ่อคือมีเรื่องอะไรหรือเปล่าครับ?”


ทางมหาลัยโทรมาแน่นอนรู้ชื่อเต็มขนาดนี้


“ค่ะ คุณได้รับสิทธิพิเศษเสียงเพลงรอสายฟรีเป็นเวลาเจ็ดวันนะคะ หลังจากนั้นถ้าต้องการยกเลิกบริการสามารถกดยกเลิกได้ตามความต้องการ หรือจะใช้บริการต่อก็ได้ค่ะ ยินดีรับสิทธิพิเศษไหมคะ?”


อื้ม!! ตามนั้นกูว่าแล้วต้องเป็นแบบนี้ ไม่หน้าหลงดีใจเลยกู


“ไม่เป็นไรครับ พอดีผมไม่ค่อยชอบเพลงรอสายครับ!!”
“ค่ะ งั้นไม่เป็นไรค่ะขอบคุณนะค่ะ”


แล้วนางก็ว่างสายหนีหายไปเลย อีกไม่กี่นาทีโทรศัพท์ผมก็ดังขึ้นมาอีกยังไม่จบใช่ไหมรอบนี้กูจะด่าละนะ!!


“สวัสดีครับ!! สิทธิพิเศษอะไรผมไม่เอานะครับ แล้วก็ช่วยเอาชื่อผมออกไปจากลิสรายชื่อของคุณเลย ผมขอสละสิทธิ โอเคไหมครับแล้วก็ไม่ต้องโทรมาหาผมอีกนะ ผมรำคาน!!”
“เอ่อ...จะสระสิทธิจริงๆ หรอคะ? งั้นเราจะได้ตัดชื่อคุณออกวันไปรายงานตัว”


หือออ? รายงานตัว เฮ้ย!!”


“ขอโทษนะครับ เมื่อกี้บอกว่ารายงานตัวใช่ไหมครับ พี่โทรมาจากมหาลัยใช่ไหมครับ”
“ใช่ค่ะ สรุปน้อง ต้นน้ำ พิชญา สระสิทธินะคะ พี่จะได้ตัดชื่อออก”
“เดียวครับพี่ เมื่อกี้ผมคิดว่าพี่เป็นคอลล์เซ็นเตอร์โทรมาครับ ผมไม่สระสิทธินะครับ”


เกือบไม่ได้เรียนแล้วกู!!


“สรุปไม่สระสิทธินะคะ งั้นวันรายงานตัวของน้องคือ วันที่ 10 มกราคม 9 โมงเช้าอย่าสายนะคะ”
“ครับ ขอบคุณนะครับ”


แล้วอยู่ดีๆ นางก็วางสายไปสงสัยเมื่อกี้คงจะโมโหที่ไปตะโคกใส่นาง
แล้ววันที่สิบผมก็ไปรายงานตัวกับทางมหาลัย ด้วยความที่เคยเข้ามามหาลัยตอนสอบนู้นก็ไม่ได้ทันสังเกตุอะไรกับเค้าหรอกเพราะผมรีบกลัวจะสายเอา พอรอบนี้ได้เข้ามาผมก็เลยเดินดูรอบๆ ไปทั่วมันหน้าตื่นเต้นนะครับเพราะความฝันตอนเด็ก ของใครหลายๆ คนก็อยากเข้ามาหลาย เพราะอะไรหรอ อยากผมยาว อยากหล่ออยากสวยกัน แล้วผมก็คงเป็นหนึ่งในพวกเค้าเหล่านั้นด้วย ฮ่าๆๆ ขณะที่ผมกำลังตกตรึงกับมหาลัยใหม่อยู่ด้วยความที่เดินแล้วไม่ได้ดูตาม้าตาเรืออะไรเลย...ผมก็ชนเข้ากับเสาตึกเข้าให้ บอกเลยว่าอายชิบหายมีแต่คนมอง แล้วอมยิ้มหัวเราะ แต่ก็ดันมีมือคู่หนึ่งยื่นมาข้างหน้าผม ตอนนั้นผมก็งงๆ อยู่หลังจากชนเสาเข้าไปอย่างเต็มแรง แต่ผมก็เลือกที่จะจับมือของใครที่ไหนก็ไม่รู้เพื่อจะรีบพยุงตัวออกไปจากตรงนี้ให้เร็วที่สุด


“เฮ้ย!! มึงเป็นไรมากป่ะเนี้ย?”


ผมก็ค่อยๆ เงยหน้ามองคนที่ช่วยพยุงผมขึ้นมาอย่างตกใจ ว่าเชี่ยคนหรือเปรตตัวแม่งสูงชิบหายผมว่าผมสูงแล้วนะ แม่งสูงกว่าผมอีกประมาณสิบเซ็นเลย


“เหี้ย!! เอ่อ...ไม่เป็นไรขอบใจมาก”


ด้วยความที่ผมตกใจเลยเผลอด่าไป เพราะคนอะไรแม่งกูนึกว่าหลุดออกมาจากในนิยาย ผิวสองสี ผมดำพอกระทบกับแสงแดดแล้วผมมีประกายน้ำตาลหน่อยๆ ตาสีน้ำตาลอ่อน เรียกได้ว่าเจอมันไปผมนี่ตายไปเลย


“อ้าว ไอ้สัตว์เผือกนี่กูอุส่ามีน้ำใจช่วยพยุงมึง พอขึ้นมามึงก็ด่ากูเหี้ยเลยคือไรวะ”

ด่ากูเผือกอีกเออกูขาวแล้วจะทำไม แต่เราแม่งก็ผิดจริงแหละดันไปว่ามันก่อน


“เออ!! ก็ไม่ได้ตั้งใจจะว่าป่ะวะ? ก็ไม่คิดว่ามหาลัยจะมีคนหน้าตาดีขนาดอยู่นิหว่า”
“นี่...มึงชมว่ากูหล่อหรอ? แต่ก็นะใครๆ ก็ชมว่ากูหล่อกันทั้งนั้นแหละ”


คนบ้าอะไรชมตัวเองก็ได้ด้วย


“เฮ้อออ เออเรื่องเมื่อกี้ขอบคุณที่ช่วย แล้วก็ขอโทษด้วยที่ว่าไปเมื่อกี้ งั้นไปก่อนนะรีบอยู่”
“เดียว!! มึงจะรีบไปไหน” มือคู่หนึ่งก็คว้าแขนผมไว้
“เฮ้ย!! ไรเนี้ยก็บอกว่ารีบ ไม่เข้าใจภาษาคนหรอไง”
“เออรู้ว่ารีบ แต่...ดูจากชุดมึงแล้ว มึงมารายงานตัวอะดิ”


เชี่ยยย มันมีตาวิเศษป่ะวะรู้ได้ไงว่ามารายงานตัว


“เออออ แล้วมึงรู้ได้ไงว่ากูมารายงานตัว?”
“มึงดูนู้นนะ”


มันก็เอามือชี้ไปทางกลุ่มเด็กที่ใส่ชุดนักศึกษาเหมือนผมกำลังทยอยกันขึ้นตึก


“เออ!! รู้แล้วก็รีบปล่อยดิว่ะเดียวไปรายงานตัวไม่ทัน”


กูรีบโว้ยยยยย ปล่อยกูซักที


“กูยอมปล่อยก็ได้ แต่มึงต้องบอกชื่อมึงมาก่อน”


มึงจะอะไรกับกูนักหนาเนี้ย


“ต้นน้ำ เรียนกูน้ำเฉยๆ ก็ได้ ทีนี้มึงจะปล่อยกูได้ยัง”
“กูชื่ออิฐ”


กูไม่ได้อยากรู้ชื่อมึงไหมละ ตอนเนี้ยกูอยากรู้มากกว่าว่าชื่อกูอะ โดนตัดไปหรือยังที่ไปสายเนี้ย


“ปล่อยกูเถอะ กูไหว้ล่ะ”


ผมหันไปหามันแล้วทำท่าจะยกมือไหว้ มันก็ปล่อยผมออกจากมือคู่นั้นของมัน พอผมหลุดออกมาได้ผม
ก็รีบวิ่งสุดชีวิตเพราะกลัวจะไปรายงานตัวไม่ทัน แต่ผมก็ยังกลับหลังหันไปมองมันแล้วสิ่งที่ผมเห็นคือมันกำลังยิ้มให้ แล้วทำตาหยีๆ พร้อมกับโบกมือให้ผมนี่มึงรู้จักกูหรอไงถึงมาโบกไม้โบกมือให้ แต่ก็ชั่งมันเถอะผมคงเจอมันแค่ครั้งเดียวแหละถึงจะอยู่มหาลัยเดียวกันแต่มหาลัยมันก็กว้างคงเจอกันยาก หลังจากนั้นผมก็หันกลับมารีบขึ้นไปบนตึกดูในใบว่าเข้ารายงานตัวห้องไหน สุดท้ายผมก็มาถึงที่ห้องด้วยเหงื่อที่เต็มตัวเพราะกว่าจะวิ่งหาห้องเจอเรียกว่ารอบตึกเลยทีเดียวฮ่าๆ ดีนะยังทันอยู่แต่ผมก็ต้องนั่งที่หน้าๆ เพราะส่วนใหญ่มีแต่คนนั่งข้างหลังกันหมดข้างหน้าเลยมีที่เยอะพอสมควร แล้วไอ้พวกที่นั่งข้างหลังนี่มึงกลัวอะไรกันถึงไปนั่งข้างหลังกันหมดกูไม่เข้าใจ ผมก็เลยต้องนั่งลงตรงเก้าอี๋ซ้ายมือติดกับทางออกเพราะเวลาออกผมจะได้ออกง่ายๆ ไม่อยาก
เบียดกันออก

 
“อ้าว!! ไอ้ต้นน้ำ”


มีเสียงดังขึ้นจากข้างขวาของผม ทำไมเสียงมันคุ้นๆ จังวะ?


“เฮ้ย!! ไอ้เชี่ยซี”


ไม่หน้าเชื่อว่าไอ้คนที่นั่งข้างๆ ผมจะเป็นไอ้ซีเพื่อนต่างห้องที่เรียนอยู่ที่เดียวกัน แต่เอาจริงผมก็ไม่ได้สนิทกับมันซักเท่าไหร่หรอก แต่ที่รู้จักมันได้เพราะสาวๆ ที่ห้องผมก็ต่างพูดถึงความหล่อของมันจนทำให้ผมคิดว่า ตอนเรียนพวกมึงตั้งใจเรียนเหมือนพูดเรื่องผู้ชายไหมเนี้ย มีความอิจฉานิดหน่อย ฮ่าๆ


“มึงสอบติดที่นี้หรอวะ ไอ้ต้นน้ำ”


ไม่ติดกูจะมานั่งตรงนี้ไหมถามอะไรแปลกๆ


“เออดิวะ ว่าแต่มึงสอบติดคณะอะไรเนี้ยไอ้ซี”
“กูติดนิเทศศาสตร์ว่ะมึง”


เอ้าคณะเดียวกันเฉย ทำไมตอนเรามาสอบไม่เห็นมันวะ


“จริงดิ!! กูก็นิเทศดีเลยกูจะได้มีเพื่อน นี่กูมายังไม่รู้จักใครซักคนเลยเนี้ย”
“เหมือนกูเลย ดีนะที่มึงติดที่นี้ไม่งั้นกูไม่มีเพื่อนแน่เลย”
“เอ้า ทำไมวะมึงก็หาเพื่อนใหม่ดิวะไม่เห็นยากเลย”
“กูเป็นพวกประเภทที่เข้ากับคนยากว่ะมึง”


เดียวนะหน้าอย่างมึงเข้ากับคนยาก กูเห็นมีแต่คนอยากจะเข้ากับมึงทั้งนั้น ดูพวกผู้
หญิงที่มองมึง ตานี้ลุกประกายเป็นแมวเลยคือถ้าเค้าสิงมึงได้กูว่าเค้าคงสิงมึงนานไปแล้ว


“มึงเนี้ยนะเข้ากับคนยาก? กูก็เห็นมึงดูเฟรนลี้ดีออก แล้วจะหาเพื่อนยากอย่างไงวะ?”
“มึงก็ดูดิพวกผู้หญิงที่นั่งข้างหลัง มองกูอยากกับจะกิน ส่วนพวกผู้ชายก็ทำหน้าหมั่นไส้กู แล้วกูจะไปสนิทกับใครได้อย่างไงวะ”
เออก็จริงของมัน ด้วยหน้าตาของมันก็เป็นที่อิจฉาของใครหลายๆ คนแหละ
“เออว่ะ ก็จริงของมึงแต่มึงก็เสือกเกิดมาหล่อเองนิหว่า”
“กูก็ไม่อยากเกิดมาหล่อมะ ทำไงได้พ่อแม่กูเค้าตั้งใจทำให้กูเกิดมาหล่อนิหว่า”


จ้ะ!! ทำไมชีวิตกูต้องมาเจอแต่คนหลงตัวเองอีกละ ไอ้คนเมื่อเช้าก็รอบนึงละ นี่ยังมาเจอมันอีกกูละปวดหัวจริงๆ


“มึงพูดซะกูเห็นภาพเลยเนอะ ไอ้เชี่ยซี”


แล้วมันก็นั่งขำของมันอยู่คนเดียว มึงจะตลกอะไรขนาดนั้นมิทราบ


“อ่ะทุกคนเงียบๆ กันหน่อยต่อไปจะเป็นการแนะนำและชี้แจงเกี่ยวกับกฏระเบียบของมหาวิทยาลัย”


แล้วอาจารย์เค้าก็ชี้แจงเรื่องนู้นนี่นั้นไปส่วนผมก็นั่งฟังบ้าง เล่นโทรศัพท์บ้างส่วนไอซีหรอครับ พอเค้าบอกจะชี้แจงมันก็ตั้งท่าเตรียมตัวจะนอนไม่สนใจห่าเหวอะไรเลย


“ทุกคนต่อไปจะแนะนำดาวเดือนของมหาลัยของเราให้รู้จักนะ ขอเสียงปรบมือให้กับดาวเดือนของเราหน่อย”


ทุกคนพร้อมใจกันปรบมือเหมือนนัดซ้อมเชียร์กันมาเลย แต่สิ่งที่หน้าตกใจมันไม่ใช่ดาวเดือนที่สวยหล่อที่มายืนเรียงรายกันหน้าเวที แต่คือไอ้อิฐคนที่ช่วยผมเมื่อเช้ามึงเป็นเดือนกับเค้าด้วยหรอวะ แล้วมันไม่ใช่แค่เดือนคณะนะครับมันดันเป็นเดือนมหาลัยด้วย กูละเชื่อจริงๆ เลย ว่าจะไม่ต้องเจอแม่งละนะ


“สวัสดีครับผม อิฐธนันต์ จิรกร เดือนคณะวิศวะและเดือนมหาลัย เรียกผมอิฐเฉยๆ ก็ได้ครับ”


 พอแนะนำตัวเสร็จเสียงกรี๊ดก็ดังรลั่นห้องประชุม ไม่แปลกใจเลยก็มันหล่อนิผู้หญิงก็ชอบเป็นธรรมดา แต่ว่าเหนือสิ่งอื่นใดคืออีคนที่นั่งข้างๆ ผมเนี้ยมันเพิ่งจะตื่นเพราะเสียงกรี๊ด อยากรู้จริงๆ เมื่อคืนมึงไม่ได้นอนมาหรอไงไปอดหลับอดนอนมาจากไหน


“มีอะไรกันวะไอ้น้ำ เค้ากรี๊ดอะไรกันกูงง”


เออแน่ละมึงหลับตั้งแต่ต้นจนเค้าจะจบและเพิ่งตื่นไอ้เวร


“เออ เข้าก็กรี๊ดไอ้นั้นไง”


ผมก็ชื่อมือไปบนเวทีที่เค้ากำลังแนะนำดาวเดือนกันอยู่


“เชรดดดด ทำไมมีแต่คนหล่อๆ สวยๆ เต็มเวทีเลยวะหรือเค้ากำลังประกวดนายแบบนางแบบกันอยู่”


ไม่ใช่ไหมละมึงเค้าแนะนำตัวดาวเดือนไหมล่ะ


“ไอ้เชี่ยซี มึงนี่นะหลับจนไม่รู้เรื่องห่าอะไรเลย เค้ากำลังแนะนำดาวเดือนปีที่แล้วอยู่โว้ยย”
“ว่าแต่ผู้หญิงเนี้ยสวยทุกคนเลยเนอะมึง”


แหม่ พอเรื่องอย่างงี้มึงนี่สนใจขึ้นมาทันทีเลยนะ


“เออ ไอ้น้ำมึงรู้จักไอ้คนนั้นด้วยหรอวะ?”


ไอ้ซีมันก็ชี้ไปทางไอ้ผู้ชายที่จ้องมองมาทางผม จะใครซะอีกละก็ไอ้อิฐไงมึงจะจ้องกูอะไรขนาดนั้นวะ หรือมันยังโกรธเรื่องเมื่อเช้าอยู่วะ ไม่ดิเราก็ขอโทษมันไปแล้วนิแล้วมันจะมองกูทำไมกูกลัวนะไอ้เชี่ยยยยย


“อ่อ คนที่กูเจอเมื่อเช้าอะมึงข้างล่างตึกอะ มีเรื่องกันนิดหน่อยว่ะ”
“เรื่องอะไรวะมึง ไหนเล่ามาดิ๊”


ขี้เสือกเหมือนกันนะมึงเนี้ย”


“ก็คือว่า...”


อาจารย์ดันมันขัดจังหวะซะก่อนอดฟังไปแล้วกันนะมึง


“ต่อไปอาจารย์จะให้เราแยกตามคณะนะทุกคน”


หลังจากนั้นผมก็แยกตามคณะตามคำสั่งอาจารย์ พอจัดแถวเสร็จก็นั่งฟังว่าต้องไปรับน้องที่ไหนแล้วก็เรื่องตัวแทนประกวดดาวเดือนของแต่ละคณะด้วย


“เออสรุปเรื่องเมื่อกี้อย่างไงวะ? เล่าต่อดิอาจารย์แม่งดันมาขัดพอดีเลย”


 มึงจะอยากรู้เรื่องอะไรของกูขนาดนั้น


“เฮ้ย!! มึงอะเรียนนิเทศหรอ”


ผมกำลังจะเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อเช้าให้ไอ้ซีฟังอยู่ดีๆ ก็มีเสียงที่คุ้นเคยทักมาพอลองเงยหน้าขึ้นไป ผมก็ต้องสะดุดกับคนตัวสูงอีกครั้งมึงจะไม่จบใช่ไหม ไอ้คุณเดือนมหาลัย


“เออใช่ เรียนนิเทศแล้วจะทำไหม?”


อยู่ดีๆ มันก็นั่งลงข้างๆ ผม คนในคณะผม งง สิครับรออะไรสายตาแต่ละคนแบบมึงเป็นใคร รู้จักเดือนมหาลัยได้ไง คือมึงจะทำให้กูโดนเกรียดใช่ไหมไอ้เชี่ยยย แต่คนที่ งง หนักกว่าชาวบ้านเค้าก็คงเป็นไอ้ซีนั้นและครับ นั่งทำหน้าสงสัยเหมือนหมาปั๊กเลยไอ้ห่า


“เฮ้ย!! มึงมานั่งทำไมตรงนี้ไปนั่งกับเพื่อนที่คณะวิศวะมึงดิวะ”
“ไม่อะ กูไม่ไป”
“นี่มึง ยังโกรธเรื่องเมื่อเช้าอยู่ใช่ไหม กูก็ขอโทษไปแล้วไงหรือว่าจะให้กูก้มกราบมึงเลยไหม”
“ทำได้ไหมละ ทำได้ก็ทำให้ดูหน่อยดิ!”


 เชี่ยมันจะมากไปแล้วนะเว้ย ต้องการอะไรจากกูกันแน่วะ


“เออ!! ได้”


ผมลุกคนพร้อมทำท่าจะก้มกราบมัน


“เห้ย!! กูพูดเล่นปะวะ มึงจะจริงจังไปไหนเนี้ย”


 มันเอามือมาดึงผมลงไปนั่ง ส่วนไอ้ซีหรอครับ นั่งขำไม่ได้ช่วยอะไรกูเลยซะใจมากมึง กูเพื่อนมึงนะเนี้ยไอ้ซีไม่คิดจะช่วยกูเลยหรอไง


“อีกอย่างกูมาหาน้องกูไม่ได้มาหามึง มึงนี่มันหลงตัวเองชิบหายเลย”


เอ้าไอ้เชี่ยมาว่ากูอีก ก็มึงมานั่งข้างกูทำไมไหมแล้วไมมึงไม่ไปนั่งกับน้องมึง จะมานั่งตรงกูทำหาแมวอะไรวะ


“แล้วไหนน้องมึง?”
“นั้นไงน้องกูนั่งอยู่ข้างหลังไอ้หล่อๆ เพื่อนมึงอะ”


มันก็ชี้ไปทางข้างหลังไอ้ซี ผมก็เลยหันไปอยากรุ้ว่าน้องมันจะหน้าตาเหมือนมันไหม สรุปน้องแม่งเหมือนกันอย่างกับแกะเลยแต่น้องมันตัวขาวพอๆ กับผมแต่ผมขาวกว่านะบอกเลยแอบชมตัวเองไปอีก หรือกูติดนิสัยไอ้พวกนี้มาวะ?


“เออ น้องมึงก็หน้าตาดีนะ ดีกว่ามึงอีก”
“ก็กูเรียนวิศวะไหม ใครจะไปตัวขาวเหมือนมึงมีทราบ”
“อ้าวพี่อิฐสวัสดีพี่ ทำไมมานั่งที่คณะผมละไมไม่นั่งที่คณะตัวเองอะพี่”


เอออันนี้กุเห็นด้วยกับน้องมึงนะทำไมมึงไม่ไปนั่งที่คณะตัวเองกูละ งง กับมึงจริงๆ


“ก็แวะมาหามึงไงไอ้ปูน กลัวน้องไม่มีเพื่อน เออ...ไอ้น้ำนมกูฝากดูแลน้องกูด้วยนะ”


ทำไมกูต้องมาดูแลน้องมึงด้วยเนี้ย น้องมึงก็โตแล้วมะดูแลตัวเองก็ได้แล้วป่ะวะไม่ใช่เด็กอนุบาลสาม แต่เดียวนะเมื่อกี้มึงเรียกกูว่าอะไรนะ


“มึงเรียกใครว่าน้ำนมนะ!?”
“ก็มึงไง”


กูชื่อต้นน้ำ ต้นน้ำ!! น้ำนมมึงดิกูไม่ใช่ฟันน้ำนมไหม พ่อแม่กุอุส่าตั้งชื่อมาให้ซะเพราะเรียกเสียหมด


“อ่ะเงียบๆ กันหน่อยทุกคนต่อไปเราจะเลือกเดือนและดาวของแต่ละคณะกันนะ ให้แต่คณะส่งตัวแทนออกมานะคะ”


แต่ละคณะก็ส่งตัวแทนออกไปกันหมดแล้ว เหลือแต่คณะผมที่ยังไม่ได้คนเลยเพราะคนคณะผมหน้าตาดีเยอะ เลยตัดสินใจกันไม่ได้


“คนนี้ครับ คนนี้เค้าอยากเป็นครับ”


ไอ้เชี่ยย อยู่ดีๆ ไอ้อิฐมันก็จับมือผมแล้วชูขึ้น สายตาของคนทั้งห้องประชุมหันมาที่ผมราวกับว่าผมทำอะไรผิด


“อ่อ...จ้ะ งั้นรีบออมากเลยจะได้ไม่เสียเวลาคนอื่นเค้าเนอะ”


 ผมหันไปมองหน้าไอ้ซีขอความช่วยเหลือ สิ่งที่มันทำคือโบกมือให้หยอยๆ แล้วก็ยิ้มเหมือนจะสื่อว่าโชคดีนะมึง จ้ะดีจ้ะ กูขอบใจที่ช่วยกูทุกรอบเลยจ้ะ ไอ้คุณซี จะทำไงได้มันเล่นตะโกนบอกพี่เค้าขนาดนั้นผมก็ต้องจำใจออกไป


“เราได้ตัวแทนของแต่ละคณะแล้วเนอะ ต่อไปพี่จะให้เราเลือกเพื่อนที่ไปดูแลเราได้หนึ่งคนนะ”


 เยี่ยม!! ไม่ต้องสงสัยเลยว่าผมจะเลือกใครนอกจากไอ้ซี เหมือนว่ามันจะรู้ตัวมันหันมามองหน้าผมพร้อมกับสงสัยตาว่าอย่าเลือกกูนะมึง อย่าหวังว่ามึงจะรอดเลยผมเลยชี้นิ้วบอกเค้าว่าเลือกมัน มันก็เลยเดินออกมาพร้อมกับปูนน้องไอ้เชี่ยอิฐ แต่เค้าให้เลือกได้คนเดียวนิแล้วออกมาทำไมตั้งสองคนวะ ผมเลยเห็นไปถามผู้หญิงของคณะผม


“เธอๆ เค้าให้เลือกออกมาได้คนเดียวนิแล้วทำไมถึงออกมาสองคนเลยล่ะ?”
“อ่อปูนอะหรอ ปูนเป็นเพื่อนเราเองเราบอกมันก่อนออกว่าถ้าเค้าให้เลือกคนดูแลออกมาเป็นเพื่อนหน่อยนะ”
“อ่อออ แสดงว่าเธอก็ต้องรู้จักพี่ของปูนด้วยอะดิ”
“ใช่เราเป็นเพื่อนกันตั้งแต่สมัยเด็กๆ แล้ว เลยรู้จักพี่อิฐกับปูนมาตั้งนานแล้วน่ะ”


เออไม่หน้าละดูสนิทกันจัง


”เออว่าแต่เธอชื่ออะไร เราต้นน้ำนะเรียกน้ำเฉยๆ ก็ได้”
“เราชื่อพิมพ์นะ ยินดีที่ได้รู้จัก”
“ยินดีที่ได้รู้จักครับ ผมซีซ่านะ เรียกซีก็ได้ไม่ถือ ฮ่าๆๆ”


 มึงมาตอนไหนเนี้ยไอ้ซี พอเรื่องผู้หญิงนี้กูไม่ต้องบอก
มาให้ไวเลยนะมึง พอกูต้องการความช่วยเหลือไม่เคยจะช่วยกูซักรอบเลย


“มึงมายืนจีบอะไรน้องพิมพ์เนี้ย ไอ้น้ำนม”


กูไม่ได้จีบโว้ยยย กูทำความรุ้จักเค้าไหมคือใจคอมึงจะไม่ให้กูได้รู้จักใครเลยหรอไง


“พี่อิฐสวัสดีค่ะ วันนี้มาดูแลปูนมันหรอคะ?”
“เออใช่ๆ มันมารายงานตัววันแรกกลัวมันจะไม่มีเพื่อน แต่นี้พี่ฝากให้ไอ้น้ำนมดูแลมันเรียบร้อยแล้วละ”


กูกลายเป็นพี่เลี้ยงเด็กเลยเนอะ สรุปกูประกวดหรือน้องมึงประกวดกูต้องดูแลตัวเอง หรือต้องดูแลน้องมึง


“เอาละจ้ะ ได้เพื่อนที่จะมาดูแลเราแล้วเนอะ สำหรับดาวเดือนอีกไม่กี่อาทิตย์เราจะไปเก็บตัวที่ทะเลกัน 3 วัน 2 คืน นะคะ แล้วเรื่องที่เซอร์ไพรส์คือเดือนแล้วดาวปีที่แล้วจะไปกับเราด้วยนะจ้ะ แต่ก็แล้วแต่ความสมัครใจของแต่ละคนนะ แต่ถ้าไปครบก็จะดี”


พี่แกเค้าไม่เชิงบังครับเลยเนอะ พูดซะขนาดนี้ก็บอกว่าต้องไปให้ครบซะก็จบ


“พี่ครับ ผมขอดูแลเดือนและดาวทางฝั่งของนิเทศได้ไหมครับ”


หือออ ทำไมมึงไม่ไปดูแลคณะมึงล่ะไอ้คุณอิฐจะมาดูแลคณะกูทำไม คณะกูมีพี่คณะดูอยู่แล้วไหม


“ทำไมละอิฐ คณะตัวเองก็มีทำไมไม่ดูแลจะไปดูแลคณะอื่นทำไม?”
“ครับพี่ติณนา พอดีน้องผมมันอยู่คณะนี้ครับเลยกลัวว่ามันทำไรไม่เป็นอะพี่”


มึงก็ห่วงน้องเกินมันโตแล้วไหม


“อะๆ ได้งั้นเราก็สลับกับพี่คณะนิเทศแล้วกัน แต่ก็ใช่ว่าจะทิ้งน้องคณะตัวเองนะอิฐไงเราก็เป็นพี่วิศวะนะ”


พี่ติณนาดาวคณะปีก่อนหน้าไอ้อิฐนี้ดูใจดีจัง ยอมตามใจไอ้เด็กเวรนี้ด้วย


“คร้าบบบบบ พี่ติณนา”


แต่เดียวนะแสดงว่าตลอดการเก็บตัวกูต้องเจอมันทุกวันเลยหรอ กูว่าจะไม่ต้องเจอมันแล้วนะ แล้วที่มึงสลับกับพี่คณะกูเนี้ย คือมึงต้องการจะแกล้งอะไรกูอีก กูว่ามึงไม่ได้มาดูแลน้องมึงหรอก เชี่ยยยเอ้ย! กูจะทำไงต่อดีวะเนี้ย
.
.
.
.
.
.
 "สรุปกูยังต้องเจอมันต่อไปในรั้วมหาลัยใหม่นี้ใช่ไหมชีวิตอันสงบสุขของกู ทำไมต้องมาเจอไอ้อิฐด้วยวะ"
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-07-2017 15:58:15 โดย Kratin »

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
Re: รักแรกนายวิศวะ (ตอนที่ 1)
«ตอบ #1 เมื่อ05-06-2017 17:56:10 »

อิฐ สนใจน้องน้ำนม เอ้ย.....ต้นน้ำแต่แรกเลยนะ
ผลักดันให้ต้นน้ำสมัครเดือน และขอดูแลซะด้วย
ทั้งที่ตัวเองต้องดูแลน้องเดือนคณะตัวเอง
ออกตัวแรงมั่กมากเลย
แต่ต้นน้ำไม่รู้เรื่องเอาซะเลย คิดว่าจะมาแกล้ง
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
ปล. คำผิดเยอะมาก

ออฟไลน์ Kratin

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 18
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
Re: รักแรกนายวิศวะ (ตอนที่ 1)
«ตอบ #2 เมื่อ05-06-2017 17:57:50 »

เดียวปรับแก้ให้น้าา ขอบคุณที่มาติชมนะ เราจะได้ปรับถูก :pig4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-06-2017 18:05:29 โดย Kratin »

ออฟไลน์ Kratin

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 18
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
Re: รักแรกนายวิศวะ (ตอนที่ 1)
«ตอบ #3 เมื่อ06-06-2017 10:04:17 »

ตอนนี้แก้คำผิดให้แล้วนะ ใครเห็นตรงไหนผิดอีกสามารถบอกเราได้
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Kratin

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 18
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
Re: รักแรกนายวิศวะ (ตอนที่ 2)
«ตอบ #4 เมื่อ06-06-2017 15:27:43 »

รักแรกนายวิศวะ #2


หลังจากนั้นที่คัดตัวดาวเดือนกันเสร็จแล้วพี่ติณนาเค้าปล่อยให้พวกเรากลับบ้าน แล้วก็รอวันพรุ่งนี้เพื่อที่จะไปชุมว่าจะไปทริปทะเลกันตอนไหน เดียวไม่ใช่ไหมเข้าค่ายเก็บตัวดาวเดือนไหมละใจกูตอนนี้คืออยากไปทะเลมากกก ก่อนกลับไอ้ซีมันก็ชวนผมไปกินข้าวในซอยข้างๆ มหาลัยผมก็ด้วยความหิวก็ตบปากรับคำมันไป แต่ก็ดีผมว่าจะคุยเรื่องหอกับมันด้วยเพราะว่าบ้านผมอยู่ไกลจากมหาลัยเลยต้องย้ายมาอยู่หอใกล้ๆ ขี้เกียจเดินทาง และอีกอย่างผมเป็นพวกประเภทตื่นสายถ้าไม่อยู่หอผมคงต้องเรียนจบแปดปีตามเกณฑ์ของมหาลัยแน่นอน ฮ่าๆๆ


“เออว่าแต่ไอ้ซีมึงจะไปกินร้านไหนวะ กูเห็นเดินเลือกมาหลายร้านละนะ”
“เชี่ย มึงก็ช่วยกูเลือกหน่อยดิว่าจะกินไรร้านแม่งก็ดันมีเยอะซะด้วย”
“ร้านไหนก็ได้มึง กูหิวแล้วเนี้ยเดินอยู่นั้นแหละมึง”
“อะแล้วมึงอยากกินไร”
“อะไรก็ได้มึงกูกินได้หมดแหละ”
“แดกขี้ไหมมึง อะไรก็ได้ของมึงเนี้ย”


เอ้าไอ้นี่กูเป็นคนง่ายๆ กินอะไรก็ได้ป่ะวะ


“เออๆ งั้นกินร้านนี้ละกันคนเยอะดีดูถ้าจะอร่อย”
“คนเยอะมันต้องรอคิวนานป่ะวะมึง”
“สรุปมึงจะแดกไม่แดกไอ้เชี่ยน้ำ”
“งั้นกูแดกก็ได้ไม่ต้องเห็นดุเลยมึง”


คือผมก็กะจะกวนตีนมันเล่นๆ และครับไม่มีอะไรหรอก พวกผมสองคนก็เดินเข้าไปในร้านมองหาที่นั่งซึ่งคนเยอะมากไม่มีที่นั่งเลย สรุปกูต้องมายืนรอคิวใช่ไหมเนี้ย


“อ้าว น้ำมากินข้าวหรอ”


 ผมกำลังจะหันไปสวนกลับว่าอ่อเปล่ามาหาโปเกม่อน แต่ดันเป็นพิมพ์ดาวคณะผมที่หันมาทักผมเลยเออเห็นว่าไม่สนิทนะเนี้ย


“เออใช่ เรามากินข้าวอะแต่ไม่มีที่นั่งเลยอะพิมพ์”
“มานั่งกับเราก็ได้นะ เนี้ยจะได้สนิทกันก่อนเก็บตัว”


อย่าสนิทกับเราเลยพิมพ์ถ้าสนิทเมื่อไหร่ความเกรงใจจะไม่มีเลยนะ ฮ่าๆๆ ขณะเดียวกันผมก็หันไปเห็นปูนที่นั่งข้างๆ พิมพ์พอดีมันก็ยิ้มให้นะ ซึ่งในความคิดปูนนี่มันแตกต่างจากพี่ลิบลับเลยเนอะ พูดถึงพี่มันเหมือนผมจะเห็นมันนั่งเล่นเกมอยู่ผมเลยชะโงกหน้าเข้าไปดูว่ามันกำลังทำอะไร ซึ่งที่ผมเห็นคือมันกำลังตีป้อมใน ROV อยู่หน้าเครียดมากเลยเนอะจริงจังอะไรขนาดนั้น


“มึงไม่ต้องแอบดูกูก็ได้นะ ไอ้น้ำนม”


เดียวมึงรุ้ได้ไงว่าเป็นกู กูแค่ชะโงกหน้าไปเอง


“รู้ได้ไงว่าเป็นกู”
“กูไม่ได้หูหนวกไหม ตั้งแต่พิมพ์ทักมึงกูก็รู้แล้วว่าเป็นมึง เรียกชื่อน้ำซะขนาดนั้น”


เออก็จริงของมันทำไมผมไม่คิดวะหรือผมโง่กว่ามัน?


“เออมึงนั่งดิไม่มีที่นั่งไม่ใช่หรอนั่งกับพวกกูก็ได้ พวกกูก็เพิ่งมายังไม่ได้สั่งอะไรเลย”
“ไม่อะกูไม่อยากร่วมโต๊ะกับมึง”


พอพูดไปแค่นั้นละมันหยุดเล่นเกมแล้ววางโทรศัพท์ลงแล้วทำหน้าไม่พอใจใส่ผม ซึ่งทั้งพิมพ์ ปูนแล้วก็ไอ้ซี่มันก็ทำหน้าเจื่อนๆ กัน


“กูบอกให้มึงนั่งก็ต้องนั่ง!!”


ไอ้เชี่ยแม่งโกรธไรวะเนี้ยกูก็พูดกับมึงตามปกติปะวะ


“ไม่!! กูไม่ชอบให้ใครมาบังคับกู ไอ้ซีเปลี่ยนร้านเหอะวะกูเริ่มไม่อยากแดกร้านเนี้ยแหละ”
“ถ้ามึงไม่นั่งแล้วเดินออกนอกร้านไป กูจะให้พี่เค้าตัดชื่อมึงออกจากการประกวดเดือนคณะมึงรู้ใช่พอมึงโดนตัดชื่อออกคนที่เดือดร้อนจะเป็นใคร ถ้ามึงยังยืนยันที่จะออกไปก็แล้วแต่มึง!!”


นี่มึงเอาเพื่อนทั้งคณะมาขู่กูเลยหรอวะ ตอนแรกกูก็ไม่ได้เกลียดมึงนะตอนนี้กูเริ่มจะไม่ชอบขี้หน้ามึงละไอ้เชี่ยอิฐ


“โอเค!! งั้นกูนั่งก็ได้ ปูนย้ายไปนั่งกับมันได้ป่ะพอดีเราจะคุยเรื่องประกวดกับพิมพ์หน่อยน่ะ”
“ได้ๆ เอาดิ”


ไอ้ปูนรีบย้ายที่ให้ไวเพราะกลัวนั่งใกล้กันแล้วจะฆ่ากันตายมั้ง


“เออ...ว่าแต่สั่งข้าวกันไหมเดียวจะรอคิวนานนะ”


พิมพ์ที่เหมือนนางฟ้าช่วยชีวิตไว้พอดีในขณะที่โต๊ะกำลังเงียบไม่มีใครพูดอะไรเลย ไอ้ซีที่นั่งหัวโต๊ะมันก็ทำหน้าเหมือนอยากรู้ว่ามึงโกรธอะไรกัน ซึ่งเรื่องที่จะเล่าให้มันก็โดนขัดตลอดเลยกะว่ากินข้าวเสร้จแล้วจะเล่าให้มันฟัง


“ได้ดิพิมพ์ ซีเอากระเพราหมูสับ”


พอผู้หญิงถามนะพูดเพราะเชียวนะมึง


“อาหารสิ้นคิดนะมึงไอ้ซีกินอะไรที่มันดูไม่สิ้นคิดหน่อยดิ”
“แล้วมึงแดกไรไอ้เชี่ยน้ำ”


เห็นไหมพอพูดกับกูโทนเสียงมึงนี้เปลี่ยนเลยเนอะ


“นี่ของกูไม่เหมือนใคร ข้าวไข่เจียวหมูสับ”
“ถุ้ย!! มันต่างจากของกูอย่างไงมิทราบ”


เอ้าก็กูกินเผ็ดไม่ได้มึงจะให้กูกินไรละ


“สวนของปูนเอาผัดพริกหมูชิ้นนะ”
“เฮ้ยปูนกินเผ็ดได้ด้วยหรอ เห็นแบบนี้คิดว่าจะกินเหมือนไอ้เชี่ยน้ำมันซะอีก”


ไอ้ปูนหันมายิ้มแบบ เรื่องของกูไหมกูแดกอะไรก็ได้ที่กูอยากได้ อ่ออันนั้นผมคิดแทนไอ้ปูนมันเอง ฮ่าๆๆ


“แล้วของพี่อิฐเอาอะไรดีคะ?”
“พี่เอาเหมือนไอ้น้ำมันแล้วกัน”


ไม่เรียกกูน้ำนมแล้วไง สงสัยจะเกลียดกูเหมือนกันละสิมึง


“เลียนแบบ!”


ผมทำปากขมุบขมิบแต่มันดันหูดีเกินหันมามองหน้าผม


“กูได้ยินนะ”
“ก็ไม่ได้ว่านิคิดไปเองเปล่ามึงอะ”


กวนตีนแม่งเลยไอ้ห่า แต่แปลกที่รอบนี้มันไม่สวนกลับวะ


“งั้นเอาแค่นี้นะ พี่ค่ะรับเมนูด้วยค่ะ”


หลังจากนั้นเราก็นั่งคุยกันเรื่องที่เก็บตัวว่าจะต้องทำไงบ้าง เตรียมตัวอย่างไง เอาอะไรไปบ้าง ส่วนไอ้อิฐหรอครับก็นั่งนิ่งไม่พูดอะไรซักคำถามว่าผมสนใจไหม หึ ไม่!! มึงเล่นผิดคนแล้วกูบอกเลย แล้วดันเอาเรื่องเพื่อนมาขู่อีก เดียวรู้เลย!!


“ข้าวมาแล้วค่ะ ได้กันครบนะคะน้อง?”
“ครบคะพี่”


หลังจากนั้นโต๊ะก็เงียบลงอีกครั้ง ซึ่งไม่ได้มีการทะเลาะวิวาทอะไรกันทั้งนั้นนะครับ เพราะแต่ละคนหิวมากเลยเงียบหายไปซักพัก หลังจากกินข้าวเสร็จทุกคนก็เตรียมตัวจ่ายตังหน้าร้านข้าว


“อ่าวไอ้น้ำมึงยังไม่ไปหรอ”
“แปปมึงกูขอหากระเป่าตังก่อน แม่งชอบหาไม่เจอทุกทีเลย”


จริงเวลาจะจ่ายตังที่ไรเหมือนกระเป่าตังมันจะไปหลบอยู่ซอกไหนซักซอกเหมือนไม่อยากให้ใช้เงิน


“เออ งั้นเดียวกูออกไปรอข้างนอกนะมึงจะไปดูดบุหรี่ด้วย”
“เคๆ เดียวกูตามออกไป”


เชี่ยมันหายไปไหนวะเนี้ย


“กูขอโทษ”


อะไรของมึงอีกล่ะไอ้อิฐกูกำลังรีบๆ ไม่มีเวลามาทะเลาะนะ


“ขอโทษเรื่องอะไรของมึง”
“ก็ขอโทษเรื่องเมื่อกี้ที่กูโมโหใส่มึง แล้วก็ที่ขู่มึงไง”


อ๋อออ นี่มึงรุ้สึกผิดกับเค้าเป็นด้วยหรอไง ผมก็นิ่งใส่มัน


“คือกูอารมณ์เสียกับเกมอยู่ไง มึงก็ดันมาพูดจากวนตีนกู อีกอย่างกูเป็นรุ่นพี่มึงพูดกับกูดีๆ หน่อยก็ได้”


ก็จริงของมันผมก็คงกวนตีนมันมากเกินไป เอาซะกูรู้สึกผิดเลยแม่งเอ้ยยย


“เออกูก็ผิดเองแหละที่กวนตีนมึงก่อน ขอโทษด้วยแล้วกัน”
“กูเพิ่งบอกว่าให้พูดจาดีๆ กับรุ่นพี่ไปหยกๆ”
“ครับพี่อิฐ ผมขอโทษนะครับพี่อิฐ”
“เออดีมาก สวนเรื่องข้าวไม่ต้องเดียวกูออกให้ ไปบอกพวกเพื่อนๆ มึงด้วยว่าไม่ต้องจ่ายเดียวกูออกเอง”


โอ๊ะใจปล้ำไปอีกไหมมึง เงินเยอะขนาดนั้นเลยหรอไงผมก็เลยออกไปนอกร้านแล้วไปบอกไอ้ซีมัน


“มึงเดียวไอ้พี่อิฐมันเลี้ยงข้าววะ”
“อ่อกูรู้แล้ว”


เดียวมึงรู้ได้ไงได้ยินข่าวว่ามึงอยู่นอกร้านนิ


“มึงรู้ได้ไงเนี้ย หรือมึงแอบฟังที่กูคุยกันเมื่อกี้”
“เห้ย!! เปล่าก็พิมพ์กับปูนมันบอกกูว่าพี่อิฐเค้าจะเลี้ยงข้าวแต่แรกอยู่แล้วแต่พวกเราดันเสือกดวงดีไปนั่งโต๊ะเค้าไง”


อ่อนี้พวกกูดวงดีขนาดนี้เลย แต่ทำไมซื้อหวยแล้วไม่เคยถูกเลยวะดันมาดวงดีกับไอ้อิฐ


“ขอบคุณนะครับพี่ที่เลี้ยงข้าวผมสองคน”
“เออไม่เป็นไร ก็ถือว่ากูเลี้ยงที่พวกมึงเข้ามาเรียนที่นี้ได้ล่ะกัน”
“ขอบคุณมากพี่ งั้นเดียวพวกผมไปก่อนนะ”
“เออๆ กลับดีๆ และกันพวกมึงแล้วอย่าไปเที่ยวกวนตีนใครละเดียวจะโดนตีนเอา”


อันนี้กูว่ามันไม่ได้เตือนไอ้ซีนะ เหมือนมันจะเตือนกูมากกว่า


“ไอ้ซีงั้นมึงพากูไปเดินหาหอหน่อยดิ เดียวกูจะได้ย้ายเลยกูไม่อยากเดินทางไปกลับวะ”
“อ่าว พวกมึงกำลังหาหอหรอ หอที่กูอยู่เพิ่งมีคนย้ายออกไปว่างพอดีมึงจะไปดูไหม”


เสือกอีกละมึงแต่คือแบบมันก็ดึกแล้วด้วยเอาไงดีวะ ลองไปดูก็ได้มั้งหน้าจะไม่เสียหายอะไร


“แล้วมันจะมีคนพาดูห้องหรอไงดึกขนาดนี้แล้ว”
“มีดิวะ เดียวกูเคลียร์ให้กูสนิทกับเจ้าของหอ”


โอเคมันว่างี้ก็ว่าตามมันไปละกันไม่อยากเรื่องมาก หลังจากนั้นผมก็เดินตามมันไปที่หอกับพวกพิมพ์ แล้วก็ปูนแต่ว่าจะยกโขยงมาทำอะไรกันเยอะแยะเนี้ย


“พิมพ์ไม่กลับบ้านหรอ”
“อ่อเราพักอยู่ที่เดียวกับพี่อิฐกับปูนน่ะ”
“หว่า งั้นซีก็อดไปส่งเลยอะดิ เสียใจ”


แหมะไม่ได้เลยนะมึงเจอผู้หญิงนี่ทำตัวน่ารักเลย มึงคนหรือตุ๊กตาเฟอร์บี้ให้ป้อนอาหารทางโทรศัพท์ให้ไหมมึงไอ้ซี


“มึงอย่าเยอะไอ้ซีเกรงใจกูด้วย พ่อแม่น้องเค้าฝากให้กูดูแลพิมพ์เดียวมึงไปทำอะไรน้องเค้าพ่อแม่น้องมาเล่นงานกูอีก”


คือมึงห่วงกางว่างั้น คือแอบชอบน้องเค้าหรอไงไอ้ซีมันก็แกล้งเล่นไหมละถ้ามันเอาจริงไอ้ซีแม่งว่าตัวดีกว่านี้อีก


“อะถึงหอกูละ”


เดียวๆ แบบนี้ใช้คำว่าหอได้หรอ หอบ้านป้ามึงดินี่มันเรียกว่าคอนโดแล้วไหมมึง


“ไอ้อิฐ เฮ้ยไม่ใช่ พี่อิฐแน่ใจหรอว่าอันนี้หอมึงเนี้ย”


ตอนนี้กูใช้คำสับสนไปหมดละจะเรียกมันไอ้เดียวก็หาว่าไม่เคารพมันอีก จะเรียกพี่ก็กระดากปากอีก


“มึงเรียกกูแบบเดิมก็ได้ไม่ต้องฝืนหรอก เวลามึงฝืนหน้ามึงเหมือนหมาโง่อะ ฮ่าๆๆๆ”


เออไอ้สัส กูไม่ฝืนก็ได้งั้นกูจะเรียกมึงไอ้เชี่ยอิฐนี่ละ กูอุส่าว่าจะไม่กวนตีนแล้วนะ


“สรุปกูจะได้ดูห้องไหมขำอยู่นั้นละ ดึกละด้วยกูต้องรีบกลับบ้านไหม”
“อะๆ เดียวกูพาเข้าไป”


เชรดดดด ขนาดเข้ายังต้องมีการสะแกนนิ้วมือเข้าด้วย ข้างล่างคือล็อบบี้ประชาสัมพันธ์ที่ตกแต่งสไตร์ลอฟท์ คือมันดีมากแล้วต้องแพงแน่นอน แต่ไม่เป็นไรแพงก็สู้ได้เพราะเริ่มจะขี้เกีรจ


“พี่ครับผมพาน้องมันมาดูห้องอะพี่เปิดห้องให้ดูหน่อยได้ไหมครับบ”


มึงจะอ้อนเค้าทำไมกูไม่เข้าใจ


“ได้ค่ะ น้องอิฐ อย่าอ้อนพี่แบบนี้สิ อ้อนพี่ที่ไหร่พี่ใจอ่อนทุกทีเลย นี่เห็นว่าเป็นน้องอิฐนะพี่ถึงจะเป็นให้เวลานอกทำการเนี้ย”


จ้ะอีพี่นี้ก็ใช้ได้อยู่อ้อนมาอ้อนกลับไม่โกงว่างั้น


“หึ!!”
“เป็นอะไรของมึง ไอ้น้ำนม?”


เออกูเป็นอะไรจะไปโกรธเค้าทำไมวะ


“อ่อ เปล่ากูแค่เหนื่อยอะวันนี้ตื่นเช้า”


แถเหี้ยอะไรของกูวะเนี้ย


“อะๆ รีบขึ้นไปดูแล้วจะได้กลับบ้านดึกละเดียวพวกมึงจะไม่มีรถกลับ”
“งั้นเดียวพี่พาเราขึ้นไปดูนะ”


เราก็พากันทยอยขึ้นต้องเรียกว่าทยอยครับพามากันหมดกลัวนี่หลงหรือไง


“นี่คือสภาพของห้องนะน้อง...เอ่อน้องชื่ออะไรคะ?”
“น้ำนมครับผมพี่ มันชื่อ น้ำ...นม...”


มึงจะเน้นคำเน้นเสียงทำไมไอ้อิฐ แล้วอีกอย่างแย่งกูตอบเพื่อ!?


“อ๋อ...ค่ะ น้องน้ำนมนะ ห้องโอเคไหม”


เออน้ำนมก็น้ำนม ชื่อกูต้นน้ำคงไม่มีความหมายห่าอะไรละมั้งเปลี่ยนมาใช้ชื่อนี่แม่งเลยดีไหมแม่งเอ้ย


“โอเคนะครับพี่ ว่าแต่ราคาห้องเท่าไหร่ครับ?”
“ก็จะอยู่ประมาณราวๆ หกพันบาทต่อเดือนค่ะรวมน้ำไฟแล้วนะ”
“งั้นผมเอาห้องนี่ละครับ เดียวพรุ่งนี้ผมจะย้ายของเข้ามาเลยได้ไหมครับ”
“ได้ค่ะ งั้นเดียวช่วงเช้าพี่จะให้แม่บ้านทำความสะอาดไว้ให้ แล้วช่วงบ่ายๆ หรือเย็นๆ น้องย้ายเข้ามาเลยก็ได้”


ไอ้ซีดึงแขนผมเข้าไปคุยที่ซอกทางเดินไกลๆ จากพี่เจ้าของหอ


“นี่มึงไม่คิดหน่อยเลยหรอวะ เอาเลยงี้”
“เออดิวะ กูว่าห้องสวยนะอีกอย่างก็ไม่ได้ไกลจากมหาลัยด้วย”
“อะงั้นแล้วแต่มึงแล้วกัน เออว่าแต่เส็รแล้วมึงไปไหนต่อป่ะ?”
“ก็คงกลับบ้านว่ะมึงวันนี้เจอแต่เรื่องเครียดๆ อยากกลับบ้านนอนพักว่ะพรุ่งนี้เดียวก็ต้องไปมหาลัยแต่เช้าอีก”
“กูว่าจะไปกินเหล้าต่อ มึงไปกับกูด้วยไหม”

กูเพิ่งบอกว่ากูจะกลับไปนอนแต่มึงชวนกูเที่ยวคืออะไรเชี่ยซี


“เห้ย!! พวกมึงคุยอะไรกันจะมาทำสัญญาหอไหมเนี้ย?”

เออวะลืมเลยมัวแต่ฟังไอ้ซีแม่งบ่นเรื่องเที่ยว


“โอเค เดียวไปๆ”


พวกผมก็ลงมาข้างล้างเพื่อที่จะทำสัญญาหอ แต่พิมพ์ขอตัวแยกกลับห้องไปก่อนส่วนไอ้อิฐกับปูนพักอยู่ห้องเดียวกันมันก็เลยมารออยู่ข้างล่างเป็นเพื่อน


“เสร็จแล้วค่ะไงเดียวเราเจอกันพรุ่งนี้ตอนบ่ายๆ นะน้องน้ำนม”
“ครับพี่ ขอบคุณนะครับ”


หลังจากนั้นพวกผมก็เดินออกมาหน้าปากซอยส่วนไอซีรีบจะไปกินเหล้าก็เลยแยกกับผมไปแล้วส่วนปูนเห็นบอกว่าจะขึ้นไปเตรียมเสื้อสำหรับพรุ่งนี้ แล้วก็อีกคนที่มันเดินตามผมมาต้อยๆ ก็ไอ้อิฐเนี้ยละ


“มึงจะตามกูมาทำไมเนี้ย”
“กูก็จะมาส่งมึงไง กลับบ้านคนเดียวมันอันตราย”
“คือกูไม่ใช่ผู้หญิงไหม กูเป็นผู้ชายใครจะกล้ามาทำอะไรกู อีกอย่างเดียวที่บ้านกูก็ส่งคนมารับอยู่แล้ว”
“ห๊ะ! อะไรนะที่บ้านมึงส่งคนมารับ?”
“เออใช่ ก็กูเป็นลูกคนเดี๋ยวพ่อหวงอีกอย่างที่บ้านกูก็เป็นเจ้าของโรงงานผลิตยางส่งออกด้วย”


ถือโอกาสกูอวดรวยเลย หน้าตาผมก็ไม่ได้ขี้เหร่นะแต่หล่อสู้มันไม่ได้ เลยเอาธุรกิจที่บ้านเข้าสู้แทน ฮ่าๆๆ


“อ่อ เอองั้นกูคงไม่ต้องเป็นห่วงมึงแล้วละ”


ห๊ะ!! คนอย่างมึงเนี้ยนะจะมาห่วงกู กูว่ามึงอะแหละที่จะมาทำร้ายกู


“มาแปลกนะมึงอยู่ดีๆ มาห่วงกูคืออะไร”
“กูไม่ได้ห่วงมึงกูห่วงว่าถ้าเกิดอะไรกับมึง กองประกวดเค้าจะลำบากที่จะหาคนมาแทนมึงมากกว่า”


อ่อจ้ะที่แท้แม่งก็ห่วงเรื่องกองประกวด แต่ก็อย่างว่าละคนอย่างมันหรอจะมาห่วงผม


“รถมาแล้วกูกลับบ้านก่อนนะ”
“เออเจอกันพรุ่งนี้ ไอ้น้ำนม”


วันนี้โคตรเหนื่อยเลยทั้งรายงานตัว ทั้งหาหอแล้วยังต้องมาประกวดดาวเดือนอีกพรุ่งนี้ก็ต้องตื่นเช้าอีก ขี้เกียจตื่นโว้ยยยย ทำไมการเป็นดาวเดือนต้องตื่นเช้าอะไรขนาดนั้นไม่เข้าใจเลย ว่าแต่โทรไปบอกไอ้ซีหน่อยดีกว่าเพื่อว่าหลับเพลินแล้วให้มันโทรปลุกพรุ่งนี้เช้า


“ฮัลโหลไอ้ซีพรุ่งนี้มึงโทรปลุกกูหน่อยดิ”
“เอ้าทำไมมึงไม่ตั้งนาฬิกาปลุกเอาล่ะ”
“กูกลัวจะไม่ตื่นอะดิ เผลอปิดขึ้นมานี้กูโดนเค้าด่าแน่นพรุ่งนี้”
“เออๆ เดียวกูโทรปลุกแต่เดียวกูขอเที่ยวก่อนนะมึงแค่นี้นะ..”


ตุ๊ด ตุ๊ด นั้นคือเสียงสุดท้ายที่ผมได้ยินจากมัน ไอ้เชี่ยซี!! มึงจะรีบวางไปไหนกูยังพูดไม่จบเลยเว้ยยย หลักจากได้ใช้เวลาอยู่ในรถเกือบๆ ครึ่งชั่วโมงก็ถึงบ้านซักทีกว่าจะได้อาบน้ำ จัดของอีกก็ปาเข้าไปเที่ยงคืนล่ะ แถมตื่นเช้าอีกตายร่างกายพังแน่เลย ขณะที่ผมกำลังนอนคิดเรื่องเหตุการณ์วันนี้ก็เจออะไรมาเยอะเหมือนกันโดยเฉพาะเรื่องไอ้อิฐ เจอแม่งทีไรมีแต่ปัญหาทุกที่เลย......


“ฮัลโหล เห้ย!! ไอ้น้ำมึงตื่นได้แล้วแปดโมงแล้วนะเว้ย กูโทรไปต้องหลายสายไม่ยอมรับวะ!?”
“เชี่ยย!! สายแล้วกู เออๆ มึงงั้นเดียวกรีบไปอาบน้ำแต่งตัวก่อนนะ”
“เออรีบๆ เลยนะมึงนี้กูกำลังจะออกละเนี้ย”
“มึงรอกูด้วยดิ หน้ามหาลัยก็ได้เดียวกูรีบไป”


ผมรีบลุกออกจากเตียงไปอาบน้ำให้ไวเอาจริงอย่าใช้คำว่าอาบเลยครับใช้คำว่าวิ่งผ่านน้ำ แล้วเอาน้ำหอมฉีดตอนหลังเพื่อกลบกลิ่นก็ได้ครับ


“พี่ครับรีบออกรถเลยนะผมสายแล้วเดียวโดนที่กองประกวดว่า”
“ได้ครับคุณต้นน้ำ”


 ทันทีที่ผมขึ้นรถมาก็ว่าจะโทรหาไอ้ซีแต่ดันไปเห็นสายที่ไม่ได้รับของมันคือเก้าสาย ผมว่าถ้าผมไปถึงโดนมันบ่นหูชาแน่เลย


“มึงอยู่ไหนแล้วไอ้ซี”
“รอมึงอยู่หน้ามหาลัยเนี้ยรีบๆ มาเลย”
“เออใจย็นๆ กูจะถึงละเนี้ย”

ผมก็กดวางสายไอ้ที่บอกเค้าว่าใจเย็นๆ เนี้ย คือตัวเองนี้รีบสุดเลยแล้วเสือกดันเป็นเดือนคณะด้วยไปสายโดนประจานแน่กู


“พี่ครับ เดียวจอดหน้ามหาลับแปปนึงนะครับผมจะรับเพื่อนไปด้วย”
“ได้ครับคุณต้นน้ำ”


ผมเห็นไอ้ซียืนอยู่ไกลๆ มันทำหน้าโมโหมากไม่รู้มาว่ามันร้อนแดด หรือรอผมนานก็ไม่รู้


“ไอ้ซี ขึ้นรถมาเร็วมึงเดียวไม่ทัน”
“ช้าก็เพราะมึงเนี้ยและไอ้น้ำ ทำห่าอะไรอยู่วะกูรอมึงตั้งนาน”


ขึ้นมาก็บ่นเลยนะมึงกูก็รีบเท่ารีบได้แล้วเนี้ย


“กูแต่งตัวอยู่มึง จะให้กูมาสภาพชุดนอนก็ไม่ได้ไหมเดียวโดนด่าอีก”
“เออกูเชื่อ ว่าแต่พวกที่นั่งอยู่ข้างหน้าเค้าเป็นใครวะมึง”


เออไอ้ซีมันยังไม่เคยรู้จักบ้านผมเลยนิหว่า

“อ่อ คนขับรถที่บ้านกูอะมึงกูให้เค้ามาส่ง”
“เดียวนะมึงเป็นใครเนี้ยมีคนขับรถด้วย แล้วเรื่องที่มึงรู้จักไอ้พี่อิฐมึงก็ยังไม่เล่าให้กูฟังเลยความลับมึงเยอะนะไอ้เชี่ยน้ำ”

ลืมเลยว่ะเมื่อวานยุ่งๆ เรื่องหออยู่ อีกอย่างมึงก็รีบไปแดกเหล้าด้วยไม่ใช่หรอ แต่มันถามผมก็เล่าให้ฟังเลยแล้วกันในขณะที่รถกับเลี้ยวเข้ามหาลัยใช้เวลาเล่าสรุปแบบย่อยให้มันประมาณสิบนาทีได้ ดีนะไอ้ซีมันเป็นคนเข้าใจอะไรง่าย เพราะถ้าถามมากผมก็ไม่เล่าอยู่ดีขี้เกียจ ฮ่าๆๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-06-2017 19:18:43 โดย Kratin »

ออฟไลน์ Kratin

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 18
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
Re: รักแรกนายวิศวะ (ตอนที่ 2)
«ตอบ #5 เมื่อ06-06-2017 15:29:06 »

“มึง...กูว่าพี่อิฐแม่งแปลกๆ ว่ะ”
“แปลกไงของมึงวะซี”
“ก็ที่มึงเล่ามามันเพิ่งเจอมึง แล้วทำตัวเหมือนรู้จักมึงดี เข้าหามึงทุกทาง”
ก็จริงของไอ้ซีมันนะ คือตั้งแต่เจอมันก็เจอมันตลอดเลย แต่แม่งคงไม่มีอะไหรอกมั้ง


“หรือว่า...หรือว่าพี่เค้าชอบมึงวะ?”

ชอบอะไรละเค้าเป็นผู้ชายไหมมึงอีกอย่างผู้หญิงก็ตามติดเค้าซะขนาดนั้นแล้วเค้าจะมาชอบผู้ชายแบบกูเพื่อ


“เฮ้ย!! มึงคิดมากไปเปล่าเนี้ย พี่เค้าเป็นผู้ชายเค้าจะมาชอบกูได้ไง”
“คุณต้นน้ำครับถึงแล้วนะครับ”

เชี่ยมั่วแต่คุยกันจะสายละเนี้ยดีนะที่คนขับเค้าบอก


“ขอบคุณนะครับพี่ พี่ครับแล้วฝากบอกป๊าด้วยนะครับ ว่าเดียวน้ำจะย้ายของไปหอใหม่ช่วงเย็นๆ นะครับ”
“ได้ครับคุณน้ำ”

คือก็กะจะบอกป๊าเองแหละแต่ว่าป๊าบินไปต่างประเทศบ่อยๆ เลยไม่ได้เจอกันเลย


“เชี่ยน้ำเร็ว เหลืออีห้านาทีเนี้ย”

ผมกับไอ้ซีรีบวิ่งไปข้างล่างตึกที่เค้านัดกองประกวด ในสุดก็มาถึงแต่ดันมาไม่ทันเพราะเพื่อนๆ แต่ละคณะนั่งทำหน้าแบบ กูรอมึงสองคนนานละนะ คือขอโทษก็ไม่ได้อยากสายป่ะวะแต่คืออากาศมันหน้านอนต่อไงเข้าใจกันหน่อยดิ


“พี่ติณนาครับ ขอโทษนะครับที่ผมมาช้า”

ผมยกมือไหว้ผงกหัว เพื่อพี่แกเค้าจะเห็นใจ

“ไม่เป็นไรๆ ช้าไปแค่สามนาทีเองเนอะ”

เหมือนเดจาวูเมื่อวานเลย


“งั้นเอาเป็นว่าเราสองคนไปนั่งก่อนไป เดียวจะเริ่มชี้แจงและว่าต้องเตรียมตัวอะไรอย่างไงบ้าง”

ผมกับไอ้ซีก็เดินมานั่งกับพวกพิมพ์และปูนมัน


“น้ำเป็นไรเปล่า ทำไมวันนี้มาสายละ”

จะให้บอกว่าขี้เกียจก็จะดูไม่ได้


“อ่อ เมื่อวานเราเพลียอะ ตื่นแต่เช้าแล้วไปหาหออีก”

แหมะเห็นผลเราฟังขึ้นเว้ย โกหกเนีนยไปอีกแต่ไอ้คนที่รู้ความจริงนั่งจ้องตาเขม็งอยู่เนี้ย


“อ่ะ นมสดปั่นดูถ้ามึงจะเหนื่อยนะ”

ไอ้อิฐมันก็ดีนะเอานมปั่นมาให้แต่ตอนนี้ผมเริ่มคิดว่ามันแปลกๆ เหมือนที่ไอซีบอกแหละทำไมรู้สึกมึงดูแลกูดีเกินกว่าชาวบ้านเค้า


“ไม่เอาอะมึงเอาไปให้คนอื่นเหอะ คนอื่นเค้าก็อยากกินเหมือนกัน”

ไม่รู้คนอื่นอยากกินหรือเปล่า แต่ที่รู้สายตาอาฆาตกำลังมองกูอยู่ เลยไม่กินละกันเดียวคิดว่าได้สิทธิพิเศษ


“ก็กูเอามาให้มึง มึงก็รับๆ ไปเหอะหรือถ้ามึงจะไม่แดกก็ให้คนอื่นแดกไปเพราะกูให้มึงแล้ว”

อื้มมม มึงพูดขนาดนี้กูรู้สึกผิดไหมตอนแรกก็ว่าจะเอาให้ไอ้ชีกินอยู่หรอก แต่ก็เออสงสารแม่งเก็บไว้ก็ได้วะแค่นมปั่นเอง


“เออๆ ก็ได้ขอบใจมากละกัน”

แล้วมันก็เดินไปยิบอะไรของมันมาอีกก็ไม่รู้


“อะนี่ขนมปังสังขยาแดกซะ กูรู้มึงยังไม่ได้กินไรมา”

มึงรู้ดีเนอะว่ากูยังไม่ได้กินอะไรมา แสนรู้นะมึงแต่มึงจะให้กูคนเดียวแบบนี้ไม่ได้ไม่งั้นคนอื่นเค้าจะไม่ชอบขี้หน้ากูเข้าใจไหม


“พอแล้วแค่นมปั่นอย่างเดียวก็พอแล้ว เดียวคนอื่นจะคิดว่ากูได้สิทธิพิเศษ”
“กูไม่ได้ให้มึงกินคนเดียว แบ่งให้ไอ้ซีมันด้วยส่วนคนอื่นมันก็กินกันหมดแล้วที่กองเค้าแจก”

เอ้าแล้วทำไมมึงไม่เอามาสองอันละ


“เอ้าที่กองเค้าแจกแล้วทำไม ไม่เอามาให้สองอันวะจะแบ่งกันทำไมแล้วแบ่งกันมันก็ไม่อิ่มอยู่ดีป่ะวะ”
“ก็ส่วนของมึงกูกินไปแล้วอะ ฮ่าๆๆๆ”

ทำดี!! เนอะมึงแล้วให้กูมาแบ่งกันมึงนี้มันตลกแดกนะไอ้อิฐ


“แดกๆ ไปก่อนเหอะเสร็จแล้วเดียวกูพาไปเลี้ยงข้าวไถ่โทษ”

ก็ดีกินข้าวฟรีอีกแล้วกู ฮ่าๆ คือที่บ้านก็มีตังนะทำไมกูทำตัวเหมือนยาจกจังวะ


“น้องๆ ทุกคนคะวันพรุ่งนี้พี่จะนัดรวมพวกเรามาถ่ายโปสเตอร์ ส่วนวันที่สองเราจะซ้อมโชว์ที่ใช้ในการแสดงดาวเดือนปีนี้ ส่วนวันที่สามเราจะพาน้องไปเก็บตัวที่ทะเลกันนะคะ อ๋อแล้วอีกอย่างสามวันนี้ห้ามสาย ห้ามลา ห้ามขาด เด็ดขาด! เข้าใจตรงกันเนอะ แล้วก็พี่จะให้เราจดชื่อและเบอร์โทรให้พี่และเพื่อนที่ดูแลเราไว้ เผื่อมีปํญหาอะไรอยากปรึกษาพี่ๆ หรือถ้าหายไปพี่จะได้ตามตัวถูกนะจ้ะ”

เรียกได้ว่างานเน้น อีเว้นเยอะโคตร นี่ผมถามจริงเรากำลังประกวดดาวเดือนใช่ไหม แล้วไอ้เรื่องให้เบอร์เนี้ยคือถ้าเบอร์แปลกโทรมากูก็ไม่รับไง แต่ก็เอาเถอะคิดซะว่าทำเพื่อเพื่อนที่คณะละกัน


“งั้นวันนี้พี่จะให้เราไปวอร์มร่างกายโดยการวิ่งรอบสนามสักสามรอบก่อนละกันเนอะ แล้วก็ค่อยมากินข้าวเที่ยงกันดีไหม?”

พอบอกวิ่งปุ๊บสีหน้าของแต่ละคนบงบอกเลยว่ากูไม่อยากวิ่ง กูอยากกลับบ้าน


“อะน้องๆ ลุกขึ้นคะวอร์มร่างกายก่อนวิ่งซักหน่อย”

แต่ละคนคือต้องจำใจเพราะมาถึงขนาดนี้ละ หนีก็หนีไม่ได้ อยากจะกระโดดบ่อน้ำเล็กๆ แล้วดำหายไปจริงๆ เลยกู หลังจากพวกเราวอร์มเสร็จพี่เค้าก็สั่งให้วิ่งซึ่งไอ้คนที่เคยออกกำลังกายก็วิ่งสู้ตายนึกว่าแข่งกี่โอลิมปิกหรือไงก็ไม่รู้ ส่วนไอ้คนที่ไม่เคยก็วิ่งช้าเป็นเต่าแบบผมเนี้ยละรอบครึ่งก็ลิ้นหอยละ นี้และสาเหตุของการที่ไม่ออกกำลัง


“มึงวิ่งไหวปะเนี้ย ไม่ไหวก็ไปพักก่อนไปเดียวกูวิ่งแทนให้”

อะไรของมึงไอ้อิฐ จะมาวิ่งแทนกูได้ไง แล้วมึงมาวิ่งข้างหลังกูตั้งแต่เมื่อไหร่เนี้ย


“มึงวิ่งไปก่อนเลยเดียวกูตามไป เดียวกูไปวิ่งกับพวกข้างหลังเอาก็ได้”
“วิ่งกับพวกข้างหลัง? มึงไม่ได้แหกตาดูเลยหรอไงว่าวิ่งอยู่ท้ายสุดของแถวเนี้ย”

ไม่มีทางกูว่ากูวิ่งไวกว่าพวกผู้หญิงแน่นอน ผมเลยหันหลังไปดู เชี่ยยยย!! เหลือกูคนเดียวส่วนพวกผู้หญิงวิ่งนำผมไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ กูสมควรอายไหมเนี้ยเป็นผู้ชายแต่วิ่งช้ากว่าผู้หญิง


“กูว่ามึงไปนั่งเถอะ ส่วนเรื่องวิ่งเดียวกูจัดการเอง”
“ไม่กูบอกว่ากูจะวิ่งเองไง กูยังไหวอยู่”
“ทำไมมึงดื้อจังวะ เชื่อๆ กูบ้างก็ได้ถ้ามึงเป็นไรขึ้นมาเดียวที่บ้านมึงก็มาเล่นงานพวกกูอีก”
“ไม่!! เดียวถ้ามีอะไรกูเคลียร์ป๊าเอง”
“งั้นแล้วแต่มึงล่ะกัน”

ผมก็ยังวิ่งต่อไป แต่ก็มีไอ้อิฐคอยวิ่งตามข้างหลังอยู่ตลอดสงสัยมันคงกลัวผมเป็นลมมั้ง แต่ผมไม่มีวันเป็นลมต่อหน้ามันหรอกไม่งั้นนะโดนมันล้อตายห่าเลย แล้วในที่สุดผมก็วิ่งมาถึง ชัยชนะครั้งนี้แลกมากด้วยหยาดเหงื่อกับลมหายใจที่กำลังจะหมดตาม

“อะมึง ยาดมไหวป่ะวะไอ้น้ำ ไปห้องพยาบาลก่อนไหมเดียวกูพาไป”
“ไม่เป็นไรมึงกูได้ยาดมก็โอเคแล้ว”
“ว่าแต่มึงวิ่งมาถึงตอนไหนเนี้ย”
“นานและมึงกูถึงคนแรกเลย”


คือมึงดูภูมิใจเนอะเค้าให้เลือกเพื่อนเพื่อมาดูแลกู กูเห็นแต่ไอ้อิฐเนี้ยที่ดูแลกูสรุปกูจะเลือกมึงมาดูแลกูเพื่อ!!


“เออกุดีใจด้วย แต่วันหลังมึงรอเพื่อนด้วยนะกูจะตายห่าอยู่ละ”
“ก็มึงวิ่งช้าอะ มึงดูดิขนาดผู้หญิงเค้ายังวิ่งถึงก่อนมึงเลย”

เออ!! ตอกย้ำกูเข้าไปกูอ่อนแอแล้วผิดตรงไหน


“น้องๆ ทุกคนใครที่วิ่งเสร็จแล้วก็ไปกินข้าวพักผ่อนก่อนนะ แล้วเดียวตอนบ่ายพี่จะนัดเรารวมตัวกันใหม่”

เดียวนะนี่ยังไม่หมดอีกหรอ ไหว้ละพี่ติณนาให้ผมกลับบ้านเถอะ

“ไอ้น้ำนมนี้ข้าวของมึงกับไอ้ซี”
“อ่าวแล้วพวกพิมพ์กับปูนละ”
“กูเอาไปให้มันแล้ว มันเป็นน้องกู กูก็ต้องดูแลมันก่อนมึงอยู่ล่ะ”

โห่วว มึงนี้ลำเอียงอย่างเห็นได้ชัดเลยนะไอ้อิฐ


“ไม่อะกูยังไม่ได้กินขนมปังที่มึงให้เมื่อเช้าเลย”
“แดกข้าวไปเหอะ นมปังมันจะไปอิ่มอะไร อีกอย่างมึงบ่นว่าขนมปังแค่นั้นจะไปพออะไรถูกไหม”
“ไอ้น้ำถ้ามึงไม่กินงั้นกูขอนะ กูหิวอยู่พอดีเลย”

แล้วไอ้ซีมันก็แย่งข้าวกล่องจากมือไอ้อิฐไป ไอ้อิฐก็ทำหน้า งงๆ


“มึงจะกินข้าวไหมเดียวเอาของกูให้ แล้วเดียวกูค่อยออกไปซื้อใหม่เอา”
“เห้ย!! มึงไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้ขนมปังแค่นี้กูก็อิ่มแล้ว”
“เอองั้นมึงก็กินเยอะๆ แล้วกันจะเอาอะไรก็บอกกู”
“ไม่เป็นไรขอบคุณ”

คือผมก็ไม่วายจะต้องกวนตีนมัน ทั้งที่มันก็พูดดีๆ กับผมนะก็ให้ทำไงกูติดนิสัยกวนตีนนิหว่าแล้วยิ่งคนอย่างไอ้อิฐนะ เวลากวนตีนมัน แล้วมันโกรธสนุกบอกเลย


“น้ำไม่กินข้าวหรอเดียวเราให้ปูนไปเอาให้”

พิมพ์กับปูนมันก็เดินมาถามผมนะ สงสัยเห็นหน้าผมเหนื่อยๆ ด้วยและมั้ง


“ไม่เป็นไรพิมพ์ขอบใจนะ ว่าแต่ปูนว่าจะถามตั้งนานแล้วทำไมไม่ค่อยพูดเลยวะ?”
“เอ่อ...คือเราเป็นคนเงียบๆ  อะ ถ้าไม่สนิทก็ไม่ค่อยจะคุยกับใครหรอก”

แสดงว่ากูต้องตีสนิทมึงก่อนใช่ไหมถึงจะพูด


“เออ ต่างจากไอ้อิ.. พี่อิฐลิบลับเลยเนอะ ไอ้นั้นอะพูดมาก  ชอบขึ้นเสียง ขี้แกล้ง นี่เราคิดนะว่าตอนแรกไม่ใช่พี่น้องกันแท้ๆ เพราะนิสัยไม่เหมือนกันเลย”
“ไม่หรอกน้ำ เอาจริงๆ พี่อิฐนิสัยดีนะ เป็นคนสุภาพ แต่เราก็ งง เหมือนกันเวลาทำไมเจอน้ำพี่อิฐถึงเปลี่ยนเป็นคนละคน”
“นี่พวกมึงกำลังนิทาอะไรกูอยู่?”

พอพวกกูพูดถึงเรื่องมึงนี้ได้ยินขึ้นมาทันทีเลย นึกว่ามีหูทิพย์


“เปล่าพี่อิฐ ปูนแค่เล่าว่า ปกติพี่อิฐไม่ใช่คนขี้แกล้.....”

เอ้าไอ้อิฐ มึงจะลากไอ้ปูนไปไหนเนี้ย มันก็แค่เล่าเรื่องมึงปะวะ ทำเป็นอายไปได้ แล้วผมก็เห็นมันลากไอ้ปูนไปคุยอะไรกันก็ไม่รู้ แล้วปูนมันก็เหมือนมองมาที่ผมแล้วทำหน้าเขินๆ

 
“น้องๆ เข้าแถวเร็วเดียวพี่จะปล่อยเรากลับบ้านแล้ว ถ้าเข้าแถวช้าพี่ก็จะปล่อยช้าตามนะจ้ะ”

รออะไรละครับพอพี่เค้าพูดว่ากลับบ้านเท่านั้นละ ทุกคนพร้อมใจเข้าแถวให้ไวเหมือนเรียน รด. กันมา แถวนี้ระเบียบสุด

 
“วันนี้ที่พี่ให้พวกเราวิ่งกันไม่ใช่จะแกล้งเราหรือทำโทษเรานะ แต่ที่พี่ให้วิ่งพี่จะดูว่าร่างกายของน้องแต่ละคนอยู่ในเกณฑ์ไหน และที่สำคัญที่พี่ให้น้องๆ เลือกเพื่อนมาดูแลพี่จะดูว่า คำว่าดูแล เพื่อนเราเข้าใจคำนั้นกันหรือเปล่า แต่สิ่งที่พี่เห็น ซี”

พี่ติดหันหน้ามาทางไอ้ซี ไอ้ซีทำหน้าเจือนสิครับ เหมือนรู้ว่าจะต้องโดนว่า


“พี่เห็นเราวิ่งไม่รอเพื่อนเราเลย ถ้าน้ำเป็นอะไรขึ้นมาจะทำไง?”
“ผมขอโทษครับ ผมไม่ได้คิดถึงเรื่องดูแลเลย ผมขอโทษครับ”

ไอ้ซีรีบยกมือไหว้ขอโทษใหญ่เลย ก็แน่ละ มึงเล่นทิ้งกูไวแล้วหายไปเลยไอ้เพื่อนเวรรร


“พี่ไม่ได้ว่าเรานะ แต่พี่อยากให้เรารับผิดชอบหน้าที่ของเราให้ดี และถ้าพวกน้องๆ สังเกตุนะคะ จะเห็นว่าพี่ที่ดูแลเราเค้าจะวิ่งตามอยู่ข้างหลังเราตลอดเพื่อที่จะเซฟน้องเผื่อน้องเป็นอะไร”

เออจริงว่ะตลอดทางเราก็ไม่ได้สักเกตุเลย เพิ่งจะมาสังเกตุตอนที่ไอ้อิฐมันวิ่งตามเราเนี้ยละ ว่าอยู่ทำไมมันถึงไม่ยอมวิ่งแซงเราขึ้นไปซักที

“งั้นวันนี้ทุกคนก็แยกย้ายกลับบ้านกันได้แล้วนะจ้ะ แล้วพรุ่งนี้ห้ามสายนะคะถ้าใครสายคงจะรู้นะคะว่าจะเกิดอะไรขึ้น”

ไม่รู้ แต่ที่รู้ๆ เจ้ติณนาเอาจริงแน่ เพราะฉะนั้นพรุ่งนี้เราห้ามสาย ถ้าสาย โดนเพื่อนเกรียดแน่นอนกู แล้วเสียงโทรศัพท์ผมก็ดังขึ้น โชว์เบอร์ลูกน้องป๊าสงสัยจะเก็บของเสร็จแล้วกำลังมา


“คุณต้นน้ำครับ ส่งพิกัดหอมาให้ผมหน่อยครับ”
“ได้ครับ งั้นเดียวผมส่งให้เลยนะครับ”

ผมก็รีบจัดแจงส่งให้เลย กลัวพี่เค้าจะรถติดแล้วมาช้า

“เสร็จและมึงไปไหนต่อวะ ไอ้น้ำ”
“คงไปรอลูกน้องป๊าที่หออะมึง วันนี้กูต้องย้ายของเก็บของเยอะไปหมด”
“ไปแดกข้าวกูก่อนดิ เดียวกูไปช่วยมึงเก็บเอง”

แหมะยื้นขอเสนอมาขนาดนี้กูจะไม่รับได้ไง ยิ่งขี้เกียจเก็บของอยู่ ดีงั้นยอมไปแดกข้าวกับมันก็ได้
“อะสรุปงั้นกูไปแดกข้าวกลับมึงก็ได้ แต่ถ้าไปแดกแล้วชิ้งกลับก่อนนะมึงโดนกูฆ่าแน่”
“เออ กูไม่ชิ้งมึงหรอกลูกผู้ชายคำไหนคำนั้นโว้ยยย”
“เห้ย! ปูน พิมพ์ ไปกินข้าวด้วยกันปะ”
“ไปสิๆ แต่ว่าเดียวรอพี่อิฐแปปนะพี่เค้าไปเอาของน่ะ”

นั้นไงกูว่าละว่าพวกพิมพ์ต้องไปกินกับไอ้อิฐมัน เอาไงดีวะชวนไอ้ซีหนีดีกว่า
ไม่อยากไปกินข้าวกับมันเดียวทะเลาะเหมือนครั้งที่แล้วอีก


“ซีๆ กูว่าไปก่อนเหอะวะมึง กูไม่อยากไปกินข้าวกับไอ้อิฐมันวะ กลัวมีปัญหาอีก”
ผมกระซิบบอกไอ้ซี มันก็ทำหน้า งงๆ แต่มันก็พยักหน้าตอบรับเข้าใจ

“อ่อ งั้นไม่เป็นไรพิมพ์เดียววันนี้ไอ้น้ำมันรีบอะ เพราะต้องย้ายของเข้าหอใหม่มันด้วย”
“อ้าว งั้นให้พิมพ์กับปูนไปช่วยไหมจะได้เสร็จไวๆ”

พิมพ์ถ้าพิมพ์ไปด้วยไอ้อิฐก็ต้องไปด้วยถูกไหม อีกอย่างไม่อยากให้มันเห็นของที่ผมเอามาเพราะเดียวจะคิดว่าผมเป็นพวกโอตาคุ ซึ่งถ้ามันเห็นกูโดนล้อแน่นอนว่าโตจะตายห่าแลล้วยังอ่านแต่หนังสือการ์ตูนเพราะฉะนั้นจะให้มันเห็นไม่ได้เด็ดขาด

“ไม่เป็นไรพิมพ์เกรงใจอะ เดียวเราให้ไอ้ซีไปช่วยก็ได้”

กูรีบบอกปัดให้ไวเลย


“โอเค งั้นเดียวเอาไว้เจอกันพรุ่งนี้นะน้ำ”

ดีนะที่พิมพ์ไม่ใช่ขี้ตื้อ มันงั้นผมคงรับมือรับบาก พอลำลากันเสร็จผมก็ไปนั่งกินข้าวกับไอ้ซีร้านเดิม

“มึงว่าแต่มึงไม่ชอบขี้หน้าอะไรไอ้พี่อิฐเค้านักหนาวะ กูก็เห็นเค้าดูแลมึงดีนิ”
“ไม่รู้วะมันชอบกวนตีนกู”
“ก็ที่เค้ากวนตีนมึงเนี้ย เพราะมึงไปกวนตีนเค้าก่อนไม่ใช่หรอไง ถ้ามึงไม่ไปกวนตีนเค้าแต่แรกเค้าก็ไม่แกล้งมึงกลับปะวะ”

ก็ใช่ของมันแต่กูก็ไม่ได้จงใจจะกวนตีนมันนี่หวา


“กูว่าเค้าชอบมึงวะ”
“....ไอ้เชี่ยซี!!”

ไอ้เชี่ยซีถ้ากูไม่เห็นว่ามึงเป็นเพื่อนนะกูต่อยมึงไปแล้วนะ กูจะไม่คุยกับมึงละนั่งแดกข้าวเงียบๆ คนเดียวไปเลยมึง


“เอ้า กูพูดจริงมึงไม่สักเกตุหรอวะ? ถึงเค้าจะแกล้งมึงขนาดไหน โกรธมึงขนาดไหน แต่เค้าก็ขอโทษมึงตลอดเลยนะ ยิ่งวันนี้ที่กูเห็นนะเค้าวิ่งตามมึงอยู่ข้างหลัง เค้าดูเป็นห่วงมึงมากเลยนะเว้ย”

อ้าวไอ้สัสแสดงว่ามึงเห็นกูจะเป็นลมตายห่าละแต่ไม่คิดจะช่วยกูเลยใช่ไหม

“แสดงว่ามึงเห็นกูแต่ไม่ช่วยว่างั้น”

กูเริ่มขึ้นละนะไอ้ซี

“เฮ้ยไม่ใช่ว่ากูจะไม่ช่วย กูแค่อยากพิสูทธิ์อะไรบางอย่างว่าพี่เค้าชอบมึงจริงหรือเปล่า
แล้วสิ่งที่กูเห็นทำให้กูยิ่งหมั้นใจว่าเค้าชอบมึงวะ”
“แล้วมึงเอาอะไรมาหมั้นใจวะ ว่าพี่เค้าชอบกู”

แล้วเสียงไลน์ในมือถือของผมก็ดังขึ้น


“มึงไม่มาแดกข้าวกับพวกกูหรอวะไอ้น้ำนม”

ไอ้ซีก็ชำเลืองตามองไปที่โทรศัพท์


“เชื่อกูหรือยังว่าพี่เค้าชอบมึง”

ไอ้เชี่ยยยยย ไอ้อิฐทักมานี่สรุปมึงชอบกูจริงๆ หรอวะคือถ้าไอ้ซีแม่งไม่พูด
ผมก็จะไม่คิดไงแต่นี่แม่งพูดให้กูคิดแล้วยิ่งอาการไอ้อิฐมันก็ใช่อย่างที่ไอ้ซีพูดทุกอย่าง
.
.
.
.
.
"นี่สรุปไอ้อิฐมันชอบผมจริงๆ หรือแค่ไอ้ซีมันคิดไปเอง แล้วทำไมต้องเป็นผมเนี้ยย"
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-07-2017 15:50:00 โดย Kratin »

ออฟไลน์ natsikijang

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 540
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-4
Re: รักแรกนายวิศวะ (ตอนที่ 2) 06/06/17
«ตอบ #6 เมื่อ06-06-2017 18:07:24 »

น้ำนมน่ารักดีนะ

เป็กำลใจให้นะคะ
ปล. คำผิด "เกรียด" = "เกลียด"

ออฟไลน์ Kratin

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 18
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
Re: รักแรกนายวิศวะ (ตอนที่ 2) 06/06/17
«ตอบ #7 เมื่อ06-06-2017 19:21:53 »

ขอบคุณมากๆ นะ จะพยายาม แล้วปรับคำผิดให้ดีขึ้น สัญญาเลย  :impress2: :impress2:

ออฟไลน์ Kratin

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 18
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
Re: รักแรกนายวิศวะ (ตอนที่ 2) 06/06/17
«ตอบ #8 เมื่อ07-06-2017 19:03:59 »

พรุ่งนี้มาเอาใจช่วยพี่อิฐกันนะ ว่าจะเอาชนะใจคนปากแข็งอย่างน้ำนมได้หรือเปล่า  :katai1: :katai1: :katai1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-06-2017 19:26:16 โดย Kratin »

ออฟไลน์ zeroj

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 565
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
Re: รักแรกนายวิศวะ (ตอนที่ 2) 06/06/17
«ตอบ #9 เมื่อ08-06-2017 00:34:21 »

อย่าลืมแปะกฎเล้าด้วยค่ะ คนเขียน

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: รักแรกนายวิศวะ (ตอนที่ 2) 06/06/17
« ตอบ #9 เมื่อ: 08-06-2017 00:34:21 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Kratin

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 18
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
Re: รักแรกนายวิศวะ (ตอนที่ 2) 06/06/17
«ตอบ #10 เมื่อ08-06-2017 07:16:31 »

ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

...

ขอบคุณค่ะ สำหรับการเตือนและข้อปฏิบัติ ขอโทษหัวหน้าเพจแล้วคนที่เข้ามาอ่านด้วยนะค่ะที่มาโพสกฏทีหลัง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-06-2017 07:23:56 โดย Kratin »

ออฟไลน์ Kratin

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 18
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
Re: รักแรกนายวิศวะ (ตอนที่ 3) 08/06/17
«ตอบ #11 เมื่อ08-06-2017 16:34:25 »

รักแรกนายวิศวะ #3



ทำไงดีไอ้อิฐทักมาจะทำไงดีวะเรา แล้วเรื่องที่ไอ้ซีพูดก็ยิ่งทำให้เราคิดเข้าไปอีกว่าแม่งชอบเรา จะตอบมันว่าอะไรดีวะ ถ้าเราบอกว่าอยู่ร้านข้าวจากนิสัยไอ้อิฐมันต้องมาหาเราแน่เลย แต่ถ้าบอกว่ากำลังย้ายของเข้าหอ มันก็ต้องมาช่วยเพราะดันอยู่หอเดียวกัน โอ้ยยยย!! ปวดหัวเว้ยเอาไงดีวะเรา อยากร้องไห้เกิดมาไม่เคยโดนจีบ เคยแต่ไปจีบเค้าแล้วคนที่มาจีบเสือกดันเป็นผู้ชายอีก


“เฮ้ยๆ ไอ้น้ำมึงเป็นไรวะมึงทำหน้าเครียดอย่างกับคนมีปัญหาเรื่องความรัก”
“เออ...เพราะมึงดิไอ้ซีกูเครียดเพราะมึงเนี้ยแหละ”
“ฮ่าๆๆ เครียดทำห่าอะไรละ ถ้ามึงไม่ได้คิดอะไรกับพี่เค้าก็นิ่งๆ ไปดิวะ หรือที่มึงเครียดเนี้ยเพราะมึงก็ชอบพี่เค้าเหมือนกัน?”
“ไอ้ เชี่ยยซี มึงเลิกล้อกูก่อนได้ไหม แล้วมึงก็มาช่วยกูคิดดิ๊ ว่ากูจะตอบว่าอะไรดี”
“งั้นเอางี้มึงก็บอกพี่แกไปว่ากินข้าวอยู่กับกู แกล้งถ่ายรูปไปให้พี่แกคิดว่า กูเป็นแฟนมึงเอากูเป็นไม้กันหมาไปก่อน”

เป็นความคิดที่ดีมาก ผมเลยรีบส่งไปบอกมันพร้อมกับถ่านรูปไอ้ซีที่นั่งตรงข้ามผมส่งไปให้ไอ้อิฐดู ว่าแต่มีจะแอ็คหล่อทำเพื่อ!!


“เค้าว่าไงบ้างวะมึง”
“อ่านแต่ยังไม่ตอบว่ะมึง”
“กูว่าพี่แกคงช็อคอยู่ ฮ่าๆๆ”
“ช็อคห่าอะไรละมานั่งกินข้าวกับเพื่อน”
“อะมึงลองนึกนะกูมานั่งกินข้าวกับมึงแค่สองคน เข้ามามหาลัยกูก็ตัวติดกับมึงตลอด เป็นใครก็คิดว่ากูกับมึงเป็นแฟนกัน”
“เพื่อนผู้ชายเค้าก็เป็นแบบนี้กันหมดปะวะ”
“ก็จริงของมึงที่โรงเรียนเราเป็นชายล้วน มันเลยเป็นเรื่องปกติ แต่ที่นี้มันไม่ใช่ไม่เชื่อมองลองมองคนในร้านดู”

ผมหันหลังไปมองคนในร้านข้าวซึ่งผู้หญิงในร้านต่างก็มองมาที่โต๊ะผม แล้วก็ซุบซิบกันบางคนก็แอบถ่ายรูปพอผมหันไปก็รีบทำเหมือนเซลฟี่ตัวเอง คือกูแค่มานั่งกินข้าวกับเพื่อนเนี้ยต้องคิดว่ากูเป็นคู่จิ้นด้วยหรอ


“ทีนี้มึงเชื่อกูยังว่าสายตาคนรอบข้างเค้าไม่ได้มองเหมือนที่มึงคิด”

คือผมก็ไม่คิดว่าคนอื่นเค้าจะคิดแบบนั้นไง หรือด้วยที่ว่าความหน้าตาดีของไอ้ซีแล้วหน้าตาผมที่มันดูหวาน มันเลยทำให้คนคิดว่าเราเป็นคู่จิ้นกันวะ?

“เอาเหอะมึง ทำใจวะแดกข้าวให้เสร็จๆ แล้วรีบไปขนของดีกว่าเดียวแม่งจะดึกซะก่อน กูอยากกลับไปพักด้วยวันนี้กูใช้แรงเยอะร่างกายกูต้องการเตียงนุ่มๆ”
“เออรีบๆ แดกขนของเสร็จเดียวกูว่าจะไปแดกเหล้าต่อ”

อีกแหละมึงนี่ไม่รู้จักคำว่าเหนื่อยบ้างหรอไง แดกเหล้าทุกวัน


“ว่าแต่พี่อิฐมึงตอบมึงมายังวะ?”

 มึงนี่ก็ชอบเสือกนะไอ้ซี


“ตอบมาแล้วมึง”
“เฮ้ย!! ตอบมาว่าไงวะ”
“รอก่อนเดียวกูไปหา”
“เชรดดดดดดด เพื่อนกูนี่สวยไปอีกไปถึงขั้นมีเดือนมหาลัยมาตามขายขนมจีบเลยว่ะ ฮ่าๆๆ”
“กูว่ารีบแดกมะ ไม่อยากเจอมันกลัวทำหน้าไม่ถูกว่ะมึง”
“เออๆ แล้วแต่มึงละกัน”

ผมก็รีบกินข้าวอย่าเรียกว่ากินดีกว่าครับเรียกว่ายัดดีกว่า คือกูรีบทั้งรีบไปขนของรีบหนีแม่งด้วยไม่อยากเจอไอ้อิฐมัน หลังจากนั้นผมก็รีบเช็คบิลแล้วก็ไปหอใหม่ให้เร็วที่สุด


“พี่ครับ ขอโทษนะครับที่ผมมาช้าผมไปกินข้าวกับเพื่อนอยู่”
“ไม่เป็นไรคุณต้นน้ำพี่รอได้ วันหลังคุณต้นน้ำไม่ต้องรีบขนาดนี้ก็ได้นะครับถ้าเป็นอะไรขึ้นมาเดียวเจ้านายเล่นงานผมตายเลย ว่าแต่ให้พวกผมขนของขึ้นไปที่ห้องเลยไหมครับ”
“ไม่เป็นไรครับพี่ เดียวผมขนกับเพื่อนก็ได้ครับ”
“แต่ร่างกายของคุณต้นน้ำไม่ค่อยแข็งแรงนะครับ ให้พวกผมช่วยเถอะครับ เดียวพวกผมจะโดนเจ้านายดุเอา”
“ไม่เป็นไรจริงๆ ครับพี่ ผมสัญญาครับว่าจะไม่บอกป๊าพี่กลับไปพักผ่อนเถอะครับ”
“ได้ครับคุณต้นน้ำ ไงอย่าลืมโทรบอกเจ้านายด้วยนะครับว่าถึงแล้วท่านเป็นห่วง”

ด้วยความที่ผมเป็นคนขี้โรคแต่เด็ก ป๊าผมเลยไม่ค่อยให้ผมออกจากนอกบ้านหรือทำกิจกรรมอะไรที่ใช้แรงเยอะซักเท่าไหร่เพราะกลัวผมเป็นอะไรขึ้นมา ส่วนที่จะย้ายผมโทรคุยกับป๊าเค้าก็ให้ผมมาอยู่โดยไม่ว่านะครับ ป๊าคงห่วงผมว่าตื่นเช้าทุกวันร่างกยจะทรุดเอาไปอยู่ใกล้ๆ มหาลัยหน้าจะดีกว่า แต่เรื่องที่ผมประกวดดาวเดือนยังไม่กล้าบอกป๊าเลย ถ้าป๊ารู้คงโกรธผมแน่นอน  เพราะฉะนั้นเรื่องที่เราประกวดจะบอกป๊าไม่ได้เด็ดขาด


“เออ มึงทำไมมึงไม่ให้พวกพี่เค้าช่วยวะ อุส่ามีคนมาขนของให้”
“กูก็อยากลองทำอะไรด้วยตัวเองดูบ้างไหมมึง จะให้กูเพิ่งแต่คนอื่นตลอดก็ไม่ได้ป่ะวะ”
“อะงั้นมึงจะให้กูช่วยทำไม?”
“เอ้า ก็มึงบอกให้ไปแดกข้าวเป็นเพื่อนแล้วจะช่วยกูขนของเองนิหว่า “
“กูพลาดอีกละ”
“อย่าบ่นไอ้ซี เสนอตัวช่วยกูเองก็รีบๆ ช่วยกูขนของอย่าช้าเดียวกูต้องจัดของอีก”
“คร้าบบบบบบ คุณหนูต้นน้ำได้ทีใช้กูใหญ่เลยนะมึง”

ก็มึงอาสาช่วยกูเองแล้วยังจะมาบนอีก แต่ถึงมันจะบ่นแต่มันก็ช่วยขนของจนเสร็จเหนื่อยชิบเป๋งเลย


“เออมึงกลับเลยก็ได้นะ เหลืออีกแค่กล่องเดียวเองเดียวกูขนขึ้นไปเองได้มึง”
“แน่ใจนะว่าไม่ให้กูช่วย?”
“เออรีบไปแดกเหล้าเหอะมึง แค่นี้เองกูไหว”
“งั้นกูไปก่อนนะเดียวเพื่อนกูรอ”

แล้วผมก็เดินขึ้นลิฟท์ไปพร้อมกลับกล่องสมบัตรของผม นั้นมันก็คือ...กล่องพวกอานิเมะกาตูนของผมเนี้ยแหละครับ ซึ่งเก็บซะสมมานานเป็นของที่ผมรักและไม่อยากให้ใครเห็นเพราะกลัวจะโดนล้อเอาว่ายังไม่โต ก็ผมชอบป่ะวะให้ทำไงได้


“รอด้วยครับ!!”

เสียงตะโกนออกมาจากนอกลิฟท์แล้วแม่งก็ยื้นมือมากั้นประตูลิฟท์ เค้าก็ไม่กลัวลิฟท์หนีบมือเลยเนอะรออีกตัวนึงลงมาก็ได้ไหมล่ะ

“อ้าว!! ไอ้น้ำนม”

เชี่ยยยอิฐมึงจะกลับมาหออะไรตอนนี้เนี้ย


“เออ...เอ่อ ว่าไงมึง”

เดียวๆ แล้วกูจะเกร็งทำไมวะเนี้ย

“ขนของหรอวะ?”
“เออ ใช่”
“มึงเป็นไรปะเนี้ยไม่สบายหรอ หน้าแดงๆ”

แล้วมันก็เอามือมาแตะที่หน้าผากผม

“ตัวอุ่นๆ สงสัยจะมีไข้”
“เฮ้ย!! อะไรของมึงเนี้ย!!”
“มึงอะเป็นอะไร กูแค่เช็คว่ามึงเป็นไข้หรือเปล่าทำไมต้องอารมณ์เสียด้วยวะ”
“กูไม่เป็นอะไร กูแค่เหนื่อยเชยๆ”
“เออ ก็บอกกันดีๆ ดิวะ”
“แล้วมึงไม่กดชั้นหรอไงจะไปชั้นไหนก็กดเอา มือกูถือของอยู่ไม่ว่างกดให้หรอกนะ”
“ให้กูช่วยถือไหมละ”
“ไม่ต้องอะกูถือเองได้”
“งั้นแล้วแต่มึงแล้วกัน”

ถึงชั้นที่ผมอยู่แล้ว ว่าแต่ไอ้อิฐมึงจะเดินตามกูมาทำไมวะคือกูไม่ได้เป็นอะไรไง


“มึงเดินตามกูมาทำไมเนี้ย?”
“ใครบอกกูโดนตามมึง”

ก็มึงเดินตามกูอยู่เนี้ยไอ้สัสส ทำไมรู้สึกภาพตรงหน้ามันรางๆ วูบๆ วาบๆ  วะ


“เฮ้ย!! ไอ้น้ำนมเป็นอะไร น้ำตื่นดิวะเฮ้ย!!”

นั้นคือภาพสุดท้ายที่ผมจำได้ก่อนที่ผมจะหมดสติไปแล้วตื่นมาอยู่ในห้องตัวเอง ที่สภาพของยังไม่ได้จัดแล้วก็มีอีกคนนั่งจ้องผมอยู่ตรงโต๊ะคอม


“เฮ้ยเป็นไงบ้างวะมึง ฟื้นแล้วหรอ”
“นี่กูอยู่ห้องตัวเองใช่ไหม?”
“เออดิอยู่ดีๆ มึงก็เป็นลมไป กูบอกมึงแล้วใช่ไหมว่าอย่าฝืนตัวเอง”

แล้วมันก็เดินมาหาผมที่เตียงพร้อมกับโน้มตัวลง เอามือแตะที่หน้าผากของผม ตอนนั้นผมหลับตาปี๋ เพราะคิดว่ามันกำลังจะทำอะไรผมแล้วถ้ามันทำอะไรผมจริงๆ ผมก็ไม่มีแรงที่จะขัดขืนมันด้วย เพราะตอนนี้ร่างกายของผมเหมือนโดนโซ่ลามจอมจำผมไว้ในคุกอัสคาบัน


“ไข้มึงขึ้นสูงกว่าตอนอยู่ในลิฟท์อีก ว่าแต่มึงหลับตาทำไม?”

เอาไอ้เชี่ยก็มึงเหมือนจะทำอะไรกูไหมละ


“เออ...กูไม่สบายไงกูอยากพักสายตา”
“อ๋ออ กูซื้อยามาให้มึงแล้วนะ”
“เท่าไหร่ เอาตังในกระเป๋ากูไป”
“ไม่เป็นไรกูซื้อมาให้ เออเดียวเรื่องของกูเก็บให้มึงนอนไปแล้วคอยบอกกูว่าอะไรจะเอาไว้ตรงไหนบ้าง”
“เฮ้ย!! ไม่เป็นไร”

ผมพยายามดันตัวเองขึ้นมาเพราะไม่อยากให้มันมายุ่งกับของของผม


“มึงจะดื้อไปไหนเนี้ย คนป่วยหน้าที่ของมึงก็คือนอนไม่ใช่ลุกมาเก็บของ”

แล้วมันก็ผลักหัวผมลงไปบนเตียง


“ก็เดียวกูเก็บเองพรุ่งนี้กูก็เก็บได้กูไม่รีบ”
“แล้วพรุ่งนี้มึงจะหายไข้เลยว่างั้น มึงนอนเหอะถ้ามึงไม่นอนละก็...”
"ทำไมมึงจะทำไมกูมิทราบ!?"

มันก็ค่อยๆ เอาหน้าเข้ามาใกล้ๆ ครั้งนี้ผมไม่หลบตามันผมเลยจ้องเข้าไปในตาสีน้ำตาลของมัน


“อย่าหาว่ากูใจร้ายละ”

เชี่ยยยยยยยยย!! มึงทำแบบนี้มึงคิดว่ากูกลัวหรอ แต่ตอนนี้ผมรู้สึกว่าตัวร้อนขึ้นอีกสิบระดับเลย


“มึงไข้ขึ้นอีกแล้วหรอ หน้ามึงแดงเนี้ย”
“เออ กูไข้ขึ้น มึงอยากจะทำอะไรก็เรื่องของมึงเหอะ!!”
“แค่นี้ก็จบ ชอบให้ลงไม้ลงมือ”

มันก็ค่อยๆ เริ่มเก็บของผม ผมก็สั่งมันเอาไว้ตรงนั้นตรงนี้


“มึงกูขอถอดเสื้อออกนะ”
“เออได้ดิอยากถอดก็ถอด”

ซึ่งผมก็ไม่ได้คิดอะไรก็ลุกขึ้นมานั่งเล่นโทรศัพท์ตามปกติ แล้วที่มันบอกว่าจะถอดเสื้อผมก็นึกว่ามันจะถอดเสื้อช็อปมันออกแต่หันไปคือมันถอดเสื้อตัวในออกด้วย


“เชี่ยยย นี่มึงทำอะไรของมึงเนี้ย!!”
“ก็ถอดเสื้อไง”

มันทำสงสัยเหมือนเด็กงงว่าเราทำอะไรผิดหรอเธอ


“เออกูรู้ว่ามึงจะถอดเสื้อ แต่กูคิดว่ามึงจะถอดเสื้อช็อปไม่ใช่ถอดเสื้อตัวข้างในโว้ยย!!”
“เอ้า ก็มึงบอกว่าถอดได้กูก็ถอด อีกอย่างแม่งก็ร้อนด้วย”
“ร้อนมึงก็เปิดแอร์สิ แอร์กูก็มี”
“มึงไม่สบายแล้วจะให้กูเปิดแอร์ได้ไง เดียวไข้มึงก็ขึ้นอีก”

โอ้ยยย คือกูต้องทนอยู่ในสภาพที่เดือนมหาลัยถอดเสื้อเก็บของให้กูเนี้ยนะ ถ้าใครเข้ามาเห็นสภาพนี้เค้าก็คิดว่ามึงเสร็จกิจกรรมการออกกำลังในร่มไหมละไอ้เชี่ยยย

“มึงมองอะไรไอ้น้ำ”
“เปล่ากูก็มองของไงว่ามึงเก็บถูกหรือเปล่า”
“เปล่ากูมองของ คือสรุปมึงมองหรือมึงไม่ได้มองกันแน่”
“เออกูพูดผิดสมองกูเบลอไงกูไม่สบาย”

ผมรีบอ้างว่าเป็นไข้เลย ที่จริงผมก็มองมันแหละคือคนเหี้ยอะไรหล่อด้วย หุ่นดีด้วย เป็นเดือนอีก ครบเลยสัสผู้หญิงคงเข้ามาเสนอตัวให้มันเยอะแน่ๆ ว่าแต่ผมจะมองหุ่นมันทำไมเนี้ย โอ้ยยยยย กูเป็นอะไรของกูกันแน่ไอ้น้ำ


“เป็นไรเปล่าวะไอ้น้ำ หน้ามึงเครียดๆ นะ”
“เปล่าๆ กูแค่เครียดว่าพรุ่งนี้กูจะไปซ้อมได้ไหม”

กูเครียดเรื่องมึงอะแหละไอ้เชี่ยอิฐ


“อ่อเรื่องนั้นไม่ต้องห่วงกูไลน์ไปหาพี่ติณพร้อมกับส่งรูปตอนมึงป่วยไปแล้ว”
“ห้ะ!? มึงถ่ายรูปตอนกูนอนป่วยไปเนี้ยนะ?”
“เออดิเดียวเค้าไม่เชื่อว่ามึงไม่สบายไง”
“เอารูปมาดูดิ๊ หน้ากูทุเรศปะเนี้ย”

มันก็เปิดโทรศัพท์ของมันพร้อมยื้นรูปมาให้ดู ในรูปคือกู นอนไม่สบายอาปากพะงาบๆ อยู่แล้วมันก็ชูสองนิ้วยิ้มให้กล้อง เหมือนกำลังถ่ายรูปคู่กับสัตว์ที่อยู่ในสวนสัตว์ดุสิต นี่มึงมาดูแลกูหรือมาแบล็คเมล์กู


“นี่มึงถ่ายไว้แกล้งกูใช่ไหม?”
“เปล่า...กูถ่ายรูปไปเป็นหลักฐานไงว่ามึงไม่สบายจริงๆ”
“เออ เรื่องของมึง!!”
“อย่าลืมกินข้าวต้มละ จะได้กินยา”
“เดี๋ยวนะนี้กูหลับไปนานขนาดนั้นเลยหรอ มึงถึงมีเวลาไปซื้อข้าวซื้อยามาให้กูเนี้ย”
“ก็...เกือบสองชั่วโมงนะมึง”
“ห้ะ!! เกือบสองชั่วโมงแล้วมึงก็นั่งเฝ้ากูแบบนี้เกือบสองชั่มโมงอะนะ”
“ใช่”

มันตอบสั้นๆ ง่ายๆ แบบเออใช่แล้วจะทำไม


“ว่าแต่กล่องนี้มึงจะเอาไว้ไหน?”

เชี่ยยยกล่องสมบัตรกู


“ไม่ต้องมึงว่างเลย เดียวอันนั้นกูเก็บเองมึงไม่ต้องยุ่ง”
“ก็เดียวกูเก็บให้บอกมาว่าว่างตรงไหน”
“ก็บอกว่าให้วางลงไง!!”
“มึงจะหวงอะไรนักหนาวะ กับอีแค่หนังสือแล้วก็โมเดลการ์ตูน” 

นี่มึงเห็นแล้วหรอ งานนี้กูโดนมันล้อว่าเป็นเด็กแน่เลย


“นี่มึงเห็นได้ไง!?”
“ก็ตอนมึงเป็นลมล้มอยู่หน้าห้อง กล่องมึงก็ตกพวกหนังสือโมเดลของมึงก็ออกมากองอยู่ข้างนอกหมด”
“เอิ่ม...มึงคงมองว่ากูเป็นเด็กสินะที่ชอบสะสมของอะไรพวกเนี้ย”

ผมเตรียมใจโดนมันล้อไปจนลูกบวชแน่นอน


“ไม่นะแต่ละคนก็มีความชอบไม่เหมือนกัน มึงเป็นแบบนี้ของมึงก็ดีอยู่แล้วไม่เห็นต้องสนใจเลยว่าใครจะมองมึงอย่างไง”

ผิดคาดว่ะ ไม่หน้าเชื่อว่าคำนี้จะหลุดออกมาจากไอ้อิฐมัน ปกติมึงต้องล้อกูแล้วนิ


“มาแปลกว่ะ”
“แปลกไงวะ”
“ปกติมึง มึงจะต้องล้อกูไปแล้ว และอีกอยย่างวันนี้มึงก็เรียกกูน้ำ ไม่ใช่ชื่อที่มึงตั้งให้”
“ก็มึงไม่สบายกูไม่อยากแกล้งคนป่วย”

เชรดดดดด คนอย่างอิฐมันมีจิตสำนึกอันดีงามกับเค้าก็เป็นเว้ยย


“สรุปมึงจะเอาวางไว้ไหน กูจะได้จัดให้”
“เอาไว้บนชั้นก็ได้”
“โอเค เสร็จแล้วงั้นกูกลับห้องก่อนนะ”

แล้วมันก็เดินออกจากห้องผมไปทั้งสภาพถอดเสื้อแบบนั้น

“เฮ้ย!! ทำไมมึงไม่ใส่เสื้อก่อนออกไปวะ”

ผมเดินไปที่หน้าประตูดูว่ามันจะออกไปสภาพนี้จริงๆ หรอ


“มีไร ออกมาทำไมเนี้ย ไปนอนพัก!!”
“แล้วทำไมมึงไม่ใส่เสื้อผ้า เดียวเค้าก็หาว่ามึงเป็นคนบ้าหรอก”
“ใส่ทำไมห้องกูอยู่แค่นี้เอง”

 แล้วมันก็ชี้ไปที่ห้องตรงข้ามห้องผม  ห้ะ!! เดี๋ยวก่อนนะนี่มึงอยู่ห้องตรงข้ามกูหรอทำไมไม่บอกกูก่อน กูจะได้ย้ายไปชั้นอื่น

“เป็นไรทำหน้าตกใจทำไม มึงไม่รู้หรอว่าห้องกูอยู่ตรงข้าม?”

ถ้ารู้กูจะตกใจไหมละไอ้เชี่ยย


“เออถ้ารู้กูก็ย้ายไปห้องอื่นนานละ”
“โห่ววว พูดจาโหดร้ายอีกแหละ แต่ไงก็ยินดีที่ได้รู้จักนะครับเพื่อนบ้านใหม่”

มึงไม่ต้องมายิ้มให้กูเลย แล้วกูก็ไม่อยากเป็นเพื่อนกับมึงด้วย อะไรวะเนี้ยสรุปจะหนีไม่พ้นมันจริงๆ ใช่ไหม


“มึงเข้าห้องมึงไปได้ละ กูจะไปนอนละปวดหัว”
“ค้าบบบบบ”

จะทำเสียงอ้อนหาพระแสงเลเซอร์ทำห่าอะไร

“พี่อิฐ เข้าห้องไหมได้ยินเสียงยืนจีบกันอยู่นานละ”

ปูนคือถ้ามึงจะเปิดประตูออกมาตามพี่มึงกูก็ไม่ว่าหรอกนะ แต่บอกว่ากูยืนจีบกันนี่คืออะไร แล้วไหนมึงบอกว่าถ้าไม่สนิทจะไม่ค่อยพูดนี้มึงแซวกูเลยนะเนี้ย


“จีบห่าอะไรมึงปูน กูแค่มาช่วยมันจัดของที่ห้อง”
“หร๊อออออ ดูจากภาพผมว่าพี่ไม่ได้แค่ช่วยจัดของหรอกมั้ง?”

อื้ม!! มันจะคิดงั้นก็ไม่แปลกเพราะไอ้อิฐอยู่ในสภาพถอดเสื้อ ถ้าเป็นกูก็คิดว่าเพิ่งเข้าจังหวะกันเสร็จ


“เออ กูร้อนไงมึงก็อย่าถามเซ้าซี้ได้ไหม เดียวกูก็ให้มึงออกมานอนนอกห้องเลยไอ้ปูน”
“ถ้านอนนอกห้องจริงงั้นผมไปนอนกับต้นน้ำมันนะพี่เพราะไม่มีที่นอน”
“งั้นมึงนอนในห้องไปแหละเดียวกูไปนอนกับไอ้น้ำเอง ฮ่าๆๆ”

คือพวกมึงคุยอะไรกัน แล้วพวกมึงถามกูหรือยังว่ากูจะให้มานอนไหม? คือเจ้าของห้องยืนหัวโด่อยู่เนี้ยมึงสนใจกูซักนิด ทำอย่างกับกูเป็นอากาศธาตุเลยไอ้พวกเวร


“เออ...ปูนพออยู่กับอิฐแล้วดูพูดเยอะขึ้นเลยเนอะ”

ผมยิ้มให้มันแบบแหงๆ จนพวกมันสัมผัสได้ว่ากูเริ่มไม่พอใจละเล่นห่าไรกัน


“อ่อ เราอยู่กับพี่อิฐเราก็เป็นแบบเนี้ยแหละ คนอื่นเราก็ไม่กล้าหรอกจริงๆ”

เอ๋ ไเหมือนเมื่อกี้มึงเพิ่งแซวกูไม่ใช่หรอ ไม่กล้าห่าอะไรของมึง


“เออ มึงเข้าห้องไปได้แล้วไป๊ แล้วก็อย่าลืมแดกยาด้วยละ”

เออสั่งกูจังมึงเป็นป๊ากูหรอไง ป๊ากูยังไม่เคยสั่งขนาดนี้เลย


“อื้มๆ”


ผมก็ปิดประตูแล้วมานั่งที่โต๊ะอาหารเพื่อจะแกะข้าวต้มที่มันซื้อมาให้กิน นั่งแกะไปก็คิดไปว่าไอ้อิฐมันก็ดีนะ ช่วยเหลือทุกอย่างตั้งแต่ที่ผมเข้ามาเรียนที่นี้ แต่แม่งก็เสียอย่างเดียวคือชอบแกล้งผมไปหน่อย

“เดียว!! กูยิ้มทำไมเนี้ยไอ้น้ำ ไม่ได้มันเป็นผู้ชายเราก็เป็นผู้ชาย แบบนี้มันไม่ถูกดิวะ”


ผมลองเอามือไปจับที่หน้าอกข้างซ้ายของตัวเองดู ตอนนี้หัวใจผมมันเต้นแรงมาก มากที่กว่าตอนที่ผมไปวิ่งรอบสนามมาอีก แต่จะมาใจเต้นอะไรกับไอ้อิฐวะกู

“ไม่ดิ กูไม่ได้ชอบมันกูชอบผู้หญิง ไอ้ต้นน้ำเลิกใจเต้นได้แล้ว”

ผมนั่งพูดกับตัวเองในห้องถามตัวเองตอบตัวเอง คือถ้าใครเข้ามาเห็นผมในสภาพนี้คงคิดว่าผมเป็นบ้า แล้วเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น ไอ้ซีโทรมาทำไรวะ ผมหันไปดูนาฬกานี่มันก็จะห้าทุ่มละนะ สงสัยมันจะมึงเรื่องอะไร


“ฮัลโหลว่าไงมึง”๋
“ไอ้เชี่ยน้ำมึงเป็นไงบ้าง!!!”

เดี๋ยวๆ  มึงเป็นอะไรเนี้ยอยู่ๆ ก็มาตะโกนใส่กู


“เดี๋ยวก่อนไอ้ซีมึงตกใจอะไรของมึง?”
“ก็ไอ้พี่อิฐโทรมาบอกกูว่ามึงไม่สบายเป็นลมกูเลยรีบโทรมาหามึงเนี้ย” 

ไอ้อิฐมึงจะไปบอกมันทำไม!


“เออกูไม่ได้เป็นอะไรมากแล้วมึง ไอ้อิฐมันซื้อข้าวต้มซื้อยามาให้กูแล้ว”
“ห้ะ ซื้อข้าวซื้อยามาให้มึง แล้วมึงไปเจอกันอย่างไง  แล้วพรุ่งนี้มึงจะไปถ่ายโปสเตอร์ได้ป่ะวะ ให้กูไปรับไหม หรือให้กูไปนอนเป็นเพื่อนไหม”

คือมึงถามกูเป็นชุดกูควรจะตอบข้อไหนก่อนดีหรือว่ากูว่างสายจากมึงเลยดีไหม กูไม่สบายอยู่ไหมถามกูอะไรเยอะแยะไอ้เชี่ยซี


“มึงใจเย็นๆ นะเอาที่ละข้อกูตอบไม่ทัน ข้อแรกพรุ่งนี้กูจะพยายามไปให้ได้ ข้อที่สองมารับกูก็ดีเพื่อกูตายกลางทาง ข้อที่สามไม่ต้องมานอนกูอยากพักผ่อน ข้อที่ห้ากูเจอมันที่ลิฟท์เพราะอยู่หอเดียวกัน ส่วนข้อสุดท้ายกูเป็นลมหน้าห้องแล้วมันก็พากูเข้ามาที่ห้องซื้อนู้นนี้นั้นมาให้และห้องเสือกอยู่ตรงข้ามกัน”
“ข้ออื่นกูเข้าใจนะแต่ข้อห้ากับข้อสุดท้ายมึงนี่....”

ผมได้ยินเสียงขำของมันรอดมาจากอีกปลายสาย


“อะไรมึง กูก็ไม่รู้ว่ามันอยู่ตรงข้ามกูป่ะวะ ถ้ารู้กูจะมาอยู่ห้องนี้ไหม”
“อ่อหร๊ออออออออ”

 เชื่อกูเถอะกูไหว้ละไอ้เชี่ย


“เอออ ไอ้สัสแค่นี่ใช่ไหมกูนอนก่อนนะ ต้องการพักผ่อน”
“งั้นมึงไปนอนเหอะ เดียวพรุ่งนี้กูโทรไปปลุกถ้าไหวก็มาไม่ไหวเดียวกูบอกพี่เค้าให้”

เชรดดดดด  รู้ใจกูไปอีกอยากจะบอกว่าไม่ไปนะแต่เห็นหน้าพี่ติณนาลอยมาแล้วรู้สึก กูควรไปไม่งั้นกูได้ตายแน่นอน

“ขอบใจมากมึง แค่นี้แหละ”

ผมรีบว่างสายเลยกลัวแม่งถามอะไรมากมายเกี่ยวกับไอ้อิฐอีก ว่าไปกูเอาแต่พูดกับตัวเองอยู่นิหว่า ยังแกะข้าวต้มไม่เสร็จ หลังจากผมกินข้าวกินยาเสร็จก็ลงมานอนที่เตียงเหมือนว่าฤทธิ์ยาจะเริ่มออกแล้ว ตาผมเริ่มจะปิดทีละนิดๆ

 ครืด....ครืด...ครืด~


“ใครแม่งโทรมาตอนนี้วะ คนจะหลับจะนอน!!” 

ด้วยความที่ไม่อยากลืมตาขึ้นมารับก็ใช้วิธีควานหาโทรศัพท์เอาแล้วกัน


“ฮัลโหล!! จะนอนแค่นี้นะ”
“เฮ้ยเดียวดิวะ!! มึงจะรีบนอนไปไหนเนี้ย”
“ใครเนี้ย!?”
“กูอิฐคนที่มึงมองตอนถอดเสื้อไง”

เชี่ยยยยยย!! ผมรีบลุกคนมาแล้วมองหน้าจอโทรศัพท์คือมันคอลไลน์มา


“แล้วมึงโทรมาทำไหมตอนนี้กูจะนอนแล้ว”
“ก็ไม่คิดว่ามึงจะรับ แค่ลองโทรมาดูเล่นๆ”

เล่น? มึงไปเล่นตรงนู้นไป โทรมาไม่ดูเวล่ำเวลาไอ้ห่า


“อ๋อ...แล้วมีอะไรอีกไหมหรือมีแค่นี้?”
“ไม่มีอะไร”
“อ้าว อะไรของมึงถ้ามึงจะโทรมาเล่นๆ ไม่ต้องโทรมาคนเค้าจะนอน!!”
“กูแค่จะโทรมากบอกมึงว่า ฝันดีนะ แค่นี้แหละ”

ตุ๊ด... ตุ๊ด...ตุ๊ด~

อ้าวไอ้เชี่ย มาถึงก็วางระเบิดกูแล้วมึงก็ตัดสายหายไปเลยคืออะไร!! กูอุส่าจะหลับแล้วเลิกคิดเรื่องมึงนี่มาทำให้กูคิดมากก่อนอนอีก แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าผมรู้สึกดีแบบแปลกๆ ทำไมอยู่ดีๆ ความรู้สึกนี้มันคืออะไรวะ กูควรทำอย่างไงต่อดี
โอ้ยยยยยยยยยยยยย ไอ้เชี่ยนอิฐกูเกลียดมึง


“ใจเย็นต้นน้ำ ใจเย็น ใจเย็น....เย็นไม่ไหวแล้วโว้ยยยยยย!!”

จากนั้นผมก็เหมือนคนที่กินกาแฟมาแล้วนอนไม่หลับนอนกลิ้งไปกลิ้งมาคิดหาเหตุผลทุกๆ อย่างที่ไอ้อิฐมันเข้ามาในชีวิตผมแล้วทำดีกับผม แต่มันดันมีคำๆ หนึ่งที่มันติดอยู่ในหัวผมแล้วเอามันออกไปไม่ได้ซักที
.
.
.
“กูแค่จะโทรมาบอกมึงว่าฝันดีนะ”
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-06-2017 17:16:15 โดย Kratin »

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
Re: รักแรกนายวิศวะ (ตอนที่ 3) 08/06/17
«ตอบ #12 เมื่อ08-06-2017 20:48:00 »

พี่อิฐ น้ำนม  :กอด1: :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ Kratin

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 18
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
Re: รักแรกนายวิศวะ (ตอนที่ 3) 08/06/17
«ตอบ #13 เมื่อ09-06-2017 18:54:08 »

ถ้าตอนจบพี่อิฐไม่ได้เลือกน้ำนมทุกคนจะโกรธเราไหม  :o12: :o12:

ออฟไลน์ Kratin

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 18
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
Re: รักแรกนายวิศวะ (ตอนที่ 4) 12/06/17
«ตอบ #14 เมื่อ12-06-2017 17:28:03 »

รักแรกนายวิศวะ #4


แล้วคืนที่แสนโหดร้ายของผมก็ผ่านไปด้วยการที่ไม่ได้นอนเลยดูนาฬิกาตอนนี้ก็ประมาณหกโมงครึ่ง ผมเลยตัดสินใจลุกออกจากเตียงไปอาบน้ำเผื่ออมันจะไปล้างความทรงจำเมื่อคืนนี้ออกได้ กูแค่จะโทรมาบอกมึงว่าฝันดีนะ โอ้ยยยย! ทำไมผมต้องคิดถึงแต่คำนี้ด้วยเนี้ย แล้วถ้าวันนี้ไปเจอมันจะทำหน้าอย่างไงดีวะ ทำหน้าไม่ถูก หรือคุยกับมันปกติดี?


“เลิกคิดต้นน้ำ เลิก  คิด!!”

บอกกับตัวเองเสร็จผมก็เดินหยิบผ้าขนหนูเข้าห้องน้ำ ออกมาก็ยังมีเวลาเหลืออีกตั้งเยอะทำไรดีวะ นั่งอ่านการ์ตูนรอเวลาไปถ่ายโปสเตอร์ดีกว่า ถามว่ากูมีสมาธิอ่านไหม บอกเลยว่าไม่ ออกไปที่กองประกวดรอเวลาดีกว่ามั้ง ไม่รู้จะทำอะไรไม่มีกะจิตกะใจทำอะไรเลย


“พี่ครับไปหน้ามอครับ”

ผมเรียกวินไปมหาลัยเพราะมันไม่ไกลจากหอซักเท่าไหร่


“เท่าไหร่ครับพี่”
“สิบบ้านครับ”

เชี่ยย ถูกไปอีกนี่กูนั่งวินหรือนั่งรถเมล์มาเนี้ย

“อ่าวน้องต้นน้ำใช่เปล่า?”

เสียงนี้หรือว่า

“พี่ติณนาสวัสดีครับพี่”

เจ้ติณนาดาวมหาลัยนี่เอง

“เรามาทำอะไรแต่เช้าเนี้ย นี่เจ็ดโมงครึ่งเองนะ”

จะบอกว่าโดนบอกฝันดีแล้วนอนไม่หลับก็พูดไม่ได้ไหมกู เดียวโดนถามอีกว่าใครเป็นคนบอกฝันดี


“คือผมนอนไม่ค่อยหลับอะครับพี่ ยังไม่ค่อยชินกับห้องใหม่ซักเท่าไหร่”

แถไปสิไอ้ต้นน้ำ


“อ๋อ...ว่าไปไข้ของเราลดแล้วหรอเมื่อวานเห็นอิฐมันถ่ายรูปมาให้พี่ดูอยู่ว่าเราเป็นลม”

คือพี่ไม่ต้องพูดถึงชื่อมันได้ไหมอะ เดียวไอ้คำว่าฝันดีมันก็ลอยเข้ามาอีก


“ครับพี่ มันก็ยังไม่หายหรอกครับ แต่ไม่อยากทำให้ที่กองประกวดเค้าเดือดร้อนกันอะครับ”
“อุ๊ย...เป็นเด็กที่น่ารักมากคิดถึงส่วนรวมด้วย”

คือเหมือนพี่เค้าจะชมนะแต่ก็เหมือนจะด่าว่าหน้าอย่างกูไม่มีความรับผิดชอบ


“ไม่หน้าละทำอิฐมันถึงชอบพูดถึงเราบ่อยๆ”

หืออออ อิฐมันพูดอะไรถึงกูอีกล่ะ

“ว่าแต่ไอ้ เอ่อ...พี่อิฐอะครับมันพูดอะไรถึงผมหรอ?”

ต่อมเผือกกูแตกแหละนะพี่ติณนา ถ้าไม่บอกกูโบกวินกับหอนะบอกเลย


“มันก็บอกว่าเราน่ารักนะ แต่ชอบกวนประสาทมัน แล้วก็ขี้บ่น ดื้อ ขี้โรค อ่อนแอ”
“โอเคครับพี่ ผมเข้าใจแล้วครับ”

ในใจผมคือพี่ติณเลิกพูดเถอะ ตอนแรกเออก็นึกว่าแม่งจะพูดถึงกูในด้านดีๆ เห็นบอกว่ากูน่ารักไอ้เวรนี้มึงด่ากูล้วนๆ ไม่มีอะไรที่บ่งบอกว่ากูน่ารักเลยไอ้อิฐ แล้วผมจะเอาเรื่องนี้มาใส่ใจทำไมวะมันก็เรื่องปกติของมันที่กวดตีนผมอยู่แล้ว อาการเริ่มไม่ไหวแล้วมั้งต้นน้ำไปหาหมอจิตเวชไหมกู


“น้ำเราจะเข้าไปพร้อมพี่เลยไหมจะได้แต่งหน้ารอถ่ายโปสเตอร์ก่อน”
“ได้ครับ ว่าแต่มีใครอยู่บ้างหรอครับ?”
“ก็พวกพี่ๆ ที่กองประกวดแล้วก็ชั่งแต่งหน้าแหละ”
“แล้ว...พี่อิฐมันอยู่ด้วยไหมครับ?”

กูจะไปถามถึงมันทำไมวะ


“อ่อ อิฐอะหรอยังไม่มาหรอกเห็นบอกว่าจะมาพร้อมปูนมั้ง พูดถึงมันแล้วโทรหามันดีกว่ามันชอบลีลากว่าจะมา”

ไม่ต้องโทรหามันหรอกพี่เดียวมันเสร็จมันก็มาเองแหละ อีกอย่างถ้ามันมาผมก็ไม่รู้จะทำหน้าอย่างไงด้วยเนี้ย

“อิฐตื่นหรือยัง?”

ผมก็ทำเป็นเดินไปเดินมา ไปยืนข้างหลังเจ้ติณเพราะอยากรู้ว่าคุยอะไร คือกูเผือกอีกแล้ว?


“ยังไม่ตื่นเลยอะติณ”
“รีบตื่นแล้วแต่งตัวมาได้แล้ว นี่น้องกองประกวดมารอแล้วเนี้ย”
“น้องไหนทำไมมันมาเช้าจัง ยังไม่ถึงเวลานัดเลยอีกตั้งเกือบชั่วโมง”
“น้องต้นน้ำเค้ามาก่อนเธออีกพ่อคุณ”


แล้วไปบอกเค้าทำไมว่าผมอยู่ด้วยพี่ติณณณ! กูไม่เข้าใจโว้ยเดียวแม่งก็มาหรอก


“โอเคงั้นอีกยี่สิบนาทีเจอกัน”

“พี่ติณครับ คือผมขอเข้าไปข้างในก่อนได้ไหมครับ”
“เอ้ารออิฐเป็นเพื่อนพี่ก่อนสิยังเหลือเวลาอีกตั้งเยอะแน่ะ เดียวไปรออิฐกับพี่ที่แมคก่อนก็ได้”

ที่ผมขอตัวเข้าไปก่อนเนี้ยเพราะไม่อยากจะเจอหน้ามัน ไม่รู้จะทำอย่างไง คือไม่รู้จะทำตัวอย่างไงโว้ยยยยย


“อ่อ คือผม...”
“ไม่ต้องรีบหรอก ปะเดียวพี่พาไปเลี้ยงข้าวเช้าเองดูจากหน้าแล้ว ยังไม่ได้กินอะไรมาใช่ไหมละ”

แล้วนางก็เดินจูงมือผมเหมือนจูงหมาไปที่แมค


“อะอยากกินอะไรสั่งเลยนะ ถือซะว่าพี่เลี้ยงที่เรามาเร็วแล้วมีความรับผิดชอบแล้วกัน”

ปกติผมก็ไม่ใช่คนมาเร็วอยู่แล้วไง ที่มาเร็วเพราะนอนไม่หลับ แล้วก็ไม่รู้จะทำอะไร


“งั้นผมเอาอันนี้แล้วกันครับ”
“เฮ้ย สั่งเลยไม่ต้องเกรงใจแค่นี้ไม่พออิ่มหรอก พี่คะ”

ผมไม่อยากกินเยอะไงพี่ติณกินไม่ลง ยิ่งรู้ไอ้คนที่มันทำให้ผมนอนไม่หลับกำลังมายิ่งไม่อยากกินเลย อยากไปแกล้งยืนเป็นหินกับพี่แมคโดนัลจริงๆ


“เอาอันนี้สองคะ และก็อันนี้อีกหนึ่ง แล้วก็น้ำสองแก้วนะคะ”

เจ้ๆ นี่คิดว่าเจ้หิวแล้วละคงไม่ใช่ผมหิวคือสั่งเยอะอะไรขนาดนั้น


“พี่ติณครับ สั่งมาเยอะขนาดนี้ผมกินไม่หมดหรอกครับ”
“ไม่เป็นไรๆ เดียวอิฐมามันก็ช่วยกินเองแหละ”

อ๋อออออ คือแบบอ๋อเบอร์ใหญ่อะ ว่าอยู่ทำไมสั่งเยอะเผื่ออมันนี่เอง

ครืด...ครืด...ครืด~

เสียงโทรศัพท์ผมดังขึ้น พระเจ้าไอ้ซีโทรมา มึงคือเทวดาของกูแท้ๆ เลย กูจะตอบแทนมึงด้วยการเลี้ยงเหล้ามึงเอง แต่เทวดาเค้ากินเหล้าด้วยหรอวะ? ชั่งมันก่อนตอนนี้ต้องรีบหาวิธีออกจากตรงให้เร็วที่สุด

“พี่ติณครับ ผมขอออกไปคุยโทรศัพท์ข้างนอกก่อนนะครับ”
“เอาเลยๆ ไม่ต้องเกร็งนะ”
“ฮัลโหลมึงอยู่ไหนแล้วไอ้ซี?”
“อ้าว ทำไมวันนี่มึงตื่นเร็วจังวะ?”
“เออ ก็เมื่อคืนนอนไม่หลับดิมึง”
“คิดมาเรื่องไอ้พี่อิฐมันอะดิ”

รู้ดี!!

“มึงอะรีบมาได้แล้วกูอยู่กับพี่ติณเนี้ย”
“ห้ะ ทำไมมึงไปอยู่กับพี่ติณได้วะ”
“ก็กูเจอพี่แกที่หน้ามอพอดี พี่เค้าก็เลยลากกูมาแดกแมครอไอ้อิฐมันเนี้ย”
“เชรดดดดดด!! มึงก็อยู่รอไปดิกูอยากดูพวกมึงจีบกัน ฮ่าๆๆๆ”
“ถ้ามึงไม่รีบมากูจะถีบมึงแทน เร็วรีบมา!!”
“เออๆ กูรอรถอยู่เนี้ย”
“มึงนั่งแท็กมาเลย”
“สัส ไม่เอาเปลืองเงินกู กูจะเก็บตังไว้แดกเหล้า”
“ถ้ามึงนั่งแท้กมาตอนนี้กูเลี้ยงเหล้ามึงเอง”
“โอเค อีกสิบนาทีงั้นเจอกันเพื่อน”

คือกับไอ้ซีต้องเอาเหล้ามาล้อ มันถึงจะยอมทำตามทุกอย่าง ที่ผมต้องทำแบบนี้เพื่อจะหาวิธีทางหลีกเลี่ยงการพูดคุยกับไอ้อิฐให้มากที่สุด เพราะผมยังไม่รู้ใจตัวเองเลยว่าผมรู้สึกอย่างไง แล้วก็ไม่รู้ใจไอ้อิฐมันด้วยว่ามันต้องการอะไรจากผมถึงทำแบบนี้


“มึงออกมายืนทำลับๆ ล่อๆ อะไรตรงนี้”

นั้นไงกูว่าแล้วไม่ทันจริงด้วย


“กูออกมาคุยโทรศัพท์กับ...”

เชี่ยมันกระชากแขนผมแล้วลากไปตรงหัวมุมทางเดิน


“กูเจ็บปล่อยกู”
“ไม่ปล่อย!!”
“มึงจะพากูไปไหนเนี้ย!! กูเจ็บ”

ด้วยความที่ผมโมโหที่มันกระชากแขนผม ซึ่งมันเจ็บมากผมเลยสะบัดมือออก

“ปล่อย!!! กูบอกว่าเจ็บไง”
“ทำไมมึงดื้อแบบนี้วะ!! มึงป่วยแล้วยังจะมาทำอะไรอีก”

ไอ้สัสก็เพราะใครละทำให้กูนอนไม่หลับ ไม่ใช่เพราะมึงหรอไง


“ก็กูนอนไม่แล้วจะให้กูทำอะไร!?”
“แล้วมึงเป็นไรทำไมไม่นอน ถึงมึงนอนไม่หลับวันนี้มึงไม่ต้องมาก็ได้!!”

ตอนนี้คือผมโมโหมากไม่ได้สนใจสายตาคนรอบข้างเลย ว่าเค้าจะมองว่าอย่างไง ไม่แน่เค้าอาจมองว่าผมกับมันทะเลาะกันอย่างผู้หญิงที่นั่งอยู่ในแมคก็ได้

“ก็กูจะมา!! ถ้าไม่มากูก็โดนคนอื่นเค้าว่ากูเด็กเส้นไม่ต้องทำห่าอะไร มีพี่คอยให้ท้าย
กูไม่อยากให้คนอื่นมองกูแบบนั้นมึงเข้าใจไหม!!”
“ถ้าใครกล้าว่ามึง เดียวกูจัดการเอง!!”

จากอารมณ์ที่ผมกำลังโมโหมันที่กระชากแขนผม กับเย็นลงเพราะคำว่าเดียวกูจัดการเอง


“เออ กูก็แค่อยากมีส่วนร่วมกับกองประกวดบ้างแค่นั้นเอง”
“เรื่องของมึงแล้วกัน!!! กูพูดอะไรไม่เคยจะเชื่อกูซักอย่าง กูอุส่าออกตัวแทนมึง มึงกับทำแบบนี้”
“แล้วมึงจะให้กูทำอย่างไง?”
“ไม่ต้อง!! ถึงกูบอกมึงไปมึงก็ไม่ฟังกู”

แล้วมันก็ทำท่าเหมือนจะเดินหนีผม สิ่งที่ผมทำไปโดยไม่รู้ตัวเลยคือการเอื้อมมือไปจับชายเสื้อของมัน

“กูขอโทษ...”

เหมือนมันจะหยุดนิ่งไปซักพักหนึ่งผมเลยใช้จังหวะนั้นเดินเข้าไปเอากระเป๋าที่แมค ทำไมผมรู้สึกเหมือนมีน้ำใสๆ กำลังไหลออกข้างตา ทำไมผมต้องร้องไห้ที่โดนมันว่าด้วยวะ ทั้งที่ก่อนหน้านี้มันก็ว่าผมต่างๆ นาๆ ผมก็ไม่เคยรู้สึกอะไร


“หายไปนานเลยน้องน้ำ ว่าแต่....เป็นอะไรหรือเปล่าทำไมตาดูแดงๆ”
“สงสัยผมคงนอนน้อยอะครับพี่ติณนาคอนแทคมันแหงเลยเจ็บนิดหน่อย”
“ใส่คอนแทคด้วยหรอเรา....”
“งั้นผมไปรอข้างในก่อนนะครับพี่ ไอ้ซีมันมาแล้ว”
“อ้าว แล้วของที่สั่งละไม่กินหรอสั่งมาตั้งเยอะ”
“เดียวผมไปกินกับไอ้ซีมันเอาครับพี่ ขอโทษด้วยนะครับ”

ผมรีบเดินอกมาจากแมค ตอนที่กำลังออกมาไอ้อิฐมันเดินมาหยุดตรงข้างหน้าผมพอดี คิดว่าผมจะมีทางอื่นไหมที่จะเดินออกไปจากร่างสูงๆ ของมันได้ แต่มีอีกทางคือกระโดดลงตึกไปเลย


“มึงจะไปไหน?”
“จะไปหาไอ้ซี เออพี่ติณสั่งของมาเผื่อมึงรีบเข้าไปกินเถอะ”

ผมก็พยายมเดินรบออกไปทางซ้ายของประตู แล้วมันก็กระชากคนผมอีก มึงเป็นอะไรคุยกับกูดีๆ ก็ได้จะลงไม้ลงมือทำไม แล้วแรงมึงก็เยอะตัวมึงก็ใหญ่ มึงคิดว่าคนตัวเล็กๆ แบบกูจะแขนหลุดบ้างไหม?


“เดียวดิ!”
“โอ้ยย เจ็บ!”

มันรีบปล่อยแขนผม


“เฮ้ยกูขอโทษ กูทำมึงเจ็บอีกแล้วหรอ?”
“อื้ม”
“คือ...เมื่อกี้กูขอ...”
“กูไปก่อนนะ ไอ้ซีมันมารอแล้วเอาไว้เจอกันนะ”

ผมหันไปยื้มให้มันก่อนจะเดินอกมา ซึ่งตอนหันไปมันก็ทำหน้าเหมือนคนรู้สึกผิดแล้วไม่รู้จะทำไงได้แต่ยืนมองผมแบบนั้น พอดีกับไอ้ซีโทรมาหาผมพอดี

“มึงกูอยู่หน้ามอแล้ว จะให้กูเดินไปหาหรือมึงจะมาหากู”
“อื้มเดียวกูเดินไป”
“มึงเป็นอะไรเปล่าวะเสียงไม่ค่อยดีเลย”
“เดียวกูเล่าให้ฟังนะมึง”

ผมก็รีบเดินไปหามันที่หน้ามอ


“เชี่ยย น้ำมึงเป็นไรเนี้ยร้องไห้ทำไมใครทำอะไรมึงบอกกูมาดิ เดียวกูไปจัดการให้!!”

ชีวิตผมนี่เจอแต่ผู้ชายอารมณ์ร้อนทั้งนั้นเลยเนอะ จะมีใครจะเย็นซักคนบ้างไหมกูเหนื่อย

“ก็ไอ้อิฐอะแหละ”
“ทำไมว่ะไอ้พี่อิฐทำไรมึง”
“ไม่มีไรหรอกมึง กูก็โดนมันแกล้งปกติแหละมึง”
“แกล้งจนมึงร้องไห้เนี้ยนะ กูว่าไม่ใช่แหละ”
“ไม่! กูแค่แบบนอนน้อยไงมึง แล้วกูหาวเชยๆ มันเลยมีน้ำตา มึงอะคิดมาก”

ผมพยายามบอกปัดมันไปไม่อยากให้มีปัญหา เพราะไอ้ซีมันก็เป็นคนอารมณ์ร้อนคนนึง
เดียวมีเรื่องกันเพราะผมกองประกวดจะมีปัญหา

“เออๆ ไปแดกข้าวไหมมึงยังเหลือเวลาอยู่ กูยังไม่ได้แดกข้าวเช้ามาเลยเนี้ย”
“ไปดิกูก็หิวยังไม่ได้แดกอะไรเลย”
“เอ้า มึงไม่ได้แดกแมคกับพี่ติณมาแล้วหรอวะ”

แดกห่าอะไรละ กว่ากูจะโทรหามึงเคลีย์กับไอ้เชี่ยอิฐอีกแล้วทะเลาะกันอีก คิดว่ากูจะมีอารมณ์แดกต่อไหมละ

“กูยังไม่ได้แดก!! ถามอะไรมากมายจะแดกไม่ข้าวอะ”
“กูเป็นห่วงกูก็ถามไหม เออไปแดกข้าวมึงจะได้กินยาด้วย”
 
พอมันพูดถึงเรื่องยาผมลืมเอายามาเลยว่ะ แต่คงไม่เป็นไรหรอกมั้งไม่ได้กินแค่วันเดียวเอง แล้วอาการก็ดูไม่หนักเหมือนเมื่อวานแล้วด้วย

“กูลืมเอายามาว่ะมึง”
“มึงเนี้ยนะ เดียวกูออกไปซื้อให้เอาไหม”
“สัสไม่ต้องเสียเวลาแดกข้าว อาการกูก็ไม่ได้เป็นไรมากแล้วไม่เป็นไรมึง”
“เออได้ แต่ถ้ามึงเป็นอะไรรีบบอกกูเลยนะกูจะได้พามึงไปห้องพยาบาล”

จากนั้นผมกับไอ้ซีก็เดินไปที่โรงอาหารกลาง เพราะกินข้าวเสร็จจะได้เข้าไปตึกข้างๆ กันเพื่อไปแต่งหน้าเลย


“น้องน้ำ น้องซี มากินข้าวอะไรตรงนี้”

ใครทักวะไม่เห็นรู้จักเลย

“สวัสดิ์ดีครับพี่...”
“ทำหน้า งง แบบนี้สงสัยไม่รู้จักพี่อะดิ พี่ชื่อณุเป็นเดือนนิเทศศาสตร์ไง”
“อ่อออ ว่าแล้วทำไมหน้าคุ้นๆ”
“เสียใจนะเนี้ยจำพี่ที่คณะตัวเองไม่ได้”

พี่แกก็ทำเจือนๆ เอาจริงผมก็จำไม่ได้หรอก เพราะตอนแรกไอ้อิฐมันก็ย้ายมาเป็นพี่ที่ดูแลผม ผมเลยไม่ได้รู้จักชื่อเสียงเรียงนามพี่ณุเค้าเลย ถ้าพี่แกจะน้อยใจก็ไม่หน้าแปลกใจ


“โห่วว พี่อย่าน้อยใจเลยผมกับไอ้น้ำเป็นพวกที่จำใครไม่ค่อยได้อะพี่”

โล่งไปดีนะไอ้ซีมันช่วยแก้ต่างไปก่อน


“ใช่ครับพี่ณุ แต่ตอนนี้ผมก็รู้จักพี่แล้วนะ ว่าแต่พี่มาทำอะไรหรอครับ?”
"เออลืมเลย มัวแต่แซวเราอยู่ ที่จริงพี่ลงมาซื้อข้าวให้พวกเราเอาไว้กินตอนเที่ยงอะดิ”
“โห่ววว หลายกล่องนะพี่ณุถือไหวไหมเดียวให้ผมกับซีช่วยถือไปก็ได้พี่”
“เฮ้ย ไม่เป็นไรพี่จะมาใช้เราได้ไงมันเป็นหน้าที่พี่ อีกอย่างเดียวไอ้อิฐมันก็มาช่วยถือแล้ว”

สตั้นไปสิกูจะเจอมันอีกแล้วหรอเนี้ยเรื่องเมื่อเช้าแม่งยังค้างคาอยู่ด้วย

“อ่อ โอเคครับพี่งั้นเดียวพวกผมไปก่อนนะจะได้รีบขึ้นไปแต่งหน้าทำผม”

ผมรีบลุงออกจากโต๊ะซึ่งไอ้เชี่ยซีมันก็ยังแดกไม่เสร็จมองหน้าผมทำตาปริบๆ

“ไอ้ซีจะไปยัง กูจะรีบขึ้นไปแต่งหน้า”
“ไอ้เชี่ยน้ำรอแปปดิ กูยังแดกไม่หมดเลยจะรีบไปไหนของมึงเนี้ย”

กูจะรีบหนีไอ้เชี่ยอิฐมันโว้ยยยยยยยยยย!!


“รีบๆ แดกเร็ว!!”

พอผมสั่งไอ้ซีมันก็รีบกิน เหมือนแบบโดนพ่อบังคับให้กินข้าว แต่ถามว่ามันกินหมดไหม หมดสิครับ  แต่ด้วยความที่มันรีบมันเลยอมข้าวแล้วเดินตามผมมา

“ไอ้ เชี่ยมึงอาอีบไอไอ่เอี้ยยย”
“มึงช่วยเคี้ยวข้าวให้มันก่อนไหมค่อยคุยกับกู กูฟังไม่รู้ไอ้ห่า”

ตอนนี้หน้ามันคือเหมือนหนูแฮมสเตอร์ที่เอาเมล็ดทานตะวันยัดเข้าปากแก้มนี่กลมมาเลยนะมึง


“โอ้ยไอ้เชี่ยยย ข้าวจะติดคอกูตายห่าแล้วเนี้ย มึงก็จะรีบไปไหนเห็นไหมกูยังแดกข้าวไม่หมดเลยสัส”
“ก็...กูรีบไงเดียวพี่เค้าว่าทำไมไปช้า”
“หรอ....มึงคิดว่ากูจะเชื่อมึงไหม พอพี่ณุพูดว่าไอ้พี่อิฐจะมาท่าทางมึงก็ดูรีบร้อน หลอกกูไม่ได้หรอกไอ้น้ำ”

เออ!! กูนึกว่ามึงเป็นญาติกับโคนันรู้ทุกเรื่องนะมึง

“เออ รู้แล้วก็ไม่ต้องถามมาก”
“มึงๆ นู้นไงคู่รักมึงกำลังข้ามฝั่งมาหาแล้วน่ะ”

มันเอานิ้วชี้ไปฝั่งตรงข้าม ซึ่งที่ผมเห็นคือไอ้อิฐกำลังข้ามฝั่งมาที่โรงอหารเพื่อมาหาพี่ณุ ทำไงดีวะกูจะทำหน้าอย่างไงดีวะ ยิ้มให้มันดีไหม หรือแค่เดินผ่านมันไปเลย


“จะทำไงต่อมึง มันกำลังเดินมาแล้วนะ”

เออกูรู้แล้วกูคิดอยู่ ทำไงดีวะๆ เดินผ่านแม่งเลยแล้วกัน


“พี่อิฐสวัสดีพี่”
“ว่าไงไอ้ซี กำลังพาน้ำนมมันไปแต่งหน้าหรอ”

โอ้ยยย!! ไอ้ซีกูอุส่าไม่ทักแล้วมึงยังจะทักมันอีกเนอะ

“ใช่พี่นี่ผมเพิ่งกินข้าวกันเสร็จเนี้ย กำลังจะพาน้ำมัน....”

คือกูเดินข้ามมาอีกฝั่งแล้ว กูไม่อยากคุยกับมันมึงอะรีบๆ ข้ามมาได้แล้วไอ้เชี่ยซี

“งั้นไว้คุยกันนะพี่ ไอ้น้ำมันรีบอยู่อะพี่”
“อื้มๆ”
“เชี่ยนน้ำข้ามมมาตอนไหนไม่บอกกูซักคำบอกกู”
“กูอะข้ามมาตั้งนานแล้ว มึงอะยืนคุยอะไร”
“มึงจะรีบไปไหน ทำแบบนี้เค้าก็รู้ว่ามึงหลบหน้าเค้าดิ สู้ทักไปไม่ดีกว่าหรอวะ?”
“ก็กูไม่รู้จะทำหน้าอย่างไงว่ะมึง เจอนั้นมันก็ไม่รู้จะทักหรือจะเริ่มคุยอย่างไงดี”
“มึงก็ทักปกติไปดิวะ ว่าแต่เมื่อกี้พี่อิฐมันก็ทำหน้าซึมๆ นะมึง”
“จริงเหรอวะ”
“เออดิ!! มึงนี่มันโง่ในเรื่องแบบนี้จริงๆ”
“เรื่องอะไรวะมึง”
“เออชั่งเหอะ ว่าแต่มาถามๆ กูเนี้ยมึงไม่รีบแล้วไง?”

เออว่ะผมลืมไปเลยว่ารีบ หลังจากที่คุยเสร็จผมกับมันก็ขึ้นมาที่ห้องแต่งตัวซึ่งถามว่ามีคนในกองประกวดมายัง ตอบเลยว่ายังไม่มีผมคงได้แต่งเป็นคนแรกมั้งเนี้ย


“คุณน้อง....รีบมาทำอะไรแต่เช้าเลยลูก นี่ยังไม่มีใครมาเลยนะ”
“อ่อ ผมไม่อยากรอคิวนานอะครับพี่ผมเลยรีบมาก่อน”
“แหม่ขยันจังเลยนะเราเนี้ย อะๆ งั้นเดียวเราไปนั่งรอพี่ตรงนู้นก่อนนะลูก พี่ขอเตรียมของแปปนึง”
“ได้ครับพี่”

ผมก็นั่งรออยู่กับไอ้ซีที่โซฟา ซึ่งระหว่างรอผมก็นั่งเล่น ROV กับมัน แล้วทำไมผมไม่เอาเวลาไปนอนวะ

“คุณน้องคะ มานั่งนี้มาพี่เตรียมของเสร็จแล้ว”

ผมก็เดินไปนั่งที่เก้าอี้ข้างๆ พี่แต่งหน้า

“ว้ายตายล้าววว ทำไมขอบตาคุณน้องดำแบบนี้ละคะ เมื่อคืนอดนอนมาใช่ไหม แบบนี้ไปได้เลยนะ
ถ่ายรูปออกมาเดียวจะไม่หล่อเอานะลูก”
“ครับพี่”

ผมหันไปยิ้มให้พี่แกแหงๆ คือพี่แกก็ตลกนะชวนผมคุยนั้นคุยนี้ทำให้ไม่คิดถึงเรื่องเมื่อเช้าเลย


“คุณน้องนี้หน้าดีมากเลยนะ หน้าดีกว่าผู้หญิงทั่วไปอีก”

เอาจริงๆ ผมก็ไม่ได้บำรุงอะไรมากมายหรอก ตอนเรียนผมเรียนเสร็จก็มีคนมารับที่โรงเรียนแล้วก็เก็บตัวอยู่แต่ในบ้านเรียกได้ว่าแถบจะไม่ออกไปไหนเลยดีกว่า แบบนี้ละมั้งเลยทำให้ผิวของผมไม่ค่อยเสีย

“คุณน้องเดียวหลับตาแปปนึงนะคะพี่บล็อคตาให้เราหน่อยนึง”
“ไม่ต้องก็ได้มั้งครับพี่ ผมว่ามันจะดูสาวๆ ไปหรือเปล่า”
“พี่ไม่ได้บล็อคแบบนั้นลูกพี่แค่จะบล็อคสีชมพูอ่อนๆ ให้เดียวเวลาถ่ายรูปมาขอบตาเรามันจะเห็นชัดไง”
“อ่อ....ครับ”
“อะๆ หลับตาได้แล้ว”

ผมก็ยอมทำตามที่พี่เค้าบอกซึ่งในใจผคิดว่าพี่เค้าจะแต่งให้ผมออกมาสวยหรือหล่อกันแน่เนี้ย แต่เอาเถอะเค้าคงไม่แต่งให้เดือนกลายเป็นดาวหรอกมั้ง


“เสร็จแล้วค่ะลูก ลืมตาได้แล้ว”
“ขอบคุณนะครับพี่”

ผมก็ลุกจากเก้าอี้ที่แต่งเพื่อที่จะไปนอนหลับตรงโซฟา เพราะตอนนี้คือง่วงมาก

“คุณลูกๆ เอาน้ำไปด้วยค่ะ”
“น้ำ? ผมไม่ได้ซื้อน้ำมานะครับพี่”
“น้ำน้องละค่ะ มีคนเค้าเอามาวางไว้ให้เมื่อกี้”

ใครเอามาว่างไว้ให้วะ ผมก็เลยเดินไปหยิบน้ำ แต่เดี๋ยวก่อนนมสดปั่น?


“ใครเอามาให้หรอครับพี่”
“เค้าบอกว่าห้ามบอกน้องอะค่ะ แต่พี่ว่าดูจากโพสอิทน้องหน้าจะรู้นะว่าใครเอามาให้”

แล้วซึ่งที่แปะมาด้วยคือกระดาษโพสอิทสีเหลืองที่เขียนว่า
.
.
.
.
กูขอโทษนะ
จาก อิฐ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-06-2017 18:11:14 โดย Kratin »

ออฟไลน์ Kratin

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 18
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
Re: รักแรกนายวิศวะ (ตอนที่ 5) 15/06/17
«ตอบ #15 เมื่อ15-06-2017 15:56:14 »

รักแรกนายวิศวะ #5


ผมควรทำไงต่อดีวะนี่คือการซื้อน้ำมาง้อแล้วก็ขอโทษงี้ หรือว่าแค่รู้สึกผิดที่ทำผมเจ็บ ตอนนี้ผมสับสนไปหมดในหัวผมตอนนี้มีแต่เรื่องมันทั้งที่ก่อนหน้านี้แทบจะไม่มีมันอยู่ในหัวของผมเลยด้วยซ้ำไป

“น้องที่นั่งอยู่ตรงโซฟามาแต่งหน้าเร็วลูก เดียวคนอื่นมาจะไม่ได้แต่งนะคะ”
“ผมหรอครับพี่ ผมไม่ได้เป็นเดือนนะพี่ผมเป็นแค่คนดูแลมันเฉยๆ”
“เอ้า สงสัยพวกพี่ๆ เค้ายังไม่ได้บอกธีมที่ถ่ายวันนี้ใช่ไหม”

พวกผมสองคนก็ทำหน้า งงๆ ธีมไรวะทำไมกูไม่เห็นรู้เรื่องอะไรกับเค้าเลย หรือเค้าบอกแล้วพวกผมไม่ได้ตั้งใจฟังกัน

“ธีมถ่ายวันนี้คือ Family Project จะให้พวกน้องๆ ที่ดูแลดาวและเดือน แล้วก็พวกรุ่นพี่ที่ดูแลเรามาถ่ายรูปด้วยกัน ทำให้ดูว่า
มหาลัยก็เหมือนบ้าน คณะก็เหมือนครอบครัว”

โห่ววว งานเค้าใหญ่จริง ผมถามอีกทีนะนี่คือการประกวดดาวเดือนจริงเหรอ ทำไมมันดูยิ่งใหญ่อลังการงานสร้างขนาดนี้

“พี่ครับแต่ผมไม่ได้เอาชุดมาเลยนะ”
“ไม่เป็นไรค่ะลูกพี่เตรียมไว้ให้แล้ว”

พี่แกก็เดินไปแหวกม่าน ซึ่งที่เห็นคือราวผ้าที่มีชุดนักศึกษาแขวนไว้ เรียกว่าเตรียมตัวมาดี พวกพี่ๆ เค้าคงคิดมาแล้วละว่าต้องมีคนลืมแน่นอนถึงเตรียมมาขนาดนี้

“โหว่ ทำไมชุดเยอะจังอะพี่”
“อ่อ ปีนี้ทางมหาลัยเค้าทุ่มทุนกับการประกวดปีนี้มาก เลยจัดยิ่งใหญ่อลังการนิดนึงอะค่ะคุณน้อง” 

ผมเชื่อครับว่าเค้าทุมกับการประกวดครั้งนี้จริงๆ

“มาๆ มาแต่งหน้าเร็วเดียวช้า”
“มึงงั้นกูไปแต่งหน้าก่อนนะ “
“เออๆ เดียวกูนั่งรออยู่ตรงโซฟาเนี้ยแหละ ถ้ามึงเห็นกูเงียบๆ ไปคือหลับนะมึง”
“เวลาเค้านอนกันมึงก็ไม่นอนจะมานอนในกองประกวดไอ้ห่าน้ำ”
“อย่าบ่นมาก มึงไปแต่งหน้าไปสัส”

ผมก็ลงมานั่งที่โซฟาแล้วก็วางแก้วน้ำไว้ข้างหน้าผม ซึ่งผมก็ได้แต่นั่งมองน้ำแก้วนั้นไม่กล้าจะกินหรือทำอะไร ตอนนี้ผมรู้สึกง่วงมากๆ งั้นหลับก่อนดีกว่าเราตื่นมาไอ้ซีคงจะแต่งหน้าเสร็จพอดี ผมเลยหลับซะเลย

“เชี่ยยย!!”

ผมลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที่คือนอนอยู่บนตักของผู้ชายร่างสูงๆ คนนึงนั้นก็คือไอ้อิฐมึงมาตั้งแต่ตอนไหนเนี้ย
แล้วกูไปนอนที่ตักมึงได้ไง


“ตกใจอะไรของมึงไอ้นมน้ำ”
“กูมานอนที่ตักมึงได้ไงเนี้ย”

ผมพยายามลุกตัวออกจากตัก แต่ไอ้อิฐมันก็กดหัวผมลงไปนอน

“มึงทำอะไรของมึงเนี้ย!!”
“นอนต่อดิมึง จะลุงขึ้นมาทำไม”
“เชี่ยไม่เอากูเกรงใจมึง”
“ไม่เป็นไรมึงนอนต่อเถอะ เมื่อคืนนี้มึงก็ไม่ได้นอนไม่ใช่เหรอ”
“ไม่เอาอายคนอื่นคนเค้ามึง”
“ไม่เห็นมีใครเลยมึง คนอื่นเค้าก็ออกไปกินข้าวกันหมด ในห้องก็มีแต่กู มึง พี่ช่างแต่งหน้าแล้วก็ไอ้ซีมัน ส่วนไอ้ปูนมันก็รอมาพร้อมพิมพ์”
“แต่...”

มันก็เอามือมาปิดปากผมคงจะกลัวผมจะบ่นอะไรมากกว่านี้ ซึ่งผมก็ทำไรไม่ได้ขัดขืนไม่ได้ ผมก็เลยจำใจนอนต่อ


“กูขอโทษนะเรื่องเมื่อเช้า”

ผมได้ยืนเสียงมันพูดเบาๆ

“อื้ม ไม่เป็นไรหรอกกูก็ดื้อเองแหละ”
“เอ้า นี่มึงยังไม่หลับหรอ”
“ก็หลับไปแล้วแต่ได้ยินเสียงมึงไงเลยตื่น”
“โทษๆ กูทำมึงตื่นใช่เปล่า งั้นกูไม่พูดอะไรแล้ว”
“ไม่เป็นไร มึงอยากทำอะไรก็ทำเถอะเพราะตอนนี้กูนอนอยู่บนตักมึงทำไรไม่ได้อยู่แล้ว”

อยู่ดีๆ มันก็เอานิ้วมาจิมที่แก้มของผม แล้วลูบหัวผม

“ฝันดีนะเด็กน้อย”

คือผมอยากจะด่ามันว่ากูไม่เด็กแล้วโว้ยย โตแล้วดูตัวกูด้วยสูงขนาดนี้
แต่ตอนนี้ความง่วงมันทำให้ผมไม่อยากไปต่อปากต่อคำกับมัน


“ขอโทษสำหรับเรื่องเมื่อเช้าด้วยนะ แล้วก็ขอบคุณสำหรับน้ำนะ”

ผมแอบลืมตาดูไอ้อิฐ เหมือนมันกำลังยิ้มมีความสุข แล้วผมก็หลับตาลงนอนต่อไม่รู้ว่าโมเม้นต์นี้มันคืออะไรแต่ทำไมจากที่ผมรู้สึกไม่สบายใจกับโล่งขึ้นมาอย่างผิดปกติก็ไม่รู้เหมือนกัน

“น้องอิฐลูกมาแต่งหน้ามา พี่แต่งน้องคนนี้เสร็จแล้ว”

เสียงเจ้ช่างแต่งหน้าตะโกนมา รู้เลยว่าโมเม้นต์แห่งความสุขได้จบลงแล้ว


“เดียวผมค่อยแต่งก็ได้พี่ ผมไม่รีบ”
“ไม่ได้ๆ แต่งเลยเราจะได้ไปเปลี่ยนชุดด้วยเร็ว”
“โอเคได้ครับพี่”
“เดียวไปแต่งหน้าก่อนนะน้ำนมเดียวมา”

เสียงของมันที่มากระซิบที่ข้างหูผมมันเป็นเสียงที่อ่อนหวาน ดูไม่เหมือนไอ้อิฐที่เคยกวนประสาทผมก่อนหน้าเลย มันยิ่งทำให้ผมร็สึกว่าหรือเราชอบมันแล้วจริงๆ วะ


“เออๆ ไปแต่งหน้าไปเดียวนี่จะได้นอนต่อ”

แล้วมันก็ลุกไปแต่งหน้าส่วนไอ้ซีก็เดินมาทางผมทำหน้ากวนตีนมาแต่ไกลเลยนะมึง


“แหม่ มีความสุขเลยสิมึง”
“ความสุขอะไรของมึง?”
“ก็ได้นอนตักที่รัก...........มึงไง”

ไม่ต้องลากเสียงก็ได้มั้งไอ้ห่า

“ที่รักมึงดิไอ้เชี่ยย!! ก็มันไม่ให้กูลุกให้ทำไงละ”
“เหรอ... แต่หน้าตามึงตอนเนี้ยดูมีความสุข จนเก็บยื้มไว้ไม่อยู่แล้วมึงรู้ตัวไหมเนี้ย...”

แล้วไอ้ซีมันก็เอามือมาดึงแก้มผม


“ปล่อยไอ้สัสกูเจ็บ”
“ฮึ่ม!!”
“เป็นอะไรหรือเปล่าน้องอิฐเจ็บขอหรอลูกเอาลูกอมไหม เจ้มีนะ”
“อ่อไม่เป็นไรครับพี่”

 ดูเหมือนเสียงฮึ่มจะมาจากอีกคนนึงที่นั่งแต่งหน้าอยู่ฝั่งนู้น ซึ่งมันก็เหลือบตามองมาทางผม ไอ้ซีมันเห็นเลยรีบปล่อยมีออกจากแก้มผม


“กูว่าพี่เค้าหึงมึงแน่เลยวะไอ้น้ำ”

มันมากระซิบกับผม ซึ่งมึงทำแบบนี้ใครเค้าก็คิดว่ากูกลับมึงเป็นแฟนกันไหม บางที่มึงบอกปัดเค้าไปบ้างก็ได้ไอ้สัส

“หึงห่าอะไรละมึง ก็เล่นกันปกติไหมละมึง อีกอย่างมันจะมาหึงกูทำไมมิทราบ”
“พี่อิฐมันหึงมึงกับกู ไม่เชื่อเดียวมึงรอดู”

นี่มึงจะทำอะไรของมึงอีกเนี้ยไอ้ซี แผนมึงนี้เยอะนะ


“เฮ้ยไอ้น้ำ มึงบอกมึงง่วงนิมานอนตักกูมากูให้นอน”
“เชี่ย...มึงเล่นอะไรของมึงเนี้ยไอซี”
“เออมึงรอดูแล้วกัน”

มันก็พยายมจะดึงผมลงไปนอน สัสเอ้ยย นี่คืออะไรมหากาฬศึกชิงนางหรอไงวะ


“ไม่เอา ไอ้สัส เดียวกูนั่งเอาก็ได้”
“ฮึ่ม!! ไอ้น้ำหยิบน้ำให้หน่อยดิกูเจ็บคอ”
“น้ำอยู่บนโต๊ะก็มีจะให้กูหยิบให้ใหม่เพื่อ!”
“กูไม่อยากกินขวดนี้ กูอยากกินขวกนั้นไปหยิบมาให้หน่อย”
“เออๆ”

ผมก็เดินลุกไปยิบน้ำมาให้มันแล้วก็วางไว้ที่โต๊ะ
“อะแค่นี้ใช่ไหม”

พอว่างน้ำเสร็จผมก็หันหลังกลับเพื่อจะไปนั่งกับไอ้ซีต่อ แต่ก็มีมือคู่จับที่ข้อมือผมไว้


“นั่งเป็นเพื่อนกูหน่อยดิกูเหงา”

ห้ะ!! มึงเหงา? มึงอายุเท่าไหร่เหงาห่าอะไร พี่ช่างแต่งหน้าเค้าก็ชวนมึงคุยไหม


“เหงาอะไรมึงแต่งหน้าเดี๋ยวก็เสร็จแล้วป่ะ”
“เออนั่งเป็นเพื่อนกูหน่อย”

ผมหันไปมองหน้าไอ้ซีซึ่งสิ่งที่มันทำคือนั่งไขว่ห้าง แล้วยักคิวให้ผม คือท่าทางมันกวนตีนมากจนผมอยากจะเดินเข้าไปแล้วกระโดดถีบมันลงจากโซฟาเหลือเกิน


“นั่งดิ ยืนทำอะไรอยู่”
“เออๆ รู้แล้ว ปล่อยกูได้แล้วพี่ช่างแต่งหน้าเค้ามองละเนี้ย”
“มึงนั่งก่อนกูถึงจะปล่อย”

โอ้ยย กูนั่งแน่นอนกูไม่หนีไปไหนไม่ได้หรอก ถึงกูอยากจะหนีกูก็ติดถ่ายรูปโปสเตอร์ไหมละ


“แหม่ น้องสองคนนี่น่ารักดีนะ เป็นแฟนกันหรือลูก”
“เปล่าครับ” “ใช่ครับ” คือมึงจะบอกใช่ทำห่าอะไรพี่ช่างแต่งหน้าเค้า งง แล้วมึงยังจะมีหน้ามาขำอีก
“ผมล้อเล่นพี่ มันเป็นน้องที่ผมดูแลเฉยๆ”

อ่อแค่น้องที่มึงต้องดูแลอะเนอะ แล้วกูจะร้อยใจทำห่าอะไรไอ้น้ำ


ไลน์~ ไลน์~


“เป็นไงละมึงเชื่อกูยังว่าเค้าหึงมึง”
"ว่าไปมึงสองคนก็เข้ากันดีนะ”
“เข้าห่าอะไรมึง”
“เดียวกูก็ไม่เลี้ยงเหล้ามึงหรอกไอ้เชี่ยซี”
“โทษๆ เพื่อนรักกูแค่หยอกมึงเล่นนิดเดียวเอง “
“ไม่เห็นต้องโกรธกูเลย”
“หึ หึ”



“ไอ้น้ำนมนี่มึงคุยกับใครเนี้ย”
“คุยกับไอ้ซี”
“มึงนั่งนี้ก็คุยกับกูดิว่ะ จะคุยกับคนอื่นทำไม”
“คนอื่นที่ไหนไอ้ซีมันก็เพื่อนกูป่ะ”
“เอามานี่”

มันคว้าโทรศัพท์ผมแล้วกดปิดเครื่อง แล้วมันก็เอาโทรศัพท์ไปใส่ไว้ข้างในเสื้อมัน

“ทำอะไรเอาของมึงเนี้ย เอาโทรศัพท์กูคืนมา!!”
“อยากได้เหรอ? อยากได้ก็มาเอาไปเองดิ”
“มึงนี่มัน.....!!”
“ทำไมกูทำไมเหรอ~”
“กวนตีน!!!”
“ฮ่าๆ ธรรมดาคนหล่อมักกวนตีน”
“จ้ะ!!”
“ว่าแต่ไข้มึงเป็นไงบ้างเนี้ย”

มันก็เอื้มมือมาแตะที่หน้าผากผม


“เออ!! กูไม่เป็นไรแล้ว”
“ไม่เป็นอะไรมึง ตัวมึงยังอุ่นๆ อยู่เลย”
“เรื่องของกูไหม เดียวเสร็จก็กลับไปนอนเดียวแม่งก็หายเองแหละ”
“อีกแล้วนะ”
“อีกแล้วอะไรของมึงวะ?”
“ดื้ออีกแล้วนะ”

โอ้ยยย อะไรของมึงไอ้เชี่ยอิฐกูกำลังพูดเหตุผลอยู่ไหม แล้วมึงก็ช่วยสนใจกับการแต่งหน้าหน่อย
มึงทำอย่างกับพี่ช่างแต่งหน้าไม่ได้นั่งอยู่ตรงนี้

“ขอโทษๆ กูลืม”
“ไอ้อิฐมึงมาจีบอะไรน้องคณะกูเนี้ย”
“จีบไรมึงไอ้ณุ กูแค่ให้น้องเค้ามานั่งเป็นเพื่อนเฉยๆ”
“งั้นเดียวกูนั่งเอง น้ำเป็นนั่งกับซีไปเดียวพี่ดูมันเอง”
“โห่ววว อะไรของมึงวะไอ้ณุขัดกูอีกแหละ”
“มึงอะเป็นอะไร นั่งแต่งหน้าเงียบๆ ไปเลยไอ้สัสอิฐ”
“เออๆ”
“ว่าแต่คืนนี้ไปแดกเหล้ากับพวกูเปล่า”
“เอาดิมึงร้านไหนวะ”
“ร้านเพลินบาร์ เลยมหาลัยไปนิดอะมึง”
“เฮ้ย!! น้ำนมไปด้วยกันป่ะ”

ฮืออ กูต้องไปกับมึงด้วยหรอ คือกูไม่อยากไปไงดูสภาพร่างกายกูด้วย


“ไม่....”
“ไปครับพี่!!”

ไอ้เชี่ยซีมึงจะตอบรับเค้าทำไม กูไม่อยากไปไอ้สัส


“เชี่ยซีกูไม่อยากไป กูไม่สบายนะมึง”
“ไปดิมึง มึงบอกกูเองไม่ใช่หรอว่ะ ว่าจะเลี้ยงเหล้านี่ไงก็ไปเลี้ยงเหล้ากูเลย”
“ต้องวันนี้เลยหรอวะ งั้นมึงเอาตังกูไป”
“เชี่ยไม่เอามึงจะให้กูไปนั่งแดกคนเดียวหรอไง”
“นี่ไงมึงก็ไปแดกกับพวกพี่ๆ เค้าดิวะ”
“มึงพูดอะไรไม่คิดอีกแหละ ทำอย่างกับกูสนิทกับพวกพี่เค้า”
“เฮ้ย!! ซุบซิบอะไรกัน สรุปจะไปไหม”.
“เออๆ ไป!!”


เชี่ยเอ้ยยย สรุปผมก้ต้องไปกับพวกแม่งใช่ไหมเนี้ย ไม่คิดจะสงสารกูบ้างเลยพวกมึงเนี้ย


“เอองั้นเดียวเจอกันที่ร้านตอนทุ่มนึงนะ ไอ้น้ำนมเดียวมึงออกพร้อมกูเพราะอยู่หอเดียวกัน”
“เฮ้ยพี่อิฐไปก่อนเลย ผมเอาชุดมาเดียวไปเปลี่ยนที่ห้องไอ้น้ำมัน แล้วเดียวออกพร้อมมันพี่” ้

เดี๋ยวนะมึงเอาชุดมาแล้วแสดงว่ามึงเตรียมพร้อมเที่ยวอยู่แล้วนิไอ้ซี
กูว่ามึงเองมากกว่าไหมที่อยากเที่ยวแต่พอพี่เค้าพูดมามึงเลยได้จังหวะไปด้วย
โดยการบังคับกู มึงนี้มันร้ายนะไอ้สัส


“งั้นแล้วแต่พวกมึงแล้วกัน”

มึงจะงอลอะไรไอ้อิฐคือไอ้ซีมันแค่ไปเปลี่ยนชุกที่ห้องกูไหม


“ไอ้ซีกับไอ้น้ำมันจะไปได้หรอมึงพรุ่งนี้พวกมันมีซ้อมประกวดแต่เช้าไม่ใช่หรอวะ”
“เออวะ!!”

ถ้าพี่ณุไม่พูดมึงก็คิดไม่ได้เนอะไอ้อิฐ


“ไม่เป็นไรครับพี่ณุน้ำไว้ รับปากไปแล้วไม่อยากผิดคำพูดอะครับ”
“ไอ้น้ำนม มึงแน่ใจนะว่าไหว ไม่ใช่ตื่นไม่ได้อีกนะ”
“เออไหวละสัญญากับไอ้ซีมันไว้แล้วด้วย”
“สัญญาอะไรวะ?”
“ยุ่ง!!”
“กูถามดีๆ นะเนี้ย”

กูบอกไม่ได้ไหม จะให้กูบอกมึงว่าอ่อสัญญาว่าจะเลี้ยงเหล้าไอ้ซีมันเพราะว่าให้มันรีบมาหาที่มหาลัยเพื่อไม่อยากเจอมึง กูก็โดนมึงด่าอะดิ


“เออ มึงไม่ต้องรู้หรอกมันเป็นความลับของกูสองคน”

มันทำสงสัยใหญ่เลยทีนี้ ไปร้านเหล้ากับมันต้องโดนมันซักแน่นอนว่าเรื่องอะไร


“เดียวคืนนี้รู้....”
“สวัสดีค่ะพี่ๆ พี่อิฐสวัสดีค่ะมาแต่เช้าเลย”

พิมพ์เข้ามาขัดจังหวะได้ดีมาก ผมกลัวคำพูดของมันหลังจากนั้นมาก


“พี่รีบมาจัดของให้พวกน้องๆ ไง ว่าแต่พิมพ์กินไรมายังเดียวพี่ให้ไอ้น้ำนมลงไปซื้อมาให้”

มึงให้คนอื่นไปซื้อไหมใช้กูจังเลยสัส มึงลืมหรอไงว่ากูไม่สบาย ไม่สบายอะ มึงเข้าใจไหม


“ไม่เป็นไรค่ะพี่อิฐ เดียวพิมพ์ลงไปกินกับปูนเอาก็ได้ค่ะ”
“งั้นไอ้ปูนฝากดูแลพิมพ์ด้วย เดียวกูขอแต่งหน้าก่อน”

แน่ละมึงเอาแต่เล่นแต่คุย วันนี้มึงก็แต่งหน้าไม่เสร็จหรอก ไอ้ห่าพูดอยู่นั้นแหละ สงสารพี่ช่างแต่งหน้าที่ต้องคอยขยับตัวเอี้ยวตามมันเนี้ย


“พี่ติณนาสวัสดีค่ะ”
“สวัสดีค่ะน้องพิมพ์ กำลังจะไปไหนเนี้ย?”
“อ่อคือหนูกับเพื่อนกำลังจะออกไปกินข้าวอะค่ะ”
“ไม่ต้องๆ นี่พี่ซื้อของที่แมคมาเยอะแยะ ยังไม่ได้กินเลย มากินกับพี่ก็ได้”
“ขอบคุณค่ะพี่ติณแต่ว่ามันจะดีหรอคะ”
“ไม่เป็นไรมากินกับพี่ได้”
“ขอบคุณนะคะพี่ติณ”
“ว่าแต่อิฐเมื่อเช้านี้ทำไมอยู่ดีๆ ก็รีบออกไปเลยปล่อยให้ฉันนั่งอยู่ในแมคคนเดียว”
“เอ่อ....คือพอดีผมรีบอะครับพี่ติณ”
“รีบอะไรรีบจนทิ้งฉันไว้เนี้ยนะ น้องน้ำก็อีกคนอยู่ดีๆ ก็ทิ้งพี่เลย”

เอาแล้วกูงานเข้าแหละ รอบนี้โดนพี่ติณฆ่าแน่นอนกู

“พอกันทั้งพี่น้องเลย ให้ตายสิ”
“ขอโทษพี่ติณ เมื่อเช้าผมรีบจริงๆ พี่”
“รีบไปไหนของแกบอกสิ”
“ผมรีบไปตามหาของที่ผมทำหายเมื่อเช้าอะพี่”
“ของ? ของอะไร?”
“ของที่ผมทำมันหายไปตั้งนานแล้วพี่ แล้วอยู่ดีๆ ของชิ้นนั้นมันก็กลับมาหาผมอีกแต่ผมดันทำพลาดทำรุนแรงกับของชิ้นนั้น ผมกลัวว่าของชิ้นนั้นจะหายไปอีกผมเลยต้องออกไปตามหา”
“อิฐ พอก่อนพี่ งง นี่อิฐไม่สบายหรือเปล่า นอนไม่พอใช่ไหมทำไมพูดไม่รู้เรื่อง”

นั้นสิพี่ติณมันพูดห่าอะไรของมัน ของอะไรของมันวะ ผมว่ามันติดไข้ผมแน่เลยสมองแม่งเลยเบลอไปละเนี้ย


“พี่ไม่ต้องเข้าใจหรอกผมอยากให้คนอื่นเข้าใจมากกว่า”

แล้วมันก็หันมายิ้มให้ผม ผมก็มองหน้ามันแล้วทำปากว่า ยิ้มหาพ่อง เท่านั้นแหละมันขมวดคิ้วเลย ผมเลยยิ้มให้มันสิ่งที่มันทำคือการไม่ตอบต่ออะไรกับมา ปกติมันต้องด่ากลับมาแล้วนิหว่า


“เดี๋ยว! นี่แกสองคน ส่งซิกอะไรกัน”
“อ่อ เปล่าพี่ไม่มีอะไร”
“สวัสดีค่ะพวกพี่ๆ”
“สวัสดีครับพี่”

ตอนนี้คือทุกคนค่อยๆ ทยอยมากันแล้ว

“มากันครบหรือยังค่ะ พี่สตาฟเช็คยอดน้องหน่อยพี่จะได้พูดถึงธีมงานที่จะต้องถ่ายวันนี้เลย”
“ครบค่ะพี่ติณ”
“โอเควันนี้ธีมถ่ายโปสเตอร์ของเราคือ Family Project คือเราจะให้ทั้งรุ่นพี่ดาวเดือนปีที่แล้ว แล้วก็น้องๆ ดาวเดือนปีนี้รวมถึงเพื่อนที่ค่อยดูแลเรามาถ่ายโปสเตอร์ด้วยกัน เพื่อให้ดูว่ามหาลัยแห่งนี้เหมือนบ้านอีกหลังนึงของทุกคน แล้วก็จะถ่ายโปสเตอร์แยกแนะนำตัวสำหรับน้องดาวเดือนปีนี้ด้วย ทุกคนเข้าใจแล้วเนอะ ถ้าเข้าใจแล้วก็แต่งตัวกันได้แล้วค่ะ ถ้าเสร็จเร็วพี่ก็ปล่อยเร็วตามเวลานะคะ”

คือพอพี่ติณพูดเสร็จ ในห้องเหมือนเกิดสงครามคือทุกคนวิ่งวุ่นเปลี่ยนชุด แต่งหน้า บางคนลืมเอาชุดมาก็ต้องหาชุดที่เค้าเตรียมไว้ให้ คือสถานการณ์ตอนนี้คือวุ่นวายมากก ดีนะผมแต่งหน้าเสร็จอะไรเสร็จแล้วเลยไม่ต้องรีบ

“เฮ้ยไอ้น้ำ เดียวกูมานะ”
“ไปไหนของมึงอีกละ”
“ไปดูดบุหรี่ จะไปดูดกับกูด้วยไหมละ”
“เออๆ มึงไปเหอะเดียวกลิ่นแม่งติดตัว”

ไอ้ซีมันก็ค้นของในกระเป๋ามันเหมือนหาอะไรซักอย่าง


“นี่กูเอาน้ำหอมมารับลองไม่ติดแน่นอน”
“จ้ะ ต่อให้มึงจะเอาน้ำหอมมาหรือไม่เอามากูก็ไม่ดูด ไอ้สัส!!”
“เออๆ กูแค่ลองถามดูเพื่อมึงอยากลองเปลี่ยนแนว”
“ไม่อะกูเป็นแบบนี้ของกูก็ดีอยู่ละ”

 ผมก็หยิบของผมขึ้นมาบ้าง


“นี่หนังซื้อการ์ตูน เนี้ยแหละแนวกู ฮ่าๆ”

พวกผมก็นั่งขำกันอยู่สองคน เหมือนเด็กเลยไอ้ห่าเอาของมาอวดกัน


“มึงสองคนนี้ทำตัวเหมือนเด็กเลยเนอะ”
“ก็กูเป็นเฟรชชี่ไง ก็ยังเด็กอยู่”
“เออๆ เป็นเด็กแบบนี้ก็ดีน่ารัก”
“นี่พี่ชมผมหรือชมไอ้น้ำมัน?”
“กูก็พูดถึงมึงทั้งสองคนนั้นแหละ”
“หรออออออ”
“เมื่อกี้มึงบอกว่าจะออกไปดูดหรี่นิกูไปด้วยดิ”
“นี่มึงดูดกับเค้าด้วยหรอ?”
“เออดิ ผู้ชายเกือบทุกคนเค้าก็ดูดกันทั้งนั้นแหละ”
“กูยังไม่เห็นดูดเลย”
“เออ นั้นมันก็เรื่องอของมึง”
“เลิกดูดได้ก็ดีนะมันเสียสุขภาพ มึงเป็นเดือนมหาลัยคนอื่นจะมองไม่ดี”
“คร้าบบบบบบบ”

 มันหันมาตอบผมแล้วมันก็เดินไป คิดว่ามันจะฟังผมไหม ถ้าว่าผมดื้อแล้วผมว่าไอ้คนที่ดื้อกว่าผมก็คงไอ้อิฐเนี้ยแหละ จากนั้นผมก็นั่งอ่านการ์ตูนของผมไปเรื่อย รอเวลาเค้าเรียกถ่ายรูป


“น้องต้นน้ำลูกมาเติมหน้าหน่อยมา”
“ต้องเติมด้วยหรอครับพี่?”
“เติมสิลูก แต่งหน้าคนแรกทิ้งไว้นานหน้าเยิ้มหมดแล้ว”
“ได้ครับผม”

ผมก็ไปนั่งที่เก้าอี้พี่ช่างแต่งหน้า

“ว้ายตายล้าววว พี่ลืมเซ็ทผมให้เราเลย ขอโทษนะจ้ะตอนเช้าพี่เบลอๆ นะคุณลูก”
“ไม่ต้องเซ็ท ก็ได้ครับพี่”
“ไม่ได้คุณน้องดูสิ ผมนี้ยาวปิดหน้าปิดตาไปหมดแหละ”

คือช่วงนี้ผมไม่มีเวลาว่างไปตัดผมเลยคือยุ่งกับการประกวด แล้วยังไม่สบายอีก แต่ถามว่าผมอยากตัดไหมก็อยากจะตัดนะครับคือตอนนี้ผมเหมือนอัลปาก้าในสวนสัตวต์มาก

“เอาไงกับผมเราดีเนี้ย ผมมันยาวเซ็ทยากมากเลย จะให้ไปตัดผมตอนนี้ก็ใช่เรื่องอยู่
งั้นเอาทรงนี้แล้วกันลูกหน้าจะเข้ากับเราอยู่นะ”

พี่ช่างแต่งหน้าเค้าก็รวบผมจากข้างหน้าไปไว้ข้างหลังครึ่งนึงแล้วก็มัดจุกให้ แล้วเค้าก็เหลือไรผมตรงท้ายทอยไว้ให้อารมณ์เหมือนทรงผมอะไรหว่าที่ชอบเห็นฝรั่งเค้าทำกัน


“ไม่ต้อง งง ค่ะคุณลูก เค้าเรียกทรงบัน ที่จริงถ้าเราไปตัดผมแล้วทำทรงนี้หล่อเลยนะเนี้ย แต่พี่ว่านี้ก็หล่อแล้วนะ”
“ไม่หรอกครับพี่ ผมว่ามันเหมือนทรงผู้หญิงมากกว่า”

เอาจริงๆ ผมก็ไม่ค่อยมั่นใจซักเท่าไหร่เพราะว่าไม่เคยมัดผมมาก่อน ส่วนมากผมไม่ไว้ยาวขนาดนี้ด้ยแหละ


“ไม่หรอกเชื่อพี่สิ ไม่งั้นเราดูสายตาคนที่มองตอนนี้สิ”

คือตอนนี้ทุกคนมองผมแบบตกใจ อารมณ์เหมือนเห็นของแปลกไม่ก็สัตว์แปลกประหลาดในตู้โชว์สวนสัตว์


“น้ำมึงมาทำอะ.....เชี่ยยยยย”
“เอ้าไอ้เชี่ยซีอยู่ดีๆ มึงก็มาว่ากูคืออะไรเนี้ย”
“นี่มึงจริงๆ หรอไอ้น้ำกูนึกว่าดาราเกาหลี”
“เออกูเองเนี้ยแหละจะตกใจห่าอะไร ว่าแต่มึงไปฉีดน้ำหอมไปเหม็นบุหรี่ว่ะ”

แชะ~ แชะ~ แชะ~


“มึงทำอะไรของมึงเนี้ยไอ้ซี”

อยู่ดีๆ มันก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปคู่กับผม


“โห่ว ก็มึงหล่อ...กูก็ขอถ่ายรูปเก็บไว้หน่อยดิวะ”
“เฮ้ย ไอ้ซีมึงจะไป...”

นั้นไงอีกคนละมึงจะตกใจอะไรไอ้อิฐ

“นี่ใครวะมึง เดือนคนใหม่หรอไอ้ซี ทำไมกูไม่เห็นคุ้นหน้าเลย”
“พี่ลองมองดีๆ ไม่คุ้นบ้างเลยหรอพี่”
“ใครวะ....”
“มองห่าอะไรนักหนาไอ้อิฐ”
“ไอ้น้ำนม!!!”
“เออกูเองจะตกใจทำไม”
“ก็ปกติมึงไม่เซ็ทผมนิหว่า”
“กูก็ไม่ได้อยากทำหรอก แต่พี่เค้าทำให้เดียวถ่ายรูปออกมาไหมหล่อ”
“หน้าเหวอเลยนะมึงไอ้อิฐเป็นไงไรละน้องคณะกูหล่อใช่ไหมละ”
“เออมันก็หล่อแหละ”

มึงจะหลบหน้ากูทำไมไอ้อิฐปกตินี้ สู้กูชิบหายทีงี้มาหลบหน้าเป็นอะไรของมึง


“กูว่าตัวเต็งเดือนปีนี้คณะกูได้แน่นอน เสียใจกับน้องคณะวิศวะมึงด้วยนะ ฮ่าๆๆๆ”
“ไงกูก็หล่อกกว่ามันโว้ยยย”
“กูพูดถึงปีนี้ไม่ใช่ปีมึงไอ้อิฐอะไรของมึง แล้วนี่มึงจะหน้าแดงทำไม”
“ในห้องมันร้อนไง!! เออไอ้ซีออกไปฉีดน้ำหอมกับกูไปเดียวเค้าจะเริ่มถ่ายรูปกันแล้ว”
“ได้ครับพี่ เออไอ้น้ำงั้นเดียวกูมานะ”
“เออๆ รีบมาแล้วกันมึง”

ไอ้ซีก็รีบหยิบน้ำหอมเดินออกไปจากห้อง ว่าแต่มึงไม่ไปกับเค้าหรอไงไอ้อิฐมายืนมองกูทำไมเนี้ย


“มองอะไรอีกละ หรือหน้ากูมีอะไรติดอยู่วะ?”
“มี”
“ตรงไหนวะไม่เห็นมีอะไรเลย”
“เชื่อกูดิมี มาเดียวกูดูให้”

มันเดินมาแล้วก้มตัวลง

“ก็ความรักของมึงไง”

เชี่ยยยยยยย!!! อะไรของมึงเนี้ย ตลกมากหรอไ'น่ารักห่าอะไร กูหล่อไหม กูหล่อ


“งั้นกูไปแหละได้แกล้งมึงกูก็สบายใจแล้ว”
“มึงนี่ก็แปลกเนอะไอ้ซีแกล้งแต่น้องกู คนอื่นไม่เห็นมึงจะแกล้งเลย”
“ก็หน้าตามันหน้าแกล้งนี่หว่า แต่ตอนนี้กูว่ามันน่ารักมากว่าน่าแกล้ง”

งง เลยละสิพี่ณุ ยืน งง กลางดงประกวดเลย อย่าว่าแต่พี่ณุ งง เลยผมก็งง ไอ้ซีมันเป็นโรคจิตเล็กๆ หรือเปล่าวะ?
ชอบมาทิ้งระเบิดแล้วแม่งก็หายไปอย่างงี้ทุกรอบเลย

“น้องเสร็จกันยังคะพี่จะเริ่มถ่ายกันแล้วนะ”

เจ้ติณนาเริ่มมาเร่งแหละ ใครไม่เสร็จก็ต้องเสร็จละงานนี้ถ้าลองบอกว่าไม่เสร็จผมคงได้มีการจิกกัดจากพี่ติณแน่นอน


“อะไม่มีใครตอบอะไรแสดงว่าเสร็จแล้ว งั้นเริ่มจากการถ่ายแยกก่อนแล้วค่อยเป็นถ่ายรวมนะจ้ะ
เรียงจาก คณะ วิศวะ คณะแพทย์ ตามคิวเลยนะ”

จากนั้นทุกคนก็ค่อยๆ ทยอยกันถ่ายรูป ซึ่งกินเวลานานอยู่กว่าจะถ่ายแยกเสร็จ


“พี่ครับๆ ผมขอถ่ายรูปคู่กับไอ้น้ำนมหน่อยดิพี่”

อะไรของมึงไอ้อิฐ นี้ไม่ใช่เวลามาถ่ายรูปเล่นไหม คนอื่นเค้าก็รอถ่ายรูบรวมอยู่


“ได้อิฐเดี๋ยวพี่ถ่ายให้ งั้นเราสองคนมายืนเลย”
“กูไม่ถ่าย!!”
“เออ ถ่ายๆ ไปเถอะหน่าอย่าบ่น”
“ยื้มหน่อยครับ น้องอีกคนเราไม่ยื้มเลยเป็นอะไรหรือเปล่า”
“เปล่าครับพี่”
“อะงั้นยื้มหน่อย”

แชะ~ แชะ~ แชะ~


ถ่ายเสร็จไอ้ซีมันก็ไปยืนคุยอะไรกับพี่เค้าไม่รู้ ซึ่งนานมากจนผมแปลกใจหรือมันนินทาอะไรผมวะ


“ไอ้น้ำนมมานี่ดิ๊”
“อะไรของมึงอีกละ”
“เออ บอกให้มาก็มา”

ซึ่งนึกออกใช่ไหมครับผมก็ต้องเดินไป ไม่เดินไปเดี๋ยวแม่งก็โว้ยวายอีก


“มีอะไร! รีบๆ ดิคนอื่นเค้ารออยู่”
“อะนี่กูให้”

รูปมึงกับกูเนี้ยนะ จะให้กูทำไมวะ


“จะให้กูทำไม มึงอยากถ่ายก็เก็บไว้เองดิ”
“เออ กูให้ถือซะว่าเป็นของขวัญแล้วกัน”
“ยังไม่วันเกิดกูไหม กูไม่เอาได้ไหม มันรกห้อง”
“งั้นฉีกทิ้งเลยแล้วกัน!!”
“เฮ้ยใจเย็นไหม กูแค่ล้อเล่นจริงจังไปได้มึงนิ”

เอาจริงๆ ผมก็แกล้งมันเล่นๆ แหละครับอยากรู้ว่ามันจะทำหน้าอย่างไงแค่นั้นเอง แต่ไม่คิดว่ามันจะถึงขั้นฉีกรูป

“เก็บไว้ดีๆ ละอย่าให้หาย”

มันก็ขยี้หัวผม ซึ่งผมกูเซ็ทมาไหมมึง

“ผมกู เซ้ท มา ไอ้สาสสสสส!! เดียวไม่หล่อ”
.
.
.
.
“เออไม่เป็นไรหรอกแบบไหน มึงก็น่ารักสำหรับกู”
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-07-2017 15:51:18 โดย Kratin »

ออฟไลน์ Kratin

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 18
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
First Love  Engineering รักแรกนายวิศวะ #6


“โอ้ย!! ขอโทษนะครับ”
“ไม่เป็นไรน้อง ว่าแต่...”
“ผมรีบ ผมขอตัวก่อนนะครับ”

จะรีบไปไหนของมันวะ?


“เฮ้ยไอ้อิฐ ทำไรอยู่วะไปเร็วเดียวสายนะมึง พี่เค้าจะนัดประชุมดาวเดือนละเนี้ย”


ผมไม่ได้ยินเสียงของไอ้ณุเลย นอกจากเห็นไอ้เด็กคนนึงที่ผมยาว ตัวขาว ใส่ชุดนักเรียนที่กำลังวิ่งไปที่ตึก
ที่ทางมหาลัยเขาจัดสอบกัน

อั๊ก!!


“โอ้ยยย ไอ้เชี่ยณุ เล่นอะไรของมึงเนี้ยกูเจ็บนะเว้ย!!”
“ก็มึงอะ ยืนเหม่อห่าอะไรอยู่ กูเรียกตั้งนานแล้วก็ไม่ตอบ ว่าแต่น้องคนเมื่อกี้ใครวะ?”
“กูจะไปรู้จักได้ไง ก็น้องเค้าวิ่งมาชนกู แล้วก็รีบวิ่งเข้าตึกไปเลยเนี้ย”
“แบบนี้ชนแล้วหนีนิหว่า ว่าแต่รีบไปเหอะมึง เดียวสายพี่ติณณาด่าหยับอีก กูขี้เกรียจฟังพี่แกว่ะ”
“เออๆ”


ว่าแต่ไอ้เด็กนั้นเป็นใครวะ หน้าตาหวานเหมือนผู้หญิงเลย แถมกลิ่นน้ำหอมมันยังเหมือนกลิ่นขนมหวานๆ อีก 
มันหน้าจะเป็นผู้หญิงมากกว่าผู้ชายอีก หรือว่ามันเป็นตุ๊ดวะ? ก็หน้าจะใช่อยู่
ผู้ชายที่ไหนเค้าไว้ผมยาวปิดลูกตาขนาดนั้น  ว่าไปเราจะไปคิดถึงเรื่องมันทำไมวะเนี้ย


“อิฐ อิฐ อิฐ!!”
“ห้ะ ว่าไงครับพี่ติณณามีอะไรหรือเปล่า”
“พี่เรียกเราตั้งนานแล้วไม่ตอบเลย เป็นอะไรเปล่า หรือใจลอยคิดถึงสาวที่ไหนอยู่เนี้ย?”
“ใจลอยที่ไหนละพี่ไม่มี อีกอย่างผมก็มีพี่อยู่แล้วจะให้ใจลอยหาใครอีกละครับ”
“แหวะ ไอ้อิฐมึงเลิกหวานซักแปปได้ไหม สงสารคนไม่มีแฟนอย่างกูบ้างก็ได้”
“มึงก็รีบหาแฟนดิวะ จะได้ไม่ต้องมานั่งเหงา ดูหนังโป๊คนเดียว ฮ่าๆๆ”
“เออไอ้เชี่ย กูว่ากูเจอรักแรกกูแล้วละ”
“ใครวะมึงรักแรกของมึง?”
“ก็ไอ้น้องคนที่ชนกับมึงเมื่อเช้าไงกูว่าน้องเค้าน่ารักดีนะมึง”
“เฮ้ย!! แต่น้องแม่งเป็นผู้ชายนะมึง”
“เออ สมัยนี้แล้วใครเค้าจะไปสนใจเรื่องเพศกันวะ กูแค่คิดว่าน้องเค้าน่ารักดี ก็แค่นั้น”
“มึงนี่เปลี่ยนรสนิยมตั้งแต่เมื่อไหร่กูไม่เห็นรู้เรื่องเลย”
“เออ กูได้หมดถ้าสดชื่น ฮ่าๆๆ”
“แล้วแต่มึงแล้วกัน ถ้าจีบติดมาอวดกูด้วยละ”
“ได้ แต่ถ้ากูจีบติดมึงมาเลี้ยงเหล้ากูด้วยนะ ถือว่าฉลองที่กูมีแฟนซักที”
“ไอ้ณุมึงพูดอย่างกับมึงหน้าตาขี้เหร่ แล้วไม่มีใครเอา กูเห็นคนเค้าเข้าหามึงเยอะจะตายห่า แต่มึงได้แล้วก็เลิก”
“ก็กูยังไม่เจอคนที่ถูกใจนิหว่า อีกอย่างคนที่ชอบกับคนที่รักมันต่างกันนะเว้ย”
“อะๆ กูขี้เกรียจพูดกับมึงแล้ว พูดไปมึงก็ไม่ฟัง”
“ว่าแต่เด็กที่พวกอิฐกับณุเจอเนี้ยใช่น้องคนนั้นหรือเปล่า”

พี่ติณก็เอานิ้วชี้ไปที่ไอ้เด็กที่ชนผมเมื่อเช้า ดูจากถ้าทางมันแล้วมันหน้าจะเหนื่อยๆ นะ
สงสัยข้อสอบปีนี้อาจารย์หน้าจะออกยาก มันคงจะไม่ผ่านแน่เลยทำหน้าจ๋อยเลย


“นั้นไง รักแรกมึงมาแล้วไม่เข้าไปทักหรอไง”
“มึงไม่ต้องบอกหรอกไอ้อิฐ เดียวกูจะเข้าไปขอเบอร์เลย” ไอ้ณุแม่งก็ลุกไปไวมาก
ปกติผมไม่เคยเห็นมันจีบใครก่อนเลยนะ เพราะส่วนมากมันหน้าตาดี ก็จะมีแต่คนเข้าหามัน
แต่ผมหน้าดีกว่ามันนะเพราะผมเป็นเดือนปีที่แล้ว แต่มันเป็นแค่ลอง ฮ่าๆๆ


“เอ้าเป็นไรวะมึง ทำหน้าจ๋อยกลับมาเลย”
“ไม่ได้ขอเบอร์น้องเค้าไว้เลยว่ะมึง”
“เอ้าทำไมวะ? ก็กูเห็นมึงรีบวิ่งไป มึงวิ่งตามน้องเค้าไม่ทันหรอวะ?”
“ทันแต่ว่ามึงดูนู้นดิ”


มันชี้ไปที่รถตู้คันสีดำที่มีคนใส่สูทออกมายืนตอนรับ แล้วเปิดประตูให้ไอ้น้องคนนั้น ไอ้เด็กนี้มันเป็นใครวะ? ทำไมมีบอดี้การ์ดด้วย หรือมันเป็นลูกคนใหญ่คนโตถึงกับมีบอดี้การ์ดตามติดขนาดนี้


“อิฐๆ พาเราไปกินข้าวหน่อยดิเราหิวแล้วอะยังไม่ได้กินข้าวตั้งแต่เช้าเลย”
“อ่าวพี่ติณไม่ประชุมเรื่องงานดาวเดือนให้เสร็จก่อนละ เดียวโดนคนอื่นเค้าว่า”
“ไม่เป็นไรหรอกเราให้เพื่อนอีกคนฝากดูงานให้แล้ว”
“แต่อิฐไปไม่ได้อะดิ เพราะอิฐเป็นเดือนปีที่แล้วยังไงก็ต้องอยู่ประชุมก่อน”
“ไม่เป็นไรหรอก นี่ไงเดียวให้ณุดูให้”
“ณุ พี่ฝากให้เราประชุมแทนอิฐหน่อยได้ไหม”

ไอ้ณุทำหน้าแหยๆ เหมือนไม่เต็มใจ แต่ถามว่ามันทำอะไรได้ไหม บอกเลยว่าไม่ได้เพราะพี่ติณเค้าเป็นหัวหน้างานครั้งนี้ อีกอย่างยังเป็นรุ่นพี่ดาวเดือนก่อนหน้าผมด้วย


“ได้ครับพี่ ไงเดียวผมดูแทนให้แล้วกัน”
“ขอบใจมากนะ”

พี่ติณหันไปยิ้มให้ไอ้ณุ ซึ่งหน้าบ่งบอกว่าถ้าไม่ตอบว่าได้มึงคงตายแน่ไอ้ณุเอ๋ยยย


“ว่าแต่เราจะกินอะไรกันดีอิฐ เราหิวแล้วอะไปกินร้านข้าวในซอยไหมที่อิฐชอบพาเราไปกิน”
“ไปดิ”

ผมก็ออกมากินข้าวร้านประจำผม ซึ่งติณเค้าก็สั่งของมากินตามปกติผมก็ไม่เรื่องมากนะกินได้หมด


“เออ อิฐว่าแต่น้องคนนั้นเค้าน่ารักดีนะหน้าจะเป็นผู้หญิงติณจะได้ชวนมาเป็นเดือนเลย”
“นั้นดิมันน่ารักดีนะ หน้าเสียดายหน้าจะเป็นผู้หญิง”
“แหม่ ถ้าเป็นผู้หญิงแล้วอิฐจะจีบหรอไง”
“ฮ่าๆๆ ไม่หรอกอิฐจะไปชอบผู้ชายได้ไง อีกอย่างถึงเป็นผู้หญิงอิฐก็ไม่เอาอยู่แล้ว”
“หน้ารักมากกก”

ติณก็เอามือมาหยิกที่แก้มผมเบาๆ แต่ความสุขนี่ก็เกิดขึ้นได้ไม่นานครับ เพราะผมกับพี่ติณณาก็ได้จบเรื่องราวควมรักลง
เพราะผมเป็นคนเบื่อง่าย แล้วอีกอยากเราเข้ากันไม่ได้ มันอาจเป็นเหตุผลที่ดูเห็นแก้ตัวนะครับ
แต่ผมไม้่ชอบคนที่เอาแต่ใจเท่าไหร่ แล้วผมคิดว่าพี่ติณดูติดผมมากเกินไป
เรียกง่ายๆ ว่าผมชอบวิ่งตามคนอื่นมากกว่า ฮ่าๆๆ


“ไอ้ณุ ประชุมเสร็จไปกินเหล้ากันปะ กูเซ็งๆ เบื่อๆ วะมึง”
“ไปดิ แต่มึงเลิกกับพี่ติณแบบนี้จะไม่มีปัญหาตามมาทีหลังหรอวะ”
“ไม่รู้วะ คงไม่มีหรอกมั้งมึง ก็คนมันเข้ากันไม่ได้จะให้ครบต่อก็ไม่ไหวปะวะ?”
“เข้ากันไม่ได้หรือมึงเข้ากันมาแล้ว ฮ่าๆๆ”
“สัส มึงก็พูดไปเดียวใครได้ยินเข้าจะมองพี่เค้าจะเสียหายเอา”
“แหม่ะมึงนี้ก็เป็นคนดีเกินเนอะ"
“สรุปคืนนี้เจอกันนะมึง”
“เออๆ แล้วมึงจะไปร้านไหนวะ?”
“ก็คงร้านในเมืองแหล่ะมึง นั่งชิลเอา”
“นั่งชิลก็ข้างๆ มหาลัยก็ได้ไหมมึง จะเข้าไปร้านในเมืองเพื่อ....”
“ก็ข้างๆ มหาลัยกูเบื่อแหละ อยากไปข้างนอกบ้างว่ะ”
“เออแล้วแต่มึงละกัน กูไม่ขัดเพื่อนถ้าเพื่อนเลี้ยงอะนะ”
“ไอ้ณุ มึงนี่สายตลกแดกอีกแล้วนะมึง”


พอประชุมเสร็จผมก็รีบกลับไปห้องตั้งตัวเพื่อที่จะออกไปร้าน


“ไปไหนอีกเนี้ยพี่อิฐ อยู่หอเป็นเพื่อนน้องไม่ได้เลยไง”
“เออมึงอย่าบ่นมากเฝ้าห้องไปดีแล้วมึงอะ”

ผมแต่งตัวเสร็จแล้วก็บอกให้ไอ้ปูนเฝ้าห้องแล้วรีบออกมาเลย ขี้เกรียจฟังมันบ่น มีน้องก็เหมือนมีแม่บ่นทุกเรื่องเลย
ว่าแต่ไอ้น้องคนนั้นจะเป็นไงบ้างวะ มันจะสอบติดไหมเนี้ยเห็นหน้ามันซึมๆ ว่าไปแม่งก็น่ารักเหมือนที่ไอ้ณุพูดจริงๆ แหละ
แต่เสียดายแม่งเป็นผู้ชายถ้าเป็นผู้หญิงป่านี้ผมกับไอ้ณุ คงต่อยกันแย่งมันไปแล้ว


“เฮ้ยอิฐ!! ไปเร็วเดียวไปช้าไม่มีโต๊ะนะมึง”
“ไม่ต้องห่วงเรื่องโต๊ะ คนอย่างกูจองไว้แล้วดูด้วยนี่ใคร ฮ่าๆ”
“เสือมันก็ยังเป็นเสืออยู่วันยันค่ำอะเนอะ รู้จักทุกร้าน ผู้หญิงในกรุงเทพมึงคงได้มาหมดแล้วใช่ไหม”
“สัส!! ก็ไม่ถึงขนาดนั้น แค่ใครเข้ากูก็คุยเล่นๆ กูมีแฟนกูก็หยุดไหมละ”
“เออๆ ไปเร็วไม่ต้องบ่นนี้แท็กซีมารอแล้วเนี้ย”
"บ่นอะไรมึงอะชวนกูคุยไอ้เชี่ยณุ"


ผมกับไอ้ณุก็รีบขึ้นรถเพื่อจะมาร้านเหล้า ระหว่างทางไอ้ณุมันก็เอาแต่นั่งบ่นอะไรของมันพึมพำคนเดียวก็ไม่รู้มัน


“มึงเล่นของหรือไงไอ้ณุ บ่นอะไรของมึงอยู่คนเดียวเนี้ย”
“มึงดูนี้ดิ”

มันยื้นมือถือมาให้ผมดูข้อความข่าว นักธุรกิจยางรายใหญ่ของประเทศไทย แล้วมึงยื้นมาให้กูดูทำไมวะแค่ข่าวทั่วไปเอง


“ไม่เห็นจะมีอะไรเลยมึง”
“มึงดูดีๆ ว่ามีอะไรคุ้นๆ ไหม”

อะไรของมันวะ ผมเลยลองดูอีกรอบกวาดสายตาไปมา


“เฮ้ย!! ไอ้น้องคนที่ชนกูเมื่อตอนนั้นนิหว่า”
“เออดิมึง เป็นลูกเจ้าของบริบัทผลิตยางรายใหญ่เลยนะมึง”
“กูว่าถ้ามึงจะจีบน้องเค้างานยากแล้วว่ะ”
“เออดิ กูว่ากูตัดใจหาคนใหม่ดีกว่า ฮ่าๆๆ”
“มึงก็ตัดใจง่ายไปไอ้ณุ”
“ไอ้อิฐมึงนึกภาพนะว่า เป็นลูกคนดังคนแม่งก็ต้องเข้าหาเยอะอยู่แล้ว อีกอย่างไม่รู้น้องมันจะสอบติดหรือเปล่า ความหวังไม่มีเลย แล้วจะให้กูไม่ตัดใจได้ไง”


“เออ ก็จริงงั้นมึงก็ทำใจซะนะไอ้ณุ ฮ่าๆๆ”
“น้องครับถึงแล้วครับ ทั้งหมด 253 บาทครับ”


มัวแต่คุยกับไอ้ณุจนลืมดูทางเลยว่าถึงร้านแล้ว ผมเลยรีบควักตังจ่ายให้พี่คนขับไป แล้วผมสองคนก็เดินเข้าร้านไปนั่งที่โต๊ะหน้าเวที ที่จองไว้


“ไอ้เชี่ยอิฐ!!”
“อะไรของมึงอีกเนี้ยไอ้ณุจะแหกปากทำห่าอะไรอยู่กันแค่สองคน”
“มึงดูนั้นดิ ใช่เปล่าวะ?”


ใช่อะไรของมันวะ ผมหันหลังกลับไปดูทางที่ไอ้ณุมันมองไป เฮ้ย!! นั้นมันไอ้น้องคนนั้นนิทำไมมาร้านนี้ได้วะบังเอิญชิบ แล้วมันมากับใครเยอะแยะไปหมดเลยรวมๆ หน้าจะประมาณสิบกว่าคนได้มั้ง


“มึงเห็นอย่างที่กูเห็นไหม”
“เออกูเห็นแล้ว”
“เชี่ยย โครตบังเอิญเลยว่ะ ไม่คิดว่าจะมาเจอน้องมันที่นี้ พอรู้ว่าเค้าเป็นลูกคนดังกูไม่กล้าเข้าไปคุยกับน้องเค้าแล้วว่ะ”
“โห่วณุมึงกล้าๆ หน่อยดิ”
“ไม่เอาอะ หรือมึงกล้า”
“ไม่อะไม่ใช่ธุระกงการอะไรของกู มึงชอบมึงก็ไปจีบเองดิ”
“โห่ววว กูก็คิดว่ามึงจะแน่ซะอีก”

โห่วไอ้ณุพูดแบบนี้เดียวเจอกู ผมเป็นพวกประเภทใครจะด่าจะว่าอะไรก็ได้ผมไม่ถือ
แต่ถ้ามาดูถูกกันหรือหยามศักดิ์ศรีทนไม่ไหวจริงๆ


“เอองั้นเดียวมึงเจอกู!! ถ้ากูจีบน้องมันติดมึงจะให้อะไรกู”
“เออกูยอมเป็นเบ้ไปตลอดเทอมนึงเลยเอา!”
“มึงพูดแล้วนะอย่ากลับคำละไอ้ณุ”
“คนอย่างกูคำไหนคำนั้นเว้ย!!” 

ด้วยความที่กินเหล้าไปมากมันเลยออกฤทธิ์ทำให้พวกผมใจกล้าและบ้าบิ่นกัน ตอนนี้ใครพูดอะไรหรือถท้าอะไรพวกผมสองคนคงทำหมด ได้จังหวะแหละมันเดินเข้าไปห้องน้ำพอดีเลย


“น้องชื่ออะไร”

ห่ามไปไหมผม ถามแบบจะหาเรื่องน้องมันเลย


“ผมหรอครับ?”
“เออมึงนั้นแหล่ะ ชื่ออะไร”

มันจะก้มหน้าก้มตาทำไมวะ ผมไม่ได้มาหาเรื่องมันซักหน่อย หรือว่าน้ำเสียงผมดูหาเรื่องจริงๆ ?


“ต้นน้ำครับ พี่มีอะไรหรือเปล่าครับ?”
“กูจะจีบมึง ได้ไหม!?”
“ห้ะ? ผมเป็นผู้ชายนะพี่อีกอย่างผมก็มีแฟนแล้ว”
“มีแฟนแล้วก็เรื่องของมึงดิ ก็กูชอบมึงไม่ได้ชอบแฟนมึง!!”
“ไม่อะพี่ ขอโทษด้วยนะครับ”

มันเดินหลบผมออกไป นั้นคงเป็นภาพสุดท้ายที่ผมจำได้ เพราะว่ารู้สึกตัวอีกทีคือผมอยู่บนรถกับไอ้ณุแล้ว


“เฮ้ยมึง ทำไมกูมาอยู่บนรถได้วะ”
“ก็มึงอะดิเมาอ้วกในห้องน้ำ”
“จริงดิวะ!! กูว่ากูก็กินไม่เยอะนะมึง”
“ไม่เชี่ยอะไรมึง มาถึงมึงก็ก็เล่นแดกไปแล้วครึ่งกลม กูบอกให้ค่อยๆ ไม่เชื่อกู”
“แล้วมึงรู้ได้ไงวะ ว่ากูอ้วกอยู่ในห้องน้ำ?”
“ก็ไอ้น้องนั้นอะดิ มันเดินมาถามกูว่าเป็นเพื่อนมึงหรือเปล่า บอกกูว่าเพื่อนพี่อ้วกอยู่ในห้องน้ำกูเลยรีบไปดูมึงเนี้ย”
“อ๋อ ว่าแต่กูเข้าไปอ้วกในห้องน้ำได้ไงวะ?”
“โอ้ยย ไอ้อิฐมึงเข้าวิศวะได้ไงเนี้ยกูถามจริง ตอนสอบเข้าให้มึงแต่ปฏิบัติอย่างเดียวไม่ได้ให้ทำข้อสอบหรอไง"
“เออไอ้เชี่ย ก็กูไม่รู้ภาพแม่งตัดนิหว่า”
“ก็ไอ้น้องนั้นแหละ มันบอกเห็นมึงกำลังอ้วกเลยพยุง มึงไปอ้วกในห้องน้ำ แล้วมันก็เดินมาตามกูเนี้ย”
“เชี่ยยย ทำไมกูจำอะไรไม่ได้เลยวะ อายชิบหายเลยไปจีบเค้าแต่มาอ้วกให้แม่งดูเนี้ยนะ”
“ซ่าไงมึงอะ ได้เรื่องเลย”

ผมได้แต่เอามือนั่งกุมหัวตัวเอง แล้วคิดว่าทำอะไรลงไปบ้างน้องมันจะเกลียดผมหรือเปล่าแต่ความรู้สึกของผมตอนนี้เหมือนจะเปลี่ยนไปชอบไอ้น้องนั้นนิดนึงแล้วด้วยสิ


“ไอ้ณุ ถ้ากูจะจีบน้องเค้าจริงๆ มึงไม่ว่าใช่ไหม”
“ห้ะ พูดอะไรของมึงเนี้ยนี่มึงยังไม่หายเมาใช่ไหมเนี้ย”
“กูพูดจริงๆ กูว่ากูรู้สึกดีกับน้องเค้าไปแล้ววะ”
“มึงเอาจริงดิ แล้วทำไมอยู่ดีๆ มึงถึงชอบน้องมันได้วะ”
"ไม่รู้วะ มันสะดุดตาตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอแล้วว่ะ"
"ไหนมึงบอกว่า ไม่ชอบผู้ชายไงแล้วอีกอย่างมึงจะไปจีบน้องเค้าอย่างไง ยังไม่รู้เลยจะเจอน้องเค้าที่ไหนอีก"
“เออวะ แต่กูไม่ยอมตัดใจง่ายๆ หรอกมึง”
“แล้วแต่มึงแล้วกัน ถ้าเพื่อนจะชอบกูก็ไม่ขัดกูถือว่ากูถอนตัวไปแล้ว”


หลังจากนั้นผมก็นั่งตามหาเฟสต้นน้ำมันก็ไม่เจอ ไปร้านเหล้าที่ผมเจอมันครั้งนั้นก็ไม่มี สงสัยผมคงหมดหวังแล้วมั้ง  ผมได้แต่เดินใจลอยก่อนจะขึ้นตึกไปแนะนำตัวกับน้องที่เข้ามาใหม่ เซ็งวะไม่หน้าปล่อยไปเลยเรา


โป๊กกกก !!!!!


ผมได้ยินเสียงโป๊กดังมาก เอ้าเด็กที่ไหนมันมาเดินชนเสามหาลัยเนี้ย ไม่ดูตาม้าตาเรือเลย...ไปช่วยมันซักหน่อยแล้วกันสงสารมันคงจะอายไม่กล้าลุกเลย


“เฮ้ย!! มึงเป็นไรมากปะเนี้ย?”
“เหี้ย!! เอ่อ...ไม่เป็นไรขอบใจมาก”


ไอ้เด็กเวรนี่คำแรกที่มึงควรจะตอบคนที่เค้าเข้ามาช่วยมึง คือขอบคุณไหม กลับมาด่ากูเฉยเลย
อย่างงี้ต้องสั่งสอนหน่อยแล้วมั้งว่าต้องปฏิบัติกับรุ่นพี่อย่างไง แต่เดี๋ยวนะ!! ทำไมหน้ามันคุ้นๆ วะ
ใช่ไอ้น้องต้นน้ำเปล่าวะ ลองแกล้งแล้วถามชื่อมันดูดีกว่า


“เออ!! รู้แล้วก็รีบปล่อยดิวะเดียวไปรายงานตัวไม่ทัน”
“กูยอมปล่อยก็ได้ แต่มึงต้องบอกชื่อมึงมาก่อน”
“ต้นน้ำ เรียนกูน้ำเฉยๆ ก็ได้ ทีนี้มึงจะปล่อยกูได้ยัง”
“กูชื่ออิฐ”

ในที่สุดผมก็เจอมันจนได้ไม่คิดเลยว่ามันจะสอบติดที่นี้ได้ ตอนนี้ผมยอมปล่อยมันขึ้นตึกไปก่อนแต่หลังจากนี้ผมจะไม่ยอมปล่อยมันไปไหนอีก หัวใจผมตอนนี้มันเต้นดังมากไม่รู้ว่ามันจะได้ยินหรือเปล่า ผมไม่คิดเลยว่าจะได้เจอมันอีก ดีใจชิบเป๋งเลยเว้ย!! อยากตะโกนออกมานะแต่ก็อายคนที่มองอยู่ ฮ่าๆๆ

“ไอ้อิฐ ไอ้เชี่ยอิฐ!!”
“ห้ะ มีอะไรวะมึง”
“มึงเม่อเหี้ยอะไรอีกวะเนี้ย เดียวก็ขึ้นห้องประชุมสายหรอกมึง”

ไอ้ณุมึงนี่แม่งขัดความสุขกูจริงๆ เลยนะมึง


“กูเจอมันแล้วว่ะมึง”
“เจอใครวะ เจอผีหรอไงมึง แต่กูว่าหน้ามึงไม่หน้าจะเจอผีนะ ยิ้มซะขนาดนี้”
“เออกูเจอมันแล้วไอ้ต้นน้ำอะ”
“ฮ่าๆ จริงดิกูดีจะด้วยนะมึง ว่าแต่แล้วมึงจะเอาไงต่อ”
“ครั้งนี้กูจะไม่พลาดเหมือนครั้งที่แล้วมึง”
“ไงกูเอาใจช่วยแล้วกัน ถ้ามึงจีบติดกูก็แค่เป็นเบ้มึงแล้วมึงก็ต้องเลี้ยงฉลองเพราะมึงได้แฟนใหม่ แล้วถ้ามึงจีบไม่ติดกูก็ได้แดกเหล้าฟรีอยู่ดี ฮ่าๆๆๆ”
"มึงนี่คิดเองเออเองหมดเลยนะไอ้ณุ แต่ไงหน้าอย่างกูก็จีบติดอยู่แล้ว"
"เออ...ครั้งนี้มึงก็อย่าเผลอปล่อยมันหลุดมือไปอีกละ"
.
.
.
.
.
"สุดท้ายพี่ก็เจอเราซักทีนะน้ำนม"
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-06-2017 07:57:25 โดย Kratin »

ออฟไลน์ Kratin

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 18
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
First Love  Engineering รักแรกนายวิศวะ #7


มันแปลกมากไหมถ้าผมจะรู้สึกดีกับผู้ชายขึ้นมาจริงๆ ไม่คิดว่าการทำดีของไอ้อิฐมันจะทำให้ผมใจอ่อนได้ขนาดนี้ แต่ถ้าพูดตามตรงไอ้อิฐมันก็ทำดีกับทุกคนแหละครับ หรือผมจะเข้าข้างตัวเองไปหน่อยที่คิดว่าเค้าทำดีคือเค้าชอบเรา ฮ่าๆๆ แต่ตอนนี้คือผมรอไอ้ซีเปลี่ยนชุดนานมากแหละ เมื่อไหร่มึงจะออกมาซักทีเนี้ยไอ้สัส


“เฮ้ย!! ไอ้ซีทำห่าอะไรอยู่เนี้ยนานไปแล้วมึงกูจะเปลี่ยนเสื้อบ้าง”
“แปปดิมึง กูขอหล่อหน่อยเพื่อจะได้มีสาวๆ มาขอเบอร์”
“โอ้ยยยย มึงจะแต่งหล่อไปไหน ไปก็มีเดือนมหาลัย แล้วยังมีเดือนนิเทศอีกมึงคิดว่าผู้หญิงเค้าจะเลือกใคร ห้ะ!!”
“โห่ววว มึงพูดให้กำลังใจกูซักนิดดิว่ะไอ้น้ำ”
“เออ เร็วๆ ไปสายเดียวก็โดนบ่นอีก”
“เอาจริงที่มึงรีบไปเนี้ย เพื่อจะไปหาที่รักมึงใช่ไหม ฮ่าๆๆ”
“ที่รักพ่อง!! เดี๋ยวกูก็ไม่เลี้ยงเหล้าแม่งเลย”
“อะๆ เสร็จแล้วแค่นี้ก็ต้องเอาเหล้ามาขู่กู เห็นกูขี้เหล้าขนาดนั้นเลยหรอไง?”

เออดิไอ้สัส!! คนอย่างมึงนะถ้าไม่เอาเหล้ามาล่อกูไม่ยอมทำตามหรอกไอ้ห่า วันนึงถ้ามึงตับแข็งแล้วตายนะ กูไม่แปลกใจเลยไอ้เชี่ยซี


“หรือไม่จริง!?”
“จริงกูยอมรับ ฮ่าๆๆ ไปๆ คุณหนูรีบแต่งตัวครับ เดียวที่รักของคุณหนูจะรอเอานะ”
“ไอ้เชี่ย เดียวมึงจะโดนกู”

ผมไล่เตะมันในห้องข้อหาที่มันกวนตีนผม


“พวกมึงสองคนเล่นอะไรกันเนี้ย เสียงดังชิบหายเลย”


เอ้าผมไม่ได้ล็อคประตูห้องหรอวะเนี้ย


“อ่อ...เออ ไอ้ซีมันกวนตีนก็เลยแกล้งมันกลับอะ”
“พวกมึงดูไม่รีบกันเนอะ กูนัดทุ่มนึงไม่ใช่หรอไง”
“เออรู้แล้วๆ ไม่ต้องบ่นได้ไหมละ”
“กูไม่ได้บ่น นี้กูบอกดีๆ”
“ว่าแต่เมื่อกี้มึงได้ยินที่กูคุยกันหรือเปล่า?”
“ไม่ได้ยิน รีบแต่งตัวแล้วกันงั้นกูไปก่อนนะ อย่าช้าละถ้าช้าเลี้ยงเหล้าพวกกูด้วย”


แต่ละคนให้ช่วยก็เลี้ยงเหล้า ไปช้าก็เลี้ยงเหล้า พวกมึงเป็นแอลกอฮอล์ลิซึ่มกันหรอไง ไอ้ห่า


“เออๆ ไม่ช้าหรอกไปก่อนเลยขอเวลาแปปนึง”
“เคๆ”
“มึงคิดว่าไอ้อิฐจะได้ยินเปล่าวะ?”
“ได้ยินที่กูพูดว่าเค้าเป็นที่รักมึงอะนะ?”
“เออใช่ดิ เฮ้ย!! ไอ้เชี่ยซีมึงเอาอีกละ”
“มึงอะรีบไปแต่งตัวได้ละ ถ้าไม่อยากเลี้ยงเหล้าเพิ่ม ฮ่าๆๆ”
“เออๆ ช้าก็เพราะมึงเนี้ยแหละ”


ผมกำลังหลังปล่อยผมที่พี่เค้าเซ็ทให้เมื่อตอนเช้าออกเพราะรู้สึกรำคานมาก ไม่เหมือนตัวเองเลย ไม่ชินกับทรงนี้จริงๆ ขอกลับไปเป็นอัลปาก้าเหมือนเดิมดีกว่า



“เฮ้ย!! ไอ้น้ำมึงจะทำอะไรเนี้ย”
“ปล่อยผมไงมึงกูไม่ชินว่ะ”
“ไม่ต้องปล่อยเลยมึงแบบนี้ก็ดีอยู่แล้ว ออกจะหล่อ”
“หล่อหรอวะมึง กูว่าปล่อยผมกูสบายใจกว่าเยอะเลย แบบนี้กูไม่มั่นใจเลยว่ะ”
“เชื่อกูดิ”
“เออๆ ก็ได้แต่ทำผมทรงนี้ไม่รู้จะใส่ชุดอะไรให้เข้าเลยอะมึง”
“งั้นแปป”

ไอ้ซีมันลุกขึ้นไปเปิดตุ้เสื้อผ้าผม แล้วมันก็ยืนดูซักพัก แล้วก็หยิบเสื้อหยิบกางเกงออกมาให้ผมลองใส่ดู


“อะมึงลองดู กูว่าหน้าจะเข้ากับมึงนะ”
“จะเข้าหรอวะมึง มันดูธรรมดามากเลยนะ”
“เชื่อกูเข้า เสื้อยื้ดสีขาว กางเกงสแล็คสีน้ำตาล อะนี่รองเท้าผ้าใบสีขาว”

กูเชื่อแหละว่ามึงเรียนนิเทศมา จัดชุดให้กูซะดิบดีเลย ผมเลยไม่คิดไรมากใส่ๆ ไปแล้วกัน
เชื่อมันหน่อยแล้วอีกอย่างเพราะไอ้ซีมันเที่ยวบ่อยการแต่งตัวของมันก็ต้องดีอยู่แล้ว


“เชรดดดดดดดดดดด เข้ามากมึง มึงมีนาฬิกาหนังสีน้ำตาลปะวะ?”
“มีดิ มึงเอาไปใส่ดิ”
“กูจะเอาไปใส่ทำห่าอะไรละ จะให้มึงใส่”
“เอ้าหรอ ฮ่าๆๆ”

หลังจากที่ไอ้ซีจัดแจงแต่งองค์ทรงเครื่องผมเสร็จแล้ว ผมกับมันก็โบกพี่แท้กซี่ ไปร้านเหล้าทันที เพราะไม่อยากไปสาย แต่ถามว่าเวลาเหลือเท่าไหร่ผมตอบได้เลยเหลือห้านาที คิดว่าจะทันไหมเอางี้


“ไปสายแน่เลยว่ะมึง สรุปกูต้องเลี้ยงเหล้าทั้งมึง ทั้งไอ้อิฐใช่ไหมเนี้ย”
“เออไม่เป็นไรหรอก มึงเชื่อกูดิไปถึงมึงไม่ได้เลี้ยงแน่นอน”
“มึงเอาอะไรมามั่นใจขนาดนั้นวะ”
“เออเชื่อกูดิ”


แล้วรถก็จอดอยู่หน้าร้าน ซึ่งมันก็ไม่ได้ไกลจากมหาลัยผมเท่าไหร่หรอกแต่ขี้เกรียจเดิน อีกอย่างถ้านั่งวินมากว่าแพงกว่า เลยตัดสินใจนั่งแท็กมาดีกว่า จ่ายเงินเสร็จผมสองคนก็เดินเข้าร้าน แต่ไม่รู้ว่าพวกพี่เค้านั่งตรงไหนกัน


“อ่าวไอ้ซี น้องน้ำทางนี้ๆ”


ผมเห็นคือพี่ณุตะโกนเรียกพวกผมให้ไปนั่งที่โต๊ะ ซึ่งโต๊ะก็อยู่หน้าเวทีทำไมผมถึงมองไม่เห็นวะ ฮ่าๆ

“พี่สวัสดีครับ”

ใครบ้างวะเนี้ยทำไมเยอะจังวะ

“อันนี้พวกพี่ๆ ที่เป็นเดือนคณะปีที่แล้วนะ เราอาจไม่ค่อยคุ้นหน้าพวกมันเท่าไหร่
เพราะแม่งชอบโดดไม่ค่อยเข้าประชุมเท่าไหร่ ฮ่าๆๆ”
“โห่วว ไอ้ณุมึงก็พูดไม่ไว้หน้าพวกกูเลยนะ กูก็เข้าแต่เข้าไปส่องสาวๆ แล้วก็ออกขี้เกรียจโดนพี่ติณด่า ฮ่าๆๆ”

ผมว่าพวกพี่เค้าเริ่มเมากันแล้วแน่เลย แต่มันเพิ่งทุ่มเองนะทำไมเมาเร็วกันจังวะ


“เฮ้ย!! ต้นไม่ต้องทำหน้าแปลกใจ พวกมันยังไม่เมากันหรอกมันแบบนี้แหละ ทำใจหน่อยนะกินเหล้ากับพวกพี่อะ”
“ไม่เป็นไรครับพี่ เอาเลยๆ”
“เออเราจะกินอะไรสั่งเลย เดียวพี่เลี้ยงเอง ไม่ต้องเกรงใจนะ”
“ไม่เป็นไรพี่ ผมสัญญากับไอ้ซีไว้แล้วว่าจะเลี้ยงเหล้ามันอะ”
“เอ้าจริงดิ ไอ้ซีมึงนี่ก็ให้เพื่อนเลี้ยงช่วยไอ้น้ำมันออกบ้างก็ได้”
“โห่วพี่ก็มันสัญญาว่าจะเลี้ยง ถ้าผม...”

ผมรีบเอามือปิดปากมันเลย ไอ้เชี่ยซีไม่ต้องพูดเดียวเค้าก็รู้หมดหรอกไอ้ห่า รู้แล้วเอาไปบอกไอ้อิฐนี่กูจบเลยนะเนี้ย


“แหมะสองคนนี้มีความลับกันด้วย อะๆ พี่ไม่ถามแล้วกันว่าเรื่องอะไร”
“แฮ่ะๆ ว่าแต่พี่อิฐมันไปไหนหรอครับ เห็นมันออกมาตั้งนานแล้ว”
“อ๋อ มันไปเข้าห้องน้ำเดี๋ยวมาแหละ”
“โอ้ยย ปล่อยกูสักทีไอ้ห่า”
“โทษๆ มึง”
“มึงนิชอบปล่อยไก่ตัวเองนะ”

ไอ้ซีมันมากระซิบที่ข้างหูผม


“ไก่เชี่ยไรวะกู งง”
“ก็มึงอะเล่นไปถามถึงพี่อิฐมัน เค้าก็รู้หมดว่าที่มึงมาเนี้ยเพื่อมาหามันอะดิ”
“เอาไอ้เชี่ยก็กูไม่เห็นมันกูเลยถามไง”
“มึงกระซิบอะไรกันอีก”

เชี่ยแม่งมาตั้งแต่ตอนไหนเนี้ย


“เออเรื่องของกูไม่เกี่ยวกับมึงหรอก”

ไม่เกี่ยวที่ไหนละ เกี่ยวกับมึงเต็มๆ เลยเนี้ย


“ไอ้อิฐ มึงจะยืนมองน้องอีกนานไหมมานั่งไหมมึง”
“เอ้ายังอีก เฮ้ยไอ้อิฐ!!”
“ห้ะ ว่าไงนะมึง”
“ยืนทำห่าอะไรมานั่ง”
“เออๆ”


เออมันจะมายืนจองผมทำห่าอะไรไม่เคยเห็นกูหรอไง วันนี้มึงก็เจอกูไปรอบนึงแล้วนะตอนเช้าอะ


“มึงเห็นหน้าไอ้พี่อิฐปะวะอึงไปเลยไอ้สาส”
“อึงอะไรวะมึง”
“ก็วันนี้มึงแต่งตัวไม่เหมือนทุกทีนิหว่า ทั้งชุดทั้งทรงผม บอกแล้วว่าเข้ากับมึง”
“เฮ้ย!! มาแดกเหล้าไม่ได้มาให้นั่งจีบกัน”
“มึงดูปากกูนะ กู เป็น เพื่อน กัน โว้ยยยยยย!!”
“ไอ้อิฐมึงก็ไปแซวน้องมัน ว่าแต่มึงมายืนอะไรข้างๆ กูเนี้ย”
“มึงอะเขยิบไปดิ”
“ให้กูเขยิบทำไม ที่นั่งมึงก็อยู่ตรงนู้นนิ”
“เออเขยิบไปเหอะหน่าไอ้ณุกูจะนั่งตรงนี้”

ภาพที่เห็นคือมันเอาเท้าเขี่ยๆ ให้พี่ณุขหยิบออกไป แล้วทำไมมึงไม่นั่งที่มึงจะมานั่งที่พี่ณุทำห่าอะไรของมึง มันลำบากคนอื่นเค้าไหมต้องมาเขยิบให้มึงนั่งเนี้ย


“อ๋อออ โอเคๆ บอกกูดีๆ ก็ได้ว่าอยากนั่งข้างๆ น้องน้ำมัน”
“เออกูอยากนั่งข้างมันมึงจะทำไม!?”


หิ้วววววว เสียงโห้ร้องดังขึ้นเหมือนเป็นเรื่องสนุกกันเลยนะพวกพี่ ถามผมบ้างไหมเนี้ย ไอ้ห่าแล้วกูจะเขินตามเค้าทำเพื่อ!!


“พวกมึงสองคนจะแดกไรอะ สั่งเลย”
“ไม่เป็นไร กูสั่งของกูมาแล้ว ถ้าของมากูขอย้ายโต๊ะนะ สงสารพี่คนอื่นต้องมานั่งเบียดกัน’
“ไม่ต้องย้าย จะย้ายทำไมพวกมันไม่คิดอะไรอยู่แล้ว”
“แต่กูเกรงใจไง”
“กูชวนมึงมาจะเกรงใจทำห่าอะไร”


เอ้านี่มึงเป็นอะไรเนี้ยไปโกรธใครมาวะ ตั้งแต่มาร้านแม่งทำหน้าบูดตลอดเลย
พูดจาก็แปลกๆ ดูไม่เห็นเหมือนเจอเมื่อตอนเช้าเลย


“นี่มึงอารมณ์เสียอะไรมาเนี้ย?”

มันกำลังจะกระดกแก้วเหล้าของมัน แต่ดันหยุดชะงักไปแปปนึงเพราะคำถามของผม

“ไม่อะไรหรอก รู้แค่ว่ากูไม่ได้โกรธมึงแล้วกัน”
“เอ้า ไม่ได้โกรธกูก็ไม่เห็นต้องทำหน้าแบบนั้นเลย มึงบอกเองนะมากินเหล้า มาก็ต้องสนุกดิจะมานั่งเครียดทำไม”
“เออรู้แล้วกูขอเวลาปรับอารมณ์แปปนึง”
“โอเคได้!!”

ผมเลยเรียกพี่พนักงานมา


“มึงทำอะไรอะ”
“ขอเพลงให้มึงไง”
“เพลงอะไรของมึงวะ?”
“เออรอฟังแล้วกัน ไม่ต้องถามมากหรอก”

เฮาแค่ผู้สาวขาเลาะ บ่แม่นผู้สาวขาเรียน  บ่ได้ขยันหมั่นเพียร ปากกาสิเขียนยังได้ยืมหมู่
การบอกการบ้านบ่เคยมี ข้อสอบสิออกบ่อนได๋ยังบ่ฮู้ แต่ว่าฮู้ วันนี้ พรุ่งนี้ และเมื่อวาน นั้นเป็นบุญบ้านได๋


ฮ่าๆๆ ไอ้อิฐถึงกับเหล้าพุ่งเลย ก็มึงอยากปรับอารมณ์ไม่ใช่หรอไงนี่ไงก็จัดให้ละ ปรับแบบสุดเลย ถ้ามึงยังทำหน้าบึ้งอีกกูก็ไม่รู้จะทำไงละเนี้ย


“นี่มึงขอเพลงอะไรของมึงเนี้ย”
“ฮ่าๆๆ ก็มึงบอกอยากปรับอารมณ์ไม่ใช่หรอนี่ไง กูช่วยปรับให้แล้วไง”
“มึงนี่มันจริงๆ เลยนะไอ้น้ำนม”

มันยิ้มแล้วก็สายหัวไปมา แล้วมันก็เอามือมาขยี้ที่หัวผมเบาๆ


“ขอบใจมากนะมึง”
“ไม่เป็นไรกูอยากฟังด้วยไม่ใช่อะไรหรอก ฮ่าๆๆ”
“ห้ะ มึงฟังแนวนี้ด้วยหรอ?”
“เปล่าหรอกไอ้คนที่เปิดให้ฟังอะนั่งโยกอยู่ทางนู้น”

ตัดภาพไปที่ไอ้ซีคือกำลังเมาได้ทีแล้วนั่งโยกอยู่ พวกพี่ๆ เค้าก็นั่งปรบมือตามเพลงให้ไอ้ซีโยก

“น้องน้ำเจ๋งมากเลย ขอเพลงถูกใจพวกพี่มากๆ ฮ่าๆๆๆๆ”

หลังจากกินเหล้าไปกันซักพักพวกผมก็เริ่มที่จะกรึ่มๆ กันแหละนี่ก็ประมาณช่วงห้าทุ่มแล้วร้านเริ่มเล่นเพลงช้าละ
“ต่อไปเดียวเราขอเข้าเพลงสากลบ้างนะครับ ฟังเพลงไทยกันมาเยอะแล้ว”

หิ้วววววว เสียงเฮจากโต๊ะผมดังมากสงสัยมันจะชอบเพลงสากลกัน


“ไอ้น้ำ เขยิบมาดิ”

อะไรของมึงวะไอ้อิฐจะให้กูเขยิบไปทำไมที่ก็ไม่ค่อยมี


“จะขยิบไปทำไมที่ก็ไม่ค่อยมีแล้ว”
“เออเขยิบมาเหอะ”
“อะๆ จะทำอะไรของมึงอีกเนี้ย”

มันกระซิบที่ข้างหูผมเบาๆ


“วันนี้มึงทำตัวน่ารักมากเลยนะ”
“ห้ะอะไรของมึงเนี้ย เมาแล้วกลับไปนอนไหมมึง”
“ไม่ กูยังไม่เมาแค่นี้เองเหลืออีกตั้งกลมนึง”
“กูละปวดหัวกับมึงจริงๆ เลย”
“น้องคนไหนอยากขึ้นมาร้องเพลงไหมครับ”

พี่นักร้องเริ่มหาตัวช่วยแล้วสงสัยจะเจ็บคอ เอาลูกอมไหมพี่


“เพื่อนผมเลยครับพี่!!”
“เฮ้ยไอ้ชี!! ไม่เอากูไม่ร้อง”
“มึงขึ้นไปร้องหน่อย นี่ทุกคนเข้าสงเสียเชียร์มึงแล้วนะเนี้ย”

น้องน้ำ! น้องน้ำ! น้องน้ำ!

มาเป็นอังกอร์เลยไอ้ห่า เออเป็นไงเป็นกันวะ ขึ้นก็ขึ้นถ้ากูร้องไม่เพราะอย่ามาว่ากูนะมึง ผมเลยขึ้นเวทีไป พอก้าวเท้าขึ้นไปเสียงเฮลั่นร้านเลย กดดันไปอีกกู ร้องเพลงไรดีวะกู เพลงนี้แล้วกันผมไปกระซิบพวกพี่นักดนตรีว่าเล่นเพลงนี้ได้
พี่เค้าบอกโอเคเล่นได้

“ขอเสียงปรบมือให้น้องน้ำคณะนิเทศหน่อยครับ”

หิ้วววววว~


“ไอ้น้ำสู้ๆ”
“น้องน้ำสุ้ๆ ร้องไม่เพราะไม่เป็นไร พวกพี่เชียร์อยู่”
เสียงตะโกนจากไอ้ซีกับพี่ๆ ที่โต๊ะคือให้กำลังใจผมสุด มาพร้อมแล้ว

Yes I do, I believe
That one day I will be where I was
Right there, right next to you
And it’s hard  the days just seem so dark
The moon the stars are nothing without you


ทำไมทุกคนเงียบหมดเลยวะ ใจกูเริ่มไม่ดีแล้วนะเนี้ย อย่างเงียบสิขอเสียงปรบมือหน่อยให้กำลังใจหน่อย
ผมเหลือบตาไปมองคนที่โต๊ะคือนั่งอ้าปากค้างกันหมด โดยฉะเพราะไอ้อิฐ นี่ผมร้องแย่มากเลยใช่ไหม

Can I lay by your side next to you, you
And make sure you’re alright?
I’ll take care of you,
And I don’t want to be here if I can’t be with you tonight


หิ้วววววววววววววววววว!!! เสียงคนปรบมือกับโห้ผมดังมาก โห้นี้คือโหว่เชียร์นะครับไม่ได้โห้ไล่ผมให้ลงจากเวที ฮ่าๆๆ
ไม่คิดว่าจะมีคนเชียร์เยอะขนาดนี้ แต่เดี๋ยวนะไอ้ซีมึงหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายอะไรของมึง
แล้วก่อนมึงจะถ่ายมึงช่วยหุบปากที่อ้าอยู่ก่อนนะมึง ไอ้อิฐก็อีกคนไม่ต้องอึ้งกูร้องไม่เก่ง


“เชี่ยอิฐ ไม่คิดว่าไอ้น้องต้นน้ำมันจะร้องเพลงเพราะขนาดนี้”
“เออ กูก็ไม่คิดว่ามันจะร้องเพราะเหมือนกัน นึกว่ามันจะด่าเก่งอย่างเดียว”
“กูว่างานนี้เดือนมหาลัยเป็นของน้องมันแน่เลยว่ะ หน้าตาดีร้องเพลงเพราะอีก แถมบ้านมันยังรวยอีก”
“กูว่าเราไม่ต้องคัดแล้วมั้งดาวเดือน ไอ้น้ำแม่งกินขาดแล้วว่ะ”
“ดีใจด้วยนะที่มึงเลือกจีบคนไม่ผิด ฮ่าๆๆๆ”
“ไอ้เชี่ยณุเบาๆ เดียวไอ้ซีมันได้ยิน”
“ไม่ได้ยินหรอก มึงดูสภาพมันทำอย่างกับไม่เคยเห็นเพื่อนมันร้องเพลง”
“ขอเสียงปรบมือให้กับน้องต้นน้ำอีกครั้งนะครับ ร้องเพลงเพราะมากเลย มาเป็นนักร้องแทนพี่ได้เลยนะเนี้ย ฮ่าๆๆ”
“ไม่หรอกครับพี่ งั้นผมขอกลับโต๊ะก่อนนะครับพี่”


อายชิบเลยเกิดมาไม่เคยร้องเพลงต่อหน้าคนเยอะๆ แบบนี้มาก่อนเลย


“ไอ้เชี่ยน้ำ มึงร้องเพลงเพราะขนาดนี้ไม่เห็นบอกกูเลยวะ”
“แล้วกูจะบอกมึงไปทำห่าอะไรละ”
“กูว่างานนี้คณะเราได้เดือนมหาลัยแน่นอนเลย ฮ่าๆๆ”
“เออให้มันได้เหอะ ว่าแต่มึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายอะไรกูไอ้ซี”
“ก็ถ่ายคลิปมึงตอนร้องเพลงอะดิ เอาไว้ไปลงเพจดาวเดือน ฮ่าๆๆ”
“อย่าลงเลยเชื่อกู เดียวคนอื่นจะมองกูไม่ดี”
“มึงไม่ทันแล้วว่ะ แฮ่ะๆๆ”
“ไอ้เชี่ยซี!!! มึงนี่นะทำอะไรไม่ปรึกษากูเลยเอามานี่เลยมึง”
“เฮ้ยไอ้น้ำนม ปล่อยมันไปเหอะไอ้ซีมันลงคลิปไปแล้วอีกอย่าง คนกดเข้ามาดูห้าร้อยกว่าคนแล้วนะ”
“ห้ะ!? อะไรนะจริงดิเอามาดูดิ”


ผมขอดูโทรศัพท์ไอ้อิฐมัน เชี่ยทำไมยอดวิวเยอะจังวะ

“แต่มึงร้องเพลงเพราะนะน้ำนม วันหลังร้องให้กูฟังบ้างดิ”
“เออๆ เอาไว้ร้องให้ฟังตอนมาร้านรอบต่อไปแล้วกัน”
.
.
.
.
.
“ไม่หมายถึงร้องให้กูฟังแค่คนเดียว”
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-07-2017 15:52:33 โดย Kratin »

ออฟไลน์ Kratin

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 18
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
First Love  Engineering รักแรกนายวิศวะ #8


มึงจะบ้าหรอไงร้องให้มึงฟังคนเดียวเนี้ย แล้วยิ่งเป็นมึงด้วยกูยิ่งไม่กล้าร้องไหม แค่ขึ้นไปแล้วมึงมองกูก็จะร้องผิดร้องถูกแล้ว
ว่าแต่พวกพี่เค้าจะกลับกันยังเนี้ยดึกแล้วนะ ร้านก็เปิดไฟไล่แล้ว กูอยากกลับไปนอนโว้ยยยย


“ไอ้ซีมึงจะกลับยังวะ?”
“ยังอะมึง พี่เค้ายังอยู่ต่อกันเลยกลับตอนนี้แม่งก็น่าเกลียดหรือเปล่าวะ”
“มึงแต่พรุ่งนี้กูต้องไปซ้อมเต้นที่กองประกวดอีกนะ”
“เอาไงละ หรือว่ามึงจะกลับก่อนไหมเดี๋ยวกูไปส่งมึง แล้วค่อยกลับมาอีกรอบ”
“ไม่เป็นไรมึง เสียเวลาเปล่าๆ”
“เฮ้ยพวกมึงเดียวกูกลับก่อนนะ”


ไอ้อิฐลุกขึ้นหยิบของจะออกจากร้านและ หรือมันได้ยินที่ผมคุยกับไอ้ซีวะ

“รีบกลับไปไหนวะมึง อยู่ต่อก่อนดิ”
“พวกมึงแดกกันไปเลยพรุ่งนี้เดียวกูต้องไปกองประกวดอีก ไอ้น้ำนมกลับพอกูเลยเดี๋ยวไปส่ง”
“ไปส่งไหน ส่งที่ห้องหรือส่งที่เตียงจ้ะ ฮ่าๆๆ”
“ไอ้เชี่ย มึงเงียบปากไปเลยพูดจาอะไรให้เกรียจไอ้น้ำมันบ้าง”
“ไปน้ำเดียวพี่ไปส่ง”

อะไรของมันวะอยู่ดีๆ มันก็ลากผมออกมาจากร้านเลยคือไม่ให้กูตัดสินใจหน่อยหรอไง


“ปล่อยก่อนดิไอ้อิฐ เดียวกูกลับพร้อมไอ้ซีก็ได้”
“เดียวกูไปส่งไง จะกลับพร้อมมันทำไม ห้องมึงก็อยู่ตรงข้ามกู”
“มันจะดีหรอวะ?”
“เออ อย่าบนมากเลยเดียวกูไปส่งมึงเอง”

จะไปส่งกูเนี้ยนะสภาพมึงตอนนี้คือเมามาก กูหน้าจะเป็นคนไปส่งมึงมากกว่ามั้งเนี้ย


“เออๆ แปปนึงเดียวเรียกแท็กซี่ให้รอก่อน”
“งั้นกูไปนั่งรอตรงนั้นก่อนนะ”
“เอออย่าไปหาเรื่องคนอื่นละ นั่งเฉยๆ เข้าใจไหม”
“คร้าบบบ”

ยอมเชื่อฟังกูด้วยว่ะ เมาแล้วทำตัวน่ารักขึ้นเยอะเลยนะมึง


“พี่ครับ ไปซอยข้างๆ มหาลัยตรงนี้อะครับ”
“โอเครับๆ”
“ไอ้อิฐไป.....ไปไหนวะเนี้ยไอ้สาส!!”

ผมมองซ้ายมองขวามันหายไปไหนอีกเนี้ยบอกให้รอไงไอ้ห่าเอ๋ยยย


“แปปนะครับพี่เดียวผมมาพี่กดมิสเตอร์ไปเลยนะครับ”

ผมวิ่งออกไปหามันแถวนั้น สิ่งที่ผมเห็นคือมันกำลังโดนผู้หญิงสองคนลากไปไหนก็ไม่รู้


“ขอโทษนะครับ!! คนนี้พี่ผม”
“อ่อค่ะ พอดีเราเห็นพี่เค้าเมาเลยจะพาไปนอนพัก”
“นอนพักที่ไหนหรอครับ? หรือนอนที่หอของพวกพี่?”

เอาและของกูขึ้นละไอ้ห่า


“อ่อเปล่าๆ งั้นน้องเอาพี่น้องกลับไปเลยก็ได้จ่ะ”
“ขอบคุณนะครับ”

ผมเลยพยุงไอ้อิฐมาขึ้นรถแท็กซี่ แม่งตัวหนักชิบหายเลยแดกอะไรเข้าไปเนี้ย
แล้วค่ารถปาไปเท่าไหร่ละเนี้ยมึงนี้มันตัวปัญหาจริงๆ เลยไอ้อิฐ


“ไอ้อิฐบอกแล้วใช่ไหมบอกว่าอย่าไปไหน ให้นั่งรออยู่ตรงนั้นไง”
“แค่งีบหลับไปเอง แล้วก็ไม่รู้ผู้หญิงสองคนนั้นมาจากไหนกูก็ตามเข้าไป”
“โอ้ยยย ไม่รู้จักเค้าแล้วจะตามไปหาพระแสงอะไรของ..”

มันเอามาแตะที่ปากของผมเบาๆ


“เลิกบ่นได้แล้วคนเมา ของีบแปปนึงนะ”

แล้วมันก็นอนลงบนตักผมแล้วก็หลับยาวไปเลย


“มึงเนี้ยนะ โตจะตายห่ายังเมาเป็นหมาอยู่เลย เฮ้อออ”
“น้องครับ หออยู่ซ้ายหรือขวามือครับ?”
“อยู่ขวาครับพี่ ตึกใหญ่ๆนั้นอะครับ เดียวพี่จอดข้างหน้าก็ได้ครับ”
“โอเคครับ”



จ่ายเงินเสร็จผมก็ต้องปลุกให้ไอ้อิฐมันลุกขึ้นมาแล้วแบกมันขึ้นไปห้องมันอีก ขออย่างเดียวมึงอย่าทิ้งตัวเป็นพอ
กูก็ใช่ว่าจะแข็งแรงเหมือนชาวบ้านเค้าเนอะ ล้มขึ้นมานี่ตายคู่เลยนะ


“ไอ้อิฐถึงห้องแล้ว เอากุญแจมา”
“ไม่ได้เอามา”
“ห้ะ!! แล้วมึงออกจากห้องอย่างไง ไม่เอากุญแจมาเนี้ย”
“มึงลองเคาะเรียกไอ้ปูนดูมันหน้าจะอยู่ห้อง”

ผมก็เลยเคาะเรียกปูนมันดู ไม่ตอบว่ะมันอยู่ห้องเปล่าวะเนี้ย


“มึงเอาโทรศัพท์มาดิ จะโทรหาปูนมัน”
“อะๆ”

ฮัลโหลปูน อยู่ไหนอะอยู่ห้องเปล่า
นี่ใครอะพี่อิฐหรอ
เปล่าๆ อิฐมันเมานั่งสลบอยู่หน้าห้องเนี้ย
อ่าว แล้วนี่ใครอะ
น้ำเองๆ
อ๋อ น้ำปูนออกมาข้างนอกกับพิมพ์กลับก็หน้าจะเช้าหน่อย
อ่าว แล้วไอ้อิฐเอาไงดี
ให้พี่อิฐนอนห้องน้ำก่อนได้ไหมอะ
โอเคๆ งั้นเดียวดูไอ้อิฐให้ไงก็กลับมาแล้วโทรมาเครื่องมันละ
ได้ๆ ไงฝากดูแลพี่อิฐมันด้วยนะ


งานเข้าอีกแล้วกู ต้องมาดูแลคนเมามันเป็นเวรกรรมของผมหรอไงถึงต้องมาเจอแต่คนเมาใส่เนี้ย
ลากมันไปนอนห้องก่อนแล้วกันหลังจากนั้นจะเอาไงค่อยว่ากัน

“เฮ้ยลุกไอ้อิฐ มานอนตรงนี้ไม่ได้”
“ไอ้ปูนมาแล้วอ่อ”
“เปล่า ปูนบอกกลับเกือบเช้าเลย ไงวันนี้มึงก็นอนห้องกูไปก่อนแล้วกัน”
“ได้หรอวะ?”
“เออ นอนๆ ไปเหอะ หรือจะไปนอนข้างถนนเอาไหมละ?’
“ไม่เอาอะ”

ผมก็ค่อยๆ พยุงไอ้อิฐเข้าห้องแล้วก็จับมันโยนลงไปบนเตียง เฮ้อออออ
เหนื่อยต้องมาแบกคนตัวใหญ่ๆ เนี้ย


“มึงอาบน้ำก่อนไป”
“นอนเลยไม่ได้หรอวะ?”
“ไม่!! กูเหม็นเหล้ากับบุหรี่ มึงไปอาบน้ำเดี๋ยวนี่เลย”
“ไอ้น้ำนมกูจะอ้วกว่ะ”
“ห้ะ!? มึงอย่าเพิ่งอ้วกบนเตียงนะไปอ้วกในห้องน้ำเลยไป”

มันก็เดินลากสังขารตัวเองไปเข้าห้องน้ำ หน้าสงสารนี้แหละกินไม่ดูสภาพตัวเองสมน้ำหน้ามัน ฮ่าๆๆๆๆ
แต่ก็แอบสงสารมันนะ ไปช่วยลูบหลังมันหน่อยแล้วกัน


“วันหลังก็อย่ากินให้เมาแบบนี้อีกล่ะ”
“ขอบใจมากนะไอ้น้ำนม”
“เออไม่เป็นไรหรอก ให้มึงมาอ้วกใส่เตียงกูก็ไม่ไหวม่ะ”
“ว่าแต่มึงไม่เมาเลยหรอ”
“ไม่อะนี้กินรู้ลิมิตตัวเอง”
“ขอบใจนะที่ดูแลตอนกูอ้วกถึงสองครั้งเลย”
“ห้ะ!! อะไรวะกูเพิ่งเคยมากินเหล้ากับมึงครั้งแรกเองนะ”
“เออชั่งเหอะ”


แล้วมันก็อ้วกต่อ อะไรของมันวะ เราเคยดูแลตอนมันอ้วกมาก่อนด้วยหรอ?
ไม่เคยเห็นจะจำได้เลยหรือมันคิดว่าคนอื่นเป็นผมหรือเปล่าวะ


“อ้วกหมดแล้วใช่ไหม ไปนอนได้แล้วไป เดียวกูเช็ดตัวให้”
“ไม่เป็นไรๆ กูนอนเลยดีกว่า”
“ไม่ได้กูเหม็นอ้วกมึงเนี้ย ถอดเสื้อเร็วกูจะเช็ดตัว”
“ไม่เป็นไรเดียวกูเช็ดเอง”
“มึงอย่าเรื่องเยอะดิ เมาก็นอนเฉยๆไป”

ผมก็เลยค่อยๆ เช็ดตัวมันส่วนมันก็นอนอาปากพะงาบๆ เอามือก่ายหน้าผากตัวเอง จะเมาอะไรขนาดนั้นวะเนี้ย
พรุ่งนี้กูต้องตื่นเช้าแล้วยังต้องมาดูแลมึงอีก


“เฮ้ย!!! มึงจะทำอะไรของมึงเนี้ยไอ้อิฐปล่อยกู”
“เออกูขอกอดหน่อย แปปเดียวก็ได้”
“ไม่ได้ไอ้สัส ปล่อยกูอยากกอดก็ไปกอดหมอนข้างดิว่ะ”
“ก็กอดมึงมันอุ่นกว่านิหว่าขอซักห้านาทีก็ได้”
“กูให้แค่ห้านาทีนะถ้าเกินกูถีบมึงจริงด้วย แล้วก็ห้ามทำอะไรกูเด็ดขาดเข้าใจไหม”
“คร้าบบบบ”

โอ้ยทำไมผมต้องมาตกอยู่ในสภาพแบบนี้ด้วยเนี้ย โดนเดือนมหาลัยที่เมาเป็นหมากอดในสภาพที่มันถอดเสื้อเนี้ย
เกิดมาไม่เคยโดนผู้ชายกอดโว้ยยย ไม่นะหัวใจอย่าเพิ่งเต้นแรงตอนนี้เดียวไอ้อิฐมันได้ยิน


“น้ำเป็นอะไรหรือเปล่า ทำไมอยู่ๆ ตัวร้อนขึ้นมาอีกไข้ขึ้นหรอ?”
“เปล่าๆ ครบห้านาทีแล้วปล่อยกูได้แล้วไอ้อิฐ!!”
“ขอแปปนึงได้ไหม กำลังสบายเลย”
“แต่กูอึดอัดปล่อยเดียวนี้!!”
“ไม่เอา ขออยู่แบบนี้ต่ออีกซักแปปดิ”

ทำไมผมทำอะไรมันไม่ได้เลยได้แต่นอนหน้าแดงอยู่ แต่ดีแล้วที่หันหลังให้มัน
มันจะได้ไม่ต้องเห็นหน้าของผมตอนเขิน


“น้ำพี่ถามอะไรเราหน่อยดิ”

อะเริ่มเรียกชื่อกูเพราะแหละ กูว่าเริ่มแปลกๆ แล้วนะ แล้วมึงจะถามอะไรกู
ถ้าถามว่ากูชอบมึงไหมกูตอบไม่ได้นะเพราะกูก็ยังไม่แน่ใจกับตัวเองเลยว่ากูชอบมึงจริงๆ
หรือแคชอบมึงเพราะมึงทำดีกับกู


“นี่ไม่รู้เลยหรอว่าพี่กำลังตามจีบเราอยู่”
“ไม่รุ้ แล้วมึงจะมีจีบกูทำไมกูเป็นผู้ชายนะ อีกอย่างมึงก็เป็นผู้ชายมึงจะรับสายตาคนอื่นได้หรอเวลาเค้ามองมา”
“ก็ถ้าเป็นแฟนกันจริงๆ ก็ต้องรับได้อยู่แล้วเพราะถ้าถึงตอนนั้นพี่คงแคร์สายตาเรามากกว่าสายตาคนอื่น”
“นี่กูว่ามึงเมาแล้วละปล่อยเถอะ เดียวเรื่องมันจะเกินเลยมากกว่านี้”
“ไม่ปล่อย!! กูชอบมึงจริงๆ นะไอ้น้ำนมชอบมาได้ซักพักแล้วด้วยถึงมึงจะไม่เคยรู้ก็ตาม แต่วันนี้กูอยากให้มึงรู้ไว้ว่ากูชอบมึง”


ทำไมอยู่ดีๆ น้ำตาของผมค่อยๆ ไหลอกมา ไม่รู้น้ำตานี้มันคือความสุขที่มันมาบอกชอบผม
หรือมันเป็นความรู้สึกที่ว่าเราสองคนเป็นผู้ชายแล้วมันไม่มีทางจะเป็นไปได้ที่เราจะครบกัน
ความรู้สึกผมตอนนี้มันไม่สามารถบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้เลยรู้แค่ว่า
อยากจะร้องไห้ออกมาให้มันโล่งขึ้นเท่านั้นเอง


“น้ำนมเป็นอะไร ร้องไห้ทำไม”
“ทำไม...ทำไม...มึงต้องมาชอบคนอย่างกูด้วยวะ ทำไมมึงไม่ไปชอบคนอื่นหรือชอบผู้หญิงที่ดีกว่ากู กูเป็นผู้ชาย กูไม่สามารถมีลูกให้มึงได้ แล้วที่บ้านมึงเค้าจะมองว่าไง มึงคิดดีแล้วหรอที่มาชอบคนอย่างกู”
“ไม่เอาดิ ไม่ต้องร้องนะน้ำพี่ทำให้เราเครียดใช่ไหม เอาเป็นว่าเรื่องที่พี่พูดไปให้มันจบลงแค่วันนี้แล้วกัน พอผ่านคืนนี้ไปก็ทำตัวปกติเหมือนเดิม”
“มึงจะให้กูทำตัวปกติอย่างไง มึงมาบอกชอบกูแล้วให้กูทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเนี้ยนะมึงบ้าหรอไง!!”


ผมได้แต่นั่งร้องไห้ซึ่งไอ้อิฐมันก็ไม่รู้จะทำไง ได้แต่เอามือมาปาดน้ำตาให้ผมอย่างเดียว
ผมจับมือมันให้เลิกปาดน้ำตาผมซักที


“อิฐมึงจูบกูดิ”
“ห้ะ!?”
“จูบกูดิ!!”
“มึงแน่ใจนะ เพราะกูก็ไม่เคยจูบกับผู้ชายมาก่อนเหมือนกัน”
“โอเค!”

ผมเลยเป็นฝ่ายเข้าไปจูบมันก่อนซึ่งมันก็ทำหน้าตกใจแต่มันก็จูบผมกลับมาเหมือนกัน
สัมผัสนั้นคือผมได้กลิ่นไอร้อนๆ จากปากของมัน กลับกลิ่นเหล้าที่ ค่อยๆ ไหลเข้าปากผม
ไอ้อิฐมันก็ค่อยจูบผมกลับมา ลิ้นของมันค่อยๆ สอดเข้ามาในปากผมอย่างนิ่มนวน
ผมก็ได้ตอบรับมันด้วยการทำแบบเดียวกับมันเหมือนกัน แล้วมันก็พลักตัวผมออก


“กูว่าพอไว้แค่นี้เหอะน้ำ เดียวกูไปนอนหอเพื่อนเอาดีกว่า”
“....”
“เอาไว้เจอกันนะ เรื่องในคืนนี้กูขอโทษมึงด้วยนะที่มาทำให้มึงสับสนกับตัวเอง”
“....”
“งั้นกูไปก่อนนะ มึงก็นอนพักเถอะ พรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้าเข้ากองประกวด”


สุดท้ายมันก็ได้แค่นี้ มันคงรับไม่ได้ที่ต้องจูบกับผู้ชายครั้งแรกเหมือนกัน
ผมก็แค่อยากจะพิสูทว่ามันจะมีปฏิกิริยาอย่างไงถ้าจูบกับผู้ชาย
แต่มันก็ไม่แปลกหรอกครับใครที่ไหนจะไปรับได้
ทำไมความรู้สึกของผมมันถึงเปลี่ยนไปกลายเป็นชอบมันไปแล้วมันไม่ใช่ที่ผมกับมันจูบกัน
มันเป็นคงเพราะว่าผมรอให้มันบอกชอบผม เพื่อทำให้ตัวผมมั้นใจว่ามันไม่ได้แค่แกล้งผมเล่น
แต่ตอนนี้มันคงไม่ใช่แล้วละครับเพราะมันเดินจากผมไปแล้ว ทั้งที่มันไม่ฟังความรู้สึกสุดท้ายของผมเลย
ความรู้สึกของผมที่จะบอกมันว่า "กูก็ชอบมึงเหมือนกันนะ" ผมทำได้แค่มองแผ่นหลังของมันที่เดินออกจากห้องไป
ผมทำอะไรไม่ได้เลยได้แต่นั่งร้องไห้อยู่ที่เตียงนอนของตัวเอง
.
.
.
.
.
“ขอโทษนะน้ำพี่กลัวจะห้ามใจตัวเองไม่ให้ทำอะไรเราไปมากกว่านี้ไม่ได้จริงๆ”
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-07-2017 15:53:13 โดย Kratin »

ออฟไลน์ Kratin

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 18
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
First Love  Engineering รักแรกนายวิศวะ #9


ผมได้แต่นั่งคิดถึงเรื่องเมื่อคืนว่ามันเกิดอะไรขึ้นบ้าง จนพอรู้ตัวอีกทีแสงแดดก็ส่องเข้ามาในห้องผมซะแล้ว
กลายเป็นว่าผมก็ไม่ได้นอนเลย ได้แต่คิดวนไปว่ามันจะยังรู้สึกกับผมเหมือนเดิมหรือปล่า
หรือตอนนี้มันเปลี่ยนไปแล้วคำถามมากมายค่อยๆ ไหลเข้ามาในหัวผมเต็มไปหมด

ครืด...ครืด...ครืด....

ฮัลโหลไอ้ซีว่าไงมึง
เอ้าไอน้ำมึงตื่นแล้วหรอ ตื่นไวนะมึงเมื่อคืนได้ยินข่าวว่าพี่อิฐนอนห้องมึงนิ
มึงรู้ได้ไง
ว่าแต่มึง...ได้ตั้มกันยัง ฮ่าๆๆๆ
ตั้มเหี้ยอะไรไม่ได้ตั้ม แล้วสรุปมึงรู้ได้ไง
เค้าก็พูดกันทั้งนั้นแหละว่าไอ้พี่อิฐไว ในเรื่องอย่างว่า
อ่อ งั้นคงไม่ใช่กับกูแล้วละ
มึงเป็นอะไรวะเสียงดูเศร้าๆ
ไม่เป็นไรมึง เดียวเจอกันหน้ามอนะมึงกูขออาบน้ำแต่งตัวก่อน
เฮ้ยมึง....



ผมรีบว่างสายจากไอ้ซีไม่อยากให้มันถามอะไรต่อในตอนนี้ แต่อย่างไงตอนผมเจอมัน
มันก็ต้องถามผมอยู่ดีว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นบ้าง แล้วที่มันบอกว่าไอ้อิฐไวในเรื่องอย่างว่า
แต่กับผมมันกับปฏิเสธผมก็รู้แล้วละครับ ว่ามันไม่ได้อะไรกับผม
เลิกคิดซักทีเถอะไปอาบน้ำไหม เฮ้อออ
หลังจากผมแต่งตัวเสร็จก็นั่งวินไปหน้ามอเพื่อไปหาไอ้ซี
ซึ่งไอ้ซีมันก็โบกมือเรียกผมหย่อยๆ อยู่


“เชี่ยน้ำมึงเป็นอะไรวะเนี้ย ทำไมสภาพมึงโทรมขนาดนี้วะ?”
“เมื่อคืนกูนอนไม่ค่อยหลับว่ะมึง”
“เออนอนไม่หลับกูรู้ แต่การแต่งตัว ผมมึง หน้ามึงเนี้ยโทรมชิบหายเลย”
“ก็กูรีบไงมึง อีกอย่างวันนี้ขี้เกรียจแต่งตัวด้วย”
“แล้วนี่เมื่อคืนมึงร้องไห้หรอ ขอบตานี่ช้ำมาเชียว”
“เปล่ามันช้ำเพราะกูไม่ได้นอนไง ว่าแต่มึงจะถามกูอีกนานไหมเดียวก็ไปกองประกวดสายหรอก”
“เออๆ เดียวกูค่อยเข้าไปถามมึงต่อก็ได้”


นี่มึงยังจะถามกูต่ออีกหรอให้กูพักบ้างเถอะไอ้ซี


“อ่าวไอ้น้ำ ไอ้ซีกำลังจะเข้าไปกองประกวดหรอ”

ดันเจอพี่ณุอีกแล้วยิ่งไปกว่านั้นดันมากับอิฐอีก จะทำไงดีวะเรา


“ใช่ครับพี่ เดียวว่าจะพาน้ำมันเอาของไปเก็บก่อนแล้วจะพามันไปกินข้าวด้วย”

เดี๋ยวนะไอ้ซีกูบอกตอนไหนว่ากูหิวข้าว

“พอดีเลยพี่ก็กำลังจะเข้าไปกองประกวด เดียวเดินเข้าไปพร้อมพี่เลยก็ได้”
“ได้ครับๆ ไปไอ้น้ำ”
“มึงกูลืมของไว้ที่ห้องขอกลับไปเอาก่อนได้ไหม”
“ไม่ต้องไปเอาแล้วเดียวสายไอ้สัส ไปเลยเนี้ย”

คือกูไม่อยากไปพร้อมไอ้อิฐมันไง


“นี่มึงเป็นอะไรเจอหน้าไอ้พี่อิฐมันแล้วซึมเลย”
“มึงเรื่องนิดหน่อยว่ะ มึงเดี๋ยวกูเล่าให้ฟังตอนไปกินข้าวละกัน”
“เออเคๆ ไงรีบเล่ากูอยากรู้”
“น้ำกูถือกระเป๋าให้ไหม”

เสียงไอ้อิฐดังมาจากข้างหลังผม


“อ่อไม่เป็นไร ขอบใจมาก”
“มึงเป็นอะไรหรือเปล่าดูโทรมๆ”
“ไม่ได้เป็นอะไร เมื่อคืนนอนไม่ค่อยหลับ”
“งั้นมึงขึ้นไปพักที่กองประกวดเดี๋ยวกูกับไอ้ณุไปซื้อข้าวมาให้”
“ไม่เป็นไร ขอบใจมาก”

ผมปฏิเสธทุกอย่างในสิ่งที่มันพูดมา ไม่รู้มันจะทำดีกับผมทำไมในที่เมื่อคืนมันก็เป็นคนเลือกที่จะเดินออกไปเอง


“มึงไปกินข้าวเลยก็ได้กูยังไม่อยากขึ้นไปกองประกวดว่ะ”
“เอ้า ทำไมวะก็เอาของขึ้นไปเก็บก่อนดิ”
“งั้นมึงขึ้นเอาของไปเก็บให้กูหน่อย กูไปรอโรงอาหารกลางนะ เจอกัน”


ผมโยนกระเป๋าให้ไอ้ซีแล้วก็เดินออกมาจากตรงนั้นเลย คือผมไม่อยากอยู่ตรงนั้นมันรู้สึกอึดอัดไปหมดขอแยกตัวออกมาดีกว่า
ผมมานั่งรอไอ้ซีที่โรงอาหารซึ่งช่วงเช้าก็ไม่ค่อยจะมีคนซักเท่าไหร่ผมก็นั่งฮัมเพลงไปเรื่อย
แต่เพลงที่ฮัมเศร้าทุกเพลงเลยกู


“เพราะดีนะ อะนี้ข้าว”

ไอ้ซีมันไวเหมือนกันเนอะสงสัยมันคงจะหิวข้าวแน่เลย


“ขอบใจมากนะมะ...”
“ตกใจอะไรของมึงไอ้น้ำ”

ก็กูไม่คิดว่าเป็นมึงไหมไอ้อิฐ อีกอย่างมึงตามกูมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ไม่เห็นรู้สึกตัวเลย


“หิวไม่ใช่หรอเห็นปีกตัวออกมาก่อน กินดิกูซื้อมาให้”
“ไม่เป็นไรเดี๋ยวรอไอ้ซีมาก่อน”
“มึงจะรอมันทำไมมันเพิ่งขึ้นไปเก็บของเอง หิวก็กินไปก่อนเลย”
“อื้มๆ”


บรรยากาศตอนนี้คือมาคุมาก เงียบแบบไม่มีใครคุยอะไรกันเลย


“กินเลอะเทอะนะมึง โตจะตายห่าแล้ว”

มันเอือมมือมาทำท่าจะเช็ดปากให้ผม แต่ผมกลับปัดมือมันออก


“เฮ้ยไม่ต้อง!!”
“มึงเป็นอะไรของมึงตั้งแต่เช้าแล้วเนี้ยไอ้น้ำ!?”
“มึงเลิกทำดีกับกูซักทีเถอะไอ้อิฐ ถ้ามึงไม่รู้สึกอะไรกับกูจริงๆ ก็อย่ามาทำดีกับกูอีก!!”

ผมลุกขึ้นแล้วก็เดินออกมาจากโต๊ะกินข้าว เพื่อจะไปหามุมหลบไม่อยากให้ใครเห็นน้ำตาที่กำลังจะไหลออกมา


“ไอ้น้ำกูมาละ...เฮ้ยไปไหนของมึงเนี้ย”
“เดียวกูมานะมึงวันนี้กูขอลาบอกพี่ที่กองประกวดด้วยว่ากูไม่สบายมาไม่ได้ แล้วกระเป๋ากูฝากไว้ที่มึงก่อนนะ”
“เดียวดิวะมึง”

ผมวิ่งไปหลบหลังมุมตึก มันจะมีโต๊ะให้เด็กเอาไว้นั่งเล่นอยู่ ซึ่งผมก็นั่งเอามือปิดหน้าตัวเองร้องไห้อยู่อย่างนั้น
ทำไมผมถึงอ่อนแอร์ถึงขนาดนี้วะ


“อะนี่”

มีผ้าเช็ดหน้ายื้นมาให้ผม ผมหันไปหยิบผ้าเช็ดหน้ามาแล้วก็ค่อยๆ หันไปมองคนที่ยื้นมาให้


“ขอโทษนะนาย ทำผ้าเช็ดหน้านายเลอะหมดเลย”
“เฮ้ยไม่เป็นไร นายชื่อน้ำใช่ไหม”
“อ่อใช่ นาย...?”
“ว่าแล้วจำเราไม่ได้จริงๆ ด้วย เราชื่อนิคคณะวิศวะที่ลงดาวเดือนด้วยไง”
“อ๋อ ขอโทษด้วยนะเราจำใครไม่ค่อยได้น่ะ”
“ฮ่าๆ ไม่เป็นไร ว่าแต่นายเป็นอะไรหรือเปล่าเห็นนั่งร้องไห้”
“อ่อไม่มีอะไรเราแค่มีเรื่องไม่สบายใจนิดหน่อย”
“เข้าใจแหละ ถ้ามานั่งร้องไห้แบบนี้เรื่องความรักแน่เลย”
“รู้ได้ไงเนี้ย!!”
“ฮ่าๆ ก็คนเรามันจะมีซักกี่อย่างที่จะทำให้เสียน้ำตาละ ถ้าเรื่องความรักเราก็ช่วยอะไรน้ำไม่ได้มากนะ แต่จะบอกว่าทุกๆ อย่างมันขึ้นอยู่ที่ตัวเราแล้วก็อีกคนว่ารู้สึกตรงกันหรือเปล่าแค่นั้นเอง”
“ขอบใจมากเลยนะนิค”
“งั้นเราขึ้นไปกองประกวดก่อนนะ แล้วก็อย่าทำงานเสียละเดียวคนอื่นเค้าจะมองไม่ดีเอา”

พอนิคมันพูดคำนี้ผมจุกเลย


“เอาวะน้ำสู้ดิ เรื่องแค่นี้เอง เราจะทำงานเสียไม่ได้เด็จขนาด”


ครืด...ครืด...ครืด....

ไอ้น้ำ!!! มึงอยู่ไหนเนี้ย สรุปมึงจะไม่เข้ามาซ้อมจริงๆ หรอวะ?
ไปแปปนึง กูขอเข้าห้องน้ำแปปนึง
อะไรของมึงเนี้ย
แค่นี้นะ เจอกัน


วางสายเสร็จผมก็เข้าไปห้องน้ำล้างหน้าล้างตา จัดผมใหม่ จัดเเสื้อกับกางเกงให้เรียบร้อย
พร้อมและวันนี้เราต้องอย่าทำงานเสีย ต่อให้เค้าไม่สนใจเราก็ไม่เป็นไร
เสร็จผมก็เดินขึ้นไปห้องซ้อมเต้นข้างบนตึก ทุกคนกำลังเตรียมตัวจะซ้อมเต้นกันพอดีเลย
ดีนะที่ผมรีบมาทัน แล้วไอ้ตัวปัญหาก็นั่งมองผมอยู่ ผมเลยเดินผ่านมันไปโดยไม่กลับไปมองมมันซักนิด


“ช้าจังวะมึง แล้วนี้มึงเป็นห่าอะไรอีกอยู่ดีๆ ก็วิ่งหนีไม่รอกูเลย”
“กูรีบเข้าไปแต่งตัวที่ห้องน้ำมา กลัวมาซ้อมไม่ทัน”
“ไหนมึงบอกว่าจะไม่ซ้อม อะไรของมึงเนี้ยหลายอารมณ์ชิบหายเลย”
“เอออย่าบ่นมาก เดี๋ยวโดนพี่เค้าว่า”


หลังจากนั้นพวกผมก็ซ้อมเต้นกันเพื่อจะโชว์เปิดตัวในงานประกวดดาวเดือนปีนี้
บอกเลยว่าเหนื่อยนิดน่อย แต่ก็ดีกว่าไม่ได้มาเลย


“งั้นเดี๋ยวพักเที่ยงกินข้าวกันก่อนนะคะน้องๆ”

ได้พักแล้วโว้ยยยย จะไปนั่งไปนอนกลิ่งให้สบายเลย

“อะน้ำ”
“ไม่เป็นไร กูเอาน้ำมาเอง”

ไอ้อิฐมันซื้อนมปั่นมาให้ ซึ่งผมก็ไม่เอา บอกมันไปแล้วว่าอย่ามาทำดีถ้าไม่รู้สึกอะไรด้วยมึงก็ยังจะมาทำดีกับกูอีก


“แต่กูซื้อมาให้มึงกินนะ”
“เอาไปให้คนอื่นเหอะ”

ผมพูดแล้วให้ไปยิ้มให้มันแบบ โคตรไม่จริงใจสุดๆ เลยกู


“อิฐเอาน้ำไหมติณซื้อมาให้”
“อ่อไม่เป็น...”
“เอ้าอิฐก็ซื้อน้ำมาให้ติณเหมือนกันหรอขอบคุณนะ”


อิฐกับพี่ติณนี่เค้าเป็นอะไรกัน ผมสงสัยมาตั้งนานแหละดูสนิดสนมกันมากกว่าพี่น้องนะ


“อ่ออ อื้มม”
“ไปนั่งต้องนู้นดีกว่าอิฐให้น้องเค้าพักกัน อย่าไปกวนน้องเค้า”
“เชี่ยน้ำมึงเห็ฯอย่างที่กูเห็นปะวะ?”
“เห็น”
“เนี้ยเค้ามีข่าวลือกันว่าพี่ติณกับไอ้พี่อิฐกลับมาคืนดีกัน”
“ห้ะ!? คืนดีกัน? เค้าเคยครบกันหรอมึง?”
“เออดิ นี่มึงไม่รู้เรื่องเลยหรอวะ เค้าครบกันแล้วก็เลิกกันไปช่วงหนึ่ง”
“อ่อ งั้นกูไม่แปลกใจแล้วล่ะ”


ผมว่าแล้วมันต้องมีอะไรทำไมวันนั้นพี่ติณถึงโทรไปปลุกไออิฐ แล้วทำไมไอ้อิฐต้องส่งรูปนอนป่วยให้พี่ติณ
มันคงเป็นการรายงานแฟนอย่างนึงสินะ แล้วสรุปเรื่องของผมมันก็แค่แกล้งผมเล่น
เรื่องเมื่อคืนนี้ที่มันบอกให้มันจบแค่คืนนี้ก็เพราะเหตุผลนี้สินะ


“ไอ้น้ำมึงเป็นอะไรวะร้องไห้ทำไม!?”
“เปล่านิมึง”
“ก็มึงน้ำตามึงไหลเนี้ย!”
“กูแค่ง่วงแล้วหาวไงน้ำตามันเลยไหล ไม่มีอะไรมึง”

พอไอ้ซีตะโกนแหกปากปุ๊ป ผมก็เห็นสายตาของไอ้อิฐมองมาที่ผมทันที
ผมเลยรีบหลบหน้าแล้วก็แกล้งทำลุกขึ้นไปหยิบข้าวมากิน


“อะนี่น้ำ”
“ขอบใจมากนะนิค มากินข้าวด้วยกันดิ กินกับไอ้ซีจนเบื่อแล้วอะ”
‘แหมะมึงทำมาเป็นเบื่อกูขึ้นมาทันทีเลยนะมึงเนี้ย”
“ก็เมื่อวานไปแดกเหล้ากับมึงก็เจอ เจอทุกวันเบื่อขี้หน้ามึง”
“จ่ะ อย่ามาขอร้องให้กูช่วยอีกละมึงอะ เฮ้ย!! ปูนมากินข้าวด้วยกันดิ”
“มึงสนิทกับปูนตั้งแต่เมื่อไหร่ทำไมกูไม่เห็นรู้เลย”
“นิดหน่อยเดียวกูเล่าให้ฟังละกัน”


จากนั้นปูนมันก็ลงมานั่งข้างๆ ไอ้ซีมัน ไม่หน้าเชื่อนนะครับว่าคนอย่างผมจะมีเพื่อนเยอะขนาดนี้
แต่ก่อนก็เอาแต่เก็บตัวอยู่แต่ในบ้าน ดีเหมือนกันนะรู้สึกมีเพื่อนแล้วทำให้ผมสบายใจขึ้นเยอะเลย


“อะเด็กๆ พักหายเหนื่อยกันแล้วเนอะมาซ้อมต่อกันได้แล้วจ่ะ แต่ยังไม่ต้องเต้นเยอะนะเดียวจะอ้วกกันซะก่อน"
“ว่าแต่มึงมีปัญหาอะไรกับไอ้พี่อิฐมันวะ กูเห็นมันมองมึงมานานและนะกูเริ่มอึดอัดแทนละเนี้ย”
“ก็เมื่อคืนกูกับมันมีปัญหานิดหน่อยว่ะมึง”
“ทำไมมันเมาแล้วอาละวาดหรอไง”
“เปล่า”
“อะแล้วมันทำอะไร”
“ที่จริงกูเป็นคนทำ กูเข้าไปจูบมันก่อน”
“ห้ะ!!!!!!!”
“ตรงนั้นคุยอะไรกัน ตั้งใจซ้อมหน่อยสิน้อง”
“ไอ้เชี่ยซีเบาๆ ดิมึง โดนพี่เค้าด่าเลยเห็นไหมเนี้ย”
“ก็มึงจูบกับมันจะไม่ให้กูตกใจได้ไง”
“เออนั้นแหละ แล้วมันก็ผลักกูออกแล้วก็เดินออกจากห้องกูไปเลย”
“กูว่าแปลกๆ ต้องมีอะไรซักยังกวนใจพี่เค้าอยู่แน่เลยไม่งั้นเค้าไม่ผลักมึงออกหรอก”
“นี่พวกเธอสองคนน่ะยังไม่เลิกคุยกันอีก ถ้าไม่ตั้งใจซ้อมไปนั่งอยู่ตรงนู้นเลยไป”
“ขอโทษครับๆ มึงซ้อมเสร็จเดียวค่อยคุย เดียวโดนพี่ด่าอีก”


ผมก็ซ้อมกันต่อ ทำไมตอนแรกมันไม่เห็นเหนื่อยเลยวะ ทำไมรอบนี่เหนื่อยกว่าเดิม
จะเป็นลมขอนั่งพักแปปละกันใครมียาดมให้บ้างไหมเนี้ย เฮ้อออออ


“อะน้ำยาดม”
“ขอบใจมากนะนิค”
“มึงหมดธุระยัง หมดแล้วก็ไปพักเดียวกูดูไอ้น้ำนมมันต่อเอง”

มึงไม่ต้องยุ่งกับกูได้ไหม ไปดูแลแฟนมึงนู้นจ้องกูตาเขม็งละน่ะ ถ้ากูโดนพี่ติณฆ่าขึ้นมาคือความผิดของมึง


“เฮ้ยไม่ต้อง ไปพัดให้พี่ติณไปเค้าก็ร้อนเหมือนกัน”
“พี่ติณเค้าดูแลตัวเองได้ เค้าโตแล้ว”
“กูก็โตแล้ว!! มึงไปดูแลแฟนมึงเหอะเดียวเค้าจะน้อยใจ”


ผมลุกขึ้นแล้วเดินไปหาไอ้ซีที่กำลังนั่งเล่นกับไอ้ปูนอยู่ มึงสองคนนี้สนิทกันไวเนอะไอ้ห่า แล้วไอ้อิฐมันไม่หวงน้องมันหน่อยหรอไงมายุ่งแต่กับกูเนี้ย


“ไอ้ซี ออกไปดูดบุหรี่ไหม”
“ห้ะ! มึงดูดไม่เป็นไม่ใช่หรอ?”
“ก็ลองอะไรใหม่ๆ บ้างไง”
“มึงแน่ใจนะไอ้น้ำ”
“เออ!! ลุกเร็วดูดเสร็จจะได้กลับบ้าน พรุ่งนี้ต้องไปเก็บตัวที่ต่างจังหวัดอีก”
“แล้วมึงจะกลับไปทำไมบ้าน เอาเสื้อผ้าที่หอมึงไปก็ได้”
“กูจะไปเอาของที่บ้านนิดหน่อย เลิกถามแล้วลุกซักทีไอ้สัส”
“เออๆ เดียวมานะปูนแปปนึง”
“โอเคๆ เดียวอยู่กับพิมพ์ก็ได้”


ผมกับไอ้ซีลงมาดูดบุหรี่ที่ข้างล้างตึก ซึ่งผมก็ไม่เคยดูดไม่รู้มันจะเป็นไงเหมือนกัน


“มึงแน่ใจนะว่าจะลอง ถ้าป๊ามึงรู้มึงโดนฆ่าแน่ไอ้น้ำ”
“ถ้ามึงไม่บอกป๊าก็ไม่รู้ปะวะ”

ผมเลยหยิบบุหรี่มันมาแล้วจุดไฟดูด นั้นแหละครับทำให้ผมรู้เลยว่าผมดูดไม่ได้ เพราะผมไอแบบไม่หยุดเลย
อยากรุ้เหมือนกันดูดบุหรี่มันเป็นไงวันนี้ผมได้รู้แล้วละครับ


“กูไม่รู้หรอกนะ มึงทำแบบนี้เพื่อประชดไอ้พี่อิฐหรือเปล่า”
“....”
“ถ้ามึงทำเพื่อประชดมันจริงๆ แบบนี้กูว่ามันยิ่งทำให้มึงดูไม่มีค่าเลยนะ”
“....”
“แต่ถ้ามึงอยากดูดอยากลองจริงๆ กูก็จะไม่ห้ามหรอก แต่ถ้ามึงกำลังประชดไอ้อิฐมันจริงเลิกเหอะวะ”
“....”
“เฮ้ยไอ้น้ำ!! กูขอโทษกูไม่ได้ด่ามึงนะกูแค่เตือนมึงเฉยๆ ไม่อยากให้มึงทำร้ายตัวเอง”
“กูไม่ได้ร้องเพราะว่ามึงด่ากูหรอก แต่กูร้องเพราะว่าทำไมกูถึงอ่อนแอถึงขนาดทำร้ายตัวเองได้ขนาดนี้”
“ไอ้สัส ไม่เอาไม่ร้องมึงก็มีกูอยู่นี้ไง กูไม่ทิ้งมึงไปไหนอยู่แล้ว”
“ไอ้อิฐแม่งเหี้ย!! มาทำให้กูรู้สึกดีแล้วแม่งก็ไม่เคยสนใจความรู้กูตอนนี้เลย”


ไอ้ซีมันเดินเข้ามาหยิบบุหรี่ในมือของผมแล้วเอาไปดูดเอง แล้วมันก็เอาแขนมาโอบไหล่ผมแล้วดึงเข้าไปซบที่อกมัน


“ไม่เป็นไรมึง กูอยู่ตรงนี้เป็นเพื่อนมึงเอง มึงอยากร้องมึงร้องเลยกูจะอยู่เป็นเพื่อนมึงเองไอ้น้ำ”

มันยิ่งทำให้ผมร้องหนักกว่าเดิมแบบไม่มีเหตุผล ไม่รู้ทำไมผมถึงเป็นได้ถึงขนาดนี้ ไอ้อิฐมันคงจะไม่รู้ว่าผมเสียใจมากแค่ไหน
แต่ดีแล้วครับที่มันไม่รู้เพราะสุดท้ายผมก็รู้ว่าคงสู้พี่ติณเค้าไม่ได้จริงๆ
.
.
.
.
.
“ที่มึงเข้ามาในชีวิตกู เพื่อแค่ทำให้กูรู้สึกแย่ใช่ไหมไอ้อิฐ”
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-07-2017 15:54:17 โดย Kratin »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Kratin

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 18
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
First Love  Engineering รักแรกนายวิศวะ #10


“มึงรู้สึกโอเคขึ้นบ้างยัง?”
“โอเคแล้วมึง ขอบใจมึงมากนะ”
“ไม่เป็นไรมึง วันหลังมีอะไรก็โทรมาหากูอย่าเก็บไปคิดคนเดียว”
“เข้าใจแล้วไอ้คุณซี”
“ฮ่าๆๆ ปกติดีเหมือนเดิมแสดงว่ามึงหายดีแล้วละ แต่เช็ดน้ำตาหน่อยไหมมึงหน้าตาเลอะหมดละเนี้ย”


มันเอามือมาเช็ดน้ำตาให้ผม ไอ้ห่าทำอย่างกับกูเป็นแฟนมึงเลย แต่เอาจริงๆ ซีแม่งก็ดีที่อยู่กับผมในเวลาที่ผมแย่ที่สุด


“พวกมึง....”


เออดี๊!! เข้ามาเห็นฉากนี้พอดีเลยเนอะไอ้อิฐ มึงนี่เข้ามาได้ถูกจังหวะจริงๆ


“ขอโทษที่มารบกวน”
“เฮ้ย!! เดียวดิ”
“ไม่ต้องตามไปมึง ปล่อยแม่งไป”
“แต่มันกำลังเข้าใจผิดนะมึง”
“ดีแล้วมึง ให้มันเข้าใจผิดแบบนั้นไปแหละ มันจะได้รู้บ้างว่ามึงรู้สึกอย่างไง”
“แต่...”
“ไม่ต้องแต่เลยมึงอะ เดียวไปล้างหน้าแล้วเข้าห้องไปเก็บของได้แล้ว เดียวกูไปส่งที่บ้าน”
“เออๆ”


ผมก็เดินเข้าห้องน้ำไปล้างหน้าล้างตาแล้วก็เดินเข้าห้องไปกับไอ้ซี ซึ่งผมก็พยายามมองหน้าไอ้อิฐ มันก็นั่งก้มหน้าเครียดไม่พูดไม่จาอะไร ยกเว้นแต่พี่ติณที่พยายามชวนไอ้อิฐคุย


“น้องน้ำเป็นอะไรหรือเปล่าตาแดงมาเชียว”


พี่ณุไม่ต้องทักก็ได้แค่นี้คนอื่นเค้าก็มองกันอยู่แล้ว

“อ่อคือ..”
“มันเป็นภูมิแพ้อะพี่ ภูมิแพ้คนไม่จริงใจอะครับ เวลามันเจออาการมันจะเป็นอย่างงี้ละครับ”
“ห้ะ!? โรคห่าอะไรวะ ภูมิแพ้คนไม่จริงใจ”

พี่ณุๆ บางที่ไม่ต้องเชื่อไอ้เชี่ยซีก็ได้พี่ มันแค่พูดกัดไอ้อิฐให้มันได้ยินเฉยๆ แต่ถามว่ามันได้ยินไหม?
จะเหลืออะไรละครับจองหน้าไอ้ซีเหมือนอยากจะพุ่งเข้ามาต่อยหน้ามันซักทีสองที


“เออชั่งมันเหอะ พวกมึงนี่เพ้อเจ้อ ว่าแต่คืนนี้ไปกินเหล้ากับพวกกูปะ? วันนี้ไอ้อิฐเลี้ยงเลยนะเว้ย”
“เลี้ยงเนื่องในโอกาสอะไรหรอครับพี่ณุ"
"ก็ที่คงกลับมาดีกับพี่ติณแล้วก็หลายๆ เรื่องละ ไปดิมึง”
“ผมต้องกลับบ้านไปเก็บของอะครับพี่คงจะไม่ว่างอะครับ”
“ไปเอาของมาแล้วค่อยมาก็ได้ นานๆไอ้มันจะเลี้ยงเลยนะ”
“ไม่ดีกว่าครับผม”
“โหว่เสียดาย”
“ดีแล้วพี่ที่ไอ้น้ำไม่ไป ถ้ามันเข้าบ้าน มันก็คงออกยากแล้วละพี่ป๊ามันหวง”
“เออๆ ก็เป็นลูกเจ้าของผลิตยางรายใหญ่ของประเทศไทยนิ ทำไงได้”
“พี่ลูกจักด้วยหรอครับ?”
“เออ...รู้จักดิก็ลงข่าวออกจะดัง”


ไม่แปลกใจครับที่จะไม่มีใครรุ้จักที่บ้านผม คงมีแต่ไอ้เชี่ยอิฐละมั้งครับที่ไม่รู้เพราะแม่งแกล้งผม
แบบไม่กลัวป๊าผมจะสั่งฆ่ามันเลย


“พี่ๆ ครับงั้นเดียวผมขอตัวกลับก่อนนะครับ สวัสดีครับ”


ผมก็หยิบกระเป๋าแล้วก็ออกมาพร้อมไอ้ซีผมก็เดินคุยกับมันเรื่องวันนี้ แล้วก็ถามมันว่าควรทำไงต่อดีแต่เอาจริงๆ
ถ้าผมไม่เจอหน้ามันผมก็ทำใจได้นะครับ แต่นี้ต้องเจอมันทุกวันเลยคงจะยาก


“เฮ้ย!! เดียวดิพวกมึง”

เฮ้ออ ไม่จบไม่สิ้นซักทีนะมึงจะเอาไงกับกูกันแน่


“งั้นกูไปรอทางนู้นนะมึง คุยเสร็จแล้วไปตามกูละกัน”
“โอเคมึง คงไม่นานหรอก”

แล้วไอ้ซีมันก็ไปยืนหลบๆ อยู่ตรงใต้ต้นไม้


“มีอะไร?”
“มึงลืมกระเป๋าสตางค์ไว้”

เชี่ยย ล้นไปตอนไหนวะเนี้ย

“เออขอบใจมากแล้วกัน”
“อื้ม”
“แค่นี้ใช่ไหมงั้นกูไปก่อนนะกูรีบ”
“มึงกับไอ้ซีเป็นอะไรกันวะ!!”
“กูไม่จำเป็นต้องบอกมึง”

ผมก็เดินหนีออกมา


“กูชอบมึงนะ!!!”


ผมหยุดชะงัก ทำไมน้ำตาเหมือนมันจะไหลออกมาอีกแล้ววะ ไอ้อิฐมึงชอบกูแต่กลับไปครบกับพี่ติณณา
คือมึงจะเก็บเอาไว้ทั้งสองคนเลยหรอไง พอเหอะ มึงแม่งเห็นแก่ตัวว่ะ


“กูไม่รู้หรอกนะมึงโกรธกูเรื่องอะไร แต่กูขอโทษ”
“ไม่เป็นไรมึงไม่ได้ผิดหรอกกูผิดเอง”


ใช่ผมผิดเองครับผิดที่ชอบมันไปแล้ว แต่ผมคงไปแย่งมันมาไม่ได้หรอกครับ


“เป็นไงบ้างมึง โอเคปะเนี้ย”
“โอเคมึงไม่มีอะไรกูแค่ลืมกระเป๋าสตางค์แค่นั้นเอง”
“มึงแน่ใจนะ?”
“เออแน่ใจ”
“กูว่ามึงกลับไปบอกความรู้สึกจริงๆ กับไอ้พี่อิฐไหมมึง มันตะโกนบอกชอบมึงขนาดนั้นกูว่ามันจริงใจกับมึงมากพอแล้วนะ”
“ทำไม่ได้หรอกมึง ตอนนี้มันกลับไปคบกับพี่ติณแล้ว จะให้กูไปแย่งมันมากูทำไม่ได้”
“มึงไม่ได้แย่งมันมา มันอะเลือกมึงแล้วตอนนี้ขึ้นอยู่ที่มึงแล้วว่าจะเอาอย่างไง”
“ไงกูจะเอากลับไปคิดดูนะมึง งั้นกูไปก่อนนะมึงป๊ากูมารับแล้ว”
“ห้ะ!? นี่ป๊ามึงมารับเองเลยหรอ?”
“เออดิ ก็ลูกชายคนเดียวจะกลับบ้านทั้งทีนิหว่า”
“เอองั้นเดียวกูไปสวัสดีป๊ามึง”
“มึงแน่ใจนะ”
“ไอ้เชี่ยมึงอย่าพูดแบบนี้ดิกูยิ่งกลัวๆ อยู่”
“ฮ่าๆๆ ไอ้สัสกูพูดเล่นป๊ากูใจดี”
“ยิ้มได้ซักทีนะมึง”
“เออๆ ไม่ต้องมาแซวกูรีบไปเดียวป๊ารอนาน กูจะโดนบ่น”


ผมกับไอ้ซีก็รีบเดินไปที่รถตู้สีขาวที่จอดอยู่ข้างหน้ามหาลัย


“ป๊าสวัสดีครับคิดถึงป๊าจังเลย”
“ป๊าสวสัสดีครับ”
“สวัสดีลูก ส่วนเราน้ำไม่ต้องมาคิดถึงป๊าเลย คิดถึงแล้วมาอยู่หอทำไม”
“โห่วว ก็ป๊าให้น้ำโตบ้างดิ นี่น้ำออกมาอยู่ข้างนอกน้ำโตขึ้นเยอะเลยนะดูดิ”
“ป๊าเชื่อ ว่าแต่นี้เพื่อนน้ำใช่ไหม”
“ใช่ป๊านี่ไอ้ซีมันเรียนที่เดียวกับน้ำตอนมอปลายแล้วก็มาเจอมันที่มหาลัย”
“อ่อ ว่าแต่แล้วไอ้หนุ่มนั้นใคร”

ป๊าผมพยักหน้าแล้วมองไปที่ด้านหลังไอ้ซีที่ยืนอยู่ไกลๆ คือไอ้อิฐล่ะครับ
นี่มึงยังไม่ไปอีกหรอกูว่ากูคุยกับมึงรู้เรื่องแล้วนะ


“เออ...พี่ที่ดูแลดาวเดือนอะป๊า”
“ห้ะ!! นี่เราไปเข้าประกวดดาวเดือนกับเค้าตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมไม่บอกป๊า”

ซวยแล้วกูเอาไงดีวะ ดันเผลอหลุดปาก


“น้ำก็ว่ากะจะบอกป๊าวันนี้ไงครับบ”
“ไม่ต้องเลยนะเราทำอะไรไม่เคยจะปรึกษาป๊าเลย ถ้าเป็นอะไรขึ้นมาป๊าจะรู้ไหม”
“ไม่เอานะป๊าไม่โกรธน้ำ ก็น้ำไม่อยากให้ป๊าเป็นห่วงนิ อยากให้ป๊าเห็นน้ำว่าโตขึ้นแล้วไง”
“เรื่องนี่ค่อยว่ากัน แล้วไอ้หนุ่มนั้นมันมายืนอะไรอยู่คนเดียวไม่เรียกมันมาล่ะ”


พูดเสร็จป๊าผมกวักมือเรียกมันมา งานเข้าแล้วไงถ้าไอ้อิฐพูดจาอะไรไม่เข้าหูป๊าผมแม้แต่นิดเดียว
มันโดนหิ้วขึ้นรถตู้แน่นอน


“ว่าไงเอ้งชื่ออะไร?”
“อะอิฐครับ”
“เป็นอะไรกับต้นน้ำ?”
“ป๊าถามอะไรแบบนี้เล่า!!”
“อ่าว ก็ป๊าเห็นเรายืนคุยกันสองคนตั้งนานแล้ว”
“ป๊าเห็นด้วยหรอ?”
“เห็นสิลูกป๊าป๊าจำได้ สรุปว่าไงเราเป็นอะไรกับต้นน้ำ?”


ตอบดีๆ นะไอ้อิฐไม่งั้นมึงไม่ได้กลับไปเจอหน้าพี่ติณ ไอ้ปูน แล้วที่บ้านมึงแน่


“คือผม...ตามจีบลูกของป๊าอยู่ครับ!!”

ไอ้เชี่ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!!
โอ้ยตายแน่มึงไอ้อิฐ โดนป๊าสอบยาวแน่เลย ไม่ได้หมายถึงไอ้อิฐนะหมายถึงผมเนี้ย


“ดี งั้นขึ้นรถมาทั้งสองคนเลย”
“ป๊าจะทำอะไรมันเนี้ย?”
“อยู่นิ่งๆ เดียวป๊าจัดการเอง ยืน งง ทำไมขึ้นมา เราด้วยซี”

งานเข้าแล้วไงมึงอยู่ดีไม่ว่าดีไอ้อิฐ ผมจะเอาไงดีวะเนี้ยยังไม่อยากคุยกับมันด้วย
แต่ถ้าป๊าทำอะไรขึ้นมาผมก็เป็นห่วงมันอีก


“เอ้าไม่ต้องนั่งเกร็งกัน ทำตัวตามสบายคิดว่ากำลังไปเที่ยวแล้วกัน”
“ไม่กลับบ้านหรอป๊า”
“ต้นน้ำเราก็ยังกวนประสาทป๊าไม่เปลี่ยนเลยนะ”
“ก็ไม่อยากให้ทุกเครียดไงป๊า ดูดิแต่ละคนเค้าคิดว่าป๊าจะพาไปฆ่าเนี้ย”
“ว่าแต่เราจะจีบต้นน้ำมันจริงๆ ใช่ไหม รู้ใช่ไหมว่าป๊าหวงลูกมากแค่ไหน ถ้าเอ้งมาทำให้ลูกป๊าเสียใจรู้ใช่ไหมว่ามันจะจบไม่สวย”
“ครับ”
“พูดได้แค่ครับหรอไง?”
“ครับ ผมจะไม่มีวันทำให้ลูกป๊าเสียใจแน่นอนครับ”
“ฮ่าๆๆ เออดีป๊าชอบคนจริงใจ เอ้งสัญญากับป๊าแล้วนะ อย่าลืมซะละ”
“ป๊าพูดอะไร ไม่ถามน้ำเลย น้ำกับมันไม่ได้เป็นอะไรกันซักหน่อย”
“เป็นครับ”
“เงียบๆ ปากไปเลยไอ้อิฐ”
“ฮ่าๆๆ พอๆ เลิกเถียงกันได้แล้ว”
“นายครับ ถึงบ้านแล้วครับ”
“งั้นน้ำกับเพื่อนลงไปพักก่อนไป ป๊าขอคุยอะไรด้วยกับไอ้เจ้าอิฐมันหน่อย”
“ไม่เอาป๊าจะทำอะไรมัน?”
“ป๊าไม่ทำอะไรมันหรอกแค่จะคุยกับมันเฉยๆ เราไม่ต้องห่วงมันออกหน้าออกตาก็ได้”
“ป๊า อะ! น้ำไม่สนใจป๊าแล้ว”
“เดียวป๊าให้เด็กไปซื้อแกงส้มชะอมทอดของโปรดเราไปง้อแล้วกัน”
“โอเคป๊างั้นน้ำหายก็ได้ แต่อย่าทำอะไรมันละป๊าน้ำไม่อยากมีปัญหาที่กองประกวด”


พูดจบผมก็ลากไอ้ซีเข้าบ้าน ไอ้ซีมันก็เงียบๆ เหมือนเดิมสงสัยจะเกร็งมาบ้านผมเป็นครั้งแรกมั้ง


“มึงพูดได้นะ ไม่มีป้ายเขียนไว้ว่าห้ามสงสัยดัง”
“เออกูรู้แล้วก็ป๊ามึงดุนิหว่า ใครไม่เกร็งก็แปลกแล้วขนาดกูเป็นคนเฟรนลี่เจอป๊ามึงไปกูยังไม่กล้าพูดเลย เออว่าแต่แบบนี้ไอ้พี่อิฐมันจะไม่ตายหรอวะอยู่กับป๊าสองคน”
“ไม่หรอกมั้ง ถ้าป๊าบอกว่าไม่ทำอะไรก็คือไม่ทำอะไรแหละ”
“ก็แน่อะสิ ถ้าทำลูกสุดที่รักก็คงจะโกรธหน้าดู”
“โกรธเชี่ยอะไรมึง ถ้าไอ้อิฐมันเป็นอะไรขึ้นมาคนที่จะโดนคือกู ไหนจะทั้งไอ้ปูน พี่ติณอีก”
“เออว่ะ แล้วไอ้พี่อิฐแม่งมาไม่ได้บอกพี่ติณจะไม่เป็นอะไรหรอวะ”
“กูจะไปรู้ไหม ถ้ามึงอยากรู้ก็ไปถามไอ้อิฐมันเองแล้วกัน”
“มึงนี่ก็ปากแข็งเค้าอุส่าตะโกนบอกชอบมึงขนาดนั้น กูว่ามึงใจอ่อนได้แล้วมั้ง”
“มึงคิดว่าป๊าจะได้ยินไหมวะ?”
“กูไม่รู้วะ ถ้าอยากรู้ก็ไปถามป๊ามึงดิ”
“ไอ้เชี่ยซีไม่ต้องมาย้อนกูเลยนะมึง”
“ว่าแต่เดี๋ยวอีกแปปกูกลับบ้านนะมึง”
“เอ้ารีบไปไหนวะ?”
“ก็ไปเก็บของดูแลมึงพรุ่งนี้ไงครับเพื่อน”
“เออว่ะ แล้วมึงจะมาด้วยทำห่าอะไรเนี้ย”
“ก็ป๊ามึงบอกให้ขึ้นรถมา มึงคิดว่ากูจะกล้าปฏิเสธป๊ามึงไหม”
“ฮ่าๆๆ กูขอโทษด้วยงั้นเดี๋ยวมึงจะกลับตอนไหนบอกกูแล้วกัน เดี๋ยวกูให้ลูกน้องป๊าเค้าไปส่งมึง”
“ไม่เป็นไรเดียวกูกลับเองดีกว่า เกรงใจป๊ามึง”
“ไม่เป็นไร ถึงกูไม่บอกเดียวป๊าเค้าก็จัดการให้คนไปส่งมึงอยู่ดีแหละ”
“อะถึงห้องกูแล้ว”
“ไอ้เชี่ยน้ำห้องมึงใหญ่มาก ไม่หน้าไปอยู่หอเลยเป็นกูนะอยู่บ้านสบายกว่าตั้งเยอะ”
“ไอ้สบายมันก็สบาย แต่มันเดินทางไกลไงมึงกูไม่อยากตื่นสาย”
“หรอทำอย่างกับอยู่นู้นมึงไม่ตื่นสาย กูเนี้ยต้องโทรไปปลุกมึงทุกวัน”
“ฮ่าๆๆๆ มึงก็อย่าเอาความจริงมาพูดดิว่ะ”

ก๊อก~ ก๊อก~ ก๊อก~

“คุณต้นน้ำครับ เจ้านายให้ตามลงไปทานข้าวครับ”
“ได้ครับพี่เดียวผมลงไปนะครับ”

หวังว่าไอ้อิฐคงไม่ได้เป็นอะไรมากนะ ไม่รู้ป๊าพูดอะไรกับมันบ้าง


“ไอ้อิฐจะเป็นไงบ้างวะมึง”
“กูจะไปรู้ไหมละ กูก็อยู่กับมึงเนี้ยไอ้น้ำ อยากรู้มึงก็ลงไปดูเองดิ”
“งั้นลงไปกันมึง”
“ไหนเมื่อกี้มึงยังทำถ้าไม่อยากรู้ว่าเค้าเป็นไงอยู่เลย ตอนนี้สนใจขึ้นมาแล้วงั้น?”
“เออน้า ลงไปข้างล้างกันกูหิวด้วย”
“หร๊อออ”
“ไอ้เชี่ยซีนิ”


หลังจากกวนตีนกันไปกันมาซักแปป ผมก็ลากมันลงจนได้ ผมรีบตาลีตาเหลือกลงมาเพื่อจะดูว่าไอ้อิฐเป็นไงบ้าง
แต่ลงมาคือมันนั่งอยู่ตรงโต๊ะกินข้าว เฮ้อ...ลองอกไปทีนึกว่าป๊าจะไล่มันออกจากบ้านไปแล้วซะอีก


“ไม่ต้องทำหน้าตกใจขนาดนั้นก็ได้น้ำ พ่อไม่ได้ทำอะไรแฟนลูกหรอก”
“ป๊า!! มันไม่ใช่แฟนน้ำซักหน่อย”
“ฮ่าๆ มานั่งมา พ่อให้คนไปซื้อของโปรดเรามาทั้งนั้นเลย”
“วันหลังป๊าแกล้งน้ำอีก น้ำจะเก็บตัวอยู่บนห้องไม่กินข้าวจริงๆ ด้วย”
“ก็นานๆ เราจะพาแฟนมาให้ป๊าเจอ เห็นครบใครไม่เคยพามาให้ป๊าเจอเลย”
“ป๊าไม่พูดเรื่องนี้แล้วนะ”


ผมเริ่มโกรธป๊าจริงจัง จนป๊าต้องหยุดเงียบแล้วก็กวักมือเรียกผมไปนั่งข้างๆ
เอาจริงๆ ผมเป็นคนรักครอบครัวมากนะแต่ด้วยที่ป๊าตามใจผมมาแต่เด็กผมเลยเป็นเคนเอาแต่ใจไปหน่อย
ที่สำคัญกว่านั้นเก้าอี้ที่ป๊าเรียกไปนั่งข้างๆ คือไอ้อิฐไง


“ป๊าให้ไอ้ซีนั่งตอนนั้นได้ไหมน้ำอยากนั่งฝั่งนี้อะ”
“มานั่งใกล้ๆ ป๊าสิอุส่ากลับมาบ้านทั้งที”
“แต่ว่าป๊า”
“ไอ้เชี่ยน้ำมึงก็อย่าเรื่องมาก นั่งๆไปเหอะ ขากูจะเป็นตะคริวอยู่แล้วเนี้ย!”
“ก็กูไม่อยากนั่งใกล้มันนิหว่า”
“นั่งไปเหอะ เดียวพี่อิฐมันก็กลับแล้ว อย่าเรื่องมากไอ้สัส”
“เออๆ”


ผมเลยลงไปนั่งระหว่างป๊ากับไอ้อิฐ ซึ่งมันก็ดูนั่งเกร็งๆ แต่ก็เห็นมันแอบยิ้มนะ ไม่รู้มันยิ้มอะไรของมันนักหน่า


“เอออิฐว่าแต่เราจะกลับบ้านได้หรอนี่มันก็ดึกแล้วนะ”
“ได้ครับป๊า เดียวผมเรียกแท็กซี่เอาก็ได้ครับ”
“ป๊าว่ามันหน้าจะลำบาก ป๊าว่าเรานอนนี่แหละ”
“ป๊า!!!!”

ผมวางช้อนลงแล้วหันไปมองหน้าป๊าแบบ นี่ป๊าจะแกล้งผมใช่ไหมเนี้ย


“ป๊าก็ให้คนไปส่งดิ จะให้เค้ามานอนบ้านเราทำไม”
“ก็เดี๋ยวป๊าให้คนไปส่งเพื่อนลูกไง แล้วมันไม่มีคนไปส่งอิฐเค้า”
“ก็ให้มันไปด้วยกันสิก็ไปส่งพร้อมกันเลยไงป๊าไม่เห็นยากเลย”
“ไม่ได้เดี๋ยวลูกน้องป๊ามันต้องรีบกลับมาพัก เพราะเดี๋ยวพรุ่งนี้ป๊าต้องบินไปต่างประเทศแต่เช้า”
“แล้วจะให้ไอ้อิฐนอนไหน ให้มานอนห้องเดียวกับน้ำไม่เอาด้วยนะป๊า”
“เออคือว่า...เดี๋ยวผมกลับเองก็ได้ครับไม่เป็นไรเลย”
“ไม่เป็นไรเรานอนเนี้ยแหละพรุ่งนี้ก็ตื่นไปกองประกวดพร้อมน้ำเลย”
“ป๊าอะ!!”


ผมเลือกที่จะไม่กินข้าวต่อแล้วเดินขึ้นห้องไม่สนใจใครเลย คือตอนนี้ผมโกรธมาก
ป๊าก็หน้าจะรู้ว่าผมมีเรื่องกับไอ้อิฐไอ้อยู่ ทำไมป๊ายังจะให้มันมานอนอีกผมไม่เข้าใจป๊าเลยจริงๆ

ก๊อก~ ก๊อก~ ก๊อก~

ป๊าแน่เลยไม่เปิดให้หรอก ไม่ต้องมาคุยกันเลยนะป๊าน้ำโกรธแล้วด้วย

ก๊อก~ ก๊อก~ ก๊อก~

“เฮ้ย! ไอ้น้ำกูเองเปิดประตูหน่อยกูจะเข้าไปเอากระเป๋า”
“เอ้า มึงหรอไอ้ซี”
“เออกูเนี้ยแหละ รีบเปิดประตูเดี๋ยวพรุ่งนี้กูต้องตื่นแต่เข้าอีกเนี้ย”
“แปปๆ”

ผมเลยรีบเดินไปเปิดประตูให้มันเข้ามาเอาของที่ห้อง แต่แว๊บแรกที่ผมเปิดไปคือ ยืนเลียงหน้ากระดานกันสามคนเลย คือ ไอ้ซี ไอ้อิฐ แล้วก็ป๊า นี่คือรวมหัวกันหลอกกูใช่ไหมเนี้ย ไม่ต้องสืบเลยครับใครเป็นคนวางแผน ไอ้ซีแน่นอนมันเก็บอาการ์ณไม่อยู่เพราะหน้ามันจะหลุดขำ ตอนที่ผมเปิดประตูออกไปแล้วทำหน้าเหวอ


“ไอ้ซีมึงหลอกกู!!”
“กูไม่มีทางเลือกจริงๆ เพื่อน”
“ซีเข้าไปเอาของไป ส่วนอิฐเรานอนห้องน้ำแล้วกันนะ”
“น้ำไม่ให้มันนอนนะป๊า ถ้าป๊าอยากให้มันนอนทีนี่ก็ให้นอนห้องป๊าดิ”
“น้ำถ้าน้ำยังดื้ออยู่แบบนี้ป๊าจะไม่ให้น้ำอยู่หอ แล้วจะให้เราออกจากกองประกวดด้วยนะ”
“โอเคป๊า น้ำขัดป๊าไม่ได้อยู่แล้วนิ หึ!”


ผมก็เปิดประตูไวแล้วก็ไปนั่งที่เตียงคือแบบ ทำไรไม่ได้โว้ยยยยย เดีJยวหอก็ไม่ได้อยู่
ถ้าออกจากกองประกวดอีกก็โดนเพื่อนเกลียด แล้วผมก็ยังมีความผิดที่ยังไม่ได้บอกป๊าเรื่องที่เข้าประกวด
เพราะงั้นผมสู้ไม่ได้ เลยยอมแพ้แล้วกัน แต่ผมจะไม่มีทางให้ไอ้อิฐมายุ่งรุ่มร่ามอะไรกับผมแน่นอน!!


“งั้นเดียวป๊าพาซีไปส่งที่รถก่อนนะ”
“เดี๋ยวน้ำไปส่งมันเองป๊า”
“เราน่ะนอนได้แล้ว พรุ่งนี้ไปต่างจังหวัดแต่เช้าอีกไม่ใช่หรอรีบนอน”
“งั้นกูไปก่อนนะมึง พรุ่งนี้เจอกัน”
“เออมึงเจอกัน โทษทีนะที่ไม่ได้ไปส่ง”
“เฮ้ยไม่เป็นไรมึง ไงพรุ่งนี้เจอกัน”


พอผมลำลากับไอ้ซีมันเสร็จ ในห้องผมก็เหลือแต่ไอ้อิฐแล้วก็ผม ซึ่งผมก็นั่งอยู๋บนเตียง
แล้วมันก็ยืนมองไปรอบๆ ห้องผมอยู่อย่างงั้น


“ยืนทำไม ไม่นั่งล่ะ”
“ได้หรอ เราจะไม่ว่าพี่หรอ”
“มาถึงขนาดนี้แล้ว จะไปว่าอะไรได้ถ้าป๊าสั่ง”
“งั้นพี่ขอนั่งนะ”
“เออ นั่งๆ ไปเหอะ”


แล้วไอ้อิฐมันก็เดินวนไปวนมาอยู่อย่างงั้น คือนี่มึงเป็นหมาที่กำลังจะอึหรอไงวนอะไรนักหน่า


“นั่งซักทีไม วนอะไรนักหน่าเวียนหัว”
“ก็พี่ไม่รุ้จะนั่งตรงไหน กลัวนั่งไปแล้วเราว่าพี่”
“เอางี้นะ อยากนั่งตรงไหนก็นั่งเลย”

แล้วมันก็เดินลงมานั่งข้างๆ ผม


“กูไม่ได้บอกให้มานั่งตรงนี้ไหม ลุกไป!!”
“อ่าว ก็เราบอกอยากให้นั่งตรงไหนก็นั่งนิ”
“โอ้ยยย เรื่องของมึงแล้วกัน แล้วก็ไม่ต้องมาพูดเพราะใส่กู”
“.....”
“ทำตัวเหมือนปกติที่มึงเป็นตอนแรกเถอะ ไม่ต้องมาพี่ไม่ต้องมาเรากูไม่ชิน”
“ก็พี่ไม่รู้เราโกรธอะไรพี่ พี่ก็เลยทำตัวไม่ถูก”

ไอ้อิฐกูถามจริง นี่มึงไม่รู้หรือมึงแกล้งไม่รู้กันแน่


“ไม่ต้องรู้หรอกถึงรู้ไปมึงก็ช่วยอะไรกูไม่ได้อยู่ดี”
“ขอโทษแล้วกันที่ทำดีด้วย ถ้าทำดีแล้วเราไม่ชอบพี่ก็จะไม่ทำอีก”
“เออดี!!”
“งั้นพี่กลับดีกว่าเนอะเดียวทำให้เราอึดอัดเปล่าๆ”
“ป๊าให้นอนก็นอนไปเหอะ แล้วที่จะทำให้กูอึดอัดมันคือการที่มึงไม่เลิกพูดว่า เรากับพี่ เนี้ยแหละกูจะอ้วก”
“เออ งั้นกูพูดกับมึงปกติแล้วกัน”
“ดี ว่าแต่มึงมานอนเนี้ยมีเสื้อผ้าใส่หรอ?”
“ไม่มี เดียวพรุ่งนี้ค่อยกลับไปเปลี่ยนที่หอเอาแต่เช้าก็ได้”
“แล้วแต่มึง”
“มึงจะพูดดีๆ กับกูไม่ได้เลยใช่ไหม”
“แล้วเมื่อไหร่มึงจะเลิกทำดีกับกูละ?”


ผมก็ทำหน้ากวนตีนใส่มัน ซึ่งผมก็รู้ว่ามันก็คงโกรธแต่นี่บ้านผมมึงทำไรกูไม่ได้อยู่แล้ว ฮ่าๆๆๆ


“ถ้านี่ไม่ใช่บ้านมึงนะ มึงโดนกูแน่คืนนี้”
“โดนอะไร ถึงอยู่หอกูก็ไม่กลัวหรอก”

มันผลักผมลงไปที่เตียงแล้วก็กดผมลงกับเตียง นี่มึงจะทำอะไรกูอีก นี่บ้านกูนะเว้ยยยย!!


“นี่มึงจะทำอะไร!?”
“ก็มึงท้ากูไม่ใช่หรอ”
“มึงอย่านะถ้ามึงทำอะไรกู กูจะตะโกนเรียกป๊าจริงด้วย!!”
“ก็ถ้ามึงตะโกนกูก็จะจูบมึง ทีนี้มึงก็ตะโกนไม่ได้แล้วถูกไหม?”
“.....”
“เงียบเลยหรอมึง ทีนี้จะเลิกกวนตีนกูแล้วพูดกับกูดีๆ ได้หรือยัง”
“เออ!! ปล่อยกูซักที”
“น้ำเสียงมึงยังเหมือนเดิมเลยนะ งั้นได้”


มันก็ค่อยๆ โน้มตัวลงมาหาผม ซึ่งมันใกล้มากผมเลยรีบหลับตาปี๊
ในใจตอนนั้นคือมึงจะทำอะไรกูอีกจะทำให้กูรู้สึกดีกับมึงขนาดไหนถึงจะพอ 
แล้วผมก็รู้สึกว่ามันมาจุ๊บที่แก้มผม


“นี่มึงทำอะไรเนี้ย!!”
“อันนี้เป็นข้อหาที่มึงกวนตีนกู แล้วส่วนอันนี้ก็”

มันก็มาหอมแก้มผมอีกข้าง


“ที่มึงพูดจาไม่ดีใส่กู”
“ปล่อยกูเดี๋ยวนี้เลยนะไอ้อิฐ!!”
"..."
“มึงจะปล่อยไม่ปล่อย!?”
“ไม่ปล่อย ว่าไปตัวมึงนี่กลิ่นเหมือนนมเลยเนอะ”

ขณะที่มันกำลังพูดอยู่ผมเลยใช้อาศัยจังหวะนี้ชันขาขึ้นแล้วถีบตัวมันออกไป

โอ้ยยยยยย!!

“กูบอกแล้วนะว่าให้ปล่อย  ไม่ยอมปล่อยเองนะมึง”
“ก็จะปล่อยอยู่แล้วไม่เห็นต้องถีบก็ได้”
“ไอ้อิฐ ไอ้เหี้ย! ไอ้โรคจิต!”


ผมรีบหันหลังกลับให้ไวเลย คือจะพูดอย่างไงดีเป้ากางเกงมึงอะ คือมันตุงๆ
นี่มึงเป็นอะไรเนี้ยไอ้สัส มึงมันโรคจิตไอ้เชี่ยย

“เฮ้ย!! เมื่อกี้มึงเห็นใช่ไหม!?”

มันรีบวิ่งไปหยิบหมอนตรงโซฟามาปิดเป้ากางเกงมันอย่างไว


“อะ...เออ!! มึงเป็นอะไรของมึงเนี้ย”
“ขอโทษมึง คือกู...กูว่ากูนอนโซฟาแล้วกัน”
“มึงนี่มัน....เอาเถอะนอนเตียงเนี้ยแหละ”
“แน่ใจนะว่าจะให้กูนอนด้วย ไม่กลัวกูทำอะไรมึงหรอไง?”
“มึงคงไม่ทำอะไรกูหรอกมั้ง กูเชื่อใจมึงได้ใช่ไหม?”
.
.
.
.
“กูก็อยากให้มึงเชื่อเหมือนกัน ว่ากูจะไม่มีวันทำอะไรมึงยกเว้นมึงเป็นแฟนกูแล้ว ซึ่งกูรออยู่นะน้ำนม”

ออฟไลน์ angelnan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-5
อะไร ดีกันแล้ว บทจะดีก้อดี จะดราม่าก้อดราม่า

ออฟไลน์ Kratin

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 18
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ที่จริงน้ำนมเค้ายังไม่ได้ยอม เพราะว่าน้ำยังลังเลอยู อยากให้รออ่านนะจ๊ะ  :impress2:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด