เรื่องสั้น [ทำนองรัก] ย้ายมาจาก Dek-D จบแล้ว
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เรื่องสั้น [ทำนองรัก] ย้ายมาจาก Dek-D จบแล้ว  (อ่าน 1615 ครั้ง)

ออฟไลน์ @warun

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 3
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้าม มิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์  และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด
โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอม

5.ขอ ให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่ นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.อย่า พูดคุย ทักทาย นักเขียน คนอ่่านโดยรีพลายดังกล่าวไม่เกี่ยวพันกับนิยายให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรคอมเม้นต์สักคอมเม้นต์เีดียวก็เพียงพอแล้ว ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และทำลิงค์โยงมายังนิยาย และให้นักเขียนทุกคนทำลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยเกี่ยวกับแฟนคลับนิยาย ในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

เวปไซต์ แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่าง ประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0


--------------------------------------------

เป็นเรื่องสั้นที่เกิดจากการอยากแต่งนิยายแนวสบายๆ ไม่ดราม่า ฝากด้วยนะคะ^^
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-12-2016 21:42:52 โดย @warun »

ออฟไลน์ @warun

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 3
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
บางที...สิ่งที่ไม่น่าจะไปด้วยกันได้ แต่เอาเข้าจริงแล้ว กลับเข้ากันได้อย่างประหลาด...

 

 

เหมือนคุณกับผมไง

 

 

เบื้องหน้าของชายหนุ่มร่างสูงโปร่ง คืออาคารเรียนสูงตระหง่าน สองข้างทางมีพุ่มดอกกุหลาบขาวปลูกเรียงรายเป็นแถว น้ำพุรูปปั้นกามเทพกลางสนามหญ้าเขียวชอุ่มยิ่งขับให้โรงเรียนนี้ดูมีระดับขึ้นไปอีก

ชายหนุ่มถอดแว่นกันแดดสีชาออกช้า ๆ มุมปากยกยิ้มเล็กน้อยจนเผยลักยิ้มอันเป็นเอกลักษณ์

 

อ่า...จะเริ่มจากตรงไหนก่อนดีนะ

 

 

ตึกๆๆๆ

เสียงฝีเท้าดังขึ้นเรื่อย ๆ บ่งบอกว่าคนที่กำลังวิ่งอยู่กำลังจะมาถึงแล้ว เด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้นจากกองเอกสาร วางปากกาที่กำลังเขียนงานลงเมื่อเห็นว่ามีคนมาหา รุ่นน้องคนสนิทวิ่งกระหืดกระหอบพร้อมกับตะโกนมาแต่ไกล

"พี่นุ่ม พี่นุ่ม!" รีบคว้าขอบโต๊ะไว้ก่อนที่จะเลยเป้าหมาย หอบหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน ยิ้มแหยๆ เมื่อหันไปเห็นสายตาพิฆาตของรุ่นพี่

รุ่นพี่ที่ว่ากำลังจ้องเขาตาเขม็ง คิ้วสวยขมวดมุ่น ถอดแว่นสายตาออกก่อนจะพูดอย่างไม่พอใจ

"ไอ้ต้น บอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่าเรียกแบบนั้น" เอ็ดรุ่นน้องไปเบาๆ ก็เจ้าน้องชายตัวดีที่บอกเท่าไหร่ก็ไม่จำ บอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่าเรียกเขาว่านุ่ม ผู้ชายอะไรชื่อหวานอย่างกับผู้หญิง เพราะเหตุนี้ ผู้ชายแมนๆอย่าง นายภพรัก ธนพัฒน์ธาดา จึงไม่เคยบอกชื่อเล่นนี้ให้กับใคร จะมีเฉพาะเพื่อนที่สนิทด้วยจริง ๆ เท่านั้น

"ขอโทษๆ พี่ภพ ผมลืมไป แต่คราวนี้พี่อย่าพึ่งว่าผมเลยนะ มีข่าวดีพี่! มีคนจะมาเข้าชมรมเรา" ต้นพูดอย่างตื่นเต้นจนแทบจับใจความไม่ได้ แต่พอได้ยินว่าข่าวดี ภพรักก็เบิกตาโต ลุกขึ้นยืนก่อนจะถาม

"ข่าวดีอะไรวะไอต้น"             

"มีคนจะมาเข้าชมรมเรา" ต้นพูดช้า ๆ อีกครั้ง คราวนี้ภพรักยิ้มกว้าง แม้จะอึ้งไปกับคำพูดของต้นนิดหน่อย แต่พอได้สติแล้วเขาก็รีบออกคำสั่งอย่างรวดเร็ว

 

"จริงเหรอ อยู่ไหนล่ะ รีบๆไปพามาสิ!"

ต้นพยักหน้าก่อนจะวิ่งออกไปอีกครั้ง ภพรักมองตามด้วยหัวใจที่พองโต ก็จะไม่ให้ดีใจได้อย่างไร นี่เป็นข่าวดีที่สุดในรอบสองปีเลยก็ว่าได้ มือเล็กตบหน้าตัวเองเบาๆ นี่เรื่องจริงหรือเปล่า เขาไม่ได้ฝันไปใช่ไหม

 

ภพรักกวาดสายตามองไปรอบ ๆ ห้อง รอยยิ้มจางๆผุดขึ้นบนใบหน้า ห้องนี้ ห้องชมรมดนตรีไทย นานเท่าไหร่แล้วนะที่ไม่ได้ใช้มัน

 

ภพรักเข้ามาเป็นสมาชิกชมรมดนตรีไทยตั้งแต่เข้ามาเรียนที่โรงเรียนนี้แล้ว จนตอนนี้ก็หกปี จากที่เป็นแค่สมาชิกชมรมก็กลายมาเป็นประธานชมรมไปเรียบร้อย ระนาดเอก คือเครื่องดนตรีที่ภพรักเล่น ภพรักชอบเสียงดนตรี โดยเฉพาะดนตรีไทย เสียงดนตรีที่ไพเราะและละมุนอันเป็นเอกลักษณ์ ราวกับมีมนต์เสน่ห์ดึงดูดคนฟังให้หลงใหลไปกับมัน ภพรักมีความสุขทุกครั้งที่ได้เล่น ได้เห็นรอยยิ้มของคนฟัง ทว่า ความสุขนั้นกำลังจะหายไป

 

ชมรมดนตรีกำลังจะถูกปิด

 

เวลาเปลี่ยน ใจคนก็เปลี่ยน เด็กรุ่นใหม่ๆไม่มีใครสนใจดนตรีไทยกันแล้ว ชมรมดนตรีไทยเองก็เช่นกัน รุ่นน้องที่เข้ามาใหม่ไม่มีใครมาสมัครเข้าชมรมซักคน ตอนนี้สมาชิกชมรมดนตรีไทยมีเพียงสามคน คือภพรัก ต้น และรติ เพื่อนผู้หญิงอีกหนึ่งคนเท่านั้น มันเป็นแบบนี้มาสองปีแล้ว สองปีที่ห้องชมรมดนตรีขาดเสียงหัวเราะและความสุข

จนผู้อำนวยการโรงเรียนต้องสั่งให้เขาปิดชมรมไปซะ เพื่อไปเปิดชมรมใหม่ที่เป็นประโยชน์มากกว่านี้

 

แต่เพราะต้นบอกว่ามีคนจะมาสมัครเข้าชมรม ภพรักถึงได้ดีใจจนเก็บอาการไว้ไม่อยู่ เพราะถ้ามีสมาชิกเพิ่มขึ้น ผู้อำนวยการอาจจะพิจารณาไม่สั่งปิดชมรมก็ได้ ภพรักรักชมรมนี้จะตาย ใครจะไปยอมกันล่ะ

เสียงฝีเท้าดังเข้ามาอีกครั้ง ภพรักชะเง้อมองออกไปนอกห้องอย่างตื่นเต้น หน้าตาของสมาชิกใหม่จะเป็นยังไงกันนะ

ต้นกึ่งเดินกึ่งวิ่งเข้ามาในห้องพร้อมกับพูดเชิญให้คนที่ตามหลังอยู่เข้ามาด้วย พอเดินเข้ามาใกล้ๆแล้ว ภพรักถึงได้มองเห็นถนัด

ชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่ง ผมสีเงินที่ดูยุ่งเหยิง รับกับใบหน้าหล่อคมอย่างกับนายแบบ เขาไม่ได้ใส่ชุดนักเรียน แต่กลับเป็นเสื้อเชิ้ตและกางเกงขายาว ท่าทางและการแต่งตัวประหลาดเหมือนไม่ได้เป็นนักเรียนเลย

เขากำลังมองไปรอบ ๆ ห้องชมรมดนตรีไทยอย่างพิจารณา คิ้วหนาเลิกขึ้นเล็กน้อย แต่พอสายตามาหยุดอยู่ที่คนตรงหน้า เขาถึงได้ชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะยิ้มให้อย่างเป็นมิตร

"เอ่อ...สวัสดี ฉันเป็นประธานชมรม นายจะเข้าชมรมใช่มั้ย เดี๋ยวจะไปหยิบใบสมัครให้" ภพรักพูดอย่างอารมณ์ดีก่อนจะเดินไปหยิบใบสมัครที่อยู่บนโต๊ะมาให้ อีกฝ่ายรับไปพลิกดูผ่านๆ

"แล้วถ้าผมเข้าชมรมนี้ จะให้ผมเล่นตำแหน่งอะไร?" ชายหนุ่มถามสีหน้านิ่งเรียบ ภพรักยิ้มแป้นก่อนจะตอบ การที่มีสมาชิกเข้ามาใหม่นั่นถือเป็นเรื่องน่ายินดีมากแล้ว ส่วนจะเล่นในตำแหน่งอะไรนั้นไม่สำคัญหรอก

"มีว่างหลายตำแหน่งเลย นาจะลองเล่นดูก่อนก็ได้ ทั้งขิม ขลุ่ย ฆ้องวง..."

"เบส"

ยังพูดไม่ทันจบประโยคอีกฝ่ายก็ชิงพูดขึ้นซะก่อน วลีสั้นๆที่หลุดออกมาจากปากของคนตรงหน้าทำเอาภพรักอ้าปากค้าง กระพริบตาปริบๆ เมื่อตั้งสติได้จึงถามขึ้นอีกครั้ง

"นาย...ว่าอะไรนะ?"

ชายหนุ่มตัวสูงช้อนสายตามองพร้อมกับพูดช้าๆ ชัดๆ อีกครั้ง

"เล่น-เบส"

คราวนี้ภพรักสูดลมหายใจเข้าช้า ๆ มือข้างหนึ่งกำเข้าหากันแน่น ไหล่ทั้งสองข้างสั่นเล็กน้อยด้วยความโกรธ มองผู้ชายตรงหน้าด้วยแววตาโกรธเคือง จนต้นต้องเดินมาแตะไหล่ไว้เบาๆ เป็นเชิงบอกให้ใจเย็น เพราะเขารู้น่ะสิว่าเวลาที่พี่ตัวเล็กคนนี้โกรธมันน่ากลัวแค่ไหน

ผู้ชายคนนี้เล่นตลกอะไรกัน นี่มันชมรมดนตรีไทย แล้วจะไปมีเครื่องดนตรีแบบนั้นได้ยังไงกันล่ะ

"ว่าแต่...ทำไมไม่เห็นมีพวก กลอง กีต้าร์ คีย์บอร์ด อะไรพวกนั้นเลยล่ะ คุณเก็บไว้ไหนเหรอ" ยังคงถามต่ออย่างไม่ทุกข์ร้อนอะไร ไม่ได้รู้สึกตัวเลยว่ามัจจุราชตัวน้อยตรงหน้านี้กำลังจะปลิดชีวิตเขาอยู่แล้ว

"นี่มันชมรมดนตรีไทย จะไปมีได้ยังไงล่ะ!" ภพรักพูดอย่างเหลืออด อีกฝ่ายขมวดคิ้วเล็กน้อย ชมรมดนตรีไทย? ถ้างั้นเขาก็มาผิดสินะ

"อ๋อ ถ้างั้นก็ผิดแล้ว ผมจะเข้าชมรมดนตรีสากล ว่าแต่ว่าห้องชมรมดนตรีสากลอยู่ไหนเหรอ ช่วยพาผมไปหน่อยสิ"

ชายหนุ่มขอความช่วยเหลือหน้าซื่อ ซื่อจนภพรักอดทนไม่ไหว

"ไม่โว้ย!"

"เอะอะเสียงดังอะไรกัน" เสียงจากบุคคลที่สามทำให้ทั้งสามคนหันไปมอง บุคคลที่มีอำนาจที่สุดในโรงเรียนกำลังยืนมองพวกเขาอยู่หน้าห้อง ผู้อำนวยการกับอาจารย์ฝ่ายปกครอง...

ผู้อำนวยการเดินเข้ามาช้า ๆ เป็นเพราะได้นินเสียงดังเลยเดินเข้ามาดู ไม่คิดว่าจะเจอคนที่กำลังตามหาอยู่ด้วย

"ภาณุ แกควรไปพบฉันก่อน" ผู้อำนวยการพูดพร้อมกับตบไหล่คู่สนทนาเบาๆ ภพรักมองทั้งสองคนสลับกันไปมา ทั้งท่าทางที่ดูสนิทสนม กับสรรพนามที่ใช้เรียกกันอีก ผู้อำนวยการกับผู้ชายคนนี้เป็นอะไรกัน?

แต่แล้วความสงสัยของภพรักก็หายไป เมื่อได้ยินประโยคต่อมา

"ก็ผมเบื่อนี่ครับพ่อ"

 

 

 

 

งานวันเปิดโลกกิจกรรม...

บรรยากาศอบอวลไปด้วยความสนุกสนาน ทั้งกิจกรรมจากซุ้มต่าง ๆ ร้านขายอาหาร และการรับสมัครสมาชิกเข้าชมรม แต่ท่ามกลางความสนุกเหล่านี้ ยังมีอีกคนที่นั่งทำหน้าบึ้งตึงอยู่ประจำซุ้มชมรมดนตรีไทยมากว่าสองชั่วโมงแล้ว

ภพรักพรูลมหายใจออกเบาๆ เหลือบมองต้นที่ฟุบหลับไปกับโต๊ะรับสมัคร เพราะไม่มีใครเข้ามาสอบถามเลย ในซุ้มไม่มีแม้แต่เงาของนักเรียนคนอื่น ๆ เรียกได้ว่าเงียบเสียยิ่งกว่าป่าช้า ผิดกับซุ้มข้างๆที่เสียงดังจนอยากตะหาอะไรขว้างใส่ซักที ไม่รู้ว่าระหว่างเสียงดนตรีของชมรมดนตรีสากลกับเสียงกรี๊ดของผู้ชม อะไรที่ดังกว่ากัน

ภพรักกลอกตาอย่างเบื่อหน่าย ก็รู้อยู่หรอกนะว่าชมรมเราน่ะสู้อะไรเขาไม่ได้เลย ก็ชมรมเปิดใหม่อย่างชมรมดนตรีสากล มีประธานชมรมเป็นถึงลูกชายผู้อำนวยการโรงเรียนอย่าง นายภาณุ พิมุกต์พัฒนกุล ที่มีดรีกรีเป็นหนุ่มนักเรียนนอก นอกจากจากหน้าตาที่หล่อคมราวกับหลุดออกมาจากนิตยสารแล้ว คารมและฝีมือการเล่นดนตรียังไม่แพ้ใครอีกด้วย ไม่แปลกที่สาวๆ ในโรงเรียนจะให้ความสนใจขนาดนี้

แต่ก็นะ...เห็นหัวกันหน่อยก็ดี ชมรมดนตรีไทยเปิดมาก่อนนะเว้ย!

 

"เอ้า! น้ำ เลิกทำหน้าเบื่อโลกแบบนั้นได้แล้วไอ้ภพ" น้ำเย็นๆถูกส่งมาข้างๆแก้ม ภพรักรับมาพลางมอง 'รติ' หรือ 'ไอ้ติ' เพื่อนสนิทของเขา เพราะนิสัยและคำพูดคำจาที่ห่ามๆไม่เหมือนผู้หญิงแบบนี้แหละ ถึงได้เป็นเพื่อนกันได้

"เมื่อกี้ไปส่องซุ้มข้างๆมา คนแทบจะเหยียบกันตาย เราสู้เขาไม่ได้เลย เห็นแบบนี้แล้วฉัว่าทำใจเหอะว่ะ"

รติพูดพลางนั่งบนเก้าอี้เพื่อพักเหนื่อย สองมือประสานกันไว้ที่ท้ายทอย ทำท่าจะหลับซักงีบ เปลือกตาที่ปิดลงเลยไม่ทันได้เห็นว่าภพรักแทบจะบีบคอเธออยู่แล้ว

ปั่ก!

นั่น ผู้ชายเขาไม่บีบคอผู้หญิงกันหรอก แค่โยนขวดน้ำใส่เท่านั้นเอง

"ปาก"

รติลูบหัวตัวเองป้อยๆ แต่ก็ต้องหลุดขำออกมาเมื่อเห็นสีหน้าอารมณ์เสียของเพื่อนรัก จะมีใครเคยบอกมันไหมว่าเวลาทำหน้าไม่พอใจแล้วน่ารักอย่างกับผู้หญิง

"ก็มันจริงนี่หว่า เปิดใจหน่อยก็ดีนะไอ้ภพ ยุคสมัยมันเปลี่ยนไปแล้ว ถ้าเด็กรุ่นใหม่จะไปสนใจอะไรที่มันใหม่กว่า เท่กว่า ก็ไม่เห็นแปลก" ไม่ใช่ว่าตัวเองไม่รักชมรมดนตรีไทยถึงได้พูดไปแบบนั้น แต่งานเปิดโลกกิจกรรมสองปีที่ผ่านมามันก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าชมรมดนตรีมาถึงจุดอิ่มตัว จุดที่จะต้องปิดแล้วจริง ๆ แต่ถึงจะปิดก็ไม่เห็นมีปัญหาอะไรเลย ในเมื่อเธอกับภพรักก็เล่นดนตรีไทยให้วงปี่พาทย์ของชุมชนอยู่ประจำ

"ไม่มีทาง ยังไงฉันก็ไม่ยอมแพ้แน่ ๆ ถ้าไม่มีชมรมดนตรีสากลบ้าๆนั่น ชมรมเราก็ไม่ถูกเมินแบบนี้หรอก แกเห็นระนาดเอกนั่นมั้ย ฉันกะจะเอามาเล่นให้รุ่นน้องฟัง ใครจะคิดว่าซุ้มข้างๆจะไร้มารยาท เล่นดนตรีเสียงดังซะขนาดนั้น" ภพรักพูดอย่างอารมณ์เสีย เป็นเพราะชมรมดนตรีสากลแท้ๆเชียว ไม่อย่างนั้นซุ้มเขาคงไม่เงียบเหงาอย่างนี้หรอก

รติขำเบาๆให้กับความรั้นของเพื่อน แต่พอสายตาเหลือบไปเห็นใครบางคนที่เดินเข้าซุ้มมา เธอก็ต้องหยุดหัวเราะทันที ภพรักหันไปตามสายตาของเพื่อน ใบหน้าที่บูดบึ้งอยู่แล้วยิ่งทวีความบึ้งตึงเข้าไปใหญ่

ภาณุเดินเข้ามาพลางยิ้มให้ สายตากวาดมองไปทั่วซุ้ม เป็นเพราะเป็นคนอารมณ์ดีอยู่แล้ว สีหน้าถึงได้ยิ้มตลอดเวลา แต่พอมายิ้มในสถานการณ์อย่างนี้ กลับดูเหมือนเขาจะยิ้มเยาะเสียมากกว่า

หากภพรักไม่มีสติก็คงจะได้แลกหมัดกับหมอนั่นซักหน่อยแล้วที่มาเยาะเย้ยกันแบบนี้ แต่เพราะไม่อยากให้เรื่องมันบานปลาย บวกกับภพรักเองก็ไม่แน่ใจว่าการชกลูกผู้อำนวยการโรงเรียนจะทำให้ชีวิตเขาต่อจากนี้ปลอดภัยหรือเปล่า เขาจึงทำได้แค่สูดลมหายใจเข้าลึกๆแล้วทำท่าจะเดินออกไป

"ฉันไปเข้าห้องน้ำนะไอ้ติ"

พูดจบก็หมุนตัวออกไป แต่ก็ไม่ทันคนขี้แกล้งที่ดักหน้าเขาไว้ก่อน

"เดี๋ยวก่อนสิคุณ ผมมีเรื่องอยากจะคุยกับคุณนะ"

"เรื่อง?" ภพรักถามอย่างรำคาญ ประธานชมรมดนตรีไทยกับประธานชมรมดนตรีสากลงั้นเหรอ ไม่เห็นว่ามีเรื่องอะไรที่จะต้องคุยกันเลย

"พูดกับผมเพราะๆหน่อยสิครับ ทีผมยังพูดเพราะกับคุณเลยนะ" ภาณุยิ้มกวนๆ ยิ่งเห็นคนตรงหน้าถลึงตาใส่ก็ยิ่งนึกสนุก คนอะไร ยิ่งโกรธก็ยิ่งน่าแกล้ง

ภพรักจ้องภาณุตาเขม็ง ก่อนจะฉีกยิ้มที่เสแสร้งสุดฤทธิ์ หมอนี่อยากให้พูดเพราะๆเหรอ ได้

"ครับ คุณภาณุ ตกลงว่าคุณมีอะไรจะคุยกับผมเหรอครับ"

รติแทบกลั้นขำไว้ไม่อยู่เมื่อเห็นบทสนทนาของทั้งคู่ ที่ถึงแม้จะยิ้มให้กัน แต่สายตากลับมองกันเหมือนโกรธกันมาแต่ชาติปางไหน

ภาณุยิ้มจางๆ ถึงจะรู้ว่าอีกฝ่ายประชด แต่การที่ภพรักพูดกับเขาแบบนี้มันน่ารักขึ้นเป็นกองเลย

"เรื่องที่ผมจะคุยกับคุณ ก็เรื่องชมรมของเรา"

ภพรักเลิกคิ้วให้กับคำว่า 'ชมรมของเรา' ไม่รู้จะเล่นตลกอะไรอีกล่ะคราวนี้ แต่ประโยคต่อมานี่สิ ทำให้ความอดทนของภพรักแทบขาดสะบั้น

"ผมอยากให้คุณปิดชมรมดนตรีไทยซะ"

"ว่าไงนะ!"

ภพรักแทบจะเข้าไปกระชากคอเสื้อของคนตรงหน้า ถ้าไม่ติดว่ารติห้ามไว้ เขาพูดออกมาได้ยังไงกัน บอกให้ปิดชมรม พูดออกมาหน้าตายแบบนั้นได้ยังไง

"ก็มันไม่มีคนเข้ามาสองปีแล้วไม่ใช่เหรอ ผมว่าคุณยุบชมรมไปดีกว่า แล้ว--"

พลั่ก!

คราวนี้เส้นความอดทนขาดผึง ภพรักต่อยอีกฝ่ายทันที ไม่สนใจเสียงคนรอบข้างที่เข้ามาดูเหตุการณ์

"ต่อยลูกผู้อำนวยการ!"

"เขาตายแน่!"

"ชมรมถูกปิดแน่ๆ"

สารพัดประโยคที่ได้ยิน ต้นที่พึ่งตื่นเพราะเสียงดัง รีบเดินเข้ามาดูเหตุการณ์อย่างงงๆ

"มีอะไรเหรอพี่"

ภพรักไม่ตอบ สายตายังจับจ้องอยู่ที่ภาณุนี่ยังล้มอยู่ที่พื้น ดูเหมือนอีกฝ่ายเองก็มองเขาเหมือนกัน ภาณุยันตัวขึ้นช้าๆ

"ที่ผมจะบอกคุณก็คือ ผมอยากให้เราเป็นเพื่อนกัน"

"ห๊ะ?"

ภพรักขมวดคิ้วแปลกใจ อะไรของหมอนี่อีกล่ะ

"หมายความว่ายังไง"

"ชมรมดนตรีไทย กับชมรมดนตรีสากล ผมอยากให้เรารวมกัน"

ภพรักอ้าปากค้าง เช่นเดียวกับต้นและรติ ในแววตาของภาณุไม่ได้มีความล้อเล่นอยู่เลยแม้แต่น้อย

"ไม่" ภพรักปฏิเสธเสียงแข็ง ทำแบบนั้นมันเสียศักดิ์ศรีเกินไป มันเท่ากับว่าเขายอมแพ้น่ะสิ

ยังไม่ทันได้มีใครพูดอะไรต่อ ผู้อำนวยการก็เดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว เมื่อมีคนไปบอกว่าลูกชายของตัวเองมีเรื่องตั้งแต่สองวันแรกที่เข้าเรียน

ผู้อำนวยการมองดูแผลของภาณุสลับกับมองหน้าภพรัก สุดท้ายเขาก็พูดออกมา

"ทะเลาะวิวาท ฉันคงต้องลงโทษเธอ"

ภพรักพยักหน้ารับผิด เอาเถอะ ตอนนี้เขาเหนื่อยจริงๆ ใครจะทำอะไรก็ช่างเถอะ คราวนี้เขาก็ผิดจริงๆที่ไม่มีสติ โดนลงโทษก็ถูกแล้ว ได้แต่หวังว่าการลงโทษคงจะไม่ใช่การสั่งให้ปิดชมรมหรอกนะ

ภาณุมองภพรักอย่างเป็นห่วง จมูกรั้นๆนั่นขึ้นสีแดงระเรื่อ เช่นเดียวกับขอบตาที่เริ่มมีน้ำใสๆคลอ ถ้าเป็นคนอื่นคงร้องไห้ไปแล้วที่ต้องตกอยู่ในสถานการณ์อย่างนี้ แต่ไม่ใช่กับภพรัก เขาเข้มแข็งเกินไป ทำตัวเข้มแข็ง แม้ความจริงจะอ่อนแอแทบตายก็ตาม

"คุณพ่อครับ ผมมีเรื่องอยากจะขอร้อง...

 

 

 

...ผมขอลงโทษเขาเองได้ไหมครับ"

 

 

 

 

 

"ฮัดเช้ย!" ภพรักปิดปากตัวเองแทบไม่ทัน เขาจามมาสามรอบแล้ว ก็ฝุ่นบนกองหนังสือนี่มันน้อยที่ไหนกันล่ะ ถึงจะแปลกใจหน่อยๆที่การลงโทษของภาณุคือการให้มาจัดหนังสือที่ห้องธุรการ มันเป็นการลงโทษที่เบามากๆ แบบนี้ไม่ต้องลงโทษกันยังได้เลย

แต่ก็ดีแล้ว ดูๆไปภาณุเองก็เป็นคนดีเหมือนกัน ถ้าไม่นับท่าทางกับแววตาที่กวนประสาท เห็นทีเขาต้องมองอีกฝ่ายซะใหม่

 

"อ้าว มาจัดหนังสือเหรอนุ่ม" เสียงอาจารย์ที่เดินเข้ามาทักทายทำให้ภพรักหันไปมอง

"อาจารย์ อย่าเรียกผมแบบนั้นสิครับ"

"ทำไมล่ะ ก็เธอชื่อนุ่มไม่ใช่เหรอ ครูว่าชื่อนี้น่ารักดีนะ" ภพรักยู่ปากอย่างหงุดหงิด เพราะอีกฝ่ายเป็นครูหรอกถึงได้ทำอะไรไม่ได้ ปกติภพรักไม่ชอบให้ใครมาเรียกเขาว่านุ่มอยู่แล้ว

แต่แล้วอารมณ์ที่หงุดหงิดอยู่แล้วยิ่งคุกกรุ่นเข้าไปอีก เมื่อสายตาเหลือบไปเห็นใครบางคนที่ยืนยิ้มกริ่มอยู่ข้างๆ...ให้ตายเถอะ

ภาณุอมยิ้ม เดินเข้ามาใกล้ๆ อยู่ๆก็นึกเรื่องจะแกล้งภพรักได้อีกแล้ว

"นี่...ชื่อนุ่มเหรอ"

ฟึ่บ!

เกือบจะได้แผลเพิ่มแล้ว โชคดีที่ภาณุคว้ามือเล็กๆนั่นไว้ซะก่อนที่จะต่อยเขา ภพรักรีบชักมือกลับทันที ก่อนหน้านี้ที่บอกว่าหมอนี่เป็นคนดี ขอถอนคำพูดละกัน

"ในห้องธุรการนะคุณ อยากโดนลงโทษอีกเหรอไง" ภาณุพูดอย่างเป็นต่อ แต่ภพรักไม่สนใจ รีบจัดหนังสือให้เสร็จๆจะได้กลับบ้าน

"พรุ่งนี้ไปจตุจักรกับผมนะ" ภาณุเอ่ยชวนเบาๆ ภพรักตอบทั้งๆที่ยังไม่ได้หันไปมอง

"ไปทำไม"

"ก็ลงโทษไง อย่าลืมสิว่าผมต้องเป็นคนลงโทษคุณ คุณคงไม่คิดว่าบทลงโทษจะเป็นแค่การจัดหนังสือหรอกนะ"

ภพรักกัดฟันกรอด กำมือแน่น ภาณุเป็นคนเจ้าเล่ห์จริงๆด้วยสินะ

"ก็ได้" สุดท้ายก็กัดฟันตอบไป ไปพรุ่งนี้ก็ดีเหมือนกัน บทลงโทษมันจะได้จบๆซักที

ภาณุมองพร้อมกับลอบยิ้ม หากจะนิยามสีหน้าของภพรักตอนนี้ก็คงเป็นคำว่า 'ยุ่ง' ทำหน้ายุ่งๆเหมือนเด็กที่โดนแย่งขนม

"ฮัดเช้ย!" ภพรักจามอีกครั้ง ทำเอาภาณุหลุดขำออกมา ก่อนจะยื่นผ้าเช็ดหน้าไปให้ มองดูคนที่ถูจมูกตัวเองไปมาจนเริ่มแดง  ภพรักมองค้อนอย่างเอาเรื่อง ท่าทางแบบนั้นมันน่ามองจนแทบละสายตาไม่ได้

 

 

'น่ารักดีเหมือนกันนะ...นุ่ม'


















มีต่อนะคะ รอกันอีกนิดน้า^^

ออฟไลน์ little_pig

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
รอค่ะ  :mew1: :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ @warun

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 3
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
มาต่อด่วนๆๆๆๆ55555






จตุจักรในวันเสาร์ค่อนข้างจะร้อนและคนเยอะ แต่นั่นไม่เป็นอุปสรรคสำหรับทั้งสองคน ภพรักขยับหมวกเล็กน้อย มืออีกข้างยกขึ้นมาพัดใบหน้าตัวเอง เรียกรอยยิ้มเอ็นดูจากคนข้างๆได้ไม่ยาก

ภาณุยื่นพัดให้อันนึง โชคดีที่เขาเอาติดมาด้วย ไม่คิดว่าอากาศมันจะร้อนขนาดนี้

แอบมองอีกคนที่พัดหน้าตัวเองเบาๆ ใบหน้าขาวเริ่มแดงเพราะอากาศร้อน ไรผมเปียกชื้นเพราะเหงื่อ พอได้มองดูใกล้ๆอย่างนี้แล้ว ภพรักตัวเล็กและเปราะบางกว่าเขามาก ไม่รู้ว่าเพราะอะไรถึงได้ต่อยเขาเจ็บขนาดนั้น

"ไหนล่ะบทลงโทษของคุณ" ภพรักหันมาถามพลางพัดให้ภาณุไปด้วย ถึงแม้จะปากร้าย แต่การกระทำกลับสวนทางกัน

"ไปเดินเล่นกัน"

"เดินเล่น? มันบทลงโทษประเภทไหนวะ" ภพรักบ่นเบาๆกับตัวเอง แต่มันก็ดังพอจนคนข้างๆได้ยิน

"อย่าพูดไม่เพราะสิครับคุณ มาเถอะ" พูดจบก็จูงมืออีกฝ่ายเดินไปทันที

การลงโทษของภาณุดูเหมือนจะเป็นการไปเที่ยวกันซะมากกว่า ภาณุพาเดินเข้าร้านโน้นออกร้านนี้ ไปดูเสื้อผ้า ร้านหนังสือ ไปดูการแสดงเปิดหมวก อันที่จริงคนที่พาไปดูคือภพรักต่างหาก ภาณุมีหน้าที่แค่ถาม ว่าอยากไปไหน อยากดูอะไร อยากได้อะไรหรือเปล่า ภพรักดูจะสนุกจนลืมโกรธเขาไปแล้ว

สำหรับภาณุ แค่ได้เห็นภพรักยิ้มเพราะเขาก็พอแล้ว

"เหนื่อยไหม?" ภาณุถามในขณะที่นั่งพัก ขยับหมวกของอีกฝ่ายให้เข้าที่เมื่อเห็นว่ามันจะหลุด ภพรักช้อนสายตาขึ้นมอง พยักหน้าเบาๆอย่างเหนื่อยอ่อน ตอนนี้หน้าทั้งหน้าแดงไปหมดเพราะความร้อน ภาณุอดไม่ได้ที่จะส่งมือไปโยกหัวอีกฝ่ายเบาๆ นี่ถ้าภพรักไม่ได้กำลังเหนื่อยอยู่ล่ะก็ สาบานว่าภาณุไม่ได้มายืนยิ้มแป้นอยู่ตรงนี้แน่

"ไปหาอะไรเย็นๆกินกันเถอะ" ภาณุว่าก่อนจะเดินนำไป เป้าหมายของเขาคือร้านนมซักร้าน แต่ระหว่างทางกลับต้องหยุดเพราะภพรักพูดอะไรขึ้นมา

"นี่คุณ เคยมาร้านนั้นหรือเปล่า" ภาณุมองตามสายตาของภพรัก ก่อนจะเลิกคิ้ว

ร้านเหล้า?

"บรรยากาศดีนะ ผมเคยมาบ่อยๆ ไว้ว่างๆผมจะพาคุณมา"

"คุณมาบ่อยเหรอ"

"อื้อ"

"กับใคร"

"ก็...มาคนเดียว"

ภาณุพยักหน้าเข้าใจ "ไปกันเถอะ" ก่อนจะจูงมือภพรักไปร้านนมทันที

 

นมปั่นสองแก้วถูกยกมาเสิร์ฟ ทั้งคู่ดื่มมันเพื่อคลายร้อน ภพรักถอดหมวกออกแล้ววางไว้ข้างๆ

"นี่คุณ ผมถามอะไรหน่อยสิ" ภาณุพูดขึ้นมา ภพรักจึงพยักหน้าเป็นเชิงให้พูด

"คุณดื่มเหล้าเหรอ"

"ก็ดื่ม"

"บ่อยมั้ย"

"ก็...ไม่หรอก นานๆที"

"ไม่ดื่มได้มั้ย" ภาณุมองคนตรงหน้าด้วยแววตาจริงจัง ภพรักนิ่งไปเล็กน้อย

"ทำไมล่ะ"

"ก็เหล้ามันไม่ดี" ภาณุพูดตามความจริง เขาไม่อยากให้ภพรักดื่มเหล้าเลยจริงๆ คนน่ารักแบบภพรักควรคู่กับร้านนมหรือร้านเค้กหวานๆมากกว่า

"อะไรที่มันไม่ดี ผมก็ไม่อยากให้คุณยุ่ง...ผมเป็นห่วง"

ความห่วงใยถูกถ่ายทอดออกมาผ่านคำพูด แววตาของภาณุอ่อนโยนจนภพรักต้องเป็นฝ่ายหลบสายตา ทั้งคำพูด ทั้งการกระทำ ภพรักอดคิดไม่ได้ว่ามันแปลกๆ มันไม่เหมือนเพื่อนกัน

"ภพรัก" คนถูกเรียกหันมาอย่างแปลกใจ นี่เป็นครั้งแรก ที่ภาณุเรียกชื่อเขา

"เสร็จแล้วไปกับผมต่อนะ ผมมีอะไรอยากจะให้คุณดู"

 

 

ภาณุพาภพรักมานั่งพักอีกครั้ง เบื้องหน้าเป็นลานกว้างที่กำลังจะมีการแสดงเปิดหมวก ภพรักยังดูไม่ออกว่าเขาจะแสดงอะไร

ความอึดอัดแผ่เข้ามาปกคลุมทั้งคู่ แต่ดูเหมือนภพรักจะได้รับมันมากกว่า ตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว ภพรักยังไม่กล้าที่จะมองหน้าภาณุตรงๆ ความรู้สึกของเขามันเปลี่ยนไป

"ถามอะไรหน่อยสิ" ภพรักเป็นฝ่ายถามขึ้นก่อน ไม่อย่างนั้นทั้งคู่ก็คงต้องนั่งเงียบต่อไปแน่ๆ

"ทำไมเราไม่เรียกกันเหมือนคนอื่นล่ะ แบบ ฉัน กับนาย แบบเนี้ย"

"ทำไมล่ะ เรียกแบบนี้คุณไม่ชอบเหรอ"

"อืม มันดูเป็นทางการเกินไป มันอึดอัด แล้วก็เอ่อ...มันเขินๆยังไงไม่รู้" ก็ปกติแทบจะพ่นคำหยาบใส่เพื่อนทุกวัน พอมาพูดแบบนี้มันก็ไม่ชินน่ะสิ

"แล้วคุณคุยกับเพื่อนยังไงล่ะ"

"ก็ฉัน กับนายไง"

"ดีแล้ว ผมอยากให้คุณเรียกผมแบบนี้แค่คนเดียว...

 

 

ผมจะได้พิเศษกว่าคนอื่น"

เป็นอีกครั้งที่คำพูดของภาณุทำให้เขาใจเต้นแรง ภพรักยกมือขึ้นมาทาบอกเบาๆ ราวกับจะบอกให้หัวใจหยุดเต้นเสียที

'หัวใจ...เต้นแรงเกินไปแล้ว'

เสียงระนาดเอกดังขึ้น เรียกความสนใจให้ภพรักหันไปมอง สองขาก้าวออกไปโดยอัตโนมัติ การแสดงเปิดหมวกเริ่มขึ้นแล้ว

"ชอบไหม" ภาณุที่เดินตามมาถามขึ้นเบาๆ ทำเอาภพรักสะดุ้งกับการมาไม่บอกไม่กล่าวของอีกฝ่าย แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังพยักหน้าเบาๆ

"คุณรักชมรมดนตรีไทยมากเลยเหรอ"

"อืม...อาจารย์ที่ตั้งชมรมท่านมีพระคุณกับผมมาก คอยสั่งสอน คอยหาทุนให้ผมตลอด แต่ตอนนี้ท่านเสียแล้ว ท่านอยากเห็นวงดนตรีไทยของโรงเรียนไปประกวด อยากเห็นความสำเร็จของพวกเรา เพราะอย่างนี้ ผมถึงปิดชมรมไม่ได้" ภพรักพูดเสียงสั่นเครือ เม้มริมฝีปากแน่นเพื่อกลั้นน้ำตาที่กำลังจะไหลออกมา

"ทำไมคุณไม่ร้องไห้" ภาณุถาม ยิ่งเห็นภพรักต้องกลั้นน้ำตาไว้แบบนี้ เขายิ่งรู้สึกไม่ดี

"ก็ผมเป็นผู้ชาย"

"แล้วไง ผู้ชายร้องไห้ไม่ได้เหรอ ผู้ชายก็เป็นคน มีความรู้สึก มีหัวใจ มีความสุขก็หัวเราะ เสียใจก็ร้องไห้ คุณไม่ใช่หุ่นยนต์ที่ถูกวางโปรแกรมให้เข้มแข็งตลอดเวลาซักหน่อย"

ภพรักน้ำตาร่วงเผาะ ยิ้มจางๆ นั่นสินะ เขาไม่ใช่หุ่นยนต์ เขามีหัวใจ ถ้ากลั้นน้ำตาไว้แล้วมันเจ็บปวด ก็ควรปล่อยมันไปดีกว่า

ภพรักเงยหน้าขึ้นอีกครั้งเมื่อรู้สึกถึงสัมผัสอ่อนโยนที่ข้างแก้ม ภาณุกำลังเกลี่ยน้ำตาออกให้อย่างแผ่วเบา คราวนี้ภพรักไม่ได้ขัดขืน อาจจะเป็นเพราะตอนนี้ เขาอ่อนแอเกินไป

ภาณุยิ้มอย่างเอ็นดู ถึงแม้จะปากเก่งแค่ไหน สุดท้ายภพรักก็แค่เด็กตัวเล็กๆคนนึง เวลาแบบนี้ เป็นเวลาที่ภาณุได้เห็นตัวตนที่แท้จริงของภพรัก เขาถึงได้รู้ว่าความจริงแล้ว คนตรงหน้าน่าทะนุถนอมแค่ไหน

ภพรักหันหน้าไปมองการแสดงอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงกลอง แล้วเขาก็ต้องเบิกตากว้าง เมื่อเห็นภาพการแสดงชัดๆ

 

ระนาด ขิม ซออู้ กลอง และเบส เครื่องดนตรีทุกชิ้นกำลังทำหน้าที่ของมัน ท่วงทำนองหวานของดนตรีไทยและหนักแน่นของดนตรีสากลผสมผสานเข้ากันอย่าลงตัว คนที่เล่นดนตรีไทยมากว่าหกปีอย่างภพรักไม่เคยเห็นอะไรอย่างนี้เลย

"นี่แหละที่ผมจะบอกคุณ" ภาณุกระซิบเบาๆ

"ผมอยากให้ชมรมของเราสองคนรวมกัน"

"ผ...ผมไม่คิดว่ามันจะเข้ากันได้ด้วย"

"นั่นสิ ผมก็ไม่คิด แต่คุณก็เห็นแล้วใช่ไหมว่ามันไปด้วยกันได้ บนโลกนี้มีอะไรตั้งมากมายที่ดูเหมือนจะเข้ากันไม่ได้ ของคาวกับของหวาน สีดำกับสีขาว อาหารไทยกับยุโรป แต่คุณรู้ไหม ว่ามันจะมีรอยต่อที่เข้ากันอย่างพอดี เพียงแค่คุณเปิดใจให้มันซักนิด

ลดทิฐิลงบ้าง...

 

เหมือนคุณกับผมไง..."

ภพรักหันมามองคนข้างๆช้าๆ หัวใจแทบจะหยุดเต้นเมื่อใบหน้าห่างกันเพียงเสี้ยว คำพูดเมื่อกี้ มันหมายความว่ายังไงกัน

"คุณ...พูดอะไร"

ภาณุยกยิ้มมุมปากอย่างที่เจ้าตัวชอบทำ ในใจนึกอยากจะสัมผัสพวงแก้มเนียนใสของคนตรงหน้า แต่เขากลับทำแค่ยกนิ้วชี้ขึ้นมาจรดริมฝีปากตัวเอง ก่อนจะเอาไปแตะข้างแก้มของภพรักเบาๆ

 

"ผมตามจีบคุณอยู่นะ...เด็กโง่"

 

 

 

 

 

งานวันเปิดโลกกิจกรรมถูกจัดขึ้นอีกวันที่สอง ต้นกับรติยืนยิ้มอยู่หน้าซุ้ม 'ชมรมดนตรีไทยสากล' ต้อนรับน้องๆและเพื่อนๆที่เข้ามาดูซุ้ม เป็นเพราะความแปลกใหม่ทางดนตรีที่เด็กโรงเรียนนี้ยังไม่เคยเห็น ทำให้ได้รับความสนใจอย่างมาก

"เดี๋ยวอีกซักครู่จะมีการแสดงดนตรี เป็นการผสมผสานกันระหว่างดนตรีไทยกับดนตรีสากล รอดูนะคะ" รติเอ่ยเชิญชวนทุกคนอย่างเป็นมิตร สุดท้ายแล้วชมรมดนตรีไทยก็ไม่ได้ถูกปิด แค่ลองปรับเปลี่ยนให้เข้ากับดนตรีสากล และดูเหมือนจะได้รับความสนใจมากขึ้นด้วย งานนี้คงต้องยกความดีความชอบให้กับภาณุ ที่เป็นคนเสนอท่านผู้อำนวยการให้มีการเปิดชมรมนี้ขึ้นมา

 

"สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้เรามีการแสดงสุดพิเศษมามอบให้กับน้องๆ เพื่อนๆ ทุกคนดูค่ะ รับรองเลยนะคะว่าจะต้องถูกใจอย่างแน่นอน"

เสียงพิธีกรบรรยายบนเวทีไม่ได้เข้าหูภพรักเลยแม้แต่น้อย เพราะตอนนี้เจ้าตัวกำลังตื่นเต้นสุดๆ ห่างหายจากการเล่นดนตรีต่อหน้าคนเยอะๆแบบนี้มาสองปีแล้ว พอจะกลับมาเล่นอีกครั้ง มันเลยประหม่าแปลกๆ

"ตื่นเต้นเหรอ" ภพรักสะดุ้งเมื่อเสียงนุ่มทุ้มกระซิบข้างๆหู ภาณุมองยิ้มๆ เห็นสีหน้าตกใจของอีกฝ่ายก็อดไม่ได้ที่จะบิดจมูกเล่นด้วยความหมั่นเขี้ยว

"ทำอะไรเนี่ย" ภพรักปัดมือออก ลูบจมูกตัวเองที่เริ่มแดง

"เขาว่ากันว่าถ้าตื่นเต้น ต้องหายใจเข้าลึกๆ ไหนทำซิ" ภพรักทำตามอย่างว่าง่าย ภาณุยิ้มอย่างเอ็นดู ก่อนจะพูดต่อ

"แล้วก็ทำแบบนี้"

ภพรักอ้าปากเหวอเมื่อภาณุประคองใบหน้าเขาไว้พร้อมกับยื่นหน้าเข้ามาใกล้ สองมือเล็กรีบผลักคนตรงหน้าออกอย่างแรง

"เจ็บนะคุณ" ภาณุพูดพลางจับหน้าอกตัวเอง ภพรักไม่สนใจ กลับชะเง้ออกไปดูเวทีอย่างตื่นเต้น

"นี่คุณ ไม่ต้องตื่นเต้นหรอกน่า"

"แต่...ถ้าพวกเขาไม่ชอบกันล่ะ" ภพรักพูดอย่างเป็นกังวล ภาณุจับมือของอีกฝ่ายมาแตะข้างแก้มตัวเองเบาๆ

"กลัวเหรอ มองหน้าผมสิ คุณน่ะเล่นเก่งอยู่แล้ว แต่แค่ไม่มั่นใจเท่านั้นเอง ถ้าคุณกังวล มองหน้าผมไว้นะ"

ภพรักชักมือกลับช้าๆ ให้ตาย...ภาณุไม่รู้จริงๆเหรอว่าทำแบบนั้นมันจะยิ่งทำให้ตื่นเต้นเข้าไปอีก

"ได้เวลาแล้วนะ พวกแกจะจีบกันอีกนานมั้ยเนี่ย" รติแซวขำๆ ทำเอาภพรักถลึงตาใส่ แต่อีกคนที่ถูกพาดพิงกลับยิ้มกริ่ม

"รติกับต้นขึ้นไปก่อนเถอะ เดี๋ยวเราสองคนตามไป" ภาณุผายมือ เชิญให้ทั้งสองคนขึ้นไปก่อน ต้นกับรติมองตากันยิ้มๆ ว่าแล้วเชียวว่าซักวันเพื่อนตัวเล็กอย่างภพรักจะต้องมีคนมาดูแล ก็ตัวเล็กๆอย่างนี้จะไปดูแลใครเขาได้

"ฝากพี่ภพด้วยนะพี่" ต้นตบบ่าเบาๆก่อนจะเดินขึ้นไป ภาณุกลับมาสนใจคนที่กำลังยืนก้มหน้าต่อ

"เขินเหรอ" คำถามนั่นทำให้ภพรักเงยหน้าขึ้นมา เขารีบเปลี่ยนเรื่องทันที ไม่อย่างนั้นหัวใจได้ทำงานหนักอีกแน่ๆ

"ปะ...ไปได้แล้ว" ยังไม่ทันได้ก้าวขึ้นบันได ข้อมือก็ถูกคว้าไว้ซะก่อน

"นุ่ม" ภาณุพูดอย่างเจ้าเล่ห์ พอเห็นภพรักทำท่าจะต่อย เขาถึงได้รีบปล่อยมือ

"เฮ้! ผมหมายถึงมือคุณต่างหาก ที่ว่านุ่ม" ภาณุพูดยิ้มๆ

"ไปกัน" ภาณุยื่นมือมาให้ ภพรักจับมือไว้ก่อนจะพูดออกมา

"ขอบคุณนะ...ขอบคุณที่ เข้ามาเติมเต็มให้ผม" คำขอบคุณถูกเอ่ยออกมาอย่างจริงใจ ทิฐิของภพรักที่มีต่อภาณุในตอนแรกถูกลบหายไปหมดเกลี้ยง ภาณุลูบผมอีกฝ่ายเบาๆ ไร้คำพูดใดๆ มีเพียงแต่สายตาอ่อนโยนที่ส่งให้กัน ก่อนจะเป็นภาณุที่จูงมือภพรักขึ้นเวทีไปเมื่อแสงไฟดับลง เป็นสัญญาณว่าการแสดงกำลังจะเริ่มแล้ว

 

การแสดงเป็นไปอย่างราบรื่น นานแล้วเหมือนกันที่ภพรักไม่ได้ยิ้มกว้างขนาดนี้ ทุกคนไม่ได้ไม่ชอบ ทุกคนกำลังยิ้ม ขยับตัวอย่างสนุกไปกับเสียงดนตรีของเขา ระหว่างการแสดง ภพรักลอบมองภาณุเป็นระยะ ไม่รู้ว่าจะพูดขอบคุณยังไง อีกฝ่ายไม่ได้เพียงแต่เข้ามาสร้างรอยยิ้มให้เขา แต่ยังมาสร้างความรักให้เขาอีกด้วย

 

 

ขอบคุณมากนะ...ภาณุ

 



จบแล้วค่า

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
น่ารักจังหนูนุ่ม...    o13
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-12-2016 23:16:27 โดย ืniyataan »

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
เป็นเรื่องที่น่ารักดีค่ะ

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
อือออ.....สั้นจริงๆ เป็นเรื่องยาวได้เลย :mew1: :mew1: :mew1:
ขอตอนพิเศษ หวานๆ มุ้งมิ้งบ้างนะ
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ КίmY

  • BJYX♥
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1714
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-3
ละมุมหัวใจจจจ  :-[
 :L2: :pig4: :pig4: :L2:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด