ภารกิจที่ 44 : รัก (2)“ไม่ท้วงหรือครับว่าพี่ยังไม่ได้ตอบคำถาม” อิฐหันไปมองคนที่นั่งอมยิ้มอยู่ข้างๆ โชแปงดูมีความสุขมากยิ้มไม่ยอมหุบ
“แปงไม่อยากเซ้าซี้นี่คะ พี่อิฐบอกแล้วว่าเดี๋ยวจะบอก”
“ไม่อยากรู้เหรอ”
“อยากค่ะ ถ้าไม่อยากจะถามเหรอคะ” โชแปงเสไปมองนอกหน้าต่าง หัวใจเธอเต้นเป็นกลองรัว อิฐกำลังจะตอบเธอแล้วใช่ไหม แล้วถ้าคำตอบคือยังไม่ได้คิดอะไรคบไปวันๆ เธอจะทำอย่างไรต่อดี ตัดใจหรือคบต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าอิฐจะหันกลับมารัก
“แต่ถึงพี่อิฐยังไม่รักแปง แปงก็รอได้นะคะ แปงรอได้เรื่อยๆ จนกว่าพี่อิฐจะรักหรือจนกว่าพี่อิฐจะเจอคนที่รักจริงๆ” ไม่รู้ว่าอะไรเป็นตัวกระตุ้นให้เธอโพล่งออกไปทันทีที่ได้คำตอบให้กับตัวเอง อาจเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ หรือเพราะความสุขที่ได้รับในวันนี้
“แปงจะรอได้จนถึงเมื่อไหร่ ไม่กลัวตัดโอกาสตัวเองที่จะได้เจอคนดีๆ หรือครับ” โชแปงใจแป้ว ถึงเธอจะบอกว่ารอได้แต่พอได้ยินคำถามของอิฐก็ทำเอาหัวใจแฟ่บลงทันที
“ไม่หรอกค่ะเพราะที่แปงเจอตอนนี้ก็ดีมากพอแล้ว”
“ขอบคุณครับ”
“ถ้าอย่างนั้นคำตอบของพี่อิฐคือยังใช่ไหมคะ” โชแปงเสียงหงอยแม้จะพยายามทำหน้าให้สดชื่นแล้วก็ตาม
“ไปดูวิวกันไหม”
“คะ?”
“ไปดูวิวกันไหม ต้องรีบกลับหรือเปล่า”
“ไม่ค่ะแปงบอกแม่แล้วว่าจะกลับดึกมาก” โชแปงรายงานผู้ปกครองเรียบร้อย แม่ของเธอไว้ใจอิฐมาก จึงสั่งเพียงว่าให้ดูแลตัวเองให้ดี อย่าทำตัวเป็นเด็กให้เป็นภาระของอิฐ
“โอเคครับ” อิฐเปลี่ยนเส้นทาง มุ่งหน้าไปยังสถานที่ที่เขาคิดเอาไว้ในใจ
“สวยจังเลยค่ะ” โชแปงมองดูแสงไฟจากตึกสูงมากมายในกรุงเทพฯ ทุกอย่างดูระยิบระดับคล้ายดาวดวงเล็กๆ ส่องประกาย
“โชแปง”
“คะ?” โชแปงหมุนตัวและชนเข้ากับอกของอิฐที่เดินตามมายืนซ้อนอยู่ด้านหลัง มือแข็งแรงโอบรอบตัวเธอดึงเข้าไปกอดช้าๆ นิ่มนวล
“สุขสันต์วันเกิดครับ” ริมฝีปากอุ่นแตะเบาๆ ลงบนขมับ โชแปงเขินหน้าแดงไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมอง
“โกรธหรือเปล่าที่พี่ไม่มีของขวัญวันเกิดให้” โชแปงรีบส่ายหน้าแรงๆ กลัวอีกฝ่ายจะคิดว่าเธอโกรธ
“ทำไมจะไม่มีค่ะ ที่พี่อิฐจัดวันเกิดให้แปง ทั้งเค้ก ทั้งดอกไม้ ลูกโป่งเยอะแยะไปหมด” โชแปงขนดอกไม้กับลูกโป่งกลับมาเต็มรถ นั่นไงของขวัญของเธอ
“ก่อนมาพี่ให้ของขวัญอินทรีย์ไป ซื้อเสื้อที่มันอยากได้ให้”
“เอ๋?” โชแปงงงจนต้องผงกหัวออกเพื่อมองตาอิฐ
“พี่อยากขอบคุณที่อินไม่ชอบแปง ขอบคุณที่มันให้แปงอยู่ข้างๆ ทำให้ไม่มีใครเข้ามายุ่ง ขอบคุณที่มันเป็นแฟนกับเขียว และเปิดทางให้พี่ได้พบกับผู้หญิงที่น่ารักที่สุด”
“พี่อิฐ” โชแปงเรียกอิฐเสียงเบา คำพูดของอิฐหวานจนเธอละลาย
“ขอบคุณที่แปงชอบพี่ครับ” โชแปงตาพร่าเมื่อเห็นใบหน้าอิฐก้มเข้ามาใกล้ เธอทำอะไรไม่ถูกนอกจากปล่อยให้ริมฝีปากหนาบดเบียนลงมาบนริมฝีปากของเธอ
“เป็นแฟนพี่นะ”
“เรา..เราเป็นแฟนกันแล้ว” โชแปงพูดเหมือนละเมอ และเธอคิดว่าเธอกำลังฝันอยู่จริงๆ
“ถ้าอย่างนั้นเราเป็นคู่รักกันนะครับ”
“คู่..คู่รักเหรอคะ” แย่แล้วสมองเธอมันไม่ยอมประมวลผล มันเบลอจนจับต้นชนปลายความคิดไม่ได้
“ใช่ครับ คนรักกันสองคนคบกันก็ต้องเรียกว่าคู่รักถูกไหม”
“พี่..พี่อิฐ” โชแปงตาโต เดี๋ยวนะเดี๋ยวขอเธอคิดแป๊บ อิฐหมายความว่าอย่างไร
“พี่รักโชแปง” โชแปงร้องไห้โฮออกมา พี่อิฐรักเธอ! ไม่มีของขวัญชิ้นไหนจะวิเศษไปกว่านี้อีกแล้ว
“ฮ่าๆ รองไห้ทำไมครับเด็กขี้แย” อิฐกอดร่างเล็กแน่นขึ้นก่อนโยกตัวไปมาเบาๆ
“ฮือๆ พี่อิฐรักแปง พี่อิฐรักแปง” โชแปงยังทวนคำซ้ำๆ เหมือนกลัวว่าตัวเองจะหูฝาดไป
“เฮ้อ พี่ต้องจะทำยังไงเด็กขี้แยถึงจะหยุดร้อง สงสัยว่าต้องทำแบบนี้” ไม่ทันขาดคำริมฝีปากของโชแปงก็โดนจู่โจมอีกครั้ง เธอทำอะไรไม่ถูกได้แต่หลับตาและปล่อยให้อิฐเป็นผู้นำทาง ในที่สุดความรักของเธอก็สมหวัง ความรักของอิฐคือของขวัญที่มีค่าที่สุดในปีนี้ของเธอ
✪✣✤✥✦✧✣✤✥✦✧✪
สิงห์เหลือบตามองคนที่นั่งเบาะคนขับด้วยสายตาอึดอัด แทนจอดรถก่อนถึงบ้านเขา บอกเพียงว่าอยากหาที่คุย
“มีอะไรจะพูดก็ว่ามา”
“คุณไม่ชอบขี้หน้าผมมากเหรอ”
“มาก” สิงห์ตอบโดยไม่ต้องคิด
“เพราะอะไรครับ”
“เพราะ...” สิงห์ก็ตอบไม่ได้เหมือนกัน เขารู้แต่ว่าเกลียดแต่ไม่เคยคิดว่าเกลียดเพราะอะไร
“เพราะผมจีบคุณ?” สิงห์นิ่วหน้า แปลกที่เขาคิดว่าไม่ใช่ เขาอาจจะอึดอัดไม่ชอบใจแต่ไม่คิดว่าจะเกลียดอีกฝ่ายเพราะสาเหตุนี้ แล้วเขาเกลียดหมอนี่เพราะอะไรวะ
“คุณแทน ผมขอพูดตรงๆ นะ อย่ามายุ่งกับผมเลยไปหาคนอื่นเถอะ ผมแมนทั้งแท่งไม่คิดเปลี่ยนใจ อีกอย่างผมก็ไม่ชอบขี้หน้าคุณด้วย”
“คุณเกลียดเกย์?”
“จะบ้าเหรอคุณก็รู้จักเพื่อนผม”
“ถ้าอย่างนั้นเพราะอะไร ถ้าคุณอยากให้ผมเลิกยุ่งอย่างน้อยก็ขอเหตุผลให้ผม”
“เพราะ..” สิงห์กัดปาก พยายามคิดหาคำตอบออกมา เพราะ..เพราะเขาควบคุมตัวเองไม่ได้เวลาที่อยู่กับแทน สิงห์ได้คำตอบในที่สุดแต่ใครจะกล้าพูดออกไป
“คนไม่ชอบหน้ากันไม่จำเป็นต้องมีเหตุผล แค่เห็นหน้าแล้วไม่ถูกชะตามันก็แค่นั้น”
“แปลว่าผมไม่ได้ทำอะไรให้คุณเกลียด”
“เออ” ก็แล้วจะให้สิงห์ตอบว่าอย่างไร ตอบความจริงไม่ได้เด็ดขาด
“ถ้าอย่างนั้นก็ไม่น่าจะเป็นปัญหา เราลองใช้เวลาร่วมกันดูไหม ไปไหนมาไหนด้วยกัน กินข้าวด้วยกัน เที่ยวด้วยกัน คิดเสียว่าผมเป็นเพื่อนคุณ”
“จะคิดอย่างนั้นได้ไงวะ”
“แปลว่าคุณคิดกับผมเกินเพื่อน”
“พ่องคุณสิ พูดจาน่าต่อยแบบนี้เลิกพูดดีกว่า”
“ฮ่าๆ อย่าให้ถึงพ่อผมเลยครับ ผมแค่อยากให้คุณเปิดโอกาสให้ผมบ้าง คุณบอกว่าไม่ถูกชะตากับผม ผมเลยอยากให้เราลองใช้เวลาด้วยกัน บางทีคุณอาจจะเปลี่ยนความคิดจากไม่ชอบหน้าผมมารักผมแทนก็ได้”
“ก็พูดจาแบบนี้ไงผมถึงไม่ชอบหน้าคุณ”
“อย่าเพิ่งโมโหสิครับ เพื่อนคุณมีแฟนกันหมดแล้ว ผมว่าผมน่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีนะถ้าคุณอยากมีเพื่อนไปไหนมาไหนสักคน” สิงห์ฟังเงียบๆ ไม่ตอบโต้
“เป็นเพื่อนกันได้ไหมผมขอแค่นี้”
“ไม่จีบผมอีก?”
“สัญญาว่าจะไม่รุ่มร่าม” สิงห์ว่ามันไม่ใช่คำตอบของคำถามที่เขาอยากได้แต่ก็ฟังดูไม่เลว
“ว่าไงครับ” สิงห์คิดสะระตะอยู่ในหัว เดี๋ยวนี้เสาร์อาทิตย์บางทีเขาก็ไปไหนมาไหนคนเดียว ไม่อยากดึงเวลาเพื่อนมาจากแฟน รู้ว่าทุกคนเต็มใจแต่เขาไม่อยากกวน เท่าที่ไปดูหนังกับแทนก็ถือว่าเป็นคนใช้ได้ รสนิยมต้องกัน พูดคุยกันรู้เรื่อง ถ้ามาเป็นเพื่อนกันจริงก็น่าจะดี สิงห์คิดว่าถ้าเขายืนยันหนักแน่นพอก็น่าจะเปลี่ยนแทนให้กลับมาเป็นเพื่อนได้ไม่ยากนัก
“ก็ลองดู”
“ขอบคุณครับ” สิงห์กำลังจะพูดว่าไม่เป็นไรตอนที่โดนจู่โจมเข้าที่แก้มไปฟอดใหญ่
“ไอ้เหี้ย!” สิงห์ร้องลันรถ ซัดหมัดหวังให้เข้าหน้าอีกฝ่าย แต่แทนหลบได้จึงโดนแค่เฉียดๆ ที่กราม
“เดี๋ยวครับอย่าเพิ่งโกรธ” แทนยิ้มกว้างยึดมือของสิงห์เอาไว้แน่น ไม่ให้ประทุษร้ายเขาได้อีก
“ผมไม่ได้ผิดคำพูด ไม่ได้บอกว่าจะเป็นเพื่อนวันนี้ สัญญาว่าตั้งแต่พรุ่งนี้จะไม่รุ่มร่าม”
“ขืนยังเชื่อคุณผมก็ควายแล้ว” สิงห์ไม่เชื่อสักนิด ทำไมเขาถึงรู้สึกว่าหลังจากวันนี้เขาต้องเจอกับเล่ห์เหลี่ยมของผู้ชายคนนี้อีกมาก ไม่มีทางที่แทนจะทำตามคำที่พูดแน่
“อย่าคิดมากน่า คุณไม่เหมือนควายสักหน่อยผมว่าคุณเหมือน...” แทนเอนตัวออกเพื่อมองสำรวจสิงห์ มือยังจับข้อมืออีกฝ่ายไว้ไม่ปล่อย
“เหมือนแฟนในอนาคตผมมากกว่า”
“.....” สิงห์เงียบไปนานกว่าจะหาคำพูดเจอ เพราะเขารู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเองแบบนี้อย่างไรล่ะเขาถึงกลัวการอยู่กับแทน
“ช่างแม่งเถอะถือว่าไม่ได้คุยกัน ขับไปส่งผมที่บ้านได้แล้ว”
“เดี๋ยวสิครับผมพูดจริงๆ ว่าจะทำตัวเป็นเด็กดี จะอยู่ในโอวาททุกอย่าง” แทนยื่นหน้าเข้าไปใกล้อีกนิด ขยับรอยยิ้มบาง
“ผมน่ารักนะ” แม่งเว้ยไม่มีใครชมชมตัวเองก็ได้ ตัวใหญ่อย่างกับหมีเสือกเลือกคำว่าน่ารัก
“ขำผมเหรอ” สิงห์รีบเบือนสายตาหนีเมื่ออีกคนจับได้ว่าเขาแอบขำ
“เฮ้ย! ทำอะไร” สิงห์สะดุ้งเมื่อถูกมือใหญ่จับมือไปแนบแก้ม
“อ้อนคุณกลัวไม่ยอมเป็นเพื่อน”
“ไอ้เหี้ย!” แปลกที่คราวนี้สิงห์กลับหัวเราะออกมา มันไม่ได้ดูรุ่มร่าม ไม่ได้ดูรุกเร้า แต่เหมือนหมีตัวใหญ่พยายามทำท่าเหมือนเด็กสามขวบ
“เลิกเล่นเป็นเด็กได้แล้ว ตัวโตอย่างกับควาย”
“น่ารักใช่ไหม”
“ยัง ยังไม่หยุด” สิงห์ทำหน้าจะเอาเรื่อง แต่ลืมชักมือออกมาปล่อยให้อีกฝ่ายลดมือไปกุมไว้บนต้นขา
“ผมก็ไม่เคยทำตัวปัญญาอ่อนแบบนี้นะ แต่ไม่รู้จะเข้าหาคุณยังไง เห็นคุณบอกว่าชอบผู้หญิงตัวเล็กน่ารัก ผมเลยลองดู”
“ไอ้บ้า” สิงห์ไม่รู้ตัวเลยว่าเขาด่าทั้งที่ปากและตายิ้มกว้างอยู่
“ผมง่วงแล้วไปส่งสักทีเถอะ”
“ตกลงว่าไมได้เหรอครับ” เสียงหงอยๆ ของคนตัวโตทำให้สิงห์ใจอ่อน เขาชักมือออกจากมือของแทน เสมองไปนอกหน้าต่าง
“ไหนว่าจะเชื่อฟัง ตกลงจะขับไปส่งผมไหม”
“ครับ” รถเคลื่อนออกช้าๆ สิงห์ไมได้ยินเสียงคนขับพูดอะไรอีก อีกไม่ถึงสิบนาทีก็จะถึงบ้านของเขา สิงห์คิดกลับไปกลับมาว่าเขา
ควรตัดสินใจอย่างไร
“โชคดีครับ” เสียงทุ้มบอกลา สิงห์ควรจะดีใจที่ถึงบ้านแต่เขากลับไม่อยากลงจากรถ เขาบอกไม่ถูกเหมือนกันว่าเพราะอะไร หรืออาจเพราะเขาสงสารหน้าหงอยๆ ของแทนก็เป็นได้
“ขับรถกลับดีๆ” สิงห์ตัดสินใจเปิดประตูรถลงไป
“ครับ” แทนส่งยิ้มบางมาให้ไม่ได้รั้งเขาไว้ และไม่ทวงถามคำตอบที่เขาไม่ยอมตอบให้ชัดเจนเสียที
“ฝันดีครับ” ประตูกำลังปิดลงเมื่อเสียงทุ้มลอดออกมา สิงห์ใช้มือกั้นประตูไว้ เขาถอนใจเบาๆ ให้กับความพ่ายแพ้ของตัวเองก่อนก้มลงไปมองคนที่นั่งอยู่ในรถ
“พรุ่งนี้วันเสาร์มีหนังเข้าใหม่เป็นหนังผี พวกไอ้เบตไม่ชอบดู”
“ครับ”
“แค่นั้นแหละ” สิงห์กระแทกประตูปิด นึกอายตัวเองไม่น่าเลยกู
“พรุ่งนี้ผมมารับ” เสียงเปิดกระจกตามมาด้วยเสียงของคนในรถ สิงห์หันกลับไปมองเห็นแทนชะโงกหน้ามาจากที่นั่งคนขับ ยิ้มกว้างทั้งปากและตา
“ตามใจ” สิงห์หันกลับเดินดุ่มๆ เข้าบ้าน เขาก็อยากจะเล่นตัวหรอกถ้าไม่ติดว่ารถถูกจุนยึดเอาไว้ ก็ดีถือเสียว่ามีสารถีส่วนตัว เพื่อนกันก็ต้องช่วยเหลือกันสิวะแค่ไปรับไปส่งไม่น่าเกลียดหรอก
เพื่อน...สิงห์เผลอยกมือขึ้นกุมแก้ม ภาพหน้าของแทนที่ยื่นเข้ามาใกล้ ริมฝีปากหนาและดวงตาวาบวับ สัมผัสอุ่นที่แตะแต้มลงมา ทำไมเขาถึงจำได้ติดตาติดใจขนาดนี้
“เหี้ย!” สิงห์สะดุ้งโหยงเมื่อโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงสั่น เขาหยิบขึ้นมาดูมีข้อความจากแทนเข้ามา หลับฝันดี ราตรีสวัสดิ์ครับ อยากให้ถึงพรุ่งนี้เร็วๆ ผมคิดถึงคุณแล้ว จากเพื่อน(ในตอนนี้)
“ไอ้หมอนี่ถ้าจะบ้า” สิงห์โคลงศีรษะวางโทรศัพท์ลงบนโต๊ะ หันไปเจอเข้ากับกระจกบานใหญ่พอดี หรือ..เขากันแน่วะที่บ้า มึงจะยิ้มทำไมไอ้สิงห์!!
✪✣✤✥✦✧✣✤ TBC ✥✦✧✣✤✥✦✧✪
ตัดสินใจไม่ทำอะไรหนักหนาพี่สิงห์นะคะ เพราะแกแมนมาก ค่อยเป็นค่อยไปแบบนี้ดีกว่า เป็นเพื่อนกันไป มีอะไรให้คนอ่านจินตนาการ ^^ ปล.เหลืออีก2 ตอน
Darin ♥ FANPAGE Twitter :
primdarin