♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๑๓ ส่งตัวเข้าหอ✖[10/12/2016] ~อัพ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๑๓ ส่งตัวเข้าหอ✖[10/12/2016] ~อัพ  (อ่าน 43050 ครั้ง)

ออฟไลน์ Fragrant

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 858
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-0
นับวัาๆก็ยิ่งรักโนมากขึ้นเรื่อยๆใช่ไหมริว อยากเก็บเธอไว้ทั้งสองโค้นนนนนน น น น น น น~~~

ออฟไลน์ tiew93

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 655
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ริวยังไม่รู้จริงๆหรอ เมื่อไหร่จะรู้สักที  :katai1:

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ Bb nale

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
ขุนพลกับริวเขาคุยไรกัน โนนิสัยน่ารัก ฟอกซ์คงหึงเก้งน่าดู

ออฟไลน์ kawoat

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 388
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
555 ขำตอนท้ายที่สูดกลิ่นฟืดๆ จนริวด่าว่าโรคจิตเนี่ยแหละ ตัลล๊ากกกก  :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ Biwty...

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 985
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1

ออฟไลน์ nekozaa

  • I want to you read me
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 113
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
บทที่๑๐

ทริปเที่ยวทริปฟิน

   






   "ไปเที่ยวกัน"นี่คือคำพูดหลังจากที่ริวมาส่งผมที่คอนโด ผมเลยตอบตกลงไปง่ายๆด้วยความที่อยากไปเปิดหูเปิดตาอยู่แล้ว โดยมีข้อแม้ว่าต้องพาเก้งกับฟอกซ์ไปด้วย แน่นอนว่าริวโอเคแม้จะทำท่าอิดๆออดๆ

   ผมโทรไปชวนเก้งและให้เก้งชวนฟอกซ์ที่อยู่ข้างๆมัน เอ๊ะ หรืออยู่ข้างบน ทำไมถึงรู้น่ะหรอ เพราะเสียงหายใจแปลกๆกับเสียงเอี๊ยดอ๊าดเบาๆไงล่ะ แบบนี้คงไม่เรียกว่าเล่นเป้ายิงฉุบกันหรอกนะ เล่นแบบอื่นกันมากกว่า หึหึ

   หลังจากได้คำตอบว่าไปด้วยเสียงสั่นๆของเก้งผมก็ต้องวางหูแล้วเข้าห้องน้ำไปอย่างเงียบๆ ไม่ต้องอธิบายอะไรต่อผมก็ชักธงเพราะกิจกรรมเข้าจังหวะของสองเพื่อน

   ทริปเที่ยวเราจะไปหัวหินกัน เวลานัดคือพรุ่งนี้เนื่องด้วยเป็นวันหยุดราชการพอดีกับวันมะรืนเป็นวันหยุดเสาร์ อาทิตย์ เดินทางประมาณ 6 โมงเช้า ค้างที่นั่น 3 วัน 2 คืน

   พูดถึงหัวหินถิ่นมีหอยแล้วก็คิดถึง ผมเป็นเด็กหัวหินครับ เกิดและโตที่นั่น ผมกับริวก็เรียนด้วยกันอยู่ที่หัวหินนั่นแหละครับ พอขึ้นมหา'ลัยผมกับแม่ก็ย้ายมามากรุงเทพฯถาวร ผมมีสองบ้านครับ มีที่หัวหินกับกรุงเทพฯเนื่องจากเมื่อก่อนแม่เป็นดาราดังเลยต้องเข้ากรุงบ่อยๆ ถามว่าทำไมแม่ถึงไม่อยู่กรุงเทพฯซะเลยเพราะแม่ชอบหัวหินแถมยังพบรักกับแด๊ดที่นั่นอีก อันนั้นก็ส่วนหนึ่ง เหตุผลต่อมาคือของผมเองก็เหมือนแม่เป๊ะๆที่เป็นดาราดังไม่อยากห่างถิ่น เรียกได้ว่าลูกไม่หล่นไม่ไกลต้น

   พอขึ้นมหา'ลัยผมจำเป็นต้องมาอยู่กรุงเทพฯถาวรเนื่องด้วยงานการที่มากล้นและหนีใครบางคน ใช่ ไอ้ขุนพลนั่นแหละ

   กลับไปหัวหินคราวนี้คงต้องแวะไปเยี่ยมคุณครูที่นั่นบ้างละ นึกแล้วก็อดที่จะคิดถึงปนตื่นเต้นไม่ได้ 2 ปีที่ไม่ได้กลับหัวหินเลยจะเป็นยังไงบ้างนะ อะไรจะเปลี่ยนไปบ้าง อยากจะพาขุนพลไปย้อนวัยด้วยกันแต่พอหัวดันนึกถึงภาพวันวานอันขมขื่นผมก็ปฏิเสธสิ่งที่ใจอยาก ยอมรับว่ายังกลัวๆกับเหตุการณ์ตอนนั้น

   เมื่อคิดไปคิดมานอกจากจะทำให้ตัวเองเครียดไม่พอแล้วยังทำให้ปวดหัวตุบๆอีก ผมจึงพยายามนึกถึงเรื่องอื่นแทนเพื่อให้ตัวเองข่มตานอนหลับ

   แกะตัวที่ 1 2 3 4 5... Zz z

   ติ๊ดๆ ติ๊ดๆ

   เสียงนาฬิกาปลุกที่ตั้งไว้ส่งเสียงกรีดร้องออกมาอย่างน่ารำคาญ ผมจึงควานหาด้วยความสะลึมสะลือแล้วกดปิดให้มันหยุดแผดเสียง เกือบจะหลับต่ออยู่แล้วถ้าไม่คิดขึ้นมาได้ก่อนว่าวันนี้วันอะไรจึงกระเด้งตัวลุกออกจากเตียงไปอาบน้ำด้วยความกระตือรือร้น

   อาบเสร็จผมก็ใส่ชุดทันทีแล้วมองตัวเองในกระจกเป็นรอบที่ร้อย ชุดที่ไม่ได้ใส่มานาน จะใส่ได้ไงล่ะ ก็เพราะ...

   กริ๊งงงง

   ไม่ต้องบอกก็รุ้ว่าไผเป็นไผ ผมหยิบกระเป๋าเป้ใบขนาดพอดีกับการไปค้างหัวหิน 3 วัน 2 คืนมาสะพายหลังแล้วตรงไปเปิดประตูด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

   "เห้ย นี่มึงใส่ชุดอะไร"

   "ตาบอดหรอ ก็ชุดนักเรียนไง"ผมมุ่ยหน้าตอบ ยิ่งสีหน้าเหมือนเห็นของแปลกนั่นแล้วยิ่งทำให้ผมหน้าบึ้งจัด โนผู้อยู่ในชุดนักเรียนชายกางเกงน้ำเงินออกจะหล่อดูดีมีสไตล์ ว่าแล้วก็เสยผมที่ปรกหน้าคร่าตาขึ้น

   "ชุดนักเรียนชายก็ดีแต่ถ้าเป็นชุดนักเรียนหญิงคงดีกว่านี้"คนตรงหน้าผมพูดเพ้อๆ มุมปากก็ยิ้มเจ้าเล่ห์อย่างกับว่าในหัวคิดอะไรแปลกๆอยู่

   "จะไปมั้ยหัวหิน ไม่ไปกูกลับ"

   "กลับไปไหนของมึง"

   "เออ นั่นแหละ"เกาหัวตัวเองด้วยความมึนแล้วผลักไหล่ริวให้หลีกทาง มันมองผมประมาณว่าหาเรื่องหรอผมเลยยักคิ้วกวนๆไป

   เราสองคนเดินลงมาจากคอนโด คงจะไปด้วยรถตู้ ผมก็ไม่ว่าอะไรแต่ระหว่างทางจากชั้นบนลงมาชั้นล่างนี่ไอ้ริวก็อาสาจะถือกระเป๋าเป้ให้ ผมไม่ให้เราเลยฉุดกระชากลากกระเป๋ากันตลอดทางจนผู้คนที่พบเห็นต่างก็อมยิ้มขำ แทนที่จะเห็นประมาณว่าโจรจะขโมยของดันเห็นว่าเรามุ้งมิ้งง้องแง้งกันอีก โถ่ถังกะละมังแตก

   "บอกแล้วไงว่าจะถือให้ เอามา"ยื้อกันไป

   "ไม่ต้อง กูเป็นผู้ชายไม่ใช่ผู้หญิง ถือเองได้"ยื้อกันมา

   "ก็บอกให้เอามา มันหนัก"แล้วก็ยื้อกันไป

   "แค่นี้เอง อย่าเวอร์ไอ้สัด"แล้วก็ยื้อกันมา

   ปิ๊นๆ

   ขณะที่ยังฉุดกระเป๋ากันไม่เลิกเสียงบีบแตรก็ดังขึ้น ผมเลยปล่อยกระเป๋าที่ค่อนข้างหนักลงพื้นด้วยความตกใจ

   "โอ๊ย!"สงสัยไม่ได้ตกที่พื้นแต่คงเป็นเท้าไอ้ริวมากกว่า ผมเลยเบะปากสมน้ำหน้ามันไปอยากถือดีนัก เอาไปเลย

   "ขึ้นรถๆ"เสียงที่คุ้นเคยตะโกนขึ้นมา ผมหันไปให้ความสนใจด้วยรอยยิ้มแต่พอเห็นว่าเป็นใครห็หุบลง

   หัวใจผมเต้นตึกตักอย่างรุนแรงจนกลัวว่ามันจะเด้งออกมา ตัวผมสั่นหงึกๆอย่างกับคนเป็นโรคสันนิบาต

   "โน เป็นอะไร"ริวจับแขนผมด้วยคามเป็นห่วง ผมไม่สนใจเดินไปที่รถที่ขุนพลเพื่อนเก่านั่งอยู่โดยมีใครอีกคนนั่งอยู่ข้างคนขับอย่างขุนพล

   "โน กูขอโทษ ที่จริงกูวางแผนจะพามึงไปหัวหิน กูกลัวมึงไม่ไปเลยขอให้ไอ้ริวช่วย กูทำมึงเสียใจอีกแล้วใช่มั้ย กู..."

   "อู๊ยยยยยว สวย สวยมาก อยากด้ายยยย"ผมกรี๊ดลั่นชมสิ่งนั้นไม่หยุดปากพลางลูบไล้ไปด้วย

   "..."

   รถตู้โฟล์คโบราณสีน้ำเงินอ่อน ข้างบนรถมีเหล็กยื่นออกมาเล็กน้อยสำหรับเก็บของ เป็นรถที่ถูกออกแบบมาเพื่อตะลอนไปเที่ยวโดยเฉพาะ ผมรู้สึกหลงรักความวินเทจแบบเก่าๆของมันทันทีทันใด จะว่าผมบ้านนอกก็ได้แต่ผมไม่เคยเห็นรถโฟล์คกับตาตัวเองมาก่อน เคยเห็นแต่ในเน็ตผ่านๆตา บอกได้เลยว่าโนชอบ โนจะเอา ผมค่อยๆยื่นหน้าเข้าไปใกล้รถหมายจะจูบอย่างดูดดื่มให้สมกับความรักที่ผมให้ไป

   "หยุดเลยมึง รถกู"ขุนพลถึงกับรีบลงจากรถมาจิกหัวผมให้ออกห่างจากรถของผม?

   "ขอรถมึงได้มั้ย อยากได้"บอกตรงๆแบบไม่อ้อมค้อม

   "ไม่"คำเดียวสั้นๆได้ใจความ ผมมองโฟล์คด้วยสายตาละห้อย

   "พี่ๆขึ้นรถกันเถอะครับ ยืนนานๆเดี๋ยวเมื่อยเอานะครับ"ผู้ชายหน้าตาจัดว่าดูดีคนหนึ่งยื่นหน้ามาบอกกับพวกเราด้วยหน้าตาบึ้งตึงสวยทางกับคำพูดหวานจ๋อย

   "ครับๆ ที่รัก"ขุนพลหันไปพูดยิ้มอ้อนๆประจบผู้ชายคนนั้น คงจะเป็นแฟนของมัน ดูท่าจะเลิกอคติกับเพศที่สามแล้วจริงๆ ผมคงไม่ต้องกังวลอะไรแล้วมั้ง

   "ที่รักอะไรกันครับ ผมเขินนะ"น้องพูดจาเขอะเขินแต่ท่าทางนี่อยากจะเข้าไปฆ่าไอ้ขุนพลซะมากกว่า ผมว่าน้องเขาคงเป็นคน 2 บุคลิกนะครับ คำพูดสวนทางกับการกระทำมาก

   ริววิ่งเหยาะๆเอากระเป๋าไปเก็บท้ายรถของผม?(ลืมเพื่อนยากที่จอดแน่นิ่งอยู่บนคอนโดเสียสนิทใจ) ผมเข้าไปนั่ง พอก้นสัมผัสเบาะเท่านั้นความฟินก็บังเกิด

   "เวอร์อะไรเบอร์นั้น"ขุนพลขัดอารมณ์ฟินของผมทันที

   "เสือกป่ะ เดี๋ยวไม่ไปด้วยชิบ"พูดไปงั้นแหละถึงไล่ก็ไม่ลงไปจากรถคันงามหรอก

   "เออๆ กูขอโทษ"ผมยักไหล่ไม่ถือสาแล้วริวก็เข้ามานั่งเบียดกับผมในรถ เบียดชนิดที่ว่าผมจะนั่งตักมันอยู่แล้ว

   "จะเบียดกูทำเหียกอะไร ที่นั่งมีเยอะแยะ"

   "ก็อยากนั่งใกล้ๆ ผิดด้วยหรอ"มันพูดหวานๆพร้อมทำหน้าตาอ้อนส้งติง ผมเลยยกติงไปพาดขามันทั้งสองข้างซะเลย

   "นวดดิ๊ เมื่อย"ไม่พูดเปล่าผมยังยกปลายเท้าขึ้นจนจะทิ่มหน้าไอ้ริวอยู่แล้ว อยากใกล้ชิดนักไอ้โนคนนี้ก็จัดให้ได้

   "เอาลงไปเลยมึง ไม่เอาลงกูเลีย"ริวทำท่าแลบลิ้นหมายจะเลียจริงๆผมก็รีบชักขาลงไปนั่งตัวตรงทันที ไม่ได้กลัวแค่อยากนั่งดีๆขึ้นมา

   "เออ กูว่าจะถามตั้งแต่เห็ยมึงละไอ้โน มึงใว่ชุดนักเรียนทำหมาแมวอะไร"ขุนพลที่ตั้งใจขับรถไปตามเส้นทางที่ผมบอกให้ไปรับเพื่อนๆถามขึ้น

   "อยากย้อนวัยเฉ๊ยเฉย"

   "น่ารักดีนะครับ"คนข้างๆขุนพลชมผมแต่ทำไมมองผมด้วยสายตาระอาใจวะ อ่อ ลืมไป เด็กนี่มันเป็นคน 2 บุคลิก แอ๊ะ หรือว่ามันเป็นคนตอแหล ฮ่าๆ

   "ทั้งเกรียนทั้งบ้าขึ้นเยอะนะมึง"เพื่อนเก่าชมผมบ้าง ถือว่าเป็นคำชมที่ผมชอบมากกก"อ่อ นี่แฟนกูเอง ชื่อเป็นห่วงอยู่มหาลัยเดียวกับพวกเรา ปีหนึ่งคณะเดียวกับกู"

   "ชื่อแปลกว่ะ"

   "ชื่อพี่น่ารักดีนะครับ มาจากคำว่าสโนว์รึเปล่าเอ่ย พี่ขาวเหมือนเจ้าหญิงสโนว์ไวท์เลย"น้องเป็นห่วงกัดฟันพูด เอ่อ ผมจะไม่ถือสาทุกการกระทำยองน้องล่ะกันนะครับ ขุนพลมันคบไปได้ไงวะ

   "สโนว์"ผมสะดุ้งเมื่อคนข้างๆเปรยขึ้นลอยๆ ไอ้หยา ความลับจะแตกตอนนี้ไม่ได้นะ

   "อ่อ พี่ชื่อโนแต่สโนว์นั่นน่ะพี่สาวพี่เอง ฮ่าๆ"แถแล้วก็หัวเราะดังๆกลบเกลื่อน ขุนพลที่รู้เรื่องราวของผมแล้วก็นั่งขับรถไปเงียบๆไม่ได้ย้อนแย้งอะไร

   ริวเงียบไปเลยหลังจากที่น้องเป็นห่วงพูดชื่อสโนว์ออกมา

   "นี่ อยู่กับกูห้ามคิดถึงคนอื่น เดี๋ยวหมดวนุกกันพอดี เข้าใจ๊"ผมใช้สองมือประกบหน้าริวบังคับให้หันมาสบตากับผม เมื่อเห็นวันมันยังเงียบผมเลยเล่นหน้ามันให้ยับยู่ยี่

   "อ่อย โอ อูออมแอ้ว(ปล่อย โน กูยอมแล้ว)"ผมยอมปล่อยมือออกจากหน้าริวแต่มันดันจับมือผมไปกุมไว้กับอกจนได้รู้สึกได้ถึงก้อนเนื้อที่เต้นตุบๆในกายริว

   "กูจะคิดถึงแต่มึง"สายตาที่แน่วแน่กอปรความหล่อ แมน แฮนซั่มของมันทำเอาผมต้องเสตาหลบด้วยความเขินอาย

   "อ่ะแฮ่ม รถพี่พลสนิมขึ้นหมดแล้ว หวานเกรงใจคู่เป็นห่วงบ้างสิครับ"น้องแกก็ยังทำท่าสวนทางกับคำพูดเหมือนเดิมก่อนจะหันไปถอนหายใจแรงๆด้วยความหงุดหงิด สงสัยเมนส์ไม่มา

   "เดี๋ยวคืนนี้พี่จัดหวานให้เป็นห่วงชุดใหญ่เลย น่ารักจริงๆแฟนพี่"ขุนพลเอื้อมมือไปหยิกแก้มน้องเป็นห่วงอย่างหมั่นเขี้ยวแต่น้องแกกลับชักสีหน้าใส่
   
   เห็นคู่นี้แล้วขัดแย้งแปลกๆ เอาเถอะ ไม่ใช่เรื่องของผมสักหน่อย

   สถานีปลายทางที่เรามาจอดคือหน้าบ้านของฟอกซ์ บ้านเดิมกับที่ผมถูกลากมาข่มขืนแต่ไม่สำเร็จนั่นแหละ เห็นเก้งกับริวเดินมาแต่ไกลและเพ่งสายตามองมาที่รถของผม?(อีกละ)ด้วยความแปลกใจ เมื่อเดินเข้าใกล้มาเรื่อยๆผมจึงยื่นหน้าออกจากกน้าต่างรถไปเรียกพวกมัน

   "ไอ้เก้งเมียไอ้ฟอกซ์ ทางนี้เว้ย"ผมตะโกนดังๆแกล้งพวกมันแต่ดูเหมือนการแกล้งของผมจะทำให้ไอ้เก้งขมุบขมิบปากด่าผมส่วนไอ้ฟอกซ์ยิ้มอย่างถูกอกถูกใจ

   "เห้ย ไอ้ขุนพลมาได้ไง มึงลักพาตัวเพื่อนกูหรอ ไอ้เลว"เก้งชี้หน้าด่าขุนพล

   "เพ้อเจ้อนะมึง มาๆขึ้นรถ กูชวนมันไปด้วยเองแหละ"ที่จริงมันวางแผนชวนผมมาแต่จะให้เล่าก็ขี้เกียจสาวความยาวต่อความยืด

   "ถ้ามันไปด้วยกูไม่ไป"เพื่อนผมยื่นคำขาด"เปลี่ยนใจละ กูไปด้วย"

   "แหม กำลังจะบอกว่าแล้วแต่เลย"ผมแซวไปที ก็เก้งไม่ยอมให้ผมโดนขุนพลทำร้ายอีก ผมรู้ว่ามันจะต้องตามไปปกป้องผม

   ขอยืมคำคมพี่คมแฝกมาใช้ในสถาณการณ์นี้ก่อนนะครับ บอกได้เลยว่าควาย 4 ตัวกับเบาะหลังรถคันนิดเดียว อัดกับจนจะเป็นปลากระป๋องอยู่แล้ว ทำยังไงก็นั่งไม่ครบว่ะครับ ข้างหลังก็เต็มไปด้วยสัมภาระ

   "เอาอย่างนี้ดีกว่า โนจะนั่งตักผมเอง"ริวพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังแต่ไหงยิ้มมุมปากเจ้าเล่ห์แบบนั้น หวังดีประสงค์ร้ายนี่หว่า

   "เออ ยังไงที่ก็ไม่พออีกอยู่ดี งั้นมึงก็นั่งตักกูเหมือนไอ้โนแล้วกัน"

   "แต่..."พวกเรา(ฝ่ายรับ)ทำท่าจะปฏิเสธ

   "ยิ่งพวกมึงตัดสินช้า ก็จะถึงหัวหินช้าเท่านั้น"

   "ไอ้เก้ง มึงอย่าเรื่องมาก นั่งตักมันไปไม่เสียหายหรอก ผู้ชายด้วยกันทั้งนั้น"ด้วยความที่อยากไปถึงบ้านเกิดเร็วๆผมเลยหันไปโทษไอ้เก้งจนมันหวอกับความง่ายของผม"มึงรีบขึ้นไปนั่งดิวะไอ้ริว"แล้วก็หันไปสั่งคนที่ยืนอมยิ้มอมลมอยู่

   จัดที่นั่งกันได้เรียบร้อยรถโฟล์คคันงามก็เคลื่อนตัวออกไป

   ขอเล่าถึงสภาพของพวกเราสี่หน่อหน่อยนะครับ ริวนั่งก้นติดเบาะในขณะที่ผมนั่งคร่อมหน้าตักหันหน้าเข้าหามันแล้วก้มหน้าซบไหล่มันด้วยความเขินแทบพุ่ง จะนั่งตักดีๆอยู่หรอกแต่เพดานรถมันเตี้ยไปหน่อย ผมเลยนั่งตักแบบดีๆไม่ได้ๆเลยต้องนั่งตักสองแง่สองง่ามแบบนี้พอๆกับเก้ง อย่างกับโรงแรมม่านรูดในรถ

   คนที่ผมนั่งคร่อมอยู่ก็หายใจฟืดฟาดอย่างกับช้างตกมัน ของแข็งบางอย่างดุนดันผ่านเนื้อกางเกงจนเห็นเป็นรูปร่าง

   "อ๊ะ"ผมสะดุ้งตกใจเมื่อลิ้นร้อนๆขบเบาๆที่ติ่งหู ผมหยิกแขนมันแรงๆแก้แค้นและเตือนสติ ไม่ใช่อะไรหรอก ผมก็ชักจะกรึ่มๆขึ้นมาเหมือนกัน

   "ทนอีกนิดนะพวกมึง ถ้าไม่ไหวเดี๋ยวกูจอดที่ม่านรูดให้ ฮ่าๆ"ไอ้ขุนพลล้อเลียนพวกผมแล้วก็หัวเราะร่า

   "ถ้ามึงยังล้อกูอีกกูจะจับแฟนมึงปล้ำ"ไอ้เก้งพูดออกมาอย่างเดือดดาลแต่คงไปสะกิดต่อมหึงของไอ้ฟอกซ์เข้า

   ฟอกซ์เอื้อมมือไปขยำขยี้ก้นไอ้เก้งแรงๆแล้วตบดังป๊าบ จากนั้นทั้งสองก็งุ้งงิ้งกัน ผมก็ไม่ได้มองพวกมันอีกแต่หันไปสนใจวิวข้างนอกแทน จะเรียกว่าวิวได้มั้ยนะเพราะข้างหน้าสายตาผมคือรถคันหนึ่งที่เปิดกระจกรับควันกรุงเทพฯ มากันเป็นครอบครัวด้วยสิ ด้วยความที่รถโฟล์คหน้าจะเป็นแบบกระจกใสทำให้เด็กๆที่หันมามองนั้นเห็นพวกเราได้เต็มตา เด็กชายที่น่าจะอยู่ชั้นมัธยมตาโตหน้าแดงทันทีผมเลยทำปากขมุบขมิบทักทายว่า

   'สวัสดี'

   แล้วรถก็ออกตัวไป ผมจึงขำเบาๆด้วยความฮาและความกวนตีนของตัวเอง

   "กวนตีนจนกูหมดอารมณ์กับมึงเลย"

   "เดี๋ยวกูปลุกให้ใหม่มั้ยล่ะ"ผมยักคิ้วท้าทาย

   "มึงพูดเองนะ"ผมตกใจรีบดันหน้ามันไว้ก่อนที่จะโดนจูบ ลืมไปว่าอย่าท้าทายคนอย่างมัน

   "กูง่วง ขอนอนหน่อยละกัน ปลุกด้วย"ลิ้นผมพันกันรัวด้วยความรีบก่อนที่ผมจะซุกหน้าซบไหล่มันและสูดดมกลิ่นตัวของริวด้วยความเคยชิน

   "ไอ้โน กูว่าจะถามมึงมานานละ ใส่ชุดนักเรียนทำเตี่ยอะไร คอสเพลย์หรอมึง"เก้งที่กลับมาจากโลกสีม่วงชมพูของมันถามคำถามเดียวกับขุนพล สมแล้วที่ทั้งคู่เป็นเพื่อนผม

   "ถามขุนพลสิ กูงีบแป๊ปนะ"ผมตอบเสียงอู้อี้อยู่ที่ซอกคอริวเพราะกลิ่นหอมสดชื่นของริวทำให้ผมเคลิ้มจะหลับ ยิ่งอ้อมแขนอุ่นๆกระชับกอดผมไว้เพราะกลัวหงายหลังยิ่งทำให้ผมเคลิ้ม

   ผมหลับตาพริ้มกำลังเข้าสู่ห้วงนิทราก่อนหลับรู้สึกว่ามีอะไรอุ่นๆแตะที่ขมับเบาๆอย่างนุ่มนวล ชอบจัง อยากได้แบบนี้ทุกคืนก่อนนอนเลยจะได้มั้ยนะ แล้วผมก็หลับไปทั้งๆที่ยิ้มอยู่แบบนั้น

   .........

   "สวัสดีหัวหิน โนกลับมาแล้ววว"หลังจากรถโฟล์คที่รักเคลื่อนตัวเข้ามาในตัวเมืองหัวหินผมก็ยื่นหน้าออกไปรับลมนิดหน่อยแล้วตะโกนลั่น

   "พูดอย่างกับไม่เคยมาไปได้"คนใต้อาญัติผมแขวะเบาๆแต่ผมได้ยินไง ผมว่านะขาริวคงชาหนึบจนไม่รู้สึกอะไรแล้วล่ะมั้ง อยู่ในท่านี้มาตั้งแต่ออกจากกรุงเทพฯ ถึงแม้ว่าจะแวะปั๊มบ้างก็เถอะ

   "เคยมาสิแต่ตอนนั้นมาทำงานไง เลยไม่มีเวลาได้คิดถึงที่นี่เท่าไร"

   "ทำงานอะไร?"คำถามของริวทำให้ผมเพิ่งรู้ตัวว่าเผลอพูดอะไรออกไป

ออฟไลน์ nekozaa

  • I want to you read me
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 113
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
ดีที่ไม่ได้บอกไปด้วยว่าใครบางคนก็ขอแต่งงานที่นี่ไม่ใช่หรอ

   "คิดถึงโรงเรียนเนอะ ขุนพล...เดี๋ยวไปหาครูที่นั่นหน่อยมั้ย"ไม่ตอบความสงสัยของริวผมเปลี่ยนเรื่องด้วยการหันหน้าไปคุยกับขุนพลแทน

   "คิดงั้นอยู่พอดี...เดี๋ยวเอาของไปเก็บที่รีสอร์ทแล้วไปห้างกันจากนั้นแวะไปที่โรงเรียนเก่าของเรากันเนอะ โน"ขุนพลหันมายิ้มให้ผมแวบหนึ่งก่อนจะหันกลับไปขับรถต่อ

   "พี่พลนอกใจผมซะแล้ว"เด็กข้างๆคนขับแสยะยิ้มอย่างน่ากลัวแต่คำพูดที่สื่อออกมาดูจะล้อเล่นล้อเลียนเสียมากกว่า

   "พี่รักใจคนเดียวนะ ถ้างอนเดี๋ยวคืนนี้พี่ง้อขอคืนดีนะครับ ตกลงมั้ย"

   "ได้ครับ"สีหน้าของเป็นใจหวอขึ้นมาเมื่อตัวเองตกลงที่จะให้ความร่วมมือสำหรับคืนนี้ หนังสดก็มาเว้ยเห้ย

   "มึงแน่ใจหรอว่าจะไม่ถูกหลอกอีก"เพื่อนรักผมถามด้วยความเป็นห่วงพร้อมส่งสายตาไม่เชื่อใจให้ขุนพล

   "ไม่ดีหรอ ถ้ามันหลอกกูมึงจะได้กระทืบมันได้เต็มที่ไง"

   "เดี๋ยวกูช่วยยำด้วยอีกคน"เก้งสำทับ

   "โห กูไม่กล้าหลอกมึงแล้วล่ะ ยังไม่อยากนับรอยตีนบนร่างกาย"

   "ฮ่าๆๆ"หลังจากจบประโยคพร้อมหน้าแหยๆของขุนพล ทุกคนในรถก็หัวเราะออกมาดังลั่น

   "ผมช่วยรุมด้วยๆ"

   "เสือก!"ทั้งผม เก้ง ฟอกซ์ และขุนพลต่างร่วมด้วยช่วยกันพูดตอกหน้าคนขี้เสนอหน้าอย่างริว ทำเอามันเบ้หน้าเหมือนจะร้องไห้

   ในที่สุดพวกเราก็มาถึงรีสอร์ทริมหาดที่อาของริวเป็นหุ้นส่วนร่วมอยู่ด้วย 60% เข้ามาถึงก็ถูกพนักงานต้อนรับเป็นอย่างดีและนำทางไปที่ห้องเหมือนกับว่าทุกอย่างเตรียมการมาแล้วล่วงหน้า เมื่อพนักงานสาวทำหน้าที่และแนะนำอะไรๆเสร็จเธอก็จากไป

   ห้องที่พวกเราพักเป็นแบบห้องสวีท 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ นี่กะจะรวบหัวรวบหางให้นอนเป็นคู่ๆสินะ ฝันเถอะไอ้พวกหื่นโดยเฉพาะริว ถึงผมจะชอบมันนิดๆหน่อยๆแต่ผมก็ไม่ยอมหรอกนะ แต่งงานก่อนค่อยว่ากัน ฮ่าๆ

   "เดี๋ยวกูนอนกับเป็นใจ ริวกับโน ฟอกซ์กับเก้ง ตกลงตามนี้"

   "ไม่ กูจะนอนกับเก้ง"คนที่ผมเอามาอ้างสะดุ้งแล้วมองหน้าผมอย่างงงๆ ผมเลยจ้องตามันอย่างคาดคั้น

   "เออๆ กูจะนอนกับโน"

   "ไม่ได้ มึงต้องนอนห้องเดียวกับกู"ผัวไอ้เก้งค้าน

   "ผมขอนอนคนเดียวนะครับ"เป็นใจพูดออกมา เป็นครั้งแรกที่ผมเห็นว่าครั้งนี้คำพูดกับการกระทำตรงกัน

   "ยังงอนพี่หรอครับใจจ๋า นอนห้องเดียวกันนะๆ ที่รัก"ขุนพลเข้าไปอ้อนจนน้องแกทำหน้าปุเลี่ยนๆ

   "แบ่งเป็นคู่ผัวตัวเมียก็ถูกแล้วนี่โน"ริวเสนอแนะ

   พวกเราเถียงเรื่องห้องกันจนน้ำลายฝอย เถียงไปเถียงมาผมเลยลากเก้งกับเป็นใจมาจับกลุ่มคุยกัน

   "ถ้าคืนนี้มึงไม่อยากโดนไอ้ฟอกซ์เอาจนพวกกูได้ยินก็มานอนกับกูซะ ไม่ใช่ขอร้องแต่เป็นคำสั่ง"

   'ผมไม่อยากนอนห้องเดียวกับไอ้พี่พล ผมไม่ได้ชอบมัน'โทรศัพท์ที่มีข้อความถูกยื่นมาให้ผมอ่าน แอบงงๆว่าทำไมน้องเป็นใจถึงไม่พูดแทนแต่ใช้ข้อความ แถมยังบอกว่าไม่ได้รักทั้งๆที่ออกจะหวานชื่นมื่นกัน เอ๊ะ มันยังไงๆ'ผมคิดว่าถ้าพวกเรานอนห้องเดียวกันจะปลอดภัยนะครับ ให้พวกนั้นเอาไปเลยสองห้อง'

   ทั้งผมและเก้งต่างพยักหน้าเห็นด้วยกับความคิดของเป็นใจ ประชุมลับกันอีกนิดหน่อยก็เป็นอันตกลงและเดินไปหาพวกผู้ชาย(ฝ่ายรุก)ที่นั่งจับกลุ่มเหมือนพวกเราบนโซฟาห้องรับแขก เมื่อพวกนั้นเห็นเราก็สลายม็อบทันที

   "พวกเราตกลงกันว่าจะนอนห้องเดียวกัน กู เก้ง เป็นใจ ส่วนพวกมึงพวกกูให้ไปเลยสองห้อง...ไม่มีแต่ ไม่งั้นพวกกูจะกลับกรุงเทพฯ"หัวโจกอย่างผมพูดด้วยท่าทีจริงจัง

   เอาล่ะครับตอนนี้ฝ่ายรุกกำลังจ้องพวกผมด้วยสายขู่ฟ่อแต่ฝ่ายรับอย่างพวกเราก็จ้องกลับไปไม่แพ้กัน สมัยนี้ยุคทองของผู้ชายรุกมันเปลี่ยนไปแล้ว ฝ่ายรับอย่างเราๆก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำแทนและแน่นอนว่าผัวก็ต้องกลัวเมีย ผลสรุปคือพวกผมชนะขาดลอย ใสๆ หุหุ

   "ยอมๆ เห้อ...แยกย้ายเอาของไปเก็บแล้วมารวมตัวกันที่นี่อีก 20 นาทีนะ"ขุนพลยกมือเป็นเชิงว่ายอมแพ้ก่อนจะหยิบกระเป๋าเดินคอตกเข้าห้องไปเป็นคนแรก

   ริวมองผมนิ่งๆด้วยสายตาเจ้าเล่ห์แวบหนึ่งแล้วเปลี่ยนเป็นนิ่งๆจากนั้นก็เดินเข้าไปอีกห้องหนึ่ง ส่วนฟอกซ์ไม่ได้เดินเข้าห้องไปไหนแต่ทิ้งตัวนั่งลงกับโซฟา มันนั่งทอดสายไปมองที่วิวข้างนอกไม่พูดไม่จากับใครจนเพื่อนผมที่ยืนอยู่ข้างๆทำหน้าสลด

   "มึงจะนอนนี่?"เมื่อเห็นว่าเก้งเอาแต่อ้าปากพะงาบๆผมที่รู้ใจเพื่อนเป็นอย่างดีก็ถามให้แทน

   "เออ สมใจมึงแล้วนี่ แยกผัวแยกเมียกัน"ผมสะอึกไปกับคำพูดแทงใจของฟอกซ์ พอหันหน้าไปหาเก้งมันก็ส่ายหัวเชิงบอกว่าช่างมัน

   ผมถอนหายใจออกมาดังๆแล้วสะพายกระเป๋าเข้าไปเก็บในห้องนอน สิ่งแรกที่เห็นคือเตียงขนาดคิงส์ไซส์ ขนาดตัวของผม เก้ง เป็นใจ พอดิบพอดีกับเตียงเลยไม่เป็นปัญหา กระเป๋าสะพายใบใหญ่ถูกโยนไปที่ปลายเตียงจนเด้ง ผมจัดการของใช้เสื้อผ้าออกมาจากกระเป๋า สักพักเก้งกับเป็นใจก็เข้ามาในห้องและจัดการของส่วนตัวของตัวเองเหมือนกัน

   เมื่อจัดของเสร็จเป็นคนแรกผมก็เดินออกจากห้องไปหน้าห้องสวีทที่เป็นพื้นหญ้าและสระว่ายน้ำ มีประตูรั้วกั้นระหว่างหาดทรายสีขาวสะอาดตากับผืนหญ้าสีเขียว สามารถเดินผ่านในรั้วลงไปที่หาดได้เลย ส่วนนี้เหมาะสำหรับจัดปาร์ตี้บาร์บีคิ้วอย่างมาก ซึ่งขุนพลก็ได้ออกความคิดเห็นเรื่องนี้ไว้แล้ว และปาร์ตี้บาร์บีคิวจะจัดขึ้นในคืนพรุ่งนี้

   "ทำไมถึงแยกห้องนอนล่ะ กลัวอะไร"ไม่รู้ว่ากี่นาทีที่ผมยืนเหม่อมองออกไปจนไม่รู้สึกตัวเลยว่ามีคนมายืนอยู่ข้างหลังได้สักพักแล้ว

   "ไม่รู้สิ...ว่าแต่เรื่องของมึงเหอะ เป็นใจบอกกูว่าไม่ได้รักมึง"แอบสังเกตสีหน้าของขุนพล ผมเห็นมันทำหน้าเศร้าๆระคนสับสน สงสารจังแหะรักคนที่ไม่ได้รักมันเหมือน...ผม

   "ใจน่ะเป็นเด็กที่ชอบพูดขวานผ่าซาก ถ้ามันไม่ได้รักกูก็ถูกแล้ว แต่...กูหลงรักมันตั้งแต่ตอนนั้น...กูตัดสินใจบอกรักมันและขอคบทั้งๆที่กูก็รู้ว่ามันต้องตอบปฏิเสธแน่ๆแต่...มันกลับตอบตกลง...กูก็ไม่รู้ว่าทำไมมันถึงเปลี่ยนไป พูดจาหวานขึ้น ดีขึ้นแต่การกระทำมันไม่ใช่...กูสับสนว่ะ"ใบหน้าอมทุกข์ของเพื่อนทำให้ผมอดสงสารไม่ได้

   "กูไม่รู้จะพูดอะไรดี แต่...กรรมตามสนองมึงแล้วล่ะ ฮ่าๆ"จะให้ปลอบหรอ ฝันไปเถอะยิ่งคนอย่างโนแล้วไม่มีทาง ฮ่าๆๆ

   "ไอ้เพื่อนเวร"จากสีหน้าอมขี้กลับกลายเป็นยักษ์ขมูขีแยกเขี้ยวใส่ ขุนพลยีผมที่ตรงสวยของผมจนฟู แล้วเราสองคนก็หัวเราะกันด้วยใบหน้าที่เปี่ยมสุขอย่างกับย้อนวัยไปเมื่อสมัยมัธยม

   "ไปกันได้แล้ว"บุคคลที่สามขัดจังหวะการย้อนวัยของผม ริวเอื้อมมือมาโอบเอวผมแสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ

   "ไม่ต้องหึงน่า มึงควรขอบคุณกูนะที่ได้มาเที่ยวกับโน"ขุนพลตบไหล่ริวเบาๆแล้วเดินเข้าห้องรับแขกไปจับกลุ่มรอกับคนที่เหลือ

   "คุยอะไรกัน ทำไมถึงดูสนิทเกินเพื่อน ห้ะ"

   "แล้วเราเป็นอะไรกันล่ะ มีสิทธิ์อะไรมาถามอย่างนี้"ไม่ต้องบอกก็รู้แล้วว่าเป็นอะไร ดูจากสีหน้ากระอักกระอ่วนของริว ก็แค่ความรู้สึกชั่ววูบ

   เมื่อริวเดินตามมาพวกเราก็ออกจากรีสอร์ทนั่งรถโฟล์คคันงามคันเดิมไปห้างทันที บรรยากาศในรถต่างจากขามาหัวหินที่ครึกครื้น ตอนนี้ต่างคนต่างแข่งกันเงียบ ของที่เอาออกไปจากเบาะหลังรถที่ปรับขึ้นลงได้ไม่เกะกะอีกต่อไปทำให้ผมกับเก้งย้ายมานั่งข้างหลังแทน รู้สึกอึดอัดกับบรรยากาศแบบนี้ชิบ ผมว่าทุกคนก็คงรู้สึกเหมือนกัน นี่ผมทำเรื่องที่ผิดพลาดไปรึเปล่านะ

  ถึงที่หมายพวกเราก็ลงจากรถกันอย่างเงียบๆอย่างกับเล่นสงครามเย็น ต่างคนต่างเดินเข้าห้างแต่ก็ยังจับกลุ่มกันไว้ ไม่ชอบเลยบรรยากาศแบบนี้ ผมควรทำยังไงดีเพื่อให้ความครึกครื้นกลับมา

   โครกกกกครากกก

   ทุกคนพากันหันมาเมื่อได้ยินเสียงท้องร้องดังลั่นกัมปนาท ผมเลยส่งยิ้มแหะๆไปให้ลูบวนท้องเบาๆให้มันสงบ ข้าวเช้าก็ไม่ได้กินนี่นา นี่ก็ 9 โมงครึ่งแล้ว ปกติแล้วผมกินข้าวเช้าตอน 6 โมง ขุนพลเริ่มขำเป็นคนแรกจากนั้นทุกคนก็ขำตามอย่างช่วยไม่ได้ ขำอร่อยกันเลยทีเดียว

   "มีคนประท้วงว่ะ"ขุนพลล้อเลียน

   "ไปหาไรกินกันก่อนแล้วกัน"เก้งเสนอแนะ ทุกคนก็พยักหน้าเห็นด้วยกันยกใหญ่ อย่าว่าแต่ผมพวกมันก็หิวเหมือนกันนั่นแหละ

   หลังจากเกิดเหตุการณ์ท้องร้องบรรยากาศก็ดีขึ้นทันตาเห็น จากที่เดินแยกฝั่งแยกฝ่ายก็กลับมาเดินเป็นคู่ๆโชว์ความหวานให้ประชาชนเห็นแบบไม่แคร์สื่อ

   อ่อ ผมยังเป็นโนที่ใส่แว่นหนาเตอะนะครับ แต่วันนี้ไม่ได้สวมเครื่องประดับระโยงระยางมากมายเพราะผมเป็นเด็กนักเรียนเขาห้ามใส่ครับ หุหุ

   เราตกลงจะกินชาบูกัน ผมกับขุนพลที่รู้ทางก็เดินตีคู่นำทางไปด้วยกันและคุยเรื่องสมัยก่อนกันอย่างสนุกสนานโดยไม่รู้สึกถึงสายตาไม่พอใจของใครบางคนมองมาอยู่เบื้องหลัง

   ดีที่พวกเรามากันเช้าทำให้ไม่ต้องต่อคิวรอและเข้าไปกินได้เลย ผมที่หิวหนักมากเริ่มจ้วงก่อนใครเพื่อน หยิบทุกอย่างที่เห็นบนสายพานกินทุกอย่างที่ขวางหน้า ทุกคนก็เริ่มโซ้ยอาหารตามผมมาติดๆ จานอาหารที่ว่างเปล่าเพิ่มจากหนึ่งเป็นสองจากสองเป็นสามกระทั่งมันพูนขึ้นอย่างน่าหวาดเสียวว่ามันจะเทกระจาดลงมา พนักงานเดินมาเก็บแทบไม่ทันกันเลยทีเดียว

   หลังจากอิ่มหนำสำราญกันแล้วพวกเราก็พากันไปซื้อของสดสำหรับทำอาหารเที่ยงนี้และปาร์ตี้คืนพรุ่งนี้ เรื่องอาหารมีผมกับเป็นใจเท่านั้นที่ทำอาหารและเลือกของเป็น พวกที่เหลือก็แค่เดินตามและคว้าขนมนมเนยมาใส่รถเข็นกันอย่างมันส์มือ

   เลือกของครบก็เข็นมาจ่ายตังค์ที่เคาท์เตอร์หนึ่ง ระหว่างที่พนักงานคิดตังค์ สามหนุ่มสามมุมก็จับกลุ่มหันหน้าไปทางที่มีตะแกรงเล็กๆตั้งอยู่ใกล้เคาท์เตอร์ที่มีหมากฝรั่ง ขนมชิ้นเล็ก ยาดม ของจิปาถะ และถุงยางอนามัย ถ้าให้เดาผมว่าพวกมันต้องมองสิ่งนั้น

   มองไม่พอขุนพลก็หยิบคอนดอมรสสตอเบอร์รี่มาจ่ายตังค์เป็นคนแรก ต่อมาก็ฟอกซ์ที่หยิบรสช็อกโกแลตมาสองกล่อง ผมนึกว่าไอ้ริวจะเอากับเขาด้วยแต่เปล่าเลยมันไม่ได้หยิบมา ริวรู้ว่าผมมองอยู่จึงหันมายักคิ้วให้แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็ออกมาจากมันแถมยังพูดดังกว่าปกติด้วย

   "แดกสไปร์ทต้องใส่ถุงแต่แดกมึงไม่ต้องใส่หรอก สดๆนี่แหละถึงเนื้อดี"

   "ไอ้เหี้ย!!"ผมด่ามันด้วยความโกรธปนอายแต่อย่างหลังนี่ท่าจะมากกว่า คนอื่นที่อยู่ใกล้ๆก็ได้ยินกันถ้วนหน้า อยากจะกระชากแว่นตาสีดำที่ปกปิดใบหน้านั่นออกแล้วตะโกนบอกชาวบ้านให้รู้ว่าอินี่มันเล่นชู้ให้อับอายขายขี้หน้าไปเลย

   "เขินล่ะสิ หึหึ"ริวล้อเลียนด้วยใบหน้าทะเล้น ผมตบหัวมันฉาดใหญ่แล้วเดินเลี่ยงออกมาจากเคาท์เตอร์ให้ไอ้ฟอกซ์จ่ายเงินเพราะเหตุผลง่ายๆคือมันรวย

   สองขามาหยุดยืนอยู่หน้าร้านเค้กแล้วจ้องมองเข้าไปในร้านพลางนึกถึงเรื่องราวสมัยก่อนที่ผมกับแฟนสาวคนแรกเคยมากินเค้กด้วยกัน แถมเธอยังเป็นคนแรกของผมในเรื่องอย่างว่า แต่หลังจากนั้นเธอก็หายไปจากชีวิตผมหายไปจากโรงเรียน ไม่เคยมีใครได้ยินข่าวจากเธออีกเลย ผมพยายามตามหาเธอ ไปหาเธอที่บ้านแต่ก็ไม่พบวี่แววเพราะครอบครัวเธอย้ายออกไปกันหมดแล้ว ในที่สุดผมก็เลิกพยายาม ถ้าเธอรักผมจริงๆเธอก็ต้องบอกอะไรผมบ้างสิแต่นี่ไม่มีเลย

   "คิดถึงแตงโมหรอ"ไม่รู้ว่าขุนพลเดินมาอยู่ข้างๆผมตอนไหน รู้ตัวอีกทีทุกคนก็มายืนล้อมผมอยู่

   "อืม"ผมตอบอือออในลำคอพลางสังเกตสีหน้าของริวไปด้วย"ไปโรงเรียนกันเถอะ กูไม่อยากโดดเรียนว่ะ ฺฮ่าๆ"ผมเปลี่ยนเรื่องเมื่อบรรยากาศดูท่าจะหมองลงเรื่อยๆ

   ริวทำหน้าที่เข็นของด้วยเหตุผลที่ว่ามันเป็นรุ่นน้องต้องเสียสละให้พี่ แล้วถ้าถามว่าทำไมเป็นใจไม่เข็นล่ะนี่ก็รุ่นน้องเหมือนกัน ก็ดูสิว่าใครแฟนน้องแก เป็นถึงเฮดว้ากวิศวะเชียวนะ ขุนพลดูแลประคบประหงมอย่างดีไม่ต้องออกแรงทำอะไร เดี๋ยวพี่จัดให้อะไรแบบนี้

   เอาของใส่รถเสร็จขุนพลก็เคลื่อนรถออกจากห้างขับไปที่โรงเรียนที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล พอหาที่จอดรถได้พวกเราก็ลงจากรถแบบสโลว์โมชั่น แต่ละคนก็ทำท่าทำทางเก๊กหล่อ เสยผม จัดคอปกเสื้อ ขยับแว่น ก็เกินไปครับนี่ไม่ใช่หนังสักหน่อย

   เวลานี้เป็นเวลาพักเที่ยงของเด็กๆพอดีทำให้ตอนนี้ทุกสายตาจับจ้องมาทางกลุ่มพวกเรา แอบเห็นสาวๆกรี๊ดกร๊าดกันด้วย ส่วนหนุ่มๆก็มองมาแล้วซุบซิบกันประหนึ่งพวกผมจะมายำตีนใคร

   "เด็กที่นี่หน้าตาดีกันทั้งนั้นเลย"เก้งมองคนนั้นทีคนนู้นทีน้ำลายแทบสอ ส่วนใหญ่มองผู้ชายทั้งนั้น เพื่อนใครวะแรดจัง ผัวมันแทบจะจับกระซวกไส้อยู่แล้ว

   "ไปหาครูตากันมึง ต้องเซอร์ไพรส์แน่ๆ"ขุนพลเอ่ยอย่างตื่นเต้นพลางลากคอผมให้ไปด้วยกันแล้วทิ้งคนข้างหลังให้เดินตามโดยไม่สนใจ

   ระหว่างทางก็มีสายตาของนักเรียนและคุณครูบางคนจับจ้องพวกเราตลอดทาง บางทีก็มีแวะคุยกับคนนั้นคนนี้ไปด้วยเพราะรู้จักมักใคร่กันมาก่อน รุ่นน้องส่วนใหญ่ก็เข้ามาสวัสดี ทักทายแถมเหล่ตามองเพื่อนๆผมด้วย คนที่โดนจับตามองมากสุดเห็นจะเป็นริวที่หล่อโดดเด่นสะดุดตา

   จนถึงห้องพักครูผมกับขุนพลเข้าไปกราบสวัสดีครูตาครูประจำชั้นตอน ม.6 และพูดคุยทักทายกันด้วยความคิดถึง ครูแกก็ดีใจที่เห็นผมกับขุนพลคืนดีกันได้ พวกเราขอตัวลาพร้อมอ้อมกอดสุดท้ายที่ให้ครูเพราะอีกไม่กี่วันท่านจะลาออกไปอยู่บ้านนอกกับพ่อแม่และสามี

   "เดี๋ยวค่ะพี่โน"
   พอจะขึ้นรถเพื่อกลับไปพักผ่อนที่รีสอร์ทพวกเราก็ถูกเรียกไว้ด้วยเสียงใสๆของเด็กผู้หญิงน่ารักคนหนึ่ง

   "อ้าว น้องดา น้องภัท มีอะไรรึเปล่า"ผมที่จำเด็กสองคนนี้ได้ก็ทักทายอย่างคนกันเอง

   "คือขอรบกวนเวลาสักนิดนะคะ ดาทำรายงานความสัมพันธ์ของมนุษย์น่ะค่ะ อยากถามอะไรนิดๆหน่อยๆสักข้อสองข้อ"

   "ได้สิ"

   "ถ้างั้นพวกกูนั่งรอที่รถนะ"ฟอกซ์พูดขึ้นและทำท่าจะเข้าไปในรถ

   "ดาขอสัมภาษณ์พี่ๆทุกคนด้วยนะคะ"

   เมื่อเห็นสายตาวิงวอนของเด็กสาวตัวเล็กแล้วก็ปฏิเสธไม่ได้ ทุกคนต่างพยักหน้าเชิงตกลงทำให้เธอยิ้มร่าทันทีแล้วหันไปแท็กมือเพื่อนของเธออย่างดีใจ

   "ข้อแรกพวกพี่มีความสัมพันธ์กันยังไงคะ"น้องภัทถามคำถามขึ้น

   "ตอบได้เลยว่าเพื่อน"ผมตอบและทุกคนก็พยักหน้าเห็นด้วย

   "ข้อสองพี่เป็นอะไรกับพี่โนหรอคะ"น้องดาหันไปหาริว และถามอย่างเจาะจงคู่ ถ้าผมไม่รู้มาก่อนว่าน้องดาเป็นสาววายก็คงคิดไปแล้วว่าน้องแกเป็นหมอดู อะไรจะแม่นยำในการจิ้นขนาดนั้น

   "เป็นสามีครับ"พูดแล้วกันหันมายักคิ้วหล่อ ผมก็ได้แต่ทำหน้าเหลอหลา ไม่คิดว่าริวจะตอบตรงๆขนาดนี้

   "แล้วพี่ขุนพลกับพี่คนนี้ล่ะคะ"น้องดายังจับคู่ได้แม่นยำอีกคน ขอรางวัลโนเบลหมอดูหมอจิ้นให้น้องแกหน่อยครับ ซูฮกให้เลย

   "คนรักครับ"ขุนพลตอบยิ้มๆแล้วยีผมเป็นใจจนฟู

   "ใช่ครับ!"เป็นใจตะโกนออกมา ก็รู้นะว่าจะยืนยันคำพูดของขุนพลแต่ทำไมต้องโหวกเหวกด้วยวะครับ

   "แล้วคู่พี่ล่ะคะ"คู่สุดท้ายจะเป็นใครไม่ได้นอกจากฟอกซ์กับเก้ง

   "คู่นอน"ไอ้ฟอกซ์ตอบหน้าตายอย่างคนไม่คิดอะไรแต่เก้งเพื่อนผมนี่เบะปากจะร้องไห้อยู่แล้วน่ะ เห้อ เวรกงเวรกรรมอะไรของเพื่อนผมเนี่ย ได้คนขี้แกล้งมาเป็นผัว

   "คิคิ"สาวน้อยทั้งสองต่างหัวเราะคิกคักกันใหญ่ หน้าเน่อบ่งบอกว่าฟินมาก เจอไม้ป่าเดียวกันเป็นแพ็คขนาดนี้

   "คำถามสุดท้ายค่ะ ตอบทีละคนเลยนะคะ"ดาพูด

   "พี่คิดว่าตัวเองเป็นเกย์มั้ยคะ"คำถามนี้สำหรับคู่อื่นคงตอบได้ง่ายมากแต่สำหรับผมที่ไม่เคยคิดเรื่องนี้มาก่อนทำเอาไปไม่ถูกกันเลยทีเดียว

   "เป็นตั้งแต่ตอนมัธยมเนี่ยแหละ"เก้งตอบได้อย่างสบายๆพลางแคะเล็บไปด้วย ส่วนฟอกซ์ก็พยักหน้ายิ้มๆแล้วโอบเอวเก้ง สาวๆทั้งสองนี่บิดตัวด้วยความเขินอายแทน

   "เป็นครับ"เป็นใจทึ้งหัวตัวเองหลังจากบอกคำตอบไปแล้ว ผมว่าผมเริ่มยินกับท่าทางแปลกๆของเป็นใจแล้วล่ะ

   "พี่ไม่ได้ชอบผู้ชายหรอกครับ..."คำตอบของขุนพลทำเอาคนที่ทึ้งหัวตัวเองอยู่หยุดชะงัก แววตาที่มองเพื่อนผมนั้นดูสับสน"...แต่พี่ชอบ ไม่สิ พี่รักผู้ชายคนนี้แค่คนเดียว พี่ไม่ได้รู้สึกรักชอบผู้ชายคนไหนมาก่อนและคงจะไม่มีใครทำให้พี่รู้สึกได้เท่าคนนี้"

   เป็นใจเม้มปากแน่นพลางหลุบตาต่ำเหมือนพยายามจะกลั้นยิ้ม เป็นผมเจอคนมาพูดแบบนี้ก็เขินเหมือนกันแหละ ไอ้ขุนพลแม่งหล่อเลย

   "พี่...ไม่แน่ใจ"ถึงทีผมต้องตอบคำถามที่กระทันหัน ผมก็คงตอบได้แค่นี้เพราะผมชอบผู้หญิงมาก่อนที่จะเจอริว ผมไม่แน่ใจ มันสับสน เอาเป็นว่าผมจะลองกลับไปนั่งคิดนอนคิดดูใหม่

   มาถึงคนสุดท้ายท้ายสุดอย่างริว ผมจ้องมันอย่างรอคอยคำตอบ เพราะมันชอบสโนว์แต่มาเล่นจ้ำจี้จ้ำไชกับผมแถมยังแสดงตัวออกมานอกหน้านอกตาว่ามันเป็นผัวผม ผมอยากรู้ว่ามันจะตอบคำถามที่ง่ายแต่ก็ยากนี้ยังไง











☞To be continued



  ♀♂♀♂♀♂♀♂♀♂♀♂♀♂♀♂

Nekozaa  :

        ทำไมเรื่องมันอืดยั่งงี้ๆๆ บ่นตัวเองแป๊ป อยากให้แต่งงานกันสักทีค่ะ 5555 ขออีกนิดสักตอนเดี๋ยวจะให้แต่งงานแล้วนะคะ แม่ยกรอไม่ไหวแล้วค่ะ  :laugh:
         ส่วนใครที่รอให้ริวหายโง่รอก่อนนะคะจะได้รู้ว่าโง่จริงๆหรือแกล้งโง่  :hao3:
         ขอบคุณนะคะที่คอมเม้นต์แล้วก็ติดตามอ่าน น่ารักที่สู้ดด  :mew1:

          เจอปืนค่ะ... :กอด1: :pig4:

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
ความลับแตก แตก แตก  :hao6:

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
เฮ้ออออ :เฮ้อ: เราว่าริวแม่งแกล้งโง่แน่ๆ เลยอ่ะ แต่ก็ไม่แน่ใจเต็มร้อยนะว่าจะใช่หรือเปล่า

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ p_phai

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2302
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +154/-6

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ tiew93

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 655
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
รอวันริวฉลาดค่ะ  :hao3:

ออฟไลน์ nekozaa

  • I want to you read me
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 113
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
บทที่๑๑

แกล้งรัก NC






   กริ๊งงงง

   เสียงออดบ่งบอกว่าได้เวลาเข้าแถวดังขึ้นทำให้ปากที่กำลังอ้าบอกคำตอบหุบฉับลง แววตาฉายความยินดีที่ถูกขัดจังหวะอยู่แวบหนึ่งแต่เผอิญว่าผมเห็น ชัดเจนแล้วคำตอบของริว

   "งั้นคำตอบของพี่...ไว้พูดกับพี่โนแล้วกันนะคะ ขอบคุณนะคะที่ให้สัมภาษณ์ บ๊ายบายค่ะพี่ๆ ว่างๆมาเยี่ยมบ้างนะคะ"น้องดากับน้องภัทยกมือไหว้พวกผมก่อนจะวิ่งไปขึ้นตึกเรียน ผมจึงหันไปมองหน้าริวเผื่อมันจะตอบคำถามที่ค้างคาไว้

   "กลับกันเถอะ"ริวเปลี่ยนเรื่องหน้าด้านๆ ผมที่มีความสุขเพราะได้มาเยี่ยมเยียนโรงเรียนอย่ถึงกับคิ้วกระตุก

   "จะไม่ตอบให้ได้เลยสิ เรื่องของมึงละกัน"ผมตะคอกอย่างหัวเสีย ปาแว่นตาลงกับพื้นแล้วเหยียบขยี้จนมันแตกเป็นเสี่ยงๆด้วยความโกรธจนหน้ามืดตามัว"กูเนี่ยแหละ สะ..."

   ผลัก

   "โอ๊ย"ยังไม่ทันที่ผมจะหลุดบอกความจริงไปก็ถูกถีบกระเด็นไปหาริวจนเราล้มลงไปกองกับพื้นด้วยกันทั้งคู่

   "โทษที ตีนลั่น"เก้งอยู่ในท่าเท้ายกสูง เป็นหลักฐานชั้นดีว่ามันยันโครมผม แต่ความกวนตีนถีบส่งของมันทำให้ผมรู้สึกตัวว่ากำลังจะหลุดบอกอะไรไป ตัวผมที่ไม่ได้เป็นอะไรเพราะนอนทับริวก็ลุกขึ้นยืนไม่สนใจคนที่เจ็บแทน

   "ขอบใจ"สองขาผมก้าวขึ้นรถพลางกระซิบบอกเก้งที่อยู่ใกล้ๆ มันพยักหน้าให้อย่างรู้ทันเท่าทีแล้วขึ้นรถตามมาติดๆ

   เมื่อกลับมาถึงรีสอร์ท พวกเราต่างแยกย้ายกันทำธุระส่วนตัวและนอนพักสัก 3-4 ชม. ส่วนข้าวเที่ยงย้ายมากินตอนเย็นแทน ตั้งแต่ออกมาจากโรงเรียนทุกคนดูปกติดีเว้นเสียแต่คู่ของผม ไม่สิ มีแต่ผมที่ร้อนไปเอง มีแต่ผมที่รู้สึกบ้าบอไปเอง ริวยังทำตัวปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น รู้สึกเสียเซลฟ์ชะมัด

   "เห้อ"ถอนหายใจออกมาเป็นรอบที่ร้อย ทั้งเก้งและเป็นใจหลับไปด้วยความเพลียกันหมดแล้ว ส่วนผมนอนก่ายหน้าผากเหมือนเจ๊กขาดทุนมากี่ชั่วยามแล้วก็ไม่รู้

   ไม่ได้สิ เรามาเที่ยวหาความสนุกให้ชีวิตในตอนที่เป็นโนได้เต็มที่ไม่ใช่หรอ จะมานั่งทุกข์นอนทุกข์เพราะผู้ชายคนเดียวมันใช้ได้ที่ไหน โนในตอนนี้เหมือนไม่ใช่ผมเลย ริวไม่ได้มีอิทธิพลกับใจผมขนาดนั้นสักหน่อย เอาล่ะโน หลับตาซะนะ พอตื่นมาจงเป็นโนที่สนุกสุดเหวี่ยงกับชีวิตซะ

   "ตื่นนนนนน"ผมตื่นขึ้นมาในอีก 3 ชม.ให้หลัง รู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้นมามาก หลังจากสมองเริ่มทำงานน้ำย่อยก็ลงกระเพาะเรียกร้องว่าได้เวลาให้อาหารแล้ว ผมปลุกเป็นใจเขย่าแล้วเขย่าอีกจนน้องแกมุ่นคิ้วด้วยความรำคาญ

   "ขออีกห้านาทีครับ"เป็นใจพลิกกายไปอีกฝั่งแล้วคลุมโปงอยู่ใต้ผ้าห่ม

   "ไฟไหม้!"ยังไม่ละเลิกความพยายามผมสะบัดผ้าห่มออกแล้วแหกปากอยู่ข้างหูเป็นใจด้วยคำพูดปลุกใจยอดฮิตจนน้องลุกขึ้นพรวดหน้าตาตื่น มองซ้ายมองขวาด้วยความตกใจ ผลพลอยได้อีกอย่างที่น้องตื่นคือเก้งตื่นขึ้นมาด้วย

   "ไฟไหม้ หนีเร็ว ว้ากกก"ปฏิกิริยาของเพื่อนผมทำเอาผมหัวเราะลั่นตัวโยน

   "ฮ่าๆๆๆ"ผมขำจนน้ำตาเล็ดเอามือกุมท้องแล้วทรุดลงกับพื้น

   "ไอ้เหี้ยโน มึงหลอกกูหรอ"

   "อึก ฮึ...อุ๊ก พรืด ฮ่าๆๆ"ผมพยายามหยุดขำแต่พอมองหน้าของคนทั้งสองคนที่หน้าบูดบึ้งอยู่บนเตียงก็ทำเอาหลุดขำออกมาอีกยกจนหน้าท้องเกร็งไปหมด

   "เห้ย พวกมึงเป็นอะไรรึเปล่า แหกปากโวยวายอะไร"เสียงของขุนพลตะโกนมาจากหน้าห้อง ผมจึงเดินไปด้วยขำไปด้วยไปเปิดประตู ไม่รู้ทำไมพอเห็นหน้าไอ้ขุนพลผมยิ่งขำหนักเข้าไปอีก

   "ฮ่าๆๆ ฮึ ช่วย ฮ่าๆ หยุดขำ ฮ่าๆ"

   "มันเป็นอะไร"ฟอกซ์เสนอหน้าเข้ามาถามคนที่ยังหน้าบูดเพราะโดนผมแกล้ง

   "มันบ้า/พี่เขาบ้าไปแล้วครับ"สองเสียงตอบกลับมาพร้อมกัน อารมณ์เดียวกันจนผมที่กำลังหยุดขำขำอีกรอบ

   "อ๊ะ"ขำไปขำมาผมก็เกิดอาการหน้ามืด ร่างกายกำลังจะปะทะกับพื้นแต่มีคนมารับไว้ซะก่อน

   "ระวังหน่อยสิ"ริวพยุงผมขึ้นให้ยืนดีๆแอบได้ยินเสียงแว่วมาว่าสมน้ำหน้าอะไรนี่แหละ กรรมตามสนองล่ะมั้งกู

   "ชอบใจนะคุณสามี"ผมยื่นหน้าไปจุ๊บแก้มมันเบาๆแล้วส่งยิ้มทะเล้นให้ หน้ามันหวอเลยครับ เจอโนเวอร์ชั่นนี้อึ้งกิมกี่ไปเลยสิ"ไม่ต้องตกใจ กูก็ขอบใจแบบนี้กับทุกคนนั่นแหละ"

   จากหน้าที่ตกใจของริวเปลี่ยนเป็นบึ้งตึง เล่นกับใครไม่เล่นมาเล่นกับขนมหวานเคลือบยาพิษอย่างผมมันต้องแบบนี้แหละ ผมไม่รู้หรอกนะว่ามันรู้อะไรมาบ้างรึเปล่าแต่มาเล่นกับความรู้สึกผมแบบนี้ให้อภัยไม่ได้ ดีมาดีกลับ ร้ายมาร้ายกลับเป็นสิบเท่าเลย

   "มึงเป็นอะไรอีกละ ห้ะ"ริวตะคอกใส่หน้าผมจนน้ำลายเม็ดเป้งกระเด็นใส่ ผมปาดมันออกอย่างรังเกียจ คือ รังเกียจจริงๆครับ เชื่อว่าไม่มีใครชอบหรอกน้ำลายกระเด็นใส่หน้าเนี่ย

   "หิวเฉ๊ยเฉย...เป็นใจไปทำอาหารกันป่ะ"ผมเดินไปคล้องแขนเป็นใจแล้วลากไปที่ห้องครัวผ่านหน้าริวไปอย่างไม่สนใจ

   ตอนแรกผมคิดว่าผมรักริวแต่จริงๆแต่ผมไม่ได้รักมัน สาเหตุที่ทำให้ผมคิดว่าผมรักริวเพราะตอนที่ผมเป็นสโนว์ ริวตามจีบตามหวานใส่ผมผมจึงหวั่นไหว โดยลืมไปว่านั่นไม่ใช่ตัวตนผมจริงๆ พอลองทบทวนความรู้สึกตัวเองที่ไปหอมแก้มริวถึงได้รู้ว่า ผมรู้สึกเฉยมากๆ ไม่ได้รู้สึกเขิน ตื่นเต้น ผมแค่คิดไปเอง

   ถ้าจะให้รักใครสักคนจริงๆเขาต้องรักผมจากใจจากตัวตนที่แท้จริงของผมไม่ใช่รักสโนว์ ผู้หญิงที่ไม่มีอยู่จริงตั้งแต่แรกแล้ว

   และก็ถึงเวลาที่โนคนเกรียนคนเดิมจะกลับมาแล้ว

   กลับมาปัจจุบันและย้อนไปสักหน่อย....ตอนแรกเป็นใจจะไม่ยอมช่วยผมทำอาหารเพราะโกรธที่แกล้งแบบนั้น ผมเลยขู่ซะเลย

   'ผมไม่ช่วยพี่ทำหรอก'

   'งอนหรอออ'

   'ผมโกรธที่พี่โนแกล้งผมแบบนั้น'

   'จะไม่ช่วยจริงๆใช่ป่ะ'

   'ครับ'

   'งั้นพี่จะแยกไปนอนอีกห้องกับเก้ง คืนนี้นอนคนเดียวระวังมีคนย่องไปทำอะไรต่อมิอะไรนะครับน้องเป็นใจ'

   'ชะ ช่วยก็ได้ครับ'


   อย่าด่าว่าผมเลยที่รังแกเด็ก ให้ทำคนเดียวคงไม่ไหวหรอก ต้องมีลูกมือช่วย ไม่งั้นคงได้เปลี่ยนจากมื้อเย็นเป็นมื้อค่ำแทน

   "เป็นใจไปเรียกพวกนั้นมาช่วยยกกับข้าวหน่อยดิ่"

   "ครับ"น้องเดินหายไปจากห้องครัวสักพักคนอื่นๆก็ตามมาช่วยยกกับข้าวมากหน้าหลายตาไปตั้งโต๊ะ พวกมันชมกันไม่หยุดปากแถมน้ำลายสออีกต่างหาก ยกเว้นริวที่ดูเงียบๆนิ่งๆผิดปกติเหมือนใช้ความคิดอะไรอยู่คนเดียว

   "กินข้าวเสร็จแล้วไปเที่ยวไหนดี"ขุนพลที่เปรียบเสมือนพี่ใหญ่ถามขึ้นหลังจากทุกคนเริ่มทานอาหารที่อยู่ตรงหน้าอย่างเอร็ดอร่อย เห็นแล้วก็ปลื้มปิติที่ฝีมือตัวเองยังดีอละต้องซูฮกใก้กับฝีมือของเป็นใจด้วย

   "เล่นน้ำก่อน"เก้งเสนอผมกับเป็นใจจึงพยักหน้าเห็นด้วย เย็นๆกำลังดีเหมาะจะเล่นน้ำเพราะแดดไม่ค่อยมี

   "จากนั้นก็ไปตลาดโต้รุ่ง"ผมเสนออีกคนแล้วก็ยักคิ้วให้ขุนพลพูดต่อจากผม

   "แล้วก็แวะร้านเหล้าข้างทางรถไฟ"

   "วู้วว ยังรู้ใจกูเหมือนเดิม"ผมยื่นมือข้ามฝั่งไปจับมือกับขุนพลเกลอเก่าแบบวัยรุ่นฝรั่งที่เขาชอบทำกัน

   "งามหน้านะมึง"เก้งยู่หน้าจะงอนก็ไม่งอนจะโกรธก็ไม่โกรธ

   "ไม่หึงเค้าสิ เมียจ๋า จุ๊บๆ"ผมยื่นหน้าไปหมายจะหอมแก้มไอ้เก้งให้หายน้อยใจแต่โดนผัวที่แท้จริงของมันดึงเข้าหาตัว

   "เมียกูไอ้สัด"

   "ฮ่าๆๆ"จบคำของคุณสามีขี้หวงพวกเราทุกคนก็หัวเราะกันอย่างเฮฮาปาร์ตี้ แต่มีคนหนึ่งที่ไม่เฮฮาไปด้วยเอาแต่มองหน้าผมอย่างครุ่นคิด คงไม่ใช่ว่ากำลังมองผมซ้อนทับกับสโนว์อยู่หรอกนะ

   เมื่อท้องอิ่มพวกเราก็แยกย้ายกันไปเปลี่ยนเสื้อผ้าลงทะเล ผมใส่กางเกงตัวเดียว เปลือยท่อนบนโชว์หัวนมสีชมพูเข้มน่าขยำขยี้ รวบผมมัดเป็นจุกจะได้ไม่เกะกะตอนเล่นน้ำ แดดยังมีอยู่คงต้องทาครีมกันแดดด้วยสิเนี่ย แล้วจู่ๆผมก็มีความคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาในหัว

   "ริว ทาครีมกันแดดให้หน่อยดิ่"พูดพลางยื่นครีมดันแดด SP 50+ ให้ มันก็รับไปถือไว้นิ่งๆ ผมแอบเหล่มองเจ้าตัวที่สวมแค่กางเกงโชว์ซิกแพกส์น่ากิน ทำไมรู้สึกสยิวแปลกๆ

   "มองขนาดนี้กินเลยมั้ยล่ะ"ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไรที่มือหนาลูบเบาๆที่ไหล่ลามไปยันแขนพร้อมครีมกันแดด สัมผัสที่ดูไม่มีอะไรกึ่งเชิญชวนทำให้ผมรู้นิดนึง ก็แค่นิดนึงเท่านั้น ผมไม่ยอมแพ้หรอกยิ่งท่าทางที่กลับมาปกติของริวทำให้ผมต้องตอบโต้กลับอย่างไม่ยอมแพ้ ผมคว้าขวดครีมกันแดดมาบีบใส่มือแล้วทาให้ริวบ้าง

   "เดี๋ยวทาให้"ผมยิ้มหวานแล้วลูบไหล่แกร่งวนไปมาเลื่อนทาไปทั่วแขนเหมือนกำลังชักอะไรสักอย่างอยู่ ทำแบบนี้ทั้งสองจนได้ยินเสียงกัดฟันของคนตรงหน้า"อึก"

   ดูท่าอีกคนจะยังไม่ยอมแพ้เคลื่อนกายเข้ามาประชิดผมมากขึ้นแล้วทาครีมที่แผ่นหลังผมลากไล้นิ้วจนขนลุกชน นิ้วเรียวยาวไล้ไปตามกระดูกสันหลังจนผมแทบทรุด ภาวนาว่าอย่าให้มันทำอะไรไปมากกว่านี้แต่ก็ไม่สมหวังเมื่อมันออกแรงกดเบาๆที่กลางหลังผม

   "อ๊าาา"ผมแอ่นอกเข้าหาคนข้างหน้าเดียวความเสียวกระสัน ใช่ จุดไวต่อสัมผัสผมอยู่กลางหลังนั่นแหละมีแค่ผมที่รู้ทำไม...ริวถึงรู้ รู้ได้ไง

   "หึหึ จะแพ้แล้วนะ"ริวกระซิบแผ่วเบาข้างหูผม มือเปลี่ยนไปลูบอยู่แถวบั้นท้ายขยำขยี้อย่างหมั่นเขี้ยว ผมตั้งสติแล้วผลักอกแกร่งจนมันเสียหลักผมจึงตวัดขาให้มันล้มลงนอนกับพื้น"โอ๊ย เล่นเหี้ยอะไร"

   เหมือนริวจะหมดอารมณ์หลังโดนประทุษร้าย ไม่เป็นไร ผมปลุกมันกลับมาได้ล่ะน่า ผมนั่งคร่อมหว่างขาโดยเว้นไม่ให้ทับน้องชายมันแล้วบีบครีมลงกับซิกแพกส์ จากที่ปากร้องโอดครวญบ่นผมก็นิ่งเงียบและรอดูว่าผมจะทำอะไรต่อไป

   ผมยิ้มหวานปนยั่วแล้วจงใจทำเป็นขยับเอวเบาๆให้โดนน้องชายมัน มือผมเริ่มอยู่ไม่สุนสาละวนไปกับหน้าท้อง ผมทาครีมไปตามลูกระนาดที่เรียงกันเป็นลอนๆอย่างยั่วยวน วนลูบแถวแอ่งสะดือจนหน้าท้องมันหดเกร็ง ไม่นานเจ้าหนูที่นอนสงบเรียบร้อยก็ดุนดันกางเกงขึ้นมาเป็นรูปร่าง เอวผมก็ยังทำหน้าที่ได้ดีไม่มีตกบกพร่อง

   มือปลาหมึกของริวก็เริ่มอยู่ไม่สุขเหมือนกันเมื่อมันเลื่อนขึ้นมาบีบยอดอกผม ผมปัดมือนั้นออกทันทีเพราะไม่ต้องการมีอารมณ์ร่วม และเลื่อนมือลงใกล้ริวน้อยมากขึ้นเพื่อให้จบแผนที่ตัวเองเป็นคนคิดเร็วๆ

   "โอ๊ะ ทาเสร็จแล้ว ไปเล่นน้ำก่อนนะ"ผมชักมือกลับแล้วรีบลุกขึ้นจากตักริว ไม่รอให้มันได้คว้าผมไปลงโทษสองขาก็วิ่งออกจากห้องรับแขกตรงไปยังทะเลแสนงาม

   ดีที่พวกเพื่อนๆ ลงทะเลกันหมดแล้วทำให้ไม่เปิดประตูมาเจออะไรดีๆที่ผมกับริวกำลังทำ ไม่ใช่สิ นั่นมันแผนยั่วให้สวาทแล้วจากไปของผมหรอก หึหึ กว่าจะลงมาคงต้องไปชักธงให้มันลงก่อนสินะ สมน้ำหน้า

   "แล้วริวล่ะ"เก้งถามแต่ผมไม่ได้ตอบ เปลี่ยนเรื่องด้วยการสาดน้ำใส่หน้ามันแทน"เล่นอย่างงี้ใช่มั้ย ได้"

   แทนที่น้ำจะสาดโดนผมแต่ไปโดนคนข้างๆผมแทน คนโดนสาดอย่างเป็นใจจึงสาดกลับ แล้วสงครามสาดน้ำก็เริ่มขึ้น ต่างคนต่างงัดแงะความสามารถในการโกยน้ำให้มากที่สุด ผมที่กำลังใช้พลังคลื่นเต่าอยู่ก็ถูกกอดจากด้านหลังแล้วยกจนตัวลอย กำลังจะร้องแต่ก็ถูกโยนลงทะเลจนน้ำเค็มเข้าปาก

   "แก้แค้น"เจ้าเวรเจ้ากรรมผมนั่นแหละที่จะทำแบบนี้ได้

   "แค่กๆๆ ค่อกๆ แค่ก"ผมแกล้งสำลักน้ำแรงๆเหมือนคนกำลังจะตาย ริวที่ยิ้มสะใจผมอยู่ถึงกับเข้ามาดูอาการ

   ไวเท่าความคิดผมกระโจนใส่ริวทั้งตัวจนมันหงายหลังจมไปกับน้ำทะเล กำลังจะลุกขึ้นยืนแต่ก็ถูกมือหนากอดไว้แล้วยืนขึ้นทั้งๆที่ผมยังทับตัวมันอยู่ ด้วยความกลัวตกผมจึงใช้ขาเกี่ยวเอวมันไว้ในท่าล่อแหลม

   "วู้ว เกรงใจกันบ้างเว้ย"เสียงโห่ปากแซวทำให้ผมต้องก้มหน้างุดมุดลงกับไหล่ริวด้วยความเขินอายแบบแกล้งๆ

   "เดี๋ยวผมเอาเพื่อนพวกพี่มาคืนนะครับ ขอเอาคนนิสัยไม่ดีไปทำโทษก่อน"ริวบอกเพื่อนๆแต่ก็ไม่วายแซะผม

   "จะไปไหน"ผมยังเกาะริวอยู่ในท่าเดิม มันก็ตะกรองกอดผมเดินลงทะเล ไม่ว่าจะพาไปกดน้ำหรอกนะ

   "หินใหญ่นั่นไง ไม่มีคนดี"จะบอกว่าเหมาะสำหรับทำอะไรๆงั้นสิ

   "ไม่เอา ปล่อย"เมื่อมาถึงหลังหินใหญ่ ริวก็ยื่นหน้ามาหมายจะจูบแต่ผมเบี่ยงหน้าหลบทำเป็นเล่นตัว"กูไม่อยากมีอะไรกับคนที่ไม่ได้รักกู"เริ่มแผน

   "จำที่กูบอกตอนนั้นได้มั้ยว่ากูขออยู่ข้างๆมึงสองอาทิตย์ที่เหลือนี้ กูไม่อยากอยู่ข้างๆมึงแล้ว"ในที่สุดก็บอกความจริง ก็ว่าอยู่แล้ว

   "แค่นั้นแหละ"

   "แต่กูอยากอยู่กับมึงตลอดไป...ริวรักโนนะครับ"

   "..."ผมเงียบเมื่อประโยคต่อมาของริวจบลง ผมจ้องตากับมันเงียบๆอย่างกับจะวัดใจกัน แววตาที่มองมานั้นอ่อนโยนและเปี่ยมไปด้วยความรักเหมือนมองสโนว์ สุดท้ายแล้วมันก็ไม่ได้รักผมจริงๆแค่เห็นว่าผมเป็นสโนว์ เป็นดาราดังคนนั้น เอาผมมาแทนที่ช่วงเวลาที่ขาดหาย

   "แล้วมึงล่ะ รักกูบ้างรึเปล่าสโนว์"ชื่ออีกชื่อของผมถูกเอ่ยออกมาจากคนตรงหน้า ถ้ามันอยากให้ผมเปนตัวแทน ผมจะเป็นให้ก็ได้

   "รักสิ"ผมยิ้มหวานทั้งๆที่ในใจมันเฉาอย่างกับดอกไม้แห้งเหี่ยว

   หลังจากนั้นเราก็แค่กอดจูบกันไท่ได้มีอะไรเกินเลยไปมากกว่านี้ ทั้งๆที่กายเร่าร้อนแทบไหม้เป็นจุลแต่ในใจกลับว่างเปล่าเหมือนหุ่นเชิด ริวกับผมตะกรองกอดกันเข้ารีสอร์ทกันอย่างคู่รัก(จอมปลอม)แล้วก็แยกย้ายกันไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อไปร่อน

   "มึงกำลังเล่นกับความรู้สึกคน รู้ตัวมั้ย"เพื่อนสนิทผมเตือนสติ เก้งเป็นเพื่อนที่ดูผมออก รู้ว่าผมคิดอะไรหรือกำลังทำอะไรเพราะฉะนั้นคำพูดของมันก็เหมือนจิตใต้สำนึกดีๆนี่เอง

   "กูก็แค่เล่นไปกับมันเท่านั้นเอง เล่นกันไปเล่นกันมา สนุกดีออก"ผมขำในลำคออย่างกับว่าเรื่องนี้มันตลกนักหนา

   "แน่ใจหรอว่าฝ่ายนั้นจะเป็นอย่างที่มึงคิด"คำพูดแทงใจของเก้งทำให้ผมฉุดคิดแต่การกระทำกับคำพูดโลเลนั่นดูออกแน่ชัดอยู่แล้วไม่ใช่หรอว่าริวกำลังเล่นกับความรู้สึกผม

   "ยังไงซะ มันก็ต้องจบอยู่ดี"ผมรู้ อีกไม่นาน เราจะเป็นได้แค่มนุษย์ร่วมโลก เผลอๆริวอาจจะโกรธเกลียดผมด้วยซ้ำไป

   ...เหมือนกับแฟนคนที่สอง

   "เห้อ คิดดีๆนะ อย่าเสียใจทีหลังแล้วกัน ไม่ใช่แค่ฝ่ายนั้นจะเจ็บ มึงก็จะเจ็บด้วย"เก้งตบไหล่ผมสองสามทีแล้วเดินออกจากห้องนอนไปห้องรับแขก

   "ไม่มีวันนั้นหรอก"ผมพึมพำกับตัวเองเบาๆเป็นเหมือนการปลอบใจ

   ครั้งนี้ผมอาสาขอขับรถโฟล์คที่รักของผมเอง งามหยดงามย้อย เห็นทีไรก็หลงรักทุกที จะขอหมั้นหมายไว้ก่อนแต่พ่อมันหวงห้ามยังกับหวงลูกสาว โนล่ะกลัดกลุ้มใจ

   "ว้าววว"เมื่อมาถึงตลาดโต้รุ่งตอนกลางคืน ไอ้พวกชาวเขาที่ไม่เคยมาก็อ้าปากตะลึงกับสถานที่แห่งนี้

   ตลาดกลางคืนที่ตอนเช้าจะเป็นทางถนนเส้นเล็กรถผ่านแต่พอตกกลางคืนสองข้างทางจะถูกจับจองด้วยร้านค้าอย่างหลากหลายเป็นทางยาว แสงไฟของร้านและเสาเป็นเหมือนเครื่องประดับในยามค่ำคืน ชวนให้หลงไหลไปกับความระยิบระยับ ผู้คนมากมายเอ่อล้นเต็มทางถนน จับจ่ายซื้อของกันอย่างสนุกสนานสำราญใจ เสียงพูดคุย เสียงเฮฮา หลอมรวมกับสถานที่แห่งนี้เป็นหนึ่งเดียวได้อย่างน่าทึ่ง

   ตลาดแห่งนี้จึงเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ผมรักหัวหิน

   "เซลฟี่กันพวกมึง"ผมบอกทุกคนหลังจากหามุมเหมาะๆได้แล้ว
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-11-2016 15:08:24 โดย nekozaa »

ออฟไลน์ nekozaa

  • I want to you read me
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 113
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
   "ให้ไอ้ฟอกซ์ถือดิ่ แขนมึงสั้น"

   "ไอ้เหี้ยพล"ผมด่ามันอย่างไม่จริงจังพลางหัวเราะไปด้วย มือถือรุ่นใหม่ที่ฮิตกันในหมู่วัยรุ่นถูกยื่นไปให้คนแขนยาว ก็ดีเหมือนกัน รูปออกมาผมจะได้ไม่หน้าบานเป็นจานดาวเทียม

   จากนั้นพวกเราก็ลุยกัน ผมกับขุนพลที่มาตลาดบ่อยก็แนะนำสิ่งนั้นสิ่งนี้ โดยเฉพาะร้านไอติมชื่อดังเพื่อนๆผมถึงกับยกนิ้วให้เลยทีเดียว

   "พี่ค่ะ พี่ใช่พี่สโนว์ ไวท์รึเปล่า แล้วนี่พี่ริวใช่มั้ยคะ"เด็กสาววัยรุ่นกลุ่มหนึ่งเข้ามาสะกิดทักผมจากข้างหลัง ทั้งๆที่ผมกับริวใส่แว่นอำพรางตัวแล้วนะ ยังมีคนจำได้ด้วยหรอ ลำบากล่ะสิ

   "ไม่ใช่หรอกครับ พี่เป็นผู้ชายนะ ส่วนเนี่ยไปทำศัลยกรรมมาคงไปหน้าเหมือนคนชื่อริวล่ะมั้ง"เป็นคำพูดที่ดูไม่มีอะไรแต่แขวะคนตัวสูงข้างๆผมจังๆทั้งที่มันไม่ได้ไปศัลยกรรมอะไรก็หล่อได้

     "ใช่ครับ"ริวดัดเสียงหน่อยๆเพื่อไม่ให้โดนจับได้ เด็กกลุ่มนั้นยังทำหน้าสงสัยเคลือบแคลงใจจนผมเหงื่อตก

   "นี่พวกแก อย่าแอ๊บแมนสิยะ เดี๋ยวก็โดนชะนีจีบหรอก ขนลุกแทนเลยเอาะ"เสียงดัดจริตแหลมของเก้งดังแทรกความสงสัยของเด็กผู้หญิงพวกนั้นขึ้น ท่าทางกรีดกรายนั่นเกือบทำให้ผมหัวเราะแต่สายตาที่บอกให้เล่นตามน้ำนั่นก็ทำให้ผมต้องกลั้นไว้ก่อน

   "แหม แกล่ะก็ ฉันอุส่าห์แอ๊บแมนจนมดลูกแทบแตก ทีหลังต้องแต่งสวยมาเที่ยวละ แมนเกิ๊น ใช่มั้ยยะ อีรี่"ผมแทงข้อศอกให้ริวเล่นตามพร้อมเปลี่ยนชื่อให้เสร็จสัพ

   "ใช๊ ใช่ฮ้าา"สมแล้วที่เรียนนิเทศน์ ริวทำท่าบิดตัวเขินอายจนน่าหมั้นไส้

   "เอ่อ ขอโทษค่ะ"ในที่สุดเด็กสาวพวกนั้นก็เดินหนีไปอีกทางจนลับสายตาและผมก็กลั้นไม่ไหวอีกต่อไปพอๆกับคนอื่น เราต่างหัวเราะกันเสียงดังลั่นตลาด แล้วตอนที่ริวแกล้งเป็นกระเทยถึกก็ถูกขุดขึ้นมาเป็นประเด็นล้อยันเดินสุดตลาด

   เมื่อเดินซื้อนู่นกินนี่กันครบทุกซอกพวกเราก็ย้ายที่ไปร้านเหล้าข้างทางรถไฟ

   ร้านเหล้าที่เรามาเป็นร้านที่ผมกับขุนพลมากันนานๆถี่ๆ ตั้งอยู่ข้างทางรถไฟเป็นแบบเปิดให้นั่งกินลมชมวิว มีเสียงดนตรีคลอหนักสลับเบา มีนักร้องเสียงดีมาร้อง ไม่ใช่ร้านแบบผู้หญิงมานั่งดื่มด้วยนะครับแต่เป็นแบบให้วัยรุ่นมานั่งชิลยามดึกมากกว่าได้บรรยากาศสุดๆ

   คนอื่นๆสั่งเหล้ามานั่งจิบเต็มที่ส่วนผมได้แค่ค็อกเทลเท่านั้นเพราะไม่อยากเมาและเป็นใจที่ได้แต่จิบโค้กเพราะโดนผัวคุม น่าสงสารจนผมแอบเอาค็อกเทลให้จิบเล่น

   "โน กูมีไรจะบอก...ความจริงแล้ว"

   ปู๊นนนนๆ ฉึกฉักๆ ปู๊นๆ ฉึกฉัก

   ผมพยายามเงี่ยหูฟังเต็มที่ ริวก็ยังอ้าปากพูดต่อไปแต่เสียงรถไฟทำให้ผมไม่ได้ยินอะไรเลย ข้อเสียของร้านเหล้าข้างทางรถไฟก็คือรถไฟเนี่ยแหละครับ ผมถอนหายใจแล้วมองบนหลังจากที่เสียงรถไฟเงียบลงพอๆกับคำพูดของริวที่จบพอดี

   "อื้มมมมมม"ผมตอบในลำคออย่างประชดประชัน

   "มึงไม่โกรธกูหรอ ดีใจจัง"

   "กูไม่ได้ยินที่มึงพูดเลยต่างหาก มึงพูดอะไรว่ามาใหม่ดิ๊"

   "อ่า ไม่มีอะไรแล้ว"ริวถอนหายใจออกมาอย่างหนักหน่วงแล้วซดเหล้าอย่างกับซดน้ำลงคออึกใหญ่

   "อะไรวะ"มันต้องมีอะไรแน่ๆ ผมต้องเค้นความจริงออกมาให้ได้

   ดื่มกันพอเป็นพิธีเสร็จพวกเราก็กลังรีสอร์ทต่างคนต่างแยกย้ายกันนอน เก้งเมาหลับไปเป็นคนแรกต่อมาก็ผม ส่วนเป็นใจเห็นออกจากห้องไป คงจะไปกินน้ำล่ะมั้ง ช่างเถอะ วันนี้ใช้พลังงานไปเยอะแล้ว พักก่อนพรุ่งนี้ค่อยสู้รบกับริวใหม่

   ตัวผมเบาหวิวเหมือนลอยอยู่บนอากาศ รู้สึกเหมือนโดนพรากความนุ่มนิ่มของเตียงไปจากกาย กลิ่นหอมอ่อนๆที่คุ้นเคยที่ผมชอบสูดดมส่งกลิ่นฟรุ่งจรุงใจ ผมซุกตัวเข้าหากลิ่นนั้นมากขึ้น

   แล้วความนุ่มนิ่มของเตียงก็กลับมาพร้อมกับสัมผัสแผ่วเบาที่แก้ม ผมเอียงหน้าเข้าใกล้สัมผัสที่อ่อนโยนนั้นแล้วถูไถเบาๆ รู้สึกได้ถึงการยุบตัวของเตียงก่อนที่บางสิ่งที่อุ่นร้อนจะถูไถอยู่ข้างแก้มทั้งสองข้างสลับกันไปมา

   "อือ...ซี้ดด โน...โน"เสียงริว?

   ผมกำลังจะลืมตาแต่ก็ต้องรีบหลับตาปี๋เมื่อลูกๆของริวพุ่งออกมาและเลอะเต็มหน้าผม นี่ถ้าผมหลับตาไม่ทันมีหวังได้เป็นโรคที่ตาแน่ ริวแม่งเล่นอะไรไม่รู้เรื่อง...เดี๋ยวก่อนนะ

   "เห้ย"ผมมองซ้ายมองขวา ปรากฎว่านี่ไม่ใช่ห้องที่ผมเคยนอนอยู่กับเก้งและเป็นใจ ผมมาที่นี่ได้ยังไง

   "กูอุ้มออกมาเองแหละ ถึงเวลาที่ต้องกลับคืนสู่ธรรมชาติแล้วนะ"

   "กูไม่ใช่สัตว์นะไอ้เหี้ย"

   "ถ้ากูเหี้ยมึงก็เมียเหี้ยอย่างกูนี่แหละ หึหึ"

   "กูจะกลับห้อง"เถียงไปก็เปล่าประโยชน์ ถึงบอกว่ารักกันยังไงพวกเราก็ยังทำตัวเหมือนเดิมอย่างนี้แหละ ไม่ได้มีเค้่ ตะเอง หวานๆอะไรเทือกนั้นหรอก ผมเดินออกจากห้องพลางเช็ดหน้าที่มีแต่น้ำคาวออกไปด้วย

   "อ๊ะๆ...อ๊ะ...อ๊า...ไอ้ฟอกซ์...อ๊ะ...เบาๆ"แล้วเสียงเพื่อนคน(เคย)แมนก็ครางออกมาซะจนทะลุห้องที่ผมเคยนอนอยู่ ถ้าอย่างนั้นอีกห้องก็ต้องเป็นขุนพลกับเป็นใจ พอเอาหูแนบห้องก็รู้ว่าทั้งคู่กำลังมีอะไรกันอย่างเบาๆ แต่เตียงนี่ไม่เบาเลยนะครับ

   ผมหันหน้าไปมองริวแต่สายตาดันไปปะฉะดะกับอวัยวะเบื้องล่างที่ชี้กน้าสะท้านฟ้าอยู่อย่างเปิดเผย พลันหน้าผมก็ร้อนขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ มันไม่อายแต่ผมอายนี่หว่า

   "เราก็ไปทำกันบ้างเถอะหรือจะยอมแพ้เป็นไอ้ขี้ขลาดตาขาวก็ได้นะ"พอจะอ้าปากปฏิเสธ ริวก็ขัดขึ้นมาด้วยคำพูดดูถูกอย่างรู้ทัน

   "ให้น้ำเดียวพอ โอเค๊"ผมต่อรองแล้วก็ต้องกลืนน้ำลายอึกใหญ่ในประโยคต่อมา

   "กูอ่ะน้ำเดียวแต่มึงอ่ะคงเป็นสิบๆน้ำ"

   ริวกระชากผมเข้ามาในห้องแล้วก็ทำในสิ่งที่ผมไม่คิด มันกอดผมอย่างหวนแหนแล้วเชยคางให้ผมสบตาก่อนที่ใบหน้านั้นจะใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ไม่สามารถละสายตาที่เต็มตื้นไปด้วยความรักของริวได้เลย ผมเผยอปากเพื่อตอบรับจูบของริว ลิ้นร้อนลุกล้ำเข้ามากวาดต้อนช่วงชิงความเป็นตัวของตัวเองของผมจนหมดสิ้น ตวัดชิมความหวานกันอย่างเนิบนาบ จากความโอนอ่อนค่อยๆปรับเปลี่ยนเป็นร้อนแรงจนกายแทบหลอมละลาย เสียงจูบดังเฉอะแฉะแต่ผมก็ไม่รับรู้อีกแล้ว

   ผมถูกอุ้มขึ้นในขณะที่ปากยังกวัดเกี่ยวกันไม่ห่างจนถึงเตียงและผมนอนราบก็ยังไม่หลุด สมองผมขาวโพลนคิดอะไรไม่ออกเพราะถูกความอ่อนหวานโจมตี

   ไม่รู้ว่าถูกปอกเปลือกจนล่อนจ้อนตั้งองแต่เมื่อไร รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่มือหนาลูบไล้ผิวกายจนผมสะท้าน มือซุกซนปัดผ่านยอดอกจนผมรู้สึกขัดใจ เหมือนคนข้างบนจะรู้ตัวเลยจัดการบดขยี้เคล้นคลึงตุมไตทั้งสองข้างของผม ริมฝีปากที่สูบวิญญาณผมอยู่ผละออกแล้วก้มลงไปเล่นกับหน้าอกผมแทน ผมครางในลำคออย่างชอบใจจับกลุ่มผมให้แนบชิดกับหน้าอกมากขึ้น

   ใบหน้าหล่อเหลาลากต่ำลงเรื่อยๆพลางจูบทุกพื้นผิวที่ผ่านไปด้วย เรียวลิ้นแหย่เล่นที่แอ่งสะดือจนผมหดเกร็งหน้าท้องเพราะเสียววูบวาบ เมื่อเล่นกับหน้าท้องหนำใจริวก็เคลื่อนหน้าไปสัมผัสกับน้องโนน้อย ริมฝีปากเฉียบครอบลงไปจนแทบมิด ผมครางอือพลางบิดตัวไปมาด้วยความกระสัน ลิ้นร้อนตวัดเลียอย่างช่ำชองจนกายอยู่ไม่สุข ผมแหงนหน้าแอ่นกายรับสัมผัสที่ถูกมอบให้อย่างรัญจวนใจ

   แล้วผมก็รู้สึกอึดอัดที่ช่องทางข้างหลัง พอก้มมองก็เห็นนิ้วเรียวแหย่เข้าออกในก้นของผม นิ้วเพิ่มขึ้นเป็นสองและสามพอๆกับความเร็วของการชักนำผมให้ไปสู่สวงสวรรค์

   "อาา"ผมปลดปล่อยออกมาเต็มปากเต็มคำของริว มันไม่รังเกียจเลยแม้แต่น้อยแถมยังกลืนน้ำคาวของผมลงคอ นั่นทำให้ผมตกใจไม่น้อยเลย

   แต่ความตกใจก็แปรเปลี่ยนเป็นความอึดอัด ช่องทางด้านหลังของผมถูกรุกล้ำด้วยสิ่งแปลกปลอมที่ใหญ่กว่านิ้ว 3 นิ้ว เพราะครั้งนี้ผมมีสติด้วยรึเปล่านะถึงทำให้การมีเซ็กส์กันครั้งนี้ดูน่ากลัวและเจ็บ

   "ผ่อนคลาย อึก อย่ารัดแน่นขนาดนั้นสิ"ริวพูดปลอบประโลมผมแต่ข้างล่างก็ยังพยายามดึงดันที่จะเข้ามา
   
   "กะ...กะ...กลัว"ผมหอบหายใจด้วยความตื่นกลัว รู้สึกเจ็บจี๊ดที่ก้นอย่างบอกไม่ถูก อย่างนี้มีความสุขได้ยังไงถ้ายังเจ็บอยู่แบบนี้

   ริวก้มหน้าลงมาประกบปาก ผมก็ตอบสนองรสจูบร้อนแรงแต่ก็แฝงไปด้วยความอ่อนโยนนั่น ผมเริ่มผ่อนคลายขึ้นเพราะจูบของริวทำให้ผมลืมว่ากำลังถูกทำอะไร

   "เฮือก"ผมผวากอดริวแน่นเมื่อริวกระแทกเข้ามารวดเดียวทั้งจุกทั้งเสียว อันก็ไม่ใช่เล็กๆ

   "พร้อมนะ"ริวจับขาผมให้ไปพาดไหล่ ผมไม่ได้พูดอะไรแต่หลับตาเป็นคำตอบแทน

   สะโพกแกร่งสอบเข้าหาช้าๆแต่หนักหน่วง แต่ละครั้งที่กระแทกก็ทำเอาผมหลอมละลาย รู้สึกร้อนที่ช่องทางแถมยังเต้นตุบๆเหมือนกับมีสิ่งมีชีวิตข้างใน

   "ดะ เดี๋ยว อ๊ะ...ถุง...ยาง"เพราะมีสติดีผมจึงห้ามเอาไว้ถึงแม้จะถูกใส่เข้ามาแล้วก็เถอะ

   "ก็บอกแล้วไงว่าไม่ต้องใส่"ริวยิ้มหวานอย่างที่ผมแทบไม่เคยเห็น ทำเอาเผลอตอดรัดแก่นกายยิบๆ"อึก อย่ายั่วสิ"

   เหมือนผมจะไปกระตุ้นสัณชาตญาณดิบเถื่อนเข้าให้ สีหน้าของริวหื่นกระหายจนผมต้องหลุบตาด้วยความเขิน เป็นใครโดนจ้องแบบนี้ก็เขินเหมือนกันหมดนั่นแหละ

   "อ๊าา"จู่ๆริวก็เร่งจังหวะจากเนิบนาบถึงเนื้อเป็นกระแทกถี่รัวอย่างเอาแต่ใจ ร่างกายของผมสั่นคลอนถูไถไปกับเตียงนอนจนยับยู่ยี่

   ตับ ตับ ตับๆๆ

   เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังก้องแข่งกับเสียงเตียงลั่นเอี๊ยดอ๊าด ผมกลั้นเสียงครางของตัวเองจนทรมานแต่คนข้างบนก็ยังแกล้งผมไม่หยุดด้วยการกระแทกแก่นกายเน้นย้ำจุดกระสัน

   "ไม่...เสร็จแ...แล้ว อึกก"ผมปลดปล่อยออกมาเป็นครั้งที่สองโดยไม่ได้แตะต้องข้างหน้า ช่องทางผมตอดถี่ทันทีแต่ริวกลับชักแก่นกายออก

   "ตอดแบบนั้นเดี๋ยวกูก็แตกกันพอดี บอกแล้วไงว่าน้ำเดียวยาวๆ"

   "ฮึ่ม"ผมหยัดตัวขึ้นผลักริวให้นอนราบลงกับเตียงแล้วคร่อมตักทำในสิ่งที่ไม่คิดว่าตัวเองจะทำถึงขนาดนี้

   มือผมจับริวน้อยที่แข็งปึ๋งจ่อกับช่องทางแล้วค่อยๆกดตัวลงแต่ดูเหมือนจะไม่ทันใจใครบางคน ริวจับเอวผมแล้วกดลงพร้อมๆกับที่เด้งสะโพกสวนขึ้นมา ผมครางลั่นเสียววาบขึ้นคอ ทั้งลึกและจุกแต่ผมกลับชอบ ใครบ้างที่ไม่รู้สึกดีกับเซ็กส์ที่ถึงใจ จริงมั้ยละ

   "ควบเลยที่รัก"ผมมองริวตาเขียวปั๊ดกับคำเรียกที่ไว้ใช้เรียกสโนว์แต่เหมือนคนมีชนักติดหลัง ผมไม่สามารถบอกความจริงอะไรได้ในตอนนี้

   "หุบปาก ครางอย่างเดียวก็พอแล้ว"ที่จริงบทนี้อีกฝ่ายที่รุกจะต้องพูดแต่ช่างเถอะ ตอนนี้ผมก็กำลังรุกอยู่นี่นา ว่าแล้วก็วางมือลงบนแผ่นอกริวเพื่อรองรับน้ำหนัก

   สะโพกผมยกขึ้นจนสุดจนน้องชายริวเกือบหลุดแล้วก็นั่งทับลงมาใหม่ไม่กลัวว่าแท่งจะหักคาก้น ซึ่งท่านี้ถึงจะจุกแต่ก็เสียวใช่เล่นแถมผมยังคุมเกมเองได้ด้วย ผมทำแบบนี้อยู่สักพักบ้างก็ร่อนสะโพกยั่วยวนคนใต้ร่าง เมื่อเห็นว่าริวทำท่าจะเป็นคนคุมเกมเองผมจึงเร่งสะโพกถี่รัวตามแรงอารมณ์

   "อ๊ะ อย่า"มือหนาชักนำน้องชายผมทำเอาจะเสร็จอีกรอบแต่ผมปัดมือมันทิ้งไม่ให้ยุ่มย่ามอีก ไม่งั้นผมไม่เหลือแรงสู้รบตบมือต่อแน่

   "ตอนมีสตินี่ร้อนแรงกว่าเป็นไหนๆนะ ซี้ดดด"

   "กะ ก็บอก...ให้...หุบ อ๊ะ...อ๊า...อ๊ะ...ปะ...ปาก"ริวลุกขึ้นนั่งแล้วยึดเอวผมไว้จากนั้นก็เด้งสะโพกสวนขึ้นมา ผมตัวงอด้วยความเสียวเริ่มผ่อนแรงให้ริวคุมเกม

   "ซี้ดดด รักนะ รัก"ริวเร่งจังหวะขึ้นเหมือนจะทนไม่ไหว ผมกอดคอริวแน่นเพราะจะเสร็จอีกรอบ

   "อ๊า อ๊ะ...รัก...เหมือนกัน อ๊ะๆๆ อ อย่า...เร็วไป"

   ปับ ปับ ปับๆๆๆ

   "โน สโนว์...อึก ซี้ดดด อาา"ผมหลับตาลงแล้วปลดปล่อยตัณหาออกมาจนเหนอะหนะ ริวกระแทกถี่รัวอีกสองสามครั้ง ผมก็รู้สึกอุ่นวาบในช่องทาง มันปล่อยออกมาเยอะมากจนเอ่อล้นออกมาตามน่องขาผม

   เราล้มลงไปนอนกับเตียงด้วยทั้งคู่ ผมนอนหอบหายใจอยู่อย่างนั้นจนรู้สึกว่ามีของแข็งสอดเข้ามากระชับกอดผมไว้ แขนแกร่งที่กางปีกเหมือนกำลังปกป้องผม ทำให้รู้สึกอุ่นใจแต่ก็ว่างเปล่าไปในที

   "พูดจริงหรอ หืม"ริวหอมขมับผมเบาๆอย่างชื่นอกชื่นใจ ผมเพียงแค่พนักหน้าเป็นคำตอบ

   "ไหนบอกจะให้กูเสร็จเป็นสิบน้ำไง"ผมเปลี่ยนเรื่องเพราะไอ้หน้าอกที่มันเต้นตึกตักรุนแรงอยู่ใกล้ๆหูผมเนี่ยแหละ

   "จะเอาอีกหรอ ทะลึ่งนะเรา"ผมส่ายหน้าวืด แค่นี้ก็จะตายแล้ว"ฮ่าๆ...ก็มึงบอกรักกูได้ยั่วยวนขนาดนั้น กูก็เลยทนไม่ไหวอยากแตกในใส่มึงจะแย่"

   "หึ แล้วพี่สโนว์ล่ะ"

   "...กูรักมึงนะ นอนเถอะ"

   "อืม"ดูริวจะแปลกใจที่ผมยอมลงให้ง่ายๆขนาดนี้

   "สักวันมึงจะเข้าใจกูเอง"

   "แต่มึงอาจจะไม่เข้าใจกู"ผมทิ้งปริศนาไว้ให้มันเดาก่อนจะหลับตาลงด้วยความเพลีย








☞To be continued



  ♀♂♀♂♀♂♀♂♀♂♀♂♀♂♀♂

Nekozaa  :

         พลิกล็อคเบาๆ อ่อนหวานซะ ริวจะเอาใจโนใช่มั้ยเนี่ย
         หายไปไหนกันหมดนะคนอ่าน งือออ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-11-2016 10:04:17 โดย nekozaa »

ออฟไลน์ Pe_no

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 375
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ติดตามต่อไปค้าาาา  :mew2:

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
เราว่าริวรู้แล้วแน่ๆ แล้วที่พูดแต่ไม่ได้ยินในร้านนี่พูดอะไรเนี่ย บอกความจริงเหรอ ถ้ายังงั้นก็น่าเสียดายนะ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ Psycho

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 388
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
มีมาม่าในอนาคตแน่ๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ดูเหมือนริวจะรู้ว่าโน กับสโนว์ คนเดียวกัน
แต่รู้ได้อย่างไร :katai1: :katai1: :katai1:
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
     

ออฟไลน์ Biwty...

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 985
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
ชอบอะ ริวจะฉลาดแล้วใช่ป่าว
ยั่วมากจ้าหนูโน เลิศๆๆ

ออฟไลน์ Fragrant

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 858
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-0
 อยากให้บอกความจริงแบบตรงๆไปเลย จะได้ไม่มานั่งเศร้าแบบนี้

ออฟไลน์ ลิงน้อยสุดเอ๋อ

  • ถึงจะเหงา แต่ไม่ได้ง่าย
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1993
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-2
    • Fanpage
รอลุ้นคู่นี้ต่อไป

ออฟไลน์ nekozaa

  • I want to you read me
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 113
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
special : เมื่อฝ่ายรุกรวมหัวกัน




   "เดี๋ยวกูนอนกับเป็นใจ ริวกับโน ฟอกซ์กับเก้ง ตกลงตามนี้"

   "ไม่ กูจะนอนกับเก้ง"

   "เออๆ กูจะนอนกับโน"

   "ไม่ได้ มึงต้องนอนห้องเดียวกับกู"

   "ผมขอนอนคนเดียวนะครับ"

   "ยังงอนพี่หรอครับใจจ๋า นอนห้องเดียวกันนะๆ ที่รัก"

   "แบ่งเป็นคู่ผัวตัวเมียก็ถูกแล้วนี่โน"

   เมื่อตกลงเรื่องห้องนอนคู่นอนกันไม่ได้ฝ่ายโน เก้ง และเป็นใจก็เคลื่อนตัวไปอีกฝั่งเพื่อปรึกษาหารือกัน เห็นดังนั้นฝ่ายรุกอย่างริว ฟอกซ์ และขุนพลก็รวมหัวกันประชุมทันที

   "เมียมึงก็เอากับเขาด้วยหรอวะ พล"หนุ่มแว่นถามพลางเหล่ตามองไปที่คนรักของตัวเอง

   "เมียงอนว่ะ"ขุนพลถอนหายใจ บางทีคนรักของเขาก็ดีบ้างไม่ดีบ้าง แต่ส่วนใหญ่คำพูดจะสวนทางกับการกระทำจนเขาเองก็สับสน

   "ทั้งๆที่พวกนั้นก็ได้กับเราแล้วทำไมต้องเล่นตัวด้วยวะครับ"ริวร่วมถอนหายใจด้วยอีกคน เรื่องนี้จะไม่เกิดถ้าเจ้าตัวแสบอย่างโนไม่ค้านจะแยกห้องนอนแถมยังเอาเมียคนอื่นเขาไปร่วมวงด้วย

   "ไม่รู้ว่ะ"สองหนุ่มพากันส่ายหน้าอย่างไม่เข้าใจ

   "กูมีแผน"เงียบไปกันพักใหญ่ฟอกซ์ก็เกิดปิ๊งไอเดียขึ้นมา ขึ้นชื่อว่าเป็นสุนัขจิ้งจอกก็ต้องมีกลเม็ดวิธีแก้ปัญหาได้อย่างเฉียบขาดพอตัว

   "ยังไง"ขุนพลถามอย่างสงสัย จะเอาอะไรไปทำให้พวกเมียๆยอมเปลี่ยนใจได้

   "แผนคือ..."ฟอกซ์เล่าแผนให้สองเกลอฟังด้วยความสั้นกระชับรวดเร็วแต่เข้าถึงแผนเจ้าเล่ห์ของจิ้งจอกเป็นอย่างดี

    แผนแรกคือทำเป็นยอมๆเออออห่อหมกไปก่อน ส่วนตัวหัวโจกที่เป็นฝ่ายคิดจะให้นอนแยกกันก็ตีให้ตายด้วยคำพูด

   "มึงจะนอนนี่?"โนถามเมื่อเห็นว่าฟอกซ์ไม่ได้เอากระเป๋าเข้าไปเก็บในห้องและเพื่อนสนิทเขาก็อยากจะถามไถ่เสียเหลือเกินแต่ก็ไม่กล้า

   "เออ สมใจมึงแล้วนี่ แยกผัวแยกเมียกัน"คำพูดแทงใจที่สื่อตรงออกมาทำให้โนถึงกับสะอึก พูดไม่ออกบอกไม่ถูก เจ้าตัวคงจะสำนึกบ้างตามแผน

   วันหนึ่งผ่านไปจนได้เวลาที่ต่างคนต่างแยกย้ายกันนอน ฝ่ายเมียหลับปุ๋ยแต่ฝ่ายผัวเริ่มดำเนินแผนและเป็นโชคดีของขุนพลที่เป็นใจออกมาหาน้ำกิน
 
   "อ๊ะ พี่ขุนพล...มะ มีอะไรรึเปล่าครับ"

   "มีเยอะแยะเลยล่ะครับ เราไปนอนเล่ากันที่เตียงดีกว่าเนอะ"

   "คะ ครับ"ปากตอบตกลงแต่กายกลับหันหลังให้และวิ่งหนี ขุนพลที่ไวกว่าคว้าเอวเล็กไว้มาประชิดตัวก่อนจะยกขึ้นพาดบ่าแล้วมือหนาก็ฟาดลงที่ก้นนุ่มนิ่ม

   ป๊าบ

   "เด็กดื้อต้องถูกทำโทษนะครับ"

   "อ๊าาาาา"เสร็จไปแล้วรายหนึ่งเหลือสองที่ยังคงนอนหลับไม่รู้เรื่องรู้ราวอยู่

   "เดี๋ยวผมอุ้มโนไปไว้อีกห้อง พี่ใช้ห้องนี้เลยนะครับ"

   "โอเค"สองหนุ่มพยักหน้าแล้วส่งยิ้มเจ้าเล่ห์ให้กันอย่างรู้ใจ

   ริวอุ้มโนออกไปแล้ว ฟอกซ์ไม่รอช้ารีบเข้าตะครุบเหยื่อที่กำลังหลับใหลสุขสบายทันที

   "ผะ ผีอำ"คนใต้ร่างละเมอออกมาอย่างอึดอัด

   "ผีที่ไหน ผัวต่างหาก"คนเจ้าคิดเจ้าแผนกระซิบที่ข้างหูก่อนจะงับแรงๆให้คนรักของตัวเองตื่นมารับโทษ

   "ว้ากกกก...ง่ะ ฟอกซ์...มึงมาอยู่นี่ได้ไง กูฝันหรอ"เก้งขยี้ตาตัวเองแรงๆสองสามทีแต่คนตรงหน้าก็ยังเป็นฟอกซ์

   "ให้กูแทงเข้าไปตอนนี้เลยมั้ยล่ะ จะได้รู้ว่าฝันหรือไม่ฝัน"

   "มะ ไม่นะ ม่ายยยยยย"เสร็จไปอีกรายส่วนอีกอีกรายไม่ต้องบอกก็รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น

   "ถ้าไม่เชื่อฟังพี่อีกจะโดนหนักกว่านี้นะครับ/ขัดใจกูอีกมึงโดนกูเอาจนพรุนแน่"คำสุดท้ายหลังจากเสร็จกิจทำโทษเมียขุนพลกับฟอกซ์ต่างพูดขู่เมียตัวเองส่วนริวน่ะหรอ

   "รักนะครับ"ให้มันได้อย่างนี้สิ แล้วแบบนี้โนจะสำนึกได้ยังไง เห้อ

   งานนี้พวกเมียๆคงเข็ดไปกันอีกพักใหญ่ ควาญช้างหรือจะสู้ช้างเท้าหน้า ผู้นำก็ยังคงเป็นผู้นำอยู่วันยังค่ำอย่าได้คิดหืออีกไม่งั้นจะโดน xxx แล้วก็ xxx

   และเพราะแผนนี้ทำให้สามเกลอกลายเป็นเพื่อนสนิทกันไปในทันที อย่าให้รวมหัวกันเชียวไม่งั้นจะหนาว บรื๊ออ




+++++++++++++++++++++++++++++

   เอาตอนพิเศษมาลงไว้ก่อนเน่อ ไม่ทิ้งไปไหนแน่นอน

   เกลอ = เพื่อน

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
อื้อหือ....ฝ่ายรุก มีวางแผนด้วย
อย่างนี้ ฝ่ายรับก็เสร็จสิ
แหม....ฝ่ายรุกสนิทกันเลยละทีนี้
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
เล่นรวมหัวกันแบบนี้ฝ่ายรับก็แย่น่ะซิ ระวังเหอะพวกรับเอาคืนแล้วจะหนาว

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด