จับรัก❤︎ -ตอนที่10- llโดนทิ้งไว้กับพี่กรดll อัพ150% #กรดขิม [01-05-61] P.8
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: จับรัก❤︎ -ตอนที่10- llโดนทิ้งไว้กับพี่กรดll อัพ150% #กรดขิม [01-05-61] P.8  (อ่าน 42076 ครั้ง)

ออฟไลน์ Kanompa32

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 6
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
เอ่อ ให้ได้อย่างนี้ เขินไปหมด :ling1: รอตอนต่ไปเจ้าค่าาา

ออฟไลน์ kungverrycool

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ออฟไลน์ somsasom

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 6
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
พี่ขลุ่ยไม่หวงน้องเล้ยยย
ขอให้ขิมไปอยู่กับพี่กรดเร็วๆๆ

ออฟไลน์ Tawanwee

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 อยากอ่านแล้วววววววว :katai4:

ออฟไลน์ pipimSCHT

  • สบายใจทุกครั้ง ที่เราได้ทำในสิ่งที่เราชอบ
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 64
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-2
** ตอนนี้มี 150 % มีการแก้ไขนิดหน่อยนะคะ

- ۞ตอนที่สิบ -
โดนทิ้งไว้กับพี่กรด


   วันนี้วันเสาร์ แต่ผมตื่นตั้งแต่เช้าๆ มาใส่บาตรกับยาย ก่อนกลับขึ้นห้องแล้วนอนต่อ เป็นไงล่ะ ฮะฮ่า

   ผมตื่นขึ้นมาอีกทีก็เกือบสิบเอ็ดโมง คิดว่าหยุดเรียนทั้งทีวันนี้อยู่บ้านก็คงเบื่อๆ เลยออกมาซื้อของที่ห้างเป็นเพื่อนยาย ยายดีใจและตื่นเต้นมาก เพราะเป็นครั้งแรกในเกือบเดือนกว่าที่ผมว่างและยายว่างตรงกัน ความจริงผมมีเวลาให้ยายนะ แต่ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะยายต่างหากที่ชอบเดินทางไปเที่ยวกับเพื่อนๆ สังสรรค์เฮฮา ปาร์ตี้กับเพื่อนรุ่นคุณยาย เป็นอยู่บ่อยๆไม่มีเวลาให้ผมเอง ^ - ^ แต่นั่นแหละไม่ว่าอะไรเป็นความสุขของยาย ผมก็มีความสุขไปด้วย วันนี้ยายเลยบอกว่า จะถือโอกาสซื้ออะไรที่อยากได้และเสื้อผ้าใหม่ๆให้ผมและไอ้พี่ วงเล็บเปิด..ที่ยังไม่ยอมตื่นนอนแอ่งแม้งอยู่บ้าน..วงเล็บปิด

“ ยายจ๋า ต้องซื้ออะไรอีกเยอะมั๊ยอ่า ขิมเหนื่อยแล้ว ”

   ตอนนี้เราเดินมาแถบทุกชั้นแล้ว ผมล้าและเริ่มปวดขาสุดๆเลยอดไม่ได้ที่จะทำหน้างอแงกับยาย แต่ดูยายของผมสิครับ แข็งแรงมาก เดินไปร้านนู้นร้านนี้ เดินเข้าออกร้านเสื้อผ้าเครื่องประดับอย่างกับสาวๆขาช็อปวัยเอาะๆ มีแต่รอยยิ้มใจดีและดูมีความสุขสุดๆ ไม่บ่นสักคำ

“ ยังเด็กอยู่แท้ๆ ทำไมมาเหนื่อยง่ายกว่าคนแก่ละลูก ” ยายเอื้อมมือมาลูบหัวผมเบาๆ แล้วส่งยิ้มมาให้อย่างอ่อนโยน

“ ขิมหิวน่ะครับยาย ถ้าได้กินอะไรหน่อยน่าจะหายเหนื่อย^^ ” ผมพูดกับยายด้วยน้ำเสียงอ้อน ๆ พลางเอามือลูบวนที่หน้าท้อง หรือพุ่งน้อย ๆ ผมอ้อนเก่ง เพราะยายเคยบอกผมไว้ว่าแบบนี้แหละ เวลาคนแก่เห็นหลานอ้อนก็จะใจอ่อนและเอ็นดูมาก และผมก็ทำแบบนี้มาตลอด

“ อ๋อ หลานยายหิวนี่เอง ” 

“ แหะๆ^^ ”

“ น้องขิมอยากกินอะไรล่ะลูก ”

“ ขิมอยากกินราดหน้าทะเล สปาเก็ตตี้ก็ได้ ขนมจีบปู ไอติมด้วยครับ แล้วก็...  ^^ แหะๆ เยอะไปหรอครับ? ” ผมยกนิ้วมือโป้งชี้ กลาง ขึ้นไล่สิ่งที่อยากกินไปทีละอย่าง แต่ก็ชะงักไปนิด ๆ ก่อนที่จะเนียนหัวเราะ เพราะยายหัวเราะผมออกมาซะเสียงดัง ผมแค่กินเก่งเองอะ
 
“ ไม่เยอะลูก แต่เก็บไว้กินมื้ออื่นด้วยคนเก่ง ”

“ ยายอะ -3- ” ผมกอดแขนยาย แล้วส่งเสียงอู้อี้

“ ได้สิลูก แต่เดี๋ยวยายดูเสื้อให้พี่ขลุ่ยก่อน หลานเหนื่อยหลานไปนั่งรอก่อนนะ ”

“ ครับบบบบบ แต่ยายอย่าซื้อให้พี่ขลุ่ยเยอะกว่าขิมนะ ” ไม่มาแบบนี้ ผมก็ไม่มีทางให้มันได้ไปมากกว่าน้องอย่างผม บอกเลยไอ้พี่ หึๆ

“ จ้ะลูก ^^ ”


// เสียงโทรศัพท์ //

พี่รหัส

“ พี่เป็ดหนิ.. ยายจ๋า ขิม... ” ผมเงยหน้ามามองยายที่ยืนเลือกเสื้ออยู่ไม่ไกล สลับกับมองโทรศัพท์มือถือ เพื่อขอตัวยายไปรับสายพี่รหัสของผมที่โทรเข้ามา

“ รับเลยลูก ”

“ ขิมขอเวลาแปบหนึ่งนะครับ ”

   ยายพยักหน้า และส่งยิ้มอย่างใจดีให้ผม ก่อนหันไปเลือกเสื้อและคุยกับพี่พนักงานต่อเพื่อขอดูไซต์เสื้อที่ตัวใหญ่ขึ้น ผมเลยรีบรับโทรศัพท์ทันที

   ผมทำแบบนี้จนชิน คือถ้าอยู่กับยายแล้วมีคนโทรมา ก่อนที่ผมจะรับผมจะขอยายก่อนเสมอ ทั้งๆที่ความจริงแล้วยายเคยบอกให้ผมรับได้เลย ไม่ต้องขอ แต่ผมไม่อยากให้ยายรอหรือเหงาเวลาที่อยู่กับยาย ผมเลยพยายามไม่สนใจโทรศัพท์มากเกินไป

“ ฮัลโลพี่เป็ด ฮัลโล.. ไม่ได้ยินเลยอะ! แปบนะพี่... ”

   ตัดสินใจลุกเดินออกมาโทรศัพท์ข้างนอกร้าน และเดินออกมาไม่ไกลมากนัก เพราะในร้านคนเยอะและเสียงดังมาก คนที่โทรเข้ามาคือพี่รหัสของผมเอง ชื่อ พี่เป็ดน้อย ชื่อแบบนี้คิดว่าตัวจริงคงต้องเป็นผู้ชายตัวเล็กหน้าตาน่ารัก ตัวเล็ก ใจดี สมกับชื่อใช่มั๊ยล่ะ ถ้าคิดแบบนี้คุณคิดผิดแล้วล่ะ เพราะความจริงพี่เป็ดน้อยเขา คือ ผู้ชายที่ตัวใหญ่ กล้ามแน่นเบ่อเร่อ ที่หน้าตาดีหล่อสุดๆ คนหนึ่ง แถมโหดสัดรัสเซียเลยแหละ ที่สำคัญโสดนะ ขอบอก ^ - ^

“ ฮัลโลคร้าบบบ พี่เป็ด คิดถึงจังเลยยย ... ”

“ ....................................................... ”

10 นาที ผ่านไป

“ เอ่อ.. พี่เป็ดเดี๋ยวขิมทักเฟสกลับนะพี่ ฮ่ะๆๆ... คร้าบบบ หวัดดีคร้าบบ ”

    พี่เป็ดโทรมาบอกว่า กำลังจะเดินทางกลับมาจากฝรั่งเศสในอีกสองวันข้างหน้า พี่รหัสผมเขาไปเป็นตัวแทนนักศึกษาเพื่อไปดูงานต่างประเทศเกือบ 2 อาทิตย์ได้แล้ว และพี่เขาจะซื้อของมาฝากน้องๆว่างั้น เลยโทรมาหาว่าผมอยากได้อะไร ซึ่งผมก็ไม่ได้ตื่นเต้นเท่าไหร่เล้ยยย แต่ดันบอกสิ่งที่อยากได้ไปเป็นสิบยี่สิบอย่าง จนตอนนี้ดันคุยโทรศัพท์นานเกือบสิบนาทีได้ เลยต้องขอวางสายก่อนแล้วถึงบ้านจะติดต่อกลับไป เพราะตอนนี้คุณยายคงรอผมแย่

   ผมเดินกลับไปทางเดิม และเข้าไปในร้านเสื้อผ้าที่เดินออกมาก่อนหน้านี้ แต่เมื่อมองไปรอบๆร้าน ผมกลับไม่เห็นยายของผมอยู่ในร้านเลย

“ พี่ครับๆ เห็นคุณยายที่ตัวอวบๆ ผิวขาวๆ สูงประมาณนี้อะครับ ทรงผมสั้นหยักศก ที่ใส่ชุดไหมพรมสีม่วงอ่อนมั๊ยครับ ที่มากับผมก่อนหน้านี้อะครับ ” ผมถามพี่พนักงานที่ดูแลลูกค้าอยู่แถวทางออกร้าน โดยบอกลักษณะของยาย เผื่อพี่เขาจะทันสังเกตุและนึกออก

“ อ่อ เห็นค่ะเห็น คุณลูกค้าท่านชำระเงินเรียบร้อยแล้ว ท่านก็เดินออกจากร้านไปสักพักแล้วนะคะ ”

“ จริงหรอครับ แล้วรู้มั๊ยครับว่ายายเดินไปทางไหน? ”

“ ขอโทษจริงๆนะคะ คุณลูกค้า พี่ไม่ได้สังเกตจริงๆ เดี๋ยวพี่.. ”

“ เออ ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมจะลองเดินหายายก่อน ขอบคุณครับ ”

   ผมปฏิเสธพี่พนักงานที่เหมือนจะเดินเข้าไปที่เคาน์เตอร์ เพื่อกดดูกล้องวงจรปิดให้ แต่ผมไม่รอดีกว่า ผมจะลองเดินหายายก่อน..

“ โทรศัพท์ไง! ลองโทรหายายก่อน ไอ้ขิม สติๆ ”

   ผมเดินออกมาจากร้าน และไปดูในห้องน้ำใกล้ๆกับร้าน แต่ก็ไม่เจอ ในใจตอนนี้มันวุ่นวายมาก เพราะวันนี้ผมมาที่นี่กับยายแค่สองคน ไม่ได้มีใครตามมาด้วย แต่ตอนนี้ยายหายไปไหนนะ ผมยังหายายไม่เจอเลย นึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้ลองโทรศัพท์หายาย เลยรีบหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋าออกมา กดโทรออกหายายทันที
   
[เลขหมายที่ท่านเรียก ไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้ กรุณาติดต่อใหม่อีกครั้งค่ะ]

“ อ้าว ทำไมอะ! ”

   ทำไมติดต่อยายไม่ได้นะ ผมกดโทรออกอีกครั้ง แต่ก็เหมือนเดิม คือติดต่อไม่ได้ โทรศัพท์มือถือของยายเป็นอะไรนะ แล้วยายเป็นไรรึเปล่า

“ ยายอยู่ไหนนะ.. ”

   ผมได้แต่พูดพึมพำอยู่คนเดียว และเริ่มใจไม่ดี เพราะผมเดินตามหายายไปทั่วทั้งชั้น แต่ก็ยังไม่เห็นว่ายายจะอยู่ในร้านไหนๆเลย

‘ พี่ๆ ตอนพี่เดินมาเห็นคนหล่อๆ ตัวสูงๆที่เดินไปทางนั้นมั๊ย? น้องเขาเป็นใครไม่รู้ หล่อมาก ’ O.O

‘ เห็นๆ ทำไมหรอ?  ’

 ‘ ก็เด็กหนุ่มสมัยนี้หล่อมากๆเลยเนาะ’ =o=

‘ หืม.. นอกจากหล่อ แล้วยังเท่ห์มากเลยเนาะ เมื่อกี้ฉันเห็นเขาเป็นคนเข้าไปช่วยคนถูกกระชากกระเป๋าด้วย ’ >=<

‘ หะ จริงหรอพี่ ! มีคนถูกกระชากกระเป๋าหรอ ที่ไหนๆ?’

‘ ตรงหน้าร้าน.. ชั้นสาม ฉันเดินออกมาจากห้องน้ำพอดี เห็นมีคุณยายคนหนึ่งเหมือนกำลังสู้กับโจรที่กระชากกระเป๋านะสิ ’

 หะ!

O=O

ว่าไงนะ !


   ในจังหวะที่ผมกำลังลังเลว่าจะไปทางไหนต่อ ผมเห็นผู้หญิงวัยทำงานสามคนเดินผ่าน และได้ยินเรื่องที่เขากำลังคุยกันโดยไม่ได้ตั้งใจ

   ผมได้ยินเกี่ยวกับ คุณยายคนหนึ่ง โจรกระชากกระเป๋า การสู้กัน ผมก็เลยรู้สึกตกใจมากกว่าเดิม เพราะกลัวจะเป็นยายของผมที่โดนกระชากกระเป๋า ผมเลยเดินตรงดิ่งเข้าไปหาพี่ผู้หญิงกลุ่มนั้น และถามขึ้นด้วยเสียงที่ร้อนรนทันที

“ พี่ครับ ! เมื่อกี้พี่พูดว่ายังไงนะครับ ใครถูกกระชากกระเป๋า? ”

 “ เออ..มีคนถูกกระชากกระเป๋าค่ะ แล้วที่นั่นมีคุณยายคนหนึ่งอยู่ด้วยอะค่ะ ตอนนั้นเหมือนกำลังสู้โจรอยู่ ” พี่ที่ตัวเล็กที่สุดในกลุ่มตอบผม

“ ยายหรอครับ ยายโดนกระชากกระเป๋า! ” O.O

“ คือพี่ไม่แน่ใจว่าใครนะคะ เพราะตรงนั้นคนเยอะมากเลย วุ่นวายกันมาก แต่หนึ่งในนั้นมีคุณยายค่ะ ” พี่แกพูด แล้วส่ายมือส่ายหน้าไปมา

“ อยู่ทางไหนครับ ? เขาอยู่ทางไหน ? คือ ผมกำลังตามหายายของผม ผม.. ”

“ ยายน้องหรอคะ อยู่ตรงประชาสัมพันธ์ชั้นที่ 3 ค่ะ เออ.. ” พี่เขาเหลือกตาโต พร้อมใช้มืออธิบายเป็นพัลวัน คงเห็นว่าผมกระวนกระวาย และร้อนรนถามไม่หยุด

“ ครับ ครับผม ”

“ เหมือนจะไม่เป็นไรมากหรอกนะ.. น้อง น้อง! ”

   ผมพนมมือและพยักหน้าเพื่อขอบคุณ แล้วรีบวิ่งออกมาจากตรงนั้น ไม่ได้ทันฟังว่าพี่เขาพูดอะไรต่อ ผมรู้แค่ว่าต้องหายายให้เจอก่อน แล้วรีบลงบันไดเลื่อนไปที่ชั้นสาม มองหาประชาสัมพันธ์ น่าจะต้องเดินไปทางซ้ายนี่แหละนะ


“ ตึง ตึ่ง ตึ้ง ตึ๊ง ขออนุญาตประชาสัมพันธ์ค่ะ คุณเสียงขิมติดต่อคุณยายนวล นลฤดี ได้ที่จุดประชาสัมพันธ์ชั้นที่สามค่ะ ขอบคุณค่ะ ”

   นั่นคือชื่อยายของผม ผมวิ่งสุดชีวิต ไปที่ประชาสัมพันธ์ มองเข้าไปด้านในของเคาน์เตอร์และเดินเร็วเข้าไปใกล้เรื่อยๆ ทำผมตกใจขึ้นเมื่อเห็นใบหน้าที่ซีดเซียวน้าผู้หญิงที่สวมชุดคลุมท้องนั่งเอนหลัง แต่โล่งใจทันที.. ข้างๆกัน นั่นคือยายของผม ยายปลอดภัย ToT

   ผมสาวเท้าเดินเร็วขึ้น เห็นยายเอามือลูบที่ต้นแขนคุณน้าคนนั้นเหมือนกำลังปลอบใจและเรียกขวัญ มือเล็ก ๆ อีกข้างถือยาดมกวัดแกว่งไปมาบริเวณใต้จมูกน้าผู้หญิงคนนั้น

“ ยายยยย ”

“ ขิมลูก ”

“ ยายเป็นยังไงมั่ง ยายเป็นอะไรมั๊ย ? ยายเจ็บตรงไหนมั๊ย ? ละ..แล้วไอ้โจรนั่นอยู่ไหน ขิมจะไปจัดการมัน! ” ผมลุกขึ้นกำมือแน่นแล้วทุบลงที่ฝ่ามืออีกข้างของตัวเอง

“ เดี๋ยวๆ ใจเย็นลูก ยายไม่ได้เป็นอะไรเลยนะลูก ^^  ”

“ ยายไม่เป็นไรได้ไง ยายถูกกระชากกระเป๋านะ -o- ”

“ เดี๋ยวน้องขิม ใจเย็นๆนะลูก นั่งลงก่อนครับ ” ยายพูดอย่างใจเย็น แล้วเอื้อมมือมากุมมือผมไว้ รั้งผมให้นั่งลงข้างๆ

“ ขิมเป็นห่วงยาย จะให้ขิมใจเย็นได้ยังไงกัน ” ความรู้สึกข้างในมันสั่นไปหมด ตัวผมก็สั่น ไม่รู้ว่าตัวเองทำหน้าตาหงิกงอ หรือแสดงความไม่พอใจ ไม่เข้าใจยายออกไปมากน้อยแค่ไหน และเหมือนยายจะรู้ว่าผมเป็นห่วงยายมาก ยายเลยพูดกับผมเชิงปลอบใจและให้ใจเย็นลง

“ โอ๋ ๆ ดูดี ๆ ยายปลอดภัยครับ ยายไม่ได้เป็นอะไร แล้วยายก็ไม่ได้เป็นคนถูกกระชากกระเป๋านะลูก ”

“ หา! ยังไงกันครับ เกิดอะไรขึ้น? ”

“ ใจเย็นๆนะลูก คุณยายไม่ได้ถูกกระชากกระเป๋าจ้ะ แต่คุณยายพยายามช่วยน้าจากโจรที่กระชากกระเป๋า ”

“ หา! ยายช่วยคุณน้า? ” ผมหันหน้าไปมามองน้าผู้หญิงที่ส่งรอมยิ้มบางๆ สลับกับคุณยายที่ยิ้มกว้างและดูภูมิใจเมื่อคุณน้าเขาพูดจบ

“ จ้ะ ยายอัดมันด้วยกระเป๋าของยายเองเลยนะลูก ^^ คือ ยายเดินออกมาจากร้านไม่เห็นขิม ยายเลยเดินไปเรื่อยๆ ” ผมมองยายด้วยหน้าหงอย ผมผิดเองที่เดินออกมาใกล้จากร้าน ทำให้ยายเดินหาผมไม่เจอ “ ยายเห็นผู้ชายคนหนึ่งทำท่าทางลับๆล่อๆ ตรงเข้าไปที่คุณบัวคนนี้ แล้วก็เป็นอย่างที่ยายคิด.. เขากระชากกระเป๋าคุณบัว แล้วลูกดูสิ.. คุณบัวท้องโตขนาดนี้ ถ้าเป็นอะไรขึ้นมาจะเป็นยังไง ยายยืนอยู่เฉยๆไม่ได้หรอกนะ ยายเลยต้องช่วยไงลูก ขิมเข้าใจยายนะลูก ไม่ว่ายายนะ ยายอยากทำความดี นะครับ.. หือ ”

“ ยายยยยย แต่ยายก็ต้องห่วงตัวเองด้วยนะครับ ทำมะ.. ”

“ จุ๊ๆ อย่าหน้างอคนเก่งของยาย รู้มั๊ยโชคดีกว่านั้นมีคนเข้ามาช่วยยายกับน้าบัวนะลูก พี่เขาทั้งหล่อ ทั้งเท่ห์มากๆ เลย”

“ ยายอะ! ไม่สน ขิมห่วงยาย ” ผมอดขมวดคิ้ว และส่ายหน้าไปมาด้วยความไม่เข้าใจยายไม่ได้ ยายเลยรีบกอดผมแน่นก่อนผมจะกอดตอบ ยายเลยโยกตัวไปมาเพื่อหวังจะให้ผมเข้าใจและไม่ว่าอะไรยาย

“ บัวต้องขอบคุณคุณยายมากนะคะ ที่ช่วยบัว แต่จริงๆคุณยายต้องระวังตัวเองนะคะ เป็นพระคุณจริงๆค่ะ ขอบคุณจริงๆนะคะคุณยาย แล้วน้าก็ขอโทษด้วยนะลูกที่ทำให้ต้องเป็นห่วงคุณยายขนาดนี้ ”

   น้าบัวยกมือไหว้ยายของผมไม่หยุด ก่อนจะเอื้อมมือมาจับกุมมือผมไว้ ทำให้ใจผมกระตุกไปเหมือนกัน ทำไมเมื่อกี้ผมต้องโกรธด้วยนะ ทั้งๆที่ก็รู้แล้วว่ายายอยากจะช่วยคนที่เดือดร้อน ผมพูดไม่ออก และยิ่งรู้สึกผิดไปใหญ่ที่ไปรู้สึกแบบนั้น

“ ........ ”

“ ขิม... ” ยายกอดและกระตุกตัวผมอีกครั้ง เพื่อเรียกสติ

“ คุณน้าไม่ต้องขอโทษผมหรอกนะครับ ผมขอแค่ทุกคนปลอดภัย ผม.. ” ผมต่างหากที่ต้องขอโทษ..

“ จ้ะ ขอบคุณจริงๆนะลูก ^ ^ ”

“ ^ - ^ ” รอยยิ้มของน้าบัวที่ไม่ต่างจากรอยยิ้มของยาย ทำให้ผมยิ้มตามออกไปด้วยความโล่งใจ ที่ไม่มีใครถือสาคำพูดความรู้สึกที่ไม่ถูกต้องของผมเมื่อครู่


“ คุณยายกับคุณน้าเป็นยังไงบ้างครับ? ”

“ อ้าว! มาแล้ว นี่ไงขิมพี่คนนี้เขาช่วยยายกับน้าบัวลูก ^^ ”

   เสียงเรียกของคนเดินเข้ามาใหม่ ทำให้ยายผละตัวออกจากผม แล้วส่งยิ้มอย่างปลื้มใจไปให้คน ๆ นั้น ผมสูดหายใจเข้าลึกและบอกตัวเองในใจ ใจเย็น ตอนนี้ ยายปลอดภัย  อื้ม..ผมคงต้องขอบคุณคนที่มาช่วยยายด้วย ผมคิดได้อย่างนั้นก็รีบหันไปเพื่อที่จะพูดขอบคุณ

“ ขอบคะ.. มะ.. ”

O.O
   
   เสียงของผมที่ตอนแรกจะขอบคุณน้ำใจของคนๆนั้นขาดหายไป เปลี่ยนเป็นเกือบจะหลุดอุทานคำสรรพนามที่ใช้เรียกกันฉันเพื่อนพี่น้องออกไปคำโต แต่ได้สติขึ้นมาหน่อยเมื่อนึกได้ว่ามีผู้ใหญ่นั่งอยู่ด้วยถึงสองคน สรรพนามฉันเพื่อนพี่น้องคำนั้นเลยถูกกลืนหายลงคอไป

   มึง!
   
   สรรพนามที่ไม่ได้เรียกออกไป แต่ในใจเรียกดังมาก

เหี้ยแล้วววว > <
   
   ภายในไม่ถึงวินาทีที่ได้เห็นคนตรงหน้า ผมก็รู้ทันทีเลยว่ามันไม่ใช่ใครที่ไหน มันคือคนที่ผมไม่คิดจะอยากเจอ หรือไม่อยากเจอมากที่สุด ในเกือบหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ตั้งแต่ผมหนีมาจากคอนโดของมัน

   ไอ้พี่กรด! ไอ้พี่กรดชัด ๆ เลยเนี่ย!



30%

.
.
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-05-2018 13:15:18 โดย pipimSCHT »

ออฟไลน์ pipimSCHT

  • สบายใจทุกครั้ง ที่เราได้ทำในสิ่งที่เราชอบ
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 64
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-2
*ต่อ

ตอนสิบ




“ มาพอดีเลยลูก ^ - ^ ”

“ O.O ยายครับ นี่มัน เอ้ย เขา... ?  ”

“ น้องขิม นี่ชื่อพี่กรด เขาช่วยยายกับคุณบัวไว้นะลูก ” ยายค่อยลุกขึ้น แล้วเดินไปจับที่แขนของไอ้พี่กรด

   มือเล็ก ๆ ตบเบา ๆ ที่ต้นแขนคนตัวสูงที่ยายชมว่าหล่อว่าเท่ห์  โดยไม่ต้องพูดเป็นเสียง หรืออธิบายอะไรออกมา ผมก็รู้ว่ายายกำลังชื่นชอบ ชื่นชม อยากจะเยิ่นยอ และประทับใจสุด ๆ นี่ยายคงไม่รู้ว่าตอนนี้ยายยิ้มอย่างใจดี และสายตาที่สื่อออกมาดูภาคภูมิใจในตัวมันมาก มากกว่าหลานที่อยู่ตรงนี้ด้วยซ้ำ หลานยายอยู่ตรงนี้นะ ><
 
“ ขิม ? ”  เสียงทุ้มที่เรียกชื่อของผม ทำให้ผมหลุดออกมาจากภวังค์ความคิด พอเงยหน้าขึ้นไปมอง ผมก็ดันไปสบสายตาจัง ๆกับสายตาคนที่มองมาอยู่ก่อน

   ผมละสายตา เสไปมองทางอื่น เพราะอะไรไม่รู้เหมือนกัน ผมมองมันนานกว่านี้ไม่ได้ >< ผมสู้สายตาที่แน่นิ่งแต่ฉายแววความเจ้าเล่ห์เจ้ากลนั่นไม่ไหว และยิ่งเวลามุมปากข้างซ้ายที่มีรอยแผลช้ำเลือดนั้นกระตุกเหมือนจะยิ้ม จะพอใจที่เห็นผม ผมยิ่งไม่.. ไม่กล้ามอง

   ผมเร่หางตามามองมัน และละสายตาไปทางอื่นอีกครั้งทันที -////////- เมื่อกี้..  เห็นชัดเลยว่ามันยิ้ม ก่อนที่มันจะหันไปพูดคุยกับยายของผม

   ให้ตายเถอะ หนีออกมาแล้ว ทำไมมาเจอกันที่นี่ได้อีกนะ

“ คุณยายบาดเจ็บตรงไหนมั๊ยครับ ? ” ยายส่ายหน้าไปมา หลังจากที่ถูกคนตัวสูงถาม รอยยิ้มใจดียังไม่จางหายจากใบหน้า แววตาภาคภูมิใจยังเหมือนเดิม แต่ซบแขนมันเลยเนี่ยนะ คุณยาย O.O

   ไม่ทราบว่าไปสนิทสนมกันตอนไหนนะ ท่าทางยังกับว่านี่เป็นยายเป็นหลานกัน ..นี่ยายเป็นยายของผมนะ >////<

“ ผมแจ้งตำรวจเรียบร้อยแล้วนะครับคุณยาย ตอนนี้ตำรวจก็จับคนร้ายไปโรงพักเรียบร้อยแล้ว ” มันเปลี่ยนโหมดมาพูดเรื่องคนร้ายด้วยสีหน้าและน้ำเสียงที่จริงจังขึ้น ยาย และน้านวลพยักหน้ารับรู้ และทั้งคู่ตัดสินใจให้เป็นหน้าที่ของตำรวจเลย โดยน้านวลตั้งใจว่าไม่อยากไปเอาผิดอะไรกับคน ๆ นั้น เพราะรู้มาว่าเขาเป็นคนสติไม่สมประกอบ

“ พี่กรดเจ็บมากไหมลูก ? ”

“ ไม่เป็นไรมากครับ ” ไอ้พี่กรดพูดพร้อมแตะที่มุมปาก แผลนั้นก็คงเกิดจากการที่โดนคนร้ายต่อยปากสินะ จะสมน้ำหน้าก็ไม่ใช่หรอก เพราะมันเป็นคนช่วยยายของผม และน้าบัวเอาไว้ คงจะต้องขอบคุณ ..แต่พอเป็นมัน คำขอบคุณของผมมันก็ดูจะพูดออกไปยากขึ้นคูณสิบ

“ จ้ะ ยายขอบคุณจริง ๆ ที่มาช่วยนะลูก ”

“ ขอบคุณจริง ๆ นะคะ ”

“ ไม่เป็นไรเลยครับผมคุณยาย ตอนนี้คุณน้าดีขึ้นหรือยังครับ ? ให้ผมไปส่งโรงพยาบาล.. ”

“ น้าดีขึ้นมากแล้วจ้ะ คุณยายนวลช่วยน้าไว้ เป็นพระคุณจริง ๆ ”

   ไม่นานคนที่เป็นสามีน้าบัวก็วิ่งเข้ามาพร้อมกับลูกชายตัวเล็ก ๆ อีกคนหนึ่ง เขารีบก้มไปกอดหอมหน้าผากน้าบัวด้วยความรัก และลูบที่ท้องกลม ๆ อย่างเป็นห่วง สามีน้าบัวพูดขอบคุณยายของผม ไอ้พี่กรด พี่รปภ. และรวมถึงผมด้วย เขาเล่าว่าพาลูกชายไปเข้าห้องน้ำ ไม่ได้ยินเสียงประกาศของประชาสัมพันธ์ พอออกมาจากห้องน้ำ ก้ไม่เห็นน้าบัวอยู่ที่เดิมที่ให้นั่งรอ เลยรีบตามหาทันที พอมารู้จากพี่รปภ. ก็รีบตรงดิ่งมาที่นี่พร้อมลูกชายเลย เขาขอบคุณอีกหลายครั้ง ก่อนที่จะขอตัวและพาน้าบัวกลับบ้าน


“ คุณยายกับน้องจะกลับหรือยังครับ ให้ผมไปส่ง.. ”

“ ไม่ต้อง.. ”

“ น้องขิม.. ” ผมชะงักก่อนหันไปหายายช้า ๆ ยายส่งสายตาห้ามปรามมาให้ เพราะกลัวว่าผมจะพูดจาไม่น่าฟังออกไป ผมพยักหน้าเบา ๆ แต่ดวงตายังติดงอนยายอยู่ เข้าใจแล้วครับว่ามีหลานคนโปรดคนใหม่..

“ ไม่ต้องครับ ไม่เป็นไร.. ”

   ผมหันมาหาคนตรงหน้า แต่เบนสายตามองต่ำ มองที่ชายเสื้อมันนู้น เพราะโดนสายตาของมันที่มองมาก่อน ทำให้รู้สึกได้ว่ามันต้องการสื่ออะไรกราย ๆ ให้ผมรู้ว่าผมมีความผิด ผิดที่หนีมันมาคราวนั้น

   แต่แล้วทำไมผมต้องไปรู้สึกผิดด้วยเล่า  ..นั้นไม่ใช่ความผิดซักหน่อย ผมก็แค่กลับบ้านเอง และไม่โผล่ไปในที่เสี่ยงที่จะเจอมัน คณะไอ้พี่ขลุ่ย หอสมุด ร้านกาแฟ ร้านเหล้าร้านเบียร์ ไม่ไปที่นั่นเลยเป็นเวลาเกือบเดือน แต่นี่... 

“ คือ .. พี่ไม่ต้อง..ครับ ขิมพายายมา มีรถ กลับเองได้ ” ผมพูดดตะกุกตะกัก เพราะด้วยความที่ไม่เคยพูดเพราะ ๆ กับคนตรงหน้ามาก่อน กูมึงที่เคยพูดก็ต้องกลืนหายลงคอไป แล้วไม่รู้จะแทนสรรพนามว่าอะไร เลยหลุดเรียกมันว่าพี่ และแทนตัวเองด้วยชื่อออกไป คิ้วกระตุกนิด ๆ เมื่อรู้ตัว พอจะพูดต่อ คำพูดที่พูดออกมาเลยตกหางเสียงไป

“ หวง.. ห่วงยายจังนะครับ ” คำพูดของมันทำให้คิ้วกระตุกและมองมันตาขวาง ได้ยินนะต่อให้คำแรกมันจะพูดออกมาเบาๆ ใช่ผมหวงยาย

“ พี่กรดจะกลับแล้วหรอลูก ? ”

   ใช่ครับยาย บอกมันกลับไปซักที ยายจะได้ไปกินข้าวกับผม ผมจะพายายไปกินอาหารอร่อย ๆ เลย

“ ไปทานข้าวด้วยก่อนเถอะลูก ”

“ ตกลงครับ กำลังหิวอยู่พอดี ”

O.O ?

เฮ้ย !





“ ขิมทำไมเงียบไปละลูก ปกติขิมต้องพูดเก่งกว่านี้นะ ”

“ ขิมไม่มีอะไรจะพูดครับ ” ผมพูดก่อนค่อย ๆ ยกน้ำขึ้นมาจิบไปเรื่อย ๆ ทำเนียนเบนสายตาไปมองนอกร้าน ไม่สนใจคนข้างหน้าที่ยังจ้องมองมาเรื่อย ๆ พร้อมคุยเรื่องสัพเพเหระกับยายผม

   ตั้งแต่ยายชวนหลานคนใหม่มากินข้าวด้วย ผมก็นิ่งค้างไป แล้วไม่ได้พูดอะไรต่อ.. จะคัดค้านอะไรได้ ก็ทำได้แค่เดินต้อยๆ ตามหลังยายที่ควงแขนหลานคนใหม่นำหน้ามาที่ร้านอาหารที่มันแนะนำ เป็นร้านอาหารรสไทยสไตล์ยุโรป แบบที่ยายผมชอบ จนยายตกลงมาอย่างง่ายดาย ยายคงลืมไปแล้วด้วยว่าผมอยากกิน

“ ยังงอนยายอยู่.. ” ผมไม่รู้ว่ายายหมายถึงเรื่องไหน ยายอาจเข้าใจว่าผมไม่พอใจเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ระหว่างเรื่องที่ยายไปบู๊กับคนกระชากกระเป๋า หรือเรื่องที่ไปชวนไอ้พี่กรดมากินข้าว ผมรู้สึกงอนยายทั้งสองเรื่องเลยต่างหาก

“ น่าจะใช่ครับ ” ผมเหลือบคนที่นั่งอยู่ตรงข้าม มันตอบยายอย่างเห็นดีเห็นงาม >< มันกำลังอมยิ้มและพยักหน้าเหมือนเข้าใจหัวอกคนเป็นยาย เอาเข้าไปสิ เอาอกเอาใจยายเข้าไป

“ น้องขิมลูก ” เสียงเรียกชื่อเบา ๆ ของยาย มักทำให้ผมใจอ่อน ผมเปล่างอนนะ..ไม่ได้งอนแล้วซักหน่อย แค่น้อยใจอะ

“ ยายอ่า ..ขิมไม่ได้งอนแล้วครับ ยายรู้ใช่มั๊ยขิมเป็นห่วงยาย ”

“ ครับ รู้ครับ หลานรัก ^ ^ ”

   พอยายลูบหัวและเรียกผมว่าหลานรัก ผมก็หลุดอมยิ้มออกมาอย่างชอบใจ แต่พอเห็นคนตรงหน้ากำลังกระตุกยิ้มกับท่าทางของผม คิ้วผมมันก็กระตุกขึ้นมา จนผมอดไม่ได้ที่จะแอบเบ้ปากให้มันกลับไป
 
“ งั้นก็คุยกันหน่อยเถอะลูก คุยกับพี่กรดด้วย ”

“ อ่า ครับๆ ”



   ในระหว่างรออาหารที่สั่งยายก็ชวนไอ้พี่กรดพูดถึงแบรนด์เสื้อผ้าที่ผู้ชายชอบใส่ และดูการแต่งตัวของมัน ผมว่ามันแต่งแต่ละครั้งไม่เหมือนกันเท่าไหร่ เหมือนคนที่ถูกจับแต่ง แต่ถ้าไม่มีอคติเล็กๆ ผมว่าคนหน้าตาและรูปร่างดีอย่างมันแต่งไปด้วยเสื้อผ้าแบบไหนยังไงก็ยังดูดีไปหมด รวมถึงวันนี้ด้วยที่แม้จะอยู่ในเสื้อเชิ้ตผ้าอ๊อกฟอร์ดเนื้อผ้าสบายลายทางแนวตั้ง สีเทาสลับขาว กับกางเกงยีนขายาวสีเข้ม รองเท้าผ้าใบสีขาวคู่ใหญ่ ทรงผมที่ไม่ถูกเซ็ทแต่เปลี่ยนสีเป็นสีดำสนิทต่างจากครั้งที่แล้วที่เจอ ไม่ได้ทำให้คน ๆ นี้ดูธรรมดาลงได้เลย

แต่หมั่นไส้ได้ม่ะ!

   ทำไมยายต้องชมมันบ่อย ๆ ด้วย ชมแล้วชมอีก พี่กรดหล่ออย่างนู้นพี่กรดหล่ออย่างนี้  ฉลาด พูดจาฉะฉาน มีมารยาท มีน้ำใจ ทั้ง ๆ ที่เจอกันยังไม่ถึงสองชั่วโมงเลยอะครับยายครับ

“ เอ๊ ทำไมเหมือนยายจะลืมหยิบถุงกางเกงของพี่ชายเรามานะลูก ขิมดูสิลูกมีถุงสีเขียวมั๊ย? ” ผมหันไปไล่ดูถุงเล็กใหญ่เกือบสิบถุงได้ที่วางไว้ด้านข้าง ไม่มีถุงสีเขียวหรือถุงกางเกงที่ยายบอก ยายเลยนึกได้ว่าต้องถือมาไม่ครบตอนเมื่อครู่ที่ฝากไว้กับเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์แน่ๆ

“ เดี๋ยวขิมไปดู.. ”

“ ไม่ต้องๆ ลูก ยายอยากจะไปเข้าห้องน้ำพอดี เดี๋ยวยายไปเอง ”

“ O.O ”

ไม่ได้!

   ถ้ายายไปเท่ากับยายปล่อยผมทิ้งไว้ให้อยู่กับคนที่ผมไม่อยากเจอ อันตรายตัวโต ๆ ที่พร้อมจะโจมตีผมเมื่อไรก็ได้ มันกระตุกยิ้มเมื่อเห็นว่าผมไม่ยอมให้ยายลุกไป

“ เดี๋ยวผมไปดูให้ครับ ” ^ - ^ ผมพยักหน้าเห็นด้วยเมื่อไอ้พี่กรดมันเสนอตัว แต่ยายส่ายหน้าไปมาไม่ยอมอย่างเดียว และยายจะไปให้ได้ เพราะยายต้องการไปเข้าห้องน้ำจริง ๆ

“ ไม่ต้องลูก พี่กรดนั่งอยู่กับน้องขิมที่นี่แหละนะลูก ยายไปเอง ”

“ ยาย.. ไม่เอาอ่ะ ให้ขิมไปด้วยนะครับ ” ผมเกาะแขนยายแน่น ไม่ยอมให้ยายลุก

“ ไม่ได้ นั่งเป็นเพื่อนพี่เขาอยู่นี่แหละลูก ”

“ แต่.. ”

“ ไม่เอาหน่าขิม ยายไปแปบเดียว ยายจะไปเข้าห้องน้ำด้วยลูก อูย ไปแล้วนะเดี๋ยวยายมานะลูกนะ ^ ^ ” 

“ ยายยย ” ยายไม่สนใจผมอีกต่อไป ยายรีบลุกขึ้นแล้วเดินออกไปจากร้านด้วยความรวดเร็ว


ซวยแล้ว..

   ผมจะทำยังไงต่อไป ยายทิ้งให้ผมอยู่กับไอ้พี่กรด เพื่อนสนิทพี่รัน ที่เป็นศัตรูหัวใจของไอ้พี่

   ซึ่ง.. มันคืออันตรายตัวโตๆที่ผมไม่อยากเจอ ..

   แม้แววตาจะเผลอกระตุก แขนขาเริ่มดูเก้งกางไปหมด ไม่รู้ว่านั่งท่าไหนจะสบาย ไม่รู้ว่ามือทั้งสองข้างไปปัดป้ายไปวางตรงไหนนอกจากกอดมันไว้ที่อกตัวเอง

- __ -

-/////////-

   ผมเลือนสายตามองมันอีกครั้ง พบว่าคนตรงหน้าก็เอาแต่มองมานิ่ง ๆ โดยไม่พูดไม่จา จนเดาความรู้สึกไม่ออกว่ามันกำลังคิดอะไร.. ผมก็ไม่ต่าง ผมพยายามทำตัวแน่นิ่ง ไม่ให้เกิดพิรุธว่ามีความรู้สึกกังวลที่ต้องมาตกอยู่ในสถานการณ์เดิม ๆ สองต่อสองกับมันระหว่างโต๊ะอาหาร

“ ไม่คิดถึงกูหน่อยหรอ? พูดกับกูหน่อยสิขิม.. ” ใบหน้านิ่งเมื่อครู่ของมันค่อย ๆ เผยยิ้มออกมา ตามด้วยการพูดเปิดประเด็นขึ้นมาโดยที่ผมไม่ได้ทันตั้งตัว

=_=
คิดถงคิดถึงบ้าบออะไรเล่า..

“ หึ ยังไม่ยอมพูด.. ” หลังจากที่ไอ้พี่กรดมันยังไม่ได้ยินเสียงตอบรับของผม มันส่ายหน้าไปมานิดหน่อยพร้อมส่งสายตามองมาเหมือนผมไปขัดใจเข้าให้

“ .......... ” จะให้พูดอะไรวะ

   ผมหลบสายตามันอีกครั้ง เลือนสายตาไปมองสะเก็ดน้ำแข็งที่ลอยในแก้วน้ำที่เพิ่งยกขึ้นมาจิบ

“ หึๆ มีอะไรจะแก้ตัวมั๊ย? ”

-0-
ไอ้สัด!

   ผมมองมันตาขวาง หลังจากที่มันใช้นิ้วชี้และนิ้วกลางใหญ่ๆของตัวเอง มาดันหน้าผากผมขึ้น จนผมต้องเงยหน้าตามแรงดันของมัน เราสบตากันอีกครั้ง

ช่าาาาา -///////////-

“ กะ.. แก้ตัวอะไรไม่ทราบ! ” ผมพูดด้วยน้ำเสียงหาเรื่องเพื่อกลบเกลื่อนอะไรความรู้สึกบางอย่าง แล้วดันมือมันกลับออกไป สะบัดหน้าหนีไปพร้อมกัน

   ผมเชิดหน้าและยืดตัวขึ้นอย่างไม่คิดจะยอมรับความผิดนั้น แม้ในใจจะมีอาการกล้า ๆ กลัว ๆ ตุ้ม ๆ ต่อม ๆ อยู่ จนสับสนไปหมดก็ตาม แต่ผมยืนยัน... ผมไม่ได้ทำอะไรผิดซักหน่อย ผมบอกไปแล้ว

“ กำลังหนีกู หลบหน้าหลบตากูอยู่ใช่มั๊ย ? ”

“ ไม่ได้หลบซักหน่อย! ” ผมพูดขึ้นเสียงแบบไม่รู้ตัว จนเห็นว่าพี่พนักงานและคนที่นั่งโต๊ะข้าง ๆ ต่างหันมามอง ผมถึงลดระดับความดังเสียงของตัวเองลง จนแทบเรียกว่ากระซิบโดยอัตโนมัติ “ ทำไมต้องคิดว่ากูหนี กูหลบมึงด้วย ? ”

“ หึ ๆ หรือไม่จริง.. ” มันที่ไม่ได้สนใจสายตาคนรอบข้าง เพียงมองและส่งยิ้มบางๆไปให้คนเหล่านั้น ก่อนจะหันมาถามออกมาด้วยน้ำเสียงที่ปนไปด้วยการหยอกล้อ

   ความจริงแล้ว พี่กรดมันก็พูดด้วยเสียงความดังระดับปกติที่ได้ยินกันสองคนมาตลอด มีแต่ผมนี่แหละที่เผลอเสียงดังจนได้ยินแทบทั้งร้าน

“ ...ไม่จริง ก็แค่ไม่อยากเจอ ”

“ ทำไมไม่อยากเจอ ? ”

   เห! เมื่อกี้ผมพูดเบาแล้วนะ มันได้ยินอีกแล้วอะ

“ แล้วทำไมมึงต้องมาตามวุ่นวายกูด้วยอะ ” ไม่ทันที่มันจะอ้าปากถามซ้ำ ผมก็พูดด้วยน้ำเสียงเหวี่ยง ๆ กลับไปให้คนตรงหน้าได้รู้ว่าผมไม่ชอบใจที่มันเหมือนรู้ความคิดผมได้ตลอด

“ ก็ง่ายๆ กูอยากเจอ.. ”

“ ................... ” เดี๋ยววววว อยากเจอผมทำไม?

   มันกอดอกเอนตัวไปพิงที่พนักพิงเก้าอี้ช้าๆ ยิ้มออกมาอีกครั้ง

   ผมไม่รู้ เพราะมันสะใจมากหรือยังไงที่ทำให้ผมสตั้นไปกับพูดของมัน เสียงที่มันหลุดหัวเราะออกมานั้น ทำให้ผมคิดอย่างเดียว..

นี่คงกวนตีนกันอีกสินะ แกล้งกันอีกสินะ..

“ จะมาอยากเจออะไร เก็บคำพูดแปลก ๆ นี่ไปใช่กับสาวๆเถอะ ”

“ กูจะพูดกับใครก็ได้ ไม่รู้หรือไง ”

   ผมเป่าลมหายใจออกมาทางปาก จนผมหน้าม้าตัวเองปลิวเปิดขึ้น นี่อะไรกันนะ.. ลมหายใจตัวผมเองร้อนไปหมด

“ อ่อ ลืมไป มึงไม่ได้ชอบแค่แบบสาว ๆ หนิ ”

“ แล้วคิดว่ากูชอบแบบไหน.. ? ”

“ ชอบแบบไหน ตัวเองไม่รู้ตัวเองหรือไงเล่า.. ” ผมเร่หางตามองมัน เป่าลมไปมาข้างแก้มอีกครั้ง รำคาญใจนิด ๆ แฮ่ะ!

“ กูแค่อยากให้มึงลองตอบดู คิดว่ากูเป็นแบบไหน ชอบแบบไหน.. ” พี่กรดมันถามน้ำเสียงจริงจังขึ้นมา ผมเลยไม่คิดช่างใจที่จะตอบออกไป

“ ก็ถ้าไม่ได้ชอบผู้หญิง ก็ต้องชอบผู้ชาย ” ผมตอบมันไปแค่นั้น และเหมือนมันพอใจกับคำตอบ มันไม่ได้ถามคาดคั้นต่อ เพียงแค่อมยิ้มแล้วอมยิ้มอีก

แต่เดียวนะ การที่ผมบอกว่ามันชอบผู้ชาย ก็แสดงว่ามันเป็นเกย์

หรือว่าจะจริงที่พี่ขลุ่ยบอก ว่าพี่กรดนี่อาจชอบพี่รัน

พี่รันแน่ๆ แบบที่มันชอบ..

“ มึงไปรู้อะไรมารึป่าว ? สีหน้ามึงนี่ปิดไม่อยู่เลยนะ ” มันถามผม เหมือนรู้ว่าผมกำลังมีความคิดอะไรอยู่บางอย่าง

“ ทำไมชอบจับผิดคนอื่นนะ! ”

“ แล้วมึงคิดอะไรอยู่จริงๆ ใช่มั๊ยล่ะ? ”

ผมก็เงียบดิ.. 


75%

.
.
.
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-04-2018 03:02:38 โดย pipimSCHT »

ออฟไลน์ pipimSCHT

  • สบายใจทุกครั้ง ที่เราได้ทำในสิ่งที่เราชอบ
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 64
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-2
*ต่อ

ตอนสิบ




“ มีอะไรอยากบอกกูมั๊ย ? ”

“ .... กูไม่รู้หรอกนะว่ามึงทำไมถามกูแบบนี้ แล้วกูไม่รู้อะไรทั้งนั้นว่ามึงพูดถึงเรื่องอะไร และไม่อยากจะสนใจ ถ้าไม่ติดว่ามึงช่วยยายกู กูไม่มานั่งอยู่ตรงนี้หรอกนะ ”

“ คำพูดมึงจะใจร้ายไปนะ ”

“ ....... ” ผมใจร้ายหรอ งง ผมใจร้ายตรงไหนกันนะ

“ มึงรู้อะไรใช่มั๊ย ? ”

.. เออ ดีจริงๆ สัดเอ้ย

   เมื่อกี้ที่ผมเพิ่งพูดไป ไม่เข้าหูมันเลยใช่หรือไม่ครับ

   จิ!! ก็รู้น่ะสิ ว่ามันเป็นเพื่อนสนิทพี่รัน คนที่ไอ้พี่ชอบ.. ถึงได้หนีหน้ามึงเนี่ย - O –

“ กูจะรู้อะไร.. ไม่รู้อะไรทั้งนั้น ” ผมยืนยันอีกครั้ง

   ผมรู้ว่าผมโกหกอะไรไม่เนียน แต่เป็นเพราะผมไม่อยากยุ่งเกี่ยวอะไรเรื่องไอ้พี่ไปมากกว่านี้แล้ว ผมขอให้ไอ้พี่จัดการเรื่องของมันเอง ให้รุดหน้ารุกจีบพี่รันไปตรง ๆ เลย เพื่อที่ผมคิดว่าการทำแบบนี้ผมจะไม่ต้องไปผมเจอกับคน ๆ นี้ ที่นั่งหน้าสลอนอยู่ตรงหน้าผม

แต่ไป ๆ มา ๆ เหมือนผมเองที่หนีมันไม่พ้นสักที

“ แล้วไม่ตกใจหรอ ที่รู้ว่ากูชื่อว่ากรด ? ”

O.O

“ อะ..ไร ทำไมกูต้องตกใจ.. ”

ไอ้ขิมเอ้ย ไม่ตกใจเล้ย ไม่เนียนเล้ย

   ทั้ง ๆ ที่เมื่อกี้เพิ่งตกใจที่มันถามคำถามนี้ขึ้นมา แต่ผมเลือกที่จะทำลอยหน้าลอยตาต่อไป เหมือนไม่รู้เรื่องอะไรที่มากไปกว่าการที่มันชื่อกรด

ว่าแต่มันทำไมถึงถามผมแบบนี้..

หรือมันรู้อะไร!

“ ไม่คุ้นชื่อกูหรอ? ”

“ ไม่ ” ผมเผลอเม้มปากตัวเองไม่ได้ ผมรู้ว่าการตอบแบบไม่สบตามันเป็นพิรุจแต่ผมก็ทำแบบนั้นไปแล้ว

   ถ้าวันนั้นผมไม่เผลอไปได้ยิน และเห็นว่าพี่รันกับมันเป็นเพื่อนกัน ผมคงคุยกับมันได้ด้วยความไม่ระแวง หรือระวังตัวเองขนาดนี้

   ขนาดมันเป็นเดือนคณะสถาปัตยกรรมรุ่นไอ้ขลุ่ย ที่ค่อนข้างจะเป็นคนรู้จักของคนทั่วมหาวิทยาลัย ผมยังไม่รู้จักเลย

“ อยากรู้จักกูรึยัง ? ”

“ .... ” ผมนิ่งไป จะเรียกว่าตัวแข็งไปเลยก็ว่าได้

“ กูชื่อกรด คีรินทร์ จำชื่อกูไว้นะ ”

   รู้แล้วเว้ย ยังจะให้ผมรู้จักอะไรมันไปมากกว่านี้อีกหรอ..

   แอร์ในร้านอาหารที่เย็นๆในตอนนี้กับไม่ช่วยอะไร ผมรู้สึกได้ถึงเหงื่อที่ซึมไหลออกตามไรผม

“ ถามจริง มึง.. ”

“ กูจะบอกสิ่งที่กูอยากบอก ” ผมถูกคนหน้านิ่งยักคิ้วกวน ๆ มาให้ มันพูดดักทางผมแบบนี้ ใครจะกล้าถามล่ะ แล้วทำไมต้องมาทำเป็นถามเกริ่นให้อยากรู้จักมันด้วย ฮึย!

“ เออ ไม่อยากรู้ซักหน่อย ไม่ถามก็ได้! ” คนฟอร์มเยอแบบผม ก็อดรู้เพราะปากนี่แหละครับ

   ตอนแรกกะว่าจะถามมันตรงๆ ให้รู้แล้วรู้รอด เพราะผมไม่รู้ว่าไอ้พี่กรดมันเข้าหาผมเพื่ออะไร หรือถ้ามันไปรู้อะไรมา

   เรื่องที่มันรู้ จะใช่เรื่องที่ผมไปตามถ่ายรูปพี่รันแบบลับล่อๆมารึเปล่า

   หรือมันจะรู้ลึกไปกว่านั้น คือ เรื่องผมกับไอ้พี่ขลุ่ยเป็นพี่น้องกัน มันจะรู้มั๊ยว่าที่ผมทำเพราะพี่ชายของผม ชอบเพื่อนของมัน

   ผมเดาว่าถ้ามันรู้จักชื่อและนามสกุลของผม มันก็จะเชื่อมโยงไปถึงไอ้พี่ขลุ่ยไม่ยาก เพราะพี่น้องนามสกุลเดียวกันอยู่แล้ว และยิ่งถ้ามันรู้เรื่องผมไปแอบตามถ่ายรูปพี่รัน มันก็อาจจะคิดว่าเกี่ยวกับพี่ขลุ่ย แล้วถ้ามันขัดขวางพี่ขลุ่ยจากพี่รัน ก็ซวยแน่นอน


“ ไม่เจอกันเป็นเดือน มึงดูแปลกตาไปนะ..  ”

“ ยังไง ? ” เป็นเพราะผมเบลอมั้ง ผมถึงหลุดถามด้วยสีหน้าเหวอ ๆ ออกไป

   พอตอนนี้มันเปลี่ยนเรื่องพูด ก็ทำให้ผมใจชื้นขึ้นมาหน่อย.. มันจะไม่จับผิดอะไรผมแล้วใช่มั๊ย..

“ ทรงผมน่ะ ” มันพูดแล้วเลือนสายตาไปที่ทรงผมของผม

“ อืม ใช่ เพิ่งจะสังเกตรึไงเล่า.. ” ผมตอบเสียงเบา แล้วชำเลืองดูมือที่จับปรายผมของตัวเองขึ้นมาดู ไม่รู้ทำไมมันเพิ่งมาทักถาม ตอนที่คุยเรื่องวุ่นวายกันผ่านไปประมาณสิบเรื่องได้

“ เปล่าหรอก สังเกตมานานแล้ว.. ”

ยิ้ม

มันยิ้มอีกแล้วอะ

-////////////-

“ ทรงผมใหม่.. ”

“ อืม ”

   ใครๆก็ทักผมแบบนี้ เพราะผมทำทรงผมใหม่ คือ ปล่อยให้ผมยาวขึ้นแล้วตัดเป็นทรงปกด้านหน้าแล้วแทรกข้างเล็กน้อย พี่ช่างทำผมแนะนำให้ดัดลอนหลวมตรงปรายผมนิดหน่อย และทำสีเป็นสี Ash Blonde

‘ น่ารักมากเลยขิม ’

‘ เหมาะกับมึงดี ’

‘ ดูดีๆ เหมาะกับทรงนี้อะ ’

‘ น่ารักเนาะ ’

‘ น่ารักๆ ’

   คำชมส่วนใหญ่จากเพื่อน รุ่นพี่ อาจารย์ คนรู้จัก ล้วนแต่เป็นคำว่าน่ารัก ไม่มีใครชมว่าหล่อเลย ..

“ ไม่ต้องชมว่าน่ารักนะ คนชมบ่อยแล้ว ” ผมชี้หน้ามัน เพื่อเป็นการห้าม แต่คนตรงงหน้าส่ายหน้าตอบมาคนผมแทบสำลักน้ำลายตัวเอง

“ ไม่ได้จะชมซักคำ! ”

> - <

“ กวนตีน! ไอ้บ้า! ” ผมชูกำปั้นขึ้น อยากจะต่อยหน้ามันจริง ๆ แต่ก็ทำได้แค่ต่อยอากาศไป

   ผมกับมันนั่งมองหน้ากันไปมา ทำไมอยู่ดีๆเราก็เงียบกันไปไม่รู้ อาจจะเป็นเพราะพนักงานเริ่มทยอยเดินมาเสิร์ฟอาหาร และถามถึงเมนูอาหารว่าได้รับครบรึยัง มันตอบแทนผมไปทุกอย่าง เพราะตอนนี้ผมสนใจอาหารตรงหน้าแทนมากกว่า อยากจะกินแล้วอะ เมื่อไรยายจะกลับมานะ ไปนานมากๆแล้วนะเนี่ย..
 
“ หึ.. แต่ (ก็จริงของเขา) ..”

พูดอะไรว่ะ งึมงำๆ

   ผมมองหน้ามันอย่างสงสัย ไม่รู้มันพูดอะไรหรือพูดกับผมรึเปลา แต่มันก็เลิกคิ้วถามผมกลับมา ผมเลยหันหน้าไปทางอื่น เพื่อหลบสายตามันแทน ทำไมผมต้องทำตัวไม่ถูก เวลาถูกสายตานั้นมองกลับมา หรือจ้องมานาน ๆ แบบนั้นด้วยนะ

“มึงมีพี่ชายใช่มั๊ย? ....” ผมตกใจคำถามของมันอีกครั้ง จนเผลอกลั้นหายใจ ก่อนที่มันจะพูดประโยคถัดมา “ คุณยายมึงบอกเมื่อกี้ตอนที่เราคุยเรื่องเสื้อผ้ากัน ”

“ อืม ”

“ เรียนอยู่ป่ะ หรือ ทำงานแล้ว ” คนหน้านิ่งถามต่อ นี่มันทำไมต้องทำหน้าตาจริง ๆ จังอะ เปลี่ยนโหมดไว้จะยิ้มก็ยิ้มอยุ่นั้น จะกวนตีนก็กวนคูณสิบ จะนิ่งก็นิ่งจนผมเกร็ง

“ พี่กูมีทั้งพี่ทำงาน และทั้งเรียนอยู่ ” ผมตอบเหมือนไม่สนใจมัน สายตาเลือนมองอาหารบนโต๊ะ กินมันฝรั่งทอดรอได้มั๊ยนะ .. จิ้มซอสมะเขือเทศซักนิด อื้มมม อร่อยจัง><

“ มึงมีพี่หลายคนหรอ? ”

“ อืม ”

“ แล้วคนที่เรียน เรียนไหนล่ะ ปีไหน ”

“ กูต้องตอบใช่มั๊ย ? ” ผมเผลอกดหน้าลง แต่ชำเลืองขึ้นมามองมันจนตาโต

“ ใช่ ” มันตอบ
   
   เหมือนเรากำลังเล่นสงครามจิตวิทยากันอยู่ เหมือนมันต้องการให้ผมพูดอะไรออกไป

“ มึงหลอกถาม เพื่อที่จะให้กูตอบอะไร.. ” สายตาของผมเริ่มเลิกลักไปมา เพราะคิดไม่ออกว่าจะต้องตอบยังไง ทำไมถึงคิดว่ามันกำลังแอบหลอกถามผมอ้อมๆอยู่

“ รู้ได้ไงว่าหลอกถาม กูไม่ได้หลอกถาม ก็ถามจริงๆ ” 

“ ไม่ตอบ เปลี่ยนเรื่องคุยเถอะ ” ผมไม่ตอบอะง่ายสุดแล้ว ไม่รู้สิ.. การที่ถูกมันถามอ้อมไปอ้อมมา มันทำให้ผมระแวงกว่าเดิม ผมตอบอะไรที่เกี่ยวกับไอ้พี่ไม่ได้หรอก ผมไม่ตอบเด็ดขาด..

“ หึ เอางั้นหรอ..? ได้สิ งั้นมาคุยเรื่องของเรากัน ”

“ เรา! แค่กๆๆ โอยยย ” ผมปัดมือไปมาอยู่ด้านหน้า เพื่อพัดให้ตัวเองใจเย็นและเรียกสติให้ตัวเอง เมื่อกี้มันพูดคำว่า ‘เรา’  จนผมเผลอสำลักน้ำที่กำลังดื่มเข้าไปออกมานิดหน่อย ดีนะไม่พุ่งใส่หน้ามันเนี่ย

“ ฮ่ะๆ มึงยังดูตื่นเต้นเหมือนเดิมเลยนะ ” มันหัวเราะแล้วรีบดึงกระดาษทิชชูจากล่องยื่นมาให้ผม ผมรับมาแล้วรีบเช็ดขอบปาก จมูก และแถว ๆ แก้มอย่างไม่รอช้า บ้าเอ้ย หน้าอายจริงๆ ถ้าสาวๆในร้านมองแล้วเห็นผมทำท่าทางซกมกแบบนี้ คงรับไม่ได้นะสิ

“ กูไม่ได้ตื่นเต้น แค่กๆ ” แสบคอ แสบจมูกไปหมดเลยเนี่ย

“ หึ ๆ ”

“ นอกจากทรงผมจะเปลี่ยนไป มึงดูมีแก้มขึ้นนะ ไม่เห็นกูเกือบเดือน นี่กินข้าวอร่อยขึ้นหรอ ”

   ผมรีบจับที่แก้มของตัวเองอย่างไม่รีรอ นี่มันกำลังบอกว่าผมอ้วนขึ้นใช่มั๊ย .. > O <

“ กูก็กินทุกอย่างที่กูอยากกิน แล้วที่สำคัญ แก้มกูจะกลมจะเป็นยังไง มันก็คือแก้มกู ” ผมบอกมันด้วยหน้าตาจริงจัง และเสียงที่หนักแน่น จนมันหัวเราะออกมาอีกครั้ง คนพูดความจริงก็ขำเนาะ..

   ผมยกศอกสองข้างขึ้นมาค้ำโต๊ะ ยืนหน้าเข้ามาวางที่ฝ่ามืออย่างเหนื่อยหน่ายใจ พร้อมจับแก้มตัวเองไปพลางๆ

เอ๊ะ!

   ผมผงะ เพราะหน้าของเราห่างกันแค่อากาศระหว่างโต๊ะกั้น แต่บ้าเอ้ย >//////<

   ไอ้พี่กรด มันเลียนแบบท่าผม โดยการยกศอกขึ้นมาค้ำโต๊ะ วางคางที่เห็นสันกรามชัด ๆ นั้นที่ฝ่ามือของตัวเอง และเราสบตากันปริบๆ..

“ อะ.. เออ.. ” ผมเสตามองไปทางอื่น ปากเผลอเม้มขบเข้าหากัน ใบหน้าร้อนจนอยากจะเอามือขึ้นมาพัดเพราะต้องการอากาศดับความร้อนที่หล่อไปมาที่สองแก้มนี้

“ กูก็แค่อยากรู้.. ”

“ ว่า.. ?? ” ผมเลิกคิ้วด้วยความสงสัย เพราะมันเว้นวรรคไปนาน ไม่พูดต่อ..


“ แก้มมึง.. มันนิ่มขึ้นด้วยมัน ถ้าหอมแก้มมึงคราวนี้ กูคงจะรู้สึกนิ่มกว่าครั้งที่แล้วด้วยแน่ๆเลย ”

“ มึง! ไอ... ”

> //////////////////// <

   เอามันออกไปที เอาออกไปจากผมที

“ มึงก็ไปนอนห้องกูแล้ว อายอะไร ”

“ หยุดพูดเดี๋ยวนี้เลยนะ ”

“ นอนด้วยกันแล้ว แค่หอมแก้ม มันเล็กๆน้อยๆ ”

“ บอกให้หยุดไง กูแค่เคยไปนอน แต่กูไม่ได้เป็นอะไรกับมึงนะ ไม่ได้มีอะไรกันซักหน่อย ” ผมพยายามจะหยุดมัน แต่มันก็พูดออกมา แม้รู้ว่ามันพูดให้ได้ยินแค่สองคน แต่ถ้าคนหูดีได้ยิน แล้วเอาไปพูดต่อก็แย่นะสิ..

“ ฮ่ะๆ หน้าแดงนะ ”

“ หยุดพูด กูโมโหแล้วนะ! >< ” ผมเริ่มนวดที่ขมับตัวเองไปมา เสยผมหน้าม้าขึ้นด้วยความที่ทำอะไรไม่ถูก

“ ก็นึกว่าเขิน ”

“ ไม่โว้ย >< ”

“ มึงหยุดพูดทะลึ่งๆ เลยนะ ถ้าสาวๆแถวนี้ได้ยิน คิดว่ากูจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน แล้วไม่กลัวเรตติ้งตัวเองตกหรือยังไง แล้วพูดแบบนี้ได้ยังไง เราเป็นผู้ชายด้วยกันนะเว้ย .. ” ผมร่ายยาวจนตอนพูดจบต้องหอบออกมา

“ กูว่าเขาจะสนใจ ไม่ใช่เพราะที่กูพูด แต่เพราะมึงมากกว่า หึ ^ = ^ ” สัดดดด มันยักคิ้วให้ผมอีกแล้ว!

   บ้าเอ้ย แล้วทำไมรู้สึกได้ว่าชีพจรตรงข้อมือมันเต้น ตุ๊บ ๆ ๆ ไปพร้อมกับจังหวะหัวใจที่ทำหน้าที่สูบฉีดเลือดแรงขึ้นนะ แถมแก้มทั้งสองข้างของผม รวมทั้งหน้ามันร้อนขึ้นมาอีกแล้วเนี่ย..

“ หึๆ ”

   คนตรงหน้าด้วย มันจะยิ้มอะไรหนักหนาว่ะ

   ผมรีบนั่งสงบสติอารมณ์ ทำไมต้องโมโหขึ้นง่ายขนาดนี้นะ หรือไม่ได้โมโห หรือเขิน ผมเลยทำกลบเกลื่อนไปแบบนั้น > o< เหี้ย! ไม่มีทางๆ

   ผมเปลี่ยนอิริยาบถไปมา บอกตรง ๆ ว่าอยู่ตรงนี้มันทำตัวไม่ถูก ถึงมันจะหยุดพูด หรือล้อผมแล้วก็ตาม ผมอยู่นิ่งไม่ได้อะ เอาแต่ชะโงกหน้าชะโงกตาออกไปทางประตูหน้าร้าน ยายไปนานจนผมอยากออกไปตาม..


เมื่อไหร่ยายจะมา ขิมหิวแล้วนะ

“ หิวแล้วหรอ? ”

“ หิวตั้งนานแล่ว... ” ผมแยกเขี้ยวตอบ แต่ไม่ได้ทำให้คนตรงหน้าเกรงกลัวเลย ผมและมันเลิกพูดสนทนากันไปซักพัก มันก้มหน้ากดโทรศัพท์เหมือนคุยกับใครซักคนหรือหลายคน ส่วนผมลองกดโทรหายาย แต่ไม่ติด คงเพราะเหมือนตอนที่ผมโทรหายายรอบที่แล้ว ยายทำโทรศัพท์ตกตอนเข้าไปช่วยน้าบัว โทรศัพท์เลยไม่ติด


//เสียงโทรศัพท์//

เบอร์ 098-945-xxxx

“ สวัสดีครับ ”

‘ ฮัลโล น้องขิมครับ นี่ยายนวลนะ ’

“ ยาย! มีอะไรเกิดขึ้นกับยายรึเปล่า ยายเอาเบอร์ใครโทรมา ยายอยู่ไหน ให้ขิมไปหามั๊ยครับ? ”

‘ ไม่ต้องๆลูก ใจเย็นๆ ฟังยายก่อนนะ ’

‘ ยายเจอคุณยายแต้ว จำคุณยายแต้วได้มั๊ย? เพื่อนสนิทของยายสมัยสาวๆ เขามาจากลำปาง บังเอิญมากเลยลูก วันนี้ยายเลยว่าจะไปทานข้าวกับคุณยายแต้ว แต่ว่าเพิ่งนึกได้ว่ายายมีหลานกับพี่กรดที่ต้องเลี้ยงอาหารตอบแทนด้วย ’

“ ครับ ยายเลยจะไม่ทานกับคุณยายแต้ว แล้วกลับมาทานกับขิมใช่มั๊ยครับ ”

‘ เปล่าจ้ะ ยายจะทานข้าวกับคุณยายแต้ว ’

แป้ว!

“ คุณยาย! คุณยายจะทิ้งขิมไม่ได้นะ..  ”

   ผมเริ่มงอแงกับยายที่อยู่ในสาย พอเลือนสายตาขึ้นมองไปด้านหน้า ก็เห็นว่าไอ้พี่กรดไม่ได้สนใจโทรศัพท์แล้ว แต่มันมองหน้าผมแทน ผมปล่อยให้มันมองด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยคำถาม แล้วงอแงกับยายต่อ

   ผมกับยาย เราตกลงกันว่าจะอยู่ด้วยกันทั้งวัน มาห้างด้วยกัน กินข้าว กลับบ้าน แล้วไปว่ายน้ำกันต่อตอนเย็น แต่ดูตอนนี้สิ ผมไม่คิดจะทิ้งให้ยายเหงาเลยนะ แต่..ยายกำลังจะทิ้งโผมมมมมมม

‘ ยายไม่ได้ทิ้งน้องขิมนะลูก ไหนๆ ยายขอคุยกับพี่กรดหน่อยสิคะ ..คนดีเร็วลูก ’


“ อะ! ยายจะคุยกับมึ.. กับพี่! ”

   ผมยืนโทรศัพท์ให้กับคนที่กำลังมองหน้า และพูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด เกือบจะหลุดเรียกสรรพนามสมัยพ่อออกไป แต่นึกได้ก่อนจึงเรียกพี่ตามมารยาท มันพยักหน้าแล้วรับไปโดยไม่ได้อิดออด ผมเห็นมันแอบกระตุกยิ้มด้วย นี่มันขำผมอีกแล้วหรอ ฮึย!

“ ครับคุณยาย ผมกรดเองครับ ครับ... เข้าใจครับผม ไม่เป็นไรเลยจริง ๆ ครับ ครับ.. ได้ครับ ครับ.. ขอบคุณนะครับ ”

   ผมนั่งมองหน้าคนพูดที่ยิ้มกับยายที่อยู่ในสาย ด้วยความหงุดหงิดและหมั่นไส้ พูดครับ ครับ ครับ ด้วยหน้ายิ้มๆระรื่นแบบนั้นในขณะที่หน้าของผมอมทุกข์สุดๆ ได้ยังไงกัน

ยายบอกอะไรกับมันนะ...

ใช่สิ ก็มันเป็นหลานรักคนใหม่หนิ > = <

“ ยายจะคุยกับน้องขิมต่อ.. ” ไม่นานมันก็ยื่นโทรศัพท์คืนมาให้ผม แต่คำพูดของมันทำเอาผมเผลอเหลือกตาค้าง O-O ก่อนที่จะส่ายหน้าเพื่อตั้งสติ แล้วรีบรับโทรศัพท์มือถือคืนมาจากมันทันที

   ที่มันเรียกผมว่า ‘ น้องขิม ’ คงไม่ต่างกับผมที่เรียกมัน ‘พี่’ เราแค่พูดแบบนี้ตอนที่มีผู้ใหญ่รอสายในโทรศัพท์อยู่แค่นั้นเอง จะตกใจทำไม ไอ้ขิมเอ้ย!

“ ครับยาย ขิมเอง.. ”

‘ พี่กรดเข้าใจยายแล้วนะลูก ทีนี่..น้องขิมก็ทานข้าวกับพี่กรดได้เลย ยายใส่เงินแบงค์พันสองใบไว้ในกระเป๋าลูก ให้เอาไว้จ่ายค่าอาหาร เข้าใจมั๊ยครับ ’

   ผมเปิดกระเป๋าด้านหน้าสุดของตัวเองด้วยความรวดเร็ว พบแบงค์พันสองใบพับเก็บไว้จริงๆ ให้ตายเถอะ.. ยายทำให้ผมแอบคิดว่ายายเตรียมการไว้

“ ยาย.. ”

‘ แล้ว..ถ้าทานข้าวเสร็จ ถ้าคุยกับพี่กรดถูกคอ.. อยากไปเดินเล่นกับพี่กรดต่อก็ได้นะลูก ”

หื้ออ!

ไม่มีทางอะ.. ผมสายหน้าไปมา อึ้งในคำแนะนำของยาย

“ สุดท้าย ๆ ขิมกลับก่อนยายเลยนะลูก เพราะยายจะไปร้านเสริมสวยกับคุณยายแต้วต่อ และคุณยายแต้วจะไปส่งยายเอง แค่นี้นะลูก รักนะครับ จุ๊บๆ ’

“ ยาย.. ฮัลโล ยายครับ! ”

O.O

“ หึๆ เด็กโดนยายทิ้งซะแล้ว ”

“ เออ! ”

“ มึงงอนยายเก่งเหมือนกันนะ ”

“ ...... ”

โน คอมเม้นท์

   เพราะ ผมงอนยายจริง ๆ


-100%-


อีก50% เนื่องจากตอนนี้มี 150 % รอติดตามนะคะ


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-05-2018 13:22:01 โดย pipimSCHT »

ออฟไลน์ Tawanwee

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เขินขึ้นไปอีกระดับ พี่กรดกวนดีจริงๆ

ออฟไลน์ orayassa

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 33
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เขินพี่กรด ยิ้มอะไรนักหนา นี่ยิ้มตาม><

ออฟไลน์ Nadaii20

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
น้องขิมก็มานะฮะ>< คนอ่านแก้มจะแตก :katai2-1:







เยี่ยมมมมมมมมม

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ golove2

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +277/-6
พี่กรดชอบน้องขิมอยู่แล้วใช่ม๊าาาาาาา

 :-[ :-[

ออฟไลน์ funndee

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 40
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
มีหลายคำที่พิมพ์ตกหล่นนะคะ

แต่ให้อภัยในความน่ารักของขิม กับความกวนของพี่กรด คุณยายของขิมทำดี5555

เชียร์พี่กรด ไม่เจอน้องตั้งเกือบเดือน คิดถึงน้องแย่เลยสินะ


ออฟไลน์ baibobo

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 8
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

พี่กรดทำให้เราคิดว่า พี่กรดชอบขิมอยู่แล้วอะ ส่วนขิมไม่รู้อะไรเลย555

เขินแทนขิมไปแล้วช้านนน



ออฟไลน์ Domino22

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 7
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ชอบอ่าาาาา ชอบเวลาพี่กรดแกล้งน้อง
อยากอ่านต่อแล้ว

ออฟไลน์ nonut2233

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 5
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7515
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11

ออฟไลน์ Kittykit

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 6
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ทีีกรดถามว่าขิมคิดถึงตัวเองมั๊ย คงเพราะกรดคิดถึงขิมมากอะดิ o22

ออฟไลน์ samon3265

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 4
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
พี่กรดรุกกว่านี้ๆๆ  :hao7:

ออฟไลน์ funndee

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 40
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ Yeewajj

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 33
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
มารอตอนที่เหลืออออ :ling3:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ orayassa

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 33
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ชอบๆ 55555
ตามมาหรือบังเอิญ เจอกันจนได้ แถมพี่กรดยังเข้าทางยายของขิมไปอีก ชอบๆ


 :z2:

ออฟไลน์ pipimSCHT

  • สบายใจทุกครั้ง ที่เราได้ทำในสิ่งที่เราชอบ
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 64
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-2
*มาแล้วตอนสิบ อีก 50% ที่เหลือ มาอ่านกันเลย



“ ทั้งหมด 680 บาทค่ะ ”
 
“ ครับ.. ” แปบหนึ่งน้าาา
 
“ นี่ครับ ”
 
O. O
 
“ เฮ้ย เดี๋ยวครับ กูจ่ายเอง... ” ผมร้องขึ้นเสียงดังห้ามพี่พนักงานที่กำลังจะหยิบเงินในถาดอย่างลืมตัว ก่อนที่จะหันไปมองไอ้พี่กรดด้วยตาโตๆ เพราะเงินนั้น ไอ้พี่กรดเป็นคนวางลงไปก่อนเพื่อจ่าย ในขณะที่ผมเพิ่งกำลังก้มหน้าล่วงหยิบเงินในกระเป๋าที่ยายให้ผมไว้
 
“ เอาคืนไป ” ผมขมวดคิ้วน้อยๆ ทำหน้างอให้กับคนข้างๆ แล้วรีบหยิบเงินแบงค์สีเทาในถาดขึ้นมา พยายามยัดใส่มือไอ้พี่กรดกลับคืน แต่มันไม่ยอมรับเงินคืนจากผม
 
“ ไม่ต้อง กูจะจ่าย ”
 
“ ไม่ได้ ยายกูเป็นคนจะเลี้ยงมึงนะ ” เอาดิ! มันไม่ยอมรับเงินของมันคืน ผมก็ไม่ยอมให้มันจ่ายเหมือนกัน ผมส่ายหน้ารัว ๆ พร้อมกับพูดลากเสียงยาว จนไอ้พี่กรดหลุดขำ“ เอาคืนไปเลยยยย ”
 
“ ใช่คุณยายจะเลี้ยงกู แต่กูก็จะเลี้ยงมึงไง หายกัน ”
 
“ อะไรนะ? แล้ว.. จะเลี้ยงกูทำไม ” ผมทำหน้าอย่างสงสัย พอได้ยินคนที่พูดออกมาหน้าตาเฉย
 
“ นี่นะครับ ค่าอาหาร ” มันถอนหายใจเบาๆ ไม่ยอมตอบคำถามของผม แต่กลับอาศัยจังหวะที่ผมกำลังงงงวย ฉวยหยิบเงินของมันในมือผมไปยื่นให้พี่พนักงานทันที
 
“ มึง! ”
 
“ กูจะจ่าย เอาเงินถอนให้กูด้วย ” พอพูดเสร็จมันก็เดินออกไปรอหน้าร้านทันที ไอ้บ้า เร็วจริงๆ หาจังหวะจนได้ ><
 
   ไม่ฟังกันเลย ก็บอกว่าผมจะจ่ายอะ ยายผมเลี้ยงมันนะ..
 
   ผมรับเงินทอนและหมากฝรั่งจากพี่พนักงานแคชเชียร์ที่ยิ้มอย่างสดใสมาให้ พร้อมกับคำขอบคุณหลังจากรอเงินที่จะจ่ายจากพวกผมตั้งนาน เพราะตกลงกันไม่ได้ ผมจะจ่ายมันก็จะจ่าย แต่สุดท้ายมันชนะ

   ผมเดินออกมาจากร้าน เมื่อกี้ผมตัดสินใจไม่อะไรกับมันต่อ เพียงแค่รอเงินทอนนิ่งๆ เพราะไม่อยากเป็นจุดสนใจไปมากกว่านี้ แต่ในใจผมนี่คิดหาวิธีจะเอาเงินคืนมันให้ได้ตลอดเวลา แต่คิดไม่ออก..

“ เอาไงดี?  ” ผมพึมพัมเบาๆ
 
   ในมือข้างขวากำแบงค์สีเทาของตัวเองที่ว่าจะหยิบจ่ายในตอนแรก และบวกกับเงินทอนค่าอาหารเมื่อกี้ของไอ้พี่กรด ผมกำมันไว้แน่น
 
“ อ่ะ เอาคืนไป.. ” ผมยังไม่ละความพยายามที่จะเอาเงินคืนมัน แต่อีกคนกลับเลือกหันตัวหนีผมไปอะ
 
“ เก็บไว้ซื้อขนมเถอะหน่า ”
 
“ O - O ไอ้สัด เอาเงินมึงคืนไปเลยนะ! ” ผมยื่นคืนไปท่าเดียว แต่มันก็ไม่เอา มันยังยืนมองมานิ่งๆ จนผมเปลี่ยนมาท้าวสะเอว แหงนหน้ามองมันอย่างหาเรื่อง
 
“ ไม่ก็คือไม่ ไอ้ดื้อ.. ”
 
O-O
 
   เพราะแรงสัมผัสจากนิ้วชี้ของคนตรงหน้าที่แตะลงเบา ๆ สองถึงสามครั้งที่ปลายจมูกของผมหรือเพราะอะไรกันนะ ทำให้ผมต้องผงะ และนิ่งค้างไปหลายวินาทีด้วยความตกใจ ก่อนจะได้ยินมันส่งเสียงหัวเราะในลำคอเบา ๆ อย่างพอใจที่สร้างความงงงวยให้แก่ผม

“ กรี๊ด น่ารักอะแกกก! ” >____<
 
“ ฮืออ ในที่สุดฉันก็เจอโมเม้นที่ใฝ่ฝัน แบบในนิยายที่อ่านเลย งื้อ >< ”
 
“ ใช่>< วันนี้เห็นกับตา..”
 
“ หาวาร์ปกันแกๆ ”
 
“ ไม่ต้องหาๆ ฉันรู้จัก ”
 
“ จริงหรอ >< ”
 
อะ!

   ในบริเวณนั้นไม่ใกล้ไม่ไกลส่วนใหญ่เป็นเด็กนักเรียนมัธยมที่กำลังต่อแถวซื้อเครื่องดื่มร้าน ๆ หนึ่งอยู่ ที่ส่งเสียงพูดคุยกันเรื่องผมกับไอ้พี่กรดดังมากพอที่จะให้ผมหลุดออกจากภวังค์

“ ตัวเล็ก ตัวโตไปอีกอ่าาาา ”

   เสียงผู้หญิงกลุ่มๆหนึ่งกลุ่มเดิม ส่งเสียงพูดคุยกันเสียงดังพอที่ผมจะได้ยิน และมีสติขึ้นมาจากเรื่องเมื่อกี้ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว จนเผลอหันไปสนใจมอง

 “ กรี๊ด แกๆ พี่ตัวเล็กเขามองมา ”           

“ พี่เขาเป็นใครอะ?? ”
 
“ พี่ที่หล่อๆอ่ะ พี่กรดวิศวะไง ส่วนพี่น่ารักๆ ชื่อพี่ขิมแกกกก ”
 
“ น่ารักจังเลยค่ะพี่ขิม >< ” พอน้องในกลุ่มคนหนึ่งที่รู้จักชื่อของผมกับชื่อของไอ้พี่กรด กล่าวถึงชื่อผมในบทสนทนา น้องอีก 2-3 คนก็หันมามอง และโบกมือบ๊ายบาย ๆ ด้วยสีหน้าท่าทางตื่นเต้นให้ผมทันที
 
“ เออ.. คะ..ครับ ^ - ^ ” ผมพยักหน้าเชิงขอบคุณคำชมเหล่านั้นนิดๆ
 
   ตอนแรกไม่รู้หรอกว่าพูดถึงใคร แต่สายตาร่วมๆสิบที่มองมา บวกกับการรู้ชื่อของพวกผมขนาดนี้ ผมก็พอจะรู้แล้วว่าหมายถึงผมกับไอ้พี่กรดนี่แหละ
   
   ผมรีบหันกลับมา ไม่รู้เมื่อกี้จะหันไปมองทำไม โธ่!  ผมทำตัวไม่ถูกอะ แต่มีคนชม.. ก็ต้องขอบคุณ  เออ.. แต่นี่เหมือนผมไปทำให้น้องเค้าดูคลั่งกันมากกว่าเดิม

“ แฟนกันหรอแก? ”

“ แฟนก็หล่อ พี่เขาก็น่ารักเนาะแก >< ”
 
“ ไม่รู้ๆ แต่ถ้าพี่เขาเป็นแฟนกันจริงๆ โคตรเหมาะ >< ”

   เอิ่มม.. ใครแฟนใครนะ

   แล้วเหมาะเหมอะอะไรกัน ไม่มีทาง !

   ผมได้แต่ส่งยิ้มบาง ๆ ด้วยหน้างงๆ เหวอ ๆ ไปให้น้องผู้หญิงกลุ่มนั้นอีกครั้ง เพราะทำตัวไม่ถูก แต่ปรากฏว่าน้องพวกนั้นสะกิดเพื่อนทั้งกลุ่ม และส่งเสียงด้วยความตื่นเต้น จนทำให้คนทั้งร้านหันมามองทางผมกับไอ้กรดกันเกือบทั้งหมด
 
   ผมหันหาตัวช่วย พอรู้ตัวอีกทีก็เห็นไอ้พี่กรดตัวต้นเรื่อง มันหันหลังเดินนำหน้าออกไปตามทางเดินแล้วนู้นนน ท่าทางที่ดูดีชิบ!  นึกว่าตัวเองเป็นนายแบบหรือไง

   แถมมันดูไม่ได้สนใจคำพูดของน้องกลุมนั้นตั้งแต่แรก ถึงจะได้ยินมันส่งเสียงหัวเราะออกมาเบาๆข้างหู ตอนที่น้องพวกนั้น พูดว่าแฟน จิ!
 
ซวยจริง..
 
ผมว่า ผมเองก็อยู่ไม่ได้ล่ะ >~<
 
“ มึง รอกูด้วยยยย >< ”  ผมหลับตาปรี๋ เพื่อหลบสายตาน้องกลุ่มนั้น แล้วก้าวขาฉับๆ ออกวิ่งด้วยความเร็วตามคนที่เดินนำหน้าไปโดยไม่รีรอ


> _ < ผมจับเข่าก้มหน้าแล้วหายใจออกมาอย่างหอบถี่ ให้ตายเถอะ เหนื่อย... ผมรอดจากสายตาน้องๆพวกนั้นแล้วใช่มั๊ยนะ
 
“ หึ.. ”
 
“ แฮ่กๆๆ ” ผมส่งสายตาไปมองมันตาขวาง หมั่นไส้จริง สร้างเรื่องแล้วยังมาหนี!
 
“ น้องบอกว่าเราเป็นฟะ.. ”
 
“ หยุด อย่าพูดนะ.. ” ผมยกมือห้ามมันไว้ก่อนที่มันจะพูดประโยคนั้นออกมา “มะ.. มึงได้ยิน? ” ผมเห็นว่ามันเดินนำผมออกมาก่อนที่น้องพวกนั้นจะพูดว่ารู้จักพวกเราสองคนซะอีก
 
“ เรียกว่า ชัดทุกคำ.. ”
 
“ ช่างมันเถอะ ไม่ใช่สักหน่อย ” ผมถอนหายใจเบาๆ แล้วหลบสายตามัน  ไม่ใช่ก็คือไม่ใช่สิ ถ้ามีคนพูดแบบนี้เราก็ต้องไม่รู้สึกอะไรอยู่แล้ว ไม่ต้องอาย ไม่ต้อง..  -//////- เพราะมันไม่ใช่
 
“ หึๆ ”
 
“ เออ.. มึงเดินหนีกูทำไมเนี่ย เอาตังค์คืนไป ”

“ ไม่ได้เดินหนี แค่เดินนำมึงออกมาก่อนที่น้องพวกนั้นจะเดินเข้ามาขอถ่ายรูป ”
 
“ บ้าหรือไง? เราไม่ใช่คนดังน้องเขาจะมาถ่ายรูปพวกเราทำไม ”
 
“ แล้วคิดว่ายังไง? เรื่องที่น้องเขารู้จักชื่อเราสองคน ”
 
“ ....... ” ผมส่ายหน้าไปมาช้า ๆ เพราะไม่รู้จริงๆ แต่พอนึกถึงรอยยิ้มของน้องๆพวกนั้น ที่แสดงออกว่าชอบที่เห็นพวกผมสองคนอยู่ด้วยกัน แถมทั้งการแซวผ่านสายตาและคำพูด ..เอิ่ม อาจจะเรียกว่าน้องเห็นดีเห็นงามที่อยากให้พวกผมได้กัน เหมือนที่สมัยนี้เขาเรียกว่า คู่จิ้น ชิปเปอร์ ลงเรือ ตามที่หนูดีเคยบอกเคยพูดกับผมบ่อย ๆ หรือเปล่า
 
“ ช่างมันเถอะ ” มันเอื้อมมือมาวางที่หัวและหยีหัวของผมจนผมยุ่งไปหมด ก่อนที่ผมจะรับปัดมือมันออกไป มันไม่ได้ทำหน้านิ่งหรือไม่พอใจ แต่กลับยิ้มหัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนพูดตัดปัญหาเพื่อไม่สร้างความสงสัยอะไรให้ผมต่อ “ ไม่รู้แหละดีแล้ว ”
 
“ นี่อย่ามาเปลี่ยนเรื่องสิ เอาเงินคืนไป.. ” ผมไม่ยอมลดละความพยายาม ทันทีที่นึกเรื่องนี้ออก เพราะเรายังเคลียร์เรื่องเงินที่มันจ่ายค่าอาหารยังไม่จบ
 
“ กูเลี้ยงหน่า -.- ” และดูเหมือนมันก็ไม่ยอมเหมือนเดิม หึย!
 
“ ไม่เอา! ทำไมต้องเลี้ยงกูด้วย ”
 
“ ก็มึงเป็นเด็กกู.. กูก็ต้องเลี้ยงน่ะสิ ”
 
O. o
 
“ ว่าอะไรนะ เด็ก.. เด็กกู? ” ผมเร่ตาขึ้นมองมันแทบจะทันที
 
“ ไม่ใช่มั้ง กูเว้นวรรคผิดเฉยๆ กูบอกว่ามึงเป็นเด็ก กูเลยต้องเลี้ยง..  ” จิ!  มันตอบออกมาหน้าตาเฉยได้ไง

   เมื่อกี้มันยังพูดประโยคกำกวม ๆ ด้วยสีหน้ากวน ๆ อยู่เลย ให้ตายเถอะ... ผมได้ยินชัดเลยนะว่ามันพูดว่า ‘เด็กกู’ ซึ่งเด็กกู ก็หมายถึงผมเป็นเด็กของมันน่ะสิ แล้วพอผมถามกลับ มันกลับบอกมาว่าเว้นวรรคผิด แล้วจะให้เชื่อได้ง่ายๆหรือไง
 
“ เหอะ!!! ” -. – ผมอดไม่ได้ที่จะแสดงความหมั่นไส้ผ่านทางเสียงถอนหายใจ เพราะก่อนหน้านี้มันหน้านิ่งแต่พอผมจ้องมันนานๆไป มันกลับจ้องผมกลับ ต่างกันคือสายตาผมแสดงความไม่พอใจ แต่สายตามันแสดงความพอใจ -////////////-
 
“ ทำไม?  ไม่พอใจที่กูบอกไม่ใช่หรอ หรือมึงอยากเป็นเด็กของกู หึๆ”
 
“ ไม่มีทาง ไอ้เหี้ย.. ” ที่ผมไม่พอใจ คือ ไม่พอใจที่มันพูดทะลึ่งๆกับผมต่างหากเล่า ><
 
“ จริงหรอ? ” ยังจะมาถามอีก!
 
“ จิ! ไม่ต้ององต้องเอาแล้วเงิน เงินถอนก็ไม่ต้องเอา กูไม่ให้แล้วก็ได้! ” ผมยอมแพ้ ตัดบทหันหน้าหลบสายตามันทันที ไม่อยากต่อล้อต่อเถียงอีก แม้จะได้ยินเสียงหัวเราะอย่างพอใจอยู่ไม่ไกล > <
 
....................
 
 
“ นี่ ..คุยกับกูต่อสิ ”

มะ...
 
“ เฮ้ย! เออ.. ” แรงสัมผัสจากนิ้วชี้ ของคนที่เดินตาม ที่จิ้มจึก ๆ ลงมาที่ไหล่ข้างขวาของผม ทำให้ผมสะดุ้ง และเผลอกระตุกหดคอหนีไปอีกด้านทันที O.O คือร่างกายมันไปเองอะ ผมไม่ชอบเท่าไหร่เวลาที่มีคนมาสะกิดไหล่ คือมือและแขนมันพร้อมจะปัดออกไปทันที ไม่รู้อะ ><
 
“ เป็นอะไร ? ” มันถามด้วยสีหน้าที่ตกใจไม่ต่างกัน ผมไม่ตอบแต่ส่ายหน้าเบาเป็นคำตอบ มันก็ไม่ได้ถามหรือเอามือมาสัมผัสตรงหัวไหล่ผมซ้ำ จนผมเผลอพรู่ลมหายใจออกมาอย่างโล่งอใจ
 
“ งั้นคุยกันหน่อยดิ .. ” 
 
“ ไม่มีอะไรคุยหนิหน่า ” ผมเร่ตามองมันเล็กน้อย ก่อนที่จะก้าวขาเดินต่อ เพื่อหาร้านของบ้างอย่างที่อยากได้ เพิ่งนึกขึ้นว่าอยากได้น่ะ
 
“ แล้วจะเดินไปไหน จะกลับหรือยัง? ”
 
“ เรื่องของกูม่ะ ลาเลยนะ หวัดดี ^ - ^ ” ผมตอบเสียงเรียบๆ พร้อมกับยักคิ้วถึงสองครั้ง ก่อนจะเดินนำมันออกมา เพราะอยากจะก่อกวนคนกวนตีนกลับบ้าง ความจริงเราควรแยกกันได้ตั้งแต่ตรงนี้แหละ เมื่อมันไม่ยอมให้ผมเอาเงินเลี้ยงอาหาร ผมก็ไม่เลี้ยง และมันควรกลับไปสักที ว่าแล้วก็รีบเดินหนีดีกว่า หวังว่ามันจะไม่ตามมานะ
 
   ในขณะที่ผมกำลังชะเง้อคอหันซ้ายหันขวามองหาร้านที่ผมอยากไปเดินดูของ หางตาผมก็รู้สึกได้ถึงการเคลื่อนไหวของคนลักษณะคุ้นๆ รวมทั้งได้ยินเสียงรองเท้าสัมผัสเบาๆกับพื้นเรียบเงาของห้าง เหมือนมีคนกำลังก้าวขาตามมาใกล้ขึ้น ใกล้ขึ้นเรื่อยๆ และเมื่อผมหันหลังกลับไปมอง ก็พบ..
 
   เฮ้ย O////o ผมบอกลามันแล้วไง ทำไม..
 
“ งั้นกูเดินด้วยนะ.. ^ = ^ ”
 
   ว่าแล้วไง..
   ผมคงลืมนึกไปว่าไม่มีอะไรง่าย ไม่ว่าจะหนี หรือพยายามออกห่างจากความเสี่ยงนี้ เพราะการที่ผมได้มาเจอคน ๆ นี้ มันอาจจะไม่ใช่เรื่องบังเอิญแบบที่ผมพยายามคิดมาโดยตลอด ตอนนี้ขอเปลี่ยนความคิดว่ามันต้องมีอะไรมากกว่านั้น..
 
“ อย่าหน้าเหวอดิ มา.. กูถือช่วย ^ - ^ ” เกลียดดดด น้ำเสียง สายตาและสีหน้าเจ้าเล่ห์ที่ผมเห็นตลอดครึ่งค่อนวันนี้ ทำให้ผมชะงักและเผลอกระตุกมือที่ถือของไปไว้ด้านหลังทันที
 
“ ไม่ต้อง! ไม่ให้เดินด้วย ” ผมบอกแล้วหันหลังกลับทันที แต่ยังทันได้ก้าวขาเดิน ก็ถูกแรงดึงข้อมือของฝ่ามือใหญ่ที่กุมมือผมแล้วดึงผมไว้จนเกิดการต้านแรงจนตัวเซ “ ปล่อย! ”
 
“ จะหนีอีกแล้วสินะ ..”

“ ปล่อยดิ! ”
 
   เสียงเข้มของมันที่พูดออกมาเบา บวกกับสายตาที่กำลังคาดคั้น ทำให้ผมหงุดหงิดพูดเสียงเหวี่ยงใส่ให้มัน และพยายามสะบัดให้มันปล่อยมือที่เกาะกุมผมเอาไว้

“ งอแงเป็นเด็กไปได้ เมื่อกี้ยังเก่งกับกูอยู่เลย หึ ”
 
“ จิ! มีอะไรอีก แยกย้ายดิ มึงกลับ กูกลับ เราแยกกัน! ” ผมพูดด้วยน้ำเสียงหาเรื่อง จะว่าไม่พอใจที่มันรู้ทันผมไปหมดทุกเรื่องก็ว่าได้ คนอะไรทำไมผมถึงหนีไม่พ้นสักทีนะ
 
“ ไม่อะ มึงเก่งเรื่องหนี กูก็ไม่ให้มึงหนีไปง่ายๆ ”

“ ไม่ได้หนี เอ๊! ”  -. - ผมปฏิเสธมันหน้าหงิกงอ คิ้วขมวดจนเป็นปม หน้าคงแดงเพราะโกรธ ผมกำลังอารมณ์ขึ้นเนี่ย “ มึงต่างหากที่วุ่นวายกับกู แล้วมึงจะตามมาทำไม? ”

“ กูอยากรู้ว่ามึงจะไปไหนต่อ มึงยังไม่กลับ กูก็จะยังไม่กลับ ”

“ ............. ” ผมมองหน้ามันตาขวาง ทำไมเวลาผมพูดอะไรด้วยความไม่พอใจ หรือน้ำเสียงหาเรื่องใส่มัน มันก็ตอกกลับมาด้วยหน้านิ่ง ๆ คำพูดนิ่งๆ ที่ทำให้ผมเถียงไม่ออกตลอด
 
“ ตกลง จะไปไหน? ”
 
“ กูจะกลับแล้ว ” -. - ผมถอนหายใจเพื่อลดอารมณ์ใจร้อนของตัวเองลงก่อนตอบด้วยเสียงที่ยังไม่หายเหวี่ยงๆ แล้วพยายามดึงมือกลับ แต่ตอนแรกมันไม่ยอมปล่อย นี่มันที่สาธารณะนะโว้ยยยย ผู้ชายที่ไหนเขามายืนจับมือถือแขนกันเล่า ใครเห็นเดี๋ยวก็เป็นคำนินทาอีกหรอก
 
“ มึงปล่อย.. ” ผมพูดเสียงเบา และเหมือนมันจะรับรู้ มันถึงค่อยๆปล่อยมือผม และแย่งถุงในมือที่ผมถือก่อนหน้าทั้งหมดเอาไปถือ เพราะผมกระตุกมือให้หลุดจาการกอบกุมของมันหลายครั้ง บวกกับสีหน้าและสายตาของผมที่มองคนที่เดินผ่านไปผ่านมาอย่างลำบากใจ

“ จะกลับแล้วจริง ๆ หรอ ” ยังจะมาถามอีก
 
“ ... อื้มๆ ”

“ มึงจอดรถไว้ชั้นนี้หรอ? ”
 
“ อะ..อืม! ” ผมพยักหน้า แต่เผลอตาโตจนเก็บอาการไม่อยู่ จนคนที่ถามค่อยๆส่ายหน้าพร้อมกระตุกยิ้มเหมือนรู้อะไรบ้างอย่าง ใช่สิ.. มันต้องรู้ว่าผมโกหกแน่ๆ เพราะผมไม่เคยเนียนเรื่องโกหกได้เลย..
 
“ โกหกนะสิ ”

นั่นไง! 

“ ชั้นนี้ชั้น 4 ไม่ใช่ชั้น 3 ที่มึงจอดรถ ”
 
“ O.o ” เชี้ยยย รู้ได้ไงอีกวะเนี่ยว่าผมจอดรถชั้น3
 
มันรู้จริงๆ.. นี่มันเลี้ยงกุมารทองหรอ!
 
 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-05-2018 13:28:53 โดย pipimSCHT »

ออฟไลน์ pipimSCHT

  • สบายใจทุกครั้ง ที่เราได้ทำในสิ่งที่เราชอบ
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 64
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-2


ยอม ผมยอม..

   ผมไม่ได้ตอบอะไรมันมากแค่บอกว่าจะกลับจริงๆ แต่นึกขึ้นมาได้ว่ามีของที่อยากได้ จะเดินดูอีกสักพักก่อนกลับ มันก็บอกว่าจะเดินด้วยเพราะคุยกับยายผมไว้เรียบร้อยว่าจะอยู่เป็นผมจนกว่าผมจะกลับแทนยาย ซึ่งผมไม่ได้ต้องการสักหน่อย หึยยย

   นี่ผมยังสงสัยเรื่องลึกลับเมื่อกี้ไม่ได้ มันรู้ได้ยังไงว่าผมจอดรถไว้ไหน มันเลี้ยงกุมารไว้จริงๆใช่มั๊ยเนี่ย..  ปรื้อออออ ขนลุก

“ เป็นอะไร ทำไมทำหน้าแบบนั้น ”

“ เปล่าๆ อยู่ดีๆก็หนาวขึ้นมา ” ผมบอกปัดๆ และยักไหล่หน่อยๆ ไม่อยากให้มันใส่ใจ
 
เห้ย OoO

   ผมเจอแล้ว ผมเจอร้านโมบายแล้ว >< ผมไม่ได้ยินสิ่งที่มันพูดต่อ เพราะสนใจร้านโมบายอยู่อย่างเดียว
 
“ ตาวาวเชียว อยากได้หรอเด็กน้อย ”
 
>\\\\<
           
   ผมหันไปมองมันหน้าเหวอ และพบว่ามันอยู่ด้านหลังผมพอดี จนผมรีบกระพริบตาปริบๆ และเลือนสายตาเสมองไปทางอื่น  ผมได้ยินเสียงพูดและลมหายใจของมันอยู่ตรงตำแหน่งใกล้เคียงกับหูพอดี อีกอย่างมันพูดด้วยน้ำเสียงที่เหมือนผู้ใหญ่กำลังเอ็นดูเด็ก ซึ่งผมไม่ใช่เด็กไง
 
“ นี่อย่ามาใกล้กูมากได้มั๊ย ละ.. แล้วอย่ามาพูดแบบนี้ด้วยนะ ทำอย่างกับกูเป็นเด็กน้อย -. – ” ผมพยายามพูดให้น้ำเสียงปกติ ทั้งยังควบคุมไม่ให้สั่น ยากชิบ..
 
“ กูพูดแบบนี้มันไม่ดีหรอ? ”
 
“ ไม่ใช่.. เอ้ย ใช่! ” ผมเคาะขมับด้านซ้ายของตัวเองเบา ๆ เพื่อเรียกสติ ผมเป็นไรไปวะ ทำไมผมสับสนในคำพูดของตัวเองไปมากขนาดนี้><
 
“ ไม่ชอบหรือไง ” ยัง.. ยังขยับเข้ามาใกล้อีก นี้ที่สารธารณนะเว้ย!
 
“ ทะ..  ทำไมกูต้องชอบ หรือไม่ชอบด้วย หลีกทาง กูจะไปซื้อของ! ” ผมผลักและดันอกมันให้ออกห่าง แล้วเดินหนีมันทันที แม้จะได้ยินเสียงหัวเราะพอใจตามหลัง ผมก็ไม่หันกลับไปมอง ไอ้บ้า ไม่อยากจะเสวนาด้วยแล้ว ><
 
   ผมกำลังอยู่ที่ร้านขายโมบายร้านหนึ่ง กับตัวแถมที่ไม่อยากได้ นั่นก็คือไอ้พี่กรด ผมเดินอยู่ล็อคที่มีกาแลกซี่หรือดาวเรืองแสง เพราะอยากซื้อไปติดที่เพดานห้องตัวเอง ผมทำความสะอาดห้องใหม่เมื่อวันก่อน มีดาวเรืองแสงอันเก่าที่ติดมานานผมรู้สึกว่ามันเริ่มไม่สวย เลยอยากจะมาซื้ออันใหม่ไปติดแทน ตอนนี้ในตะกร้าของผมมีมากกว่านั้น ทั้งพวกเครื่องเขียน ของใช้เล็กๆน้อยๆ เพราะนานๆจะได้มาเดินร้านของถูกและดีขนาดนี้ก็ต้องเดินนานๆให้คุ้มหน่อย
 
“ อันนี้ดี ”
 
“ งั้นกูเอาอันนี้ คิๆ ”
 
“ หึ.. -.- ”
 
   ความจริงไอ้พี่กรดมันก็ช่วยผมตัดสินใจเลือกซื้อของได้ง่ายขึ้นเหมือนกัน เพราะถ้ามันเลือกอะไร ผมจะเลือกสิ่งตรงข้ามมันทันที มันเลือกแต่สีดำ เทา ดีขึ้นมาหน่อยก็สีแดงไปเลย สีสันในชีวิตมันนี่น้อยจริงๆ ผมเร่สายตาไปมองก็อดขำไม่ได้ เพราะส่วนใหญ่ชี้สีแดง มันดูถูกใจที่ผมหยิบสีแดง แต่ถอนหายใจหน้างอเมื่อผมไม่เลือกสีที่มันชอบ  สะใจจริงๆ  ^=^
 
“ เลือกล็อคนี้สิบรอบได้แล้วมั๊ง มึงจะไปจ่ายได้หรือยัง? ”
 
“ ยัง เพราะจะเดินอีกสิบรอบ ถ้าอยากกลับก่อนก็ไม่ว่านะ.. ^ - ^ ” ผมพูดเสียงท้าทาย แล้วยิ้มอย่างมีชัยชนะ แต่..
 
“ หึ คิดว่าจะทำให้กูยอมปล่อยมึงหนีง่าย ๆ หรอ? ”

   เพล้งเล้งงง!  =. =

   -. - จิ มันไม่ยอมผมเลย ให้ตายสิ!  หน้าแตกสุดๆ
 
“ จิ! กลับไปนั่งนู้นเลยไป! >< ”
 
   ผมเดินไปมาในล็อคเดิมซ้ำๆ หลายครั้ง เพราะอยากให้คนที่มาด้วยหงุดหงิดกับการรอผมบ้าง จะได้หนีกลับไปสักที แต่ปรากฏว่าผมก็ยังเห็นมันนั่งรออยู่ที่เดิม ที่เก้าอี้เล็ก ๆ ที่ทางร้านจัดเตรียมไว้ มีบางครั้งมันเดินมาเดินดูของกับผม และกลับไปนั่งที่เดิมเพราะถูกผมไล่ และตอนนี้กลายเป็นว่าคนที่หงุดหงิดคือผม คือผมคนเดียวเลย ><
 
“ หนึ่งชั่วโมงครึ่งในร้านนั้น .. ”
 
   ผมแอบหัวเราะเมื่อได้ยินเสียงบ่นของไอ้พี่กรด แต่ก็ช่วยไม่ได้ ผมเลือกของนานจริงๆ เพราะร้านนั้นมีของที่ผมอยากได้อยู่ทั้งนั้น  จ่ายไปแค่สี่ร้อยกว่าบาทเอง แต่ได้ของเพียบ ^ - ^
 
 
“ กูจะกลับแล้ว .. ”
 
“ รถอยู่ไหนล่ะ ”
 
“ ชั้น 3 ไง ถามทำไม มึงก็รู้หนิ! รู้ได้ไงก็ไม่รู้..  ” ผมบ่นเสียงเบาหน้าหงิกงอ และพึมพำออกมาต่ออย่างสงสัย พอได้เสียงหัวเราะของมันที่ดูพอใจ ผมก็หงุดหงิดขึ้นมาทวีคูณ

“ มึงก็กลับดิ จอดรถไว้ไหน ก็กลับไปดิ ” ผมเพยิกพยักหน้าเชิงขับไสไล่ส่งมัน แต่มันก็เฉยเมยเดินตามผมมาเรื่อย ๆอยู่ดี
 
“ กูก็จอดรถไว้ ชั้น 3 เหมือนกัน ”

O. o. ?
 
“ จะบ้าหรอ บิ๊กไบร์ทเอาขึ้นมาจอดข้างบนได้ที่ไหน? ” ผมเอียงตัวไปด้านข้าง แล้วเผลอมองคนเจ้าเล่ห์ด้วยหน้าเหลือเชื่อ
 
“ แล้วมึงคิดว่ากูเอาบิ๊กไบร์ทขึ้นมาจอดหรือไง? ซื่อบื้อเอ้ย ” มันไม่ว่าเปล่า แต่มันอมยิ้มก่อนเอื้อมมือมาแตะจมูกผม อะ.. อีกแล้ว

อีกแล้ว..
 
อีกแล้วโว้ยยยยยย ไม่ได้ตั้งตัวอีกแล้ว..
 
> ///////////// <
 
“ หึๆ ”
 
“ เออ ด่ากูโง่เถอะ! ” ผมเบ้ปากส่งให้มันที่หัวเราะผมอยู่ ก่อนหันหน้าหนีเพื่อปกปิดความอาย

   ผมลืมนึกไปว่ามันมีรถเก่งสีดำคันสวยคันหนึ่งด้วยหนิหน่า ตอนนั้นที่ผมไปเตะล้อรถมันแล้วโดนมันดุ ยังจำได้ไม่ลืม วันนี้มันคงเอารถคันนั้นมาสินะ..
 
“ งั้นก็เดินไปดิ ”
 
“ โอ๊ะ! เออ! ..สัดเอ้ย ” ผมกระแทกเสียงใส่มันทันที แต่กัดฟันด่าสัดเบาๆ เจ็บนะโว้ย ดูมันทำดิ ไม่พูดเปล่ายังเอาต้นแขนบึก ๆ นั้นมากระแทกต้นแขนผมเชิงให้ออกเดินตามมันไปอีก

   หนอยยย ต้นแขนก็ไม่ใช่เล็กๆนะ ต้นแขนมันกับผมขนาดต่างกันตามราคาขวดน้ำ มันขวด 13 บาท ส่วนผม ขวด 7 บาท ไอ้เหี้ย!


   เมื่อเดินออกจากห้างมาอาคารจอดรถชั้น 3 ผมก็เดินแซงไอ้พี่กรดมาจนเป็นคนเดินนำหน้าแทน ผมเดินตรงดิ่งมาที่รถของตัวเองทันที แต่ไม่วายมีคนเดินตาม ทำไมไม่เดินกลับไปที่รถตัวเองซักที
 
“ นี่! ไม่ต้องเดินมาส่งกูก็ได้.. กูจะกลับจริงๆนะ จะกลับแล้ว ”
 
   อะไรวะเนี่ย กลายเป็นผมต้องรายงานมันแทบทุกย่างก้าวของตัวเอง ให้ตายเถอะ TT
 
“ ไม่ได้เดินมาส่ง กูจะไปที่รถกู ”
 
ติ๊ดดดด
 
   ผมตาโตค้างอ้าปากหวอครั้งที่สิบ เมื่อไอ้พี่กรดมันกดรีโมทรถยนต์ของมัน และเสียงปลดล็อคที่ดังขึ้นก็เป็นรถยนต์คันที่จอดข้าง ๆ รถของผม พอหันกลับมามองหน้ามัน มันก็กระตุกยิ้มและยักคิ้วให้หนึ่งที่ให้อย่างพอใจ ><
 
อาย ><
 
อายนะโว้ยยยยยยยยยย
 
“ เอาของกูมาดิ ! ” ผมเอื้อมมือไปเพื่อให้คนอาสาถือของช่วยส่งกลับคืนมา ก่อนจะเปิดประตูรถด้านหลัง เอาของเข้าไปวางไว้ที่เบาะ พอจัดวางเสร็จผมก็ปิดประตูรถและเงยหน้าขึ้น ก็เจอมันยืนมองผมอยู่ที่เดิม
 
“ มึงกลับได้แล้วม้างงงง ” ผมอดทำเสียงกระแหนะกระแหนคนที่ยังยืนอมยิ้มอยู่ไม่ได้
 
“ ยัง ”
 
“ อะไรอีก? ”
 
“ เราจะเจอกันอีกมั๊ย? ”
 
   พอเหอะๆ รู้อยู่แล้วว่ากูกำลังหนี และหลีกเลี่ยงจากการเจอมึงอยู่เนี่ย ยังจะมาถามได้นะ ไอ้พี่กรด ><
 
“ ก็ไม่มีความจำเป็นที่ต้องเจอ ” ผมตอบไม่สบตา
 
“ เดี๋ยวมึงก็รู้.. ”
 
“ รู้อะไร O.O ” พอได้ยินมันพูดพร้อมกับกระตุกยิ้มแบบนี้ ผมก็ขนลุกขึ้นมาที่หัวแทบจะทันที ไม่รู้หรอกว่ามันจะพูดทำไม แต่ลางสังหรณ์ของผมก็เหมือนจะหนีไปไหนไม่พ้นจากมัน... 
 
“ มึงลืมอะไรไปนะขิม ”
 
“ ลืม.. ลืมอะไร? ” ผมชี้มาที่ตัวเอง และเลิกคิ้วถามด้วยความสงสัย
 
“ มึงลืมคืนเสื้อผ้ากูนะ วันที่มึงหนี.. ”
 
“ ว.. วันนั้นกูเปล่าหนีนะ! แล้วอีกอย่าง ..เสื้อผ้า? อะไรกัน มันตั้งนานแล้วจะเอาคืนอยู่หรือไง ” ผมรนรานในตอนแรก และทำหน้ายู่ถามมัน
 
“ ไม่หนีก็ไม่หนี หึๆ แต่เรื่องเสื้อผ้า กูอยากได้คืน ”
 
“ กะ.. กูทิ้งไปแล้ว ” ผมตอบเสียงเบา แล้วก้มเงยมองหน้ามันเป็นระยะๆ
 
“ ....... ” มันกลับมาทำหน้านิ่งอีกครั้ง แต่แววตาที่ไม่แน่นิ่ง จนผมดูไม่ออกว่าที่มันนิ่งๆไปเพราะโกรธหรือคิดอะไรอยู่กันแน่
 
เออ ..
 
   กลายเป็นว่ามันเงียบไปนานเลยอะ หรือมันกำลังไม่พอใจผมจริง ๆ ที่บอกว่าผมทิ้งเสื้อผ้ามันไปแล้ว แต่ความจริงผมยังไม่ได้ทิ้งตามที่พูดหรอก มันก็อยู่ในตู้เสื้อผ้าของผมนั่นแหละ
 
   หรือผมต้องคืนมันนะ แต่ผมไม่อยากเจอมันอีกบ่อยๆอะ..
 
“ มึง.. เงียบทำไมอะ? ” ผมอดไม่ได้ที่จะทำลายความแน่นิ่งด้วยการถาม และสะกิดมันเบาๆ
 
“ เปล่า กูแค่ไม่รู้จะพูดอะไรต่อ ”
 
ควรเป็นผมมั๊ย ที่รู้สึกแบบนั้น..

 
“ มึงไม่พอใจหรอ เออ.. ที่กูบอกว่าทิ้งเสื้อมึง ” จะบอกเลย ว่าผมทำตัวไม่ถูก คือไม่ชอบเวลาที่คนอื่นเงียบใส่นานๆ อ่ะ จนต้องเป็นคนเริ่มคุยก่อน
 
“ ไม่หรอก กูกำลังคิดว่าวิธีเรียกค่าชดเชยจากมึงอยู่..  หึๆ ”
 
   เอ้าาา

   ผมผงะเมื่อเห็นมันพูดหน้านิ่งในตอนแรก และเผยรอยยิ้มชั่วร้ายออกมาในตอนหลังเมื่อคิดอะไรบางอย่างออก

   มันมีแผนหรอเนี่ย!

“ ถ้าไม่โกรธก็ดี กูไปนะ.. ”
 
“ เดี๋ยวสิ ” เสียงห้ามเรียบๆ เล่นเอาผมเสียวหลังวาบ ไม่น่าเลย ไม่น่าถามมันเลย “ แล้วถ้ากูโกรธละ ถึงมึงจะบอกว่าจะทิ้ง แต่นั้นก็เสื้อผ้าใหม่ที่กูยังไม่ใส่ มียี่ห้อ และมีราคาพอสมควร ”
 
“ กะ..ก็ช่างมึงสิ โกรธก็โกรธ.. ”
 
“ .......... ” เอ้า! เกิดความเงียบขึ้นอีกครั้งครับท่านผู้ชมมม ><
 
“ นี่! มึงไม่ต้องมาโกรธมางอนกูหรอกนะ กูยังไม่ทิ้ง เดี๋ยวกูส่งมาคืนมึงแล้วกัน เอาที่อยู่มาดิ ” ผมรีบเอาโทรศัพท์ขึ้นมา เตรียมเข้าหน้าโน้ตยื่นให้มันพิมพ์ แต่ต้องชักมือกลับด้วยคำพูดต่อมาของมัน
 
“ กำลังง้อกูหรอ กลัวกูโกรธรึไง ^ - ^ ”
 
“ มะ.. ไม่ใช่โว้ย ” ผมบอกเสียงรนราน เมื่ออยู่ดีๆคนเข้าข้างตัวเองยิ้มออกมาแบบนั้น >< ไม่ใช่สักหน่อย แต่ที่จะคืนให้เพราะคิดว่ามันอยากได้คืนจริง ๆ ก็เท่านั้น หรือผมต้องซื้อเสื้อผ้าใหม่คืนมันนะ.. ?
 
“ ให้กูซื้อคืนก็ได้ กลับเข้าไปเลือกเดี๋ยวนี้เลย ป่ะ! ” ผมพยักหน้าจากการตัดสินใจของตัวเอง แต่มันส่ายหน้าปฏิเสธผม ก่อนจะกระตุกยิ้มมากับท่าทีของผม

   แหมมมม ถ้าผู้หญิงเห็นรอยยิ้มกระตุกใจของมัน ก็คงตกหลุมพรางเสน่ห์เหลือล้นนั้นอะ นะ ตะ.. แต่ผมไม่ใช่.. ผมเลยมองมันด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความสงสัย ยิ้มอะไร?
 
“ หึๆ น่า..อีกแล้วนะ ”
 
“ หะ.. ” ไม่ได้ยิน พูดงึมงำอีกล่ะ!
 
“ หึๆ เอาเป็นว่าไม่ต้องซื้อใหม่ แค่เอามาคืนกู ”

   ผมลังเล และยังมองหน้ามันนิ่งๆ พยายามใช่สติและคิดดีๆ ถ้าตอนนี้รับปากไปก่อน พอหนีกลับได้ก็ไม่ติดต่อไปโผล่ไปให้มันเห็นจะดีมั๊ยนะ แต่ซวยแน่ๆ ถ้าผมทำแบบนั้น เพราะถ้าหนีไม่พ้นมันมาเจอผมอีกแบบวันนี้ อาจต้องโดนมันเอาคืนแน่ๆ
 
“ อะๆ ก็ได้ เอาที่อยู่มึงมาดิ เดี๋ยวส่งไปคืน ”
 
“ มึงก็มาคืนด้วยตัวเองดิ ที่อยู่กูมึงก็รู้หนิ เคยมานะ.. ”
 
“ เออๆ ไม่ต้องพูดมากได้มั๊ย! แต่กูไม่ได้มีเวลาขนาดนั้น ” ผมเผลอนิ่งค้างมองมันตาโต ก่อนรีบแทรกขึ้นทันทีก่อนที่มันจะพูด และเรียกร้องอะไรไปมากกว่านี้
 
“ แค่นี้กลัว? ขี้ขลาดว่ะ.. ”
 
“ จิ! เออ! กูจะเอาไปคืนให้ โอเคหรือยัง! ” -///-
 
“ หึๆ โอเค ก็ต้องเห็นมึงอยู่หน้าห้องกูนะ ห้ามฝากรปภ. ห้ามฝากไว้เคาน์เตอร์ ”
 
   จิ! เชี่ยล่ะ ไหนว่าจะใช่สติไง

   จะทำไงได้ทีนี่ มันเล่นพูดดักทางผมไว้หมด ผมไม่น่าไปรับปากเลย ให้ตายเถอะ ๆ เพราะกลัวคนว่าให้ว่าตัวเองเป็นคนขี้ขลาดแท้ ๆ เลย ไอ้เหี้ยขิม! >=<
 
“ เออๆ ไว้กูเอาไปให้แล้วกัน .. กลับละ > + < ” ผมพูดแล้วรีบเดินไปเปิดประตูรถฝั่งคนขับ ก่อนเข้าไปนั่งเตรียมสตาร์ตรถทันที
 
ก๊อกๆๆๆ
 
   ผมมองออกไปนอกกระจก เห็นแค่ส่วนอกถึงท้องและมือถึงต้นแขนของคนที่กำลังเคาะกระจก ผมหลับตาปรี๋ หายใจเข้าลึกๆ และถอนหายใจออกมาพู่ใหญ่ ก่อนลืมตาขึ้น ผมตัดสินใจค่อยๆ เลือนกระจกลงครึ่งหนึ่ง ไม่นานหน้าหล่อๆของมันก็ก้มหน้าลงมาหา เป็นอีกครั้งที่หน้าเราใกล้กันมากๆ -//////- มันมองหน้าผมก่อนจะกระตุกยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา จนผมอดเลิกคิ้วสงสัยไม่ได้ ....อะไรอีกนะ
 
“ กวนตีนหรือไง? มีอะไรก็พูดมาดิ ”
 
“ เปิดดูที่โทรศัพท์มึงด้วย เฟสบุ๊ค.. ”

- _ - ?
 
“ แล้วก็.. ” มันพูดพร้อมกับก้มหน้ากดโทรศัพท์ของตัวเอง
 
“ ......... ”
 
- o –
 
“ อะไร ? ” ผมทำหน้าสงสัยมากมาย แต่ไอ้พี่กรดมันก็ไม่ยอมพูด หรือบอกอะไร ทำเพียงแค่ส่งสายตาเลือนไปที่กระเป๋าให้ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเอง ผมพยักหน้าส่งๆอย่างรำคาญแล้วรีบเอื้อมมือไปควานหาโทรศัพท์ในกระเป๋า เฮ้อ!
 
 
ตื้อดึง
Krod Kirin ส่งคำขอเป็นเพื่อนคุณ
ยืนยัน                ลบคำขอ

O. o ดะ.. เดี๋ยว
 
“ รับแอดเฟสบุ๊คกูด้วย ”
 
“ หะ... ” ผมเห็นนะเมื่อกี้ผมก็อ่าน แจ้งเตือนจากเฟสบุ๊คที่มีคนแอดมา แต่อึ้งอยู่จนไอ้พี่กรดมันพูดขึ้นมานี่แหละ ‘รับแอด’ Krod  Kirin หมายถึง กรด? มันหรอเนี่ย! ! ><
 
“ กดยืนยันนะ ”
 
O.O
 
“ มะ.. มึงแอดมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ? ” ผมรวบรวมสติได้ และรู้ว่าคนที่แอดมาไม่ใช่ใครที่ไหนนอกจากคนตรงหน้านี่แหละ
 
“ 15 วินาทีที่แล้ว ” ไม่ได้ต้องการคำตอบ ไอ้บ้า!
 
“ กะ.. กูไม่รับ ”
 
“ ว่าไงนะ ? ”
 
“ มะ.. ไม่รับ ”

“ หึๆ ”

   ผมรีบกดเลือนกระจกขึ้น แล้วขับรถหนีออกมาจากตรงนั้นทันที เป้าหมายของผมก็คือบ้าน ผมต้องกลับบ้านก่อนตอนนี้ ผมนึกถึงเมื่อกี้ที่ผมขับรถออกมา >< รู้แค่ว่าไอ้พี่กรดมันยอมก้าวถอยหลัง ขยับเปิดทางให้รถผมขับออกมาทันที และสิ่งสุดท้ายที่ผมเห็น.. ผมเห็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์นั้นด้วย

   อ๊ากกกก ผมไม่รับ รับไม่ได้ โชคดีที่เฟสบุ๊คผมไม่ได้เปิดเป็นสาธารณะ การที่จะรับรู้หรือเห็นโพสต์สเตตัสของผมต้องเป็นเพื่อนกันหรือติดตามเท่านั้น


-150%- จบตอนสิบ


#จับรัก #กรดขิม

TBC.

เขินกันยัง นี่เขินมาก

ขอบคุณทุกๆคอมเม้นท์นะคะ และขอบคุณที่ติดตามค่ะ
 ฝากติดตามตอนต่อไปด้วยนะคะ ❤︎


ʢᵕᴗᵕʡ
...ช่องทางติดต่อ...
มาคุยกันได้ที่ทวิตเตอร์ของพิมเอง

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-05-2018 13:42:12 โดย pipimSCHT »

ออฟไลน์ hunya

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 25
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
พี่กรดเป็นใคร พี่กรดรู้อะไร พี่กรดต้องการอะไรกันแน่ พี่กรดชอบขิมหรือไม่ พี่กรดทำเราเขิน ทั้งๆที่เราไม่รู้เรื่อง55555 :katai4: :katai4:


ออฟไลน์ baibobo

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 8
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ทั้งเถียงกัน ทั้งยิ้มกัน เราก็ยิ้มตาม
กรดต้องมีแผนอะไรรึป่าว

ออฟไลน์ Domino22

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 7
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
โอยยย น่ารัก เราเขิน :katai1:
ขอพี่กรดที่หนึ่งค่าาาา



ออฟไลน์ samon3265

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 4
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2590
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ golove2

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +277/-6
แน่ใจหรอน้องขิม
ที่จะไม่รับแอดเฟสพี่กรด

ออฟไลน์ patsakon

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 236
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-2

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด