|1|
ได้ยินเสียงฝีเท้าวิ่งตึงๆมาแต่ไกล พร้อมเสียงไขลูกกุญแจ รู้เลยว่าอีกเดี๋ยวจะต้องมีเสียงตะโกนโวยวายดังตามมาแน่
“พี่ภาค มาแล้วว!” นั่นไง เดาผิดที่ไหน
“วันนี้เลิกเรียนไวหรอหื้ม ตัววุ่น”
“ชื่อวุ้น! วันนี้ไม่มีเรียนคาบสุดท้ายอ่ะ แฮ่ๆ” เจ้าตัววุ่นว่าพลางถลาวิ่งมาเกาะเอวหนึบ ช้อนสายตาอย่างน่าหมั่นเขี้ยว มาอีหรอบนี้ต้องอ้อนขออะไรแน่ๆ
“คราวนี้มีอะไรล่ะ”
“...อยากกินไอติมง่ะ อ๊ะ! หันมาก่อนซี่ ไอติมใกล้ๆนี่แหละ ตึกตรงข้ามอ่าพี่ภาคเคยเห็นใช่ป่ะ มันเพิ่งเปิดใหม่ วุ้นอยากลอง” ตัวแสบว่าพลางเอาคางถูๆไถๆจนชักจะเริ่มจี้ เลยดันหัวมันออก เด็กน้อยทำหน้าบู้บี้เห็นแล้วตลกดี
“ก็ไปสิ”
“..พี่ภาคไปด้วยสิ”
“แค่นี้ข้ามถนนเองไม่เป็นรึไง ไหนว่าโตแล้ว”
“มันไม่ใช่อ่า วุ้นอยากไปกินกะพี่ภาค นะครับ นะคร้าบบ” ตัววุ่นเอาคางมาเกยอีกแล้ว สงสัยรู้แล้วแน่ๆว่าแพ้ลูกอ้อนแบบนี้
ยกมือลูบหัวมันพร้อมกับผลักออก รู้แล้วหน่า ใครจะไปทิ้งให้ไปคนเดียวได้ลง
“งั้นก็เตรียมตัว ไปเปลี่ยนชุดไป เอากระเป๋าไปเก็บด้วย”
“รับทราบ!” ตัวป่วนว่าพลางยิ้มร่า วิ่งออกจากห้องเสียงตึงตังไปห้องข้างๆ เสียงวุ่นวายดังมาอีกสักพักก่อนเจ้าตัวดีจะวิ่งออกมาจากห้องตัวเอง
“แหะๆ ป๊ะ!” ยิ้มได้ยิ้มดีอยู่นั่นแหละ หมั่นไส้จนต้องเขกหัวมันไปหนึ่งทีก่อนรีบเดินนำออกมา เดี๋ยวแม่งได้ทำอะไรแปลกๆใส่อีก
“พี่ภาค รอด้วยยยย” ไอ้นี่ก็โวยวายจัง
วุ่นเป็นเด็กที่พักอยู่คอนโดเดียวกัน อยู่ข้างห้องนี่เอง จริงๆมันชื่อวุ้นแต่ชอบเรียกมันวุ่น เหมาะดี ชอบมาวุ่นวายบ่อยๆ แต่ก็นะช่วยทำให้ชีวิตมีสีสันขึ้นเยอะเลย
เมื่อก่อนชอบโดนหาว่าหาเรื่องเพราะหน้าตาดูเกเร ตาขวาง ใครเห็นก็ชอบนึกไปเองว่าเป็นอันธพาล แต่ไม่ใช่โว้ย กูรักความสงบจะตาย แต่ก็ด้วยหน้านี้นี่แหละทำให้ไม่ค่อยมีใครกล้าคบเท่าไหร่ จู่ๆตอนที่มันย้ายมาข้างห้องก็ดูจะกลัวกันจะตาย ชอบมาเกาะขอบประตูละยื่นหัวมาส่อง พอมองก็จะรีบหันหน้าหนี ดูก็รู้ว่ากลัวแต่ก็ยังพยายามมาสอดส่องอยู่นั่นแหละ
สุดท้ายก็ตัววุ่นนั่นแหละที่เริ่มทักก่อน เข้ามาหาตัวสั่นงั่นงก เอากับข้าวมาแบ่งให้ หลังจากนั้นก็เริ่มคุยกันมากขึ้น ตัววุ่นอาศัยอยู่กับพ่อสองคน ส่วนแม่เสียไปตั้งแต่ป.ห้าทำให้พ่อต้องย้ายที่ทำงานจนมาเจอกันนั่นแหละ พอตัววุ่นขึ้นม.หนึ่งพ่อตัววุ่นเองก็ทำงานงกๆไม่ค่อยมีเวลาดูแลลูกเท่าไหร่ ประจวบกับที่ตอนนั้นน้องหันมาติดเราพอดี พ่อมันเลยฝากฝังให้ช่วยดูแล
ทั้งพ่อทั้งลูกไม่ต่างกัน ตัวสั่นทุกครั้งตอนคุยกันช่วงแรก
เห็นแล้วก็สงสัยว่ามีชีวิตรอดกันมาได้ยังไงจนถึงตอนนี้ เหมือนครอบครัวหนูแฮมสเตอร์ในทุ่งหญ้าสะวันนาที่มีแต่สัตว์ล่าเนื้อยังไงอย่างงั้น
ช่วงแรกที่ตัววุ่นเข้าโรงเรียนเราเห็นแต่แผลฟกช้ำตามตัวมันทุกวัน ถามก็ไม่ยอมบอก ดูก็รู้ว่าโดนแกล้ง พ่อมันก็ไม่รู้จะทำยังไง แจ้งครูก็แล้วแต่แผลกลับบ้านก็ยังเท่าเดิมเห็นอย่างนั้นก็อด..ช่วยไม่ได้ เลยอาสาไปรับไปส่งมัน เสนอหน้าไปโรงเรียนให้คนในโรงเรียนเห็นบ่อยๆ หลังจากนั้นแผลตามตัวมันก็ลดน้อยลงตามคาด เพิ่งรู้ว่ามีหน้าเหี้ยมก็ดีตรงนี้
ส่วนไอ้วุ้นมันก็คงคิดว่าซี้ปึ๊กกันแล้ว พอไปรับไปส่งมันบ่อยเข้าก็เข้ามาตีสนิทเฉย ขึ้นม.สองมันถึงเริ่มมาเกาะแกะลวนลาม ไถโน้นไถนี่ อ้อนอยู่นั่น ไอ้เราก็ไม่ใช่คนใจแข็ง เห็นเด็กมันอ้อนก็ยอมมันทุกครั้งจนมันได้ใจเนี่ยแหละ
ละกลายมาเป็นเด็กโดนสปอยตอนไหนก็ไม่รู้
เด็กโดนสปอยกินไอติมเสียมูมมาม แต่ก็น่ารักดี ดูเป็นเด็กกำลังโตถึงแม้จะตัวจ้อยเดียวก็เถอะ ดูท่าจะสูงไปกว่านี้ได้ไม่มากเท่าไหร่ถ้าเทียบจากพ่อแล้ว บอกแล้วว่าแม่งครอบครัวแฮมสเตอร์ชัดๆ
พอเห็นเรามองหน้าไอ้ตัววุ่นก็ตักไอติมมาจ่อปากเรา เลยดีดหน้าผากไปที ขอเหอะของหวานๆเนี่ย กินไม่ไหวหรอกเลี่ยนจะตาย ไอ้ตัววุ่นโวยวายเล็กน้อยตามประสาเด็ก รอจนมันกินไอติมจนหมดถ้วยถึงค่อยเรียกพนักงานมาคิดเงิน
ตัววุ่นทำท่าจะจ่ายเลยโดนมะเหงกไปอีกที เจ้าตัวทำหน้างอแงแต่พอโดนถลึงตาใส่ก็หดหน้ายู่ พอออกนอกร้านเด็กมันก็งอแงโวยวายใส่
“พี่ภาคจะจ่ายให้ทำไม วุ้นกินวุ้นก็ต้องจ่ายสิ พี่ภาคไม่เห็นได้กินสักกะนิด”
“เงียบไปเลย เด็กมีหน้าที่กินก็กิน” กินแล้วก็รีบๆโตสักทีด้วย
ตัววุ่นเงียบตามที่บอก ไม่วายมียื่นปากทำหน้างอ เลยหยิกแก้มมันไปทีให้มันร้องโวยวายเล่นๆ
ตกเย็นเจ้าเด็กวุ่นวายก็กลับเข้าห้องตัวเองไปหาพ่อตามปกติ ส่วนเราก็นั่งทำงานต่อไป ลืมบอกว่านี่นิสิตนะ นักศึกษาปีสามถึงหน้าจะดูไม่ให้ก็เถอะ เอาจริงๆก็ซิ่วมาครั้งนึง ทำให้อายุเกินจากเด็กรุ่นเดียวกันไปอีก ปกติไม่ค่อยมีใครกล้าคบละพอรู้ว่าเป็นรุ่นพี่กูนี่แทบไม่มีใครคุยด้วยเลย
ก่อนจะถึงปิดไฟนอนของคนปกติ ตัววุ่นส่งข้อความมาบอกว่าพรุ่งนี้พ่อไม่อยู่ต้องไปทำงานต่างจังหวัด...อีกแล้ว พ่อตัววุ่นเองก็วุ่นวายกับชีวิตตัวเองอย่างงี้แหละ ถึงได้มาฝากเราช่วยดูแลเพราะชอบมีงานให้ออกไปค้างคืนนอกบ้านบ่อยๆ
แล้วยังไงน่ะหรอ...
ตัววุ่นก็มานอนห้องเราแทนไง
หึ คิดถึงตัวนุ่มๆนั้นเป็นบ้า...คิดแล้วก็อดหลุดยิ้มออกมา
..เออ หลงเด็กแล้วไง ก็เด็กมันน่ารักนี่หว่า แต่ตอนนี้ต้องทำงานข้ามคืนกันไปก่อน
พรุ่งนี้มาถึง แทบรอให้ถึงตอนเย็นไม่ไหว หลังๆมานี้เริ่มไปส่งตัววุ่นไปโรงเรียนบ้างไม่ไปบ้างแล้วแต่งาน แล้วแต่ช่วงเวลานอน ถ้าได้นอนเยอะก็จะตื่นไปส่ง แต่ถ้าได้นอนน้อยอย่างเมื่อคืนก็จะหลับเป็นตาย เด็กน้อยต้องไปขึ้นรถไปโรงเรียนเอง คิดแล้วก็สงสารมันอยู่หน่อยๆ ไม่เป็นไรเดี๋ยวขากลับค่อยไปรับก็ได้ ไหนๆก็เลิกเร็วพอดี
“พี่ภาคเห็นไลน์แล้วใช่ป่ะ”
“อืม”
“วุ้นไปนอนด้วยนะ” พูดแล้วเกาะแขนพร้อมยิ้มยิงฟันตามเสต็ป น่ารักพอๆกับน่าปวดหัวเป็นบ้า หมั่นไส้เด็กน่ารักที่ทำอะไรก็ต้องยอมไปหมดเลยหันหน้าหนี
“พี่ภาคคคค” เด็กว่าครางเสียงอ่อยเชียว เขย่าแขนอีกแหน่ะ
“รู้แล้ว”
“นอนด้วยนะ” ยิ้มแฉ่งอีกครั้ง
“อืม”
“พี่ภาคใจดี เดี๋ยววุ้นเลี้ยงไอติมนะ..โอ๊ย” ดีดหน้าผากมันไปที เป็นเด็กเป็นเล็กจะมาเลี้ยงอะไร แถมขอเถอะของหวานๆเนี่ย..
“ตั้งใจกินแล้วก็รีบๆโตไป เราน่ะ” สั่งสอนให้มันหน้ามู่เล่นๆก่อนขึ้นห้องไป
“พี่ภาค เดี๋ยววุ้นไปเอาเสื้อมาก่อนแปปนึง” ตัววุ่นว่าพลางเข้าห้องข้างๆไป ส่งเสียงดังกุกกักๆแปปนึงก็ออกมาพร้อมกับหอบผ้าหอบตุ๊กตามาด้วย
“เด็กเอ้ย”
“โตแล้วหรอก”
“คนโตๆกันแล้วไม่นอนกอดตุ๊กตาหรอก”
“ไม่..ไม่เห็นเกี่ยวเลย วุ้นจะเป็นคนที่โตแล้วแบบนอนกอดตุ๊กตา”
เด็กมันเถียงพร้อมดันประตูห้องเราแล้ววิ่งเข้าไป เอาตุ๊กตาไปวางบนเตียงเราเสร็จสรรพก็เอาชุดนักเรียนไปแขวนในตู้เราอีก เออให้มันได้อย่างงี้ พออนุญาตหน่อยก็เอาใหญ่
ตัววุ่นทำตัววุ่นวายสมชื่อสักพักก็หยิบเอาการบ้านในกระเป๋านักเรียนขึ้นมาทำ เห็นอย่างนี้แล้วอดปลื้มใจไม่ได้ เด็กอะไรน่ารักแล้วยังขยันเรียน พอเห็นเจ้าตัวขะมักเขม้นกับการบ้านตรงหน้าเลยอยากหาอะไรเป็นของรางวัลให้ ลุกไปชงโกโก้ร้อนให้สักแก้วก็คงดี ห้องแอร์เย็นๆกับโกโก้อุ่นๆคงเข้ากันได้
วางแก้วโกโก้ไว้ตรงหน้าเจ้าตัว เด็กแก้มป่องเงยหน้ามามองพร้อมยิ้มกว้างอีกแล้ว เลยยักคิ้วให้มันไปทีก่อนจะหันไปทำงานตัวเองบ้าง แต่พอทำไปไม่เท่าไหร่เด็กวุ่นก็พุ่งมาวอแวอีกแล้ว
วุ่นวายจริงๆ
“พี่ภาคๆทำงานหรอ ให้วุ้นช่วยมั้ย”
“...”
“พี่ภาคๆ อยากกินโกโก้มั้ยเดี๋ยววุ้นชงให้”
“...”
“อ่ะ กาแฟก็ได้”
หันไปมองหน้ามัน “กาแฟก็ดี”
เจ้าตัวยิ้มแฉ่ง “กาแฟสองช้อนไม่ใส่คอฟฟี่เมทไม่ใส่น้ำตาลใช่มั้ย”
“เก่งนี่” แกล้งชมมัน วุ้นยิ้มร่าก่อนตอบรับ “แน่นอน”
เจ้าวุ่นเอากาแฟมาให้แล้วก็วนเวียนอยู่รอบๆพักหนึ่ง พอเห็นเราทำงานไม่ยอมเล่นด้วยก็ไปอาบน้ำแล้วมานอนกลิ้งอยู่บนเตียง
“ง่วงก็นอนไป”
“ยังหรอก” แหน่ะ เถียงอีก
เจ้าเด็กตัวนุ่มนอนกลิ้งบนเตียงได้น่าสงสารมาก จะว่าไงดี เหมือนมันรอให้เราเข้าไปนอนด้วย กลิ้งๆเล่นอยู่คนเดียวละก็หันมามองเราเป็นช่วงๆ ทำแบบนี้มาสักพักแล้ว เลยยอมลุกออกจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ ปิดงานละไปอาบน้ำมาฟัดมันสักรอบ
“พี่ภาค หนักกกกกกก” ร้องลั่นแต่ก็หัวเราะเอิ้กอ้ากตอนที่เราแกล้งทับตัวมัน ไม่ได้ทิ้งน้ำหนักลงหมดเสียหน่อยเจ้าเด็กแคระนี่ พอมันรู้ว่าเราแกล้งมันก็ใช้ตัวเล็กๆของมันมุดช่องว่างออกไปแล้วล้มมาทับเราแทน โถ อุ้มหมายังดูหนักกว่าเลย
พอเห็นเราไม่สะทกสะท้านมันก็พยายามขย่มตัว พยายามทำตัวให้หนักบ้าง ไม่รู้หรอว่านอกจากจะไม่ได้ผลแล้วยังจะมีสิทธิ์ทำให้ตัวเองซวยไปด้วย ถ้าเราห้ามตัวเองไม่ได้ขึ้นมาจะทำยังไง แต่ดูเหมือนยังไงตัววุ่นก็ไม่ได้เข้าใจสายตาที่เราพยายามจะสื่อเลยสักนิด
เลยจับมันเหวี่ยงลงมานอนข้างตัวดีๆ จับหนุนหมอนห่มผ้าให้เสร็จสรรพ เด็กวุ่นมองตาแป๋วน่าฟัดชิบหาย ข่มใจตัวเองไว้ก่อนลุกไปปิดไฟ พอมีเด็กในห้องก็ต้องนอนไวหน่อย เวลาเด็กดี ห้าทุ่มยังไม่ถึงเลยมั้งเนี่ย
เด็กน้อยขยับตัวมาใกล้ๆ ไออุ่นจากตัวแผ่มาถึงฝั่งเรา เรานอนจ้องมัน
“พี่ภาค....กอด...” คนข้างตัวว่าเสียงแผ่ว สิ้นเสียงอนุญาตเราก็ตวัดแขนโอบมันทันที ขยับให้มันเข้ามาอยู่ในอ้อมแขนไม่ยาก ตัวมันเล็กนิดเดียว แถมคนตัวเล็กก็ดูให้ความร่วมมือดี น้องมาซุกๆอยู่ตรงหน้าอกเรา มือก็กอดตุ๊กตาเน่าไปส่วนเราก็กอดมันไว้อีกที
ตัววุ่นขี้เหงา เดาว่าตั้งแต่แม่เสียก็คงไม่มีใครให้กอดให้อ้อนเหมือนอย่างเคย พ่อก็ต้องทำงานงกๆหาเงินเลี้ยงดูนั่นแหละ เพื่อนก็ไม่ค่อยเห็นคงเพราะตัววุ่นตัวเล็ก โดนแกล้งบ่อยๆจนไม่กล้ามีใครยุ่งด้วยเพราะกลัวหางเลขมั้ง แถมยิ่งพอเด็กนักเรียนในโรงเรียนตัววุ่นเห็นหน้าเราก็ทำหน้าถอดสีกันใหญ่
น่าสงสาร
กระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น วุ้นก็ขยับตัวเข้ามาชิดเรามากขึ้นด้วย เด็กน้อยขยับตัวยุกยิกไปมาก่อนลมหายใจจะเป็นจังหวะเดียว หลับไปในที่สุด
ฉวยโอกาสนี้แอบสูดดมกลิ่นแชมพูจากเส้นผม ทั้งๆที่ก็ใช้แชมพูเหมือนกันแท้ๆแต่ทำไมให้ความรู้สึกต่างกันอย่างนี้นะ ขยับมือที่โอบไหล่เล็กนั้นเลื่อนลงไปถึงเอวบางๆ วุ้นตัวเล็กเสียจนแค่มือเรามือเดียวกางออกสุดก็แทบจะเท่าความกว้างของหลังมันแล้ว
มือนึงลูบเอวอีกมือลูบหัว คนตัวนุ่มยังคงนอนหลับปุ๋ย
เพราะงี้แหละถึงได้ชอบนักที่จะได้นอนด้วยกัน จะได้แอบตอดเล็กตอดน้อยได้ไม่มีใครเห็น
รู้หน่าว่าผิด ว่าไม่ดี สิบสี่กับยี่สองต่างกันเกือบสิบปีรู้ดีแก่ใจอยู่หรอก น้องมันยังเด็กยังไม่บรรลุนิติภาวะ ทำอะไรก็ดูจะเสี่ยงคุกเสี่ยงตารางไปหมด ถึงบอกให้มันรีบโตไวๆ
ระหว่างนั้นก็ขอเก็บเล็กผสมน้อยไปก่อนละกัน
❖❖❖❖❖❖❖❖
ฝากตัววุ่นไว้ในอ้อมใจทุกคนด้วยนะคะ ♡
ใครเล่นทวิตอย่าลืมติดแฮชแท็ก #รีบโต ด้วยนะ จะแอบเข้าไปส่อง
