ตอนที่ 19“ขอบคุณนะครับที่มาส่ง”
พิคเจอร์หันไปบอกเจ้าของรถที่นั่งนิ่งมาตลอดทาง จริงๆก็ไม่แปลกอะไร ปกติก็เห็นเขามักแสดงบุคลิกแบบนี้อยู่แล้ว
สาเหตุที่ต้องมาส่งถึงที่บ้าน เพราะความคะยั้นคะยอไม่ยอมเลิกราของคาดอสต่างหาก ร่างบางตัดปัญหาไปด้วยการโทรบอกพี่ชายไม่ต้องให้อินจือมารับที่บริษัทหลังเลิกงาน
“พรุ่งนี้ผมจะมารับแล้วกันนะ” น้ำเสียงราบเรียบพูดเชิงสั่ง
“ไม่ต้องหรอกคุณ ผมไปเองได้ ที่พักผมกับคอนโดคุณอยู่คนละที่เลยนะ”
“พรุ่งนี้ผมจะมารับ รู้เท่านี้ก็พอ!”
“ทำไมคุณถึงชอบบังคับผมจังนะ!” พิคเจอร์ไม่เข้าใจ
“ถ้าบังคับแล้วคุณปลอดภัย ผมก็จำเป็นต้องทำ”
“แล้วอะไรที่คิดว่าผมไม่ปลอดภัย ศัตรูคุณก็มีแค่พี่หยางเฟยไม่ใช่หรอ แต่ตอนนี้ก็ดูเหมือนพี่ชายผมเขาไม่ได้คิดเคียดแค้นอะไร
คุณเหมือนแต่ก่อนแล้วด้วย”
“ไม่ใช่หยางเฟยหรอก!”
“อะไรนะ? นี่คุณมีศัตรูอีกอย่างนั้นหรอ ผมชักจะไม่ไหวแล้วนะคุณ”
“เป็นคนของผมแล้วไม่ไหวก็ต้องไหว ถ้าหากคุณเป็นอะไรไปผมจะไม่ให้อภัยตัวเอง”
“โอเคๆ ผมจะพยายามทำตามคุณบอกแล้วกัน แต่...ห้ามขี้ตู่ว่าผมเป็นคนของคุณอีกนะ ผมไม่ชอบ”
พิคเจอร์พูดไปก็เท่านั้น แต่เพื่อตัดปัญหา เขาคงต้องทำตามที่อีกฝ่ายต้องการจะดีที่สุด วันนี้เขาเองก็เหนื่อยมาทั้งวันแล้วด้วย ไม่มีเรี่ยวแรงต่อปากต่อคำกับนายร่างยักษ์นี่หรอก
พอลงจากรถไปแล้ว ก็ทำหน้าที่ยืนรอส่งเจ้านายผู้แสนดี มีน้ำใจมาส่งถึงหน้าแมนชั่น แต่แล้วกระจกฝั่งประตูที่เขาลงเมื่อครู่ก็ค่อยๆเลื่อนลดหลั่นลงมา จนทำให้เห็นใบหน้าของอีกฝ่ายด้นาใน
“ถ้ามีอะไรไม่ปลอดภัย ให้ใช้เกาะกำบัง และการวิ่งเร็ว ถ้าหาจังหวะได้ให้โทรหาผม ผมจะมาหาคุณทันที”
“บอกตามตรงนะ ไอ้พลังเหนือมนุษย์ที่ผมมีอยู่ ผมยังไม่รู้เลยว่าจะใช้มันยังไง?”
“ไม่ยาก แค่รวมจิตและพลังงานเป็นหนึ่งเดียว คุณก็ควบคุมมันได้แล้ว”
“นั่นแหละยาก! กลับได้แล้วคุณ บ้ายบาย”
“ไล่กันจังเลยนะ” คาดอสยิ้มมุมปาก
“เปล่า คุณจะได้รีบกลับไปพักผ่อนไง เห็นทำงานกองโตทั้งวันแล้วไม่ใช่รึไง”
“เป็นห่วงผมหรอ?”
“เปล่า! ผม...ผมว่าผมขึ้นห้องดีกว่า พรุ่งนี้ผมจะลงมารอคุณเจ็ดโมงเช้าแล้วกันนะ”
“...” ร่างสูงไม่ตอบอะไรนอกจากพนักหน้าให้เบาๆไม่กี่ครั้ง
ล้อรถส่วนตัวคันหรู ค่อยๆหมุนจากช้าเป็นเร็ว ในที่สุดก็ลับตาหายไปจากตรงหน้าทางเข้าแมนชั่น เพียงแค่หนุ่มชาวไทยหัน
หลังจะเดินกลับเข้าแมนชั่น กลับต้องหยุดนิ่งหลายวินาทีเพราะความตกใจของใครบางคนดักขวางทางอยู่
“ฟิน! มาตั้งแต่เมื่อไหร่?”
“พิคมากับเขา ไหนเคยบอกฟินไม่ใช่หรอว่า ไม่ได้คิดอะไรกับเขา” ฟินเริ่มหวงออกนอกหน้า
“ก็ไมได้คิดอะไรไง”
“แล้วทำไมไอ้หมอนั่น ต้องเป็นห่วงเป็นใยพิคด้วย”
“ใจเย็นนะฟิน วันนี้เป็นอะไรไป ทำไมอารมณ์ไม่ดี เรื่องที่ทำงานหรอ!”
พอทักท้วงเข้าหน่อย พ่อหนุ่มเรือนร่างบางไม่ต่างกันก็เงียบไป ตอนนี้เขารู้สึกตัวแล้วว่าเผลอทำอารมณ์ไม่ดีใส่พิคเจอร์โดยไม่รู้ตัว
...
...
...
“ก็แค่...ไม่อยากให้พิคไปสนิทสนมกับเขา ก็เท่านั้น” ฟินเลี่ยงเหตุผลบางอย่างไป
“เขาไม่ใช่แค่เจ้านายของพิคนะฟิน แต่เขากับพิครู้จักกันมาตั้งแต่ยังเด็ก อย่างที่พิคเล่าให้ฟินฟังแล้วไง มิตรภาพมันลบเลือนไปไม่ได้หรอกนะ”
“ทั้งๆที่พิคจำอะไรไมได้เลยตอนเด็กอย่างนั้นนะหรอ?”
“อื้มใช่! ขึ้นห้องกันเถอะ อ่อ..แล้วนี่ฟินทานอะไรมารึยัง”
“ยังหรอก รอทานพร้อมพิคนั่นแหละ หิวไปหมดแล้วเนี่ย” ฟินไม่ว่าเปล่าเอามือกุมท้องราวกับหิวมาก
“โอเค! งั้นยังไม่ขึ้นห้องตอนนี้ก็ได้ เดินไปหาร้านอาหารริมทางแถวนี้ทานแล้วกัน” พิคเจอร์ยิ้มให้พร้อมกับจูงมืออีกฝ่ายให้เดินไป
พร้อมกัน หารู้ไม่ว่าการกระทำแบบนั้นยิ่งทำให้ฟินหลงรักพิคเจอร์มากขึ้นไปอีก
บนคอนโดมิเนี่ยมหรู คาดอสเพิ่งกลับมาถึงห้องด้วยความเหนื่อยล้า แต่ก่อนออกจากห้องทำงานเมื่อตอนเย็น เขาแอบหยิบกุหลาบมาดอกหนึ่งเหน็บเก็บไว้ด้านในเสื้อสูท ตอนนี้สิ่งที่เขาอยากรู้มาทั้งวัน กำลังจะประจักษ์ต่อหน้าเขาแล้ว!
“แกริค ช่วยฉันที ดอกไม้ดอกนี้เป็นของใครกันแน่” คาดอสยื่นมันให้กับคนของเขา
“สบายมากครับบอส!”
แกริคยิ้มอ่อนแล้วแตะปลายนิ้วลงบนดอกตูมๆสีแดง เพียงไม่กี่วินาที เขาก็ทำสำเร็จ
“ว่ายังไง?”
“เป็นของเฟอกัลครับ เขามาถึงประเทศไทยแล้วด้วย”“ว่าไงนะ!” คาดอสตกใจมาก
“แบบนี้ก็แสดงว่า...คนที่ชอบพิคเจอร์คือเฟอกัลอย่างนั้นหรอครับ” ไดนาดินตีความไปตามที่เห็น
“ไม่ใช่แค่เฟอกัลหรอก แต่รวมไปถึงฟินกี้น้องชายของมันด้วย” คาดอสพูดพร้อมกับกำหมัดแน่น
ทำไมเขาจะไม่รู้ก่อนหน้านี้ที่ไปส่งพิคเจอร์ถึงหน้าแมนชั่น เขารับรู้ได้จากใครบางคนที่แอบซ่อนตัวอยู่แถวๆนั้น ในจิตใจเหมือนจะเก็บความรู้สึกและความคิดไม่อยู่ มันชัดเจนมากยิ่งกว่าอะไร คาดอสสัมผัสได้ถึงความหึงหวงและไม่ชอบใจเขาเป็นอย่างมาก
“เบลซ โทรบอกคนของเหลาสู่หงเซ่อ ให้เขารู้ตัวไว้ว่าเบญจพิษกำลังคิดยังไงกับนายน้อยฟ่านหยางอี้”
“ครับบอส!”
เช้าวันใหม่...เจ็ดโมงตามนัด ฟ่านหยางอี้ในวันนี้ใส่เสื้อเชิ้ตสีชมพู กับกางเกงแสลกดำ กำลังเดินมุ่งมาด้านหน้าแมนชั่น โดยมีรถหรูคันคุ้นตาจอดรออยู่ก่อนหน้านี้แล้ว เขาไม่รอช้ารีบเปิดประตูเข้าไปนั่งในรถทันที พร้อมกับรถค่อยๆเคลื่อนตัวออกถนน
“สวัสดีครับ!” ใบหน้ามุ่ยอารมณ์ไม่ค่อยดีของอีกฝ่ายทำให้คาดอสเป็นห่วง
“คุณเป็นอะไร”
“เปล่าครับเรื่องส่วนตัวนิดหน่อย”
“แต่ผมอยากรู้!”
“เอ๊ะ! คุณนี่เป็นคนยังไงนะ บอกว่าเรื่องส่วนตัวก็คือส่วนตัวสิ”
“พิค! มีอะไรไม่สบายใจก็บอกผมเถอะนะ ผมเป็นห่วงคุณ”
คาดอสพูดเสียงอ่อนลง เขากำลังแสดงให้เห็นว่ากำลังไม่สบายใจกับท่าทีสีหน้าของพิคเจอร์มากแค่ไหน ร่างบางชำเลืองมองด้วยหางตา ก็เห็นอีกฝ่ายทำราวกับอยากรู้จริงๆ แต่ช่วยไม่ได้ คราวนี้ก็คงต้องบอกไปอีกเหมือนเดิม คิดเสียว่าสงเคราะห์คนอ่านความคิดเขาไม่ออกก็แล้วกัน
“เมื่อคืน พี่หยางเฟยโทรมา บอกว่าให้ผมย้ายไปอยู่ที่พักใหม่!”
คาดอสยิ้มมุมปาก แต่ก็เก็บรอยยิ้มนั้นทันก่อนที่อีกฝ่ายจะหันมามองหน้าเขาตรงๆ ไม่นึกเลยว่าคำเตือนจากเขา ฟ่านหยางเฟยจะเชื่อโดยไร้ข้อกังขาและทำตามอย่างว่าง่ายขนาดนี้
“ทำไมถึงย้ายหรอ?” คาดอสแสร้งถาม
“พี่หยางเฟยบอกว่าผมอยู่ที่แมนชั่นแล้วไม่ปลอดภัย พูดเหมือนคุณเลย!” ร่างบางหันมาแขวะร่างสูงทันที
“แล้ว...ตกลงจะย้ายไหม?”
“พี่ชายสั่งก็ต้องย้ายแหละ คุณก็ต้องเข้าใจนะ แต่ตอนผมตัวคนเดียว ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว ผมมีพี่ชายเพิ่มมาอีกหนึ่งคน ผมทั้งแคร์
และรักเขามาก ผมจำเป็นต้องทำตามที่เขาบอกแหละ ไม่อยากให้เขาเป็นห่วง”
แต่ร่างบางจะไม่มีทางรู้ว่าการที่พิคเจอร์ทำตามที่พี่ชายบอก จะทำให้คาดอสหายห่วงด้วยเช่นกัน
“ก็ดีแล้ว! แล้วนี่หยางเฟยบอกไหมว่าไม่ปลอดภัยเรื่องอะไร?”
“จะไปรู้หรอ ขนาดคุณ...ผมถามกลับ ยังไม่ยักจะได้คำตอบเลย ไม่รู้ปิดบังอะไรผมกันนักหนา”
เห็นท่าทางงอนง้ออีกฝ่ายแล้วอดขำไม่ได้จริงๆ คราวนี้แหละจะเป็นครั้งแรกที่คาดอสกลั้นไว้ไม่อยู่
“ฮ่าๆๆๆ” พรึบ! เสียงหัวเราะดึงความตกใจและสนใจของทุกคนในรถหันมาที่คาดอสหมด ไม่เว้นแม้แต่คนสนิททั้งหลาย
“ขำอะไรคุณ?”
“อ้อ เออ เปล่า ขอโทษที แล้วนี่ได้ที่พักรึยัง?”
“ยังหรอก แต่คิดๆไว้ก็ไม่อยากได้ที่ไหนเลย ผมอยากกลับไปอยู่ที่เซี่ยงไฮ้กับพี่ชายแล้ว”
“คุณพูดจริงหรอ?”
“ก็จริงนะสิ ครอบครัวผมอยู่โน่น ไม่มีเหตุผลที่ผมต้องอยู่เมืองไทยแล้ว”
“แล้วฟิน เพื่อนสนิทคุณล่ะ” คาดอสหยั่งเชิงถาม
“ก็...ผมบอกเขาตั้งแต่เมื่อคืนแล้วแหละ แต่ดูเหมือนเขาจะเสียใจอยู่ไม่น้อย แต่เขาเข้าใจผมนะ”
“แล้วเขาสงสัยไหมว่าทำไมฟ่านหยางเฟยพี่ชายคุณถึงให้ออกจากแมนชั่นกะทันหัน”
“ไม่รู้สิ ไม่สงสัยมั้ง?”
“คนพวกนั้นอย่าไว้ใจไป บางทีมันอาจจะรู้แล้วก็ได้”
“คนพวกนั้น...พวกกันไหนคุณ?”
“เอ่อ ช่างเถอะ เอาเป็นว่าถ้าคุณอยากกลับประเทศจีน ผมจะพาคุณกลับเดี๋ยวนี้เลย” ข้อเสนอนั้นทำให้พิคเจอร์ตาโต ท่าทางดีใจ
มากเป็นพิเศษ
“จริงหรอคุณ แต่ว่า...ผมยังทำงานไม่ครบตามกำหนดในใบสัญญาเลยไม่ใช่หรอ?”
“ก็...อาจจะไม่ต้องทำงานที่ประเทศไทยต่อไง ไปทำงานให้ผมที่ปักกิ่งแทนก็ได้”
“แต่ที่ผมจะไปเมืองจีน ผมต้องการไปเซี่ยงไฮ้ ไปอยู่กับพี่ชายนะไม่ใช่อยู่กับคุณ?”
“มันจะไปต่างอะไร อีกอย่างคุณก็ได้ทำงานให้ผมจนครบ แถมพี่ชายคุณก็เดินทางมาหาคุณได้สะดวกขึ้นด้วย ไม่ต้องนั่งเครื่องบินข้ามน้ำข้ามภูเขามาหาคุณถึงที่ประเทศไทยนี่” พิคเจอร์ทำท่าคิดตาม
“แล้วพี่ชายผมจะยอมหรอ เขาประกาสออกปาวๆว่าไม่ให้ผมไปเหยียบถิ่นอินทรีทองอีก คุณจำไม่ได้รึไง”
“ก็ใบสัญญาไง พี่ชายคุณยอมอยู่แล้ว”
พอพูดถึงใบสัญญา มันก็จริงอย่างที่คาดอสบอกนั่นแหละ หยางเฟยต้องยอมแน่ กฎก็ต้องเป็นกฎ แต่ให้เดาใจประมุขเสือแดงตอนนี้ ร้อยทั้งร้อย หากพิคเจอร์อยู่กับเขามันก็ปลอดภัยกว่าต้องอยู่ไกลตาและใกล้ชิดกับคนของเบญจพิษอย่างฟินกี้เป็นไหนๆ
ใจกลางเมืองหลวงกรุงเทพมหานคร คอนโดมิเนี่ยมอีกที่หนึ่ง เป็นที่ของผู้นำเบญจพิษใช้พักผ่อนหลังจากเดินทางมาไกลมาได้ราวๆสองสามวันก่อนหน้านี้
เรือนร่างสูงโปร่งกำลังนอนแช่น้ำ มีฟองสบู่บนผิวน้ำปกปิดส่วนล่างระหว่างต้นขา แต่แทนที่เขาจะเพลิดเพลินผ่อนคลายไปกับการอาบน้ำในอ่างอันแสนสบาย กลับกำลังทำสีหน้าทะมึงตึงไม่พอใจกับบางเรื่องที่ได้รับรู้จากน้องชาย มือขวาที่ยกมือถือแนบหูกำลังกำแน่นอย่างไม่พอใจ โทรศัพท์แทบจะแยกชิ้นส่วนออกจากกัน
“แกว่าไงนะ? ไอ้หยางเฟยกับไอ้คาดอส กำลังรวมหัวกันขัดขวางฉันกับหยางอี้อย่างนั้นหรอ?”
“ครับพี่ แต่ผมไม่อยากห้ามอะไรพิคเจอร์มาก กลัวเขาจะรู้ว่าผมรู้เรื่องราวในองค์กรเหล่านี้มากไป”
“แกทำดีแล้ว วันนี้เห็นทีว่าฉันจะต้องบุกไปถึงบริษัทของไอ้คาดอสแล้วล่ะ!”
เฟอกัลป์วางสายไป พร้อมกับแววตาไม่คิดจะยอมใครได้ง่ายๆ อยากจะรู้เหมือนกันว่าถ้าคาดอสเจอหน้าเขาแล้ว มันจะทำสีหน้ายังไง
เวลาพักเที่ยง พิคเจอร์เคลียร์งานในช่วงเช้าจนเสร็จ หากแต่หันไปมองอีกคนบนโต๊ะใหญ่กลับตรงกันข้ามกับเขา คาดอสกำลังนั่งง่วนทำงานกับแฟ้มกองโตเช่นเดิม
“คุณ! เที่ยงแล้วนะ ไปทานข้าวกันเถอะ”
“ผมยังทำไม่เสร็จเลย คุณไปทานก่อนเถอะนะ” คาดอสบอกเสร็จ ก็ก้มหน้าทำต่อไป แต่แล้วปากกาในมือก็ถูกยึดไป จากร่างบาง
ที่เดินมาถึงตัวอย่างรวดเร็ว
“ทานข้าวไม่ตรงเวลาเดี๋ยวก็เจ็บท้องหรอก”
“ผมขอกาแฟกับไส้กรอกแล้วกัน ไปทำให้หน่อยสิ”
“ไม่ได้ คุณต้องทานข้าว ลุกได้แล้วเร็วๆ” พิคเจอร์เดินอ้อมไปด้านข้างเก้าอี้แล้วใช้แรงที่มีอยู่ฉุดแขน
“ก็ได้ๆ ไปร้านอาหารกัน เดี๋ยวผมจะให้เบลซเตรียมรถ”
“ไม่ต้องๆ ไปทานไกลทำไม ด้านหน้าบริษัทคุณก็มีร้านอาหาร เห็นมีส้มตำ ไก่ย่าง ข้าวเหนียวอยู่นะ”
“ส้มตำ? ไก่ย่าง? ข้าวเหนียว?” คาดอสทวนคำพูดเหล่านั้นช้าๆ
“ใช่! อย่าบอกนะว่ามาประเทศไทย ไม่เคยไปลิ้มรสเลย?”
“คุณ!!! ผมไม่ชอบปลาร้านะ”
“จะไปไม่ไป!”
“โอเคๆ อย่าสั่งเผ็ดนะ ผมไม่ทานเผ็ด ” คาดอสรู้สึกหวั่นๆยังไงไม่รู้ อาหารประเทศไทยเครื่องเทศเยอะ รสชาติก็จัดจ้าน แต่ไหนๆ ร่างบางก็ชวนเขาขนาดนี้แล้ว ไม่ไปก็ไม่รู้จะว่ายังไง ช่วงนี้ต้องเก็บแต้มรักด้วย
แอดดดดด คาดอสเปิดประตูห้องทำงานออกไป แต่ก็ต้องชะงักเมื่อเห็นใครคนนั้นยืนประชันหน้ากับเขา
“สวัสดีคาดอส” ผู้มาเยือนยิ้มอ่อน
“เฟอกัล!”
“คุณนี่เองที่เป็นคนเอาดอกไม้มาให้ผม” พิคเจอร์ประเมินจากช่อดอกไม้ในมือของชายร่างสูงโปร่งตรงหน้า
“แล้วชอบไหมครับคุณพิคเจอร์” เฟอกัลหว่านเสน่ห์ใส่ทันที
“พิคหลบไปอยู่หลังผม!” คาดอสสั่งด้วยน้ำเสียงจริงจัง จนพิคเจอร์ทำตามอย่างว่าง่าย
“ฮึฮึ เป็นอะไรไป หวง!!! อย่างนั้นหรอ?” เฟอกัลยิ้มมุมปาก
“ดอกไม้ชั่วๆของแกไม่มีทางหว่านเสน่ห์พิคเจอร์ได้หรอก เพราะเขามีพลังปกป้องตัวเอง”
“หู้วววว ยิ่งยากยิ่งดีเลย ฉันชอบ!!!”
“คุณคาดอส เขาเป็นใครหรอครับ? ทำไมรู้จักผมล่ะ”
“พิค!!! อย่าเพิ่งถามเลยนะ หลบอยู่ข้างหลังผมไปก่อน”
“ผมแวะเอาดอกไม้มาให้คุณครับ คุณพิคเจอร์”
“เอากลับไปซะ แล้วแกก็ออกจากบริษัทฉันไปได้แล้ว” คาดอสเดือด ชี้มือสั่งให้อีกฝ่ายกลับไป
“บอส!!!” ไดนาดินเพิ่งไปทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำมา เห็นเหตุการณ์ด้านหน้าห้องเจ้านายกำลังมีแขกผู้น่ารังเกียจและไม่ได้รับเชิญประชันหน้าอยู่
“โอ้ววว ไดนาดิน ไม่เจอกันตั้งนาน ดูดีขึ้นนะ”
“กลับไปซะ ก่อนที่ฉันจะตรึงร่างแก!” ไดนาดินผู้สุขุมมาตลอด แต่พอได้เห็นเฟอกัลกลับเปลี่ยนไปอีกสไตล์
“ก็ได้!!! ฉันกลับก็ได้ ดอกไม้นี่ฉันจะวางเอาไว้ตรงนี้แล้วกันนะ ฮึฮึ ฮ่าๆๆๆ”
เฟอกัลหัวเราะอย่างกับคนประสาทกลับ หายลับเข้าไปในลิฟต์ตัวเดิมทิ้งเอาไว้แต่ช่อดอกกุหลาบสีแดงช่อนั้น บางทีเรื่องที่คาดอสต้องพาพิคเจอร์บินไปประเทศจีน คงต้องรีบหน่อยแล้ว ร่างบางอยู่ที่นี่ไม่ปลอดภัยแน่ ถ้าเป็นไปได้ช่วงนี้อยากจะให้พิคเจอร์มาพักอยู่กับเขาในคอนโดจะดีกว่าต้องไปหาที่พักใหม่เสียอีก...
เรื่อยๆๆ ไม่รีบไม่เร่ง มาต่อให้แล้วน้า
