My Angel ผมไม่ใช้นางฟ้า(โว๊ยยย)ตอนพิเศษ ของขวัญวันปีใหม่ 1/1/2018
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: My Angel ผมไม่ใช้นางฟ้า(โว๊ยยย)ตอนพิเศษ ของขวัญวันปีใหม่ 1/1/2018  (อ่าน 26383 ครั้ง)

ออฟไลน์ Monkey D

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-0
       

  ตอนที่  13  คนขี้เผือก

 
    “เคลียร์กันยัง?”  พี่ปูนที่เหมือนจะนั่งรออยู่  ถามทันทีที่ผมเปิดประตูเข้าบ้านมา
 
 
    “ไม่ได้มีไรให้เคลียร์สักหน่อย  พี่ปูนอ่ะคิดไปเอง”   
 
 
    “ไม่เชื่ออ่ะ...แล้วเขาเป็นแค่เพื่อนจริงหรอออออ”   
 
 
    “ก็แค่เพื่อนนนนน”
 
 
    “ชิ  ปากแข็งอ่ะ  เพื่อนที่ไหนเขายอมโดดเรียนมาเฝ้าคนป่วยทั้งวันกัน”
 
 
    “ง่วงแล้ว  ปิ๊นไปนอนดีกว่า  ฝันดีนะคร้าบบบ”  ไม่อยู่ให้พี่ปูนซักต่อก็รีบชิ่งขึ้นมาบนห้องตัวเองเลย
 
 
    ขึ้นมาลูบตัวให้สะอาดแล้วก็เตรียมล้มตัวนอนนี้คงเป็นวันแรกที่ผมเข้านอนไวมาก  ตั้งแต่ 2 ทุ่ม   
 
 
    สงสัยเพราะป่วยเลยอยากนอนไวๆล่ะมั้ง
 
 
    ครืด  ครืด
 
 
    เสียงสั่นของโทรศัพท์ทำให้ผมที่กำลังจะนอนหันไปดู
 
 
    -ไอ้บ้า คริส-
 
 
    กะจะกดรับเลย  แต่ไม่ดีกว่าครับ  เดี๋ยวมันจะคิดว่าผมรอโทรศัพท์มัน  ฉะนั้นปล่อยให้ดังจนสายตัดไปครับ  อิอิ  สะใจ
 
 
 
 
    แล้วก็เป็นผมเองที่มารอมันจริงๆว่าเมื่อไรจะโทรกลับมาอีกสาย  - -
 
    รีบโทรกลับมาอีกสิวะ  กูจะได้นอน!
 
 
    ครืด  ครืด
 
 
    -คริส-
 
 
    มันโทรมาแล้วครับ คราวนี้ผมยอมรับสายดีๆ เพราะรู้สึกง่วงมากแล้ว  ขี้เกียจแกล้งมัน ไม่ได้รีบหรืออยากคุยกับมันจริงๆนะครับ
 
 
    “ว่าไงวะ”
 
 
    “ทำไมรับช้า”
 
 
    “ก็กูง่วงกำลังเคลิ้มๆเลยรับช้าไปหน่อย”
 
 
    “อืมๆ  กูก็รอโทรศัพท์มึง  บอกให้โทรมาถ้าถึงบ้านก็ไม่โทร”  ไอ้คริสบ่นด้วยน้ำเสียงน้อยใจ   ผมเองก็ลืมสนิทเลยจริงๆ
 
 
    “เฮ้ย ลืม  ไม่ได้ตั้งใจนะลืมจริงๆ ขอโทษนะเว้ย”  ผมรีบบอกมันทันทีอย่างรู้สึกผิด  ทำไมสมองปลาทองอย่างนี้วะเนี้ย
 
 
    “เออ ถึงบ้านปลอดภัยก็ดีแล้ว กูจะได้ไม่ต้องห่วง”  แม่งเล่นพูดแบบนี้  สู้ต่อว่าผมมาสักนิดยังจะรู้สึกดีกว่าอีก  โคตรรู้สึกผิดเลย
 
 
    “ขอโทษจริงๆนะเว้ย   แล้วมึงถึงบ้านยัง?”   
 
 
    “เพิ่งถึงเนี่ย  เห็นยังไม่โทรมาสักทีเลยโทรมาถาม”
 
 
    “ถึงก็ดีแล้ว”
 
 
    “มึงไปนอนต่อเถอะ  กูโทรมาถามแค่นี้แหละ   พักผ่อนเยอะๆจะได้หายไวๆ”
 
 
    “อืม...ฝันดีนะ”
 
 
    ผมพูดเสร็จก็รีบกดวางสายทันที   โอ๊ยยยยยยย  เมื่อกี้พูดอะไรลงไปว่ะเนี้ย
 
 
    คิดฟุ้งซ่านไปเรื่อยจนทนไม่ไหวต้องรีบข่มตานอนให้หลับ  ยุบหนอ  พองหนอ  หลับหนอ  นอนหนอ   ท่องไปเรื่อยๆจนในสุดผมก็เข้าสู่ห้วงนิทรา
 
 
 
 
 
    วันจันทร์  ณ  โรงเรียน
 
 
    เช้านี้เป็นเช้าที่ผมเตรียมตัวเตรียมใจมากที่สุดในการทำใจมาโรงเรียน  เอาเว้ยวันนี้ต้องเคลียร์กับเพื่อนให้รู้เรื่อง   ผมเดินขึ้นยังอาคารเรียนเมื่อถึงห้องเรียนก็เห็นไอ้เจสกับไอ้ปอนั่งอยู่ในห้องเรียนพร้อมกับเพื่อนๆบางคนก่อนแล้วครับ
 
 
    “ไงมึง  หน้าตาดูสดชื่นนะ  หายป่วยแล้วหรอ”   ไอ้เจสเอ่ยทัก
 
 
    “ก็ดีขึ้นแล้วล่ะมึง  เลยมาเรียนนี้ไง”  ผมตอบมัน  ก่อนจะวางกระเป๋าแล้วนั่งลงไปที่โต๊ะนักเรียน
 
 
    “แล้วตกลงเคลียร์กับมันหรือยัง?”  คราวนี้ไม่ใช่ไอ้เจสถามแต่กลับเป็นเพื่อนหน้านิ่งอย่างไอ้ปอแทน
 
 
    “อืม ก็คุยกันแล้ว”
 
 
    “มันว่าไงบ้าง”
 
 
    “ก็...เป็นเพื่อนกันแทน  แต่กูก็ต้องหาหนังสือนั้นไปคืนมันให้ได้เหมือนเดิม”  ผมเลือกที่จะบอกไอ้ปอไปแบบนี้  แม้จริงๆแล้วทุกอย่างมันก็ยังคงทำเหมือนเดิม  แค่เปลี่ยนจากสรรพนามจาก ‘แฟน’มาเป็น ‘เพื่อน’ แค่นั่นเอง
 
 
    “แล้วมึงก็ยอมหรอว่ะ”  ไอ้ปอหน้าตาดูไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่
 
 
    “ไม่ใช่ว่ากูยอมเว้ย  แต่มึงเข้าใจป่ะว่ากูทำของสำคัญมันหายไป  กูก็ควรจะรับผิดชอบบ้างไม่ใช่หรอวะ อีกอย่างคบมันเป็นเพื่อนก็ไม่ได้มีอะไรเสียหาย  มันเองก็เป็นคนที่นิสัยดีคนหนึ่ง”  ผมบอกมันไปตามสคริปที่คิดไว้เมื่อเช้า  --  คิดจะเถียงกับไอ้ปอต้องเตรียมตัวมาให้ดีครับ  ไม่งั้นมีแต่แพ้กับแพ้
 
 
    “...”  ไอ้ปอไม่พูดอะไร  แต่สีหน้านี้แสดงออกสุดๆว่าไม่พอใจ
 
 
    “มึงอย่าโกรธดิว่ะ  คิดซะว่ากูมีเพื่อนดีๆแบบพวกมึงเพิ่มมาอีกคนละกัน  เอาเวลามาช่วยกูตามหาไอ้หนังสือเล่มนั้นดีกว่านะมึง  แฮ่”  ผมยิ้มให้มันอย่างเอาใจแล้วจับแขนมันเขย่านิดๆ อย่างอ้อนๆ
 
 
    “เออ ก็ได้วะ”   สำเร็จ!  ไม่เสียแรงอ้อนเว้ย   
 
          "แต่สัญญากับกูได้ไหม ว่าถ้ากูหาหนังสือบ้านั้นเจอ มึงต้องเลิกยุ่งเลิกคุยเลิกติดต่อกับมันอีก"
 
"ทำไมอะ เก็บไว้เป็นเพื่อนก็ไม่ได้เลยหรอวะ"
 
"ไม่ได้...เพราะกู..ไม่ไว้ใจมัน"
 
"..." ผมนิ่งเงียบไป ไม่อยากสัญญาถ้าไม่มั่นใจว่าจะทำได้อะครับ   ทำไมไอ้ปอที่เป็นคนมีเหตุผลตลอดถึงได้กลายเป็นคนไร้เหตุผลแบบนี้ก็ไม่รู้
 
"หาให้เจอก่อนเถอะ แล้วค่อยมาคุยกันอีกที" ผมตอบเลี่ยงๆไปแทน
 
 
    “เคลียร์กันเสร็จก็ลงไปลานใหญ่กันเหอะมึง  ใกล้เวลาเข้าแถวแล้ว”  ไอ้เจสพูดขึ้น  พวกผมก็เห็นด้วยเลยพากันเดินลงอาคารเพื่อไปยังลานใหญ่เพื่อรอเข้าแถวเคารพธงชาติ
 
 
    ไอ้เจสเอาแขนมาคล้องคอผมอย่างเคยตัว  พลางขยี้หัวไปมา  ก่อนจะกระซิบเบาๆกับผมว่า
 
 
    “หาข้ออ้างได้ดีนิหว่า  ไอ้ลูกหมา”  มันพูดเสร็จก็ยิ้มๆอย่างมีเล่ห์นัย   
 
 
    ผมเองก็ไม่ได้ตอบอะไร แค่ยักไหล่นิดๆพอเป็นพิธี  หึหึ
 
 
   
 
    เย็นนี้ผมกลับบ้านไวอีกตามเคย  ไอ้คริสโทรมาบอกว่าคงไม่ได้มาหาตอนเย็นเพราะมันติดซ้อมดนตรีกับเพื่อนครับจะมีงานวันศุกร์นี้แล้วต้องซ้อมกันหนักหน่อย
 
 
    เข้ามาในบ้านก็เห็นรองเท้าคู่แปลกตาวางไว้ตรงวางรองเท้า  พอเข้ามาในตัวบ้านก็เห็นหลังของผู้ชายคนหนึ่งที่กำลังนั่งคุยกับพี่ปูน  เดินไปใกล้ๆก็เห็นเอกสารวางอยู่  คงน่าจะเป็นคนมาเช่าตึกคนใหม่ล่ะมั้ง
 
 
    “กลับมาแล้วน้าพี่ปูน”   
 
 
    “อ้าวมาพอดีเลยปิ๊น  มานั่งนี้สิ”  พี่ปูนกวักมือเรียก  ผมเลยเดินไปนั่งข้างๆพี่ปูน  พอมองเห็นผู้ชายคนตรงหน้าก็รู้สึกว่าคนๆนี้ดูดีมากทีเดียว  อายุน่าจะสัก 27-28 มั้ง
 
 
    “จำได้ไหมเอ่ยว่าคนนี้ใคร?”  พี่ปูนถามพลางชี้ไปที่คนตรงข้าม
 
 
    หือ  ใครว่ะ?  เคยรู้จักคนหน้าตาดีแบบนี้ด้วยหรอ
 
 
    “จำไม่ได้อ่ะ  ใครหรอครับ”
 
 
    “หึหึ  น้อยใจจัง”  ผู้ชายคนตรงข้ามพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงตัดพ้ออย่างไม่จริงจัง
 
 
    “เอ่อ  ขอโทษจริงๆครับ”  ผมบอกไป  แต่ก็นึกไม่ออกจริงๆว่าใคร
 
 
    “งั้นพี่จะใบ้ให้ล่ะกัน  ว่าตอนเด็กๆปิ๊นขี่หลังพี่เขาทุกวันเลย”  พี่ปูนบอกใบ้ให้อีกนิด
 
 
    ขี่หลังทุกวันหรอ?   อืมมมม
 
 
    “พี่เสือ!”   
 
 
    “ถูกต้องนะครับผม”  พี่เสือเฉลย
 
 
    “อ๊ากกกกก  คิดถึงงงงง”  ผมร้องลั่นก่อนลุกวิ่งไปกระโดดกอดขี่หลังพี่เสือ
 
 
    “พี่ก็คิดถึงปินปิ๊นเหมือนกันน โตขึ้นเยอะเลยนะเรา”  พี่เสือพูดหลังจากที่รับการกระโดดกอดขี่หลังจากผมเอาไว้ได้  ยังคงแข็งแรงเหมือนเดิมเลย  ไม่สิ มากกว่าเดิมอีก
 
 
    “กลับมานานยังอ่ะพี่เสือ”
 
 
    “พี่กลับมาสัก2-3เดือนแล้วล่ะ  พอดียุ่งกับการจะเปิดโรงเรียนสอนคาราเต้น่ะเลยยังไม่ได้มาเยี่ยมก่อนหน้านี้”   พี่เสือเขาไปเรียนญี่ปุ่นตั้งแต่จบประถมศึกษาปีที่ 6 ครับ แล้วก็เรียนจนจบมหาวิทยาลัยที่นั่นเลย  เพราะคุณพ่อพี่เขาเป็นชาวญี่ปุ่นที่มาทำงานในไทย  พอบริษัทแม่เรียกตัวกลับ  ก็เลยพากันขายบ้านแล้วย้ายไปอยู่ที่นั่นถาวร แต่ก่อนเราอยู่บ้านใกล้ๆกันครับ  พี่เสือมาเล่นด้วยกันทุกวันเลย
 
 
    “แล้วนี้จะมาเปิดโรงเรียนสอนคาราเต้ที่ไหนอ่ะ  ที่ตึกพี่ปูนหรือเปล่า”  ผมถาม
 
 
    “แล้วอยากให้มาเปิดที่นี้ไหมล่ะ?”
 
 
    “อยากกกกก”  ตอบแบบไม่ต้องคิดเลยครับ  เพราะพี่เสือก็เป็นพี่ชายที่ใจดีมากๆของผมคนหนึ่ง แถมชอบเลี้ยงขนมผมอีก!
 
 
    “ปิ๊น ลงจากหลังพี่เสือได้แล้ว  เราไม่ใช่เด็กแล้วนะ”  พี่ปูนบอก  ไอ้ผมก็ขี่หลังเพลินลืมตัวเหมือนกันว่าขี่หลังพี่เขานานไปแล้ว  ก็เลยยอมลงจากหลังพี่เสือครับ
 
 
    “หึหึหึ  อืม พี่ก็ตั้งใจมาเปิดที่นี้แหละ  เด็กนักเรียนเยอะดี น่าจะมีคนสนใจมาเรียนเยอะ  นี้ก็เพิ่งเซ็นสัญญาเช่ากับพี่ปูนไป  โชคดีจริงๆที่คนเก่าเขาเพิ่งเซ้งไปเมื่อวาน”  พี่เสือบอกก่อนจะหยิบใบสัญญาเช่าให้ดูเป็นหลักฐาน
   
 
    “ดีๆๆ  ปิ๊นจะไปเรียนด้วยเป็นลูกศิษย์คนแรกเลยนะ จองๆ”  ถ้าเล่าคาราเต้เป็นนี้ก็เท่ไม่เบาดีนะครับ  ป้องกันอันตรายก็ได้  เอาไว้อวดสาวก็ได้ ฮ่าๆๆๆ
 
 
    “ดีมากน้องรัก  เดี๋ยวพี่จะตั้งใจสอนให้เป็นพิเศษเลย”  พี่เสือบอกแล้วก็ขยี้หัวผมอย่างแรงจนผมยุ่งไปหมด
 
 
    “เย็นนี้อยู่กินข้าวเย็นด้วยกันนะครับพี่เสือ  ห้ามปฏิเสธเด็ดขาด”  พี่ปูนพูดผมเองก็พยักหน้าเห็นด้วย   พี่เสือเองก็ตกลงตามนั้น     



มีต่อ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-07-2017 18:44:31 โดย Monkey D »

ออฟไลน์ Monkey D

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-0
 
 
    พี่ปูนก็เลยลงมือเข้าครัวปล่อยให้ผมกับพี่เสือนั่งเล่นเกมด้วยกันสองคนอย่างไม่มีใครยอมใคร  พลัดกันแพ้พลัดกันชนะเลยครับ
 
 
    “เย้! ปิ๊นชนะอีกแล้ว  ฮ่าๆๆ”  ผมร้องลั่นเมื่อจบเกมส์ได้สักที
 
 
    “รอบนี้พี่อ่อนให้หรอกนะ  คราวหน้าไม่แพ้แน่ๆ”   
 
 
    ครืดดด ครืดดด
 
 
    เสียงโทรศัพท์สั่นทำให้ผมควักออกมาดูจากกระเป๋ากางเกงก็เห็นว่าไอ้คริสวิดีโอคอลมาครับ  ผมก็กดรับไป  ก็เห็นหน้ามันทันที
 
 
    “ทำไรอยู่อ่ะ”  ไอ้คริสเอ่ยถาม
 
 
    “เล่นเกมอยู่บ้านอ่ะดิ”
 
 
    “เล่นที่ห้องนั่งเล่นหรอ  เล่นกับใคร พี่ปูน?”
 
 
    “เปล่า  นั่งเล่นเกมกับพี่เสือ”  ทันทีที่ผมพูดไปไอ้คริสก็คิ้วขมวด
 
 
    “พี่ชายกูๆ”  ผมรีบบอกก่อนจะหันจอไปทางพี่เสือ  พี่เสือเองก็หันมามองไอ้คริสเหมือนกัน
 
 
    “หวัดดีครับพี่เสือ”  เสียงไอ้คริสพูดทักทายมา   
 
 
    “เออๆ  หวัดดีเว้ย”  พี่เสือตอบแค่นั้นผมก็หันจอมาที่ผมเหมือนเดิม
 
 
    “แล้วมึงอยู่ไหน  ห้องซ้อมหรอ?”  ผมถามเพราะสังเกตฉากหลังมันดูเหมือนพวกห้องซ้อมดนดรี
 
 
    “เออดิ  เพิ่งได้พัก  วันนี้คงเลิกซ้อมดึกอ่ะ”  แล้วไอ้คริสก็สลับกล้องถ่ายให้เห็นบรรยากาศในห้องซ้อมที่พวกเพื่อนๆมันกำลังนั่งกินขนมกัน
 
 
 
    “อืมๆ  สู้ๆเว้ย  แค่นี้ก่อนนะเดี๋ยวค่อยคุยใหม่  จะเล่นเกม”  ผมบอกไป  แต่จริงๆคือเกรงใจพี่เสือครับไม่อยากให้มานั่งรอผมคุย  อีกอย่างคุยขณะที่ยังมีคนอื่นอยู่ด้วยมันก็พูดไม่ค่อยถนัดน่ะครับ
 
 
    “อืม โอเค”  ไอ้คริสสลับกล้องมาให้เห็นหน้ามันเหมือนเดิมแล้วทำท่าส่งมินิฮาร์ทมาให้
 
 
    ผมมองนิดนึงก่อนจะกดวางไป 
 
 
    เพราะถ้าขืนมองนานกว่านี้
 
 
    เดี๋ยวมันก็เห็นสิครับ
 
 
    ว่าผม ‘แอบยิ้ม’




  พอได้เวลาหลังจากพี่เสือทานข้าวด้วยกันเสร็จก็ขอตัวกลับครับ  แต่ะก็ไม่ลืมที่จะขอเบอร์โทรศัพท์ทั้งของพี่ปูนและของผมไปรวมถึงแอดไลน์กันไว้ด้วย
 

ผมเองก็ขอตัวขึ้นไปบนห้องนอนก่อนจะรีบโทรหาไอ้ตง  ที่ไม่รู้ว่าจมกองหนังสือเรียนไปหรือยัง


รอเพียงไม่นานไอ้ตงก็กดรับครับ


"ว่า" พูดอีหรอบนี้แสดงว่าอ่านหนังสืออยู่แหงๆ


"วันศุกร์นี้มึงเลิกเรียนกี่โมง"  ผมพูดเข้าประเด็นทันทีอย่างรู้งาน  เวลามันอ่านหนังสือจะไม่ชอบให้ใครกวนเท่าไหร่


"ก็บ่ายสามโมงครึ่งอะมึง  มีไรเปล่า"


"เออ  คือกูจะชวนมึง...ให้ไปงานโอเพ่นเฮ้าร์ที่โรงเรียนxyz เป็นเพื่อนหน่อยอ่ะ"


"ฮั่นแน่~  ชื่อโรงเรียนมันคุ้นๆจังว่ะ เหมือนเคยเห็นที่ไหนน้าาา"  ไอ้ตงทำเสียงกวนประสาทใส่อย่างชอบใจ


คิดผิดไหมเนี้ยที่มาชวนมันไปเป็นเพื่อน ฮึ่ยย


"จะไปไม่ไป!"


"นี้มึงชวนกูด้วยการตะคอกหรอวะ ไม่เข้าหูเลย ไม่ไปดีกว่า"


"เฮ้ย ไม่ได้นะ  มีมึงคนเดียวนี่แหละที่กูอยากให้ไปด้วยจริงๆนะ"  ผมลงทุนอ้อนมันอีกรอบ


อ้อนมันก็ยังดีกว่าไปเดินหัวเดียวกระเทียมลีบในที่ๆไม่รู้จักนะครับ  อีกอย่างขืนชวนไอ้เจสไอ้ปอ ได้มีประเด็นใหม่ให้ปวดหัวขึ้นอีกแน่ๆ


"ไปดีไหมมมม"  ไอ้ตงแม่งก็ยังกวนไม่เลิก


สงสัยต้องให้ผมเอาจริงซะแล้ว


"ไอ้ตง มึงจำไม่ได้หรอวะ ที่กูเคยช่วยมึงทุกอย่าง มึงชวนกูไปสวนสนุกแล้วก็ทิ้งกูไว้กับไอ้คริสสองคน เพราะมึงอยากเดินกับบลิงค์  กูก็ยอมให้มึงเพราะกูอยากให้มึงมีความสุข  ตอนมึงติดการ์ตูนแล้วต้องแอบแม่มึงอ่าน  ใคร ใครที่คอยเปิดบ้านให้มึงเข้ามาแอบอ่านการ์ตูน ใครที่ออกรับแทนแม่มึงว่ามึงมาติวหนังสือ ใครกันที่ตอนเด็กช่วยมึงล้างรองเท้าที่เดินเหยียบขี้หมา ใครกันที่.."


" เออๆๆ กูไปแล้วครับ กูไปเป็นเพื่อนมึงแล้ว โอเคไหม ไอ้ห่า แค่นี้ก็ทวงบุญคุณเลยนะ"


"55555 ถือว่ามึงสัญญาแล้วนะเว้ย"  สำเร็จไปตามแผน


"เออๆ ให้เจอกันที่หน้าโรงเรียนไอ้คริสเลยแล้วกันนะ กูขี้เกียจย้อนไปย้อนมา"


"โอเค ตามนั้น ใครถึงก่อนก็โทรหาละกัน"


"อืมๆ ว่าแต่ช่วงที่กูไม่ได้ไปเจอมึงนี้ มีเรื่องดีๆเกิดขึ้นหรอวะ  มึงถึงได้อยากไปงานที่โรงเรียนมัน เห็นตอนแรกเกลียดขี้หน้าไอ้คริสจะเป็นจะตาย"


"ถามไรนักวะ  ไม่อ่านหนังสือแล้วหรอ  ไปอ่านไป"


"เดี๋ยวค่อยอ่านแต่มึงเล่ามาก่อน  เร็วๆกูอยากเสือก"  ไอ้ตงนี้มันพูดตรงดีจริงๆ


เสือกก็บอกว่าเสือก  เพื่อนใครอะหน้าด้านฉิบหาย


"ไม่มีอะไรหรอก ก็มันขอให้ไปดูมันเล่นดนตรีก็แค่นั้น" ผมตอบมันไป  ไม่อยากเล่าละเอียดมาก


ตงรู้โลกรู้   ฉายามันแหละครับ


"ไม่ใช่แค่นี้ม้างงง มีซัมติงกันแล้วใช่ไหมวะ  กิ้วกิ้ววว"


"กิ้วกิ้ว พ่องงงง ไม่มีอะไรทั้งนั้นแหละ"


" เออ ไม่เล่าไม่เป็นไร เดี๋ยวกูไปดูเองก็ได้"  มันพูดอย่างไม่ยอมแพ้  จนกลายเป็นผมเองที่รู้วึกกลัวอำนาจในความเสือกของมันจริงๆ


"ตามใจมึงเถอะ แค่นี้นะ"


"เออๆ มึงโดนกูจับได้แน่ไอ้ปิ๊น"  ยังไม่วายพูดหลอกหลอนส่งท้ายอีกกก


ผมเลยกดวางสายทันที ก่อนจะกดโทรศัพท์เล่นไปเรื่อยเปื่อย


เข้าแอปนู่นออกแอปนี้ไปเรื่อยๆครับ


ก่อนจะมีแจ้งเตือนขึ้นในเฟสบุค



หือ ใครแอดเพื่อนมาวะ?


-Disco Disko -


เข้าไปดูข้อมูลก็เห็นว่าเรียนที่เดียวกับไอ้คริสครับ มีคนติดตามหลักพันอยู่นะเนี่ย  คงจะฮอตไม่น้อย


หน้าตาก็ดีครับ ดูมีเสน่ห์แบบคุณหนูเอาแต่ใจ เหวี่ยงนิดๆแต่ก็ดูน่ารัก คาริสม่าแรงมาก  ผมนี้เลื่อนดูรูปเขาเพลินเลยครับ
 

ขนาดอีกฝ่ายก็เป็นผู้ชายนะ แต่แรงดึงดูดแรงจริงๆ


กดรับเพื่อนสิครับจะรออะไร


พอกดรับปุ๊บ ข้อความในเฟสบุ๊คก็ขึ้นทันที


"เป็นอะไรกับคริสหรอ"

---------------------------

แล้วเสือกอะไรด้วยฟระ!

ปิ๊นไม่ได้กล่าว เรากล่าวเอง  5555



แต่อาจจะมาช้านิดนึง เพราะจะหมดสต๊อกแล้ว

จอคอมก็พังด้วย

พิมพ์ในโทรศัพท์ก็จะช้าหน่อยนะคะ

คนอ่านทั้งหลายอย่าเพิ่งทิ้งกันไปไหนน้า

อยู่เป็นกำลังใจให้คู่รักคนเพี้ยนกับคนซึนกันก่อน

จุ๊บๆ   

ออฟไลน์ Monkey D

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-0
     ขอฝากผลงานอีกหนึ่งเรื่องล่าสุด

เป็นแนวดราม่าๆ พระเอกตาบอด กับนายเอกที่สุขภาพไม่ค่อยแข็งแรง

 ต่างจากคู่เพี้ยนปิ๊นคริสสุดๆ 5555

เป็นกำลังใจให้ #กานต์ขมด้วยน้า. 

  http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=60846.0#top 

ออฟไลน์ Timber Huang

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 49
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ทำไมรู้สึกเหมือนจะมีดราม่า  :ling3:

ออฟไลน์ Monkey D

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-0

ตอนที่  14  ฉันหวงฉันมาทวงคนบ้าคืน!



 
    -เป็นอะไรกับคริสหรอ-
 
 
    หือ  อะไรกันวะไม่เคยคุยกันอยู่ๆมาถามเรื่องส่วนตัวกันซะงั้น
 
 
    ผมเลยเลือกที่จะไม่ตอบครับ  ไม่ใช่กงการอะไรที่ต้องมาตอบคำถามคนแปลกหน้า  รู้สึกคิดผิดสุดๆที่กดรับแอดไอ้หมอนี่มา
 
 
    -นี่นาย  อ่านแล้วก็ตอบสิ  อย่าเล่นตัวได้ป่ะ-   ไอ้เด็กนี่ยังตื้อไม่เลิกแถมวาจากวนบาทาสุดๆ  ผมส่องแล้วไอ้นี้มันก็แค่เด็กม.4  เด็กกว่าผมอีก  ปกติผมไม่ถือเรื่องอายุนะครับแต่เด็กนี่พูดจาโคตรปีนเกลียว
 
 
    /รู้จักกันหรอ  จำไม่ได้เลยว่ามีคนไร้มารยาทแบบนี้ในชีวิตมาก่อน/    มา  มึงม๊า  กวนตีนมากวนตีนกลับไม่โกง   
 
 
    -นี่นาย!!!-   
 
 
    /อะไร!!!!!!!/
 
 
    -ฮึ่ยยยยยยยยย  พี่คริสชอบคนนิสัยเสียแบบนี้ไปได้ยังไงกัน ไม่คูลเลย-   เอ้าไอ้เด็กเวร   
 
 
    /ว่าคนอื่น  หัดดูตัวเองก่อนดีกว่าไหมน้อง  ถ้าน้องไม่กวนพี่ก่อน  พี่คงไม่กวนกลับหรอก/
 
 
    -ก็ตอนแรกถามดีๆไม่ตอบล่ะ-    ยังจะเถียงอีก
 
 
    /ไม่มีคนบ้าที่ไหนคุยเรื่องส่วนตัวกับคนที่ไม่รู้จักกันมาก่อนหรอกเว้ย/
 
 
    -ผมชื่อ ดิสโก้-
 
 
-  อยู่ม.4 รร.เดียวกับพี่คริส  -
 
 
-อนาคตจะเป็นแฟนกับพี่คริสให้ได้-
 
 
-โอเค  ถือว่าเรารู้จักกันแล้วนะ-
 
 
-ตอบคำถามสักทีสิ-
 
เด็กนี่แนะนำตัวเองอย่างมักง่าย
เวรกรรมอะไรของกูต้องมาเจอกับเด็กประหลาดแบบนี้วะเนี้ยยยยย
 
/น้องชอบไอ้บ้าคริสหรอ/  เห็นบอกอยากเป็นแฟนไอ้คริส
 
 
-รักเลยต่างหาก-  ไอ้เด็กนี่ก็อีกคน เอะอะก็บอกว่ารักอย่างง่ายๆมันละเหมือนไอ้บ้าคริสจริงๆเถอะให้ตาย
 
 
-แล้วก็เรียกพี่คริสเพราะๆสิ-
 
 
/ชอบมันก็ไปบอกมันสิวะ  มายุ่งอะไรกับกู/    ผมรัวนิ้วพิมพ์ตอบไอ้เด็กนี่ไปอย่างไว  แหม มาพี่คงพี่คริส  หมั่นไส้
 
 
-อะไร หึงหรอ  เกี้ยวกราดจังเลย-
 
 
/ไม่ได้หึงโว้ย/
 
 
/ชอบมันก็ต้องไปบอกมันปะละ/
 
 
-พี่พูดงี้แสดงว่าพี่ไม่ได้เป็นแฟนกับพี่คริสอย่างที่เขาลือกันใช่ป่ะ-    ใบ้แดกสิครับ  ตอบไงดีวะ  แล้วเขาลืออะไรกันวะ
 
 
-อ้าว เงียบเลย-
 
 
-งั้นผมถือว่าพี่ไม่ได้เป็นอะไรกับพี่คริสนะ-
 
 
-ผมจะได้เดินหน้าลุยจีบพี่คริสต่อแบบสบายใจ-
 
 
/เฮ้ย ไม่ได้นะ/   ผมแค่คิดไม่ใช่หรอวะ  ทำไมข้อความมันไปขึ้นในช่องแชทเฉยเลย  พิมพ์ตอนไหนวะเนี้ย งง โทรศัพท์ผีสิงแน่ๆ
 
-ไม่รู้ล่ะ  ตอนแรกพี่ไม่ตอบเอง  ผมถือว่าผมมีสิทธิ์-
 

-อีกอย่างแบบพี่ไม่เหมาะสมกับพี่คริสหรอก-


-ดีๆอย่างพี่คริสต้องคู่กับน่ารักๆอย่างผมสิ-


-ไม่ใช่จืดๆไม่มีอะไรโดดเด่นสักอย่างแบบพี่อะ-


-ขอโทษที่พูดตรงๆนะครับ อิอิ-

 
-สติ้กเกอร์กระต่ายเต้นส่ายก้น-
 
 
“โว้ยยยยย  อยากฆ่าเด็กฉิบหาย”  ผมสบถออกมาอย่างหงุดหงิด
 
อยากจะเถียงหรือด่ากลับ  แต่ติดตรงที่ว่าเรื่องที่มันพูดมาแม่งจริงไง!


ผมก็กากจริงๆอ่ะ

 
-หวังว่างานโอเพ่นเฮ้าร์ศุกร์นี้  พี่คงไม่มาขัดจังหวะสารภาพรักผมนะ-
 
 
-อิอิ-
 
 
-ส่งจูบ-
 
 
/เออ!/  ตอบแค่นั้นผมก็ออกจากแชทปิดอินเตอร์เนตทันที
 
 
เด็กบ้าอย่างมันเนี้ยนะจะมาเป็นแฟนกับไอ้บ้าคริส   บ้าเจอบ้าได้เป็นคู่รักพินาศโลกแน่ๆ   
 
 
ไม่ได้ๆ  ผมจะยอมให้เกิดเรื่องร้ายๆแบบนั้นไม่ได้  ถึงไอ้เด็กนี่จะหน้าตาน่ารักมากเหมาะสมกับคนหน้าตาดีแบบไอ้คริสก็ตาม   แต่สติปัญญามันทั้งคู่แม่งไม่ปกติเหมือนกันไง  ปากก็หมาพอๆกัน นึกไม่ออกเลยว่าถ้าพวกมันสองคนคบกันจริงจะมีสภาพแบบไหนวะ
 

ยังไงผมก็ต้องหยุดเรื่องนี้ให้ได้!!!
 
 
 
 
วันงานโอเพ่นเฮ้าร์
 
ผมมาถึงโรงเรียนไอ้คริสเกือบห้าโมงเย็น   ขนาดรีบมาตั้งแต่โรงเรียนเลิกแต่ก็ยังมาช้าเพราะเจอรถติด  จะทันไหมเนี้ย  ไอ้คริสย้ำผมตอนเช้าหลายรอบมากว่าต้องมาดูมันเล่นดนตรีให้ทัน
 
ครืดดด  ครืดดด
 
-ตง-
 
 
“ฮัลโหล  ไอ้ตงมึงถึงยังวะ  กูอยู่หน้าโรงเรียนแล้วเนี้ย”  ผมพูดทันทีที่กดรับโทรศัพท์
 
 
/เออ  กูเข้ามาในโรงเรียนแล้วซื้อน้ำกินอยู่มึงเดินเข้ามาแล้วมองทางด้านซ้ายจะเห็นเทพบุตรกางเกงดำยืนอยู่/
 
 
“ถุยยยย  แกะดำสิไม่ว่า  เออๆเดี๋ยวกูเข้าไปเลย”   
 
 
ผมเข้ามาในโรงเรียนไอ้คริสก็เห็นเด็กหลายโรงเรียนเข้ามาในงานเต็มไปหมด  ทั้งชายหญิงละลานตามากจริงๆ   ภายในงานมีจัดแสดงผลงานของเด็กตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาไปจนถึงมัธยมศึกษา  มองผ่านๆก็ดูเจ๋งดีนะครับ   ส่วนอีกด้านก็เป็นซุ้มขายของที่มีนักเรียนโรงเรียนไอ้คริสมาตั้งวางขายเต็มไปหมดทั้งของกิน  เครื่องดื่ม  แล้วก็พวกของจุกจิกต่างๆ  มีคนซื้อกันเพียบ
 
 
“กูอยู่นี่  ไอ้ลูกหมา  มัวแต่เหม่อมองอะไรของมึงวะ”  ไอ้ตงวิ่งเข้ามาตบบ่าเรียกความสนใจ
 
 
เออก็ดีโผล่มาง่ายๆ  ผมจะได้ไม่ต้องชะเง้อคอหา  ยิ่งสูงน้อยๆอยู่
 
 
“กูก็ดูอะไรไปเรื่อยอะดิ  ถึงนานยังวะ”
 
 
“ก่อนมึงมาสักแป๊บอะ   แล้วไอ้คริสอยู่ไหนวะมึงโทรหามันยัง”
 
 
“เออว่ะ  ลืมเลย  โทรแป๊บ”    ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาก่อนจะโทรหาไอ้คริส
 
 
ตู๊ดดดด
 
 
ตู๊ดดดด
 
 
/เปี๊ยก  อยู่ไหนแล้วมาถึงยัง  กูใกล้จะขึ้นไปเล่นดนตรีแล้วนะ/   ไอ้คริสบ่น  เสียงจ๊อกแจ๊กจอแจดังเข้ามาในสายด้วย
 
 
“ถึงแล้วๆ  ให้กูไปหาตรงไหนอะ”
 
 
/เออ  เดี๋ยวกูออกไปรับเอง  อยู่ตรงไหนละ/
 
 
“ตรงที่มันจัดแสดงผลงานนักเรียนอะ  ยืนอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ๆ”   
 
 
/โอเค  รอแป๊บกูจะรีบไป/
 
 
ตกลงกันเสร็จผมก็กดวาง  พอคุยกับไอ้คริสก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงเรื่องวันนั้นที่ไอ้เด็กบ้าทักแชทผมมา   เห็นในเฟสบุ๊คมันโพสว่าซ้อมเต้นคัฟเวอร์วงเกาหลีด้วย  น่าจะขึ้นแสดงในงานนี้แหละ  ผมเลยลองมองหารอบๆดูเพื่อจะเจอหน้าไอ้เด็กนั่น   
 
 
มันจะสารภาพรักกับไอ้คริสไปหรือยังวะ  แม่ง
 
 
“เป็นอะไรวะมึง  หน้าเครียดเชียว  มาเจอแฟนทั้งทีก็ต้องยิ้มดิวะ”  ไอ้ตงพูดแล้วดูดน้ำกินอย่างสบายใจ  ไม่นึกจะชวนกูกินด้วยสักนิดเลยนะ
 
 
“แฟนพ่อง   ไม่ใช่สักหน่อย”
 
 
“หร๊า   แล้วมึงจะทำหน้าเครียดทำไมวะ”
 
 
“กูหาคนอยู่อะ...”
 
 
“หาใครวะ  มึงรู้จักใครที่โรงเรียนนี้นอกจากไอ้คริสอีกหรอวะ”    ตงถามขึ้นอย่างสงสัยว่าเพื่อนตัวเท่าลูกหมาวันๆเอาแต่นอนของเขาจะรู้จักใครที่นี้ได้
 
“คือ..จะว่ารู้จักก็ไม่เชิงอะมึง  ไอ้เด็กนั้นมันทักแชทกูมาเอง”
 
 
“ทักมาทำไมวะ  จะจีบมึงหรอ  แหมๆเสน่ห์แรงนะมึง”
 
 
“ไม่ได้จีบกู  แต่จะมาจีบไอ้คริสต่างหาก!”  ปิ่นปิ๊นตอบหน้ายู่อย่างแสดงความไม่พอใจ
 
 
“เฮ้ย  จริงดิ  แล้วมันจะมาทักมึงทำไมวะ”
 
 
“ทักมาเพื่อจะบอกว่าจะจีบไอ้คริสไงมึง”   
 
 
“เชี่ยแม่ง  คนจริงวะ ฮ่าๆๆๆ  แล้วมึงตอบมันว่าไง”
 
 
“ไม่ได้ตอบอะไร  แต่มันบอกว่าวันนี้มันจะสารภาพรักกับไอ้คริสอะมึง”


"แล่วๆๆๆแล้วว  ไอ้ลูกหมาจะโดนแย่งแฟนแล้วโว้ย  ฮ่าๆๆๆ"  ไอ้ตงหัวเราะอย่างชอบใจ


"หัวเราะทำเชี่ยอะไรวะ  กูเครียดนะเว้ย แม่ง!" ผมว่ามันอย่างหงุดหงิด  คนกำลังจริงจังมาขำบ้าอะไร


"...เฮ้ย..นี่มึงรักไอ้คริสไปแล้วหรอวะ..."   

ออฟไลน์ Monkey D

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-0
"....ป..เปล่า"  เชี่ยแม่งเมื่อกี้ผมพูดบ้าอะไรไปวะ


"ถ้ามึงไม่รักแล้วมึงจะโมโหทำไมที่มีคนมาจีบไอ้คริส ดีซะอีกที่จะมีเอามาลากไอ้คริสออกไปจากชีวิตมึง  ไม่ใช่หรอวะ"


"....."  นั่นสิ ผมควรจะดีใจที่จะมีคนมาแย่งมันไป   ผมจะได้กลับไปใช้ชีวิตแบบเดิมสักที



แต่แค่คิดว่าจะไม่มีไอ้คริสอยู่ข้างๆอีก ผมก็รู้สึกเจ็บแปลบที่หัวใจเหลือเกิน



"รอนานไหมเปี๊ยก แฮ่กๆ"  คริสที่วิ่งกระหืดกระหอบมารีบถามคนตัวเล็กทันทีเพราะกลัวอีกฝ่ายจะยืนรอนาน


ผมได้แต่ส่ายหน้า มองดูมันที่คงรีบวิ่งมาหาผมจนยืนหอบเหงื่อเต็มหน้า


ไม่ว่าเมื่อไหร่ไอ้คริสมันก็ยังคงทำให้ผมรู้สึกเหมือนเป็นคนสำคัญเสมอ


"อยากซื้ออะไรกินก่อนเปล่า  เวทีที่กูจะขึ้นแสดงมันอยู่ด้านใน  ไม่มีของกินขายนะ  เดี๋ยวมึงจะหิวซะก่อน"  ดูสิ ขนาดตัวมันเองยังไม่หายหอบ

ยังจะมาห่วงกลัวผมหิวอีก



ดีแบบนี้ชาตินี้จะหาได้จากที่ไหนอีกวะ



"อ้าว เป็นไรอะ ตาแดงๆ"  คริสถามเมื่อเห็นคนตัวเล็กที่อยู่ๆก็ขอบตาแดงก่ำคล้ายจะร้องไห้


"ฝุ่นเข้าตามั้ง  กูไม่หิวหรอก ไปตรงเวทีกันเถอะเดี๋ยวจะไม่ทันขึ้นแสดงนะ"


"เอางั้นหรอ งั้นก็เดินตามกูมา"  แล้วพวกเราก็พากันเดินไปยังเวทีครับ โรงเรียนมันกว้างใหญ่มากๆระหว่างทางก็มีเด็กโรงเรียนไอ้คริสทักทายมันเป็นระยะ


แต่จะมาสะดุดหน่อยก็ตรงคำทักนี้


"ฮิ้ววๆ พามาเปิดตัวหรอวะไอ้เชี่ยคริส"  กลุ่มนักเรียนชายที่น่าจะรุ่นเดียวกันเอ่ยแซวเพื่อนหน้าฝรั่ง


"ตัวจริงน่ารักนี่หว่า 555"


คริสไม่ตอบเพียงแค่ยิ้มน้อยและยักคิ้วให้เป็นอันรู้กัน


"ทำไมเพื่อนมึงพูดแปลกๆวะไอ้คริส"  ผมถามมันหลังจากเดินผ่านกลุ่มนั้นมาแล้ว  พูดเหมือนรู้จักผมเลย



"ไม่มีอะไรหรอกมึงรีบเดินเหอะ"  คริสไม่ตอบเพียงแต่ยิ้ม แม่งยิ่งชวนให้น่าสงสัย


ไม่มีอะไรแล้วจะทักแบบนั้นทำไมวะ!




เดินมาจนถึงหน้าเวทีก็มีเห็นว่าตอนนี้เขากำลังเต้นคัฟเวอร์กันอยู่ครับ  คนดูกันเยอะมากๆจนผมแทบมองไม่เห็น


คือเตี้ยอะครับ  โดนบังหมด


"วงหมาป่าก็เต้นจบไปแล้วนะครับ เต้นได้พร้อมเพรียงกันจริงๆ"  พิธีกรนักเรียนชายพูดขึ้นเมื่อวงนั้นเต้นจบและลงเวทีไปแล้ว


"ใช่แล้วครับ เต้นดีเด้งเก่งมากๆ แบรี่ช๊อบชอบ" พิธีกรชายอีกคนที่ดูก็รู้ว่ามีร่างผู้หญิงอยู่ข้างในพูดชมอย่างออกรสด้วยใบหน้าดูเพ้อฝันเกินจริงทำให้ผู้คนที่มายืนดูหลุดยิ้มไปด้วย


"แหมๆ ไม่ค่อยจะแสดงออกเลยนะครับคุณบุญเติม"


"แอร๊ยยย แบรี่ต่างหากย่ะ!" สาวแบรี่ทำเป็นโวยวายอย่างไม่จริงจังก่อนจะทำเป็นงอนใส่ คนดูขำกันใหญ่ที่รู้ชื่อจริงของแบรี่ว่าคือบุญเติม


เข้าใจคิดจริงๆเนอะ 5555


"ปล่อยให้คุณบุญเติม เอ๊ย คุณแบรี่งอนไปก่อนนะครับ เพราะตอนนี้ถึงคิวของวงสุดท้ายที่ทุกคนคงรอคอยรับชมกันมานาน นั่งก็คือวงเซเลอร์แมนนนนน"


ทันทีที่พูดจบเรื่องกรี้ด วี้ดร้องและปรบมือก็ดังเซ่งแซ่   นักเรียนหลายคนยกกล้องขึ้นมารอถ่ายวิดีโอกันเยอะมาก


สงสัยวงนี้จะฮอตจริง


เหล่านักเต้นคัฟเวอร์เดินขึ้นเวทีมาประจำตำแหน่งตัวเอง


ก่อนจะโบกมือทักทายผู้ชม


"กรี้ดดดดด ดิสโก้น่ารักจังเลยย"


"น้องดิสขาวมากกก"


"รับหัวใจพี่ไว้ด้วยนะครับน้องดิสโก้"


อย่าบอกนะว่าไอ้เด็กที่ยืนอยู่หน้าสุดแถมแต่งหน้าแต่งตาสไตล์สโมคกี้อายนั่นคือไอ้เด็กบ้าดิสโก้ที่ทักแชทมาหาผมวันก่อน


เชี่ยแม่ง ตัวจริงออร่ายิ่งกว่าในรูปไปอีก


หันไปมองไอ้คริสก็เห็นมันมองไปทางเวทีอย่างอารมณ์ดี


มันไม่ได้อารมณ์ดีเพราะเห็นไอ้เด็กบ้าดิสโก้ใช่ไหมวะ


ฮึ่ยยยย รู้สึกอยากกระโดดปิดตามันฉิบหาย


เป็นบ้าอะไรวะเนี้ยกู  เพี้ยนไปกันใหญ่แล้ว


พอหันไปทางเด็กนั่นก็เห็นมันกำลังโบกมือบ๊ายบายมาทางไอ้คริสด้วยสีหน้ายิ้มแย้มที่สุด


กูยืนอยู่ข้างๆทั้งคนมองไม่เห็นหรอวะ ข้ามหน้าข้ามตาสุดๆ


หรือเพราะกูเตี้ยจนโดนคนข้างหน้าบังหมดวะ แม่ง


จู่ๆเพลงพี่ป้างก็ดังขึ้นมาในหัวสมองทันที


~ฉันต้องทำ ทำอะไรสักอย่างแล้ว ให้เธอรู้ตัวว่ามีคน คนอย่างฉัน แอบมองเธออยู่ตรงนี้ ฉันนี้ไง~~~~


"มึงจะเขย่งทำไมวะไอ้ลูกหมา มองไม่เห็นหรอ" ไอ้ตงเอ่ยถามอย่างสงสัย


ใช่ครับผมเขย่ง เขย่งแบบสุดตีนเลยด้วย สายตาก็จ้องมองไปยังเด็กนั่น


แล้วก็เหมือนว่ามันจะเห็นผมแล้วด้วย...


เหมือนได้สงครามประสาททางสายตาอะครับ


เด็กนี่ดูไม่พอใจน่าดูที่เห็นผมมา หึหึหึ


ให้มันรู้ซะบ้างว่านี่ปินปิ๊น  แฟนไอ้บ้าคริสโว้ยยยยย


(เฮ้ยไม่ใช่ดิ แค่เพื่อนๆ)


แล้วคงเพราะเขย่งนานไปหน่อยอะครับ มันก็เลยเกิดอาการเมื่อย ประกอบกับโดนคนข้างหลังเบียดมา


ผมเลยเสียหลักในการยืน เซไปเกือบล้ม แต่ก็นะ...


ไอ้คริสก็รับผมไว้ได้อยู่ดี จนตอนนี้ผมเหมือนยืนอยู่ในอ้อมกอดไอ้คริสเลย


"ยืนดีๆหน่อยดิ รุ่นนี้ล้มไปก็เลี้ยงไม่โตแล้วนะ" ไอ้คริสกระซิบบอกใกล้ๆ


ถ้าเป็นปกติผมคงผลักมันออกไปไกลๆ แต่งนาทีนี้ที่รู้ว่าเด็กดิสโก้คงมองอยู่แน่ๆ


ผมก็เลยสวมบทบาทแฟนแสนดีโคตรบอบบางแทนละกัน


กูจะทำให้มึงกระอักความแค้นตายไปเลยไอ้เด็กบ้า   ฮ่าๆๆๆๆ(หัวเราะอย่างชั่วร้ายในใจ)


ผมแกล้งเป็นฉีกยิ้มหวาน. ทำท่าเขินนิดๆ แล้วเอามือทั้งสองข้างไปเกาะแขนไอ้คริสไว้ก่อนจะเขย่งใหม่อีกรอบ


เดี๋ยวแม่งเด็กนั้นไม่เห็นการแสดงระดับออสการ์ของผม


"งั้นขอเกาะแขนหน่อยนะ"


ไอ้คริสหน้านิ่งไปนิด ก่อนจะมีสีแดงซ่านไปทั่วหน้า  พอเห็นมันเขินผมเองก็ชักอายจริงๆขึ้นมาแล้วนะเนี่ย


"ถ้ามึงอ้อนแบบนี้ทุกวัน กูคงเป็นบ้าตาย"


...กูก็คงเป็นบ้าไม่แพ้มึงเหมือนกันแหละ...


รู้สึกหน้าร้อนวูบขึ้น ผมก็เลยเบนหน้าไปมองบนเวทีต่อ ไอ้ดิสโก้มันเริ่มเต้นแล้วครับแต่หน้านี่แบบโคตรบึ้ง


แถมยังส่งตาขวางมาทางผมอีก  แหมเห็นแบบนี้ก็สะใจ คุ้มค่ากับการลงทุนจริงๆ


ฮ่าๆๆๆๆ


"ปิ๊น เดี๋ยวมึงอยู่กับไอ้ตงไปก่อนนะ กูจะไปเตรียมตัวแล้ววะ"


"อ้าวหรอ งั้นไปเหอะ"


"อย่าเดินไปไหนละ ถ้ากูอยู่บนเวทีแล้วมองมาไม่เห็นมึง มึงตายแน่"  ไอ้คริสทำเป็นขู่ แต่โคตรไม่มีความน่ากลัว ผมก็เลยผงกหัวว่ารับรู้ไปงั้นอะ


คนมันอุตส่าห์เก๊กเข้ม ก็ต้องทำเป็นกลัวให้สักหน่อย เหอๆ


"งั้นกูไปละนะ" ไอ้คริสบอกซ้ำก่อนจะหันหลังฝ่าฝูงชนไป


"คริส!"  ผมตะโกนเรียกมันไว้  ไอ้คริสเองก็หันมามองผมตามเสียงเรียกทันที




"สู้ๆนะมึง"


โอ้ยยแม่ง แค่ประโยคธรรมดาแต่ทำไม หัวใจมันเต้นแรงจังวะเนี้ย


ไอ้คริสยิ้มแป้นมองผมด้วยสายตาเชื่อม แล้วทำท่าตะเบะแบบทหารรับคำบัญชาการก่อนจะหันหลังเดินออกไป


"จ้องจนท้องได้แล้วมั้ง ไอ้ลูกหมา แหมแล้วทำบอกไม่ใช่แฟนๆ ถุยยย เด็กอนุบาลยังดูออก"  ไอ้ตงพูดกระแหนะกระแหนแทบจะเบ้ปากมองบนด้วยซ้ำ


"ก็แค่เพื่อน!..สนิทมากไง"


"มึงนี้มันปากแข็งจริงๆ ถ้าโดนคนอื่นแย่งไอ้คริสไป กูจะหัวเราะให้ฟันร่วงเลย"


พอมันพูดเรื่องนี้ขึ้นมาอีก  ผมก็เริ่มคิดมากอีกรอบ ถ้าเด็กนี่คิดจะจีบไอ้คริสจริงๆ ผมจะเอาอะไรไปสู้ได้วะ


ไอ้ดิสโก้แม่งหน้าตาดีอย่างกับตุ๊กตากระเบื้องเคลือบ แถมถ้าเรียนโรงเรียนเอกชนนี้ได้แสดงว่าต้องเรียนเก่งแล้วก็รวยมากแน่ๆ


ต่างจากผมฟ้ากับเหวเลย  แม่ง


"อ้าว พูดแค่นี้หน้ามุ่ยเลยนะมึง กลัวมีคนมาแย่งไอ้คริสจริงหรอวะ"


"มึงก็ดูหน้าไอ้คนที่จะมาจีบไอ้คริสดิ แม่งโคตรเพอร์เฟค" ผมบอกพลางบุ้ยปากไปทางไอ้เด็กดิสโก้


"คนนั้นหรอมึง  โห งานหนักเลยนะนั่น มึงแม่งเทียบไม่ติด"  ไอ้ตงมึงพูดแบบนี้ด่ากูว่าขี้เหล่ยัวรู้สึกดีกว่าอีก


"เออดิ  แท่ง มันจะสารภาพรักวันนี้ด้วย"


"มึงไม่ต้องเครียดเว้ย มึงมากับใครลืมไปแล้วหรอ ไอ้ตงเพื่อนยากสุดหล่อคนนี้จะช่วยมึงเอง"  ผมหันขวับทันทีที่มันบอกว่าจะช่วย


ทำไมเพื่อนผมใจดีอย่างนี้เนี้ย!


"จริงหรอวะมึง ขอบใจนะเว้ย"


"จริงดิ แต่ต้องมีข้อแลกเปลี่ยนอย่างหนึ่งนะ"  นั่นไง ว่าแล้วน้ำหน้าอย่างไอ้ตงรึจะมาช่วยผมฟรีๆ


"จิ๊ มึงจะกินอะไรว่ามา"  ผมถามอย่างไอ้ตงไม่พูดเรื่องกินหรอกครับ คบมานานทำไมจะไม่รู้


"มึงต้องบอกกูมาก่อนว่าตกลงมึงเป็นอะไรกับไอ้คริสกันแน่ ยังไม่ต้องอ้าปากเถียง  กูขอความรู้สึกมึงจริงๆ  ถ้ามึงรู้สึกมากกว่าเพื่อนกูก็จะช่วย แต่ถ้ามึงยืนยันว่าเป็นแค่เพื่อนกันกูก็จะไม่ช่วย เพราะว่าถ้าเป็นแค่เพื่อนมึงก็ควรจะยินดีที่มีคนมาชอบไอ้คริสโดยไม่รู้สึกหึงหวงอะไร ใช่ไหมละ"


"..." แท่ง ทำไมคราวนี้ข้อแลกเปลี่ยนมันราคาแพงจังวะ


กูยังตอบหัวใจกูไม่ได้เลย แล้วจะให้กูตอบมึงยังไงวะ


"ตอบมาได้แล้ว อย่าคิดนาน เดี๋ยวโดนตัดหน้าจะหาว่ากูไม่เตือน"  ไอ้ตงพูดแล้วบุ้ยปากไปทางเวทีที่ไอ้เด็กดิสโก้เต้นเสร็จแล้วกำลังเดินลงเวที


สวนกับไอ้คริสที่ขึ้นเวทีมาเตรียมเครื่องดนตรีต่างๆ


"กูไม่รู้อะ กูรู้แค่ว่า...กูไม่อยาก...เสียมันไปให้ใคร"  ผมก้มหน้าตอบเสียงเบา แต่สิ่งที่ผมพูดไปมันออกมาจากความรู้สึกจริงๆ


"หึหึ เด็กน้อยเอ๊ย อ่อนหัดเรื่องความรักจริงๆนะมึง  ดีนะที่มึงมีเพื่อนเชี่ยวชาญชำชองอย่างกู  กูพอจะรู้แล้วว่ามึงรู้สึกยังไง"


ผมเงยหน้าไปมองไอ้ตง  อะไรวะแค่ผมพูดแค่นั้นมันก็รู้เลยหรอว่าผมรู้สึกยังไง ตัวผมเองยังไม่รู้เลยนะ


"ไม่ต้องทำหน้าหมางง เอาเป็นว่า..."



"กูจะช่วยมึงกำจัดศัตรูหัวใจเอง"




5555555

แกจะปากแข็งไปได้สักกี่น้ำหนูปิ่นปิ๊น


ใครอยากให้ตงมีคู่บ้าง เพื่อจะช่วยลดความเผือกเรื่องคนอื่นลงได้บ้าง

เม้นเลยยยย  แต่ถ้าไม่มีก็ไม่แต่งแค่นั้นเอง 555

ขอบคุณที่ยังคอยเม้นกันนะคะ

ถ้าไม่มีพวกคุณเราคงถอดใจเขียนนิยายอีกรอบแน่ๆ

ความตั้งใจมีเต็มร้อย แต่แรงใจนี่เหลือน้อยมากจนท้อบ่อยจริงๆ

ฮืออออ ดราม่าซะงั้น 55555 แต่แต่งจบแน่นอน

ตอนเขียนเรื่องนี้เรามีความสุขมากๆ แล้วก็หวังให้คนอ่านมีความสุขไปกับเรื่องนี้ด้วยกัน

ฝันดีจ้า

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ darling

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1741
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-7
เอาใจช่วยนะหนูปิ่นปืีีน  :L2:

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4102
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
อย่ามัวปากแข็งนะปิ่นปิ๊น ระวังจะชวดนะ

ออฟไลน์ Laliat

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 253
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
 :z13: รอจ้า คู่รักบ้าบอแห่งปี

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Monkey D

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-0
ตอนที่  15  "อือ"

 
 
พอไอ้ตงยืนยันว่าจะช่วยผมก็เบาใจไปนิดนึง  นิดนึงจริงๆ
 
 
ก็พอดีกับที่พิธีกรแนะนำวงไอ้คริสมัน  ผมก็เลยพุ่งความสนใจมาที่ไอ้คริสแทน
 
 
พอถึงช่วงที่วงของไอ้คริสเริ่มแสดงก็มีผู้คนกี้ดให้กับวงมันมากมาย  ท่าทางจะฮอตไม่เบาเหมือนกันนะเนี่ย
 
 
ผมเองก็จำหน้าพวกเพื่อนมันไม่ค่อยได้หรอกครับเพราะไม่เคยเจอกันอีกเลยตั้งแต่วันที่มาทวงกระเป๋า  จะพอจำหน้าได้ก็คือคนที่ชื่อแวน  ที่เป็นนักร้องนำมันร้องเพลงเพราะมากครับ เสียงดีจริงๆ  ส่วนไอ้คริสเล่นกีต้าร์ไฟฟ้าครับ  แล้วก็มีมือกลองกับมือเบสอีกแค่นั้นแหละครับ
 
 
ไอ้คริสส่งยิ้มให้ผมเสมอตลอดเวลาการเล่นดนตรีของมัน  ผมเองก็เอาโทรศัพท์มาถ่ายรูปตอนมันเล่นกีต้าร์ไว้ครับ   
 
 
นานๆจะเห็นมันทำตัวเท่ๆบ้างอะนะ   ขอถ่ายรูปจารึกไว้นิดนึง
 
 
 
“แหมๆ  ไม่ค่อยจะเห่อเลยนะมึง”  ไอ้ตงพูดแซว   แต่คิดว่าผมจะแคร์ไหม?
 
 
 
บอกเลยว่าไม่สนแล้วครับ  กูจะถ่ายอ่ะมีปัญหาอะไร
 
 
“เรื่องของกูเว้ย”
 
 
“เออ  เรื่องของมึงก็เรื่องมึง  ไม่ขัดจังหวะความสุขก็ได้วะ”
 
 
“เออดี  หุบๆปากไปมึงอ่ะ”  พูดมากเสียสมาธิในการถ่ายรูปหมด
 
 
“ชิ   เออว่าแต่ไอ้คนนั้นใช่ป่ะวะ  มารหัวใจมึงอ่ะ”    ไอ้ตงสะกิดให้ไปดูไอ้เด็กดิสโก้ที่กำลังเดินไปทางตึกเรียนคนเดียว   ไม่แน่ใจว่ามันจะไปเปลี่ยนชุดหรืออะไร
 
 
“เออดิ”
 
 
“เดี๋ยวกูไปจัดการให้”
 
 
“เฮ้ย  มึงจะไปจัดการอะไรเขา  ไม่เอาแบบต่อยตีอะไรนะเว้ย “   ผมรีบบอกไอ้ตง  มันชอบทำเรื่องบ้าๆเสมอ  อีกอย่างผมไม่มีความคิดที่ทำร้ายใครเพราะเรื่องแค่นี้ด้วย
 
 
“เออน่า  กูแค่ไปขัดขวางการสารภาพรักของมันกับไอ้คริสเฉยๆ  นี้แค่ไปดูราดราวไว้ก่อนไง  ไปล่ะเดี๋ยวตามมันไม่ทัน”
 
 
 
“เออๆ  แต่ห้ามทำร้ายเขาเด็ดขาดนะมึง”  ผมย้ำอีกที   ไอ้ตงพยักหน้า  ก่อนจะรีบเดินตามไปทางที่เด็กดิสโก้เดินไป
 
 
 
พอไอ้ตงไปผมก็หันมาสนใจไอ้คริสต่อ  มันเองก็เล่นกีต้าร์เก่งมากครับเล่นเพลงร็อคได้มันส์มาก  เด็กผู้ชายกระโดดสนุกไปกับเพลงเยอะมาก  หลายคนก็ตะโกนร้องเพลงตามไปด้วย
 
 
ไอ้คริสเองก็ยิ้มเล็กๆมีเดินไปเล่นกีต้าร์ใกล้ๆกับเพื่อนแบบที่นักดนตรีเขาชอบทำกัน 
 
 
มันดูเท่มากจริงๆวันนี้  (วันนี้เท่านั้น  วันอื่นกากเหมือนเดิม  5555)
 
 
 
พอวงมันเล่นจบพวกเด็กนักเรียนก็โหร้องกันอย่างชอบใจพร้อมทั้งปรบมือให้ด้วย   แล้ววงต่อไปก็ขึ้นมาแสดงครับ     ยืนรอสักแป๊บเดียวไอ้คริสก็เดินมาหาผมที่เดิม
 
 
 
“เมื่อกี้กูเท่อะดิ”   มันพูดแล้วยักคิ้วข้างเดียว  คงคิดว่าตัวเองเท่มากซะเต็มประดา
 
 
 
“ก็งั้นๆอะ  กูฟังแต่เสียงนักร้อง”   ผมแกล้งบอกมันไป
 
 
 
“อะไรวะ  กูอุตส่าห์ตั้งใจเล่นแทบตาย  ไม่คิดจะชมกูหน่อยหรอ”
 
 
 
“แล้วมึงร้องเพลงได้ไหมล่ะ  กูฟังเสียงกีต้าร์ไม่ออกหรอกว่าเพราะหรือไม่เพราะ  ถ้าเป็นเสียงร้องก็ว่าไปอย่าง”  ผมที่เห็นมันหน้ามุ่ยเพราะแค่ผมไม่ชมมันก็เลยแถไปว่าฟังไม่ออกแทน   จะให้ชมต่อหน้าตรงๆว่า ‘มึงเท่มาก’ก็เขินนะครับ
 
 
 
“เป็นดิ  จะฟังเลยไหมล่ะ”  ไอ้คริสรีบตอบเหมือนมันอยากร้องให้ผมฟังมาก
 
 
“ไม่....เออ  ฟังก็ได้..แต่หาที่เงียบๆนะ  ไม่งั้นคงฟังไม่รู้เรื่องตรงนี้เสียงดังมาก”   ตอนแรกผมคิดจะปฎิเสธครับ  แต่พอนึกได้ว่าผมควรพาไอ้คริสไปอยู่ให้ห่างไกลจากผู้คนจะได้หลบไอ้เด็กดิสโก้ที่จะมาสารภาพรักด้วยก็เลยบอกให้มันไปหาที่ร้องเพลงเงียบไกลๆดีกว่า
 
 
 
“ก็ได้  ตามมาดิ”   แล้วไอ้คริสก็จับมือผมจูงออกไปครับ   ผมเองก็ไม่ได้สะบัดออกอย่างเคย  ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน
 
 
 
อยากแสดงความเป็นเจ้าของมั่ง....
 
 
 
แล้วไอ้คริสก็เดินไปเอากีต้าร์โปร่งจากเพื่อนมันมาก่อน   พวกเพื่อนมันเองก็แซวๆครับ  ผมก็แอบอายเหมือนกันเลยจะดึงมืออกแต่ไอ้คริสก็จับไว้แน่นไม่ยอมปล่อย   แล้วเราก็พอกันเดินมาแถวหลังโรงเรียนที่เป็นสวนขนาดย่อมๆน่ะครับ   ร่มรื่นดีเหมือนกันไม่มีเสียงดังของวงดนตรีที่เล่นต่อมาให้ได้ยินเลย
 
 
 
ไอ้คริสก็พาผมไปนั่งที่ม้านั่งใต้ร่มเงาต้นไม้    ตรงนี้ดูเป็นส่วนตัวดีครับ   ไม่มีใครเดินมาเลย สงบมากๆ
 
 
“อยากฟังเพลงอะไรอ่ะ”   ไอ้คริสถามพลางลองดีดกีต้าร์เช็คเสียงไปด้วย
 
 
“ไม่รู้ดิ  แล้วแต่มึงเลย”   ผมบอก  ก็ใจจริงไม่ได้อยากฟังมันร้องนี่หว่า  แค่จะหาเรื่องหลบเด็กดิสโก้เฉยๆ  จะร้องเพลงอะไรก็ร้องมาเหอะ   กูฟังได้หมดแหละ...ถ้ามึงเป็นคนร้อง
 
(แหวะ)  เสียงอ้วกในใจของใครดังขึ้น  ฮ่าๆๆๆ
 
 
 
“งั้นฟังเพลงนี้แล้วกัน   กูอยากร้องให้มึงฟังด้วย”    มันพูดขึ้นก่อนจะวางตำแหน่งนิ้วลงไปบนกีต้าร์โปร่งแล้วกันมามองผมยิ้มๆ
 
 
“ตั้งใจฟังดีๆล่ะ “
 
 
“เออ”   ผมตอบมันไป  อยู่ๆก็รู้สึกร้อนวูบที่หน้า   แม่งเอ๊ย  เคยคิดว่าอยากมีโมเม้นท์นี้ไปเล่นกีต้าร์ให้สาวที่ชอบฟัง  ไม่เคยคิดเลยว่าวันนี้ต้องเป็นฝ่ายมานั่งฟังคนอื่นร้องเพลงเล่นกีต้าร์ให้แทน    จั๊กจี๊ที่ใจดี
 
 


มีต่อ

ออฟไลน์ Monkey D

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-0
 
“รู้ไหมว่ามันดียังไง
 
และรู้ไหมว่าสุขใจเพียงใด
 
รู้ไหมว่าชีวิตเก่าๆ
 
ของฉํนนั้นเปลี่ยนไปเท่าไร
 
 
รู้ไหมว่าก่อนจะเจอเธอ
 
รู้ไหมว่าฉันเคยเป็นยังไง
 
รู้ไหมการที่ได้เจอเธอ
 
นั้นช่างยิ่งใหญ่สักเท่าไร”
 
 
คริสดีดกีต้าร์ไปร้องเพลงไปยังคงส่งยิ้มาให้ผมเหมือนเคย   เสียงร้องของไอ้คริสก็ธรรมดาของเด็กวัยรุ่นทั่วไปครับ  ไม่ได้เพราะมากมาย   แต่ฟังแล้วรับรู้ถึงความจริงใจที่ส่งผ่านมา
 
 
เขิยเว้ย!
 
 
 
“เธอ  เธอทั้งนั้นที่ทำ
 
ให้ช่วงชีวิตของฉันน่าจดจำ
 
ตั้งแต่ได้เจอเธอ”
 
 
ตั้งแต่ได้เจอกันผมกับมันก็มีเรื่องน่าจดจำขึ้นมากมายจริงๆ   วันแรกที่เราได้เจอกันผมยังจำมันได้ดี   นึกย้อนไปก็แอบขำอยู่เหมือนกัน
 
 
“โลกที่เคยมองดูซึมเซา
 
โลกที่มีแต่ความว่างเปล่า
 
ฟ้าทึมๆและวันเศร้าๆ
 
ไม่คิดว่าจะมีวันนี้ได้
 
เธอ  เธอทั้งนั้นที่ทำ
 
ให้ช่วงชีวิตของฉันน่าจดจำ
 
ตั้งแต่ได้เจอเธอ”
 
 
คริสมันมองหน้าผมตลอดเวลาที่ร้องเพลง  ตอนแรกผมก็มองกลับแหละครับแต่พอนานๆแม่งก็ทนสายตาหวานเชื่อมนั้นไม่ไหวต้องเป็นฝ่ายหันหน้าหนีไปเอง   ไม่ต้องส่องกระจกดูก็รู้ตัวเลยว่าผมแม่งต้องแดงมากแน่ๆ
 
 
บางทีก็เกลียดสายตาที่ไม่เคยปิดบังความรู้สึกของไอ้คริสเลยจริงๆ
 
 
“ขอบคุณสรวงสวรรค์  ให้เราได้เจอกัน
 
ขอบคุณคนบนนั้นที่ทำให้ฉันได้พบเธอ
 
ขอบคุณทุกเรื่องราว
 
ต้นเหตุที่ในวันนี้ฉันนั้นได้เจอ....
 
 
เปี๊ยก  สุดที่รัก..”
 
 
เสียงกระซิบเบาในท่อนสุดท้ายของเพลงดังขึ้นใกล้ๆใบหูของผมอย่างไม่ทันตั้งตัว    ด้วยความตกใจเลยหันหน้าไปทางไอ้คริสทันที   จมูกผมเลยชนกับหน้ามันเต็มๆ
 
 
แล้วก็เหมือน....
 
 
 
จะโดนปากมันไปนิดๆด้วย
 
 
 
 
ฮือออออออ  แม่งงงงงง
 
 
 
รู้สึกร้อนเหมือนหน้าจะระเบิดเข้าไปใหญ่  ใจผมมันเต้นโครมครามมากจริงๆ
 
 
 
“เมื่อกี้...มันโดนปากจริงๆใช่ป่ะ”   ยังจะมาถามอีกกกกก
 
 
 
“ไม่รู้เว้ย  ไม่โดนหรอก..มั้ง”   ผมพูดอุบอิบ  ก้มหน้าจนคางจะชิดกับอกอยู่แล้วครับ
 
 
 
“งั้นหรอ  หึหึ”
 
 
 
“ขำอะไรวะ”   ผมเงยหน้ามามองมันตรงๆ   ตลกหรอที่ผมทำท่าทางแบบนี้
 
 
“เปล่า...แค่เวลามึงหน้าแดงนี่  น่ารักดีนะ”
 
 
 
“...”   เชี่ยแม่ง   ไอ้ที่คิดว่าจะพยายามเลิกเขิน   มันทำไม่ได้จริงๆอ่ะ
 
 
 
“แล้วก็  กูชอบนะที่มึงเขินเพราะกูเป็นต้นเหตุ”    คริสยิ้มร่าแล้วเอามือมาสอดประสานมือผมไว้ข้างหนึ่ง
 
 
“แล้วเป็นไง กูร้องเพลงเพราะรึเปล่า”
 
 
ผมที่ยังเขินๆอยู่ก็ไม่รู้จะพูดว่าอะไรนอกจาก
 
 
“อือ”
 
 
 
“ชอบเพลงที่กูร้องให้ไหม”
 
 
“อือ”
 
 
“ชอบกูไหม”
 
 
“อือ”   กำลังเขินมากไม่ได้ฟังว่าไอ้คริสถามอะไรเลยเอาแต่อือๆไปก่อน
 
 
“งั้นปิ๊นมาเป็นแฟนกับคริสจริงๆนะครับ”
 
 
“อือ”
 
 
“ไชโย้!”   ไอ้คริสตะโกนอย่างดีใจทำให้ผมสะดุ้ง
 
 
“อะไร  ไชโยอะไรของมึง”
 
 
“ก็เมื่อกี้ปิ๊นยอมเป็นแฟนกับคริสจริงๆแล้วไง”   มันยิ้มแป้นยกมือข้างที่สอดประสานกับมือผมไว้ขึ้นมาก่อนจะก้มจูบหลังมือผมไปแบบเน้นๆ
 
 
“ฮ..เฮ้ย.. เมื่อกี้ไม่ได้ฟังเว้ย  อย่าขี้ตู่เอาเองดิ”  ผมรีบบอกมันลิ้นแทบพัน  ก่อนจะดึงมืออกจากมัน
 
 
“แต่เมื่อกี้ตกลงแล้วนะ  จะกลับคำหรอ   ทนเห็นกูไปเป็นของคนอื่นได้รึไง  กูยังทนเห็นมึงอยู่ใกล้กับใครไม่ได้เลยนะ”   ไอ้คริสบอกความรู้สึกตัวเองออกมา
 
 
ก็จริง    ผมทนเห็นมันไปเป็นของคนอื่นไม่ได้จริงๆ  ตอนที่ไอ้เด็กดิสโก้ทักมาว่าจะสารภาพรักกับมัน  คืนนั้นผมเองก็แทบนอนไม่หลับ   มันว้าวุ่นใจน่ะครับ     
 
 
ถ้าวันนี้ผมยังปฎิเสธความรู้สึกตัวเองอีก   คงได้ถูกไอ้เด็กดิสโก้คาบไปกินจริงๆแน่
 
 
เอาวะ   เป็นไงเป็นกัน!  ขอทำตามใจตัวเองสักครั้งอนาคตช่างมันไว้ก่อน
 
 
 
 
 
 
“ถ้านอกใจกูมึงตาย!”  ผมพูดไปแค่นี้    ไอ้คริสก็ยิ้มออกมาอย่างมีความสุข   น่าหมั่นไส้จนอยากเอาคำพูดเมื่อกี้กลับมาซะจริงๆ
 
 
“รับทราบครับผม”   มันทำท่าตะเบะอย่างกวนๆแล้วยิ้มตาหยี
 
 
“แล้วก็....รู้กันสองคนพอนะ   แต่หน้าคนอื่นห้ามทำรุ่มร่ามเด็ดขาดด้วย”   ผมบอกมันไว้ก่อน  ไอ้คริสเองก็พยักหน้ารับ   ก่อนจะเอานิ้วก้อยมันมาเกี่ยวกับนิ้วก้อยผมไว้
 
 
“สัญญา”  คริสพูดแล้วมองตาผมเหมือนจะสื่อความรู้สึกให้รับรู้ว่ามันจริงจังกับคำสัญญามากแค่ไหน   ผมเองก็มองตามันไปเช่นกันอย่างรับรู้ความรู้สึกที่ส่งผ่านมา
 
 
ใบหน้าของคริสค่อยๆเคลื่อนที่มาใกล้ผมไปเรื่อยๆ   ใกล้จนรับรู้ถึงลมหายใจของอีกฝ่ายที่กระทบกับใบหน้า....
 
 
 
 
แปะ
 
 
 
“ให้มันน้อยๆหน่อย  ที่นี้โรงเรียนนะเว้ย”  ผมบอกมันพลางเอามือที่ไปปิดหน้าไอ้คริสไว้ดันหน้ามันออกไปห่างๆ
 
 
“ฮะๆ  นั่นดิ  ลืมไปเลยเนอะ”  มันพูดพลางเกาต้นคออย่างแก้เก้อ
 
 
 
“อืม ดิ”   ผมบอก อดไม่ได้ที่จะเม้มริมฝีปากเข้าหากัน
 
 
 

เกือบไปแล้วไง    เกือบได้รู้จักกับคำว่า ‘จูบ’ จริงๆแล้ว
 
 
 -----------------------

 :mew3:
เขาเป็นแฟนกันแล้วววว :mc4:

ตอนหน้าจะเป็นตอนของตงน้า
รออ่านได้เลยว่าตงมันจะไปขัดขวางดิสโก้ยังไง 55555

ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนิยายกากๆ พระเอก-นายเอกกากๆมากๆเลยจริงๆ
ยังคงขอบคุณทุกคอมเมนต์ด้วยที่ไม่ทิ้งกันไปไหน

ใครยังไม่เคยแสดงตัวก็แสดงตัวบ้างเถ๊อะะะ
55555 บางทีเราก็อยากรู้ว่ามีใครอ่านบ้าง
 :hao5:

แล้วเจอกันใหม่ตอนหน้าค่ะ :z2:

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
 :hao7: :hao3: :-[

อีกนิดดด

ออฟไลน์ Januarysky

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 507
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-0
อือออออ
แอบอือตามน้อง
 :mew1:
ตามติดตงกะดิส
ดิสน่ารักเสร็จตงแน่ๆ หุหุ
 :mew3:

ออฟไลน์ Monkey D

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-0
แวะมาเอารูปหนูปิ๊นกับบ้าคริสตอนสวีทททกันลงสักเล็กน้อย :-[

วาดกี่ครั้งหน้าไม่เคยเหมือนกันสักรอบ 55 :laugh:


เดี๋ยวดึกๆจะเอาตง-ดิสโก้มาลงนะจ้า

เห็นคอมเมนต์ก็มีกำลังใจมาต่อแล้ว

กำลังเร่งปั่นอยู่น้า :katai4:

ออฟไลน์ เพียงเพื่อน

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 175
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
อ่านมาตั้งนานพึ่งรู้ว่าอะไรแปลกไป  My angel ไหมคะชื่อเรื่อง  angle มันไปคนละความหมายเลยนะ *-* :laugh: :laugh:

ออฟไลน์ Monkey D

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-0
อ่านมาตั้งนานพึ่งรู้ว่าอะไรแปลกไป  My angel ไหมคะชื่อเรื่อง  angle มันไปคนละความหมายเลยนะ *-* :laugh: :laugh:

กรรม จริงๆด้วย 555555 :laugh:

แต่งมาจนเกินครึ่งเรื่อง ไม่ได้สังเกตเลยจริงๆ 55555

อ๊ายยยอาย :o8:  วิ่งไปแก้แป๊บบบบ :katai5:

ออฟไลน์ monoo

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1957
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +101/-4

ออฟไลน์ Monkey D

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-0
ตอนที่  16     ตง - ดิสโก้       


“ลัน  ลัน ลา”   เสียงร้องเพลงอย่างอารมณ์ดีที่ตอนนี้กำลังเดินไปกระโดดดึ๋งๆไปอย่างกับกระต่าย   ท่าทางเหล่านั้นแสดงถึงการมีความสุขมากๆ


ความสุขที่จะมาแย่งคนรักเพื่อนกูงั้นรึ  ฝันไปเถอะ!  ไอ้เด็กขาวโปด


ตอนนี้กระผมนายตงสุดหล่อ  หล่อที่สุดในซอย  เพราะในซอยมีแต่คนแก่และเด็ก  กำลังปฎิบัติภารกิจกำจัดมารหัวใจให้เพื่อนรักอย่างไอ้ลูกหมาปิ่นปิ๊นครับ

ผมแอบเดินตามไอ้ขาวโปดนี่มา  ท่าทางลันลานั้นทำให้ผมหมั่นไส้สุดๆจนอยากจะวิ่งไปตีก้นงอนๆนั้น ให้คามือมันคงจะนิ่มน่าดู


เฮ้ย ไม่ใช่ดิว่ะ  ต้องตีให้ก้นแตกไปเลย  ถึงจะสาแก่ใจต่างหาก


แอบมองจนเห็นมันเดินเข้าไปในห้องๆหนึ่งครับ  ผมเลยรีบวิ่งตามไปดู  โชคดีที่ประตูเป็นแบบกระจกที่มืดๆนิดนึงพอมองเห็นข้างในได้  ผมเลยแอบส่องไอ้ขาวโปดที่เดินตรงไปที่กระจกอย่างสำรวจหน้าตาและเสื้อผ้าตัวเอง


“น่ารักกว่าเมื่อวานอีกนะเราเนี้ย  อิอิ”   ร่างขาวพูดขึ้นแล้วยิ้มอย่างภูมิใจในรูปร่างหน้าตาของตัวเอง


เหอะ  หลงตัวเองฉิบหาย  คนบ้าที่ไหนชมตัวเองแบบนี้บ้าง   แต่เหมือนความคิดผมจะดังมากไปหน่อยไอ้ขาวโปดเลยเลยหันมามอง  หลบแทบไม่ทันเลยกู


“ใครน่ะ”  เมื่อกี้เมื่อจะได้ยินเสียงใครพูดเบาๆเลย  แต่พอหันไปมองทางประตูก็ไม่มีใครเลยนี่น่า


เราคงคิดมากไปเองมั้ง   แต่มาที่ชมรมคนเดียวแบบนี้ก็น่ากลัวเหมือนกันนะเนี่ยรีบเอาของไปให้พี่คริสสุดหล่อดีกว่า     

ร่างขาวๆเดินไปที่กระเป๋าสีชมพูพิ้งค์ใบโปรดก่อนจะหยิบตุ๊กตาไอร่อนแมนรุ่นที่พิเศษแล้วก็มีเพียงหนึ่งเดียวในโลก   ก็เพราะในนี้มันบรรจุความรักของดิสโก้ไว้ไง  อิอิ

“ลองเช็คเสียงอีกรอบดีกว่า”   มือเรียวกดไปตรงปุ่มกลางตัวทันใดนั้นก็มีเสียงใสที่บันทึกไว้พูดออกมา

/ไอเลิฟยู  ไอเลิฟยู  ไอเลิฟฟฟยูวววว /   

“ฮ่อยยย  น่ารักอ่ะแค่เสียงยังน่ารักเลยพี่คริสต้องชอบมากแน่ๆ  แล้วต้องตกลงเป็นแฟนกับเราแน่เลย อิอิ  หุยยยแค่คิดก็ฟินแระอะ”     ร่างเล็กยืนบิดเขินเมื่อมโนถึงชายที่ตรปลิ้มมากอย่างพี่คริส   จนไปสืบรู้มาว่าพี่คริสชอบตัวการ์ตูนมากชอบทุกแนวเลย  เหมาะเจาะกับตัวเขามากเลยที่ก็ชอบอะไรมุ้งมิ้งๆเหมือนกัน

แต่วันนี้แฟนพี่คริสมาด้วยนี่น่า  เพิ่งเคยเห็นตัวจริงก็วันนี้  ปกติเคยเห็นแต่ในไอจีมุมเผลอแค่นั้นเอง (ปิ่นปิ๊นไม่เล่นไอจีจ้าเลยไม่รู้ว่าคริสแอบถ่ายรูปแล้วไปโพส)  ก็น่ารักดี แต่ดูมึนๆ ไม่ไบรท์เท่าไหร่  เราดีกว่าตั้งเยอะ  ไม่แน่ถ้าพี่คริสรู้ว่าเราชอบพี่เขา  พี่คริสอาจจะเปลี่ยนใจก็ได้   ฮ๊า  แค่คิดก็ฟินแระ


ไอ้เด็กขาวโปดนี่มันบ้าอย่างที่ไอ้ปิ๊นบอกจริงๆ  มีอย่างที่ไหนคิดเองเออเองมโนเองเขินเอง


เดี๋ยวก็ทำหน้ายิ้ม  เดี๋ยวก็หน้าบึ้งอะไรของมันวะ  ประสาท


ใครได้เป็นแฟนด้วยคงโชคร้ายฉิบหาย


ดิสโก้กอดตุ๊กตาไว้แล้วเดินไปเช็คความเรียบร้อยอีกทีที่หน้ากระจกก่อนจะเดินออกมาเพื่อไปตามหาพี่คริส


วันนี้จะสารภาพรักกับพี่คริสแล้วน้า


“ลัน ลัน ลา..”

ตุ๊บ!

“โอ๊ยย”  เสียงเล็กร้องลั่นเมื่อถูกชนจนก้นจ้ำเบ้ากับพื้นกระเบื้อง

ฮึ่ยยยยย  คนบ้าที่ไหนเดินไม่ดูตาม้าตาเรือเลยอะ!

“อุ้ย  ขอโทษ  ไม่ได้ตั้งใจ”

กูโกหก  กูตั้งใจมากเลยแระ  ก็ว่ากะชนเบาๆนะเว้ย  ทำไมมันถึงกับล้มไปพื้นเลยว่ะ  อ้อนแอ่นฉิบหาย     

“ฮึ่ยยยย  คราวหลังพี่ก็หัดมองทางมั้งดิ  แล้วก็ขอโทษให้มันจริงใจกับความผิดที่ทำลงไปด้วย  ไม่ใช่มาพูดขอโทษห้วนๆแบบนี้  ไม่น่ารักเลย”    ไอ้ขาวโปดที่พอลุกขึ้นยืนได้ก็เทศก์ผมเลย   ปากแดงๆยังนี้แม่งไม่น่าบ่นเก่งเลยจริงๆ  เสียงก็เล็กๆน่ารำคาญฉิบหาย  ผู้ชายจริงปะว่ะ   ทอมหรือเปล่า


“ก็ขอโทษแล้วไง   เรื่องมากฉิบหายมึงเนี้ยะ”


“อะไรอะ  ไม่รู้จักกันสักหน่อยทำไมต้องมาพูดหยาบคายใส่ผมด้วยอะ  นิสัยไม่ดี! ไม่คูลเลย”   ไอ้เด็กขาวโปดนี้ทำหน้าไม่พอใจ  เหวี่ยงได้อีก  ปากเล็กๆที่ทั้งเชิดทั้งรั้นนั้นยิ่งบึ้งเป็นตูดไปใหญ่


เห็นแล้วมันอยากแกล้งฉิบชาย


“แค่พูดไม่เพราะไม่ได้แปลว่ากูนิสัยไม่ดีสักหน่อยเว้ย  ทำแบบอื่นต่างหากถึงจะเรียกว่านิสัยไม่ดี”


“ทำแบบไหนอะ”


“ก็ทำแบบนี้ไง”    พูดไม่ทันเสร็จดีผมก็อาศัยจังหวะมันกำลังยืนงงคว้าไปที่ตัวตุ๊กตาไอรอนแมนแย่งมาถือไว้ซะเอง

“เห..เฮ้ย  เอาคืนมาน้า  นั้นมันของผมนะ”   นิสัยไม่ดีๆๆๆอยู่ๆก็มาแย่งของคนอื่นแบบนี้ได้ยังไงกัน  ไม่ชอบเลยคนแบบนี้อ่ะ


ผมชูตุ๊กตาขึ้นมือ  เห็นไอ้ขาวโปดพยายามเขย่งแย่งแล้วก็ฮาดี  คนอะไรขาสั๊นสั้น  ตัวก็นิ่ม  กลิ่นตัวก็หอม..


เฮ้ยแล้วกุจะไปชมมันทำไมวะเนี้ย


“อยากได้ก็แย่งเอาเองดิ  ฮ่าๆๆ”  ได้ยินว่ามันจะเอาไปให้ไอ้คริส  งั้นกูก็ต้องถ่วงเวลาขัดขวางด้วยไอ้นี่แหละ


ผมแกล้งชูแขนให้สูงแล้วโยนตุ๊กตาสลับไปมาระหว่างสองมือ


บางทีก็แกล้งยื่นไปด้านหลังตัว  ไอ้เด็กขาวโปดนี้ก็เอืมแขนมาจะแย่งตาม  กลายเป็นเหมือนกับมันกอดผมยังไงยังงั้น   หัวมันที่อยู่ใกล้ๆกับอกผมพอดีทำให้ได้กลิ่นหอมของเส้นผมพริ้วๆนี่เข้ามาในจมูกด้วย


แม่งเอ๊ย  คนอะไรหอมไปทั้งตัว  มึงชุบตัวด้วยน้ำยาปรับผ้านุ่มไงว่ะ


“ฮืออ  น้องดิสเหนื่อยแล้วน้า  พี่คนดีคืนตุ๊กตาให้น้องดิสเถอะนะคร้าบ”   กระโดดจะแย่งคืนจนเหนื่อยแล้วอ่า  คนบ้าอะไรตัวอย่างกับไททัน  เราจะไปแย่งคืนมายังไงไหว  ลองใช้ไม้อ่อนอ้อนเขาดูดีกว่า  มุขนี้ใช้กี่รอบก็ได้ผลทุกรอบนะ  ไม่เหนื่อยด้วย  แค่ทำหน้าอ้อนๆแค่นี้เอง


แม่งเอ๊ย  ใครสั่งใครสอนให้ทำหน้าอ้อนๆกับเสียงแบบนั้นว่ะ  ใจกระตุกเลยสัส  หน้ามันตอนอ้อนแม่ง..


โคตรโมเอะ

เกือบจะใจอ่อนคืนตุ๊กตาให้มันแล้วแต่พอนึกถึงหน้าไอ้ลูกหมาได้  ก็รีบสลัดความใจอ่อนนั้นไปทันที

“ม..ไม่ให้เว้ย  กูชอบ กูอยากได้ตัวนี้ ขอนะ”    ผมพูดแค่นั้นแล้วก็เดินออกมาเลยอยู่นานเดี๋ยวใจอ่อนอีก


“ไม่ได้น้า  ให้ผมคืนเหอะ  เดี๋ยวผมไปซื้อตัวใหม่ให้ก็ได้  หน้าโรงเรียนมีขายเยอะแยะพี่เลือกเลย”  ผมรีบวิ่งมายืนกางแขนกางขาดักหน้าพี่คนนี้ไว้  ก็ตัวนี้มันมีตัวเดียวในโลกนี้  จะให้ไปซื้อแบบอัดเสียงได้อีกก็คงไม่ทันพอดี


“ไม่  กูจะเอาแค่ตัวนี้เว้ย”  ผมพูดก่อนจะเดินอีกรอบ


โอ๊ย  คนอะไรใจแข็งจังเลย  งานนี้ต้องท่าไม้ตายแล้วล่ะ!


“เฮ้ย!!! ทำบ้าอะไรวะ”  ผมร้องเสียงหลงก็อยู่ดีๆไอ้เด็กขาวโปดที่ยืนกางแขนกางขากั้นอยู่ข้างหน้าก็ถลาวิ่งเข้ามาคุกเข่าแล้วเอาแขนกอดรัดขาผมไว้แน่น


เสร็จเราล่ะ  กอดขาได้แล้วต่อไปก็...


ผมค่อยๆเงยหน้าเชยตามองคนตัวใหญ่ที่ถูกผมรัดขาไว้อยู่  ทำตาอ้อนนิดๆ  บีบน้ำตาออกมาหน่อยๆพอให้คลอดวงตาสวยนี้  ไม่ต้องเอาถึงกับร้องไห้หรอกมันจะดูเล่นใหญ่ไปแล้วไม่สมจริงๆ

อ่า  มาแล้วๆ น้ำตาเริ่มคลอเบ้าแล้ว  ต่อไปก็พูดเสียงอ้อนๆ  รับรองต้องได้ผลแน่!


“คืนให้น้องดิสนะครับ  รุ่นพี่”


โว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย  โคตรพ่อโคตรแม่โมเอะ  ดาเมจมึงรุนแรงมาก

สาบานเลยว่าพันนางฟ้าในหนังAVยังไม่มีใครทำหน้าอ้อนได้น่ารักเท่าไอ้เด็กขาวโปดนี้ได้สักคน

ยิ่งมองก้มลงไปตรงๆ  หน้าอ้อนๆนั้นที่อยู่ห่างจากเป้ากางเกงผมไม่กี่เซน แม่งคิดดีไม่ได้เลยกู


/ “เรียนเหนื่อยไหมครับ  ให้ผมช่วยทำให้พี่ผ่อนคลายนะ”  เสียงเล็กพูดกระเซ่าก่อนที่ริมฝีปากจะงับไปตามลำแข็งยาวผ่านเนื้อผ้าหนาของกางเกงนักเรียนอย่างกระตุ้นอารมณ์

เมื่อแท่งใหญ่เริ่มแข็งได้ที่  เด็กน้อยหน้าใสก็ค่อยๆใช้ฟันไปกัดซิปกางเกง 

แล้วค่อยๆรูดมันลงไป... 

มีต่อ

ออฟไลน์ Monkey D

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-0
เชี่ยยย แม่ง  กูคิดบ้าอะไรวะเนี่ย
 
 
แล้วทำไมรู้สึกว่างูยักษ์กูมันเริ่มพอง!     
 
 
อย่าบอกนะว่ากูมีอารมณ์กับผู้ชาย   รับไม่ได้เด็ดขาด

 
อย่างกูมันต้องผู้หญิงน่ารักๆเท่านั้นแหละโว้ยยย
 
 
“ม..มึงอยากได้ก็เอาไปเลยไป!!!"  ด้วยตกใจกับความคิดบ้าๆของตัวเองทำให้ผมเผลอโยนตุ๊กตามันทิ้งไป


"แล้วก็ปล่อยดิวะ เกะกะแม่ง คนจะเดิน ปล่อย!"


อยู่ๆก็มาตะคอกใส่เรา ตกใจหมดเลย ฮึ่ยยย ก็ไม่ได้อยากกอดนักหรอก



คนอะไรขนหน้าแข้งเยอะสุดๆ


แต่ก็ช่างเถอะปล่อยก็ได้ ยังไงพี่เขาก็ปล่อยตุ๊กตาเราแล้วนิ


พอไอ้ขาวโปดนี่ปล่อยแขนออกผมก็รีบเดินออกไปทันทีใครมันจะอยากยืนอยู่นานละครับ

ก็เจ้างูยักษ์ผมมันพองคับกางเกงแล้ว!

ม่ายยย กูต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ มามีอารมณ์กับอีแค่เด็กมันมากอดขา



ไปซะได้ก็ดี เชอะ นิสัยไม่ดีแบบนี้ก็ไม่อยากอยู่ด้วยนานๆหรอก

หันไปมองตุ๊กตาที่พี่เขาโยนทิ้งก็เห็นแต่ขามันชี้ขึ้นมาจากรางระบายน้ำเล็กๆที่ไม่มีตะแกรงเหล็กปิดไว้อยู่ช่องเดียว.

ซวยอะไรขนาดเนี้ยอ่า ฮือออ หัวไอรอนแมนเปื้อนคราบสกปรกจนดำหมดเลย


เอาน้ำเช็ดคงหายละมั้ง รีบไปห้องน้ำดีกว่าขืนช้ากว่านี้พี่คริสจะกลับบ้านไปก่อน




ผมเดินออกมาไม่ไกลมากนักเห็นม้านั่งก็เลยแวะนั่งก่อน พยายามจะระงับอารมณ์ที่พุ่งพลานนี้ให้ได้

แต่ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งคิดถึงหน้าไอ้เด็กขาวโปดอะครับ

                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                         
ภาพมันติดตาจริงๆ


แต่ชายตงอย่างผมจะมาพ่ายแพ้ต่อความโมเอะแค่นี้ไม่ได้นะเว้ย

ยังไงก็ต้องกลับไปขัดขวางไอ้เด็กขาวโปดนั้นให้ได้เพื่อไอ้ปิ่นปิ๊นเพื่อนรัก!


แต่ขอไปปล่อยสักน้ำก่อนแล้วกัน กูระงับไม่ไหวแล้วจริงๆสิให้ตายเถอะ


ว่าแต่ห้องน้ำมันอยู่ส่วนไหนของโรงเรียนวะเนี้ย?



ฮึ่ยยยย เพราะไอ้พี่บ้าคนนั้นแท้ๆเลยทำตุ๊กตาเราเปื้อนหมด

ต้องเสียเวลามาเอาผ้าเช็ดหน้าชุบน้ำเช็ดออกให้หมดอีก

จะชักช้ามากก็ไม่ได้ ป่านนี้จะกลับไปหรือยังนะพี่คริสน่ะ

ห้องน้ำหลังตึกก็น่ากลัวมากๆ ไม่ปลอดภัยต่อคนน่ารักแบบเราเลยจริงๆ

เพราะเป็นห้องน้ำเก่าแก่ที่มีทางออกทางเดียว

ก๊อกน้ำก็อยู่ภายในตัวห้องน้ำรวมนี้ไม่ได้แยกไปไว้ข้างนอกเหมือนห้องน้ำสมัยนี้

แถมห่างไกลผู้คนมากๆ น่ากลัวจริงๆ

รีบๆเช็ดดีกว่า


เรียบร้อย  สะอาดหมดจด  อิอิ

ดมกลิ่นสักหน่อยสิ  ฟุดฟิดๆ โอเคไม่มีกลิ่นสกปรกติดมา

รีบออกไปหาพี่คริสดีกว่า


"เฮ้ย แม่งเสี่ยนบุหรี่ว่ะ แวะดูดในห้องน้ำก่อนได้ป่ะวะ"

"เอาดิมึง ห้องน้ำตรงนี้อยู่ไกลหูไกลตาคนดี คงไม่มีใครมาขัดจังหวะหรอก"

"ไปๆรีบเข้าไปกันเว้ย"


เสียงกลุ่มวัยรุ่น2-3คนดังเข้ามาใกล้ๆ

หว๊าา ทำไมต้องมาตอนนี้ด้วยนะ  คนจะออกไปอยู่แล้วเชียว

ฮือออ ถ้าวิ่งออกไปตอนนี้คงไม่ทันแน่  เสียงใกล้เข้ามาแล้วด้วย

หลบอยู่ในห้องน้ำรอจนกว่าพวกนั้นจะไปก็แล้วกัน


คนตัวเล็กรีบเข้าไปอยู่ในห้องน้ำแล้วล็อคกลอนทันที

พยายามทำตัวให้เงียบที่สุด


"มึงเห็นไอ้พวกที่เต้นคัฟเวอร์ปะวะ โคตรน่ารักอะ"

"เออจริงมึง น่ารักมากโดยเฉพาะไอ้คนตรงกลางเด่นๆอะ ขาวฉิบชายหน้าตาโคตรน่ารัก เห็นแล้วอยากได้ว่ะ"


พูดถึงเรานิน่า  แต่แสดงว่าคนพวกนี้ต้องไม่ใช่เด็กโรงเรียนเราแน่ๆ

ก็แหงแระ ทั้งโรงเรียนไม่มีใครไม่รู้จักดิสโก้คนน่ารักคนนี้หรอก โฮะๆๆ

มันใช่เวลามาหลงตัวเองไหมเนี่ย. ฮึ่ยยย  เมื่อไหร่จะรีบออกไปกันเหม็นทั้งบุหรี่ทั้งห้องน้ำเลย


"เห็นเด็กโรงเรียนนี้เรียกว่าดิสโก้ป่ะวะ ฟังแค่ชื่อก็รู้ว่าแซ่ยล่ะว่ะ555"

"เออ คิดเหมือนกูเลย ดูท่าทางน่าจะไม่ใช่ย่อยเหมือนกัน"

"นั่นดิมึง ธรรมดายังน่ารักขนาดนี้ ถ้าแก้ผ้านอนบนเตียงจะน่ารักขนาดไหน"

"5555"

ไอ้พวกบ้านั่นนินทาเราแบบนี้ได้ยังไงกัน ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนซะหน่อย รู้หรอว่าตัวจริงเขาเป็นยังไง

ได้ใช่คนใจง่ายสักหน่อย ไม่เคยมีแฟนเลยด้วยซ้ำ  ทั้งที่อยากมีเหมือนเพื่อนๆจะตาย

เพราะพี่ชายหวงเขามาก คอยรับส่งตลอด ใครจะจีบก็ไล่ตะเพิดไปหมด

ถึงได้อยู่เป็นโสดคนเดียวในกลุ่มแบบนี้ไง เสียดายหน้าตาดีๆแบบนี้ชะมัด

เฮ้อออ


"ฮัดชิ้วว" เพราะกลิ่นบุหรี่ที่พุ่งเข้ามาไม่ทันตั้งตัว คนตัวเล็กเลยสำลักควันออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่


"เฮ้ย! ใครอยู่ในนั้นวะ" เสียงเหี้ยมตะโกนถามอย่างน่ากลัว

ฮืออออ ไม่น่าเผลอจามออกไปเลย

"ออกมาเดี๋ยวนี้นะมึง ไม่งั้นกูจะพังประตูไปรุมกระทืบแน่"

อะไรกันแค่มาอยู่ในห้องน้ำตอนพวกนี้สูบบุหรี่ถึงกับต้องรุมกระทืบเลยหรอ

ไม่เอานะ ไม่อยากหน้าช้ำอะ  แต่ก็ไม่เปิดเด็ดขาดเพราะพี่ชายสอนว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นห้ามเปิดประตู

"จะไม่ออกมาใช่ไหมมึง เฮ้ย พังประตูแม่งเลย!"

ปัง

ตายๆๆๆ ตายแน่ๆเลยเรา ฮือออ คุณไอร่อนแมนมาช่วยผมหน่อยยยย


"ประตูพังยากจังวะ  แม่งกูปวดขาหมดแล้วเนี่ย"

ปวดขาก็หยุดถีบประตูสิ  ไม่ฉลาดเลยอะ


เสียงพวกนั้นเงียบหายไปแล้ว  หรือจะออกกันไปแล้วนะ

เปิดประตูดีไหม  แต่ถ้ามันเป็นกับดักล่ะ

โทรให้เพื่อนมารับดีกว่า


ร่างเล็กรีบล้วงโทรศัพท์ออกมาก่อนจะเลื่อนหาเบอร์เพื่อนๆ

"จ๊ะเอ๋!  คนสวย มาหลบพวกพี่อยู่ในนี้เองหรอจ๊ะ"

"เหวออ" ด้วยความตกใจที่อยู่ก็มีคนหน้าตาน่ากลัวโผล่ขึ้นมาจากห้องน้ำด้านข้างๆ

ทำให้ดิสโก้ตกใจทำมือถือลงร่วงลงไปในอ่างน้ำที่ไว้ใช้ตักราดโถส้วมแบบเก่า


แย่แล้วไง!


"เฮ้ย พวกมึงพังประตูให้ได้ ว่าที่เมียกูรออยู่!"


ฮืออออออ  ใครก็ได้ช่วยผมทีเถอะ!



----------
ตง; หลงตัวเองจริงจริ๊ง

ดิสโก้; ไม่ได้หลงสักหน่อย แค่พูดตามความจริงเองนะ

ตง; เหอะ!

ดิสโก้; หรือไม่จริง *ทำตาวิ้งๆใส่*

ตง; อ..เออ..ก็..พอดูได้

 :sad4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4102
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
งานเข้าแล้วไงดิสโก้

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ Laliat

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 253
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
ขาวโปดขี้อวยตัวเอง5555

ออฟไลน์ Monkey D

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-0
  มาเสริฟแต่เช้าาา ตื่นกันยังเอ่ย

ตอนที่ 17  ตง-ดิสโก้ 2

เดินถ่างจนเมื่อยไปหมดก็ยังไม่เจอห้องน้ำสักที  แม่งปวดจนงูมันใหญ่คับเป้าไปหมดแล้วเนี่ย  พ่อให้มาเยอะก็งี้แหละครับตุงจนน่าอายเชียวกู  แต่ก็ภูมิใจ ฮ่าๆๆๆ   

ย้อนกลับไปที่ตึกเรียนที่ไอ้เด็กขาวโปดนั้นมันอยู่ดีกว่าว่ะ  เป็นตึกเรียนยังไงก็ต้องมีห้องน้ำอยู่แน่ๆ

พอเริ่มฉลาดปุ้บผมก็รีบก้าวเท้ากลับไปทางเดิม  พอถึงตึกเรียนก็ตามคาดไอ้เด็กขาวโปดแม่งไม่ได้อยู่แถวนี้แล้ว  แต่ทำไมประตูห้องชมรมมันยังเปิดอยู่วะ?

เดินไปสอดส่องดูในห้องนั้นก็ไม่เห็นสิ่งมีชีวิตใดอยู่ภายในห้องนี้เลยสักตัว  หรือรีบไปหาไอ้คริสจนลืมปิด  สะเพร่าซะจริงๆไอ้เด็กนี้  ของก็เต็มห้องแน่ๆถ้าหายไปกูจะขำให้ หึหึ

เออ แล้วกูจะมาสนใจทำไมว่ะ  ไปหาห้องน้ำดีกว่า  ขอโทษนะเว้ยไอ้ปิ๊นที่กูเห็นการปลอบลูกชายให้หยุดร้องหายสำคัญกว่าเพื่อนรักอย่างมึง

อ่ะ  นั่นไงป้ายลูกศรชี้ไปห้องน้ำ

เดินมาตามทางก็เห็นห้องน้ำเก๊าเก่าหลบอยู่หลังตึกครับ  ดูไม่ค่อยสะอาดเท่าไหร่  แต่ก็เข้าๆไปก่อนเหอะเนอะ  สไลด์ๆแป๊บเดียวก็เสร็จ

“ฮืออออ ปล่อยนะ ปล่อยยย โอ๊ยยย”

เพี๊ยะ!

“หุบปาก! แหกปากไปก็ไม่มีใครได้ยินหรอก  เก็บเสียงไว้ครางให้พวกพี่ฟังดีกว่านะจ๊ะเมียจ๋า”

“ฮ่าๆๆๆ”

“ฮืออออ ไม่เอา”

ใครมันมาเล่นบทรักตบจูบกันที่นี้ว่ะ  เชี่ยแม่ง  ไปที่อื่นก็ได้วะ  เรื่องผัวๆเมียๆแบบนี้ผมไม่อยากยุ่งด้วยหรอกครับ  เบื่อคนมีคู่!

“ใครก็ได้ช่วยน้องดิสด้วยย  อื้อ”

หยุดกึกเลยกู  เสียงไอ้เด็กขาวโปดนี่หว่า  ไหงมาส่งเสียงร้องอยู่ในนั้นได้ละว่ะ

“ไอ้เหี้ยเจอุดปากมันไว้  ไอ้เหี้ยเทนจับแขนมันขึงแน่นๆดิวะ สัส”

“ก็ไอ้เด็กนี้มันดิ้นแรงนี่หว่า  มึงเปลี่ยนมาจับเองไหมล่ะสัส”

เหี้ยแม่งไอ้พวกหมาหมู่  พวกมึงนี้เรียกเหี้ยยังสงสารเหี้ย ระยำจริงทำร้ายได้แม้กระทั่งเด็กคนเดียว  ถึงมันจะเป็นมารหัวใจเพื่อนรักแต่ผมก็ทนเห็นมันโดนแบบนี้ไม่ได้เด็ดขาด!

แต่พวกมันมีเยอะกว่าตั้งสามคน  กูจะทำยังไงดีกว่า  เกิดมาก็เอาแต่เรียนกับเรียนพิเศษ เข้าไปสู้ตอนนี้กูโดนยำเละแน่  จะให้วิ่งไปตามคนอื่นก็ไม่ทันแน่  ทำไงดีว่ะไอ้ตง  ใช้ความฉลาดของมึงคิดให้ออกสิวะ!

“อื้อออ อย่าดึงเสื้อนะ!”

ไอ้สัส! กูทนไม่ไหวแล้วเว้ย

สองเท้าจ้ำอ้าวไปยังประตูทางเข้าห้องน้ำยืนจังก้าอย่างไม่กลัวใคร

“หยุดเดี๋ยวนี้นะพวกมึง ไอ้พวกระยำ สัตว์เดรัจฉาน!”   โห เท่สัสๆ อย่างกับแบทแมน ด้วยพลังแห่งจันทราฉันจะลงทัณฑ์แกเองงงง   ถุย! นั่นมันเซเลอร์มูนไหมล่ะ

“เฮ้ย  มึงเป็นใครวะ  อย่ามาเสือกคนเขาจะเอากัน”  ไอ้หน้าปลาไหลที่กำลังพยายามเอามืออุดปากไอ้เด็กปาดโปดอีกครั้ง

สภาพมันตอนนี้แม่งทำผมหัวเสียสุด  หน้าช้ำเป็นรอยแดง มุมปากมีเลือดไหล ตาบวมเพราะร้องไห้อย่างหนัก  สีหน้ามันหวาดกลัวมาก สองแขนมันถูกขึงไว้โดยไอ้หน้าส้นตีนเป็นตาปลา  เสื้อเลิกขึ้นมาเผยอกขาวๆจนเสื้อมันติดอยู่ตรงรักแร้พอดี  ส่วนขาสองข้างก็ถ่างออกเพราะไอ้หน้าเห็บหมาแทรกตัวไปอยู่ตรงกับ

ไอ้พวกสกปรก! มึงมากที่ทำให้ไอ้เด็กขาวโปดของกูแปดเปื้อน!

“กูเป็น..เป็นรุ่นพี่มัน!”  เซนไปอ่ะ รู้จักป่าว  ถ้าไม่รู้จักไปหาการ์ตูนญี่ปุ่นมาอ่านซะเขากำลังนิยมกันมานาน

“ห๊ะ รุ่นพี่?  ฮ่าๆๆๆ ไว้เป็นผัวมันก่อนค่อยมาเสือกนะเว้ย  ไอ้เจไปจัดการมันดิ”

“สบายมากมึง มึงโดนกุอัดเละแน่ไอ้หน้าอ่อน!”  ไอ้หน้าปลาไหลปล่อยมือที่อุดปากไอ้เด็กขาดโปด ก่อนจะทำเป็นสะบัดมือยักไหล่ไปมาอย่างเตรียมพร้อมจะมาต่อยผมเต็มที่

“ฮืออออ รุ่นพี่อย่าหนีนะ  อัดมันให้เละเลย ฮืออ”  ไอ้เด็กขาวโปดแหกร้องสั่งผมทันที  ห่าแม่ง ปกติมันต้องพูดว่า ‘อย่าห่วงผม รีบหนีไปเถอะ’ ไม่ใช่หรอว่ะ

“แน่จริงมึงเข้ามาเลยยย”  ผมนี้ก็ปากเก่งจริง  ต่อยไม่เป็นเสือกไปท้าทายมันอีก  สะกิดเท้าหาเสี้ยนที่แท้ทรู

“ท้ากูหรอสัส  กูจะจัดให้หนักเลย” ไอ้หน้าปลาไหลเดินอาดๆเข้ามาอย่างหาวเป้ง

ผมก็ไม่รอช้าที่จะใช้กลยุทรเด็ด ท่าไม้ตายที่คิดค้นกันมาได้...เมื่อกี้

มีต่อ

ออฟไลน์ Monkey D

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-0
ผ่าง   ไลฟ์สดกันไปเลยครับพี่น้องคร้าบบ

“มึงเข้ามาใกล้ๆดิจะได้เห็นหน้ามึงชัดๆ  กูไลฟ์สดอยู่นะเว้ย  คนกำลังเข้ามาดูเป็นร้อยคนแล้วด้วย  ผู้ติดตามกูเยอะนะเว้ยบอกไว้ก่อน  มาดิเข้ามาใกล้ๆ เข้ามาเลย”  ว่ะฮะฮ่า แค่ยกโทรศัพท์แล้วใช้วาจาให้เป็นประโยชน์  ไอ้หน้าปลาไหลก็หยุดกึกอยู่กับที่แล้วครับ  เพราะในห้องน้ำมันมืดๆน่ะครับ  ตอนนี้ไอ้พวกเหี้ยสามตัวมองหน้าเลิ่กลัก

“ยังไม่รีบปล่อยเด็กนั่นอีก  กูจะสั่งให้คนที่ฟอลโล่กูแชร์ให้ถึงเฟสอาจารย์โรงเรียนมึงเลยสัส”

“อย่านะมึง ไอ้สัส  เฮ้ยพวกมึงเอาไงดีวะ”  ไอ้หน้าปลาไหลรีบยกเสื้อมาปิดหน้าไปครึ่งล่างก่อนจะหันไปถามความเห็นไอ้สองตัวนั่น

แต่ผมก็ไม่ปล่อยให้พวกมันได้คิดหรอก...เดี๋ยวมันรู้ทัน

“ตอนนี้กูพิมพ์ว่าให้แท็กไปถึงชื่อโรงเรียนพวกมึงแล้ว แต่กูจะให้โอกาสพวกมึงได้เลือกนะไอ้เจตริน รหัส 5709xxxx นับหนึ่งถึงสามถ้ายังไม่รีบไสหัวไปกูกดส่งข้อความนี้ไปในไลฟ์แน่!”

“เชี่ยแม่ง”  ไอ้หน้าปลาไหลรีบเอามือมากุมชื่อและรหัสที่ปักอยู่บนอกมันทันที  อย่างกลัวความผิด  โรงเรียนมันก็ดังใช่เล่นถ้าโดนจับด้วยเรื่องแบบนี้มันโดนไล่ออกแน่

“หนึ่ง!”

“สอง!”

“เออ กูไปแล้ว”  ไอ้เจตรินรีบวิ่งออกไปคนแรกเอามือปิดหน้าปิดตาออกไปด้วย  ไอ้สองคนที่เหลือเห็นท่าไม่ดีแน่จึงรีบวิ่งออกไปอีกคน  ผมเองก็ถอยออกจากหน้าประตูหลบพวกมันให้ห่างพอสมควร  มันวิ่งออกไปจนพ้นสายตา   ผมก็รีบวิ่งเข้าไปหาไอ้เด็กขาวโปดที่ร้องไห้หูตาบวมตัวสั่นเป็นลูกนกจนน่าสงสาร

ผมไม่พูดพร่ำถามอะไรปัญญาอ่อน อย่างเป็นไงบ้าง เจ็บตรงไหนหรือเปล่า  อะไรเทือกๆนั้นหรอกครับ  ก็เห็นๆอยู่ว่าสภาพมันเป็นยังไง  อีกอย่างเรื่องนี้ผมก็ไม่ใช่พระเอกด้วย  สิ่งที่คนธรรมดาอย่างผมทำคืออุ้มมันขึ้นมาให้เร็วที่สุดแล้วรีบพาออกไปจากตรงนี้  เพราะไม่รู้ว่าไอ้พวกนั้นจะไปพาพวกย้อนกลับมาทำร้ายอีกหรือเปล่า   อีกอย่างที่บอกว่าไลฟ์สดมันไปผมก็โกหกด้วยผมแค่อัดวิดีโอไว้เฉยๆ  เพราะผมไม่ได้เติมเงินค่าเนตโทรศัพท์  มีแค่เนตที่บ้านเฉยๆ

“ตุ๊ก..ฮึก.ตา”  คนตัวขาวไอ้อ้อมขาวกระตุกเสื้อผมเบาแล้วชี้ไปยังไอ้ตุ๊กตาไอร่อนแมนที่นอนกองอยู่กับพื้น

สุดท้ายฮีโร่มันก็แค่เรื่องสมมติในหนัง  ชีวิตจริงไม่มีฮีโร่ตัวไหนบินออกมาช่วยชีวิตใครหรอกครับ  นอกจากตัวเราจะช่วยเหลือตัวเอง

เดินไปยังตัวตุ๊กตาก่อนจะย่อตัวให้ต่ำไอ้เด็กตัวขาวก็เอื้อมมือไปหยิบตัวไอร่อนแมนมากอดไว้แนบอก 

“ท..โทร..ฮึก..ศัพท์ด้วย”  มันบอกอีกแล้วชี้ไปในห้องน้ำห้องที่สาม  แม่งของเยอะจริงจริ๊งผมเลยวางมันลงก่อนจะเข้าไปดูก็เห็นว่านอนจมน้ำตายอยู่ในอ่างนี้เอง แล้วก็รีบๆหยิบมาครับก่อนจะออกมาอุ้มมันอีกรอบ  ให้เดินเองสภาพนี้ไม่ไหวแน่

ผมก็รีบอุ้มพามันไปยังห้องชมรมครับ  วางมันไว้ที่พื้นให้นั่งพิงผนังก่อนจะเดินไปที่ปิดประตูไม่ลืมล็อคประตูแล้วดึงผ้าม่านมาปิดบังสายตาจากคนข้างนอกด้วย

“ฮึก  ฮือออๆ” ไอ้เด็กขาวโปดก็นั่งกอดเข่าร้องไห้ของมันไป  เรื่องนี้คงสะเทือนจิตใจมันจริงๆ  ผมเองก็ได้แต่มองไม่รู้จะปลอบใจมันยังไง ไม่รู้ควรจะพูดอย่างไงให้มันรู้สึกดีขึ้น  เพราะถ้าเป็นผมเจอเหตุการณ์แบบนี้อารมณ์คงดำดิ่งมากแน่ๆ

เมื่อไม่รู้จะช่วยยังไง  ผมจึงเลือกทำในสิ่งที่ผมทำได้ครับ  ล้วงไปหยิบผ้าเช็ดหน้าที่กระเป๋าบนอกเสื้อส่งให้มันอย่างมีน้ำใจ  ไอ้เด็กตัวขาวเงยหน้ามามองทั้งตาช้ำๆแบบนั้นก่อนจะรับไปเช็ดน้ำตา  ผมเองก็ได้แต่ยืนมองแล้วเดินวนไปวนมาอย่างไม่รู้จะทำยังไงต่อ  โชคดีที่หันไปเห็นกล่องปฐมพยาบาลในตู้กระจกแล้วเดินไปหยิบออกมาครับ

“ไหนเงยหน้าดิ  มาทำแผลก่อน”  ผมพูดเสียงห้วน  ก็เมื่อกี้ตอนเจอยังกวนตีนกันอยู่เลยจะให้พูดเสียงอ่อนโยนก็รู้สึกแปลกๆไปหน่อย

มันเองก็ว่าง่ายครับเงยหน้าขึ้นตามคำขอ  พอเห็นหน้าแดงบวมเป็นรอบฝ่ามือไปด้านหนึ่งกับมุมปากที่ฉีกจนเลือดไหลผมก็รู้สึกโคตรหงุดหงิด  เมื่อกี้ผมน่าจะไลฟ์สดประจานมันไปจริงๆซะก็ดี  ถ้าไม่ติดมาไม่มีเนตนะมึง ฮึ่ย  ไม่เกินครึ่งชั่วโมงก่อนหน้ามันยังสดใสยิ้มแป้น หรือหน้ายู่ตอนทะเลาะกับผมอยู่เลย ไม่รู้ว่าจิตใจไอ้พวกนั่นต้องต่ำตมแค่ไหนถึงกล้าทำร้ายเด็กตัวเล็กๆคนเดียวแบบนี้ได้

ผมมองมันอย่างหงุดหงิดก่อนจะใช้สำลีเช็ดเลือดออกแล้วใส่ยาแดงไปป้ายใกล้ขอบปากเป็นอันเรียบร้อย  แต่พวกรอยแดงรอยบวมนี่ต้องเอาน้ำแข็งมาประคบซึ่งตอนนี้มันไม่มีก็ต้องปล่อยไปก่อนครับ

หลังจากนั่นพวกเราก็นั่งเงียบครับ  อันที่จริงผมเงียบมากกว่า  ไอ้เด็กตัวขาวก็นั่งร้องไห้ไปแต่ก็ดูมันพยายามที่จะหยุดร้องไห้อยู่นะครับ   รอจนทนไม่ไหวผมก็เลยกระเยิบไปนั่งใกล้กับมันแล้วถามว่า

“อยากจะระบายอะไรให้กูฟังป่าว  บอกได้นะ”    เพียงแค่คำพูดธรรมดาๆนี้แหละครับ  ไอ้เด็กตัวขาวที่พยายามจะหยุดร้องไห้ก็หันมามองผมพร้อมเบะปากก่อนจะร้องไห้โฮอย่างเขื่อนแตก  มันทำท่าจะพุ่งเข้ามากอดอย่างต้องการหลักยึดเหนี่ยวจิตใจ  แต่คงนึกได้ว่าผมกับมันไม่ได้สนิทอะไรกันเลยถอยกลับไป...

เลยต้องเป็นผมเองที่ดึงมันมานั่งบนตักและกอดปลอบ

“ฮึก  ฮืออออออ ผมกลัว ฮือออ ผมกลัว ฮึกมากๆเลยอะพี่  พวกมันน่ากลัวมากๆ  ฮือออ ผมร้องไห้ขอร้องมันว่าอย่าทำ ฮึก มันก็ไม่สนใจเลย ฮือออ  พวกมันใจร้ายมาก ฮืออๆๆ”  เด็กในอ้อมกอดปล่อยโฮระบายความรู้สึกออกมาอย่างไม่นึกอายอะไรทั้งนั้นด้วยความกลัวที่มีมากกว่า  ผมเองก็ได้แต่กอดและลูบหลังมันอย่างปลอบขวัญ  และปล่อยให้มันพูดระบายความรู้สึกออกมาเอง

“กูไปช่วยมึงออกมาแล้วไง  ปลอดภัยแล้วนะไม่ต้องกลัวแล้ว”  ผมพูดบอกมันอย่างอ่อนโยน  นอกจากไอ้ปิ๊นผมก็ไม่เคยต้องมาปลอบใครแบบนี้เลยครับ ไอ้ปิ๊นเองแค่ตบบ่ามันก็หายร้องไห้แล้ว  ไม่เคยถึงขั้นต้องมากอดปลอบสักที

“ฮืออออ แต่ผมยังกลัวอยู่เลย  มันติดอยู่ในหัวไม่หายไปไหนเลย ฮือออ”  เด็กน้อยพูดออกมาอย่างน่าสงสาร  ผมโคตรเห็นใจมันจริงๆ  ไอ้พวกเหี้ยนั่นมันจะรู้บ้างไหมว่าการกระทำที่ไม่ยั้งคิดของพวกมันจะสร้างบาดแผลลึกให้กับเด็กนี้อย่างไม่มีวันหายขาด  ฝันร้ายที่ไม่มีวันลืม...

“ถ้ายังกลัวอยู่ก็กอดกูไว้แน่นๆ  มึงจะได้รู้ว่ายังมีคนอยู่กับมึงเสมอไม่ว่ามึงจะเจอเรื่องร้ายๆอะไรมา” 

“ฮึก ฮือออออออ”   ไอ้เด็กตัวขาวร้องไห้หนักเข้าไปใหญ่ .... แล้วก็กอดผมไว้แน่นยิ่งกว่าเดิม


บางทีความรู้สึกผูกพันธ์มันก็อาจเริ่มจากการเห็นใจกันก็ได้นะ

 :katai5: :katai5: :katai5:


ตอนต่อไป

"ให้ผมไปนอนกับรุ่นพี่นะ:oo1: :haun4: :z1:

ขอบคุณคนน่ารักกกที่คอยเม้นเป็นกำลังใจ :man1:

ออฟไลน์ Monkey D

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-0

ออฟไลน์ Laliat

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 253
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0

ออฟไลน์ Monkey D

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-0
ตอนที่  18  ตง – ดิสโก้ 3
 

 
นั่งกอดปลอบจนขาชาไปหมด  ไอ้เด็กตัวขาวก็หยุดร้องไห้ได้แล้ว  แต่สภาพหน้าโคตรแย่  ตาบวมปริบเลยทีเดียว   แก้มมันก็ช้ำจากสีแดงเริ่มจะออกม่วงๆแล้ว   เฮ้อ
 
“ให้กูไปส่งบ้านไหม”
 
“ไม่เอา  ไม่กลับบ้านนะ”  มันรีบส่ายหัวใหญ่   ทำท่าจะร้องไห้อีกระลอก
 
“ทำไมวะ  หรือกลัวพ่อแม่จะเห็นสภาพนี้แล้วตกใจ”
 
“อือ”  กลัวพี่ชายจะมาเห็นเราในสภาพนี้มากกว่า  ไม่อยากให้พี่ชายโมโหเลย...เพราะมันน่ากลัว
 
“แต่เรื่องนี้มันร้ายแรงนะเว้ย  ไปแจ้งความไหม ไปตรวจร่างกายไว้เป็นหลักฐานกัน”
 
“ไม่เอาอ่ะ..ผ..ผม..อาย..อายจริงๆนะ”
 
“เฮ้ออออ  แล้วจะเอายังไงต่อ  ไปอยู่บ้านเพื่อนหรอ  จำเบอร์ได้ไหมล่ะเอาโทรศัพท์กูไปโทรเรียกเพื่อนมารับก็ได้”  ช่วงเวลาแบบนี้ถ้าไม่อยากอยู่กับครอบครัวก็คงอยากอยู่กับเพื่อนไว้ให้ระบายความรู้สึกล่ะมั้ง
 
“ไม่ได้หรอก  ให้เพื่อนมาเห็นผมสภาพนี้ไม่ได้”   
 
“อ้าว  แล้วจะเอาไงว่ะ  นั่นก็ไม่เอา นี่ก็ไม่ได้”
 
“ก็ถ้าใครมาเห็นผมสภาพนี้คงไม่พ้นต้องถูกนินทาบอกต่อกันไปแน่ๆว่าผมถูกข่มขืนอ่ะ ฮืออ มันน่าอายนะ ฮึก”
 
“เฮ้ย  นี้มึงโดนมันข่มมืนไปแล้วหรอ!”
 
“ยัง  ก็พี่ก็เห็นนิว่าผมยังไม่โดน  แต่คนอื่นที่ไม่อยู่ในเหตึการณ์ใครมันจะมาเชื่อกันล่ะ ฮือออ ผมไม่อยากถูกคนอื่นมองด้วยสายตาแปลกๆนะ ฮึกๆ”
 
“เออ  มันก็จริง...”   น่ากลัวกว่าการถูกทำร้ายทางร่างกายก็คือถูกทำร้ายโดยการนินทาในเรื่องที่มันไม่จริงนี้แหละ
 
“แล้วคิดได้หรือยังล่ะ  ว่าจะเอาไงต่อ”  ผมถามมันไป  ในหัวสมองก็คอยคิดไปด้วยว่าจะช่วยมันยังไงดี  หรือจะให้มันไปเช่าโรงแรมอยู่สักคืนสองคืนจนกว่าอาการจะดีขึ้นว่ะ
 
“ให้ผมไปนอนกับรุ่นพี่นะ”
 
“เออ กูก็ว่างั้นแหละอยู่บ้านกูไปก่อน..เฮ้ย! มึงจะบ้าหรอวะ  มึงจะไปนอนบ้านกูทำแป๊ะอะไร”   
 
“อ้าว  ไม่ได้หรอพี่  ก็ผมไม่รู้จะไปพึ่งใครแล้วนิ”
 
“ไปนอนโรงแรมไงมึง  ดูท่ามึงเองก็น่าจะมีตังค์จ่ายอยู่นะ”   
 
“ไม่เอาอะผมกลัว  ผมไม่อยากอยู่คนเดียวนะพี่  เกิดมีใครมาทำร้ายผมแบบนั้นอีกล่ะ  ไม่เอาด้วยหรอก ฮือออ”  ไอ้เด็กตัวขาวส่ายหน้าเป็นพัดลมฮิตาชิ  อย่างไม่ยอม
 
“โว๊ยยยย”   ผมตะโกนแก้เซ็ง  สงสารมันก็สงสารนะ  แต่ตอนนี้ชักสงสารตัวเอง  ปวดหัวกับมันฉิบหาย
 
ครืดดดด  ครืดดดดด
 
-ไอ้ลูกหมา-
 
“โหล  ว่าไงวะมึง”
 
(มึงอยู่ไหนวะไอ้ตง  พวกกูจะกลับกันแล้วนะ  ไอ้คริสจะขับรถไปส่ง มึงจะกลับด้วยไหมเนี้ย)
 
ผมเหลือบตาไปมองไอ้เด็กตัวขาวนิดนึงอย่างชั่งใจ   
 
“พี่ให้ผมไปด้วยเหอะน้าผมไม่มีที่ไปจริงๆ  ฮือออ”  ไม่พูดอย่างเดียวเขย่าแขนกูสั่นเป็นเจ้าเข้าทรงเลย  ห่านิ  เป็นเด็กเชคเหล้ามาก่อนไหงวะ
 
(เสียงใครวะมึง)  ไอ้ลูกหมานี่ก็หมาสมชื่อเรียกจริงจริ๊ง  หูดีตลอดอ่ะ
 
“ไอ้เด็กนั่นอะแหละมึง  มีเรื่องนิดหน่อย”
 
(เฮ้ย  กูบอกแล้วไงว่าอย่าทำอะไร  นี่มึงเล่นซะเด็กร้องไห้เลยหรอวะ  ทำไมมึงชั่วแบนี้ ห๊ะ!)
 
“กูไม่ได้ทำเว้ย  กูเป็นคนมาช่วยมันต่างหาก มันโดนรุมทำร้ายอะ”  ไอ้เด็กตัวขาวก็ยังไม่เลิกทำหน้าทำตาอ้อนวอนเป็นเด็กขายพวงมาลัยตามสี่แยกเลยวุ้ย   
 
(เฮ้ย จริงดิ แล้วนี่อยู่ไหนกัน กูจะไปหาเดี๋ยวนี้แหละ)
 
“อยู่ตึกสีชมพูดอะมึง  ห้องชมรมเต้นของไอ้เด็กตัวขาวมัน”
 
(เออๆ จะไปหาเดี๋ยวนี้แหละ)
 
“โอเค”  วางสายจากไอ้ลูกหมาเสร็จก็ยังต้องหันมาเจอกับแววตาอ้อนวอนของไอ้เด็กตัวขาวอีกเช่นเคย  มึงเมื่อยเบ้าตาบ้างไหมเนี่ย  กูอยากจะรู้ฉิบหาย
 
“หยุดทำหน้าหมาถูกเจ้าของเอาไปปล่อยวัดได้แล้วมึง  ให้ไปก็ได้ว่ะ  แต่มึงต้องนอนพื้นนะเว้ย ห้องกูมันเตี่ยงเดี่ยว”   แมนไหมล่ะครับผมให้คนเจ็บนอนพื้น  สุภาพบุรุษซะไม่มี
 
แต่ถึงกระนั้นไอ้เด็กตัวขาวนี้ก็ยิ้มออกมาได้นิดๆแล้วพยักหน้าอย่างไม่โวยวาย  พูดง่ายๆแบบนี้ค่อยน่ารักขึ้นหน่อย

 
“นั่งรอตรงนี้แล้วกัน  เดี๋ยวกูเก็บกระเป๋าให้  อันไหนกระเป๋ามึงอ่ะ  จะเอาอะไรไปบ้าง”
 
แล้วจากนั้นผมก็จัดการหยิบทุกอย่างที่มันจะเอาไปยัดใส่ในกระเป๋าเป้สีชมพูที่ก็แน่นมากอยู่แล้วจนครบทุกอย่างไอ้ปิ๊นก็มาพอดี
 
พอเห็นสภาพไอ้เด็กตัวขาวก็หน้าเสียกันไปตามๆกันทั้งไอ้คริสแล้วก็ไอ้ปิ๊น  ยิ่งไอ้ปิ๊นนี่หน้ามันเหมือนจะร้องไห้ไปอีกคน
 
“ทำไมต้องทำกันขนาดนี้ว่ะ  เด็กตัวเล็กๆแม่งทำลงได้ไง”  ไอ้ปิ๊นพูดเสียงสั่น ตาแดงๆ  มันคงสงสารไอ้เด็กนี่มาก  แต่มึงลืมไปป่าวมึงก็ตัวเล็กใกล้เคียงกันละวะ
 
ไอ้ดิสโก้เองก็เอาแต่ก้มหน้า  ไม่รู้ว่าเพราะอายสภาพตัวเองหรืออายไอ้คริสกันแน่  ก็นะคนที่ตัวเองชอบมากกลับมาเห็นกันในสภาพที่ไม่น่าดูนัก  ย่อมต้องรู้สึกอายเป็นธรรมดา
 
“แล้วนี่ไปโดนรุมทำร้ายเรื่องอะไรกันวะ  เหี้ยตัวไหนมันทำ น้องบอกพี่มาจะไปกระทืบมันให้!”  ไอ้คริสถามหน้าเครียด รุ่นน้องโรงเรียนตัวเองโดนแบบนี้ก็ต้องโกรธเป็นธรรมดา
 
“ไถ่ตังค์น่ะมึง  กูสั่งสอนไปแล้ว  พวกมันไม่กล้าแล้วล่ะ”   กะจะทำเท่สักหน่อยแต่ไอ้ปิ๊นนี่หันมามองขวับอย่างสงสัยว่าไอ้เด็กบ้าเรียนอย่างผมนี่นะจะไปสั่งสอนใครเขาได้  มันทำท่าจะอ้าปากถาม แต่ผมก็รีบส่ายหน้านิดๆเป็นเชิงปราม  อย่างกลัวว่าความลับเรื่องไอ้ดิสโก้จะแตก...
 
เปล่าหรอกกูกลัวหน้าแตกต่างหาก  ตึ่งโป๊ะ!
 
จากนั้นพวกเราก็พากันย้ายพลครับ  ไอ้คริสก็ออกไปสตาร์ทรถ  ไอ้ปิ๊นก็ไปแบกกระเป๋าของผมกับไอ้ดิสโก้  ส่วนผมเองก็เดินมาจะอุ้มมันอีกรอบ
 
“เอา  ใช้ซะ  ก้มหน้าจนเส้นเอ็นยึดแล้วมั้งนะ”  ผมพูดแล้วยื่นแมสปิดปากที่เจอในกล่องปฐมพยาบาลนั่นแหละครับเหลืออยู่ชิ้นเดียวพอดี   
 
ไอ้ดิสโก้มองผมด้วยสายตาซึ้งใจจนน่าขนลุก   
 
“ชักช้าว่ะ  กูใส่ให้เลยล่ะกัน”  แล้วผมก็จับแมสยัดใส่หูมันทั้งสองข้าง ก่อนจะอุ้มตัวมันไปใส่ในรถเบาะหลัง
 


แล้วพวกเราก็พามันไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลครับ เพื่อจะมีส่วนไหนที่พกช้ำหรือหักแล้วเรามองไม่เห็นกัน  ตอนแรกมันดื้อจะไม่ยอมไป  ผมเลยขู่มันว่าถ้าไม่ไปโรงพยาบาลก็ไม่ต้องไปนอนบ้านผม  ไอ้เด็กตัวขาวถึงได้ยอมเสียอย่างไม่ได้


พอตรวจอะไรๆเรียบร้อยไม่มีอาการน่าเป็นห่วงไอ้คริสก็ขับรถพามาส่งถึงหน้าบ้านผม ก็แถวบ้านไอ้ปิ๊นนั่นแหละเพียงแต่เข้าซอยมาสัก300เมตรท่านั้น

"แน่ใจนะว่าจะไม่เปลี่ยนใจอะ บ้านพี่มีห้องว่างนะน้องไปพักได้ สบายกว่าบ้านไอ้ตงอีก" ไอ้ปิ๊นพยายามชวนไอ้เด็กตัวขาวนี่อีกรอบ มันคงลืมเรื่องไม่ถูกชะตากันไปหมดแล้วล่ะ ปิ๊นมันขี้ใจอ่อนจะตาย คงสงสารไอ้ดิสโก้จริงๆ

แต่ไอ้เด็กตัวขาวก็ส่ายหัวมือยังจับชายเสื้อผมแน่น ก็ไม่รู้เหมือนกันนะว่าทำไมมันถึงกล้ามาขอนอนบ้านผมทั้งๆที่รู้จักกันไม่ถึงยี่สิบสี่ชั่วโมงด้วยซ้ำ

"เฮ้อ งั้นก็ตามใจ แล้วมึงล่ะไอ้ตงจะบอกแม่มึงว่าไง"

"เออ คืนนี้แม่กูอยู่สนามบินทั้งคืนกว่าจะกลับก็เช้าพอดี ไม่น่ามีปัญหาอะไร เดี๋ยวค่อยบอกว่ารุ่นน้องมาขอให้ติวหนังสือให้" พรุ่งนี้หน้าเด็กนี่คงจะเบาลงกว่าเดิมนะ หวังว่าอะนะ

"เค มีอะไรโทรตามกูได้ยี่สิบสี่ชั่วโมงนะมึง"

"เออๆ"

"ไงก็หายไวๆนะน้อง อยากให้พี่ไปกระทืบไอ้พวกนั้นก็บอกจะไปจัดการให้" ไอ้คริสบอกไอ้เด็กดิสโก้ ท่าทางคงคันตีนสุดๆ

"ขอบคุณครับ" มันพูดเสียงเบา

"กลับไปเหอะพวกมึงจะสองทุ่มแล้ว ที่เหลือกูดูแลเอง"

"อืมๆ"



พอแยกย้ายกันผมก็พาไอ้ดิสโก้ไปกินข้าวกินปลา เพื่อจะได้กินยาที่หมอสั่ง มันทำท่าจะดื้อไม่กินอยู่เหมือนกันแต่พอเจอผมทำท่าเอาจริงแล้วชี้นิ้วไปที่ประตูบ้านเป็นเชิงบอกว่า 'ถ้าไม่กินก็กลับบ้านไป' มันเลยยอมครับ

"เก่งมาก ไปขึ้นห้องกันจะได้อาบน้ำเปลี่ยนชุดนอนสักที" ผมขยี้หัวมันประนึงเป็นลูกหมาอีกตัว

ไอ้เด็กนี้ก็ไม่บ่นสักคำ...เหมือนมันชอบให้ลูบหัวด้วยซ้ำไป


"มึงเข้าไปอาบน้ำก่อนเลย.เดี๋ยวกูหาชุดนอนให้"

"ผมมีอยู่แล้วในกระเป๋าเป้"

"อ้าวงั้นหรอ มึงกะจะไปค้างกับเพื่อนสินะ" ผมถามอย่างสงสัย

"เปล่า..กะไปค้างกับพี่คริสต่างหาก"

"ห๊ะ! แล้วมึงจะไปค้างกับมันทำไมว่ะ"

"ก็ตอนแรกคิดว่าถ้าผมไปสารภาพรัก พี่คิดอาจจะตกลงคบกับผมก็ได้ไง แล้วก็ไปค้างที่บ้านพี่คริสเลยไง แหะๆ" มันพูดหน้าแหย่ๆ ผมล่ะอยากให้ไอ้ปิ๊นมาได้ยินจริงจริ๊งงง อยากจะรู้ว่ามันจะยังชวนไอ้เด็กนี้ไปค้างบ้านมันด้วยหรือเปล่า เหอะๆ

"ไม่ค่อยแรดเลยนะมึงเป็นเด็กเป็นเล็ก แก่แดดฉิบหาย"

"ไม่ใช่เด็กสักหน่อยโตเเล้วนะ อยู่ตั้งม.4แล้ว เพื่อนๆผมก็เคยไปนอนหอแฟนกันทั้งนั้นอ่า ไม่เห็นเป็นไรเลย"

"โว๊ะ! ถ้ากูมีน้องคิดแบบมึงกูจะเตะให้หายแรดเลยจริงๆ"

"ไปๆอาบน้ำได้ล่ะมึงอ่ะ ดึกล่ะ" ผมไล่มัน ขี้เกียจเถียงด้วย เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว


ไอ้เด็กนั่นก็ไปอาบน้ำครับ ผมก็เตรียมยาทาไว้รอแล้วก็ลงไปเตรียมน้ำแข็งมาประคบหน้ามัน พอขึ้นมาอีกทีไอ้ดิสโก้ก็อาบน้ำเรียบร้อยแล้วครับ

ตอนนี้ตัวมันหอมฉุยไปทั้งตัว จนน่าหอมฉิบหาย... แถมมันยังใส่ชุดนอนผ้าลื่นๆแขนยาวกับกางเกงขาสั้นเข้าเซตกันสีเขียวมิ้น

เตรียมชุดพร้อมอ่อยไอ้คริสเต็มที่สินะ. เหอะๆ

แล้วกูจะหงุดหงิดทำไมว่ะเนี้ย


"ไปนั่งที่เตียงดิ เดี๋ยวกูจะทายาให้"

ไอ้เด็กตัวขาวก็ว่าง่ายไปนั่งรอบนที่นอนเรียบร้อยทำตัวประนึงเจ้าของห้องอีกคน

ผมก็จัดการทายาแผลที่มุมปากให้มันครับ พยายามทาให้เบามือที่สุดล่ะ ผิวมันโคตรใสจนเห็นเส้นเลือดฝอยเลยบอบบางจริงๆ

แถมนุ่มสุดๆ พอพิจารณาหน้ามันใกล้ๆแทบหาข้อติไม่ได้เลย. สิวสักเม็ดยังไม่มี ตาก็โต ปากก็แดงสด ตัวก็หอมจนผมเผลอสูดดมไปหลายที...

แม่ง...งูแข็งอีกล่ะ


"อ่ะ เอานี้ประคบไว้นะ กูไปอาบน้ำก่อน มึงนอนบนเตียงนี้ไปเลย ถ้าจะหลับก็เอาที่ประคบใส่ไว้ในกะละมังเหมือนเดิมแล้วกัน"

"ครับพี่"


แล้วจากนั้นผมก็เข้ามาปฎิบัติการณ์ทำภารกิจลูกผู้ชายกับแม่นางทั้งห้าในห้องน้ำสิครับ. เปิดน้ำให้เสียงดังๆเข้าไว้กันมัรจะได้ยิน

"ซี้ดดดด ไอ้ตัวขาว..อาห์.."

เฮ้ย กูเป็นบ้าอะไรวะเนี้ยยยย กูต้องนึกถึงสาวน่ารักๆแบบทุกครั้งดิว่ะ แต่ทำไมมีแต่หน้าไอ้เด็กตัวขาวลอยเข้ามา


โว้ยยยยสสติโว้ยสติ!



ออกมาอีกทีเด็กนั่นก็กลับไปแล้วครับ คงเพลียจัด ผ้าก็ไม่รู้จักห่ม ทั้งที่แอร์ตกตรงนั้นพอดี ไม่กลัวป่วยหรือไงกัน

เดือดร้อนผมต้องเดินไปห่มผ้าให้มันอีก

"อื้อออ พี่อาบน้ำนานจัง" อยู่ๆมันก็ลืมตาปรือๆขึ้นมาถาม

แล้วใครมันจะกล้าบอกวะ ว่าสาเหตุที่อาบน้ำนานก็เพรามึงนั่นแหละ เฮ้อ

"กูก็อาบนานแบบนี้ทุกวัน" โกหกไปงั้นแหละครับ ปกติ 3 นาทีก็ถมเถไปแล้ว

"หรอ...พี่ผมนอนไม่หลับอ่า"

"ตะกี้กูยังเห็นมึงหลับอยู่เลย"

"แค่หลับตาเฉยๆหรอก" มันทำท่ายู่ปาก คิดว่าทำแบบนี้แล้วน่ารักไงว่ะ

"นอนๆไปเดี๋ยวก็หลับเองอ่ะ"

"พี่เกาหลังให้หน่อยดิ ผมจะได้หลับอะ" มันอ้อนเอามือมาเขย่าแขนผมอีก

"มากไปล่ะๆ ไม่เอาเว้ยขี้เกียจ"

"น้าาาาพี่นะ ไม่งั้นผมไม่หลับจริงๆ" ไม่ต้องมาทำตาปริบๆเลยนะเว้ย แม่ง

"เออๆ ก็ได้รีบหลับล่ะ"

"เย้ พี่ใจดีที่สุดเลย" มันยิ้มนิดอย่างเจ็บมุมปาก ก่อนจะนอนตะแคงตัวเข้าเบียดผนังแล้วหันหลังให้เกา

ตอนแรกผมก็นั่งเกานี่แหละครับ พอนานๆชักเมื่อยเลยล้มตัวตะแคงนอนหันไปตามมัน

มือก็ยังคงลูบให้เหมือนเดิม จนเริ่มเคลิ้มๆ

"พี่...พี่ชื่ออะไรอ่ะ" เสียงงัวเงียๆของไอ้ดิสโก้เอ่ยถามเบาๆ

มีอย่างที่ไหนว่ะ มานึกถามชื่อกันตอนจะหมดพาร์ทของกูล่ะ

"กูชื่อตง" ผมบอกมันไป ตาผมเองก็เริ่มปิดแล้วครับ โคตรง่วง

"อือ..พี่ตง.." เสียงไอ้เด็กดิสโก้เริ่มเบาไปทุกที

ก็เหมือนผมที่ประสาทรับรู้เริ่มปิดตัวลงเช่นกัน...


"ชอบ..พี่..นะ"


หึ นึกว่าจะไม่'ขอบคุณ'กันซะแล้ว


Good night jaaa

ออฟไลน์ Timber Huang

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 49
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0

ออฟไลน์ Monkey D

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-0
ตอนที่  19   ร่มของเราสองคน
 
 
 
 
นี่ก็ผ่านมาจนจะถึง  3  เดือนแล้วครับ ความสัมพันธ์แบบลับๆของผมกับไอ้คริสก็ดูท่าว่าจะเป็นไปด้วยดี   เราต่างได้เห็นหลายๆด้านของอีกฝ่าย  ไอ้คริสเองถึงจะดูบ้าๆบอๆ  แต่มันก็มีความเป็นผู้นำในตัวสูง  แทบทุกครั้งที่มันจะมีคำปรึกษาดีๆให้ตลอดเวลาผมมีปัญหาอะไร  คอยช่วยติวหนังสือให้  โทรคุยกันทุกคืน เป็นห่วงเป็นใยผมตลอด  มีบ้างที่ไปเดินเที่ยวด้วยกัน 2 คน ช่วงวันหยุด  และมันก็ยังคอยมารอรับหน้าโรงเรียนเพื่อเดินกลับไปส่งผมที่บ้านเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยน  เป็นอะไรที่ซึ้งใจสุดๆ  แทบนับครั้งได้ที่มันจะไม่มารับถ้าไม่ติดธุระอะไรจริงๆ
 
 
มันกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตผมไปแล้วสินะ
 
 
แต่ก็ยังมีอีกด้านของมันเหมือนกันที่ผมเองก็ไม่ค่อยพอใจสักเท่าไหร่
 
 
ไอ้คริสมันเลือดร้อนครับ  เพื่อนมีปัญหากับใครมันไปตามช่วยแก้แค้นเขาซะหมด   แบกหน้าเละๆมารอรับผมก็บ่อย   คุยกันไปหลายรอบจนผมเบื่อที่จะคุยเรื่องนี้กับมันอีก  ปากมันบอกว่าจะไม่มีเรื่องกับใครอีกแล้ว  พอเอาเข้าจริงมันก็แอบไปมีเรื่องชกต่อยอยู่ดี
 
 
บางทีก็อยากจะถามมันเหลือเกิน  ว่าเพื่อนกับแฟนมันจะเลือกอะไร  แต่ใจมันก็ไม่กล้าพอ
 
 
พูดตรงๆว่าผมกลัวคำตอบของมัน...อาจจะไม่ใช่ผม
 
 
 
 
“ปิ๊น  ใกล้จะสอบปลายภาคแล้วมึงอ่านหนังสือบ้างยังวะ”   ไอ้เจสพูดขึ้นระหว่างที่พวกเราสามคนนั่งเล่นตอนพักกลางวันรอให้ข้าวเรียงเม็ดก่อนค่อยขึ้นตึกเรียน
 
 
“ยังเลยวะ  แล้วมึงอะไอ้เจส  อ่านชื่อหน้าปกหนังสือมั้งยัง”   ระดับไอ้เจสแค่เหลือบตาอ่านหน้าปกได้ก็มหัศจรรย์แล้วครับ
 
 
“5555  ยังอะดิ  เริ่มเครียดแล้วเนี้ย  จะตกหรือเปล่าก็ไม่รู้คะแนนเก็บกูยิ่งน้อยๆอยู่   ไม่เหมือนมึงนิ  เดี๋ยวนี้รองท๊อปตลอดนะมึง  แล้วมาทำเป็นบอกว่าไม่อ่านหนังสือ  เชื่อตายห่า”    ไอ้เจสพูอย่างหมั่นไส้ก่อนจะเอานิ้วชี้มาผลักหัวผมแรงๆจนหงายหลังไปชนไอ้ปอ
 
“เจ็บนะเว้ยไอ้ห่า  ปอไอ้เจสมันทำร้ายกู มึงจัดการมันให้กูหน่อยยย”   ผมแกล้งทำเป็นหันไปฟ้องไอ้ปอตาปริบๆ
 
 
“กูก็สงสัยเหมือนไอ้เจสนะ  ถ้ามึงไม่อ่านหนังสือจริงแล้วทำไมมึงคะแนนพุ่งเยอะจังช่วงนี้”   ฉิบหายล่ะไอ้ปอก็ดันมาสงสัยผมอีกคน  จะให้บอกพวกมันได้ยังไงว่าไอ้คริสติวให้  ขืนบอกไปมันก็ต้องสงสัยต่ออีกว่า ติวที่ไหน ทำไมต้องให้มันติว  ไอ้ปอท๊อปของห้อง  ทำไมไม่ให้ไอ้ปอติวให้   ผมรู้ว่ามันต้องออกมาอีหรอบนี้แน่ๆ  แล้วสุดท้ายความลับที่ผมเก็บไว้ก็อาจแตก
 
 
ใจจริงก็อยากจะบอกนะครับ  แต่ก็กลัวเพื่อนรับไม่ได้แต่ไอ้เจสเองก็เหมือนมันจะพอรู้ๆเรื่องผมกับไอ้คริสอยู่บ้าง  คงเพราะผมคุยไลน์กับไอ้คริสบ่อยตอนพักกลางวันแบบนี้  ไม่เหมือนไอ้ปอที่วันๆเอาแต่อ่านหนังสือไม่สนใจสิ่งรอบข้าง  แล้วที่ผมสังเกตคือเวลาพูดถึงไปคริส  ไอ้ปอมันจะทำสีหน้าไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่   
 
 
“กู..ก็...อ่านสรุปของพี่ปูนไงมึง  มึงก็รู้นิว่าพี่ปูนก็เคยเรียนที่โรงเรียนนี้  เขาก็เอาสรุปเก่าๆมาให้กูอ่านไง  แค่นั้นแหละ”   
 
 
“แล้วทำไมที่ผ่านๆมาคะแนนมึงถึงไม่ดีเท่าช่วงนี้วะ”
 
 
“มึงก็ขี้สงสัยจริงๆ  ก็พี่ปูนเขาเพิ่งทำความสะอาดห้องเก็บของไงแล้วเจอสรุปเก่าๆก็เลยเพิ่งเอามาให้กูอ่านไงวะ”  อย่าถามมากได้ไหม  คิดคำแถไม่ออกแล้วนะเว้ย
 
 
“หร๊า   กูจะพยายามเชื่อนะ”
 
 
ทำไมต้องพยายามเชื่อวะ  กูออกจะแถเนียนขนาดนี้นะ!  มึงต้องเชื่อเลยดิ
 
 
“แล้วตกลงตอนใกล้สอบจะเอาไง  ให้กูช่วยติวเหมือนเดิมไหม”  ไอ้ปอถาม
 
 
“เออเหมือนเดิมแหละมึง  ติวที่บ้านไอ้ปิ๊นเหมือนเดิมด้วย โอเคนะ”
 
 
“อ..เออ  ก็ได้  พร้อมเสมอ แต่บอกกันล่วงหน้าก่อนก็ดีนะมึง”   จริงๆคุยกับไอ้คริสไว้แล้วว่าจะให้มันมาติวให้  แต่เดี๋ยวค่อยไปบอกให้ไอ้คริสมาติววันอื่นที่ไม่ตรงกันก็ได้มั้ง...
 
 
 
“งั้นเอาเป็นเสาร์ – อาทิตย์นี้ก็แล้วกัน  โอเคไหม  เดี๋ยวจะไม่ทันซะ”
 
“จัดไปเพื่อน”   
 
 
“อืมๆ”     
 
 
ตกลงกันเรียบร้อยเราก็พากันขึ้นไปเรียน  การเรียนการสอนก็น่าเบื่อบ้าง ตลกบ้างถ้าเจออาจารย์ใจดีที่ชอบปล่อยมุกนะอะ
 
 
 
 
ได้เวลาเลิกเรียนแล้ว  ผมก็คิดว่าจะนั่งดูไอ้เจสเล่นบาสระหว่างรอไอ้คริสเหมือนเดิม   แต่วันนี้ไอ้ปอกลับมานั่งเล่นอยู่ด้วย
 
 
“วันนี้มึงไม่รีบกลับบ้านเหมือนทุกทีหรอวะ  ไอ้ปอ”    ปกติจะมีคนขับรถมารอรับมันอยู่ตลอดหลังเลิกเรียน
 
 
“ไม่อะมึง  กูอยากอยู่เล่นบาสกับเพื่อนบ้าง  ไม่ได้หรอ”
 
 
“เปล๊า  ก็ได้ดิ  แค่ถามดูเฉยๆน่า”   
 
 
“แต่คิดไปคิดมาไม่เอาดีกว่าว่ะ   กูของีบสักหน่อยดีกว่า  เมื่อคืนก็อ่านหนังสือจนดึก  ง่วงแล้วเนี่ย”
 
 
“เออๆ  มึงก็นอนดิ  ใครเอามือไปถ่างตามึงไว้ล่ะ 5555”
 
 
“งั้นกูขอนอนตักมึงนะ  ม้านั่งปูนมันแข็งกูปวดคอ”   มันขอนอนตักผมตรงๆ  แอบอึ้งไปเหมือนกัน  ปกติไม่เคยให้ใครนอนตักมาก่อนเลยครับ
 
 
“....”
 
 
 
“ไม่ได้หรอ ปิ๊น...หรือมึงจะเก็บตักไว้ให้ใครนอน”  มันพูดเสียงนิ่งแววตาจ้องมองมาที่ผมอย่างพยายามค้นหาอะไรสักอย่าง   ที่ผมปิดบังไว้
 
 
“ป..เปล่า  จะนอนก็นอนดิ  ไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย”
 
 
“หึ  ขอบใจนะมึง”  ไอ้ส่งยิ้มให้ก่อนจะเอนหลังนอนไปกับม้านั่งแล้วเอาหัวมาหนุนตักผมไว้   ดีว่ามีโต๊ะหินอ่อนบังสายตาไว้อยู่เลยดูไม่น่าเกลียดมาก  ถ้ามานอนแบบไม่มีอะไรบังคงน่าแปลกตากับนักเรียนคนอื่นๆที่เห็นแน่ๆ
 
 
“ตักมึงนุ่มว่ะปิ๊น”   
 
 
“ห่ะ  พูดบ้าอะไรของมึง”  ผมก้มไปมองไอ้ปอที่พูดขึ้นทั้งๆที่ตายังหลับอยู่
 
 
 
“เปล่า   แค่อยากนอนอยู่บนตักมึงไปนานๆ”
 
 
“อยากนอนนานๆก็นอนไปดิ”
 
 
“...จริง?”  ไอ้ปอลืมตามามองผมด้วยแววตาที่ดูดีใจ   
 
 
จะดีใจทำไมวะ
 
 
“เออ แต่กูคิดนาทีละ 10 บาทนะโว้ย ฮ่าๆๆๆ อยากนอนนานแค่ไหนก็ตามใจมึง  แต่กูจับเวลาไว้ล่ะ”   ผมพูดไปขำแกล้งหยอกมันเล่น  แต่ไอ้ปอกลับหน้านิ่ง  พ่นหายใจอย่างดูเซ็งๆแล้วหลับตานอนต่อ
 
 
ไรวะ  พูดเล่นแค่นี้ทำเป็นโกรธ  แต่ก็ไม่ได้สนใจหรอกครับผมก็หยิบการ์ตูนขึ้นมาอ่านฆ่าเวลาไประหว่างรอไอ้คริสไป
 
.
.
.
.
 
ซ่า  ซ่า
 
 
จู่ๆฝนก็ตกลงมาอย่างหนักโดยไม่ทันตั้งตัวพวกเราเลยรีบเก็บของแล้ววิ่งเข้าไปหลบฝนใต้ตึกอาคารเรียนกัน   ขาอย่างชาเลยไอ้ปอแม่งหลับจริงจังมาก  ถ้าฝนไม่ตกมันคงไม่ลุกตื่นแน่ๆ
 
“แม่ง  ตกอะไรหนักหนาวะ  ตกมาไม่ให้ซุ่มให้เสียง  กูกำลังจะชู๊ตบาสเข้าห่วงอยู่แล้วเชียว  หงุดหงิดว่ะ”  ไอ้เจสบ่นแล้วทุ่มลูกบาสลงพื้นแก้เซ็ง
 
 
“นั่นดิ  กูโคตรไม่ชอบหน้าฝนเลย”   ผมบ่นตามมัน  ก็หน้าฝนมันทั้งเปียก ทั้งแฉะทั้งชื้น  เดินบนฟุตบาททีก็ต้องคอยระวังระเบิดน้ำใต้แผ่นปูนด้วย  โคตรไม่ชอบเลยจริงๆครับ
 
 
“ดูท่าแล้วจะตกนานแน่เลยว่ะ”  ไอ้ปอที่มองดูฝนตกพูดขึ้น  ซึ่งผมก็พยักหน้าอย่างเห็นด้วย
 
 
ห่วงก็แต่อีกคน  ไม่รู้ตอนนี้ถึงไหนแล้ว
 
มีต่อ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด