[เรื่องสั้น] คนน่าอิจฉา : Special ใครกันที่น่าอิจฉา 11/11/2559
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [เรื่องสั้น] คนน่าอิจฉา : Special ใครกันที่น่าอิจฉา 11/11/2559  (อ่าน 10592 ครั้ง)

ออฟไลน์ blue colour

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 50
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะ ครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรัก ชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้าม แจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะ ปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของ แต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้าม จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิด เดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม

6.การ พูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอม ให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้าม ลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อ ขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ด นิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยาย ที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง

16.นิยาย เรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วน หรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมด ออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้าม แจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

18.ใคร จะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17

เวปไซต์ แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่าง ประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

                                 
...................................................................................................




คนน่าอิจฉา
[/b][/color]


                             
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-11-2016 20:55:00 โดย blue colour »

ออฟไลน์ blue colour

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 50
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
คนน่าอิจฉา
«ตอบ #1 เมื่อ09-10-2016 03:36:16 »

“อืมมมมมมม”
        เสียงครางงึมงำด้วยความเกียจคร้านดังออกมาจากคนที่นอนซุกตัวอยู่ในอ้อมแขนของเขาใต้ผ้านวมผืนหนา ไหล่ขาวเนียนที่โผล่พ้นผ้าออกมาทำให้อดใจที่จะใช้มือสัมผัสไม่ได้ ผิวเนียนเรียบลื่นมือจนเผลอกดจมูกลงบนหัวไหล่แรงๆทีหนึ่งแอบสูดดมกลิ่นกายหอมสบู่อ่อนๆ


    แสงแดดจ้าที่ลอดผ่านผ้าม่านแสดงให้รู้ว่าเวลาได้ล่วงเข้าวันใหม่มานานแล้ว แต่เพราะวันนี้เป็นวันหยุดเขาจึงไม่ได้เร่งรีบอะไรแม้ว่าจะสายมากแล้ว เหลือบไปดูนาฬิกาบนหัวเตียงก็เห็นว่าเข็มสั้นได้ชี้อยู่ในตำแหน่งเลขสิบเอ็ดแล้ว และได้เวลาที่จะต้องปลุกคนขี้เซาให้ตื่นสักทีถึงจะอยากปล่อยให้อีกคนนอนต่ออีกหน่อยก็ตามแต่นี่ก็ใกล้จะเที่ยงแล้ว ตอนแรกก็กะจะเข้ามาปลุกเลยหลังจากที่อาบน้ำเสร็จแล้ว แต่ไม่รู้ว่าทำไมมันถึงลงเอยด้วยการขึ้นมานอนกอดคนรักของตัวเองอยู่บนเตียงแบบนี้ มื้อเช้าที่ควรจะกินก็ยังไม่ได้กินจึงจำเป็นต้องปลุกให้ตื่นขึ้นมากินข้าวเสียก่อนไม่อย่างนั้นอาจจะปวดท้องเอาได้ง่ายๆ


        “พาย”เอ่ยเรียกอีกคนเบาๆ

    พาย นั่นแหละครับชื่อ แฟนของเขา ขอย้ำนะครับ ของเขา เพราะฉะนั้นใครก็ห้ามยุ่งเขารักเขาหวงของเขา

        “..........”

        “พายครับ” คราวนี้ไม่เพียงแค่เอ่ยเรียกใช้ริมฝีปากสัมผัสที่ขมับของคนขี้เซาพร้อมกับอมยิ้มด้วยความสุข การที่ตื่นมาแล้วเจอคนรักของตนเองนอนอยู่ในอ้อมกอดของตัวเองนับเป็นความฝันอย่างหนึ่งของเขานับตั้งแต่ได้เจอคนคนนี้ และตอนนี้ความฝันของเขามันก็เป็นความจริงแล้ว จะไม่ให้มีความสุขก็คงจะเป็นไปไม่ได้

        “พายครับ ตื่นได้แล้วนะ”

        “อืมมมมมม” อีกคนขานรับแต่ก็ไม่ยอมขยับตัวหรือแม้แต่จะลืมตาขึ้นมามองหน้ากัน

        “อืมแล้วก็ลุกสิครับพาย” พูดเสร็จก็จูบลงไปที่ริมฝีปากของคนรักเบาๆแล้วผละออก “นี่มันจะเที่ยงแล้วนะ ลุกขึ้นมากินข้าวก่อนแล้วค่อยนอนต่อเดี๋ยวปวดท้องนะครับ”




         ในที่สุดคนขี้เซาก็ยอมลืมตาขึ้นมาสักที เปลือกตาบางค่อยๆปรือขึ้นแต่ก็ต้องปิดลงอีกครั้งเพราะยังสู้แสงไม่ได้ และค่อยลืมตาขึ้นมาใหม่ช้าๆ ภาพที่เห็นมันน่ารักน่าเอ็นดูจนเต้องหัวเราะออกมาเบาๆ ก้มลงไปหอมแก้มคนที่ยังคงนอนอยู่ในอ้อมแขนของตัวเองแรงๆสูดเอากลิ่นกายของคนรักเข้าไปเต็มปอด

        “อรุณสวัสดิ์ครับ” พูดพร้อมกับส่งยิ้มหวานไปให้

        “อรุณสวัสดิ์อะไรเล่า นี่มันสายแล้วนะ” คนให้อ้อมแขนอบกลับมาด้วยเสียงแหบๆ เพราะเพิ่งตื่นของเจ้าตัว

        “รู้ว่าสายแล้วก็ลุกไปอาบน้ำสิครับเร็ว เดี๋ยวหนึ่งจะทำของโปรดไว้รอ”

        “อืม...แต่ยังง่วงอยู่เลย” พูดแล้วก็หลับตาลงอีกรอบแสดงให้เห็นว่าง่วงจริงๆ “นอนต่ออีกนิดไม่ได้เหรอ”

         “กินข้าวเสร็จค่อยมานอนต่อนะ เดี๋ยวปวดท้องหนึ่งเป็นห่วงนะครับ” พูดออกไปด้วยความเป็นห่วง แต่ไม่รู้ทำไมรู้สึกว่าน้ำเสียงตัวเองมันเหมือนกำลังออดอ้อนอีกคนอยู่   ไม่มีเสียงตอบกลับมา แต่คนขี้เซาก็ขยับตัวยกแขนทั้งสองข้างขึ้นคล้องคอเขาไว้แล้วรั้งเข้าไปหาทั้งที่ยังหลับตาอยู่ นั่นทำให้เขาขยับตัวเข้าไปชิดยิ่งกว่าเดิม รู้ตัวรึเปล่าว่ากำลังอ้อนอยู่ ได้แต่คิดแล้วก็อมยิ้มอย่างมีความสุข








    “อาบน้ำให้หน่อย” เสียงดังอู้อี้มาจากคนที่เอาหน้าซุกลงที่ซอกคอของเขาไม่ยอมลืมตาขึ้นสักที แรงขยับจากริมฝีปากและลมหายใจที่เป่ารดต้นคอทำให้อดขนลุกนิดๆไม่ได้พร้อมกับตัวที่เกร็งขึ้นเล็กน้อย ถ้ายังอ้อนอยู่แบบนี้เขาว่าอีกคนคงไม่ต้องกินข้าวแล้วละ กินเขาก่อนน่าจะดีกว่า

    “จะให้อาบให้ก็ลุกสิครับ...หรือจะให้อุ้มหือ”

    “...” ไม่มีเสียงตอบกลับมาจากคำถามที่ส่งไปให้ เงียบไปสักพักจนคิดว่าอีกฝ่ายหลับไปอีกรอบแล้วจริงๆ แต่ยัง
ไม่ทันที่จะเอ่ยถามอีกรอบ ก็มีเสียงตอบกลับมาเสียก่อน


    “อุ้มหน่อย” เมื่อได้ยินคำตอบที่ไม่ต่างจากที่คาดเอาไว้เท่าไหร่ เพราะคนรักของเขามักจะเป็นแบบนี้เสมอเวลาที่นอนไม่พอ โดยเฉพาะเวลาที่นอนไม่พอจาก...อืม ถึงจะไม่บอกก็พอรู้ใช่ไหมครับว่าจากอะไร ขยับตัวเล็กน้อยแล้วช้อนตัว
ร่างสูงโปร่งของคนรักที่ตอนนี้ไม่มีอะไรปิดบังร่างกายขาวเนียนไว้แม้แต่ชิ้นเดียว อุ้มกระชับเข้ากับอ้อมแขนของตัวเอง แล้วลุกเดินไปยังห้องน้ำ แค่เห็นร่างเปลือยของคนที่อยู่ในอ้อมแขนเต็มตาก็ทำให้ลมหายใจถึงกับสะดุดลงไปชั่วขณะ ร่องรอยสีกุหลาบช้ำที่ปรากฏอยู่ทั่วผิวเนียนไม่เว้นแม้กระทั่งต้นขาตอกย้ำถึงความร้อนแรงของเราสองคนที่เกิดขึ้นเมื่อคืนจนล่วงเลยถึงวันใหม่อีกหลายชั่วโมง ก็อยากจะปล่อยให้อีกคนพักล่ะนะแต่ใครใช้ให้ทำตัวน่ารักจนเขาอดทนไม่ไหวและไม่อยากจะหยุดกันล่ะ พยายามสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆเพื่อระงับอารมณ์ของตัวเอง นี่จะทดสอบความอดทนของเขาหรืออย่างไร เฮ้อออออ





   ถึงจะบอกว่าอีกคนสูงแต่ความจริงแล้วตัวของอีกคนบางมากเมื่อเทียบกับส่วนสูง แต่ก็ไม่ได้ถึงขนาดผอมแห้ง ต่างจากเขาที่ชอบออกกำลังกายเป็นประจำจนมีกล้ามเนื้อที่แข็งแรงพอที่จะไปอวดคนอื่นได้ ในขณะที่อีกฝ่ายแค่ชวนให้ออกไปวิ่งด้วยกันยังต้องอ้อนอยู่นานกว่าจะยอมไปด้วยกัน




    เมื่อเดินเข้าไปในห้องน้ำก็วางคนรักลงในอ่างอาบน้ำที่เต็มไปด้วยฟองสบู่ที่เตรียมไว้ก่อนที่จะเข้าไปปลุกอีกคน อีกฝ่ายสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อผิวกายสัมผัสกับน้ำและก็ยอมลืมตาขึ้นมาสักทีแม้จะยังเต็มไปด้วยความงัวเงียอยู่

    “จะอาบเองหรือจะให้หนึ่งอาบให้ครับ” เขาขยับตัวนั่งคุกเข่าลงที่พื้นข้างอ่างอาบน้ำ และเอ่ยถามอีกรอบหลังจากที่วางตัวคนรักลงไปในอ่างเรียบร้อย ถึงแม้อีกคนจะบอกให้อาบน้ำให้ตั้งแต่แรกก็เถอะ แต่ความจริงแล้วก็แค่พูดเล่นๆไปอย่างนั้นแหละครับ พอเอาเข้าจริงก็ไล่ให้เขาออกไปอยู่ดี มีแค่ไม่กี่ครั้งที่จะยอมให้อาบให้จริงๆและถึงจะบอกว่าอาบน้ำแต่มันก็ไม่เคยจบแค่ที่การอาบน้ำจริงๆสักที ก็ใครใช้ให้อีกฝ่ายน่ารักน่าฟัดกันล่ะมีหรือที่เขาจะอดใจไหว

    อีกคนตวัดสายตามองมาที่เขาดุๆ มันไม่ได้ดูน่ากลัวเลยสักนิดมันน่าหมั่นเขี้ยวจนอยากจะก้มลงไปฟัดแรงๆเสียมากกว่า



    “อาบเองได้ ออกไปเลย” ว่าเสียงสะบัดพร้อมกับหันหน้าหนีไปทางอื่น นั่นทำให้อดหัวเราะออกมาเบาๆไม่ได้ อะไรกันพอหายง่วงก็หยุดอ้อนไปซะอย่างนั้น

    “อะไรกันเมื่อกี้ยังบอกให้หนึ่งอาบให้อยู่เลย...พอไม่ต้องการก็ไล่กันเลยเหรอ” พูดอย่างเดียวไม่พอ ยังทำหน้าหงอยๆส่งไปให้ด้วย

    “ไม่ต้องทำหน้าแบบนั้นเลยนะ หนึ่งออกไปเลยพายจะอาบน้ำแล้ว”

    “ครับ หนึ่งออกไปก็ได้ แต่ขอรางวัลก่อน” ถ้าออกไปง่ายๆก็ไม่ใช่เขาแล้วล่ะ “นะครับนะ หนึ่งจะได้มีกำลังใจ ทำของโปรดอร่อยๆไว้รอพายไงครับ” ไม่ได้ตั้งใจที่จะอ้อนคนรักของตัวเองหรอกนะครับ แต่มันเป็นไปเองแบบอัตโนมัติแบบที่อีกฝ่ายชอบเรียกเขาว่า ลูกหมา อยู่เป็นประจำ ถึงจะถูกเรียกว่าลูกหมาเขาก็ไม่ได้ว่าจะไม่พอใจแต่อย่างใด ดีเสียอีกที่ได้เป็น ลูกหมาของพาย เพราะแค่อ้อนนิดอ้อนหน่อยพายก็ใจอ่อนยอมตามใจให้เสมอ







    “รางวัลอะไรไม่มีหรอก ไม่เกี่ยวอย่ามั่วนิ่มออกไปได้แล้ว” แต่ดูเหมือนการอ้อนครั้งนี้จะไม่เป็นผลแถมยัง
เอาแต่ไล่เขาออกไปอีก แต่นั่นก็กะเอาไว้แล้ว ที่จริงแล้วก็แค่อยากจะทวนความจำของคนรักเท่านั้นเพราะดูเหมือนอีกคนจะลืมอะไรบางอย่างไป

    “อืมมมม พายลืมอะไรรึเปล่าครับเช้านี้” เอ่ยเตือนอีกคนที่ดูเหมือนจะลืมอะไรไปหรือแกล้งลืมก็ไม่รู้นะครับ

    “เปล่านี่”

    “แต่หนึ่งว่าพายลืมนะ”

    “ลืมอะไร ไม่มี” พูดแล้วหลบตาแบบนี้แกล้งลืมชัดๆ

    “เหรอครับ ไม่ลืมอะไรเลยเหรอ”

    “ชะ...อื้อออ” ยังไม่ทันที่อีกคนจะพูดจบเขาก็ขยับเข้าไปใกล้ใช้ริมฝีปากของตัวเองปิดริมฝีปากบางน่าสัมผัสของคนที่อยู่ในอ่างอาบน้ำอย่างรวดเร็ว ใช้มือทั้งสองข้างจับหน้าของอีกฝ่ายไว้ไม่เปิดโอกาสให้ปฏิเสธสัมผัสที่มอบให้อย่างที่เรียกว่าอยากจะมอบให้แทบทุกเวลา

    “อ่อยยยย” คนที่ยังคงนั่งอยู่ในอ่างดิ้นไปมาเหมือนจะไม่ยอม นั่นทำให้เขาต้องละมือออกจากใบหน้าแล้วเลื่อนลงมากอดเอวบางไว้แน่น ในขณะที่ริมฝีปากก็พยายามที่จะบดเบียดแนบชิดกับริมฝีปากบางของคนตรงหน้ายิ่งกว่าเดิม เรื่องอะไรจะปล่อยกันล่ะ




    คนในอ้อมกอดเลิกดิ้นไปแล้ว แต่ก็ดูเหมือนจะไม่ยอมให้เขาล่วงล้ำเข้าไปมากกว่านี้ยังคงเม้มปากแน่น ทำให้ทำได้แค่บดเบียดริมฝีปากอยู่แค่ภายนอก ส่งสายตาออดอ้อนไปยังคนที่ยังคงเม้มปากแน่นและขมวดคิ้วมองจ้องมองมาทางเขาอยู่ ผละริมฝีปากออกมาเล็กน้อยแล้วมองหน้าอีกฝ่ายอย่างเต็มตา

    “นะครับ” กระซิบเสียงอ้อนติดริมฝีปากของอีกคน ขยับใบหน้าเข้าไปใกล้แล้วใช้ฟันขบกัดที่ริมปากบางของอีกคนเบาๆเหมือนเป็นการขออนุญาต

    “..........”

   “นะ”













    “อือ” เมื่อได้ยินคำตอบตามที่คาดหวังไว้เขาก็ไม่รอช้าที่จะบดเบียดริมฝีปากเข้าหาอีกครั้ง ดูดดึงบดคลึงกับริมฝีปากบางของอีกคนจนพอใจ ใช้ฟันขบกัดที่ริมฝีปากของอีกคนเบาๆอย่างหยอกล้อก่อนที่จะส่งลิ้นเข้าไปชิมความหวานในโพรงปากนุ่ม เรียวลิ้นเลาะเล็มสำรวจไปตามแนวฟัน ควานกวาดชิมความหวานไปทั่วโพรงปาก ก่อนจะเกี่ยวกระหวัดเข้ากับปลายลิ้นของอีกคนอย่างเชื่องช้า พยายามข่มอารมณ์ของตัวเองไว้ไม่ให้ทำอะไรผลีผลามจนเกินไป เสียงครางงึมงำในลำคอของอีกคนดังมาให้ได้ยินทำให้เขาเพิ่มความหนักหน่วงของสัมผัสที่มอบให้ บดเบียดริมฝีปากเข้าหาอีกฝ่ายร้อนแรงยิ่งกว่าเดิมอย่างทนไม่ได้ คนอะไรขี้ยั่วซะจริง










    “อืออ...อื้อออออ” ยิ่งรสจูบทวีความร้อนมากขึ้นเท่าใด เสียงครางของอีกคนก็ดูเหมือนจะเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น เสียงที่ทำให้เขาครอบครองริมฝีปากของอีกฝ่ายอย่างคนหิวกระหายพยายามที่จะหาน้ำมาหล่อเลี้ยงชีวิตของตัวเอง เสียงที่เขาชอบใจเมื่อได้ยิน เสียงที่เขามีสิทธิ์ที่จะได้ฟัง คนเดียว

    “อืมมม” คนในอ้อมกอดเริ่มที่จะตอบสนองต่อสัมผัสที่มอบให้ใช้ลิ้นตอบโต้เกี่ยวกระหวัดกลับมา ทำให้เขาอดที่จะครางออกมาด้วยความพึงพอในการกระทำนั้นไม่ได้


    “อื้อออ” ริมฝีปากของเราสองคนแนบชิดชนิดว่าแม้แต่อากาศก็ผ่านไปไม่ได้ ลิ้นก็ยังคงดูดดึงพัวพันกันอยู่อย่างไม่มีใครยอมใคร จนจากตอนแรกที่ตั้งใจจะให้เป็นจูบที่นุ่มนวลกลายเป็นจูบที่ทวีความเร่าร้อนขึ้นเรื่อยๆอย่างห้ามไม่ได้ ไม่รู้ที่เมื่อไหร่อีกคนกอดเขาเสียแน่นรู้ตัวอีกทีก็ตอนที่รู้สึกเจ็บนิดๆเหมือนจากเล็บที่จิกอยู่ที่แผ่นหลังของตัวเอง ในขณะที่ปากทำงานก็ไม่ปล่อยให้มือทั้งสองว่างงานลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลังเนียนลื่นมือของอีกฝ่ายไปมา มือข้างหนึ่งเลื่อนมาข้างหน้าลูบไล้ไปที่แผ่นอกบางที่เขาชอบ จนไปสัมผัสเข้ากับตุ่มไตที่เริ่มชูชันอดไม่ได้ที่จะใช้นิ้วขยี้ลงไปเบาๆแต่นั่นก็มากพอให้อีกคนสะดุ้งและเพิ่มแรงจิกที่แผ่นหลังมากยิ่งกว่าเดิม อ่าชักจะอยากทำมากกว่าจูบแล้วสิ


    “อะ อื้ออ” เสียงครางอื้ออึงของคนรักดังที่อยู่ไม่ไกลเลยทำให้อะไรๆเริ่มที่จะรู้สึกมากขึ้น ส่วนกลางลำตัวเริ่มที่ร้อนขึ้นมาถ้าปล่อยไปแบบนี้เขาคงหยุดไม่ได้แล้ว ดูเหมือนอีกคนจะรู้ดีถึงเรื่องนี้จึงเริ่มประท้วงด้วยการทุบหลังเขาเบาๆให้ปล่อย

    “อื้อออ อ่อยยยย”คนในอ้อมกอดเขาพูดอยู่ในลำคอทั้งที่ริมฝีปากของเรายังไม่ผละออกจากกัน ก็ไม่อยากจะปล่อยหรอกนะแต่หากไม่ปล่อยเขาคงหยุดตัวเองไม่ได้แล้วและคงต้องถูกคนรักของตัวเองงอนไปอีกหลายชั่วโมง ทั้งที่เมื่อคืนก็เอาแต่ใจกับคนรักของตัวเองมาทั้งคืนแล้วแท้ๆแต่กลับไม่เคยรู้สึกพอสักที แบบนี้จะเรียกว่าทั้งรักทั้งหลงคนรักของตัวเองจนโงหัวไม่ขึ้นอย่างที่พวกเพื่อนของเขาชอบแซวอยู่เป็นประจำก็ได้





    “แฮ่กๆ” ทันที่ที่เขายอมผละริมฝีปากออกมาอีกคนก็รีบสูดอากาศเข้าปอดทันที แถมยังหอบจนตัวโยนอีก เขายังไม่ยอมผละออกห่างใช้ริมฝีปากคลอเคลียไปทั่วใบหน้าของคนตรงหน้าจากแก้มเนียนนุ่ม ระเรื่อยไปถึงหน้าผาก เปลือกตาบาง จุ๊บลงไปที่ปลายจมูกโด่งเบาๆทีหนึ่ง และมาหยุดอยู่ที่ริมฝีปากบางที่เพิ่งได้สัมผัสไปอีกครั้งกดย้ำสัมผัสลงไปอย่างแผ่วเบาแล้วผละออก ดวงตาฉ่ำเยิ้มด้วยแรงอารมณ์ของคนตรงหน้าทำให้อยากจะรั้งเข้ามาจูบอีกสักหลายๆครั้ง



    อีกคนซบหน้าลงที่ซอกคอของเขาเหมือนยังไม่มีแรงพอที่จะพยุงตัวเองขึ้น ใช้โอกาสนี้ในการสัมผัสผิวเนียนไปทั่วอย่างย่ามใจว่าคงยังไม่มีแรงมาห้ามเขาแน่ๆ ใช้มือสำรวจร่างกายของอีกฝ่ายจนพอใจ เชยคางของอีกคนให้เงยหน้าขึ้นมาและกดจูบย้ำลงไปริมฝีปากบางหนักๆสองสามทีอย่างหมั่นเขี้ยว โน้มหน้าลงไปซุกไซร้ที่ซอกคอที่มีกลิ่นหอมเฉพาะตัวของออกฝ่าย เป็นกลิ่นที่ทำให้เขาเสพติดจนขาดไม่ได้ ริมฝีปากหนาดูดดึงขบเม้ม ฟันคมขบกัดที่ผิวเนื้อบางตรงต้นคอไม่เบานักส่งผลให้คนในอ้อมกอดสะดุ้งเบาๆอย่างไม่ทันตั้งตัว ริมฝีปากระเรื่อยไปตามต้นคอสร้างรอยประทับตีตราว่าคนๆนี้เป็นของเขา ของเขาเพียงคนเดียว





    “หวาน” กระซิบบอกเสียงเบาพร้อมกับส่งสายตาหวานเชื่อมไปให้

    “หวะ หวานอะไรเล่า” พูดจบก็รีบก้มหน้าลงทันที แต่ก็ยังเห็นว่าใบหูของอีกฝ่ายแดงแค่ไหน

    “พายไง หวานไปหมดเลย หวานจนอยากกินไปทั้งตัว” เอ่ยหยอกเย้าให้อีกคนเขินหนักยิ่งกว่าเดิม แต่นั่นมันก็ไม่ได้เป็นเรื่องโกหกเลยที่อีกฝ่ายนั้นหวาน หวานจนอยากจะกินไปทั้งตัวเลยจริงๆ ดูเหมือนว่าคำพูดนั้นจะส่งผลคนรักของเขาเขินจนไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมาง่ายๆ อดที่จะยิ้มอย่างเอ็นดูไม่ได้




    ที่จริงแล้วพายนั้นอายุมากกว่าเขาถึงสามปี อีกคนมักจะเป็นผู้ใหญ่อยู่เสมอในเวลาปกติ มีแค่เขาเท่านั้นที่สามารถเห็นอีกฝ่ายในมุมที่คนอื่นไม่เคยเห็น และเขาก็พอใจที่มันเป็นอย่างนั้น ถ้าวันหนึ่งคนที่ก้มหน้าเขินอยู่ในอ้อมแขนเขาตอนนี้ไปนั่งทำหน้าเขินใส่คนอื่นก็คงเป็นเขานี่แหละที่จะอกแตกตายด้วยความหึงและหวง







   “ออกไปได้แล้ว” เมื่อตั้งหลักได้ก็เงยหน้าขึ้นมาเอ่ยปากไล่ทันที พร้อมกับดันตัวเองออกห่าง

    “ไปก็ได้ครับ” ถึงแม้จะเสียดายโอกาสที่จะสัมผัสคนรักอีกครั้งแต่เขาก็ยอมออกไปง่ายๆ เพราะนี่ก็ใกล้เที่ยงแล้ว แต่เราทั้งสองคนยังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลยและเขาก็กลัวอีกฝ่ายจะปวดท้องไปเสียก่อน

    “...”

    “เดี๋ยวหนึ่งทำอาหารรอนะครับ” เขาลุกขึ้นยืน ทำให้อีกคนต้องแหงนหน้าขึ้นมามองตาม อาศัยโอกาสนี้ก้มหน้าลงไปหาอย่างรวดเร็วก่อนจะกดจูบลงไปที่ริมฝีปากบาง ใช้ฟันกัดลงไปที่กลีบปากบางอย่างไม่เบานักด้วยความหมั่นเขี้ยวแล้วรีบลุกขึ้นเดินออกไปข้างนอกอย่างรวดเร็วก่อนที่จะโดนประทุษร้าย










    “หนึ่ง!!” ได้ยินเสียงเรียกชื่อตนเองเสียงดังแต่ก็ไม่ได้ทำให้สะดุ้งสะเทือนแต่อย่างใด

    “รีบอาบน้ำนะครับ” ตะโกนบอกคนในห้องน้ำเบาๆตอนที่ถึงประตูห้องน้ำพร้อมกับเสียงหัวเราะที่ส่งไปให้แล้วเดินหนีออกมาทันที

    เดินตรงไปยังส่วนของห้องครัวเพื่อที่จะเริ่มทำอาหารสำหรับเราสองคน รู้สึกได้ว่าริมฝีปากของเขายังไม่หุบเข้าหากันเลยตั้งแต่เดินออกมา มันคอยเอาแต่จะยิ้มกว้างอย่างมีความสุขอยู่ได้



         อ่าเขานี่เป็นผู้ชายที่น่าอิจฉาจริงๆ จะมีสักกี่คนที่จะมีคนรักที่น่ารักได้อย่างที่เขามี แค่คิดก็มีความสุขจนหุบยิ้มไม่ลงเลยล่ะ...





END




สวัสดีค่ะ นี่เป็นการแต่งนิยายครั้งแรกของเราเลย อาจจะสั้น(มาก) แต่ก็อยากลองแต่งดูหลังจากซุ่มอ่านของคนอื่นมานาน
จะมีคนอ่านมั้ยน้อออ อ่านแล้วเป็นยังไงอย่าลืมบอกกันเน้ออิอิ


blue colour .
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-11-2016 20:28:11 โดย blue colour »

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
Re: [เรื่องสั้น] คนน่าอิจฉา
«ตอบ #2 เมื่อ09-10-2016 14:26:57 »

ช่างน่าอิจฉาพายจริงๆ

ออฟไลน์ chaoyui

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-3
Re: [เรื่องสั้น] คนน่าอิจฉา
«ตอบ #3 เมื่อ09-10-2016 17:24:50 »

น่ารักมากกกก

ออฟไลน์ Coffeeblack

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 316
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: [เรื่องสั้น] คนน่าอิจฉา
«ตอบ #4 เมื่อ12-10-2016 05:52:43 »

หวานมากกกกกกกก
ถึงสั้นแต่น่ารักมากฮะ
 :pig4:

ออฟไลน์ cchompoo

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-4
Re: [เรื่องสั้น] คนน่าอิจฉา
«ตอบ #5 เมื่อ12-10-2016 07:52:33 »

น่าอิจฉาจริงๆ :m3: :m3:

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
Re: [เรื่องสั้น] คนน่าอิจฉา
«ตอบ #6 เมื่อ12-10-2016 13:33:44 »

กัดผ้าเช็ดหน้าด้วยความอิจฉาตาร้อน

วุ้ย อิจฉาหนึ่ง ><

ออฟไลน์ КίmY

  • BJYX♥
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1714
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-3
Re: [เรื่องสั้น] คนน่าอิจฉา
«ตอบ #7 เมื่อ12-10-2016 14:09:30 »

ตอนแรกเห็นชื่อก็แอบสงสัย พออ่านไปเท่านั้นล่ะ รีบเอาน้ำมาดับไฟที่ตาชั้นที   :hao7:

ออฟไลน์ mmacchiato

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 26
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: [เรื่องสั้น] คนน่าอิจฉา
«ตอบ #8 เมื่อ17-10-2016 14:13:15 »

หวานมาก น่ารัก อ่านแล้วรู้สึกอบอุ่นมากๆเลย

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
Re: [เรื่องสั้น] คนน่าอิจฉา
«ตอบ #9 เมื่อ18-10-2016 08:09:15 »

อ่าาาาา หนึ่งนี่น่าหมั่นไส้จริงๆ. 5555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: [เรื่องสั้น] คนน่าอิจฉา
« ตอบ #9 เมื่อ: 18-10-2016 08:09:15 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
Re: [เรื่องสั้น] คนน่าอิจฉา
«ตอบ #10 เมื่อ19-10-2016 09:01:19 »

 :-[ :-[ :-[ :-[ :-[

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
Re: [เรื่องสั้น] คนน่าอิจฉา
«ตอบ #11 เมื่อ19-10-2016 19:31:55 »

ชิ ขี้อวดแฟนจริ๊งงงงงงงงงงงงงงง ถึงจะน่าอิจฉาจริงๆก็เถอะ ชิๆๆๆๆ

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
Re: [เรื่องสั้น] คนน่าอิจฉา
«ตอบ #12 เมื่อ26-10-2016 01:04:42 »

ตาร้องเป็นไฟเลยค่ะ 555555555555  :m31:

ออฟไลน์ blue colour

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 50
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
[เรื่องสั้น] คนน่าอิจฉา : Special ใครกันที่น่าอิจฉา




      คนรักของเขาชอบบอกอยู่เสมอว่าตัวเองเป็นคนน่าอิจฉา ใครๆก็ต้องอิจฉาตัวเองที่มีเขาเป็นคนรักของแน่นอน แต่เขากลับไม่คิดแบบนั้น ถึงจะไม่เคยพูดออกไปให้อีกฝ่ายได้ยิน เขาคิดว่าเขาต่างหากล่ะที่น่าอิจฉา...



       หนึ่ง เด็กผู้ชายปีหนึ่งตัวสูงน้องของเพื่อนสนิทที่เคยได้ยินแค่ชื่อ แต่พอได้เจอกันครั้งแรกหลังจากนั้นชีวิตเขาก็มีผู้ชายคนนี้เข้ามาวนเวียนอยู่ใกล้ๆ ช่างเป็นความบังเอิญที่น่าประหลาดใจในตอนนั้น ทั้งที่อีกคนเรียนอยู่คนละคณะแต่ก็ขยันมากินข้าวที่คณะของเขาแทบจะทุกวัน มาหาพี่ชาย นั่นคือคำที่ได้ยินทุกครั้งที่เจออีกฝ่ายที่คณะของตัวเองไม่ต้องเอ่ยปากถามว่ามาทำอะไรเขาก็พอที่จะรู้คำตอบแล้ว อืม คงเป็นน้องชายที่ติดพี่มากแบบนั้นสินะ



    รู้สึกตัวอีกทีอีกฝ่ายก็ได้แทรกซึมเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเขา ถ้าวันใดวันหนึ่งน้องชายของเพื่อนสนิทคนนี้ไม่มาให้เห็นหน้า ก็คงจะรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างในชีวิตที่หายไปเหมือนกัน





    เขาอยู่ปีสี่แล้ว ในขณะที่อีกคนเพิ่งเข้าปีหนึ่ง ช่วงเวลาที่เหลือในมหาลัยเริ่มจะหมดลง ถ้าจบแล้วก็คงไม่ได้เจอกับหนึ่งบ่อยๆหรืออาจจะไม่ได้เจออีกเลยมันก็ควรจะเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว แต่ไม่รู้ทำไมเขากลับไม่อยากให้มันเป็นแบบนั้น อยากเจอหน้า อยากพูดคุย อยากใช้เวลาอยู่ด้วยกัน แบบนี้เรียกว่า ชอบ หรือเปล่า ถ้าใช่เขาก็คงชอบอีกฝ่ายไปแล้วสินะ


    แม้จะรู้ใจของตัวเองแต่เขาก็ไม่คิดที่จะบอกให้อีกคนได้รับรู้ เลือกที่จะเก็บมันไว้ในใจ กลัวว่าถ้าพูดมันออกไปอีกฝ่ายจะหนีหายไปจากชีวิตของตน อีกทั้งหนึ่งก็ไม่ได้แสดงท่าทีอะไรกับเขาเป็นพิเศษ ปฏิบัติกับเขาเหมือนกับที่ปฏิบัติกับทุกคนแล้วแบบนี้จะกล้าพูดออกไปได้ยังไง


    ทุกวันที่ผ่านไปอีกคนก็ยังคงวนเวียนอยู่ในวงโคจรชีวิตของเขาไม่หายไปไหน พวกเราสนิทกันมากขึ้นเรื่อยๆ สนิทจนถึงขั้นไปเที่ยวต่างจังหวัดค้างคืนด้วยกันเพียงสองคน ถ้าอีกคนรู้ว่าเขาคิดยังไงจะยังอยากมาเที่ยวด้วยกันอยู่หรือเปล่านะ






    “พี่พาย พี่มีคนที่ชอบไหม”

    คำถามที่ถูกถามขึ้นมาในวันที่เราสองคนเลือกที่จะออกมานั่งเล่นรับบรรยากาศยามค่ำคืนที่ริมสระน้ำในมหาลัย คำถามที่ดังออกมาจากปากคนที่นั่งอยู่ข้างๆทำให้เขาหันไปมองหน้าของอีกฝ่าย บรรยากาศที่เย็นสบายดูผ่อนคลายกลับอึดอัดขึ้นมาทันทีในความคิดของเขา ทำไมอยู่ๆถึงถามขึ้นมา รู้แล้วว่าเขาชอบ หรือถามเพื่อที่จะปรึกษาเพราะไปเจอคนที่ชอบแล้ว!!! ไม่เอานะเขาไม่อยากให้มันเป็นแบบนั้น


     บรรยากาศระหว่างพวกเราเงียบไปสักพัก เขาไม่ได้ตอบอะไร และคนที่เอาแต่มองไปที่ผิวน้ำเบื้องหน้าไม่ยอมหันมามองหน้ากันก็ไม่ได้เร่งที่จะเอาคำตอบ


    คนที่ชอบเหรอ ก็ไอ้คนที่นั่งอยู่ข้างกูตอนนี้นี่ไงล่ะ ไอ้โง่!!!!! อยากจะตะโกนใส่หูอีกคนดังๆ แต่ก็ทำได้แค่คิด ใครจะกล้าทำจริงกัน เฮ้ออออ เลิกมองหน้าของคนข้างๆแล้วหันไปจ้องที่ผิวน้ำแทน


    “ถามทำไม” เขายังไม่ยอมตอบแต่กลับส่งคำถามไปให้แทน

    “อะ เอ่อ ก็แค่อยากรู้” แบบนี้เอง








    ถ้าเชื่อก็โง่แล้ว!!! พูดตะกุกตะกักขนาดนั้น แถมเขายังเหลือบไปเห็นว่าใบหูของอีกคนนั้นมีสีเข้มขึ้นมากแค่ไหน แล้วยังจะปฏิเสธว่าแค่อยากรู้ คงไปเจอคนที่ชอบมาแล้วจริงๆสินะ แล้วทำไมเขาต้องรู้สึกเจ็บแบบนี้ด้วยล่ะ

    “อืม จะว่ามีไหมก็มีล่ะนะ” เลือกที่จะตอบออกไปตาความจริง แต่ถ้าถามว่าใครนี่คงไม่บอก

    “ห๊ะ มีแล้ว!!!” ดูท่าว่าคนที่นั่งข้างๆจะตกใจมาก หันมามองหน้าเขาทันทีที่ได้ยินคำตอบ แถมยังตะโกนเสียงดัง

    “จะตะโกนทำไมเนี่ยรบกวนคนอื่นเขา” อดที่จะดุอีกคนไม่ได้ เดี๋ยวชาวบ้านเขาแตกตื่นกันหมด

    “เรื่องนั้นช่างมันเถอะ พี่มีคนที่ชอบแล้วจริงๆเหรอ” คำถามที่ส่งมาพร้อมกับหน้าตาเคร่งเครียดทำให้เขาขมวดคิ้วด้วยสงสัยว่าอีกฝ่ายเป็นอะไรไปทั้งที่เมื่อกี้ยังดีๆอยู่



    “......” เลือกที่จะไม่พูดแต่พยักหน้าแทนคำตอบ

    “ใครครับ!!!” อีกฝ่ายจ้องเขม็งมาที่เขาอย่างรอคอยคำตอบ

    “.....” จะให้บอกออกไปได้ยังไงกัน

    “.....” สายตาที่จับจ้องมาทำให้เขาอึดอัด จึงเลือกที่จะเบือนหน้าไปมองผิวน้ำตรงหน้าอีกครั้ง

    “ทำไมต้องบอกด้วยล่ะ”





    “.....” หลังจากที่ได้ยินคำตอบอีกคนก็ชะงักและดูนิ่งไปไม่ตอบอะไรกลับมา เป็นอะไร?


    ไม่มีใครพูดอะไรออกระหว่างพวกเราสองคนหลังจากที่เขาตอบคำถามไปต่างคนต่างเงียบ รู้สึกถึงสายตาของคนข้างๆว่ายังคงจ้องมาที่เขา บรรยากาศน่าอึดอัดแบบนี้มันคืออะไร ยังไม่ทันจะได้พูดทำลายความเงียบ อีกคนก็พูดขึ้นมาเสียก่อน


    “นั่นสินะครับ พี่จะบอกผมทำไม” เสียงที่เปล่งออกมาแผ่วเบาจากปากของอีกคนแต่เขาก็ได้ยินมันอย่างชัดเจน ทำไมต้องทำเสียงเป็นหมาหงอยขนาดนั้น โกรธที่เขาไม่ยอมบอกเหรอ

    “มะ..”ไม่ใช่แบบนั้น

    “กลับกันเถอะครับนี่ก็ดึกแล้ว เดี๋ยวผมไปส่ง” ยังไม่ได้เอ่ยปากแก้ความเข้าใจผิดของเด็กหนุ่มรุ่นน้องตามที่ตนเองเข้าใจ อีกคนก็เอ่ยสวนขึ้นมาเสียก่อน ทั้งยังลุกขึ้นยืนและเริ่มออกเดินทำให้เขาต้องลุกขึ้นเดินตามอีกฝ่ายอย่างเสียไม่ได้





    ระหว่างทางกลับอีกคนไม่พูดอะไรออกมาสักคำ แถมยังนิ่งจนเขาไม่กล้าเอ่ยคำพูดใดๆออกมา เป็นอะไรไปพอเขาตอบออกไปว่ามีคนที่ชอบก็ดูอารมณ์ไม่ดีขึ้นมาทันที  อารมณ์ไม่ดีเพราะเขาหรือเพราะคนอื่น ความเงียบทำให้เขาคิดไปเรื่อยเปื่อย แต่พอคิดว่าไอ้คนที่เอาแต่ทำหน้านิ่งกำลังคิดถึงคนที่ชอบอยู่ก็ทำให้รู้สึกเครียดทันที รู้สึกโมโหอีกคนขึ้นมาซะอย่างนั้น จึงเลือกที่จะเงียบและหันหน้าออกไปมองนอกหน้าต่างรถที่กำลังเคลื่อนที่อยู่ ไม่อยากมองหน้าอีกฝ่ายให้ตัวเองเจ็บเสียเปล่าๆ







    “ฝันดีนะครับ” นั่นเป็นคำพูดสุดท้ายที่อีกฝ่ายเอ่ยบอกหลังจากที่มาส่งเขาถึงหอพัก แล้วขับรถออกไปอย่างรวดเร็วไม่เปิดโอกาสให้ได้โต้ตอบกลับไป



    และนั่นก็เป็นครั้งสุดท้ายที่เขาได้เจอหน้าของน้องชายเพื่อนสนิทหลังจากผ่านมาจะครบสัปดาห์แล้ว ทักไปก็ไม่ตอบ โทรหาก็ไม่รับ ไอ้เด็กที่ติดพี่ชายอย่างกับเห็บเกาะบนหลังหมาก็ไม่แม้แต่ที่จะโผล่หน้ามาให้เห็นที่คณะ แบบนี้มันผิดปกติมากๆ และก็ดันเป็นเขาเองนั่นแหละที่ทนไม่ไหวจนต้องเอ่ยปากถามกับเพื่อนสนิทไป

    “น้องมึงไปไหนทำไมช่วงนี้หายหน้า”

    “ทำไม คิดถึงมันเหรอ” ใช่ คิดถึง

    “คิดถึงบ้าอะไรเพ้อเจ้อ กูแค่สงสัยปกติติดพี่อย่างกับอะไรดี ถ่อมากินข้าวที่คณะกับมึงแทบทุกวัน”

    “หึ ติดพี่ ติดว่าที่เมียสิไม่ว่า” เพื่อนสนิทเขายังไม่ตอบอะไรกลับมา แต่พึมพำอะไรกับตัวเองเสียงเบา แถมยังส่งยิ้มเจ้าเล่ห์มาให้อีก อะไรของมัน

    “อะไรของมึง”

    “เปล๊า กูแค่จะบอกว่าไอ้หนึ่งมันแค่กำลังเฮิร์ทน่ะ ไม่มีอะไรหรอก” อีกคนว่าแบบนั้นแล้วลุกขึ้นยืนแล้วเอามือมาตบบ่าเขาเบาๆก่อนที่จะเดินหนีไป




    “พวกมึงสองคนนี่มันซื่อบื้อจริงๆ” เสียงของเพื่อนสนิทดังมาให้ได้ยินแว่วๆก่อนที่จะเดินออกไปจนเห็นแค่แผ่นหลังไกลๆ ซื่อบื้ออะไรของมัน





    แต่ เฮิร์ท? ไอ้เด็กนั่นมันอกหักเหรอ คงจะเป็นคนที่คิดจะปรึกษากับเขาเมื่อวันนั้นสินะ แล้วเขาต้องทำยังไงควรไปปลอบใจไหม คำตอบคือไม่ ตอนนี้เขาก็อกหักไม่ต่างจากอีกคนเท่าไหร่นัก เฮ้อ พอเป็นแบบนี้แล้วก็รู้สึกว่าดีแล้วล่ะที่ไม่มาให้เห็นหน้าเพราะเขาคงทำตัวไม่ถูกถ้าเจอกันในตอนนี้







       เหมือนเขาจะบอกไปว่าการที่น้องของเพื่อนสนิทไม่มาให้เห็นหน้ามันดีแล้ว แต่อะไรคือการที่ผ่านไปแค่วันเดียวอีกคนกลับบุกมาหาถึงหน้าห้องตั้งแต่เช้า เช้าขนาดที่ว่าเขาต้องเดินหัวฟูเพราะเพิ่งลุกจากเตียงมาเปิดประตูให้ นี่มันเพิ่งเจ็ดโมงเช้าเองนะ ดูเหมือนว่าคนที่มารบกวนการนอนของเขาจะไม่รู้สึกตัวว่ามารบกวนยืนส่งยิ้มระรื่นมาให้อยู่หน้าประตูจนอยากจะปิดประตูใส่หน้าแรงๆ แต่ก็ทำแค่เพียงเปิดประตูออกให้อีกฝ่ายเดินเข้ามา ส่วนตัวเองก็เดินไปทิ้งตัวนอนคว่ำลงบนเตียงที่ตั้งอยู่กลางห้องอีกรอบ อ่านี่มันเตียงดูดวิญญาณชัดๆ แต่เพราะมีคนอยู่ในห้องทำให้เขาต้องฝืนเปิดปากคุยทั้งที่อยากจะนอนต่อแทบตาย

       “มาทำไมแต่เช้า” เอ่ยถามไปทั้งๆที่ยังนอนอยู่บนเตียงนี่แหละ

       “คิดถึง” คำตอบที่ได้ยินทำให้ชะงักไปเล็กน้อย จะรู้หรือเปล่าว่าทำให้ใจของเขาเต้นแรงแค่ไหน

        “เหรอ”

       “พี่งอนผมเหรอที่ไม่ได้ไปหา” แรงยุบที่เตียงทำให้รู้ว่าอีกคนได้ย้ายตัวเองมานั่งลงที่เตียง

        “เปล่านี่จะงอนทำไม” ไม่ได้งอน แค่ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงหายไป เพราะโกรธเขาวันนั้นหรือเปล่า แต่พอรู้ว่าหายไปเพราะ เฮิร์ท ก็ทำให้เขาไม่อยากเจอเด็กนี่ไปแทน

        “ขอโทษนะครับที่หายไป ผมมีเรื่องให้คิดนิดหน่อยน่ะครับ” เรื่องที่โดนหักอกน่ะเหรอ

        “อืมช่างมันเถอะ” บอกปัดไป พร้อมกับซุกหน้าลงกับหมอนทำเหมือนอีกฝ่ายไม่ได้อยู่ในห้อง ไม่สนใจแล้ว เขาจะนอน

      “ช่างมันได้ไงก็พี่ยังงอนผมอยู่”

      “.....”

      “พี่พายครับ”

      “.....”

       “พี่พายครับผมขอโทษเลิกโกรธผมเถอะนะครับ” เสียงหงอยๆที่ได้ยินมันน่าสงสารจนเขาอยากหันไปบอกว่าไม่เป็นไร อยากจะบอกไปว่าไม่ได้โกรธ แต่ทำไมปากถึงไม่ยอมขยับ น้อยใจ คงเป็นคำที่อธิบายความรู้สึกของเขาในตอนนี้ได้ดี หายไปทั้งที่ไม่ได้บอกอะไร ปล่อยให้เขากังวลอยู่เป็นสัปดาห์ ขอเล่นตัวสักหน่อยก็คงจะไม่เป็นไร



       “.....” พอเห็นว่าเขาไม่ตอบ อีกคนก็ไม่ได้พูดอะไรออกมานิ่งไปเสียเฉยๆ

      “.....”

       คนที่ยังคงนั่งอยู่บนเตียงของเขาเงียบไปนานจนเขาคิดว่าคงถอดใจที่จะง้อไปแล้ว ถ้าเป็นแบบนี้ไล่ให้อีกฝ่ายกลับไปแล้วนอนต่อคงจะดีที่สุด




       “เฮ้ยยย!!!” ยังไม่ทันจะทำอะไร คนที่คิดว่าคงถอดใจไปแล้วกลับทำในสิ่งที่เขาไม่คาดคิด นี่มันบ้าอะไร เพี้ยนไปแล้วหรือเปล่า

        “พี่พายหายโกรธหนึ่งนะครับ หนึ่งผิดไปแล้ว” เสียงพูดที่อยู่ชิดติดใบหูทำให้อดที่จะขนลุกไม่ได้ ไหนจะแรงกอดกระชับจากข้างหลัง แล้วไอ้ที่แทนตัวเองด้วยชื่อนี่อีก คิดจะดิ้นให้อีกคนปล่อยแต่แขนแข็งแรงที่กอดมาจากด้านหลังกลับกระชับเอวเขาเข้ากับตัวเองแน่นยิ่งกว่าเดิม กอด ใช่แล้วล่ะสิ่งที่ทำให้เขาตกใจจนต้องร้องออกมาก็คือการที่อีกคนเข้ามากอดเขาไว้แน่นจากด้านหลังทั้งๆที่เขาก็ยังคงนอนอยู่บนเตียง



      “ปล่อย”

        “ไม่ จนกว่าพี่จะหายโกรธ หนึ่งจะไม่ยอมปล่อยเด็ดขาด” สรรพนามชวนขนลุกนี่มันคืออะไร แล้วใครสอนให้กอดเวลาง้อคนอื่น โดยเฉพาะกับผู้ชายด้วยกันแบบเขา หรืออีกคนจะทำแบบนี้กับพี่ชายของตัวเองด้วย แค่คิดภาพผู้ชายตัวบึกสองคนกอดกันก็ขนลุกแล้ว นี่คงจะเคยกอดง้อพี่ชายตัวเองบ่อยๆถึงได้กล้าทำแบบนี้กับเขาด้วย



       “หนึ่งพี่บอกให้ปล่อย” รู้สึกได้ว่าหน้าของตัวเองมันร้อนๆ ใจก็เต้นระรัวขึ้นเรื่อยๆหวังว่าคนที่กอดเขาอยู่คงไม่ได้ยินเสียงหัวใจที่มันเต้นแรงจนแทบทะลุออกมาข้างนอกนี่หรอกนะ

       “ไม่” อีกฝ่ายยังคงปฏิเสธหนักแน่น แล้วซุกหน้าลงที่บ่าของเขา ยังยืนยันคำตอบของตัวเองด้วยการกอดเขาแน่นยิ่งกว่าเดิม

      “ปล่อยก่อนแล้วค่อยคุยกัน” ช่วยปล่อยก่อนที่เขาจะหัวใจวายตายไปซะก่อนได้ไหม

       “หายโกรธหนึ่งก่อนนะครับ” น้ำเสียงออดอ้อนเบาๆดังอยู่ข้างหูทำให้เขาอ่อนใจและใจอ่อน ทำไมต้องทำตัวเหมือนลูกหมาอ้อนเจ้าของแบบนี้ด้วย หรือจะรู้ว่าเขาชอบไอ้สัตว์สี่ขานั่นถึงชอบมาอ้อนเวลาที่ทำให้โกรธกัน





      “อืม ปล่อยได้แล้ว”

      “อะไรนะครับ ไม่ได้ยินเลย” นี่แกล้งเขาหรือเปล่า

       “พี่ไม่โกรธแล้ว ปล่อยได้รึยังหนัก”

       “ปล่อยก็ได้ครับ” อีกฝ่ายขยับตัวลุกออกจากตัวของเขา แต่ก่อนที่อีกคนจะผละออกไปเขารู้สึกเหมือนว่ามีอะไรบางอย่างสัมผัสเบาๆที่ท้ายทอย แต่แค่แป๊บเดียวสัมผัสนั้นก็หายไปทำให้เขาเลิกที่จะใส่ใจมัน หันไปมองอีกคนที่ตอนนี้ผละออกจากตัวเขามานั่งส่งยิ้มให้อยู่บนเตียง ลุกขึ้นมานั่งเผชิญหน้ากับคนที่ยังทำให้หัวใจเขาเต้นแรงไม่หยุดอยู่ตอนนี้ พยายามบังคับสีหน้าของตัวเองให้นิ่งที่สุดเท่าที่จะทำได้




       “พี่พายหายโกรธหนึ่งแล้วจริงๆนะครับ” คนที่นั่งอยู่ตรงหน้าส่งสายตาที่มองยังไงมันก็ดูเหมือนกำลังอ้อนอยู่มาให้ ตัวก็โตยังจะมาทำตัวอ้อนเป็นเด็กๆคิดว่าน่ารักหรือไง แต่ก็คงน่ารักล่ะนะเขาถึงยอมใจอ่อนให้ตลอดแบบนี้

       “อืม หายโกรธแล้วคราวหลังเป็นอะไรก็บอกด้วย จะได้ไม่ต้องห่วงว่าตายรึยัง” อย่าหายไปเฉยๆแบบนี้อีกเขาไม่ชอบ





       เรื่องที่อีกคนอกหักความจริงก็อยากที่จะถามออกไป แต่ดูเหมือนว่าน้องชายเพื่อนสนิทคนนี้จะไม่เป็นอะไรแล้ว เพราะยังสามารถส่งยิ้มระรื่นจนน่าหมั่นไส้มาให้เขาได้ เป็นแบบนี้ก็คงจะทำใจได้แล้วสินะ


       “ครับ หนึ่งจะไม่หายไปอีกแล้วรับรองได้เลย” รับคำเสียงหนักแน่น พร้อมกับสายตามุ่งมั่นที่เหมือนจะมีนัยย์อะไรบางอย่างที่ส่งตรงมาให้เขามันทำให้รู้สึกแปลกซะจนหัวใจเต้นแรงขึ้นมาอีกรอบ พยายามปัดความรู้สึกแปลกๆที่ตัวเองไม่เข้าใจทิ้งไป แล้วใช้มือคว้าลำคอของอีกคนมาใกล้แล้วขยี้ไปที่ผมสั้นนุ่มนิ่มแรงๆเป็นการลงโทษ

      “ดีมากไอ้ลูกหมา”






       ดูเหมือนการที่อีกคนบอกว่าจะไม่หายไปอีกนั้นเป็นคำพูดที่เจ้าตัวไม่ได้พูดออกมาแค่ให้เขาหายโกรธ แต่ตั้งใจที่จะทำตามคำพูดของตัวเองอย่างเต็มที่ จนเรียกว่าอาจจะเต็มที่เกินไป เพราะ อีกฝ่ายเล่นเกาะติดเขายิ่งกว่าเดิมเสียอีก จากที่เคยบอกว่ามาหาพี่ชายก็กลับกลายเป็นว่ามาหาเขาที่คณะแทบทุกวัน ไม่แม้แต่จะถามหาพี่ชายของตัวเองอย่างเคยเวลาที่ไม่เห็นพวกเขาสองคนอยู่ด้วยกัน ไม่เว้นแม้แต่วันเสาร์อาทิตย์ก็ยังมาหาที่หอพักชวนออกไปข้างนอกด้วยกันบ่อยๆ จนสงสัยว่าเดี๋ยวนี้อีกคนเลิกอาการติดพี่ชายไปแล้วหรืออย่างไร











       มันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างพวกเราสองคน จุดเริ่มต้นของพวกเราเมื่อสองปีที่แล้วตอนนั้นเราสองคนยังคงเป็นแค่พี่น้องกัน แต่ตอนนี้สถานะของเราสองคนก็เรียกว่าเป็นคนรักกันได้อย่างเต็มปาก ส่วนเรื่องที่ว่าเราสองคนคบกันได้อย่างไรนั้นก็ปล่อยให้มันเป็นความลับไปก่อนแล้วกัน
 
         เขาจบออกมาสองปีแล้วในขณะที่อีกคนตอนนี้ก็กำลังเรียนอยู่ปีสาม เรื่องที่เคยกังวลว่าอาจจะไม่ได้เจอกันอีกหลังจากเรียนจบก็ไม่มีวี่แววว่าจะเกิดขึ้น กลับกลายเป็นได้เจอหน้ากันทุกวัน ได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันแบบที่เขาไม่เคยคิดมาก่อน

         สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปหลังจากที่คบกันเรื่องแรกก็คงหนีไม่พ้นสรรพนามที่ใช้เรียกกัน จากหนึ่งกับพี่พายก็กลายมาเป็นหนึ่งกับพาย คำว่าพี่หายปลิวหายไปทันทีที่สถานะเปลี่ยน อีกคนให้เหตุผลว่า เพราะเขาไม่ใช่พี่แต่เป็นแฟน อีกอย่างการที่เรียกเขาว่าพี่ น้องชายของเพื่อนสนิทที่ตอนนี้ได้เปลี่ยนสถานะมาเป็นคนรักบอกว่าทำให้ตัวเองดูเป็นเด็ก เจ้าตัวอยากจะเป็นผู้ใหญ่เพื่อที่จะสามารถดูแลเขาได้ ทั้งที่ความจริงเรื่องที่เจ้าตัวเด็กกว่าเขามันก็เป็นความจริงและเรื่องนี้มันก็ไม่น่าจะเกี่ยวกับการที่จะทำให้อีกคนดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นแต่อย่างใด แต่เขาก็ยอมเพราะทนสายตาอ้อนๆที่มองมาไม่ได้ เฮ้อออนี่เขาคงจะแพ้ทางอีกคนจริงๆ

       ตั้งแต่คบกันมาน้องชายของเพื่อนสนิทคนนี้ไม่เคยทำให้เขาเสียใจที่ตัดสินใจคบกันเลย อาจจะมีทะเลาะกันบ้างแต่ก็เป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆ หนึ่งทำให้เขามั่นใจในความรักที่อีกฝ่ายมอบให้และเขาก็รักอีกฝ่ายไม่แพ้กันเราทั้งสองคนไม่สามารถที่จะหันไปมองใครได้อีกแล้ว แต่ถ้าเป็นเรื่องหึงหวงล่ะก็ถ้าบอกว่าไม่มีก็คงเป็นไปไม่ได้ ถึงจะบอกว่ามั่นใจในตัวคนรัก แต่เขาก็ไม่ชอบให้ใครมายุ่งกับลูกหมาของเขาหรอกนะ







            “อืมมมมมมมมม”

       เสียงครางในลำคอและแรงขยับจากคนที่นอนกอดเขาอยู่บนเตียงตอนนี้ทำให้หยุดความคิดทุกอย่างลงไปหลังจากที่ตื่นขึ้นมานอนมองหน้าของคนรักตัวเองได้สักพัก จะบอกว่าแอบมองก็ได้เพราะถ้าเป็นเวลาปกติที่อีกคนตื่นอยู่เขาก็ไม่ได้มีความกล้าพอที่จะมองหน้าคนที่กำลังนอนอยู่ข้างๆได้นานแบบนี้หรอกนะ

       “หืมมม ตื่นแล้วเหรอครับ” คำถามที่ส่งมาด้วยเสียงที่แหบนิดๆหลังจากที่อีกฝ่ายลืมตาขึ้นมาและมองมาที่เขาซึ่งกำลังจับจ้องการกระทำของอีกคนอยู่

      “อืม”

       “ยังเช้าอยู่เลยนอนต่อนะครับ” ถ้าจะพูดกับเขาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนแบบนี้เขาก็ไม่อยากขัดหรอกนะ


     รู้สึกได้ถึงแรงกอดกระชับที่แน่นขึ้นจึงเลือกที่จะหลับตาลงซุกหน้าลงไปที่อ้อมกอดอบอุ่น สัมผัสบางเบาที่บริเวณศีรษะที่เดาว่าน่าจะเกิดจากมือของคนที่เขานอนซุกอยู่ลูบไปมา อากาศเย็นๆจากเครื่องปรับอากาศทำให้เริ่มรู้สึกง่วงขึ้นมาอีกครั้งหลัง


       สัมผัสที่ได้รับมันทำให้รู้สึกดีจนเกือบจะเคลิ้มหลับไปจริงๆ ไหนจะมือที่ลูบอยู่ที่หลังนี่อีกคิดว่าตัวเองกล่อมลูกนอนอยู่หรืออยู่หรือไง ถึงจะคิดแบบนั้นแต่จริงๆแล้วเขากลับรู้สึกดีกับสัมผัสเหล่านั้นอย่างปฏิเสธไม่ได้


       ตอนที่เกือบจะเคลิ้มหลับไป เขารู้สึกได้ถึงสัมผัสนุ่มหยุ่นที่หน้าผากของตัวเอง แรงกดนั้นแช่อยู่สักพักก่อนที่จะระเรื่อยไปที่เปลือกตา แก้มทั้งสองข้าง จนมาจบลงที่ริมฝีปากสัมผัสหนักๆกดลงย้ำๆมาแต่ก็ไม่ได้ล่วงล้ำเข้ามาแต่อย่างใดนิ่งค้างอยู่ครู่หนึ่ง อีกคนผละออกไปก่อนที่จะมีสัมผัสจากปลายจมูกโด่งกดลงที่แก้มทั้งสองข้างเสียงสูดลมหายใจแผ่วเบาดังมาให้ได้ยิน และจบลงด้วยสัมผัสเปียกชื้นที่แก้ม ถึงแม้จะง่วงจะแทบจะหลับไปแต่เขาก็รับรู้ถึงสัมผัสเหล่านั้นได้เป็นอย่างดี



       อีกคนลูบผมของเขาอีกสองสามครั้ง ก่อนที่จะขยับตัวลุกขึ้นอย่างแผ่วเบา ความอบอุ่นที่กำลังจะหายไปทำให้เขาขยับตัวเพื่อไขว่คว้าความอบอบอุ่นนั้นคืนมา อีกฝ่ายชะงักนิ่งไปชั่วขณะแล้วก้มลงมากดจูบที่หน้าผากเขาอีกครั้งก่อนที่จะลุกออกไป รับรู้ได้ว่ามีอะไรบางอย่างมาแทนที่ความอบอุ่นที่หายไปจึงคว้ากอดสัมผัสนุ่มนิ่มนั้นไว้แม้ว่ามันจะทดแทนกันไม่ได้ก็ตามที





       เป็นแบบนี้เสมอ คนรักของเขามักจะตื่นก่อนแทบทุกวันเพื่อที่จะไปเตรียมตัวทำอาหารเช้าสำหรับเราสองคน เพราะหากให้เขาเป็นคนลงมือทำเองนั้นห้องครัวอาจจะพินาศได้ คงไม่ต้องบรรยายถึงรสชาติของอาหารก็คงจะพอรู้ว่ามันเป็นยังไง การที่เราทำอาหารไม่เป็นแล้วมีคนรักที่ทำอาหารเป็นแถมยังอร่อยไม่แพ้ร้านดังๆนับว่าเป็นความโชคดีที่ไม่ใช่ว่าจะเกิดขึ้นกับทุกคน แต่เผอิญว่าเขาก็ดันเป็นหนึ่งในผู้โชคดีนั้น ไม่ได้มีแค่เรื่องนี้ที่ทำให้เขารู้สึกโชคดีมีอีกหลายอย่างที่น้องชายของเพื่อนสนิทคนนี้ทำเพื่อเขา แค่การที่อีกฝ่ายใจตรงกันกับเขามันก็ทำให้เขารู้สึกโชคดีและมีความสุขแบบที่ไม่เคยคิดมาก่อน


       เพื่อนของเขามักจะแซวอยู่เสมอจนถึงทุกวันนี้ว่าเขาทำให้สาวๆทั้งมหาลัยต้องน้ำตาตกในด้วยความอิจฉาเพราะดันไปคว้าขวัญใจของคนในมหาลัยมาเป็นของตัวเอง อืม...ถ้าจะพูดกันตามตรงแล้วหนึ่งก็เป็นผู้ชายที่หน้าตาดีมากคนหนึ่งการที่จะมีหลายๆคนมาชอบมันก็ไม่ใช่เรื่องแปลก ตอนเริ่มคบกันแรกๆเขาก็กังวลเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน  ยังมีอีกหลายคนที่ดีและเหมาะกับหนึ่งมากกว่าเขาเสียอีก แต่อีกคนก็เหมือนว่าจะสัมผัสได้ถึงความรู้สึกนั้นของเขาและพยายามที่จะทำให้เขามั่นใจในความรักระหว่างเราสองคน เมื่อมีคนถามว่าเราสองคนเป็นอะไรกัน อีกฝ่ายก็ไม่ลังเลที่จะบอกว่าเราสองคนนั้นเป็นคนรักกัน ความมั่นคงและความชัดเจนนั้นมันทำให้ความกังวลต่างๆจางหายไปและกลายเป็นความเชื่อใจที่เพิ่มมากขึ้นเข้ามาแทนที่






       “นอนนะครับเด็กดี” ก่อนที่จะจมกับความคิดของตัวเองไปไกลกว่านี้ เสียงของอีกคนก็ดึงเขากลับมาเสียก่อน แต่เด็กดีอะไรกัน  ใครกันแน่ที่เด็กกว่ากันอยากจะลุกขึ้นโต้เถียงกับคำพูดนั้นแต่เปลือกตาก็หนักอึ้งเกินกว่าจะฝืนทนได้ สัมผัสอ่อนโยนที่ศีรษะทำให้ห้วงความคิดเริ่มขาดหายไปเรื่อยๆ ได้ยินเสียงปิดประตูเป็นเสียงสุดท้ายก่อนที่เขาจะจมลงไปในห้วงนิทรา


    เป็นแบบนี้แล้วใครกันแน่ที่อิจฉากว่ากันไอ้ลูกหมา แล้วคุณล่ะคิดว่าใครที่น่าอิจฉากว่ากัน


...








ย่องเอาตอนพิเศษมาลง หลังจากที่แต่งค้างไว้มากนานในที่สุดวันนี้ความขยันก็ได้เข้าสิงเข็นเอาตอนพิเศษมาลงจนได้ อ่านแล้วเป็นยังไงอย่าลืมมาคอมเม้นท์บอกกันนะคะอิอิ

สรุปแล้วหนึ่งกับพี่พายใครน่าอิจฉากว่ากันฮ่าาาาา


Blue colour.
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-11-2016 22:30:54 โดย blue colour »

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
เอาจริงๆ ก็น่าอิจฉาทั้งคู่นั่นล่ะ :katai5: :katai5:

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ cchompoo

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-4
น่าอิจฉาทั้งคู่เลย :impress2: :impress2:

ออฟไลน์ omuya

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2023
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +121/-9
หวาน ละมุนละไม

ออฟไลน์ peaceminus1

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 71
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ต่างคนต่างอิจฉา โอ้ยย น่ารักกกก  :katai4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ tear0313

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 318
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0

ออฟไลน์ KKKwanGGG

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-2
น่ารักมาก ...................... ขอบคุณครับ

ออฟไลน์ koikoi

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3861
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +311/-13
น่าอิจฉาจริงๆแหละ

ออฟไลน์ เมษายน

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 38
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
ก็น่าอิจฉาทั้งคู่นั่นแหละ งื้อออออ

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
น่าอิจฉาทั้งคู่ในเรื่องความรักและมั่นคงในรัก
แต่พายน่าอิจฉากว่านิดนึง
เพราะหนึ่งดูแลพายยังกับไข่ในหินแน่ะ

ออฟไลน์ pigarea

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
มีความหมั่นใส้สิบระดับ

ออฟไลน์ Pin_12442

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 248
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
น่ารักจังเลยยย

ออฟไลน์ Petit.K

  • Petit parapluie
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 840
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
แง้ น่ารักมากๆเลยค่า โง้ยยยย ตาร้อนไปด้วยความอิจฉา

ออฟไลน์ AeAng11

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 528
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
งื้อออออิจฉาทั้งคู่เลยอบอุ่นมากหวานมากรักเลยค่ะเรื่องนี้

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด