ตอนที่118 เครียด
ผมกับไอ้ตาร์กลับจากบ้านที่ต่างจังหวัดมาได้หลายเดือนแล้ว(เร็วป่ะ=อยากรีบจบ)ก็ยังใช้ชีวิตปกติเหมือนเดิม แต่ว่าไอ้ห่าตาร์ปีนี้งานเยอะมาก จนผมเซ็ง วันๆมีแต่โปรเจค แต่ก็สงสารมันเหมือนกันครับ ทำงานหามรุ่งหามค่ำ ได้ข่าวว่ามันก็มีปัญหาด้วย ผมก็อยากจะช่วยนะครับแต่มันคงเป็นปัญหาเรื่องเรียนและก็เรื่องส่วนตัวเราก็ไม่อยากจะยุ่ง
ตอนนี้ผมก็ยุ่งๆเหมือนกันครับ ไม่ค่อยมีเวลา เพราะต้องทำคะแนนน่าดูเหมือนกัน ปีสองแล้วนิ
“ข้าวๆ..มีข่าวมาติดหน้าบอร์ดอะไปดูสิ..”แชมเปน เพื่อนในคณะผมเองครับ สาวสวยเซ็กซี่ที่ผมชอบส่งตาหวานให้คุณเธอบ่อยๆ บอกได้เลยครับ ว่าถ้าไม่มีไอ้ตาร์ ผมจะจีบให้ติดให้ได้ เปนเป็นสาวแบบตาเซ็กซี่มากๆอะครับ ผมชอบมาก ตัวเล็กๆ แต่งตัวเปรี้ยวๆ แต่จริงๆแล้วออกห้าวๆ นิสัยบางทีก็ขี้อาย และปัจจุบันก็ยังไม่มีใครจีบเธอติดสักคน ผมชอบเล่นแซวกับเปนบ่อยๆ เปนก่อนเล่นตอบด้วยนะครับ เพราะรู้ว่าผมแค่เล่นๆ ส่วนเพื่อนๆผมจะรู้ดีว่าเปนเป็นสาวในดวงใจ มันก็จะคอยแซวว่าเด็กไอ้ข้าวมันอย่าไปยุ่ง
“เรื่องนั้นหรอ”ผมหันไปถาม เพราะกำลังพิมพ์งานอยู่ครับ
“ใช่...มีประเทศที่ข้าวอยากไปด้วยนะ”เปนบอก
“อืม..ขอบใจนะ..น่ารักแบบนี้ไม่ให้ข้าวรักได้ไง”ผมยิ้มให้ แชมเปนยิ้มหน้าบาน พี่แชมเปนดุอย่างกับเสือครับ เพื่อนๆผมบอกมา พี่มันชื่อสไปท์ ชื่อคล้ายๆหมาเลยนะครับผมว่า
“เดี๋ยวกรูมานะมึง”ผมบอกไอ้นิล ที่นั่งอยู่กับไอ้เอ็ม แล้วลุกขึ้นเดินไป บอร์ดหน้าตึกคณะ ผมจะมาเดินอยู่หน้าบอร์ดนี่บ่อยๆ หาข่าวสารมากมาย หลายๆเรื่องจะติดไว้ ถ้าผมมีเวลาก็จะมาอ่านอย่างละเอียดแบบเก็บทุกเม็ด วันนี้ข่าวที่จะมาดูก็เกี่ยวกับการศึกษาของผมเองนั้นแหละครับ ผมเดินไปดูบอร์ดประจำ เกี่ยวกับการศึกษาต่อต่างประเทศ
“มีด้วยแฮะ.ติดแล้ว”ผมพูดกับตัวเอง เมื่อเห็นรายงานข่าวเกี่ยวกับเรื่องไปศึกษาต่อต่างประเทศ ทั้งอเมริกา อังกฤษ ออสเตเรีย เนเธอแลนด์ เยอรมนี รัสเซีย ญี่ปุ่น อินเดีย จีน
ผมหยิบกระดาษกับปากกาออกมาจดรายละเอียด เพราะขี้เกียจะเข้าไปดูในเวปอีกครั้งและอีกอย่างเดี๋ยวไอ้ตาร์เห็น เพราะผมไม่ชอบดูครับ มันเขียนค่อนข้างวุ่นวานซับซ้อน เกลียดเลยก็ว่าได้ ผมจดทุกอย่าง ทั้งเรื่องการยื่นเอกสาร เกรดที่ต้องทำให้ได้ ตั้งแต่สามจุดห้าศูนย์ขึ้นไป ภาษาอังกฤษเกรดก็ต้องดี ใช่สิ ต่างประเทศนิ ไม่ใช่ที่ไทย
ผมยืนจดอยู่นาน อ่านซ้ำแล้วซ้ำอีก นี่ยังไม่ได้เป็นการตัดสินใจสำหรับผม แต่มันก็แค่คิดดูเฉยๆ ว่าจะไปดีหรือไม่ดี เรื่องนี้ยังไม่ได้ถามไอ้ตาร์เลยด้วยซ้ำ มันคงโกรธหน้าดู ถ้าผมไปบอกทีหลัง ก็เห็นมันงานยุ่งๆ ไปบอกตอนนี้ได้เดี๋ยวเครียดงานการไม่ทำอีกไงครับ ผมก็ปรึกษาเรื่องนี่กับพี่เจ้าแล้ว พี่เจ้าก็บอกว่าไปก็ดี จบมาเครดิตดีกว่า ที่จริงพี่เจ้าจะให้ผมไปเรียนต่อต่างประเทศตั้งแต่ขึ้นมหาลัยแล้วแหละ แต่ผมยังไม่พร้อมรบ แล้วก็ยังอยากติดมหาวิทยาลัยในดวงใจด้วย แต่ตอนนี้ก็ยืนพอได้แล้ว ก็อยากจะลองดูบ้าง ถ้าได้ไปครั้งนี้ ก็เรียนต่ออีกแค่สามปีเอง เพราะมหาลัยที่ผมเรียนอยู่ตอนนี้ มันติดต่ออยู่กับทางมหาลัยในต่างประเทศที่กำหนดไว้ ผมเพิ่งมาคิดได้ไม่นานนี้ ดีน่ะที่ตอนปีหนึ่งผมทำคะแนนออกมาได้ดีมากพอสมควร เลยไม่ทำให้ผมต้องเครียดเท่าไหร่ ดังนั้นถ้าผมจะไป ปีนี้ผมก็ต้องทำให้ได้สามจุดศูนย์ห้าอีกครั้ง คะแนนที่ยื่นได้แค่นั้น ค่าเล่าเรียนจ่ายเองหมด เพราะมันไม่ใช่การสอบชิงทุน แต่มันเป็นการโอนย้ายไปเรียนต่างประเทศเท่านั้นแหละครับ ทำไมผมไม่อยากสอบชิงทุนนะหรอ หลายๆคนบอกให้ผมไปสอบ คือ ผมขี้เกียจ ใช่ผมขี้เกียจที่พอเรียนจบแล้วจะต้องมานั่งใช้ทุนตามกำหนด หรือไม่ก็ต้องเอาเงินไปจ่ายให้หมดทุน เลยบอกพี่เจ้าไว้ก่อนเนิ่นๆแล้วว่า ถ้ายื่นคะแนนแล้วติดก็จะอาจจะไป ค่าเล่าเรียนทั้งหมดจ่ายเอง พี่ว่าไง พี่เจ้าก็ตามใจ ตัดสินใจให้ดีแล้วค่อยบอกพ่อแม่
ผมเดินกลับมาที่โต๊ะ ไอ้เอ็ม ไอ้นิล แล้วก็ไอ้ทศนั่งอยู่
“เปนไปไหน”ผมถามมันเมื่อมาถึง
“มาถึงก็ถามหาเลยนะมึง..เอาทำเมียเลยดิ”ไอ้เอ็มหันมากัด
“ถ้ากรูไม่มีไอ้ตาร์กรูเอาไปแล้ว..น่ารักขนาดนั้นกรูไม่เก็บไว้ดูเล่นแบบนี้หรอกเว้ย”ผมพูดบอก เสียงจริงจัง เพราะกรูคิดจริงๆไงครับ ตั้งแต่เกิดมา ชอบผู้หญิงมาก็เยอะ มีแชมเปนนี่แหละครับที่ทำให้ผมรู้สึกว่า ถ้าได้คบจริงๆ จะไม่คบทีเล่นทีจริงแบบผู้หญิงคนอื่นๆแน่ แต่ก็สายไปครับ สายไปแล้ว
“เดี๋ยวกรูจะบอกเฮีย”ไอ้นิลมันพูดบอก
“อย่านะมึง..ถ้ามึงบอกกรูก็บอกน้องนุ่นแฟนมึงแน่ว่ามึงมีกิ๊ก”ผมบอกไอ้นิล น้องนุ่น แฟนที่เพิ่งคบกันไม่นานครับ
“เออๆ..สัด..แล้วเป็นไง”ไอ้นิลถาม ไอ้พวกนี้มันรู้แล้วแหละครับ เพราะว่าผมปรึกษามันแล้ว แต่ยังไม่ให้มันบอกไอ้ตาร์
“ก็ยื่นสมัครวันจันทร์หน้า..พร้อมกับรายละเอียดทั้งหมด..”ผมพูดลอยๆ คิดไปไหนก็ไม่รู้ครับ เหมือนยังไม่รู้ว่าเอาไงกับชีวิต
“แล้วเฮียว่าไง”ไอ้เอ็มถาม
“มันยังไม่รู้เรื่อง”ผมบอก
“ทำไมมึงไม่บอกเฮียวะ”ไอ้ทศถามอีก
“ก็กรูยังไม่พร้อม กรูอาจจะไม่ไปก็ได้นะเว้ย.คิดดูก่อน”ผมบอกมัน
“แล้วถ้าจะไปจะไปไหน”ไอ้ทศถามอีก
“อังกฤษ..ที่จริงประเทศที่กรูอยากไปมาที่สุดนะเนเธอแลนด์ แต่แค่อยากไปเที่ยวแล้วอีกอย่างคณะเราไม่มีที่เนเธอแลนด์ด้วยวะ”ผมบอกมัน ตาก็ลอยมองไปที่ถนนของมหาลัย
“เอาแน่หรอวะ”ไอ้ทศถาม เสียงมันเป็นห่วงๆไงไม่รู้ครับ
“ไม่แน่ใจวะ...”ผมบอกมัน
“เดี๋ยวมีเรียนแล้ว..ไม่ใช่มานั่งคิดเรื่องนี้ละมึงเดี๋ยวเกรดไม่ถึงอย่างหาว่ากรูไม่เตือน”ไอ้ทศบอก
“เออ..ห่านี่”ผมบอกมัน
แล้วผมก็เข้าไปนั่งเรียน เวลาเรียนก็เรียนซะก่อน ก่อนที่จะไม่ได้เรียน
พอออกมานอกห้องเรียน ผมนั่งรอไอ้ตาร์ที่ใต้ตึก เพราะว่าวันนี้ไอ้ตาร์มันมารับครับ มันเอามอไซด์ไอ้เวสป้าสีเขียวเอามาขับที่นี่แล้ว มันบอกถ้ามีบ้านที่นี่จะซื้อมอไซด์ไว้ขับสักสี่ห้าคัน เออ สงสัยพ่อมันผลิตน้ำมันทำอย่างกับตัวเองมีหลายมือหลายขา
“พี่เจ้า...”ผมนั่งรอไปก็เบื่อๆเลยโทรหาพี่เจ้า
“ว่าไงครับ”พี่เจ้าพูดเสียงยังอ่อนโยนเหมือนเดิม
“ตกลงข้าวไปดีมั้ยอะ”ผมถามไปงั้นแหละครับ เพื่อเอาความแน่ใจ ที่จริงอยากไปนะ อยากมีอนาคตที่ดีกว่านี้ ไม่รู้ว่าจะมาแล้วต้องแข่งกับใครบ้าง คนเก่งเยอะแยะ แต่ว่าอยากให้ดีกรีมันดีกว่า เค้าเห็นสถาบันที่จบแล้วมันก็มองของเราก่อนคนอื่น แต่อีกใจก็ไม่อยากทิ้งไอ้ตาร์ไป ไม่ใช่ไม่เชื่อใจ แต่ว่าเป็นห่วง แล้วไม่รู้จะอยู่ได้มั้ยเนี้ย ถ้าไปเนี้ย คิดถึงมันแล้วอยู่ไม่ไหวกลับมาทำไงละครับ
“แล้วแต่สิครับ..อนาคตตัวเอง ต้องตัดสินใจด้วยตัวเองครับ”พี่เจ้าพูด ผมเงียบเพราะต้องใช้ความคิด
“พี่เจ้าไปกับข้าวนะ”ผมบอก คิดได้ไงวะกรู
“หึ..อย่างอแงสิครับ”พี่เจ้าพูด
“นะ.ต่อป.โทไง.”ผมบอก
“ไปพร้อมกับไอ้ตังสิครับ..บอกให้มันไปปีหน้าเลย”พี่เจ้าพูดบอก เออ พี่ตังเค้าจะไปเรียนต่อนะครับ จำได้รึเปล่า แต่ผมก็ยังไม่ได้เล่าเรื่องนี้ให้พี่ตังฟัง
“แต่ข้าวอยากไปกับพี่เจ้ามากกว่า”ผมพูดบอก
“อย่าดื้อสิครับ..พี่ต้องทำงานนะครับ เดี๋ยวพี่ไปเรียนต่อแน่ๆไม่ต้องกลัว..หาเงินเลี้ยงน้องก่อน”พี่เจ้าพูดติดตลก เพราะผมชอบบอกให้พี่เจ้าโอนเงินเข้าบัญชีทั้งๆที่ไม่ได้มีอะไรต้องใช้นะครับ
“งะ..”ผมบอก
“ตัดสินใจเองครับ ถ้าจะไปต้องแน่วแน่ว่าจะไปและจะทำให้ได้..หรือว่าจะอยู่นี่ก็ได้ ที่เรียนมันไม่สำคัญหรอครับข้าว เรียนที่ไหนก็ประสบความสำเร็จทั้งนั้นถ้ามีความพยายาม น้องพี่เก่งจะตายใครๆเค้าก็รู้”พี่เจ้าพูดปลอบ
“อืม..แต่ข้าวห่วงอะ”ผมพูด เหมือนคนจะไปตายครับ เข้าใจตอนนี้เลยครับ ว่าคนตอนก่อนตาย เค้าถึงบอกว่าอย่างห่วงอะไร อย่างห่วงอะไร ให้ไปสบาย นี่กรูจะไปไม่สบายเพราะกรูห่วงเนี้ยแหละ
“อย่าห่วงเลยครับ.ทุกคนเค้าก็รอความสำเร็จของข้าวพี่เชื่อแบบนั้น”พี่เจ้าพูดบอก
“ข้าวครับ..เดี๋ยวพี่ต้องเข้าประชุมแล้วไปก่อนนะครับ เดี๋ยวพี่โทรหานะ.”พี่เจ้าพูดบอก
“ครับ..คิดถึงนะครับ.”ผมบอก
“ครับเหมือนกันครับ”พี่เจ้าพูดก่อนที่จะวางไป ว่างอีกแล้วกรู
ผมนั่งคิดไปเรื่อยเปื่อย ถ้าบอกไอ้ตาร์ตอนนี้มันจะพูดว่าอะไรบ้างนะ นึกถึงก็มาพอดีครับ รถมอไซด์เวสป้าสีเขียวอ่อน ที่ถูกทำสีใหม่อีกครั้ง ตกแต่งใหม่หมด มันคร่อมอยู่บนรถแล้วยิ้มมาให้ผม ผมหยิบหนังสือแล้วเดินลงไปหามัน
“เรียนเป็นไงเหนื่อยมั้ย”มันถาม
“ก็ดี..”ผมตอบมันแล้วยิ้มให้น้อยๆ
“ไปหาอะไรกินกันมั้ยครับ”ไอ้ตาร์มันถาม สายตาหลายๆคู่จับจ้อง บางคนก็รู้แล้วว่าผมคบกัน บางคนก็ไม่รู้และสงสัย บางคนชอบที่ผมคบด้วยกัน บางคนเกลียดผม บางคนเกลียดไอ้ตาร์ บางคนชอบผม บางคนชอบไอ้ตาร์มันก็ผสมปนเปกันไปครับ
“เอาดิ..อยากกินอะไรละ”ผมถามมัน
“กินตะเองอะ”มันตอบแล้วยิ้ม ทำปากจู๋ใส่ผม
“เค้าก็อยากให้ตะเองกินตีนเค้าอะ..ทำไมตะเองเล่นไม่รู้สถานที่เลยวะ”ผมพูดบอกแล้วยิ้มให้มันแบบโหดๆ
“ก็เค้าอยากหวานอะ”มันทำหน้างอนๆ
“เออๆ.แดกไอติมมั้ยอยากหวาน”ผมพูดบอก
“วันนี้กินถ้วยเดียวกันนะ”มันยิ้มระรื่นให้ผม เพราะผมไม่เคยยอมกินถ้วยเดียวกันเลยครับ แม่ง หวานเวอร์อะ ทำไม่ได้ ผมจะสั่งของผมกับของมันต่างหากตลอด แค่ผู้ชายมากินไอติมด้วยกันนี่ก็แปลกละ ไหนจะเค้กเอย ของหวานต่างๆนาๆที่ผมสองคนชอบกินแล้วต้องนั่งกินด้วยกันเกือบทุกวัน
“บอกกี่ครั้งแล้ว ขี้เกียจจะพูดแล้วเนี้ย”ผมพูดเหนื่อยๆ
“อะไรอะ..”มันพูดแล้วหน้างอ
“เป่ายิ้งฉุบ”อยู่ดีๆมันก็พูดขึ้น
“ไม่เอาน่าตาร์”ผมบอกมัน
“เป่ายิ้งฉุบ.ทำไมไม่กล้าหรอ..อ่อนวะ”มันพูดบอกแล้วทำหน้าทำตา
“เออกรูไม่กล้า”ผมบอกมันแล้วยืนเท้าเอว
“โห.ไรวะยุไม่ขึ้นเลย..”มันบ่น
“นะนะ..เป่ายิ้งฉุบ..เอางี้ถ้าพี่ชนะข้าวต้องกินไอติมถ้วยเดียวกับพี่ ถ้าข้าวนะชนะอยากได้อะไรบอกเลย”มันพูดบอก ผมก็นึก เอาไงดีวะ เป่าดีไม่เป่าดี กรูมีสิทธิ์ลุ้นนะโว้ย คืนนี้จะได้ให้มันนั่งเทียนให้ซะหน่อย ฮ่าๆๆ แม่ง อ้อนมาหลายคืนแล้ว ไม่ทำให้สักที
“คิดไรเลวๆอีกอะ”มันพูดบอก
“อะไร..”ผมหันไปหามัน นี่มันแสดงออกทางสีหน้าขนาดนั้นเลยหรอวะ
“รู้หรอกน่า..เอาไม่เอา”มันพูด
“เออ..สามครั้งรู้ผลใครสองก่อนชนะ”ผมบอกมัน แล้วเตรียมตั้งกาด คนมองไปมองมาก็ไม่สนแล้วครับ เค้าท่าจะว่าไอ้พวกนี้บ้า ไอ้นี่ก็รุ่นพี่ปีสี่ ไอ้นี่ก็น้องปีสอง คนละคณะด้วยเสื้อช๊อฟทั้งคู่เด่นเป็นสง่าเลยไงครับ
“ยิ้งฉุบ”ไอ้ตาร์ทำเสียงประกอบ
“พี่ชนะ..”มันยิ้มกรุ่มกริ่ม
“เออๆ...”ผมบอกปัดๆ
“ยิ้งฉุบ”ไอ้ตาร์มันพูด
“กรูชนะ”ผมยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ให้บ้าง
“ฉุบฉูฉุบ.”อันนี้สามรอบครับ
“เย้......พี่ชนะโลด..ใสสะอาดนะครับที่รัก..ป่ะนั่งๆ”มันพูดด้วยอาการดีใจสุดๆ ผมนี่สิหน้าเป็นตูด
“เมื่อกี้มึงออกช้า”ผมพูดแล้วหยิบหมวกกันน๊อกจากมือมัน
“อะไร..แพ้แล้วอย่าพานดิ”มันพูดบอก
“อะไรไม่ได้พานก็มันจริงนี่หว่า”ผมบอกมัน แล้วนั่งซ้อนท้าย
พอมันสตาร์ทรถจะออกเท่านั้นเองครับ
“น้องข้าวววววววววววววว”เสียงใครวะ ผมกับไอ้ตาร์หันไปตามเสียงเลยครับ พี่ผู้หญิงเป็นกลุ่มๆที่นั่งอยู่ตรงไม้หินอ่อน โบกไม้โบกมือให้ผม ก็รู้แค่ว่าเป็นดาวคณะผม แล้วอีกอย่าง พวกพี่เค้าก็ชอบมาเรียกชื่อผม ถามว่ากินไรยังอะไรแบบนี้ ผมว่าพี่เค้าก็คงรู้นะครับว่าผมกับไอ้ตาร์เป็นแฟนกัน หรือว่าเค้าชอบอีกหว่าชอบทั้งผมกับไอ้ตาร์อะ ปกติก็เป็นไอดอลกลุ่มชาวเกย์ไปแล้วอะครับพวกผมอะ
“บ้ายบายครับ”ผมก็แรดจริงครับ โบกมือตอบ พวกพี่เค้าก็วี๊ดว้ายกันใหญ่
“เค้าทำอย่างกับกรูเป็นดาราแนะ”ผมพูดบอกไอ้ตาร์ระหว่างจะไปร้านไอติม
“ก็แฟนพี่น่ารักอะ”มันพูดแล้วหันมายิ้มให้ในกระจก
“นี่มึงจะหันกระจกมาทางหน้ากรูทำไมวะ..กระจกเค้ามีไว้ให้มองรถคันหลัง”ผมบอกมัน
“อ่าว..ก็พี่อยากมองแฟนพี่อะ..ผิดไง”มันหันมาบอกแล้วยักคิ้วให้
“กวนตีนละ..ถ้ารถชนขึ้นมาทำไงวะ..หันกลับไปเลย”ผมบอกมัน
“เร็วๆ”ผมบอกอีก เพราะว่ามันไม่มีทีท่าจะขยับ
“รู้แล้วๆ..”มันพูดปัดๆแล้วขยับกระจกใหม่
พอถึงร้านมันก็ระริกระรี้เดินนำหน้าผมไปเลยครับ
“รับอะไรดีค่ะพี่ตาร์พี่ข้าว”น้องพนักงานเสริฟของร้าน ร้านนี้เป็นร้านไอศกรีม ของหวาน เค้กต่างๆ พร้อมกับอาหารฝรั่งก็มีมาก แต่ก็อร่อย ราคาก็ไม่ได้แพงหูฉี่ ผมกับไอ้ตาร์จันทร์ถึงศุกร์นี่มาเกือบทุกวันครับ เสาร์อาทิตย์นี่มาไม่หยุด จนเจ้าของร้าน และพนังงานในร้านจำได้หมด ยิ่งบางทีเปิดตอนเช้าคนไม่ค่อยเยอะ ผมกับไอ้ตาร์ก็จะไปนั่งกินอาหารเช้ากันถ้าไม่อยากทำ
“เอานี่เลยครับ ถ้วยใหญ่เลยนะ”ไอ้ตาร์มันชี้ไปที่เมนู มันชื่ออะไรผมก็จำไม่ได้ แต่มันเป็นถ้วยที่ไอ้ตาร์มันต้องการกินมานานแล้วครับ ต้องการมาก แต่ผมไม่ยอม มันเลยต้องกินถ้วยเล็กไปคนเดียวครับ
“ถ้วยใหญ่เลยหรอค่ะ”พนังงาน ก็ชื่อน้องปัดทำหน้างงๆ เพราะเค้ารู้ว่าเราสองคนเป็นอะไรกันนะสิครับแล้วไอ้ตาร์มันชอบอ้อนขอไอ้ถ้วยนี้เวลาอยู่ต่อหน้าพนักงาน เผื่อที่ผมจะใจอ่อน แต่ฝันไปเหอะ ไม่ใจอ่อนหรอก ถ้าวันนี้กรูไม่เป่ายิ้งฉุบแพ้เมิงอะ
“ครับ..”ไอ้ตาร์ยิ้มภูมิใจ ผมเลยเตะขามันเข้าให้หนึ่งที
“แล้วพี่ข้าวรับอะไรดีค่ะวันนี้”น้องปัดถาม
“พี่ขอสตอร์เบอร์รี่มิ้วเชคกับช๊อกโกแลตเค้กแฟนตาซีแล้วกันครับ”ผมบอก
“แค่นี้แหละครับ”ไอ้ตาร์ยิ้มให้
“พี่ขอน้ำเปล่าก่อนนะครับปัด”ผมบอก
“ได้ค่ะ..”น้องปัดพูดก่อนที่จะเดินไปสั่งออร์เดอร์
“ยิ้มห่าไรนักหนา”ผมถามมัน หน้างอๆ
“หึหึหึ..”แม่งปล่อยมันไปครับ นั่งหัวเราะไม่หยุด เดี๋ยวหัวเราะเดี๋ยวผมยิ้ม ผมนึกในใจ ถ้ากรูบอกเรื่องนั้นไปตอนนี้ หน้ามึงจะเป็นงี้อยู่มั้ยวะ อยากรู้จริงๆครับ คิดไปคิดมา จนทุกอย่างมาเสิรฟพร้อมกัน
“พี่ลืมอะปัด..เพิ่มวิบปิ้งครีมกับเยลลี่ด้วยครับ..ขอโทษที”ไอ้ตาร์รีบพูด เพราะว่าไม่ว่าผมสั่งกี่รอบผมต้องสั่งเพิ่มนะครับ มันจะรู้วาผมชอบกินมาก มากถึงมากที่สุด บางทีซื้อกลับมากินที่บ้าน เอามากรอกปากกินเล่นไปวันๆ ฮ่าๆๆ
“ได้ค่ะไม่มีปัญหาอยู่แล้ว”น้องปัดพูดแล้วเอาไปเติมให้ ไอ้ตาร์หันมาเกาหัวให้ผม ผมดันจานเค้กไว้ตรงกลาง มันหยิบช้อนแล้วกิน ยิ้มไปกินไป มีความสุขจังนะมึงเผลาๆบ้างก็ได้ อยากจะบอกมันจริงๆครับ
พอทุกอย่างลงตัว มันก็ดันถ้วยไอติมไว้ตรงกลาง แล้วยิ้ม
“เออๆ..กรูรู้แล้ว”ผมบอกมัน แล้วหยิบช้อน ตักวิบปิ้งครีมเข้าปาก
“พอใจยัง”ผมคาบช้อนไปด้วยแล้วพูด
“มากๆ..”มันบอก ผมหันไปมองรอบตัว มีคนมองกรูอยู่ป่าววะ มีอีกครับ โต๊ะนักเรียนม.ปลาย สี่คนนั่งยิ้มมองพวกผม พอผมหันไปก็หันกลับแล้วหัวเราะแก้เก้อ สาดมากครับ ไอ้เด็กพวกนี้นิ
พอนั่งกินกันเสร็จ ใช้เวลานานมากครับ เพราะกินไปคุยเรื่องนู้ไป เรื่องนี้ไปเรื่อยๆแหละครับ บางคนมาก่อนลุกไปก่อนพวกผมก็มี แต่ผมไม่สนใจ กรูสนิทกับเจ้าของร้านแล้วเฟ้ย นั่งต่อไปครับ เหมือนไม่มีที่ไป
“โปรเจ็คไปถึงไหนแล้วละ”ผมถามมัน
“มีปัญหานิดหน่อย”มันพูดบอก
“เรื่องอะไร”ผมถาม แล้วมองที่ถ้วยไอศกรีม
“เพื่อน”มันพูดสั้นๆ ใช่ครับ เพื่อนที่ทำด้วยกันไม่ได้เป็นเพื่อนสนิทกันมักจะมีปัญหาอยู่ร่ำไป
“ทำไมไม่ได้ปี้มันรึไง”ผมถาม มันเงยหน้ามายิ้มให้ อยากให้มันยิ้มนะครับ เพราะเมื่อกี้มันทำหน้าเครียด
“มันไม่ยอมมาช่วยทำโปรเจ็คชิ้นใหม่ บอกยังไงก็ไม่มาทำ มันจะให้พี่กับไอ้เกิร์กทำกันสองคน มันไม่ยอมรับโทรศัพท์ด้วย”มันพูดบอก แล้วตักไอศกรีมเข้าปาก
“แล้วมึงจะเอาไง”ผมถาม
“ก็พี่ไปบอกอาจารย์แล้วว่าเรื่องเป็นแบบนี้ แต่อาจารย์ทำอะไรไม่ได้บอกว่ามันเป็นปัญหาของคุณ”ไอ้ตาร์ทำหน้าเครียด แล้วเอนหลังพิง
“นั่นก็หมายถึงถ้าโปรเจ็คออกมาดี มันก็จะได้ดีด้วยซะงั้น”ผมบอกมัน
“อืม..ทั้งๆที่เงินก็ไม่ยอมจ่ายอะไรก็ไม่ยอมทำ..”มันพูดเหนื่อยๆ
“ใจเย็นๆก่อนมึงค่อยๆคิด”ผมบอก
“พี่ไปถามเพื่อนคนอื่นๆที่เคยอยู่กลุ่มเดียวกันมันมา..บอกว่ามันเป็นแบบนี้บ่อยๆ แล้วตอนนี้มันก็มีปัญหาเรื่องเงินกับทางบ้านด้วย พี่ก็ไม่ได้ถามมันเพราะมันดูจะไม่แคร์ซะมากกว่า”ไอ้ตาร์บอก
“ถ้าโปรเจคอันนี้เสร็จไม่ทัน ไม่ได้รับปริญญากับเพื่อนๆแน่เลย”ไอ้ตาร์ทำหน้าเศร้า
“เอางี้มั้ย..”ผมบอก ไอ้ตาร์เงยหน้ามามอง
“ถ้าจะคิดในแง่ดี..มึงก็ทำไปกับพี่เกิร์กสองคน ไม่ต้องสนใจอะไร ทำงานให้ออกมาดีที่สุด..มันจะได้ดีไปด้วยก็ช่างมัน ถือว่าทำเอาบุญ”ผมบอก
“ถ้างานมันออกมาดี มันก็ดีกับตัวมึงด้วย..คนมันไม่อยากทำก็ปล่อยมันไป..เราจะไปฉุดมันให้ทำได้ยังไง”ผมพูดบอก
“ก็จริง..”มันตอบแค่นั้น
“อะ..แดกซะ”ผมตักเยลลี่แล้วยื่นให้มันที่นั่งพิงพนักเก้าอี้อยู่ เห็นมันเศร้าอะครับ ไม่ชอบเท่าไหร่แฮะ
“เร็วๆ..กรูอายคนเค้า..สัดนี่”ผมบอก ไม่รู้ว่าหน้าตัวเองแดงรึเปล่า เพราะไอ้โต๊ะผู้หญิงม.ปลายแม่งก็มองผมกับไอ้ตาร์ไม่หยุด ไอ้ตาร์ยิ้มหน้าบาน ก่อนที่จะกินเยลลี่เข้าปากไปครับ
“รีบกินจะได้ไปซื้อของแล้วกลับกัน”ผมบอกมัน วันนี้เป็นวันจันทร์นะครับ มีโปรแกรมต้องไปซื้ออาหารเข้าบ้านทุกอาทิตย์
“ครับ..”ไอ้ตาร์ตอบ
ก่อนที่จะกินกันหมด แล้วพากันออกไปซื้อของที่ห้างสรรพสินค้า
...
กลับมาถึงบ้านแล้วค่ะ วันนี้เหนื่อยมากอ่า แล้วก็เล่นเนตไม่ได้แต่เช้า เพิ่งเล่นได้เมื่อกี้เอง

สวัสดีปีใหม่อีกครั้งนะค่ะ เพื่อนๆคนมีความสุขแล้วก็สบายดีนะ

เบบี้ก็สบายดี กว่าจะมาลงได้แทบตาย อยากมาลงแทบแย่ ที่ไปพักผ่อน เขียนได้แค่ห้าตอนเอง น้อยมากมายนิ

เดี๋ยวรอกระแสก่อนว่าเบบี้กลับมาแล้ว ใครเข้ามาเม้นเยอะบ้าง เดี๋ยวเค้างอนนะ เม้นน้อยอะ

ขอให้ทุกคนมีความสุขในวันปีใหม่นะค่ะ คิดสิ่งใดขอให้สมปรารถนาทุกประการ ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง และขอให้รักเบบี้กันเยอะๆเน้อ

คิคิ
ไปแระค่ะ
คิดถึงทุกๆคนเลย
รักมากมาย
บับบายจ้า
