ต้อนรับเทศกาลกินเจ ด้วยตอนพิเศษ

--------------------------------------------------------------------------------------------------
ตอน....ถือศีล...กินเจ อากาศยามเช้าช่างสดชื่น หยาดน้ำค้างจากเมื่อคืนยังเกาะอยู่ตามยอดไม้ ดอกไม้สีสดข้างหน้าต่างชูช่อรับแสงแดด อวดกลีบดอกสีสวยจนอดก้มลงไปสูดกลิ่นหอมอ่อนๆ ไม่ได้
“ทำอะไรน่ะพาย”เสียงขัดจังหวะอารมณ์สุนทรีย์ดังขึ้นเบื้องหลัง ทำเอาบรรยาศหวานๆ ที่ผมกำลังสร้างขึ้นแตกสลายไปหมด
“ดมดอกไม้”
“แล้วชะโงกหน้าอะไรออกไปขนาดนั้น เดี๋ยวก็ลื่นตกลงไปหรอก”
“ไม่ได้ซุ่มซ่ามขนาดนั้นซะหน่อย”
“เถียงอีกๆ ข้าวปลาไม่กินรึไง มาเร็วๆ พี่หิวแล้ว”เขาไม่พูดเปล่า เดินมาคว้าเอวผมแล้วกึ่งลากกึ่งแบกไปจนถึงโต๊ะอาหาร
“ตื่นสายพายไม่เห็นบ่นเลย ทีอย่างนี้ทำมาเร่ง”ผมก็บ่นๆ ไปงั้นแหล่ะ ยังไงก็นั่งบนหน้าอาหารแล้ว
“ขี้บ่นนะเรา แล้ววันนี้จะออกไปไหน เห็นเตรียมรถไว้”
“ไปตลาด”
“ไปซื้ออะไรบ่อยๆ วันก่อนเพิ่งไปเองนี่ ทำไมไม่ซื้อทีเดียวให้มันเยอะๆ จะได้ไม่ต้องไปบ่อย”
“โหย ขี้บ่น จะไปซื้อของไว้ทำอาหารเจ คราวก่อนเขายังมีขายไม่ค่อยเยอะเลยไม่ได้ซื้อ”
“อะไร จะกินเจเหรอ พี่ไม่กินนะบอกไว้ก่อน กินไปคนเดียว”
“ก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่พายไม่ทำกับข้าวเผื่อนะ ไปกินที่ครัวใหญ่เอง”
“ได้ไงล่ะ กินที่บ้านนี่แหล่ะ ทำให้ด้วย เอากับข้าวอย่างสองอย่างก็พอ”
“ไม่ได้ก็คือไม่ได้ พายถือศีลด้วย พายไม่กินเนื้อสัตว์แล้วจะให้พายทำกับข้าวให้พี่ได้ไง”
“อ้าวเฮ้ย อย่างนี้ก็แย่ดิ งั้นก็ไม่ต้องกินหรอก เรื่องมาก”
“ไม่ จะกิน พี่นั่นแหล่ะอย่าเรื่องมาก ไปกินที่ครัวใหญ่เอง อย่าให้เขามาส่งที่บ้านนะ พายถือ แล้วช่วงนี้พายจะไปนอนห้องเล็กด้วย”
“เฮ้ย”
“ฮ้ง เฮ้ย อะไรล่ะ ไม่สนล่ะ”ไม่สนล่ะครับ ใครกินไม่กินไม่รู้ แต่ผมจะกินเจ ไปคุยกับพวกพี่ๆ ในรีสอร์ทเขาก็บอกว่ากินเหมือนกัน แถวนี้หาร้านอาหารเจยาก ต้องเข้าไปในเมืองหรือไม่ก็ในตลาด ผมเลยชวนให้ทำแล้วเอามากินด้วยกัน จะได้มีหลายชนิด กะว่าจะเปิดครัวทำอาหารเจแจกเหมือนกันนะเนี่ย เอาไว้ปรึกษาพี่ๆ พรุ่งนี้ดีกว่า
ผมให้ลุงคนขับพามาจอดที่ตลาดแล้วตรงไปร้านที่ผมเคยสั่งเครื่องปรุงอาหารเอาไว้ ร้านนี้มีโปรตีนเกษตรหลายรูปแบบ คล้ายกับเนื้อสัตว์จริงๆ เลยนะครับ ผมมาคุยกับคุณป้าคนขายไว้คราวก่อนว่าอยากทำ แต่...กลัวทำแล้วไม่อร่อย ป้าเขาเลยบอกว่าจะเอาหนังสือทำอาหารเจมาให้ผม ใจดีสุดๆ สมกับที่ผมมาอุดหนุนบ่อยๆ ผมกะว่าจะซื้อไปไว้เยอะๆ กินเลยเทศกาลไปเลย ได้บุญแล้วก็สุขภาพดี แค่ปีละครั้งจะเป็นอะไรไป
หลังจากกลับมาก็เตรียมนำของเก็บเข้าตู้ แต่...พอเปิดตู้เย็นเท่านั้นล่ะครับ มีทั้งเบียร์เอย ไวน์เอย เต็มตู้ไปหมด แล้วจะให้เอาของที่จะทำอาหารเจแช่รวมกับพวกนี้น่ะนะ...ไม่ไหวๆ ผมก็เลยจัดการ...ย้ายออกไปวางไว้ที่อื่น
“พาย.....พาย....”เสียงเรียกดังลั่นบ้าน ทำเอาผมที่กำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่หลังบ้านสะดุ้งเลยครับ
“มีอะไร ตกใจหมด”
“เบียร์พี่หายไปไหนหมด เราแอบกินเหรอ”
“บ้าน่ะสิ พายย้ายไปเก็บไว้ในตู้เก็บแก้วต่างหาก”
“อ้าว แล้วไปไว้นั่นมันจะเย็นมั้ย”
“ก็ไม่เย็นไง”
“ก็ใช่ไง แล้วไปใส่ไว้นั่นทำไม พี่ชอบกินแบบเย็นๆ เป็นวุ้นก็รู้อยู่”
“เอาน่า ไม่วุ้นสักพักไม่เป็นไรหรอก อยากเย็นก็ใส่น้ำแข็งสิ”
“แล้วย้ายที่ทำไม ไวน์อีก”
“ก็พายไม่อยากให้มันปนกับอาหารเจนี่”
“แค่นี้เนี่ยนะ มันไม่ได้ผสมกันซะหน่อย เรื่องมากจริง”
“ก็พายถือนี่”
“ฮึ่ยยย.....เรื่องมากว่ะ รู้ตัวรึเปล่า คนอื่นเขาไม่เห็นถือเลย”
“ก็ช่างคนอื่น ไม่มีอะไรแล้วใช่มั้ย พายจะไปอ่านหนังสือต่อ แล้วอย่าย้ายพวกนั้นกลับไปในใส่ตู้เย็นนะ ไม่งั้นนะ....”
“ไม่งั้นอะไรๆ”
“ไม่งั้น....พายจะไปนอนบ้านใหญ่”
“.........จะไปทำอะไรก็ไปเลยไป”คำพูดเหมือนขับไล่ แต่....ไล่เพราะสู้ไม่ได้ก็ทำให้ผมเดินอมยิ้มกลับไปนั่งอ่านหนังสืออย่างมีความสุข
ผมเริ่มกินเจมาได้เป็นวันที่สาม นุ่งขาวห่มขาวด้วย รู้สึกว่าตัวเองสะอาดบริสุทธิ์มากๆ เหมือนได้ชำระจิตใจร่างกายจริงๆ แต่จะรู้สึกดีกว่านี้ ถ้าไม่มีเสียงคอยรบกวนเช้าเย็นเรื่องเดิมๆ
วันแรก....
“ไหนจะกินเจ แล้วนี่อะไร แกงจืดลูกชิ้นมันเจเหรอ”
“อย่ามามั่ว นี่มันโปรตีนเกษตร ไม่รู้จักล่ะสิ เชยยยยยย”
“ไหนชิมดิ๊.........โหยย....รสอะไรของพายเนี่ย จืดสนิท ไม่เห็นอร่อยเลย พี่ไม่กินด้วยหรอกนะ”
“ไม่กินก็อย่ากินดิ โน่น ไปกินที่ครัวใหญ่เลย”
“.......ไปอยู่แล้ว ไม่ต้องไล่หรอก”
วันที่สอง….
“อะไร วันนี้ก็ใส่ชุดขาวอีกแล้วเหรอ”
“ก็พายถือศีลด้วยนี่”
“แล้วนั่นอะไรอีกล่ะ”
“น้ำผักรวม ชิมมั้ย พายปั่นเองเลยนะ”
“สีสรรโคตรน่ากลัว เขียวอื๋อแบบนี้ยังกินลงอีก”
ล่าสุด เมื่อเช้านี้....
“วันนี้จะไปเลี้ยงรับพนักงานใหม่ ไปด้วยกันนะ”
“ไม่ไป พายถือศีลอยู่นะ ให้ไปอยู่สถานที่แบบนั้นได้ไง”
“อ้าว ไปแต่ไม่ต้องกินก็ไม่ได้เหรอ”
“ไม่รู้ แต่พายถือ”
“ถือบ้าถือบออะไรเยอะแยะ เต็มมือไปหมดแล้วมั้ง”
นั่นล่ะ....คำกล่าวสุดท้ายก่อนจะออกจากบ้านไปกินข้าวที่ครัวใหญ่ ผมว่าจะได้บุญน้อยลงเพราะต้องต่อล้อต่อเถียงกับเขาทุกวันนี่แหล่ะ แต่...ดีหน่อยที่วันนี้เขาไม่อยู่ ไปกินเลี้ยงกับไปกินเหล้า มันก็ความหมายเดียวกัน ฉะนั้นคืนนี้ผมก็จะได้ถือโอกาสไปนั่งสมาธิ สวดมนต์เงียบๆ ในห้องเล็กตามลำพังได้สักที
ผมเชื่อแล้วครับว่าการถือศีลกินเจทำให้จิตใจและร่างกายปลอดโปร่ง ยิ่งได้นั่งสมาธิก่อนนอนยิ่งรู้สึกสบายตัว เบาสบายเหมือนลอยอยู่ในอากาศ.....ลอย.....ลอยอยู่
“เฮ้ย!! พี่จะทำอะไร อุ้มผมออกมาจากห้องทำไม”นึกแล้วว่าทำไมรู้สึกเหมือนกำลังลอย แต่กลับอึดอัดขยับตัวไม่ได้
“ก็จะพาไปนอนไงครับ”
“ไม่เอานะ พายบอกแล้วไงว่าพายถือศีลอยู่ ปล่อยๆๆๆ”
“ฮื่อออ อย่าดิ้นน่ะ เดี๋ยวก็ตกหรอก”แรงกระชับที่หัวไหล่และข้อพับพาแน่นขึ้น แต่ก็ไม่ได้เปลี่ยนทิศทางหรือเดินช้าลง
“ไม่เล่นแบบนี้นะ พายไม่อยากผิดศีล”
“ผิดตรงไหนล่ะ มีข้อไหนเขาห้ามผัวเมียนอนด้วยกันเหรอ นอนกับผัวตัวเองไม่ใช่ผัวคนอื่นจะผิดได้ไง”
“ไม่รู้ล่ะ พายถือ”ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ไม่ค่อยชอบคำนี้เลย แต่....ด่าไม่ได้ เดี๋ยวบาป
“ถือได้ถือไป ยังไงพี่ก็อุ้มมาจนถึงเตียงแล้ว”ใช่...ถึงแล้วจริงๆ เพราะเขาพูดจบ หลังผมก็สัมผัสกับเตียงนอนนุ่มๆ ทันที
“อย่านะ ไม่งั้นพายหนีไปนอนบ้านใหญ่จริงๆ ด้วย”
“หนีไป ก็ตามได้ ไม่กลัว”
“ไม่เอานะ พายเพิ่งกินเจได้สามวันเอง อีกแค่หกวันพี่ก็ทนหน่อยดิ ขอแค่นี้ไม่ได้รึไง”
“แค่นี้อะไร ก่อนจะกินเจพี่ไปดูงานที่กรุงเทพฯ พายก็ไม่ไปกับพี่ รวมๆ แล้วมันจะครบอาทิตย์แล้วนะ พี่ต่างหากที่ต้องบอกว่าขอแค่นี้ไม่ได้รึไง”
“ก็แค่เก้าวันเองอ่ะ ปีละเก้าวันเอง”ผมบ่นแกมน้อยใจ แต่คนที่คล่อมด้านบนก็ไม่ได้หยุดวุ่นวายกับสาบเสื้อหรือขอบกางเกงผมเลยสักนิด
“อยากกินต่อก็กินไปสิ พี่ไปห้ามอะไรพายรึไง สามวันนี้ก็ยอมให้แยกห้องนอนแล้วนะ มีอย่างที่ไหนตัวเองสุขกาย แต่คนอื่นเขาทรมานน่ะ ทำบาปนะ ไม่รู้รึไง”
“บ้า ไม่เห็นจะเกี่ยว”
“ไม่รู้ล่ะ พี่ถือ”
“อย่ามาตลก ปล่อยพายเลย พายจะกลับห้อง รอไปเลยอีกหกวัน นี่เพิ่งสามวัน...เลขสามเนี่ย ดูออกมั้ย”ผมชูนิ้วตามจำนวนที่บอกให้ดูจนแทบชิดกับหน้าผาก
“อ้อ...สามใช่มั้ย ได้....เดี๋ยวคืนนี้จัดให้สามยกเลย ชดเชยสามวันที่ผ่านมาเพราะพายทำบาปพี่สามวัน เดี๋ยวพี่ล้างบาปให้”
“เฮ้ย ไม่เกี่ยวกัน”
“เกี่ยวสิ ช่วยพี่น่ะได้บุญเยอะนะ แล้วพายอยากกินเจถือศีลอีกกี่วันตามสบายเลย เดี๋ยวพี่ช่วยล้างบาปให้ทุกวัน”
“ม่ายยยยยย”
*************จบ***************
