In Love With My Roommate
EP : 4(50%)
"วิ่ง 45 รอบ ปฎิบัติ"
.
.
กฎเหล็กของการเป็นลีด ข้อสำคัญที่ต้องท่องจำให้ขึ้นใจคือ ต้องตรงเวลา ห้ามมาสาย เพราะถ้ามามาสายจะโดนพี่ๆ ลงโทษให้วิ่งรอบสนามนาทีละ 3 รอบ วันนี้เราต้องวิ่งรอบสนาม 45 รอบเพราะตั้มมาสายสิบนาที อีทมาสายห้านาที
รู้สึกเหนื่อยจนอยากร้องไห้เลยทีเดียวขนาดผมเป็นนักกีฬาที่ซ้อมบ่อยและออกกำลังกายทุกๆวันเป็นประจำสม่ำเสมอยังเหนื่อยขนาดนี้แล้วเพื่อนๆจะเหนื่อยขนาดไหน ผมล่ะสงสารเพื่อนๆผู้หญิงจับใจ เป็นลีดน่ะมันไม่ง่ายเลย
หลังจากวิ่งเสร็จเราก็นั่งยืดขาพักกัน ผมรู้ว่าทุกคนไม่โทษเพื่อน เพราะเรารักและสามัคคีกันมาตลอด แต่ถึงอย่างนั้นอีทก็เดินมาขอโทษทุกคนในทีมเช่นเดียวกับตั้ม
ผมเข้าใจความรู้สึกของตั้มกับอีทดีครับ เป็นผมก็คงรู้สึกไม่สบายใจเหมือนกันที่เหมือนเป็นตัวทำให้เพื่อนโดนลงโทษแบบนี้
"เราขอโทษนะ เพราะเราทำให้เพื่อนๆต้องมาเหนื่อยแบบนี้"
ตั้มก้มหัวขอโทษทุกๆคนในกลุ่ม ดูจากสีหน้าแล้วเหมือนมีเรื่องทุกข์ใจอย่างหนัก
"เฮ้ย พวกกูไม่เป็นไร อย่าคิดมาก เอางี้ไหมถ้าพวกมึงไม่สบายใจ เดี๋ยวซ้อมเสร็จพวกเราไปหาอะไรกินอร่อยๆจ กัน พวกมึงก็ออกมากหน่อยแค่นี้เป็นไงมึงว่าดีไหม"
"ดีๆๆ เดี๋ยวตอนเลิกเรียน เราไปหาอะไรกินกันนะ"
"ส่วนตั้มไม่ต้องออกเงินเลี้ยงพวกเราหรอก แค่เอาขนมที่ทำมาให้ชิมทุกๆวันขนาดนี้ เราก็เกรงใจจะแย่แล้ว เคยกินคุ๊กกี้ช็อคชิพกับเค้กส้มอร่อยมาเลย ของซื้อของขายยังอุตส่าห์เอามาแบ่งเพื่อนอีก"
ตั้มยิ้มออกมาทั้งตาทั้งปาก
"ถ้าชอบกัน เดี๋ยวเราเอามาให้ชิมบ่อยๆ นะ"
ตั้มเป็นเพื่อนที่นิสัยดีมากครับ เขาเป็นคนสู้ชีวิตมาก ทั้งที่หน้าตาไม่ให้เลย ตั้มหน้าตาเหมือนลูกคุณหนู ตัวขาวๆ ปากแดงๆ ตาเรียวเล็กแต่ก็มีสองชั้น สูง176 Cm
ชีวิตเพื่อนผมคนนี้น่าสงสารมาก หลังพ่อกับแม่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตทั้งคู่ตั้งแต่ตั้มอยู่ม. 5 ตั้มต้องลาออกจากโรงเรียนชายล้วนชื่อดังแห่งหนึ่งไปเรียนโรงเรียนมัธยมวัดเทพ และหลังจากนั้นตั้มต้องทำงานสารพัดอย่างเพื่อส่งตัวเองเรียนก่อนจะได้มาฝากขายขนมที่ ร้านBake and U เมื่อเดือนก่อนหลังจากรู้ว่าตัวเองสอบติดที่นี่ซึ่งเจ้าของร้านเป็นคือพี่แชมป์นี่เอง ผมได้ยินว่าตั้มตื่นตั้งแต่ตีสามเตรียมเพื่อออกไปไปส่งนมกับหนังสือพิมพ์ก่อนจะกลับมาอบขนมเอาไปฝากขาย
ขณะที่กำลังยืดเส้นยืดสายอยู่ พี่แชมป์ก็เดินมาบอกว่า
"พี่มีข่าวดีจะมาบอก ปลายเดือนหน้าจะมีงาน IU Freshy Game 2017 แล้ว เพรางั้นสัปดาห์นี้ เราต้องซ้อมกันหนักหน่อยนะ ตั้งแต่วันเสาร์นี้เราจะต้องไปร่วมกันฝึกซ้อมกับทีมแสตนด์"
"โหยยยย ข่าวดีตรงไหนเนี่ย"
"หนูยังเต้นไม่ได้เลย"
"ตายแน่ๆเลยเรา"
พวกเพื่อนๆ ผมโอดครวญกันยกใหญ่
คืนนี้กว่าจะซ้อมเสร็จกว่าจะได้กลับหอก็ห้าทุ่มครึ่งเข้าไปแล้ว เมื่อเช้าผมติดรถชานนท์เพื่อนร่วมคณะผมไปเรียนเพราะฝนตก ตอนกลับผมจึงติดรถอีทมาแทน
พอพวกผมมาถึงหน้าหอผมมองตามสายตาของตั้มที่จ้องชายหญิงคู่หนึ่งตรงหน้า ผู้หญิงหอมแล้วเดินไปเปิดประตูรถสปอร์ตสุดหรูปอร์เช่ ผู้ชายก็โบกมือลา แสงไฟรถสว่างจ้าขึ้นมาจากรถคันนั้น พอผู้หญิงไฮโซคที่ดูยังสวยยังสาวและมาดนางพญานั้นเปิดกระจกมาโบกมือลา ผมถึงได้เห็นว่าผู้หญิงผู้ชายคู่นั้นคือใครเป็นคนที่ผมรู้จักดีซะด้วย
"พี่วินคบกับสาวสูงวัยไฮโซเหรอว่ะ กูเพิ่งรู้เลยนะเนี่ย เปรี้ยวว่ะ" อีทพูดเปิดประเด็น
"เขาคบกันเหรอ" ตั้มพูดขึ้นมาบ้าง สายตายังจ้องไม่หยุด
อย่าบอกนะว่าตั้มแอบชอบพี่วินน่ะ มาเฟียกับลูกแกะน้อยชัดๆ
ผมชี้ไปที่คู่นั้นแล้วพูดแก้ความเข้าใจผิด
"นั่นไฮโซน้ำผึ้ง"
"มึงรู้จักเหรอ ไอ้ฉัตร" อีทถามขึ้นมาทันที
"รู้จักดิ ก็แม่พี่วินไง"
" ห๊า แม่พี่วินเหรอ หน้าเถื่อนอย่างพี่วินนั่นแกเป็นลูกไฮโซเหรอว่ะ กูนึกว่าพี่แกจน วันๆ เห็นขี่มอเตอร์ไซค์ฮอนด้าเก่า แต่แต่งครบเครื่องชิบหาย ใส่เสื้อยืด ชอร์ปกับกางเกงยีนส์ขาดๆ มาดไม่ให้ว่ะ"
"มึงก็พูดไป พี่วินแกลูกชายหัวแก้วหัวแหวนหญิงเหล็กเจ้าแม่ธุรกิจอาหารแช่แข็งเลยนะมึง" ผมอภิบายภูมิหลังครอบครัวพี่วินต่อ
"บ้านพี่วินรวยมากเลยเหรอ"
ตั้มพูดด้วยน้ำเสียงหงอยๆ คงจะเอาเปรียบเทียบกับตัวเองในใจมั้ง คนเรามันเลือกเกิดไม่ได้นี่นะ
" แต่พี่วินเป็นคนติดดินว่ะ ดูการแต่งตัวมันดิ เดินคู่กันแม่ลูกแล้วเหมือนคุณนายกับคนรับใช้ไม่มีผิด แม่พี่วินไฮโซตั้งแต่หัวจรดเท้า"
พอรถจอดผมกับตั้มรีบลงจากรถและผมรีบไปเข้าห้องน้ำก่อนเพราะรู้สึกปวดหนักขึ้นมากระทันหัน
พอผมเดินออกมาจากห้องน้ำ ผมคิดว่าเพื่อนคงจะขึ้นลิฟต์กันไปหมดแล้ว รถมอเตอร์ไซค์ที่อยู่อีกด้านหนึ่งก็ยังไม่มีวี่แววจะเจอลูกรักของผมเลย ผมพยายามเดินหาจนเดินไปด้านหลังหอที่ ที่ไม่มีเพียงแสงไฟสลัวๆ ต้องใช้โทรศัพท์มือถือช่วยส่องสว่าง
ผมเห็นข้อความแจ้งเตือนในโทรศัพท์เลยเปิดไลน์เข้าไปดู พี่วินไลน์มาว่า พ่อผมให้คนมาเอารถไปตรวจเช็คสภาพรถต่อพรบ.ใหม่ของปีนี้
พี่วินสนิทกับพ่อผมมากและเป็นคนแนะนำโควตานักกีฬาของมหาลัยนี้ให้ผมมาสมัครแถมวันที่ผมบินมาจากเชียงใหม่ พี่วินยังมารับผมมาจากที่สนามบินและพาไปจัดการเรื่องหอ เรื่องรายงานตัวและยัดผมเข้าชมรมเทควันโดเสร็จเรียบร้อย พี่วินทำตัวเหมือนเป็นพ่อคนที่สองของผมไปแล้ว
พอเงยหน้าดูก็เห็นพี่บอสกำลังก้มลงจ้องโทรศัพท์ผม
"มองอะไร"
ผมรีบเอาโทรศัพท์เบี่ยงหลบทันที
"เปล่า"
มันยักไหล่แล้วยกน้ำปั่นขึ้นมาดูด
พอรู้ว่าลูกรักยังปลอดภัยดี ผมก็เดินกลับหอ
"แล้วพี่เดินมาข้างหลังนี่ทำไม"
"ก็เดินตามมึงมานั่นแหล่ะ เห็นท่าทางแปลกๆ ถึงปกติมึงจะดูแปลกๆอยู่แล้วก็เถอะ แต่เมื่อกี้มึงดูแปลกกว่าทุกวัน"
"แปลกยังไงว่ะ"
"เปล๊า"
เสียงสูงขนาดนี้ ฟังดูมีพิรุธที่สุด
ผมกำลังจะเดินต่อ แต่จู่ๆ พี่บอสมันก็ลากผมไปแอบหลังรถคันหนึ่ง ผมกำลังจะถามว่ามีอะไร มันก็เอามือปิดปากผมแล้วกดหัวผมให้ซบอยู่ตรงอกมัน
ผมตั้งใจว่าจะจับพี่มันทุ่ม แต่พอได้ยินเสียงครางแปลกๆ ผมก็เลยเงียบบ้างและชะเง้อไปทางด้านหน้ารถก็เห็นผู้ชายสองคนกอดจูบกับอย่างดูดดื่มก่อนที่จะผู้ชายอีกคนจะล้วง ควักเข้าไปข้างในเสื้อจนกระทั่งสองคนนั้นเลยเถิดไปจนถึงมีอะไรกันต่อหน้าต่อตา ผมรู้สึกว่าทั้งคู่เป็นคนที่ผมคุ้นเคยดี แต่นึกไม่ออกมาใคร
ผมมองอีกคนที่นั่งแนบชิดกับผมตอนนี้เพราะซอกท้ายรถที่พวกผมแอบกันนี้มันแคบแสนแคบพอมีผู้ชายตัวโตๆ สองคนมาอยู่ในนี้จึงยิ่งแคบเข้าไปใหญ่
"อ้า อ้า อ๊า เสียวจังครับ"
"อืม แน่นชิบหาย อือ"
ภาพและเสียงมาเต็มขนาดนี้ยิ่งไฟสลัวๆ อีก ถึงจะเห็นหน้าคู่นั้นไม่ชัด แต่เห็นท่างท่าลีลาชัดเจน
หลังจากผมเห็นและได้ยินเสียงทั้งคู่เสร็จภารกิจกามรอบแรก ผมก็นึกว่าจะได้ออกจากตรงนี้ได้เสียที
แต่ผมคิดผิด พวกมันเริ่มรอบใหม่
ตอนนี้ผมไม่สนแล้วว่าคู่นี้จะใช้ท่าไหน อะไรยังไง แต่ผมสนว่าเมื่อไรมันจะหยุดกันสักที ผมหันไปมองเพื่อนร่วมชะตากรรมที่ตอนนี้หน้าแดงซ่าน แม้จะมองไม่ชัดเพราะตรงนี้แสงน้อยเหลือเกิน แต่ผมว่าผมตาไม่ฝาด ผมว่าเห็นว่าพี่บอสมันหน้าแดงก่ำ มือมันขยับยุกยิก สายตาจ้องคู่นั้นสลับกับจ้องหน้าผม
'เป็นอะไร'
ผมกระซิบเสียงเบาจนแทบจะไม่ได้ยิน แต่ผมรู้ว่ามันได้ยินแน่ๆ
'ร้อน'
มันเริ่มปลดเสื้อกระดุมสามเม็ดบนออกจนเห็นหัวนมแว่บๆ เหงื่อไหลโซมกาย พอหลังจากนั้นห้านาที ผมก็ได้ยินเสียงรูดซิบลง
'ทำอะไร'
'ช่วยตัวเอง ถ้ากูมีใครช่วยเหมือนไอ้เชี่ยนั่นก็ดีนะ' สายตามันมองมาทางผมแบบเว้าวอน
ผมกำหมัดแน่น
'กูหยอกมึงเล่น มึงไม่ต้องทำให้กูหรอก เดี๋ยวทำให้มึงดูเองน่ะได้อารมณ์กว่าเยอะ'
'โรคจิต ชอบโชว์เหรอมึงน่ะ'
'แล้วไง อย่าบอกนะว่ามึงไม่เคยทำต่อหน้าคนอื่น อ่อนว่ะ'
มันยักคิ้วให้แล้วก็คงเริ่มช่วยตัวเองต่อหน้าผม ผมเลยต้องเอามือปิดตาตัวเองแน่น
ผมยอมรับว่า ผมก็ผู้ชายเจอหนังสดขนาดนี้ ผมก็ต้องมีอารมณ์เป็นธรรมดา แต่ผมยังมีสติและความอดทนเหลืออยู่
'อือ ดีจังเลยน้องฉัตร อืม แน่นจังครับ'
"ไอ้เชี่ย!"
"ใครน่ะ "
"เมี้ยวววววว"
ไอ้พี่บอสมันร้องเหมือนแมว มุกควายๆ แบบนี้จะรอดเหรอ และแล้วก็ไม่รอด ผมได้ยินเสียงฝีเท้าเดินมาใกล้ๆ เรา ไอ้พี่บอสถอดเสื้อแล้วโยนมาบนหัวผม
"เอาคลุมหน้าไว้ซะ"
ผมรีบเอาเสื้อเชิ้ตมันคลุมหน้าทันที ผมกำลังจะซาบซึ้งที่มันช่วยผมอยู่พอดี แต่มันเล่นที่เผลอแกะกระดุมเสื้อผมทุกเม็ดแล้วเอาแขนผมไขว้กับเสามัดด้วยเข็มขัด
ผมกำลังจะยกขาถีบมัน แต่มันกลับยื่นหน้ามากระซิบว่า "เชื่อใจกูเหอะ เดี๋ยวที่เหลือกูจัดการเอง ขอแค่ให้มึงไว้ใจกูก็พอ"
"ไอ้เชี่ยบอส"
"อ้าวสวัสดีครับเฮียยยวิน"
พี่วิน อย่าบอกนะว่าเป็นพี่วิน ประธานชมรมเทควันโด พ่อคนที่สองของผม
"มึงไม่ต้องลากเสียงยาว มึงกล้าดียังไงมาแอบดูพวกกูเอากัน"
เสียงนี้ใช่เลย พี่วินจริงๆด้วย
"อ้าว เสียงครางเมื่อกี้ของเฮียเหรอ ผมไม่ได้สนใจว่ะ ผมกำลังเข้าด้ายเข้าเข็มกับ'เมีย'อยู่พอดี"
มันเน้นจัง ไอ้คำว่า 'เมีย' เนี่ย ไอ้พี่บอสมันกล้าดียังไงมาเรียกผมว่าเมีย
"มึงไม่เห็นแน่เหรอว่ะ" พี่วินถามย้ำ เสียงพี่ดูไม่ค่อยเชื่อคำโกหกคำโตของไอ้พี่บอสสักเท่าไร
"เออดิครับเฮีย ไปได้ยัง ขัดจังหวะผมจริงๆ ไม่เห็นเหรอว่าพวกผมยังไม่เสร็จ ผมจะต่ออีกสักรอบสองรอบ เมียผมมันชอบแบบนอกสถานที่ ตื่นเต้นเร้าใจดี"
"ไอ้บอส กูเพิ่งรู้นะเนี่ยว่ามึงเป็น" พี่วินน้ำเสียงกวนตีนมาก
"เฮ้ย ผมยังชอบผู้หญิง" ส่วนไอ้พี่บอสก็ดูเหมือนจะตกใจรีบปฎิเสธใหญ่เลย
"แสดงว่า มึงเป็นไบ ถึงเมียมึงจะปิดหน้า แต่กูไม่ได้โง่นะ กูรู้ว่าเมียมึงเป็นผู้ชายเล่นใส่ชุดนักศึกษาชายมาเลยนี่"
"ฮ่าๆๆ " ไอ้พี่บอสหัวเราะ
"เออ กูบอกไว้ก่อน ถึงมึงจะเอาเรื่องกูไปพูดต่อก็ขอให้รู้ไว้ว่าคนอย่างกูไม่แคร์อยู่แล้ว แต่ถ้ามึงทำเด็กนี่เสียหายล่ะก็ กูเอามึงตายแน่"
"เฮียก็น่าจะรู้ว่าผมเป็นพวกไม่ชอบยุ่งเรื่องชาวบ้าน"
วันๆ มันเอาแต่นอน มันสนใจโลกที่ไหนกัน
"เอ่อ เรื่องมึงกับเมียมึง กูก็จะไม่บอกใครเหมือนกัน กูฝากดูแลน้องฉัตรด้วยนะ"
"ดูแลมันทำไมวะเฮีย ตัวมันโตยังกับควาย มันน่าจะดูแลตัวเองได้อยู่แล้ว"
ผมอยากจะกัดหูมันจริงๆ มาเปรียบเทียบสุดหล่ออย่างผมกับควาย
"มึงมันไม่รู้อะไร น้องฉัตรมันเป็นลูกผู้มีพระคุณของกู ถ้าไม่ได้พ่อของน้องมัน ป่านนี้กูคงเป็นหมานอนเน่าอยู่ในคุกไปแล้วกุรักมันเหมือนน้องแท้ๆ แล้วน้องกูมันก็เป็นเด็กดี กูกลัวมันจะโดนหลอก กลัวจะไปคบเพื่อนไม่ดี"
พี่วินเริ่มร่ายยาวเป็นพ่อคนที่สองของผม ทั้งที่พ่อคนที่หนึ่งของผมยังไม่สนใจเลย วันๆ ทำงานหาแต่เงิน กลับบ้านไปผมก็ต้องเหงาอยู่คนเดียวจนแม่ผมขอหย่าไปแต่งงานใหม่
"ไอ้พัฒน์มันก็ฝากผมมาเหมือนกัน มันเป็นพี่เทค ผมล่ะไม่เข้าใจเลย เป็นอะไรกันไปหมดว่ะ ห่วงแต่ไอ้น้องฉัตรเนี่ย เป็นผู้หญิงก็ว่าไปอย่าง"
"เออ ดีๆ ฝากขอบใจไอ้พัฒน์มันด้วย ส่วนมึง ถ้าเจอใครรังแกน้องกู มึงก็มาบอกกูแล้วกัน กูจะไปกระทืบมันสักหน่อย"
กระทืบมันก่อนเพื่อนเลยพี่วิน...
"ได้ครับเฮีย"
นี่ก็ยังไม่รู้ตัวอีก
"งั้นกูไปล่ะ จะไปต่อบนห้องอีกสักรอบ"
แค่นี้ยังไม่พออีกเหรอพี่ อะไรจะหื่นขนาดนี้
"ตามสบายเลยคร้าบบ เฮียยย"
"กวนตีนนะมึงน่ะ เดี๋ยวกูเตะให้
เสียงฝีเท้าเริ่มห่างออกไปจนไม่ได้ยินเสียงแล้ว ไอ้พี่บอสมันดึงเสื้อมันออกจากหัวผมแล้วเริ่มช่วยตัวเองให้ผมดูอีกครั้ง ผมเลยหลับตาปี๋
"อือ น้องฉัตรอ้า "
ผมได้แต่เบือนหน้าหนี
"ไอ้เชี่ย หยุดเรียกชื่อกูเลยนะ"
"น้องฉัตร อ้ากว้างๆ สิ อืมลึกพอไหมจ๊ะ อือ "
"ไอ้เชี่ยบอส กามนะมึงน่ะ อย่าให้กูหลุดไปได้นะ กูจะต่อยมึงให้คว่ำเลย"
"อืม น้องฉัตร พี่เสียวจังเลย แน่นดีจัง ตอดดีด้วย ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ"
อย่าบอกนะว่ามันแกล้งผม
"ลืมตาได้แล้ว กูแค่อำมึงเล่น มึงเห็นกูเป็นพวกชอบโชว์รึไง"
ผมลืมตาขึ้นมาก็เห็นมันใส่กางเกงเรียบร้อยแถมยังติดกระดุมเสื้อครบทุกเม็ดด้วย
"ก็นึกว่าเป็นพวกเดียวกับพี่วิน"
"ไม่ใช่เลย กูไม่ได้มีรสนิยมแบบนั้น กูสายอ่อนโยน เบาๆ ทุกท่วงท่าแต่ลีลากูเด็ด" ผมควรจะเชื่อมันดีไหมเนี่ย ท่าทางโคตรน่าถีบ
"เอาที่สบายใจเลย"
"ว่าแต่เฮียวินกับเพื่อนมึงนี่ลีลาดีชิบหาย" ไอ้พี่บอสชมแบบดูก็รู้ว่ามันไม่จริงใจ
"เพื่อนผม?"
"ก็คนที่มาซ้อมลีดกับมึงเมื่อวานไง คนที่ตัวสูงกว่ามึงน่ะ" มันพูดด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ อยากเอาอะไรจิ้มตามันจัง
"ตั้มอ่ะเหรอ เป็นไปไม่ได้หรอกเว้ย พี่ตาฝาดหรือเปล่า"
โกหกน่า คนอย่างตั้มนี่นะจะมาทำเรื่องแบบนี้กับพี่วิน คนอย่างพี่วินทำแบบนี้น่ะไม่แปลกเพราะรายนี้เจ้าชู้ตัวพ่อ ด้านมืดของพี่วินผมก็เคยได้ฟังจากปากเพื่อนๆ พี่ๆ ในชมรมมาบ้าง แต่ใสใสอย่างตั้มเนี่ยนะทำไมถึงได้ทำเรื่องแบบนี้
"ไม่เชื่อ มึงก็ไปถามเพื่อนมึงเองสิ" มันตอบแบบไม่ใส่ใจ
มันยักไหล่แล้วเดินไปด้านหน้าหอ
"แล้วมึงจะนั่งอยู่ตรงนั้นอีกนานไหม ลุกขึ้นมาได้แล้วเดี๋ยวก็โดนยุงหามหรอก"
พอได้ยินมันเรียก ผมถึงเริ่มรู้ตัวว่าตอนนี้มันปลดเข็มขัดที่รัดข้อมือผมออกแล้ว ผมรีบวิ่งไปกะว่าจะต่อยมันสักที แต่มันรู้ทันรีบวิ่งหนี
ขายาวๆ ของมันยิ่งเร็วซะจนผมตามไม่ทันจนกระทั่งพวกเราต่างคนต่างหอบแฮ่กๆ หน้าลิฟต์
พอเข้าไปในลิฟต์ ผมมองหน้ามันแล้วนึกขึ้นได้ว่า ผมจะแก้แค้นมันได้อย่างไรแล้วผมก็หัวเราะขึ้นมาอย่างสะใจ
"หึๆๆ"
"มึงนี่ท่าจะบ้า อยู่ดีๆก็หัวเราะคนเดียว"
"ยุ่งน่า เป็นแมลงวันเหรอ ทำตัวน่ารำคาญ" ผมแกล้งดุกลบเกลื่อนเลยพูดเสียงเขียว
"ไม่ล้อแล้ว เลิกทำหน้าบึ้งได้แล้ว ขี้เหร่จะตาย ว่าแล้วมองแรงเชียวนะมึง"
ไอ้พี่บอสมันล้อเลียนผม ไม่พอมันยังยักคิ้วกวนตีนมาให้ด้วย
"หยุดล้อได้แล้ว ไม่งั้นผมเตะอัดเละแน่ ว่าแต่พี่ดูสนิทกันพี่วินดีนะ" ผมชวนมันเปลี่ยนเรื่อง
"สนิทดิ ก็ปีที่แล้ว กูดันโชคร้ายจับบัดดี้ได้คู่กับเฮียวินน่ะ กูเลยต้องไปเล่นเกมเสี่ยวๆ แมนๆ กล้ามชนกล้ามคู่กันทั้งวัน นึกแล้วยังอดสยองขนลุกไม่หายเลย"
พี่มันทำหน้าสยองจนผมอดขำไม่ได้
"55555 สมน้ำหน้า"
พอลิฟต์เปิด ผมก็รีบเดินไปหน้าห้องตัวเองแล้วไขกุญแจเข้าห้อง ก่อนเข้าก้องผมหันไปลามัน
"ไปนะ"
"ฝันดีนะครับน้องฉัตร เมียรัก ฮ่าๆๆๆ ฝากบอกพ่อมึงด้วยว่ากูดูแลมึงเป็นอย่างดี" พี่บอสโบกมือลาแล้วหันไปไขกุญแจห้องตัวเองบ้าง
"เชี่ย"
"โอ๊ยยย"
ผมจับมันทุ่มลงบนพื้นแล้วรีบเปิดประตูเข้าห้องไปอย่างรวดเร็ว ขนลุกชะมัด
"เขินแรงนะมึงเนี่ย"
เสียงกวนตีนยังคงลอยทะลุประตูเข้ามา
ผมกำหมัดแน่นและรีบไปพิมพ์ไลน์ทันที
.
.
.
.
ผมจะหลอกอ่อยให้มันรัก แล้วจะหักหลังให้มันน้ำตาเช็ดหัวเข่าเลยคอยดู
Chat ลับ
Boss : กำลังทำอะไรอยู่ครับ
แก้มชมพู : ดูข่าวฆ่าหั่นศพ โหดร้ายมาก ทนายย. พูดงงๆ
Boss : งงยังไงครับ
แก้มชมพู : เขาบอกว่า ฆ่าคนแล้วหั่นศพไม่ใช่การฆ่าที่เหี้ยมโหดทารุณกรรม
Boss : อ๋อ คืออย่างงี้นะครับ การฆ่าคนที่ทำให้ตายโดยทันทีต่างจากการฆ่าคนที่ทำให้ทำให้ทรมาน กรีดเนื้อ แทงจนเหยื่อขาดใจตายถึงจะเรียกว่า 'เหี้ยมโหดทารุณกรรม' แล้วก็พวกที่ต้องเพิ่มโทษตามม. 289 พี่ยกตัวอย่างนะคะ เช่น ไตร่ตรองไว้ก่อน ฆ่าบุพการี ฆ่าพระ ฆ่าเจ้าหน้าที่ น้องแก้มคงจะเคยคุ้นๆหูจากในทีวีใช้ไหมครับ
แก้มชมพู : อ่อ
Boss : ส่วนการหั่นศพคือการทำลายหลักฐานครับ ถือว่าทำหลังจากเหยื่อเสียชีวิตไปแล้ว ต้องแยกเป็นอีกเรื่องหนึ่งครับ ความผิดฐานนี้ต่างจากความผิดฐานซ่อนเร้นศพตามมาตรา 199 มาตรานี้จะต้องกระทำโดยมีเจตนาพิเศษเพื่อปิดบังการเกิด การตายหรือเหตุแห่งการตาย เช่น ฆ่าเหยื่อแล้วเผาศพอำพรางคี โบกปูน หั่นศพแล้วทิ้งตามชักโครก อย่างที่อินเดียมีคนใช้กรดน้ำกรดเข้มข้นกัดทำลายศพจนไม่เหลืออะไรเพื่อทำลายหลักฐานครับ
แก้มชมพู : อ่อ มนุษย์เราโหดร้ายกันจังนะคะ ฆ่าเขาตายแล้วยังทำอย่างนั้นไปลงคอ
Boss : ก็มนุษย์มีความกลัวและความเห็นแก่ตัวอยากเอาตัวรอดนี่ครับ อย่างมีเงินตกอยู่หน้าห้องน้องอยู่มีแบงค์พันรวมแล้วหนึ่งล้านบาทจะเก็บไหมครับ แต่ถ้าพี่ติดกล้องไว้ล่ะน้องแก้มจะทำอย่างไร
แก้มชมพู :ตอบแบบไม่เสแสร้งนะคะ ตอนไม่มีกล้องนี่อาจจะ...เก็บ 55555 ขอเก็บไว้เป็นที่ระลึกสักใบ สองใบ หรืออาจจะไม่เก็บ ลังเลมากอ่ะค่ะ แต่ถ้าเห็นกล้องวิดิโอแล้ว ใครจะไปกล้าเก็บล่ะคะ
Boss : 5555 ตอบเหมือนพี่เลย ใจตรงกันนะเนี่ย พี่ถึงมาเรียนกฎหมายเพราะอย่างน้อยเราก็สามารถควบคุมคนด้วยกฎหมายที่มีบทลงโทษ ทำให้คนกลัวจนจะทำผิดแต่ละครั้งต้องไตร่ตรองมากขึ้น และโทษมีหลายระดับให้เข้ากับพฤติกรรมมนุษย์อย่างฆ่าคนตายนี่ก็เพรมีหลายแบบและก็มีบทลงโทษไม่เหมือนกัน เช่น ฆ่าคนตายตาม ม. 288 มีโทษจำคุกตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป จำคุกตลอดชีวิต ประหารชีวิตแล้วก็ดูจากเจตนา ไม่เจตนา หรือว่าประมาทครับ
แก้มชมพู : อ่อ ซับซ้อนจัง ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไรค่ะ
Boss : ไม่เป็นแล้ว พวกที่ต้องเพิ่มโทษตามม. 289 พี่ยกตัวอย่าง เช่น ไตร่ตรองไว้ก่อน ฆ่าบุพการี ฆ่าพระ ฆ่าเจ้าหน้าที่ น้องแก้มคงจะเคยคุ้นๆหูจากในทีวีใช้ไหมครับ
แก้มชมพู : คะ
Boss : พี่ดีใจจังที่น้องแก้มสนใจกฎหมายพวกนี้ด้วย
แก้มชมพู : พ่อแก้มเป็นตำรวจค่ะเลยคุ้นเคยกับอาชญากรรมอยู่บ้าง แต่แก้มไม่เก่งทางกฎหมายเท่าไรน่ะค่ะ
Boss : ครับ สงสัยอะไรตรงไหนถามพี่ได้น่ะครับ สำหรับน้องแก้มพี่ว่างเสมอ (สติ๊กเกอร์รูปหัวใจ)
(จบตอน)
PS, เดี๋ยวมีภาพ เอ้ย ภาคพิเศษเล่าเรื่องของคู่วิน × ตั้มนะคะ แนวผู้ชายสายดาร์กกับน้องไบโพลาร์ มาแนวสะท้อนสังคมนิดๆ นัทสึมีแรงบันดาลใจมาจากการเรียนและประสบการณ์การลงพื้นที่ไปฝังตัวเก็บข้อมูลการบำบัดยาเสพติดในชุมชน ปัญหาเยาวชน เด็กวัยรุ่นตีกัน ชีวิตในเรือนจำและพวกคดีอาชญากรรมค่ะ แต่เอามาใส่น้อยๆ เพราะเรื่องนี้ใสใสค่ะ อยากจะลองเอามาแต่งจริงจังก็กลัวจะโหดร้ายไป ตอนนั้นรู้สึกมันเป็นการทำงานที่เหมือนเปิดโลกอีกโลกหนึ่งที่เรามองจากละคร นิยายมากๆค่ะ
ตอนต่อไปเขินอายกับNC ที่แต่งไปได้ยังไงก็ไม่รู้สะท้อนตัวตนด้านมืดนัทสึมากค่ะ 55555
ฝากติดตามด้วยนะคะ ขอบคุณที่เข้าอ่านนะคะ
ใครเม้นต์ขอให้แฟนหล่อ ใครกดไลค์ของรวยๆ เฮงๆนะคะ
นัทสึ