เผลแว่บเดียวหายไปเป็นเดือนแล้วอะ งื้ออ
สวัสดีครับทุกคน หลังจากมาต่อในวันนั้นปุ้บ เราก็ทราบกันดีถึงข่าวร้ายของประเทศเรา แน่นอนว่าถึงเราไม่ได้
สัมผัสกับพระองค์ แต่ใจเราก็นึกถึงตลอดเวลา และสำหรับครอบครัวผมและดิษที่ล้มกันในปี 2540
ถ้าไม่ได้ทฤษฎีใหม่ของในหลวงมาเป็นแผนชีวิต พ่อของผมคงไม่มีวันนี้และผมคงไม่ได้มาสานฝันดูแลไร่ของพ่อต่อ
หลังจากวันนั้น ผมก็กลับไปหาพ่อ ท่านเสียใจมากจนผมนึกไม่ถึง พ่อผมล้มป่วยเข้าโรงพยาบาลเพราะความดันสูง ปวดหัวมาก
พอกลับมา วากดิษที่ตรวจร่างกายก็มีข่าวไม่ดีอีก คือ ไอ้ที่เคยผ่าไป ตอนนี้มันไปอุดตันจุดใหม่อีกแล้ว ผมงี้เสียศูนย์เลย
" ถ้าพี่อยู่ได้ไม่นานจริงๆล่ะน้อง " วากบ้าจับมือผมขณะที่นอนอยู่บนเตียงโรงพยาบาล
" เอาน่า พูดแบบนี้ไม่ค่อยตายเร็วหรอก "
" ...... เราเพิ่งจะปรับความเข้าใจกันได้แท้ๆ ยังไม่ได้หวานกันเลย " เหอะๆๆ ปรับอะไรตามชมเนอะ
" ครับ งั้นก็รีบมาเฝ้าแล้วกัน " วากดิษยิ้มน้อยๆให้ผม
ช่วงนั้น ผมต้องดูแลวากดิษด้วย เพราะไม่มีแรงช่วยเหลือตัวเอง แขนขาอ่อนไปหมด กลับไปผอมเป็นนักร้องเกาหลีอีกรอบ โชคดีที่แบงค์ จำได้ไหมนิ อาสามาช่วยดูให้เป็นคราวๆ เพราะเค้าก็อยากมาหาพี่กริชด้วย คือคู่นี้เลิกกันด้วยแหละ แต่ก็ชอบไปไหนมาไหนด้วยกัน ใครจะจีบก็หึงกัน
และผมก็ยังต้องกลับไปดูโกดังของผมด้วยครับ เพราะช่วงนี้คงได้ยินกระแสชาวนาขายข้าวเอง ตรงจุดนั้นที่ผมไปตั้ง ดันมีทางลัดออกนอกเมืองที่เพิ่งจะดำเนินการซ่อมถนนที่พัง ทำให้ผมไปเปิดพื้นที่ให้ชาวนามาขายหน้าที่ดินได้ เขาก็แบ่งข้าวกลับมาให้ผมเรื่อยๆ ใจดีมากครับ บวกกับงานด้านกฎหมายที่มีในบริษัทก็เลยไม่ต้องว่างเลย
เลยต้องแวะมาส่งข่าวกันก่อน เพราะต้องดูแลวากดิษครับ วันอังคารนี้ก็จะไปฟังผลวิเคราะห์ของแพทย์ว่าต้องผ่าตัดหรือกินยารักษาอาการต่อไป หวังว่าจะให้ผมออกมาดีครับ
ขอบคุณทุกคนนะครับ ขอโทษจริงๆที่มาๆหายๆ ไม่เป็นอย่างที่บอกเลย
กอดๆ