[เรื่องสั้น] บ้ า น (จบแล้ว)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [เรื่องสั้น] บ้ า น (จบแล้ว)  (อ่าน 7490 ครั้ง)

ออฟไลน์ ตัวแม่

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 106
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-1
    • เพจตัวแม่
อ้างถึง
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม


บ้ า น
by ตัวแม่*


ไปติชมกันได้ที่แท็ก #บ้าน ในทวิตเตอร์ได้นะคะ : )

*
ผลงานอื่นๆ
จุ๊ บ ที
เรื่องสั้น 'Escape Hours ในด้านมืด'

ฝากเพจ ตัวแม่ ด้วยค่ะ : )

Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-07-2016 21:40:48 โดย ตัวแม่ »

ออฟไลน์ ตัวแม่

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 106
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-1
    • เพจตัวแม่
Re: [เรื่องสั้น] บ้ า น
«ตอบ #1 เมื่อ25-07-2016 18:20:56 »

 
‘เทศกาลที่มีโอกาสนำไปสู่การมีเพศสัมพันธ์ของวัยรุ่นมากที่สุด ร้อยละ 40 ระบุว่าเป็นเทศกาลลอยกระทง ซึ่งเป็นสัดส่วนที่มากที่สุดเมื่อเทียบกับเทศกาลอื่น’

- มูลนิธิเพื่อนเยาวชนเพื่อการพัฒนาและมูลนิธิหญิงชายก้าวไกล



บ้าน
By ตัวแม่*





   มีเหตุผลอะไรที่ทำให้เราต้องการความรักจากใครสักคน

   เพราะเขาหล่อ...ฟังดูมีน้ำหนักดี

   เพราะเขาดูสนใจเรา...เป็นคำตอบที่อาจเข้าข้างตัวเองไปสักนิด

   เพราะเรารักเขา...ก็เป็นธรรมชาติของมนุษย์ที่เมื่อลงทุนให้ใจกับใครไปแล้วก็ย่อมอยากได้หัวใจกลับมา

   หรือจริงๆ มันอาจเป็นเพราะ...เราอยากถูกเติมเต็ม

   เราอาจไม่เคยได้ความรักจากใครเลย แม้กระทั่งตัวเราเอง




   “เพราะอยู่เมืองยิ้ม ยิ้มนะ ยิ้มนิด อีกนิด~”

   ผมยิ้มระรื่นร้องเพลงสยามเมืองยิ้มของ 2007 Show Girls ออกมาเบาๆ อย่างอารมณ์ดี จริงๆ ผมไม่ค่อยร้องเพลงแนวนี้บ่อยนักหรอก แต่แค่ตอนนี้มันตรงกับอารมณ์มากเท่านั้นเอง คริๆ

   หกสิบเอ็ด หกสิบสอง หกสิบสาม

   ตามองเลขห้องที่ตัวเองเดินผ่านอย่างตื่นเต้น ในมือมีถุงพลาสติกพะรุงพะรัง ถุงหนึ่งบรรจุกระทงไว้สองอัน อีกสองสามถุงเป็นขวดเหล้า กับแกล้ม และพวกเทียนหอมสร้างบรรยากาศ

   หกสิบสี่ หกสิบห้า หกสิบหก

   ตามผลสำรวจขององค์กรอะไรสักอย่างที่ชื่ออ่านยากฉิบหายจนผมไม่คิดจะจำ วันลอยกระทงเป็นวันที่คนเสียตัวกันเยอะที่สุด ซึ่งมีสาเหตุมาจากหลายอย่าง ไม่ว่าจะเหล้ายาปาร์ตี้ อากาศเย็นๆ หรือแสงจันทร์นวลแจ่มที่ช่วยปลุกอารมณ์ให้อยากฉึกกะฉักปู๊นปู๊นกันได้

   หกสิบเจ็ด หกสิบแปด

   และนั่นแหละจุดประสงค์ที่ผมหอบของพวกนี้มาถึงห้องของเขา...ที่นี่

   ถึงซะที

   ห้องหมายเลขหกเก้า เอ๊ย หกสิบเก้า

   ผมยกมือป้องปากแล้วเป่าลมปะทะฝ่ามือสูดกลิ่นปากที่ผ่านการกลั้วแล้วกลั้วอีกด้วยน้ำยาบ้วนปากเพื่อเช็คความมั่นใจ โอเคหอมตุๆ ดี

   กลิ่นปากผ่าน บรรยากาศดี อุปกรณ์พร้อม ตูดล้างแล้วเรียบร้อย

   ถ้าผลสำรวจแม่งไม่มั่ว

   คืนนี้ผมต้องโดนยิ้ม

       (*ยิ้ม คำแสลงที่หมายถึงการมีเพศสัมพันธ์)




   ผมรู้จักกับเจ้าของห้องเมื่อสองเดือนก่อน เขาชื่ออเล็กซานเดอร์ ชื่อแม่งโคตรฝรั่งแต่หลักฐานความเป็นฝรั่งไม่ได้ปรากฏบนใบหน้าหรือสายเลือดใดๆ พี่อเล็กซานเดอร์เป็นคนร้อยเอ็ดแท้ๆ แต่มาเรียนเมืองหลวง เขาเล่าถึงที่มาของชื่อให้ฟังว่าก่อนจะคลอดแม่เขาดันไปดูหนังฝรั่งย้อนยุคเรื่องอเล็กซานเดอร์ แล้วฉากปรากฏตัวของพระเอกที่หล่อโคตรๆ ทำให้แม่เขาถึงกับน้ำเดิน เดินไปเดินมาปรากฏว่าน้ำที่พูดถึงนั้นคือน้ำคร่ำ คลอดเสร็จแม่เขาเลยตั้งชื่อให้ว่าอเล็กซานเดอร์เพื่ออุทิศแด่ความหล่อของพระเอก (แม่ประเภทไหนกันวะ) และอยากให้ลูกตัวเองหน้าหล่อแบบนั้นบ้าง สุดท้ายกลายเป็นว่าพี่อเล็กซานเดอร์ก็เป็นคนที่หล่อจริงๆ หล่อโคตรๆ แต่เป็นหล่อออกไปทางตี๋เอเชียแทนซะงั้น

   เขาเป็นคนดังในวงการเน็ตไอดอล เราเรียนคณะเดียวกันแต่เขาเรียนปีสาม...ซึ่งแก่กว่าผมหนึ่งปีจริงๆ รู้จักกันมานาน ก่อนหน้านี้ผมแอบส่องเฟซบุ๊กเขาบ่อยๆ แต่ก็ไม่ได้อะไรมากเพราะแม่งมีแฟนอยู่แล้ว และโอกาสมาถึงผมตอนสองเดือนที่แล้วที่พวกเขาเลิกกัน จังหวะนั้นผมจ้องเข้าเต๊าะไข่เขาทันที

   ส่วนผมชื่อเบิร์ดครับ เบิร์ดเดียวกับพี่ธงไชย แมคอินไตย เบิร์ดที่แปลว่านก นกที่แปลว่าโดนคนที่เราชอบเท เทที่แปลว่าเราชอบเขาแต่เขาไม่เอาเรา

   ไม่รู้ว่าพ่อแม่บุญธรรมของผมพยากรณ์ชะตาชีวิตได้ล่วงหน้าหรือเปล่าจึงตั้งชื่อนี้ให้ เพราะยี่สิบปีที่ผ่านมา...ผม ‘นก’ ตลอด

   ผมเชื่อว่าคนส่วนมากต้องเคยมีประสบการณ์นี้ คือในกลุ่มเพื่อนไม่ว่าจะกลุ่มกี่คน ขณะที่เพื่อนทุกคนในกลุ่มมีผัวมีเมียกันไปหมดแล้วมันจะมีอีเด๋ออยู่คนหนึ่งที่รู้จักความรักดีมาก ให้คำปรึกษาเรื่องความรักกับเพื่อนทุกคนได้ตลอด เป็นเครื่องประโลมใจในยามที่เพื่อนทะเลาะกับผัว(หรือเมีย)ได้เสมอ

   แต่ไม่มีเป็นของตัวเอง

   และอีเด๋อคนนั้นคือผม

   ซึ่งมันผิด! ผิดมากๆๆๆ ปกติอีเด๋อคนนั้นต้องเป็นคนแก่เรียน บูชาคาน ไม่ก็มีรสนิยมประหลาด หรือลักษณะรูปร่างหน้าตาไม่แมสต่อคนส่วนใหญ่แต่ผมไม่ใช่! ผมโง่เรียน ไม่ได้ชอบอยู่คนเดียว รสนิยมแพง และที่สำคัญผมหล่อ! ไม่ได้มั่นหน้านะแต่ผมเนี่ยตี๋ขาวดั้งพุ่งระดับเดียวกับเน็ตไอดอลอย่างพี่อเล็กซานเดอร์ด้วยซ้ำ ลงรูปในอินสตาแกรมทีคนกดไลค์เป็นพันเป็นหมื่นติดที่เตี้ยไปหน่อยเท่านั้น

   ถ้าพูดรวมๆ คือผมน่ะ...น่าอร่อยมาก

   และนั่นคือสิ่งที่ผมไม่เข้าใจว่าทำไมตลอดชีวิตที่ผ่านมา ผมไม่เคยมีแฟนเลยสักคน ไอ้คนที่มาจีบน่ะมีเข้ามาเรื่อยๆ และผมก็ไม่ได้ปิดกั้นอะไร แต่พอดูใจได้สักพัก กำลังจะเข้าขั้นตกลงเป็นแฟนกันก็ต้องมีเหตุผลให้ต้องวืดกันไป และผมต้องกลับบ้านไปนอนร้องไห้ช่วยตัวเองทั้งคืน

   เจ็บกว่าการไม่มีแฟน คือต้องทนเห็นเพื่อนในกลุ่มส่งแววตาสังเวช ยิ้มเยาะ หนักสุดคือหัวเราะใส่หน้าเพราะความนกของตัวผมเอง

   ไม่ถุยน้ำลายใส่หน้ากูไปให้รู้แล้วรู้รอดเลยล่ะวะ

   และในที่สุด โอกาสของผมก็มาถึง

   พี่อเล็กซานเดอร์ที่แสนน่าหม่ำ เราคุยกัน นัดเจอกัน ได้ทำความรู้จักกันจริงๆ ตลอดสองเดือนที่ผ่านมา ผมว่าเราชอบพอกัน แต่ความสัมพันธ์มันยังคลุมเครือ

   และคืนนี้ผมจะเผด็จศึก ตามคำแนะนำของกลุ่มเพื่อนรัก

   ‘มึง วันลอยกระทงนี้มึงก็จัดเลยดิ รวบหัวรวบหางแม่งเล้ย’ อีแก้ว เพื่อนที่คบกันมาตั้งแต่มัธยมบอกผมเมื่อสองวันก่อน แถมยังได้แรงสนับสนุนด้วยการพยักหน้ารัวๆ จากไอ้คำ รวมไปถึงอีแดงกับไอ้ดำฝาแฝดต่างเพศผู้เป็นเพื่อนที่เจอกันในมหา’ลัย ซึ่งทุกคน...มีแฟนกันหมดแล้ว

   ‘เชี่ย กูกับเขายังไม่ได้เป็นแฟนกันเลยนะโว้ย’ ผมโวยวาย

   ‘แหม จะรออะไรล่ะวะ รอนานเข้าไปเดี๋ยวก็ไม่ได้แดกอีก แมงมุมไต่เข้าไปทำใยในตูดมึงแล้วเนี่ย’อีแก้วผู้ยึดถืออุดมการณ์ความซิงเป็นสิ่งที่ผิดแนะ

   ‘รอบที่ผ่านๆ มานี่ยังไม่เข็ดอีกเหรอฮะ จะรอดูใจรอคบเป็นแฟนมึงก็นกทุกรอบ ข้ามขั้นไปเป็นผัวเมียเลยดีกว่า กูว่าเวิร์ค’
   
   ‘อีเชี่ย...’

   ‘ถ้ามึงจะตื๊อใครสักคน เขาสมควรจะเป็นคนที่มีค่าพอที่จะตื๊อป่ะ นี่หล่อรวยแบบพี่อเล็กซานเดอร์มึงยังไม่พอใจอีกเรอะ?’

   ‘ไม่ใช่อย่างนั้น กะ...กูแค่ไม่รู้ว่าจะต้องทำไง’

   ‘จัดอีเวนต์ลอยกระทง กินเหล้า มอมเมาด้วยบรรยากาศ ร้อยทั้งร้อยก็ยิ้ม’

   และนั่นคือเหตุผลที่ทำไมคืนนี้ผมนัดเขา เรากะจะออกไปลอยกระทงด้วยกัน แล้วกลับมาที่ห้อง จิบแอลกอฮอล์และกินขนมกรุบกริบลงท้ายที่การจึ๊กกะดึ๋ยเพื่อกำจัดคำว่านกออกจากชีวิตของผมไปตลอดกาล

   ผมคิดว่าเขาชอบผมนะและผมอยากให้ทุกอย่างระหว่างเรามันชัดเจน ซึ่งเซ็กซ์มันจะช่วยลบความคลุมเครือระหว่างเราได้

   เซ็กซ์กับความรักมันก็อันเดียวกันนั่นแหละ

   ใช่ป่ะวะ

   ผมยกมือขึ้นจะเคาะประตู แต่เห็นรอยแง้มแวบออกมา ฮั่นแน่ แง้มประตูอ่อยขนาดนี้ต้องรู้ดีว่าจะได้จ้วงแทง ผมค่อยๆดันประตูกะจะเปิดไปเซอร์ไพร์ส ได้ยินเสียงอู้อ้ามาจากในห้อง หื้มมมมมดูหนังโป๊ปลุกอารมณ์ซะด้วยยย

   “ผัวจ๋า...เมียไม่ไหวแล้วง่า”

   “อื้มมมมม”

   ผ่าง!

   วินาทีที่เปิดประตูเข้าไปเห็นภาพคนสองคนกำลังนอนทับกันในท่าทางแบบเดียวกับเลขห้อง ความคิดแรกที่แวบเข้ามาในหัวผมคือ...

   ไอ้เหี้ย หนังโป๊โฮโลแกรม!

   ตบหัวตัวเองหนึ่งป้าบ ถุยยยย นั่นมันพี่อเล็กซานเดอร์กับผู้ชายแปลกหน้าที่ไหนไม่รู้สองร่างกอดก่ายกันอย่างเมามันส์ มีความสุขกันมากโดยที่ยังไม่รู้ว่ามีผมยืนมองตาปริบๆ อยู่ตรงนี้

   นาทีนั้นผมเห็นตัวเองตะโกนเรียกเขาว่า ‘ไอ้เล็ก มึ๊ง!’ด้วยความโกรธแค้นและขี้เกียจเรียกชื่อเต็มเขวี้ยงของทุกอย่างในมือใส่เขาและคู่ขาแต่นั่นมันเป็นแค่ภาพในหัวเท่านั้น สิ่งที่ทำได้ตอนนี้คือยืนนิ่งน้ำตาคลอหน่วยราวนางเอกละครช่องมากสี บีบถุงพลาสติกแน่น แล้วหันหลังกลับ

   ทันใดนั้นจับกลอนประตู และเหวี่ยงให้อ้าให้กว้างที่สุด พร้อมกับตะโกนด้วยเดซิเบลที่มั่นใจที่สุดว่าทุกคนในหอพักจะต้องได้ยิน

   “หนังสดโว้ยยยยยยยยยยยย มาดูโว้ยยยยยยยยยยย”

   ผมเดินออกมาหลังจากวางระเบิดตูมใหญ่ท่ามกลางเสียงกรีดร้องของไอ้อเล็กซานเดอร์กับชายปริศนาในห้องที่เพิ่งรู้ตัวและคงกำลังรีบใส่เสื้อผ้ากันอยู่ รวมไปถึงเสียงเซ็งแซ่ผู้คนที่ออกมาจากห้องตัวเองอย่างสาระแนแห่บุญ

   เดินมาไกลโดยไร้ทิศทาง สติสตังไม่เหลืออยู่กับตัวอีกต่อไป มีเพียงความคิดเดียวที่ยังคงค้างอยู่ในหัวตอนนี้

   กูนกอีกแล้ว



   “สวัสดีครับเพื่อนๆ ชาวเฟสบุ๊ค วันนี้เบิร์ดมีอะไรจะมาระบาย ฮึก...”

   สามสิบนาทีหลังจากก่อเรื่อง ผมพบตัวเองนั่งเอาเท้าจุ่มน้ำให้ปลาดูดนิ้วเล่นอยู่ที่ท่าน้ำแห่งหนึ่งแถวชานเมือง หลังจากที่ความเปล่าเปลี่ยวในใจพาให้ผมขับรถมาเรื่อยๆ โดยไม่รู้ทิศทาง เหงาเกินกว่าจะกลับหอที่เป็นที่ซุกหัวนอนในช่วงวัยมหา’ลัย

   ส่วนบ้าน...คงไม่มีใครต้อนรับผมหรอก ผมไม่ใช่คนของบ้านนั้นจริงๆ ด้วยซ้ำ

   ลมหายใจคละคลุ้งไปด้วยกลิ่นแอลกอฮอล์ ตอนนี้เวลาเกือบสองทุ่ม เบียร์ที่ซื้อมากะจะมอมว่าที่ผัวก็หมดแล้วไปแล้วสองขวด บรรยากาศของวันลอยกระทงแถวนี้เฮฮาพอสมควร มีวัดใหญ่อยู่ฝั่งตรงข้ามที่เหมือนจะจัดงานยิ่งใหญ่ชาวบ้านมากหน้าหลายตาทยอยกันมาสักการะแม่น้ำที่ท่าน้ำหน้าวัดดูแล้วช่างเป็นประเพณีอันงดงาม...ที่คนทรามแบบผมไม่อินกับมันเอาเสียเลย   

   พี่อเล็กซานเดอร์โทรหาหลายสิบสายแต่ผมไม่รับ (เพราะกลัวโดนด่า)ขณะที่ตัวผมเองพยายามติดต่อเพื่อนในกลุ่มทว่าไอ้เพื่อนเวรพวกนี้แม่งไม่มีใครรับสักคนเช่นกัน...รักกูกันจริง

   ระบายให้ใครฟังไม่ได้ก็ต้องมาระบายผ่าน Live ในเฟซบุ๊ก

   และในเมื่อมันเป็นเฟซบุ๊กมันต้องไม่ธรรมดา

   “เบิร์ดรู้ครับว่าวันนี้เบิร์ดไลฟ์รอบที่สิบเอ็ดของวันแล้วทุกคนก็คงรำคาญ แต่เบิร์ดมีเรื่องอยากจะบอกทุกคนจริงๆ พูดให้ถูกก็คือ...สั่งเสีย” ผมพูดกับคนดูที่กำลังพุ่งขึ้นเรื่อยๆ กว่าพันคนน้ำตาไหลทะลักออกจากตาอย่างอัดอั้น “ฮื้ออออออ...ฟี้ดดดดดด (เสียงสั่งขี้มูก)คนแรกที่ผมอยากฝากพี่อเล็กซานเดอร์ ระยะเวลาที่ผ่านมาที่เราใช้ด้วยกันผมมีความสุขมากจริงๆ ผมอยากให้พี่มีความสุขกับคนของพี่มากๆ นะครับ...แค่ก...แค่ก...ไอ้ควาย...แค่ก...”

   ในเสียงไอมีความจังไรซ่อนอยู่หวังว่าคนดูคงฟังไม่ทัน

   “คนที่สอง...พ่อแม่ที่แท้จริง...เบิร์ดขอบคุณมากๆ นะครับที่ไม่ได้เลี้ยงดูอะไรเบิร์ดมาทั้งนั้น อยากให้รู้ถึงแม้จะอยากรู้หรือไม่ก็ตามเบิร์ดโตมาอย่างมีความสุขดีครับแต่วันนี้เบิร์ดอยู่ไม่ไหวแล้ว ฮือออออ” ว่าแล้วอีกมือที่ไม่ได้ถือโทรศัพท์ก็หยิบปืนเล็กๆ ออกมาจากกระเป๋าสะพายข้างตัวชูขึ้นโชว์หน้ากล้อง เท่านั้นแหละคนดูไลฟ์นี่พุ่งขึ้นไปสามพันกว่า เยอะเป็นประวัติการณ์สำหรับผมมาก คอมเม้นท์นี่เด้งรัวๆจนโทรศัพท์แทบค้าง


   WisuwaneeTadasin เย้ยยยยยยยย พี่เบิร์ดใจเย็นๆๆๆๆ

   Nooky Pee อย่าทำงี้เลยนะคะ

   Perkperk Perk คิดดีๆ นะคะน้องเบิร์ด



   ผมกระหยิ่มยิ้มในใจ ตรงท่าน้ำนี้ไฟสลัวคนในเฟสบุ๊คคงดูไม่ออกหรอกว่าแท้จริงแล้วมันเป็นปืนปลอมที่ผมเพิ่งซื้อจากหน้าวัดตรงข้ามในราคายี่สิบบาท

   “คนที่สามที่เบิร์ดอยากขอบคุณ คือกลุ่มเพื่อนรักของเบิร์ด แก้ว คำ ดำ แดง...ขอบคุณที่เป็นเพื่อนกันมาจนถึงทุกวันนี้...”
   แล้วอีแก้วไอ้คำไอ้ดำอีแดงก็ปรากฏตัวในคอมเม้นท์อย่างกับหมาวิ่งเข้าหาเวลาเรียกกินข้าว โอ่โห้ ทีอย่างนี้ล่ะไวกันจังนะไอ้พวกผีพราย


   Kaew Jaojom อีเบิร์ดมึงเป็นไร

   Kum Ragummao ไอ้ซั้สสสส เป็นเชี่ยไรเนี่ย

   Dang Dum มึงใจเหยดๆ

   Dum Dang คนที่สามได้ไงสัด ตะกี้พ่อแม่กับป้ามึงปาไปสองแล้ว พวกกูต้องคนที่สี่ ไอ้ง่าว



   สาบานว่าผ่านเหตุการณ์นี้ไปได้กูจะบล็อกเฟซไอ้ดำคนแรกเลยสัดมันใช่เวลามานับเลขไหม

   “ฮึกกกก ทุกคนอย่าห้ามเบิร์ดเลยครับ เบิร์ดไม่มีกะจิตกะใจจะอยู่บนโลกนี้ต่อไปแล้ว คนที่เบิร์ดรักเค้าไม่ได้รักเบิร์ด แถมไปอ๊ะอ๊ะกับคนอื่นต่อหน้าต่อตาเบิร์ดอีก ฟรืดดดดดดด(เสียงสูดขี้มูก) ช่างมันเถอะครับกรึ้บ(เสียงกลืนขี้มูกลงคอ เค็มเหี้ยๆ) ถ้าเบิร์ดยิงตัวตายตอนนี้ก็คงไม่มีใครแปลกใจ เสียงปืนคงดังพอๆ กับเสียงประทัดที่นี่” เด็กแถวนี้เล่นประทัดดังจริงๆ ผมยืนยัน เล่นดังจนผมอยากเดินไปตบสักป้าบหัวแล้วด่าว่าบ้านพ่องเป็นโรงงานทำระเบิดเหรอ รบกวนไลฟ์ของเน็ตไอดั้ลอย่างกูมาก

   ผมบีบน้ำตาใส่โทรศัพท์ขณะเอาปืนปลอมจ่อคาง ตอนนี้คอมเม้นท์ในเฟสบุ๊คเด้งจนแทบอ่านไม่ทัน ทั้งคอมเม้นท์ให้กำลังใจและความรักบางคนก็ฝากร้าน(สัด) มีคนเสนอตัวเป็นแฟน บางคนแชร์คลิปให้เพื่อนช่วยมาห้าม ฮ้าาาา นี่แหละที่ผมต้องการ

   “ฮืออออ เดี๋ยวจะยิงแล้วนะ บายนะทุกคน...”

   คอมเม้นท์อีก

   “ฮือออออ จะยิงจริงๆ ละน้าาาาา”

   แชร์อีก

   “นับถอยหลังยิงดีกว่า สิบ...เก้า...แปด...เจ็ด...หก...ห้า...”

   สนใจผมอีก

   “สี่...สาม...สอง...ถุ้ย!”

   เปล่าครับ นั่นไม่ใช่เสียงผมที่ถูกปืนปลอมลั่นใส่ แต่ที่พ่นน้ำลายขนาดนั้นเพราะจู่ๆ ก็มีสะเก็ดน้ำบางอย่างพุ่งใส่หน้า ทำเอาผมตกใจและปล่อยทุกอย่างในมือกระเด็นตกบนพื้นไม้หมดได้รสปะแล่มๆ ในปากอีกต่างหาก

   “อุแหวะ เชี่ยไรเนี่ย”

   ผมหันไปมองตัวการอย่างเอาเรื่อง ห่างจากปลายเท้าของผมออกไปไม่มาก ท่ามกลางกระทงมากมายที่ลอยเอ่อบนผิวน้ำดำมืดมีลุงคนหนึ่งโผล่หัวขึ้นมาลูบปากที่เพิ่งพ่นน้ำออกมาหยกๆ และหัวเราะชอบใจ แถมยังมีหน้ามาถามด้วยเสียงแหบๆ ว่า

   “เมื่อไหร่มึงจะยิงวะ”

   ไม่พูดเปล่า ว่ายมาเทียบท่าแล้วดันตัวเองขึ้นมานั่งข้างๆ กูอีกด้วย ผมรีบโกยไอโฟนขึ้นมาเพราะกลัวเขาจะขโมยแสงสลัวจากหลอดไฟเหนือหัวที่ส่องลงมาทำให้ผมเห็นว่าจริงๆ แล้วเขาไม่ใช่ ‘ลุง’ อย่างที่คิด ผู้ชายตรงหน้าน่าจะอายุมากกว่าผมไม่กี่ปีกะดูแล้วสักยี่สิบห้ายี่สิบหก เขาตัดผมรองทรงสั้นมีใบหน้าแบบผู้ชายไทยแท้ตาคม จมูกโต สันกรามชัดและปากบางกว้างทั้งเนื้อทั้งตัวเขามีแค่กางเกงบ็อกเซอร์สีดำเปียกๆ ตัวเดียว

   ผมสำรวจไปตามร่างกายเขาปกติผมไม่ชอบคนที่เล่นกล้ามนะเพราะผมคิดว่ามันน่ากลัวมากกว่าน่ากอด แต่ของคนตรงหน้ามันช่างเป็นมัดกล้ามที่แน่นพอเหมาะพอดีไปซะทุกส่วนของร่างกายอกกว้างสีแทนที่แต้มด้วยหัวนมจุดสีชมพูเด่นนั้นเหมาะแก่การเอาตัวเข้าไปซุก ยังไม่นับท่อนแขนแข็งแกร่งที่น่ากัดนั้นอีก เขาสวมตะกรุดที่มีเขี้ยวของสัตว์บางชนิดห้อยอยู่บนเส้นพลาสติกสีดำให้อารมณ์ดิบเถื่อน

   ก่อนจะเฉ่งต่อ ขอลอบกลืนน้ำลายหนึ่งอึกเพื่ออุทิศแด่ความเซ็กซี่นั้น

   “มึงเป็นใครวะกะ...กล้าดียังไงมาพ่นน้ำใส่หน้ากู” วิญญาณนางเอกละครไทยขี้ทะเลาะเข้าสิง คนตรงหน้าไม่ตอบคำถาม แต่เลือกคว้าปืนปลอมที่ตกอยู่บนพื้นขึ้นมายิงเล่นอย่างหน้าตาเฉย

   แต้กๆๆเสียงนกสับดังขึ้นตอนลั่นไกตอกย้ำความหน้าด้าน...หมายถึงกูเนี่ยแหละที่หน้าด้าน

   “ปืนก็ปืนปลอม ปืนกากๆ แบบนี้เด็กน้อยมันยังไม่ซื้อเล่นเลย ทุเรศ” โทนเสียงแหบเสน่ห์ของเขามีสำเนียงเหน่อไปทางตอนใต้ของประเทศนิดๆ “แอบฟังอยู่ข้างล่างตั้งแต่มึงมาแล้ว กูถามจริงๆ มึงคิดว่ามึงรู้จักชีวิตดีแค่ไหนถึงจะคิดฆ่าตัวตายน่ะฮึแถมยังฆ่าตัวตายแบบปลอมๆ อีก แต่งตัวก็ดูดีมีการศึกษา ไม่น่ามีความคิดแบบนี้เลย”

   เขาขว้างกระบอกปืนมาบนหน้าตักแล้วยิ้มสมเพชดูถูกผมหนึ่งที

   “ไม่ห่วงตัวเองก็ห่วงใจพ่อแม่บ้างเถอะไอ้น้อง”

   จากนั้นก็กระโดดลงน้ำกลับไปอย่างเดิมแบบที่ไม่เปิดโอกาสให้ผมได้พูดอะไรเลยทำได้แค่อ้าปากพะงาบๆ เพราะคำพูดเขามันจึกลงไปในใจ

   แจ็คพ็อตกว่านั้นตอนก้มมองมือถือแล้วเพิ่งรู้ตัวว่า...ไลฟ์ของผมยังถ่ายทอดสดอย่างต่อเนื่องล่าสุดมีแต่คนมาคอมเม้นท์คำว่าตอแหลเต็มไปหมด

   เหี้ยยยยย กูโป๊ะแล้วววว

   ผมรีบกดปิดไลฟ์แล้วยัดมือถือลงกระเป๋ากางเกง ด้วยความโมโหสุดใจก็ลุกยืนขึ้น เห็นร่างของเขาว่ายน้ำไปเข้าซากกระทงที่รายล้อมกำลังจะอ้าปากด่าแต่ต้องหุบไว้เพราะตะลึงงันกับสิ่งที่เขากำลังทำไอ้ล่ำ(ตั้งชื่อแบบนี้ไปก่อน) กำลังล้วงเอาเงินเหรียญในกระทงของชาวบ้านไปอย่างถือวิสาสะ

   โห มาพูดกับกูซะดิบดี มึงก็เลวอะไรไม่ต่างจากกูหรอกวะ

   “ขโมย!” ผมตะโกน “ไอ้หัวขโมยกำลังเก็บเงินในกระทง มาดูเร็ว!” ผมตะโกนให้ชาวบ้านฝั่งตรงข้ามมาดูแต่ก็ไม่มีใครสนใจสักคน

   “กะจองงองกะจองงองเจ้าข้าเอ๊ย มาดูหัวขโมยกำลังเก็บเงินในกระทงเร้วววว” พูดแบบโบราณก็แล้วผลยังเป็นอย่างเดิมผมได้ยินเสียงหัวเราะสมน้ำหน้าดังมาจากคนในน้ำยิ่งมีน้ำโหแหนะ มีการแลบลิ้นล่อหน้าด้วย

   “เยาะเย้ยนักใช่มั้ยมึง เอานี่ไปแดก!”

   ผมคว้าปืนเด็กเล่นบนพื้นแล้วเหวี่ยงสุดแรงเกิดกะจะให้โดนหัวเขา แต่ปืนดันหลุดมือตอนผมเหวี่ยงขึ้นข้างบน ชั่วขณะนั้นเหมือนภาพสโลว์โมชั่นที่ผมเห็นในหนัง ปืนหลุดออกจากมือผมไปกระทบเสาไฟด้านบน

   ฟิ้วววววว ปึก

   เด้งไปโดนหลอดไฟ

   ฟ้าวววววววปั้ง

   และสุดท้าย...กระดอนกลับมาฟาดหน้าผากกู(ได้ไงไม่รู้)

   ทันใดนั้นดาวจับสิครับ เห็นปืนกระบอกเล็กๆ แบบนั้นแต่แรงปะทะของมันเหมือนคนเอาหนังสือแฮรรี่พอตเตอร์ภาคห้าเวอร์ชั่นแปลภาษาไทยมาฟาดหัว ผมเซถอยหลัง และก่อนที่จะรู้ตัว ร่างทั้งร่างก็ปะทะผิวน้ำเรียบร้อยแล้ว

   ตู้ม!

   “ชะ...ช่วยด้วย กูว่ายน้ำไม่เป๊น!!!!” ผมตะโกนก้องเพราะเท้าหยั่งไม่ถึงพื้น เป็นแม่น้ำในชุมชนเล็กๆ แบบนี้แต่ก็ลึกใช่เล่น ผมได้ยินเสียงหัวเราะสะใจที่ดังขึ้นของไอ้ล่ำ เลยแหกปากไปอีกรอบ

   “จริงจริ๊งงงง! ช่วยกูดั้วะ...อั้ก...”

   “เฮ้ย!”

   ได้ยินเสียงเขาร้อง วินาทีต่อมาหูไม่ได้ยินอะไรอีกแล้วเพราะทั้งตัวจมอยู่ใต้น้ำ แล้วโลกก็ค่อยๆ มืดลง...มืดลง...มืด...ลง...

   สิ่งสุดท้ายที่รู้สึกคือแรงดันของน้ำข้างตัว และมือหนาของใครสักคนที่โอบรัดคอผมเอาไว้


(ต่อด้านล่าง)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-07-2016 20:14:24 โดย ตัวแม่ »

ออฟไลน์ ตัวแม่

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 106
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-1
    • เพจตัวแม่
Re: [เรื่องสั้น] บ้ า น
«ตอบ #2 เมื่อ25-07-2016 18:31:31 »

   สัมผัสนิ่มๆ ที่ปาก

   “อื้มมมม...พี่อาเล้กซานเด้ออออ จุ๊บอีก...จุ๊บ...”

   เพียะ!

   “อาล้งอาเล้กอะไร ลุกขึ้นมาได้แล้ว!”

   ผมลืมตาโพลงทันทีเพราะแรงปะทะที่ข้างแก้ม เห็นโครงหน้าคมเข้มของโจรขโมยเงินจ่ออยู่ตรงหน้า มันกล้าตบผม แถมยัง...จูบ

   “ทำหน้าเหมือนเห็นผีอะไรอย่างนั้นวะ”

   เขาถาม ผมจับริมฝีปากตัวเองอย่างตกตะลึงแล้วค่อยๆ ดันตัวเองขึ้นมา รู้สึกถึงความเปียกชื้นของเสื้อนักศึกษาและกางเกงสแล็คสีดำที่ใส่อยู่ มองซ้ายมองขวานอกจากไอ้พี่ล่ำที่อยู่ข้างตัว ไกลออกไปนิดหนึ่งมีเด็กผู้หญิงที่มัดผมจุกวัยขบเผาะยืนมองอยู่ไกลๆ ติดกับหญิงวัยกลางคนตัดผมสั้นเหมือนทอมบอยคนหนึ่ง ผมสำรวจสิ่งแวดล้อม ตอนนี้ตัวเองกำลังนอนอยู่บนแคร่ไม้ไผ่ รอบข้างเป็นเหมือนห้องแคบๆ ที่ทางด้านขวามีโต๊ะไม้เตี้ยๆ ตัวหนึ่งตั้งอยู่ อีกด้านหนึ่งเป็นบันไดขึ้นไปชั้นบน

   เหมือนผมอยู่ในบ้านของใครสักคน

   “มึงจูบกูเหรอ”คือประโยคแรกที่ผมถามออกไปเพราะรอยประทับจากปากของเขายังตราตรึง

   เพียะ!

   เขาตบเข้าที่ปากผมแรงๆ อีกที แง้ กูผิดอะไรอี๊กกกก

   “คำพูดคำจากับผู้ใหญ่น่ะให้มันดีๆ หน่อย นี่กูแก่กว่ามึงตั้งกี่ปีไอ้น้อง มาขึ้นกงขึ้นกูใส่” ไอ้ล่ำดุ ผมเอามือจับปากอย่างทำอะไรไม่ได้นอกจากครางงื้ดๆ

   “แล้วที่กูทำกับมึงน่ะไม่ใช่จูบ เขาเรียกช่วยชีวิต นี่ถ้ารู้ว่าช่วยมาแล้วจะเป็นแบบนี้นะ ปล่อยให้ลอยไปกับกระทงดีกว่า”

   ผมตกตะลึงกับรอยจูบไม่จบไม่สิ้น ไม่คิดเลยว่าจูบแรกหลังจากที่นกมาทั้งชีวิตต้องตกเป็นของผู้ชายที่มีกลิ่นโคลนสาปควาย

   ...และเป็นจูบที่ผมเคลิ้มตามอีกต่างหาก

   “พี่บ้าน พี่เขาสมองกระทบกระเทือนอะไรหรือเปล่าอะ ทำไมตาดูลอยๆ” ประโยคคำถามที่ไม่รู้ว่าจริงจังหรือกวนตีนดังมาจากน้องสาวด้านหลังทำให้ผมได้รู้ว่าคนข้างๆ ชื่อ ‘บ้าน’ คนอะไรวะชื่อบ้าน ตอนตั้งนี่อยากให้บุคลิกเป็นผู้ชายบ้านๆ เหมือนชื่อ หรืออยากให้เขาเป็นคนสร้างบ้าน หรืออะไร สงสัยจัง

   “พี่ก็ว่างั้น” เขาตอบน้องสาว และลุกยืนขึ้น “กลับบ้านเหอะไอ้หนู ไปหาไรที่มีประโยชน์ทำไป๊ ลอยกระทงกับเพื่อน โทรหาพ่อแม่ ไรสักอย่าง”

   เขาแนะนำ จังหวะนั้นทำให้ผมนึกถึงโทรศัพท์

   “ตายห่า มือถือกู!”ผมควักไอโฟนออกมาจากกระเป๋ากางเกงเปียกโชก และพบว่ามันไม่ผิดไปจากที่คิด ล่มสลายดอกฝ้ายบานไปแล้วเรียบร้อยโทรศัพท์กูววว

   “มึงต้องรับผิดชอบ!”

   เขาเงื้อมือ

   “อะ...เอ็งต้องรับผิดชอบ!”

   เพียะ!

   “โอ๊ยยยยย พี่! พี่ก็ได้วะ! พี่ต้องรับผิดชอบ!!!!”

   ไอ้พี่บ้านตบเหมือนผมไปฆ่าคนในครอบครัวเขาตาย ซึ่งครอบครัวของเขาที่ยืนอยู่ตรงนั้นก็ส่งเสียงปรามห้ามเขาทำแต่ไม่ทันแล้ว...ถ้าพรุ่งนี้ปากเจ่อจนพูดไม่ได้ผมจะไม่สงสัยเลย

   “ทำไมกูต้องรับผิดชอบ นี่ถ้ามึงไม่อุตริเขวี้ยงปืนใส่หัวกูแล้วพลาดตกน้ำเองของพรรค์นั้นก็คงไม่เสียหรอก” เขาตอกกลับแล้วใช้นิ้วชี้จิ้มๆ หน้าจอมือถือผมเล่นประกอบคำว่า ‘ของพรรค์นี้’

   “หมายความว่าไงของพรรค์นี้ นี่มันสมาร์ทโฟน ของจำเป็นสำหรับทุกคนนะว้อย” ผมเอ็ด

   “ของสิ้นเปลืองล่ะไม่ว่า มือถือมันจำเป็นแค่โทรออกกับรับสายไม่ใช่รึไง”

   “ฮึ้ย! ไม่รู้แหละ แต่ยังไงพี่ต้องรับผิดชอบ! ชดใช้ค่าโทรศัพท์มา!”

   “ไม่มีตัง” เขาพูดหน้าตาย แล้วลุกยืนขึ้นอย่างไม่แคร์กะลาหัวผมและพ่อแม่พี่น้องชาวเฟสบุ๊คเลยสักนิด ผมรู้สึกเศร้าแทนพวกเขาจังที่จะไม่ได้เห็นอัพเดทของผมบนหน้าฟี้ดเพราะโทรศัพท์ดันพัง

   “ถ้าพี่ไม่ชดใช้ ผมจะแจ้งตำรวจเรื่องพี่ขโมยตังในกระทง!” ลั่นวาจาอย่างดุเดือด พี่บ้านหันมามองด้วยสายตาหวั่นวิตกทันที

   โป๊ะเชะ รู้งี้เอาตำรวจมาอ้างแต่แรกก็ดีวะ

   ผมกระหยิ่มยิ้ม เขาหน้าสั่นอย่างหงอๆ แต่วินาทีต่อมาก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาก๊ากใหญ่

   “ฟ้องเลยๆ กลัวจังเลยยยยย” เขาทำสีหน้ากลัวแบบที่พี่บีน้ำทิพย์ก็รู้ว่าคือการแสดง “บอกไรให้นะ เงินพวกนั้นเขาใส่มากับกระทงเพราะอยากขอขมา ความรู้สึกขอขมามันจบลงไปแล้วตอนเขาลอย แล้วถ้าพูดกันจริงๆ เงินพวกนี้จะไปตกอยู่ไหน ก้นแม่น้ำใช่ไหม ถ้าเป็นมึงมึงจะไม่รู้สึกเสียดายค่าของมันบ้างเหรอ”

   “...”

   “ถ้าจะให้ชดใช้กูก็ช่วยชีวิตมึงตะกี้แล้วไงไอ้น้อง มูลค่าของชีวิตมึงเทียบกับโทรศัพท์คงทดแทนกันได้นะ”

   คำพูดของเขาทำให้ผมไม่กล้าเถียงต่อ ได้แต่นั่งตาปริบมองเขาย้ายร่างของตัวเองในสภาพสวมเสื้อกล้ามสีเทาและกางเกงยีนส์ขาสั้นมีรอยขาดที่ดูแล้วจ๊นจนแต่ให้ความรู้สึกโคตรกระชากใจไปที่ประตู ผ่านน้องสาวกับหญิงวัยกลางคนที่มองเราสองคนเถียงกันอย่างงุนงง

   เขาผายมือไปที่ประตูด้วยท่าทางสง่าผ่าเผย ตรงกันข้ามกับเจตนาลิบลับ

   “ทีนี้ก็เชิญครับ”

   พี่บ้านยิ้มร่าแต่ฉายแววตาไล่ ผมลุกออกจากแคร่ด้วยท่าทางกระฟัดกระเฟียด กัดปากและมองหน้าเขานิ่งก่อนจะก้าวออกจากประตูบ้าน ชั่วขณะนั้นนึกขึ้นได้ว่ายังไงตัวเองก็ควรพูดขอบคุณที่เขาช่วยผมไว้ตามมารยาท แม้ว่าเขาจะต่ำทราม(?)กับคนแปลกหน้าแบบผมยังไงก็ตาม

   กะจะหันกลับไปบอก ประตูก็ปิดใส่หน้าผมโครมใหญ่

   สัด

   ผมหันหลังกลับด้วยความนอยด์ มองหน้าบ้านของเขาที่ด้านล่างเป็นปูนเปลือยและข้างบนทำด้วยไม้เก่าสีขาว ด้านหน้าบ้านเหมือนร้านขายอาหารอะไรสักอย่าง มีประตูรั้วด้านหน้าที่ถูกตกแต่งใบมะพร้าวและโคมไฟเหมือนซุ้ม...คงเป็นวิถีของชนบทแถวนี้ที่จัดหน้าบ้านให้เข้ากับเทศกาล

   ผมเดินออกจากบริเวณนั้น อากาศข้าวนอกหนาวจนขนลุก สังเกตเห็นท่าน้ำที่ผมเคยนั่งบ่นอยู่ตรงหน้า และรถเก๋งสีเงินของตัวเองจอดอยู่ไม่ไกล

   ผมถามใจที่ไร้ทิศทางของตัวเองว่าควรไปไหนต่อ ในสถานการณ์ที่มือถือก็เสียเบียร์ก็หมด คงไม่มีตัวเลือกไหนให้ผมนอกจากกลับไปนั่งร้องไห้กับความนกที่ห้อง มือจึงควานหากุญแจรถในกระเป๋ากางเกงเปียกๆ

   “กุญแจ...กุญแจอยู่ไหนวะ?”

   ผมจกเข้าไปในกระเป๋าจนกางเกงแทบขาด ดึงออกมาหาแต่ก็คลำได้แต่ความว่างเปล่า

   นาทีนั้นเหมือนคำว่าเหี้ยถูกกดรีเพลย์ซ้ำๆ อยู่ในหัว

   มือถือเสีย เบียร์ก็หมด กุญแจรถดันมาหายอีก

   วันซวยอะไรของกูวะเนี่ยยยยยยย


   
   “อ้าว?”

   เสียงเล็กแหลมดังขึ้นจากมุมใกล้ตัว ขณะที่ผมนั่งจุ้มปุ้กอยู่บนพื้นคอนกรีตราวครึ่งชั่วโมงหลังจากพยายามเดินหากุญแจรถที่อาจตกอยู่แถวนี้แต่สุดท้ายก็ต้องยอมแพ้ อาศัยความร้อนจากเปลวไฟในโคมที่จุดเรียงรายข้างทางอบอุ่นร่างกาย สภาพไม่ต่างจากคนจรจัดเลยสักนิด

   ผมเงยหน้ามอง เห็นน้องสาวมัดจุกของคนที่เตะตูดผมออกจากบ้านเดินเข้ามาหา เธอสวมเสื้อกล้ามสีขาวบางกับกางเกงขาสั้นสีชมพูแปร๋น พร้อมด้วยรองเท้าแตะคีบอันเป็นภาพจำในการแต่งกายของสตรีชุมชน

   “พี่ยังไม่ไปไหนเหรอคะ”

   ผมส่ายหัว “กุญแจรถหายอะ สงสัยจมไปกับแม่น้ำละ”

   “ว้าย” เธอร้องอย่างเห็นว่าเป็นเรื่องใหญ่โต “แล้วมาทนนั่งหนาวอยู่ตรงนี้เนี่ยนะ โธ่ ทำไมไม่เข้าไปในบ้าน”

   “พี่ชายน้องจะไม่ให้พี่เข้าไปอะดิ” เขาบ่น

   “บ้า พี่บ้านไม่ได้ใจยักษ์ขนาดนั้น เขาปากหมาแต่จริงๆ ใจดีนะ” เด็กสาวแก้ตัวแทน ผมย่นจมูกเพราะไม่ได้เชื่อคำพูดนั้น ตบปากกูบ้าง ปิดประตูใส่หน้ากูบ้าง จะให้กูคิดว่าเป็นคนใจดีมันก็ยากป๊าว

   “คุยกับใครเหรอบิว” พูดถึงผีผีก็มา เขาเดินออกมาด้วยชุดเดิม ออร่าความดิบเถื่อนที่เร้าใจเรืองรองแม้อยู่ในความมืด

   “คุยกับพี่...พี่ชื่อไรอ่ะ?”

   “เบิร์ด” ผมกระซิบบอกอย่างเกร็งๆ

   “ใช่ พี่เบิร์ด คนที่พี่ช่วยขึ้นมาจากน้ำไง”

   พี่บ้านชะงักไปนิดหนึ่งเมื่อเห็นผม คนตัวสูงขมวดคิ้วเข้มแน่น แล้วถามอย่างไพเราะด้วยปากกระจับว่า

   “นี่มึงยังไม่ไปไหนอีกเหรอ?” 

   โถไอ้สัด ถ้ากูไปแล้วมึงจะเห็นนั่งหัวโด่อยู่ตรงนี้เหรอ...คิดแบบนี้นะแต่ไม่พูด กลัวโดนตบอีก

   “กุญแจรถพี่เขาหาย” น้องสาวเขาตอบแทน “พี่บ้าน เหมือนกุญแจจะตกในแม่น้ำอะ ช่วยดำลงไปหาได้ป่ะ”

   “ไอ้บ้า” เขาเอ็ดน้อง บิวหัวเราะเอิ้กอ้ากแล้วหันมาถามผมต่อ

   “แล้วพี่จะทำยังไงต่ออ่ะ  โทรหาใครให้มารับมะ”

   “โทรศัพท์พังอ่ะ”

   “เดี๋ยวหนูให้ยืมก็ได้” บิวควักโทรศัพท์มือถือรุ่นปุ่มกดออกมาจากกระเป๋าตัวเองแล้วยื่นให้ผม ผมรับมันมาแล้วมองนิ่งๆ เพราะในหัวสมองโล่งไปหมด

   “จะ...จำเบอร์ใครไม่ได้เลย”

   “เอ้า” บิวอุทาน คนตัวสูงด้านหลังผ่อนหายใจแรง “งี้จะทำไงเนี่ย...พี่บ้าน ให้เขาอยู่กับเราสักพักก่อนจะหาทางไปต่อได้ไหมอะ”

   “ไม่มีทาง” ผู้ชายห้อยเขี้ยวสัตว์ตอบกลับมาทันที เป็นคำตอบที่ผมไม่แปลกใจเท่าไหร่นักแต่ก็อดรู้สึกใจแป้วไม่ได้ เด็กสาวลุกยืนขึ้นแล้วเหมือนดึงแขนพี่ชายตัวเองไปคุยหลบมุมเงียบๆ อยู่สองคน

   ผมเงี่ยหูฟังด้วยความสาระแน ยัยเด็กมัดจุกเหมือนพยายามโน้มน้าวให้พี่ชายอนุญาตให้ผมเข้าบ้าน ในขณะที่อีกฝ่ายเหมือนไม่ค่อยไว้ใจผม

   สุดท้ายทั้งสองคนก็หันกลับมา เด็กสาวยิ้มร่า ในขณะที่ฝั่งพี่ชายมองผมนิ่ง

   “มึงไม่ได้มีแผนการแผลงๆ หรือเรียกร้องให้กูชดใช้อะไรอีกใช่ไหมไอ้น้อง” เขาถามด้วยเสียงแหบห้าว หรี่ตามองผมที่ส่ายหัวด้วยท่าทีหงอๆ...ที่ทำแบบนี้เพราะว่ากูตกเป็นเบี้ยล่างเฉยๆ นะ(โว้ย)

   “คืนเดียว” เขาบอก “หลังจากนั้นจะเป็นตายร้ายดียังไงก็ช่างมึง”

   “เย้!” บิวร้องเหมือนปลากระบี่ได้น้ำ ผมก็งงเหมือนกันว่าเด็กนี่จะดีใจเกินหน้าเกินตาผมไปไหม แต่ก็เอาเถอะ ผมไม่หนาวตายอยู่ข้างนอกนี้ทั้งคืนก็บุญหัวเท่าไหร่แล้ว

   “ทำไมถึงช่วยพี่อ่ะ” ผมกระซิบถามตอนกำลังเดินไปกับบิวตามหลังพี่บ้าน

   “พี่หล่อดี หนูชอบ”

   เหตุผลแบบ...กูถึงกับต้องคิดในใจว่าเด็กมันแรดจังวะ ในขณะเดียวกันก็ยิ้มกว้างด้วยความภูมิใจในตัวเอง

   “ตอนพี่บ้านอุ้มพี่เข้ามาในบ้านหนูก็เอะใจว่าแบบ...หล่อจัง ฮ่าๆๆ แต่เหมือนพี่เบิร์ดจะไม่ได้ชอบผู้หญิงใช่ป่ะ” ยัยเด็กสก๊อยเดาใจผมด้วยความสอดรู้สอดเห็น ทำเอาผมหุบยิ้มแทบไม่ทัน

   “รู้ได้ไง”

   “หนูดูออก พี่หนูก็ไม่ได้ชอบผู้หญิงนะ”

   “อ้าว ไอ้เชี่ยนี่เป็นเกย์เหรอ” ผมเผลอหลุดปากออกไปจนบิวหลุดขำเพราะสรรพนามที่ผมใช้ ดีนะพี่บ้านที่เดินห่างจากเราหลายเมตรไม่ได้ยิน

   “ใช่ ไอ้เชี่ยนี่แหละ” บิวบอก “เพิ่งเลิกกับแฟนด้วยนะ สนใจป๊าว”

   “อึ๊” ผมปฏิเสธในลำคอ “เขาเกลียดพี่จะตาย”

   “เขาไม่ได้เกลียดพี่เบิร์ดสักหน่อย เขาแค่ไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่พี่ทำต่างหาก” บิวอธิบายเจื้อยแจ้ว “พี่บ้านเล่าให้หนูฟังหมดแล้วว่าพี่ทำอะไรก่อนตกน้ำ ฮ่าๆๆๆ โง่ดีค่ะ พี่บ้านไม่ชอบแต่หนูชอบบบบบ”

   ทำไมรู้สึกเหมือนกำลังโดนด่าวะ

   “อย่าถือสาพี่บ้านเลย แกแค่เป็นคนชอบพูดอะไรตรงๆ ตามความรู้สึกอ่ะค่ะ แกผ่านอะไรมาเยอะ หาเงินเลี้ยงครอบครัวตั้งแต่หนูจำความได้ คงรู้สึกเสียดายที่คนดูดีมีการศึกษาแบบพี่ทำแบบนั้นอ่ะ”

   “...”

   “เงียบแบบนี้แสดงว่าเริ่มสนแล้วใช่ม้า”

   ผมครางในลำคออ้อมแอ้มและส่ายหัว จ้องมองแผ่นหลังกว้างที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามของเขาตอนเปิดประตูบ้านแล้วลอบกลืนน้ำลายเงียบๆ หนึ่งอึก

   “ไม่สนจริงดิ พี่หนูหล่อออก หุ่นก็ล่ำ เคยถ่ายแบบกางเกงว่ายน้ำด้วยนะ ขายดีเทน้ำเทท่า ถ่ายทีนึงจ่ายค่าเทอมหนูได้หลายเทอมเลย”

   “...”

   “เริ่มคิดแล้วแน่ๆ”

   “เปล่า” ผมยืนยันคำเดิม “แต่เพื่อประกอบการตัดสินใจ มีหนังสือเล่มนั้นให้ดูไหม”

   “ฮ่าๆๆๆๆๆๆ”

   บิวหัวเราะจนพี่บ้านหันมาอย่างสงสัยว่าเราคุยกันเหมือนสนิทกันแบบนี้ได้ยังไง ผมก็งงเหมือนกัน แต่ ณ จุดนี้ขอตัดสินว่ายัยเด็กนี่กับผม...เรามีความกักขฬะที่ค่อนข้างเสมอกัน ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีงามเหลือเกิน




   ผมเริ่มสำรวจอย่างจริงจังเมื่อก้าวเข้ามาในบริเวณบ้านนี้อีกครั้ง มันเป็นเหมือนโกดังแคบๆ ในพื้นที่จำกัดที่รายล้อมไปด้วยไร่สวนซะมากกว่า ในด้านมีเฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้นได้แก่แคร่ โต๊ะไม้เล็กๆ ที่มีเก้าอี้สี่ตัววางอยู่รอบๆ หน้าต่างสองบานถูกประดับด้วยม่านเก่าๆ ฝุ่นจับ

   “สวัสดีครับ” ผมยกมือไหว้ผู้หญิงผมสั้นคนหนึ่งที่เคยเห็นก่อนหน้านี้

   “น้าแป้น นี่พี่เบิร์ด คนที่จมน้ำหน้าบ้านเราค่ะ กุญแจรถเขาหาย” บิวแนะนำผม

   “บ้านบอกน้าละ ตามสบายนะลูก แล้วเดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยหาทางช่วยกันต่อเนอะ” ผมก้มหัวงุดๆ ให้กับหญิงวัยกลางคนที่ดูใจดีจนผมแปลกใจ มันมีอยู่บนโลกจริงๆ เหรอคนที่จะใจดีกับคนแปลกหน้าซึ่งไม่เคยเจอกันมาก่อนมากขนาดนี้ ถ้าเป็นบ้านที่ผมเคยอยู่คงปฏิบัติกับคนแปลกหน้าที่มาขออาศัยชั่วคราวด้วยการไล่ไปแล้ว เจอแบบนี้แล้วรู้สึกกังขากับสังคมที่ตัวเองเติบโตมาจัง

   พี่บ้านบอกผมเสียงเข้มว่าจะไปหาเสื้อผ้ามาให้เปลี่ยนแล้วขึ้นบันไดไปชั้นบน ผมรับคำแล้วคุยกับน้าแป้นและบิวเรื่อยเปื่อยถึงเรื่องราวของตัวเองและของพวกเขา

   “อยู่ในเมืองแต่มาไกลถึงแถวนี้ทำไมอะลูก”

   ช้ำใจกับความนกของตัวเองเลยขับมาไกลถึงนี่อ่ะครับ ฮือ

   “อยากกินลมชมวิวเรื่อยๆ อ่ะครับ” ผมแหลสด

   “อ่อ แล้วเรียนที่ไหนเนี่ย”

   “บัณฑิตวิทยาครับ นิเทศศาสตร์”

   “เอ้อ ไอ้บ้านก็เคยอยากเรียนที่นี่ เคยสอบติดด้วยแต่ไม่มีเงินส่ง ต้องออกมาหาเลี้ยงครอบครัวซะก่อน” น้าแป้นเล่า นาทีนั้นผมเข้าใจเลยว่าทำไมเขาถึงด่าผมเรื่องดูเป็นคนมีการศึกษาแต่คิดตื้นๆ ที่ท่าน้ำอย่างรุนแรงแบบนั้น ความโกรธในใจผมเริ่มจางลง แม้จะมีคำถามว่า ‘จำเป็นต้องพ่นน้ำใส่หน้ากูไหม’ อยู่ก็ตามที

   “นินทาไรผมน้า” พี่บ้านลงมาตอนน้าเขากำลังเล่าออกรสพอดี ในมือเขามีเสือสีขาวย้วยๆ ตัวหนึ่งกับกางเกงขาสั้นสีดำอีกตัว เขายื่นมันมาให้ผมทื่อๆ เหมือนไม่ค่อยเต็มใจ ตอนนั้นผมมองหน้าเขานิ่งจนเขาต้องขมวดคิ้ว

   “มองอะไรแบบนั้นวะ ขนลุก”

   “เปล่า” ผมรับเสื้อผ้ามา “ขะ...ขะ...ขอบคุณ”

   เขาโยกคิ้วเหมือนแปลกใจ แล้วยิ้มมุมปาก “ไปเปลี่ยนมา เดี๋ยวจะออกไปลอยกระทงกัน จะไปเปลี่ยนในห้องนอนกูหรือห้องน้ำก็ได้ ห้องนอนกูอยู่ข้างบน ห้องน้ำก็อยู่หลังบ้านนู่น หรือจะเปลี่ยนต่อหน้าคนแก่คนสาวตรงนี้ก็ตามใจ”

   เขาบอก ตามมาด้วยเสียงโวยวายของเรื่องแก่ของน้าแป้น ผมบอกเขาว่าห้องนอนคงจะสะดวกกว่า พี่บ้านหลีกทางให้ผมเดินขึ้นบันไดที่ดังเอี๊ยดอ๊าดอย่างน่ากลัว ชั้นบนมีเพียงลานโล่งๆ ที่นำไปสู่ห้องทั้งหมดสามห้อง ประตูห้องทั้งสามเป็นประตูไม้สีน้ำตาลแก่ๆ

   ห้องของเขาอยู่ทางขวาสุด ผมเปิดประตู เดินเข้าไปไม่กี่ก้าวก็ต้องสะดุ้งโหยงกับเงาของผู้หญิงที่ซ่อนอยู่ในเงามืดที่ตอนแรกผมไม่ได้สังเกต

   “ผะ...ผะ...ผะ”จะพูดคำว่าผีแต่พูดไม่ออก แง้

   “แม่ครับ เพื่อนบ้านเอง ไม่มีไรหรอก” พี่บ้านเอ่ยเรียบๆ ด้านหลังแล้วเงานั้นก็เดินออกมาจากห้อง เป็นผู้หญิงร่างท้วมผมฟูเต็มหัว เธอยิ้มแฉ่งมาให้ผม ในมือถือสร้อยคอเงินประกายเพชรเส้นหนึ่ง

   ผมยิ้มกลับ เธอยิ้มตอบ และไม่มีทางจะหุบยิ้มลงง่ายๆ สักพักก็เดินผ่านหน้าผมไป และเดินไปลงไปชั้นล่างเฉย

   ผมหันไปมองเขากะจะถามคำถามว่าแม่ของเขาป่วยเป็นอะไรหรือเปล่า แต่คิดว่าคงเป็นคำถามที่ไม่เหมาะ เลยตัดสินใจเข้าห้องไปแล้วจัดแจงเปลี่ยนเสื้อผ้าเปียกของตัวเองให้เป็นชุดของเขา

   พอเปลี่ยนเสร็จก็เริ่มสำรวจรอบๆ ห้องด้วยความสงสัยใคร่รู้ ในห้องนอนมีโต๊ะเครื่องแป้ง ตู้เสื้อผ้าแบบเลื่อนเปิด กับฟูกและมุ้งสีขาวขุ่นหนึ่งผืน

   อยู่ไหนนะอยู่ไหน ในห้องมันต้องมีมุมหนังสือสักมุมสิว้า

   “ดูไรวะ” เขาเอ็ดขึ้นจนผมสะดุ้ง เชี่ยยยย เปิดประตูเข้ามาแบบถือวิสาสะ(?)และไม่ให้สุ้มให้เสียงกับกูเลย

   “เปล๊า” ผมเสียงสูง เหงื่อแตกซิบๆๆ

   “อย่าให้รู้ว่าจะขโมยอะไร กูเตะมึงก้นโด่งจากบ้านแน่” เขาขู่ ผมพยักหน้างึกงักแต่ในใจก็โล่งขึ้นเพราะเขาไม่ได้เข้าใจผิดว่าผมหาหนังสือแฟชั่นกางเกงว่ายน้ำของเขา...ซึ่งความเป็นจริงมันเป็นแบบนั้น

   “ไม่...ไม่แน่นอน” ผมกำชับ แล้วปาดเหงื่อออกจากหน้าผาก

   “เสร็จแล้วก็ออกมา” พี่บ้านบอกแล้วนำทางไป เราสองคนเดินลงไปข้างล่าง พบว่าไม่มีใครอยู่เลยสักคน ผมได้ยินเสียงหัวเราะคิกคักของน้องบิวมาจากหน้าบ้านกับเสียงตูมตามของประทัด ผมมองผ่านประตูเห็นเงาของคนสามคนยืนอยู่หน้าซุ้ม มีประกายไฟก่อขึ้นในความมืด

   “มานั่งนี่ดิ๊” จู่ๆ พี่บ้านก็ชวนผมนั่งกับเก้าอี้เก่าๆ ที่ตั้งอยู่ติดกับโต๊ะเล็กกลางบ้าน บนนั้นมีกระทงที่ทำอย่างประณีตอยู่สี่อัน “ของคนอื่นทำเสร็จหมดแล้ว และก็ไม่ได้ทำเผื่อไว้เพราะไม่ได้คิดว่าอยู่ๆ จะมีคนแปลกหน้าโผล่มาที่บ้านด้วย มึงก็ทำกระทงของมึงซะตอนนี้เลย เดี๋ยวไปลอยด้วยกัน”

   เขาพยักเพยิดไปที่อุปกรณ์บนโต๊ะ มันมีใบตองสีเขียวอ่อน เข็มหมุด กับพวกดอกไม้ที่ดูแล้วน่าจะเด็ดมาจากแถวๆ นี้ ผมค่อยๆ นั่งลงและมองมันตาปริบๆ

   “นี่อย่าบอกนะว่าทำกระทงไม่เป็น”

   ส่ายหน้า

   “บ้ะ ตอนเด็กๆ ไม่เคยเรียนทำกับโรงเรียนเหรอวะ”

   “เรียนโรงเรียนนานาชาติมาตลอดอ่ะ งือ” ผมสารภาพ “โรงเรียนอื่นอาจจะสอนแต่ที่เคยอยู่ไม่เคยสอนทำเลย จริงๆ ชีวิตนี้ไม่เคยลอยกระทงเลยด้วยซ้ำ แต่รู้นะว่าทำไว้ขอขมาแม่น้ำ”

   “พ่อแม่มึงไม่เคยพาไปลอยกระทงเลยเหรอ”

   “ไม่เคย” ผมตอบ “พ่อแม่ไม่เคยพาผมไปไหนหรอก คงเพราะผมเป็นลูกบุญธรรมของเขามั้ง ลูกบุญธรรมก็คงไม่สำคัญเท่าลูกแท้ๆ ใช่ป่ะ”

   ผมมองดวงตากลมโตของพี่บ้านที่เหมือนจะคิดอะไรอยู่ เขาไม่ตอบคำถามผม เพียงแต่พยักหน้าแล้วถามต่อ

   “แล้ว...มึงโตมายังไงวะ”

   “กับพี่เลี้ยงไง มีเงินก็จ้างพี่เลี้ยงมาเลี้ยงลูกเอา พ่อแม่ไม่สนใจหรอกว่าผมโตมายังไง เขาแค่รับผมมาเลี้ยงเพราะตอนแรกมีลูกไม่ได้ แต่สองปีหลังจากนั้นก็เกิดปาฏิหาริย์มีลูกได้เฉย ผมเลยกลายเป็นหมาหัวเน่า”

   “แล้ว...พี่เลี้ยงไม่เคยพาไปลอยกระทงเลย?”

   “ไม่อ่ะ หมดกะพวกเขาก็กลับบ้านกัน ตั้งแต่เด็กจนโตผมชินกับการเข้านอนแต่หัวค่ำ พวกเทศกาลไรที่มีตอนกลางคืนผมไม่ค่อยได้สรรเสริญไรนักหรอก”

   “...”

   “...”

   “มา...เดี๋ยวสอนทำ”

   แล้วพี่บ้านก็เริ่มสอนผมทำกระทงจริงๆ ด้วยขั้นตอนง่ายๆ เขาดูตั้งใจและถนัดกับวิธีการแบบบ้านๆ ของเขาจริงๆ ตลอดระยะเวลาสั้นๆ นั้นเราแลกเปลี่ยนเสียงหัวเราะกันเพราะกระทงที่ผมทำมันช่างหน้าตาทุเรศทุรังสิ้นดีเมื่อเทียบกับของคนอื่น

   เสร็จสิ้นวิธีการเราก็ได้กระทงสองอันที่หน้าตาต่างกันอย่างเห็นได้ชัด แต่ถ้าเทียบความใส่ใจก็คงไม่ต่างกันมากเท่าไหร่

   อยากจะดึงมือถือขึ้นมาถ่ายรูป แต่จำได้ว่ามันเสื่อมไปแล้ว แล้วก็สงสัยว่าคนที่เขาใช้มือถือแค่โทรเข้ากับโทรออกอย่างพี่บ้าน ไม่แชร์หรือมีโซเชียลเน็ตเวิร์กเลย เขาจะมีความสุขกับอะไร

   คนที่ไม่ได้เอาความสุขไปผูกกับการได้รับความสนใจแบบผม...เขาจะมีความสุขกับอะไรกันนะ

   เสียงบิวกับน้าแป้นแจ๋นมาจากหน้าบ้าน ตามมาด้วยร่างของแม่พี่บ้านที่ยิ้มตลอดเวลาเหมือนเดิม ทุกคนเดินเข้ามาเอากระทงของตัวเองที่ทำเสร็จแล้ว พี่บ้านยื่นแกมบังคับให้แม่ตัวเองถือกระทงเพื่อออกไปลอยด้วยกัน ทุกคนเทเสียงหัวเราะไปกับกระทงหน้าตาอัปรีย์ของผมจนผมหัวเราะตามไปด้วย ตอนนั้นเองผมก็ได้คำตอบของคำถามนั้น

   ถ้าเปรียบบ้านหลังนี้เป็นบัญชีเฟสบุ๊คของใครสักคน เขาจะมีเพื่อนแค่สี่คนเท่านั้น และในสี่คนนั้นจะมีเพื่อนร่วมกันเหมือนกันทั้งสี่คน เขาไม่ได้สะสมยอดไลค์แบบที่ผมรู้สึกว่าได้รับมันแล้วมีความสุข

   แต่ความสุขของพวกเขาคือการแชร์

   แชร์เรื่องราวที่มีความสุขของตัวเองให้เพื่อนทุกคนเท่าๆ กัน




   “เบิร์ดบอกว่าเพิ่งลอยกระทงครั้งแรกในชีวิต”

   พี่บ้านแฉผมกับทุกคนตอนที่เราออกมาจากบ้านสู่ท่าน้ำ บิวกับน้าแป้นทำท่าตกใจราวกับว่ามันเป็นเรื่องแปลก...ก็แปลกจริงๆ แหละยอมรับ แต่ที่ผมรู้สึกตอนนี้กลับไม่ใช่ความอายที่ตัวเองไม่เคยลอยกระทงเลย แต่เป็นความรู้สึกแปลกใจที่เขาเรียกชื่อเล่นผมแทนที่จะเป็นไอ้น้องหรือไอ้หนูอย่างที่เคยพูด

   พอได้ยินแบบนั้นแล้วผมรู้สึกเหมือนไม่ใช่คนแปลกหน้า ทั้งๆ ที่ตัวเองเป็นคนแปลกหน้าสำหรับเขาทุกคน

   งงไหม ผมก็งง แต่เป็นความงงที่รู้สึกดีชะมัด

   ทุกคนจุดไฟบนธูปกับเทียนบนกระทงและยกขึ้นเหนือหัวเพื่ออธิษฐาน แต่ดูเหมือนบิวจะโอเวอร์กว่าคนอื่นเลยสักหน่อย เด็กนี่ปักไฟเย็นสี่อันบนกระทงจนแทบจะไหม้ทั้งอัน แถมยังอธิษฐานอะไรที่มันไม่ใช่จุดประสงค์ด้วย

   “แม่น้ำจ๋า ปีนี้ลูกจะขึ้นมหา’ลัยแล้วเนอะ ที่มหา’ลัยขอให้ลูกเจอผู้ชายดีๆ ขอให้ลูกมีผัวหล่อๆ ขอให้ลูกมีผัวรวยๆ ขอให้ลูกมีผัวคุ... โอ้ย!” โดนมะเหงกจากพี่บ้านไปที

   “เป็นเด็กเป็นเล็ก”

   “พี่บ้าน! หนูสิบแปดละนะไม่ใช่เด็กเล็กๆ อยู่มาสิบแปดปีแล้วไม่เคยมีเนี่ยมันน่าอายนะ!” บิวโวย ผมอยากตรงเข้าไปจับมือกับนางตอนนี้แล้วพูดยินดีต้อนรับสู่สมาคมนกที่พี่อยู่มายี่สิบปี แต่กลัวคนอื่นรู้ว่านกเลยตัดสินใจไม่ทำดีกว่า

   “เขาไม่ได้อธิษฐานให้ตัวเอง เขาให้อธิษฐานให้แม่น้ำเว่ย” น้าแป้นดุบ้าง บิวแจะปากอย่างขัดใจ และเปลี่ยนมาพึมพำแบบไม่มีเสียงแทน ทุกคนปล่อยกระทงไปกับสายน้ำหมดแล้ว ในขณะที่ผมยังเงอะๆ งะๆ อยู่ที่บันไดท่า

   “รำไรอยู่นั่น วันนี้จะได้ลอยไหม” พี่บ้านดุกูอีกแล้ว

   “เดี๋ยวดิ”

   “ลงมาเลยเร็ว เดี๋ยวตลาดงานวัดจะวาย” ผมก้าวออกไปริมแม่น้ำอย่างเงอะๆ งะๆ จุดธูปเทียนบนกระทงแล้วโน้มตัวลง แต่โน้มยังไงก็ไม่ถึงผิวน้ำสักที

   “เฮ้ยยยย โยนแบบนั้นกระทงก็พลิกพอดี” พี่บ้านห้ามไว้เพราะผมทำท่าจะปล่อยกระทงลงเฉยๆ ด้วยความรำคาญที่โค้งตัวยังไงก็ไม่แตะผิวน้ำ และก่อนที่ผมจะได้ตอบโต้หรือทำอะไร เขาก็ใช้มือสองข้างจับมือผมไว้แล้วพาโน้มตัวลงไปช้าๆ

   ได้ยินเสียงแซวของน้องบิวเพราะหน้าของเราใกล้กันมาก ผมสัมผัสได้ถึงลมหายใจของเขาข้างๆ และสายตาที่มองไปยังกระทงอย่างแน่วแน่ สัมผัสได้ถึงความอุ่นจากมือกว้างของเขาที่จับมือผมไว้แน่น ผมหันไปมองหน้าเขา พอรู้ตัวว่าถูกมองพี่บ้านก็เหล่ตามามองผมเช่นกัน

   “ช้าๆ ดิ” เขากระซิบ ตากลับไปจ้องที่กระทง ผมได้ยินเสียงใจตัวเองเต้น รู้สึกถึงเลือดฝาดบนแก้มทั้งสองข้างของตัวเองเพราะเพิ่งเคยได้สัมผัสความอ่อนโยนนี้จากเขาเป็นครั้งแรก ในเวลาที่เขาไม่ได้ปากหมาหรือแสดงท่าทีไม่ไว้ใจผมมันก็...ดีแฮะ

   ดีมากเลยอ่าาาาาาา

   แล้วผมก็รู้สึกถึงน้ำเย็นจัดที่แตะกับผิว พี่บ้านปล่อยมือจากมือของผมแล้วกวักผิวน้ำเบาๆ ให้กระทงลอยออกไปตามสายน้ำ บนมุมปากมีรอยยิ้มยกขึ้นแล้วเหล่ตามามองผมช้าๆ

   “ทีนี้มึงก็อวดใครต่อใครได้แล้วว่าเคยลอยกระทง”

   เสียงแหบเสน่ห์พูดประโยคแสนกวนตีนแต่ผมไม่ยักมีความรู้สึกว่าอยากปล่อยหมัดให้โดนปากเขาเหมือนทุกครั้ง

   แต่อยากปล่อยหมัดให้โดนที่ใจเขาแทน


(ต่อด้านล่าง)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-07-2016 20:19:20 โดย ตัวแม่ »

ออฟไลน์ ตัวแม่

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 106
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-1
    • เพจตัวแม่
Re: [เรื่องสั้น] บ้ า น
«ตอบ #3 เมื่อ25-07-2016 18:31:47 »


   ชั่วชีวิตผมไม่เคยพบเคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน

   ครอบครัวพี่บ้านเปิดประสบการณ์ใหม่ให้ผมอีกแล้ว ข้างในบรรยากาศงานวัดเต็มไปด้วยความรื่นเริงหฤหรรษ์ ไม่น่าเชื่อว่าในยุคดิจิตอลจะยังเหลืองานที่มีบรรยากาศวัฒนธรรมไทยเก่าๆ แบบนี้อยู่ แถมยังอยู่ในชานเมืองของกรุงเทพฯ ด้วย งานวัดถูกแบ่งออกเป็นโซนชัดเจน เดินเข้าไปจะเห็นร้านรวงที่ตั้งอยู่อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย มีคนขายขนมหน้าตาแปลกๆ ใส่ห่อกระทงใบตอง กับสิ่งประดิษฐ์ที่เป็นภูมิปัญญาชาวบ้านแบบที่ผมไม่แน่ใจว่ามันใช้ทำอะไรกันแน่ ลึกเข้าไปหน่อยเป็นส่วนของการละเล่นที่มีม้าหมุนเก่าๆ ชิงช้าสวรรค์ที่ดังเอี๊ยดอ๊าดเหมือนพร้อมจะพังลงมาได้ทุกเมื่อ ซุ้มปาลูกโป่ง สาวน้อยตกน้ำ และการละเล่นอีกสารพัดจนผมคิดว่าถ้าคนในงานห่มสไบมาอีกนิดกูจะเข้าข่ายหลงยุคได้เลยนะเนี่ย

   เราทั้งห้าแยกกันเดิน พวกสาวๆ อย่างบิวกับน้าแป้นเดินไปโซนขายของที่ขายพวกสมุนไพรบำรุงผิวอะไรตามประสาผู้หญิง ส่วนพี่บ้าน แม่พี่บ้าน(ที่เขาต้องตามดูแลเพราะจะเดินออกนอกเส้นทางอยู่เรื่อย) และผมเล่นเกมไปเรื่อยๆ แต่แข่งกันทีไรพี่บ้านก็ชนะผมทุกที ไม่ว่าจะยิงเป้า ปาลูกโป่ง และกระทั่งคีบตุ๊กตายังชนะอ่ะคิดดู

   ผมละเหี่ยใจและไม่อยากเล่นอะไรกับเขาอีกเพราะหมั่นไส้ สุดท้ายเราเลยมานั่งเพ้นท์ตุ๊กตาที่ซุ้มปูนปลาสเตอร์กัน

   ตุ๊กตาที่เลือกมีไม่กี่ลาย มันมาจากการ์ตูนของฝั่งยุโรปและญี่ปุ่น พี่บ้านเลือกตัวมินเนี่ยน สองแบบจากที่มีให้เลือกสามแบบให้กับตัวเองและแม่ ขณะที่ผมกำลังชั่งใจอยู่ว่าตัวเองจะเลือกตัวไหนในมือดี ระหว่างสองตัวการ์ตูนที่มีบุคลิกแก่นแก้วและชอบเรียกร้องความสนใจอย่างมารุโกะ กับชินจัง

   “เลือกนาน” เขาบ่นเบาๆ แล้วหยิบสองตัวในมือผมวางบนชั้น จากนั้นก็ยื่นมินเนี่ยนแบบที่สามมาตรงหน้าผม

   “ทำไมต้องทาสีตัวเหมือนกันด้วยอะ” ผมหน้ายู่ใส่

   “มันไม่ใช่ตัวเดียวกัน มันมาจากหนังเรื่องเดียวกัน” เขาอธิบาย

   “หรือถ้ามึงอยากเพ้นท์ตัวอื่นก็ได้นะ แต่กูคิดว่ามาด้วยกันแล้วทาตัวที่เป็นกลุ่มเดียวกันมันคงน่ารักดี”

   “...”

   “สรุปเอาตัวไหน”

   “...มินเนี่ยนก็ได้”

   ผมตอบเขา สัมผัสได้ถึงความรู้สึกแปลกใหม่ในใจ ความรู้สึกที่คนโดดเดี่ยวและอยู่นอกสายตาตลอดเวลาอย่างผมไม่เคยรู้สึกมาก่อน

   ความรู้สึกว่าเป็นพวกเดียวกัน

   “แม่พี่...” ผมเปรยเสียงเบาอย่างกลัวเขาจะดุ ขณะที่มองแม่ของพี่บ้านทาสีแดงลงบนตัวมินเนี่ยนสลับกับถือสร้อยตัวเองแน่น “เขา...เอ่อ...เป็นแบบนี้มานานยังอ่ะ...ครับ”

   พี่บ้านเหล่ตามองผมตอนที่ทาสีน้ำเงินลงบนกางเกงมินเนี่ยน

   “มึงเสือกไรล่ะ” เขาตอบมาทำเอาใจผมหล่นวูบ ฮือ กูผิดอีกแล้ว

   “มะ...ไม่ได้...”

   “เป็นมาตั้งแต่พ่อกูตาย” แต่เขาก็ยอมตอบออกมาตรงๆ อย่างเปิดใจ ผมหยุดเพ้นท์ทันทีและตั้งใจฟัง “เมื่อก่อนบ้านเราเคยรวยมาก ทำธุรกิจยางพารากัน วันหนึ่งล้มละลายพ่อกูก็ฆ่าตัวตาย แม่ก็เสียใจและยึดติดกับสร้อยเส้นนั้นมาตลอด พอกูจบม.6 ก็เลิกเรียนต่อและย้ายมาอยู่กรุงเทพกับน้า หาเงินให้ครอบครัว ส่งน้องเรียน รักษาแม่”

   “...”

   “นานแล้วเหมือนกันนะที่เป็น ก็พยายามรักษาอยู่ หวังว่าวันหนึ่งแม่จะดีขึ้นและหายเป็นปกติ”

   “...”

   “ยิ้มไรอ่ะ ขนลุก” พี่บ้านแหวแล้วทำหน้าเหวอๆ เพราะเห็นผมตาแป๋วใส่

   “พี่แม่งเท่” ผมตอบ

   “มึงพูดไรเนี่ย” จู่ๆ เขาหน้าแดงอะ เป็นการหน้าแดงแบบโจ่งแจ้งครั้งแรกของเขาต่อผมเลยนะเนี่ย งู้ยยยยย

   “เขินคำพูดผมเหรอ”

   “เขินทำซากไร มึงบ้าป่ะ ทาสีไปดิ๊”

   “หูยยยย อ่ะ ทาๆ” แล้วผมก็คว้าพู่กันมาทาสีมินเนี่ยนต่อ สายตาเหล่มองเขาสลับกับปูนปาสเตอร์ในมือ เห็นเขาเพ่งสมาธิที่การทาสีอย่างเคร่งครัด...เกินไป

   “ระ...เรื่องกุญแจรถอะ”  เขาเริ่มประโยคใหม่อึกอัก “ถ้าหาไม่เจอจริงๆ พรุ่งนี้กู...ดำลงไปหาในแม่น้ำช่วยก็ได้”

   “หา?”  ผมถามกลับด้วยความตกตะลึงที่เขากล้าพูดออกมา “บ้า ปล่อยมันเหอะ เดี๋ยวผมหาทางติดต่อช่างหรือเพื่อนคนอื่นให้มารับก็ได้ แถวนี้มีร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่อะไรงี้ไหม”

   “กะ...ก็พอมี” เขาบอกอย่างพยายามควบคุมเสียงเหมือนไม่ให้รู้สึกว่าเสียฟอร์ม

   “นี่...” ผมยิ้มให้เขาอย่างจริงใจ  “ขอบคุณนะที่จะทุ่มเทให้ขนาดนั้นอะ”

   “ทุ่มเทอะไร้ กูแค่อยากให้มึงไปพ้นๆ จากบ้านกูไวๆ ต่างหาก” เขากรอกตา ผมหัวเราะออกมาเสียงดัง ชั่วขณะนั้นผมนึกถึงคำพูดของอีแดงเพื่อนรัก

   ‘ถ้ามึงจะตื๊อใครสักคน เขาสมควรจะเป็นคนที่มีค่าพอที่จะตื๊อป่ะ’

   แล้วอยู่ๆ ก็รู้สึกดีที่หัวใจไร้ทิศทางมาผมมาถึงที่นี่

   ไม่รู้ว่าเขาหวั่นไหวกับผมหรือยังในตอนนี้ ที่แน่ๆ น่ะผมหวั่นไหวกับเขาเต็มๆ เลย

   “ผมไม่ไปไหนง่ายๆ หรอก” ผมยืนยันอย่างไม่ยอมแพ้ “ผมรู้ที่อยู่บ้านพี่แล้ว ถ้าพรุ่งนี้ผมหาทางกลับบ้านตัวเองได้ผมก็กลับมาเยี่ยมที่นี่ได้เหมือนกัน”

   “มึงจะมาอีกทำไมวะ”

   “ไม่รู้ดิ มาให้พี่สอนทำกระทงให้มันสวยเผื่อไปลอยปีหน้าอีกมั้ง”

   “ประสาท”

   คนหล่ออย่างพี่อเล็กซานเดอร์มันหาได้ทั่วไป

   แต่หล่อ ล่ำ เคยถ่ายแบบกางเกงใน แล้วก็จริงใจแบบพี่บ้าน เห็นทีจะหนึ่งในร้อย...ไม่ก็พัน...ไม่ก็ล้าน

   “คืนนี้จะให้ผมนอนที่บ้านจริงๆ ใช่ไหม”

   “เออ”

   “จะให้ผมนอนห้องใครอ่ะ บ้านเป็นผู้หญิงหมดผมไปนอนด้วยมันคงดูแย่ ผมคงต้องนอนห้องพี่ใช่ไหม”

   “จะห้องใครอีกล่ะ”

   “พี่จะให้ผมนอนนอกมุ้งไหมอ่า ผมกลัวยุงกัด”

   “มึงจะถามไรมากเนี่ย นอนในมุ้งก็ในมุ้งสิวะ”

   “ดีจัง”

   “เป็นบ้าอะไรกับเรื่องที่นอนมากเนี่ยถามจริง ทามินเนี่ยนไปซี่”

   เขาด่าผมแต่มุมปากก็ยกยิ้มขึ้น ถึงจะเป็นรอยยิ้มไม่กี่ครั้งที่ผมได้จากเขา (และไม่แฝงเชิงประชดประชันหรือว่าสมเพชผม) แต่มันก็โคตรรู้สึกดีเลย

   ผมว่าถ้าทำความรู้จักกันมากกว่านี้...เขาต้องเป็นคนยิ้มเก่ง

   คริๆ



- จบ -



เรื่องนี้เป็นหนึ่งในโปรเจกต์ 'Love Day' ที่เป็นการรวมเรื่องสั้นในวันสำคัญ เอฟได้รับผิดชอบในส่วนของวันลอยกระทง แต่เรื่องนี้ยังไม่ผ่านการพิจารณานะคะเลยเอามาลงให้อ่านกัน ยังไงเอฟมีอีกเรื่องคือเรื่องสั้นวันวาเลนไทน์ รวมถึงเรื่องสั้นวันสำคัญของนักเขียนเจ๋งๆ คนอื่นๆ ด้วย ฝาก LOVE DAY ตอนเป็นเล่มด้วยนะคะ : )


มีอะไรติชมได้ในแท็ก #บ้าน ในทวิตเตอร์หรือไปเม้ามอยในเพจได้นะคะ

ตม.
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-07-2016 20:20:20 โดย ตัวแม่ »

ออฟไลน์ treenature

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-0
Re: [เรื่องสั้น] บ้ า น (จบแล้ว)
«ตอบ #4 เมื่อ25-07-2016 21:59:47 »

ชอบ บ้าน ค่ะ โดยเฉพาะเวลาเขิน

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
Re: [เรื่องสั้น] บ้ า น (จบแล้ว)
«ตอบ #5 เมื่อ25-07-2016 22:24:51 »

 :-[

หวังว่าน้องเบิร์ดคราวนี้จะไม่นกอีกรอบนะคะ คึคึ  o18

ออฟไลน์ yunjae123

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 948
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-1
Re: [เรื่องสั้น] บ้ า น (จบแล้ว)
«ตอบ #6 เมื่อ25-07-2016 22:45:05 »

เบิร์ดอาจจะไม่นกแล้วนะจ๊ะ
เพราะพี่บ้านก็ดูจะอะไรๆอยู่นะ ><
ว่าแต่...เขาจะนอนมุ้งเดียวกันใช่มั้ยยยยย
แอร๊ยยยยยยย >//<

ออฟไลน์ Wordslinger

  • แป้งจี่รีรีข้าวสาร
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1180/-5
Re: [เรื่องสั้น] บ้ า น (จบแล้ว)
«ตอบ #7 เมื่อ26-07-2016 00:02:41 »

โอ๊ยยยยย ทำไมไม่เป็นเรื่องยาวคะ อยากอ่านต่ออีกมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ฮือ พี่บ้านเท่มากๆ เลยค่ะ ทีแรกตอนเห็นชื่อเรื่อง ก็คิดว่าคงเป็นตัวเอกกลับไปพักพิงอิงไหล่คนที่บ้านเพราะอกหักรักคุด แต่ผิดคาดมากๆ ค่ะ เพราะกลายเป็นว่า วาสนาได้พาไปเจอกับชายชื่อ "บ้าน" ที่นอกจากจะหล่อล่ำ แล้วยังเคยถ่ายแฟชั่นกางเกงว่ายน้ำอีก ฮือ ชอบมากๆ เลยค่ะเรื่องนี้ อ่านไปยิ้มไป หัวใจเต้นตึกๆ เลยค่ะ นี่กำลังเชียร์ให้เบิร์ดจับกดพี่บ้านด้วยเลย เพราะดูพี่แกก็เล่นด้วยนะคะ มีขงมีเขินอีก โฮะๆๆ

ที่พูดว่าอยากให้เป็นเรื่องยาวนั้น พูดจริงนะคะ เพราะว่าเรื่องนี้มี "ปม" ที่สามารถนำไปขยายได้อีกเยอะเลยค่ะ โดยเฉพาะปมของเบิร์ด แฟนเก่าพี่บ้านอีก โอ๊ย เยอะแยะ เชียร์ให้เขียนขยายนะคะ นะคะ นะคะ

ยังไงก็ขอบคุณมากๆ เลยค่ะ ถ้ารวมเล่มออกเมื่อไหร่ ก็อยากจะซื้อไว้อ่านเหมือนกันค่ะ ^______^

ออฟไลน์ purple

  • Aventador FC
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 355
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
Re: [เรื่องสั้น] บ้ า น (จบแล้ว)
«ตอบ #8 เมื่อ27-07-2016 22:22:35 »

ง่าาา เขินแทนพี่บ้าน น้องเบิร์ดจัดเต็มมากกกก
อยากให้ทำเป็นเรื่องยาวเหมือนกันค่า 555 ถ้าเป็นไปได้น่ะนะคะ
ขอบคุณมากๆค่า ชอบมากก

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
Re: [เรื่องสั้น] บ้ า น (จบแล้ว)
«ตอบ #9 เมื่อ28-07-2016 11:33:40 »

เบิร์ดไม่นกแล้วจ้าาาา

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: [เรื่องสั้น] บ้ า น (จบแล้ว)
« ตอบ #9 เมื่อ: 28-07-2016 11:33:40 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ azure

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 772
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
Re: [เรื่องสั้น] บ้ า น (จบแล้ว)
«ตอบ #10 เมื่อ29-07-2016 10:04:17 »

อ่านแล้วยิ้มไม่หุบเลย :hao6:

ออฟไลน์ mutyamania

  • สามารถติดตามงานติดเรทที่ลงเล้าไม่ได้ที่ ReadAWrite ในชื่อมัสยากลับมาจากป่าช้า
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1898
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +794/-139
    • https://mutyawhocamebackfromthedead.readawrite.com
Re: [เรื่องสั้น] บ้ า น (จบแล้ว)
«ตอบ #11 เมื่อ31-07-2016 21:23:27 »

น่ารักมาก ใสๆ อบอุ่น น้องเบิร์ดตลกดี เป็นตัวแทนของวัยรุ่นในยุคนี้ได้อย่างถูกต้อง ครบถ้วน

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
Re: [เรื่องสั้น] บ้ า น (จบแล้ว)
«ตอบ #12 เมื่อ06-08-2016 20:08:40 »

ชอบอ่ะ บรรยายบรรยากาศบ้านนอกได้ดีมาก
อย่างอื่นไม่เท่าไหร่ติดใจนายแบบกางเกงในนี่แหละ
สงสัยเบิร์ดโดนบิวหลอกเข้าให้แล้ว
 o22 o22

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
Re: [เรื่องสั้น] บ้ า น (จบแล้ว)
«ตอบ #13 เมื่อ08-08-2016 22:40:38 »

จบได้ไงอ่ะคะ ยังไม่ได้ดูรูปพี่บ้านถ่ายแบบกางเกงในเลย 5555555555555555555555555555555

ออฟไลน์ KKKwanGGG

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-2
Re: [เรื่องสั้น] บ้ า น (จบแล้ว)
«ตอบ #14 เมื่อ10-08-2016 09:18:00 »

พี่บ้านโคตรเท่เลย

ออฟไลน์ Raina

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 341
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-2
Re: [เรื่องสั้น] บ้ า น (จบแล้ว)
«ตอบ #15 เมื่อ20-08-2016 04:37:13 »

จบได้ไงอ่ะคะ ยังไม่ได้ดูรูปพี่บ้านถ่ายแบบกางเกงในเลย 5555555555555555555555555555555

อ่านแล้วขำปู้ดดดด เห็นด้วยค่ะ 555

แต่น่าเขียนเป็นเรื่องยาวจริงๆแหละ เริ่มต้นได้น่าสนใจมาก

ออฟไลน์ КίmY

  • BJYX♥
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1714
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-3
Re: [เรื่องสั้น] บ้ า น (จบแล้ว)
«ตอบ #16 เมื่อ20-08-2016 11:04:34 »

อ่านไปยิ้มไป เบิร์ดกับบ้านน่ารักอ่ะ  :impress2:
 :L2: :pig4: :pig4: :L2:

ออฟไลน์ Pisoi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 241
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
Re: [เรื่องสั้น] บ้ า น (จบแล้ว)
«ตอบ #17 เมื่อ20-08-2016 23:44:11 »

เบิร์ดไม่นกแล้วใช่ไหม พี่บ้านน่ารักอ่ะ  :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ P.PIM

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 236
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
Re: [เรื่องสั้น] บ้ า น (จบแล้ว)
«ตอบ #18 เมื่อ21-08-2016 12:31:03 »

อยากให้เป็นเรื่องยาวเหมือนกันค่ะ พี่บ้านโคตรเท่แถมค
เคยเป็นนายแบบกางเกงในอีก  :hao6:
อยากรู้จักน้องเบิร์ดมากกว่านี้ด้วยยยย :ling1:

ออฟไลน์ MSeraph

  • This too shall pass
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1751
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
Re: [เรื่องสั้น] บ้ า น (จบแล้ว)
«ตอบ #19 เมื่อ21-08-2016 17:20:58 »

พี่บ้านน่ารักอะ งุ้ยยยย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: [เรื่องสั้น] บ้ า น (จบแล้ว)
« ตอบ #19 เมื่อ: 21-08-2016 17:20:58 »





ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
Re: [เรื่องสั้น] บ้ า น (จบแล้ว)
«ตอบ #20 เมื่อ22-08-2016 01:43:17 »

ตลกดี

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
Re: [เรื่องสั้น] บ้ า น (จบแล้ว)
«ตอบ #21 เมื่อ23-08-2016 02:54:02 »

อยากได้ตอนพิเศษจังเลย :call:

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
Re: [เรื่องสั้น] บ้ า น (จบแล้ว)
«ตอบ #22 เมื่อ23-08-2016 15:30:20 »

อุ จบซะแล้ว อยากรู้ต่อจังว่าเป็นไงงง :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ blove

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-0
Re: [เรื่องสั้น] บ้ า น (จบแล้ว)
«ตอบ #23 เมื่อ28-02-2020 23:05:43 »

โอ้ยยยยสนุกกกมากเลยอ่ะ กำลังเพลิน ตลกดี ขำๆซึ้งๆ พี่บ้านอบอุ่นมากเลย อยากอ่านต่อ...

ออฟไลน์ mhaparn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 31
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: [เรื่องสั้น] บ้ า น (จบแล้ว)
«ตอบ #24 เมื่อ10-05-2020 23:16:55 »

น่ารักจังเลย เบิร์ดจะไม่นกอีกแล้ว

ออฟไลน์ ืืnanana21

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 116
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: [เรื่องสั้น] บ้ า น (จบแล้ว)
«ตอบ #25 เมื่อ17-05-2020 05:44:14 »

เอาอีกกกกกก
อย่าทิ้งกันไปอย่างนี้นา

ออฟไลน์ darinsaya

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
Re: [เรื่องสั้น] บ้ า น (จบแล้ว)
«ตอบ #26 เมื่อ21-05-2020 21:24:10 »

 :katai2-1: :katai2-1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด