Sunrise in the forest บทที่ 40 (ตอนจบ)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Sunrise in the forest บทที่ 40 (ตอนจบ)  (อ่าน 160902 ครั้ง)

ออฟไลน์ noteno

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 312
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
Re: Sunrise in the forest ตอนที่20 P22(060860)
«ตอบ #660 เมื่อ21-08-2017 17:31:49 »

 :serius2: :serius2: :serius2:

อยากอ่านพ่อเสือโดนทิ้งเเล้ววว

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7515
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
Re: Sunrise in the forest ตอนที่20 P22(060860)
«ตอบ #661 เมื่อ22-08-2017 06:51:07 »

อ่านแล้ว ให้ความรู้สึกว่าไรท์ คงใช้ชีวิตใกล้ชิดกับธรรมชาติ แมกไม้ เขียวขจี
ถึงร้อยแก้วออกมาได้ไหลรื่นแบบนี้
อ่านแล้วเหมือน คนอ่านอยู่ในธรรมชาติ ร่มเย็น มีลำธารๆไหลผ่านเลย

พ่อเสือ ก็เจ้าชู้อ่ะนะ แต่อยู่กับใครก็จริงใจ จริงจังนะ
ไม่ไดคิดฟันทิ้ว ฟันขว้าง
ตอนนี้ก็งอนๆเฉินอวี้ ที่ทำตัวไม่ใส่ใจพ่อเสือ แถมบอกเลิกความสัมพันธ์ซะอีก
เล่นเอาพ่อเสือวุ่นวายใจ แต่ไม่ยอมแพ้ /ทีมพ่อเสือ

ที่จริงเรื่งที่ลงไม่สั้นนะ แต่เหมือนอ่านเท่าไรไม่พอ อยากอ่านต่อ  :ling1: :ling1: :ling1:
รอตอนใหม่  :mew2:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ dekying kukkig

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1462
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-1
Re: Sunrise in the forest ตอนที่20 P22(060860)
«ตอบ #662 เมื่อ23-08-2017 09:43:21 »


 :m22: ยังๆๆๆ  ยังไม่มา


ออฟไลน์ MyTeaMeJive

  • MyTeaMeJive
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1894
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3313/-9
Sunrise in the forest ตอนที่21 P23(230860)
«ตอบ #663 เมื่อ23-08-2017 10:18:03 »

ตอนเทพเสือโคร่งภูผา

บทที่ยี่สิบเอ็ด


เฉินอวี้ไม่ได้นับว่าเป็นเวลากี่วันแล้วที่เทพเสือโคร่งภูผาไม่ได้กลับมาที่ห้อง
แต่ภาพของมือใหญ่ที่คลายออกแล้วห่างออกไปยังมองเห็นได้อย่างชัดเจน
กลิ่นสาบเสือเจือจางยังอยู่ในห้อง คล้ายบอกว่า มิได้จากไปไหน
เฉินอวี้บอกกับใจตนเองให้ยอมรับว่าอีกฝ่ายจากไปแล้ว เพราะแม้ในวันที่ประกาศเรื่องการแต่งตั้งให้เข้าไปอยู่ในกององครักษ์รักษาพระองค์ ก็ยังไม่เห็นว่าเทพเสือโคร่งภูผาจะมากล่าวแสดงความยินดี หรือมากล่าวเตือนที่ต้องทำงานรับใช้ใกล้ชิดฮ่องเต้

ในวันที่มีการแจ้งเรื่องการแต่งตั้งนั้น แม้ทั้งห้าคนจะรู้ตัวล่วงหน้าว่าคงต้องแยกย้ายกันไป แต่ก็ยังคงให้คำมั่นที่จะกลับมาร่วมดื่มสุราสังสรรค์กันเหมือนเช่นเคย ด้วยต่างก็รู้ถึงความสำคัญในการมีพวกพ้องให้มากเข้าไว้
เพียงแต่ตำแหน่งของเฉินอวี้ออกจะเหนือความคาดหมายของทุกคน
เนื่องด้วยเฉินอวี้ บุตรคนเล็กของภรรยารองพ่อค้าผ้าไหมสกุลเฉินผู้นี้ ได้เข้าไปอยู่ในกองงานสำคัญใกล้ชิดฮ่องเต้

ผู้ที่จะเป็นองครักษ์ ไม่เพียงแต่จะเป็นยอดฝีมือ ยังต้องเป็นบุคคลที่ไว้วางพระทัยอย่างยิ่ง ดังนั้นอีกสี่คนจึงพากันสงสัยว่า ผู้รับรองของเฉินอวี้จะต้องเป็นผู้ที่พระองค์ไว้วางพระทัยเป็นอย่างยิ่ง
เฉินอวี้ตอบไปแบบกลาง ๆ ว่าอาจเป็นท่านผู้เฒ่าหยางแห่งเมืองลั่ว ซึ่งบิดาพาไปฝากตัวตั้งแต่ช่วงก่อนสอบ

"ท่านผู้เฒ่าหยางเมืองลั่วมีอิทธิพลถึงเพียงนี้เชียวหรือ คิดไม่ถึงจริง ๆ" อู๋ติ้งเกากล่าวขึ้น
เฉินหรุ่ยช่วยเสริม "เห็นท่านอยู่อย่างเรียบง่าย ไม่ค่อยได้ออกปากรับรองผู้ใด แต่หากท่านออกปากในรับรองให้แก่น้องอวี้ก้าวหน้าเช่นนี้ เจ้าก็ต้องทำให้ดีที่สุดมิเช่นนั้นท่านผู้เฒ่าจะพลอยถูกตำหนิไปด้วย"

แต่เฉินอวี้ระแวงว่า ผู้ที่ออกปากรับรองให้ไปเป็นองครักษ์จะมิใช่ท่านผู้เฒ่าหยาง แต่เป็นเทพเสือโคร่งภูผา
...เห็นกล่าวโทษฮ่องเต้อยู่บ่อยๆ แล้วเหตุใดจึงฝากให้ทำงานในตำแหน่งนี้
...หรือจะมีเรื่องอื่นอยู่เบื้องหลัง...

ตามระเบียบการของโรงเรียนองครักษ์ ผู้มีสิทธิ์เข้าเรียนได้ในทันที คือ ผู้มีเชื้อพระวงศ์ในระดับล่าง หรือบุตรหลานขุนนางในระดับบุตรภรรยารอง และอนุ ขอเพียงเป็นผู้ที่มีความภักดีต่อฮ่องเต้ตั้งแต่ผู้เป็นบิดามาจนถึงบุตร และต้องเป็นผู้มีฝีมือยอดเยี่ยมในเชิงยุทธ์
หากเป็นบุคคลทั่วไปหรือเป็นยอดฝีมือในยุทธจักรก็จะต้องมีผู้รับรอง

ถึงขั้นตอนการรับเข้าเรียนจะดูเปิดกว้าง แต่การเรียนและสอบของที่นี่กลับเข้มงวดอย่างยิ่ง ในแต่ละปีมีผู้ที่ผ่านขึ้นปีที่สองประมาณหนึ่งในห้าของนักเรียนปีหนึ่งทั้งหมด
ผู้ที่จบการศึกษาเข้าบรรจุเป็นทหารองครักษ์ในแต่ละปีมีจำนวนไม่ถึงสิบคน บางปีไม่มีผู้ใดสอบเข้าได้เลย
และในทุก ๆ ปีจะมีนักเรียนโรงเรียนองครักษ์เสียชีวิตจากการฝึก และการสอบ

ในความเข้มงวดและยิ่งใหญ่ของกองทหารองครักษ์รักษาพระองค์ และโรงเรียนองครักษ์ที่สืบทอดมาจากฮ่องเต้จางหยวนนี้ มีปัญหารุนแรงเกิดขึ้นในช่วงผลัดแผ่นดิน ทำให้ต้องสูญเสียกำลังทหารไปนับร้อยนาย เนื่องจากมีกระแสข่าวลือว่าฮ่องเต้จางฉวนลอบปลงพระชนม์พี่น้องของพระองค์เอง มาจนถึงองค์ฮ่องเต้จางหยวน ก่อให้เกิดความไม่พอใจและการแบ่งฝ่ายกันขึ้น นำไปสู่การต่อสู้กันเองในที่สุด
เมื่อเหตุการณ์นั้นสงบลง กองทหารองครักษ์ และโรงเรียนทหารองครักษ์จึงเพิ่มการตรวจสอบ และการฝึกอบรมใหม่ทั้งหมด โดยเน้นไปที่การแสดงความภักดีต่อฮ่องเต้ในปัจจุบัน ควบคู่ไปกับการเป็นผู้ที่มีฝีมือเชิงยุทธ์อย่างยอดเยี่ยม

มาจนถึงเวลานี้ กองทหารองครักษ์รักษาพระองค์ยังมีกำลังทหารไม่ถึงห้าร้อยคน และมีผู้ที่อยู่ใกล้ชิดในระดับองครักษ์ระดับเอกเพียงห้าคนเท่านั้น

ดังนั้นแล้ว บรรดาเพื่อน ๆ และทุกคนที่ได้รับรู้ว่าเฉินอวี้จะถูกบรรจุเข้าโรงเรียนองครักษ์จึงพากันประหลาดใจ

โรงเรียนองครักษ์ตั้งอยู่นอกเขตพระราชวังทางฝั่งตะวันตก หากได้รับการบรรจุจึงจะได้ข้ามถนนและเดินเข้าประตูฝั่งตะวันตกเข้ามาที่กองงานองครักษ์
ภายในโรงเรียนยังเหมือนกับหมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง เพราะมีทั้งส่วนที่เป็นโรงเรียน โรงฝึก และโรงนอน
ในโรงนอน ส่วนที่เป็นห้องพักของนักเรียนปีที่หนึ่งจะประกอบไปด้วยเตียงนอนแปดเตียง วางเตียงสองด้าน คั่นไว้ด้วยตู้และโต๊ะหนังสือ ทำให้ผู้รับการฝึกส่วนใหญ่มักใช้เวลาอยู่ด้านนอกห้อง ทั้งการอ่านตำรา ฝึกวิชา และการสันทนาการ
หากผ่านการสอบขึ้นไปถึงชั้นปีที่สองจึงได้พักในห้องเดี่ยว

ช่วงหกเดือนแรกของเฉินอวี้ในโรงเรียนแห่งนี้ทุกอย่างดำเนินไปอย่างดียิ่ง แม้ว่าบรรดาเพื่อนร่วมชั้นจะล้วนเป็นผู้ที่มีลำดับทางสังคมสูงกว่าเขาหนึ่งขั้นเป็นอย่างน้อย
กล่าวคือ ไม่มีใครในที่นี้ที่เป็นบุตรคนเล็ก ของภรรยารองพ่อค้าผู้หนึ่งของเมืองหลวง
ระดับที่ใกล้ที่สุดก็คือบุตรคนรองของภรรยาเอก ข้าราชการชั้นสี่
แต่เมื่อต้องมาใช้ชีวิตอยู่อย่างเท่าเทียมกันเป็นเวลาหลายเดือน หลายคราพวกเขาก็ลืมเลือนการแบ่งลำดับชั้นด้วยฐานะของบิดา อันดับของมารดา  ลำดับชั้นในครอบครัว และค่อย ๆ ซึมซับการทำหน้าที่สำคัญเพื่อปกป้องฮ่องเต้

ถือว่าเป็นช่วงเวลาของการละลายพฤติกรรมที่ประสบความสำเร็จยิ่ง แต่หลังการฝึกผ่านไปหกเดือน ทหารมหาดเล็กก็มาที่โรงฝึกเพื่อแจ้งต่ออาจารย์ว่า ฮ่องเต้มีรับสั่งให้เฉินอวี้ไปเข้าเฝ้าฯ ที่พระตำหนักหลวง
การใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายของเฉินอวี้สิ้นสุดลงนับจากวันนั้น

เมื่อมาถึงพระตำหนัก ทหารมหาดเล็กนำเฉินอวี้ไปรอที่ห้องทรงงานเล็กด้านใน แล้วออกไปรอที่ด้านนอกห้องเวลาผ่านไปครึ่งชั่วยาม ฮ่องเต้จึงเสด็จมาถึง

"วันนี้อากาศร้อนนะ" รับสั่งแรกเมื่อมาถึง หลังจากที่จิบพระสุธารส ก็ทรงรับสั่งให้มหาดเล็กล่าถอยออกไปรอที่ด้านนอก
"รู้ไหมทำไมเจ้าถึงได้เข้าเรียนในโรงเรียนองครักษ์"
เฉินอวี้เกือบถวายคำตอบไปตามมารยาทว่า เป็นเพราะผลการสอบที่ดีเยี่ยม แต่ก็คิดว่าพระองค์คงไม่รับสั่งถามในเรื่องที่มองเห็นคำตอบโดยง่ายดายเช่นนั้น
"คงมิใช่เรื่องผลการสอบกระมังฝ่าบาท"
ฮ่องเต้จางฉวนส่ายพระพักตร์แล้วหันไปมองนอกหน้าต่าง "มีเสือโคร่งผู้หนึ่งฝากไว้"
เฉินอวี้เงยหน้าขึ้นมองฮ่องเต้แล้วก้มหน้าลงตามเดิม

...เป็นอย่างที่คิดไว้จริงๆ...

"จะเรียกว่าอะไรดี" ทรงจิบพระสุธารสอีกครั้ง "ตอนที่ยังเด็ก ๆ เราถูกส่งไปฝากเลี้ยงไว้ที่ตำหนักนอกเมือง แต่วันหนึ่งเราหนีกลับมาที่นี่แล้วเห็นเขาออกมาจากห้องของพระมารดาน่ะ"
เฉินอวี้กำมือแน่นโดยไม่รู้ตัว ทำให้ทรงพระสรวล "อย่าเพิ่งด่วนตัดสินสิ...เอ่อ..ตัดสินก็ได้ เพราะมันก็ไม่ต่างจากที่เจ้าคิดไว้สักเท่าไหร่ เพียงแต่เราจำเขาไม่ได้เอง ตอนที่กลับมาเจออีกครั้งก็ยังจำไม่ได้ จนกระทั่งหลายเดือนก่อนที่เขามาหา และบอกให้วางเจ้าไว้ใกล้ ๆ หากเราต้องการพบเขาก็ให้บอกกับเจ้า เราก็เลยเพิ่งนึกออก" ทรงชะโงกเข้ามาหา "เรียกเขามาให้หน่อยสิ เรามีเรื่องอยากถามเขา"
"ขออภัยฝ่าบาท ข้าพระองค์ก็ไม่ได้พบกับเขามาหลายเดือนแล้วเช่นกันพระเจ้าค่ะ จึงไม่ทราบว่าจะเรียกเขาได้อย่างไร"
ฮ่องเต้จางฉวนทรงมีท่าทีผิดหวัง "ที่โรงฝึกองครักษ์เขาก็ให้กลับบ้านเดือนละสองวันมิใช่หรือ"
"กระหม่อม แต่ก็มิได้พบ"
"หรือเพราะเจ้ามัวแต่วุ่นวายช่วยกิจการของครอบครัว และก็มีนัดกับเพื่อนของเจ้า ทำให้เขาหาโอกาสมาพบเจ้ามิได้" พระเนตรของฮ่องเต้หนุ่มวาววับด้วยความสนุกสนานเมื่อเห็นท่าทีกังวลของอีกฝ่าย
เฉินอวี้หลุบตาลงต่ำ ปิดบังความรู้สึกในใจ "คืนสุดท้ายที่เขากลับไปที่เรือน ข้าพระองค์พูดจาไม่ค่อยดีกับเขา หลังจากนั้น เขาก็มิได้มาอีกพระเจ้าค่ะ"
"อ้อ เช่นนี้เอง"
ฮ่องเต้จางฉวนทรงพระสรวลเสียงดังแล้วหยุดลงในทันที
"ไปง้อเขา เราให้เวลาสามวัน ทำอย่างไรก็ได้ให้เขามาหา"

อารมณ์ดี นี่เป็นเรื่องที่ทำให้อารมณ์ดีจริง ๆแม้จะมีเรื่องเกี่ยวกับการค้าหนังสัตว์ที่ต้องการหารือกับเทพเสือโคร่งผู้นั้น แต่การที่ได้รับรู้ว่า สองคนนี้มิได้พบกันมาหลายเดือนทำให้อารมณ์ดี
"มีการค้าบางอย่างที่มันช่างกวนใจเราอยู่ หากเราจะสั่งการโดยตรงก็อาจถูกวิจารณ์ว่าคิดเล็กคิดน้อย แต่หากไม่ทำอะไรเลยก็จะถูกวิจารณ์เอาได้"
เฉินอวี้หยุดยืนตรงแล้วค้อมตัวลง "ฝ่าบาท การคิดเช่นนั้นอาจจะเป็นการรุนแรงเกินไป"
"แต่เราคิด และต้องการสอบถามเขา" ประทับยืนขึ้น "ออกไปข้างนอกกัน"

เมื่อรับสั่งแล้วก็ทรงก้าวพระบาทนำไปในสวนด้านหน้าพระตำหนักนั่นเอง
องครักษ์ชั้นเอก มหาดเล็ก และนางกำนัล นางข้าหลวงรวมแล้วเกือบห้าสิบคนตั้งขบวนรออยู่ที่ด้านนอกของพระตำหนัก แต่ทรงหันมาแตะไหล่ของเฉินอวี้ให้เดินไปข้าง ๆ รับสั่งในระดับที่มีเพียงผู้ที่เดินตามมาทางด้านหลังไม่เกินสามก้าวจะได้ยิน

"เราอ่านคำตอบเรื่องการปกครองของเจ้า" ทรงหมายถึงข้อสอบเข้ารับราชการเมื่อหลายปีก่อน ทรงหันมามองคนที่เดินข้าง ๆ แล้วโบกพระหัตถ์ "มีความเห็นของเจ้าที่มันกวนใจเราทุกครั้งที่คิดถึงมัน"
เมื่อดำเนินมาถึงศาลาในสวนก็ทรงเลือกที่ประทับนั่งที่ม้านั่งตัวยาวในศาลา

"ความเท่าเทียมกันไม่มีจริง การแบ่งแยกชนชั้นการปกครองก็ไม่มีจริงเช่นกัน"
เฉินอวี้ยืนตัวตรงเพื่อที่จะถวายคำตอบ แต่พระองค์กลับตบที่ว่างด้านข้าง เชิงรับสั่งให้นั่งลง
คนรูปงามค้อมตัวก่อนที่จะนั่งตัวตรงด้านข้าง มีความตั้งใจที่อธิบายคำตอบของตนอย่างยิ่งจนคนถามอดไม่ได้ที่จะยิ้มกว้าง
เป็นรอยยิ้มผ่อนคลายครั้งแรกในรอบหลายวัน ที่ทำให้บรรดาผู้ติดตามพากันประหลาดใจ

"ในทุก ๆ กลุ่มสังคมจากบ้านไปจนถึงเมืองที่มีการแบ่งลำดับการปกครอง ไม่ว่าจะด้วยหลักอาวุโส ทรัพย์สิน อาวุธที่มีอยู่ในครอบครอง หรือจะด้วยเชื้อสายวงศ์ตระกูล หรือต่อให้ในกลุ่มคนที่ประกาศตนว่าทุกคนในกลุ่มล้วนเท่าเทียมกัน ไม่มีผู้ใดที่มีอำนาจเหนือใคร เพราะเบื้องหลังของการจัดลำดับหรือไม่จัดลำดับนั้น จะมีการยอมรับเป็นตัวแปรที่ทำให้มีความเท่าเทียมกันแฝงตัวอยู่ในการจัดลำดับ และการไม่เท่าเทียมกันแฝงตัวอยู่ในการไม่จัดลำดับนั้น"
"การยอมรับหรือ"
"ทรงมีกฎหมายเรื่องการสืบทอดตำแหน่งขุนนางชั้นสูงจากบิดานั้นก็จริงอยู่ แต่หากบุตรหลานของขุนนางชั้นสูงนั้นประพฤติตนเสื่อมเสียไม่สนใจการทำหน้าที่ของตน ประชาชนไม่ยอมรับ เกิดแรงต่อต้านนำมาซึ่งความระส่ำระสาย การบังคับให้ยอมรับคือแรงต่อต้านที่จะเพิ่มมากขึ้น ข้าพระองค์เชื่อว่าฝ่าพระบาทจะไม่วางผู้ที่ทำให้เกิดแรงต่อต้านไว้ในตำแหน่งสำคัญ เพราะสุดท้ายแล้วจะส่งผลกระทบต่อพระองค์เอง
ส่วนที่บอกว่าเปิดกว้างทางการแข่งขันเพื่อสร้างความเท่าเทียมนั้น ข้าพระองค์เองที่เป็นบุตรคนเล็กของภรรยารองในครอบครัวพ่อค้า แม้จะได้รับโอกาสที่จะเข้าสู่แวดวงของทางการที่ทุกผู้คนต่างลงความเห็นว่า คือความเท่าเทียมที่ทำให้สามารถก้าวขึ้นบันไดไปสู่ลำดับชนชั้นที่สูงกว่า ถึงแม้ว่าจะสอบได้คะแนนที่ดี แต่หากไม่ได้รับการยอมรับ สุดท้ายทุกสิ่งก็ว่างเปล่า
ดังนั้นแล้ว ความเท่าเทียมจึงไม่มีจริง และลำดับชนชั้นก็ไม่มีจริงเช่นกัน และในเบื้องหลังการปกครองก็คือการยอมรับ พระเจ้าค่ะ"

ฮ่องเต้จางฉวนทรงเอนพระวรกายลงนอนหนุนตักอีกฝ่าย
...เจ้านี่มันรูปงาม มีรอยยิ้มเจือจางอยู่ในใบหน้าอยู่เสมอก็จริง แต่เนื้อแท้มันเป็นคนร้ายกาจ...

"ตอบได้ดีสมกับคะแนนอันดับหนึ่ง"
"อันดับหนึ่ง กระหม่อมหรือพระเจ้าค่ะ"
"ก็เจ้าน่ะสิ จะมีใครอีก คนที่เขียนคำตอบแบบยกยอเราและตบหน้าเราในเวลาเดียวกัน อาจารย์คนตรวจคำตอบเจ้าก็จริง ๆ เลยให้คะแนนเจ้าเต็มเสียอีก"
"แล้วพระองค์จะให้คะแนนกระหม่อมสักเท่าไหร่พระเจ้าค่ะ"
"ก็สัก.....เฮ่ย...วันนี้พูดเยอะมาก เหนื่อยจริง ๆ เลย ขอนอนหลับตรงนี้สักครู่ บอกพวกนั้นให้กลับไปด้วย"
เฉินอวี้เงยหน้าขึ้นมองต้นห้อง และมหาดเล็กเชิงถามว่าคำว่าพวกนั้นของฮ่องเต้คือใคร ก็ปรากฎว่า ต้นห้องหันไปบอกให้กลุ่มผู้ติดตามล่าถอยไป ส่วนองครักษ์และต้นห้องรับใช้แยกไปนั่งรออยู่ที่ศาลาในสวนที่ห่างออกไป

เมื่อเฉินอวี้กลับมาถึงที่โรงเรียนองครักษ์ก็พบว่า ทุกย่างก้าวและคำพูดในที่อุทยานของพระตำหนักหลวงเดินทางมาถึงที่โรงฝึกก่อนที่ตนเองจะกลับมาถึงเสียอีก
อาจารย์อาวุโสของโรงเรียนองครักษ์ เรียกเฉินอวี้ไปอบรมและฝึกเพิ่มเติมเรื่องการรักษามารยาทในเวลาเข้าเฝ้าฯ โดยย้ำว่า ไม่ต้องถวายการรับใช้ในระดับเดียวกับมหาดเล็กหรือต้นห้อง แต่ต้องหูไวตาไวให้เหมาะสมกับการเป็นองครักษ์ผู้มีหน้าที่ให้ความคุ้มครองฮ่องเต้

เฉินอวี้เข้าใจแล้วว่า เหตุใดพระองค์จึงทรงเลือกที่จะสนทนาเรื่องลับในห้องทรงงานเล็กด้านใน แล้วชวนสนทนาในเรื่องอื่นๆ ที่อุทยาน ดังนั้นที่ตั้งใจไว้ว่าค่ำวันนี้จะลองเรียกเทพเสือโคร่งภูผามาถ่ายทอดข้อความตามพระประสงค์ของฮ่องเต้ ก็ต้องเปลี่ยนเป็นช่วงเวลาที่อยู่ตามลำพังภายในห้องอ่านหนังสือส่วนตัวภายในหอสมุดหลวง
ชั้นแรกและชั้นสองของที่นี่คือตู้หนังสือความสูงจรดเพดาน ทางเดินคับแคบ เมื่อขึ้นไปที่ชั้นสามจึงเป็นหนังสือโบราณ
หนังสือและเอกสารที่นี่ ไม่ใช่เอกสารลับ ทุกคนที่ทำงานอยู่ในวังหลวง สามารถเข้ามาใช้งานได้
เฉินอวี้เลือกหนังสือหลายเล่ม แล้วเดินขึ้นไปที่ห้องอ่านหนังสือส่วนตัวที่อยู่ชั้นห้า จากนั้นจึงเปิดหน้าต่างห้อง

"เทพเสือโคร่งภูผา..." คนรูปงามไม่รู้ว่าควรกล่าวคำต่อไปอย่างไร รู้แต่ว่าไม่ควรใช้ประโยคคำสั่งอย่าง จงปรากฎกายหน้าต่อหน้าข้า หรือ ออกมาหาข้า หรือควรจะเป็น...
"เทพเสือโคร่งภูผา...ข้า...ขอโทษ"
สายลมแรงพัดผ่านหน้าต่างเข้ามาในห้องพัดพาหนังสือเล่มบางที่วางอยู่บนโต๊ะร่วงหล่นลงพื้น เฉินอวี้ก้มลงเก็บหนังสือ เงาร่างสูงใหญ่ก็ปรากฎขึ้นอย่างฉับพลันทางด้านหลัง
ผู้ที่เพิ่งมาถึงรับหนังสือมาวางไว้บนโต๊ะ แม้จะไม่มีรอยยิ้ม แต่ดวงตาสีเหลืองสดใสคู่นั้น ไม่อาจปกปิดความยินดีไว้ได้
"ข้าไม่ได้กลัวว่าท่านจะลืมข้า" เฉินอวี้กล่าวขึ้นทันที "ใจข้าคิดอย่างไรข้ารู้ดี  ข้าไม่ยินยอมให้ท่านมาตัดสินในสิ่งที่ข้าคิด ที่ท่านเล่าเรื่องครอบครัว เรื่องคนรักมากมายของท่านนั้น ทั้งหมดคือเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว และเมื่อมองจากช่วงเวลานานกว่าร้อยปีของท่าน ข้าไม่ได้ติดใจสงสัยอันใด"
เทพเสือโคร่งภูผาพยักหน้า และรอให้อีกฝายพูดต่อ
"อีกเรื่อง....ฮ่องเต้ต้องการพบท่าน" กล่าวจบรวดเดียว แล้วผ่อนลมหายใจยาว
"ฮ่า ที่เรียกข้ามา หาใช่เพื่อที่จะกล่าวคำขอโทษจากใจ" เทพเสือโคร่งภูผาเงยหน้ามองเพดานห้อง "ทั้งหมดนี้เพราะเจ้าฮ่องเต้นั่นสั่งมา น่าผิดหวังจริง เวลาที่เป็นคำพูดของข้า เจ้าไม่ชอบ บอกว่าข้าชอบสั่งเจ้า แต่ทีคำพูดของเจ้านั่นเจ้ากลับปฏิบัติตามง่าย ๆ"
เฉินอวี้ส่ายหน้า "ไม่ง่ายสักหน่อย"
ผู้ที่มีร่างกายกำยำก้าวเข้ามาประชิดตัว แล้วโอบเอวบางเข้ามาแนบชิด
"ช่วงเดือนแรกเจ้ายังมองหาข้า ยังมีสีหน้าผิดหวังที่ไม่พบ แต่หลังจากนั้นข้าก็ไม่มีความหมายใด ๆ สำหรับเจ้า จนกระทั่งจางฉวนสั่ง หากเขาไม่สั่งข้าก็เป็นเพียงสายลมที่พัดผ่านไป ข้าต้องขอบใจเขาหรือไม่"
แต่เมื่อใบหน้าคมเข้มจะก้มลงมาหา เฉินอวี้ก็ชิงกล่าวขึ้นมาก่อน "ท่านเคยเข้าหาพระมารดาของฮ่องเต้"
แขนใหญ่คลายออกทันที "ไม่เคย ไม่ว่าจะแม่แท้ ๆ ของเขาหรือพระมเหสีเป็นแม่บุญธรรมของเขาข้าก็ไม่เคย" แต่จู่ ๆก็หยุดโวยวายเมื่อนึกขึ้นได้ "อ้อ ใช่ เคยเข้าหาพระสนมอยู่ครั้งหนึ่งนะ"
เฉินอวี้เหวี่ยงหมัดเข้าใส่ต้นแขนของคนที่ตัวโตกว่ากันหลายคืบ
"ท่านนี่มัน! น่าโมโหจริง!"
"อะไรกัน เรื่องมันตั้งนานแล้วนะ นานมาก ๆ เลยด้วย"
เฉินอวี้หันไปเก็บหนังสือบนโต๊ะ ขณะที่อีกฝ่ายยังพยายามชี้แจง
"ไหนบอกว่าเข้าใจว่ามันคือเรื่องในอดีต แล้วเหตุใดไม่พอใจได้เล่า"
"ไปหาฮ่องเต้ก่อน แล้วค่อยมาคุยกัน"
"นี่!" มือที่กำลังจะรั้งไว้หยุดอยู่กลางอากาศ "แล้วค่อยมาคุยกันหรือ"
"ฮื่อ แล้วค่อยมาคุยกัน"
ประตูห้องอ่านหนังสือปิดลงแล้ว แต่ผู้ที่มีร่างกายกำยำสูงใหญ่ยังยิ้มกว้าง

สองวันถัดมาขณะที่เฉินอวี้ อยู่ในโรงอาหาร มีมหาดเล็กมาแจ้งว่า ฮ่องเต้ทรงมีพระประสงค์ให้ไปเข้าเฝ้าฯ อีกครั้ง
บรรยากาศรอบตัวเปลี่ยนไป เฉินอวี้รู้สึกถึงแรงกดดันที่พุ่งตรงเข้ามาหา ขณะที่รับฟังอาจารย์อาวุโสเตือนให้รักษามารยาทในการเข้าเฝ้าฯ

มหาดเล็กนำเฉินอวี้ไปรอที่ห้องทรงงานเล็กด้านในเช่นเคย และเมื่อฮ่องเต้เสด็จมาถึงก็รับสั่งตั้งแต่ต้นห้องใหญ่ยังไม่ล่าถอยออกไป ว่าคนผู้นั้นมาพบพระองค์แล้ว และทรงขอบใจมาก
แต่เมื่อประตูห้องทรงงานปิดลงก็หยุดทอดพระเนตรมองเฉินอวี้ตรง  ๆ
"เจ้าไม่เหมาะกับการอยู่ในห้องเล็ก ๆ นี่สักเท่าไหร่ ออกไปเดินคุยกันข้างนอกเหมือนเดิมดีกว่า" จากนั้นก็ทรงก้าวพระบาทออกไปจากห้องทันที

เฉินอวี้แน่ใจว่า ผู้ที่ไม่ชอบอยู่ในห้องแคบ ๆน่าจะเป็นพระองค์เองมิใช่เขา เพราะเมื่อออกมาด้านนอกก็ทรงยืดพระวรกาย หายพระทัยเข้าลึก แล้วรับสั่งให้มหาดเล็กไปเตรียมน้ำชาของว่างที่ศาลาด้านหน้าของพระตำหนักเช่นเคย

"เรารู้ว่าเจ้าดื่มเก่งพอตัว แต่เรายังมีงานที่ต้องกลับไปทำต่อ ดื่มน่้ำชาแล้วกัน"
บรรดานางข้าหลวงเตรียมสำรับของว่างน้ำชารวดเร็วอย่างน่าประหลาดใจ
"ที่โรงเรียนเป็นอย่างไรบ้าง ถูกจับตามองว่าเป็นเด็กน้อยของฮ่องเต้ร้ายกาจหรือไม่"
เฉินอวี้แทบสำลักลมในคอ
"กราบเรียนฝ่าบาท เรื่องคำเรียกขานแบบนั้น กระหม่อมไม่เคยได้ยินพระเจ้าค่ะ แต่เรื่องที่ถูกจับตามอง และตกอยู่ในความสนใจนั้นก็มีบ้าง"
"ทำให้รู้สึกอึดอัดใจ และไม่ชอบเลยสินะ"  ทรงชี้ไปที่หว่างคิ้วของเฉินอวี้ "สีหน้าของเจ้าบ่งบอกว่า ไม่ชอบที่ต้องมาพบเรา แต่ในเมื่อเจ้ากำลังจะเป็นองครักษ์ของเรา ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องมาที่นี่อยู่ดี"
บุตรมังกรยังคงเป็นผู้ผูกขาดบทสนทนา "เรื่องความคิด เรื่องหลักปรัชญา เจ้าเหนือกว่าองครักษ์ชั้นเอกในเวลานี้ของเราอย่างไม่ต้องสงสัย แต่เจ้ายังต้องพัฒนาฝีมือเชิงยุทธ์ให้เหนือกว่านี้อีกมากกว่าห้าขั้น เจ้าถึงจะได้รับการยอมรับ"
เมื่อรับสั่งมาถึงตอนท้ายก็ทรงคลี่ยิ้มกว้าง ที่ทำให้เฉินอวี้หัวเราะเบา ๆ
"อีกปีครึ่งเมื่อเรียนจบแล้วยังพอจะมีเวลาอีกห้าปีถึงจะมาอยู่ขั้นเอกได้"
เฉินอวี้รู้ดีว่าทุกถ้อยคำของฮ่องเต้จางฉวนคือกับดัก จึงกล่าวด้วยความระมัดระวัง
"การเป็นองครักษ์ขั้นเอก ไม่เพียงเป็นยอดฝีมือ แต่ยังเป็นผู้ที่มีความรู้กว้างขวางและหลากหลาย กระหม่อมจะตั้งใจฝึกฝน และหาความรู้เพิ่มขึ้นพระเจ้าค่ะ"

"ทำไมไม่ตอบว่า จะเป็นองครักษ์ขั้นเอกให้ได้"
"กระหม่อมชอบเก็บความตั้งใจไว้ในใจ มิใช่การกล่าวออกมาพระเจ้าค่ะ"
ทรงชี้หน้าเฉินอวี้แล้วหัวเราะอย่างผ่อนคลาย
"เจ้านี่มันไล่ต้อนอย่างไรก็ไม่จนมุม"
"นั่นเพราะพระองค์ไม่ได้คิดจะไล่ต้อนอย่างจริงจังต่างหากพระเจ้าค่ะ"

ทรงลุกจากพระเก้าอี้ไปประทับที่ม้านั่งตัวยาวในศาลา จากนั้นก็เรียกให้เฉินอวี้มานั่งลงข้าง ๆ เพื่อที่พระองค์จะได้นอนหนุนตักเหมือนเคย

"สิ่งที่ยากที่สุดในการหาองครักษ์ขั้นเอกสักคนก็คือ การหาคนที่เราสามารถวางใจได้ว่า เงิน และความแค้นส่วนตัวจะไม่ทำให้เขาหันดาบมาหาเรา" พระดัชนีม้วนปลายผมของอีกฝ่ายเล่น

เทพเสือโคร่งภูผาเคยกล่าวเตือนไว้ว่าทุกสิ่งที่พระองค์ทำลงไปจะย้อนกลับมาในวันหนึ่ง และเมื่อวันนั้นมาถึงพระองค์จะไม่อาจบรรทมได้สนิท ไม่อาจจิบเมรัยรสเลิศได้อย่างผ่อนคลาย ต้องอยู่ตามลำพังด้วยความหวาดกลัว
เทพเสือโคร่งภูผาผู้นั้นไม่ได้รู้ว่า นานหลายปีมาแล้ว ที่พระองค์ไม่เคยบรรทมสนิท ไม่เคยผ่อนคลาย และต้องใช้อำนาจคุกคามผู้อื่นเพื่อที่จะไม่ต้องอยู่ตามลำพังด้วยความหวาดกลัว เพราะมิเช่นนั้นแล้ว อาจเป็นพระองค์เองที่ต้องไปอยู่ในสุสานเชื้อพระวงศ์ ไม่ใช่นั่งอยู่บนบัลลังก์สูงสุดของไท่ชางดั่งทุกวันนี้

เฉินอวี้ มองกลุ่มองครักษ์ชั้นเอกที่ทำหน้าที่อย่างเข้มแข็ง แล้วหันมามองผู้ที่กำลังหลับพระเนตรเพื่อพักผ่อนยามบ่าย
หรือการที่มีรับสั่งให้เขามาในวันนี้ ก็เพราะว่าเทพเสือโคร่งภูผาไม่รับปากทำงานให้กับพระองค์

เมื่อกลับมาจากพระตำหนักหลวง ก็ถูกเรียกไปอบรมที่ห้องของอาจารย์อาวุโสอย่างยาวนานจนเลยเวลาอาหารเย็น กว่าที่จะไปถึงโรงครัวก็เหลือเพียงอาหารสำหรับคนงาน
คนรูปงามไม่ได้คิดอะไรมาก รับถาดอาหารมาแล้วเดินไปรับประทานโดยลำพัง คนรับใช้เข้ามาส่งจดหมายให้แล้วล่าถอยออกไปโดยที่ไม่ได้กล่าวสิ่งใด

เฉินอวี้อ่านจดหมายแล้วหัวเราะ จากนั้นก็ไปตามนัดกลางดึกของคืนนั้น
เคยได้รับจดหมายนัดในลักษณะนี้ตั้งแต่ตอนที่เรียนหนังสือในโรงเรียนที่หมู่บ้าน ด้วยเหตุที่ครองตำแหน่งที่หนึ่งของโรงเรียนนับตั้งแต่เข้าเรียน จนทำให้กลุ่มบุตรคนแรกของภรรยาเอกไม่พอใจ
แต่ที่นี่ไม่มีกลุ่มบุตรคนแรกของภรรยาเอก...เช่นนั้นหากต้องมีการต่อสู้ก็มิต้องเกรงใจ
ว่าที่จริง เฉินอวี้ก็ไม่เคยเกรงใจผู้ใดอยู่แล้ว
กลุ่มผู้ที่รออยู่ด้านหลังโรงเรียนองครักษ์คือรุ่นพี่ปีสอง กับยังมีองครักษ์ระดับล่างจำนวนมากกว่าสิบคน
เป็นการต่อสู้ที่น่าสนใจไม่น้อย

หัวหน้าของกลุ่มคือหลี่กัง รุ่นพี่ปีสองที่แสดงออกว่าไม่ชอบเฉินอวี้มาตั้งแต่พบกันวันแรก
"เจ้ามิได้สังกัดสำนักใหญ่" รุ่นพี่หลี่หมายถึงสำนักด้านการฝึกยุทธ "มิได้เป็นศิษย์นักปราชญ์ หรือยอดฝีมือท่านใด ก็แค่โรงมวยเล็ก ๆ ชานเมือง กับอาจารย์สูงอายุกลุ่มหนึ่ง ยังคิดอยู่ว่าเจ้าอาศัยอะไรถึงได้เป็นอันดับหนึ่งมาตลอด ที่แท้...ก็คือฝีมือในการประจบเอาใจคน"
เฉินอวี้ยิ้มหวานล่มเมือง
นี่ก็เป็นเรี่องเดิม ๆ ที่ไม่มีอะไรแปลกใหม่เช่นกัน
บางทีหากจะมีคำดูหมิ่นใหม่ ๆ ที่ไม่เคยได้ยินมาก่อนอาจทำให้รู้สึกไม่พอใจได้สักนิดหน่อย แต่เมื่อคำกล่าวดูหมิ่นของคนอายุมากกว่ายี่สิบปี ไปเหมือนกับคนอายุสิบขวบจึงทำให้รู้สึกว่านี่เป็นเรื่องน่าขัน
"ข้าไม่ยอมรับองครักษ์ที่รู้จักแต่การประจบผู้อื่น" หลี่กังขยับไม้พลองในมือขณะที่ก้าวมาข้างหน้า "ข้าสั่งให้เจ้าไปลาออกจากโรงเรียน!"
เฉินอวี้ยิ้มหวานขณะที่ส่ายหน้า หลี่กังก้าวเข้ามาอีกหนึ่งก้าว
"หากเจ้าไม่ไปลาออก เช่นนั้นข้าจะทำให้เจ้าต้องพ้นสภาพขององครักษ์เอง!"
ไม้พลองในมือที่ฟาดลงมา เฉิวอวี้ปัดออกด้วยมือขวา แล้วชกหน้าอีกฝ่ายด้วยมือซ้าย
หลี่กังเซถอยไปทางด้านหลัง โลหิตไหลจากจมูก
คนรูปงามเลิกคิ้วสูง ด้วยไม่คิดว่า อีกฝ่ายนอกจากจะไม่สามารถหลบกระบวนท่าง่าย ๆ ยังจมูกเปราะขนาดนี้
หลี่กังเองก็เสียหน้ามิน้อย ผลุนผลันจู่โจมเข้ามาอีก เฉินอวี้เพิ่มแรงเหยียดหยามด้วยการใช้กระบวนท่าพื้นฐานตอบโต้กลับไปจนอีกฝ่ายทรุดลงกับพื้น
พรรคพวกที่เหลือปรี่เข้ามารุมล้อม เฉินอวี้ทั้งแสดงความอวดดี และดูหมิ่นผ่านเพลงหมัดมวยที่แสนจะธรรมดาแต่แฝงไว้ด้วยพลังภายในที่เต็มเปี่ยม
ครู่หนึ่งรอบตัวของเฉินอวี้ก็รายล้อมไปด้วยรุ่นพี่ และองครักษ์ ที่นอนเกะกะระเนระนาด
คนรูปงามส่งยิ้มให้กับทุกคน แล้วค้อมตัวทำความเคารพ
"ขอบคุณรุ่นพี่ที่สั่งสอน นักเรียนองครักษ์เฉินอวี้ขอน้อมรับไว้" จากนั้นก็เดินจากมาอย่างสง่างาม

เมื่อเฉินอวี้กลับมาถึงห้องพัก พบว่าเพื่อนร่วมห้องอีกเจ็ดคนยังไม่มีใครนอน ทั้งผุดลุกขึ้นยืนในทันที จากนั้นก็มีเสียงถอนหายใจและเสียงหัวเราะผ่อนคลายดังขึ้น
"ข้าสบายดี" เฉินอวี้พูดขึ้นลอย ๆ
เฉินฟู่ซึ่งเป็นหัวหน้าชั้นปีก้าวเข้ามาหา "ขอโทษด้วย"
เฉินอวี้ตบไหล่อีกฝ่ายเบา ๆ "ไม่เป็นไร ข้าเข้าใจ ข้าไม่อาจลาออกจากโรงเรียนอย่างที่พวกเขาต้องการ แต่จะพยายามอย่างเต็มที่  เพื่อไม่ให้พวกเจ้าต้องเดือดร้อน"
"เจ้าเป็นสนมชายของฮ่องเต้จริงหรือ" เพื่อนร่วมห้องคนหนึ่งถามโพล่งขึ้น
เฉินอวี้หัวเราะเสียงดัง "ไม่ใช่ และฮ่องเต้จะส่งสนมชายมาโรงเรียนองครักษ์ทำไม"

คนรูปงามเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าของตนเองเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า
...เพราะเป็นคนรูปงามจึงได้รับทั้งการชื่นชมและดูหมิ่นในเวลาเดียวกัน
...และในความสัมพันธ์ระหว่างชายกับชาย ต่อให้อีกฝ่ายเป็นฮ่องเต้ก็ไม่ได้คุ้มครองให้เขารอดพ้นจากการถูกรังเกียจ
นี่เป็นสิ่งที่เทพเสือโคร่งภูผาผู้นั้นไม่เคยเข้าใจ
เหมือนที่ไม่เข้าใจลำดับความสัมพันธ์ในครอบครัว และสังคมของเมืองหลวง
เหตุใดท่านจึงส่งข้ามาที่นี่...

(มีต่อ)

ออฟไลน์ MyTeaMeJive

  • MyTeaMeJive
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1894
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3313/-9
Re: Sunrise in the forest ตอนที่20 P22(060860)
«ตอบ #664 เมื่อ23-08-2017 10:18:36 »

(ต่อ)

หลายวันถัดมา ระหว่างทางที่เดินกลับไปยังเรือนพัก มือใหญ่คว้าต้นแขนเข้าไปในห้องหนึ่งซึ่งไม่มีผู้ใช้งาน เฉินอวี้ไม่ได้ขัดขืน เพราะเมื่อหันมาเห็นว่าเป็นใครก็เดินตามมาโดยดี ทั้งยืนมองหน้าอีกฝ่ายที่เท้าเอวถาม
"สนิทกับจางฉวนขนาดนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่ รู้ทั้งรู้ว่าเจ้านั่นไม่จริงใจกับใคร แล้วไปคุย ไปหัวเราะ และยอมให้เขานอนหนุนตักได้อย่างไร"
เฉินอวี้ปัดเศษผมที่ไหล่กว้างเบา ๆ "พระองค์คือฮ่องเต้ การพูดคุย การหัวเราะ หรือจะยอมให้นอนหนุนตัก ก็ถือเป็นการทำงานอย่างหนึ่ง ข้าไม่ได้ดีกับเขามากไปกว่าท่านหรอก"
"แล้วเรื่องหลังโรงเรียนนั่นมันอย่างไร บาดเจ็บหรือไม่"
เฉินอวี้ หงายมือคว่ำมือให้อีกฝ่ายดู เพื่อยืนยันว่าไม่มีร่องรอยบาดเจ็บใด ๆ
"พวกเขาภูมิใจในการเป็นทหารองครักษ์รักษาพระองค์ที่สง่างาม จึงไม่ชอบคนที่ใช้ร่างกายของตนเองเป็นทางลัด ข้าก็แค่ยืนยันว่า ข้ามีฝีมือพอที่จะเป็นองครักษ์ได้" เมื่อเห็นสีหน้าของอีกฝ่ายยังเป็นกังวล จึงแตะที่แก้มของอีกฝ่ายเบา ๆ "คราวหน้าหากพวกเขาถามว่า อาจารย์ของข้าคือใคร ข้าจะบอกเขาว่า คือเทพเสือโคร่งภูผาดีหรือไม่"

ผู้ที่รูปร่างสูงใหญ่มีอาการแก้มกระตุกพยายามอย่างยิ่งที่จะไม่คลี่ยิ้มกว้างออกมา
"ดี! บอกไปเลย บอกเสียงดัง ๆ ด้วย"
คนรูปงามพยักหน้าให้คำมั่น "ข้าไม่ลืมคำที่ท่านเตือนไว้ และก็ระมัดระวังตนอยู่เสมอ ไม่ว่าจะที่นี่ หรือเวลาที่ต้องไปเข้าเฝ้าฯ"
"ดีแล้ว อย่าได้เชื่อคำพูดหวานของเจ้านั่นเชียวนะ เจ้านั่นน่ะถนัดเรื่องหลอกลวงผู้อื่น ยิ่งเจ้ารูปงามแบบนี้ยิ่งต้องระมัดระวังตน"
คนงามคลี่ยิ้มงาม เมื่ออีกคนกล่าวคำเตือนซ้้ำครั้งแล้วครั้งเล่า
"ทั้งหมดนี่ไม่ใช่เพราะท่านไปกราบทูลพระองค์ไว้หรือ ว่าให้ข้าเป็นผู้ประสานงานให้ท่าน"
..ทำไมถึงเป็นข้า...
เทพเสือโคร่งยักไหล่ ยกยิ้มมุมปาก
"เช่นนั้นข้าจะลองคาดเดาความคิดของท่านอีกสักครา ท่านต้องการให้ข้ามีตำแหน่งสูง ๆ แต่ก็ไม่อยากให้ใกล้ชิดพระองค์" เฉินอวี้ยิ้มอย่างอ่อนล้าให้กับความขัดแย้งเหล่านี้ "ทุกครั้งที่ไปเข้าเฝ้าฯ ในห้องทรงงานเล็กส่วนพระองค์นั่น จะใช้เวลาไม่นานนัก มักจะรับสั่งเพียงไม่กี่ประโยคก็จะทรงเสด็จออกไปคุยที่ศาลาหน้าพระตำหนัก"

เทพเสือโคร่งภูผามีท่าทีเคร่งขรึมลงเมื่อฟังเรื่องราวที่เกิดขึ้น

"ข้าคิดว่า ที่ทรงเรียกไปเข้าเฝ้าฯ มิใช่เพราะทรงโปรดข้าหรอก" ตอนที่เข้าเฝ้าครั้งแรก พระองค์แสดงท่าทีอย่างชัดเจนว่าไม่โปรดเขาเลยสักนิดถึงกับส่งให้ไปอยู่ที่อื่นเสียหลายปี จู่ๆกลับทรงเรียกให้มาเข้าเฝ้าแบบนี้ ต้องมีเบื้องหลังแน่นอน "ข้าเชื่อว่าพระองค์ต้องการโดดเดี่ยวข้า เดิมนั้นข้าก็ไม่มีสังกัดสำนัก ไม่มีพี่น้อง ไม่มีเพื่อน ทั้งยังถูกมองว่าเป็นสนมชายเสียอีก พระองค์ต้องการความมั่นพระทัยว่า งานที่พระองค์มอบหมายให้ข้าจะไม่รั่วไหลไปยังบุคคลอื่น แต่เมื่องานจบลง ข้าจะถูกกำจัดออกอย่างง่ายดาย จากนั้นคนที่มาจากชนชั้นเดียวกับข้าจะไม่ได้รับโอกาสนี้อีก เพราะในเมื่อคนที่เป็นอันดับหนึ่งยังทำไม่ได้ ก็ไม่ควรเสียโอกาสและเวลานี้ให้กับคนอื่น"

ฮ่องเต้ไม่โปรดเขา เทพเสือโคร่งภูผาก็รู้ดี แต่ยังต้องการให้เขามาอยู่ในตำแหน่งนี้ รู้ทั้งรู้ว่าเป็นเบี้ยตัวหนึ่งที่รอวันกำจัดออกไป เฉินอวี้จึงมักจะถามตนเองอยู่เสมอว่า ทำไมถึงต้องเป็นเขา...

ก่อนนี้เฉินอวี้มีคำถาม แต่ไม่กล้าถามโดยตรง เพราะกำลังอยู่ในระหว่างการทำใจยอมรับ ว่าเทพเสือโคร่งภูผาจะจากไปและไม่กลับมา
แต่เมื่อพบกันในสถานที่ลับอีกครั้งจึงลองกล่าวคำที่คิดไว้ออกไป
มิคาด มันถูกต้องตามนั้น 
เทพเสือโคร่งภูผาโอบกอดผู้ที่มีร่างกายผอมบางไว้หลวมๆ สีหน้ายุ่งยากใจที่เฉินอวี้คาดเดาเรื่องราวส่วนใหญ่ได้อย่างถูกต้อง

"ขอบคุณที่สนับสนุน ท่านอยากให้ข้าทำอะไร ก็บอกมาตามตรง"
"อวี้เอ๋อร์" จมูกคมก้มลงหอมเส้นผม
"เป้าหมายของข้ามีเพียง ไม่ทำให้ท่านพ่อและท่านแม่เสียใจ ยังมีพี่รองอีกคน ทุกคนคาดหวังกับความสำเร็จของข้าไว้มาก และข้าอยากพาท่านแม่ออกมาจากบ้านหลังนั้นด้วย"
เมื่ออ้อมแขนที่กอดอยู่กระชับแน่นขึ้น คนรูปงามก็กล่าวดั่งรู้ใจ "เรื่องคำพูดของคน ข้าไม่ได้เดือดร้อนอันใด เพราะตั้งแต่คิดว่าจะเข้าสอบเพื่อรับราชการก็คิดอยู่แล้วว่า จะต้องพบกับเรื่องราวเช่นนี้ในสักวัน และข้าอยากผ่านมันไปให้ได้ด้วยตนเอง"
"เรื่องแค่นี้เองเจ้าผ่านมันไปได้สบายๆ อยู่แล้ว" เทพเสือโคร่งภูผาช้อนคางอีกคนขึ้นมารับจูบ "ข้าอยู่ข้างเดียวกับเจ้าเสมอ อีกอย่าง ขอให้เชื่อใจว่าข้าไม่ได้วางเจ้าไว้ในตำแหน่งที่รอวันถูกกำจัดไป"
"แต่..."
"ข้าจะทำเช่นนั้นกับเจ้าได้อย่างไร"
"แล้วเหตุใดถึงได้..."
"อวี้เอ๋อร์ เจ้าเป็นคนมีความสามารถนะ ความฝันของเจ้าอาจไม่ได้ยิ่งใหญ่ แต่ความสามารถของเจ้ามันโดดเด่นมาก จนไม่สมควรที่จะไปนั่งอยู่ในห้องเสมียน หรือประจบสอพลอจางฉวนไปวันๆ ข้าไม่ได้อยากให้เจ้าต้องรับใช้เจ้านั่น แต่เจ้าต้องเข้มแข็งมากกว่านี้เพื่อที่จะก้าวต่อไป"

คำพูดวกวนเต็มไปด้วยช่องว่าง และคำถาม แต่เมื่อมองลึกลงไปในดวงตาสีเหลืองสดใสคู่นั้น เฉินอวี้ก็เริ่มเข้าใจ "ป่าสีทองหรือ"
ที่ซึ่งท่านหญิงหนานกงรอคอยจนถึงลมหายใจสุดท้าย ว่าหนึ่งเทพเสือโคร่งภูผาจะพานางไปอยู่ที่นั่น แต่ก็ไม่อาจสมหวัง
เขาจะพาข้าไปที่นั่นหรือ จริงหรือ ข้ากำลังคิดเพ้อเจ้ออยู่ใช่ไหม...เฉินอวี้ได้แต่ร้องตะโกนอยู่ในใจ...

"อวี้เอ๋อร์"
เฉินอวี้ยกตััวขึ้นจูบเทพเสือโคร่งภูผาหยุดถ้อยคำต่อไป
ทั้งที่อยากถามให้ชัดเจน แต่ก็กลัวคำตอบ
เฉินอวี้มิได้ต่างจากท่านหญิงหนานกงในเรื่องนี้ มีคำถามเดียวกัน และเลือกที่จะอยู่กับความหวังเหมือนกัน เสแสร้งว่ามิได้คิดอะไร แกล้งทำเป็นคนว่าง่ายเพื่อรอวันที่เขาเมตตา
ช่างน่าสมเพชนัก
 
จูบอุ่นร้อน และสัมผัสบ่งบอกความต้องการไปทั่วแผ่นหลังจนถึงใต้สะโพกสวย
"อวี้เอ๋อร์ ข้า...อยากสัมผัสเจ้า" ริมฝีปากหนาจูบไปทั่วแก้ม เรื่อยลงมาถึงลำคอ
เฉินอวี้ตอบอย่างยากลำบาก "รอ รอกลับไปบ้าน ที่ ที่นี่ไม่ได้"
มือใหญ่ที่บีบก้นกลมเพิ่มน้ำหนักขึ้น จนต้องตีมือใหญ่ให้หยุด "เจ็บนะ"
"งั้นจูบได้ไหม"
เฉินอวี้พยักหน้า เตือนว่า ห้ามทำรุนแรงอีก เทพเสือโคร่งภูผารีบพยักหน้า ช้อนใบหน้างดงามขึ้นมารับจูบเร่าร้อน แข้งขาอ่อนแรง

...จบบทที่ยี่สิบเอ็ด...
สารภาพว่าก็อยากคุยตอนท้ายอยู่ทุกตอนน่ะแหละ แต่ถ้าคุยไปมันต้องหลุดสะ-ปอย ออกมาแน่ๆ เลย แต่อีกนิดนะ เดี๋ยวก็จะคลายปม แล้วไปผูกปมใหม่อีกละ (อะไรของตาคนเขียนเรื่องเค้าก็ไม่รู้)
ตอนนี้เขียนจบแล้ว (เย๊) รอลงอย่างเดียวละ ขึ้นหน้าใหม่เมื่อไหร่ไปเคาะเรียกให้มาลงตอนใหม่ได้เลยนะ

รักนะ
น้ำชา

ออฟไลน์ dekying kukkig

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1462
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-1
Re: Sunrise in the forest ตอนที่21 P23(230860)
«ตอบ #665 เมื่อ23-08-2017 11:20:21 »


อ่านแล้วเจ็บปวดตรงที่อวี้เอ๋อร์คาดเดา อิตาฮ่องเต้นี่ต้องโดนพ่อเสือสอนมวยให้ดูเป็นขวัญตาสักตั้ง ขอให้นอนไม่หลับแบบนั้นไปอีกนานๆก็แล้วกัน   :m16:

แต่ๆๆๆ อวี้เอ๋อร์มีใจแล้วสินะ โลกเป็นสีชมพูขึ้นแล้วว   :mew1:

ออฟไลน์ noteno

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 312
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
Re: Sunrise in the forest ตอนที่21 P23(230860)
«ตอบ #666 เมื่อ23-08-2017 12:48:06 »

 :a5:

ฮ่องเต้นี่ดูชอบใจมากเวลาเทพเสือกะอวี้เอ๋อร์ไม่คุยไม่้เจอกัน...จะเเอบเป็นมดเเดงเเฝงตวงมะม่วงใช่มั้ย :katai1:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7515
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
Re: Sunrise in the forest ตอนที่21 P23(230860)
«ตอบ #667 เมื่อ23-08-2017 13:19:10 »

เฮอะๆ...........ฮ่องเต้ร้ายกาจซะจริง  o22
อย่างว่า ไม่ร้ายกาจจะเป็นฮ่องเต้ได้ยังไง  :ling3:
วังหลวงอันตรายตั้งแต่บนสุดลงมาเลย :z6:

จางฉวน วางแผนแตกแยกเฉินอวี้ กับเสือโคร่ง
ที่ว่าเห็นเสือออกมาจากห้องพระมารดา ทั้งที่ไม่จริง
แถมทำเป็นนอนหนุนตัก ให้คนเห็นเอา
เสียงก็ออกไปว่าร้าย ว่าว่าปรนนิบัติฮ่องเต้ เป็นชายบำเรอ
ให้ร้ายเฉินอวี้ชัดๆ จนพวกองครักษ์มารุมทำร้าย  :z6: :z6: :z6:
แต่เฉินอวี้เก่งสุดๆ เลยพวกมาเจ็บตัวซะเอง
เป็นฮ่องเต้ที่น่าตายจริงๆ ปากปราศรัยใจเชือดคอสินะ  :fire: :fire: :fire:
ไม่น่าทำงานให้เอาซะเลย ดีที่เฉินอวี้อ่านฮ่องเต้ออก  :hao3:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2316
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
Re: Sunrise in the forest ตอนที่21 P23(230860)
«ตอบ #668 เมื่อ23-08-2017 15:59:58 »

รักเสือโคร่งภูผาต้องอดทน

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
Re: Sunrise in the forest ตอนที่21 P23(230860)
«ตอบ #669 เมื่อ23-08-2017 17:44:21 »

 :pig4: :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Sunrise in the forest ตอนที่21 P23(230860)
« ตอบ #669 เมื่อ: 23-08-2017 17:44:21 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ปีศาจน้อยสีชมพู

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 411
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0
Re: Sunrise in the forest ตอนที่21 P23(230860)
«ตอบ #670 เมื่อ23-08-2017 19:42:03 »

แปะ

ออฟไลน์ pubpibs

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 6
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: Sunrise in the forest ตอนที่21 P23(230860)
«ตอบ #671 เมื่อ24-08-2017 15:04:50 »

 :pig4: :pig4:
:L1:

ออฟไลน์ YouandMe

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 502
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
Re: Sunrise in the forest ตอนที่21 P23(230860)
«ตอบ #672 เมื่อ24-08-2017 21:45:22 »

อวี้เอ๋อร์รู้ทันทุกคนแบบนี้ เทพเสือโคร่งภูผาถึงหนีไปไหนไม่รอด  :z1:

ออฟไลน์ Iammai2017

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 40
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
Re: Sunrise in the forest ตอนที่21 P23(230860)
«ตอบ #673 เมื่อ26-08-2017 13:03:14 »

เข้าใจกันแล้ว
 :กอด1:

ออฟไลน์ Theshadowreader

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 17
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
Re: Sunrise in the forest ตอนที่21 P23(230860)
«ตอบ #674 เมื่อ28-08-2017 19:35:23 »

ต้นเรื่องแห่งความยุ่งยากก็ยังคงเป็นเทพเสือโคร่งซินะ
 :katai4:

ออฟไลน์ piggyfree

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 191
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1
Re: Sunrise in the forest ตอนที่21 P23(230860)
«ตอบ #675 เมื่อ29-08-2017 16:32:58 »

ขอบคุณนะคะ คุณไจฟ์ กะ น้องน้ำชา

ยังไม่สะดวกอ่านเลย
เดี๋ยวหาเวลา แวะเข้ามาอ่านนะคะ

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
Re: Sunrise in the forest ตอนที่21 P23(230860)
«ตอบ #676 เมื่อ29-08-2017 18:15:08 »

 :katai5: :katai5: :katai5:

ออฟไลน์ noteno

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 312
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
Re: Sunrise in the forest ตอนที่21 P23(230860)
«ตอบ #677 เมื่อ29-08-2017 18:26:21 »

 :z13: :z10: :z2:

มารอดูเเผนการพ่อเสือ

ออฟไลน์ piggyfree

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 191
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1
Re: Sunrise in the forest ตอนที่21 P23(230860)
«ตอบ #678 เมื่อ03-09-2017 16:32:40 »

มายัง มาเหอะ เราอยากอ่านแล้ว
 :m5: :m5: :m5:

ออฟไลน์ dekying kukkig

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1462
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-1
Re: Sunrise in the forest ตอนที่21 P23(230860)
«ตอบ #679 เมื่อ04-09-2017 11:48:40 »



เดินเข้ามาเอากำลังใจส่งอวี้เอ๋อร์  :กอด1:  :กอด1:


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Sunrise in the forest ตอนที่21 P23(230860)
« ตอบ #679 เมื่อ: 04-09-2017 11:48:40 »





ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
Re: Sunrise in the forest ตอนที่21 P23(230860)
«ตอบ #680 เมื่อ04-09-2017 14:51:46 »

 :katai5: :katai5: :katai5: :katai5:

ออฟไลน์ piggyfree

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 191
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1
Re: Sunrise in the forest ตอนที่21 P23(230860)
«ตอบ #681 เมื่อ04-09-2017 16:12:47 »

แวะมา  :a11: :a11: :a11:
แล้วก็จากไป   :oni1: :oni1: :oni1:

ออฟไลน์ piggyfree

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 191
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1
Re: Sunrise in the forest ตอนที่21 P23(230860)
«ตอบ #682 เมื่อ05-09-2017 13:41:49 »

เราจะรอ ต่อไป
มาเหอะ  เราคิดถึง
 :sleep2:

ออฟไลน์ noteno

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 312
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
Re: Sunrise in the forest ตอนที่21 P23(230860)
«ตอบ #683 เมื่อ06-09-2017 12:29:29 »

 :ling2: :ling2:

ช่วงนี้ไม่ได้เข้าเล้าเลยยย

ออฟไลน์ piggyfree

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 191
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1
Re: Sunrise in the forest ตอนที่21 P23(230860)
«ตอบ #684 เมื่อ06-09-2017 15:18:17 »

เลาก้อเข้ามารอเตงนะ  (เลียนแบบ)
 :music:  :music:  :music:

ออฟไลน์ pubpibs

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 6
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: Sunrise in the forest ตอนที่21 P23(230860)
«ตอบ #685 เมื่อ08-09-2017 09:02:49 »

 :pig4:
 :mew1: :mew1:
 :กอด1:

ออฟไลน์ dekying kukkig

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1462
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-1
Re: Sunrise in the forest ตอนที่21 P23(230860)
«ตอบ #686 เมื่อ08-09-2017 09:03:52 »


 :L2:



ออฟไลน์ noteno

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 312
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
Re: Sunrise in the forest ตอนที่21 P23(230860)
«ตอบ #687 เมื่อ08-09-2017 09:13:33 »

 :pig2: :pig2:
มารอเเม่เล็กคนเจ้าเสน่ห์

ออฟไลน์ kokoro

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-2
Re: Sunrise in the forest ตอนที่21 P23(230860)
«ตอบ #688 เมื่อ08-09-2017 09:37:33 »

บางทีก็สมน้ำหน้าเทพเสือของเราอ่ะ โดนโกรธซะบ้าง เหอะๆ
แต่เขาก็ตรงๆดีนะ เมียเยอะแต่รักไม่แยะ 555555
เส้นใหญ่ซะด้วย ขนาดอวี้เอ๋อร์งอนก็ยังมีแบ็คดี คนงอนต้องเรียกมาให้ง้ออีก
และเทพเสือคะ..เจ้าชู้เกินไปและ อ้อนอยากกินอวี้เอ๋อร์ตลอดดดดดด  :hao7:


อนึ่ง
กลับมาแล้วค่าาา....
สารภาพว่า นิยายของพี่ไจฟ์กับน้องน้ำชานี่มันใช้พลังอ่านพอสมควรนะ
แล้วเราก็ไม่อยากข้ามรายละเอียด ช่วงเวลาที่สมองเราอึนๆก็เลยไม่ได้เข้ามาอ่านเลย
แต่ตอนนี้พร้อมแล้ว พยายามไล่อ่านอยู่ 555

ออฟไลน์ piggyfree

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 191
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1
Re: Sunrise in the forest ตอนที่21 P23(230860)
«ตอบ #689 เมื่อ08-09-2017 10:01:18 »

มายัง มาเหอะ  เราคิดถึง

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด