จงรักจงหลง (2)
ในเมื่อพ่อหมอพูดขนาดนั้นแล้วจะรออะไรล่ะ พี่เจิดนี่ขับรถกลับบ้านแทบจะเหยียบคันเร่งมิด รถนี่กระเด้งกระดอนไปตาม
ทางลูกรังแดงฝุ่นตลบเชียว
“โอ้ยยยย จะรีบไปไหนล่ะจ๊ะพี่เจิด เดี๋ยวก็ได้พากันลงคลองหรอก”ไอ้มิ่งไม่วายขัดอยู่ร่ำไป
“เออน่า”
ก็พี่เจิดจะรีบกลับไปเอาผมไอ้มะลิมาให้พ่อหมอทำคุณไสย ทำๆซะจะได้จบๆไป พี่เจิดจะได้ยินคำว่ารักจากปากมันให้
หวานหูสักที ขืนชักช้ามีหวังพี่เจิดคงจะเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำบอกรักมันก่อนแน่
ว่าแต่ไอ้ฝูงวัวฝูงเบ้อเริ่มมันก็ดันถูกต้อนมากินหญ้าข้างทาอะไรเอาแถวนี้วะ พี่เจิดยิ่งรีบๆอยู่
ปรี๊น ปรี๊น!!
บีบแตรใส่ฝูงวัวของชาวบ้านที่เขาพาต้อนมากินหญ้า แต่มีหรือที่วัวมันจะรู้เรื่องด้วยกับพี่เจิด จากที่รถขับมาเร็วๆแทบจะพุ่ง
ลงคลองเสียให้ได้ จำต้องมาหยุดกับฝูงตัวกินหญ้าข้างหน้าเหมือนกับถูกแกล้ง
“ไอ้มิ่ง มึงลงไปบอกเจ้าของวัวซิว่ากูจะผ่านทาง”
นี่พี่เจิดลูกของเสี่ยมุ่ยนะโว้ย กำลังรีบอยู่ด้วย ไอ้ตายเถอะน่า พี่เจิดนี่ขาสั่นยิกๆอยากจะขับฝ่าฝูงวัวไปใจจะขาด
“แหม่ รีบขนาดนั้นเชียวเหรอจ๊ะ”ไอ้มิ่งหันมากระแนะกระแหน
“ยัง ยังไม่ไปอีก”
พี่เจิดยกมือทำท่าจะโบกเข้าให้ มันถึงได้กระโดดลงจากรถไปบอกให้เจ้าของวัวต้อนวัวหลบลงไปข้างทาง
กว่าพี่เจิดจะขับรถผ่านฝูงวัวนับหลายสิบมาได้ก็เล่นปาไปครึ่งค่อนชั่วโมง ขับรถมาถึงบ้านตะวันก็เกือบตรงหัวเชียว
กลับมาถึงก็พึ่งจะเห็นหลังไอ้มะลิมันเดินเข้าบ้านไวๆ ได้การล่ะทีนี้ ไอ้มะลิมันเสร็จพี่เจิดแน่!!
“อีลิ!!”
ลงจากรถได้ก็เดินเข้าบ้านตะโกนเรียกเสียงดัง ไม่เห็นหรอกว่าตัวมันอยู่ไหน แต่ก็ตะโกนเรียกไว้ก่อน พอคิดว่ามันจะมาเป็น
ลูกไกในกำมือได้พี่เจิดก็รู้สึกฮึกเหิมขึ้นมาเชียว
“จะตะโกนเรียกทำไม”มันชะโงกหน้าออกมาจากครัว
ว่าแต่ว่าทำไมมันทำเสียงเนือยๆเหมือนเหนื่อยๆล่ะวะ พี่เจิดเลยเดินไปหามันข้างในครัว เห็นมันกำลังสาละวนเทขนมใส่
ถ้วย
“มึงกลับมาแล้วเหรอ”
“อืม”
“นั่นอะไร”
“กูซื้อขนมมาฝากมึงกับพ่อมุ่ย เมื่อกี้กูแวะเอาไปให้พ่อกูมาแล้ว”ไอ้มะลิบอก
ก็ดีใจอยู่หรอกที่มันอุตส่าห์คิดถึงพี่เจิดแล้วซื้อขนมมาให้ แต่ทำไมมันทำเสียงอ่อยๆแบบนั้นล่ะ แถมทำหน้าเหนื่อยๆ เห็น
แล้วก็อดสงสัยไม่ได้
“ว่าแต่มึงซื้อขนมอะไรมา”
“ลูกตาลลอยแก้ว กูเห็นน่ากินเลยซื้อมา”ว่าพลางยื่นถ้วยขนมยัดใส่มือพี่เจิดแล้วหันหลังเดินจะเอาที่เหลือไปใส่ตู้เย็น
จังหวะที่มันจะเอาที่เหลือไปใส่ตู้เย็นนั่นแหละ พี่เจิดก็มองเห็นหัวดำๆของมันอยู่แค่เอื้อมรำไร ถ้าพี่เจิดดึงผมมันตอนนี้มัน
จะสงสัยพี่เจิดไหมวะ
ไอ้มะลิมันก้มเอาถุงขนมใส่ตู้เย็น พี่เจิดเลยเอื้อมมือไปใกล้ๆ ใจก็เต้นตุ๊มๆต่อมๆ แล้วสะดุ้งเฮือกชักมือกลับพอมันหัวขวับ
กลับมาขมวดคิ้วใส่
“ไม่ไปกินขนมล่ะ?”
“ก็นี่ไง กำลังจะไปกิน”พี่เจิดลอยหน้าลอยตาบอกมัน “แล้วมึงไม่กินรึไง”
“กูกินมาแล้ว”
มันว่าแล้วเดินไปนั่งที่โซฟาหน้าทีวี หยิบรีโมทขึ้นมาเปิดทีวีดูข่าวตอนบ่าย พี่เจิดกระแทกตูดลงไปนั่งข้างๆมันบ้าง เงยหน้า
มองมันรอดูจังหวะมันเผลอ
“ไม่อร่อยรึไง”สงสัยว่าพี่เจิดจ้องมันนานไปหน่อย มันเลยหันมาถาม
“ก็อร่อยนี่ อืม อร่อย”เลี่ยงไม่ได้เลยตักลูกตาลลอยแก้วยัดใส่ปากคำโต
กลัวว่ามันจะรู้ว่าพี่เจิดจ้องมองมันนานก็เลยหันหน้าไปดูทีวีบ้างอะไรบ้าง แล้วก็หันกลับมามองไอ้มะลิอีกรอบเมื่อมันเอาแต่
จ้องทีวีไม่ทันระวังตัว
พี่เจิดวางถ้วยขนมในมือเอื้อมมือไปใกล้ๆหัวไอ้มะลิหวังจะได้ผมสักเส้น
“พี่เจิด!! เดี๋ยวฉันว่าจะไปบ้านน้องจันทร์ อะอ้าว แหะๆ ฉันขอโทษ”
เอาอีกแล้ว ไอ้มิ่งมันพรวดพราดเข้ามาขัดจังหวะตอนที่พี่เจิดกำลังจะเอื้อมมือไปดึงผมไอ้มะลิได้อยู่แล้วเชียว
“มึงนะมึง”พี่เจิดกัดฟันชี้หน้ามันคาดโทษ
“แหะๆ งั้นฉันไปบ้านน้องจันทร์เจ้านะจ๊ะ เดี๋ยวฉันมา”ว่าแล้วไอ้มิ่งก็เผ่นแผล็วไปโดยเร็วไว
“ว่าแต่มึงไปไหนมา”ไอ้มะลิเงยหน้าขึ้นมาถามพี่เจิด
ถามอะไรไม่ถามดันมาถามว่าพี่เจิดไปไหนมา แล้วพี่เจิดจะตอบมันยังไงดีล่ะวะเนี่ย จะไม่ปฏิเสธก็ไม่ได้ เพราะพี่เจิดพึ่งจะ
ขับรถเข้าบ้านมาหมาดๆ
“กะ กูไปไร่มา”
“วันนี้วันหยุดไม่ใช่รึไง”
“คือว่ากู…กูก็จะไปดูไงว่าจะทำโรงเลี้ยงเป็ดตรงไหนดี”
โชคดีนะที่ช่วงนี้พี่เจิดมีโครงการจะเลี้ยงเป็ดไข่ ไม่อย่างนั้นคงหาข้ออ้างมาโกหกเมียไม่ได้แน่
พอไอ้มะลิมันฟังมันก็พยักหน้า หรี่ตามองพี่เจิดนิดหน่อยแล้วหันไปมองทีวีต่อให้พี่เจิดได้โล่งใจ
“ทำไมไม่เลี้ยงไก่”มันหัวขวับมาถามอีกรอบให้พี่เจิดที่กำลังเงื้อมือไปดึงผมมันสะดุ้งชักมือกลับ “มึงยื่นมือมาทำไม”
“กู เปล่านี่ กูเห็นยุงมันบินตอมหัวมึงเลยจะปัดๆให้ ว่าแต่เมื่อกี้มึงถามอะไรกูนะ”
“กูถามว่าทำไมไม่เลี้ยงไก่”
“อ้อ…ก็เวลามันออกไข่จะได้เอาไข้ไปขายไง อีกอย่างขี้เป็ดเอาไปใส่อะไรก็ออกดอกออกลูกดก”
อากาศก็ไม่ได้ร้อนอะไรเล๊ย แต่พี่เจิดนี่เหงื่อตกเชียว อยากจะได้ผมบนหัวไอ้มะลิใจจะขาด แต่ดูเหมือนว่าพี่เจิดจะร้อนตัว
จนมือไม่สั่นทำอะไรไม่ถูกแล้วสิ
นึกภาพไม่ออกเลยว่า ถ้าไอ้มะลิมันจับได้ว่าพี่เจิดกำลังจะทำอะไร มีหวังพี่เจิดคงจะถูกไล่ไปนอนกับไอ้แดงแน่
“อืม”ไอ้มะลิพยักหน้ารับ
“ว่าแต่…มึงเกิดวันที่เท่าไรเดือนอะไร”
“จะถามไปทำไม”
“ก็…กูอยากรู้วันเกิดเมียตัวเอง…ไม่ได้รึไง”
“อะไรของมึง จู่ๆก็นึกอยากจะมารู้วันเกิดกู”
“เออน่า กูถามมึงก็บอกมา”
“ก็แล้วทำไมต้องบอกด้วยล่ะ”
“บอกมาสิวะ อย่าเล่นตัว เดี๋ยวกูก็จูบเข้าให้”
ผัวถามนิดถามหน่อยทำเป็นเล่นลิ้น ถ้าไม่ติดว่าต้องใช้ประกอบพิธีพี่เจิดไม่ถามให้เมื่อยปากหรอกโว้ย ถึงจะแอบอยากรู้อยู่
บ้างก็เถอะ
“จะ จูบอะไรของมึงเล่า ฮึ่ย!! วันที่สิบกุมภา พอใจรึยัง น่าเบื่อจริงๆเลยมึง”บอกเสียงดังพลางเขยิบหนีพี่เจิดไปซะไกล
แล้วถ้าพี่เจิดเขยิบตามไปตอนนี้มันจะหนีไหมวะ แล้วมันจะสงสัยไหมว่าทำไมพี่เจิดต้องขยับตาม โอ๊ย!! แค่คิดพี่เจิดล่ะ
ปวดกบาล ได้แต่ถอนหายใจ
เดินถอยทัพเอาถ้วยขนมที่กินจนเกลี้ยงมาเก็บในครัว จะไปเอาเส้นผมที่ติดกับหวีก็ไม่ได้ เพราะพ่อหมอดันกำชับเอาไว้ว่า
ต้องดึงสดๆจากหัวเท่านั้น
ไม่ใช่ว่าจะเชื่อจะงมงายหรอกนะ แต่อย่างน้อยก็พอมีทางเลือกให้พี่เจิดได้ลุ้นอยู่บ้าง
“เฮ้ออออ”ว่าแล้วก็ถอนหายใจอีกรอบ
กลัวเหลือเกินว่าไอ้มะลิมันจะจับได้ ชะโงกหน้าออกจากครัวไปก็เห็นมันนั่งดูทีวีอยู่ท่าเดิม หัวก็คิดแผนว่าจะดึงผมมันออก
มาจากหัวยังไงดีไม่ให้มันสงสัย
“มาทำอะไรลับๆล่อๆในครัวล่ะไอ้หนู!!”
“อะ เฮ้ย!! พ่อ!!”พี่เจิดสะดุ้งไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบแล้วในวันนี้
หันไปก็เจอว่าพ่อพี่เจิดยืนอยู่ข้างหลัง มือก็ถืออุปกรณ์อาบน้ำบรรดาไก่ชนตัวละหลายแสนเตรียมจะเก็บ
“ถามว่ามาทำอะไรลับๆล่อๆอยู่ในครัวคนเดียว”
“ปะ เปล่านี่จ๊ะ ว่าแต่พ่อเถอะ เดินมาไม่ให้ซุ่มให้เสียง”
“ให้ซุ่มให้เสียงอะไรกันเล่า ก็เอ็งเอาแต่แอบมองเมียอยู่ล่ะสิไอ้หนู ถึงได้ไม่สนใจว่าพ่อเดินโครมๆเข้ามาทางหลังบ้าน”
“คะ ใครแอบมองมัน ฉันไม่ได้แอบมองมันสักหน่อย”ว่าแล้วก็แก้ตัวทำเป็นยืดตัวตรงไม่รู้ไม่ชี้
“ทำเป็นพูดดีไปเถอะ อีกหน่อยคลานเข้าหาเมียเมื่อไรพ่อจะหัวเราะให้ฟันร่วง”
“อย่างฉันน่ะนะ ไม่มีทางจะคลานเข้าหามันหร๊อก มีแต่มันต่างหากที่จะต้องคลานเข้าหาฉัน มาเรียกฉันว่าพี่เจิดจ๊ะพี่เจิดจ๋า”
“เออ แล้วพ่อจะรอดูก็แล้วกัน”
“รอดูเลย นับตั้งแต่วันพรุ่งนี้ไป อีลิมันเป็นลูกไก่ในกำมือฉันแน่”
แต่ตอนนี้ให้พี่เจิดได้หาวิธีเอาผมมาจากหัวมันให้ได้ก่อนเถอะ คิดแล้วก็กลุ้มใจ
ไม่รู้ว่าวันนี้มันวันอะไร ยิ่งเป็นหน้าหนาวด้วย เผลอๆแป๊บเดียวตะวันก็ตกดิน ป่านนี้แล้วพี่เจิดก็ยังไม่ได้เส้นผมของไอ้มะลิ
มาเลย ได้แต่เดินตามมันต้อยๆไปรอบบ้าน
“จะตามกูมาทำไม กูจะทำกับข้าว มึงนี่วันนี้แปลกๆนะ”ไอ้มะลิไม่พูดเปล่า แต่หันมาหรี่ตาจ้องจับผิดใส่ให้พี่เจิดร้อนตัวอีก
ต่างหาก โชคดีที่วันนี้ป้าช้อยไม่อยู่ ไม่อย่างนั้นพี่เจิดคงถูกป้าช้อยจับผิดอีกคน
“แปลกๆอะไร๊ กูแค่จะมาช่วยมึงทำกับข้าวไง”
“ก็นี่ไงที่ว่าแปลก ออกไปเลยไป อยู่ไปก็เกะกะ”
“อะ เออน่า กูบอกจะช่วยก็จะช่วยสิ”ว่าพลางขยับเข้าไปใกล้จะแย่งมีดออกจากมือมัน
“เอ๊ะ!! มึงนี่ จะไปดีดีหรือต้องให้เสียเลือด กูบอกว่าเกะกะก็เกะกะสิ”ไอ้มะลิกดเสียงต่ำ ยกมีดขึ้นมาขู่ให้พี่เจิดได้กลืน
น้ำลายลงคออึกใหญ่กับคมมีดที่สะท้อนแสงไฟอยู่รำไร
“มะ…มึงนี่นับวันยิ่งปีกกล้าขาแข็งนะอีลิ นี่มึงกล้ายกมีดขึ้นมาขู่กูเลยเรอะ!!”
“ก็มึงมันเกะกะ”
“หนอย!!”
นี่มันก็จะหมดวันแล้วนะ ไม่ได้การ!! ไม่ได้ในเมื่อใช้วิธีขโมยตอนเผลอไม่ได้ ก็มีแต่วิธีนี้แหละวะ ดึงมันเอาโต้งๆจากหัวมัน
เลยเนี่ยแหละ!!
“โอ้ยยยยยย!! ไอ้เจิด กูเจ็บ!!”ไอ้มะลิมันร้องตกใจเสียงดังเมื่อพี่เจิดดึงผมมันจนหัวมันเอียงมาตามแรงดึง
“ยากดีนัก!! บังอาจเอามีดมาขู่กูเรอะ”
ระหว่างที่ดึงผมมัน อีกมือก็แย่งมีดในมือมันโยนทิ้งไว้บนเขียง ไม่อย่างนั้นมันคงจะเอามีดฟันหัวพี่เจิดแน่
“โอ้ย!! ปล่อยกูนะไอ้เจิด มึงเล่นอะไรของมึงเนี่ย!! กูเจ็บ”
“วันนี้แหละ จะเป็นวันสุดท้ายที่มึงจะได้ปากดีกับกู!!”
ปึ๊ด!!
ยื้อหัวมันอยู่นานจนแน่ใจว่าได้ผมมันแน่ๆ พี่เจิดก็ดึงมือออกมา ก้มมองก็เห็นผมหลุดติดมือมาอยู่หลายต่อหลายเส้น สมน้ำ
หน้ามัน!! อยู่ดีๆไม่ชอบ ชอบให้รุนแรง รอกลับมาก่อนเถอะ ขี้คร้านจะคลานเข่ามาชวนพี่เจิดขึ้นเตียง
“ไอ้มิ่ง ไปเตรียมรถ!!”
จะรอช้าทำไม ในเมื่อได้เส้นผมมันมาแล้ว วันเดือนปีเกิดก็พร้อมสรรพ เอาไปให้พ่อหมอมันคืนนี้แหละว่า ขืนไม่ทำให้
เรียบร้อยไปในคืนนี้มีหวังพี่เจิดคงไม่ได้นอนในห้องดีดี ดึงผมมันติดมือมาหลายเส้นขนาดนี้ไอ้มะลิมันคงจะไล่พี่เจิดไปนอนกับไอ้
แดงแน่
----------------------------------------------------------------------------------------
อยากมองที่เล่ห์กลของพี่แกมากกว่าโดนหลอก ว่าคนอื่นปากแข็งแต่ตัวเองก็พอๆกัน
ตอนหน้ามาดูกันว่าใครกันแน่ที่จะบอกรักก่อน (ต้มน้ำรอเลย)
ช่วงนี้อาจจะไม่ได้มาบ่อย เพราะต้องรวมเล่ม "กุหลาบซ่อนหนาม" แต่จะมาให้ทุกวันเสาร์นะ รอกันด้วยนะคนดี