.
.
[ต่อจากด้านบนค่ะ]
ไว้มึงมีอะไร ค่อยคิดถึงกูแล้วกันผมนอนเคว้งอยู่พรมหน้าทีวี ตั้งใจว่ากลับเข้ามาจะทำงานต่อ ผมพยายามทำตัวให้วุ่นวายแต่ในหัวกลับมีเสียงไอ้โจ๊กดังอยู่ตลอดเวลา พอผมทำลืมไปมันก็เด้งกลับเข้ามาในสมองใหม่ กระดาษ สีน้ำ และทิชชู่ ยังคงแน่นิ่งอยู่แบบนั้น ผมไม่รู้จะเริ่มทำอะไรก่อนดี ไอ้โจ๊กที่อารมณ์ดี บ้าๆ บอๆ คนนั้นมันไม่เคยเป็นแบบนี้เลยซักครั้ง ผมคิดว่ามันอาจจะอยู่ในช่วงปรับตัว เราเคยอยู่ด้วยกัน เรียนด้วยกัน แต่พอขึ้นมหาลัยเราก็ต้องเจอสังคมใหม่ๆ เหมือนกันทั้งนั้น แต่ที่ไม่เหมือนกันคือผมมีไอ้เปาที่เคยเป็นเพื่อนที่ผมรักในวัยเด็ก
ไอ้โจ๊กมันคิดมากอย่างนั้นหรอ
ผมคิดทบทวนเรื่องต่างๆ และมั่นใจความรู้สึกของตัวเองตอนนี้ ผมเศร้า....นั่นคือความรู้สึกที่ผมสัมผัสได้ตอนนั้น ล่วงเข้าเช้าวันใหม่ ไอ้กลางที่ไม่เคยทำตัวสกปรก นอนอยู่นิ่งๆ มาพักใหญ่ ผมเศร้าและมากกว่านั้นคือผมจะทำยังไงให้ไอ้โจ๊กเป็นเหมือนเดิม เหลือบไปเห็นพู่กันและงานที่ต้องทำ ผมถึงยันตัวเองขึ้น เดินเข้าไปล้างหน้าแล้วออกมาตั้งท่าทำงานต่อ
ผมกดส่งข้อความหาไอ้โจ๊ก เท่าที่ผมทำได้ตอนนี้ก็มีแค่นี้เท่านั้น รอให้มันอารมณ์ดีซะก่อนแล้วกัน
กูขอโทษนะ
เฮ้อ
ไม่โอเคเลย
.
.
.
Tru Tru
(กลาง งานถึงไหนแล้ว)
“อือ”
(ยังไม่ตื่นหรอจะบ่ายแล้ว แปลกว่ะ)
“อืม”
(ตื่นได้แล้ว กินข้าวด้วยวันนี้กูทำงานอยู่ที่ห้องนะ)
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวไอ้โจ๊ก...”
(เดี๋ยวไอ้โจ๊กซื้อมาให้ใช่ป่ะ)
“...”
(กูแก้ไม่นานก็เสร็จ เดี๋ยวตอนเย็นเข้าไปช่วย)
“...”
(กลาง รู้เรื่องป่ะเนี่ย)
“โอ...โอเค”
เฮ้อ ผมนี่แม่งไม่ได้เรื่องเลย อยากจะร้องไห้ชะมัด ผมมองเพดานด้วยความเหนื่อยใจ ผมอยากจะบอกไอ้เปาไปทุกอย่างแต่ก็ไม่อยากทำตัวงี่เง่า จริงๆ ไอ้เปามันไม่ได้ผิดอะไรและผมก็ไม่อยากให้มันคิดมาก ผมขอรับทั้งหมดแล้วแก้ปัญหาเองดีกว่า
ทำงานโว้ย
ผมไม่กินข้าว ไม่ลงไปไหนทั้งนั้น ดีหน่อยที่อาบน้ำแล้ว ผมมีขวดน้ำเย็นวางไว้ข้างๆ มันทำให้ผมตื่นและทำให้ผมอิ่ม ไอ้โจ๊กไม่ตอบกลับข้อความของผม มันอยู่ห้องไม่ไกลจากผมหรอกครับ แต่ผมก็ไม่กล้าที่ออกไปคุย ล่วงมาถึงตอนเย็น ผมอึดอัดจนรูปที่ใกล้จะเสร็จหยุดชะงัก ผมวางพู่กันและก็เป็นเวลาเดียวกับที่เสียงเคาะประตูดังขึ้น
ผมลุกขึ้นไปเปิดประตูทันที ไอ้เปายืนยิ้มแฉ่งอยู่หน้าห้อง มันชูถุงกับข้าวขึ้นมาเต็มไปหมด พอเห็นหน้ามันกระบอกตาก็ร้อนขึ้นมาซะอย่างนั้น ไอ้โจ๊กเพื่อนผมไม่ชอบไอ้เปาหรอครับ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ก็เข้ากันดีแท้ แต่ถ้าไอ้โจ๊กมันกลัว ผมก็อยากบอกมันว่ามันคือเพื่อนของผม วงกลมของเพื่อนมีมันอยู่แล้ว ส่วนไอ้เปาก็คือคนที่มันก็รับรู้ว่าอยู่ในใจผมนานแล้วเหมือนกัน
ผมไม่เข้าใจมันเลยจริงๆ
“มีไรรึเปล่า ทำไมทำหน้างั้น”
“เปล่า”
ไอ้เปาขมวดคิ้วก่อนจะพาผมไปนั่งที่โต๊ะอาหาร
“ใครทำอะไรรึเปล่า” แปลกที่เห็นแค่สีหน้าผมไอ้เปามันก็เดาออกอย่างรวดเร็ว ผมเงยหน้ามองมันที่ยืนมองผมด้วยสีหน้ากังวล ผมกอดเอวมันไว้ก่อนจะซบแก้มไปที่พุงแข็งๆ ของมัน
“อ้อนจัง”
“ต้องการที่พึ่งพิงทางใจ”
“แต่นั่นพุงนะ” มันพูดติดตลกเพราะอยากให้ผมหัวเราะ ไอ้เปามันลูบหัวผมเบาๆ สัมผัสที่มันลูบช้าๆ ทำให้ผมกอดมันแน่นขึ้น
“เป็นอะไร”
“อยากกอดอะ งานไม่เสร็จซักที”
“ไปไม่ถูกเลย แต่บอกแล้วไงเดี๋ยวช่วย”
ผมเงยหน้ามองมันที่จ้องผมนิ่งๆ มันหยุดลูบหัวผมแล้วนั่งคุกเข่าตรงหน้าผม มันจับมือทั้งสองข้างของผมไว้
“เล่ามาเถอะ อยากแบ่งเบา”
สายตาที่เว้าวอนของมันทำให้ผมก้มลงไปกอดมันอีกครั้ง ถ้ามันไม่อยากให้ผมเศร้า ผมก็เหมือนกันนั่นแหละ
“ไอ้โจ๊กมันโกรธกู...”
ระหว่างที่เล่าเรื่องไอ้เปาจ้องผมเงียบๆ มันรับฟังอย่างตั้งใจ เราสบตากัน มันเข้าใจผมใช่มั้ย ความรู้สึกของผมน่ะ...และผมก็คิดผิด ไอ้เปาเบือนหน้าหนีแล้วพูดในลำคอ “ไอ้เหี้ยเอ๊ย กูอยากจะล้มเลิกแม่ง”
“มึงว่าอะไรนะ”
“มึงร้องไห้มั้ย ร้องไห้เพราะคนอื่นหรอ”
“มันไม่ใช่คนอื่น”
“...”
“...ไอ้โจ๊กมันเพื่อนกู””
“บางที...กูก็อิจฉานะเว้ย ช่วงที่มันหายไประหว่างเรา ไอ้โจ๊กคงจะอยู่กับมึงตลอด มึงถึงแคร์มันมาก”
มันแปลกไป ผมขมวดคิ้ว ไอ้เปาไม่เคยคิดแบบนี้ เราเข้าใจเรื่องวงกลมของเราดี มันเข้าใจผมเสมอ มันเป็นอะไรไปนะ ทั้งไอ้เปา ไอ้โจ๊ก ผมปัดความสงสัยในใจเมื่อเห็นว่าไอ้เปาเริ่มเม้มปาก
“มันไม่ใช่แบบนั้น”
“ถ้าอยากให้มันหายโกรธ มึงก็คงเลือกมันสินะ...”
“เปา...”
“ช่างเถอะกินข้าวซะ กูจะออกไปข้างนอกแปบนึง”
มันรีบพูดก่อนจะลุกแล้วเดินออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งผมให้นั่งจมความคิดตัวเองอยู่แบบนั้น
.
.
.
ผมมองนาฬิกาดิจิตอลบนโต๊ะที่กำลังบอกเวลาห้าทุ่มห้าสิบแปดนาที หลังจากกินข้าวเย็นเสร็จไอ้เปาก็ไม่กลับมาอีกเลย ไลน์ไปก็ไม่ตอบ โทรไปก็ไม่รับ ส่วนงานผมเสร็จแล้วครับ ตามอารมณ์หม่นๆ ของผมเอง เพื่อนเดอะแกงค์ของผมก็หายเงียบไม่มีใครให้ปรึกษาซักคน แม้แต่ไอ้เปาก็ไม่อยู่กับผม ขณะที่ล้างพู่กันอยู่ที่ซิงค์ล้างจาน เสียงคนทะเลาะกันก็ดังแว่วมาจากข้างนอก ตอนแรกก็คิดว่าข้างห้องพูดเสียงดังรึเปล่า พอนิ่งฟังดีๆ แล้วมันคุ้นแปลกๆ
“มึงอย่ามายุ่งได้ป่ะ ไอ้เปา เป็นไรก็เรื่องของกู มึงก็อยู่กับไอ้กลางไปดิ”
“เพื่อนประสาไรวะ มึงต้องเข้าใจไอ้กลางที่สุดดิวะ”
“ก็มันมีมึงอยู่แล้วนี่ จะให้กูเข้าใจอะไรนักหนาวะ”
“เฮ้ย พวกมึงใจเย็นดิ”
“มึงโกรธไอ้กลาง หรือมึงหวงไอ้กลางกันแน่”
“ไอ้กล้วย มึงอย่าขึ้นดิวะ”
“ก็ดูแม่งดิ”
“เดี๋ยวไอ้กลางได้ยินพอดีไอ้สัด”
“ซักตั้งมั้ยไอ้เหี้ย เกลียดหน้ามานานแล้ว”
“เออ!!!”
ผมแทบจะทิ้งพู่กันในมือแล้ววิ่งไปที่ประตู พวกมันแน่ๆ มันจะต่อยกันหรอ ในใจผมร้อนรนไปหมดทั้งหมดนั่นคือคนที่ผมรัก ทำไมต้องเป็นแบบนี้ด้วย ผมกระชากประตูออกอย่างไม่รีรอ แต่ภาพที่เห็นตรงหน้ากลับทำให้ผมน้ำตาหยด
“พวกมึง!!....”
“แฮปปี้เบิร์ดเดย์ทู้ยูวว แฮปปี้เบิร์ดเดย์ทู้ยูวว แฮปปี้เบิร์ดเดย์ แฮปปี้เบิร์ดเดย์ แฮปปี้เบิร์ดเดย์ทู้ยูววววววววววววว!!!!”
“....”
“เซอร์ไพร์ส!!!! สุขสันต์วันเกิดไอ้กลาง เป่าเทียนเร็ว”
เซอร์ไพร์ส...สัด...สัด...
แหมะ!
“เฮ้ย กลางงงง”
ไอ้เปารีบปรี่มากอดผม ทันทีแล้วพวกมันก็ตามเข้ามาในห้อง ไอ้เปาหน้าผมไว้กับหน้าอกมันแล้วลูบหัวลูบหลัง ที่พวกมันเป็นบ้ากันนี่หลอกกูหรอ ผมโล่งใจที่มันไม่ใช่เรื่องจริงอย่างที่สุด แต่เหตุการณ์มันเหมือนจริงจนผมอยากจะร้องไห้ พอเงยหน้าขึ้นมาก็เห็นแต่ไอ้เปาคนเดียว มันจ้องหน้าผมพลางเช็ดน้ำตาให้ผมไปด้วยปากก็บอกขอโทษไม่หยุด
“ไอ้โจ๊กกับเดอะแกงค์ มันบังคับกูจริงๆ นะ”
“อึก มึงเล่นใหญ่...อ่ะ”
“โอ๋ๆๆๆ กูขอโทษนะ แต่พูดตรงๆ ว่าแอบหึงอะ มึงกับไอ้โจ๊กเนี่ย”
“ไอ้เชี่ย”
“ขอโทษนะ ขอโทษครับ”
“คราวหลังกูจะแกล้งมึงบ้าง ชวนไอ้เกมส์ไปเที่ยวแม่ง”
“อย่าๆๆๆ ขอร้องงง เรื่องนี้มันเป็นความคิดไอ้โจ๊ก ถ้ากูไม่ทำมันจะเปิดโปงความลับของกูให้มึงรู้ก่อน”
“อะไร...”
“ก็...”
“พวกเรามาจากรายการ...สาระแน!!!!”
ไอ้โจ๊ก ไอ้กล้วย ไอ้ทัพ และไอ้เบส ออกมาจากห้องครัว เดินมาทำท่าทางเป็นสตาฟรายการสาระแนแถมยังมีพร้อพเป็นปีกนางฟ้าด้วย ไอ้เชี่ย น้ำตาหยดลงมาอีกหยดเมื่อเห็นหน้าไอ้โจ๊กยิ้มกว้างเหมือนคนบ้าก็ไม่ปาน ลืมไปได้ยังไงมันไม่เคยอยู่ในโหมดหน้านิ่งใส่ผมนอกจากเรื่องผู้หญิง พอมันเห็นผมแล้วก็เดินเข้ามาตบหัวผมเบาๆ
“ฮ่าๆๆๆ ไอ้กลางร้องไห้รู้จักกันมาไม่ยักจะเคยเห็น ไงมึงคิดว่ากูจะทิ้งมึงหรอ ส่วนเรื่องไอ้เปากูแทบจะถวายตัวให้มันแล้ว มึงไม่ต้องกลัวกูเกลียดมันหรอก”
“ไอ้เลว” ผมด่ามันแล้วก็ซบหน้ากับคอไอ้เปาเพื่อหลบหน้า
“ไอ้เหี้ย เจ็บชิบหายไอ้กลางด่า”
ผมก็เอะใจอยู่นิดหน่อย ไอ้โจ๊กมันรู้เรื่องไอ้เปาตั้งนานแถมเป็นคนบอกให้ผมรู้ตัวใจตัวเองอีก มันจะมาโกรธอะไรตอนนี้วะ คิดไปถึงว่าหรือมันจะมีประจำเดือน แต่พอไอ้เปาเข้ามาเรื่องรัชดาลัยก็เกิดขึ้น
“มึงรู้มั้ย กูคิดมากอะ กูเศร้า”
“ไอ้เหี้ย ฟ้องใหญ่เลย”
“ไม่ต้องหัวเราะเลยไอ้กล้วย”
“กูจะโกรธพวกมึงทุกคน”
“โกรธทุกคนงั้นมึงก็เลิกกอดไอ้เปาดิ”
“เออ”
“เฮ้ยไม่ได้ๆๆ” ผมทำท่าจะผละออก ไอ้เปาร้อนลนขึ้นมาทันทีนะมึง
“พวกกูแกงค์นางฟ้า ขอโทษมึงด้วยใจจริง”
อยู่ๆ พวกมันก็เข้าโหมดจริงจัง ไอ้เปาคลายกอดผมไปตอนไหนก็ไม่รู้มันเลื่อนมือมากุมมือผมไว้ ไอ้สี่คนนั้นนั่งคุกเข่าลงกับพื้น ปีกนางฟ้าของเด็กที่รัดแขนพวกมันแน่นทำให้ภาพตรงหน้าดูไม่น่ามองพิกล
“ที่ทำไปทั้งหมด....เพราะรักน๊า.....ม๊วฟ”
นั่น...มีทำท่าซารางเฮโยพร้อมกันด้วย
“ไอ้กลางหลุดขำแล้วเว้ยพวกเรา”
ถามว่าผมโกรธมั้ย ผมไม่โกรธหรอกครับแค่เคือง ไอ้เชี่ยหลอกกันมาได้ แต่มาคิดๆ ดูแล้วไอ้พวกนี้แหละคือเพื่อนที่อยู่กับผมเสมอ คนกลางอย่างผมโชคดีแล้วครับ พ่อพระไปอีก นิสัยของผมไม่เคยโกรธใครหรอกครับ
“ไอ้เปามันโดนบังคับจริงๆ นั่นแหละ อย่าไปโกรธมันล่ะ กูขู่ว่าจะเผารูปมึงที่มันวา...”
“เชี่ยโจ๊ก”
“เออโทษๆ พลั้งปาก ไปเคลียร์กันเอาเองนะ”
“ป่ะ พวกมึงไปกินเบียร์ซักกระป๋อง” ไอ้โจ๊กพูดขึ้นแล้วก็ได้รับเสียงตอบรับอย่างดีเยี่ยม
“ไอ้เบสเลี้ยงช่ะ”
“เลี้ยงเหี้ยไร จ่ายค่าปีกนางฟ้ามาด้วย ตอนไปซื้อกับไอ้ทัพนี่แทบจะแทรกแผ่นหนี”
“เออ เด็กมองกันชิบหายนึกว่าตุ๊ดอะไรตัวใหญ่ขนาดนี้”
“ฮ่าๆๆๆ ไปๆ ปล่อยให้ผัวเมียเค้าอยู่ด้วยกันดีกว่า”
“ไอ้กลาง พรุ่งนี้ส่งงานเสร็จพวกกูเลี้ยงวันเกิดมึงเองนะเพื่อน”
ลากันนิดหน่อย มันก็เดินกอดคอกันออกจากห้องไป แต่ก่อนประตูจะปิดไอ้กล้วยก็วิ่งพรวดเข้ามาแล้วถือมือถือมาถ่ายเซลฟี่อย่างรวดเร็ว
“ลืมเก็บภาพ แชะ!”
“ไอ้สัด”
พวกมึงลงทุนมาจริงๆ ครับ มาหอผมตอนเที่ยงคืนเพื่อทำภารกิจแกล้งกูให้เสร็จ นับถือความพยายามครับ ใกล้สอบแล้วยังมาทำตัวบ้าๆ บอๆ อยู่ได้
“กลางงง”
เสียงใครเรียกผมหรอครับ
“อ้าวยังไม่กลับอีกหรอ”
“กลางงงงงงงงงงงงงงงงง” เอ้าเสียงยาวไปอีก ไอ้เด็กน้อยเอ๊ย
“จะเก็บความแค้นนี้ไว้ ไหนแล้วไปทำอะไรให้ไอ้โจ๊ก”
“เสียงยังแข็งอยู่เลยอ่ะ!”
“...อะไรของมึง” ทำไมมันงอแงอย่างงี้ครับ อ๋อ ก็คนมีความผิดไง
“มานั่งก่อนๆๆๆ” ไอ้เปาลากผมไปนั่งที่โซฟา เค้กที่ไอ้กล้วยเอามาวางอยู่ตรงหน้าทีวี เทียนก็ไม่ได้เป่ามัวแต่น้ำตาหยด
“หลับตาด้วย” มันสั่งผมต่อ ผมได้ยินเสียงมันเดินไปที่ไหนซักที่ก่อนจะกลับมาอยู่ข้างๆ ผม
“สุขสันต์วันเกิดนะกลาง ขอโทษที่ทำให้ร้องไห้ แต่ดีใจที่ทำให้ยิ้ม”
พอลืมตาขึ้น ก็เห็นไอ้เปายิ้มอยู่ข้างหน้า ยิ้มที่ผมชอบ ลักยิ้มตรงแก้มมันทำให้ผมคิดถึงหน้ามันตอนเด็กเสมอเลย ไอ้เปาลุกไปหยิบกรอบรูปขนาดใหญ่ที่ห่อด้วยกระดาษสีน้ำตาลมายื่นให้ผม
“แกะดูสิ”
ผมใจเต้นตึกตักเหมือนคนพึ่งมีความรัก แต่มันก็จริงนั่นแหละ ไอ้เปายืนอยู่ข้างๆ ส่วนผมก็ลงมือแกะกระดาษนั้นออก
“โห...”
มันเป็นรูปผมเองครับ แต่ที่สำคัญกว่านั้นรูปนี้เป็นภาพเหมือนจากดินสอ
“มึงวาดเองหรอ”
“อื้ม...ชอบมั้ย”
การวาดที่มันไม่ถนัดและทำไม่ได้ดีเลย แต่มันกลับวาดรูปนี้ให้ผม รายละเอียดทุกเส้นที่อยู่ในกรอบนี้ทำให้ผมยิ้มกว้าง หัวใจพองโตโคตรๆ
“ชอบ”
“รูปหรอ”
“มึงอะ”
“อะ...กลาง พูดงี้กูเขินแย่ดิวะ”
“ฮะๆ” ผมหัวเราะไม่ต้องบอกก็รู้หูแดงซะขนาดนั้น “ขอบคุณนะเว้ย”
ในเวลาเกือบจะตีหนึ่งของวันเกิดผมปีนี้ มีไอ้เปายิ้มอยู่ข้างๆ ครับ
Bananaboat สุขสันต์วันเกิดไอ้คนกลางๆ
@khonklang มีคนร้องไห้ด้วย ว้ายยย ส่วนไอ้ข้างหลังพ่อมันเอง สวัสดีคร้าบบบ กับ ผู้ร่วมภารกิจ
Joker manyu, Taletubbieee, yesbest, paramatkrikriไอ้กล้วยอัพโหลดรูปที่มันเซลฟี่ก่อนออกจากห้องโดยที่หน้าผมยังมีคราบน้ำตาอยู่ เยื้องไปด้านหลังผมมีไอ้เปายืนอมยิ้มอยู่ ผมเลื่อนๆ แล้วพิมพ์คอมเม้นด่าไอ้กล้วยไปทีนึงแล้วไอ้เปาก็เข้ามานอนข้างๆ ผม เรื่องภารกิจหลอกผมมันเริ่มมาจากที่ไอ้โจ๊กบังเอิญไปเจอไอ้เปาแถวๆ ร้านกรอบรูป ถามไปถามมาก็เค้นว่ามันทำของขวัญวันเกิดให้ผม ไอ้โจ๊กเลยคิดแผนชั่วได้ทันทีมันไปร่วมมือกับไอ้พวกคอหล่นแล้วขู่ไอ้เปาเข้าร่วมด้วย
“เอาเวลาที่ไหนไปวาด”
“ตอนกลางคืนอะ”
“อย่าบอกที่ชอบหลับตอนเรียนคือวาดไอ้นี่อะนะ”
“มันไม่ใช่ไอ้นี่ มันคือมึงนะ”
“เออนั่นแหละ เฉไฉจริง”
“กูก็วาดไม่เก่งอะ มันเสียไปเยอะเหมือนกันกว่าจะได้รูปนี้ออกมา แอบวาดในห้องเล็ก”
“ห้องที่มึงห้ามกูเข้าใช่มั้ย”
“อ่ะดิ ไม่งั้นมึงเห็นก็จบ กูซุ่มมาหลายเดือน” มันหันหน้ามาถามผมอีก ครั้งนี้ครั้งที่สามแล้วมั้ง “ดีใจมั้ย”
“ดีใจดิ”
“กูก็ดีใจนะ...”
“มึงควรดีใจที่วาดได้ขนาดนี้ พี่ขอชื่นชม” ผมวาดมือไปขยี้หัวมันเบาๆ ไอ้เปาจับมือผมให้หยุดนิ่งแล้วขยับตัวเข้ามาใกล้ ใบหน้าที่ผมชอบเคลื่อนมาใกล้ผมทีละนิด
“เปล่า กูดีใจที่ได้อยู่ข้างมึงอะ”
จุ๊บ
สัมผัสบนหน้าผากอุ่นวาบ ก่อนจะตามมาด้วยกอด เขินล่ะสิ ไอ้นกกระปูด ผมก็เขินเหมือนกัน
“สุขสันต์วันเกิดนะคนกลางของกู”
.
.
.
21.45 น.
“เอ้า ชนนนนนนนนนน”
ไอ้ที่บอกว่าเลี้ยงก็เลี้ยงจริงๆ ครับ เลี้ยงพวกมันเองไม่ได้เลี้ยงผมเลย บอกแล้วว่ากินเหล้าไม่ใช่สไตล์ผม เมื่อเช้าผมออกไปส่งงาน เพื่อนๆ พี่ๆ ในคณะอวยพรวันเกิดผมใหญ่แล้วล้อผมเรื่องเซอร์ไพร์สนิดหน่อย ถามว่ารู้ได้ไงน่ะหรอครับ ไอ้กล้วยนี่แหละตัวดี อัพรูปลงเฟซอีกต่างหาก คราบน้ำตาไอ้กลางปลิวว่อนเน็ตเลย
วันนี้ผมได้รับโทรศัพท์อวยพรวันเกิดจากครอบครัวครับ อิ่มใจเป็นที่สุดเพราะผมคิดถึงบ้านมาก พี่โตโทรมาหลังจากวางสายจากพ่อแม่บอกให้ผมหัดเอาแต่ใจซะบ้าง ผมได้แต่หัวเราะกลับไปแล้วบอกให้พี่โตตั้งใจเรียน พี่ใหญ่ของบ้านเรียนหนักครับ สายสุดท้ายจากไอ้เล็กน้องรัก โทรมาวอแวผมหลายสาย ไอ้เล็กอยู่ในช่วงอ่อนไหวที่ผมเดาว่ามันคิดถึงผมแหงๆ เรื่องของขวัญจริงๆ ผมไม่ซีเรียสหรอกครับ บ้านผมแทบจะไม่มีงานเลี้ยงหรือเค้กอะไรตั้งแต่เด็กแล้ว
“กลางไม่กินอะ”
“เอาเลยพี่”
พวกพี่จิ้มก็มาด้วยนะครับวันนี้ โต๊ะผมมีคนหน้าตาดีและหน้าตาปานกลางอยู่รวมกัน ดนตรีสดที่ดังมาทำให้บรรยากาศดีขึ้นมาก ผมชอบนะครับ
“กินหน่อยยย ผัวมึงไม่ว่าหรอก”
“เอ่อ...ครับพี่”
ไอ้เปามันไม่ว่าหรอกครับ นู่นนั่งชนแก้วกับพี่จิ้มสุดรักของมันจนหน้าแดง สงสัยจะโดนหลอกให้กิน
“กลาง สาวคนนั้นสวยมั้ย”
จู่ๆ กับโจ๊กก็มากอดคอกระซิบพูดที่ข้างหูข้างซ้าย
“อืมม ก็ดีนะ”
“สวยใช่มั้ย”
“อื้ม”
“สาวมีดุ้นนะสัส”
“เฮ้ย สวยไปป่ะวะ แล้วมึงรู้ได้ไง”
ก่อนที่ไอ้โจ๊กจะตอบไอ้เบสก็เข้ามากอดคอผมอีกคนพลางกระซิบบอก “ไอ้โจ๊กคลำเจอ กร๊ากกกกกกกกกกกก”
ผมหัวเราะ ไอ้โจ๊กทำหน้าบึ้งบ่นพึมพำว่าไม่น่าเล่าให้ไอ้เบสฟัง แล้วมันก็ผลักหัวผมจนไปชนกับไอ้เบสก่อนจะเดินไปสมทบไอ้กล้วยและไอ้ทัพที่สีสาวโต๊ะข้างอยู่
“ไอ้เบสแยกๆๆ ไอ้กลางมานั่งนี่” ไอ้เปาตบเก้าอี้ข้างตัวปุ๊ๆ เพื่อนคนอื่นนั่งกินนั่งคุยกันไปเหมือนอีกอาทิตย์นึงไม่มีสอบ
“ไม่เอาไม่อยากเป็นเมียน้อยมึง เดี๋ยวพี่จิ้มตบ”
“ไอ้เชี่ยกลาง หนวดกูจะทิ่มหน้ามึงอยู่เสือกให้กูเป็นเมียหลวง”
“จริงๆ ก็ดีนะ”
“หน้าตากูหรอ”
“เปล่า หมายถึงโต๊ะนู่นอ่ะ”
“ไอ้เหี้ยกลาง มึงชักอยู่กับไอ้เปามากไปละนะ”
พี่จิ้มเดินมาตบหัวผมแล้วผลักผมให้ไปนั่งข้างไอ้เปา พี่แกเดินเซๆ ไปชนกับเพื่อนอีกหลายแก้ว บอกเลยว่าปกติก็ไม่เหมือนคนอยู่แล้วเมานี่ยิ่งไปใหญ่ เฮ้ยแล้วไอ้กล้วยจะเลื้อยอะไรขนาดนั้น ดนตรีเบาๆ นะเพื่อนไม่ใช่ดิสโก้
“เพลงต่อไปนะครับ มีคนขอเพลงมาครับ จากโต๊ะเด็กสินกำ”
เสียงนักร้องบนเวทีเอ่ยขึ้นพร้อมกับมองกระดาษเล็กๆ ในมือ สมาชิกโต๊ะผมก็โห่ขึ้น ผมย้ายมานั่งข้างไอ้เปาที่เท้าคางกับโต๊ะมองผมตาเยิ้ม นี่วันเกิดผมหรืองานเลี้ยงระดับอบต.ครับ กินกันมึนเลย
“โต๊ะนู่นเค้าฝากบอกว่า ใครที่มีคนที่รักที่ชอบ อย่าช้าครับ ต้องรีบทำอะไรซักอย่าง”
“ฮิ้วววว”
พอดนตรีขึ้นไอ้เปาก็เอนหัวมาซบไหล่ผมแถมยังจับมือขวาผมไว้แน่น ผมเหลือบมองมัน ร้านมันมืดๆ ครับแถมคนเยอะไม่รู้ว่าใครเป็นใคร ไม่ใช่อะไรเพราะเมาแล้วนั่นเอง
“ง่วงหรอ”
“เปล่า อยากอ้อน”
“หัวใจเต้นแรงหน้าแดงทุกที
ใช่เธอหรือนี่ที่คอยตลอดมา
ควบคุมไม่อยู่รู้เลยว่าตัวสั่น
แค่เจอไม่นานถูกใจฉันเหลือเกิน
เจอกันแล้วอย่าผ่านเลยได้ไหม
ถ้าเสียเธอไปก็คงชอกช้ำ”“เอ้า ร้องพร้อมกัน” เสียงดีดกีตาร์เร่งจังหวะแล้วทุกคนในร้านก็พร้อมใจกันร้อง ยิ่งไอ้คนข้างตัวผมร้องดังกว่าเพื่อนเลยครับ มันเงยหน้าจากไหล่ม้าจ้องตาผมแล้วร้องเพลงไปด้วย
“ฉันต้องทำทำอะไรสักอย่างแล้ว
ให้เธอนี้ไม่แคล้วไม่คลาดกัน
ให้เธอรู้ตัวมีคนคนอย่างฉัน
แอบมองเธออยู่ตรงนี้
รอคอยเธอตรงนี้ฉันนี่ไง”
“มึงไม่ต้องทำอะไรแล้วนี่ไอ้เปา”
ผมชูมือที่จับขึ้นมาให้มันเห็น ไอ้เปายิ้มกว้างก่อนจะซบไหล่ผมอีกครั้ง
===============
ขอบคุณทุกคนที่ติดตามค่ะ ทุกคอมเม้นท์เเละกำลังใจ

คนกลางอ่อนไหวกับเพื่อนมากนะคะ เพราะชีวิตไม่ค่อยมีเพื่อน555
เจอกันตอนหน้าค่ะ
พึ่งมาสังเกตว่านี่มันเป็นนิยายรายสัปดาห์ใช่มั้ย จะพยายามมาให้เร็วขึ้นนะคะ ฮึบบ
#คนกลาง