*เรื่องสั้น* แผนการเรียนรัก [จบแล้ว]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: *เรื่องสั้น* แผนการเรียนรัก [จบแล้ว]  (อ่าน 2446 ครั้ง)

ออฟไลน์ double_ss

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 31
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

*****************************************************************************************


แผนการเรียนรัก เป็นเรื่องสั้นที่แบ่งออกเป็นเรื่องสั้นอีก 3 เรื่อง 3 คู่นะคะ
เป็นเรื่องของนักเรียนโรงเรียนเดียวกัน คนละชั้นปี คนละแผนการเรียนค่ะ

 

เรื่องที่ 1 : วิทย์-คนึงนิจ

    พระเอก: โอบ สายวิทย์-คณิต ม.6/3

    นายเอก: ฟืน สายวิทย์-คณิต ม.6/1

 

เรื่องที่ 2 : ศิลป์คำนวณใจ

    พระเอก: คณิต สายศิลป์คำนวณ ม.5/4

    นายเอก: กันต์ สายศิลป์คำนวณ ม.5/4

 

เรื่องที่ 3 : ศิลป์ภาษาอ่อย

    พระเอก: กวิน สายศิลป์ภาษาจีน ม.4/6

    นายเอก: ชิม สายศิลป์ภาษาจีน ม.4/6


_________________________________________
อัพจบ 3 เรื่องแล้ว ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ :)
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-01-2017 21:16:35 โดย double_ss »

ออฟไลน์ double_ss

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 31
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
วิทย์-คนึงนิจ
โอบ

    ตรงหน้าผมมีบีกเกอร์หลายใบ สารเคมีสีต่างๆ ตั้งเรียงกันอยู่ มีตะเกียงแอลกอฮอล์เล็กๆ แถมด้วยปรอทวัดอุณหภูมิ แล้วก็ยังมีอีกหลายอย่างตามที่ห้องแล็ปวิทยศาสตร์มาตรฐานโรงเรียนมัธยมควรจะมี ส่วนในมือผมก็คือนาฬิกาจับเวลา และที่สำคัญที่สุดในห้องตอนนี้ก็คงจะเป็นแฟนเก่าของผมที่ชื่อ ฟืน ที่กำลังง่วนอยู่กับการทดลองจับนั่นหยดลงนี่ไปเรื่อย และคอยสั่งให้ผมจับเวลาเป็นระยะ
    “มึงจะมองกูอีกนานมั้ย ไม่คิดจะช่วยกูเลยหรอไง ซวยฉิบหายต้องมาคู่กับมึง” ฟืนหยดอะไรสักอย่างสีใสๆ ลงในหลอดทดลอง แล้วก็จับมันเคาะๆ กับฝ่ามือให้เข้ากัน
    “มึงก็เก่งอยู่แล้ว กูช่วยก็ทำยุ่งเปล่าๆ นั่งเป็นกำลังใจให้ดีกว่า”
    “มึงนี่เหมือนเดิมเลยนะโอบ จับเวลาด้วย 10 นาที”
    ผมกดจับเวลาตามคำสั่งฟืน ไอ้ที่ปืนบอกว่าผมเหมือนเดิม คงจะเป็นเรื่องที่ชอบทำตัวไม่เอาไหนล่ะมั้งครับ คนเคยเป็นแฟนกัน แค่มันด่าผมก็รู้ใจแล้วว่าด่าเรื่องอะไร ตอนคบกันมันว่าผมเรื่องนี้ประจำ
    ผมกับฟืนเคยเป็นแฟนกันตอน ม.4 เทอม 2 ผมอยู่ ม.4/3 ส่วนฟืนอยู่ ม.4/1 คบกันได้ประมาณ 3 เดือน ผมก็ถูกบอกเลิกแบบตัดขาด แถมฟืนยังไม่คุยกับผมอีกเลยนับตั้งแต่ตอนนั้น สาเหตุที่เลิกกันก็เป็นความผิดของผมล้วนๆ ไม่มีฟืนผสมเลย ผมติดเพื่อนมากครับ ติดจนกระทั่งปล่อยให้แฟนตัวเองต้องนั่งรอเป็นชั่วโมงๆ ก่อนกลับบ้านทุกวันก็ยังไม่สำนึก แต่ที่เลวร้ายสุดจนฟืนทนไม่ได้ก็คือ วันที่ฟืนซ้อมแข่งบาส ก่อนหน้านั้นวันนึงเราทะเลาะกันเพราะผมเบี้ยวนัดฟืน มัวแต่ไปขลุกตัวเล่นเกมกับชาวแก๊งอยู่ที่บ้านไอ้เต้ พออีกวันนึงผมเลยขอไถ่โทษด้วยการกลับมารับฟืนที่โรงเรียนตอนทุ่มครึ่งหลังจากฟืนซ้อมเสร็จ วันนั้นผมไม่ได้กลับไปรอฟืนที่บ้าน แต่ไปฆ่าเวลารอฟืนที่บ้านไอ้เอแทน กะว่าเดี๋ยวทุ่มนึงจะออกไปหาฟืน แต่พอผมไปบ้านไอ้เอ เพื่อนในกลุ่มอีก 3 คนก็ตามไปด้วย เหมือนเดิมครับพอเล่นเกมมันก็ติดพันจนผมลืมเวลา รู้ตัวอีกทีก็เกือบสองทุ่มสิบห้าไปแล้ว ผมรีบโทรหาฟืนเพื่อจะขอโทษ แต่ฟืนไม่รับสาย ผมเลยรีบไปที่โรงเรียนแทน ผมไปถึงโรงเรียนตอนสองทุ่มสามสิบห้า แฟนผมนั่งอยู่ที่เก้าอี้สาธารณะตัวหนึ่งแถวๆ หน้าโรงเรียนท่ามกลางไฟสลัวบนถนน ผมรีบเดินเข้าไปหาฟืนแล้วพูดขอโทษซ้ำๆ เหมือนกับหลายๆ วันที่ผมปล่อยให้เขาต้องรอ
    “ทำไมมาช้าล่ะ” ฟืนถามผมแต่สายตาทอดมองไปยังรถที่ขับผ่านไปมา
    “เอ่อ...กูเผลอหลับว่ะ ตื่นมาอีกทีก็รีบโทรหามึงเลยเนี่ย แล้วทำไมมึงไม่กลับก่อน มานั่งตากยุงมืดๆ แบบนี้ กูโทรมาก็ไม่รับ กูเป็นห่วงนะ”
    “กูก็นั่งรอมึงไง” ฟืนหันมามองหน้าผม
    “โอเคงั้นเรากลับบ้านกันนะ เดี๋ยวกูพาไปกินข้าวก่อน ซ้อมเสร็จหิวแย่เลยดิ” ผมรู้ว่าฟืนโกรธ พูดขอโทษไปซ้ำๆ ก็คงจะไม่จบ ผมเลยเนียนเปลี่ยนเรื่อง พาไปกินข้าวให้ฟืนอารมณ์ดีน่าจะดีกว่า ผมลุกขึ้นจับมือฟืนึงให้ลุกตามผม ฟืนยืนขึ้นแต่ไม่เดินมาตามแรงจูงของผม ฟืนยืนนิ่งจนผมต้องหันกลับไป
    “กูรอมึง แต่ไม่ได้รอให้มึงมารับ...กูรอบอกลามึง”
    “มึงโกรธอยู่ อารมณ์ดีกว่านี้เราค่อยคุยกันดีกว่า”
    “มันเลยคำว่าโกรธแล้วว่ะโอบ กูโอเคถ้ามึงจะรักเพื่อน แต่มึงรักเพื่อนจนแทบไม่เหลือพื้นที่ไว้รักกูแล้ว กูว่าเราเลิกกันเถอะ” ผมจับมือฟืนไว้ทั้งสองข้าง ส่งสายตาขอร้องเท่าที่จะทำได้เพื่อให้ฟืนเห็นใจ
    “กูผิดเองฟืน แต่กูรักมึงนะ อย่าเลิกกันเลย”
    “กูก็รักมึงโอบ แต่กูว่ามึงสนุกกับการมีเพื่อน มากกว่าสนุกกับการมีกู เลิกกันเป็นทางออกที่ดีทั้งกับมึงแล้วก็กู กูไปก่อนนะ โชคดีนะโอบ” ฟืนตบบ่าผมเบาๆ แทนการบอกลาในวันนั้น แล้วก็หันหลังเดินจากไป หลังจากวันนั้น ผมกับฟืนก็ไม่ได้คุยกันอีกเลย ระหว่างเราไม่ใช่ความโกรธ บางครั้งที่เราเดินสวนกันในโรงเรียน เรายังยิ้มทักทายกันบ้าง เฟซบุ๊กของผมยังมีฟืนคอยกดไลก์ เหมือนที่ผมกดไลก์ฟืนอยู่ทุกรูป เพียงแต่ไม่มีสักคำเดียวที่เราคุยกัน
    เวลาผ่านไปจนถึงวันนี้ผมหรือโอบ นักเรียนห้อง ม.6/3 เลขที่ 17 กับ ฟืน นักเรียนห้อง ม.6/1 เลขที่ 17 ต้องมาจับคู่กันทำการทดลองอยู่ในห้องแล็ปวิทย์ แล้วก็เขียนรายงานส่งอาจารย์ในคาบนี้ด้วยกัน
    จริงๆ คาบนี้ผมมีเรียนเลข แต่อาจารย์เกิดไม่ว่างกระทันหัน เลยขอแลกคาบกับวิชาวิทย์ของอาจารย์ภัทร ซึ่งคาบนี้อาจารย์ภัทรต้องสอนห้อง 6/1 ห้องผมเลยต้องมาเรียนรวมกับห้องนี้ แถมอาจารย์ยังสั่งให้จับคู่คนละห้อง โดยให้คู่กับคนเลขที่เดียวกัน ผมกับฟืนเลยได้อยู่ใกล้กันที่สุดในรอบเกือบสองปี โต๊ะที่เรานั่งมีคนนั่งรวม 10 คน แต่ทุกคนก็ต่างคนต่างช่วยกันกับคู่ของตัวเอง เมื่อสถานการณ์บังคับแบบนี้ มันก็ช่วยไม่ได้ที่ผมกับฟืนจะต้องคุยกัน
    ใจจริงผมก็อยากจะช่วยฟืนทำนั่นทำนี่ให้ฟืนมองผมในแง่ที่ดีขึ้น แต่ผมก็ทำได้แค่ถือนาฬิกาจับเวลาให้ฟืนเท่านั้น เพราะแค่นั่งใกล้ๆ ฟืน ใจผมก็สั่นจนแทบจำชื่อสารละลายในบีกเกอร์แต่ละใบไม่ได้แล้วล่ะครับ ไม่คิดเลยว่าการมานั่งอยู่ใกล้แฟนเก่าที่เคยอิงแอบแนบชิดกันเมื่อนานมาแล้วมันจะตื่นเต้นขนาดนี้ ปกติอย่างมากก็แค่เดินสวนกันใกล้ๆ แค่นั้น
    “ถือให้กูที” ฟืนส่งหลอดทดลองสองหลอดที่เติมอะไรลงไปแล้วบ้างผมก็จำไม่ได้มาให้ผมถือไว้ แล้วก็หยิบสารละลายสีฟ้ามาเติมใส่ทั้งสองหลอด
    “สองนาทีนะ” ผมเริ่มจับเวลา พร้อมๆ กับที่ฟืนเอาสองหลอดนั้นจุ่มลงไปในบีกเกอร์ใบใหญ่ที่มีน้ำเดือดอยู่
    “มึงเป็นไงบ้าง” ผมถามฟืนออกไป ฟืนละสายตาจากหลอดทดลองในมือมาสบตาผม
    “กูหรอ...อืม เลิกกับมึงชีวิตกูก็ดูดีขึ้นนะ แล้วมึงอ่ะ”
    “เลิกกับมึงชีวิตกูก็...เหงา” ฟืนละสายตาจากผมแล้วหันกลับไปจ้องหลอดทดลองเหมือนเดิม
    “อย่างมึงจะเหงาอะไร เพื่อนมึงเยอะแยะ”
    “เพื่อนกูกับมึง มันไม่เหมือนกัน”
    “กูให้มึงจับเวลา มึงดูด้วย เดี๋ยวก็เลย” ผมก้มมองดูนาฬิกาในมือ รอจนครบสองนาทีก็บอกฟืนไป ฟืนเอาหลอดทดลองขึ้นจากน้ำ หลอดนึงสีไม่เปลี่ยนแปลง ส่วนอีกหลอดนึงเกิดตะกอนสีแดงอิฐ ฟืนก้มลงจดผลการทดลองยุกยิกๆ ลงบนกระดาษ ยื่นหลอดทดลองให้ผมเอาไปล้างที่อ่างด้านข้าง
    ผมส้างหลอดทดลองเสร็จก็เดินกลับมาที่โต๊ะ ฟืนกำลังใส่น้ำสับปะรดลงในหลอดทดลองทีละหลอดแล้วก็ตั้งไว้จนครบ 4 หลอด แล้วก็ละลายเจลาตินเพื่อนนำไปใส่ในน้ำสับปะรดแต่ละหลอด แล้วก็ใส่เพิ่มไปในหลอดเปล่าอีก 1 หลอด
    ฟืนวัดอุณหภูมิน้ำในบีกเกอร์ใบใหญ่ที่ตั้งอยู่บนตะเกียงแอลกอฮอล์ แล้วก็หย่อนหลอดทดลองหลอดนึงลงไปต้ม
    “จับเวลาด้วย 5 นาที” ผมนั่งลงแล้วก็จับเวลา แล้วก็มองดูฟืนที่ยืนจ้องหลอดทดลองอยู่นิ่งๆ
    “สารละลายนี่ดีเนอะ ละลายแล้วก็เปลี่ยนสีนั่นนี่ได้” ผมหยิบสารละลายเบเนดิกต์ที่อยู่ในขวดสีฟ้าขึ้นมาดู
    “ก็ถูกแล้ว ถ้ามันเปลี่ยนไม่ได้มึงจะทดลองยังไงล่ะวะ”
    “แล้วมึงพอจะรู้ป่ะ ว่าสารละลายอะไรเปลี่ยนใจคนได้”
    “กูจะไปรู้ได้ยังไง”
    “เสียดายว่ะ”
    “ทำไม” ฟืนหันมามองผมท่าทางสงสัย
    “กูอยากเอามาเปลี่ยนใจมึง...จริงๆ กูว่า กูก็มีคุณสมบัติเป็นสารละลายเหมือนกันนะ”
    “…”
    “เวลากูเดินไปไหน รุ่นน้องละลายกันเป็นแถว” อันนี้ไม่ได้พูดเล่นนะครับ แฟนคลับมอต้นผมไม่น้อยเลยนะ
    “ฮอตตายแล้วมึงอ่ะ” ฟืนส่ายหน้าเพลียๆ ให้ผม แล้วก็หัวเราะเบาๆ
    “เอ้า กูไม่ได้โม้นะ ใครสบตากูก็ละลายทั้งนั้น แล้วมึงอ่ะ สบตากูแบบนี้...ใจละลายบ้างป่ะ”
    “มึงตั้งใจช่วยกูดีกว่านั่งเพ้อมั้ยโอบ”
    “ก็ได้คร้าบบบบแฟน” ผมขยับตัวทำท่าตั้งอกตั้งใจจ้องนาฬิกาจับเวลาเต็มที่ ส่วนฟืนก็หันมาจ้องผมดุๆ
    “ใครแฟนมึง”
    “แฟนเก่าไง...แต่ก็อยากให้เป็นแฟนใหม่ด้วยนะ เอาป่ะ” ฟืนอ้าปากจะด่าผม ผมมั่นใจเพราะดูจากสายตาพิฆาตที่ส่งมาตรงหน้าตอนนี้ ฟืนคงโมโหแน่ๆ ที่ผมไปกวนตีนแบบนี้
    “เดี๋ยวๆๆๆ อย่าเพิ่งตอบรับ เอาไปคิดดูก่อนขอร้อง นี่ๆๆ ครบ 5 นาทีแล้วรีบเอาขึ้นเร็ว” ผมบอกฟืน แล้วก็รีบกุลีกุจอช่วยวัดอุณหภูมิน้ำต่อ เสร็จแล้วก็เอาหลอดทดลองอันต่อไปมาหย่อนลงไปต้ม ทำตัวให้ดูยุ่งๆ จนฟืนไม่ทันด่าไปเลย พอเราช่วยกันทำการทดลองเสร็จก็รีบเขียนใบรายงานส่งอาจารย์ภัทร แต่คงเพราะมัวแต่ไปกวนฟืน แถมตอนแรกยังปล่อยให้ฟืนทำคนเดียวเลยเสร็จช้ากว่าคนอื่น เพื่อนผมคุยเล่นกันอยู่หน้าห้องแล็ปสักพักแล้ว จนไอ้พงษ์เข้ามาดูว่าผมเขียนใกล้เสร็จหรือยัง
    “ไอ้โอบเสร็จยังวะ กูหิวแล้วเนี่ย”
    “มึงลงไปแดกกันเลย เดี๋ยวกูไปแดกกับฟืน” ผมตอบมันทั้งที่มือยังเขียนอยู่ ไอ้พงษ์มันคงจะงง เพราะมันก็รู้ว่าผมกับฟืนไม่คุยกันเลยตั้งแต่เลิกกันตอน ม.4
    “เอางั้นหรอ”
    “เออ”
    “ตามใจ” ไอ้พงษ์เดินออกไปแล้ว ฟืนเขียนเสร็จพอดี ผมเลยหยิบกระดาษรายงานของฟืนมารีบลอก ส่วนฟืนก็เก็บของแล้วลุกขึ้น
    “เอาไปส่งให้กูด้วยนะ กูไปก่อน” ผมคว้าแขนฟืนไว้แล้วดึงให้นั่งลงตามเดิม
    “รอกูก่อน ไปกินข้าวกัน”
    “กูบอกตอนไหนว่าจะไปกินข้าวกับมึง”
    “กูขอร้อง”
    “ไม่ เพื่อนกูรออยู่”
    “มึงให้เพื่อนลงไปก่อน ป่านนี้เพื่อนมึงลงไปแดกจนอิ่มแล้ว มีแต่กูนี่แหละที่หิว”
    “มึงหิวก็ไม่เกี่ยวกับกู”
    “โอเค กูอยากกินข้าวกับมึง ครั้งเดียวก็ยังดี ไปกินข้าวกับกูเหอะนะ”
    “…” ฟืนนิ่งเหมือนกำลังลังเล
    “เห็นใจกูเหอะ นะๆๆๆ” ผมทำท่าทั้งอ้อนทั้งเซ้าซี้จนฟืนคงรำคาญ เลยพยักหน้าตกลง แล้วก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเล่นรอผม ผมรีบปั่นให้เสร็จแล้วก็เดินไปส่งอาจารย์ที่นั่งรออยู่หน้าห้อง
    “ไปกินข้าวกัน หิวชิบ” ฟืนหยิบสมุดกับปากกาแล้วลุกขึ้นเดินออกจากห้องแล็ปกับผม
    “มีหน้ามาพูด กูนึกว่าต้องรอมึงจนหมดพักแล้ว เขียนช้าฉิบหาย”
    “รอแค่นี้ทำบ่น ทีกูรอมึงกูยังไม่บ่นเลย”
    “มึงรอกูตอนไหน เท่าที่จำได้มีแต่มึงนะที่ปล่อยให้กูรออ่ะ” ผมหยุดเดินที่บันไดขั้นนึงแล้วหันไปหาฟืนที่กำลังเดินตามผมมา จนฟืนต้องหยุดตาม ผมเงยหน้าขึ้นไปสบตาฟืน ส่งความรู้สึกออกไปให้ฟืนรู้ว่าผมยังรักฟืนอยู่เหมือนเดิม
    “ก็รอมาเกือบสองปีอ่ะ นานพอมั้ย”
    “หมายความว่าไง”
    “รอก็แปลว่ารอ สนใจมาเป็นแฟนใหม่กูยัง”
    “มึงจะรีบไปแดกข้าวได้ยัง ถ้าไม่รีบไป กูจะได้ไปแดกกับเพื่อนกู” ฟืนไม่ตอบคำถามผมแต่เปลี่ยนเรื่องแทน แล้วก็เดินนำลงบันไดไป
    “มึงแม่ง ไม่อ่อนไหวให้กูเลยเหรอวะ” ผมรีบวิ่งตามฟืนลงไป ถ้าดูไม่ผิดและไม่เข้าข้างตัวเองจนเกินไป ผมว่าผมแอบเห็นฟืนยิ้มนิดๆ ด้วยแหละ หวังว่าผมจะมองไม่ผิดนะครับ

ออฟไลน์ double_ss

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 31
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
วิทย์-คนึงนิจ
ฟืน

    ผมกำลังตักข้าวผัดกะเพราหมูสับใส่ปากด้วยความหิว ส่วนคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามหรือโอบ แฟนเก่าที่ขอให้ผมมากินข้าวด้วยก็กำลังกินข้าวในจานของตัวเองแล้วก็พูดนั่นพูดนี่ไม่หยุดปาก โอบยังเป็นคนน่ารักเหมือนเดิมไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน นี่แหละความหมายของคำว่าเหมือนเดิมที่ผมพูดกับมันไปตอนอยู่ในห้องแล็ป การที่ได้กลับมาใกล้ชิดกับมันอีกครั้งทำให้ต่อมความคิดถึงของผมถูกขุดขึ้นมาจนแทบจะเก็บอาการเอาไว้ไม่อยู่ ตลอดเวลาเกือบสองปีที่เลิกกัน ผมพยายามออกห่างมันให้มากที่สุด เพื่อที่จะได้ทำใจได้ง่ายที่สุด ถึงแม้ว่าผมจะไม่ได้ตัดขาดมัน เดินสวนกันยังยิ้มให้ ส่องเฟซบุ๊กบ้างตามเรื่องตามราว แต่การไม่พูดคุยกันก็ช่วยให้ผมทำใจได้ง่ายขึ้นเยอะ
    วันนั้นที่ผมบอกเลิกโอบไป ไม่ใช่ว่าผมไม่รักมัน ผมยังรักมัน หรือถ้าจะพูดให้ถูก การมาใกล้กันวันนี้ก็ทำให้ผมรู้ชัดเลยว่า ผมยังรักมันอยู่เหมือนเดิมและเท่าเดิม เพียงแต่ว่าตอนนั้นผมรู้สึกว่าเราอาจจะยังเด็กเกินกว่าจะคบกัน ผมไม่โทษที่มันติดเพื่อน แต่ในเมื่อมันไม่เหลือเวลาให้ใส่ใจผมเท่าที่ควร ผมก็ไม่อยากฝืนคบต่อไปให้เสียใจซ้ำๆ
    “คาบต่อไปเรียนไร”
    “อังกฤษ มึงอ่ะ” ผมถามมันกลับไปบ้าง
    “แมททิเมติกส์” มันทำหน้าทะเล้นตอบเป็นภาษาอังกฤษ
    “ตอบกูสั้นๆ ว่าเลขก็พอมั้ง”
    “กูแค่อยากคุยกับมึงยาวๆ” ผมวางช้อนลงแล้วจ้องมองหน้ามันอย่างนึกสงสัย
    “ถามจริง”
    “ว่า”
    “หยอดกูอยู่เปล่าวะ” มันวางช้อนลงแล้วจ้องหน้าผมบ้าง
    “มึงฉลาดเหมือนเดิม แต่จะฉลาดกว่านี้ ถ้ารู้ด้วยว่ากู...คิดถึงมึง”
    “หรอ...รีบแดกเหอะ จะหมดพักละ” ผมรีบกินข้าวให้หมด โอบก็เหมือนกัน พอกินเสร็จเราก็ลุกไปเก็บจานด้วยกัน แล้วผมก็แยกมาหาเพื่อนก่อนจะไปเข้าแถวขึ้นห้องเรียน
    ช่วงเวลาแค่ราวๆ 2 ชั่วโมงจากคาบแล็ปจนถึงหมดพัก โอบทำให้ผมว้าวุ่นใจต่อมาจนถึงตอนนี้ ระหว่างเรียนวิชาสังคม คาบรองสุดท้ายก่อนกลับบ้าน สมาธิผมหายไปอยู่กับเรื่องราวในอดีตหมด อยู่กับความน่ารักของโอบ อยู่กับเวลาที่โอบทำให้ผมหัวเราะ อยู่กับเวลาที่โอบเอาใจผม น่าแปลกที่ตอนผมบอกเลิกโอบ ผมเห็นแต่ภาพเวลาที่โอบปล่อยให้ผมต้องคอยซ้ำๆ ซากๆ แต่ตอนนี้ผมเห็นแต่ภาพที่โอบทำให้ผมมีความสุข นี่คงเป็นอาณุภาพของความคิดถึงขั้นรุนแรงมั้งครับ ผมหยิบโทรศัพท์ออกมาดูหลังจากหมดคาบสังคม และรออาจารย์จารกฤษมาสอนเลขต่อเป็นวิชาสุดท้าย หน้าจอโทรศัพท์มีแจ้งเตือนจากไลน์ของคนที่ไม่แชทกับผมมานานเกือบสองปี ใช่แล้วครับ โอบไลน์มาหาผม บอกว่าตอนเย็นจะรอข้างสนามบาสที่เดิม ขอกลับบ้านด้วยคน

    Firewood Fuen : อืม

    พอเลิกเรียนผมก็เดินไปที่สนามบาส เจอโอบนั่งรออยู่ก่อนแล้ว มันเดินมาหาผมแล้วก็เดินไปทางหน้าโรงเรียน ยืนรอรถเมล์โดยที่ไม่ได้คุยอะไรกันเลย จนขึ้นไปนั่งบนรถ ผมก็เป็นฝ่ายพูดขึ้นมาก่อน
    “ชวนกูกินข้าว แล้วยังมารอกูกลับบ้านด้วยแบบนี้ จีบกูหรอ” โอบดูแปลกใจนิดๆ ที่ผมถามออกไปแบบนั้น
    “ก็ชอบ มึงทำให้กูนึกถึงแฟนเก่า กูชอบแฟนเก่ากูมากกก กูเลยอยากจีบมึง”
    “ชอบแฟนเก่า มึงก็ไปคบแฟนเก่าสิ”
    “ได้หรอ งั้นคบเลยนะ”
    “กูพูดเล่น กูไม่ชอบคนไม่มีเวลา กูติดแฟน”
    “งั้นก็มาติดกูดิ กูมีเวลาให้มึงเยอะเลย”
    “มึงติดเพื่อนนะเท่าที่กูจะได้”
    “เบื่อแล้ว ตอนนี้อยากติดแฟนมากกว่า”
    “แล้วถ้าติดแฟนไปเรื่อยๆ วันนึงมึงจะเบื่อติดแฟนป่ะ” โอบทำท่าคิดเล็กน้อย
    “ถ้าแฟนน่ารักแบบมึง กูไม่เบื่อหรอก”
    ผมเงียบไป แล้วก็หยิบหูฟังสีขาวในกระเป๋าขึ้นมาเสียบต่อกับไอโฟนในมือ เลื่อนจอไปกดเปิดเพลง นั่งมองวิวริมหน้าต่างไปเรื่อยๆ สักพักโอบก็ดึงหูฟังข้างขวาออกจากหูผมไป แล้วเองไปเสียบกับหูตัวเอง นั่งฮัมเพลงท่าทางอารมณ์ดี ผมเลยต้องย้ายหูฟังข้างซ้ายของตัวเองมาไว้ข้างขวาแทน เพื่อให้สายหูฟังอยู่ใกล้ๆ กัน เรานั่งฟังเพลงไปจนเกือบถึงบ้านผม ผมเลยปิดเพลงแล้วเก็บหูฟังเตรียมจะลงจากรถ
    “กูไปละ” บ้านของผมถึงก่อนบ้านโอบประมาณ 3 ป้ายรถเมล์
    “พรุ่งนี้กลับด้วยกันอีกได้มั้ย”
    “ก็ถ้าจะจีบกู มึงก็ควรตามเอาใจนะ” โอบเหวอแดกไปแล้ว ส่วนผมก็ดันมันให้หลบแล้วรีบลงจากรถเมล์มาเลย มันคไม่คิดว่าผมจะตอบรับมันง่ายๆ แบบนั้น ผมไม่อยากเล่นตัว แค่เก็บปากไว้ไม่ให้พูดคำว่าคิดถึงออกไปได้ก็เหนื่อยจะแย่แล้วครับ
   เวลาผ่านไป 2 อาทิตย์ ทุกวันโอบจะไลน์มาบอกผมว่าฝันดี ถามเรื่องการบ้านบ้าง หรือบางทีเวลาผมนั่งเล่นอยู่ที่โรงเรียนมันก็แวะเข้ามาแหย่ให้ผมขำ แล้วก็ขอกลับบ้านกับผมเกือบทุกวัน หลังจากวันที่เรียนแล็ปด้วยกันมันก็ไม่เคยพูดเรื่องที่อยากจะเป็นแฟนอะไรกับผมอีกเลย
    ผมใส่รองเท้าพละอยู่หน้าห้องเรียนเตรียมลงไปเรียนบาสที่สนามข้างล่าง ผมเดินไปจนสุดทางเพื่อลงบันได แต่ก่อนจะเลี้ยวลงบันได ก็มีคนมาดึงแขนผมไว้
    “เรียนบาสหรอ” โอบถามแล้วก็ปล่อยแขนผม เพื่อนคนอื่นๆ เดินแซงผมลงไป
    “อือ แล้วมึงอ่ะมาเดินทำไร”
    “มาดักฉุดมึง”
    “ไม่ต้องออกแรงหรอก บอกดีๆ กูก็เชื่อฟัง”
    “จริงป่ะ”
    “ไม่จริง” ผมหัวเราะขำมันที่ทำหน้าตาเซ็งๆ ใส่ผม
    “เรียนบาสก็อย่าเล่นหนักล่ะ”
    “ทำไม”
    “พอมึงเหนื่อยหัวใจมันจะเต้นแรง”
    “แล้วไง”
    “เดี๋ยวกูเหนื่อย เพราะกูอยู่ในใจมึงด้วย” มันยิ้มแล้วยกฝ่ามือมาแตะหน้าอกด้านซ้ายของผมเบาๆ
    “มุกเหี้ยไรของมึง กูไปเรียนแล้ว”
    “กูอยู่ในใจมึงอาจจะเป็นมุก แต่มึงอยู่ในใจกูอ่ะเรื่องจริงนะ” ผมว่าผมยิ้มให้มัน ยิ้มกว้างแค่ไหนก็ไม่แน่ใจครับ แต่ผมเขิน เขินแฟนเก่าตัวเอง แฟนเก่าที่เมื่อก่อนพูดคำว่ารักให้ฟังจนผมเคยเลิกเขินไปแล้ว ผมรีบเดินตามเพื่อนลงไปที่สนามบาส โชคดีที่อาจารย์ยังไม่มา ไม่งั้นผมคงโดนบ่นที่มาช้าแบบนี้
    เลิกเรียนวันนี้ผมก็กลับบ้านกับโอบอีก แต่วันนี้โอบขอลงรถพร้อมผม แล้วก็เดินเข้าไปส่งผมที่บ้าน ระยะทางจากป้ายรถเมล์เข้าบ้านผม ถ้าเดินปกติผมใช้เวลาประมาณ 10 นาที แต่วันนี้อาจจะต้องใช้เวลาเป็นสองเท่า เพราะขามันก้าวได้ช้าลงเมื่อมีคนมาเดินคุยเป็นเพื่อน
    “ชอบกูบ้างยัง” โอบถามผมหลังจากที่เราคุยกันเรื่องแข่งบาสจบไป
    “แล้วกูไปไม่ชอบมึงตอนไหน”
    “เอ้า นี่กูเข้าใจผิดหรอ...กูคิดว่ามึงไม่ชอบกูตอนที่กูปล่อยให้รอ”
    “กูไม่ชอบที่มึงปล่อยให้รอ แต่กูไม่ได้ไม่ชอบมึง” โอบยิ้มกว้างกับคำตอบของผม แล้วก็จับมือผมเอาไว้ ในขณะที่เรายังเดินกันต่อไป
    “งั้นก็เป็นแฟนกันได้แล้วดิ”
    “กูขอคิดดูก่อนแล้วกัน”
    “อย่าคิดนานนะ นี่กูโสดรอมึงมาเกือบ 2 ปีเลยนะ”
    “มึงแม่งโม้ ถ้าวันนั้นไม่ได้เรียนแล็ปด้วยกัน มึงก็ไม่คุยกับกูหรอก ความบังเอิญล้วนๆ”
    “โห หล่อระดับกูเนี่ยหาแฟนไม่ยากเลยนะครับคุณฟืน แต่กูไม่มองใคร เพราะกูมองแต่มึงไง มึงก็เห็นว่ากูมองมึงมาตลอด” ก็จริงของมัน เกือบ 2 ปีมานี้ ผมหันไปเจอมันทีไร มันก็มองผมอยู่ก่อนทุกที
    “แต่มึงไม่ได้ตั้งใจจะกลับมาคบกูไง มันแค่บังเอิญได้มาเรียนด้วยกัน เลยได้คุยกัน” โอบดึงผมให้หยุดเดินแล้วยืนคุยกัน
    “กูอยากคุยกับมึงมาตลอด แต่กูไม่กล้า กูได้แต่พยายามปรับตัวเองให้ดีขึ้น เผื่อวันนึงจะมีโอกาสได้คุยกับมึงอีกครั้ง วิชาแล็ปนั่นก็คือโอกาสที่กูรอมาตลอด แบบนี้ไม่เรียกว่ารอมึงหรอ” โอบสบตาผมนิ่ง บีบมือผมเบาๆ เหมือนจะขอให้ผมพูดอะไรสักอย่างที่มันอยากฟัง
    “กูขอข้อเสียสามข้อในตัวมึงเวอร์ชั่นอัพเดตล่าสุดตอนนี้”
    “กูยังติดเกมเหมือนเดิม กูขี้เกียจอาบน้ำก่อนนอนเป็นบางวัน กูยังติดเพื่อนอยู่ดีเพราะกูไม่มีใคร” ผมนิ่งไปเพื่อใช้ความคิดบางอย่างจนโอบโวยวายขึ้นมา
    “แต่ข้อเสียของกูมันมีทางแก้นะเว้ย กูติดเกมกับเพื่อนเพราะกูไม่มีแฟนให้ติด ถ้ามึงเป็นแฟนกู คราวนี้กูจะติดมึงจนมึงต้องติดใจ แล้วก็ข้อที่กูขี้เกียจอาบน้ำนี่ง่ายมาก ถ้ามึงมาอาบด้วย กูจะขยันอาบมากๆ...มันไม่แฟร์อ่ะ มึงถามแต่ข้อเสีย แล้วข้อดีของกูล่ะไม่มีประโยชน์กับใจมึงบ้างเลยหรอไง”
    “กูจะถามข้อดีของมึงไปทำไม ในเมื่อโอบที่อยู่ในใจกูตอนนี้แม่งมีแต่ข้อดีอยู่เต็มไปหมด” โอบยิ้มแล้วดึงผมเข้าไปกอดแน่น ผมก็ยกแขนขึ้นกอดตอบเหมือนกัน
   “กูคิดถึงมึงมากนะ”
   “กูก็โคตรคิดถึงมึงเลยโอบ” โอบหอมแก้มผมแล้วก็จูงผมให้เดินต่อจนถึงบ้าน แต่แฟนเก่าที่เพิ่งจะเป็นแฟนใหม่หมาดๆ ของผมก็ไม่ยอมกลับบ้านตัวเองทันที มันอิดออดขออยู่บ้านผมสักแป๊บ แล้วก็ขึ้นมานั่งเล่นเกมอยู่ที่ห้องผม ส่วนผมก็นั่งทำการบ้านไป แต่ใช่ว่ามันจะปล่อยให้ผมได้นั่งทำการบ้านบนโต๊ะดีๆ แต่มันดันลากผมให้มานั่งอยู่ที่พื้นข้างเตียงกับมัน ผมเลยต้องเอาสมุดการบ้านวางบนเตียงแทนโต๊ะ มันบอกว่านี่เป็นอาการขั้นต้นของการติดแฟนของมัน
   “เป็นแฟนกันแล้ว คราวนี้ห้ามทิ้งกูไว้กลางทางอีกนะ” เล่นเกมอยู่ดีๆ มันก็หันมาสะกิดบอกผม
   “ได้ ถ้าวันไหนกูจะบอกเลิก กูจะบอกแล้วพามึงกลับไปส่งบ้านด้วย”
   “ถ้ามึงพูดคำว่าเลิก กูจะจับมึงจูบให้ปากระบมเลย”
   “เลิกๆๆๆๆๆๆๆๆ”
   “มึงจะลองดีใช่มั้ยฟืน”
   “เปล่า กูอยากจูบมึง” โอบปล่อยจอยเกมในมือลง แล้วหันตัวมาหาผม ยกมือข้างนึงขึ้นมาแตะที่แก้มผม แล้วก็ยื่นหน้าเข้ามาจูบผมเนิบนาบเนิ่นนาน นานราวกับจะชดเชยให้ช่วงเวลาแห่งความคิดถึงที่หายไปนานนับปี เวลาเกือบ 2 ปีสำหรับเราไม่ได้สูญเปล่าไปไหน แต่มันทำให้เราต่างรู้ว่าเรายังรักกันเหมือนเดิม


**จบเรื่องวิทย์-คนึงนิจ**

ออฟไลน์ double_ss

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 31
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ศิลป์คำนวณใจ
คณิต

     ผมนายคณิตกำลังเรียนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่องความน่าจะเป็น อยู่ในห้อง ม.5/4 ผมแทนค่าโจทย์ที่อาจารย์ให้ทำลงในสูตร P(E) = n(E) / n(S) หาคำตอบของโจทย์ความน่าจะเป็นแค่นี้ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับคนเรียนค่อนข้างเก่งอย่างผม แต่มีโจทย์ความน่าจะเป็นอยู่ข้อนึงที่ผมใช้เวลาหาคำตอบมานานเดือนกว่าๆ แล้วแต่ก็หาคำตอบไม่ได้สักที โจทย์ที่ว่ามันก็นั่งอยู่ข้างหน้าผมนี่เองครับ ไอ้กันต์ เพื่อนกลุ่มเดียวกับผม คบกันมาตั้งแต่ ม.3 จะกินข้าว เตะบอล เล่นเกม เหล่หญิง หรือนอนบ้านมันก็ทำมาหมดแล้ว แต่ผมเพิ่งจะมาเกิดความรู้สึกใหม่กับมันเมื่อไม่นานมานี้เอง...ผมว่าผมชอบมัน
    ถ้าถามว่าทำไมถึงชอบมันก็ยากที่จะตอบเหมือนกันครับ เพราะเรื่องรักใคร่แม่งไม่มีสูตรความน่าจะเป็นให้แทนค่าเหมือนวิชาคณิตศาสตร์ ความน่าจะเป็นที่ผมพอจะคิดได้ว่าทำไมถึงชอบมัน ก็คงจะเป็นความรู้สึกที่อยู่ๆ ผมก็รู้สึกว่ามันน่ารักขึ้นเรื่อยๆ นั่นแหละ มันเป็นความสนิทสนมที่อยู่ดีๆ วันนึงพอกอดคอกันแล้วความรู้สึกมันเปลี่ยนไปอะไรประมาณนั้น แล้วผมก็ชอบเผลอมองมันจากด้านหลังเวลาเรียนอยู่บ่อยๆ ส่วนคำตอบของโจทย์ข้อนี้ที่ผมอยากได้ก็คือ...แล้วมันล่ะ มันคิดยังไงกับผม ถ้าเกิดผมบอกชอบมันไป มันจะกระทืบหรือเกลียดผมไหม
    โคตรยากเลยครับ แอบชอบเพื่อนก็ว่ายากแล้ว ดันมาแอบชอบเพื่อนผู้ชายในกลุ่มยิ่งยากกว่าเดิม จู่โจมไปอาจจะเกิดการเสียเพื่อนได้ ผมเลยต้องค่อยๆ ดูเชิงมันเรื่อยๆ มาเดือนกว่า แต่ก็ยังสับสนเท่าเดิม เพิ่มเติมคือชอบมันมากขึ้น ที่สำคัญตั้งแต่รู้จักมันมา มันไม่เคยมีแฟนเลยสักคน ผมเลยยิ่งเดาไม่ถูกว่า มันจะชอบผู้ชายแบบผมได้ไหม...ระหว่างที่นั่งมองท้ายทอยมัน สลับกับทำโจทย์ที่อาจารย์ทิ้งไว้บนกระดาน 5 ข้อ อยู่ๆ กันต์มันก็หันมายิ้มให้ผม
    “คณิต มึงทำเสร็จยัง”
    “เหลืออีกนิด”
    “กูขอลอกนะ” กูนี่อยากจะเสกคำตอบให้มึงตอนนี้เลยครับไอ้กันต์ ยิ้มมึงกำลังทำให้หัวใจกูทำงานหนักมาก...รู้ยัง
    “กูด้วย ให้ไวเลยไอ้คณิต” ไอ้เต้ที่นั่งคู่กับกันต์หันมาบอกผมบ้าง
    “สัดเต้ มึงสั่งกูเป็นขี้ข้าเลยนะ หัดใช้สมองทำเองบ้าง ไม่ใช่เอาหัวไว้คิดมุกจีบสาวอย่างเดียว”
    “ไงล่ะไอ้กันต์ โดนพ่อมึงด่าควายเลยเห็นไหม” มันหันไปพูดกับกันต์แล้วก็หัวเราะขำกันสองคน
    “กูด่ามึง ไม่ได้ด่าไอ้กันต์”
    “ไอ้กันต์ขอลอกนำกูไปก่อนอีก แล้วมึงมาด่าอะไรกูคนเดียว” เหี้ยยย ผมพลาด แต่กูจะด่าคนที่กูชอบได้ไงล่ะวะ
    “เออๆ กูทำเองก็ได้ ดุจังเลยนะมึง” ไอ้กันต์บอกผม แล้วหันกลับไปหาคำตอบในสมุดตัวเองต่อ ผมรีบคิดคำตอบข้อสุดท้ายด้วยความไวหัวใจล้วนๆ เสร็จสรรพภายใน 1 นาทีครึ่ง ผมปิดสมุดแล้วก็ยื่นมันไปเขี่ยไหล่คนข้างหน้าจนมันหันมาอีกครั้ง
    “เสร็จแล้ว รีบลอกเลยมึง”
    “รักมึงเลย เทวดามาโปรด” นี่คือคำตอบของไอ้กันต์ เหี้ยยยยยยยยย หัวใจกูจะระเบิดแล้ว...รู้ยัง
    ผมไปนั่งคิดนอนคิดอยู่หลายคืน แล้วก็ตัดสินใจได้ว่า ผมไม่สามารถจะเก็บความรู้สึกแอบชอบแบบนี้ต่อไปได้อีก ผมเลยเริ่มหาวิธีทดสอบความน่าจะเป็นที่ไอ้กันต์จะชอบผมตอบ โดยการสนิทสนมกับมันเป็นพิเศษ จริงๆ มันเป็นวิธีที่ยากมาก เพราะปกติเราสนิทกันอยู่แล้ว ผมก็เลยคิดว่าจะลองเทคแคร์หรือเอาใจใส่มันเหมือนแฟนดูไปเลยว่ามันจะด่าผมไหม แต่คงแค่ทำเนียน เล่นๆ ดูไปก่อน กันเสียเพื่อนน่ะครับ ถ้ามันขนลุกจนโดดถีบผม ผมจะได้ตัดใจแต่ต้นลม
    หลังเลิกเรียนวันศุกร์ กลุ่มเรานัดเตะบอลกันก่อนกลับบ้าน เตะกันจนหมดแรงก็ประมาณ 5 โมงครึ่ง ทุกคนก็ไปนั่งหอบแดกเอาไข่ตากลมกันอยู่บนแสตนด์ข้างสนาม ไอ้กันต์ยกแขนเสื้อขึ้นเช็ดเหงื่อบนหน้า แล้วก็เอนตัวพิงแสตนด์ขั้นถัดไป ผมลุกออกมาจากตรงนั้นแล้วเดินไปซื้อน้ำเปล่ามาขวดนึง จริงๆ กะจะเอาไปเซอร์วิสไอ้กันต์ แต่จะซื้อสองขวดก็กลัวจะดูจงใจเกินไป เลยซื้อขวดเดียวมา พอเดินกลับมา ผมก็เนียนไปนั่งข้างๆ ไอ้กันต์ แต่แทนที่จะเอาน้ำให้มัน ผมก็เกิดลังเลจนเผลอเปิดขวดแล้วซดกินเอง...ช่างแม่ง ซดแล้วก็เอาให้มันได้วะ ผมยื่นขวดน้ำในมือที่เพิ่งซดไปสองอึกให้ไอ้กันต์
    “เอาป่ะมึง”
    “ซื้อให้กูหรอ มึงแม่งเทวดาของกูจริงๆ”
    “เปล่า กูแดกเหลือเสียดาย” ตอบกวนตีนไปก่อนครับเดี๋ยวมันจับได้ กันต์รับขวดน้ำจากผมไปแล้วยกขึ้นดูตรงหน้า
    “ถ้ามึงจะแดกเหลือเยอะขนาดนี้ วันหลังมึงไม่ต้องซื้อก็ได้นะ กลืนน้ำลายเอาก็พอ”
    “พูดมากนะมึง จะแดกไม่แดก” กันต์ยกน้ำขึ้นซดพรวดๆ จนหมดไปครึ่งขวด
    “กูแดกบ้างดิ หิวฉิบหาย” ไอ้เอที่นั่งอยู่ห่างจากเรานิดหน่อยยื่นแขนมาขอขวดน้ำจากกันต์ ฝันไปถอะมึง ผมดึงขวดน้ำจากมือกันต์กลับมา
    “ไปซื้อเองสิวะ นี่ของกู” ผมยกขวดน้ำขึ้นซดอีกครั้งจนหมดขวด กูจูบมึงแล้วนะกันต์...รู้ยัง
    “เอ้าไอ้ห่า เมื่อกี้ยังบอกว่าแดกเหลืออยู่เลย งกกับกูนะมึง ทีกับไอ้กันต์ทำไมให้แดก”
    “กูเกลียดหน้ามึงไง”
    “งั้นมึงรักไอ้กันต์งั้นดิ” เออกูรัก แต่กูยังพูดไม่ได้ไงไอ้เหี้ย
    “มากกกกกกก” ผมทำเป็นตอบเล่นขำๆ เนียนๆ ไป
    “มึงไปหาน้ำแดกเองเลยเอ อย่าต่อล้อต่อเถียงกับเทวดาของกู” เย้ดดดด ไอ้กันต์มันประกาศว่าผมเป็นเทวดาของมันว่ะ ของมัน ของมัน ของมันนนนนนนนนนนน
    “ถ้าจะต้องดูแลกันขนาดนั้น เทวดาหรือผัววะ” ไอ้คิมเงยหน้าจากโทรศัพท์ที่มันกดอยู่แล้วพูดขึ้นขำๆ ไอ้กันต์หันมามองหน้าผมแล้วทำท่าครุ่นคิดแป๊บนึงก่อนจะพูด
    “เอาไงดีวะคณิต ถ้ามึงดูแลกูดี กูยอมเป็นเมียก็ได้นะ” เย้ดเข้ มึงอยากเป็นเมียกู พูดแล้วถ้าคืนคำกูจะจับจูบให้ล้มเลย
    “เป็นเมียกูแล้ว เป็นผัวคนอื่นไม่ได้แล้วนะ” โอกาสมาแล้วถามแม่งไปเลยแบบนี้แหละ
    “ได้ๆ แต่กูไปเป็นเมียคนอื่นได้ด้วยใช่ป่ะ” มียอกย้อน เดี๋ยวเป็นเมียกูจริงเมื่อไหร่ กูจะทำให้ติดใจไปไหนไม่รอดเลย
    “พอเลยพวกมึง อีกนิดกูจะเชื่อแล้วสัด เหงาหรือไงอยู่ๆ จะแดกกันเอง กลับบ้านได้แล้วไป” ไอ้ตั้มที่นั่งฟังอยู่นานขัดขึ้น แล้วทุกคนก็หัวเราะขำกัน แล้วก็หยิบกระเป๋าขึ้นสะพายพากันเดินออกจากโรงเรียนเพื่อกลับบ้านใครบ้านมัน
    วันเสาร์ผมนั่งคิดหาทางชวนไอ้กันต์ไปเดินเล่นกันสองคนอยู่นาน เพราะถ้าเจอกันแบบมีเพื่อนตลอดทำอะไรแม่งก็ต้องระวังคนอื่นสงสัยไปด้วย แล้วโชคก็ช่วยเมื่อแม่บอกว่าอาทิตย์หน้าให้ไปงานแต่งกับแม่ แล้วก็ให้แบงค์เทามาสามใบเพื่อไปหาชุดใหม่ใส่ ผมเลยไลน์ไปหาไอ้กันต์ตอนเย็น

    คณิตไม่มีชื่อเล่น : พรุ่งนี้มึงว่างป่ะ
    Gun : ว่าง
    คณิตไม่มีชื่อเล่น : ไปซื้อเสื้อเป็นเพื่อนกูที
    Gun : เสื้อไรวะ
    คณิตไม่มีชื่อเล่น : ใส่ไปงานแต่ง
    Gun : ทำไมต้องเป็นกู
    คณิตไม่มีชื่อเล่น : ก็ในกลุ่ม กูว่ามึงเหมาะแต่งตัวดีสุดแล้ว
    คณิตไม่มีชื่อเล่น : ไอ้เอชีวิตลากแต่แตะ ไอ้ตั้มก็ใส่แต่เกงเจเจ จะให้กูชวนมันไปเลือกเหรอไง
    Gun : กูหล่ออ่ะดิ
    คณิตไม่มีชื่อเล่น : หล่อน้อยกว่ากู
    Gun : กูยอมก็ได้ แต่ถ้าไปมึงต้องเลี้ยงข้าวกู
    คณิตไม่มีชื่อเล่น : เออๆ
    Gun : เจอกี่โมงที่ไหนว่ามา
    คณิตไม่มีชื่อเล่น : สยาม เที่ยง เห็นแก่กินนะมึง
    Gun : กูเห็นแก่มึง จริงจริ๊งงงงงงงงงงงงง

    สิบเอ็ดโมงสี่สิบนาที ผมมาถึงก่อนเวลานัดนิดหน่อยด้วยความตื่นเต้นแต่พยายามเก็บอาการไว้ในใจ ใช่ว่าะไม่เคยไปไหนมาไหนกับไอ้กันต์สองคน แต่นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ตื่นเต้นแบบนี้ ผมเดินลงจากสถานีรถไฟฟ้าแล้วไปหาซื้อน้ำกินดับร้อน ยืนอยู่หน้าร้านชานมไข่มุกแล้วมองป้ายเมนูเครื่องดื่มอยู่สองนาทีก็ตัดสินใจเลือกได้...ชามะนาวสองแก้ว น้ำที่ไอ้กันต์มันโปรดปรานนักหนา ซื้อไปเผื่อมันด้วยดีกว่า สิบเอ็ดโมงห้าสิบห้านาที ไลน์ก็เด้งขึ้นมาที่หน้าจอไอโฟนเจ็ดของผม

    Gun : กูถึงแล้วครับคุณชายคณิต ถ้าถึงเมื่อไหร่โทรหากูด้วย
    คณิตไม่มีชื่อเล่น : กูถึงแล้ว เจอกันหน้าลิโด

    ผมเดินย้อนกลับไปยังจุดนัดหมาย แล้วก็เจอไอ้กันต์ในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาว กางเกงยีนส์ขาดเข่าสีดำ กับสนีกเกอร์สีขาวเรียบๆ เชี่ยยยย กันต์แอทแทคหัวใจกูอีกแล้วครับ ผมเดินเข้าไปยื่นน้ำให้มันแก้วนึง ในขณะที่มือขวาของตัวเองก็ยกน้ำอีกแก้วขึ้นดูดไปด้วย
    “แค่มาช่วยเลือกเสื้อ ต้องใจดีกับกูขนาดนี้เลยเหรอวะ” ใจดีเกินไปแม่งจับได้ง่ายๆ แน่ๆ บอกมันยังไงดีวะ
    “บังเอิญมันโปร 1 แถม 1 แดกๆ ไป”
    “เออดีได้แดกน้ำเทวดาฟรี คุ้มแล้วกูวันนี้” ไอ้กันต์ยกน้ำขึ้นดูดบ้าง แล้วผมก็เดินนำมันเข้าซอยไปเดินหาซื้อชุด ผมเดินดูไปเรื่อยๆ ประมาณ 10 นาที กันต์ก็ดึงแขนผมให้หยุด
     “กูว่าชุดนี้” กันต์ชี้ไปที่หุ่นหนึ่งในสามตัวของร้านตรงหน้าเรา บนหุ่นมีชุดสูทลายสก็อตสีน้ำเงินอยู่ กันต์เปิดประตูร้านเข้าไปโดยที่ไม่รอความเห็นจากผม
    “สวัสดีค่ะ ลองเลือกดูก่อนได้นะคะ” พนักงานที่เคาน์เตอร์ยิ้มทักทายเรา
    “อยากขอชุดนี้ให้เพื่อนลองหน่อยครับ” กันต์ชี้ไปที่ชุดสูทชุดนั้นแล้วบอกพนักงาน ผู้หญิงคนนั้นเดินไปหยิบชุดแบบเดียวกันกับบนหุ่นแล้วยื่นมาให้ผม ผมเข้าไปลองชุดในห้องลอง พอใส่ออกมาแล้วดูดีอย่างที่ไอ้กันต์มันบอกจริงๆ ว่าที่แฟนกูสายตาหลักแหลมฉิบหาย กำลังยืนส่องกระจกอยู่ไอ้กันต์ก็เปิดม่านเข้ามา
    “ยืนยิ้มกับกระจกอยู่ได้ไอ้บ้า ไหนให้กูดูหน่อย” ผมหันไปหามัน แล้วมันก็เอื้อมแขนมาขยับจัดชุดสูทให้ผม มันจะใกล้เกินไปแล้วไอ้กันต์เอ๊ย กูเผลอจูบมึงช่วยไม่ได้นะไอ้ห่า
    “หล่อเนอะ” พอผมพูดไปแบบนั้นมันก็ขำ
    “หล่อน้อยกว่ากู”
    “เออกูยอม ในฐานะที่มึงช่วยกูเลือกชุด กูยอมหล่อน้อยกว่ามึงวันนี้วันนึง”
    “เปลี่ยนชุดได้แล้ว เอาอันนี้แหละ กูหิวละ” มันบอกแต่ยังยืนจ้องหน้าผมอยู่เหมือนเดิม
    “ออกไปสิ จะอยู่ดูซิกแพ็กซ์กูรึไง”
    “สู้ของกูไม่ได้หรอก”
    คำพูดของกันต์ทำเอาผมจินตนาการไปถึงตอนที่มันถอดเสื้อเลยครับ กูหื่นนนน...กันต์เดินออกจากห้องลองไปแล้ว แต่วิ่งอยู่ในใจกูเนี่ยไม่ยอมออกไปเลย ตายแน่ๆ ไอ้คณิต หัวใจมึงวายตายแน่ๆ
    ผมออกจากห้องลองเสื้อมาจัดการจ่ายค่าชุด 2,890 บาท แล้วก็รีบพากันต์ไปเลี้ยงข้าว กันต์เลือกยาโยอิอย่างที่มันชอบกิน พอเข้าไปนั่งในร้าน ผมก็จัดการสั่ง สไปซี่แซลมอนมากิ ชีสเบอร์เกอร์หมูชุปแป้งทอด เทมปุระรวม แล้วก็ชาเขียวเย็น 2  โดยที่ไม่ได้เปิดเมนูดู
    “มึงอ่ะเอาไร” ผมย้ายสายตาจากพนักงานไปที่กันต์
    “มึงไม่ได้สั่งเผื่อกูเหรอเมื่อกี้” เชี่ยยย เอาอีกแล้วกู วันนี้ผมคงลืมเอาสติมาจากบ้าน เสือกสั่งของชอบมันไปรัวๆ เลยเมื่อกี้ คณิตเอ๊ยยยย
    “เอ่อ กูหมายถึงเอาไรเพิ่มเปล่า”
    “พอเท่านี้แหละครับ” กันต์หันไปบอกกับพนักงาน
    “กูหิว เลยรีบสั่งไปหน่อย ถ้ามึงอยากกินอย่างอื่นสั่งได้เลย”
    “พอแล้ว ของชอบกูทั้งนั้น”

ออฟไลน์ double_ss

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 31
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ศิลป์คำนวณใจ
กันต์

    ไอ้คณิตแปลกมากครับ แปลกมาสักพักแล้ว ยิ่งวันนี้ยิ่งแปลก ที่มันชวนผมออกมาซื้อของก็พอจะเข้าใจได้อยู่ว่ามันคงเห็นว่าผมเป็นคนชอบแต่งตัว แต่ไอ้ที่ซื้อชามะนาวมาให้ แถมยังสั่งของชอบผมไปรัวๆ เมื่อกี้นี้น่ะแปลกมาก ปกติมันไม่เห็นจะเคยสนใจสั่งอะไรเผื่อผมมาก่อน ถ้าไม่ติดว่าเป็นเพื่อนกันมาสองปีแล้ว ผมคงคิดว่ามันชอบผมแน่ๆ แต่คิดอย่างงั้นก็คงจะ...เข้าข้างตัวเองเกินไป
    กินข้าวเสร็จผมก็เดินเล่นต่อกับมันอีกประมาณชั่วโมงนึง แล้วก็พากันขึ้นรถไฟฟ้ากลับบ้าน คณิตแปลกมาก แปลกจริงๆ ครับ เพราะอยู่ๆ แม่งก็ไม่ยอมลงสถานีบ้านตัวเอง
    “คณิต”
    “อือ”
    “มึงไม่ลงหรอวะ มันเลยบ้านมึงแล้วนะ”
    “กูไปส่งมึงก่อน”
    “ส่งกู เพื่อ...” ผมชี้นิ้วเข้าตัวเองด้วยความงงแดก
    “ก็ ก็มึงมาเป็นเพื่อนกู กูก็นั่งไปเป็นเพื่อนมึงไง แล้วเดี๋ยวพอมึงลง กูก็นั่งกลับ”
    “มึงเซอร์วิสกูดีไปมั้ย”
    “เออออ กูเป็นเทวดาไง คนดี” เหตุผลประหลาดสุดจากปากมันตั้งแต่รู้จักกันมาเลยครับ มึงจะมาส่งกูทำไมคณิต มึงแปลกมาก มึงรู้ตัวไหมเนี่ย พอผมกลับถึงบ้านสักพัก ไอ้คณิตก็ไลน์มาขอบคุณที่ไปเป็นเพื่อนมัน ผมเลยบอกมันไปว่า ไม่เป็นไร พรุ่งนี้เช้าแค่เอาการบ้านเลขมาให้ผมลอกก็พอ
    เช้าวันต่อมาสมุดการบ้านวิชาคณิตศาสตร์ของนายคณิต เลขที่ 12 ก็ถูกวางไว้ใต้โต๊ะผมในห้องเรียน ส่วนเจ้าของสมุดมันก็กำลังขับรถแข่งในโทรศัพท์ แข่งกับไอ้เนิร์ดเพื่อนรักที่นั่งอยู่ข้างๆ มัน เหลือเวลาอีก 20 นาทีถึงจะถึงเวลาเข้าเรียน ผมรีบหยิบสมุดของตัวเองขึ้นมาลอกคำตอบทั้งหมด แล้วก็เอาสมุดไปวางคืนไว้ใต้โต๊ะมัน ก่อนจะไปเข้าแถวเคารพธงชาติหน้าห้องเรียน
    วันนี้ผมสังเกตไอ้คณิตเพื่อนรักเป็นพิเศษ มันชอบแอบมองผม ผมว่าผมไม่ได้คิดไปเอง แถมวันนี้ผมบ่นว่าหิวน้ำระหว่างกินข้าวอยู่ มันก็รีบลุกบอกว่าจะไปซื้อน้ำพอดีให้ฝากมันซื้อ แล้วพอใกล้เลิกเรียน ผมบ่นเรื่องการบ้าน มันก็บอกว่าเลิกเรียนมันจะอยู่ทำการบ้านต่อให้เสร็จ แล้วถามว่าผมจะรอกลับบ้านพร้อมมันไหม จะได้เอาการบ้านไปลอกเลย แม่ง! โคตรไม่ปกติเลยครับ
    เพื่อนคนอื่นกลับไปหมดแล้ว ส่วนผมกำลังนั่งเล่นเกมในโทรศัพท์อยู่ที่โต๊ะหินอ่อนใต้ต้นไม้ใหญ่ รอไอ้คณิตทำการบ้านให้ลอก มันก็รีบทำจริงจังมาก จริงๆ ปกติ ผมก็ไม่ใช่คนขี้เกียจทำการบ้านเองอะไรขนาดนั้น แต่วันนี้แค่เห็นคณิตมันแปลกๆ แล้วก็เสนอตัวจะทำการบ้านให้ลอกเอง ผมก็เลยลองอยู่รอดู ว่ามันจะทำอะไรผิดปกติอีกไหม
    “อ่ะ เสร็จละ” คณิตยื่นสมุดการบ้านวิชาเลขกับอังกฤษมาให้ผมสองเล่ม ผมกดหยุดเกมในมือ แล้วรับสมุดมาใส่เป้ตัวเอง เสร็จแล้วก็ลุกขึ้นเตรียมกลับบ้าน
    “ไป กลับเหอะ กูหิวแล้วว่ะ รีบกลับไปแดกข้าวบ้าน” คณิตเก็บปากกาใส่กระเป๋าแล้วลุกขึ้นบ้าง
    “ไปดิ แต่ขอกูแวะซื้อโอ้ปั่นเจ้ส้มก่อนนะ”
    “เอาดิ กูก็อยาก เดี๋ยวกูเลี้ยง”
    “อยู่ๆ ก็ใจดีเว้ย” ถ้ากูเลี้ยงโอ้ปั่นแค่นี้เรียกว่าใจดี มึงคงไม่รู้ตัวสินะคณิตว่าพักนี้มึงใจดีกับกูหนักมาก
    “ค่าการบ้านไง” ผมตอบแล้วเดินนำไปที่ร้านน้ำปั่นเจ้ส้มหน้าโรงเรียน เกือบหกโมงแล้วเลยมีคิวอยู่แค่สองคิว ร้านเจ้ส้มเป็นเพิงเล็กๆ อยู่หน้าร้านทำผม เห็นร้านเล็กๆ แบบนี้ บอกเลยว่าคิวยาวมาก! ปกติถ้าเดินมาซื้อช่วงพีคๆ ตอนเลิกเรียนก็ต้องรอไม่ต่ำกว่า 15 นาที บางทีก็มาสั่งไว้แล้วค่อยกลับมาเอาอีกที
    ผมสั่งโอ้ปั่นสองแก้ว พอหันมาอีกทีไอ้คณิตก็หายตัวไปแล้ว ไม่บอกไม่กล่าว ผมยืนรอน้ำต่อไปสักแป๊บ คณิตก็เดินกลับมาพร้อมถุงก๊อบแก๊บใสๆ เล็กๆ ถุงนึง แล้วยื่นมาให้ผม
    “อะไรวะ”
    “ลูกชิ้นทอดไง มึงไม่รู้จักหรอ”
    “รู้ แต่มึงให้กูทำไม”
    “กูหิวเลยเดินไปซื้อ เดินแดกไปแล้วหน่อยนึง อิ่มแล้ว แดกต่อที กูเสียดาย” ผมรับถุงลูกชิ้นมาแล้วจิ้มใส่ปากลูกนึง
    “พักนี้มึงโยนของเหลือให้กูบ่อยเนอะ เห็นกูเป็นหมาหรอวะ”
    “อยากเป็นปอมหรือบางแก้วล่ะ”
    “อยากเป็นแฟนบูลด็อก”
    “เค้ามีแต่เฟรนช์บูลด็อก” คณิตขำที่ผมพูดชื่อพันธุ์หมาผิด...เปล่าเลยมึง กูตั้งใจ
    “บลูด็อกน่ารักตรงไหนวะ ไอ้เต้แม่งก็ชอบหาว่ากูเหมือนบูลด็อก กูว่ากูหล่อจะตาย”
    “หลงตัวเองแล้วมึง แต่มึงก็เหมือนบลูด็อกจริงๆ อ่ะ นี่ถ้ากูเป็นแฟนบูลด็อก กูก็ต้องเป็นแฟนมึงดิ” มันอึ้งครับ ไอ้คณิตมันทำหน้าเอ๋อแดกไปแล้ว
    “แฟนอะไรของมึง”
    “กูพูดเล่น ทำหน้าเอ๋อแดกทำไม สัส ยิ่งทำยิ่งเหมือนบูลด็อก ฮ่าๆๆ” ผมหัวเราะแล้วก็หันไปรับน้ำจากเจ้ส้มมาส่งให้มันแก้วนึง จ่ายเงิน แล้วก็เดินไปทางวินมอเตอร์ไซค์เพื่อกลับบ้าน บ้านของผมกับคณิตอยู่ไม่ไกลกันมาก แล้วก็ไม่ไกลจากโรงเรียนด้วย เราเลยนั่งวินไปกลับกันทุกวัน หรือบางครั้ง ถ้าไม่ขี้เกียจ ผมก็เดินชิลๆ กลับบ้าน
    “มึง เดินมั้ยวันนี้”
    “มึงเป็นไรเปล่าวะ”
    “กูแค่อยากออกกำลังกาย ช่วงนี้ไม่ค่อยมีเวลาฟิต เดินเป็นเพื่อนกูหน่อย” ผมพยักหน้าแล้วก็เดินเลยวินมอเตอร์ไซค์ไป ยิ่งคณิตเป็นแบบนี้ ผมยิ่งสงสัยว่ามันคิดอะไรกับผม ระหว่างเดินกลับบ้านมันก็เงียบไป ผมก็เงียบด้วย เดินผ่านเสาไฟฟ้าต้นแล้วต้นเล่า ก็ยังไม่มีใครเริ่มคุยกัน ผมทบทวนอยู่ในใจว่าจะเอายังไงกับไอ้เพื่อนที่เดินอยู่ข้างๆ ดี มันแปลกซะจนผมอยากเอ่ยถามให้รู้แล้วรู้รอด แต่ก็แอบใจป๊อดเล็กน้อย กลัวหน้าแหก แต่ถ้าไม่ถามผมก้กลัวว่าใจตัวเองจะคิดไปไกลจนกู่ไม่กลับ หัวใจห้องบนกับล่างทะเลาะกันให้วุ่นวายอยู่สักพัก ผมก็ได้ฝ่ายชนะเป็นที่เรียบร้อย
    “คณิต” มันหันมาสบตาผมแว่บหนึ่งก่อนจะหันกลับไปมองทางเดินข้างหน้าต่อ
    “อือ”
    “ทำไมเดี๋ยวนี้มึงตัวติดกูจังวะ”
    “เปล่าหนิ  ปกติกูกับมึงก็สนิทกันอยู่แล้วป่ะวะ” เออก็จริงของมัน ในกลุ่มนี่ไอ้คณิตสนิทกับผมเป็นลำดับแรกคู่กับไอ้เต้เลย
    “แล้วไมมึงต้องใจดีกับกูด้วย”
    “กูเป็นเทวดาของมึงมั้ง”
    “เอาดีๆ อย่ากวนตีน”
    “แล้วอะไรที่มึงว่าใจดีล่ะ การบ้านกูใครๆ ก็ลอก ไม่เห็นใจดีตรงไหน” คณิตไม่กล้าสบตาผมเท่าไหร่ แถมมันยังเอามือข้างนึงล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกง ท่าทางตอนนี้มันดูไม่มั่นใจสุดๆ
    “ลููกชิ้นอ่ะ ไม่ได้แดกเหลือมั้ง มี 9 ลูก แสดงว่ามึงแดกไม่ลูกเดียว ไม่น่าจะอิ่ม”
    “…” คณิตอยู่เดินแล้วทำสีหน้าเหมือนคนกำลังโดนล้วงความลับ
    “การบ้านอ่ะไม่ต้องรีบก็ได้ พรุ่งนี้กูก็ลอกทัน” คราวนี้มันนิ่งไปประมาณ 1 นาที ผมยืนรอให้มันพูดอะไรสักอย่างกลับมา
    “คือ...คือกู...คืออย่างงี้...คือ”
    “โอ๊ยยย มึงจะพูดอะไรก็พูดมาสักที”
    “ถ้ากูพูดอะไรไป มึงต้องสัญญานะว่ามึงจะยังเป็นเพื่อนกู”
    “กูไม่สัญญา แต่ถ้ามึงไมู่ดเนี่ย กูจะกระทืบมึง” คณิตมองหน้าผมแล้วสูดหายใจเข้าแรงๆ ทีนึงก่อนจะพูดต่อ
    “คือ...กูรู้สึกว่า...มึงน่ารัก”
    “…”
    “กู กูชอบมึง”
    “กูว่าแล้วเชียว”
    “มึงรู้อยู่แล้วหรอ”
    “กูแน่ใจ  80% ตั้งแต่ชามะนาว 1 แถม 1 ละ...แม่งมีโปรนี้ที่ไหน ชาเข้าประจำกู ทำไมกูจะไม่รู้”
    “กูไม่เนียนเลยเนอะ” คณิตทำหน้าจ๋อยใส่ผม
    “คนบ้าอะไรแดกน้ำสองอึกแล้วบอกว่าเหลือ แดกลูกชิ้นลูกเดียวแล้วบอกว่าเหลือ การบ้านอ่ะจะให้ลอกไม่ต้องเอาไปใส่ใต้โต๊ะกูก็ได้ เรียนก็เก่งไม่น่าโง่ เด็กยังรู้เลยว่ามันไม่เนียน”
    “กูก็แค่ชอบมึง มึงอย่าเลิกเป็นเพื่อนกูนะเว้ย”
    “ชอบกู แล้วอยากเป็นเพื่อนกูเนี่ยนะ”
    “แล้วมึงจะให้กูเป็นแฟนรึไงล่ะ”
    “เออดิ รอนานละ”
    “ห๊ะ” คณิตยิ่งทำหน้างงหนักกว่าเดิม
    “เผื่อมึงยังไม่รู้...กูชอบมึงตั้งแต่ปีที่แล้วแล้วไอ้คณิต” พูดจบผมก็เดินต่อไปบนเส้นทางที่กลับบ้าน ปล่อยให้คณิตยืนอึ้งไปคนเดียว แป๊บเดียวมันก็วิ่งตามผมมา แถมยังจับมือผมไว้ด้วย แล้วเราก็เดินกันต่อไป
    “มึงพูดจริงเหรอวะ”
    “เรื่องอะไร”
    “ชอบกูตั้งแต่ปีที่แล้ว”
    “กูโกหก”
    “มึงแม่งโคตรเนียน กูไม่เห็นจะรู้เลย กูชอบมึงแป๊บเดียว มึงจับได้เลย”
    “เวลามึงแอบมองกูอ่ะ กูรู้นะ”
    “รู้ได้ไงวะ”
    “ก็กูแอบมองมึงมาเป็นปี พอมึงแอบมองกูกลับ กูก็ต้องรู้สิวะ ก็กูแอบมองมึงอยู่”
    “กูก็กลัวว่ามึงจะไม่ชอบผู้ชาย แล้วเกลียดกู รู้งี้ไม่น่าเสียเวลาคิด” ผมฟังแล้วก็เดินยิ้มต่อไปเงียบๆ จนคณิตพูดต่อ
    “กูชอบมึงนะกันต์”
    “…”
    “รู้ยัง”
    “…”
    “ชอบมึงนะกันต์ รู้แล้วใช่เปล่า”
    “เออออ เขินอยู่ไอ้เหี้ย” ถ้ามุมปากฉีกไปชนรูหูได้ มันคงเป็นไปแล้ว เขินฉิบหาย
    “ชอบกูมาตั้งนาน ไม่คิดจะบอกกูเลยเหรอ”
    “กูแอบอ่อยมึงบ่อยๆ มึงโง่เอง”
    “จริงดิ งั้นต่อไปอ่อยกูบ่อยๆ นะ กูอยากระทวยในอ้อมกอดมึง”
    “พอได้แล้ว กูเขิน”
    “มึงเขินแล้วน่ารักเหมือนหมาเลย”
    “มึงว่าคนที่มึงชอบเป็นหมาเนี่ยนะ”
    “อือ แฟนบูลด็อก”

**จบเรื่อง ศิลป์คำนวณใจ**

________________________________________________

ขาดศิลป์ภาษาอ่อยอีกเรื่องเดียว เดี๋ยวรีบมาต่อนะคะ ^^

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
อินกับคู่โอบกับฟืน
ส่วนอีกคู่ก็น่ารักดีค่ะ

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
กรุบกริบใสๆ. น่ารักมากค่ะ.

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
น่ารักเชียว รอเรื่องสุดท้ายค่า  :-[

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7

ออฟไลน์ Pisoi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 241
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ดีต่อใจ  :-[ :-[
รอคู่สุดท้าย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ double_ss

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 31
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ศิลป์ภาษาอ่อย
กวิน

อยู่ด้วยกันให้นาน ให้เราอยู่ใกล้กัน
ส่งสัมผัสถึงกัน จวบจนข้ามคืนนี้
ได้ร่วมสุขซักที

ขอบคุณโลกนี้ ที่ส่งคนในฝันให้กับฉัน
ขอบคุณอีกครั้ง ที่ทำให้พบรักที่ยิ่งใหญ่
ฉันไม่เคยพบเจอใคร ที่เข้ามาทั้งหัวใจ
เธอคือคน ๆ นั้น จะอยู่คู่เคียงข้างกัน
แค่มีเธอที่เข้าใจ ฉันไม่เคยต้องการใคร
แค่เธอเท่านั้น

    “ตื่นเต้นมากๆ เลยครับวันนี้ สำหรับเพลงที่จบไปวินก็ไม่ได้ร้องลอยๆ นะครับ แต่วินร้องอ้อนวอนใครบางคน ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่เค้าจะใจอ่อนสักที”
    “กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด”
    “ยังไงถ้าฟังเพลงนี้แล้วอย่าลืมใจอ่อนให้กูด้วยนะ” ผมพูดกับเพื่อน พี่ น้อง ร่วมสถาบันที่มายืนฟังผมร้องเพลงอยู่ด้านหน้าเวที แต่ตั้งใจสื่อไปถึงใจของคนที่ผมกำลังเพ่งมองอยู่ คนที่นั่งอยู่ใต้ต้นไม้ไกลออกไปด้านซ้ายมือ...ไอ้ชิม เพื่อนร่วมห้อง ม.4/6 ของผม ที่ผมตั้งหน้าตั้งตาตั้งใจอ่อยมันมาสองเดือนแล้ว แต่มันก็ดูจะไม่ใจอ่อนให้ผมเลย เดี๋ยวถ้าทำให้มันใจอ่อนยอมรับรักได้เมื่อไหร่ จะชิมมันทั้งตัวเลยคอยดู
    “กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด”
    “วันนี้หมดคิวของวินแล้ว ขอบคุณทุกคนมากนะครับที่มาฟังวินร้องเพลง ยังไงก็ไปสนุกกันต่อกับวง The Mask จากชมรมดนตรีของเรากันเลยครับ” ผมลงจากเวที ปล่อยให้เพื่อนวงต่อไปมาทำหน้าที่ต่อ วันนี้ชมรมดนตรีของเราจัดงานดนตรีในโรงเรียนตามธรรมเนียมที่มีกันทุกปี ตอนปิดท้ายงานก็จะมีนักร้องดังมาร้องปิดให้ สำหรับปีนี้คนที่จะมาร้องปิดก็คือวงสมเกียรติ ที่ผมร้องเพลงเขาไปเมื่อกี้นั้นแหละครับ
    “พี่วินคะ ขอถ่ายรูปหน่อยได้มั้ย” น้องผู้หญิง ม.ต้น 4 คนเดินเข้ามาหาผมที่ข้างเวที พอผมยิ้มแล้วพยักหน้าโอเค น้องก็ยกมือถือขึ้นเซลฟี่ไป 5 รูป จนได้รูปที่พอใจ แล้วก็สลับให้เพื่อนคนอื่นเข้ามาถ่ายบ้าง ผมไม่ใช่คนที่ฮอตสุดในโรงเรียน แต่ก็พอมีแฟนคลับบ้างตามความหล่อของหน้าตา ที่พูดนี่ไม่ได้หลงตัวเองนะครับ ไปถามสาวๆ ในโรงเรียนเขาก็บอกว่าผมหน้าตาดีทั้งนั้นแหละ ไม่เชื่อก็ถามเลย
    จะมีก็แต่ไอ้คนที่ผมพร่ำอ่อยมันอยู่ทุกวันนี่แหละ ที่มันดูจะไม่หลงไหลอะไรในหน้าตาผมสักนิด แต่จะนับมันเข้าเกณฑ์นี้ก็คงยาก เพราะมันเป็นผู้ชาย คงไม่มีทางมากรี๊ดผมแบบสาวๆ แน่ กูจะทำไงให้มึงหลงกูดีวะเนี่ยชิม ผมเดินไปหาเป้าหมายหัวใจของผมที่มันยังนั่งฟังเพลงพร้อมกับดูดไอติมในมืออยู่ที่ใต้ต้นไม้ต้นเดิม พอมันเห็นผมเดินเข้าไปใกล้จะถึง มันก็เบนสายตามามองผมสามวิ แล้วก็หันกลับไปมองบนเวทีต่อ
    “ขอกูชิมบ้างดิ”
    “…” มันเงียบใส่ครับ
    “งกเหรอมึง”
    “จะไปไหนก็ไป อย่ามากวนตีน” ผมเลื่อนนิ้วโป้งเข้าไปปาดคราบไอติมช็อกโกแลตที่ติดอยู่ที่มุมปากของชิมอย่างรวดเร็ว แล้วก็เอากลับมาดูด
    “ทำเหี้ยอะไร”
    “ก็บอกแล้วว่าขอชิม ไม่ให้ชิมเอง เลยโขมยเอา” นี่ถ้าเป็นสาวๆ นะ ป่านนี้เขินจนระทวยไปแล้ว แต่นี่เป็นมัน เป็นไอ้ชิมที่โคตรแข็งกระด้างใส่ผม งานยากชิบเป๋ง จะละลายของแข็งอย่างมึงนี่กูต้องเอาไฟมาลนไหมวะ
    “เหี้ยวิน ไปไกลๆ ตีน” ผมนั่งลงข้างมันจนตัวแทบจะเกยกัน มันเลยเป็นฝ่ายขับหนีออกจากผม
    “กูร้องเพลงเพราะป่ะ”
    “เพราะ”
    “เย้ดโด้โคอาล่ามาช มึงชมกู ดีใจฉิบหาย”
    “เพราะอะไรมึงถึงร้อง ฟังแล้วก็งั้นๆ เด็กแม่งก็หลับหูหลับตากรี๊ด”
    “กูหล่อไง”
    “ถ้าไม่หล่อ คงไม่มีใครมาทนฟังมึงร้องเพลง”
    “งั้นมึงก็หลงใหลความหล่อของกูด้วยดิ เมื่อกี้กูเห็นมึงก็ฟัง” ชิมดึงไอติมออกจากปากแล้วจ้องหน้าผมเขม็งที่บังอาจไปกวนตีนมันอีกแล้ว
    “เสียงมันเข้าหู ลำโพงก็ทั่วโรงเรียน กูก็ต้องจำใจฟังเปล่าวะ”
    “ดีใจ อย่างน้อยมึงก็ฟัง เออมึงชอบสมเกียรติหนิ”
    “แล้วไง”
    “อยากถ่ายรูปป่ะ”
    “อยาก แต่กูคงไม่เข้าไปแย่งสาวๆ ว่ะ ไม่ไหว”
    “ไปกับกู กูจะทำให้รู้ว่ามีแฟนเป็นกวินมันดียังไง” ผมถือโอกาสที่มันงง ดึงแขนมันให้ลุกขึ้นแล้วพาเดินไปที่ห้องเก็บตัวนักดนตรีที่ชั้น 1 ของตึกด้านหลังเวที ไอ้ชิมเดินตามแรงลากของผมอย่างขัดใจเล็กน้อย แล้วก็โยนไม้ไอติมในมือทิ้งไประหว่างทาง ผมลากมันไม่พูดไม่จา จนไปถึงห้องเก็บตัวนักดนตรีที่พี่ๆ วงสมเกียรติกำลังนั่งคุยกันระหว่างรอขึ้นเวทีในอีก 20 นาทีที่จะถึง
    “มึงจะทำอะไร” ชิมรั้งผมไว้ก่อนที่ผมจะเดินพุ่งเข้าหาพี่ๆ วงสมเกียรติ
    “ก็พามึงมาถ่ายรูปไง มึงชอบมากนี่”
    “เอางี้เลย”
    “ไม่เห็นเป็นไร” ผมลากชิมเข้าไปขอถ่ายรูปกับวงสมเกียรติ ชิมมันดีใจจนเก็บอาการไม่อยู่ ผมมองหน้าชิมผ่านจอโทรศัพท์ในมือที่ถ่ายรูปให้มันอยู่ เหมือนชิมจะเขินนิดๆ ใช่แล้วมันเขิน น่ารักฉิบหาย อยากให้มันเขินผมแบบนี้บ้าง พอถ่ายรูปและก็ขอบคุณเสร็จ ผมก็พามันออกมาแล้วกลับไปที่หน้าเวทีอีกครั้ง
    “กูส่งรูปเข้าไลน์แล้วนะ” ชิมหยิบโทรศัพท์ตัวเองขึ้นมาเปิดไลน์ดู
    “ทำไมมีรูปเดียว กูเห็นมึงกดถ่ายตั้งนาน”
    “อยากได้หรอ ขออะไรแลกเปลี่ยนหน่อย”
    “กวนตีน”
    “กูขออะไรง่ายๆ แลกกับรูปตั้งเกือบ 10 รูปที่กูกดรัวไป”
    “มึงจะเอาอะไร”
    “ขอไปกินข้าวบ้านมึงวันนึง”
    “ไอ้เหี้ย”
    “คุ้มนะ คิดดูก่อนก็ได้ แค่เลี้ยงข้าวกูที่บ้านมึงเอง ได้รูปตั้งเยอะ นี่กูถือเป็นค่าตอบแทนที่พาเข้าไปถ่ายรูปแบบเอ็กซ์คลูซีฟด้วยไง อ่ะๆ กูมีของแถม เมื่อกี้เขาแจกโปสเตอร์พร้อมลายเซ็นด้วยในห้องเก็บตัว กูให้มึงใบนึง”
    “ทำดีหวังผลนะมึง”
    “กูอ่ะ ไม่ได้ทำดีหวังผล แต่กูทำดี หวังให้มึงรัก”
    “พอ กูเริ่มคันตีน อยากเตะปากมึงละ”
    “ตกลงโอเคนะ วันศุกร์แล้วกัน แล้วนี่เพื่อนมึงหายไปไหนหมด” เนียนเปลี่ยนเรื่องไปเลยครับ ถามมากเดี๋ยวมันไม่คล้อยตาม เปลี่ยนใจไม่เอารูป ผมอดไปบ้านมันแน่
    “แม่งนั่งเล่นเกมกันอยู่ข้างตึก 3 มันบอกขี้เกียจร้อน”
    “ฟังเพลงคนเดียวมันเปลี่ยวนะมึง เดี๋ยวกูฟังเป็นเพื่อนมึงเอง”
    “หูมึง มึงจะฟังก็ฟังสิวะ จะมาบอกกูทำไม” นั่นไง ทำดีกับมัน มันก็สงบให้กูแป๊บเดียว สลับโหมดกลับมาโหดอีกแล้วครับ ช่างมัน ตื๊อเท่านั้นที่กวินจะทำได้ ผมลากแขนชิมเดินฝ่าฝูงชนร่วมสถาบันเข้าไปยืนใกล้หน้าเวที ถ้าเป็นปกติยากนะครับที่จะเบียดเสียดคนเข้าไป แต่กวินซะอย่าง สาวๆ ต้องยอมหลบทางให้อยู่แล้ว เป็นการใช้เบ้าหน้าให้เกิดประโยชน์เพื่อให้ได้สวีตกับว่าที่แฟนตัวเอง พอได้ที่จุดที่พอใจผมก็หยุดยืนคู่กับชิม เป็นจังหะเดียวกับที่วงสมเกียรติกำลังจะขึ้นมาเล่น

ทั้งๆที่เรา อ่อนแอเสียจนว่างเปล่า
ทั้งๆที่เราอ่อนแอเสียจนหยัดยืนแทบไม่ไหว

ถึงโกรธที่เป็นอย่างนี้อยู่ได้ กี่ครั้งกับเรื่องบ้าๆเดิมๆ
อีกกี่ครั้งที่เจอกับคนที่เบลอ
ถึงเกลียดแต่เราก็ยังต้องเจอ และจะเป็นเช่นนี้เสมอ~

    พอวงโปรดขึ้นเล่น ไอ้ชิมมันก็เลิกสนใจรอบข้าง ปล่อยตัวเองไปกับเพลงและดนตรีตรงหน้า ในที่สุดผมก็ได้อยู่กับชิมในมุมผ่อนคลาย เย้ดโด้โคอาล่ามาช ชิมน่ารักฉิบหาย เกิดแผ่นดินไหวในหัวใจกูแล้วครับ ผมตีเนียนเอาแขนไปกอดคอชิมไว้ ทำเป็นมันไปกับเพลง หันไปยิ้มให้เพื่อน พี่ น้อง รอบข้างบ้าง เพื่อไม่ให้มันรู้สึกว่าผมหลอกกอดมัน เนียนไหมไม่รู้ รู้แต่ว่าชิมปล่อยให้แขนผมอยู่แบบนั้นยาวๆ ไปเลยล่ะครับ

ขอใครซักคนให้คิดถึง
ให้ฉันรักให้ฉันหลงให้ฉันพบเจอ
ขอวอนแค่ใครให้คิดถึง
ให้ฉันรักให้ฉันหลงให้ฉันพบเจอ
ให้ฉันรักให้ฉันหลงให้ฉันได้เจอ

    เพลงสุดท้ายของวันนี้เริ่มต้นขึ้นแล้ว มันเป็นเพลงเดียวกับที่ผมร้องบนเวที แต่เป็นเวอร์ชั่นแรก ชิมที่ยืนตัวติดกับผมยังคงสนุกไปกับวงโปรดของมัน ส่วนผมก็กำลังสนุกไปกับการที่ได้ใกล้ชิดชิม
    “เพลงเดียวกับที่กูร้องเลย ระหว่างสมเกียรติกับกูใครร้องเพราะกว่ากัน” ชิมหันมามองผมเหมือนกำลังด่าในใจว่า โถไอ้โง่ มึงมีหน้าเอาเสียงตัวเองมาเทียบวงโปรดกูได้ยังไง อย่างงี้ล่ะมั้ง
    “ก็ต้องวงโปรดกูมั้ย ถามอะไรโง่ๆ”
    “กูอาจร้องเพลงสู้วงโปรดมึงไม่ได้ แต่กูชอบมึงมากกว่าที่มึงชอบสมเกียรติแน่ๆ”
    “มึงรู้ได้ไงว่ามากกว่า”

ออฟไลน์ double_ss

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 31
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ศิลป์ภาษาอ่อย
ชิม

    ‘ก็มึงแค่ชอบเค้าไง แต่กูอ่ะ...รักมึงแล้ว’ คำตอบของไอ้วินยังวนอยู่ในหัวผมตั้งแต่กลางคอนเสิร์ตจนจบคอนเสิร์ต จนเลิกเรียนกลับบ้าน ตอนนี้ห้าทุ่มแล้ว แต่ผมก็ยังนอนไม่หลับเพราะคำสารภาพรักของมัน พอมันสารภาพรักเสร็จ มันก็หันไปยิ้มเรี่ยราดให้คนรอบข้าง แล้วก็สนุกกับคอนเสิร์ตต่อ บอกตรงๆ ครับว่าหัวใจกูโดนมันเล่นงานยับเลย วันนี้ไอ้วินแม่งน่ารักฉิบหาย ทั้งตอนชิมไอติม ทั้งตอนพาไปถ่ายรูปกับสมเกียรติ แล้วแม่งยังเสือกมาสารภาพรักกลางเพลงขอวอนอีก กูนี่แทบกลับบ้านไม่ถูกเลย
    ความจริงหนึ่งเดียวที่ไอ้วินไม่เคยรู้เลยก็คือ ผมตกหลุมรักที่มันขยันขุดมาได้สักเดือนแล้ว แต่แค่เคยชินกลับการที่มีมันคอยมาหยอด ก็เลยไม่อยากแสดงออกให้มันรู้ว่าชอบมันเข้าแล้ว ปล่อยให้มันหยอดทุกวันนี่แหละ...ดีต่อใจฉิบหาย
    แต่พอถึงเวลาที่มันปล่อยหมัดเด็ดสารภาพรักออกมาตรงๆ ผมก็แทบจะเนียนเก็บอาการไม่อยู่เลย ดีที่ตอนนั้นมันอยู่ในคอนเสิร์ต คนเยอะ แล้วมันก็ไม่ได้ติดใจจะเอาอะไรจากผม เพราะถ้ามันซักไซร้ขอคำตอบจากผมบ้าง ผมคงเขินใส่มันแน่ๆ
    วันนี้ที่ผมไปนั่งใต้ต้นไม้ดูมันร้องเพลงอยู่คนเดียว ก็ไม่ใช่ว่าเพื่อนผมมันจะใจร้ายทิ้งผมให้มาดูอยู่คนเดียวหรอกครับ จริงๆ พวกมันจะมาดูตอนท้ายที่สมเกียรติเล่น แต่ผมหนีพวกมันออกมาดูไอ้วินคนเดียวก่อน กะว่ามุมนี้มันต้องมองมาเห็นผมแน่ๆ แล้วก็เป็นไปตามคาด น้องจากร้องเพลงให้ผมแล้ว มันยังเดินเข้ามาหาแล้วพาไปถ่ายรูปอีก ว่าที่แฟนผมแม่งโคตรน่ารัก

    กวิน KK : นอนยัง
    กวิน KK : อ่านไม่ตอบ แสดงว่าคิดถึงกูอยู่
    Conlapat Chim : อะไร
    กวิน KK : กูจะบอกว่าวันศุกร์อย่าลืมนัด
    กวิน KK : (รูปโปสเตอร์สมเกียรติ)
    Conlapat Chim : เออ บ้านไม่มีข้าวแดกหรอ ต้องมากินบ้านกู
    กวิน KK : อยากชิม
    Conlapat Chim : ข้าวบ้านกูอร่อยเหมือนเจ้าของบ้านแหละ
    กวิน KK : นี่มึงชวนชิมหรอ
    Conlapat Chim : ฝีมือแม่กูไม่ธรรมดา
    กวิน KK : ไม่ๆ กูหมายถึงชิมชวนชิมหรอ
    Conlapat Chim : ก็ลองมาชิมดู
    กวิน KK : ชิมมึงก็ได้หรอ กูจะชิมให้หมดตัวเลย
    Conlapat Chim : สัส
    กวิน KK : อ่อนแอก็แพ้ไป หวั่นไหวก็รักมา กูไปนอนแล้ว มึงก็รีบนอน อย่ามัวคิดถึงกู

    ผมได้แต่ส่งสติ๊กเกอร์ส้นตีนหมีให้มันไป ทั้งๆ ที่ใจอยากส่งหัวใจให้รัวๆ แทบจะอดใจรอวันศุกร์ให้มันมาสู่ขอกับแม่ไหว ทำไมความคิดมึงมันแรดอย่างงี้วะไอ้ชิม
    วันต่อมาในคาบเรียนวิชาศิลปะ อาจารย์ปล่อยให้พวกผมออกไปหัดวาดภาพวิวในโรงเรียนตรงส่วนไหนก็ได้ เพื่อนในกลุ่มผมคุยกันว่าจะไปวาดรูปแถวๆ ตึก 2 เสร็จแล้วก็หยิบอุปกรณ์เตรียมออกจากห้องเรียน
    “พวกมึงไปก่อนเลย กูยังคิดไม่ออกว่าจะวาดอะไร เดี๋ยวเข้าห้องน้ำแล้วกูตามไป”
    “ปกติมึงเคยจริงจังกับศิลปะด้วยเหรอวะไอ้ชิม แหมทำเป็นต้องคิดว่าะวาดอะไร พ่อศิลปินใหญ่”
    “รีบไปก่อนจะโดนตีนเลยไอ้ตั้ม” พวกมันออกไปกันแล้ว ตอนนี้ในห้องเหลือกันอยู่สี่ห้าคน รวมถึงเป้าหมายของผมด้วย...ไอ้วิน มันปล่อยให้เพื่อนออกไปก่อนเหมือนกัน ส่วนมันก็กำลังเหลาดินสออยู่ที่โต๊ะ ผมค่อยๆ หยิบอุปกรณ์ทุกอย่างช้าๆ จนมันออกจากห้องไป แล้วผมก็เดินตามไปห่างๆ จนมันไปหยุดอยู่ที่ตึก 4 ตึกที่เก่าที่สุดในโรงเรียน ข้างๆ มีแปลงเกษตรสำหรับพวกเด็กประถมด้วย วินเดินไปนั่งที่โต๊ะหินอ่อนตัวนึง ก่อนจะหันมาเห็นผม
    “อ้าว มานั่งด้วยกันดิ พรหมลิขิตว่ะ เลือกวาดที่เดียวกัน” พรหมเหี้ยไร กูนี่แหละเดินตามมึงมาไอ้โง่ ผมเดินเข้าไปนั่งที่โต๊ะตัวเดียวกับมันโดยไม่อิดออด วางอุปกร์ทั้งหมดในมือลงบนโต๊ะ
    “เห็นว่ามีโต๊ะเดียวนะกูถึงนั่งกับมึง”
    “เป็นเกียรติอย่างสูง ถ้านั่งไม่สบายมานั่งในใจกูก็ได้นะ”
    “ใจมึงไม่มีพื้นที่กว้างเท่าตูดกูหรอก”
   ​ “หรอ แต่ทำไมกูรู้สึกมึงนั่งอยู่ตลอดเลยวะ”
    ผมทำเป็นไม่สนใจมัน แล้วเปิดสมุดเตรียมจะวาดรูป ไอ้วินก็เลยหันไปเริ่มวาดรูปบ้าง เวลาอยู่กับดนตรี ศิลปะ ไอ้วินจะมีสเน่ห์เหลือล้นออกมาเสมอ ผมว่าถ้าจบม.ปลายไปมันก็คงไปทำงานบันเทิงอะไรสักอย่างนี่แหละครับ โคตรคูล กูก็อยากมีแฟนเป็นนักร้องเหมือนกัน
    ผ่านไปครึ่งชั่วโมง ภาพของผมกับของวินต่างกันราวกับนักศิลปะกับเด็กประถมเลยครับ เด็กศิลป์ภาษาจีนอย่างกูไร้ความสามารถด้านนี้โดยสิ้นเชิงจริงๆ ผมหยุดวาดแล้วนั่งดูมันวาดไปเรื่อยๆ แทน เห็นแล้วท้อใจ ไม่รู้จะวาดของตัวเองต่อยังไงดี ไอ้วินวางดินสอในมือลง แล้วทำหน้ายิ้มพอใจกับรูปของตัวเองก่อนจะหันมามองผมที่นั่งนิ่งๆ ดูรูปมัน
    “มึงวาดเสร็จแล้วหรอชิม”
    “ยัง”
    “แล้วไมไม่วาด”
    “เห็นรูปมึงแล้วกูท้อใจ”
    “แล้วเห็นหน้ากูแล้วไม่มีกำลังใจบ้างรึไง” มี มีแต่ความรัก อิย๊า บอกรักมันดังๆ ในใจ
    “เดี๋ยวค่อยทำ ส่งตั้งอาทิตย์หน้า”
    “เออ กูก็ยังไม่เสร็จดี เดี๋ยวเอาไปทำต่อบ้านมึงวันศุกร์ดีกว่า จะได้ช่วยมึงทำด้วย ดีมั้ย”
    “กูยกสมุดให้มึงไปเลย”
    “กูดิ ฝากสมุดไปไว้บ้านมึงก่อนเลย เผื่อมึงตุกติกไม่ยอมให้กูไปกินข้าวด้วย” มันยัดสมุดของตัวเองมาวางทับสมุดของผม
    “มึงกลัวไม่ได้แดกข้าวขนาดนั้นเลย”
    “อือ กูอยากชิม”
    “ฝีมือแม่กูไม่ทำให้มึงผิดหวังแน่ๆ แดกแล้วก็วาดรูปให้กูด้วย”
    “เปล่า กูอยากชิมมึง” ไอ้สัด พูดบ่อยๆ กูจะระทวยต่อหน้ามึงแล้วนะโว้ย
    “กูไม่อร่อยหรอก แต่ตีนกูอ่ะไม่แน่” กวนตีนมันไปก่อน เดี๋ยวมันต้องหยอดกลับชัวร์ๆ
    “ถ้ามึงยอมให้ชิม ตีนมึงกูก็จะเลียไม่ให้เหลือเลย” ผมเก็บของไว้ในมือหมดแล้ว ดังนั้นก็ลุกสิครับรออะไร รอให้เขินตายต่อหน้ามันเหรอไง ผมลุกขึ้นเดินกลับห้องเรียนนำไปก่อนเลยครับ
    มันหยอดผมเรี่ยราดเหมือนเดิมมาอีกสองวัน ผมก็เนียนๆ เดินผ่านไปมาเวลาเห็นมันอยู่คนเดียวบ้าง ไม่ก็กวนตีนให้มันหยอดกลับบ้างเหมือนเดิม จนถึงวันศุกร์ที่เรานัดกันไว้ ไอ้วินเอาโปสเตอร์ที่สัญญาไว้มาให้ผมแต่เช้า พอตอนเย็นมันก็ตามผมมาที่บ้าน ผมกลับมาถึงบ้านตอนห้าโมง บอกแม่ว่ามันจะมาทำการบ้านศิลปะด้วยกัน แล้วก็พามันขึ้นไปวาดรูปรอกินข้าวที่ห้องนอน กว่าบ้านผมจะกินข้าวกันก็อีกสองชั่วโมงเลยครับ ต้องรอพ่อกับพี่ชายผมกลับมาก่อน
    “พากูขึ้นห้องแบบนี้ คิดไรกับกูป่ะ” คิดว่าจะแอบมองมึงทั้งสองชั่วโมงนี่แหละ คิดว่าอยู่กันสองคนมึงคงจีบกูหนักมากด้วย กูเขินรอเลย
    “หรือมึงจะลงไปวาดรูปอยู่ในครัวกับแม่กู”
    “โหยยยอย่าดุดิ กลัวแล้ว”
    “วาดรูปให้กูให้เสร็จด้วย มึงมีเวลาสองชั่วโมง ไม่เสร็จไม่ต้องแดกข้าว”
    “ใจร้ายกับกูจังเลยนะ” ผมเดินไปหยิบการ์ตูนที่อ่านค้างไว้จากโต๊ะเขียนหนังสือมาอ่านต่อบนเตียง แล้วไอ้ชิมมันก็กระโดขึ้นเตียงตามมาพร้อมกับสมุดศิลปะของผม มันนั่งพิงหัวเตียงอยู่ข้างๆ ผม ชันเข่าขึ้นแล้ววางสมุดศิลปะเอาไว้บนขาเตรียมจะวาด
    “อย่าวาดสวยมาก เดี๋ยวกูโดนจับได้ เอาสักแปดคะแนนพอ”
    “คร้าบบบแฟน” เย้ดโด้มีเรียนแฟนล่วงหน้า
    “แฟนพ่อง” ผมด่าแล้วก็หันกลับมาสนใจการ์ตูนในมือต่อ เชี่ยยย ยากกว่าที่คิดไว้ การมีไอ้วินอยู่ใน้องนอนทำสติผมพังยับเยินไปเลย หัวใจกูเกิดภาวะวิกฤติวินท่วมใจแล้วครับ ผมอ่านการ์ตูนต่อไปแบบไม่เข้าหัวเลยสักนิด ไอ้วินวาดรูปไปเรื่อยๆ ประมาณ 20 นาที ภาพในมือก็เปลี่ยนไปจากตอนแรกมาก จริงๆ เอาแค่นี้กูก็พอใจแล้ว ขนาดวาดยังไม่เสร็จยังสวยกว่าที่กูวาดตอนเสร็จแล้วแปดร้อยห้าสิบสองเท่า
    “เป็นแฟนกูโคตรคุ้ม การบ้านกูก็ช่วยได้ มึงพอจะสนใจมั้ย” ไม่สนกูจะยอมให้มึงมาบ้านง่ายๆ หรอวะ
    “ไม่อ่ะ"
    “มึงนี่ใจร้อนนะ กูถามอะไรเก็บเอาไปคิดก่อนก็ได้ รีบตอบซะกูใจยับเยินเลย”
    “มึงถามกูก็ตอบ มันก็ถูกแล้ว” ไอ้วินถอนหายใจแล้วปิดสมุดในมือ ส่งมาให้ผม แต่มันไม่ได้ส่งเฉยๆ มันหันตัวเข้าหาผม แล้วพอผมจะรับสมุดมา มันก็ไม่ปล่อย ผมออกแรงดึงนิดๆ กลายเป็นว่ามันโน้มตัวมาตามแรงดึง จนหน้ามันเข้ามาใกล้ผมมาก มากจนเกือบจะจูบเลยครับ
    “มึงดึงเองนะ กูไม่ได้ทำอะไรเลย” มึงอ่ะตั้งใจไอ้สัด ตั้งใจทำกูระทวยไอ้เหี้ย
    “…”
   ​ “มึงเป็นไรเปล่าวะชิม อย่านิ่งดิ...เออๆ กูขอโทษ ก็อยู่ใกล้มึงแล้วกูหวั่นไหวอ่ะ” ไอ้วินหน้าหงอยเพราะกลัวว่าผมจะโกรธ
    “…” ไอ้เหี้ยปากกูแข็ง ไม่ๆ กูแข็งทั้งตัวเลย ไม่รู้จะตอบอะไรมัน เขินฉิบหาย
    “ชิม กูขอโทษจริงๆ แต่อยู่กันสองคน กูก็ต้องหวั่นไหวบ้างอ่ะ วันหลังกูจะพยายามเก็บใจ ลงไปข้างล่างกันเถอะ”
    “อ่อนแอก็แพ้ไป หวั่นไหวก็รักมา”
    “ฮะ มึงว่าอะไรนะ”
    “มึงพูดเองหนิ สรุปเอาไงจะอ่อนแอแล้วแพ้ หรือจะหวั่นไหวแล้วรัก”
    “เห้ยยย มึงไม่สบายเปล่าวะชิม” มันเอามือมาแตะหน้าผากผมงงๆ
    “เร็วๆ ไอ้เหี้ย กูเขิน”
    “เหี้ย กูงง”
    “มึงอ่ะโง่เอง ตอบมาก่อนว่าเอาไง”
    “เออๆๆ กูรักมึง แต่มึงช่วยอธิบายหน่อย”
    “มึงมันมีแต่คนคอยรุมล้อม แสดงออกว่ารัก บอกรักซ้ำซากจนชิน พอกูไม่พูดแบบนั้น มึงเลยคิดว่ากูไม่ชอบมึงไง แต่ถ้ามึงสังเกตสักหน่อย กูจะไปเดินผ่านเวลามึงอยู่คนเดียวให้มึงหยอดบ่อยอะไรขนาดนั้น แล้วถ้ากูไม่ชอบมึงกูจะยอมให้มาบ้านทำไมไอ้เหี้ย แค่การบ้านศิลปะ คะแนนน้อยหน่อย กูเคยแคร์เหรอ”
     “นี่คือมึงชอบกู แม่งกูไม่น่าโง่เลย ดีใจเหี้ยๆ งงด้วย”
     “สรุปเอาไง”
     “เป็นแฟนกันแล้วนี่ไง” ชิมยื่นแขนสองข้างมาวางพาดบ่าผมไว้ แล้วออกแรงดึงให้หน้าผมเข้าไปใกล้กับมัน
     “กูตกลงตอนไหน”
     “กูหิว”
     “หิวก็กิน”
     “นี่อ่อยป่ะ” มันขยับเข้ามาใกล้ผมอีกนิด
    “เออกูอ่อย”     
    “ขอชิมนะ” วินจุ๊บผมหนึ่งที แล้วผละออกมาจ้องตาผม
    “อร่อยมั้ย”
    “ชวนชิมฉิบหาย อีกไม่นานกูอ้วนแน่นอน” คราวนี้วินไม่ได้แค่ชิม แต่มันกลืนกินทุกอย่างในปากผมไปจนหมดสิ้นเลยครับ เป็นจูบที่ทำให้ผมอ่อนแอจนต้องให้มันประคองเอาไว้ ในที่สุดว่าที่แฟนก็กลายเป็นแฟนผมแล้วครับ ต่อไปจะชวนแม่งชิมบ่อยๆ เลย

__________________
The End

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
อื้อหือ อ่อยแรง

ออฟไลน์ missyaoi

  • INDY^^
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 185
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +73/-1
 :o8: :o8: น่าย๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกก
ชอบทุกคู่เลย :o8: :o8:

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7

ออฟไลน์ Pittabird

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 796
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
 :-[ :-[น่ารักอะ.  อ่อยทั้งคู่เลย.  วินอ่อยแบบเปิดเผย.  ชิมอ่อยแบบเนียนๆ. ชอบตอนนี้มาก. มาต่ออีกหน่อยสิคะ. ขอบคุณค่ะ :3123:

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
เขินง่ะ เค้าชิมกันแล้ว ว่าแต่ตอนกินไม่มีเหรอคะ โอ๊ะเด็กใสๆเนาะ

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
ชอบคู่สุดท้ายอ่ะ เค้าหยอดกันดี๊ดี   :o8:

ออฟไลน์ KKKwanGGG

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-2
น่ารักทุกคู่เลยครับ แต่ผมชอบคู่ คณิต-กันต์มากที่สุด


ขอบคุณครับ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ tangMa

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 34
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
น่าร๊ากกกกกกก :hao7:

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
น่ารักทุกคู่เลยอ่ะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด