In Love With My Roommate จบแล้ว รบกวนย้ายด้วยค่ะ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: In Love With My Roommate จบแล้ว รบกวนย้ายด้วยค่ะ  (อ่าน 7886 ครั้ง)

ออฟไลน์ natsikijang

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 540
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-4
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0


ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ


**********************************************************************
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-09-2017 21:30:50 โดย natsikijang »

ออฟไลน์ natsikijang

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 540
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-4
 :hao5:                                                       
In Love With My Roommate

  Main Story : อ่อยให้รัก แล้วหักหลัง ?  - ฉัตร (Melodrama)
                           คุณพ่อวัยใส - บอส (Tragic-comedy)
    Side Story : ผู้ชายสายดาร์ก (วิน × ตั้ม) - NC20 +
                           เมียเก็บ (นนท์ × ปิง) - NC 20 +
                           ถ้าจบกับเขา แล้วเราจะรักกันไหม (ตุลย์ × ดิน) -NC18 +
                           รุ่นพี่รุ่นน้อง....ท้องชนกัน (พัฒน์ × ม่วง) - NC 18 +
                           เอาตัวเข้าแลกรัก  (ก้อง × อีท)   - NC 20+



**** ขออนุญาตแก้ไขชื่อนะคะ เพราะชื่อเดิมมีคนเข้าใจผิดว่าจะออกแนวรักกันดุเดือดNC กระจาย เรื่องนี้ออกแนวละมุน กุ๊กกิ๊ก ฮาๆ ค่ะ

♢♢♢♢  เรื่องนี้อาจจะมีถ้อยคำที่หยาบคาย บุคคลในเรื่องหรือภาพและสถานที่ต่างๆไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องจริงเพียงแค่เป็นอรรถรสที่ผู้แต่งเขียนขึ้นเท่านั้น โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน ♢♢♢♢       

Charactor


บอส


ตุลา  ลิ้มไพศาลอนันต์

        **** "กูชอบน้องแก้มชมพู แต่กูดันหึงไอ้ฉัตรเวลามันคุยกับผู้ชาย แสดงว่ากูชอบไอ้ฉัตรด้วย ไอ้ฉัตรมันเป็นผู้ชาย ส่วนน้องแก้มชมพูก็เป็นนางฟ้า นางในฝันที่กูยังไม่เคยเจอจังๆ สักที โอ๊ย จะบ้าตาย นี่กูควรจะทำอย่างไงดีว่ะ " ****


       
         ปี 2 นิติศาสตร์ เขาเป็นเดือนมหาวิทยาลัย เขาไม่ได้มีดีแค่หน้าตา แต่ยังสอบได้ที่หนึ่งของคณะ เขาใฝ่ฝันอยากเป็นผู้พิพากษา เขายังเป็นผู้ชายรักแมวและนิสัยเหมือนแมว ไม่ใช่ขี้อ้อนนะแต่ขี้เซาเหมือนแมวต่างหาก

   



ฉัตร
    ปริยฉัตร พิศชมพู   

        ******  "ทำไมผมต้องมาแอบรักคนอย่างไอ้พี่บอสมันด้วยว่ะ  วันๆ ไม่เห็นมันสนใจอะไร นอกจากนอนกับแมว มันมีดีแค่หน้าตา นอกนั้นไม่เห็นจะมีอะไรดี  ถึงมันไม่จะเคยทำดีกับผมเลย บางครั้งผมก็รู้สึกท้อระดับสิบ แต่ผมก็ยังจะชอบมันอยู่ดี จบนะ " ****



         ปี 1 คณะสถาปัตย์ เชียร์ลีดเดอร์คณะสถาปัตย์ เห็นหน้าหวานๆ แต่นิสัยโคตรจะแมน เขาฝึกเทควันโดสายดำตั้งแต่เด็กจนได้รางวัลเหรียญทองกีฬาเยาวชนและเข้ามาเป็นนักกีฬามหาลัย กินเก่งจนดูอวบๆแต่ไม่อ้วนเพราะต้องซ้อมออกกำลังกายตลอดเวลา เป็นหนุ่มผิวขาวอมชมพูเพราะเป็นหนุ่มเชียงใหม่ มีฉายาลับๆในโรงเรียนเก่าว่า" แก้มชมพู"

          แต่ไม่มีใครกล้าพูดต่อหน้าเพราะกลัวตาย ดีกรีความโหดของฉัตรขึ้นชื่อไปทั้งมหาวิทยาลัย



 ถุงทอง
         แมวเปอร์เซียสีทองตัวอ้วน ชอบเดินร่อนไปทั่วหอขึ้นลิฟต์เข้าห้องคนนั้นคนนู้น

 ปิง

          "ทำไมล่ะ ในเมื่อไอ้บอสมันก็เป็นผู้ชาย ทำไมน้องฉัตรถึงไม่ชอบพี่ ถึงพี่จะหล่อสู้ไอ้บอสมันไม่ได้ แต่พี่ก็รวยกว่ามัน และพี่ก็เอาใจและดีกับน้องฉัตรมาตลอด น้องฉัตรก็รู้"


         นักศึกษา คณะนิติศาสตร์ ปี2 แอบชอบฉัตรตั้งแต่อยู่โรงเรียนเก่า เป็นเพื่อนร่วมคณะและร่วมหอกับบอส


แก๊งค์เด็กนรก : ทีมสถาปัตย์
-  อิท...พัฒพล ลีดคณะสถาปัตย์
-  นนท์...ชานนท์ เดือนคณะและเป็นสมาชิกชมรมเทควันโด
-  ม่วง...คำรณ เป็นสมาชิกกองสันทนาการ
-  ตั้ม...กมล  ลีดคณะสถาปัตย์

แก๊งค์เด็กเทพ : ทีมนิติ
-  ดิน...  นิติศาสตร์ ปี 2 เป็นสมาชิกกองสันทนาการ สายฮาตัวพ่อ
-  ตุล...  นิติศาสตร์ ปี2 หล่อบ้านรวย แฟนสวย รักเดียวใจเดียว แต่สุดท้ายโดนผู้หญิงสวมเขา
-  พัฒน์... เพื่อนสนิทวัยเด็กที่อยู่ข้างบ้านของบอส เรียนสถาปัตย์ ปี2 เซอร์สุดๆ แต่ตีเนียนเข้ากลุ่มได้เพราะความสนิทสนม


Intro

        "กูชอบพี่บอสว่ะ"

          ผมกำลังแอบรักพี่ห้องตรงข้ามและกำลังจะกลายเป็น 'รูมเมท' ของผม  ตั้งแต่ผมรู้ตัวว่าชอบพี่มัน ผมก็พยายามเก็บความรู้สึกและทำตัวให้เป็นปกติมาตลอด แต่ผมก็นิสัยแย่ตรงที่ว่าเวลาเห็นเขาเล่นแบบถึงเนื้อถึงตัวกับคนอื่นผมก็มักจะโกรธ  ผมก็พยายามเก็บอาการหึงทั้งๆ ที่ไม่มีสิทธิ์ ในสายตาเขา ผมคงเป็นแค่ 'เด็กนรก' ที่ชอบทำเสียงดัง ชอบก่อเรื่องวุ่นวาย ผมไม่รู้จะทำอย่างไรดี สับสนไปหมด ผมทรมานมากครับ อยากจะเลิกชอบ แต่ก็ทำไมได้
          .
          .
          .   
        ผมเศร้ามากเลยครับ แล้วยิ่งต้องมาอยู่ห้องเดียวกันผมควรจะทำอย่างไรดี



        "กูเห็นสายตามึงตอนมองพี่บอส กูก็รู้แล้ว ในเมื่อมึงชอบพี่เขาแล้วได้มาอยู่ห้องเดียวกัน ทำไมมึงไม่ลองอ่อยเขาว่ะ"


         หรือจะทำตามคำแนะนำของตั้มเพื่อนสนิทผมดีครับ

     
         "กูไม่กล้า เดี๋ยวพี่บอสมันจะรู้ตัวแล้วเกลียดกู กูคงทำใจไม่ได้"

 
         "มึงก็ทำเนียนๆ ดิ ใส่เสื้อกล้าม เกงบอลสั้นๆ ตอนอาบน้ำก็ทำเป็นกลัวผีประตูแง้มๆไว้ ทำเป็นลืมผ้าขนหนูแล้วแกล้งขอให้พี่มันหยิบให้ วันต่อมาก็แกล้งบีบน้ำตา ดราม่า ทะเลาะกับพ่อ ชวนแดกเหล้าแล้วแกล้งทำเป็นซบกอดขอกำลังใจ ไม่ลองไม่รู้นะเว้ย"


        "แต่พี่บอสชอบแก้มชมพูนะเว้ย"

 
        "อ้าว นั่นร่างอวตารของมึงนิ มึงจะหึงตัวเองทำไม กูไม่เข้าใจ ตอนนั้นมึงยังกล้าอ่อยพี่เขา แล้วตอนนี้ทำมาเป็นไม่กล้า"


       "มันไม่เหมือนกันตอนกูเป็นแก้มชมพู กูอ่อยเขาเพราะจะแกล้งมันแก้แค้นที่มันแกล้งกู"

       "มึงอย่ามาเยอะ"


        "ก็กูกล้ว"



        "งั้นมึงก็เชิญนก นก นก ต่อไป มึงก็รู้ว่าแตงโมมันจ้องจะงาบพี่บอสอยู่"

        ตั้มยังคงกดดันผมอย่างต่อเนื่อง

        "กูต้องไปลองอ่อยพี่บอสมันจริงๆ เหรอ"


       "ใช่ ถ้ามึงอยากให้พี่เขาหันมามองมึงน่ะนะ ถามอะไรโง่ๆ นะมึงเนี่ย"

   

          เอาว่ะ ผมตัดสินใจแล้ว ผมจะลุยเพื่อความรัก ว่าแต่ต่อไปนี้ผมจะอ่อยพี่บอสอย่างไรดี... 


   
          เกือบลืม ทุกคนคงจะสงสัยว่า ทำไมผมผู้ชายแมน สุดแสนแฮนซั่มบอยถึงไปรักผู้ชายด้วยกันอย่างพี่บอส เรื่องราวความรักของผมมันเริ่มต้นเมื่อ 3 เดือนก่อน โชคชะตาเล่นตลกกับผมให้เราได้อยู่ห้องตรงกันข้าม  ให้เรียนวิชาเลือกกลุ่มเดียวกันจนทำให้ผมหลงรักพี่บอสมัน ผมไม่รู้ว่าชอบตั้งแต่เมื่อไรแต่รู้ตัวอีกทีผมก็ชอบพี่เขาไปแล้ว...

         
           (จบตอน)

           
Ps,
       มาเปิดเรื่องใหม่ ช่วงนี้นัทสึมีช่วงว่างกับเขาสักทีค่ะเลยเอาเรื่องที่แต่งใส่กระดาษระหว่างเรียนนิติ เรียนไปเขียนนิยายไป เอิ่ม งานหลักคือเขียนนิยาย งานเสริมคือเรียนก.ม. จบเทอมก็จบพอดี 5555 นัตสึเอามารีไรท์ใหม่ให้ทันสมัยมากขึ้นค่ะ ช่วงนั้นใช้MSN อยู่เลย เพราะฉะนั้นไม่หาย เรื่องนี้แต่งจบแน่นอนค่ะ

      ฝากติดตามด้วยนะคะ ตั้งใจว่า สัปดาห์หนึ่งจะลงอย่างน้อยสองวันเป็นอย่างต่ำค่ะ 

      นัตสึมีความสุขกับการเขียนและอยากให้ทุกคนที่เข้ามาอ่านมีความสุขกับมันด้วยนะคะ
   
      ถ้ามีตรงไหนผิดพลาดไป บอกได้เลยนะคะ


        พาถุงทอง น้องบอสและน้องฉัตรมาฝากเนื้อฝากตัวค่ะ รักน้อยๆ แต่ขอให้รักนาน ๆ ฮิ้ววว
           (อยากใส่รูปท้ายชื่ออิมเมจตัวละคร แต่ทำไม่เป็น TT)       
        คอมเม้นต์สักนิด จิตแจ่มใส เพิ่มกำลังใจให้นัทสีหน่อยนะคะ
        ♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡

เครดิตภาพถุงทอง :  จากคุณVenuz Plastiic  : https://pantip.com/topic/31333330

เครดิตภาพบอสกับฉัตร (อิมเมจมาจากจิ่งป๋อหรันกับน้องเสี่ยวลู่ (ลู่หาน):
http://www.startabloid.com/scoop/scoop160205/
     

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-06-2017 11:30:49 โดย natsikijang »

ออฟไลน์ natsikijang

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 540
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-4
       
In Love With My Roommate

   
EP :1



Part ฉัตร


           ย้อนกลับไปเมื่อสามเดือนก่อน...

           กระดาษเอสี่ถูกสอดเข้ามาใต้ประตูเมื่อกี้ ผมเดินไปหยิบขึ้นมาอ่านทันทีแล้วขมวดคิ้ว
'เสียงดังชิบหาย กูรำคาญ กูจะอ่านหนังสือ

                                    จากห้อง909 '

           


            ผมขอแนะนำตัวก่อนล่ะกันนะครับ ผมชื่อนายฉัตร ปริยฉัตร พิศชมพูเป็นเด็กปีหนึ่งคณะสถาปัตย์ มหาวิทยาลัยอินทนิล วันนี้เพื่อนๆ พี่ๆ พวกชมรมเทควันโดมาชวนกันฉลองรับน้องใหม่กัน จริงๆแล้วคงจะมาหาเรื่องกินเหล้ากันมากกว่า มหาวิทยาลัยยังไม่เปิดหรอกครับ แต่ผมย้ายเข้าหอก่อนเปิดเทอมมาสองเดือนกว่าเพราะผมเป็น "เด็กช้าง" ได้เข้ามหาวิทยาลัยอันดับต้นๆของประเทศเพราะโควต้านักกีฬาและพวกนักกีฬาอย่างผมต้องซ้อมกันตลอดเวลาอยู่แล้ว ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวฟอร์มตกจะลำบาก
         
            ส่วนเหตุผลที่พวกมันเลือกห้องผมก็คงเพราะบนชั้นนี้ก็มีแค่ห้องผมและห้องตรงข้ามเท่านั้นแล้วนนท์เพื่อนร่วมทีม เพื่อนโรงเรียนเก่าและเพื่อนร่วมคณะที่โคตรซี้ปึกของผมมันก็ดันไปแนะนำคนอื่นๆว่า ฝีมือทำอาหารของผมก็เข้าขั้นเด็ดจนใครๆ ก็ติดใจเพราะแม่ผมเป็นเจ้าของสวนอาหาร "ดอกแก้ว" พอวงเหล้าเริ่มขึ้นเสียงเฮฮาอึกทรึกคึกโครมก็ตามมาเป็ยธรรมดา

            ทำให้ผมเพิ่งย้ายหอเข้ามาได้สองวันเท่านั้นก็โดนเพื่อนร่วมชั้นเขม่นแล้วผมมันเด็กกิจกรรมก็ต้องมีเพื่อนฝูงมาร่วมสังสรรค์บ้างทำกิจกรรมคณะบ้าง ดังนั้นผมคิดว่าต้องหาวิธีผูกมิตรกับห้อง909 เสียหน่อย ห้องผมห้อง 901 ครับ

          พรุ่งนี้ผมมีประชุมคณะช่วงบ่าย เดี๋ยวกลับมาผมว่าจะทำอาหารเย็นกับของกินเล่นไปเผื่อห้องข้างๆ  สักหน่อย ผมก็รู้สึกผิดนะครับที่ส่งเสียงดังจนตอนนี้ได้กระดาษข้อความเป็นใบที่สิบเก้าแล้วทั้งจากเดือนนี้และเดือนที่แล้ว
               

            "ก็อกแก๊ก ก็อกแก๊ก"

            เสียงดังมาจากหน้าประตูห้อง ผมเดินไปเปิดออกก็เจอกับเพื่อนร่วมชั้น แต่ไม่ใช่เจ้าของห้อง909 นะครับ คงสงสัยกันแล้วล่ะสิครับว่าผมหมายถึงใคร

            "อ้าว คุณอินดี้"

            แมวเปอร์เซียสีทองตัวกลมที่พักอยู่ห้อง 909 ไงครับ ผมไม่รู้ชื่อจริงๆ ของเจ้านี่ก็เลยตั้งให้ใหม่เสียเลย ชื่อคุณอินดี้เข้ากับนิสัยอินดี้ ชอบความสงบ เวลาห้องผมเสียงดังทีไร คุณอินดี้จะมาส่งเสียงก๊อกแก๊กออาตัวชนประตูทุกทีครับ แรกๆมันก็เขม่นผมมากนิสัยเหมือนเจ้าของห้อง 909 เจ้าของกระดาษที่เขียนด่าผมไม่ผิด แต่พอผมทำอาหารอร่อยๆ ที่มีปลาให้กินแล้วก็เริ่มเป็นมิตรกับผมทันที ถ้าเจ้าของห้อง 909 ตีซี้ง่ายๆล่อได้ด้วยอาหารแบบคุณอินดี้ก็ดีสิครับ 

          "เฮ้ยยยย ไอ้ฉัตร ครายมาเรียกว้า"

         เสียงเพื่อนตะโกนถาม เสียงเริ่มอ้อแอ นี่คงจะเมาไปเรียบร้อยแล้ว

          "คุณอินดี้น่ะ แมวข้างห้อง"

          ผมหันไปตะโกนตอบ

          "อ่อ"

          หลังจากเปิดประตูออก คุณอินดี้ก็เดินส่ายหางเหยียบเพื่อนผมที่เมาจนนอนแผ่หลาอยู่กลางห้องแล้วไปนั่งบนเก้าอี้ทันที มันชะเง้อดูอาหารบนโต๊ะ จมูกดมฟุดฟิดแล้วใช้ขาหน้าเริ่มจะจุ่มไปในจานที่มันต้องการ แต่ผมไวกว่าคว้าจานสเต็กปลามาแบ่งเทใส่จานเปล่าที่เตรียมไว้สำหรับคุณอินดี้ 

          "เมี้ยวววว

          คุณอินดี้เดินไปดมๆจานอาหารแล้วเริ่มลงมือกินอย่างเอร็ดอร่อยโบกหางไปมา
          .
          .
          .
          .
         ภารกิจผูกมิตรกับเพื่อนร่วมชั้นสำเร็จไปอีกหนึ่งราย


          ผมใส่ชุดนักศึกษาใหม่เอี่ยมแล้วมัดผมที่ยาวปะบ่าของตัวเองให้ดูเรียบร้อย ผมมองตัวเองแล้วประหม่าเล็กน้อย ผมเข้าคณะสถาปัตย์เพราะชอบการออกแบบตึก อาคาร และชอบสไตล์รุ่นพี่โรงเรียนคนหนึ่งคือ พี่โอ๊ต พี่แกไว้ผมยาวเรียนสถาปัตย์แต่งตัวแนวๆ เท่ห์ชะมัด บุคลิกของพี่เขาดูอาร์ต แต่ตราตรึงใจผมมาก พอจบม. ปลาย ผมก็เริ่มไว้ผมยาวตามพี่เขาเลยครับ อยากดูเท่ห์ เซอร์กับเขาบ้าง

          เมื่อผมมาถึงคณะผมเดินเข้าไปนั่งกับพื้นข้างๆ นนท์ เพื่อนผมทันทีและเริ่มทักทายเพื่อนร่วมคณะคนอื่นๆ ยังไม่ทันเริ่มกิจกรรมการรับน้องก็มีรุ่นพี่สี่คนออกมาด้านหน้าแล้วพูดว่า

          "วันนี้เราจะมีการเลือกเชียร์ลีดเดอร์ของคณะกันนะคะ  คนที่พี่ๆเรียกขอให้มายืนด้านหน้าด้วยนะคะ"


          หลังจากที่เลือกเพื่อนๆทั้งชายหญิงประมาณเจ็ดคนออกไปยืนข้างหน้าแล้ว จู่ๆก็มีรุ่นพี่ผู้หญิงชี้มาทางผม

         "น้องด้วยค่ะ"

         "ห๊ะ ผมนี่นะ"

         ผมเอามือชี้ที่ตัวเอง ทำหน้าเหรอหรา

        "ใช่น้องนั่นแหล่ะ ลุกสิคะ"

         ผมลุกขึ้นจากเก้าอี้บนสแตนด์แล้วเดินออกไปด้านหน้าอย่างงงๆ

        "น้องๆ ลีดตามพี่มาค่ะ"

         รุ่นพี่หรีดปีที่แล้วเดินนำพวกผมออกไปจากลานกิจกรรมคณะ


         ผมเดินตามเพื่อนๆ ที่ถูกลากมาอย่างงงๆ คณะสถาปัตย์ของผมเป็นคณะที่มีแต่ผู้ชายพวกติสต์แตก อินดี้กันทั้งนั้นครับ รวมทั้งผมด้วย รู้ตัวอีกที พวกผมก็มาอยู่ห้องกิจกรรมคณะแล้วครับ

       "แนะนำตัวเลยค่ะ ใครเป็นใคร"

       ทุกคนทยอยแนะนำตัวไปจนถึงผมที่ยืนต่อแถวเป็นคนสุดท้าย ผมพยายามจำชื่อของทุกคนไว้ ลีดชายมีอีท ตั้ม และคิม ส่วนลีดฝ่ายหญิงมีพิมพ์ ดาว ฝนและอุ๊

      "ผม ฉัตร ปริยฉัตร พิศชมพูครับ"

       หลังจากผมพูดจบ ทุกๆ คนก็ปรบมือแล้วรุ่นพี่ก็แนะนำตัวกัน ผมจำได้ว่ามีพี่กิฟ พี่พลอย พี่แชมป์ พี่นัท

       หลังจากผมแนะนำตัวเสร็จก็ต้องมาซ้อมลีดกันทันที ผมก็เต้นยกมือกางขาแอ่นอกไปตามพี่เขาแบบเงอะๆงะๆ ไม่คิดว่าชีวิตนี้จะต้องมาเจออะไรแบบนี้


      พวกผมซ้อมจากบ่ายโมงจนถึงหกโมงเย็น พวกพี่ก็เอาข้าวกล่องมาแจกและพวกเราก็เริ่มตั้งวงคุยกัน พวกพี่ๆส่งกระดาษให้เราเวียนจดชื่อและเบอร์โทรศัพท์

      "เอาล่ะค่ะ เรามาซ้อมสเต็ปมือกันต่อนะคะ"

      "ครับ/ ค่ะ"

      พวกเราตั้งแถวหลังยืนการ์ดเสร็จ 15 นาที ก็ซ้อมท่าเพลงแรกที่ได้รับท่าคือเพลงประจำมหาวิทยาลัย


      หลังจากซ้อมเสร็จตอนสี่ทุ่มกว่า พวกพี่ๆก็ปล่อยพวกเรากลับบ้าน แต่ก็ทิ้งท้ายประโยคที่น่าสยดสยองสำหรับพวกเราลีดปีหนึ่ง

     "น้องๆคะ วันนี้พอแค่นี้ก่อนนะคะ กลับไปอย่าลืมท่องกฎแสตน 6 ข้อทุกวันด้วยนะคะ ต่อไปนี้เราต้องซ้อมทุกวัน จันทร์ถึงอาทิตย์ ไม่มีวันหยุด เป็นเวลาสองเดือนก่อนจะถึงเฟรชชี่เกมส์"

       "ค่ะ/ครับ"

       หลังจากพี่ๆพูดจบ พวกผมก็แทบจะไหลลงไปกองกับพื้น ทั้งเหนื่อย ทั้งอึ้ง ทั้งเซ็ง พวกเพื่อนๆก็พากันบ่น

       "หา! ซ้อมทุกวัน"

       "ซ้อมทุกวันเลยเหรอ"

      " อิสระของชีวิตชั้นกำลังจะบินหายไป"

      "แล้วจะได้ไปช็อปปิ้งกับเพื่อนๆ ไหมเนี่ย”

      พวกเราทั้งแปดพากันเดินกลับบ้านไปด้วยกัน


      "น้องฉัตรมานี่ก่อน"

      พี่แชมป์เดินเข้ามาเรียกผมให้อยู่คุยกับพี่เขาก่อน ผมเลยได้แต่โบกมือลาเพื่อนๆ ใหม่ ทีมลีด

      "ไปนะเว้ย ฉัตรแล้วเจอกัน"

      "เออๆ แล้วพรุ่งนี้เจอกัน"
 

     หลังจากเพื่อนๆ ผมเดินจากไป พี่แชมป์ก็เข้าคุยกับผม

     "พี่รู้ว่า การที่น้องไว้ผมยาวมันเป็นสิทธิ์ของน้อง แต่น้องครับ น้องต้องเป็นลีดคณะ จะมาไว้ผมยาวอย่างงี้คงไม่ดีแน่ๆ พี่อยากขอร้องให้น้องไปตัดผม"

      "ผมไม่ตัดได้ไหมพี่ ถ้าเรื่องมากนัก ผมไม่ปงไม่เป็นมันแล้วลีด พี่หาคนแทนไปล่ะกัน"

      "อ้าว ไมน้องเป็นคนแบบนี้ล่ะ แค่ตัดผมแค่นี้ทำเผื่อคณะไม่ได้หรือไง เป็นตุ๊ดหรือไงว่ะ อยากไว้ผมยาวน่ะ"

      พอได้ยินไอ้พี่คนแชมป์พูดแบบนัน ขีดความอดทนของผมมันเหมือนหมดไปทันที ผมเผลอจับพี่เขาทุ่มลงไปกองกับพื้น

      "โอ้ยยย"

      "โทษทีพี่ มือมันลื่น"

      "ช่างเถอะ พี่ก็ต้องขอโทษน้องด้วย การเป็นลีดมันไม่ใช่จะมาสวยๆหล่อๆ เริ่ดๆ เชิ่ดๆนะน้อง มันคือการเสียสละ พวกเราทุกคนเป็นตัวแทนคณะ ต้องมีความรับผิดชอบและเสียสละเวลา น้องก็เห็นว่า พวกเราซ้อมกันหนักขนาดไหน พวกเราทุ่มเทเพื่อคณะของเรา ถ้าพี่บังคับน้องเกินไป พี่ก็ต้องขอโทษด้วย พี่แค่ต้องการให้น้องเข้ามาเป็น"ครอบครัวลีดของเรา" เป็นที่ภาคภูมิใจของคณะเรา"

       พอพี่แชมป์พูดจบ ผมรู้สึกผิดขึ้นมาทันทีที่แสดงความก้าวร้าวกับพี่เขา

       "ผม ผมขอโทษครับ พี่ พรุ่งนี้ผมจะไปตัดผม ผมจะตั้งใจทำให้มันออกมาดี ให้พี่ๆ ภูมิใจ"

       "ดีมาก พี่ขอบใจน้องมาก ขอบใจจริงๆ"
       พี่แชมป์ส่งยิ้มมาให้และตบบ่าผมเบาๆ

       "ครับ"

       "พรุ่งนี้เจอกันห้าโมงเย็นนะ"

       "ครับ เจ็บไหมพี่"

       "เจ็บดิ เก่งเหมือนกันนะเนี่ยล้มพี่ซะนอนหมดท่าเลย"

       "ผมเป็นนักกีฬาเทควันโดครับ"

       "สุดยอดเลยน้อง" พี่เขาดูนาฬิกาแล้วก็พูดว่า "กลับบ้านเหอะน้อง ดึกแล้ว พรุ่งนี้เจอกัน"

        "ครับพี่"

       ผมพูดจบก็เดินออกจากห้องกิจกรรมคณะทันทีด้วยอารมณ์นอยด์ๆ เซ็งๆ  และรู้สึกผิดที่ใช้อารมณ์ก้าวร้าวกับรุ่นพี่ ผมเดินเตะก้อนหินสบายอารมณ์ ผมแกะยางรัดผมและขยี้หัวอย่างหงุดหงิด



       "โธ่เว้ยยยยยยยยยย"
       ผมเดินผ่านมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ของผมไป ปล่อยเอาไว้ที่คณะแบบนี้นี่แหล่ะ ผมเดินไปฝากรถไว้กับพี่ยามที่เคยเซ่นด้วยกระทิงแดงยกโหล เพราะขืนขับไปตอนนี้มีหวังบิดสุดแรงเกิด เดี๋ยวจะเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาจะยุ่ง เมาไม่ขับ อารมณ์ไม่ดีก็ไม่ควรขับ ขับรถต้องมีสติครับ


       ผมเดินเตะก้อนหิน เดินเตะกระป๋องไปตลอดทางจนมาถึงปากทางเข้าหอก็เห็นคนกำลังโดนรุมซ้อมอยู่ใต้ต้นมะขาม ที่ตรงนี้แสงไฟสลัวๆ ทำให้มองเห็นสภาพคนเจ็บไม่ชัดเจน แต่ก็น่าจะเป็นผู้ชาย
 
   "เฮ้ย ทำอะไรกันน่ะ หยุดเลยนะเว้ย"
    ผมตะโกนชี้หน้าด่าพวกมัน เกลียดจริงไอ้พวกรังแกคนไม่มีทางสู้เนี่ย

    พวกนักเลงประมาณสิบกว่าคนเงยหน้ามามองผมแล้วพูดว่า
    "อ้าวคนสวย ถ้าไม่อยากเจ็บตัวอย่างมายุ่งดีกว่า พี่ไม่อยากรังแกผู้หญิงนะ"
 
      ผมกำหมัดแน่นเมื่อหนึ่งในกลุ่มนักเลงเดินเข้ามาใกล้ๆผมแล้วเอื้อมมือจะมาจับมือผม ผมจับมันทุ่มทันทีอาศัยมีเผลอเตะก้านคอมันไปก่อนที่เพื่อนมันจะกรูเข้ามารุมผม
 
    "เฮ้ย พวกมึงออมมือไว้หน่อยนะ คนสวยนี่ของกู กูจะจับทำเมีย"
    เสียงคนที่มันน่าจะเป็นนักเลงตะโกนบอก ผมยิ่งของขึ้น ตั้งใจว่าจะไปตัดผมพรุ่งนี้แน่นอน  แต่ตอนนี้ขอผมซัดมันให้ร่วงคาตีนสลบกองกับพื้นก่อน


       ภายในห้านาทีที่ผมก็ซัดพวกมันจนล้มลงหมด คราวนี้ก็เหลือแต่ไอ้หัวหน้าแก๊งค์ปากเสียคนนั้น ผมถลาไปดึงเสื้อมันก่อนจะต่อยปากมันจังๆ แล้วโชว์มวยไทยทีเด็ดท่าจระเข้ฟาดหาง ถึงผมจะเป็นนักกีฬาเทควันโด แต่ผมก็ฝึกศิลปะป้องกันตัวมาทุกรูปแบบรวมทั้งการยิงปืน ใช้มีด โดดร่มหรือการกู้ระเบิดเพราะพ่อผมเป็นตำรวจ
 
     หลังจากล้มนักเลงกระจอกพวกนี้ได้ ผมก็เดินไปหาคนเจ็บที่นอนงอขาท่าจะเจ็บหนักอยู่เอาการ หน้าบวมช้ำและเต็มไปด้วยเลือด
      "นางฟ้า"
 
     "ห๊ะ"
     เขาพูดว่าอะไรนะ ผมรู้สึกได้ยินไม่ค่อยชัด
 
    "ขอบคุณนะ นางฟ้า"
 
    คราวนี้ได้ยินชัดเต็มสองหูเลย ถ้าไม่เห็นว่า หน้าตาขี้เหร่อยู่แล้วจะชกให้ดั้งหักเลย กล้าดีอย่างไงมาเรียกคนที่โคตรจะแมน หล่อทุกอณูอย่างฉัตร ปริยฉัตรว่า "นางฟ้า"

    ผมเห็นไอ้คนตาถั่วมันสลบไปแล้วก็อดจะเอามือไปอังลมหายใจไม่ได้
 
     "ยังไม่ตาย"
 
        ผมยกโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาพี่กู้ภัยและอยู่รอจนกว่าพี่ๆจะพาคนเจ็บไปส่งโรงพยาบาล
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    ผมนี่ไม่ได้มีดีแค่หน้าตา แต่หล่อแล้วยังเป็นพลเมืองดีอีกด้วยล่ะคร้าบบ..

    (จบตอน)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-06-2017 02:18:52 โดย natsikijang »

ออฟไลน์ natsikijang

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 540
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-4
Re: In Love With My Roommate : EP: 2 * 2 June 2017 * (50%)
«ตอบ #3 เมื่อ02-06-2017 09:31:09 »

       
In Love With My Roommate

   
EP  :  2


            บริเวณหน้าหอ A1 บริเวณลานจอดรถข้างหน้าหอ มีสายตาคู่หนึ่งกำลังมองนักศึกษาหนุ่มสองคนกำลังสนทนากันอยู่ ถุงทอง แมวเปอร์เซียสีทองตัวอ้วนนั่งจุ้มปุกอยู่บนเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์เหมือนมันเป็นเจ้าของหอ

           "อ่ะ มึงรูปพร้อมID Line น้องแก้มชมพู นี่กูต้องไปขอมาจากพี่วิน ประธานชมรมเทควันโดมาเลยนะมรึง เสี่ยงโดนเตะชิบหาย เก็บดีๆล่ะมึง"

           "ขอบใจมากนะเพื่อน " เขารับรูปมาแล้วสอดไว้ในสมุดเลคเชอร์ที่ถืออยู่เพราะกลัวรูปจะยับ

           "ปิง มึงนี่มันก็แปลกนะ เป็นมาโซคิสต์หรือไง น้องแก้มชมพูแม่งโหดชิบหาย ตั้งแต่มึงไปจีบน้องเขามาเนี่ย กูเห็นมึงโดนทั้งตีนทั้งหมัด เห็นมึงเป็นกระสอบทรายหรือไงว่ะ"

           "มึงไม่เข้าใจหรอก กูชอบน้องเขา ยิ่งช่วงนี้น้องเขาไว้ผมยาวด้วยน่าฮักขนาด ดูดีกว่าตอนผมสั้นสมัยม.ปลายซะอีก"


           คนที่ชื่อปิงยิ้มมุมปาก มองรูปภาพในมือด้วยสายตาอ่อนโยน

            "เป็นหนักนะมึงน่ะ งั้นกูไปก่อนนะ"

            "เออๆ  แล้วเจอกันเว้ย พจน์"


           ถุงทองเดินสะบัดหางเดินตามนักศึกษาที่ชื่อปิงซึ่งกำลังแบบของพะรุงพะรังไปที่ลิฟต์ของหอ

          "เมี้ยวว"

          "อ้าว ถุงทอง ไปไงมาไงล่ะเนี่ย"

          เขาทักทายแมวของเพื่อนร่วมคณะที่ชอบตามคนนั้นคนนี้ไปเที่ยวห้องต่างๆ แต่ไม่ยอมให้ใครอุ้มนอกจากเจ้าของหน้าหล่อและเป็นแมวที่ไม่ค่อยชอบผู้หญิงทั้งที่เป็นตัวผู้


         เขาแล้วรอลิฟต์จนลิฟต์เปิด เจ้าสีทองเดินสะบัดหางเข้าไปอยู่ในลิฟต์ด้วย เขากดลิฟต์ไปที่ชั้น 9 พร้อมกับเจ้าสีทองที่นั่งรออย่างสงบเสงี่ยมจนกระทั่งลิฟต์เปิดออก

        "เอาออกไปสิ อุตส่าห์มาส่งถึงห้องแล้ว"

        เขามองไปห้องด้านขวามือของลิฟต์ที่มีตะกร้าสีน้ำตาลขนาดกลางมีเบาะรองและชามอาหารแมวและถ้วยใส่น้ำที่บอสเพื่อนร่วมคณะของเขาวางไว้หน้าห้อง

         พอเห็นว่าแมวยังเฉย

        "อยากมาเล่นห้องพี่ล่ะสิ ฉลาดแสนรู้ดูหยิ่งๆเหมือนไอ้บอสมันไม่มีผิด"

        "เมี้ยววว"

        ปิงจึงกดลิฟต์ไปชั้น 5 แทน พอเขาไขกุญแจห้อง แมวแสนรู้ก็เดินนำหน้าเจ้าของห้องเข้าไปทันที


          เขากำลังจะไปอาบน้ำ เพราะเขารู้ตัวว่า เป็นคนอาบน้ำนานจึงเปิดประตูแย้มๆไว้ สีทองเป็นแมวฉลาดถ้ามันอยากจะออก มันจะใช้เท้าดันประตูออกไปเอง
 

        เจ้าแมวตัวอ้วนไปรื้อกองเสื้อผ้าและกางเกงแล้วกระโดดไปทับสมุด รื้อนู่นรื้อนี่จนพอใจแล้วมันก็ออกไปพร้อมกับคาบรูปภาพใบหนึ่งแล้วเดินขึ้นบันไดไปยังชั้นเก้าอย่างสบายใจ
       .
       .
       .
      พร้อมกับขโมยหัวใจของเจ้าของห้องไปให้เจ้านายของมันเรียบร้อย
      .
      .
      . 

      นี่คือแหล่ะที่เขาเรียกว่า 'แมวขโมย'  ตัวจริงๆเสียงจริง

 
Part บอส

            "ผู้หญิงเหี้ยไรว่ะ มือตีนหนักขนาดนั้น"

             ไอ้ตุล เพื่อนสนิทร่วมคณะพูดเสียงดังทันทีที่เปิดประตูเข้ามาในห้องพักผู้ป่วยของผม   

           "จริงด้วยว่ะ ขนาดไอ้บอสสูงยังกับเปรตยังโดนซ้อมซะน่วมนอนเป็นผักหยอดน้ำเกลืออย่างงี้  นางฟ้าของมันคนเดียวซัดพวกนั้นซะเดี้ยงไม่เป็นท่า เป็นไปได้ไงว่ะ"

          เพื่อนๆ มันชอบล้อว่า เปรตเพราะผมสูง192 ครับ

          ส่วนที่เดินตามหลังมาติดๆ นั่นคือไอ้ดินเพื่อนร่วมคณะสายฮาของผมครับ มันเป็นตัวสร้างสีสันเลยครับ ดีกรีรองประธานชมรมกองสันทนาการของมหาวิทยาลัย

         "เออ  กูก็ว่ามันทะแม่งๆนะ แน่ใจนะว่าคนที่ช่วยมันน่ะเป็นผู้หญิง" 

          นี่ก็ไอ้พัฒน์ เพื่อนสนิทวัยเด็กที่อยู่ข้างบ้านของผมเอง มันเรียนอยู่คณะสถาปัตย์คร้บ ติสต์ชิบหาย ดูการแต่งตัวของมันสิ เสื้อนักศึกษากับกางเกงยีนส์ขาดๆ กระเป๋าย่ามหลากสีเหมือนเด็กวัดคู่กับรองเท้าผ้าใบระบายสีเอง ข้างหนึ่งสีดำ ข้างหนึ่งสีแดง คำว่า "เซอร์กับซกมกเหมือนมีเส้นบางๆกั้นอยู่เสมอ" สาวๆว่า มันเซอร์ แต่ผมว่ามันซกมกมากกว่านะ ไอ้พัฒน์มันเดินเข้ามาเป็นคนสุดท้ายครับ


         พวกมันกำลังบรรยายถึงนางฟ้าในดวงใจของผมอยู่ครับ

        แนะนำตัวกันก่อนนะครับ ผม บอส ชื่อจริงนายตุลา  ลิ้มไพศาลอนันต์ นักศึกษาชั้นปีที่ 2 คณะนิติศาสตร์ มหาลัยซี 
ใครๆ ก็เรียกพวกผมว่า แก๊งค์เด็กเทพเพราะพวกผมมีดีที่สมอง

       
         เดี๋ยวครับ อย่าเพิ่งหมั่นไส้กันนะครับ พวกผมเรียนได้คะแนนดีขั้นเทพด้วยครับ ผมสอบได้ที่หนึ่งของคณะด้วย แต่ผมต้องพยายามอย่างหนักไม่อยากให้เสียชื่อเสียงพ่อแม่ผมซึ่งก็คือศ. ดร. สิงหา และร.ศ. ดร.กันยา ลิ้มไพศาลอนันต์ อาจารย์มหาวิทยาลัยคนดังไงครับ


         คนที่ไม่รู้จักผมจริงๆ ชอบหาว่าหยิ่ง แต่ที่จริงผมชอบนอน รักความสงบมากกว่าไปทำกิจกรรม ปีหนึ่งผมเป็นเดือนคณะและเดือนมหาวิทยาลัยเลยโดนลากไปทำกิจกรรมสารพัดโคตรจะอึดอัดใจ พอตอนนี้ผมขึ้นปีสองแล้วผมจึงมีเวลาเป็นส่วนตัวมากขึ้น พอกลับจากเรียน ผมก็กลับหอมานอนทันที แต่ช่วงนี้ทรมานหน่อยเพราะพวกเด็กนรกห้องตรงข้ามมันชอบส่งเสียงโหยหวนบ้าๆบอๆแทบจะทุกวัน


         ส่วนตอนนี้ความหล่อของผมในฐานะเดือนมหาลัยคงกระเด็นหล่นหายไปหมดแล้ว ใบหน้าผมบวมช้ำ ตาปูด รอยสีเขียวเป็นจ้ำรอยตัวเต็มไปหมด หลังจากโดนวัยรุ่นคู่อริที่เคยมีทำร้ายผมเพราะผมยื่นมือเข้าไปช่วยยายหาบเร่ขายผลไม้เมื่ออาทิตย์ก่อน เรียนกฎหมายต้องพิทักษ์สิทธิ์  ต่อให้ตัวตาย ฟ้าถล่มดินทลาย แต่ความยุติธรรมต้องยังคงอยู่ ผมก็เกือบตายจริงๆ ต้องมามานอนหยอดน้ำเกลือในห้องพิเศษในโรงพยาบาลมา 3  วันเต็มๆ อยู่นี่ไงครับ

        "หยุดเลยพวกมึง นินทานางฟ้าของกูซะเสียหายหมด"
 
          ผมพูดไปก็ชี้หน้าพวกมันเรียงตัว มันบังอาจมาว่า น้องนางฟ้าผู้มีพระคุณของผม
 
          "อ้าวมึงขยับปากพูดได้แล้วเหรอ"
 
       "เออ"

       "ฟื้นตัวเร็วนะมึง"

       "แมวเก้าชีวิตจริงๆ"

        "เมี้ยวว"

        ผมได้ยินเสียแมว และมั่นใจว่าตัวเองไม่ได้หูฝาดไปแน่ๆ

       "เสียงแมวที่ไหนว่ะ"

       "เอานี่กูเอาของมาเยี่ยมมึงด้วย"

        พัฒน์หยิบตะกร้าที่มันวางไว้บนชั้นวางออกมาแล้วเปิดผ้า

       "ถุงทอง"

        ถุงทองมันลุกขึ้นมาจากตะกร้าแล้วกระโดดลงขึ้นมาบนหมอนแล้วเลียหน้าผมด้วยความคิดถึง

       "เฮ้ย ไอ้พัฒน์ มึงบ้าเหรอว่ะ เอาแมวเข้ามาในโรงพยาบาลได้ไง"

        "มึงก็รู้มนุษย์อินดี้อย่างเชี่ยพัฒน์สนใจโลกที่ไหน"

        "5555 แล้วมึงไปเจอมันที่ไหนมา"

        "กูออกมาจากหอแล้วเจอมันนั่งเลียน้ำในศาลพระภูมิ แมวมึงกลายเป็นแมวมีองค์ไปแล้ว กูเลยมันมาเยี่ยมมึงหน่อย เนี่ยกูอุตส่าห์ขอเจ้าหน้าที่ให้ไปหยิบตระกร้าที่หน้าห้องของมันมาด้วย"

        "อ่อ แล้วนี่พวกมึงรู้อะไรเกี่ยวกับน้องนางฟ้ากูบ้างหรือเปล่า"

        ผมกำลังหลบหน้าจากการเลียของถุงทอง มันคงจะคิดถึงและห่วงผมมาก ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา ผมไม่เคยห่างจากมันไปนานขนาดนี้มาก่อนเลย

        "พอทางกู้ภัยโทรมาหากู กูก็รีบมาหามึงทันที ไม่เห็นใครเลยว่ะ เห็นแต่มึงสารภาพเละซะกูแทบจำไม่ได้"

        " เอานี่แว่น แตกกระจุยเหลือแต่ซาก"

         ตุลยักไหล่ตอบขณะกำลังนั่งปอกส้มของเยี่ยมของผมกินหน้าตาเฉยแล้วล้วงกระเป๋าหยิบเศษแว่นตายื่นมาให้ผมดู

        "เอาทิ้งไปเลย แล้วอย่างนี้กูจะไปตามหาน้องนางฟ้า รักแท้ของกูได้ที่ไหนว่ะ"

        "หนักนะมึง"

        ดินส่ายหัวเหมือนระอากับความเพ้อของผม แต่ทำอย่างไงได้ก็ผมกำลังตกอยู่ในห้วงความรักนิครับ

        "เฮ้อ ทำยังไงกูถึงจะได้เจอนางฟ้าของกูอีกครั้งว่ะ"

        "เพ้อนะมรึงน่ะ  เป็นเอามากว่ะ"

        "คนนี้กูเอาจริงนะเว้ย"

        "กูก็เห็นมึง"เอา" จริงทุกคน"

        "สัด กูหมายถึง คนนี้กูอยากจะจริงจังด้วยโว้ย"

        "55555 ก็อย่างมรึงน่ะ เห็นเงียบๆ แต่ฟาดเรียบทุกคน กูไม่นึกว่าคนเจ้าชู้อย่างมึงจะมีวันนี้กับเขาด้วย"

        "พวกมึงแม่งไม่เข้าใจ กูไม่ได้เจ้าชู้เว้ย กูแค่ยังไม่เจอคนที่ใช่แค่นั้น"

        "เหรอ เอ้า นี่ของน้องเอ  ส่วนนี่ของน้องชมพู และนี่ก็ของพี่แมรี่ สาวๆของมึงอยากจะมาเยี่ยมมึงทั้งนั้น แต่กูไม่ให้เขามา กลัวจะตบกันแย่งมึงเลยอ้างไปว่าป๊ามึงดุมากไม่อยากให้รบกวนมึง"

        "เออ พวกมึงทำดีมาก"

        "คราวหลังมึงก็อย่าหว่านเสน่ห์ให้มันมากนัก กูขี้เกียจตามเช็ดตามล้างปัญหาให้มึง"

        ตุลมันทำหน้าเหม็นเบื่อ แต่ผมรู้ว่ามันพูดไปอย่างนั้น เวลามีผู้หญิงเข้าหาผมก็ได้มันนั่นล่ะเป็นตัวตั้งตัวตีเป็นไม้กันหมาให้
     


        ขณะที่พวกผมคุยกันอยู่ จู่ๆ ถุงทองก็ลุกขึ้นไปคาบรูปถ่ายภาพหนึ่งมาหย่อนบนหัวผมเหมือนมันจะอวดเวลาจับหนูหรือจับจิ้งจกได้ ผมหยิบรูปขึ้นมาดูด้วยความอยากรู้

       "มึงเชื่อในพรหมลิขิตไหมว่ะ" 

        ทันทีที่ผมเห็นคนในรูปก็นึกถึงเรื่องพรหมลิขิตขึ้นมาทันที

       "ยังไม่หยุดเพ้อนะมึง กูนี่อุตส่าห์พยายามเปลี่ยนเรื่อง"

       "มึงดูนี่ รูปน้องเขา"

       ผมยื่นรูปน้องเขาให้พวกมันดู

       "ห๊ะ"

        พวกเพื่อนๆ ผมพากันงงเป็นไก่ตาแตก

       "สวยว่ะ สวยอย่างกับนางฟ้า"

        ดินมันเข้ามาชะเง้อดูใกล้ๆ พอเห็นรูปแล้วก็ถึงกลับทำตาลอยๆ เพ้อๆจนผมหมั่นไส้จนตบหัวมันไปแรงๆ

        "โอ๊ย เชี่ย"

        "ของกูเว้ย เขาเป็นคู่กับกู ถุงทองเป็นพ่อสื่อให้กู"

        "กูเชื่อแล้วว่า แมวมึงมีองค์ เดี๋ยวงวดหน้ากูต้องมาขอเลขเด็ดจากแมวมึงแล้ว"

        "ถุงทองมันซึมซับพลังศักดิ์สิทธิ์จากสวรรค์ อ๊าาย๊าาา"

        "ไอ้พวกบ้า มันรู้ใจพ่อมันต่างหากเว้ย"

        ผมรีบเถียงไอ้ดินกับไอ้ตุลที่กำลังทำท่าทางปล่อยพลังแสงอุตต้าแมน อีกคนก็เลียนแบบหนังจีนกำลังภายใน พวกนี้บ้าจริงของแท้

        "กูว่าคุ้นๆนะ แต่นึกไม่ออกว่าเคยเจอที่ไหน แต่นี่มึงอย่าบอกนะว่ามึงคิดจะจริงจังกับผู้หญิงคนนี้ เฮ้ย ทั้งที่มึงยังไม่รู้จักเขาเลยด้วยซ้ำเนี่ยนะ มึงบ้าไปหรือเปล่า ไอ้บอส"

         พัฒน์มันเดินมานั่งไขว้ห้างข้างเตียงผมแล้วเขย่าตัวผมอย่างแรง

        "ปล่อยสิว่ะ เออ กูบ้า แต่กูก็บ้าเพราะรักนะเว้ย มึงไม่เคยได้ยินคำว่ารักแรกพบหรือว่ะ โอ๊ย กูเบื่อจะนอนโรงบาลเต็มทีแล้ว เซ็งว่ะ เมื่อไรกูจะได้ออกไปตามหาน้องนางฟ้ารักแท้ของกูว่ะ"

         ผมบ่นด้วยอารมณ์หงุดหงุด

        "มึงแค่มีรูปเขา ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาชื่ออะไรก็เพ้อไม่หยุด กูว่าว่างๆ มึงก็ท่องกฎหมายไปดิว่ะจะได้ไม่ฟุ่งซ่าน"

         ตุลย์มันพูดขึ้นแล้ววางประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์เล่มหนาไว้ข้างๆเตียงผม

        ส่วนดินก็โยนชีทมาบนเตียงผมแล้วพูดว่า

        "เอานี่ชีทวันนี้ จารย์สุพจน์ ก.ม. หุ้นส่วน - บริษัทแม่งสอนเร็วว่ะ จดจนมือหยิกเลย แล้วก็วิชาทรัพย์เปิดมาคาบแรกก็จัดหนักเลยว่ะมึง ส่วนวิชาอื่นๆ ก็ไม่ได้มีอะไรมาก มึงโชคดีนะที่ป่วยสัปดาห์แรก ถ้ามึงป่วยวันอื่น กูไม่ยากจะนึก"

        "ถึงฉลาดๆแบบมึงก็ไม่น่ารอด"

        มันพูดถูกครับ กฎหมายเป็นวิชามีเนื้อหาเยอะมากๆ ทั้งตัวบท ทั้งฎีกา ไม่ใช่แค่วิชาท่องจำ แต่ต้องรู้จักคิดวิเคราะห์ด้วย ต่อให้ฉลาดแค่ไหน ถ้าไม่ท่องกฎหมาย ไม่อ่านหนังสือก็ไม่รอดแหล่ะ

        "มึงรีบๆ หายแล้วรีบๆมาเรียนนะมึง พวกกุไม่มีคนติวให้"

        ดินพูดแล้วเดินไปนั่งแกะขนมของเยี่ยมกินต่อ ขณะที่พัฒน์มันเงยหน้ามามองผมแล้วชี้นิ้วมาทางรูปภาพน้องนางฟ้า

        "ข้างหลังภาพ"

        "ห๊ะ"

        ผมพลิกดูทันทีเห็นตัวหนังสือเขียนว่า


        "แก้มชมพู  ID Line : pariyachat4"
         .
         .
         .
         .
         .
         .
         ผมเชื่อว่าพรหมลิขิตมีจริงก็วันนี้ล่ะครับ...
 

         (50%)


         PS.  ฝากเรื่องนี้ด้วยนะคะ ถึงคนอ่านจะน้อยแค่ไหน ต่อให้มีคนอ่านแค่คนเดียวนัทสึก็จะแต่งต่อจนจบ  แต่จะดีมากๆ ถ้ามีคอมเม้นต์สักหน่อย เป็นกำลังใจให้กัน นัทสึจะดีใจมากๆ เลยค่ะ


          วันนี้ลากันไปด้วยภาพแมวมีองค์ค่ะ  เคยสงสัยกันไหมทำไมพวกแมวชอบไปนอนตามศาลพระภูมิ แปลกจัง?


               
         เครดิต : ภาพจากเพจทาสแมว

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-06-2017 00:04:05 โดย natsikijang »

ออฟไลน์ natsikijang

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 540
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-4
       
In Love With My Roommate

   
EP  :  2 (100%) 




          หลังจากนอนโรงพยาบาลอยู่ 3 วัน ป๊าม๊าเพิ่งรู้ข่าวก็รีบโทรมาถาม ทั้งคู่จะรีบบินกลับจากดูงานที่ฝรั่งเศส แต่ผมวิดีโอคอลไปให้เห็นว่าผมไม่เป็นอะไรแล้วให้อยู่ดูงานต่อ และหมออนุญาตให้ผมกลับมาพักฟื้นที่หอได้แล้ว

          พวกเพื่อนๆ ผมผลัดกันมาดูแลผมตลอด ตอนนี้ผมกำลังนอนอยู่ในห้อง ผมกำลังแอดไลน์น้องนางฟ้าครับ

          ผมกดส่งสติ๊กเกอร์สวัสดีไปแล้วนอนกลิ้งไปกลิ้งมาไม่รู้จะส่งอะไรต่อไปดี น้องอ่านแล้วแต่ไม่ตอบอะไรและยังไม่ยอมรับผมเป็นเพื่อน
          .
          .
          .
          .
          เอาไงดีว่ะ
          .
          .
          .
 
          ผมตัดสินใจพิมพ์ไปว่า "ขอบคุณนะครับที่ช่วยผมจากกลุ่มนักเลงวันนั้น"

          สักพักก็มีเสียงไลน์ดัง น้องตอบกลับมาว่า

          "อือ"

          สั้นๆ ง่ายๆ ได้ใจความ

          ตอบมาสั้นแค่เนี้ย ไปไม่เป็นเลยเรา เอาไงดีว่ะ  ไปอาบน้ำสักหน่อยเผื่อหัวจะแล่น

          พออาบน้ำเสร็จ ผมก็ส่งไลน์ไปแนะนำตัวใหม่       

          "พี่ชื่อ ตุลา  ลิ้มไพศาลอนันต์ ชื่อเล่นบอส เรียนนิติศาสตร์ ปี 2 ม. อินทนิลนะครับ"

          อ้าวเฮ้ย...เงียบและเงียบไปตลอดไม่ว่าผมจะพยายามส่งข้อความไปทักขนาดไหน

          ส่วนผมก็ไม่ละความพยายามครับ ผมเชื่อว่าน้ำหยดลงหิน สักวันหินมันยังกร่อย ตื๊อไปตื๊อมาเดี๋ยวน้องเขาก็คงตอบผมสักวัน ถึงอนาคตไม่ได้เป็นแฟนได้เป็นพี่เป็นน้องกันก็ยังดี



           หลังเลิกเรียนคาบศุกร์เช้า ผมก็กลับหอมานอนครับ ช่วงที่กำลังครึ่งหลับครึ่งตื่น

          "ก๊อกๆๆๆ เปิดๆ ไอ้เชี่ยบอส นอนกลางวันอีกแล้วนะมึง ก๊อกๆๆ "

          ผมพยายามมุดใต้ผ้าห่มแต่เสียงไอ้พัฒน์ก่อกวนไปถึงโสตประสาทของผม

          "ก๊อกๆ ๆ เปิดเลย กูถามพี่ยามมาแล้ว กูรู้ว่ามึงอยู่ในห้อง"

            ผมเปิดประตูออกไปอย่างเซ็งๆ

           "เกลียดนักคนรู้ทันเนี่ย"   

          "5555  กูฝากหนังสือให้น้องฉัตร น้องเทคกูด้วย มันอยู่ห้อง 901"

         "อืม"

         ที่แท้เด็กนรกที่ชอบส่งเสียงดังมันชื่อฉัตร

         "ฝากดูมันด้วย น้องมันเป็นเด็กช้าง รหัสมันไม่ตรงกับใคร แล้วปีนี้กูก็ไม่มีน้องรหัส เพื่อนๆ เลยให้กูเป็นพี่เทคมัน"

          "ได้ๆ"

          ผมเปิดประตูให้มันเข้ามาในห้อง

          พัฒน์ขนหนังสือมาให้ฉัตรในฐานะน้องเทค  มันแบกมาวางไว้มุมหนึ่งของห้อง

         "งั้นกลับหอก่อน ท่าทางฝนจะกำลังจะตกว่ะ อยู่นานไม่ได้วันนี้กูเอามอไซค์มา"

          "เอ่อ แล้วเจอกันนะมึง"

          ผมปิดประตูแล้วเดินกลับไปนอนต่อ



          ผมตื่นมาอีกทีก็ปาเข้าไปตอนสองทุ่ม ผมตื่นเพราะหิวล้วนๆ เลย ผมเดินไปหยิบกระเป๋าตังค์กับโทรศัพท์เตรียมตัวออกไปหาอะไรกินและหาอะไรมาตุนเป็นเสบียงอ่านหนังสือคืนนี้เสียหน่อย

         ผมเปิดประตูออกแล้วชะเง้อมองห้องตรงข้าม เด็กห้องตรงข้ามน่าจะยังไม่กลับ ไม่รู้มันทำอะไรกันนักหนา ช่วงนี้เห็นมันกลับดึกทุกคืน แต่มันก็ดีสำหรับผม ช่วงนี้สงบขึ้น เพราะมันกลับมานอนอย่างเดียว แล้วมันก็ไม่ได้พาเพื่อนมาส่งเสียงดังกวนเวลานอนเวลาอ่านหนังสือผมอีก


           หลังจากกินข้าวเสร็จ ผมก็เดินกลับมาที่ห้อง พอเห็นไฟห้องน้องเทคไอ้พัฒน์เปิดอยู่ ผมก็เดินไปเคาะประตูห้องน้องมันทันที

          "ก๊อกๆๆ"

          สักพักหนึ่งก็มีเด็กหน้าตาจิ้มลิ้มหน้าอมชมพู ตัวขาวอวบๆนุ่งผ้าเช็ดตัวผืนตัวมาเปิดประตู
          .
          .
          ขาวชิบหาย!
          .
          .

          น้องมันทำหน้าเหรอหรา สักพักหนึ่งมันก็ยิ้มแฮ่เห็นฟันมาให้

         "มีอะไรพี่"

          "น้องฉัตร ถาปัตย์ ปีหนึ่งใช่ไหม"

          "ใช่ครับ"

          "ไอ้พัฒน์ พี่เทคน้องฝากชีทไว้ให้น่ะ รอแป๊บนะ"

          ผมหันหลังเดินไปห้องตัวเองแล้วไขกุญแจเปิดประตูห้องเข้าไปยกชีทของมันมาให้ ระหว่างที่กำลังแบกมาวางให้ในห้องมัน ผมก็รู้สึกปวดแขนจี๊ดขึ้นมากะทันหันคงเพราะยังเจ็บแผลที่แขน ผมเลยเผลอปล่อยชีทร่วงตกจนเกือบจะโดนเท้าน้องมัน
 
          "เชี่ย"  มันกระโดดหลบชีทจนเสียหลักทำท่าจะล้ม พอเห็นมันจะล้ม ผมเลยรีบขยับไปคว้าตัวมันไว้จนสุดท้ายก็ล้มไปด้วยกัน

          "โทษทีๆ เฮ้ย! "

          ผมทรงตัวไม่อยู่เผลอล้มไปทับน้องมัน ผมหลับตาปี๋ เจ็บตัวซ้ำอีกแล้วกู
 
          เฮ้ย...ไม่เจ็บอย่างคิดเว้ยเฮ้ย !

          "พวกมึงทำอะไรกันน่ะ"

          เสียงพี่ก้องประธานหอดังขึ้นมา ทำให้ผมรีบลืมตาขึ้นมาทันที หน้าอยู่ห่างจากน้องมันแค่ไม่กี่เซน ผมเห็นทั้งสายตาไม่พอใจของไอ้น้องฉัตรกับสายตาแบ๊วๆ ของถุงทองที่มองมาทางผม
   
          "เมี้ยววววว"


          ตอนนี้สภาพของพวกผมคือ ผมนอนทับตัวน้องมัน ส่วนมือข้างขวาของผมก็จับอยู่ที่ก้นของน้องมัน ยังถือว่าโชคดีนะที่ผ้าเช็ดตัวไม่หลุดไปก่อน ไม่งั้นจะคงกลายเป็นภาพอนาจารไป

          เหตุการณ์มันเกิดขึ้นกะทันหันจนผมทำอะไรไม่ถูก ตอนนี้ผมยังช็อคไม่หาย แต่ที่ช็อคกว่านั้นคือจู่ๆ ไอ้น้องฉัตรก็เหวี่ยงหมัดโดนเบ้าตาผมพอดีเป๊ะ

          "โอ๊ยยยย"

          "ไอ้เชี่ย ไอ้โรคจิต มึงจับก้นกู"

           มันชี้หน้าด่าผม แล้วไอ้เด็กอ้วนหวงก้นมันก็เดินแบกชีทเข้าห้องไปแล้วปิดประตูใส่หน้าผมเสียงดัง

          "ปัง"

          "อะไรวะ คนอุตส่าห์เอาชีทมาให้ คำขอบคุณสักคำก็ไม่มี ไอ้เด็กนี่มันหมัดหนักชะมัด ก้นมันใครอยากจะจับวะ"

          "เฮ้ย ไอ้บอสหล่อลื่นนะมึงอ่ะ เป็นอะไรป่าวว่ะ"

          พี่ก้องเดินเข้ามาช่วยพยุงผมลุกขึ้น
 
          "ก็เจ็บนะสิพี่ ถามได้ แล้วนี่พี่มาหาผมมีอะไรหรือเปล่า"

          "กูเอากระดาษจับบัดดี้หอปีนี้มามึงจับ เขาจับกันจะหมดทั้งหอแล้วตั้งแต่เมื่อวานแล้วเหลือแต่มึงกับไอ้น้องฉัตรนี่ล่ะ"

          พี่ก้องพูดถึงกิจกรรมจับบัดดี้ในหอที่จัดขึ้นทุกๆปี เริ่มเล่นกันในช่วงหนึ่งเดือนก่อนถึงวันเปิดหอ ใครจับได้ใครจะต้องปิดเป็นความลับห้ามให้ใครรู้ ไม่อย่างนั้นจะถูกลงโทษ แล้วจะมีการเฉลยบัดดี้และให้คู่บัดดี้แข่งกีฬาสะสมแต้มเพื่อชิงรางวัลใหญ่เป็นเงินหนึ่งหมื่นบาทและของรางวัลใหญ่จากผู้สนับสนุน

         ผมล้วงเข้าไปในขันแล้วหยิบใบรายชื่อขึ้นมาอ่าน

         "เฮ้ย พี่ผมขอเปลี่ยนได้ไหม"

         พี่ก้องส่ายหัวทันที

         "มึงอย่ามาเรื่องมาก ไอ้บอส กฎต้องเป็นกฎจับได้คนละหนึ่งครั้ง ขืนกูอนุญาต  เดี๋ยวคนอื่นรู้ก็มาขอกูอีกจะยุ่งกันไปใหญ่ กูรำคาญ"

         "โธ่พี่"

         "เอาน่า ไอ้ฉัตรมันก็แค่โกรธมึงแป๊บเดียว อยู่ชั้นเดียวกัน เดี๋ยวก็ต้องพึงพาอาศัยกัน มึงได้บัดดี้เป็นมันนั่นแหล่ะดีแล้ว"

         "ก็ได้พี่ งั้นผมไปนะ"

         "เออ มึงจะรีบไปนอนล่ะสิ ไปเถอะ เดี๋ยวกูไปหาฉัตรมันต่อ"

         ผมพยักหน้ารับแล้วเดินเซ็งๆ ไปเข้าห้องพร้อมกับถุงทองที่เดินส่ายหางอารมณ์ดีตลอดทาง

(จบตอน)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-06-2017 00:18:53 โดย natsikijang »

ออฟไลน์ natsikijang

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 540
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-4
       
In Love With My Roommate

   
EP  :  3 (50%) 


       
Part ฉัตร

       
       "ทำไมกูต้องมาอยู่กลุ่มเดียวกับไอ้เด็กหวงก้นนี่ด้วยว่ะ
           

        มันเริ่มโวยวายทันทีที่เห็นผมเดินเข้าไปนั่งข้างๆ พี่พัฒน์ มันคงหมายถึงทำรายงานกลุ่มเดียวกับผม

        'เด็กหวงก้น' มันกล้าดียังไงมาเรียกผมแบบนี้     

          นับตั้งแต่วันนั้นมาผมกับไอ้พี่บอสก็ต่างคนต่างอยู่เจอหน้ากันก็ทำเมินใส่กันจนกระทั่งวันพุธบ่ายคาบเรียนวิชาเลือกวิชาการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ผมเพิ่งจะรู้ว่าไอ้พี่บอสมันก็เรียนวิชานี้ด้วย เพราะเมื่อสัปดาห์ที่แล้วพี่มันหยุดไปครับผมเลยไม่ได้เจอมัน

        "ก็เพราะมึงไม่ยอมลงวิชาเลือกถ่ายภาพกับไอ้ตุลกับไอ้ดินไง ลืมไปแล้วเหรอมึง"

        "ไม่ใช่กูหมายถึงไอ้เด็กอ้วนนี่ทำไมต้องมาอยู่กลุ่มเดียวกับกู"

        มันชี้มาทางผมที่ยกมือไหว้พี่พัฒน์แล้วนั่งลงเปิดสมุด แล้วหมุนปากกาเล่นทำเป็นไม่สนใจ แต่จริงๆแล้วผมกำลังพยายามควบคุมอารมณ์อยู่ครับ ผมไม่อยากมีเรื่องในห้องเรียน

       "กูให้มันลงวิชานี้เพราะมันจะได้เก็บเกรดได้ไม่ยาก จะได้ช่วยฉุดเกรดมันหน่อย ยิ่งอยู่กลุ่มเดียวกับมึงด้วยยิ่งดีใหญ่"

      "มึงจะให้มันมาเกาะกูว่างั้น"

      "มึงก็พูดเกินไป กูแค่ให้มึงช่วยมันเล็กๆน้อยๆ ในฐานะรุ่นพี่ร่วมมหาลัยก็แค่นั้น"

      ผมฟังแล้วกำปากกาแน่น ผมไม่อยากให้ใครมาสงสาร ผมไม่ต้องการเกาะใคร ถึงผมจะเรียนไม่เก่ง แต่ผมก็อยากจะพยายามด้วยตัวเอง

      "เออ นี่มึงเป็นพี่เทคหรือเป็นพ่อมันว่ะ"

      "กูเป็นพี่เว้ย แต่กูแค่สงสารเด็กมัน เทอมนี้มันลงวิชากฎหมายทั่วไปด้วย มึงติวให้มันหน่อยล่ะกัน"

      "ไม กูต้องติวให้มันด้วย"

       "มึงเรียนนิติแล้วมึงก็อยู่ห้องตรงข้ามกับมันถือว่าเห็นแก่กู มันน้องเทคกูนะ  สงสารน้องมันหน่อย มันเป็นทั้งลีด ทั้งนักกีฬา เทอมนี้ปีหนึ่งตัดเกรดรวมทุกคณะด้วย เดี๋ยวเกรดมันแย่จะถูกไทร์เอา ตอนนี้น้องมันยังอยู่ในช่วงปรับตัวอยู่ "

      "แล้วเกี่ยวอะไรกับกู"

       ผมฟังแล้วอยากเอาปากกาทิ่มปากไอ้พี่บอสมัน

       "ถือว่าสงสารน้องมัน มึง"
 
       "เออ! ความสงสารของมึงสร้างความเดือดร้อนให้กูตลอด ใจดีผิดกับหน้าตาเถื่อนๆ ท่าทางเซอร์ๆ ของมึงจริงๆ ไอ้เด็กนี่ก็เรียนไม่ได้เรื่องแล้วยังจะเจือกไปทำกิจกรรมนู่นนี่อีก ทำอะไรเกินตัว"

        ผมยอมรับว่าผมเรียนไม่เก่ง แต่ผมจะทำอะไรมันก็เรื่องของผม ผมรับผิดชอบตัวเองได้ ทำไมผมต้องมานั่งฟัง'คนอื่น' มาว่าผมด้วย
   
          ผมเม้มปากแน่น ผมทนนั่งอยู่ตรงนี้ต่อไปไม่ไหวแล้ว

          ขณะที่ผมกำลังจะลุก พี่พัฒน์ก็หันมามองหน้าผมแล้วหันไปพูดเสียงเข้มกับไอ้พี่บอส

        "มึงจะพูดอะไรก็นึกถึงใจน้องมันบ้าง มันก็นั่งฟังอยู่ตรงนี้ น้องมันตาแดงๆ แล้วนี่เห็นไหม"

        "ผมไปเข้าห้องน้ำก่อนนะพี่"

        พี่พัฒน์พยักหน้าแล้วถอนหายใจแล้วผมก็ลุกขึ้นเดินออกมาจากห้อง ตอนนี้อาจารย์ยังไม่เริ่มสอนน่าจะมีเวลาอีกซักห้านาทีในการสงบสติอารมณ์



        พอมาอยู่ในห้องน้ำผมก็ล้างหน้าล้างตาแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอ่านนู่นนี่  ผมเข้าไปในไลน์ ตอนนี้รูปสเตตัสของผมเป็นรูปภาพวาดแรเงาดินสอของผมตอนที่ไว้ผมยาว ผมว่ามันดูอาร์ตๆดี 

        ผมเห็นข้อความไลน์ขึ้นว่ายังไม่อ่าน 25 ข้อความเลยไปดูแชทสนทนาที่ชื่อว่า 'BOSS :Love Me Love My Cat' ตอนนี้มันขึ้นรูปคนที่ผมคุ้นหน้ามากๆ จนผมต้องกดเข้าไปดูรูปใหญ่

       ชัดเจนเลยครับ รูปไอ้พี่บอส ส่วนที่ผมเพิ่งจะรู้คงเพราะแต่ก่อนมันขึ้นแต่รูปแมว

       ผมไล่อ่านข้อความที่มันส่งมาแล้วนึกอะไรดีๆออกแล้วครับ
       .
       .
       .
       .     
      ผมได้วิธีแก้แค้นมันแล้ว

       จากข้อความที่พี่มันส่งมาทั้งหมด มันคงจะเป็นคนที่ผมช่วยตอนที่ผมอัดพวกนักเลงแก้หงุดหงิดจากการการซ้อมลีดวันแรก

       มันเข้าใจว่าผมเป็นผู้หญิงชื่อว่า 'แก้มชมพู' ผู้หญิงบ้าอะไรชื่อแปลกชะมัด ไม่รู้มันไปได้ชื่อและID Line ผมมาจากไหน รู้แต่ว่ามันกำลังจีบแก้มชมพูด้วยการส่งข้อความผ่านทางไลน์

      ข้อความล่าสุดที่มันส่งมาคือ

      'ฝันดีนะคะ น้องแก้ม'
       .
       .
       .
       .
       เสี่ยวชะมัด

         ผมกดยอมรับมันเป็นเพื่อนและกดส่งกลับไปว่า

        'โทษทีนะคะ พี่ แก้มเพิ่งเห็นเลยเพิ่งตอบ'

         ภารกิจแก้แค้นที่มันชอบดูถูกผมกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว

 
         พอผมนึกถึงวันที่ได้เฉลยความลับว่า น้องแก้มชมพูของมันไม่มีตัวตนจริง มันต้องเหวอไปเลยแน่ๆ แค่คิดผมก็สะใจแล้ว
     


 
          ผมกลับเข้าห้องเรียนด้วยสีหน้ายิ้มแย้มจนพี่พัฒน์ทักว่า

        "โอเคขึ้นแล้วใช่ไหม  พี่ขอโทษแทนไอ้เชี่ยบอสมันด้วยนะ"

        ผมพยักหน้ารับแล้วเริ่มเปิดสมุดเตรียมจด ตอนนี้อาจารย์กำลังจะเริ่มสไลค์แรกแล้ว
 
        ผมรู้ตัวดีครับว่าตัวเองไม่ใช่คนฉลาดหัวไวอะไร แต่ผมก็ตั้งใจจะเก็บเกรดวิชานี้เพราะเป็นวิชาที่พี่พัฒน์บอกว่าจะช่วยฉุดเกรดผมในเทอมนี้ พี่เทคผมเป็นคนดีครับ พี่เขาเห็นผมเป็นเด็กกิจกรรมเลยกลัวผมจะโดนรีไทร์เพราะวิชาเบื้องต้นมีตัวยากๆเยอะที่ผมบอกพี่เขาไปแล้วว่าผมไม่ถนัด

       ผมเรียนไปได้สักครึ่งชั่วโมงก็เงยหน้าขึ้นจากสมุดและเผลอมองไปทางไอ้พี่บอส ผมเห็นมันก้มหน้าหลับไปแล้ว

       พอถึงเวลาพักผมที่จดไม่ค่อยทันเพราะอาจารย์สอนเร็วมากก็เลยยังนั่งจดเพิ่มอยู่ในห้อง ส่วนพี่พัฒน์และเพื่อนๆ พี่เขาลุกไปหาอะไรกินกันหมด

       พอผมจดเสร็จก็เลยว่างจึงหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดู ตอนนี้ผมปิดเสียงไว้ แต่หน้าจอโทรศัพท์มันก็ยังขึ้นข้อความแจ้งเตือนจากไลน์

       พี่บอสมันตอบกลับมาแล้ว

       'ไม่เป็นไรครับ แค่น้องแก้มรับแอดพี่เป็นเพื่อน พี่ก็ดีใจแล้ว'

       ผมส่งสติ๊กเกอร์ หมี OK. ไป สักพักมันก็ตอบกลับมาว่า

       'ทำอะไรอยู่ครับ'

       'กำลังเรียน'

      'งั้นพี่ไม่รบกวนแล้ว ตั้งใจเรียนนะคะ'

      แหม เสี่ยวเหลือเกินนะ มีนะคงนะคะ...

        มันส่งสติ๊กเกอร์ ' สู้ๆ ' มาให้

        'Thank U'

         ผมส่งสติ๊กเกอร์ตอบกลับมันไป ผมตั้งใจว่าจะหลอกมันไปเรื่อยๆ เพราะฉะนั้นต้องทำเป็นเล่นกับมันเสียหน่อย ผมจะทำให้มันหลงจนโง่หัวไม่ขึ้นจากนั้นค่อยเฉลยให้มันรู้ว่าเป็นผม


 
        สักพักพวกพี่พัฒน์ก็เดินกลับมาโดยมีไอ้พี่บอสมันเดินมองโทรศัพท์มือถือแล้วอมยิ้มเดินกลับเข้ามา มันเดินมาข้างๆ ผมแล้วแทนที่พี่พัฒน์เดิมจากนั้นก็ยื่นกล่องเค้กส้มมาให้แล้วเดินกลับไปนั่งเก่า ขณะที่ผมรับมาแบบงงๆ

        พี่พัฒน์ตบหัวมันแล้วพูดว่า

        "เป็นการขอโทษที่แย่มาก ส่งไปแต่ของ คำขอโทษสักคำไม่มีนะมึงน่ะ"

          "เรื่องของกู มึงจะพูดเสียงดังทำไมว่ะ"

          ผมเข้าใจแล้ว มันคงอยากจะขอโทษที่พูดไม่ดีกับผม แต่ผมกำลังลดความอ้วน แต่มันดันมาให้ขนมหวาน ผมคงต้องขอบาย ผมเลยส่งขนมคืนให้มันคืนด้านหลังพี่พัฒน์

         "อะไรว่ะ กูอุตส่าห์ให้มึงก็รับๆไปแดกดิ"

         มันไม่รับขนมคืน เอาแต่บ่น

         ผมเลยส่ายหัว
 
        "ไม่เอาอ้วน"

         คราวนี้มันรับขนมคืนแล้วและผมก็หันกลับไปตั้งใจเรียนต่อ แต่สักพักมันก็มาสะกิดหลัง พอผมหันไปดูเห็นถุงขนมจีบกับเบค่อน ผมรีบหยิบมาทันที


        " Thank"

       ผมไม่ได้เห็นแก่กินนะครับ ผมยังโกรธมันอยู่ แต่มันเป็นรุ่นพี่ ผมเป็นรุ่นน้องจะไม่รับก็ไม่ได้ใช่ไหมครับ...
       
     


 
         
           พอเวลาพักเที่ยง พวกผมสามคนมากินข้าวด้วยกัน วันนี้อาจารย์เลิกเร็วเพราะท้ายคาบเป็นควิซเช็คชื่อ ตอนนี้คนเลยยังไม่แน่นโรงอาหารเท่าไร
 
          หลังจากพวกเราต่างคนต่างซื้อข้าวมานั่งที่โต๊ะแล้ว ผมก็มาเดินนั่งข้างๆ พี่พัฒน์ตรงข้ามกับไอ้พี่บอส


          "ไอ้พัฒน์เอาน้ำอะไรว่ะ"

          "กูเอาชาเขียว"

           ผมทำเป็นเฉย รอว่าไอ้พี่บอสจะถามผมตามมรรยาทด้วยไหม ถ้ามันไม่ซื้อมาให้ ผมก็จะลุกไปซื้อเอง

   
          "อ่ะ มึงเอาตังค์ไปซื้อน้ำ กูเอาบลูเบอรี่ สมูทตี้ปั่น ไอ้พัฒน์มันเอาชาเขียว ส่วนมึงจะแดกน้ำอะไรก็ซื้อมา"

          มันยื่นแบงค์ห้าร้อยมาให้

         ผมยังนั่งงงๆอยู่เลยชี้มาที่ตัวเองเป้นการถามว่ามันหมายถึงผม

         "เออ มึงนั่นแหล่ะ รีบๆ ลุกไปเลย เดี๋ยวเที่ยงแล้วคนเยอะต้องไปรอคิวนาน"

         ผมลุกขึ้นไปซื้อน้ำอย่างไม่ค่อยเต็มใจเท่าไร เดินไปก็นึกไปตลอดทางว่าจะดื่มอะไรดีว่ะที่มันแพงๆ หรือวิ่งไปซื้อกาแฟสตาร์บัคเลยดีไหม แต่สุดท้ายผมก็ได้เอรสเปรสโซปั่นมาแทนและขนาดรีบเดินแล้ว แต่วันนี้คิวก็ยังยาวอยู่พอสมควร

         ผมมาถึงโต๊ะก็ยื่นเงินทอนส่งคืนไป มันก็รับไปไม่พูดอะไร

         ตอนนี้มีพี่ๆปีสองน่าจะคณะเดียวกับมันมานั่งร่วมโต๊ะด้วย

         "น้องฉัตร นี่ดินกับตุลย์ เพื่อนพี่ มันเรียนนิติ คณะเดียวกันกับไอ้เชี่ยบอสมัน" พี่พัฒน์แนะนำพี่ๆ แต่ละคนให้ผมรู้จัก

         "สวัสดีครับพี่"

         ผมยกมือไหว้รุ่นพี่ทั้งสองคน

         "ดีครับน้องฉัตร"

         พี่ตุลย์ทักมา พี่เขาเป็นผู้ชายที่ตัวสูงแต่ก็สูงไม่น่าจะเท่าไอ้พี่บอส ดูหล่อเนี้ยบไปทั้งตัว หน้าเหมือนลูกครึ่ง ตาสีฟ้าแต่ผมสีดำ
       
         "เป็นน้องเทคไอ้พัฒน์ ระวังติดเชื้อซกมกจากไอ้พัฒน์มานะ"

         นี่คือพี่ดิน พี่เขาหน้าออกแนวเกาหลี ขาวตี๋ น่าจะสูงไล่เลี่ยกับผมนะ 

         "พูดมากนะมึง ไอ้เชี่ยดิน"

         พี่พัฒน์ชี้หน้าด่าพี่ดิน

         "อะไรวะ กูแค่พูดความจริง แค่นี้ก็ของขึ้นแล้วนะมึง 5555"

          ผมดูรุ่นพี่กลุ่มนี้แหย่กันก็สนุกดีครับ ดูรักกันดี

         ขณะที่ไอ้พี่บอสมันจ้องผมแล้วพูดว่า

         "ดูมึงกินข้าวนี่อร่อยดีนะ"

         "ฮะ"

         "เปล่า"

         "เหม่อนะมึงน่ะ อ่ะ เอาไป"

         มันยื่นถุงใบใหญ่มาให้

         "อะไร" ผมอดถามไม่ได้

         "บัดดี้ฝากมาให้ ตอนที่มึงลุกไปซื้อน้ำน่ะ"

         ผมเปิดดูทันทีในถุงมีกล่องปลาแซลมอลกล่องใหญ่พร้อมว่าซาบิ ผมตาโตทันที ของโปรดผมเลยนี่หว่า

         "โห แกะกินเลยได้เปล่า"

         "ถามกูทำไม นี่ของบัดดี้เขาฝากมาให้มึง"

         มันส่งยิ้มมุมปาก ผมมองหน้ามันแล้วก็รู้สึกว่าเวลามันยิ้มแล้วหล่อมากๆ เหมือนกัน ขนาดผมเป็นผู้ชายยังรู้สึกว่ามันหล่อจริงๆ

          "นี่บัดดี้หอของมึงเริ่มเทคแล้วเหรอว่ะ  กูยังไม่รู้จะซื้ออะไรให้บัดดี้เลย เดี๋ยวกูว่าจะเริ่มบ้างแล้ว"

          ไอ้พี่บอสมันเริ่มพูดถึงบัดดี้หอ นี่ผมก็ยังไม่ได้เริ่มเทคเลยเหมือน บัดดี้หอของผมคือพี่วิน

         ใช่แล้ว พี่วิน ประธานชมรมเทควันโดจอมโหด ปี 4 วิศวะนี่หล่ะ พี่เขาอยู่หอเดียวกับผม อยู่ทีห้อง 607 เพราะผมเห็นคนกันเอง ผมเลยยังไม่รีบเทค

         ไอ้พี่บอสมันหันมาจ้องหน้าผมจนผมต้องเงยหน้ามองมัน

          "มีอะไรติดหน้าผมหรือเปล่า"

          "เปล่า กูแค่อยากรู้ว่ามึงจับได้ใคร"

          "ความลับ"

          ผมรีบตอบแล้วทำสายตามีเลศนัย

          "อย่าบอกนะว่า มึงจับได้กู"

         "ก็บอกว่าความลับไวง บอกไม่บอกดีน้า อาจจะใช่หรืออาจจะไม่ใช่ ทำไมผมต้องบอกพี่ด้วย"

         "อย่าให้กูจับได้แล้วกัน"

         พี่บอสมันชี้หน้าผม ทำเป็นจ้องจะจับผิด

         "หอมึงก็เป็นหอชายล้วน สนุกตรงไหนว่ะ" พี่ดินที่นั่งเงียบมานานถามเปิดประเด็นขึ้นมา

         "สนุกต้องมีกิจกรรมร่วมกันในหอ ได้กระชับมิตรไงมึง ไอ้ดิน มึงนี่วันๆ คิดแต่ม่อสาว" พี่ตุลย์อยู่หอเดียวกับผม พี่ตุลย์อยู่ห้อง707

         "ใครจะดีแสนดี รักเดียวใจเดียวเหมือนมึงล่ะไอ้ตุลย์ พ่อคนรักแท้มีเพียงเธอ"

         พี่ตุลย์ตบหลังพี่ดินแรงมากจนผมยังเจ็บแทน แต่พี่ๆ เขาไม่มีท่าทางจะทะเลาะกันเลย เล่นกันแรงดีจังกลุ่มนี้

         "เอ่อ พอพูดเรื่องความรัก แล้วมึงล่ะ ไอ้บอสอัพเดตหน่อย กับน้องนางฟ้าของมึงไปถึงไหนกันแล้ว"

         "ก็พี่น้องกัน กูอยากจะค่อยๆ เป็นค่อยๆไป"

         "ตอบอย่างกับดารานะมึงน่ะ"

         "น้องนางฟ้า?"

         ผมเผลออุทานออกมา ทุกคนหันมาทางผมหมด สายตาทุกคู่จ้องผมพร้อมๆกันโดยไม่ได้นัดหมาย

         "พวกพี่หมายถึงน้องแก้มชมพูน่ะน้องฉัตร น้องเขาเคยช่วยไอ้บอสจากพวกนักเลง"
 
        "ผู้หญิงบ้าอะไรว่ะ ไอ้บอสที่สูงยังเปรต ถึกยังกับควาย แรงเยอะยังกับวัวกระทิงเปลี่ยวยังโดนซัดซะเละเป็นโจ๊ก"

         พี่ดินบรรยายซะยืดยาว

         "บางมุมก็คล้ายๆ น้องฉัตรอยู่นะ แต่น้องนางฟ้าเป็นผู้หญิงแถมไว้ผมยาวด้วย"

         พี่ตุลย์กับไอ้พี่บอสเริ่มจ้องหน้าผม

         ผมสะดุ้งนิดๆ แต่ก็พยายามเก็บอาการ  ในใจก็นึกกลัวๆว่าพี่ๆเขาจะจับได้       

         "เฮ้ย  น้องกูมันหน้าหวาน แต่มันก็ไม่ใช่ผู้หญิงนะเว้ย มึงเลิกจ้องน้องกูได้แล้ว ขนลุกสัดๆ"

         พี่พัฒน์ตบหัวพี่ตุลย์และพี่บอสเบาๆ พวกพี่ๆ ถึงได้ละสายตาจากหน้าผมไป

         "เดี๋ยวนี้มีผู้หญิงเก่งๆล้มผู้ชายได้ออกจะเยอะไป  ไปฝึกศิลปะป้องกันตัว พวกยูโด คาราเต้ เทควันโดไว้ มันมีสอนเทคนิคมดล้มยักษ์ได้พี่ ไม่เห็นจะแปลกเลยอ่ะ"

         ผมรีบพูดแทรกขึ้น

         "เออ จริงด้วยว่ะ น้องฉัตรมันพูดถูก"

         ผมถอนหายใจอย่างโล่งอก แล้วก้มหน้าก้มตากินข้าวผ้ดทะเลต่อ ขณะที่พี่ๆ หันไปสนใจคุยเรื่องนินทาอาจารย์กันต่อ
       
            (  50%)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-06-2017 01:00:08 โดย natsikijang »

ออฟไลน์ natsikijang

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 540
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-4
       
In Love With My Roommate

   
EP  :  3 (100%) 


Part ฉัตร

 EP 3 (100%)
       
          "อาจารย์ครับ ผมช่วยถือไหมครับ"

          คาบบ่ายวันศุกร์เป็นวิชา Architectural Graphics and Presentation  (AR101) ของอาจารย์กันยา แม้ว่าอาจารย์จะยังดูสวย มีผิวขาวละเอียดชวนมอง แต่อาจารย์ก็ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นอาจารย์จอมดุที่ทั้งคณะกลัวเกรงกันไปหมด แม้ว่าอาจารย์จะตัวสูงกว่าผม แต่เห็นอาจารย์หอบของพะรุงพะรังคนเดียวแล้วอดสงสารไม่ได้

          อาจารย์เงยหน้าขึ้นมาแล้วยิ้ม

          "อ่ะ นี่ เดี๋ยวถุงนี้ครูถือเอง"

          อาจารย์ยื่นถุงใส่หนังสือสีฟ้ามาให้ผม ขณะที่อาจารย์ถือถุงใส่กระดาษคำตอบควิซของคาบเมื่อกี้เดินนำผมไปยังห้องพักอาจารย์

          "เธอชื่ออะไรน่ะ"

          "ปริยฉัตรครับอาจารย์"

          "เพิ่งจะเปิดเทอมมาไม่กี่วัน  ปรับตัวได้รึยัง"

          "ก็ยังงงๆ อยู่ครับ ตอนมัธยมเรียนคาบละชั่วโมงแต่ที่นี่เรียนคาบละ 3 ชั่วโมง แถมจดตามจนมือหยิกเลยครับอาจารย์"

          "อีกสักพักก็ชินเอง แล้ววิชาครูเป็นไงบ้าง ครูสอนเร็วไปหรือเปล่า"

          "ไม่เลยครับ ผมว่าอาจารย์สอนกำลังดีเลย สอนเข้าใจง่ายด้วย"

          "อืม แล้วนี่ใครเป็นที่ปรึกษา"

          "คณบดีครับ"

          ศาสตราจารย์ ดร.สิงหา ลิ้มไพศาลอนันต์ สามีอาจารย์กันยานั่นแหล่ะครับ ผมได้ยินเสียงลือเสียงเล่าอ้างว่าดุมาก เข้มงวดสุดๆ อาจารย์เป็นทายาทไฮโซลูกชายคนเดียวของเสี่ยลิ้ม เจ้าของเครือวายแอนด์ดี ไบเซ็นเตอร์กรุ๊ปเจ้าของโรงแรมและห้างสรรพสินค้าชื่อดังในประเทศไทย เห็นเพื่อนๆ ในคณะชอบนินทาแกและเปรียบเทียบกับลูกชายที่ชื่อไฮโซปลาบึกได้ข่าวว่ากำลังชิมลางการบริหารในเครืออยู่ ผมไปฟังมาเพราะอาจารย์แกเป็นที่ปรึกษาของผม ผมก็เลยอยากรู้ว่า อาจารย์ที่ปรึกษาของผมเป็นคนอย่างไรก็เท่านั้นเองครับ

          "อ่อ แฟนครูเขาไม่ค่อยจะว่างหรอก เป็นคณบดีมีทั้งงานสอนและงานบริหารวุ่นวายไปหมด ถ้าเธอมีอะไรก็มาปรึกษาครูแทนได้นะ"

          "ครับ อาจารย์ ผมอยากสูงต้องทำไงดีครับ อาจารย์ตัวสูงกว่าผมอีก"   
       
          "ดื่มนมเยอะๆ สิ และเล่นกีฬาที่ต้องกระโดด ครูเล่นวอลเล่ย์บอลตั้งแต่เด็กเลยตัวสูง"

           "อ่อ อาจารย์สูงเท่าไรเหรอครับ"

           "ครูสูง 179 cm วันนี้ใส่ส้นสูงเลยดูสูงกว่าเธอน่ะ"

          "ครับ เดี๋ยวผมจะไปฝึกเล่นวอลเล่ย์บอลบ้าง ผมอยากสูง อาจารย์เล่นตำแหน่งอะไรครับ"

          "ครูเป็นมือตบน่ะ ครูสอนให้ลูกครูเล่นวอลเล่ยบอลตอนเด็กๆ แต่พอโตมาก็ไม่ยอมเล่นอีก เขาบอกเล่นแล้วดูไม่แมน"

          " ผมว่าวอลเล่ย์บอลเพศไหนก็เล่นได้ครับ อาจารย์เก่งจังครับ เรียนก็เก่ง กีฬาก็เก่ง"

          "ครูก็แค่ทำในสิ่งที่ตัวเองรัก ครูสอนลูกศิษย์เสมอให้เลือกเส้นทางในแบบที่ตัวเองเป็น พยายามกับมันให้เต็มที่แล้วทุกอย่างมันจะดีเอง"

          เราเดินมาถึงลานจอดรถของอาจารย์ อาจารย์เดินไปที่รถเมอร์ซิเดนซ์ เบนซ์สีขาว C300 ที่กระจกหน้าต่างเปิดแง้มไว้อยู่

          "หลับสนิทเลยเชียว ลูกคนนี้"

          อาจารย์มองเข้าไปในรถแล้วส่ายหัวอย่างระอา

          ผมชะเง้อเข้าในไปในรถ อยากเห็นหน้าไฮโซปลาบึกกับเขาบ้าง แต่ผมดันเห็นพี่บอสกำลังนอนกอดอกอ้าปากค้างอยู่บนเก้าอี้หนังฝั่งคนขับแทน

          "น้องบอสลูกชายคนเล็กของครูเอง"

          ผมเดินตามอาจารย์ อาจารย์เคาะกระจกรถสามสี่ที คนในรถก็เปิดประตูออกมา

         "เอามาค่ะ เดี๋ยวครูถือเอง ขอบใจมากนะ"

         ผมเอาของส่งให้ตามที่อาจารย์บอกและกำลังจะขอตัว พี่บอสที่กำลังหาวหวอดๆ ก็ชี้หน้าผม

         "อ้าว ไอ้เด็กอ้วนนี่มาได้ไงว่ะ"

         "เพี๊ยะ"

        เสียงตีแขน ท่าทางจะตีแรงไม่เบาสมกับอดีตมือตบทีมวอลเล่ย์บอลมาก

         "โอ๊ย ม๊า ผมเจ็บนะ"

         พี่บอสร้องโวยวายแล้วลูบแขนที่โดนตีไปมา

        "ก็ตีให้เจ็บน่ะสิ น้องบอสเรียกน้องเขาอย่างนี้ได้ยังไง นิสัยไม่ดีจริงๆ ม๊าสอนทำไมไม่รู้จักจำ ชอบไปล้อเลียนคนอื่น เอานิเสียแบบนี้มาจากไหน ป๊ากับม๊าไม่เคยสอน"

        อาจารย์กันยาทำหน้าดุจนตอนนี้สภาพพี่บอสเหมือนเด็กสามขวบที่กำลังโวยวายเพราะโดนแม่ตี ผมอดขำไม่ได้

        "ขำอะไรว่ะ"

        "พูดกับน้องเขาดีๆ ขอโทษน้องเขาซะ"

        "ม๊าอ่ะ"

        "น้องบอส ม๊าสั่งทำไมยังไม่ทำอีก"

         "ม๊าาา"

         "จะทำไม่ทำ"

        ผมมองอาจารย์กันยาขึ้นเสียงดุ ผมยืนฟังยังตกใจเลย แต่พี่บอสมันกลับทำหน้าเซ็งๆแล้วยักไหล่ก่อนจะเอ่ยว่า

        "ทำๆ ขอโทษ"

        "เอาใหม่ พูดให้มันดูจริงใจกว่านี้"

        "น้องฉัตรครับ พี่ขอโทษนะครับ"

        อาจารย์กันยาหันมาทางผม "ปริยฉัตร ต่อไปถ้าพี่บอสว่าอะไรเธออีกมาบอกครูได้นะ ครูจะลงโทษพี่เขาให้"

        "ครับอาจารย์ ผมไปนะครับ"

        ผมยกมือไหว้อาจารย์กันยาที่พยักหน้ารับ พออาจารย์เผลอ ผมก็หันไปแลบลิ้นใส่พี่บอสที่ทำหน้าบึ้งตึงมองมาที่ผมพร้อมชี้หน้าผมขยับปากโดยไม่มีเสียง
        .
        .
        .
        .
        'ฝากไว้ก่อนเถอะ ไอ้น้องฉัตร'
        .
        .

        ใครว่า อาจารย์กันยาดุ ผมว่าแกใจดีออก ผมชักชอบอาจารย์แล้วสิ
       
         
   
     

         คืนนี้กว่าจะซ้อมลีดเสร็จก็สี่ทุ่มครึ่งแล้ว ตอนนี้ผมกลับยังทำเต้นผิดจังหวะและไม่พร้อมเพรียงกับเพื่อนๆเลย ผมว่าบอกเพื่อนๆว่าจะมาซ้อมต่อหลังจากกินมื้อดึกกับเพื่อนเสร็จ

          "ลีดพร้อม"

          "พร้อม"

          "ไอยูบูมพร้อม สามสี่..."   
   
          ผมวาดลวดลายเสต็ปมือพร้อมกับเพื่อนๆ การเต้นลีดสำหรับผมถือเป็นอะไรที่แปลกใหม่ ในช่วงซ้อมวันนี้ผมยังเต้นไม่พร้อมเพรียงกับเพื่อนจนโดนรุ่นพี่ลีดดุบ่อยๆ  เช่นเดียวกับตั้มที่ดูเหม่อบ่อยจนผิดสังเกต

          ตอนนี้คุณอินดี้ แมวของพี่บอสมันกลับมาแล้วหลังจากมันไปเที่ยวเล่นตามปกติ ตอนนี้มันกำลังนอนอยู่ในตะกร้าดูพวกผมกำลังเต้นลีดบนระเบียงห้องชั้น 9 แสดงว่าเจ้าของมันน่าจะไม่อยู่ ปกติวันศุกร์พี่บอสมันจะกลับไปนอนบ้าน

         "ตุ๊ดชิบหาย ดึกดื่นป่านนี้ดื่มนอนแล้วไปนอนดีกว่านะน้อง มาเต้นแร้งเต้นกาหนวกหูชาวบ้านเขา ไม่รู้จักมีความเกรงอกเกรงใจบ้างเลยนะพวกมึงเนี่ย"

         ไอ้พี่บอสมันเปิดประตูออกมาบ่น มันชี้หน้าด่าพวกผมเรียงตัว

         "พวกผมขอโทษครับพี่ แต่พวกผมต้องรีบซ้อม พรุ่งนี้พวกผมต้องไปเต้นโชว์ประกอบเชียร์กับพวกบนแสตนด์"

         "พวกผมว่าจะขออนุญาตพี่แล้ว แต่เห็นห้องพี่ปิดไฟอยู่แล้วคุณอินดี้ก็ยังนั่งอยู่หน้าห้อง พวกผมก็นึกว่าพี่ไม่อยู่"

         พี่บอสมันเลิกคิ้ว

         "อินดี้?  แมวกูมันชื่อถุงทอง"

         "ครับ ถุงทองก็ถุงทอง"

         "เฮ้ย อีท ตั้ม พวกมึงไม่ต้องไปเสียเวลาพูดกับมันหรอก ถ้ามันไม่อยากให้ซ้อมตรงนี้ เราไปซ้อมหน้าหอก็ได้"

         "หน้าหอน่ะยุงกัดเชี่ยๆ เหอะ"

         "ทำไงได้ล่ะว่ะ กูก็ไม่อยากโดนคนบางคนด่า คืนนี้ถ้ากูยังเต้นไม่ได้ กูจะไม่นอน พวกมึงกลับไปนอนก่อนก็ได้ กูไม่อยากเป็นตัวถ่วงของพวกมึง"


         ตั้มกับอีทเป็นเพื่อนร่วมคณะและเพื่อนร่วมหอของผมเอง ตั้มอยู่ชั้น 6 ส่วนอีทอยู่ชั้น 3

         พอผมพูดจบ ผมก็เดินกระแทกไหล่ไอ้พี่บอสลงบันไดไป ลิฟต์ก็มีแต่ผมไม่ลง หงุดหงิดเว้ยหงุดหงิด
     
            ตอนนี้ผมก็แอบฟังอยู่ที่พักบันได ชั้น8  ผมตั้งใจว่าจะไปลงลิฟต์ชั้น 8 เรื่องอะไรผมจะยอมเดินลงบันไดไปให้เหนื่อย แต่ขอสอดแนมก่อนว่าสถานการณ์ชั้น 9 เป็นอย่างไงบ้าง

           "อ้าวเฮ้ย ใจเย็นดิครับน้อง ขอดีๆ พี่ก็ให้ เพื่อนน้องแม่งอารมณ์ร้อนชิบหาย ไปตามมันกลับมาดิ อยากซ้อมก็ซ้อมไป พี่ให้เวลาถึงตีสอง ตอนนี้เที่ยงคืนยังมีเวลาอีกสองชั่วโมงนะ"

         เสียงไอ้พี่บอสมันตะโกนไล่หลังมา

        ""มันงอนอ่ะพี่ พี่ช่วยไปง้อมันหน่อยดิ"

        เสียงอิทเพื่อนลีดผมพูด

        ผมไม่ได้งอนซะหน่อย คนมันหงุดหงิดเว้ย หงุดหงิด

        "ไม่เอาหรอกเว้ย ถึงพี่จะไม่ใช่คนใจร้ายไส้ระกำอะไร แต่จะให้ไปง้อเพื่อนน้อง ทั้งที่พี่ไม่ผิด พี่ไม่ทำหรอกครับ มันอยากลงไปเองก็ช่วยไม่ได้ พี่ไปนะ"

        "ครับพี่"

        พอได้ยินเสียงปิดประตูห้องของไอ้พี่บอส ผมตัดสินใจลุกขึ้นเดินลงไปที่ชั้น 8 ลงลิฟต์เพื่อไปซ้อมต่อด้านหน้าหอทันที
       
         ผมเริ่มซ้อมลีดคนเดียว ยุงก็กัด แต่ก็ต้องทนเพราะตอนนี้ผมเป็นคนเดียวที่ยังเต้นไม่ได้ ผมเต้นไปสักพักพวกเพื่อนผมก็ลงมากันครบ มันสองคนนั่งเชียร์ นั่งร้องเพลงให้จังหวะจนผมเริ่มเหนื่อยจากการซ้อม ผมก็เลยเดินมานั่งพักบ้าง จู่ๆ ก็มีถุงขนมแกะแล้วยื่นมาให้ ผมเงยหน้าไปดูก็เห็นไอ้พี่บอสและมันก็ยื่นถุงใส่พวกของของกินเล่นกับขนมถุงใหญ่ส่งมาให้ผมที่รับมาอย่างงงๆ
 
       "ซ้อมหนักอะไรกันนักหนาวะ ?"
 
       "มีโชว์พรุ่งนี้ว่ะ แล้วนี่ก็บอกว่าอ้วน บอกว่าอ้วน แม่งยังจะซื้อมาให้อยู่ได้"
 
       นี่มันคงจะรู้สึกผิดที่ไล่ผมลงไปซ้อมที่หน้าหอจนต้องบริจาคเลือดเป็นลิตรให้ยุงเลยซื้อขนมมาง้อผม

         "มึงเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า นี่กูซื้อมาให้เพื่อนมึงต่างหาก"

         ผมหน้าชาเลยจากที่เริ่มจะหายโกรธแล้ว ตอนนี้ยิ่งโกรธมันเพิ่มขึ้นไปอีกสองเท่า
 
       ผมถลึงตามองมันด้วยตาขวางๆของผมแล้วเดินไปนั่งข้างไอ้อิทแทน ผมยื่นถุงขนมส่งให้ไอ้อิทมันถือไว้
 
       โมโหครับ โมโห ใจจริงอยากจะเอาขนมไปเขวี้ยงใส่หน้ามัน แต่ผมเสียดายของ
 
       "ทำหน้าเหมือนแมวขู่เลยนะมึงน่ะ แต่แมวมันทำแล้วน่ารัก ส่วนมึงทำแล้วมันอุบาทว์ว่ะ ฮ่าๆๆๆ"
 
       มันพูดจบก็เดินไปขึ้นลิฟต์กลับห้องมันไป ไม่สนใจไยดีผมที่กำลังทำหน้าบึ้งตึ้งไล่ด่ามันตามหลังเลยสักนิด
 
        "ไอ้เชี่ยพี่บอส ! "
         .
         .
         .
         เมื่อไรพี่มันถึงจะเลิกกวนตีนผมสักทีเนี่ย
         .
         .
         .
         .
         .
         ตอนแรกผมว่าจะเลิกแกล้งเป็น 'แก้มชมพู' เพราะรู้สึกผิดที่หลอกมัน แต่ดูที่มันทำกับผมสิ ทำให้ตอนนี้ผมเริ่มเปลี่ยนใจแล้ว เดี๋ยวซ้อมลีดเสร็จผมจะไปไลน์หลอกมันต่อ
        .
        .
        .
        ผมจะหลอกอ่อยให้มันรัก แล้วจะดัดหลังให้มันน้ำตาเช็ดหัวเข่าเลยคอยดู
       
        Chat ลับ :ปฎิบัติการเริ่มอ่อย

         แก้มชมพู : นอนหรือยังคะ (สติ๊กเกอร์หมีสงสัย)
 
         บอส        : ยังเลยครับ รอบอกฝันดีน้องแก้มอยู่

         แก้มชมพู : เนี่ย มีเรื่องจะปรึกษาพี่บอสหน่อย คือว่า เรื่องของเพื่อนของเพื่อนของพี่ ....*เล่าเรื่องล้อกับพฤติกรรมของพี่บอสมันนั่นแหล่ะ**โดนรุ่นพี่มากวนประสาท ชอบมาด่าแก้ม เอ้ย เพื่อนว่าโง่
 
         บอส        : รุ่นพี่ผู้ชายหรือผู้หญิงน่ะ
 
         แก้มชมพู : ผู้ชายค่ะ พี่บอสคิดว่าไงล่ะ
 
         บอส        : ก็คิด....คิดถึงน้องแก้มไง ฮิ้วววว (สติ๊กเกอร์หมีส่งจูบ)
 
        แก้มชมพู : เอาดีๆ ดิ

         บอส        : พี่ว่า มันคงแอบชอบน้องแก้มอ่ะดิ ทำเนียนเป็นแกล้ง แต่จริงๆจะจีบต่างหาก
 
        แก้มชมพู : ตลกแล้ว ไม่ใช่แก้ม ก็บอกว่าเรื่องของ เพื่อนของเพื่อนของพี่  (นั่นสิ พี่บอสมันจะชอบผมได้ไง ในเมื่อมันจีบ
 
        บอส        : พี่รู้น่าว่าเป็นเรื่องของน้องแก้ม ไม่ต้องปิดหรอก
 
        แก้มชมพู : ฮ่าๆๆ รู้แล้วเหรอ แต่เขามีคนที่ชอบแล้วนะ เห็นว่าไปจีบผู้หญิงคนหนึ่งอยู่ 

         บอส        : ไอ้นี่คงกะจะจับปลาสองมืออ่ะดิ เลวจริง (สติ๊กเกอร์หมีกระโดดถีบ)
         แก้มชมพู : เขาอาจจะไม่ได้คิดอะไรกับแก้มก็ได้ มั่วแล้ว
 
        บอส        : พี่ว่าบางทีมันอาจจะยังไม่รู้ใจตัวเองก็ได้ คนน่ารักๆ แบบน้องแก้มใครอยู่ใกล้ก็ตกหลุมรักไม่รู้ตัว (สติ๊กเกอร์Love Love) น้องแก้มโสดใช่ไหมคะ

         แก้มชมพู :  โสดค่า ไปนอนก่อนนะ ง่วงแล้ว
 
        บอส        :  ฝันดีนะคะ คนสวย  (สติ๊กเกอร์ราตรีสวัสดิ์)

 


       
        หนึ่งเดือนผ่านไป เดี๋ยวนี้หลังเลิกเรียนวิชาเลือก ผมก็จะมากินข้าวกับกลุ่มพี่พัฒน์เหมือนเดิม พี่บอสก็ยังหาเรื่องกวนประสาทผมเหมือนเดิม แต่ที่เพิ่มเติมคือผมคุยไลน์กับพี่บอสในฐานะแก้มชมพูทุกวัน เรื่องไร้สาระบ้าง ฟุตบอลบ้าง การเมืองบ้าง แมวบ้าง โดยเฉพาะข่าวอาชญากรรม ผมกับพี่มันชอบตามข่าวเรื่องนี้กัน

        "น้องแก้มต้องแอบชอบกู แต่ไม่กล้าแสดงออกแน่ๆ"
 
        พี่บอสเริ่มวกเข้าประเด็นเรื่องแก้มชมพูหลังจากทุกคนไปซื้อข้าวมานั่งกันพร้อมหน้าพร้อมตา
 
        "มึงแน่ใจนะว่าไม่ได้คิดไปเองน่ะ"
 
        พี่พัฒน์พูดตอบ

         ขณะที่พี่ดินเอาส้อมชี้หน้าพี่บอสแล้วพูดว่า

         "มโนแจ่มนะมึงน่ะ"

         "พวกมึงไม่รู้อะไร กูน่ะรู้จักนิสัยผู้หญิงดี นี่คงจะเขินอายอ่ะดิ น้องเขาคงอยากให้กูเริ่มก่อน"
 
        พี่บอสพูดเสริม สีหน้าท่าทางดูจะมั่นใจมาก
 
        "มั่นหน้าเหลือเกินระวังจะนก นก นก นะมึง"
 
        พี่ดินพูดขึ้น ขณะที่พี่ตุลย์เงยหน้าจากโทรศัพท์มาพยักหน้าเห็นด้วย ผมก็ทำตัวเงียบไม่มีปากมีเสียงนั่งฟังพี่ๆ เขาคุยเรื่องแก้มชมพู ผมดูแล้วพี่บอสท่าทางจะหลงแก้มชมพูมาก
 
        "มึงไม่เข้าใจหรอก กูไม่เคยเจอผู้หญิงคนไหนนิสัยเหมือนกูขนาดนี้เลย น้องเขานิสัยแมนๆ ลุยๆ ไม่มางอแง อ่อนแอเหมือนผู้หญิงทั่วๆ ไป"
 
        จะเหมือนผู้หญิงทั่วไปได้อย่างไรล่ะก็แก้มชมพูไม่ใช่ผู้หญิงนี่นา
 
        "การที่เราจะรักใครสักคนน่ะ ไม่จำเป็นว่าเราจะต้องชอบอะไรเหมือนกัน นิสัยเหมือนกัน มันขึ้นอยู่ว่ามึงรักเขาหรือเปล่า ถ้ามึงรักเขาต่อให้เขาเชี่ยแค่ไหน ไม่เคยทำอะไรดีให้มึงเลย มึงก็ยังจะรัก ชอบ หลงกับรักมันไม่เหมือนกันนะเว้ย ก่อนจะไปสนใจว่า น้องเขาคิดยังไงกับมึง มันสำคัญที่มึงนั่นแหล่ะรู้สึกกับเขาแบบไหน มึงถามใจดู"
 
        พี่ตุลย์พูดทั้งที่สายตายังมองโทรศัพท์มือถือ

         "เจ้าพ่อแห่งความรักเอาแล้วเว้ย"
 
        พี่ดินล้อ

         "ผมก็สงสัยเหมือนกันนะว่า เราจะรักคนที่ไม่เคยเจอหน้ากัน แต่รู้จักกันแค่คุยผ่านไลน์ได้จริงเหรอพี่"

         ผมถามขึ้นมา

         "นั่นดิ ไอ้บอส มึงรักที่ตัวน้องเขาจริงๆหรือหลงที่ภาพที่น้องเขาสร้างให้มึงรับรู้"
 
        "พวกมึงกำลัง..."
 
        "เฮ้ย กูยังพูดไม่จบ มึงอย่าเพิ่งแทรก กูว่า มึงอาจจะหลงน้องเขาจากภาพจินตนาการที่มึงคิดเองว่ะ กูกลัวว่ามึงจะต้องมานั่งเสียใจทีหลัง"
 
        พี่พัฒน์พูดเสริมขึ้นบ้าง
 
       "กู กูก็ไม่รู้เหมือนกันว่ะ"
 
        พี่บอสมีท่าทีอึดอัด
 
       "หรือว่าจริงๆ แล้วในใจมึงมีคนอื่นที่ไม่ควรจะรักอยู่ มึงถึงพยายามหลอกตัวเองว่า ชอบแก้มชมพู"
 
      "ไอ้เชี่ยดิน มึงหมายถึงใคร"
 
       พี่ดินยักไหล่แล้วตอบว่า "คนที่มึงเผลอมองหาอยู่บ่อยๆไง"
 
       "เปล๊า ไม่มีนี่ มึงมั่วแล้ว"
 
        พี่บอสเถียงเสียงดัง
 
       "มึงอยากจะหลอกพวกกูมึงก็ทำไป แต่มึงจะหลอกหัวใจตัวเองไม่ได้หลอกนะมึง"
 
        "ระวังหมาคาบไปแดกแบบกูนะ"
 
        พี่ตุลย์พูดแล้วทำเป็นสนใจโทรศัพท์กดนู่นนี่นั่น
 
         (จบตอน)
         
   PS, ยังคงรอคอยผู้ใจบุญมาคอมเม้นต์นะคะ อยากจะนำไปพัฒนาฝีมือ นัทสึอาจจะแต่งแต่แนวโบราณ แนวดราม่า ซึ้ง เรื่องนี้เปลี่ยนแนวเลยยิ่งไม่ค่อยมั่นใจ รู้ว่ามันอาจจะไม่ดีพอ แต่ก็อยากฟังจากคนอ่านบ้าง

      ใครเม้นต์ ใครกดถูกใจ ขอให้หน้าใส ได้แฟนหล่อ !     


   ขอบคุณสำหรับการติดตามนะคะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-06-2017 02:23:33 โดย natsikijang »

ออฟไลน์ vavavivi

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 14
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
มาต่อเร็วๆนะ เค้สอยากอ่านแล้วววววว

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2590
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ natsikijang

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 540
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-4
   
       
In Love With My Roommate

   
EP  :  4(50%) 

   
      "วิ่ง 45 รอบ ปฎิบัติ"
           .
           .
            กฎเหล็กของการเป็นลีด ข้อสำคัญที่ต้องท่องจำให้ขึ้นใจคือ ต้องตรงเวลา ห้ามมาสาย เพราะถ้ามามาสายจะโดนพี่ๆ ลงโทษให้วิ่งรอบสนามนาทีละ 3 รอบ วันนี้เราต้องวิ่งรอบสนาม 45 รอบเพราะตั้มมาสายสิบนาที อีทมาสายห้านาที

           รู้สึกเหนื่อยจนอยากร้องไห้เลยทีเดียวขนาดผมเป็นนักกีฬาที่ซ้อมบ่อยและออกกำลังกายทุกๆวันเป็นประจำสม่ำเสมอยังเหนื่อยขนาดนี้แล้วเพื่อนๆจะเหนื่อยขนาดไหน ผมล่ะสงสารเพื่อนๆผู้หญิงจับใจ เป็นลีดน่ะมันไม่ง่ายเลย

          หลังจากวิ่งเสร็จเราก็นั่งยืดขาพักกัน ผมรู้ว่าทุกคนไม่โทษเพื่อน เพราะเรารักและสามัคคีกันมาตลอด แต่ถึงอย่างนั้นอีทก็เดินมาขอโทษทุกคนในทีมเช่นเดียวกับตั้ม

          ผมเข้าใจความรู้สึกของตั้มกับอีทดีครับ เป็นผมก็คงรู้สึกไม่สบายใจเหมือนกันที่เหมือนเป็นตัวทำให้เพื่อนโดนลงโทษแบบนี้
          "เราขอโทษนะ เพราะเราทำให้เพื่อนๆต้องมาเหนื่อยแบบนี้"

          ตั้มก้มหัวขอโทษทุกๆคนในกลุ่ม ดูจากสีหน้าแล้วเหมือนมีเรื่องทุกข์ใจอย่างหนัก

          "เฮ้ย พวกกูไม่เป็นไร อย่าคิดมาก เอางี้ไหมถ้าพวกมึงไม่สบายใจ เดี๋ยวซ้อมเสร็จพวกเราไปหาอะไรกินอร่อยๆจ กัน พวกมึงก็ออกมากหน่อยแค่นี้เป็นไงมึงว่าดีไหม"

          "ดีๆๆ เดี๋ยวตอนเลิกเรียน เราไปหาอะไรกินกันนะ"

          "ส่วนตั้มไม่ต้องออกเงินเลี้ยงพวกเราหรอก แค่เอาขนมที่ทำมาให้ชิมทุกๆวันขนาดนี้ เราก็เกรงใจจะแย่แล้ว เคยกินคุ๊กกี้ช็อคชิพกับเค้กส้มอร่อยมาเลย ของซื้อของขายยังอุตส่าห์เอามาแบ่งเพื่อนอีก"

          ตั้มยิ้มออกมาทั้งตาทั้งปาก

          "ถ้าชอบกัน เดี๋ยวเราเอามาให้ชิมบ่อยๆ นะ"

         ตั้มเป็นเพื่อนที่นิสัยดีมากครับ เขาเป็นคนสู้ชีวิตมาก ทั้งที่หน้าตาไม่ให้เลย ตั้มหน้าตาเหมือนลูกคุณหนู ตัวขาวๆ ปากแดงๆ ตาเรียวเล็กแต่ก็มีสองชั้น สูง176 Cm

          ชีวิตเพื่อนผมคนนี้น่าสงสารมาก หลังพ่อกับแม่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตทั้งคู่ตั้งแต่ตั้มอยู่ม. 5 ตั้มต้องลาออกจากโรงเรียนชายล้วนชื่อดังแห่งหนึ่งไปเรียนโรงเรียนมัธยมวัดเทพ และหลังจากนั้นตั้มต้องทำงานสารพัดอย่างเพื่อส่งตัวเองเรียนก่อนจะได้มาฝากขายขนมที่ ร้านBake and U เมื่อเดือนก่อนหลังจากรู้ว่าตัวเองสอบติดที่นี่ซึ่งเจ้าของร้านเป็นคือพี่แชมป์นี่เอง ผมได้ยินว่าตั้มตื่นตั้งแต่ตีสามเตรียมเพื่อออกไปไปส่งนมกับหนังสือพิมพ์ก่อนจะกลับมาอบขนมเอาไปฝากขาย

          ขณะที่กำลังยืดเส้นยืดสายอยู่ พี่แชมป์ก็เดินมาบอกว่า

          "พี่มีข่าวดีจะมาบอก ปลายเดือนหน้าจะมีงาน IU Freshy Game 2017 แล้ว เพรางั้นสัปดาห์นี้ เราต้องซ้อมกันหนักหน่อยนะ ตั้งแต่วันเสาร์นี้เราจะต้องไปร่วมกันฝึกซ้อมกับทีมแสตนด์"

          "โหยยยย ข่าวดีตรงไหนเนี่ย"

          "หนูยังเต้นไม่ได้เลย"

          "ตายแน่ๆเลยเรา"

          พวกเพื่อนๆ ผมโอดครวญกันยกใหญ่
   
        คืนนี้กว่าจะซ้อมเสร็จกว่าจะได้กลับหอก็ห้าทุ่มครึ่งเข้าไปแล้ว เมื่อเช้าผมติดรถชานนท์เพื่อนร่วมคณะผมไปเรียนเพราะฝนตก ตอนกลับผมจึงติดรถอีทมาแทน

         พอพวกผมมาถึงหน้าหอผมมองตามสายตาของตั้มที่จ้องชายหญิงคู่หนึ่งตรงหน้า ผู้หญิงหอมแล้วเดินไปเปิดประตูรถสปอร์ตสุดหรูปอร์เช่ ผู้ชายก็โบกมือลา แสงไฟรถสว่างจ้าขึ้นมาจากรถคันนั้น พอผู้หญิงไฮโซคที่ดูยังสวยยังสาวและมาดนางพญานั้นเปิดกระจกมาโบกมือลา ผมถึงได้เห็นว่าผู้หญิงผู้ชายคู่นั้นคือใครเป็นคนที่ผมรู้จักดีซะด้วย

         "พี่วินคบกับสาวสูงวัยไฮโซเหรอว่ะ กูเพิ่งรู้เลยนะเนี่ย เปรี้ยวว่ะ" อีทพูดเปิดประเด็น

          "เขาคบกันเหรอ" ตั้มพูดขึ้นมาบ้าง สายตายังจ้องไม่หยุด

          อย่าบอกนะว่าตั้มแอบชอบพี่วินน่ะ มาเฟียกับลูกแกะน้อยชัดๆ

         ผมชี้ไปที่คู่นั้นแล้วพูดแก้ความเข้าใจผิด

         "นั่นไฮโซน้ำผึ้ง"

          "มึงรู้จักเหรอ ไอ้ฉัตร" อีทถามขึ้นมาทันที

          "รู้จักดิ ก็แม่พี่วินไง"

         " ห๊า แม่พี่วินเหรอ หน้าเถื่อนอย่างพี่วินนั่นแกเป็นลูกไฮโซเหรอว่ะ กูนึกว่าพี่แกจน วันๆ เห็นขี่มอเตอร์ไซค์ฮอนด้าเก่า แต่แต่งครบเครื่องชิบหาย ใส่เสื้อยืด ชอร์ปกับกางเกงยีนส์ขาดๆ มาดไม่ให้ว่ะ"

         "มึงก็พูดไป พี่วินแกลูกชายหัวแก้วหัวแหวนหญิงเหล็กเจ้าแม่ธุรกิจอาหารแช่แข็งเลยนะมึง" ผมอภิบายภูมิหลังครอบครัวพี่วินต่อ

        "บ้านพี่วินรวยมากเลยเหรอ"

        ตั้มพูดด้วยน้ำเสียงหงอยๆ คงจะเอาเปรียบเทียบกับตัวเองในใจมั้ง คนเรามันเลือกเกิดไม่ได้นี่นะ

       " แต่พี่วินเป็นคนติดดินว่ะ ดูการแต่งตัวมันดิ เดินคู่กันแม่ลูกแล้วเหมือนคุณนายกับคนรับใช้ไม่มีผิด แม่พี่วินไฮโซตั้งแต่หัวจรดเท้า"
       
         
          พอรถจอดผมกับตั้มรีบลงจากรถและผมรีบไปเข้าห้องน้ำก่อนเพราะรู้สึกปวดหนักขึ้นมากระทันหัน 

          พอผมเดินออกมาจากห้องน้ำ ผมคิดว่าเพื่อนคงจะขึ้นลิฟต์กันไปหมดแล้ว รถมอเตอร์ไซค์ที่อยู่อีกด้านหนึ่งก็ยังไม่มีวี่แววจะเจอลูกรักของผมเลย ผมพยายามเดินหาจนเดินไปด้านหลังหอที่ ที่ไม่มีเพียงแสงไฟสลัวๆ ต้องใช้โทรศัพท์มือถือช่วยส่องสว่าง

        ผมเห็นข้อความแจ้งเตือนในโทรศัพท์เลยเปิดไลน์เข้าไปดู  พี่วินไลน์มาว่า พ่อผมให้คนมาเอารถไปตรวจเช็คสภาพรถต่อพรบ.ใหม่ของปีนี้
     
       พี่วินสนิทกับพ่อผมมากและเป็นคนแนะนำโควตานักกีฬาของมหาลัยนี้ให้ผมมาสมัครแถมวันที่ผมบินมาจากเชียงใหม่ พี่วินยังมารับผมมาจากที่สนามบินและพาไปจัดการเรื่องหอ เรื่องรายงานตัวและยัดผมเข้าชมรมเทควันโดเสร็จเรียบร้อย พี่วินทำตัวเหมือนเป็นพ่อคนที่สองของผมไปแล้ว

       พอเงยหน้าดูก็เห็นพี่บอสกำลังก้มลงจ้องโทรศัพท์ผม

        "มองอะไร"

        ผมรีบเอาโทรศัพท์เบี่ยงหลบทันที

        "เปล่า"

        มันยักไหล่แล้วยกน้ำปั่นขึ้นมาดูด

        พอรู้ว่าลูกรักยังปลอดภัยดี ผมก็เดินกลับหอ

        "แล้วพี่เดินมาข้างหลังนี่ทำไม"

        "ก็เดินตามมึงมานั่นแหล่ะ เห็นท่าทางแปลกๆ ถึงปกติมึงจะดูแปลกๆอยู่แล้วก็เถอะ แต่เมื่อกี้มึงดูแปลกกว่าทุกวัน"

         "แปลกยังไงว่ะ"

         "เปล๊า"

         เสียงสูงขนาดนี้ ฟังดูมีพิรุธที่สุด

         ผมกำลังจะเดินต่อ แต่จู่ๆ พี่บอสมันก็ลากผมไปแอบหลังรถคันหนึ่ง ผมกำลังจะถามว่ามีอะไร มันก็เอามือปิดปากผมแล้วกดหัวผมให้ซบอยู่ตรงอกมัน

          ผมตั้งใจว่าจะจับพี่มันทุ่ม แต่พอได้ยินเสียงครางแปลกๆ ผมก็เลยเงียบบ้างและชะเง้อไปทางด้านหน้ารถก็เห็นผู้ชายสองคนกอดจูบกับอย่างดูดดื่มก่อนที่จะผู้ชายอีกคนจะล้วง ควักเข้าไปข้างในเสื้อจนกระทั่งสองคนนั้นเลยเถิดไปจนถึงมีอะไรกันต่อหน้าต่อตา ผมรู้สึกว่าทั้งคู่เป็นคนที่ผมคุ้นเคยดี แต่นึกไม่ออกมาใคร

         ผมมองอีกคนที่นั่งแนบชิดกับผมตอนนี้เพราะซอกท้ายรถที่พวกผมแอบกันนี้มันแคบแสนแคบพอมีผู้ชายตัวโตๆ สองคนมาอยู่ในนี้จึงยิ่งแคบเข้าไปใหญ่

         "อ้า อ้า อ๊า เสียวจังครับ"

         "อืม แน่นชิบหาย อือ" :oo1:

         ภาพและเสียงมาเต็มขนาดนี้ยิ่งไฟสลัวๆ อีก ถึงจะเห็นหน้าคู่นั้นไม่ชัด แต่เห็นท่างท่าลีลาชัดเจน



        หลังจากผมเห็นและได้ยินเสียงทั้งคู่เสร็จภารกิจกามรอบแรก ผมก็นึกว่าจะได้ออกจากตรงนี้ได้เสียที


        แต่ผมคิดผิด พวกมันเริ่มรอบใหม่

        ตอนนี้ผมไม่สนแล้วว่าคู่นี้จะใช้ท่าไหน อะไรยังไง แต่ผมสนว่าเมื่อไรมันจะหยุดกันสักที ผมหันไปมองเพื่อนร่วมชะตากรรมที่ตอนนี้หน้าแดงซ่าน แม้จะมองไม่ชัดเพราะตรงนี้แสงน้อยเหลือเกิน แต่ผมว่าผมตาไม่ฝาด ผมว่าเห็นว่าพี่บอสมันหน้าแดงก่ำ มือมันขยับยุกยิก  สายตาจ้องคู่นั้นสลับกับจ้องหน้าผม

        'เป็นอะไร'

        ผมกระซิบเสียงเบาจนแทบจะไม่ได้ยิน แต่ผมรู้ว่ามันได้ยินแน่ๆ

        'ร้อน'

 
       มันเริ่มปลดเสื้อกระดุมสามเม็ดบนออกจนเห็นหัวนมแว่บๆ เหงื่อไหลโซมกาย พอหลังจากนั้นห้านาที ผมก็ได้ยินเสียงรูดซิบลง
 
      'ทำอะไร'

        'ช่วยตัวเอง ถ้ากูมีใครช่วยเหมือนไอ้เชี่ยนั่นก็ดีนะ' สายตามันมองมาทางผมแบบเว้าวอน

        ผมกำหมัดแน่น

        'กูหยอกมึงเล่น มึงไม่ต้องทำให้กูหรอก เดี๋ยวทำให้มึงดูเองน่ะได้อารมณ์กว่าเยอะ'

        'โรคจิต ชอบโชว์เหรอมึงน่ะ'

        'แล้วไง อย่าบอกนะว่ามึงไม่เคยทำต่อหน้าคนอื่น อ่อนว่ะ'

        มันยักคิ้วให้แล้วก็คงเริ่มช่วยตัวเองต่อหน้าผม ผมเลยต้องเอามือปิดตาตัวเองแน่น

        ผมยอมรับว่า ผมก็ผู้ชายเจอหนังสดขนาดนี้ ผมก็ต้องมีอารมณ์เป็นธรรมดา แต่ผมยังมีสติและความอดทนเหลืออยู่

        'อือ ดีจังเลยน้องฉัตร อืม แน่นจังครับ'

        "ไอ้เชี่ย!"

       
        "ใครน่ะ "

        "เมี้ยวววววว"

        ไอ้พี่บอสมันร้องเหมือนแมว มุกควายๆ แบบนี้จะรอดเหรอ และแล้วก็ไม่รอด ผมได้ยินเสียงฝีเท้าเดินมาใกล้ๆ เรา ไอ้พี่บอสถอดเสื้อแล้วโยนมาบนหัวผม

        "เอาคลุมหน้าไว้ซะ"

        ผมรีบเอาเสื้อเชิ้ตมันคลุมหน้าทันที ผมกำลังจะซาบซึ้งที่มันช่วยผมอยู่พอดี แต่มันเล่นที่เผลอแกะกระดุมเสื้อผมทุกเม็ดแล้วเอาแขนผมไขว้กับเสามัดด้วยเข็มขัด

         ผมกำลังจะยกขาถีบมัน แต่มันกลับยื่นหน้ามากระซิบว่า "เชื่อใจกูเหอะ เดี๋ยวที่เหลือกูจัดการเอง ขอแค่ให้มึงไว้ใจกูก็พอ"

         "ไอ้เชี่ยบอส"

         "อ้าวสวัสดีครับเฮียยยวิน"

         พี่วิน อย่าบอกนะว่าเป็นพี่วิน ประธานชมรมเทควันโด พ่อคนที่สองของผม

        "มึงไม่ต้องลากเสียงยาว มึงกล้าดียังไงมาแอบดูพวกกูเอากัน"

        เสียงนี้ใช่เลย พี่วินจริงๆด้วย

        "อ้าว เสียงครางเมื่อกี้ของเฮียเหรอ ผมไม่ได้สนใจว่ะ ผมกำลังเข้าด้ายเข้าเข็มกับ'เมีย'อยู่พอดี"

         มันเน้นจัง ไอ้คำว่า 'เมีย' เนี่ย ไอ้พี่บอสมันกล้าดียังไงมาเรียกผมว่าเมีย

        "มึงไม่เห็นแน่เหรอว่ะ" พี่วินถามย้ำ เสียงพี่ดูไม่ค่อยเชื่อคำโกหกคำโตของไอ้พี่บอสสักเท่าไร

         "เออดิครับเฮีย ไปได้ยัง ขัดจังหวะผมจริงๆ ไม่เห็นเหรอว่าพวกผมยังไม่เสร็จ ผมจะต่ออีกสักรอบสองรอบ เมียผมมันชอบแบบนอกสถานที่ ตื่นเต้นเร้าใจดี"

         "ไอ้บอส กูเพิ่งรู้นะเนี่ยว่ามึงเป็น" พี่วินน้ำเสียงกวนตีนมาก

         "เฮ้ย  ผมยังชอบผู้หญิง" ส่วนไอ้พี่บอสก็ดูเหมือนจะตกใจรีบปฎิเสธใหญ่เลย

         "แสดงว่า มึงเป็นไบ ถึงเมียมึงจะปิดหน้า แต่กูไม่ได้โง่นะ กูรู้ว่าเมียมึงเป็นผู้ชายเล่นใส่ชุดนักศึกษาชายมาเลยนี่"

         "ฮ่าๆๆ " ไอ้พี่บอสหัวเราะ

         "เออ กูบอกไว้ก่อน ถึงมึงจะเอาเรื่องกูไปพูดต่อก็ขอให้รู้ไว้ว่าคนอย่างกูไม่แคร์อยู่แล้ว แต่ถ้ามึงทำเด็กนี่เสียหายล่ะก็ กูเอามึงตายแน่"

         "เฮียก็น่าจะรู้ว่าผมเป็นพวกไม่ชอบยุ่งเรื่องชาวบ้าน"

         วันๆ มันเอาแต่นอน มันสนใจโลกที่ไหนกัน

         "เอ่อ เรื่องมึงกับเมียมึง กูก็จะไม่บอกใครเหมือนกัน กูฝากดูแลน้องฉัตรด้วยนะ"

         "ดูแลมันทำไมวะเฮีย ตัวมันโตยังกับควาย มันน่าจะดูแลตัวเองได้อยู่แล้ว"

         ผมอยากจะกัดหูมันจริงๆ มาเปรียบเทียบสุดหล่ออย่างผมกับควาย

         "มึงมันไม่รู้อะไร น้องฉัตรมันเป็นลูกผู้มีพระคุณของกู ถ้าไม่ได้พ่อของน้องมัน ป่านนี้กูคงเป็นหมานอนเน่าอยู่ในคุกไปแล้วกุรักมันเหมือนน้องแท้ๆ แล้วน้องกูมันก็เป็นเด็กดี กูกลัวมันจะโดนหลอก กลัวจะไปคบเพื่อนไม่ดี"

         พี่วินเริ่มร่ายยาวเป็นพ่อคนที่สองของผม ทั้งที่พ่อคนที่หนึ่งของผมยังไม่สนใจเลย วันๆ ทำงานหาแต่เงิน กลับบ้านไปผมก็ต้องเหงาอยู่คนเดียวจนแม่ผมขอหย่าไปแต่งงานใหม่

         "ไอ้พัฒน์มันก็ฝากผมมาเหมือนกัน มันเป็นพี่เทค ผมล่ะไม่เข้าใจเลย เป็นอะไรกันไปหมดว่ะ ห่วงแต่ไอ้น้องฉัตรเนี่ย เป็นผู้หญิงก็ว่าไปอย่าง"

         "เออ ดีๆ ฝากขอบใจไอ้พัฒน์มันด้วย ส่วนมึง ถ้าเจอใครรังแกน้องกู มึงก็มาบอกกูแล้วกัน กูจะไปกระทืบมันสักหน่อย"

         กระทืบมันก่อนเพื่อนเลยพี่วิน...

         "ได้ครับเฮีย"

         นี่ก็ยังไม่รู้ตัวอีก

          "งั้นกูไปล่ะ จะไปต่อบนห้องอีกสักรอบ"

         แค่นี้ยังไม่พออีกเหรอพี่ อะไรจะหื่นขนาดนี้

         "ตามสบายเลยคร้าบบ เฮียยย"

         "กวนตีนนะมึงน่ะ เดี๋ยวกูเตะให้

         เสียงฝีเท้าเริ่มห่างออกไปจนไม่ได้ยินเสียงแล้ว ไอ้พี่บอสมันดึงเสื้อมันออกจากหัวผมแล้วเริ่มช่วยตัวเองให้ผมดูอีกครั้ง ผมเลยหลับตาปี๋

         "อือ น้องฉัตรอ้า "

         ผมได้แต่เบือนหน้าหนี

         "ไอ้เชี่ย หยุดเรียกชื่อกูเลยนะ"

         "น้องฉัตร อ้ากว้างๆ สิ อืมลึกพอไหมจ๊ะ อือ "

         "ไอ้เชี่ยบอส กามนะมึงน่ะ อย่าให้กูหลุดไปได้นะ กูจะต่อยมึงให้คว่ำเลย"

         "อืม น้องฉัตร พี่เสียวจังเลย แน่นดีจัง ตอดดีด้วย ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ"

        อย่าบอกนะว่ามันแกล้งผม

        "ลืมตาได้แล้ว กูแค่อำมึงเล่น มึงเห็นกูเป็นพวกชอบโชว์รึไง"

        ผมลืมตาขึ้นมาก็เห็นมันใส่กางเกงเรียบร้อยแถมยังติดกระดุมเสื้อครบทุกเม็ดด้วย

        "ก็นึกว่าเป็นพวกเดียวกับพี่วิน"

         "ไม่ใช่เลย กูไม่ได้มีรสนิยมแบบนั้น กูสายอ่อนโยน เบาๆ ทุกท่วงท่าแต่ลีลากูเด็ด" ผมควรจะเชื่อมันดีไหมเนี่ย ท่าทางโคตรน่าถีบ

         "เอาที่สบายใจเลย"

         "ว่าแต่เฮียวินกับเพื่อนมึงนี่ลีลาดีชิบหาย" ไอ้พี่บอสชมแบบดูก็รู้ว่ามันไม่จริงใจ

         "เพื่อนผม?"

         "ก็คนที่มาซ้อมลีดกับมึงเมื่อวานไง คนที่ตัวสูงกว่ามึงน่ะ" มันพูดด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ อยากเอาอะไรจิ้มตามันจัง

         "ตั้มอ่ะเหรอ เป็นไปไม่ได้หรอกเว้ย พี่ตาฝาดหรือเปล่า"

         โกหกน่า คนอย่างตั้มนี่นะจะมาทำเรื่องแบบนี้กับพี่วิน คนอย่างพี่วินทำแบบนี้น่ะไม่แปลกเพราะรายนี้เจ้าชู้ตัวพ่อ ด้านมืดของพี่วินผมก็เคยได้ฟังจากปากเพื่อนๆ พี่ๆ ในชมรมมาบ้าง แต่ใสใสอย่างตั้มเนี่ยนะทำไมถึงได้ทำเรื่องแบบนี้

          "ไม่เชื่อ มึงก็ไปถามเพื่อนมึงเองสิ" มันตอบแบบไม่ใส่ใจ

          มันยักไหล่แล้วเดินไปด้านหน้าหอ

         "แล้วมึงจะนั่งอยู่ตรงนั้นอีกนานไหม ลุกขึ้นมาได้แล้วเดี๋ยวก็โดนยุงหามหรอก"

         พอได้ยินมันเรียก ผมถึงเริ่มรู้ตัวว่าตอนนี้มันปลดเข็มขัดที่รัดข้อมือผมออกแล้ว ผมรีบวิ่งไปกะว่าจะต่อยมันสักที แต่มันรู้ทันรีบวิ่งหนี

          ขายาวๆ ของมันยิ่งเร็วซะจนผมตามไม่ทันจนกระทั่งพวกเราต่างคนต่างหอบแฮ่กๆ หน้าลิฟต์

          พอเข้าไปในลิฟต์ ผมมองหน้ามันแล้วนึกขึ้นได้ว่า ผมจะแก้แค้นมันได้อย่างไรแล้วผมก็หัวเราะขึ้นมาอย่างสะใจ

          "หึๆๆ"

          "มึงนี่ท่าจะบ้า อยู่ดีๆก็หัวเราะคนเดียว"

          "ยุ่งน่า เป็นแมลงวันเหรอ ทำตัวน่ารำคาญ" ผมแกล้งดุกลบเกลื่อนเลยพูดเสียงเขียว
   
          "ไม่ล้อแล้ว เลิกทำหน้าบึ้งได้แล้ว ขี้เหร่จะตาย ว่าแล้วมองแรงเชียวนะมึง"

           ไอ้พี่บอสมันล้อเลียนผม ไม่พอมันยังยักคิ้วกวนตีนมาให้ด้วย

           "หยุดล้อได้แล้ว ไม่งั้นผมเตะอัดเละแน่ ว่าแต่พี่ดูสนิทกันพี่วินดีนะ" ผมชวนมันเปลี่ยนเรื่อง

           "สนิทดิ ก็ปีที่แล้ว กูดันโชคร้ายจับบัดดี้ได้คู่กับเฮียวินน่ะ กูเลยต้องไปเล่นเกมเสี่ยวๆ แมนๆ กล้ามชนกล้ามคู่กันทั้งวัน นึกแล้วยังอดสยองขนลุกไม่หายเลย"

           พี่มันทำหน้าสยองจนผมอดขำไม่ได้

          "55555 สมน้ำหน้า"

           พอลิฟต์เปิด ผมก็รีบเดินไปหน้าห้องตัวเองแล้วไขกุญแจเข้าห้อง ก่อนเข้าก้องผมหันไปลามัน

           "ไปนะ"

           "ฝันดีนะครับน้องฉัตร เมียรัก ฮ่าๆๆๆ ฝากบอกพ่อมึงด้วยว่ากูดูแลมึงเป็นอย่างดี"  พี่บอสโบกมือลาแล้วหันไปไขกุญแจห้องตัวเองบ้าง

           "เชี่ย"

           "โอ๊ยยย"

            ผมจับมันทุ่มลงบนพื้นแล้วรีบเปิดประตูเข้าห้องไปอย่างรวดเร็ว ขนลุกชะมัด

           "เขินแรงนะมึงเนี่ย"

           เสียงกวนตีนยังคงลอยทะลุประตูเข้ามา

          ผมกำหมัดแน่นและรีบไปพิมพ์ไลน์ทันที
          .
          .
          .
          .

           ผมจะหลอกอ่อยให้มันรัก แล้วจะหักหลังให้มันน้ำตาเช็ดหัวเข่าเลยคอยดู


   
        Chat ลับ
        Boss      : กำลังทำอะไรอยู่ครับ

        แก้มชมพู : ดูข่าวฆ่าหั่นศพ โหดร้ายมาก ทนายย. พูดงงๆ

        Boss      : งงยังไงครับ

        แก้มชมพู : เขาบอกว่า ฆ่าคนแล้วหั่นศพไม่ใช่การฆ่าที่เหี้ยมโหดทารุณกรรม

        Boss      : อ๋อ คืออย่างงี้นะครับ การฆ่าคนที่ทำให้ตายโดยทันทีต่างจากการฆ่าคนที่ทำให้ทำให้ทรมาน กรีดเนื้อ แทงจนเหยื่อขาดใจตายถึงจะเรียกว่า 'เหี้ยมโหดทารุณกรรม' แล้วก็พวกที่ต้องเพิ่มโทษตามม. 289 พี่ยกตัวอย่างนะคะ  เช่น ไตร่ตรองไว้ก่อน ฆ่าบุพการี ฆ่าพระ ฆ่าเจ้าหน้าที่ น้องแก้มคงจะเคยคุ้นๆหูจากในทีวีใช้ไหมครับ

        แก้มชมพู : อ่อ

        Boss      : ส่วนการหั่นศพคือการทำลายหลักฐานครับ ถือว่าทำหลังจากเหยื่อเสียชีวิตไปแล้ว ต้องแยกเป็นอีกเรื่องหนึ่งครับ ความผิดฐานนี้ต่างจากความผิดฐานซ่อนเร้นศพตามมาตรา 199 มาตรานี้จะต้องกระทำโดยมีเจตนาพิเศษเพื่อปิดบังการเกิด การตายหรือเหตุแห่งการตาย เช่น ฆ่าเหยื่อแล้วเผาศพอำพรางคี โบกปูน หั่นศพแล้วทิ้งตามชักโครก อย่างที่อินเดียมีคนใช้กรดน้ำกรดเข้มข้นกัดทำลายศพจนไม่เหลืออะไรเพื่อทำลายหลักฐานครับ

        แก้มชมพู : อ่อ มนุษย์เราโหดร้ายกันจังนะคะ ฆ่าเขาตายแล้วยังทำอย่างนั้นไปลงคอ

        Boss      : ก็มนุษย์มีความกลัวและความเห็นแก่ตัวอยากเอาตัวรอดนี่ครับ อย่างมีเงินตกอยู่หน้าห้องน้องอยู่มีแบงค์พันรวมแล้วหนึ่งล้านบาทจะเก็บไหมครับ แต่ถ้าพี่ติดกล้องไว้ล่ะน้องแก้มจะทำอย่างไร

      แก้มชมพู   :ตอบแบบไม่เสแสร้งนะคะ ตอนไม่มีกล้องนี่อาจจะ...เก็บ 55555 ขอเก็บไว้เป็นที่ระลึกสักใบ สองใบ หรืออาจจะไม่เก็บ ลังเลมากอ่ะค่ะ แต่ถ้าเห็นกล้องวิดิโอแล้ว ใครจะไปกล้าเก็บล่ะคะ
 
     Boss : 5555 ตอบเหมือนพี่เลย ใจตรงกันนะเนี่ย พี่ถึงมาเรียนกฎหมายเพราะอย่างน้อยเราก็สามารถควบคุมคนด้วยกฎหมายที่มีบทลงโทษ ทำให้คนกลัวจนจะทำผิดแต่ละครั้งต้องไตร่ตรองมากขึ้น  และโทษมีหลายระดับให้เข้ากับพฤติกรรมมนุษย์อย่างฆ่าคนตายนี่ก็เพรมีหลายแบบและก็มีบทลงโทษไม่เหมือนกัน เช่น ฆ่าคนตายตาม ม. 288 มีโทษจำคุกตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป จำคุกตลอดชีวิต ประหารชีวิตแล้วก็ดูจากเจตนา ไม่เจตนา หรือว่าประมาทครับ

        แก้มชมพู  : อ่อ ซับซ้อนจัง ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไรค่ะ

        Boss       : ไม่เป็นแล้ว พวกที่ต้องเพิ่มโทษตามม. 289 พี่ยกตัวอย่าง เช่น ไตร่ตรองไว้ก่อน ฆ่าบุพการี ฆ่าพระ ฆ่าเจ้าหน้าที่ น้องแก้มคงจะเคยคุ้นๆหูจากในทีวีใช้ไหมครับ

        แก้มชมพู  : คะ

        Boss       :  พี่ดีใจจังที่น้องแก้มสนใจกฎหมายพวกนี้ด้วย

        แก้มชมพู :  พ่อแก้มเป็นตำรวจค่ะเลยคุ้นเคยกับอาชญากรรมอยู่บ้าง แต่แก้มไม่เก่งทางกฎหมายเท่าไรน่ะค่ะ

        Boss       : ครับ สงสัยอะไรตรงไหนถามพี่ได้น่ะครับ สำหรับน้องแก้มพี่ว่างเสมอ (สติ๊กเกอร์รูปหัวใจ)
       

         (จบตอน)




PS, เดี๋ยวมีภาพ เอ้ย ภาคพิเศษเล่าเรื่องของคู่วิน × ตั้มนะคะ  แนวผู้ชายสายดาร์กกับน้องไบโพลาร์  มาแนวสะท้อนสังคมนิดๆ   นัทสึมีแรงบันดาลใจมาจากการเรียนและประสบการณ์การลงพื้นที่ไปฝังตัวเก็บข้อมูลการบำบัดยาเสพติดในชุมชน ปัญหาเยาวชน เด็กวัยรุ่นตีกัน ชีวิตในเรือนจำและพวกคดีอาชญากรรมค่ะ แต่เอามาใส่น้อยๆ เพราะเรื่องนี้ใสใสค่ะ  อยากจะลองเอามาแต่งจริงจังก็กลัวจะโหดร้ายไป ตอนนั้นรู้สึกมันเป็นการทำงานที่เหมือนเปิดโลกอีกโลกหนึ่งที่เรามองจากละคร นิยายมากๆค่ะ 


ตอนต่อไปเขินอายกับNC ที่แต่งไปได้ยังไงก็ไม่รู้สะท้อนตัวตนด้านมืดนัทสึมากค่ะ  55555




      ฝากติดตามด้วยนะคะ ขอบคุณที่เข้าอ่านนะคะ

     ใครเม้นต์ขอให้แฟนหล่อ ใครกดไลค์ของรวยๆ เฮงๆนะคะ 

         นัทสึ
       
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-06-2017 04:24:46 โดย natsikijang »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ manow1

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 11
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
 :laugh: บอสแกล้งฉัตรตลอด ตัวเองคิดอะไรกับเขาป่าวเนี่ย รอภาพพิเศษ  :pighaun:

ออฟไลน์ vavavivi

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 14
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

ออฟไลน์ natsikijang

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 540
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-4
Side Story : 1
        ผู้ชายสายดาร์ก  (วิน × ตั้ม) Nc 20 +

         ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมา ผมฝันร้ายอีกแล้ว แม้ว่าจะผ่านคืนวันโหดร้ายนั้นมาร่วมปีกว่าแล้วจดผมแทบจะลืมเลือนมันไปเสียสนิทจนกระทั่งเด็กคนนั้นเข้ามาเรียนที่นี่และเข้ามาอยู่หอเดียวกันกับผม ตั้งแต่วันที่ผมจับบัดดี้ได้เด็กปีหนึ่งที่ชื่อ 'ตั้ม ห้อง 601'

      คราบน้ำตาของเด็กคนนั้นทำให้ผมรู้สึกสับสน เสี้ยวหนึ่งในหัวใจกลับรู้สึกสงสารเด็กคนนี้เพราะมันถูกหลอกมา แต่ตอนนั้นผมเมายาทำให้มึนงงจึงยังคงทำเรื่องชั่วๆ ต่อไป
        .
        .
        .
        .
        .
        .
        .
        ชีวิตผมบัดซบตั้งแต่สมัยม. 4 ผมคิดมาตลอดว่า แม่ไม่ต้องการผม แม่ผมมีผมโดยไม่ได้ตั้งใจ

        ฟังไม่ผิดหรอก แม่ผมคลอดผมตอนที่ไปเรียนต่อMBA ที่บอสตัน หลังจากนั้นแม่ก็แต่งงานกับผู้ชายที่ต้องการสมบัติของครอบครัวแม่ หลังจากตาของผมตาย แม่ก็เลิกกับผู้ชายที่ผมเรียกว่า'พ่อ' มาตลอด


      ผมหน้าตาเหมือนเด็กฝรั่ง เพื่อนๆที่โรงเรียนมันล้อว่า 'ไอ้ฝรั่งขี้นก ไอ้ลูกไม่มีพ่อ' ผมรู้สึกโมโหมากเลยมีเรื่องชกต่อยกันอยู่ตลอด ถูกเชิญเข้าห้องปกครองตลอด แม่ผมก็ให้เลขามาจัดการและยัดเงินให้จนจบเรื่องไป


      พอขึ้นมัธยม ผมก็เริ่มเกเร วันๆ เที่ยวหญิง กินเหล้า แข่งรถ ผมได้โควตานักกีฬาเพราะเป็นนักกีฬาเทควันโดที่ผมฝึกซ้อมเพื่อเอาไว้อัดคนที่ผมไม่พอใจ ทำให้ให้เข้ามหาวิทยาลัยนี้ได้  แต่ผมก็ยังคบเพื่อนกลุ่มเดิม พบเจอสังสรรค์กันบ้าง


       เมื่อปีก่อน พวกมันชวนให้ผมลองเล่นยาไอซ์ หลังจากนั้นก็อยากเล่นอีก ความรู้สึกตอนนั้นมันคือ มันเพลิน สนุดี อารมณ์ดีอย่างบอกไม่ถูก รู้สึกกระตือรือร้นจนผมสามารถนั่งคุยยันเช้า ไม่ง่วงไม่หิว
     
       แต่พอยาหมดมันก็รู้สึกดาวน์คือเพลีย หน้ามืด และผมเลยต้องเติมยาเล่นต่อ

        ผมเริ่มไปเรียนบ้างไม่ไปเรียนบ้าง เพราะเรียนไม่รู้เรื่องบ้าง เพลียบ้าง ที่หนักสุดคือหลับในห้องตอนสอบจนติด F ไปสองวิชา ดร็อปไปอีก 3 ตัว
 
       ชีวิตพังๆ ของผมวนเวียนอยู่แต่อบายมุข เที่ยว กินเหล้า เล่นยา ติดพนัน ชีวิตมีแค่นั้น เพื่อนผมบางคนหาเงินไม่ทันก็ต้องไปขายบ้าง เล่นพนันบ้าง พวกมันหาเงินทุกวิธี รวมทั้งการถ่ายคลิปโป๊ด้วย
 
       ถึงแม่ผมจะไม่เคยสนใจไงดีผมเลยก็ก็ส่งเงินมาใช้ไม่ขาด แต่ผมก็นึกสนุกอยากเป็นพระเอกหนังในคลิปอยู่เหมือนกัน
 
      วันนั้นผมจำได้ว่าเพื่อนโทรเรียกผมไปถ่ายในคอนโดเพื่อนย่านเอกมัยที่เป็นแหล่งเล่นยาของพวกมัน ธีมเรื่องวันนี้เป็นฉากรุมข่มขืนเด็กม.ปลายกางเกงน้ำเงิน

           ผมไม่เคยเอากับผู้ชาย พอเพื่อนมันท้า ผมเองที่อยากจะลองอยู่แล้วก็เลยรับคำท้าเพราะกลัวตัวเองจะเสียหน้าเพื่อน
 
            ตอนผมเปิดประตูเข้าไปเห็นเด็กกางเกงน้ำเงินถูกมัดมือและมีผ้าปิดปากที่ปลายหัวเตียงนอนร้องไห้อยู่บนเตียงนอนขนาดคิงไซต์
 
       "มาช้านะมึง ไอ้เชี่ยวิน" ไอ้ยอร์ชเพื่อนสนิทผมทัก วันนั้นมันร่วมแสดงกับผมด้วย มันกำลังจิบเบียร์อยู่
 
      "รถติด"  ผมตอบสั้นๆ
 
      “หายหน้าหายตาไปเลยนะมึง เพื่อนๆคิดถึงมึงกันเยอะเลยว่ะ” น็อตเดินมาตบไล่ผม มันเองก็เป็นเพื่อนรักของผมคนหนึ่ง
 
       ตอนนี้เพื่อนที่เป็นคนถ่ายกล้องวิดิโอและกล้องมือถือ แต่ละคนเริ่มหามุมและเช็คกล้อง ขณะที่ผมยอร์ชและน็อตเริ่มฟิตหุ่น ยอร์ชถึงกับลงไปวิดพื้น
 
       ไม่นานนัก น็อตก็ลุกขึ้นไปหยิบกระปุกหอยนางรมสดจากตู้เย็นออกมาทานเป็นกับแกล้มกับเบียร์
 
     “มึงกินเปล่า ไอ้วิน กินแล้วเซ็กซ์จัดดีนะ”
 
     “อืม” ผมพูดก็หยิบเข้าปากไป มันคาวๆ แต่ก็อร่อยดี
 
     “มึงเคยเอากับผู้ชายมาก่อนเปล่าว่ะ” ผมถามในขณะที่ผมกำลังหยิบหอยนางรมสดตัวที่ห้าเข้าปากพอดี
 
     “เคยดิสิ มึงต้องลองเองทั้งมันส์ทั้งเสียว สะใจ”
 
    "กูไม่เคยว่ะ  กูบอกตรงๆ กูเริ่มไม่อยากแล้วว่ะ กลัวไม่มีอารมณ์ ทำตัวไม่ถูกต่อหน้ากล้อง"     
 
     แล้วเพื่อนผมก็ก้มตัวลงหยิบเบียร์กระป๋องใหม่ ก่อนที่จะลุกไปยังโทรทัศน์ แล้วเปิดวีดิโอโป๊เกย์ให้ผมดู
 
    “มึงดูซะ เดี๋ยวมึงก็อยากเอง”

      ผมนั่งดูวีดิโอที่พี่เปิดอย่างตั้งใจมากๆ เพื่อที่จะได้ศึกษาไว้ แต่พอดูไปดูมาก็ไม่เห็นจะรู้สึกอะไร
 
     "กูไม่เอาแล้ว ไม่มีอารมณ์ว่ะ"
 
      ผมเตรียมจะลุกขึ้นเดินกลับบ้าน
 
     "เฮ้ย เชี่ยวิน ไหนๆ มาแล้วอย่าเพิ่งกลับ เอางี้เดี๋ยวกูสอนมึง เอาโทรศัพท์มึงมา เดี๋ยวกูถ่ายเก็บไว้แล้วให้มึงกลับไปเรียนรู้ ไอ้ยอร์ชมึงว่าไง"
 
     “ได้เดี๋ยวกูสอนให้มันด้วย แล้วก็ตั้งใจเรียนด้วยนะ มึง เฮ้ย พวกมึงถ่ายเรื่องอื่นไปก่อนนะ เดี๋ยวพวกกูขอไปซ้อมบทก่อน ไอ้วินมึงอุ้มเด็กนั่นตามกูมา”

      พอผมได้ยินคำพูดจากปาเพื่อนของผม ผมไม่รอช้ารีบอุ้มเด็กคนนั้นไปที่ห้องนอนอีกห้องทันที ผมวางน้องเขานอนหงายลงบนเตียง ตอนนี้น้องเองยังไม่มีเรี่ยวแรง ดูเหมือนคนที่กำลังจะหมดสติ ผมรีบดึงผ้าอุดปาดออก

    "ปล่อยผม ได้โปรด พี่ๆ ปล่อยผมไปเถอะครับ ผมขอร้อง ผมโดนหลอกมา"

      เด็กชายมัธยมปลายนอนคว่ำหน้าโดนมัดมือมัดเท้าไว้พยายามดิ้นหนีแต่ก็หนีไม่พ้นเพราะเพื่อนผมสองคนจับไว้แน่น จับไปปลดกระดุมเสื้อไป บางทีก็ลูบไล้ก้นบ้าง เขี่ยยอดอกสีชมพูบ้าง อีกคนก็ไล้ซอกคอ ไหล่บ้าง
 
     "มึงเบิกทางมันดิ ไอ้วิน ทำเหมือนในวิดิโอน่ะ"
 
     ผมจับเข่าทั้งสองข้างของน้องชันขึ้นถอดกางเกงและกางเกงไว้คาไว้ที่หัวเข่า แล้วแหกอ้าขาออกไปด้านข้าง ส่วนผมเองก็เข้าไปนั่งคุกเข่า เอานิ้วกลางแหย่ไปในช่องทางด้านหลัง ก่อนจะเพิ่มเป็นสองนิ้วและสามนิ้วในที่สุด
 
     "อืม อ้าาา ปล่อยผมไปเถอะ พี่"
 
     น้องมันร้องอ้อนวอนทั้งน้ำตา ผมเริ่มชะงักนิ้ว รู้สึกสงสารเด็กมันเหมือนกัน
 
     "เฮ้ย เร็วๆ ดิว่ะ ไอ้วิน ช้านะมึง ไม่ต้องรอเด็กนี่มันพร้อมหรอก"
     น็อต เพื่อนผมมันบอก ขณะพวกผมทั้งสามคนกำลังจะขืนใจเด็กคนนี้ 
 
      "ใจเย็นดิว่ะ วันนี้มันต้องโดนตั้งสามนะเว้ย เด็กมันไม่เคย เดี๋ยวมันทนไม่ไหวเอา"


       ยอร์ชพูดพลางเดินไปหยิบท่อนปลอมจากในลิ้นชักในห้องนอนออกมา แล้วนั่งลงที่เดิม แล้วมันก็ถอดเสื้อผ้าน้องออกจนเนื้อตัวเปลือยเปล่า ก่อนที่มันจะยัดท่อนปลอมเข้าออกช่องทางของน้องคนนี้ แล้วดันเข้าดันออก


      "ผมเจ็บ อ๊า อ้า"

      ผมมองภาพนั้นแล้วชักมีอารมณ์เข้าจริง ก็ทั้งเม็ดสีชมพูบนยอดอกที่ชูชัน ท่าทางที่ไร้เดียงสาน่าสนใจกว่าสาวๆ ที่ผมเคยพบเห็นมาเสียอีก อาวุธของผมมันก็ตุงดันเป้ากางเกงจนปวดไปหมด


  ผมถอดกางเกงออกแล้วหันไปมองทางน็อตที่นั่งอยู่บนโซฟาอยู่ข้างๆผม มันไม่พูดอะไร ได้แต่ยักใหล่ พยักเพยิดหน้าให้ ผมถอดกางเกงในออกพร้อมๆกันแล้วนั่งดู


   เสียงครางระงมของน้องทำให้ผมรู้สึมีอารมณ์มากขึ้นไปอีก


      “ลูกชายโด่เชียวนะ มึง" 

     "อืม" ผมตอบ

      น็อตมันจ้องมองอาวุธของผมตาเขม็งเชียว
 
       “ใหญ่ยาวกว่าฝรั่งอีก”

      "อืม ยอร์ชมึงเอาออกไปได้แล้ว กูพร้อมรบแล้ว น้องมันโดนของกูก็น่าจะหนักเอาการอยู่ งั้นพวกมึงก็ปล่อยมันไป แล้วหาเด็กคนอื่นแทน เดี๋ยวกูแถมเงินให้คนล่ะห้าพัน”

       ผมรีบพูดเกลี้ยกล่อมเพื่อนของผมทันทีที่พวกมันน่าเริ่มจะคล้อยตามคำพูดของผม       


       "เฮ้ย ไม่เอาน่า พวกกูก็อยากเหมือนกันนะเว้ย"     

       "งั้นคนละหมื่น สงสารเด็กมัน"

       “ก็ได้ กูเห็นแก่มิตรภาพของเราหรอกนะ”

         "กูด้วย"

          พอผมได้ยินคำพูดจากพวกมัน ผมเองก็เข้าไปนั่งคุกเข่า เอามือประคองอาวุธค่อยๆ ดันแต่ก็เข้าได้แค่ส่วนหัว

                "โอ๊ยยย เจ็บ"

              พอเห็นน้องมันน้ำตาไหล ผมก็ก้มลงไปจูบเบาๆที่หางตาทั้งสองข้าง

              "ผ่อนคลายหน่อยนะ  พี่จะค่อยๆทำ"

            น้องมันเม้มปากแน่น น้ำตายังคงไหลอยู่ ผมลูบหัวมันเบาๆ ไม่รู้ทำไมรู้สึกสงสารเอ็นดูมันอย่างบอกไม่ถูกคงเพราะรู้ว่ามันโดนหลอกมามั้ง เสี้ยววินาทีหนึ่งที่ผมนึกอยากจะหยุด แต่มันมาถึงขั้นนี้แล้วคงต้องไปต่อ

        ผมรอน้องมันเผลอค่อยๆ ดันทีละนิดจนพรวดเดียวมิดด้าม       

         "โอ๊ยยยยยยยย"     

         น้องมันทุบผมแรงมาก มันคงจะเจ็บมาก

        "อืมมม เข้าไปหมดแล้ว พร้อมแล้วบอกพี่นะ"

        ผมกระซิบเบาๆ ที่ข้างหูน้อง ผมรอจนน้องมันพยักหน้าผมถึงเริ่มขยับ

        “โอ้ว... ซี้ดดส์..อ้าห์” ขนาดไม่ค่อยมีสติ น้องยังครางเบาๆตอบรับตามสัญชาตญาณโดยทันที

        "ครางเสียงดังๆเลยไม่ต้องอายหรอก"
 
        แล้วผมก็กระหน่ำอาวุธที่ใหญ่ยาวเข้าออกอย่างไม่ปราณีจนน้องเนื้อตัวสะท้านแอ่นตัวงอบิดด้วยความเสียวซ่าน
ทั้งร่างกายน้องกับผมเสยร่อน เข้าหากันเป็นจังหวะอย่างพร้อมเพรียงเสียงดัง ป้าบ ป้าบ ป้าบบ เสียงครางระงมของน้องดังก้องไปทั่วภายในห้องนอน

      “อ้าห์.. ฮ้า.. อ้าห์..ฮ้า..."

        "สาวยาวๆ กว่านี้ดิมึง..โอ๊ะ..นั่นแหล่ะ อูย..อูยส์ ลีลาเด็ด” ไอ้น็อตส่งเสียงเชียร์พร้อมชักอาวุธมาช่วยตัวเองบ้าง

        "เปลี่ยนท่าบ้างมึง"

         ไอ้ยอร์ชก็พยุงตัวน้องขึ้นมานั่งคร่อมทับอยู่บนต้นขาของผมแล้วก็จับมือผมมาวางช้อนอยู่ที่ใต้ก้นทั้งสองข้างของน้อง

           "อ๊ะ พวกพี่จะทำ อ๊า อะไร"

           "จะพาน้องไปขึ้นสวรรค์ไง"

          ผมยกก้นพยุงตัวน้องขึ้นสูงอาวุธของผมโผล่พ้นช่องทางของน้องเหลือเสียบคาไว้แค่ส่วนหัว ก่อนที่ผมวางมือลงร่างกายส่วนล่างของเราประสานแนบสนิทกันอีกครั้งแล้วผมก็กระเด้งตัว ยกตัวน้องขึ้นลง ทำซ้ำไปเรื่อยๆ จนเตียงนอนลั่นดังเอี้ยดอ้าด ตามจังหวะขย่ม

        “อ้าห์..ฮะ "
   
        "โอ้วส์ เสียวแน่นคับดีจัง โอ๊ะห์.ดีมากครับน้อง..ซื้ดส์”

         ผมขยับท่านั้นอีกพักหนึ่ง ผมก็ลุกขึ้นถอนอาวุธออกแล้วจับน้อง น้องคลานเข่า หมอบใบหน้า แนบตัวและแขนลงกับพื้น พลางแอ่นเชิดบั้นท้ายมาทางผม

         ขณะที่เพื่อนผมตะโกนเชียร์ ผมยิ่งฮึกเหิม
 
      “เสียบเข้าไปแรงๆเลย.."

      "โอ้วส์.นั่นแหล่ะ..แรงอีก ไม่ต้องกลัวน้องมันเจ็บ "

       "ใช่ๆ ยิ่งแรง...ยิ่งเสียว..เชื่อกูโอ้ววว”

      น้องพยายามเหลียวหน้ามาพูดกับผม โดยใบหน้าน้องแนบติดอยู่กับพื้น

      "พี่เข้ามาเถอะครับ ผม ผมไม่ไหวแล้ว"

      น้องคงจะอารมณ์ค้าง ผมจ่ออาวุธแล้วดันพรวดเดียวมิดด้าม

      "อึก.ผมเสียว.โอ้วส์..อ้าส์”

       ผมใช้ฝ่ามือฟาดลงบนก้นงอนๆของน้องดังป้าบ อยู่หลายที
       
       เพื่อนผมก็ยังร้องเชียร์อย่างเมามันส์

       “มึงทแยงซ้ายบ้าง ขวาบ้างดิ๊ .."

      "โอ้ว..ซี้ดส์..นั่นแหล่ะ ไอ้วินแม่งอึดเป็นบ้า "

       "ทีนี้ใกล้เสร็จแล้วเอาออกมานะมึง มึงอย่าลืมว่ามึงไม่ได้ใส่ถุง”

        ผมจับน้องเปลี่ยนท่าอุ้มน้องเขาเขาเดินไปรอบๆห้อง แล้วพากลับมาที่เตียงจับต้นขาน้อง พาดทับกับต้นขาของผมไว้ ก่อนที่ผมจะจัดให้ตามคำสั่งเพื่อนอีกครั้ง หน้าอกน้องเด้งกระเพื่อม ผมเองก็เสียวจนสุดจะกลั้นแล้ว

     “โอ้ว..ไม่ไหวแล้ว... ผม โอ๊ะส์..อ้าห์..ผมแตกแล้ว "

      "...อ้าส์..ซื้ดดส”

      ทั้งผมและน้องตัวเกร็งกระตุกใส่กัน ด้วยความเสียวสะท้านด้วยกันทั้งคู่ ผมก็เกร็งฉีดน้ำอุ่น ๆ เข้าไปในช่องทางของน้องมากมาย

       "ไอ้เชี่ยวิน มึงแตกใน" พอไอ้น็อตทักผมถึงได้สติ มันอันตรายมาก ผมไม่น่าลืมป้องกัน

        "อารมณ์มันพาไป ถอนออกมาไม่ทันว่ะ" จริงๆผมลืมไปสนิทเลย

        "เออ ช่างมันเถอะ มันสายไปแล้ว กูว่าน้องมันสะอาดอยู่"

        ไอ้ยอร์ชมันเดินเข้าตบไหลผม


        ผมถอนอาวุธออกมา เลือดเต็มที่นอนเลย น้องมันคงจะเจ็บน่าดู ต้องรีบพามันไปหาหมอแล้ว

       ผมรีบจัดการตัวเองลวกๆ แล้วลุกขึ้นมาใส่เสื้อผ้าให้น้องมันบ้าง น้องมันหลับไปแล้วหลังจากนั้น ผมก็อุ้มน้องขึ้นมาแล้วไปทางประตู น็อตมันรีบเดินมาเปิดให้
     
        พวกที่อยู่ในห้องรับแขกกำลังปาร์ตี้กันพอดี ยังเปิดเพลงกันเต้น บางคนตั้งวงเล่นไฮโล บางคนกำลังเล่นยา มีคนยื่นเข็มฉีดยามาให้ผมด้วย แต่ผมส่ายหัว ผมกลัวติดโรค
 
        "นั่นมึงจะพามันไปไหนน่ะ"
        เพื่อนของไอ้น็อตที่เป็นเจ้าของห้องทักขึ้น ตอนผมกำลังจะเปิดประตูออกจากห้องไป

        "กูจะพาเด็กไปส่งบ้าน"

       "มึงจะบ้าเหรอ ถ้าเด็กนี่เอาเรื่องไปบอกตำรวจจะทำยังไง" พอได้ยินว่า ตำรวจ พวกเพื่อนๆ คนอื่นก็ลุกฮือขึ้นมาล้อมพวกเรา

       "กูไม่สน"

        สายตาที่พวกนี้มองผม มองมาด้วยความหวาดระแวง ผมรู้ว่าพวกมันกลัวตำรวจ กลัวมาก กลัวจนพร้อมที่จะฆ่าทุกคนที่จะทำให้พวกมันไปนอนคุก รวมทั้งผมด้วย ผมต้องรีบออกไปจากที่นี่

        "น็อต ดูเพื่อนมึงทำนะ มันบ้าไปแล้ว"

        "ไอ้วินใจเย็นๆ เว้ย ที่ไอ้ต่อพูดมามันก็มีเหตุผล" น็อตส่งซิกให้ผม มันส่ายหัวไม่ให้ผมต่อต้าน

        แต่ผมจะพาน้องเขาออกไป ตอนนี้พวกมันไม่ไว้ใจผมแล้ว ขืนอยู่ต่อไปเด็กนี่ไม่รอดแน่ ส่วนผมจะเป็นจะตาย ผมไม่เคยสนใจอยู่แล้ว

         ตอนนี้น้องตื่นแล้วและส่งสายตาขอความช่วยเหลือ น้องตัวสั่นมากจนผมรู้สึกสงสาร

        "ไอ้วิน มึงคิดดีๆนะ" ยอร์ชเดินเข้ามาจับไหล่ผม มันสีหน้าไม่ค่อยดี

        "พี่ ผมกลัว" 

         น้องเริ่มสะอื้น มันแอบร้องไห้ด้วยความกลัว

         ตอนนี้ผมรู้สึกว่าตัวเองต้องรับผิดชอบ ผมวางน้องมันลงแล้วกระซิบบอก

         "พอพี่นับถึงสาม รีบวิ่งไปที่บันไดหนีไฟเลยนะ"

          น้องพยักหน้า
   
          ผมเริ่มนับ
     
           "หนึ่ง สอง สาม ไป! "  ผมคว้าแขนน้องแล้วเปิดประตูออกวิ่งทันที มีกลุ่มคนเป็นสิบวิ่งตาม


          "จับพวกมันไว้ อย่าให้มันหนีไปได้"

           ผมวิ่งหนีลงบันไดหนีไฟไปจนถึงชั้น 4 พวกมันก็ตามทัน ผมรีบดันน้องให้ออกวิ่งต่อ ส่วนผมเตรียมต่อสู้งัดวิชาเทควันโดสายดำออกมาใช้ ผมล้มพวกมันได้ไม่ยาก เพราะมันกำลังเมายาและก็เป็นแค่มวยวัดจะสู้นักกีฬาอย่างผมได้อย่างไร แต่ผมเองก็เจ็บไม่น้อย

           "พี่วิน ระวัง"

             ผมก้มหลบไม้หน้าสามที่มีคนเล่นทีเผลอได้หวุดหวิด แต่ก็คิ้วแตก พอพวกมันเริ่มล้มลงอ่อนแรง ผมก็พาน้องเขาหนี
   ลงทางบันไดหนีต่อ
     
            "ตำรวจมา"
 
          คราวนี้ทุกคนแตกฮือ ไม่มีใครสนใจผม สนใจแต่หนีกันท่าเดียว

          ผมรีบพาน้องวิ่งหนีจนลงมาถึงชั้นหนึ่ง น้องยังเด็กแถมไม่เกี่ยวด้วยขืนโดนตำรวจจับได้คงจะติดร่างแหไปด้วย เสียประวัติกันพอดี

          ผมโบกรถแท็กซี่และส่งน้องขึ้นแท็กซี่แล้วควักเงินจนหมดกระเป๋าให้น้อง

          "คราวหลังใครบอกให้ทำอะไรต้องคิดก่อน อย่าเชื่อคนง่ายอีกนะ น้อง เกือบมีผัวเป็นสิบแล้วนะเรา"
 
          "พี่วินเลือดไหล"

         ผมไม่สงสัยเลยว่ามันรู้ชื่อผมได้ยังไง เพราะตลอดเวลาที่ผมเอามัน เพื่อนมันเรียกผมสั่งนั่นนี่ตลอด

          "พี่ไม่เป็นไร น้องรีบไปเถอะ ตำรวจกำลังจะลงมา"

           ผมรีบปิดประตูรถ แต่น้องเขาก็ยังเปิดหน้าต่างมาถาม สีหน้ายังตื่นๆ อยู่
   
           "แล้วพี่วินล่ะ"

     
          "พี่จะไปมอบตัว ชีวิตพี่มันไม่มีใครต้องการอยู่แล้ว" ถึงไม่ไปยังไง พวกมันก็ต้องลากผมเข้าไปด้วยอยู่ดี

   
          "พี่ทำอย่างนั้นไม่ได้ พี่จะหมดอนาคตนะครับ รีบขึ้นมากับผมเถอะ"
 
           ผมยิ้มแล้วพูดว่า

           "อย่าไปใจดีกับคนอื่นอย่างงี้นะ คนเลวๆ อย่างพี่มันไม่สมควรให้น้องมาใจดีด้วยหรอก ไปเถอะ" ผมหันไปตะโกนบอกคนขับแท๊กซี่ "พี่รีบไปเถอะครับ ขับไปให้ไกลจากตรงนี้ที่สุด"   

 
         "ผมเกลียดที่พี่ข่มขืนผม แต่ผมก็ไม่ต้องการให้พี่ไปติดคุก"

          ผมหันหลังกลับแล้ววิ่งไปหาตำรวจที่ตอนนี้น่าจะอยู่ชั้นบน ผมทำผิดผมก็พร้อมยอมรับผิดและผมอยากให้ผู้หญิงคนนั้นเสียชื่อเสียงที่มีลูกโดนจับคดียาเสพติดอย่างผม



 
          หลังจากนั้นผมก็ถูกจับ ผมโดนใส่กุญแจมือและกำลังถูกพาขึ้นรถตำรวจ ระหว่างเส้นทางที่จะเดินไปรถตำรวจมีคนมุงดูเยอะแยะเต็มไปหมด หนึ่งในนั้นผมเห็นเด็กคนนั้น น้องร้องไห้น้ำตานองหน้า

          นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนร้องไห้ให้ผม...คนที่เพิ่งถูกผมทำร้ายไปกำลังร้องไห้ให้ผม
         
          หลังจากนั้นผมก็ถูกนำตัวไปบำบัด เพราะผมเป็นแค่ผู้เสพ เรื่องนี้แทบจะไม่มีใครรู้ เพราะผู้หญิงคนนั้นพยายามปิดเรื่องนี้เป็นความลับ


       
         (จบตอน)


          PS,   โหมดดาร์กของพี่วินกันบ้าง รู้สึกว่าบอสกับฉัตรโลกสวยงามเกินไปเลยอยากสอดแทรกอะไรเพิ่มไปบ้าง เพราะเหรียญมันมีสองด้านอ่ะเนอะ  นัทแต่งเรื่องบอสกับฉัตรไว้นานแล้ว ปรับมากก็ลำบากเลยทำเป็นSide Story แทนแทรกแง่คิดอะไร บทเรียนชีวิตบ้าง   ส่วนNC ก็ไปอ่านของคนนั้นคนนี้มาวางโครง ใส่คำพูด ไม่ได้คิดเองทั้งหมดนะ ครูพักลักจำ เพราะไม่มีประสบการณ์ 555_555

         ขอบคุณนะคะ ทั้งคนอ่านทุกคนและขอบคุณคอมเม้นต์ทุกอัน   

        นัทสึ
                 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-06-2017 12:00:39 โดย natsikijang »

ออฟไลน์ manow1

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 11
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
วินแซ่บมาก ชอบคู่นี้ :hao6:

ออฟไลน์ มะลิ mali

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 7
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
 :haun4:    คู่วิน ตั้ม สนุกกว่าคู่หลักอีก

ออฟไลน์ tika17

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 5
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ติ๊กมาให้กำลังใจพี่นัทคะ   พล็อตคุณพ่อวัยใส แค่ฟังที่พี่เล่าก็เปรียบเกลียดบอสแล้ว สู้ๆ นะคะเป็นกำลังใจให้

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
แก้มชมพู /ฉัตร  หลอกพี่บอส ว่าเป็นหญิงตอนแรกๆ
แล้วมาชอบพี่บอสทีหลังสินะ
แต่ชอบยังไง เพราะทั้งโกรธ ไม่ถูกกัน
ฉัตรตอนผมยาว เคยช่วยพี่บอส จากการถูกรุมกระทืบซะด้วย แต่บอสไม่รู้
งั้นต่างก็ใจตรงกัน แต่ไม่รู้กัน  :z3: :z3: :z3:

พี่วิน ตั้ม  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
เคยมีซัมติง กับตั้ม ในอดีต
แสดงว่าหลังจากพบตั้มเรียนที่เดียวกัน ก็มีสัมพันธ์กันใหม่

ไรท์ เขียนสนุกมาก อ่านรวดเดียวทันและ  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ vavavivi

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 14
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

ออฟไลน์ natsikijang

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 540
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-4
                       
                     
     'Good morning นะครับบัดดี้ เมื่อคืนฝนตกอากาศเย็นได้ห่มผ้าอุ่นๆก่อนนอนหรือเปล่าครับ เป็นห่วงนะครับ
             เช้านี้ อย่าลืมหาอะไรทานอะไรตอนเช้าด้วยนะครับบัดดี้'

      ผมอ่านข้อความเสี่ยวๆ เลี่ยนๆ จากบัดดี้พร้อมหยิบนมอุ่นกับโจ๊กที่แขวนหน้าประตูออกมาดู ช่วงนี้มีของกินจำนวนมากถูกส่งมาให้ผมจำนวนมากพร้องข้อความเสี่ยวที่พิมพ์ติดมาด้วย แต่หลายครั้งที่บัดดี้ก็ฝากของมาให้โดยไม่มีข้อความอะไรเลย

      ไม่รู้ผมคิดไปเองรึเปล่านะ แต่ก็อดสงสัยไม่ได้ว่าบัดดี้ทำดีกับผม เขามาเทคแคร์ดีๆ ทำตามหน้าที่รึว่า มันชอบผม แค่คิดผมก็สยองแล้วเพราะหอผมเป็นหอชายล้วนนี่นา

      ผมเดินเข้าไปในห้องแล้วแกะถุงนมเทใส่แก้วแล้วเทโจ๊กลงถ้วย ผมกินไปนั่งดูโทรทัศน์ไป วันนี้วันอาทิตย์ ผมมีนัดซ้อมลีดตอนเก้าโมงเช้า

      หลังกินโจ๊กเสร็จ ผมก็เดินเอากระดาษข้อความของบัดดี้ไปเก็บในกล่องที่ผมเคยใส่ข้อความเก่าๆ แต่มือดันไปปัดโดนกล่องจนกระดาษใบอื่นๆ หล่นกระจัดกระจายจนผมต้องมานั่งเก็บ เก็บไปก็อ่านไป

      'ถึงบัดดี้
         กินข้าวกลางวันหรือยังเอ่ย  Happy lunch วันนี้เราฝากข้าวเหนียวมะม่วงมาให้กินหลังข้าวเที่ยงแทนนะครับ'

      "เธอทำให้ฉันคิดว่าโลกนี้นั้นสดใสขึ้นมากมาย  เมื่อใจของฉันมีเธออย่างนี้...โลกที่มีเธอเป็นบัดดี้มันดีแบบนี้ "

       'วันนี้ฝนตกทั้งวันเลย รักษาสุขภาพด้วยนะ เทคแคร์นะครับ'

      'ฝากถึงบัดดี้
            คาบบ่ายนี้เป็นไงบ้าง แอบงีบหรือเปล่า อมบ๊วยเค็มช่วยแก้ง่วงได้นะครับ'

             
      ผมมองกระดาษโน๊ตเล็กๆของบัดดี้แล้วอดนึกถึงข้อความในไลน์ของพี่บอสไม่ได้

           'อย่าบอกนะว่า บัดดี้ของผมเป็นพี่บอส'   

      เป็นไปไม่ได้แน่นอน เพราะพี่บอสมันไม่ชอบผมแถมมันยังกลับบ้านไปตั้งแต่เมื่อวาน ไม่มีทางเอาของมาเทคให้ผมแน่ๆ


            ผมเลิกคิดฟุ้งซ่านแล้วรีบเดินไปเก็บชามไปล้างแล้วหยิบถุงคุ๊กกี้ที่เตรียมไปไว้เอาไปเทคแคร์บัดดี้ของผมบ้าง  .


            ผมเดินลงลิฟต์ไปชั้นสี่ พอลิฟต์เปิด ผมก็เดินไปที่ห้องของพี่วินกำลังแขวนถุงใส่อาหารไว้ที่หน้าห้อง ลิฟต์เปิดออกพอดี  ผมหันไปมองตั้ม

           "ฉัตร"

           "ตั้ม"

           ตั้มรีบวิ่งมาหาผมในมือถือถุงอาหารและเครื่องดื่ม เขาเอาไปแขวนไว้หน้าห้องพี่วินแล้วจูงมือผมไปยังลิฟต์ เมื่อลิฟต์ปิดแล้ว ตั้มจึงเริ่มบทสนทนา

           "ฉัตรเป็นบัดดี้พี่วินเหรอ" สายตาของตั้มมองมาแปลกๆ

           "อืม" ผมพยักหน้าตอบไป

           ตั้มยิ้มออกมาทั้งตาทั้งปากแล้วจับมือผมขึ้นมากุมไว้  บรรยากาศแปลกๆ อย่าบอกนะว่า ตั้มจะทำมิดีมิร้ายกับผม ถ้าผมไม่รู้มาก่อนว่า ตั้มมีอะไรกับพี่วิน ผมคงจะไม่กังวลขนาดนี้ แต่ก่อนผมโดนผู้ชายลวนลามบ่อยๆ ผมไม่ค่อยจะไว้ใจพวกนี้เลย

          "กูมีเรื่องจะขอร้องมึงว่ะ ฉัตร"

          "เฮ้ย"

          ผมตกใจ ตั้มลูบมือผมไปมา ทำท่าจะไม่ดีแล้วสิ อย่าบอกนะว่า 'เพื่อน กูรักมึงว่ะ'

          "กูอยากจะขอแลกบัดดี้"

         "ห๊ะ"

        ตั้มจะขอแลกบัดดี้เองเหรอ ผมค่อยๆ ถอนหายใจอย่างโล่งอก

         "ทำไมล่ะ"

        ตั้มมองหน้าผมอย่างเศร้าๆ แล้วเม้มปากแน่น

        "กูชอบพี่วิน"

        "................."

        ลิฟต์เปิดออกพอดี เราก้าวออกมาจากลิฟต์ ผมเดินนำไปไขห้องแล้วผายมือให้ตั้มตามเข้ามาด้านในก่อนจะปิดประตู

        "กูรู้ว่า ถ้ากูบอกมึง มึงคงจะรังเกียจกู ใครๆ ก็รู้ว่ามึงไม่ชอบเกย์ วันก่อนเห็นไล่ด่าพี่ปิงซะขนาดนั้น"

        ปกติผมเคยเจอแต่พวกเกย์ที่ชอบเข้ามาทำไม่ดี ไม่ร้ายกับผม ไม่ก็เข้ามาจีบผมจนผมประกาศตัวชัดเจนว่าเกลียดพวกเกย์ แต่พอมาตอนนี้ ความรู้สึกของผมที่เป็นอยู่ตอนนี้คือ ไม่ได้รังเกียจอะไรตั้มเลยเพราะตั้มไม่ได้ทำร้ายผม ตลอดมาตั้มเป็นเพื่อนที่ดีมาตลอด
 
       "เปล่านิ มึงคิดมากไปแล้ว กูไม่ได้รังเกียจมึง"
 
       ตั้มมองมาด้วยสายตาไม่ค่อยจะเชื่อ
 
       "จริงๆ นะ ก็มึงเป็นเพื่อนกูนิ"

       "เฮ้อ ขอบใจนะฉัตร"

       "อืม"

       ตั้มถอนหายใจแล้วเอ่ยต่อว่า

       "กูทำใจมานานแล้วว่าสักวันเพื่อนๆ ต้องรู้ความจริงเรื่องนี้ กูยอมรับว่า ชอบผู้ชาย แต่ไม่ได้ชอบผู้ชายทุกคน ชอบแค่พี่วินคนเดียว"

       ผมทำอะไรไม่ถูกได้แต่พยักหน้าตอบ

       "แต่พี่วินก็หลบหน้ากูมาตลอด"

       ตั้มถอนหายใจแล้วเผยยิ้มเศร้าๆ

       "ทั้งที่มีอะไรกันแล้วเนี่ยนะ  อะไรของพี่วินว่ะ ฟันแล้วทิ้งเหรอเนี่ย"

       ผมโพล่งออกไปอย่างขุ่นเคืองใจเพราะอารมณ์สงสารเพื่อน

       ตั้มตาโตทันที หน้าแดงทันที

       " มึงรู้ได้ไง"

       ผมใบ้กินทันที  แต่พอเจอสายตาคาดคั้นของตั้มแล้วก็ต้องเผยความจริงออกมา

       "วันนั้นที่เรากลับกับอีทน่ะ  กู เอ่อ  ได้ยินเสียง วันนั้นกูอยู่กับพี่บอสน่ะ เอิ่ม จะอธิบายอย่างไงดีล่ะ"

       ตั้มตาโตกว่าเดิม อ้าปากค้างแล้วก็หุบลง อ้าปากค้างแล้วก็หุบลงอีกครั้งแล้วเผยยิ้มสดใส

       "กูจำได้แล้ว มึงคือเมียของพี่บอส กูโคตรอายนะ แต่ก็ดีใจที่เราเป็นพวกเดียวกัน"

        "เฮ้ย ตั้ม มึงเข้าใจผิดแล้ว กูกับพี่บอสไม่ได้เป็นอะไรกัน"

       ผมรีบปฎิเสธกลัวเพื่อนจะเข้าใจผิด แต่ตั้มมันกลับทำตาเจ้าเล่ห์

       " มึงไม่ต้องอายหรอก กูเข้าใจดี รับรองเรื่องนี้กูจะปิดเป็นความลับ"

       "เชี่ยเอ้ย"

      ผมอุทานอย่างขัดใจจะปฎิเสธอย่างไร ดูท่าตั้มมันจะคิดไปไกลเกินจะเชื่อผมแล้ว

       "เขินแรงนะมึง"

       "ตั้ม เข้าใจผิดนะ"

       "ไม่ต้องมาปากแข็ง"

       "เฮ้ย  มึง.."

      ผมกำลังจะพูดแก้ แต่ตั้มมันชิงพูดก่อนผมเฉยเลย

      " ฟังกูให้จบก่อนอย่าเพิ่งแทรก กูรู้ว่าตอนเฉลยบัดดี้จะมีการเล่นเกมจับคู่กันและเราก็อยากเทคแคร์คนที่เราชอบใช่ไหมล่ะ กูเลยอยากจะแลกบัดดี้กับฉัตร ตลอดมากูแอบเป็นบัดดี้ผีของพี่วินมาตลอดเลย แลกกับกูนะฉัตร"

      "บัดดี้มึงใคร"

      "คนที่มึงชอบ"

      บัดดี้มันคือไอ้พี่บอสชัวร์เลย

      "งั้นกูไม่แลก"

      ตั้มมันทำหน้าเศร้าๆ แล้วสักพักมันก็ยิ้มเศร้าๆ ออกมาแล้วพูดว่า

      "ถ้ามึงคิดว่า การที่แกล้งเพื่อนด้วยวิธีนี้แล้วมีความสุขก็ทำไปเถอะ กูคงจะห้ามอะไรมึงไม่ได้ แต่กูอยากให้มึงรู้ไว้อย่าง กูชอบพี่วินมาสามปีแล้ว"

       "สามปีเลยเหรอ"

       ผมฟังชีวิตรักของตั้มมันแล้วเริ่มจะใจอ่อน

       "กูไม่ได้โชคดีเหมือนมึงกับพี่บอส พี่เขาปกป้องมึงทุกอย่าง ขณะที่พี่วินหนีกูตลอด เขามีอะไรกับกูเพราะอยากให้กูเลิกยุ่งกับเขา กูขอแคร์ช่วงเวลาสั้นๆ ได้ดูแลพี่เขา ได้เล่นเกมคู่กับเขา ได้ใช้ช่วงเวลาดีๆ ร่วมกันกับเขาโดยที่เขาไม่สามารถเดินหนีกูได้ แค่นี้มึงก็ให้กูไม่ได้เลยเหรอ เพื่อนใจร้าย เพื่อนทรยศ"

     ตั้มมันพูดแล้วทำตาวิงวอนผมให้ช่วยมัน

     "พอๆ กูแลกก็ได้"

     ผมพูดจบ ตั้มมันก็กระโดดกอดผมทันที มันรีบหยิบกระดาษในกระเป๋าตังค์ออกมา

     "กูรู้ว่ามึงเป็นคนรักเพื่อน"

     "นี่มึงพกไว้ติดตัวตลอดเลยนะ"

     "เตรียมไว้หาคนแลก"

     มันยิ้มจนตาปิด ดีใจราวเป็นคนละคนกับเมื่อกี้เลยนะ

     ผมรับมาแล้วเดินไปหยิบกระดาษจับบัดดี้ในลิ้นชักโต๊ะหนังสือผมออกมาบ้าง

     "อ่ะ เอาไป"

     มันรีบเปิดกระดาษออกแล้วจูบกระดาษทันที

     "ขอบใจนะ ฉัตร กูรักมึงที่สุดเลย"

     ผมชักจะหมั่นไส้มันเล็กๆแล้ว

      "พอได้ตามที่มึงต้องการ ทำมาเป็นรักกู ตอนเมื่อกี้หมาตัวไหนมันด่ากู"

     "ฮาๆๆ กูไปก่อนนะ กูจะรีบไปเทคแคร์บัดดี้ทีรักกูต่อก่อนไปซ้อมลีด" มันมองกระดาษแล้วยิ้มตาหยี เป็นเอามาก

     "เอ่อ เอาที่มึงสบายใจ"

      ตั้มมันเดินไปเปิดประตูออกไปแล้วหันมาบอกว่า "รีบๆนะมึง เดี๋ยวไปซ้อมลีดช้าพี่แชมป์สั่งวิ่งเหนื่อยตาย แล้วจะต่อไปขอให้มึงมีความสุขกับการเทคแคร์บัดดี้ที่รักของมึงด้วยนะ"

     "ไอ้เชี่ยยย"

     ผมตั้งท่าจะไปเตะมัน แต่มันดันปิดประตูแล้ววิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว


     ความซวยมาเยือนแล้วสิ ชีวิตผม!
     
    (จบตอน)

ออฟไลน์ natsikijang

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 540
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-4
พล็อตเรื่องประมาณนี้เลยค่ะ  แต่ต่อไปจะมีเรื่องราวมาเป็นอุปสรรคแสบๆ คันๆ เรียกน้ำตาของบอสกับฉัตรค่ะ

  ขอบคุณสำหรับการติดตามนะคะ

แก้มชมพู /ฉัตร  หลอกพี่บอส ว่าเป็นหญิงตอนแรกๆ
แล้วมาชอบพี่บอสทีหลังสินะ
แต่ชอบยังไง เพราะทั้งโกรธ ไม่ถูกกัน
ฉัตรตอนผมยาว เคยช่วยพี่บอส จากการถูกรุมกระทืบซะด้วย แต่บอสไม่รู้
งั้นต่างก็ใจตรงกัน แต่ไม่รู้กัน  :z3: :z3: :z3:

พี่วิน ตั้ม  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
เคยมีซัมติง กับตั้ม ในอดีต
แสดงว่าหลังจากพบตั้มเรียนที่เดียวกัน ก็มีสัมพันธ์กันใหม่

ไรท์ เขียนสนุกมาก อ่านรวดเดียวทันและ  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ มะลิ mali

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 7
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
อะไรยังไง ทำไมวินต้องหนีตัม รู้สึกผิด?   

ออฟไลน์ natsikijang

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 540
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-4
ตอนที่ 5


"หมั่นไส้"

      ผมเป็นอะไรก็ไม่รู้ จิตใจมันปั่นป่วนไปหมด แค่เห็นพี่บอสมันเดินไปกับผู้หญิงคนอื่นต่อหน้าต่อตา ตอนนี้ผมอยู่ที่หอไอ้นนท์เพราะวันนี้ผมจะมาทำงานที่จับคู่กับมันให้เสร็จพร้อมส่งในวันพรุ่งนี้

      "เป็นอะไรของมึง"

      "กูแค่หมั่นไส้ ไหนมันบอกชอบแก้มชมพูคนเดียวว่ะ"

       "เดี๋ยวก่อนนะ ขอกูทำความเข้าใจก่อน แก้มชมพูนี่ก็มึงไม่ใช่เหรอ อวตารซะหลายภาคจนกูงง"

      "รู้ว่าเขาอ่อยยังจะมาอีก"

      "มึงด่ากูเหรอ"

      ไอ้นนท์มันถามผม 

       "เปล่า มึงจะเข้าห้องก็ไปสิ กูรอตรงนี้นะ"

      "ทำตัวแปลกนะมึงน่ะ"

      "ไปเร็วๆดิ ช้านะมึง"

     ผมพูดทั้งที่แอบอยู่ข้างเสาข้างบันไดที่หอของพี่แตงโม เพื่อนร่วมเรียนวิชาเลือก หลังจากเห็นพีทแตงโม ปีสองคณะอักษร ทำเนียนขอให้พี่บอสช่วยถือของมาส่งที่ห้องหลังเรียนเสร็จ

      ทั้งที่ไม่เกี่ยวอะไรกับผม แต่ผมก็ดันแอบตามมาจนได้ ใจมันกระวนกระวายจนทนอยู่เฉยๆไม่ได้ พอเห็นคู่นั้นเข้าไปในห้อง ผมรีบไปแอบฟังข้างประตูทันที หัวใจมันเจ็บจี๊ดๆ ยังไงชอบกล

      'ฉันเพิ่งรู้ว่ารักเธอ ฉันเพิ่งรู้เมื่อได้ค้นหัวใจ มีเธออยู่แล้วมาตั้งนาน ....'

     เสียงเพลงจากห้องตรงข้ามดังขึ้นมา ผมฟังแล้วรู้สึกอินตามทั้งที่ไม่ได้รักใครชอบใครเสียหน่อยที่ตามมาเพราะความอยากรู้อยากเห็นล้วนๆ

      ทำอะไรกันในห้องนะ หายไปนานจัง ผมเอาแก้มแนบประตูด้วยความอยากรู้
   
      ;  "ผลัวะ"

      จู่ๆ ประตูก็เปิดออก ผมที่กำลังแนบหูอยู่ที่ประตูก็เสียหลักล้มลงไปนอนกองกับพื้นเลย อายโคตร

      "ฉัตร มาทำไรที่นี่ว่ะ"

      มันทำหน้าตาหวาดระแวงมาก มีพิรุธชัดๆ

      "คือ มา เอ่อ มาหาเพื่อนน่ะ  ไอ้นนท์ ไงชานนท์ไง มันอยู่ห้องนี้"

      มันทำหน้าไม่เชื่อ แต่ก็เอื้อมมือมาดึงผมลุกขึ้นแต่ผมลุกไม่ไหว มันจุกไปหมดดันมาล้มตอนหลังกินข้าวเสร็จพอดี

      "ลุกไม่ไหว จุก ขอผมนั่งพักก่อนนะ"

      "มึงเป็นอะไรมากหรือเปล่า เจ็บตรงไหน ขอกูดูหน่อย"

      "ไม่ๆ ผมแค่จุก"

      มันไม่ฟังพยายามจับนู่นจับนี่ สายตามันมองมาด้วยความเป็นห่วงจนผมรู้สึกหวั่นไหว ผมไม่อยากใกล้มันเลย ใจมันสั่นไปหมด ไม่รู้ว่าเป็นอะไร

      ยิ่งพอเราอยู่ใกล้กัน ผมเพิ่งจะเห็นสื้อมันหลุดออกมานอกกางเกง กระดุมเสื้อถูดปลดครบทุกเม็ด ยิ่งเห็นหงุดหงิด พอมันจับมือผมที่ถลอกขึ้นมาดู ผมรีบสะบัดหนี

      "อย่ามายุ่งกับกู!"

      "เป็นบ้าอะไรของมึงอีก"

      "เรื่องของกู"

      ผมรีบลุกแล้ววิ่งหนีมันออกจากห้องไป ผมกำลังเป็นอะไร
      .
      .
      .
      .
      .

      มันเกิดอะไรขึ้นกับใจของผม 

   
     
      ขณะที่ผมกำลังซ้อมกีฬาตะกร้ออยู่

      "เกิดเรื่องใหญ่ ไอ้ฉัตร"

      ไอ้อีทรีบวิ่งหน้าตื่นเข้ามาในยิมที่แต่ละคณะกำลังซ้อมกีฬาเพื่อแข่งกีฬาเฟรชชี่ที่กำลังจะมาถึงปลายสัปดาห์นี้

      "ฝ้าที่หอเรามันร่วงลงมา"

      ผมเดาะลูกตะกร้อไป คุยไป ผมเห็นสีหน้าของอีทมันซีดเผือก

      "แล้วไง"

      "ฝ้าชั้นเก้า ห้องมึงด้วยไม่ใช่เหรอ"

      ผมชะงักเท้าปล่อยให้ลูกตระกร้อร่วงหล่นตามแรงโน้มถ่วง

      "ชั้นเก้าเหรอมึง"

      อีทมันพยักหน้า พอได้รับการยืนยันจากเพื่อนสนิท

      "ฝากเก็บของให้กูด้วยนะ กูจะรีบไปดูห้อง"

      "เออ ไปเหอะ เดี๋ยวกูจัดการให้"

       ผมรีบวิ่งไปกลับหอทันที

       ผมไม่ได้ห่วงของ แต่ผมห่วงคน
       .
       .
       .
       .
      'ขอให้พี่บอสมันปลอดภัยด้วยเถอะ ค่ำๆอย่างนี้มันยิ่งชอบกลับห้องไปนอนอยู่ด้วย'

      ผมบิดบิ๊กไบค์คู่ใจลุยฝนบิดไปถึงหออย่างรวดเร็ว  คงมีคนด่ากันบ้าง แต่ผมก็ไม่สนใจ เพราะผมร้อนใจจะตายอยู่แล้ว

      พอผมลงจากรถได้ก็รีบกดลิฟต์ชั้นเก้า ระหว่างรอลิฟต์ก็ภาวนาให้มันรีบเปิดออก เวลาหนึ่งนาทีเหมือนนานเป็นปีก็คราวนี้แหล่ะ

      เมื่อลิฟต์เปิดผมก็เห็นพี่บอสยืนอยู่กับพี่ก้องและพี่ยาม ผมก็รีบวิ่งไปหาจับตัวพี่บอสพลิกไปมา มองหาบาดแผล แหวกเสื้อ ล้วงกางเกง ตอนนั้นผมห่วงมากจนทำไปโดยไม่รู้ตัว

      "ทำอะไรของมึงน่ะ"

      พี่มันทำหน้ามึนๆ เบลอๆเหมือนเพิ่งตื่นนอน แต่สายตาของพี่ก้องที่จ้องมองมาด้วยแววตารู้ทัน ทำเอาผมไปต่อไม่เป็นเสียอย่างนั้น

       "พวกมึงนี่มันชักยังไงยังไงอยู่ มีซัมติงอะไรที่กูไม่รู้หรือเปล่า"

       "ไม่มีพี่/ ไม่มี!"   

       ผมกับพี่บอสตอบพร้อมกัน

       "เฮ้ย ทีงี้น่ะใจตรงกันเชียวนะมึง"

       พี่ก้องมันทำหน้ามีเลศนัย ผมได้แต่มองเพดานที่ตอนนี้เหลือแต่โครงเหล็ก มีน้ำหยดติ๋งๆ

       "มึงมาก็ดีแล้ว ฉัตร พวกกูคุยกันแล้วว่าจะให้มึงกับบอสมันย้ายไปอยู่ห้อง 601 ตอนนี้มันว่างอยู่ห้องเดียว มึงว่ายังไง"

       ผมมองหน้าพี่บอสเหมือนมันจะรู้ทันความคิดของผม

       "กูโอเคไม่ปัญหา"

       "แต่ผม ผม..." ให้ไปอยู่กับพี่บอสน่ะเหรอ  ผมแค่นึกภาพแล้วก็รู้สึกแปลกๆ ในหัวใจ

       อย่ามาเรื่องมากน่า มึงอยู่กับกูมันไม่ดีตรงไหน มีอะไรที่มึงไม่พอใจก็พูดมาเลย" พี่บอสมันพูดเสียงเข้ม

       ในขณะที่พี่ก้องก็มองมาที่ผมแล้วพูดว่า  "อยู่แค่เดือนเดียวเองมึง เดี๋ยวซ่อมฝ้าเสร็จก็กลับห้องเดิมได้แล้ว ทนๆ เอาหน่อยนะน้อง"

       ผมโดนสายตากดดันจากรุ่นพี่ทั้งสองคนก็ได้แต่พยักหน้ารับ ต่อไปชีวิตผมคงจะวุ่นวายอีกแน่ ต้องมาอยู่ร่วมห้องสองต่อสองกับผู้ชายที่ตัวเองหวั่นไหว


        "กูชอบพี่บอสว่ะ"

          ผมกำลังแอบรักพี่ห้องตรงข้ามและกำลังจะกลายเป็น 'รูมเมท' ของผม  ตั้งแต่ผมรู้ตัวว่าชอบพี่มัน ผมก็พยายามเก็บความรู้สึกและทำตัวให้เป็นปกติมาตลอด แต่ผมก็นิสัยแย่ตรงที่ว่าเวลาเห็นเขาเล่นแบบถึงเนื้อถึงตัวกับคนอื่นผมก็มักจะโกรธ  ผมก็พยายามเก็บอาการหึงทั้งๆ ที่ไม่มีสิทธิ์ ในสายตาเขา ผมคงเป็นแค่ 'เด็กนรก' ที่ชอบทำเสียงดัง ชอบก่อเรื่องวุ่นวาย ผมไม่รู้จะทำอย่างไรดี สับสนไปหมด ผมทรมานมากครับ อยากจะเลิกชอบ แต่ก็ทำไมได้
          .
          .
          .   
        ผมเศร้ามากเลยครับ แล้วยิ่งต้องมาอยู่ห้องเดียวกันผมควรจะทำอย่างไรดี



        "กูเห็นสายตามึงตอนมองพี่บอส กูก็รู้แล้ว ในเมื่อมึงชอบพี่เขาแล้วได้มาอยู่ห้องเดียวกัน ทำไมมึงไม่ลองอ่อยเขาว่ะ"


         หรือจะทำตามคำแนะนำของตั้มเพื่อนสนิทผมดีครับ

     
         "กูไม่กล้า เดี๋ยวพี่บอสมันจะรู้ตัวแล้วเกลียดกู กูคงทำใจไม่ได้"

 
         "มึงก็ทำเนียนๆ ดิ ใส่เสื้อกล้าม เกงบอลสั้นๆ ตอนอาบน้ำก็ทำเป็นกลัวผีประตูแง้มๆไว้ ทำเป็นลืมผ้าขนหนูแล้วแกล้งขอให้พี่มันหยิบให้ วันต่อมาก็แกล้งบีบน้ำตา ดราม่า ทะเลาะกับพ่อ ชวนแดกเหล้าแล้วแกล้งทำเป็นซบกอดขอกำลังใจ ไม่ลองไม่รู้นะเว้ย"


        "แต่พี่บอสชอบแก้มชมพูนะเว้ย"

 
        "อ้าว นั่นร่างอวตารของมึงนิ มึงจะหึงตัวเองทำไม กูไม่เข้าใจ ตอนนั้นมึงยังกล้าอ่อยพี่เขา แล้วตอนนี้ทำมาเป็นไม่กล้า"


       "มันไม่เหมือนกันตอนกูเป็นแก้มชมพู กูอ่อยเขาเพราะจะแกล้งมันแก้แค้นที่มันแกล้งกู"

       "มึงอย่ามาเยอะ"


        "ก็กูกล้ว"



        "งั้นมึงก็เชิญนก นก นก ต่อไป มึงก็รู้ว่าแตงโมมันจ้องจะงาบพี่บอสอยู่"

        ตั้มยังคงกดดันผมอย่างต่อเนื่อง

        "กูต้องไปลองอ่อยพี่บอสมันจริงๆ เหรอ"


       "ใช่ ถ้ามึงอยากให้พี่เขาหันมามองมึงน่ะนะ ถามอะไรโง่ๆ นะมึงเนี่ย"

   

          เอาว่ะ ผมตัดสินใจแล้ว ผมจะลุยเพื่อความรัก ว่าแต่ต่อไปนี้ผมจะอ่อยพี่บอสอย่างไรดี... 


   
           โชคชะตาเล่นตลกกับผมให้เราได้อยู่ห้องตรงกันข้าม  ให้เรียนวิชาเลือกกลุ่มเดียวกันจนทำให้ผมหลงรักพี่บอสมัน ผมไม่รู้ว่าชอบตั้งแต่เมื่อไรแต่รู้ตัวอีกทีผมก็ชอบพี่เขาไปแล้ว...

         
           


      หลังจากผมแสดงท่าทางเป็นห่วงพี่บอสเกินความเป็นรุ่นพี่รุ่นน้อง ผมก็ชักจะทำตัวไม่ถูก ผมก็เลยหลบหน้าพี่บอสตลอดมาจนกระทั่งถึงคาบเรียนวันอังคาร ไลน์ของแก้มชมพู ผมก็ไม่ได้ตอบมัน ผมอยากใช้เวลาช่วงนี้ค้นหาคำตอบในใจของผม

      "ฉัตร มึงจงใจหลบหน้ากูเหรอ"

      ผมก้มหน้าทำเป็นจดนู่นนั่นนี่ ผมไม่กล้าเงยหน้ากลัวพี่มันเห็นจะรู้ว่า ผมจงใจหลบหน้ามัน ผมก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไม ผมหลบหน้ามันเพราะช่วงนี้เวลาอยู่ใกล้มันแล้วรู้สึกไม่เป็นตัวเองทุกที แต่ผมก็เหมือนคนโรคจิต วันๆ เอาแต่ไลน์ถามว่ามันทำอะไร  สบายดีไหม กินข้าวหรือยัง

      "ป่าวนี่พี่ ช่วงนี้ซ้อมลีดหนัก ซ้อมกีฬา สัปดาห์นี้จะแข่งกีฬาเฟรชชี่แล้ว"

      "อ่อ มึงลงแแข่งกีฬาอะไร"

     "ลง แข่งบอล ตะกร้อ แล้วก็วอลเล่ย์"

      ผมลงกีฬาเยอะๆ เพราะจะได้เอาเวลาไปซ้อม ไม่มีเวลาว่างมาคิดเรื่องไร้สาระ ช่วงนี้พอว่างทีไร ผมก็ชอบคิดเรื่องพี่บอสมัน ผมกำลังเป็นอะไร ผมเริ่มกลัวตัวเองแล้ว ผมกลัวคำตอบมันจะไม่เป็นอย่างที่ควรจะเป็น ผมจะไปชอบพี่บอสได้อย่างไรล่ะผมชอบผู้หญิง มันก็ชอบผู้หญิง เรื่องของเรามันคงเป็นไปไม่ได้

     "แล้วมึงเป็นอะไรไม่มองหน้ากู"

     "เปล่า"

     "งั้นมึงก็เงยหน้ามองกูดิ"

     "แล้วทำไมผมต้องทำตามที่พี่สั่งด้วย พี่เป็นพ่อผมเหรอ"

     "มีพิรุธนะมึงน่ะ"

     "ยุ่ง พี่ไม่ต้องมายุ่งเรื่องผมหรอก เอาเวลาไปสนใจพี่แตงโมแฟนพี่เถอะ"

     "อย่าบอกนะ มึงโกรธกูเรื่องแตงโม กูไม่ได้ชอบแตงโม"

     ผมเผลอยิ้มออกมาอย่างลืมตัว รู้สึกสบายใจขึ้น ผมเลยเงยหน้ามองพี่บอส

     "เฮ้ย ยิ้มได้แล้วนะมึง"

     "เรื่องของผมน่า"

     "มึงชอบแตงโมเหรอ"

     "แล้วถ้าผมชอบพี่แตงโมล่ะ"

    "ตัดใจซะ"

    "ทำไมล่ะ"

    "แล้วสักวันมึงจะเข้าใจเอง"

    พี่มันพูดเสียงเข้มแล้วมันก็เดินออกจากห้องไป

    ผมควรจะสบายใจใช่ไหม...แต่ทำไมผมรู้สึกไม่กังวลใจแปลก ๆ   ลางสังหรณ์ของผมบอกว่า พายุกำลังจะพัดเข้ามาแล้ว...

       
       หลังจากผมรู้ใจตัวเอง ผมก็มาปรึกษาตั้มมันตลอดจนล่วงรู้ความลับของมัน มันเป็นไบโพล่าห์กับคนทั่วไปมันจะเป็นคนนิ่งๆ ใจดี สุภาพ แต่ถ้าเกี่ยวกับพี่วินแล้วมันจะกลายเป็นคนแรงๆ ร้ายๆ ทันที มันหวงพี่วินมากเสียจนผมยังกลัว

      วันนี้มันขนหนังสือมานอนอ่านที่ห้องผม ผมลองเดินไปใกล้ๆแล้วชะเง้อมองหนังสือที่มันเอามาด้วยความอยากรู้

      'วิธีอ่อยให้ผัวรักผัวหลง'

      'คาถามัดใจผัว'

      "อ่านอะไรของมึงว่ะ ตั้ม"

      "อ่ะเล่มนี้ของมึง"

      "อะไรว่ะ"

      "วิธีอ่อยผู้ชายให้อยู่หมัด"

      "มึงรีบๆอ่านนะ  เดี๋ยวพี่บอสเสร็จคนอื่นไปอีก กูจะสมน้ำหน้าให้ คู่แข่งก็เยอะยังจะเล่นตัวอีก "

       "เชี่ย มึงนี่มันแอ๊บใสใสหลอกกูมาตลอดเลยเหรอ"

      "ใช่ กูเห็นว่ามึงเดือดร้อนกูถึงยอมกลับร่างเดิมมาช่วยมึงหรอก"

(จบภาค)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-07-2017 11:15:11 โดย natsikijang »

ออฟไลน์ แม่น้องเปา

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 209
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
Re: In Love With My Roommate :จบภาค 1 EP5 (2 July 2017)
«ตอบ #22 เมื่อ02-07-2017 17:22:17 »

สนุกจ้า...รออ่านน๊าาาา o13 o13

ออฟไลน์ arjanlai

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 18
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
Re: In Love With My Roommate :จบภาค 1 EP5 (2 July 2017)
«ตอบ #23 เมื่อ02-07-2017 22:54:05 »

 :ruready ต่อรอลุ้นภาคต่อไปอีกแล้ว .. ตัวละครเยอะมาก ใครๆก็ชอบพี่บอส..อะจึ๋ย

ออฟไลน์ natsikijang

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 540
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-4
Re: In Love With My Roommate :จบภาค 1 EP5 (2 July 2017)
«ตอบ #24 เมื่อ13-07-2017 21:43:02 »

Side Story : 2
        ผู้ชายสายดาร์ก  (วิน × ตั้ม) Nc 18 +
[/b]


     "มึงจะมาตามแอบดูอะไรกูนักหนาเนี่ย"[/b]

      เสียงพี่วินบ่นๆ เมื่อพี่เขาจับได้ว่าผมแอบดูเขา

      "ผมขอโทษครับ "

      วันนี้หลังจากลงรถของพี่แชมป์ ผมเห็นรถพี่วินกำลังขับมาจอดเลยแอบตามมาดูแต่ก็โดนพี่วินจับได้ แม้ว่าผมเกือบจะถูกพี่เขาข่มขืน แต่พี่เขาก็พาผมหนีออกมาจากที่นั่นตอนที่ตำรวจตามมาและเอาตัวบังผมขณะที่มีการยิงต่อสู้กันระหว่างตำรวจกับแก๊งค์ค้ายาที่มันหลอกผมไปเป็นดาราหน้ากล้องหนังโป๊ก่อนที่พี่เขาจะสลบไป พี่วินยัดแบงค์พันปึกใหญ่ร่วมสองหมื่นมาให้ผมแล้วบอกว่า 'ขอโทษ' ตอนนั้นผมรู้ถึงได้ว่าพี่วินแท้จริงแล้วเป็นคนจิตใจดี แต่เพราะคบเพื่อนผิดเลยทำให้พี่เขาหลงผิดไป

      เมื่อมาเจอกันอีกครั้ง ผมก็จำพี่วินได้ตั้งแต่วันแรกที่เจอพี่เขาหน้าหอ เขาเดินขนของคู่กับฉัตรเด็กปีหนึ่งคณะเดียวกันกับผม ผมอิจฉาฉัตรที่พี่วินยิ้มให้ ผมอิจฉาฉัตรที่พี่วินคอยดูแลห่วงใย ผมจึงแอบสืบเรื่องพี่วินซึ่งก็ง่ายมากๆ เพราะพี่เขาเป็นคนดังของมหาวิทยาลัยและมีแฟนคลับจำนวนมากและตีซี้กับฉัตร

       แม้มีหลายครั้งที่ผมอยากแกล้งฉัตร แต่สุดท้ายผมก็ทำไม่ลงเพราะฉัตรเป็นเพื่อนที่ดีของผม แต่ดูเหมือนฉัตรไม่ได้ชอบพี่วินแบบอยากเป็นแฟนและพี่วินก็ยังโสด เพราะฉะนั้นผมจะเอาพี่วินมาเป็นของผมให้ได้  ผมจะไม่ยอมเสียผู้ชายคนนี้ไปให้ใคร   

      "ต่อไปมึงไม่ต้องมายุ่งกับกูอีก ไม่งั้นกูจะอัดให้เละ เดี๋ยวนะ อย่าบอกนะว่ามึงเป็นบัดดี้หอกู "

      "..."

      "ถ้าอยากจะเทค แค่เอาของมาให้ก็พอ"

      ดูเหมือนพี่วินจะรังเกียจผม แต่ผมไม่ยอมแพ้หรอก ผมจะตื๊อจนกว่าพี่วินจะชอบผม แล้วผมก็ไม่ได้เป็นบัดดี้พี่วินหรอก ผมจับได้บัดดี้เป็นพี่บอส แต่ขอแค่เวลา ขอให้ผมได้สวมรอยเป็นบัดดี้ผีเทคแคร์ดูแลพี่วิน ผู้ชายที่ผมแอบชอบเถอะ ผมจะต้องไปตามหาคนที่จับได้พี่วินเป็นบัดดี้ตัวจริงและแย่งมาให้ได้ ผมจะได้เล่นเกมคู่กันกับพี่วินในวันเฉลยบัดดี้

      "ครับ"

      แกล้งรับปากไปก่อนให้พี่วินตายใจแล้วค่อยหาลู่ทางไปอ่อยใหม่

      "เดี๋ยวไอ้แชมป์แฟนมึงเขาจะมาเข้าใจผิดเอา มึงจะซวยเอาหรอก"

      นี่พี่วินกำลังเข้าใจผิดว่าผมคบกับพี่แชมป์

      "พี่กำลังเข้าใจผิด"

      "เอาน่า กูไม่ใช่คนเหยียดเพศอะไร มึงไม่ต้องทำมาปิดกูหรอก"

      "ไม่ใช่นะครับ ผมกับพี่แชมป์ เราไม่ได้เป็นอะไรกัน"

      " เอาที่สบายใจมึงเลยล่ะกัน มันไม่ใช่เรื่องของกู แต่กูไม่ได้ตาบอดนะ คนเขาเห็นกันทั้งหอแล้ว มองกันตาเยิ้มขนาดนั้น"

     พูดจบพี่วินก็ทำท่าจะเดินกลับเข้าไปในหอ

      "ผมคิดกับพี่แชมป์แค่พี่น้อง คนที่ผมชอบมีคนเดียวเท่านั้นคือพี่"

      มันอึ้งไปแล้ว ผมเผลอหลุดปากอะไรออกมา มันทำท่าจะพูด แต่ผมรีบพูดแทรกก่อน 

      "ผมยังพูดไม่จบ พี่อย่าเพิ่งพูดแทรก ไหนๆ พี่ก็รู้ความรู้สึกของผมไปแล้ว ผมขอแค่แอบรักพี่อยู่ตรงนี้ ขอแค่ได้ทำอะไรเพื่อพี่บ้าง แค่นี้พี่ห้ามปฎิเสธผมจะได้ไหม"

      "กูไม่มีอะไรดีให้คนอย่างมึงมาชอบหรอก ตัดใจซะ"

      "ผมไม่ยอมแพ้หรอก ผมจะทำให้พี่มาชอบผมให้ได้"

      "เพ้อเจ้อ"

      พี่วินมันกำลังเดินหนีผม ผมวิ่งไปตัดหน้าแล้วแกล้งทำเป็นสะดุดก้อนหินล้ม

      "อ๊ะ "

      พี่วินรีบมาคว้าผมไว้ทันที สายตาพี่เขาสื่อว่ารู้ทันว่าผมกำลังอ่อยพี่เขาอยู่

      "พี่ก็รู้ว่า ผมแกล้ง ผมแค่จะอ่อยพี่"

      "กูรู้"

      "แล้วทำพี่ยัง..."

      "แล้วมึงคิดว่าเพราะอะไรล่ะ"

      ผมเห็นท่าทางของพี่วินแล้ว ผมว่าพี่เขาก็ไม่ได้ใจร้ายตัดรอนกับผมเสียที่เดียว ผมเลยฉวยโอกาสหอมแก้มพี่เขา

      "...."

      พี่วินทำหน้าเหวออึ้งไปชั่วขณะ ผมเตรียมจะวิ่งหนีเพราะกลัวโดนพี่เขาจับทุ่มเอา ตอนทำไม่คิดและตอนนี้เริ่มจะเสียวๆ แล้วสิ พี่เขาเป็นประธานชมรมเทควันโดด้วย แต่จู่ๆ พี่มันก็คว้าแขนกระชากเข้าซบกับอก

      "สรุปว่ามึงจะจีบกูใช่ไหม"

      พี่วินจ้องหน้าผมนิ่ง

      "ครับ"

      ผมจ้องกลับด้วยสายตาแน่วแน่

       "งั้นไม่ต้องจีบแล้ว"

       "ทำไมล่ะ พี่รังเกียจผมมากนักเหรอ"

      "เปล่า มึงลืมหรือเปล่าว่ามึงเป็น 'เมีย' กู งั้นมึงมาทำหน้าที่เมียของมึงได้แล้ว"

      พอพี่วินพูดจบก็ก้มลงจูบผมเลยทันทีและเข้ามาโอบกอดผมและหอมแก้ม ซอกคอ เรื่อยลงมาจนถึงหน้าอก แล้วก็ถอดเสื้อยืดผมออก ผมเป็นคนขาวมาก หัวนมสีชมพูสด พี่วินเห็นแล้วคงตะลึงแล้วก็ก้มลงดูดทันที

           ตอนนี้ผมเสียวมาก แต่ก็กลัวคนและรู้สึกตื่นเต้นมาก  พี่วินหยุดดูดเม็ดสีชมพู ทำให้ผมรู้สึกเสียดายเหมือนกัน พี่เขาบอกว่าไปที่อื่นกันเถอะ แถวนี้คนเยอะ แล้วก็พาผมไปหลบด้านหลังโรงจอดรถที่ตอนนี้มืดมาก

      จากนั้นนั้นก็ล้วนเข้าไปในกางเกงผม พี่เขาลูบไล้จนผมสยิวไปหมด  แล้วก็ถอดกางเกงทั้งชั้นในชั้นนอกของผม

      พี่วินใช้นิ้วสอดที่ช่องทางด้านหลังผม ผมเสียวจนครางไม่เป็นส่ำ

         " อูยยยย " 

         แล้วพี่วินจับผมหันหลังยกสะโพกขึ้น ตอนนี้ผมเสียวมากจนหูอื้อตาลายหน้ามืด ตั้งแต่ก่อนอยู่แล้วเลยปล่อยเลยตามเลย

         พี่วินถอดกางเกงออกแต่ไม่ถอดเสื้อ ตอนนั้นผมมองไม่เห็น แต่รู้สึกว่ามีอะไรอุ่นๆแข็งๆมาถูไถที่แถวซอกขา

       พอผมจะหันกลับไปดูพี่วินดันดุ้นนั้นเข้ามาในช่องทางด้านหลังผม แต่เข้ายากมาก พี่เขาเลยจัดท่าใหม่ ยกขาสองข้างผมขึ้นที่ข้อพับแขน แล้วเอาแท่งเอ็นจ่อที่ช่องทางด้านหลัง ค่อยๆดันเข้ามา

      แม้ว่าพี่วินจะค่อยๆเสียบเข้ามา แต่ผมเจ็บแปล็บๆ  มันรู้สึกตื่นเต้นด้วย มีความเสียวด้วย

      ตอนนั้นผมได้แต่เม้มปากแน่น พี่วินกระดกก้นถอนตัวตนของพี่เขาออก  ผมเสียวจนต้องแอ่นตาม แต่แล้วพี่วินดันกระแทกกลับมาอีกมิดแท่ง

     “โอ๊ยยย”     ผมร้องออกมา รู้สึกเจ็บมาก เจ็บจนน้ำตาไหล

     แต่พี่วินเอามือมาอุดปากผมไว้ แล้วเริ่มขยับซอยเอวเนิบๆ ช้าๆ เบาๆ จนผมรู้สึกเสียวมากๆ

     ตอนนี้ผมไม่เจ็บแล้ว เหลือแต่ความเสียวแล้ว พี่วินเริ่มซอยเอวเร็วขึ้นๆ

     ผมเงยหน้าขึ้นมาดู เห็นตัวตนพี่วินเข้าๆ ออกๆ ที่ช่องทางของผม

    “ ซี๊ด  อ๊าๆ อ้า “

     ผมครางเสียงกระเส่า

    “อู้ววว”  พี่วินก็ครางเหมือนกัน

        เพราะอารมณ์พาไป ทำให้พวกผมส่งเสียงดัง ตอนนี้ใครผ่านมาเห็นคงเดาได้ว่าทำอะไร แต่ผมไม่สนใจจะอายแล้ว เพราะเสียวมาก 

          ช่องทางด้านหลังผมตอดขมิบถี่ๆ กล้ามเนื้อทุกส่วนเกร็ง ขนแขน ขนขาลุกตั้งชัน ผวากอดพี่วินแน่น             

        ขณะที่พี่วินเร่งซอยหนักขึ้น ถี่ขึ้น เรื่อยๆ 

       ผมรู้สึกถึงน้ำอุ่นๆพุ่งเข้าปะทะข้างใน ขณะที่ผมก็ปลดปล่อยออกมาพร้อมๆกันจากนั้นทุกอย่างก็สงบ ผมนอนซบลงบนอกพี่วิน


        พอสักพักผมเริ่มมีแรง ผมก็ก้มมองไปทางช่องทางด้านหลังผม ตอนนี้แสบมากและมีเลือดไหลออกมาด้วย มีน้ำไหลออกมาเต็มเลย เป็นน้ำขาวขุ่นข้น  ขณะที่พี่วินลูบหัวผมเบาๆ

      "ต่อไปมึงไม่ต้องแอบตามกูแล้วนะ"

       "ทำไมล่ะ พี่รังเกียจผมมากนักเหรอ"

      "เปล่า มึงลืมหรือเปล่าว่ามึงเป็น 'เมีย' กู  เมียจะมาหาผัวจะแอบทำไม "

      “เมีย ผมเป็นผู้ชายนะ” ผมหน้าแดงด้วยความเขินอาย

      “มึงเป็นผู้ชายแล้วไง มึงเป็นเมียกูแล้ว ไม่ต้องมาคิดอะไรมาก มึงมาทำหน้าที่เมียของมึงได้แล้ว"

      พอพี่วินพูดจบก็ก้มลงจูบผมเลยทันที มือก็ลูบไล้ไปทั่วตัวผม ผมได้แต่ปล่อยเลยตามเลย
      .
     .
     .
     ถึงผมจะเขินอายพี่บอสแค่ไหน แต่ตอนนี้ผมมีสิ่งอื่นที่สำคัญกว่า ผมต้องทำหน้าที่'เมีย' ให้ดีที่สุดครับ

     (จบตอน)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-07-2017 21:49:03 โดย natsikijang »

ออฟไลน์ netich

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 227
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ออฟไลน์ natsikijang

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 540
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-4
เดี๋ยวภาคต่อไป คุณพ่อวัยใส ฝากติดตามด้วยนะคะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-08-2017 19:01:56 โดย natsikijang »

ออฟไลน์ W2P5

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 79
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
Re: In Love With My Roommate คุณพ่อวัยใส
«ตอบ #27 เมื่อ12-08-2017 08:43:02 »

 :katai2-1: สนุกมากๆเลยค่ะ

ออฟไลน์ สีหราช

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 320
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-1

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด