❤❤ มาดามใจ ❤❤ {Chapter12 ไม่ต้องมีคำบรรยาย} 18/02/2561 UP!! หน้า3
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ❤❤ มาดามใจ ❤❤ {Chapter12 ไม่ต้องมีคำบรรยาย} 18/02/2561 UP!! หน้า3  (อ่าน 15963 ครั้ง)

ออฟไลน์ MysteriOuS

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 11
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ชอบเรื่องนี้ คนเขียนสู้ๆนะคะ  o13 :-[

ออฟไลน์ Al2iskiren

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1789
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-3
กรี๊ดดดดดดด เขินแรงงง เขินแทนชล
 :-[ :-[

ออฟไลน์ yehatt

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 11
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0

ออฟไลน์ kenghan

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1440
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-2
ชลจะว่ายังไงล่ะทีนี้

ออฟไลน์ พระจันทร์ยิ้ม

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 4
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0

อ๋อยยยยย
 :hao7:
 
:pig4: :pig4: :pig4:









ออฟไลน์ Pisoi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 241
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
เขินไหมล่ะชล เราอ่านเรายังเขินเลย  :hao7:

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
 :L2: :L1: :pig4:
เย้ เย้ บอกแล้ว

ออฟไลน์ ฟองดูว์

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 93
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-3


Chapter10


รอฟังคำนั้น
(ตะวัน)











บอกไปแล้ว


ความรู้สึกตลอดหนึ่งปีกับอีกหกเดือน ผมบอกคนตรงหน้าไปแล้ว


ชลไม่ได้หันกลับมามองผม ผมได้แต่มองแผ่นหลังเล็กนั่นที่ยังคงนิ่งไม่ไหวติง


ทุกอย่างดูเงียบสงบจนได้ยินเสียงหัวใจของตัวเอง เสียงหัวใจที่เต้นถี่รัวเหมือนจะหลุดออกมานอกอกให้ได้


ไม่รู้ว่าชลจะทำหน้าแบบไหน ไม่รู้ว่าเขาจะรู้สึกยังไงแต่ที่ผมรู้ตอนนี้คือข้อมือที่ผมเคยจับหลุดออกจากการเกาะกุมในเวลาต่อมาพร้อมกับที่เขาค่อยๆเดินห่างผมออกไป


เหมือนโลกนี้มันแตกสลายลงไปต่อหน้าต่อตา


“บ้าเอ๊ย!! ไอ้ตะวัน”


ได้แต่สบถกับตัวเองหลังจากแผ่นหลังเล็กหายไปจากกรอบสายตา เหม่อมองไปยังตึกที่อีกคนเดินขึ้นไปแล้วก็พาลจะทำให้น้ำตาลูกผู้ชายไหล


ทำไมเขาถึงเงียบ


ทำไมถึงไม่หันมาถาม


ทำไม


ทำไม


และทำไม


ในหัวมีแต่คำถามเต็มไปหมด ถ้าหากนี่คือการปฏิเสธ มันคงเป็นกรปฏิเสธที่ทำให้ผมเจ็บเจียนตายยิ่งกว่าที่รู้ว่าเขามีแฟน


กลับไปกินแห้วเหมือนเดิมอีกแล้วสินะ


ไม่มีแรงจะปั่นจักรยานที่ตั้งใจซื้อมาให้เขาซ้อนกลับคณะของตัวเอง ได้แต่ทรุดตัวลงช้าๆเสมือนพระเอกเอ็มวีนั่งลงบนฟุตบาทหน้าคณะของเขา


ความรู้สึกตอนนี้เหมือนโลกทั้งใบถล่มลงมา รู้สึกเจ็บและจุกจนไม่สามารถพูดบอกอะไรกับใครได้ แม้แต่ยิ้มให้คนอื่นที่เดินผ่านไปมาอย่างที่ชอบทำยังทำไม่ได้เลย


เป็นเอามากแล้วไอ้ตะวัน


นั่งไปสักพักก็ลุกขึ้นตั้งหลักใหม่ ในเมื่อเขายังไม่พูดหรือปฏิเสธตรงๆ ผมก็ยังพอมีหวัง หวังที่อาจจะมีเพียงหนึ่งเปอร์เซ็นก็ยังคงเป็นความหวัง หวังว่าหนึ่งเปอร์เซ็นนั่นจะทำให้ผมเจ็บน้อยลงกว่าที่เป็นอยู่ล่ะนะ











กว่าจะปั่นจักรายานมาถึงคณะตัวเองก็แทบหมดเรี่ยวหมดแรง ถ้าให้ปั่นจักรยานแข่งกับหอยทากเดิน ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าหอยทากคงจะชนะแน่นอน


ถ้าไอ้เพื่อนสองตัวมันเห็นผมปั่นจักรยานแบบนี้ มันคงบอกให้ผมลงเดินแล้วจูงจักรยานคงจะเร็วกว่า


จอดจักรยานไว้ที่มุมหนึ่งของตึกก่อนจะเดินเหมือนคนไร้วิญญาณเข้าไปหาเพื่อนทั้งสองคนที่กำลังแย่งลูกชิ้นไม้สุดท้ายกันอยู่


“ไอ้ตะวันมาพอดีเลย งั้นให้มันเถอะ”


ลูกชิ้นหมูราดน้ำจิ้มสูตรเด็ดถูกยื่นมาตรงหน้า แต่นายตะวันที่กำลังเฮิร์ตอยู่นั้นกลับมองเมินเหมือนของไร้ค่าก่อนจะทรุดตัวลงนั่งข้างๆเติ้ลที่มองตามการกระทำผมอย่างงงๆ


“เป็นไรวะมึง?”


ใหญ่ทำเนียนกินลูกชิ้นที่แย่งกันกับเติ้ลเข้าไปอย่างรวดเร็ว ไอ้เติ้ลก็ไม่ได้สนใจอะไรมันนอกจากหันมามองแล้วถามอาการของผม


“อกหัก”


“เฮ้ย!!”


เสียงอุทานของเพื่อนทั้งสองดังก้องไปทั่วตึกคณะนิติศาสตร์ คนที่นั่งหรือเดินผ่านไปมาหันมามองที่ที่พวกเรานั่งอยู่ ไอ้เติ้ลกับไอ้ใหญ่ค้อมหัวขอโทษแล้วยิ้มแหยๆส่งให้ก่อนสายตาหลายคู่นั้นจะหันกลับไปไม่สนใจพวกเราอีก


“อะไรยังไงวะมึง” 


ใหญ่ถามต่อด้วยวามอยากรู้ ทิ้งไม้ลูกชิ้นที่กินหมดแล้วไว้ในถุงขยะก่อนจะหยิบน้ำขึ้นมาดื่มอย่างสบายอารมณ์


นี่ที่มึงถามเพราะเป็นห่วงหรือแค่มารยาทไอ้ใหญ่


“กูบอกชอบเขาแล้ว”


เพื่อนทั้งสองนิ่งค้างพร้อมกับก้มหน้าสงบนิ่มไว้อาลัยให้ผมที่ตอนนี้เหมือนคนตายทั้งเป็น


โว๊ะ! ไม่ขนาดนั้นไม่ล่ะไอ้เพื่อนเลว


“แล้วเขาก็ปฏิเสธมึงงี้หรอวะ?”


เติ้ลถามแล้วหยิบขนมปังในถุงเซเว่นขึ้นมาแกะกิน ป้อนไอ้ใหญ่คำกินเองคำ


ผมเห็นแล้วก็อยากจะบอกว่าพวกมึงไปกินให้อิ่มกันก่อนไหมแล้วค่อยมาคุยกับกู


แต่ก็ได้เพียงแค่คิดเพราะกำลังสำเหนียกตัวเองอยู่ว่ากูกำลังเฮิร์ตและเศร้าหนักมาก จะมาเล่นมุกโวยวายอะไรแบบนี้ไม่ได้ ขอคีพลุคสักสิบยี่สิบนาทีก่อน


“ไม่รู้ว่ะ เขาไม่ได้พูดอะไร เดินขึ้นตึกไปเรียนเฉยเลย”


คิดถึงภาพนั้นแล้วอยากจะดิ้นทุรนทุรายลงกับพื้น


“นกแน่ๆ” เสียงจากเติ้ลเพื่อนชั่ว


“แดกแห้วอีกแล้วมึง” เสียงจากใหญ่เพื่อนเลว


“พ่อง!!” เสียงจากตะวันคนที่อกหักมาหมาดๆ


ฮือออ พูดแล้วมันsad จะcryตอนนี้ก็ดูไม่คูล


“มึงอย่าพึ่งคิดเองเออเองดีกว่าว่ะตะวัน ชลอาจจะรีบขึ้นไปเรียนก็ได้เลยไม่ได้พูดกับมึง”


ตอนแรกผมก็คิดเหมือนไอ้ใหญ่มันนั่นแหละครับ แต่ถึงรีบยังไงมันก็ต้องหันมายิ้มหันมามองหน้ากันบ้างสักนิดป่าววะ


“เออกูเห็นด้วยกับไอ้ใหญ่ มึงรอตอนเที่ยงดีไหมยังไงก็ต้องไปกินข้าวด้วยกันอยู่แล้ว”


“อือ”


ตอบรับในลำคอพร้อมกับไหลตัวไปกับโต๊ะอย่างหมดเรี่ยวแรง














เวลาที่ผมรอคอยมาถึงอย่างเชื่องช้าและมันก็มาถึงในที่สุด โรงอาหารกลางที่มีขนาดใหญ่กว่าโรงอาหารคณะผมมีเสียงพูดคุยดังเจื้อยแจ้วเป็นปกติ


เสียงป้าขายข้าวแกงตะโกนถามนักศึกษาที่ยืนต่อแถวอยู่ เสียงนักศึกษาที่ตะโกนตอบกลับไปดังไม่แพ้กัน ถ้าปกติคงจะนั่งมองภาพนั้นด้วยความเพลิดเพลินแต่วันนี้อารมณ์มันดิ่งลงเหว


แค่ได้ยินเสียงแมลงวันบินผ่านก็แทบเอามือไปตะปบมันแล้วขยี้แรงๆให้ตายคาฝ่ามือ


จากคนที่แสนดีและยิ้มเก่งกลายเป็นคนบาปหนาไปชั่วพริบตาเดียว


ผมและเพื่อนอีกสองคนมาถึงโรงอาหารก็แยกกันไปซื้อข้าว มีผมคนเดียวที่นั่งเฝ้าโต๊ะไว้และให้ไอ้ใหญ่เป็นคนซื้อข้าวมาให้


นั่งรอจนเพื่อนมาก็ยังไม่เห็นวี่แววว่ากลุ่มของชลจะมาสักที หรือเขามีเรียนตอนนี้นะ เรื่องนี้ผมก็ไม่รู้เหมือนกันอ่ะดิ ตารางเรียนของชลผมไม่เคยรู้ไม่เคยเสาะหาหรอก ทุกครั้งที่เขามีเรียน เนมก็จะส่งข้อความมาบอกตลอดแต่วันนี้กลับมีแต่ความเงียบ...


เงียบทั้งกลุ่มเลยให้ตาย


“กินข้าวก่อนเหอะมึง เขาอาจจะเรียนอยู่ก็ได้”


เติ้ลบอกเมื่อเห็นผมเอาแต่ชะโงกหน้าไปที่ทางเข้าโรงอาหาร ข้าวราดแกงที่เพื่อนซื้อมาก็เริ่มจะเย็นชืดลงไปทุกที


“เขาต้องเกลียดกูแน่ๆเลยว่ะ”


ว่าแล้วก็เขี่ยข้าวเล่นเหมือนเด็กที่แม่บังคับให้กินข้าว เพื่อนทั้งสองหันมามองหน้ากันอย่างพร้อมเพรียงก่อนไอ้ใหญ่ที่เคี้ยวข้าวคำสุดท้ายเสร็จจะเอ่ยขึ้น


“เขาบอกแล้วเหรอว่าเกลียดมึง?”


ไม่รู้อ่ะ รู้แค่ไม่อยากให้เกลียด  ถ้าไม่ชอบเดี๋ยวจะทำให้ชอบเอง แต่ถ้าเกลียดแล้วจะกลับมาชอบได้บ้างหรือเปล่าก็ไม่รู้


“ไม่ เขายังไม่ได้พูดอะไรกับกูเลย”


“ก็นั่นไง แล้วมึงจะไปคิดแทนเขาทำไมวะ?”


“ก็กู--”


“เอาเหอะๆ กูเข้าใจว่ามึงชอบเขามากแต่ถ้ามึงยังทำร้ายตัวเองด้วยการไม่แดกข้าวแบบนี้มึงจะเป็นโรคกระเพาะตายห่าไปก่อนที่เขาจะได้พูดอะไรกับมึงนะครับสัด”


โรคกระเพาะตายห่าได้ด้วยเหรอครับ?


แต่เพื่อนผมมันพูดผิดไปอย่างนะจากที่ฟังมา


“กูไม่ได้ชอบเขา”


“...”


“กูรักเขาต่างหาก”


เท่านั้นแหละครับ เพื่อนรักทั้งสองก็ลุกออกจากโต๊ะโดยไม่ได้นัดหมาย ทิ้งผมไว้เคว้งคว้างอยู่คนเดียว


รู้ล่ะน่าว่าพวกมันไปซื้อน้ำอ่ะ


โถ่ะ!!



รอจนหมดเวลาพักของผมก็ไม่เห็นว่าคนที่ต้องการเจอจะมาสักที สุดท้าก็เดินคอตกกลับคณะไปด้วยความเศร้าใจ


พอเรียนเสร็จผมก็ไปดักรอเขาหน้าคณะ รอจนถึงหกโมงก็ไม่เห็นชลและเพื่อนของเขาสักที ทุ่มหนึ่งก็แล้วผมก็ยังนั่งตบยุงรอเขาอยู่อย่างนั้น บอกแล้วไงว่าผมไม่รู้ตารางเรียนของเขา ผมจึงได้เอาแต่นั่งรอเหมือนคนโง่ที่รู้ทั้งรู้ว่าเขากลับไปนานแล้ว


สุดท้ายก็กลับห้องตัวเองด้วยจิตใจห่อเหี่ยว













วันที่สองผมตื่นแต่เช้าเพื่อมาดักเจอเขาหน้าคอนโด ผมว่าเจ็ดโมงมันเช้ามากแล้วนะและคิดว่าวันนี้คงได้เจอเขาแน่ๆแต่คงมั่นใจมากเกินไปเพราะเก้าโมงแล้วก็ยังคงไม่เห็นเขาเดินออกมาจากคอนโด ผมมีเรียนเก้าโมงครึ่งด้วยสิ ชั่งใจสักพักจึงตัดสินใจขึ้นรถตัวเองเพื่อไปเข้าเรียนให้ทันเวลา


เรียนเสร็จค่อยไปดักรอหนาคณะเขาเหมือนเดิมก็แล้วกัน


ทั้งที่คิดแบบนั้นแต่เหมือนโชคชะตาจะไม่เข้าข้างสักเท่าไหร่ เมื่อน้องรหัสที่ร้อยวันพันปีไม่เคยมาหากลับบอกผมว่าให้ไปติววิชาที่ต้องสอบพรุ่งนี้ให้หน่อย


ด้วยความที่เป็นคนดีศรีมหาลัยผมจึงรับปากและนั่นทำให้ผมไม่เจอกับชลเลยตลอดทั้งวัน


แต่ด้วยความหวังที่มีพียงนิดเดียว ตอนแรกมีหนึ่งเปอร์เซ็นต์ตอนนี้เริ่มลดลงเหลือศูนย์จุดห้าเปอร์เซ็นต์และมันจะลดลงเรื่อยๆถ้าผมกับชลยังไม่ได้คุยกันสักที


ผมมารอเขาที่คณะอีกครั้งในเวลาห้าโมงเย็น คณะของเขายังคงมีคนเดินพลุ่กพล่านแต่น้อยกว่าปกติเพราะเวลานี้คงเลิกเรียนไปเกือบหมดแล้ว


มองซ้ายมองขวาและสะดุดกับคนคุ้นตาที่กำลังทำตัวมีพิรุธหลบอยู่ตรงหลังเสาที่เขาคงคิดว่ามันใหญ่มากพอที่จะบังตัวเองมิด แต่ไม่เลย ผมเห็นเขาเต็มสองตา เห็นแม้กระทั่งตอนที่เขาสะดุ้งตกใจตอนสบตากับผม


“ชล”


มันน่าน้อยใจจริงๆนะที่พอมารู้ว่าเขาตั้งใจหลบหน้าเราแบบนี้


โถ่ เพนกวินเมืองไทยใจร้ายชะมัด


“อ่า...อ้าวตะวัน หวัดดี” ผมเดินเข้าไปใกล้ๆเขา ใกล้จนเห็นเหงื่อที่ผุดซึมตรงใบหน้าของเขา หน้าแบบนี้ที่ผมเอาแต่คิดถึง แค่วันเดียวเองก็คิดถึงจนแทบบ้า “เราขอตัวก่อนนะ พอดีมีธุระอ่ะ บายยยย”


พูดเองเสร็จสรรพก็ทำท่าจะเดินหนีผมอีกครั้ง เดินหนีอีกนี่จะจับมากอดไม่ให้หนีไปไหนได้เลยดิคอยดู


“ถ้าชลเดินหนีเราอีกจะจับมากอดจริงๆแล้วนะ”


โอ๊ะ เพนกวินเปลี่ยนสี นี่เพนกวินหรือกิ้งก่า ทำไมเปลี่ยนจากสีขาวเป็นสีแดงขนาดนี้


เปลี่ยนสีเพราะเขินหรือร้อนนะ


จะคิดเอาเองว่าเขินแล้วกัน คิดแบบนี้สบายใจและดีต่อใจมากกว่า


“ก...กอดบ้าอะไรเล่า เดี๋ยวก็ชกเอาหรอก”


ยกมือขึ้นมาตั้งการ์ด มือนุ่มขนาดนั้นไม่รู้จะเจ็บก่อนหรือจะฟินก่อนดี


“ชกดิ ชกเสร็จจะได้จูบ”


ว่าเสร็จก็ยื่นหน้าให้อย่างเสนอตัว present faceอย่างแท้จริง


“ฮึ่ย! มีไรอ่ะ รู้ไว้เลยนะไม่อยากคุยด้วย” 


ได้ยินแล้วมันเจ็บกระดองใจ


“ทำไมอ่ะ หรือโกรธที่บอกชอบ”


“...”


“ถ้าโกรธเรื่องนั้นตะวันขอโทษแต่ชลก็รู้ไม่ใช่เหรอว่าความรู้สึกมันห้ามกันไม่ได้อ่ะ”


“....”


“ไม่ได้ขอให้ชอบกลับ แค่อยากบอกว่าชอบจริงๆ ชอบจนจะบ้าตายอยู่แล้ว”


“..บ้า..”


“ใช่ต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ คนๆหนึ่งจะชอบใครอีกคนมากขนาดนี้ได้เลยหรอ ตะวันเคยถามตัวเองแต่ก็ไม่มีคำตอบ รู้อย่างเดียวแค่ชอบ ชอบจนเปลี่ยนเป็นรัก รักและอย่างดูแล”


“....”


“ไม่ได้ขอให้มาชอบตอนนี้ จะพยายามทำให้ชอบกลับเหมือนกัน แต่ไม่รู้จะสำเร็จไหม แต่จะลองพยายามดู”


“พูดจบยังอ่ะ?”


“ถ้าไม่อยากฟังจะจบให้ก็ได้ครับ”


พูดด้วยเสียงหงอยๆ เหมือนหมาโดนเจ้าของดุ


“ไม่เคยพูดว่าไม่อยากฟังนี่น่า”


“ก็—“


“ถ้าชอบก็จีบสิ ไม่เห็นจะมีใครห้ามเลย”


“แต่—“


“ก็ที่หลบหน้าเพราะเขินอยู่ไงเล่า ขอเขินสักวันสองวันไม่ได้หรือไง”


“โถ่ ถ้าเขินนานกว่านี้เราขาดใจตายขึ้นมาทำไง แค่นี้ก็คิดถึงจะแย่”


“เหรอ”


“ทำไม?”


“เปล่า ก็คงเหมือนกัน”


“อะไรอ่ะ?”


“คิดถึงเหมือนกัน”





ตู้ม


ระเบิดตัวกลายเป็นโกโก้ครั้นซ์



ต่างคนต่างเบือนหน้าหนีกันคนละทาง เขินจนไม่กล้าพูดอะไรออกมาเลยสักคำ ริมฝีปากก็แทบจะฉีกถึงท้ายทอย


บ้าจริงนี่ผมหุบยิ้มไม่ได้เลย


ความหวังที่มีอยู่ศูนย์จุดห้าเปอร์เซ็นต์เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว



ถ้าจะให้บอกว่าตอนนี้มีกี่เปอร์เซ็นต์ ไม่รู้สิ ตัวเลขทั้งจักรวาลยังกำหนดไม่ได้เลย







๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐




เอาให้เขินตายกันไปข้าง โถๆๆ
 :pig4:





« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-06-2017 17:19:44 โดย ฟองดูว์ »

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
โถ่~~~~~~~~ เขินซะตะวันใจแป้วไปถึงไหนแล้วชล!!! 55555555555

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
ชอบ ชล  ที่สุด มีพัฒนาการ
เปลี่ยนจากควาย กลายมาเป็นเพนกวิ้นที่น่ารักที่สุด
 :L2: :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ wan_sugi

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 587
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-2
เริ่มมาแบบดราม่านิดๆ แต่ตอนต่อๆ มา ออกแนวใสๆ อ่านได้ชิวๆ
เป็นกำลังใจให้ค่ะ

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4992
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7

ออฟไลน์ เพียงเพื่อน

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 175
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
อ้าววว หิ้วววววววววววววววววววววววววววววววววววววววว  :mc4: :mc4: :mc4: :mc4:    มาแล้วค่ะมาแล้ว ช็อทเด็ดประจำวัน 55555 ชอบ ความตู้มมม นี้

ออฟไลน์ ♥lvl♀‘O’Deal2♥

  • หานิยายถูกใจยากจัง!
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2665
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +176/-4
ความฟิลกู๊ดนี้ อร๊างงงง

ออฟไลน์ yehatt

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 11
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
 :mew5:

น่ารักไปแล้วววว
 :pig4:

ออฟไลน์ พระจันทร์ยิ้ม

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 4
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0

ออฟไลน์ ฟองดูว์

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 93
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-3




Chapter11


สภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน






วันจันทร์คือวันแรกของสัปดาห์ ไม่รู้ว่าทำไมมันสดใสกว่าทุกวัน คงเพราะมันเป็นวันจันทร์ที่อากาศสดชื่น เป็นวันจันทร์ที่ไม่วุ่นวายหรือจะเป็นวันจันทร์ที่มีตะวันอยู่ก็คง...ใช่


ผ่านมากว่าหนึ่งอาทิตย์นับตั้งแต่วันนั้นวันที่ตะวันสารภาพกับผม เราทั้งสองคนต่างทำตัวไม่ถูก พูดได้ไม่กี่คำก็พากันหน้าแดงแจ๋ทั้งที่ก็ต่างเคยมีช่วงเวลาแบบนี้มาแล้วแท้ๆแต่ทำไมพอเป็นตะวันกลับไม่เหมือนครั้งก่อนๆ


ตะวันก็คงไม่ได้ต่างจากผมมากนัก ผมสังเกตได้ว่าเขาชอบเกาจมูกตัวเองจนมันขึ้นสีระเรื่อ ก็ไอ้อาการเขินของเขาที่ชอบทำนั่นแหละและสงสัยคงจะเขินแรงเกินไปหน่อยเจอกันครั้งไหนจมูกแดงกลับไปทุกที




แต่ก็...น่ารักล่ะนะ




“เหม็นกลิ่นความรักอ่ะ” ประโยคที่ดังผสานเสียงกันของเพื่อนผมและเพื่อนตะวันทำให้ต้องก้มหน้าดูดน้ำจากหลอดเอาเป็นเอาตาย ส่วนตะวันผมไม่รู้หรอกแค่มองตาก็ใจสั่นจนแทบจะไปหาหมอหัวใจอยู่แล้ว


ก็ตะวันน่ะชอบทำสายตากรุ้มกริ่มจะตายไป ใครได้สบตาด้วยคงจะหมอบคลานยอมพลีกายให้เลยด้วยซ้ำ


“เขินเข้าไป วันนี้จะกินข้าวหมดกันไหมเนี่ยนั่งเขินกันอยู่นั่น” เนมถามผมกับตะวันที่นั่งเขี่ยข้าวกันเงียบๆ


“วาเห็นด้วย นี้ก็จีบกันมาตั้งอาทิตย์แล้วยังไม่เลิกเขินกันอีกหรอ?”


ถ้ามันเลิกเขินกันง่ายๆผมคงเลิกเขินตะวันไปตั้งนานแล้ว


ไหนๆก็ไหนๆแล้วขอฮาวทูเลิกเขินง่ายๆหน่อยสิครับ


“ก็กินข้าวอยู่จะให้พูดอะไรเล่า!” ผมให้คำตอบที่เพื่อนอยากรู้ ก็พ่อกับแม่สอนมาว่าเวลากินข้าวห้ามคุยกัน ผมก็ปฏิบัติตามที่ท่านสอนมามันจะแปลกตรงไหนกันล่ะ


“เขินแล้วเกรี้ยวกราดนะครับ” ถลึงตาใส่ตะวันที่พูดแซวผมแต่ก็ต้องกลับมาดูดน้ำจากหลอดอีกครั้งเมื่ออีกคนส่งสายตาเจ้าชู้มาให้


ใครสั่งใครสอนให้ทำสายตาแบบนั้นกันนะ


นิสัยไม่ดี!


“มีความอีกคนแซวอีกคนเขินนะครับ แหมๆ” ใหญ่พูดขึ้นต่อหลังจากผมเอาแต่ก้มหน้าดูดน้ำ


“อยากจะแหมให้ถึงโลกหน้าเลยครับคุณ” ส่วนเติ้ลก็เป็นลูกคู่ให้อย่างดี


เอาเถอะอย่าให้ถึงคราวผมบ้างแล้วกันจะแซวยันลูกบวชเลยคอยดู!


ด้วยความที่เขินแรงไปหน่อยน้ำในแก้วของผมที่เอาแต่ดูดตอนเพื่อนแซวก็หมดทั้งๆที่พึ่งซื้อมาแท้ๆเลย


ผมหนีความวุ่นวายที่โต๊ะกินข้าวมาซื้อน้ำอีกครั้งโดยมีตะวันติดสอยห้อยท้ายมาด้วย


นี่ก็อีกคน โดนเพื่อนแซวก็เอาแต่ยิ้มรับ มันน่านักไหมล่ะ ฮึ่ย!


“ชลรอด้วย”


“แล้วตะวันจะเดินตามเรามาทำไมล่ะ”


“ก็...เดินตามมาจีบ”


“ไอ้บ้า!”


ใครสั่งใครสอนให้พูดแบบนี้ก็ไม่รู้ ว่างเป็นไม่ได้ต้องคอยหาเวลาหยอดจนคนที่โดนหยอดก็เขินจนแทบทนไม่ไหว อีกนิดจะเข้าไปแอดมิดโรงพยาบาลแล้วนะ


“มันจริงนี่นา”ตะวันเดินมาอยู่ข้างผมก่อนจะพูดต่อ “จีบต่อหน้าเพื่อนก็กลัวชลจะเขิน”


“...” อยากจะบอกเหลือเกินว่าแค่ต่อหน้ามดตัวเดียวผมก็บิดจนไม่รู้จะบิดยังไงแล้ว


“ไม่อยากให้ใครเห็นชลหน้าแดง” ตะวันหันมามองหน้าผม “น่ารักเกินไปจนแทบบ้าเลย”


ครับ ถ้าจะพูดกันอย่างนี้ก็ให้ตะวันเอามีดมาแทงผมเถอะ


“..บ้า..”


ผมหันหน้าไปมองตะวันที่ยืนเกาจมูกตัวเองเก้อเขิน มองแล้วก็ได้แต่ยิ้มตามแต่ถึงยังไงหน้าผมก็แดงเท่าๆกับตะวันล่ะนะหรืออาจจะมากกว่าเลยด้วยซ้ำ


พอเถอะ ผมว่าเราชักจะหมกมุ่นเรื่องนี้เกินไปแล้ว


ขออนุญาตไม่เล่าตอนตะวันเขินแล้วกันนะครับ มันน่ารักเกินไปจนผมกลัวว่าทุกคนจะหุบยิ้มกันไม่ได้ซะก่อน











เย็นนี้ผมมีนัดกับสายรหัส พอดีว่าพี่รหัสเกิดอยากเลี้ยงขึ้นมา ผมก็เลยต้องยอมไปตามคำเชิญชวนแกมขอร้องเพราะพี่รหัสรู้ว่าผมเป็นเด็กอนามัยสี่ทุ่มเป็นต้นไปก็ปิดไฟนอน


สถานที่นัดก็ไม่ใช่ที่ไหน ร้านหมูกระทะหลังมหาลัยที่มีน้ำจิ้มสูตรเด็ดที่ทุกคนต้องไปลองและสารถีที่ทำหน้าที่ไปส่งผมวันนี้ก็คือตะวัน ตั้งแต่เริ่มจีบผมเขาก็คอยรับคอยส่งผมทุกวันจนเพื่อนๆบอกให้คบๆกันไปเลย


อืม...ขอเล่นตัวอีกสักนิดเถอะ


พอดีว่าเข็ดกับความรักมามากพอแล้วและอยากขอให้ครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งไหนๆ ที่คิดแบบนั้นคงเป็นเพราะครั้งนี้คือผู้ชายที่ชื่อตะวันล่ะมั้งครับ


“ยืนคิดอะไรอยู่คนเดียวครับ?”


เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นมาจากข้างหลังก่อนที่ผมจะหันไปแล้วเห็นตะวันยืนยิ้มอวดลักยิ้มที่ข้างแก้มซ้ายอยู่


“มาตั้งแต่เมื่อไหร่อ่ะ?”


“พึ่งมา”เขายกมือขึ้นมาก่อนจะหยิบใบไม้ที่ติดผมของผมออก “มาถึงก็เห็นชลยืนเหม่อคนเดียว”


“ไม่ได้เหม่อซะหน่อย” ผมเถียงกลับ แค่คิดอะไรนิดหน่อยเท่านั้นเอง


“ครับๆไม่เหม่อก็ได้ครับ” ตะวันโยกหัวผมเล่นแต่ผมก็สะบัดหัวให้มือเขาหลุดออก ชอบทำเหมือนผมเป็นเด็กทุกทีเลย “แล้วนี่เพื่อนไปไหนหมด”


“กลับกันหมดแล้ว”


“ขอโทษนะที่มาช้า” ตะวันเอ่ยเสียงหงอย


“ก็บอกแล้วไงว่ารอได้” ผมจิ้มจมูกเขาแรงๆด้วยความหมั่นไส้ล้วนๆ “พอๆหยุดทำหน้าหงอยได้แล้วเดี๋ยวก็ไม่หล่อหรอก”


แค่นั้นรอยยิ้มที่ผมชอบมองก็ปรากฏบนใบหน้าของเขาอีกครั้ง


“งั้นไปกันเลยเนอะ”


“อื้อ แต่กว่าจะถึงเวลานัดก็อีกตั้งสองชั่วโมงเลย”


“อ่า...งั้นจะไปไหนกันก่อนดีล่ะ”


“ไปแปลงผักเกษตรกันไหม? ปั่นจักรยานไป...นะ”


“พูดขนาดนี้แล้วใครจะปฏิเสธลง” เขายกยิ้มขึ้นอีกครั้งแต่ถ้าให้พูดกันตามจริงแล้ว ตะวันยิ้มตลอดเวลาเลยต่างหาก “เสียงอ้อนขนาดนั้น”


“เขินล่ะสิ” ผมยกนิ้วขึ้นจิ้มจมูกแดงๆของเขาอีกครั้ง


“อย่างที่เห็น” ตะวันตอบเสียงอ้อมแอ้ม


“ฮ่าๆ ไปๆเดี๋ยวจะเสียเวลาไปมากกว่านี้”








หลังจากนั้นผมกับตะวันก็พากันปั่นจักรยานมาแปลงผักของคณะเกษตรโดยที่มีตะวันเป็นคนปั่นและผมเป็นคนซ้อน คงจะเป็นภาพชินตาของใครหลายๆคนไปเสียแล้ว


“มาอีกแล้วพวกมึง” เสียงแทนไทตะโกนลั่นออกมาจากที่ไหนสักแห่งที่ผมก็ไม่สามารถบอกได้เพราะผมก็ยังคงมองไม่เห็นเขาเหมือนกัน “มาทีไรผักกูหายทุกที”


“แทนไทอยู่ไหนอ่ะ” ผมตะโกนถามกลับ


“เรื่องของกู”


อ่า...ผมไม่ควรถามเขาตั้งแต่แรกสินะ


“แทนมึงนี่กวนตีนตลอดเลยนะ” ตะวันที่พึ่งจอดจักยานเสร็จเดินมาหยุดยืนข้างๆผม


“เสือก”


“ไอ้สัด”


ผมยกมือขึ้นมาตีปากตะวัน ไม่ได้จะห้ามหรืออะไรแต่คำว่าสัดมันเต็มหน้าผมเลยเนี่ย


“ชลตีเราทำไมอ่ะ เจ็บนะ” เขายกมือขึ้นมาจับปากตัวเอง ทำปากยื่นปากอูมเหมือนเด็กที่กำลังจะร้องไห้เมื่อโดนแม่ตี


“หงอเลยมึง กลัวเมียนี่หว่า” แทนไทที่ไม่รู้โผล่มาจากไหนพูดขึ้นเลยโดนตะวันโกหัวไปหนึ่งที เห็นแบบนั้นก็อยากจะฝากตะวันโบกให้อีกสักทีสองทีเหมือนกัน


จากนั้นทั้งคู่ก็กลายร่างเป็นเด็กสามขวบ วิ่งไล่เตะไล่ต่อยกันทั่วไล่จนผมล่ะเวียนหัว พามาเจอกันทีไรก็ทะเลาะกันเหมือนเด็กอนุบาลทุกทีเลยสิน่า


“พอแล้วๆ” ผมตะโกนบอกตะวันที่วิ่งไล่เตะแทนไทเพราะโดนแทนไทโยนไส้เดือนมาใส่


คือก็ไม่อยากจะเล่าสักเท่าไหร่ว่าจะวันเป็นมนุษย์ที่กลัวไส้เดือนที่สุดในโลก พอแทนไทรู้ก็ชอบขุดจากดินแล้วเอามาวิ่งแกล้งตะวัน ตะวันผู้ไม่เคยเกรงกลัวอะไรก็แทบจะปีนหนีขึ้นต้นไม้ด้วยซ้ำ ดีที่ผมห้ามพวกเขาไว้ทันซะก่อน


คิดแล้วก็ตลกเหมือนกันนะ ผู้ชายตัวโตๆกลัวไส้เดือนเนี่ย


“ชลดูแทนมันดิ ชอบแกล้งเราอ่ะ” ตะวันพูดไปด้วยหอบไปด้วยไม่ต่างจากแทนไทที่ยืนหอบอยู่ข้างกัน


“ขี้ฟ้องสัด เดี๋ยวกูเอาไส้เดือนยัดปาก” พอได้ยินแทนไทพูดแบบนั้นตะวันก็รีบเอามือขึ้นมาตะครับปากพลางมองแทนไทด้วยความระหวาดระแวง


เอ้อ เอากับพวกเขาสิ นี่เด็กมหาลัยจริงๆใช่ไหมครับ


“พอๆกันทั้งคู่นั่นแหละ”


“ชลอ่ะ” ตะวันทำหน้าบึ้งอีกครั้งก่อนจะโดนแทนไทดีดหน้าผากแล้ววิ่งหนีหายไปที่ห้องเก็บอุปกรณ์


กว่าจะถึงเวลานัดหมายก็ทำเอาผมแทบหัวหมุน จะใครทำซะอีกครับถ้าไม่ใช่เด็กโข่งที่เอาแต่วิ่งไล่เตะกันทั้งสองคน พอๆกันทั้งคู่เลยเถอะ


“ไสๆหัวไปได้แล้ว”


“เออ กูก็ไม่อยากเห็นหน้ามึงหรอก”


“ชิ้ว!”


สองคนนี้เขาก็เป็นเพื่อนที่ดีต่อกันนะครับแต่เวลาเจอกันทีไรไม่รู้ทำไมชอบทำตัวเหมือนเด็กกันทุกที










ตะวันมาส่งผมก่อนเวลานัดสิบนาทีและพอดีกับที่พี่รหัสผมเขาก็พึ่งมาเหมือนกัน เราเลยเจอกันโดยบังเอิญที่ลานจอดรถ


“สวัสดีครับ” ผมกับตะวันยกมือขึ้นไหว้พี่รหัสของผม


“เออ มาเร็วเหมือนกันนะเรา”


“ครับ นานๆพี่จะเลี้ยงสักทีนี่นา”


“ถ้าพี่นานแล้วไอ้ปู่รหัสนี่เรียกว่าอะไร?”


“ฮะๆ พูดถึงปู่ก็ไม่ได้เจอนานแล้วนะครับ เขามาไหมอ่ะ?”


“มาแหละ ของฟรีมีหรือมันจะพลาด”


คือปู่รหัสกับพี่รหัสผมเขาเป็นลูกพี่ลูกน้องกันน่ะครับก็เลยดูสนิทสนมกัน คำนำหน้าว่าพี่ไม่มีหรอก ส่วนมากจะใช้คำว่าไอ้หรือไม่ก็เรียกชื่อห้วนๆเลย


“ผมก็ลืมไป”


“แล้วนี่ใครล่ะ?”พี่รหัสของผมชี้ไปทางตะวันที่ยืนเงียบสงบอยู่ข้างๆ


“นี่ตะวันครับ”


“สวัสดีครับ” ตกวันยกมือขึ้นไหว้เป็นรอบที่สอง


“เออๆ แฟนหรอ?”


“เฮ้ย! ไม่ใช่พี่” ผมรีบพูดปฏิเสธ ก็ยังไม่ใช่ๆจริงๆนี่นา


“อ๋อหรอ เป็นเพื่อนว่างั้น?” พี่รหัสผมถามต่อ จ้องตะวันอย่างต้องการคำตอบ


“ไม่ใช่ครับ” ตะวันตอบเสียงดังฟังชัด


“อ่าว?” พี่รหัสผมทำหน้างง มองหน้าผมที มองหน้าตะวันที


“ผมไม่ได้เป็นเพื่อนชลครับแล้วก็ยังไม่ได้เป็นแฟนกันด้วย” ตะวันหันมามองหน้าผมก่อนจะหันไปพูดกับพี่รหัสต่อ “แต่ผมกำลังจีบชลอยู่ครับ คิดว่าอีกไม่นานคงได้ใช้คำว่าแฟน”


อืม...ขยี้ให้พอ เอาให้หัวใจผมวายตายกันไปข้างเลย


“อ้อ ว่าที่น้องเขย” พี่รหัสผมยิ้มล้อ กลับตอนนี้ทันไหมครับ แถวนี้พอจะมีรถเมล์หรือป่าวครับ


“ไปๆผมหิวจะแย่แล้ว” ผมดันหลังพี่รหัสให้เดินเข้าร้าน เขาก็ยอมเข้าไปแต่โดยดี


พี่รหัสที่เดินห่างจากผมไปไม่มากหันมาหาอีกครั้งเมื่อตะวันตะโกนขึ้น“ฝากตัวด้วยนะครับว่าที่พี่เขย”


“เออว่าที่น้องเขย”


บ้าจริง!



ใครก็ได้พาผมไปโรงพยาบาลทีเถอะ ตอนนี้ต้องการไปรักษาโรคหัวใจเต้นเร็วเกินอัตราเหลือเกิน




๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐




ขอบคุณที่ติดตามนะคะ

 :pig4:







ออฟไลน์ TIKA_n

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1391
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +308/-4
 :-[  น่ารักจังเลย 
ตะวันจีบเปิดเผยมาก เหมือนอยากประกาศให้โลกรู้ว่าจีบชลอยู่นะ น่ารัก
ชอบแทนไทอ่ะ ห้าว ๆ ดี เวลาเล่นกับตะวันแล้วตลกดีจัง เป็นเด็กน้อยเลย
เรื่องน่ารักมาก ๆ เลยจ้า ขอบคุณคนเขียนนะคะ  :กอด1:

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4992
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7

ออฟไลน์ yehatt

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 11
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ฟองดูว์

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 93
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-3



Chapter12

ไม่ต้องมีคำบรรยาย













ทุกเช้าผมกับตะวันจะมานั่งกินข้ามต้มหน้ามหา’ลัย กินจนตอนนี้สนิทกับเจ้าของร้านไปแล้วด้วย ตะวันนี้ลูกรักคุณป้าคนขายเขาเลยล่ะ


“อร่อยมั้ยลูก”


“ที่สุดเลยครับ”




ตะวันฉีกยิ้มกว้างตอบคุณป้าคนขายที่ถามขึ้นตอนเดินผ่านโต๊ะพวกเรา พอคุณป้าได้คำตอบแบบนั้นก็ยิ้มกว้างไม่แพ้ตะวันเลย



“อร่อยก็กินเยอะๆ เราด้วยนะจ๊ะ”



คุณป้าบอกตะวันก่อนจะหันมาบอกผมที่ตอบรับแล้วส่งยิ้มให้ก่อนที่คุณป้าจะขอตัวไปทำข้าวต้มให้ลูกค้าที่มาใหม่



“โปรยเสน่ห์ไปทั่ว”



ผมเอ่ยแซวคนที่นั่งตรงข้ามหลังจากดื่มน้ำเสร็จ



“ไม่ได้โปรยสักหน่อย”


“ไม่ได้โปรยแต่คนก็เข้ามาหาตลอดเลย”


“ก็หล่ออ่ะทำไงได้”


ผมเบ้ปากใส่ตะวันอย่างหมั่นไส้ มั่นหน้ามั่นโหนกไม่มีใครเกินเลยจริงๆแต่ก็ยอมรับแหละว่าหล่ออย่างที่เจ้าตัวพูดจริงๆ


“อิ่มยังเนี่ย?”


ผมเปลี่ยนเรื่อง ถามคนที่ยังกินข้าวต้มไปมองผมไปสลับกันทำอยู่อย่างนี้จนผมต้องเร่งให้เขากินเร็วๆ มองมากๆเดี๋ยวผมก็พรุนซะหรอก


“ถ้าหมายถึงข้าวต้มอ่ะอิ่มแล้ว”ตะวันว่าหลังจากกินข้าวต้มคำสุดท้ายหมด ยกน้ำขึ้นดื่นตาก็ยังไม่ละไปจากผม “แต่มองหน้าชลอ่ะยังไม่อิ่มเลย”


หลังจบประโยคของตะวันผมก็ลุกขึ้นจากโต๊ะไปหาคุณป้าเพื่อจะจ่ายเงิน จ่ายทั้งส่วนของตัวเองและส่วนของตะวันด้วย เพราะเราสองคนจะสลับกันจ่ายอยู่แล้วซึ่งวันนี้ก็เป็นเวรผมพอดี


“ขอบคุณนะจ๊ะ วันหน้ามาใหม่นะลูก”


“ครับ”


ผมตอบรับเดินหนีตะวันที่เดินตามหลัง ได้ยินเสียงหัวเราะตะวันแล้วผมก็เร่งเท้าให้เร็วขึ้น จะเร่งให้ตามไม่ทันเลย


“เขินแล้วเดินหนีตลอด”


“แล้วจะชอบพูดให้เขินทำไมเล่า!”


ผมเถียงไปด้วย เร่งฝีเท้าไปด้วย จากเดินจะกลายเป็นวิ่งแล้วเนี่ย


“อ้าว สรุปเราผิดหรอเนี่ย”ตะวันพูดเสียงล้อเลียน  ผมหันขวับไปมองเลยไม่ได้ทันระวังรถที่กำลังขับมา “เฮ้ย! ชลระวัง”


ผมหันไปมองตามสายตาตะวันก็เห็นรถจักรยานที่พุ่งมาทางที่ผมเดินอยู่ ผมทำหน้าเหวอส่วนตะวันรีบดึงแขนผมให้มาหลบที่ริมฟุตบาท อุบัติเหตุที่คาดเดาว่าจะเกิดจึงไม่เกิดขึ้น


“เห็นมั้ยเล่า! พอเขินเราก็จะเป็นแบบนี้ไง” ผมหันไปโวยวายกับตะวันที่ยังยืนลูบหัวลูบหลังผม เมื่อเห็นว่าผมไม่เป็นอะไรเขาก็เอ่ยขึ้นมา


“โอ๋ๆรู้แล้วครับๆ ไม่ทำให้เขินแล้วๆ”


ตะวันโอ๋ผมเหมือนเด็ก ผมก็เลยงอแงใส่เขาเข้าไปชุดใหญ่ หลังจากนั้นตะวันก็เดินมาส่งผมที่คณะ


ตอนนี้เช้ามาก เนมกับวาคงยังมาไม่ถึงเพราะโต๊ะประจำของพวกเรายังไม่มีวี่แววของเพื่อนสนิททั้งสองคน


“เดี๋ยวเรานั่งรอเนมกับวาเป็นเพื่อนละกัน”


“อือ ขอบคุณครับ”


ตะวันนั่งลงตรงข้ามผม ผมมองหน้าเขาแล้วเอ่ยขึ้น


“ช่วงนี้ตะวันได้เจอแทนบ้างมั้ยอ่ะ?”


คนถูกถามทำหน้างง ก่อนจะขมวดคิ้วเข้าหากันทำท่าคิด


“ก็เจอล่าสุดพร้อมกับชลเมื่ออาทิตย์ก่อนนั่นแหละ”


“อ่าวเหรอ คิดว่าจะนัดเจอกันนอกรอบซะอีก”


“หือ? เรากับไอ้แทนเนี่ยนะ?”


“ใช่น่ะสิ เห็นเข้ากันดีเป็นปี่เป็นขลุ่ย”


“ชลไปเอาที่ไหนมาพูด ไม่เห็นหรอว่าเจอกันแต่ล่ะทีก็ตีกันตลอด ไม่แปลกใจเลยทำไมเนมถึงชอบด่าเวลาเจอมันอ่ะ"


ผมยิ้มขำให้กับคำพูดของเขา ก็จริงนะที่ตะวันพูดมา แทนก็ชอบพูดหาเรื่องคนไปทั่วแต่จริงๆแล้วก็เป็นคนดีคนหนึ่งเลยล่ะ


“แล้วทำไมชลถึงถามเรื่องนี้กับเราอ่ะ อย่าบอกนะว่าหึงเรากับไอ้แทน แน่ะๆ”


ผมทำท่าขนลุกใส่ตะวัน เลยโดนอีกฝ่ายบีบจมูกด้วยความหมั่นไส้


“ก็แค่ถามดูเฉย”


“แน่ใจ ไม่ใช่ว่าหึงแล้วเอาไปคิดมากหรอกนะ”


“เราจะไปหึงทำไมเล่า!”


ว่าจบก็ยื่นมือไปตีที่ไหล่ตะวันดังเพี๊ยะ คนโดนตีก็แอ็คติ้งเจ็บจนอยากมอบรางวัลตุ๊กตาทองคำให้


“ก็ใครจะไปรู้ล่ะ ตะวันยิ่งหล่อๆอยู่ด้วย” ตะวันว่าเสียงอ่อน ไม่วายทำหน้าทะเล้นใส่ผมอีก


“แทนก็หล่อเถอะ” ผมตอบกลับบ้าง ตะวันหน้าบึ้งแล้วพูดต่อ


“นี่ๆ อย่าชมคนอื่นสิ ตะวันจะหึงแล้วนะ”


“ก็แทนหล่อจริงๆนี่นา  หน้าตาคมๆผิวแทน หุ่นก็ดี สเป็กหลายๆคนเลย” ผมว่าอย่างลอยหน้าลอยตา ได้ยินเสียงฮึดฮัดจากคนตรงข้ามก็ยิ่งรู้สึกสนุก


“ยังจะพูดอีก”


“หึงจริงแล้วหรอเนี่ย”


“ก็หึงน่ะสิ เนี่ยๆมาปลอบเลย เสียใจ”


ผมมองตะวันที่ทำหน้าเศร้าเหมือนหมาโดนเจ้าของทิ้งก็ต้องส่ายหน้าแล้วยื่นมือไปลูบหัวเขาเบาๆ


“โอ๋ๆไม่หึงนะครับ ก็แค่พูดเรื่องจริงนี่นา ไม่รู้จะหึงไปทำไม”


“ยิ่งพูดเรื่องจริงนี่แหละยิ่งน่าหึง”ตะวันช้อนตามองหลังจากพูดจบประโยค “คอยดูนะถ้าจีบติดแล้วจะฟัดให้ช้ำเลย”


พอได้ยินอย่างนั้นมือที่ลูบหัวเขาอยู่ก็หยุดชะงักก่อนจะตีหัวตะวันไปด้วยความหมั่นไส้ ใครใช้ให้พูดแบบนั่นเล่า!


“พูดอะไรทะลึ่ง”


“ก็อยากฟัดจริงๆนี่”


“ยังจะพูดอีก” ผมทำท่าจะตีเขาอีกรอบ ตะวันเลยยกมือไหว้ท่วมหัว


“ขอโทษคร้าบบ จะไม่พูดแล้วคร้าบบบ”


“ดี” ผมเอ่ยชมแต่ก็ต้องชะงักไปอีกเมื่อได้ยินประโยคถัดมาของตะวัน


“ไม่พูดแล้วแต่จะทำเลย” แล้วก็ลุกวิ่งหนีไปจากโต๊ะเพราะเห็นผมง้างมือจะฟาดเขา


นั่นไงไม่วายหันมาส่งยิ้มแล้วทำมินิฮาร์ทให้อีก ปวดหัวกับเขาจริงๆเลย



แต่ก็....มีความสุขนะ








“โอ้โห จีบกันแต่เช้าเลยเหรอจ้ะ” วาที่มาตอนไหนไม่รู้ถามขึ้นล้อๆแล้วหย่อนกายนั่งลงข้างๆผม


“จีบเจิบอะไรเล่า!” ผมกลับทำเป็นมองหาเนมเพื่อนอีกคนเพื่อกลบเกลื่อนความเขิน”เนมล่ะ”


“ทะเลาะกับแทนอยู่โน่น” ผมหันไปมองตามทิศทางที่วาชี้ให้ดูก็เห็นแทนไทกับเนมทะเลาะกันอยู่จริงๆ ไม่ได้ทะเลาะอะไรกันจริงจังหรอกครับก็ทะเลาะด่ากันหมูหมากาไก่ตามปกตินั่นแหละ


“เจอกันเป็นไม่ได้เลยสองคนนี้”


“ไม่เหมือนชลกับตะวัน เจอกันทีไรก็จีบกันตลอดเลยใช่มั้ยล่ะ” วายังคงแซวไมเลิก ผมเลยลุกขึ้นแล้วพาวาเปลี่ยนเรื่องทันที


“ไปเรียกเนมขึ้นเรียนกันเถอะ” วายิ้มล้อใส่ผม เพราะรู้ดีว่าผมเปลี่ยนเรื่องเพราะอะไร


“จ้าๆ เขินแล้วเปลี่ยนเรื่องทุกที”


“วา!”


วาหัวเราะเสียงดังหมดความเป็นกุลสตรีแล้วเดินนำหน้าผมไปหาอีกสองคนที่ยืนทะเลาะกันอยู่


“อ้าวเนี่ยเพื่อนมึงมาพอดี มึงเอาเพื่อนไปเก็บดิ้” แทนไทพอเห็นผม เขาก็กวักมือเรียกผมยิกๆให้มาลากเนมออกไป


“ก็ไม่ได้อยากจะยืนตรงนี้นานหรอก”


“ไม่อยากยืนนานแต่กูเห็นมึงยังไม่ไปไหนเลยตั้งแต่เจอกูเนี่ย คนห่าอะไรเจอหน้าก็ด่ากันตลอด บ้าป่ะ”


“นายสิบ้า”


“ยังจะเถียงอีก ตัวเท่าหมาเดี๋ยวกูเตะโด่งไปโน่น”


“ชอบใช้กำลัง”


“เสือก”


“ก็ไม่ได้อยากยุ่งเท่าไหร่หรอก”


“เหรอๆ ไม่อยากยุ่งก็ไปได้ละ เห็นหน้าแล้วคิดถึงหมาที่บ้าน”


“เอ๊ะ! ไอ้บ้านี่”


พอเห็นเนมอารมณ์ขึ้นจริงๆแล้วทำท่าจะเขาไปต่อยแทนไท ผมกับวาก็ต้องไปดึงตัวไว้ ดูจากหุ่นฝั่งตรงข้ามแล้วคาดว่าเนมอาจจะได้น็อคแล้วเข้าโรงพยาบาลไปซะก่อน


“วันหลังก็ล่ามคอเพื่อนมึงไว้ด้วยล่ะ อย่าให้มันไปเห่ามั่วซั่ว”


“แทนก็พูดดีๆบ้างสิ” ผมตอบกลับ แทนไทถอนหายใจเหนื่อยหน่าย


“กูก็เป็นของกูแบบนี้ ใครรับไม่ได้ก็ช่างแม่ง” เข่าวาก่อนจะโบกมือลาผมแต่เดินไปได้ไม่กี่ก้าวเขาก็หยุดแล้วหันหน้ามาคุยกับผมต่อ “อาทิตย์นี้กูไม่อยู่ไม่ต้องเสนอหน้าไปที่แปลงเกษตรล่ะ เดี๋ยวไม่เจอ”


ผมพยักหน้าเข้าใจก่อนแทนไทจะพยักหน้ากลับ เห็นเขาเหลือบมองเนมแวบหนึ่งแล้วก็เดินหายไป


พอเห็นแทนไทเดินไปจากที่นี่แล้วก็ปล่อยตัวเนมให้เป็นอิสระ เนมหอบหายใจด้วยความแรงก่อนจะขอตัวไปเข้าห้องน้ำ


“เราขอไปเข้าห้องน้ำก่อน ชลกับวาขึ้นไปที่ห้องเลยก็ได้เดี๋ยวเราตามไป”


ผมกับวามองหน้ากันแล้วหันไปพยักหน้าให้เนมเพื่อเป็นการตกลง ทะเลาะกับแทนไททีไรก็เป็นแบบนี้ทุกทีสิน่า













หลังเรียนเสร็จผมเดินลงมาจากตึกเรียนก็เห็นตะวันนั่งอยู่ที่โต๊ะประจำของพวกผม มีคนนั่งตรงข้ามเป็นผู้หญิงที่ผมพอจะคุ้นหน้าว่าเป็นดาวของคณะผม ผมยืนมองเขาสักพักโดยมีเนมกับวายืนเป็นเพื่อน


ตลอดเวลาที่คุยตะวันมีแต่รอยยิ้มตามแบบฉบับเขา เพราะเขาเป็นคนชอบยิ้มและอัธยาศัยดีเลยไม่แปลกที่เขาจะยิ้มแต่ที่แปลกคือผมไม่ชอบให้เขายิ้มกับดาวคณะคนนั้นเลยสักนิด


สักพักพวกเขาก็คุยกันเสร็จ ผมมองตามหลังดาวคณะที่เดินออกไปหาเพื่อนก่อนตะวันจะหันมาเห็นผมแล้วโบกไม้โบกมือส่งมาให้พวกผมทั้งสามคนเดินเข้าไปหา


“เป็นไงบ้าง?”


“ง่วงมาก”


“งานก็เยอะมากเช่นกัน”


วากับเนมตอบแล้วขอตัวกลับก่อน ทิ้งให้ผมกับตะวันอยู่ด้วยกันสองคน


ตะวันหันมายิ้มให้ผม แล้วเอ่ยถามผมบ้าง


“ชลล่ะเป็นยังไงบ้าง” เขายิ้ม ยื่นมือมาเช็ดเหงื่อที่ข้างขมับให้ผม “คิดถึงเราเหมือนที่เราคิดถึงชลหรือป่าว?”


ผมจิ๊ปากใส่เขา อารมณ์ก่อหน้าหายไปเป็นปลิดทิ้งแทนที่ด้วยความเขินอายกับคำถามของเขา


“บ้าหรือไง เจอกันเช้าเที่ยงแล้วตอนเย็นก็ต้องกลับด้วยกันอีกจะคิดถึงทำไมเล่า”


ตะวันทำหน้าเศร้า เหมือนเสียใจกับคำพูดของผม


“แต่ทำไมตะวันคิดถึงชลตลอดเวลาเลยอ่ะ แย่จริงเลยเนอะ”


“ยังจะมาเนอะอีก ไปกันได้แล้ว” 


ผมเดินนำตะวันไปที่รถเขา เปิดประตูขึ้นมานั่งเองเสร็จสรรพอีกคนก็ตามมาแล้วสตาร์ทรถแต่ไม่ยอมออกสักที


“คนอะไรเขินยังน่ารัก จะทำให้หลงไปถึงไหน”


ผมหันไปมองเจ้าของคำพูด


“แล้วตัวเองล่ะ จำทำให้เขินไปถึงไหน”


ตะวันทำหน้าคิด คิดแบบจริงจังเหมือนทำข้อสอบ


“เขินถึงขั้นเป็นแฟนกันไปเลยเป็นไง”


พอได้ยินคำตอบนั้นผมก็ฟาดลงบนแขนตะวันทันที


“นี่ก็หยอดจังเลย ไปๆออกรถสักที”


“คร้าบๆๆๆๆ”






ตะวันส่งเสียงหัวเราะไปตลอดทางอย่างมีความสุขไม่ต่างไปจากผมเลยที่ก็มีความสุขเหมือนกันที่มีตะวันคอยอยู่ข้างแบบนี้






มีความสุขจัง.....







##################


หลังจากหายไปนานก็ได้ฤกษ์ลงต่อสักที55555


ฝากนิยายอีกสองเรื่องด้วยค่า

➤➤เขาว่ากันว่า....✿✿

ใจบาง♥
















« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-02-2018 17:01:14 โดย ฟองดูว์ »

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4992
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7

ออฟไลน์ hoshinokoe

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1042
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-0
เรื่องน่ารักดีค่าาาา*_*

ออฟไลน์ zuu_zaa

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1

ออฟไลน์ tiew93

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 655
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
จีบกันน่ารักจังเลย  :-[

ออฟไลน์ แมว

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 129
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด