บทบาทพระรอง (จ้าว) Maybe you think that you can hide
I can smell your scent for miles
Just like animals
Animals
Like animals
Baby I’m ช่วงนี้เซย์มันฟังเพลงเดิมๆ ซ้ำๆ วนไปมา ผมเองก็ชอบนะ เพลงมันเพราะดีแต่พอร้องออกมาจากปากของมันทำไมผมรู้สึกขนลุกวะ เนื้อหาในเพลงโคตรจะเหมาะกับมันเลย
สัตว์ร้าย...
มันคือสัตว์ร้ายจริงๆ นั่นแหละ หากไม่ยุ่ง ปล่อยอยู่นิ่งเฉยมันก็จะสงบนิ่งไร้การเคลื่อนไหว แต่เมื่อใดที่อาจหาญไปรบกวนมันเข้า มันก็พร้อมที่จะลืมตาตื่นขึ้นมาขย้ำคุณจนเละเป็นเศษซาก อย่างเช่นผมในเวลานี้
ร่างกายช่วงล่างรู้สึกร้าวระบมจนต้องกัดฟันกรอดๆ ทุกครั้งที่ขยับตัว นี่มันไม่ต่างจากการถูกซ้อมด้วยกามอารมณ์ ผมพอจะเข้าใจแล้วว่าการตายคาอกมันเป็นยังไง
“ลุกขึ้นมากินข้าวแล้วกินยาซะ” น้ำเสียงทุ้มต่ำตามแบบฉบับดังขึ้นเหนือหัวพร้อมกลิ่นหอมจากข้าวต้มร้อนๆ ที่ถูกยกมาจ่อหน้า พูดแล้วจะตกใจ เซย์มันลงมือเข้าครัวด้วยตัวเอง ทำข้าวต้มหมูสูตรพิเศษมาป้อนให้ถึงปาก
ผมชันกายขึ้นเอนหลังพิงหมอนอ้าปากรับข้าวต้มอุ่นๆ ลงคอ จะมัวทิฐิทำไม ในเมื่ออีกฝ่ายเป็นแฟนผม ที่สำคัญผมย้ายมาอยู่กับมันแล้วด้วย ไม่ได้เต็มใจนะ โดนบังคับมา
ย้อนกลับไปเมื่อสองเดือนก่อน ผมเพิ่งกลับจากมหา’ลัยหลังเลิกเรียน เห็นเจ้ากรรมนายเวรยืนกอดอกรออยู่กลางห้อง สิ่งที่ทำให้ผมตกใจจนกระเป๋าร่วงคือ ข้าวของจำเป็นหลายอย่างถูกรวมใส่ไว้ในกล่องกระดาษราวกับว่ากำลังจะย้ายบ้านก็ไม่ปาน แต่บังเอิญว่าผมไม่ได้ย้ายไง ไม่คิดจะย้ายด้วย นี่มันเรื่องอะไรกัน!
“เซย์มึงทำอะไรห้องกู!” ก้าวฉับๆ กระชากคอเสื้อแบบไม่ออมแรง มันตัวเซเล็กน้อยแทบไม่สะท้าน บ่งบอกความแกร่งที่มากกว่า น่าหงุดหงิดโว้ย ระดับผมทุ่มลูกครึ่งอย่างไอ้พอร์ชมาแล้วนะเฮ้ย
“มึงต้องย้ายไปอยู่กับกู” น้ำเสียงเรียบเรื่อยตรงข้ามกับอีกคนที่ไฟโกรธลุกโชน
“กูไม่ไป! ที่กูให้คีย์การ์ดมึงไม่ใช่ให้มึงถือวิสาสะมาทำแบบนี้นะไอ้เหี้ย อุ๊บ!” ปากถูกกระแทกปิดบดขยี้ด้วยจูบอย่างดุดันบ่งบอกว่าห้ามปฏิเสธ แต่มีหรือผมจะสน ตอบโต้สวนกลับอย่างไม่ยอมแพ้ โมโหจนเลือดขึ้นหน้าคิดจะจับมันทำเมียให้รู้แล้วรู้รอด
โชคชะตาไม่เข้าข้าง ผมโดนพลิกกลับแล้วถูกยัดเยียดความเป็นเมียให้แทน หมดสภาพอยู่บนโซฟาขณะที่เซย์ชันกายลุกขึ้น แต่งตัวด้วยท่าทีสงบนิ่ง ราวกับสัตว์ป่าที่ขย้ำผมเมื่อครู่ไม่ใช่มัน แล้วแบกผมกับของต่างๆ ขึ้นรถกลับห้องหน้าตาเฉย
แน่นอนว่าผมไม่ยอมอยู่ว่าง่ายแน่ ฟื้นตัวขึ้นมาก็มุ่งกลับห้องทันทีก่อนจะโดนเซย์จับตัวกลับไปซ้ำๆ เกิดเหตุการณ์แบบนี้ต่อเนื่องกันสองสามครั้ง เซย์มันคงหมดความอดทนตัดสินใจใช้เงินส่วนตัวเปลี่ยนคีย์การ์ดห้องผม แล้วขู่ว่าหากไม่ยอมอยู่กับมันดีๆ มันจะเอาห้องผมไปขายทิ้งซะ
นั่นเป็นห้องที่พ่อซื้อให้ผมตอนเข้ามหา’ลัยนะ เรื่องอะไรจะยอมให้มันขายง่ายๆ ผมกอดอกหัวเราะเหอะแบบไม่แคร์ ห้องเป็นชื่อของผม มันเอาไปขายไม่ได้
จนกระทั่งวันหนึ่งมันยื่นเอกสารสิทธิ์เจ้าของห้องให้ผมดู พร้อมกับโน้มตัวเข้ามาเท้าแขนตรงพนักกักตัวผมให้อยู่ตรงกลาง ผมอ่านเอกสารแล้วหน้าซีดแล้วยิ่งซีดกว่าเดิมเมื่อมันกระซิบข้างหู
“อย่าท้าทายกูจ้าว ไม่มีอะไรที่กูทำไม่ได้ ถ้าไม่อยากเสียห้องนั่นไปจงเชื่อฟังแล้วยอมอยู่กับกูซะดีๆ”
ผมกัดฟันกรอด ทำอะไรไม่ได้นอกจากกระแทกเสียงใส่หน้ามัน “เออ! กูจะอยู่ พอใจแล้วใช่มั้ย เปลี่ยนชื่อเจ้าของกลับเดี๋ยวนี้!” มันหัวเราะเสียงทุ้มในคอก้มลงมาจูบหนักๆ
“ดูความประพฤตมึงก่อน ถ้าเป็นเด็กดีกูจะยอมเปลี่ยนชื่อให้”
ผมจ้องเขม็งใส่มัน ปกติผมจะสุขุมเยือกเย็นวางแผนอย่างรัดกุมในการทำอะไรสักอย่าง จนหลายคนบอกผมมันเจ้าเล่ห์ชั่วร้าย จนมาเจอกับอีกฝ่ายที่รู้ทันผมไปซะทุกอย่าง คอยก่อกวนจนผมควบคุมอารมณ์ของตัวเองไม่ได้อยู่บ่อยๆ ถึงงั้นก็ยังมีข้อดีล่ะนะ
ห้องมัน มันจัดการเองทุกอย่าง ไม่ว่าจะทำความสะอาด ซักผ้า รีดผ้า แม้กระทั่งการทำอาหาร เรียกได้ว่าผมนอนเป็นคุณชายสะดวกสบายยิ่งกว่าตอนอยู่ในห้องตัวเองซะอีก
ผมเริ่มจับทางมันได้ เซย์มันคนสบายๆ มีกิจวัตรเรียบเรื่อยในแบบของมัน ตื่นเช้าเช็คตารางหุ้นก่อนทำอาหาร ไปเรียน ว่างก็ทำความสะอาดไม่ก็อ่านหนังสือเล่นเกมดูหนังผ่อนคลายไปเรื่อย แม้จะเผด็จการไปบ้าง แต่ขอแค่อย่าไปฝืนข้อห้ามหรือล้ำเส้นสะกิดต่อมมัน เซย์ก็พร้อมที่เปย์คุณได้ทุกอย่าง
มันไม่เคยห้ามผมไม่ให้ไปไหน ไม่บังคับว่าต้องกลับกี่โมง แค่ต้องโทรมาบอกมันล่วงหน้าก็พอ ไม่เช่นนั้นหากปล่อยให้มันรอเก้อ เมื่อคุณกลับมาจะได้พบกับนรกบนดิน
แต่มีกฎของเซย์หนึ่งข้อ ที่ให้ตายยังไงก็ห้ามฝ่าฝืนหรือท้าทายเด็ดขาด ผมเพิ่งจะรู้เมื่อไม่นานมานี่เอง นั่นคือ...
การนอกใจ
ไม่ว่าจะนอกกายนอกใจหรืออะไรก็แล้วแต่ ห้ามอย่างเด็ดขาด เซย์เป็นพวกหึงโหดและขี้หวงมาก เหมือนคุณไปแย่งของรักของมังกรจนโดนมันเผาเป็นตอตะโก
วันก่อนผมไปดื่มผ่อนคลายอารมณ์ในผับแบบนั่งฟังเพลงสบายๆ มีฟลอร์สำหรับเต้นเล็กๆ น้อยๆ ใครจะคิดล่ะว่านรกจะเป็นใจส่งไปป์คู่นอนที่ผมถูกใจที่สุดให้โคจรมาพบกัน อีกฝ่ายมากับเพื่อน บังเอิญเห็นผมนั่งอยู่ตรงบาร์คนเดียวจึงเดินเข้ามาทักทายตามประสาคนรู้จัก
ไปป์เป็นผู้ชายที่มีรูปร่างใกล้เคียงกับปุณที่สุด แต่นิสัยแตกต่างกันราวฟ้ากับเหว เจ้าตัวใจกล้าบ้าบิ่น ในอดีตเขาเป็นคนเสนอตัวเองโดยอ้างว่าเขาเหมือนคนที่ผมแอบชอบที่สุด น่าจะช่วยสนองให้ในคืนนั้นได้ ซึ่งผมก็ไม่ปฏิเสธ พวกเราเลยไปต่อกันที่โรงแรมมีอะไรกันอีกหลายครั้งก่อนผมจะห่างหายไป เพราะมัวแต่กันท่าพอร์ชให้ห่างจากปุณ ตอนนี้จึงกลายเป็นการเจอกันอีกครั้งในรอบหลายเดือน
“ไม่เจอกันนาน ฉันพอจะได้ข่าวมาบ้างว่านายเลิกคบกับปุณแล้วเหรอ” ร่างเล็กขยับเข้าใกล้อย่างเป็นธรรมชาติ ผมปลายตามองไม่ได้ผลักออก
“ในเมื่อนายรู้ดีขนาดนั้น ไม่จำเป็นต้องถามฉันก็ได้มั้ง” ได้ยินคนพูดถึงปุณผมก็เซ็งในอารมณ์ หลายคนบอกผมน่ะใจร้าย แค่เพื่อนไม่รับรักถึงกับต้องเลิกคบปล่อยให้ปุณเศร้าเลยเหรอ เหอะ! พวกมันไม่รู้อะไร ลองมาเป็นอย่างผมสิ ถูกคนที่แอบรักมาสามปีหักอกอย่างไร้เยื่อใย ใครมันจะไปหน้าชื่นตาบานวิ่งเข้าหาได้
อีกอย่างผมไม่อยากกลับไปโง่อีก เวลาที่เสียไปนั่นก็มากพอแล้ว ชีวิตของผมยังมีอะไรให้ทำอีกเยอะ โดยเฉพาะคิดแผนรับมือเซย์ การมีคนรักที่รู้ทันกันหมดซะทุกเรื่องก็ดีอย่าง เวลาทำอะไรไม่ต้องอธิบายมาก อยู่ด้วยกันชีวิตมีสีสัน สนุกดีไปอีกแบบ ผมไม่โกหกหรอกนะว่าค่อนข้างจะชอบกวนอารมณ์เซย์ไม่น้อย แม้ว่าผลกรรมจะตกอยู่ที่ตัวเองในภายหลังก็ตาม
“อะไรกัน ฉันนั่งอยู่ตรงนี้นายกลับอมยิ้มนึกถึงใครอยู่ นี่...จ้าว เรามาระลึกความหลังกันมั้ย” ลากเสียงพร้อมมือลูบผ่านแผงอกเผยเจตนาเชิญชวนชัดเจน ผมยกยิ้มมุมปาก ตวัดแขนโอบกระชับเอวให้แนบชิดกายมากกว่าเดิม
“ท้าทายกันเหรอ หืมม...” ลากเสียงทุ้มในคอ จงใจยื่นใบหน้าเข้าใกล้ มองด้วยแววตาที่ไม่ว่าเหยื่อคนไหนก็ระทวย แม้แต่ไปป์ที่เจอบ่อยๆ ก็ยังไร้ภูมิต้านทาน ออกจะชื่นชอบด้วยซ้ำใจถึงเต้นรัว ตาพราวระยับใบหน้าขึ้นสีขนาดนี้ สมองน้อยๆ นั่นคงคิดไปถึงไหนต่อไหน
จริงสิ ผมเองก็ห่างกายจากการเป็นฝ่ายกระทำมาพอสมควร จะปลดปล่อยสักหน่อยดีมั้ยนะ ยังไงไอ้เซย์มันก็ไม่ยอมเป็นฝ่ายรับให้ผมแน่นอนล้านเปอร์เซ็นต์ ขณะที่กำลังชั่งใจอยู่ เหยื่อใจกล้าถือโอกาสตวัดแขนโอบรอบคอรั้งตัวผมลงไปจูบหน้าด้านๆ ผมหรี่ตาลงอย่างไม่พอใจเล็กๆ เหยื่อก็คือเหยื่อ คนที่เริ่มต้องเป็นผมต่างหาก!
บดจูบเร่าร้อนแนบริมฝีปากแลกลิ้นสัมผัสกลิ่นแอลกอฮอล์คลุ้งจนร่างในอ้อมแขนอ่อนระทวยหอบหายใจหนัก ผมแสยะยิ้มในใจ ยกขาเสียดสีตรงหว่างขาอีกฝ่ายแบบแนบเนียน ให้คนตัวเล็กต้องการแทบทนไม่ไหว ช่วงที่ผมกำลังคิดว่าจะเอาไปกินที่ไหนดี หลังคอเสื้อถูกกระชากออกจนเซตกเก้าอี้ จำต้องอาศัยขายาวๆ ของตัวเองทรงตัวไว้ หันกลับไปหมายจะเอาเรื่อง
สิ่งแรกที่ได้เห็นคือใบหน้าโกรธจัดของแฟนคนปัจจุบัน พร้อมแรงซัดเข้าท้องจังๆ ผมทรุดอยู่ในอ้อมแขนอีกฝ่าย จุกเจ็บจนร้องไม่ออก กล้ามเนื้อช่วงท้องไม่ช่วยอะไรเลยสักนิด รู้สึกหน้าชาเหงื่อไหลซิบๆ โดนเซย์กอดไว้แน่นจนแทบหายใจไม่ออก ได้ยินแค่เสียงโครมครามของเก้าอี้และคนที่คาดว่าโดนฝ่าเท้าเซย์จนร่วงไปกองกับพื้น
“เซย์พอได้แล้ว เดี๋ยวมันตาย!!” เสียงของคนที่ผมเกลียดที่สุด ไอ้พอร์ชตวาดพร้อมกระชากตัวเซย์จนผมปลิวตามเพราะมันกอดไม่ยอมปล่อย
“สวะชั้นต่ำอย่ามาแตะต้องของกู” เสียงเจือคำรามกดต่ำจนน่ากลัว มันกระทืบซ้ำรอบสุดท้ายแล้วกวาดตาคมกริบมองไปรอบๆ “กูขอประกาศไว้เลยนะ จ้าวคือของกู ถ้าใครกล้าแตะหรือคิดอะไรแม้แต่นิด กูจะทำให้พวกมึงเจอยิ่งกว่าตายทั้งเป็น” เซย์ตวาดก้องไปทั่วผับที่ถูกหยุดเพลงจนเงียบกริบ
“ส่วนมึง! กูคงจะใจดีกับมึงเกินไปสินะ ในเมื่อดีๆ ไม่ชอบ งั้นมึงเจอกูแบบร้ายๆ หน่อยเป็นไง เผื่อมึงจะจำใส่กบาลไว้ว่ามึงเป็นของใคร” ความกราดเกรี้ยวที่แสดงออกมาทำเอาผมเริ่มหวาดผวา ผมไม่เคยกลัวใครมาก่อนนอกจากครั้งนี้ที่ผมกลัวจนมือสั่น
“ใจเย็นก่อนมึง” พอร์ชพยายามรั้งเพื่อนให้ใจเย็นแล้วหันมาพูดกับผมอย่างหงุดหงิด “มึงนี่มันตัวซวย กับปุณยังไม่พอ อยู่กับเพื่อนกูยังทำนิสัยเหี้ยๆ อีก”
ผมกำมือแน่นตัวสั่นด้วยความโกรธ พอๆ กับความจุกที่เริ่มบรรเทา ไม่ต้องเสียเวลาพูดพล่ามอะไร หมัดแรกซัดเข้าหน้าพอร์ชจนปากแตก ก่อนจะตามด้วยกุมมือทุ่มหลังให้มันไปกองกับพื้น ผมก้มลงกระชากคอเสื้อมันยกขึ้นด้วยสองมือ
“มึงกล้าดียังไงพูดกับกูแบบนี้ เพราะมึง! ถ้ามึงไม่เข้ามากูกับปุณ…” ผมสูดลมหายใจลึก เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าเซย์ยืนอยู่ด้านหลัง ผมรีบหันไปมองพอเห็นแววตาเจ็บปวดที่โผล่ขึ้นมาวูบหนึ่ง ในใจผมก็ปวดหนึบไปหมด ผมไม่ใช่พวกที่จะหนีปัญหา เลยซัดพอร์ชอีกสักทีแล้วโยนมันไปทางพวกเพื่อนของเซย์ ส่วนผมเดินไปหาคนที่ยืนนิ่งแผ่รังสีกดดัน
“เซย์...กู...”
“กลับบ้าน...เดี๋ยวนี้!!” มันชี้ออกไปด้านนอกโดยไม่มองหน้าผม ผมผ่อนลมหายใจหนัก ไม่คิดสนใจสายตาคนรอบข้างแล้วเดินตามหลังเซย์ไปขึ้นรถ ส่วนที่เหลือทิ้งให้พวกพอร์ชจัดการเก็บกวาด ตลอดทางมีแต่ความเงียบ ไม่มอง ไม่พูดจนมาถึงห้อง
ทันทีที่ปิดประตู ผมถูกผลักจนหลังกระแทกประตูอย่างจัง เซย์ตามมากดตัวผมไว้จนขยับไปไหนไม่ได้ ใบหน้าดุดันจ้องเขม็ง ราวกับจะสับผมให้เป็นหมื่นชิ้น “บอกมาจ้าว กูควรจะทำยังไงกับมึงดี” ผมพูดไม่ออก ได้แต่ยืนนิ่ง
“กูตามใจมึงทุกอย่าง มีอยู่ไม่กี่เรื่องที่กูบังคับมึง แต่ดูสิ่งที่มึงทำกับกู! ปล่อยให้กูรออยู่ที่บ้านส่วนมึงไปเริงรักกับคนอื่นข้างนอก!! กูอยากจะฆ่ามึงให้ตาย แต่เพราะความรักโง่ๆ กูถึงทำไม่ได้ บอกกูมาจ้าว จะให้กูทำยังไง...”
เห็นท่าทางมันแบบนี้ผมยิ่งทรมาน กัดฟันตอบไปตามที่คิด
“กูไม่รู้...”
มันผละออก หยักหน้าพูดซ้ำๆ เดินวนไปวนมา “ดี...ดีๆ พูดได้ดี งั้นกูจะทำให้มึงรู้เอง!!”
แคว่ก!
เสื้อเชิ้ตราคาแพงถูกฉีกกระชากออก ผมเบิกตากว้างรีบต่อสู้ขัดขืนทั้งที่ในใจเริ่มกลัว เซย์หงุดหงิดคำรามสะบัดหน้าอย่างหัวเสียแล้วจัดการชกที่ท้องผมอีกครั้ง ซ้ำรอยเดิม เจ็บจนแทบหมดสติ
ผมไหลลงไปนอนกุมท้องอยู่กับพื้น เซย์มันก้มลงแบกผมขึ้นบ่าแล้วพาเข้าห้องนอน เรื่องราวหลังจากนั้นคงไม่ต้องอธิบายมาก ผมถูกมันจัดการ วนเวียนแบบนั้นอยู่สามวันเต็มกลายเป็นสภาพผมอย่างตอนนี้ นอนหมดแรง รวดร้าวไปทั้งตัว นั่งกินข้าวต้มที่มันป้อน
ขอบคุณสวรรค์ที่มันใจเย็นลงแล้ว ไม่งั้นหากกินเวลาอีกวันหนึ่ง ชื่อผมคงถูกสลักอยู่ตรงป้ายหลุมศพ
“กินยาแล้วนอน วันนี้ฉันต้องออกไปทำธุระข้างนอก ตอนเที่ยงจะกลับมา อยู่ดีๆ อย่าหาเรื่องเจ็บตัวอีก”
“รู้แล้วน่า” ผมรับเสียงแหบแห้ง เป็นเพราะใคร ก็มันนั่นแหละ
“อยากกินอะไรมั้ย เดี๋ยวกูซื้อมาให้” เซย์ฉบับผีออกก้มลงมาจูบหน้าผากผมเบาๆ อ่อนโยนจนอยากร่ำไห้ แบ่งความอ่อนโยนตอนนี้ไปแทนสามวันก่อนได้รึเปล่า
“อาหารญี่ปุ่น แซลมอน ชาเขียวฟูจิรสหวาน ไอติมโมจิรสวานิลา” ห้างที่มีทุกอย่างครบอยู่ไกลจากคอนโดมาก ปกติเซย์จะไม่ไปถ้าไม่จำเป็น แต่คราวนี้มันพยักหน้ารับ
“เดี๋ยวซื้อมาให้” ลูบหัวผมทิ้งท้ายทำท่าจะออกไป ผมรั้งแขนมันไว้ก่อน เผยให้เห็นปลอกแขนติดโซ่ที่ล่ามไว้กับเตียง
“กูรักมึงนะ”
เซย์มองด้วยสายตานิ่งเฉย
“อย่าพูดถ้ามันไม่ได้ออกมาจากใจมึงจริงๆ เพราะนอกจากกูจะไม่ใจอ่อน กูจะล่ามมึงไว้นานกว่าเดิมด้วยซ้ำ”
ผมหัวเราะมองสบไม่ยอมหลบสายตา “กูพูดจริง ไม่ใช่เพราะมึงทำกับกูจนสมองกลับ แต่พักหลังมานี้กูคิดดูแล้ว ยิ่งคำพูดของเหี้ยพอร์ชกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวันนั้นกูก็เริ่มมั่นใจว่ารู้สึกกับมึงแล้วจริงๆ” ผมหลับตา ก่อนลืมตาขึ้นอีกครั้ง
“ขอโทษที่ทำให้มึงเสียใจ กูสำนึกผิดแล้ว ทีหลังจะไม่ทำอีก อภัยให้กูนะ” จะเรียกว่าผมกำลังง้อมันก็ไม่ผิดนัก เรื่องนอกใจนี่ผมเป็นฝ่ายผิดจริงๆ แถมยังไม่ลืมปุณอีก แม้ตอนนี้ผมจะพูดไม่ได้เต็มปากว่าลืมรักแรกจนหมด แต่ผมมั่นใจว่าคนที่ผมชอบตอนนี้คือเซย์ ส่วนปุณเป็นแค่คนที่ยังลืมไม่ลง
สามเดือนที่ผ่านมาก็พอจะบอกอะไรได้หลายอย่าง เซย์มันดูแลผม คอยห่วงใย หวังดีจากใจ อาจจะทะเลาะกันบ้างเพราะความไม่ยอมคน สุดท้ายก็จบลงที่เซย์ยอมถอยก้าวหนึ่งเสมอ แม้จะมีรายการเอาคืนแบบเจ็บแสบตามหลังก็เถอะ ครั้งนี้ผมผิดเองที่ฝ่าฝืนกฎข้อสำคัญที่สุดของมัน
จากเหตุการณ์ในวันนั้น ตอนที่ผมเห็นแววตามันเจ็บปวดเพียงเสี้ยววิแล้วเดินหันหลังให้ ผมพึ่งระลึกได้ว่ามันสำคัญกับผมแค่ไหน ด้วยความที่ครอบครัวไม่อบอุ่นอย่างใครเขา ผมเลยเป็นพวกขี้เหงา ต้องการคนยึดเหนี่ยวเป็นที่พึ่งซึ่งในเวลานี้คือเซย์ ผมกลัวว่าจะเสียมันไป จึงยอมอยู่ว่าง่ายในตอนนี้
แบบชั่วคราวอะนะ ยังไงสันดานผมก็แก้ไม่ได้หรอก เซย์ก็ดูจะเข้าใจ เจ้าตัวเดินกลับมาทิ้งตัวลงนั่งบนเตียงดึงผมเข้าไปกอด
“กูจะรอมึงพูดคำนี้อีกครั้ง ในวันที่หัวใจมึงมีแค่กู ส่วนเรื่องที่ผ่านมากูอภัยให้มึงแล้ว แต่ขอเตือนไว้อย่าง อย่ามีครั้งที่สอง ไม่อย่างนั้นคนที่จะเสียใจคือมึง” เพราะมึงจะทิ้งกูไปอย่างไร้เยื่อใยใช่มั้ย ผมต่อประโยคในใจ เซย์เป็นพวกรักมากก็ยิ่งเกลียดมาก แถมยังเด็ดขาดเลือดเย็นขนาดที่ยอมเฉือนหัวใจตัวเองทิ้งได้ง่ายๆ หากเรื่องไม่เป็นแบบที่ปรารถนา
เอาเถอะ ปกติมีแต่มันที่เป็นฝ่ายถอย คราวนี้ผมจะเอาบ้าง ถอยคนละก้าว มีพื้นที่อยู่ด้วยกันตรงกลาง จะได้อยู่กันยืดไม่ฆ่ากันตายซะก่อน
“ได้ ล้างหูรอไว้ได้เลย” ซบหน้ากับแผ่นอกแน่น เซย์หัวเราะในคอเกิดเสียงชวนจั๊กจี้
“กูจัดมึงอีกสักรอบค่อยไปดีมั้ย นานๆ ทีมึงจะทำตัวน่ารักให้กูเอ็นดู ดูเอ็นสักที”
ผมผลักมันออก คว้ามือที่เริ่มล้วงผ้าห่มสัมผัสร่างเปลือยเปล่าของผม “ไปซื้อของกินมาเซ่น ไม่งั้นอย่าหวัง” เซย์ตอบด้วยการร้องเพลงอยู่ข้างหู
“
Don’t tell no lie
You can’t deny
The beast inside…”
“นายปฏิเสธสัตว์ร้ายในตัวไม่ได้หรอก บอกมาสิ ว่านายเองก็ต้องการเหมือนกัน...” จมูกโด่งซุกไซร้ลำคอ จูบย้ำก่อนดูดเม้มใบหู มือเลื่อนลงล่างทำให้ผมหลุดเสียงพร่า
“Please, Inside me” ท่อนนี้ไม่มีในเพลง แต่ผมเติมเอง เซย์กระตุกยิ้มสมใจเคลื่อนกายขึ้นมาบนเตียงทำตามที่ขออย่างใจกว้าง
“Baby I’m preying on you tonight
Hunt you down eat you alive
Just like animals
Animals
Like animals...”Fin.
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เพลงประกอบนิยาย
Maroon 5 - Animals