เพื่อนร่วมงานแบบที่ 29
ไม่ใช่แค่ช่วยหาบ้านเช่าให้อย่างเดียว แม้กระทั่งวันที่ต้องขนของย้ายบ้าน เบลก็มาช่วย ของที่เอามาจากบ้านเดิมที่เคยอยู่มีไม่มากนัก ทั้งหมดล้วนเป็นของใช้ที่จำเป็นทั้งนั้น
“ไม่เป็นไรครับ คุณแม่นั่งดีกว่า เดี๋ยวพวกนี้ผมจัดการเอง”
ชยามองไปที่เบลที่พยุงแม่ของชยาไปนั่งพักบนเก้าอี้ และแม่ก็ยอมทำตามที่เบลบอกแต่โดยดี
“ไม่อยากเป็นภาระอย่างเดียว มีอะไรพอหยิบจับช่วยได้ก็อยากทำบ้าง”
ชยาที่กำลังเปิดลังกระดาษและเริ่มจัดของเข้าตู้มองไปที่แม่และเบลที่กำลังพูดคุยกันแล้วก็เริ่มยิ้มออกมาได้
“คุณแม่ต้องพักก่อนครับ เพราะว่าถ้าก้ม ๆ เงย ๆ บ่อย ๆ จะหน้ามืด เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็ต้องไปหาหมอด้วย เห็นชยาบอกแบบนั้นใช่หรือเปล่าครับ”
ชยาไม่คิดว่าเบลจะจำได้ เรื่องที่ชยาต้องพาแม่ไปหาหมอ พักหลัง ๆ ที่รู้จักกันมากขึ้น เบลทำให้ชยาแปลกใจอยู่บ่อย ๆ หลายสิ่งหลายอย่างที่เบลช่วยและทำให้ชยาก็ไม่รู้จะขอบคุณยังไง
“ชยา”
เรียกให้ชยาที่จัดของเข้าตู้เสร็จเรียบร้อยแล้วมาหาและชยาก็เดินมาตามที่เบลเรียก
“ไฟตรงข้างบ้านมันยังไม่ได้ทำนะ เดี๋ยวผมจะเปลี่ยนให้หมดยกชุดเลย คุณไปช่วยจับบันไดหน่อย”
เบลเดินออกไปแล้วโดยมีชยาเดินตามไปด้วย และชยาก็เพิ่งเห็นว่าเบลเตรียมอุปกรณ์สำหรับงานช่างรวมทั้งพวกหลอดไฟมาด้วย
“ทำไมทำอะไรได้เยอะแยะมากมายหลายอย่างจัง”
ได้เห็นความสามารถหลาย ๆ อย่างของเบลแล้วชยาก็นึกทึ่งในความสามารถ เพราะเบลสามารถทำเรื่องทุกอย่างที่ชยาไม่ถนัดได้อย่างง่ายดาย
“ผมจบช่างไฟฟ้ามา”
อีกเรื่องหนึ่งที่ชยาเพิ่งรู้ว่าเบลทำได้ และชยาก็พยักหน้ารับสิ่งที่เบลบอก
“ผมเก่งใช่มั้ย”
ไม่มีใครชมก็พร้อมชมตัวเอง และชยาก็หัวเราะออกมาเพราะสิ่งที่เบลพูด
“สบายใจแบบนี้ก็เอา”
ส่ายหน้าให้กับคำพูดของคนที่ปีนขึ้นบันไดไปจัดการซ่อมระบบไฟและชยาก็เงยหน้าขึ้นมองคนที่กำลังตั้งใจกับการซ่อมแซมสิ่งที่ใช้ไม่ได้ภายในบ้านเช่าที่เพิ่งย้ายเข้ามาอยู่วันแรก
เหนื่อยทั้งวันตั้งแต่เช้า กว่าจะขนของมาที่บ้านเช่า ช่วยกันแบกช่วยกันยก ทั้งหนักทั้งเหนื่อย แต่เบลไม่บ่นเลยสักคำ ถ้าเป็นคนอื่นจะมีใครช่วยเหลือชยาขนาดนี้หรือเปล่า
บางทีอาจจะไม่มี เพราะทุกคนก็มีภาระของตัวเองทั้งนั้นและชยาไม่คิดจะรบกวนใคร
สำหรับชยาแล้วดูเหมือนว่าตอนนี้จะมีแค่เบลเท่านั้นที่มีใจช่วยเหลือกันอย่างจริงจัง เป็นเพื่อนร่วมงานและเป็นเพื่อนที่นับว่าเป็นเพื่อนจริง ๆ ด้วย ทั้งช่วยเหลือทั้งดูแลทั้งที่ก็รู้ว่าชยาไม่ได้มีผลประโยชน์อะไรให้
ไม่มี..ผลประโยชน์อะไรให้จริง ๆ
“เบล”
เรียกคนที่กำลังทำไฟและเบลก็ขานรับที่ชยาเรียก
“ว่า?”
“เหนื่อยมั้ย”
เบลไม่เข้าใจ ทำไมชยาถึงถามแบบนั้น ก้มลงมองคนที่จับบันไดให้และก็ทันได้สบตากับอีกฝ่ายที่มองมา
“ทำไมล่ะ มีอะไร”
เอ่ยถามด้วยความสงสัย และชยาก็ส่งยิ้มจาง ๆ ให้กับคนที่มองมาและเลิกคิ้วขึ้นสูงด้วยความสงสัย
“ผม...ไม่รู้จะเอาอะไรมาตอบแทนจริง ๆ นะ”
ได้ฟังที่ชยาบอกและน้ำเสียงที่ได้ยินก็ฟังดูหม่นหมองแม้คนพูดจะยิ้มแต่ก็เป็นรอยยิ้มที่ไม่สดใสเลยสักนิด
“..........”
เบลไม่ได้ตอบ แต่ส่งยิ้มให้และพยักหน้ารับกับสิ่งที่ชยาพูด เงยหน้าขึ้นอีกครั้งเพื่อมองไปที่หลอดไฟและจัดการเดินไฟให้จนเสร็จเรียบร้อยโดยมีชยาช่วยจับขาบันไดให้จนกระทั่งเสร็จงาน
“มีอะไรให้ช่วยก็บอกแล้วกัน”
ช่วยขนของย้ายบ้านตั้งแต่เช้าจนค่ำ และชยาก็รู้สึกขอบคุณกับสิ่งที่เบลทำให้ทุกสิ่งทุกอย่าง ทำให้ขนาดนี้เหนื่อยขนาดนี้
“เดี๋ยวไปลาคุณแม่หน่อยจะกลับแล้ว”
ชยาพยักหน้ารับและเบลก็เดินไปหาแม่ของชยา
“คุณแม่เดี๋ยวผมกลับก่อนนะครับ”
ยกมือไหว้และแม่ของชยาก็รับไหว้และส่งยิ้มให้เบลที่มาช่วยงานทั้งวัน
“คราวก่อนที่ไปโรงพยาบาลก็ได้เบลช่วย วันก่อนก็ฝากส้มมาให้ วันนี้ก็ยังอุตส่าห์มาช่วยขนของย้ายบ้าน ขอบคุณมากนะเบล ไม่ได้เบลช่วยน้องยากับแม่ก็ไม่มีใครแล้ว ทำให้ขนาดนี้แม่ก็ไม่รู้จะขอบคุณยังไง”
แม่ของชยายังเอ่ยปากขอบคุณเบลไม่เลิก และทำให้เบลยิ้มกว้างเพราะสิ่งที่แม่ของชยาพูด
“ไม่เป็นไรครับคุณแม่ เดี๋ยวมีอะไรคุณแม่บอกชยาไปได้เลยนะครับ อะไรที่ผมช่วยได้ผมยินดีช่วยเสมอครับ”
ไหว้แม่ของชยาอีกรอบและขอตัวกลับเพราะดึกมากแล้ว และชยาก็เดินมาส่งเบลที่หน้าบ้าน
“วันนี้ขอบคุณมากนะ”
เอ่ยคำขอบคุณซ้ำ ๆ กันหลายครั้งและเบลก็เริ่มหัวเราะออกมาเพราะสิ่งที่ชยาพูดตั้งแต่ไปช่วยขนของจนกระทั่งจัดบ้านเสร็จเรียบร้อย
“เปลี่ยนเป็นอย่างอื่นได้มั้ย นี่ถ้าเอาคำขอบคุณสะสมเป็นแต้มแลกของรางวัลใหญ่ ป่านนี้ผมได้ไม่รู้กี่รางวัลแล้วนะ”
ยังมีใจหยอกล้อและเบลก็หยิบหมวกกันน็อคที่แขวนอยู่ขึ้นมาถือเอาไว้
“ไม่ให้พูดขอบคุณแล้วจะให้ทำยังไง ก็บอกแล้วว่าไม่มีอะไรจะให้”
ส่ายหน้าเพราะสิ่งที่เบลพูดและเบลที่ขึ้นมาอยู่บนรถมอเตอร์ไซค์ก็ส่งยิ้มแปลก ๆ มาให้
“ก็มีอยู่นะ”
ชยาแน่ใจว่าต้องเป็นคำขอแบบแปลก ๆ แน่ แต่เพราะเห็นว่าเบลช่วยงานตลอดทั้งวันทั้งหนักทั้งเหนื่อยจนมืดค่ำ ก็เลยคิดว่าถึงจะเป็นคำขอแบบแปลก ๆ แต่ถ้าไม่มากจนเกินไปก็จะทำให้
“จะให้ทำอะไรแปลก ๆ ใช่มั้ย”
ถามออกไปแบบตรง ๆ และเบลก็หัวเราะออกมาทันที บางครั้งคุณหนูก็รู้ทันเกินไป
“แหม แค่จะบอกว่าจุ๊บแก้มสักทีก็ดีใจตายแล้ว ทำเป็นรู้ทันไปได้”
เป็นอย่างที่พูดจริง ๆ และเบลก็หัวเราะกับคำพูดของตัวเองเมื่อเห็นชยาเบะหน้าและเบลรู้ดีว่าอีกฝ่ายไม่มีทางยอมทำตามที่ขอแน่ ๆ
เบลสวมหมวกกันน็อคเรียบร้อยและบอกลาเพื่อกลับบ้าน
“กลับแล้วนะ”
“เดี๋ยว..”
ชยาจับหัวของเบลที่ยังสวมหมวกกันน็อคอยู่ จูบไปที่ด้านหน้าของหมวกกันน็อคและผละออกห่างและคนที่กำลังจะสตาร์ทรถก็ถึงกับนิ่งงันเพราะสิ่งที่ชยาทำ
“คุณหนู !”
เรียกคนที่ทำเรื่องบางอย่างให้และชยาก็ยกมือขึ้นโบกไปมา
“กลับดี ๆ นะไว้เจอกัน”
ไม่ทันได้พูดอะไรอีก เพราะชยาผลักไหล่ให้เบลรีบกลับบ้านและเบลก็ต้องยอมทำตาม
คนหนึ่งขี่มอเตอร์ไซค์กลับบ้านด้วยความรู้สึกมึนงงและเพียงไม่นานรอยยิ้มก็จุดขึ้นที่ใบหน้า รู้สึกดี รู้สึกมีความสุข รู้สึกหลาย ๆ อย่าง และอีกคนที่เดินเข้าบ้านไปจัดของที่ยังจัดไม่เสร็จ จัดไปจัดมาก็เริ่มรู้สึกว่าใบหน้าเริ่มมีรอยยิ้มขึ้นทีละน้อย
รู้สึกดี...
รู้สึกดีมาก ๆ
ยิ่งรู้จักกันยิ่งรู้สึกดีมาก ๆ
ดูเหมือนว่าชยาจะรู้สึกดีกับเบลมากขึ้นทุกวัน ทุก ๆ วัน
TBC.