"ฮะๆ คุณวี อย่าแกล้งผมสิครับ"
ทีมหัวเราะ พยายามขยับหนีร่างสูงที่เข้ามาจั๊กจี้เอวเขาจากด้านหลังระหว่างที่กำลังล้างจาน เขาไม่ใช่คนบ้าจี้อะไรขนาดนั้น แต่พอโดนจั๊กจี้ซ้ำๆแบบนี้เขาก็รู้สึกเหมือนกันนะ
"ก็บอกแล้วว่าไม่ต้องล้าง เดี๋ยวฉันล้างเองก็ไม่ฟัง" วีรภัทรตวัดแขนโอบรอบเอวบางแน่น หอมแก้มคนขยันที่ไม่เคยอยู่นิ่งๆได้นานอย่างหมั่นเขี้ยว
"ไม่เป็นไรหรอกครับ คุณวีทำงานหนักขนาดนี้จะให้ผมปล่อยให้มาล้างจานได้ยังไง"
ร่างโปร่งยังคงยืนกราน เขาไม่อยากให้วีรภัทรต้องเหนื่อยมากกว่าที่เป็นอยู่ บางคืนเขาตื่นขึ้นมาเขาห้องน้ำตอนตีสามเขายังเห็นชายหนุ่มนั่งทำงานอยู่ข้างนอก จนหลังๆทีมมักจะทำอาหารบำรุงใส่ไว้ในตู้เย็นให้เผื่อวีรภัทรจะหิวขึ้นมากลางดึก
"แล้วเธอไม่เหนื่อยรึไง?"
อาจารย์หนุ่มถาม เขาเป็นคนสั่งงานทำไมจะไม่รู้ว่ามันเยอะแค่ไหน ไม่ต้องพูดถึงวิชาอื่นที่ถึงแม้จะเป็นปีสามที่เริ่มมีวิชาเรียนน้อยลงก็ยังมีงานแน่นอยู่ดี
"ไม่หรอกครับ"ทีมเงยหน้ายิ้มให้กับคนรัก "ผมอยากทำ"
"หึ...น่ารักน่ากินจริงๆ" ร่างสูงประคองท้ายทอยของคนรักให้เข้ามาใกล้ ประกบจูบริมฝีปากนุ่มนิ่มล่อตา ลิ้นร้อนเกี่ยวกระหวัดตักตวงความหอมหวานจนทีมต้องวางจานลงด้วยกลัวว่าตนจะทำแตก วีรภัทรผละออกมา มองเจ้าของริมฝีปากสีหวานที่หอบหายใจทางปากเอาอากาศเข้าปอดอย่างพอใจ
"พอเลยครับ เดี๋ยวก็ไม่เสร็จพอดี"คนโดนแกล้งปราม
"อะไรกัน..."ร่างสูงแสร้งทำเสียงน้อยใจ "...แค่ทำให้'เสร็จ'น่ะ ไม่เกินความสามารถฉันหรอกน่า"
"ไปทำงานตรงนู้นเลยครับ" ทีมดันร่างของคนรักออกห่างด้วยใบหน้าแดงก่ำ ซึ่งคนขี้แกล้งก็ยอมล่าถอยแต่โดยดี ทีมถอน
หายใจ ก่อนจะหันกลับมาสนใจจานชามตรงหน้าต่อ
"หายไปไหน?"
เสียงของคนรักที่ดังขึ้นจากโต๊ะทำงานเรียกความสนใจจากทีมที่เพิ่งล้างจานเสร็จ ร่างโปร่งเดินออกมาจากห้องครัว ภาพตรงหน้าคือวีรภัทรที่กำลังรื้อเอกสารออกมาจากลิ้นชักมากองไว้ที่พื้นทุกฉบับ
"หาอะไรอยู่เหรอครับ?"
"เอกสารที่ฉันต้องใช้ประชุมพรุ่งนี้น่ะ ไม่ได้เปิดดูนานแล้ว ไม่รู้เก็บไว้ที่ไหน" ร่างสูงขมวดคิ้ว พื้นที่ส่วนนี้เขาไม่เคยให้ทีมช่วยเห็บเพราะอาจจะทำให้เอกสารสำคัญหาย อย่างมากร่างโปร่งก็เก็บจานของว่าง ช่วยเช็ดโต๊ะ แต่ไม่เคยเคลื่อนย้ายเอกสารของเขา ดังนั้นถ้ามันจะหายก็น่าจะเป็นเพราะเขานี่แหละ
"นานแค่ไหนครับ" ทีมนั่งลงข้างคนรัก ชายหนุ่มนิ่งคิด ก่อนจะถอนหายใจเมื่อนึกออกว่าเขาเอาไปไว้ไหน
"ตั้งแต่ตอนอยู่ที่บ้าน เวย์ก็ขับรถเอามาให้ไม่ได้ซะด้วย สงสัยคงต้องกลับไปเอาแล้วล่ะ เดี๋ยวให้เอาออกมาให้หน้าบ้าน"
วีรภัทรหยิบโทรศัพท์มาโทรออกหาลูกชาย ร่างสูงขมวดคิ้วเมื่อโทรไม่ติด ชายหนุ่มกดต่อสายอีกครั้งแต่ก็ได้ผลเหมือนเดิม
"ผมว่าน้องอาจจะนอนแล้วล่ะมั้งครับ"ทีมเงยหน้ามองนาฬิกาข้างฝาที่บ่งบอกเวลาค่ำมืดพอสมควร "ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวผมลงไปเอาให้ก็ได้ครับ จะได้ไม่ต้องกวนน้อง"
"ไม่ต้องหรอก"วีรภัทรกดตัดสายเมื่อลูกชายไม่รับโทรศัพท์สายที่หกของเขา "คืนนี้เราไปค้างที่บ้านกัน ที่นั่นใกล้กับที่ประชุมมากกว่า ฉันอยากไปดูอาการเวย์ด้วย"
อาการ?
"ลูกชายคุณวีเป็นอะไรเหรอครับ?"
"รถชน" ชายหนุ่มตอบเสียงไม่ยินดียินร้าย ก่อนจะร้องโอ๊ยขึ้นมาเมื่อโดนฟาดที่แขนจากคนรัก
"นี่ลูกเป็นขนาดนี้คุณวียังไม่คิดจะไปดูอีกเหรอครับ?" ทีมขมวดคิ้ว "แล้วลูกอยู่กับใคร อยู่ยังไง มีข้าวกินมั้ย ช่วยเหลือตัวเองได้รึเปล่า..."
"พอๆ พอก่อน"วีรภัทรรีบยกมือห้ามก่อนตัวเองจะกลายเป็นพ่อใจร้ายไปมากกว่านี้ "ฉันไม่ได้ใจร้ายนะ เจ้าเวย์มันบอกว่าไม่ให้กลับต่างหาก แฟนมันจะมาดู...โอ๊ย!"
ร่างสูงร้องเมื่อโนคนรักซัดอีกป้าบ
"เป็นเด็กเป็นเล็กทำไมถึงให้อยู่กับแฟนคนเดียวครับ เกิดพากันไปเสียผู้เสียคนจะว่ายังไง แฟนเป็นคนดีรึเปล่าก็ยังไม่รู้...ฮึ่ย! คุณวีนะคุณวี ไปเอากุญแจรถเลยครับ!"
ทีมรีบลุกขึ้นเตรียมเก็บข้าวของเพื่อไปค้างที่บ้านของชายหนุ่ม วีรภัทรมองตามพร้อมรอยยิ้มขำ ไม่คิดว่าคนรักที่สงบเสงี่ยมดูไม่ค่อยกล้าทำอะไรจะมีสัญชาตญาณความเป็นแม่ที่รุนแรงขนาดนี้
"...ดีกันนะครับ น้า....นะ...."
วีรภัทรยื่นนิ้วก้อยให้คนนั่งที่นั่งอยู่ข้างคนขับโดยมืออีกข้างยังจับพวงมาลัยอยู่ ทีมเหลือบมองคนอายุมากกว่าเขาถึงยี่สิบปีที่ทำอะไรเด็กลงทุกวัน ก่อนจะดึงมือใหญ่มาบีบเล่นบนตักตัวเองแก้เบื่อ ทางคนขับเห็นคนรักยอมเล่นด้วยจึงปล่อยให้อีกฝ่ายยึดมือของตัวเองไปโดยไม่ขัดขืน
ทีมนึกถึงลูกชายของคนรักที่เขายังไม่เคยเห็นหน้า คลับคล้ายคลับคลาว่าแฟนของเทสต์ก็ประสบอุบัติเหตุทางท้องถนนเช่นกัน ทำให้ร่างโปร่งปล่อยมือคนรักเป็นอิสระเพราะกลัวพวกเขาจะเกิดอุบัติเหตุไปอีกราย
อุบัติเหตุบนถนนนี่อันตรายจริงๆ
จะว่าไป เขากับเทสต์ก็ไม่ค่อยได้เจอกันเท่าไหร่หลังจากที่เทสต์ย้ายไปดูแลแฟนที่บาดเจ็บนอกจากที่มหาวิทยาลัย บอกตามตรงว่าทีมนึกภาพพี่ชายของตัวเองดูแลใครไม่ออกจริงๆ ดูท่าเทสต์จะจริงจังกับความรักครั้งนี้มากทีเดียว
"คิดอะไรอยู่?"
วีรภัทรถามเมื่อเห็นคนรักเงียบไปพักหนึ่ง
"ผมแค่คิดว่าลูกของคุณวีจะไม่ชอบผมรึเปล่า"
เขาไม่รู้ว่าตัวเองกังวลเรื่องนั้นจนกระทั่งได้พูดออกมา
"ไม่ชอบสิดี" ชายหนุ่มว่า "ถ้าชอบขึ้นมาพ่อจะตัดหางปล่อยวัดให้ดู"
"คุณวีอ่ะ ไม่พูดด้วยแล้ว"ทีมผลักไหล่คนรักเบาๆ
"ไม่ต้องห่วงหรอก เวย์มันเป็นคนเข้ากับคนง่าย" วีรภัทรเลี้ยวรถเข้ามาในบ้านที่ปิดไฟมืดสนิท "ดีไม่ดีเรียนจบเธออาจจะขออยู่บ้านเลี้ยงลูกก็ได้"
"พูดเหมือนน้องยังเล็กอยู่งั้นแหละครับ"ร่างโปร่งหัวเราะ
"ไม่เป็นไร ปั๊มใหม่ก็ได้"ร่างสูงยื่นเข้ามาใกล้ ก่อนจะโดนคนรักดันใบหน้ากลับไป
"พอเลยครับ เข้าบ้านได้แล้ว มืดขนาดนี้ในบ้านคงหลับกันแล้ว"
ทั้งสองเดินเข้ามาในบ้านหลังใหญ่ที่ทีมรู้สึกว่าครั้งแรกที่เข้ามาในนี้ห่างกับจุดที่เขาอยู่ในตอนนี้หลายสิบปีทั้งที่ผ่านมาแค่ไม่กี่เดือน วีรภัทรเปิดไฟบันได พาเขาเดินผ่านห้องนอนที่ร่างโปร่งค่อนข้างแน่ใจว่าเป็นห้องของลูกชายของร่างสูง แม้ใจหนึ่งจะรู้สึกโล่งที่เขาไม่ต้องเผชิญหน้ากับเด็กหนุ่ม แต่อีกใจก็นึกเป็นห่วงอาการของน้องเวย์คนนี้ไม่น้อย
ไว้พรุ่งนี้แล้วกัน
"คิดถึงห้องนี้มั้ย?" วีรภัทรเปิดไฟห้องนอนที่เขาไม่ได้เข้ามานาน ทีมที่เดินตามเข้ามามองไปรอบๆห้องที่เรียกได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ของพวกเขา วีรภัทรโอเอวบางพาเดินมาที่เตียง ก่อนที่ทีมจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นร่างของเขาก็ถูกผลักลงไปนอนราบกับเตียงนุ่มโดยมีคนรักคร่อมร่างของเขาไว้ด้วยสีหน้าราวกับหมาป่าเตรียมสวาปามลูกแกะตัวน้อย
"คุณวี ไม่เอาครับ เดี๋ยวใครมาได้ยิน..."คนโดนจู่โจมอย่างไม่ทันตั้งตัวพยายามลุกขึ้นแต่ไม่เป็นผล
"ครั้งสุดท้ายที่เธออยู่บนเตียงนี้เธอไม่ได้พูดแบบนี้นะ" ร่างสูงขยิบตา "มารำลึกความหลังกันหน่อยมั้ย?"
หลังจากคบกันมา ทีมรู้แล้วว่าขัดใจวีรภัทรไปก็เหนื่อยเปล่า การขัดขืนที่มีอยู่น้อยนิดหมดไปแทบจะในทันตา ร่างสูงเลียริมฝีปากปากเมื่อเห็นท่าทีอ่อนลงของคนรัก
ดีไม่ดีประกายที่ลุกโชนในดวงตาสีน้ำตาลคู่นั้นจะรุนแรงมากกว่าเขาเสียด้วยซ้ำ
"ทำ...เบาๆนะครับ"เสียงหวานกระซิบแผ่ว ทว่าร่างกายที่ยกขึ้นเสียดสีกับร่างของเขาอย่างยั่วยวนส่งสัญญาณอีกแบบมาให้
"ไม่ต้องห่วง..." วีรภัทรเกลี่ยเส้นผมนิ่มออกจากใบหน้าขาวเบาๆ "...ฉันจะทำให้คืนนี้เป็นคืนที่ดีที่สุดในชีวิตเธอเลยล่ะ"
จุดจบของสายยั่ว คือความระบมไปทั้งตัวจนแทบลุกไม่ขึ้น
ทีมชันตัวขึ้นนั่งบนเตียงด้วยความเมื่อยขบ เขาไม่รู้ว่าตัวเองสลบไปตั้งแต่ตอนไหน ความทรงจำสุดท้ายคือตอนที่เขาถูกพลิกให้ขึ้นมาอยู่ด้านบนของร่างสูงหลังจากถูกชายหนุ่ม'รัก'จนแทบขาดอากาศหายใจ แถมยังถูกอีกฝ่ายบังคับให้ขยับ...
ไม่ๆๆ เลิกคิดเรื่องลามกแบบนั้นได้แล้ว!
ยิ่งหันไปมองร่างสูงที่นอนหลับอยู่ข้างเขาอย่างสบายตัวและสบายใจยิ่งทำให้เขารู้สึกอายยิ่งขึ้น ร่างโปร่งเคลื่อนตัวลงจากเตียงช้าๆ นิ่วหน้ากับความเจ็บปวดที่บริเวณสะโพกซึ่งคาดว่าน่าจะช้ำในไปอีกหลายวัน ความรู้สึกเหนอะหนะทำให้เขาตัดสินใจเข้าไปอาบน้ำโดยไม่รอให้วีรภัทรตื่น เพราะหากทำแบบนั้นนอกจากเขาจะไม่ได้อาบน้ำแล้ว ความเหนียวตัวที่มีอยู่ตอนนี้อาจจะเพิ่มมากขึ้นเป็นเท่าตัว
ทำอะไรกินดีนะ?
ทีมในชุดเสื้อยืดกางเกงขาสั้นสบายๆเดินลงมาที่ครัวหลังจากอาบน้ำเสร็จ จริงๆเสื้อตัวนี้เป็นเสื้อบอลของเทสต์ที่เคยใช้ตอนลงแข่งปีหนึ่ง แต่เขากลับพี่ชายฝาแฝดก็ใช้เสื้อผ้าปนๆกันอยู่แล้ว ทีมจึงไม่คิดจะโทรไปขออนุญาตพี่เอาเสื้อผ้ามาใส่ ร่างโปร่งเปิดดูข้าวของที่สามารถเอามาทำอาหารได้ ขมวดคิ้วเมื่อเห็นว่ามีเพียงไข่ไก่กับข้าวสารและผักอีกเล็กน้อยเท่านั้นที่สามารถเอามาทำอาหารได้
"ข้าวผัดอีกซักมื้อแล้วกันนะครับ"
ร่างโปร่งพึมพำแล้วหยิบข้าวของออกมาจากตู้เตรียมประกอบอาหาร
"อือ..."
เวย์ปรือตาตื่นขึ้นมาด้วยศีรษะที่หนักอึ้ง เด็กหนุ่มขยับซุกตัวในผ้าห่ม มือข้างที่ปกติควานหาร่างโปร่งที่มักจะนอนหลับสนิทอยู่ข้างเขา
แต่กลับพบเพียงความว่างเปล่า
ความทรงจำทั้งหมดไหลทะลักเข้ามาในหัวของเขาราวกับทำนบแตก ร่างสูงสะดุ้งขึ้นนั่งบนเตียง หันมองไปรอบห้องที่มีเพียงความว่างเปล่า ไร้ซึ่งร่องรอยของคนรักที่มักจะนอนกอดเอวซุกอกเขาเหมือนลูกแมวน้อยทุกเช้าอย่างที่เป็นมา
เวย์กัดฟันข่มความเจ็บปวดตวัดขาลงจากเตียง สะกดกลั้นความรู้สึกอยากอาเจียนแล้วรีบเปิดประตูวิ่งออกมาจากห้องทั้งที่ยังอยู่ในกางเกงนอนตัวเดียว ร่างสูงวิ่งลงมาข้างล่างเมื่อได้ยินเสียงขลุกขลักในครัวพร้อมทั้งกลิ่นหอมโชยแตะจมูก ความหนักอึ้งที่เขารู้สึกหลังจากตระหนักได้ว่าร่างโปร่งไม่อยู่ในห้องหายไปแทบจะในทันที เด็กหนุ่มก้าวเข้าไปในห้องครัว ร่างที่ก้มๆเงยๆอยู่หน้าเตาแก๊สฮัมเพลงเบาๆ ไม่ได้รับรู้ถึงการเข้ามาของเขา
เวย์ดึงร่างนั้นเข้ามาในอ้อมกอดทันที
ทีมร้องเบาๆอยากตกใจเมื่อถูกอีกฝ่ายกอดจากด้านหลัง ร่างโปร่งปิดแก๊ส กำลังจะหันไปดุคนรักที่เล่นไม่รู้เวลาเมื่อได้ยินเสียงที่ไม่คุ้นเคยดังขึ้นข้างหู
"ผมขอโทษ ผมรักพี่ อย่าไปจากผมเลยนะครับ"
ตามสัญชาตญาณ ร่างโปร่งผลักคนที่กอดเขาไว้เต็มแรงจนร่างสูงที่ไม่ทันตั้งตัวล้มลงไปกับพื้น ทีมหยิบตะหลิวซึ่งเป็นอาวุธที่ใกล้มือที่สุดมาป้องกันตัว
"อยะ..อย่าเข้ามานะ"
"เทตส์ เป็นอะไรรึ...เปล่า?"
วีรภัทรที่ได้ยินเสียงเอะอะโวยวายเดินเข้ามา เลิกคิ้วอย่างประหลาดใจเมื่อเห็นลูกชายในสภาพกึ่งเปลือยนั่งอยู่บนพื้นและคนรักถือตะหลิวเหล็กไว้
"ก็...จู่ๆคนคนนี้ก็เขามากอดผม..." ทีมเล่า ยังคงจับตามองทุกการเคลื่อนไหวของเด็กหนุ่มด้วยสีหน้าไม่ไว้วางใจ ไม่เข้าใจความหมายของความเจ็บปวดในดวงตาของร่างสูงบนพื้นยามที่เห็นรอยรักสีแดงสดที่เขาไม่ใช่เจ้าของกระจายเต็มลำคอขาว
"แปลว่าเธอไม่รู้จักเขา?" วีรภัทรเลิกคิ้ว เขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นแต่สายตาของลูกชาย ดูอย่างไรก็ไม่เหมือนกับคนที่เพิ่งเคยเจอกับคนรักของเขาครั้งแรก
"ไม่ครับ ไม่รู้จัก" ทีมยืนยันเสียงหนักแน่น ได้การตอบรับเป็นสีหน้าที่เหมือนจะร้องไห้ของเด็กหนุ่ม ร่างสูงชันตัวลุกขึ้น มองร่างโปร่งแล้วหันไปหาบิดาของตนด้วยความรู้สึกเหมือนถูกทรยศ กัดฟันแน่นจนกรามขึ้นสัน
"พี่เทสต์...มีความสุขใช่มั้ยครับ?"
"ฮะ?" คนถูกถามประมวลผลไม่ทัน ก่อนจะได้ตอบอะไร เวย์ก็เอ่ยขึ้นด้วยเสียงสั่นเครือ
"ถ้าพี่อยู่กับพ่อแล้วมีความสุข...ผมก็จะไป"
เด็กหนุ่มหันหลังเดินกลับออกไป ทิ้งให้ทีมที่พยายามประติดประต่อเรื่องราวยืนค้างอยู่ในครัวกับวีรภัทรที่กอดอกมองคนรัก
"ว่าไง? จะบอกว่าไม่รู้จักกันก็คงไม่ใช่แล้วล่ะ"
"มะ..ไม่ใช่นะครับ คือ..."
ทีมลนลาน หรือว่าที่เด็กคนนั้นเรียกเขาว่าเทสต์ แถมยังท่าทางเหมือนโดนเขาสวมเขานั่นอีก
ซวยแล้วไง...
"เทสต์ ฉันจะให้โอกาสเธอพูดความจริง..." วีรภัทรเอ่ยเสียงเข้ม "เธอคงรู้นะ ว่าฉันไม่ใช่คนที่ให้โอกาสใครบ่อยๆ"
ทีมเม้มปาก ในตอนนี้ความยุ่งเหยิงที่เขาก่อไว้สร้างปัญหาให้กับทุกคนที่เกี่ยวข้อง ความเสียหายที่เกิดในตอนนี้มันไม่คุ้มค่ากับสิ่งที่เขากำลังทำอยู่แม้แต่น้อย
อีกอย่าง...เขาเหนื่อยกับการโกหกคนตรงหน้ามากเหลือเกิน
"ผม...ไม่ได้ชื่อเทสต์"
เวย์กึ่งเดินกึ่งวิ่งออกมาจากตัวบ้าน เด็กหนุ่มไม่รู้ว่าตัวเองกำลังจะไปไหน จะไปอย่างไร เขารู้แค่ว่าเขาอยากออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด ไปให้ไกลจากสาเหตุที่ทำให้หัวใจของเขาบีบตัวอย่างทุกข์ทรมาน
ผลั่ก!
ร่างสูงรีบร้อนจนไม่ได้มองทาง ชนเข้ากับร่างร่างหนึ่งที่เดินสวนเข้ามาในบ้านอย่างจังจนทั้งคู่ล้มลงไปกับพื้น
"เวย์? เป็นอะไร? ทำไมวิ่งออกมานอกบ้านสภาพแบบนี้?" น้ำเสียงเป็นกังวลที่เขาคุ้นเคยของคนรักดังขึ้น เวย์เงยหน้าขึ้นอย่างงุนงง ปล่อยให้อีกฝ่ายฉุดเขาลุกขึ้นทั้งที่ยังนิ่งอึ้งกับภาพตรงหน้า
เขาไม่เข้าใจ...
"พี่...ทำไม...?"
"พี่ออกไปซื้อโจ๊กมาให้ ไม่คิดว่าเวย์จะตื่นเร็วขนาดนี้"
เทสต์ย่อต่อลงปัดฝุ่นจากเข่าของคนรัก สำรวจหาบาดแผลตามร่างกายอย่างเป็นห่วง เวย์ยังคงนิ่งงัน เบิกตากว้างมองร่างโปร่งในขุดเสื้อยืดกางเกงยีนส์ตัวเก่งอย่างไม่เข้าใจ
"ทำ...ทำไมพี่ถึงมาอยู่ตรงนี้..." ในที่สุดเวย์ก็หาเสียงของตัวเองเจอ คนถูกถามชะงัก รอยยิ้มเศร้าๆปรากฎที่ริมฝีปากบางทั้ง
ที่ยังไม่เงยหน้า
"พี่แค่อยากอธิบายทุกอย่างก่อนจะไป แต่ถ้าเวย์ไม่อยากเห็นหน้าพี่...."
"ไม่ใช่ครับ!!...คือ...ว้อยยยย"
ร่างสูงอยากจิกทึ้งผมตัวเองระบายความเครียด เมื่อจนปัญญาจะอธิบายด้วยคำพูด เวย์คว้าข้อมือขาวแล้วลากให้อีกฝ่ายเดินตามเขาเข้าไปในบ้าน แม้ว่าเทสต์จะไม่เข้าใจสถานการณ์ แต่ร่างโปร่งก็ยอมให้คนรักจูงมือไปแต่โดยดี
"ผม...ไม่ได้ชื่อเทสต์"
นั่นคือสิ่งแรกที่พวกเขาได้ยินเมื่อกลับเข้ามาในครัว เวย์ยังคงตะลุงจ้องร่างตรงหน้า ก่อนจะหันกลับมาหาคนข้างกาย มือที่จับข้อมือของคนรักบีบแน่นเหมือนกลัวว่าหากปล่อยมืออีกฝ่ายจะสลายหายไปกับตา
"นี่มัน...อะไรกันครับ?"
คนอายุน้อยที่สุดหันหาคนนู้นคนนี้ทีอย่างงุนงง
"นั่นสิ"วีรภัทรเลิกคิ้ว แม้จะรู้ความจริงอยู่แล้ว แต่เมื่อเห็นสองแฝดอยู่ด้วยกันในห้องเดียวกันก็ทำให้เขารู้สึกเหลือเชื่อเช่นกัน
"ฉันก็อยากจะรู้เหมือนกัน"
ทีมไม่มีทางเลือก ร่างโปร่งสารภาพทุกอย่าง ตั้งแต่เรื่องที่เขานอนกับวีรภัทรในคืนแรกที่พบกัน เรื่องที่เทสต์เข้าใจผิดว่าถูกอาจารย์ลวนลามจนอยากจะถอนวิชาเรียน ทำให้ตนสวมรอยเป็นอีกฝ่ายเข้าไปเรียน ไปจนถึงเรื่องที่เขาใช้ชื่อเทสต์กับวีรภัทรตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
เทสต์มองหน้าอาจารย์โรคจิตที่เขาไม่ถูกชะตาตั้งแต่วันแรกที่เจอตาขวาง ยิ่งรู้ว่าอีกฝ่ายเอาเปรียบความใสซื่อไร้เดียงสาของน้องชายเขายิ่งรู้สึกโมโห และยิ่งโกรธตัวเองมากกว่าที่ส่งเนื้อเข้าปากเสือโดยไม่รู้ตัว ยอมให้น้องชายไปเรียนแทนตัวเองโดยไม่สงสัยอะไรซักนิด
"คุณวี..."ทีมเรียกคนรักเสียงสั่นเครือ เจ้าของชื่อไม่ตอบ หันหลังให้คนอายุน้อยกว่าแล้วเดินออกจากห้องครัวไป ทีมรีบวิ่งตามไปทันที ทิ้งให้คนสองคนที่ได้ยินความจริงอันน่าตื่นตะลึงเมื่อครู่ยืนอยู่ที่เดิม
เวย์หันกลับมาหาคนรัก ทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาสงสัยกระจ่างขึ้นมาทันควัน ร่างสูงอยากจะกอดคนรักแน่นๆ แต่ขณะเดียวกันก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเทตส์ไม่เคยบอกเรื่องนี้กับเขา
"ทำไมพี่เทสต์ไม่บอกผมล่ะครับว่ามีฝาแฝด?"
"จะให้พูดว่าอะไร..." ร่างโปร่งเอ่ยด้วยเสียงอ่อนล้า "...จะให้บอกว่า 'เฮ้ยเวย์ รู้มั้ยว่าคนที่มึงชอบ คนที่ใจดี รักสัตว์ มีรอยยิ้มอ่อนโยน เป็นมิตรกับทุกคน ทำอาหารก็เก่ง เรียนหนังสือก็ดี คนคนนั้นไม่ใช่กู' งั้นเหรอ?"
"พี่เทสต์..."
"กูพยายามแล้ว..." ร่างโปร่งเบือนหน้าหนี ไม่ต้องการให้เด็กหนุ่มเห็นความอ่อนแอในดวงตา "กูพยายามทำแบบนั้น พยายามเอาใจใส่ เป็นคนใจดี น่ารักให้ได้แบบทีม กูพยายามแล้ว...ที่จะเป็นคนที่มึงรัก"
ร่างโปร่งดึงข้อมือของตนออกจากการเกาะกุม
"ขอโทษนะ...ที่เป็นคนที่มึงรักไม่ได้"
เวย์ไม่ยอมฟังสิ่งที่ร่างโปร่งจะพูดต่อ เด็กหนุ่มดึงคนรักเข้ามาในอ้อมกอดแน่นอย่างสุดความสามารถด้วยแขนเพียงข้างเดียว ไม่ยอมปล่อยแม้ร่างในอ้อมกอดจะดิ้นแค่ไหน
"พี่เทสต์...ฟังผม...โอ๊ย!"
อนิจจา ร่างโปร่งไม่ใช่คนบอบบางที่ขัดขืนใครไม่ได้ เวย์ถูกผลักกระเด็นรอบที่เท่าไหร่ไม่รู้ของเช้านี้ แต่เวย์เป็นคนหัวไว จากที่ล้มลงไปเบาๆกลายเป็นลงไปนอนกลิ้งบนพื้น ร่างสูงร้องออกมาพร้อมกับกุมแขนข้างที่เข้าเฝือกด้วยสีหน้าเจ็บปวด ตามคาด เทสต์รีบทรุดตัวลงข้างเขาด้วยสีหน้ากระวนกระวาย
"เวย์! เจ็บมากมั้ย พี่ขอโทษ"
"เจ็บ..."ร่างสูงโกหก ยกมือขึ้นกุมศีรษะ
"หัวกระแทกด้วยเหรอ หรือว่าปวดหัวจากเมื่อคืน ลุกไหวมั้ย"ร่างโปร่งมีสีหน้าเหมือนจะร้องไห้เมื่อเด็กหนุ่มส่ายหน้าน้อยๆ เทสต์ช้อนศีรษะของคนรักขึ้นมาวางบนตักอย่างระมัดระวัง "โอเคขึ้นมั้ย?"
"ผมขอ...อยู่อย่างนี้ซักพักได้มั้ยครับ..."
ร่างสูงไม่ได้ได้งานในวงการบันเทิงมาแบบโชคช่วย เทสต์พยักหน้า ลูบศีรษะของเด็กหนุ่มเบาๆอย่างที่เขารู้ว่าอีกฝ่ายชอบ เวย์หลับตาพริ้ม ดึงมือเรียวของคนรักมาวางบนใบหน้าของเขา
"พี่เทสต์น่ะ ปากร้าย ขี้โมโห แถมยังชอบคิดว่าตัวเองไม่ใส่ใจใคร..."
เทสต์เม้มปาก เขารู้ดีว่านั่นเป็นข้อเสียของเขา
"...แต่พี่รู้มั้ยครับ ว่านั่นทำให้ผมรักพี่ มากพอๆกับการที่พี่หายโกรธเร็ว ให้อภัยคนง่าย ชอบใจอ่อนกับผมทั้งๆที่ผมชอบให้พี่ทำเรื่องที่พี่ไม่อยากทำ ผมรักพี่ที่พยายามทำทุกอย่างเพื่อแก้ไขข้อเสียของตัวเอง ทั้งที่สำหรับผม ข้อเสียของพี่น่ะ น่ารักเป็นบ้า..."
เวย์ดึงมือเรียวเข้ามาจุมพิตที่หลังมือเบาๆ
"ก็พี่เทสต์ของผมน่ะ ใจดีที่สุดเลยนี่ครับ"
"ไอ้เด็กบ้า" เทสต์พยายามอย่างสุดความสามารถที่จะไม่ให้น้ำตาร่วงเผาะลงมาจากเบ้าแต่ไร้ผล เวย์หัวเราะ ก่อนจะเอื้อมมือขึ้นมาเช็ดน้ำตาให้ร่างโปร่งอย่างแผ่วเบา
"อยู่กับผมตลอดไปนะครับ"
"อือ ก็ไม่มีที่ไปอยู่แล้วนี่"
ร่างโปร่งยังคงฟอร์มจัด เวย์ยิ้ม ก่อนจะเอื้อมโน้มคอของคนรักลงมาประทับริมฝีปากอย่างแผ่วเบา
"รักนะครับ"
"พูดมากจริง" เทสต์อมยิ้ม ก่อนจะทาบริมฝีปากลงบนริมฝีปากได้รูปนั้นอีกครั้ง
________________
มาล้าวววววววววว
คิดถึงฉันมั้ยเวลาที่เธออออ//ดักแก่มาก55555
ขอบคุณที่รอครับพ้ม