---40---
ชั่วโมงเร่งรีบของเวลาเที่ยงวันในเมืองเป็นเช่นนี้ ร้านอาหารของเขายังคงขายดีมีคนเข้าร้านตลอดทั้งวันเช่นเดิม วันนี้ชายหนุ่มออกมาต้อนรับลูกค้าเอง บอลยังไม่เลิกเรียน แต่เพราะงานหนักที่ทำให้เขาง่วนอยู่กับมันจนหัวหมุนไม่มีเวลาคิด นี่คือข้อดีที่ทำให้มาวินไม่เวลาไปหมกมุ่นอยู่กับอะไรร้าย ๆ ที่ผ่านเข้ามา
สองเดือนเคลื่อนผ่าน
มาวินรักษาสัจจะที่เคยพูดไว้กับอีกฝ่ายอย่างไม่เคยคิดจะผิดคำพูด เข้าใช้เวลาทั้งวันกับการทำงานที่ร้าน ไม่ออกไปเผชิญกับใครที่ไหน คนเดียวที่พบปะบ่อยที่สุดคือการุญที่มักแวะมาทานมื้อเที่ยง มาวินซึมลงไปเล็กน้อย ถึงอย่างนั้นการุญก็ไม่ได้ถามไถ่เรื่องที่กวนใจอยู่ ราวกับรู้ว่าอาจตอกย้ำให้คนถูกถามเจ็บปวดขึ้น
ชายหนุ่มรู้สึกโล่งใจที่วันนี้สามารถยืนได้ด้วยลำแข้งของตัวเอง เงินที่ได้จากร้านก็นำมาวนเวียนใช้สอย ถึงจะน้อยแต่ก็เปี่ยมไปด้วยน้ำพักน้ำแรงของชายหนุ่มทั้งนั้น มาวินรู้จักใช้เงินมากขึ้น ไม่ใช้อะไรที่มันฟุ่มเฟือย ถึงขั้นจะเหนียวหนืดเพิ่มขึ้นจากเดิมเป็นสองเท่าเสียด้วยซ้ำ
ค่ำแล้ว เสียงฟ้าร้องครืน ๆ ชวนให้ชายหนุ่มที่นั่งอยู่ในร้านต้องเหลียวมองออกไปนอกหน้าต่าง ท้องฟ้าระยิบฉายแสงสายฟ้าฟาดลงที่ไหนสักที่ พะยับฟ้าพะยับฝนเดินทางมาใกล้ถึงที่นี่พอควร ในช่วงค่ำของวันอาจมีลูกค้าที่แวะเข้ามาหลบฝนเพิ่มมากขึ้น
เข้าสู่หน้าฝนมาทั้งที่ชายหนุ่มไม่ทันได้ตั้งตัว ดวงตาสีน้ำตาลมองออกไปที่ไหนสักแห่ง ซึมซับเอาความพิโรธของท้องฟ้าเข้ามาสู่ดวงใจอันเย็นเยียบ ดวงใจของเขาไม่ต่างจากสภาพอากาศตอนนี้
เสียงหยาดน้ำสาดกระทบกับหลังคาดังสู้กับสายลมหน้าฝน ไอเย็นอันน้อยนิดลอยมาสัมผัสโอบกอดให้มาวินรู้สึกหนาว เสียงรถยนต์ของลูกค้าเคลื่อนมาจอดพร้อมกับแสงไฟ มาวินรีบลุกจากโต๊ะที่นั่ง หยิบเอาร่มที่วางไว้ ออกไปกางรอให้ลูกค้าเปิดประตูพร้อมรอยยิ้ม สิ่งเดียวที่ทำให้มาวินดูมีค่าได้ ก็คงต้องทำเช่นนี้
ลูกค้าผู้มายามฝนพรำยกมือขึ้นจับร่ม ก่อนจะลุกขึ้นเต็มความสูงปิดประตูรถของตนเอง หากแต่เจ้าของร้านกลับแน่นิ่ง เมื่อเงยขึ้นไปสบตานัยน์ตาคมตรงหน้าในระยะใกล้ภายใต้สายฝน และร่มคันเดียวกัน หลังจากที่ไม่ได้พบกันราวสองเดือน
เสียงฟ้าร้อง ลมเย็นพัดสายฝนมาใส่ร่างคนทั้งคู่ หากไม่ได้ดึงความคิดของมาวินกลับมาเพราะสภาพแวดล้อม ชายหนุ่มผละมือออกจากร่มที่ถูกกุม หันเดินเข้าไปด้านในของร้านท่ามกลางหยาดน้ำซัดสาด ไม่เข้าใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นและคนตรงหน้าที่มาพบเจอ มันอาจเป็นแค่เรื่องบังเอิญ
“รับอะไรดีครับ” บอลเลิกเรียนแล้ว เดินเข้าไปต้อนรับแทนชายหนุ่มที่มุ่งหน้าเข้าไปในครัวอย่างเร็วรี่ อาแปะเหลียวมองจากหน้าเตาเมื่อเห็นเขาทรุดกายนั่งลงบนโต๊ะเตรียมอาหาร สีหน้าตอนนี้เป็นใครก็คงคิดว่าเจอปัญหามา มาวินยกมือกุมใบหน้าตนเองไม่อาจแสดงให้ใครหน้าไหนเห็นมุมที่อ่อนไหวอีก
เขาคือมาวิน แมงดาที่หิวเงิน หน้าด้าน ไม่รู้จักพอ เขาควรเป็นแบบนั้นในสายตาแทนคุณต่อไป
ฝีเท้าของบอลเดินเข้ามาด้านใน นำเมนูมาให้พ่อครัว นึกแปลกใจเมื่อเห็นเจ้านายไม่เป็นตัวของตัวเอง พักนี้มาวินดูเงียบกว่าปกติ ยามอยู่คนเดียวก็ซึมเศร้า ไม่พูดไม่จากับใคร
“พี่วิน เมื่อกี้ลูกค้าคนนั้นเขาถามถึงพี่น่ะ” ได้ฟัง ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นมองอย่างไม่เข้าใจ “เขาถามผมว่าพี่ทำงานที่ร้านนี้หรือเปล่า ผมก็เลยตอบว่าพี่เป็นเจ้าของร้าน ร้านเราเปิดมาได้สักพักแล้ว แล้วก็ให้นามบัตรรับทำข้าวกล่องไปเผื่อว่าเขาจะสนใจ”
เด็กหนุ่มกล่าวทั้งมองทีท่าของมาวิน หากเสียงของลูกค้าผู้มาใหม่ข้างนอกก็เรียกให้ออกไปต้อนรับเสียก่อน ไม่ทันได้เห็นว่ามาวินสนองกลับอย่างไร
ขณะรับเมนูจากลูกค้ากลุ่มใหม่ บอลชำเลืองตามองชายหนุ่มผู้เป็นลูกค้าคนแรกด้วยความอยากรู้ อีกฝ่ายกวาดสายตามองรอบร้านอยู่เงียบ ๆ คนเดียว ก่อนนัยน์ตาคมนั้นจะเคลื่อนมาเจอะกับสายตาจับผิดของเขาที่ฉายเด่น เจ้าตัวทำทีเมินไป กอดอกแล้วเอนพิงพนักอย่างไม่สนใจคนอย่างบอล
ผู้ชายแต่งตัวดีคนนี้มันแปลก ไม่น่าไว้วางใจเกินไปแล้ว
เหตุใดรอบตัวของมาวินจึงมีแต่พวกไม่น่าไว้ใจเช่นนี้กัน แต่เพียงแค่คิดก็คงไม่ทำให้บอลนึกฉุนขึ้นมา เมื่อเห็นรถของการุญเคลื่อนมาจอดอีกคันหนึ่งแล้ว คิดถึงแล้วมาอย่างนี้ หมอนี่ช่างตายยากเสียจริง เด็กหนุ่มเดินถือร่มไปรับเจ้าตัวซึ่งยังส่งยิ้มเริงร่ามา อย่างไม่สนใจสีหน้าของเขาสักนิดว่าไม่อยากต้อนรับเพียงไหน ยิ่งพักนี้มาบ่อยกว่าเดิมแล้วเด็กหนุ่มยิ่งไม่ชอบใจ
ทุกวัน ช่วงหัวค่ำลูกค้ามักจะเยอะจนทุกคนหัวหมุนกับเมนูอาหารให้การุญเห็น หลายโต๊ะมากันเป็นกลุ่มก้อนหลังเลิกงาน อีกทั้งช่วงนี้มาวินปรับแต่งที่พักด้านบนเป็นที่นั่งเพราะจำนวนลูกค้าที่มาเป็นกลุ่ม วิวเมืองกรุงยามค่ำคืนชวนให้คนนั่งมากขึ้นไปอีก มาวินต้องเพิ่มที่นั่งสำหรับลูกค้าและติดประกาศรับสมัครพนักงานเพิ่มอีกหนึ่งตำแหน่ง
การุญหันไปเจอะหนึ่งในลูกค้าที่นั่งอยู่ในร้าน ด้วยความแปลกใจที่เห็นแทนคุณ หลังจากที่ไม่ได้พบกันเลยและมาวินไม่เคยเอ่ยถึง ชายหนุ่มยกยิ้ม เดินไปหยุดต่อหน้าแทนคุณเพื่อทักทายอะไรสักหน่อย “ไม่คิดว่าจะเจอแกที่นี่นะแทน มาหาอะไรกินหรือ หรือมาหาวินล่ะ”
บอลเหลือบมองคนกล่าว ก่อนจะผละไปมองแทนคุณด้วยใคร่ทราบว่าแท้จริงแล้วลูกค้าคนนี้รู้จักกับมาวินมาก่อนหรือไม่ แล้วเหตุใดจึงใช้ถ้อยคำเมื่อครู่ถามถึงอย่างห่างเหินเช่นนั้น
“มาทำอะไรมันก็ไม่ใช่ธุระกงการอะไรที่ผมจะบอกพี่นี่”
“ไม่เอาน่า แกยังจะมาโกรธมาเคืองอะไรจากฉันอีกเล่า” การุญสะบัดมือหย็อย
“ยังชอบใช้แฟนเหลือเดนจากผมอยู่อีกหรือ”
“บอล มายกน้ำไปให้ลูกค้าโต๊ะหกหน่อยเร็ว...”
มาวินเดินดุ่มออกมาขณะร้องบอกเด็กหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงนี้ ลำขายาวของเจ้าตัวชะงัก เมื่อเหลือบไปเห็นสองหนุ่มใช้เพียงสายตาเหลือบมองกันในความเงียบ
หากสามารถฆ่าอีกฝ่ายตายได้ด้วยสายตา บอลคิดว่าคงมีใครตายไปข้างหนึ่งแน่ เด็กหนุ่มหมุนกายเดินไปตามคำสั่งของเจ้านาย ขณะเดินผ่าน เขาเห็นแววลำบากใจฉายอยู่เต็มหน้าของมาวิน
ฝ่ายการุญยกยิ้ม สบตากับแทนคุณขณะที่มาวินสาวเท้ายกเมนูอาการไปเสิร์ฟให้โต๊ะข้าง
“ยังชอบซี แต่ละคนของแกน่ะเด็ด ๆ ทั้งนั้น”
คนฟังเชยตาขึ้นสบด้วยความไม่พอใจ ลุกขึ้นกระชากคอเสื้อชายผู้ต้องการยั่วโทสะอย่างไม่อาจทานไหว รอยยิ้มของการุญ สีหน้า มันยียวนเกินไปยามสบตาและหันมองตามร่างกายของมาวินขณะเดินไปมาในร้าน สายตาของมันน่ารังเกียจเกินที่ใครจะถูกมองเช่นนั้น
“หยุด จะทำอะไรในร้านของฉัน”
มาวินหันมาจับทั้งสองให้แยก มีเพียงหมัดว่างเปล่าบนแขนกำยำของแทนคุณที่ง้างทิ้งไว้ ก้มหน้าลงพูดกับมาวินว่า “ผมทนอยู่ร่วมหายใจกับไอ้นี่ไม่ไหวหรอกนะ ไล่มันออกจากร้านไปซะ ก่อนที่ผมจะพังทุกอย่างที่นี่ทิ้ง”
“นายไม่มีสิทธิ์ทำลายข้าวของของฉันหรือไล่ใครไปหรอกนะ ถ้านายมีปัญหาก็ควรจะจัดการกับตัวเองให้ได้ แล้วออกไปจากร้านเสียเองซี” มาวินตอบกลับ ขณะยังยืนขวางระหว่างการุญและแทนคุณไม่ยินยอมให้เข้าใกล้กัน
ได้ฟังแทนคุณก็หัวเราะเยาะ กวาดมองรอบกายก่อนจะหันมาสบตามาวิน
“คุณแน่ใจนะว่าผมไม่มีสิทธิ์ทำลายของที่มาจากเงินครอบครัวตัวเอง ทุกอย่างในนี้มันเงินของบ้านผม ไม่มีอะไรเป็นของคุณเลยสักอย่าง ผมมีสิทธิ์เพราะที่นี่ก็ไม่ต่างจากที่ของผมเท่าไรนักหรอก ผมพูดอะไรผิดไปสักอย่างไหม”
“นายนี่มัน...” มาวินรู้สึกเจ็บจุกเมื่อแทนคุณพูดความจริง ชายหนุ่มผละสายตามองรอบกายอย่างไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาโต้เถียง ทำได้เพียงพยายามเก็บความอับอาย ไม่ให้ร้องไห้ ไม่ให้แสดงสีหน้าเจ็บปวดต่อชายตรงหน้า
“ฉัน ฉันจะเก็บเงินใช้หนี้นาย ถือซะว่าฉันกู้มาแล้วกัน”
“ก็ไหนว่าได้ไอ้โง่คนใหม่แล้วไง” แทนคุณเน้นประโยคก่อนหน้า สายตามองไปยังไอ้โง่ที่กุมมือบนบ่าของมาวินทั้งสองข้างอย่างนึกหงุดหงิด “ถ้าคิดได้ว่าจะคืนคงไม่หน้าด้านปล่อยให้เวลาผ่านมานานขนาดนี้หรอก ใช่ไหม นี่ถ้าไม่บังเอิญเจอกันวันนี้ก็ไม่เห็นว่าจะติดต่อมานี่ จริงไหมล่ะ หืม...”
มาวินนิ่ง มองคนกล่าวอย่างไม่เข้าใจ “นายจะเอายังไงแน่ นายไม่ให้ฉันกลับเข้าไปในชีวิตนายแล้วทำไมต้องให้ฉันติดต่อนายไป นายหลงตัวเองหรือ คิดว่าฉันจะโง่เดินกลับไปหาไอ้วิตถารแบบนายหรือไง ในเมื่อตัวเองก้าวผ่านขุมนรกนั่นมาได้แล้วจะกลับไปทำไมกัน เหอะ! อยากได้เงินคืนนัก ฉันจะรีบหาคืนมาคืนนายทุกบาททุกสตางค์ พอใจหรือยัง!”
ดวงตามาวินแดงก่ำขณะจ้องตาคนตรงหน้าเขม็ง แม้ฝ่ามือของการุญพยายามลูบปลอบโยนเท่าใดก็ไม่เป็นผล ชายหนุ่มพ่นลมหายใจกับอารมณ์ที่กำลังปะทุเดือด จะหันกายไปเก็บกลั้นความรู้สึกก็ถูกดึงรั้งกลับ
“เดี๋ยว...” แทนคุณกระตุกมือ มาวินยื้อแขน หันไปมองอีกฝ่ายเขม็ง
“มีอะไรอีก อ้อ แล้วค่าข้าวนี่ก็ไม่ต้องจ่ายหรอกนะ ไม่ต้องคิดถือว่าเป็นบุญคุณอะไรที่ติดค้างกัน ให้คิดซะว่าเป็นดอกเบี้ยที่เสียเวลามาทวงถามด้วยตัวเอง”
“มาวิน...”
การุญจะร้องตาม หากผละไปสบมองชายผู้ที่เพิ่งถูกตัดขาดไปหมาด ๆ อย่างนึกระอาแก่ใจ แทนคุณนิ่ง เพียงแค่หันไประงับอารมณ์คนเดียวอย่างไม่พูดไม่จา ครั้นเจ้าตัวหันมาสบ ก็เป็นเวลาที่การุญจะพูดอะไรสั่งสอนรุ่นน้องตรงหน้าเสียบ้าง
“แบบนี้ซีนะที่แกอยากให้ฉันเป็นมาโดยตลอดน่ะแทน อยากให้ฉันเป็นคนเลวซีนะ แต่ขอโทษที แกอย่าคิดว่าคนอื่นเขาจะเป็นเหมือนแกหมดทั้งโลกซี มันไม่มีวันเป็นแบบนั้นแน่ เพราะคนที่เลวน่ะเป็นแกเองไม่ใช่คนที่แกเกลียดที่ไหนทั้งนั้น”
แทนคุณกำหมัด ไม่พูดอะไรนอกเสียจากส่งสายตาเรียบนิ่งมองคนกล่าว “แกได้เกลกลับไปแล้วยังจะต้องการอะไรอีก”
“ไม่ใช่เรื่องของพี่”
“เหอะ!” การุญแสร้งหัวเราะอย่างสุดทน “ฉันหวังว่าวันนี้จะเป็นแค่ความบังเอิญจริง ๆ เถอะนะ”
“มาวินเป็นคนของผม แล้วที่นี่เป็นของของผม ผมจะมาเหยียบเมื่อไรก็ได้ คนอื่นอย่างพี่น่ะแหละไม่มีสิทธิ์ทำกร่างใส่คนอื่นแบบนี้ ไปทำเป็นคนดีที่อื่นโน่น” คนกล่าวกำหมัด มองการุญซึ่งยังไม่ได้สะทกสะท้านกับคำเขา
“ไม่ได้เป็นแล้ว ตอนนี้วินไม่ได้เป็นอะไรกับแก”
แทนคุณชะงัก ไม่ได้สวนกลับเพราะเห็นว่าการุญพูดเรื่องจริง “อย่ามากลับลำตามใจชอบซี ถ้าตัดสินใจอะไรไปแล้วก็อย่ามาเสียดายทีหลัง แล้วฉันก็คิดว่าคนอย่างวินเขาไม่ใช่พวกชอบถอยหลังเหมือนเกลหรอก”
“ก็ไม่แน่ เห็นสายตาของเขาไหมละ”
การุญรีบส่ายหน้าโต้แย้ง พูดทีเล่นทีจริง
“ไม่เห็น ฉันเห็นแต่ความโกรธของเขาตอนที่คุยกับแก อาจมีความรังเกียจผสมรวมด้วยหน่อย ๆ นะ คงเพราะเขาคิดถึงเรื่องเก่า ๆ เกี่ยวกับแกแล้วชวนให้แขยงน่ะ จากนี้ไปก็ขอให้ชีวิตคู่ของแกกับเกลมีแต่ความสุขก็แล้วกัน ได้อยู่ด้วยกันอย่างที่หวังแล้วก็เลิกนิสัยทรยศคนที่พวกแกรักสักทีล่ะ โชคดี...”
การุญเดินตามมาวินเข้าไปในร้านหลังกล่าวจบ พร้อมกับชายหนุ่มที่ยังยืนนิ่งราวกับรูปปั้น แม้จะมีเสียงฝนฟ้าสาดแทรกมาดังเพียงไหน ชายหนุ่มกลับได้ยินในสิ่งที่การุญพูดด้วยชัดแจ้งทุกคำ มันสะท้อนอยู่ในโสตประสาทไม่จางหายไปเลยแม้แต่นิด พร้อมกับภาพแววตา สีหน้าอันเต็มเปี่ยมไปด้วยความผิดหวังของมาวินครั้งเก่าก่อนที่ย้อนกลับเข้ามาให้เห็น
ชายหนุ่มไม่เชื่อว่าทุกวันที่มาวินอยู่ด้วยกันจะเป็นเพียงแค่การแสดง ไม่เชื่อเด็ดขาด
แม้แต่ท่าทีเข้มแข็งวันนี้ก็ด้วย!
---------------------------------------------------------
มาวินลูกกกก มาให้ป้ากอดหน่อยเร็ว
อีตาแทนรู้สึกผิดหรือยัง เมื่อไรจะคิดได้ว่ามาวินคือที่หนึ่ง
มารอติดตามค่ะ ใกล้จะจบเต็มทีแล้ว
ปล.อย่าลืมคอมเม้นเป็นกำลังใจด้วยน้าาาาา