บทที่ 12 : บ่วงอารมณ์ (4)
“เรื่องบางเรื่องก็ต้องรอให้เวลาเหมาะสม โอกาสอำนวย”
“นานพอแล้ว” ซิกฟรีดเหยียดยิ้ม “นานเกินพอเสียอีก”
“โถ...เอลฟ์เด็กน้อย” มาลแกธระบายลมหายใจ ขณะซิกฟรีดเลือดขึ้นหน้า
โคลด์มองเอลฟ์ทั้งสองตอบโต้กัน หมุนคอตามแต่ละฝ่ายซ้ายทีขวาที เขาค่อยๆ ขยับแขนให้หลุดจากมือซิกฟรีด แล้วก้มลงดึงแผ่นไม้ของตนออกมาทีละแผ่น
นี่ก็ไม่สนใจเรื่องของเอลฟ์เลยจริงๆ...
ซิกฟรีดเห็นก็ฉุดโคลด์อีกรอบ ให้เดินตาม ส่วนมาลแกธกลับยึดแขนอีกข้างให้โคลด์อยู่ แผ่นไม้ถูกทั้งสองคนเหยียบ...
“ข้าปล่อยเจ้าไปตอนนี้ไม่ได้หรอก ซิกฟรีด อาเลธ รูเมเรียร์”
ชั่วพริบตา...แค่ชั่วพริบตาจริงๆ ที่โคลด์ทันเห็นหมัดของมาลแกธสะบัดกระทบกรามของซิกฟรีด
“อย่าโกรธกันเลย เป็นการทักทายแบบชาวตะวันออกน่ะ”
ซิกฟรีดแยกเขี้ยว เจ้าชายเอลฟ์จรดหมัดพร้อมสู้
ทว่า...ตอนนั้นเองที่มาลแกธคว้าแผ่นไม้ของโคลด์มาฟาดหน้าซิกฟรีดโดยไม่สนใจศักดิ์ศรีหรือกติกาใดๆ ทั้งสิ้น!
แผ่นไม้ของข้า!!! โคลด์กรีดร้องโหยหวนในใจ
“ดูไว้ โคลด์ สตาร์ สู้แบบสุนัขแล้วรอด ดีกว่าสู้แบบเอลฟ์แล้วมีสภาพเหมือนผ้าห่มเก่าของเจ้า”
ซิกฟรีดกะพริบตาไล่ความมึนงง เลือดไหลกบปากกบจมูก และเลือดคงเข้าตาด้วย เขาจึงเริ่มสู้แบบสกปรกบ้าง ทั้งมือ เท้า และฟัน อ้อ รวมดินที่ซัดเข้าตาอีกฝ่ายด้วยก็ได้
“เดี๋ยวๆ พอแล้วๆ” โคลด์ห้ามมาลแกธแบบดึงไว้ทั้งตัว เขาตกใจที่มาลแกธหาเรื่องเจ้าชายเอลฟ์
นั่นทำให้มาลแกธโดนซิกฟรีดถีบเต็มๆ เข้ากลางลำตัว
“โลกนี้สกปรก เจ้าชาย...” มาลแกธไอค็อก! “ข้างนอกยิ่งกว่านี้อีก”
“อย่า” โคลด์ผลักซิกฟรีดออก “แค่มาลแกธเจ้ายังไม่เคยสู้ชนะ เจ้าจะเอาอะไรไปสู้กับพวกกบฏ”
ถึงมาลแกธจะไม่ร่วมช่วงวิชาฝึกอาวุธ แต่บางครั้งที่ได้รับเชิญเป็นพิเศษและได้เป็นคู่มือให้เจ้าชายเอลฟ์...ผลลัพธ์ไม่เคยต่างกันเลยสักครั้ง
โคลด์ประกาศความจริงที่เจ็บปวด ซิกฟรีดปาดเลือดออกจากปาก ยืนค้ำเอลฟ์ตะวันออกซึ่งยังยิ้มกว้างแม้จะโดนถีบเต็มรัก
มาลแกธมองซิกฟรีดนิ่ง เขายกนิ้วแตะปาก จากนั้นเลื่อนไปแตะหู ก่อนจะเคาะเบาๆ ที่ข้างขมับ
‘ที่นี่ ทุกคำพูดมีคนได้ยิน และที่สำคัญเจ้าชาย...จงไตร่ตรองให้หนัก’
มาลแกธสื่อความหมายผ่านท่าทาง ซึ่งซิกฟรีดเงียบ ไม่แสดงอาการว่าเข้าใจหรือไม่
เจ้าชายแห่งรูเมเรียร์ลากโคลด์ออกไป
สุดท้ายโคลด์ก็ต้องทำแผลให้ซิกฟรีด พวกเขาอยู่ในห้องส่วนตัวของเจ้าชายเอลฟ์ ซิกฟรีดนั่งบนเตียง โคลด์เอาผ้าชุบน้ำเช็ดหน้าให้อย่างเบามือ ใช้แหนบคีบเศษไม้ที่ติดอยู่ในแผลฉีกตรงขมับออก เขาทำความสะอาดแผลอีกรอบ ทาขี้ผึ้งห้ามเลือดและแก้ปวด
“ทำไมจู่ๆ ถึงทำแบบนั้น” โคลด์หมายถึงเรื่องชกต่อยกับมาลแกธและเรื่องจะไปจากอาศรม
ซิกฟรีดเงียบ แววตาเปี่ยมความโกรธผสมความหงุดหงิด เขาดึงโคลด์เข้ามากอดเอว ก่อนพยักพเยิดไปทางลูต
‘เล่นให้ฟังหน่อย’
“อะไรของเจ้าเนี่ย” โคลด์ทำหน้าแบบ ‘เจ้าจะไม่ตอบข้าเลยเรอะ’ “ไม่ละ เล่นไปเจ้าก็ไม่อารมณ์ดีขึ้นมาหรอก”
ถ้าโคลด์มองไม่ผิด...แววตาของเจ้าชายดูอ่อนลงนิดๆ เกือบจะคล้ายขอร้อง แค่เกือบ เพราะดูรวมๆ แล้วยังไงก็เหมือนสั่งอยู่
“ก็ได้ๆ” โคลด์เดินไปหยิบลูตแล้วนั่งลงบนพื้นข้างเตียง เขาเลือกเพลงบรรเลงที่ฟังแล้วสบายใจ หลับตาเล่นเงียบๆ โดยไม่พูดอะไร
เสียงเพลงทำให้หัวใจของทั้งคู่สงบลง
สัมผัสอุ่นๆ พรมไปทั่วใบหน้า ซิกฟรีดจูบโคลด์อย่างอ่อนโยน แม้แต่ปลายนิ้วที่ปัดผมไปทัดหูให้ยังนุ่มนวล เขาจูบปลายใบหู เม้มเบาๆ
โคลด์ลืมตา ค่อนข้างตกใจ หยุดเล่นดนตรีกะทันหัน
‘มีอะไร เล่นต่อสิ’
“เจ้าเป็นคนสองบุคลิกเหรอ” ซิกฟรีดไม่เคยทำดีขนาดนี้กับโคลด์มาก่อน หรือมารดานทีจะเล่นตลกอะไรกับข้างในสมองของเจ้าชายเอลฟ์
มีเพียงแววตาดุจากซิกฟรีดตอบกลับโคลด์
แต่สุดท้ายเจ้าชายเอลฟ์ก็ทนคำถาม (และคำบ่น) งุบงิบของดาร์กเอลฟ์ไม่ไหว เขาระบายลมหายใจยาวแล้วเอ่ยว่า
“เงียบ”
คำเดียว...
“แล้วเรื่องห้องส่วนตัวของข้าล่ะ” โคลด์เข้าเรื่องตัวเอง กลืนคำบ่นเรื่องแผ่นไม้ที่พังเพราะถูกใช้ฟาดหน้าซิกฟรีด เพราะมาลแกธก็ทำเกินไปจริงๆ
“ไม่อยากอยู่กับข้าขนาดนั้นเลยหรืออย่างไร”
“ก็ไม่เชิง...แต่เราแยกกันดีกว่าไม่ใช่หรือไง” โคลด์ไม่ค่อยอยากรื้อฟื้นเรื่องสามวันที่ผ่านมา
“ไม่ดี” คิ้วสีทองขมวดเข้าหากันแน่น
“แล้วจะอยู่กันแบบไหน...” ดาร์กเอลฟ์พยายามไม่ตรงเข้าประเด็นว่า ‘จะอยู่กันแบบไหนหลังจากเผลอมีอะไรกัน’
ซิกฟรีดไม่เข้าใจคำถาม สายตาเขาพูดว่า ‘ที่ผ่านมาอยู่กันอย่างไรก็อย่างนั้น’
โคลด์ทึ่ง...ความนิ่งเฉยของซิกฟรีดทำให้เขาคิดว่า
สรุปข้าเป็นทาสกระทั่งบนเตียงของเจ้าด้วยสินะ“ถ้าพวกเขารู้ ข้าจะโดนหนักถึงตายเลยนะ” โคลด์ขอความเห็นใจ
มุมปากของซิกฟรีดกระตุก ‘พวกเขา’ หมายถึงพวกควาร์ และพวกควาร์ก็หมายถึง...
พวกมัน“พวกมันจะไม่มีวันรู้อะไรอีกหากข้าไม่อนุญาต” ซิกฟรีดกระซิบเสียงเยียบเย็น
“ข้าไม่เข้าใจเจ้า” โคลด์วางลูต “สรุปคือข้าจะไม่ได้ห้องส่วนตัวใช่ไหม แต่อย่างน้อยเรื่อง--” โคลด์สูดลมหายใจ ไม่พูดออกมาตรงๆ “เรื่องนั้นน่ะ เราก็ลืมๆ มันไป หรือยังไง”
คราวนี้ซิกฟรีดโกรธ ไม่อยากเชื่อว่าโคลด์จะให้เขาลืม
“ดาร์กเอลฟ์ลืมง่ายงั้นหรือ” น้ำเสียงออกไปทางเยาะมากกว่าเย้า
“แล้วจะให้ข้าทำยังไง” โคลด์ก็ไม่ใช่โง่จนฟังไม่ออกว่ากำลังถูกเยาะ
วันถัดมา โคลด์ถึงเห็นว่าซิกฟรีดจัดการอย่างไร
เจ้าชายเอลฟ์แบ่งห้องกว้างใหญ่เป็นสองส่วน สั่งให้คนต่อเตียงให้โคลด์ (รวมถึงโต๊ะและเก้าอี้เล็กๆ ด้วย) วางไว้ชิดผนังฝั่งประตูห้อง ระหว่างเขากับโคลด์กั้นด้วยฉากบังตาคล้ายแบบที่ใช้เปลี่ยนเสื้อผ้า ซิกฟรีดถึงกับให้คนทำสวนหย่อมและน้ำตกเทียมขนาดจิ๋วด้วย
โคลด์ถึงกับงงเป็นไก่ตาแตก
“ไม่ๆ ข้าไม่เอา ข้าเอาโรงเก็บของก็พอ” โคลด์พยายามห้ามคนงานที่กำลังติดตั้งสวนหย่อมกับน้ำตกเทียม เขาอยากถามซิกฟรีดว่า ‘ใครเขาเอาของแบบนี้มาตั้งในห้องกัน!’
“ควาร์เอเรนดิลสั่งให้รื้อโรงเก็บของแล้ว” คนงานตอบ นึกรำคาญที่ดาร์กเอลฟ์ชะลอให้งานช้าลง “ห่าฝนคราวที่แล้วทำลายอาศรมไปหลายส่วน โรงเก็บของนั่นก็ด้วย น้ำท่วม หนูวิ่งออกมาเต็มไปหมด”
โคลด์เลยไปทุบประตูห้องมาลแกธ
“อ้า...มาหาขนมหรือ” มาลแกธออกมารับในสภาพเปลือยท่อนบนเช่นเคย ดูเหมือนว่าเอลฟ์ตะวันออกไม่นิยมห่มคลุมร่างกายเวลาอยู่ห้องส่วนตัว
โคลด์ชะโงกหน้าเข้าไปในห้อง “วันนี้ไม่มีลูกศิษย์ใช่ไหม ข้ามีเรื่องต้องการปรึกษาด่วนมาก”
“เพิ่งกลับไป” มาลแกธเปิดประตูให้
โคลด์โล่งใจ “ดีๆ”
“มีอะไรหรือ”
“ซิกฟรีดทำดีกับข้าแปลกๆ ข้าว่าในสมองเขาคงมีอะไรเพี้ยนไป” โคลด์เข้าประเด็นโดยไม่หยิบขนมกินด้วยซ้ำ บอกความจริงจังของเรื่องที่กำลังพูด “ข้าไม่ชอบให้เขาทำดีกับข้า คนอื่นจะสงสัยว่าเพราะอะไร...ถ้าคิดว่าเพราะข้าช่วยพาเขากลับมา อะไรแบบนั้นก็พอได้ใช่ไหม”
แล้วถ้าไม่คิดว่าเพราะเหตุนั้น จะเป็นเหตุไหนได้อีกเล่า...
สีหน้าของโคลด์อมทุกข์แบบคนที่อยากพูดอะไรสักอย่างแต่ไม่กล้าพูด
“อืม…” มาลแกธหากลักยาสูบที่โต๊ะข้างเตียง “เจ้าชายเอลฟ์ทำดีกับเจ้าแบบผิดปกติอยู่แล้วไม่ใช่หรือ” เขาถอดฝากลักออก กลิ่นยาสูบลอยฟุ้ง “ผิดปกติจนปกติ ยังมีผิดปกติได้มากกว่านี้อีกหรืออย่างไร”
“เขาทำดีผิดปกติยังไง เมื่อก่อนน่ะทาสปกติ นอนปลายเตียง แต่ตอนนี้เขากั้นห้องให้ข้า แทนที่จะให้ห้องเล็กๆ แยกกันอยู่ แบบนี้มันทำร้ายข้าทางอ้อมไม่ใช่หรือไง”
“เท่าที่ข้าจำได้ เขาชกควาร์ที่รุมเจ้า” มาลแกธวางยาสูบบนกระดาษแล้วบรรจงม้วนให้แน่น
“ก็แค่ครั้งเดียว” โคลด์กอดอกแน่น นั่งขัดสมาธิบนเตียงของมาลแกธ
“มันไม่ใช่แค่ครั้งเดียวหรอก โคลด์ สตาร์” มาลแกธเคาะมวนยา ก่อนจุดสูบ
โคลด์เลิกคิ้ว “ไม่ แค่ครั้งเดียว” เขายืนยัน
“เราทุกคนเชื่อในสิ่งที่ตัวเองอยากเชื่อ” มาลแกธยิ้ม พ่นควันเป็นวงแหวนวงเล็กๆ แบบที่ชอบทำ “เอาเถอะ ถ้าเจ้าไม่อยากได้ก็คุยกับเขาสิ หรือคิดให้ข้าไปชกหน้าเจ้าชายอีก”
“อา...”
ข้าคุยแล้วแต่ไม่ได้ผล ถึงมาปรึกษาเจ้าไง โคลด์แย่งยาสูบจากมือของมาลแกธมาสูบเข้าปอดเฮือกใหญ่
“ระวัง...ระวัง มันแรง” มาลแกธหัวเราะ ยกมือลูบศีรษะโคลด์โยกไปโยกมา
สายไปแล้ว...โคลด์สำลักควัน ที่จริง คนสอนเขาสูบยาก็คือมาลแกธ สูบแล้วคลายเหนื่อยหลังฝึกซ้อมได้ดี โคลด์จึงใช้มันเป็นวิธีแก้เครียด
“ว่าแต่…” มาลแกธทำตาเจ้าเล่ห์ “เจ้าปิดบังอะไรอยู่หรือ ซิกฟรีดทำอะไร บอกข้าได้นะที่รัก”
โคลด์ล้มตัวนอนเป็นลูกบอล ค่อยๆ ละเลียดยาสูบกลิ่นหอม “ที่บ้านเจ้า ถ้า...ทาส...เอ่อ ว่าไงดี ถ้าทาสโดนตัดสินว่าทำความผิดร้ายแรงต่อหัวหน้าตระกูล โทษจะเป็นยังไง”
“ขึ้นอยู่กับว่าผิดอะไร ถ้ามันคาบข่าวสำคัญในตระกูลไปเร่ขาย มันก็จะถูกเฉือนริมฝีปากกับลิ้นโยนให้นางนวลกิน” มาลแกธมวนยาสูบตัวใหม่ เอาสมุนไพรสองชนิดผสมกัน และใส่ก้านเห็ดเมาลงไปนิดหน่อย
โคลด์ขมวดคิ้ว “ถ้าทำให้หลงผิดล่ะ”
คำถามทำให้เอลฟ์ตะวันออกหัวเราะประหลาด “หัวหน้าก็คงโดนลงโทษเพราะโง่เง่า” เขาบิดปลายยาสูบกันไม่ให้สมุนไพรหกหล่น “ลองนี่ไหม”
โคลด์รับไปอย่างว่าง่าย จุดไฟ พอสูบมวนใหม่ไปสักพักก็จ้องหน้ามาลแกธ ตาแดงๆ ลอยเหม่อคล้ายคนกึ่งเมา
“ข้าว่า...ข้าทำพลาดไป จะบอกใครก็ไม่ได้ ซิกฟรีดก็ไม่สนความกลุ้มใจของข้าเลย ถ้าข้าบอกเจ้า...ข้าจะโดนเอาไปเผามั้ย”
“เจ้าเชื่อใจข้าแค่ไหนเล่า” มาลแกธถือวิสาสะใช้ข้อนิ้วลูบตามกรอบหน้าของโคลด์
“ไม่รู้สิ” โคลด์ปล่อยมวนยาสูบร่วงจากมือ ปลายสีแดงของมันส่องแสงเรืองและส่งกลิ่นจากการเผาไหม้ต่อ “แต่ถ้าเลือกได้ ข้าอยากนอนห้องเดียวกับเจ้ามากกว่า”
“ข้ายินดี ย้ายเดี๋ยวนี้เลยดีไหม”
โคลด์ไม่รู้สึกตัวเลยว่าใบหน้าของพวกเขาอยู่ใกล้กันแค่ไหนแล้ว
—————————————————————————
A/N เอาละ ป๋าจะได้กินหรือไม่อย่างไร หรือได้แทะโลม หรือผั-- แค็กๆๆ แฟนเขาจะตามมาหึง ตอนต่อไปจ้าาา
ป.ล. "แผ่นไม้ของข้า" (;w;) โคลด์จ๋อยติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy
♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/
♰ Twitter : @VinzeSchwarz