ฝูงผู้คนจอแจเบียดเสียดกันไปมาทำให้ผมเซไปชนคนข้างๆอย่างไม่ได้ตั้งใจ พลางพร่ำคำขอโทษไปแต่ขาก็ยังก้าวไปข้างหน้าต่อ
“โทษว่ะ ไอ้โล” ผมขอโทษเป็นรอบที่เท่าไรแล้วก็ไม่รู้ มันมองผมเอือมๆแต่ผมก็ไม่สนใจ
“กุเห็นมรึงพูดหลายรอบล่ะ แล้วเป็นไงห่ะ! เหยียบเท้ากุทุกรอบ”
“ก็กุไม่ได้ตั้งใจเปล่าว่ะ มรึงก็ดูคนในงานดิอย่างกับฝูงควายยยยย”
“มรึงคนนึงแหละที่เป็นฟายยยย ไอ้วา!”
“เดี๋ยวกุต่อยเลยมรึง! อุตส่าห์พามาเดินงานเกษตรทั้งที แม่ง! เสียอารมณ์” ผมมองมันอย่างเคืองๆ ไอ้เรารึอุตส่าห์พามันมาเดินงานเกษตรปลอบใจ แทนที่จะเอาเวลาไปนั่งเศร้า เดร่ออออ ทำคุณบูชาโทษแท้ๆ ไอ้ว้าเอ้ยยยยยย
“เห้ย! ไอ้วา งอนกุอ่อว่ะ?” มันสะกิดไหล่ผม
“กุมีสิทธิ์จะงอนมรึงหรือไง? ก็กุมันฟายนิ งอนใครไม่เป็นหรอก” ว่าแล้วผมก็เบือนหน้าหนีไปอีกทาง หงุดหงิดชิบหาย เห็นมันนั่งจิตตกกับคะแนนสอบ หวังจะให้มันอารมณ์ดีกลับมาว่ากุควาย หึ
“เฮ้ย กุขอโทษ แค่หยอกเล่นเอง”
“........”ผมเงียบ
“กุแค่ไม่ชอบคนเยอะๆเลยหงุดหงิดเอง”
“..........”
“ไอ้วา โกรธกุจริงดิ?”
“.........” ผมยังคงเงียบไม่ตอบอะไรไอ้โลมัน
“ตอบกุหน่อยดิ ไอ้วา!!”มันตะโกนเรียกชื่อผมข้างๆหู
“โว๊ะ!!! หูกุจะแตกล่ะ เบาๆก็ได้”
“หายกุงอนยัง?”
“ไม่หายเว้ย!”
“งั้นเดี๋ยวกุพาไปทีดีๆ เผื่อมรึงจะหายงอนกุ”
“กุไม่ไป กุจะเดินงานเกษตร~~” มันดึงแขนผมให้ตามมันไป ผมขืนตัวเองไว้ไม่ไปตามการนำพาของไอ้โล
“อย่าดื้อดิ กุง้อมรึงอยู่เนี่ย”
“กุไม่ขอ!!!!”ฮ่วยยยยยย ขืนแรงไอ้โลไม่ไหวแล้วววววว นี้มรึงเป็นควายเผือกหรือไงว่ะ แรงเยอะชิบหาย ผมได้แต่เดินตามแรงที่ดึงแขนผมไปโดยไม่ขัดขืน เพราะขี้เกียจ
“เอาจะถึงแล้วมรึง มรึงเห็นตรงนั้นป่ะ ตรงเนินนั้นอ่ะ”
“งั้นรีบไปรีบกลับเลย กุเบื่อออออ”
“แม่งก็พากุออกมาเองนี้หว่า”
“ไอ้!!!!”ผมชี้หน้ามัน แล้วหันไปมองเนินข้างบนและย่ำเท้าก้าวฉับๆไปบนพื้นหญ้าอย่างว่องไว เพราะต้องการจะกลับไปนอนเต็มทีและเบื่อไอ้โลมัน แล้วสิ่งที่ผมไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นก็เกิด.....
“เหี้ย!!!!”
ตูมมมม!!!
ผมลื่นลงไปในร่องน้ำสีเขียวๆ ที่ผมคิดว่าเป็นพื้นหญ้าแต่มันไม่ใช่อย่างที่ผมคิด แต่เป็นร่องน้ำขนาดกลางโดยสีเขียวๆของมันคือพืชน้ำหรืออะไรก็แล้วแต่ที่เป็นพืช กลิ่นของน้ำนี้ก็สุดจะบรรยาย เหม็นสุดๆแถมยังดำๆอีก พืชพวกนี้มันโตในน้ำสกปรกนี้ได้ยังไงว่ะเนี้ยยยยยย แม่งโคตรซวยยยยยย
“ไอ้วา!!!!! เป็นยังไงว่ะ มรึง?”ไอ้โลวิ่งมาหาผมด้วยสีหน้าความเป็นห่วง
“สบายดีมั้ง สัด! ช่วยกุขึ้นไปดิ ยืนมองหาพ่อง!” ผมว่ามัน ก่อนที่ไอ้โลจะยืมมือมาดึงผมขึ้นจากร่องน้ำแสนโสโครกนั้น สภาพกางเกงยีนส์ที่เปียกชุ่มไปด้วยพืชสีเขียวๆ แล้วก็กลิ่นที่แสนจะรัญจวนใจเมื่อสูดดม
“แม่งซวยชิบหายยยยยยยย กุไม่น่าตามมรึงมาเลย ไอ้โล!!!”
“สภาพแบบนี้เดินออกไปคงตกในแน่ว่ะ กุว่ามรึงไปล้างตัวก่อนดีมั้ย?” มันมองผมอย่างห่วงๆ
“มันมีทางให้กุเลือกไม่ล่ะ แม่งเอ้ยยยยยย กุจะจัดการมรึงทีหลัง” ผมมองหน้ามันอย่างคาดโทษแล้วก้าวฉับไปห้องน้ำ
#ห้องน้ำ
“แม่งงงง ห้องน้ำไม่มีสายฉีดก้นหรือไงว่ะ! หัวร้อนแล้วนะโว้ยยยยย” ผมทึ้งผมตัวไปมาอย่างระบายอารมณ์
“ไอ้วา มรึงออกมาล้างตัวข้างนอกมา มีสายยางอยู่” โลเรียกผมไปข้างๆห้องน้ำแล้วยื่นสายยางให้ ผมจัดการถอดเสื้อผ้าทิ้งแล้วเหลือแต่บอกเซอร์ตัวเดียว แล้วใช้สายยางฉีดล้างตัวเองและกางเกง
“ไอ้วารอกุแปปนึงนะเดี๋ยวมา” มันว่าก่อนจะออกวิ่งไปอย่างรวดเร็ว
ผ่านไปสักพักไอ้โลก็วิ่งหน้าตั้งกลับมาพร้อมกับถุงบางอย่างในมือสองสามถุง
“มรึงไปไหนมาว่ะ” ผมถามขึ้นอย่างสงสัย
“อ่ะ” มันยื่นถุงที่มันหิ้วมาให้ผม ผมขมวดคิ้วมองถุงในมือมันแล้วมองหน้ามันอย่างสงสัย
“ให้กุทำไม?”
“ก็เสื้อกางเกงมรึงเปียก กุเลยไปซื้อให้ใหม่”
“แล้วมรึงไปซื้อมาจากไหน?”
“ในงานเกษตร”
“เออ ขอบใจว่ะ” ผมรับถุงพวกนั้นจากมันก่อนจะหันเตรียมเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องน้ำ แต่ก็ต้องหันกลับมาเพราะไอ้โลเรียก
“ไอ้วา”
“อะไร”
“กุไม่ได้ซื้อกางเกงในให้นะ ในงานไม่มีขาย”
“ไอ้เหี้ยยยยยยยย” ผมรีบวิ่งไปในห้องน้ำอย่างรวดเร็วเมื่อไอ้โลพูดจบ
หลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ไอ้โลซื้อให้ผมก็ออกมายืนมองตัวเองหน้ากระจก พร้อมให้คำนิยามสภาพตัวเองว่า ‘เด็กดอย’
เสื้อชาวเขาแขนสั้นสีส้มอ่อนที่เข้าคู่กับกางเกงขายาวสีส้มอ่อนเช่นเดียวกับเสื้อ รองเท้าแตะคู่เดิมที่ผมใส่มา คือมองสภาพตัวเองแล้วแบบ..... เฮ้ออออออ ถอนหายใจแล้วเดินจากห้องน้ำไปแบบปลงๆ
“เสร็จแล้วใช่ป่ะ กลับกัน”ไอ้โลพูดแล้วหันหลังเดินไป ผมเดินตามมันเงียบด้วยอาการเซ็งจัด
“ไอ้วา......”
“............”
“ตกลง หายโกรธกุยัง?”
“..............”
“ยังไม่หายโกรธกุหรอ?”
“กุไม่ได้โกรธ กุแค่....เซ็ง”
“มรึงเซ็งอะไรว่ะ”
“เซ็งที่ไม่ได้เดินงานเกษตร เซ็งที่ต้องมาเจอเรื่องบ้าไรก็ไม่รู้”
“ไม่ได้เซ็งชุดที่กุซื้อมาใช่ป่ะ?”
“เซ็ง แม่ง เหมือนกุพร้อมที่จะไปเก็บยอดชาอ่ะ แต่ทำไงได้”
“กุว่าน่ารักดีนะ ทั้งชุดแล้วก็...............มรึง” มันหยุดเดินแล้วหันมามองหน้าผม
“บ้าเหอะ!” ผมเสมองไปทางอื่น ทำไมหน้าผมมันร้อนๆว่ะ
“งั้นกุยอมบ้า เพราะว่ามรึงน่ารัก” เหี้ยไรเนี้ยยยยยยยยยยยยย
“กลับเหอะ เพ้อเหี้ยไรไม่รู้”
“เพิ่งรู้ว่ามรึงมันโคตรน่ารักเลย เวลาเขิน”
“ไม่ได้เขิน”
“เขินดิ ก็เห็นๆอยู่ว่าน่ามรึงแดง”
“อากาศร้อน”
“ตอนกลางคืนเนี่ยนะ?” มันเลิกคิ้วถามผมแล้วยิ้มมุมปาก
“ยิ้มไร”
“ยิ้มให้ความน่ารักของมรึง”
“พ่องงงงงงงง”
“ถ้าแม่งใช้ทางลัดแล้วได้ผล ทีหลังกุจะใช้บ่อยๆ”
“ทางลัดไรมรึง” ผมมองหน้าอย่างไม่เข้าใจ
“ทางลัดที่พาเราสองคนมาที่นี้ด้วยกันไง”
“ทางลัด.....อะ...ไร”
“............”ยิ้ม มันยิ้มให้ผมครับ
“มรึง ไอ้โล ไอ้เหี้ยยยยยยยยยยย”
“ตอนแรกกะจะผลักให้มรึงตกลงไป แต่มรึงดันตกลงไปเอง สบายเลยกุ ได้ดูมรึงอาบน้ำฟรีเลย แถมยังเห็น.....มรึงอีก”
“มรึงต้องการอารายยยยยยยยย”
“ต้องการให้มรึงคบกับกุ”
“เพื่อ!!!!!!”
“ก็มรึงน่ารัก น่าแกล้ง กุชอบ”มันยิ้มแล้วพูดต่อ
“ยังไงมรึงก็หนีกุไม่พ้นหรอก ถ้ามรึงไม่คบกับกุจะตื้อจนมรึงกินไม่ได้นอนไม่หลับเลย”
“ไม่ต้องตื้อกุไอ้เหี้ยยยย ยอมตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอแล้ว”
“อ้าววววววววววววว ไม่บอกกัน กุจะได้ไม่เสียเวลาเป็นเพื่อนกับมรึงตั้งแต่แรก”
“แล้วถ้าไม่เป็นเพื่อนกับกุมรึงจะรู้จักกุมั้ย”
“เป็นอย่างอื่นก็รู้จักมรึงได้”
“เป็นอะไร”
“เป็นผัวมรึง”
“เหี้ยยยยยยยยยย”
หลังจากนี้ไอ้โลคงไม่ต้องใช้ทางลัดแล้วล่ะ เพราะผมเปิดทางให้แต่แรกแล้วแต่เสือกไม่รู้ตัวว่าโดนอ่อย ที่พามันมาวันนี้จุดประสงค์ที่กล่าวไว้ข้างต้นนั้นเป็นจุดประหลักคือการปลอบใจ แต่จุดประสงค์จริงๆนั้นไซร้คือต้องการ อยู่กับคนที่ชอบ
วา
.
.
พามันเดินทางลัดมาตั้งนานเพิ่งรู้ว่า เปิดทางให้ตั้งแต่แรก จุดประสงค์ที่เดินออกมาข้างนอกกับมันจะมีอะไรได้ นอกจากอยากอยู่กับคนที่ชอบ
โล
.
.
==============================================
เปิดเรื่องสั้นเรื่องที่สองแล้วค่ะ อยากบอกว่าไม่มีสาระอะไรจากเรื่องนี้เลย
แต่งเพราะอยากแต่ง แฮร่ๆ
ฝากเรื่องสั้นเรื่องด้วยนะคะ
หนีจากทุกสิ่งที่มีอยู่.......