[เรื่องสั้น] รักร้ายผู้ชายอันตราย ตอน กลับมาอีกครั้ง..{จบในตอน}
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [เรื่องสั้น] รักร้ายผู้ชายอันตราย ตอน กลับมาอีกครั้ง..{จบในตอน}  (อ่าน 9920 ครั้ง)

ออฟไลน์ งินจัง

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 11
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้



1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย, ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้งสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกเล้าฯ ในเรื่องการเมือง เชื้อชาติ  เผ่าพันธุ์  ศาสนา และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงการตั้งชื่อเรื่องด้วยคำหยาบ คำไม่สุภาพ  ล่อแหลม และชี้เป้าให้เล้าฯ ถูกเพ่งเล็ง จากทางราชการ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6. การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมฯทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.เมื่อนิยายจบแล้วให้แก้ไขหัวกระทู้ต่อท้ายว่าจบแล้ว


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ
การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

*****************

没有爱 Loveless...รักร้ายผู้ชายอันตราย

+บริสุทธ์..(ใหญ่คิม)

คนๆหนึ่งที่รักเธอคือฉัน
คนๆหนึ่งที่จ้องมองเธอคือฉัน
คนๆหนึ่งที่โหยหาเธอคือฉัน
คนๆหนึ่งที่สูญเสียเธอคือฉัน
คนๆหนึ่งที่รักฉันคือเธอ
คนๆหนึ่งที่จ้องมองฉันคือเธอ
คนๆหนึ่งที่ทำลายฉันคือเธอ
คนๆหนึ่งที่ฉวยโอกาสฉันคือเธอ
คนๆหนึ่งที่ฆ่าฉันคือเธอ

“ ใหญ่ เล็ก นี่พิมพ์ประภาเขาจะมาอยู่ที่นี่ด้วยนะลูก รู้จักคุณน้าเขาไว้ซิ “
“ แล้วตัวเล็กนี่ใครอ่ะป่ะป๊า “ เสียงเด็กน้อยอายุเจ็ดขวบถามขึ้นขณะจ้องมองเด็กตัวน้อยตากลมโตผิวขาวเนียนละเอียดนั่งอยู่บนตักคุณน้าคนสวย เมื่อกี้ก็เห็นแล้วล่ะลงจากรถมาพร้อมปะป๊าแต่เขาไม่สนใจ
“ หึๆๆ น่ารักรึเปล่าเล็ก “ คุณภาคินยิ้มให้ลูกชายคนเล็กของตัวเองทันที เห็นสายตาสนใจออกนอกหน้าของลูกชายแล้วรู้สึกโล่งใจไปได้เปราะหนึ่ง แต่ที่หนักใจคงเป็นลูกชายคนโตของตัวเองใหญ่โตพอจะรับรู้เรื่องนี้ได้ตอนนี้ถึงได้เอาแต่เงียบและจ้องมองผู้หญิงแปลกหน้าด้วยสายตาเรียบนิ่งตามนิสัย
“ เหมือนตุ๊กตาเลย ลูกคุณน้าเหรอ “
“ ใช่แล้ว น้องกับคุณน้าพิมพ์ประภาจะมาอยู่กับพวกเราด้วยตั้งแต่วันนี้เลย “
“ หา ทำไมหม่าม๊าไม่เห็นบอกไว้เลย จะมีงานเลี้ยงอะไรกันเหรอฮะ “ เล็กหันมาถามแม่ ความประสีประสาของเด็กคงไม่เข้าใจคำว่าเข้ามาอยู่ร่วมกันทั้งที่ไม่รู้จักกันมาก่อน
“ เปล่าจ๊ะ คุณน้ากับน้องจะมาอยู่กับเราด้วย “
“ ไม่มีบ้านอยู่เหรอถึงต้องมาขออาศัย “
“ ใหญ่พูดอะไรน่ะลูก ขอโทษคุณน้าเขาเดี๋ยวนี้เลยนะ “ ผู้ใหญ่ทุกคนหันมาสนใจคำพูดของคุณชายคนโตพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งเกินเด็กวัยแค่สิบขวบ ยิ่งโดยเฉพาะกับคุณผู้หญิงถึงกับเบิกตากว้างเมื่อได้ยิน
“ ไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณพี่ คุณใหญ่ยังเด็กคงพูดตามประสาเด็กแหละค่ะ “
“ ใหญ่ขอโทษคุณน้าเขาซิลูก พูดแบบนี้ไม่น่ารักเลยนะ “ คุณผู้หญิงพูดกับลูกชายแต่ก็ไร้ประโยชน์เมื่อลูกชายของเธอเอาแต่เงียบแต่มองสองแม่ลูกนั่น
“ ยังไงน้ากับน้องก็ต้องฝากตัวด้วยนะคะ “ พิมพ์ประภายิ้มอ่อนโยนเคลือบยาพิษให้เด็กชายที่จ้องเธอตั้งแต่ที่เธอเหยียบเข้ามาในบ้านกรภัครวัฒน์ ความเย่อหยิ่งเกินเด็กสายเลือดของผู้ชายที่เธอรักไหลเวียนอยู่ในเด็กคนนี้เต็มเปี่ยม แข็งแกร่งและดื้อรั้นไม่ต่างจากท่านเจ้าสัวภาคิน
“ นี่ ไปเล่นกันมั้ยเธอชื่ออะไรล่ะ “ เล็กกระตือรือร้นกับตุ๊กตาตรงหน้ามาก ใหญ่เพียงแค่ปรายตามองแต่ไม่สนใจ
“ บอกพี่เขาไปซิลูก “
“ ค..คิมฮะ “
“ เหรอ ทำไมไม่ใส่กระโปรงล่ะเป็นผู้หญิงนะใส่กางเกงไม่น่ารักเลย “ เล็กย่นคิ้วพูดตามที่เห็น ยิ่งเดินเข้าไปใกล้เท่าไหร่เด็กน้อยน่ารักก็ยิ่งเอียงอายหลบเข้าหาคุณแม่มากขึ้นเท่านั้นจนพิมพ์ประภาต้องอุ้มคิมลงจากตัก
“ น้องเป็นผู้ชายนะตาเล็ก พูดแบบนี้ได้ไงน่าตีจริงๆ “
“ หม่าม๊า นี่มันผู้หญิงชัดๆ “ เล็กเถียงเสียงแข็งพร้อมกับชี้นิ้วไปทางเด็กผู้หญิง
“ พาน้องไปเล่นข้างนอกไปเล็ก ป๊าจะคุยธุระ “
“ ก็ได้ ไปกัน “ เล็กเดินมาคว้าข้อมือน้องคนใหม่แล้วก้าวฉับๆไม่รอให้เด็กตัวเล็กตามทัน
“ เล็กอย่าทำน้องแรงๆนะจริงๆเลยเด็กคนนี้เห็นเป็นของเล่นรึไง “ เสียงคุณผู้หญิงไล่หลังไปแต่ใช่ว่าเจ้าตัวแสบจะสนใจฟัง ยังลากน้องออกไปจากบ้านพาไปหาเพื่อนอีกคนแนะนำให้รู้จักกันไว้
“ น่ารักออกนะคะคุณพี่ “
“ ใหญ่ตามไปดูน้องหน่อยลูก เดี๋ยวเล็กเล่นกับคิมแรงๆจะบาดเจ็บกัน “
“ ผมมีเรียน ขอตัวครับ “ เด็กหนุ่มพูดตัดอย่างไร้เยื่อใยแล้วขอตัวออกมาก่อน คุณชายเดินหน้านิ่งจะว่าไม่พอใจอยู่ก็บอกไม่ถูกแต่คนเป็นพ่อแม่คงรู้ดีว่าตอนนี้ลูกชายคนโตกำลังแสดงอาการต่อต้าน  เล็กจูงน้องให้เดินตามตัวเองไปในสวนลัดเลาะไปตามทางเพื่อให้ถึงบ้านเพื่อนสนิทของตัวเองเร็วๆจะได้อวดของเล่นของตัวเองโดยที่ไม่ได้หันมามองว่าเด็กตัวเล็กกำลังพยายามก้าวให้ทันพี่ชาย
“ เอ็ม! ดูนี่ซิปะป๊าพาเด็กคนนี้มาด้วย “ เล็กพูดจ้อทันทีเมื่อเห็นเพื่อนตัวเองกำลังนั่งทำการบ้านอยู่ตรงโต๊ะไม้หินอ่อน
“ เพื่อนเหรอครับคุณเล็ก “
“ ไม่ พูดไม่รู้เรื่องเหรอบอกว่าปะป๊าพามาไง “ เล็กท้าวเอวพูดเสียงไม่ได้ดั่งใจ
“ สวัสดีครับผมชื่อเอ็ม “ เอ็มยิ้มอ่อนโยนให้เด็กที่อายุน้อยกว่าตัวเองแน่ๆ เด็กน้อยตัวป้อมมองพี่ชายที่ดึงเขามาแล้วก็มองพี่ที่กำลังยิ้มใจดีให้ด้วยท่าทางไม่ไว้ใจแต่ก็ยอมบอกชื่อของตัวเอง
“ ชื่อคิมฮะ ชื่อจริงๆชื่อคิมหันต์ฮะ “
“ เฮ้ พูดฮะอีกแล้วตัวเองเป็นผู้หญิงนะ “
“ คิมไม่ใช่ผู้หญิง คิมเป็นผู้ชายฮะ “ เด็กตัวเล็กผิวขาวใสส่ายหน้าปฏิเสธแทบทันที
“ คิดว่าโง่รึไง เถียงเหรอๆ “ เล็กขมวดคิ้วเอื้อมมือไปหยิกแก้มนิ่มของเด็กตรงหน้าอย่างหมั่นเขี้ยว
“ อื้ออ คิมเจ็บ ฮึ่กก ปล่อยนะ “ มือป้อมพยายามดึงมือพี่ชายออกแต่เล็กก็ยิ่งทั้งบิดทั้งบีบ
“ คุณเล็กอย่าทำแบบนั้นครับ “ เอ็มตาโตรีบมาช่วยดึงมือของคุณชายออกแล้วดึงคุณหนูตัวเล็กนั่นมาไว้ในอ้อมแขน
“ ก็มันขัดใจนี่น่า
“ ไม่เจ็บนะครับคุณหนู “ เอ็มก้มลงพูดกับน้องที่เขาปกป้องเอาไว้
“ คิมเจ็บแก้ม “ มือเล็กยกขึ้นกุมแก้มบวมๆของตัวเองไว้มองพี่ชายด้วยดวงตารื้อน้ำ เล่นแบบนี้คิมเจ็บ
“ ขัดใจแบบนี้ไม่เล่นด้วยแล้ว น่าเบื่อ “ คุณชายพ่นลมหายใจเซ็งๆ พวกเบื่ออะไรง่ายๆมองเด็กตรงหน้าน้ำตาคลอหน่วงแก้มขาวแดงระรื่นเพราะโดนบีบ เห็นแล้วก็น่ารักดีอยู่หรอกนะแต่ไม่ไหวขัดใจแบบนี้เล่นด้วยไม่สนุก  ร่างสูงของคุณชายใหญ่ของบ้านเดินตามน้องมาเห็นทั้งน้องชาย เอ็มและเด็กที่เขาไม่อยากจะแลอยู่ด้วยกันจนได้
“ เล็ก “
“ พี่ชาย ดูซิเด็กนี่ไม่น่ารักเลย “ น้องชายตัวแสบพูดด้วยท่าทางไม่ค่อยสบอารมณ์ นิ้วเรียวชี้เด็กตัวน้อยที่เขาลากมาเองกับมือ คิมรีบขยับตัวเข้าไปซ่อนด้านหลังของเอ็มแทบทันทีเมื่อเห็นพี่คนนั้นเดินเข้ามา
“ ไม่น่ารักแล้วพามันมาทำไม “
“ ก็จะเอามาให้เอ็มดูเฉยๆ “
“ พากลับไปให้แม่มันซะ “ คุณใหญ่พูดเสียงนิ่งมองเด็กที่แอบอยู่ด้านหลังของเอ็มด้วยสายตาเรียบเฉย คนอื่นอาจจะเคยชินกับคนๆนี้แต่ไม่ใช่กับเด็กน้อยคิมหันต์ แววตาที่มองเขานั้นไม่ควรจะเข้าไปใกล้เลยซักนิดสัญชาตญาณความเป็นเด็กกำลังสั่งไม่ให้เข้าใกล้พี่คนนี้
“ ก็ได้ งั้นไปได้แล้ว “ เล็กเดินมาคว้าข้อมือน้องใช้แรงตัวเองลากให้ไปด้วยกันแต่เด็กน้อยกลับรั้งตัวไว้แล้วรีบเข้ามาหลบอยู่ด้านหลังของเอ็มอีกครั้ง พี่ชายคนนี้ใจดีที่สุดและปลอดภัยที่สุดสำหรับเขาแล้ว
“ คิมไม่ไป คิมจะอยู่กับพี่เอ็ม “
“ เอ่อ “ เอ็มเลิกละเห็นสายตาน่ากลัวของคุณใหญ่หันมามอคุณหนูด้านหลังอย่างทำอะไรไม่ถูกนอกจากเออออไปด้วย
“ เหมือนลูกหมาเลย เชอะ “ เล็กพูดตามประสาเด็กเอาแต่ใจ
“ เล็ก พากลับไปหาแม่มัน แล้วถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องเข้าใกล้ เสนียดบนตัวแม่มันเยอะ “
“ พี่ชายพูดอะไร “
“ ที่พูดน่ะ ได้ยินรึเปล่า “ พี่ชายหันมาพูดกับน้องชายด้วยน้ำเสียงน่ากลัวแต่เหลือบตามองส่วนเกินของครอบครัวเขา  เอ็มหันมามองคุณหนูที่เอาแต่หลบอยู่ด้านหลังเขาไม่เข้าใจแม้แต่คำพูดของคุณชายแต่คุณหนูที่แสนเปราะบางคนนี้ช่างน่ารักและน่าเอ็นดู 
จุดเริ่มต้นของความแตกแยกเล็กๆในครอบครัวกรภัครวัฒน์ แม้การมีเมียน้อยของผู้ปกครองจะไม่ได้เป็นเรื่องแปลกแต่จุดด่างเล็กๆนี้กลับเป็นจุดบอดสนิทเปลี่ยนเด็กคนหนึ่งที่เคยไร้เดียงสาให้รู้จักความหลงใหลและมัวเมาในรักจนเสียความเป็นตัวเอง
ท่านเจ้าสัวภาคินมีภรรยาสองคน คุณใหญ่และคุณเล็กเป็นลูกชายที่เกิดจากคุณผู้หญิงเป็นเป็นภรรยาที่จดทะเบียนสมรสอย่างถูกต้องตามกฎหมาย หญิงสาวสูงศักดิ์ที่มีสายเลือดมังกรอย่างแท้จริง ส่วนเด็กน้อยคิมหันต์เป็นลูกชายของพิมพ์ประภาซึ่งกลายเป็นภรรยานอกสมรสสองแม่ลูกเข้ามาอยู่ในบ้านกรภัครวัฒน์เมื่อคิมอายุได้สี่ขอบ เด็กชายที่มีใบหน้าน่ารักดวงตากลมโตจมูกเล็กๆและริมฝีปากแดงอิ่มผิวขาวละเอียดราวกับเด็กผู้หญิงแตกต่างจากพี่ชายทั้งสอง 
รถแล่นเข้ามาเทียบจอดหน้าบ้านตามเวลากลับจากโรงเรียนพิเศษของคุณชาย เล็กเปิดประตูรถเดินดุ่มๆโยนกระเป๋าลงบนโซฟาแล้วรีบเข้าไปหาแม่นมของตัวเองทันที ยิ่งเห็นน้องชายกำลังเดินผ่านประตูคุณชายตัวแสบก็รีบใส่เกียวิ่งไปดักหน้าเอาไว้
“ ลูกหมาทำอะไร “
“ เอ๋ คิมไม่ใช่ลูกหมาฮะ “
“ ขวางทางจริงๆเลย ป้าอรไปไหน “ เล็กยืนขวางน้องเอาไว้แล้วยังแกล้งไม่ให้คิมออกไปจากประตูได้
“ ป้าอรบอกว่าจะไปเอาขนมมาให้คิม “
“ อ๋อเหรอ “
“ พี่ชาย คิมจะออกไป “
“ ก็ออกไปซิ “ เล็กพูดแต่ก็ยังขยับตัวดักไม่ให้น้องผ่านตัวเองไปได้อยู่ดี คิมเบ้ปากเหมือนถูกแกล้งดวงตากลมโตช้อนมองพี่ชายที่สูงกว่าแต่เล็กก็ยังไม่สนใจยังแกล้งอยู่อย่างนั้น ยิ่งไม่มีผู้ใหญ่ด้วย
“ งื้ออ เจ็บนะ “ คิมร้องลั่นเมื่อโดนเล็กดึงแก้มตัวเองอีกแล้ว
“ อ้วน แก้มก็เยอะ ไม่น่ารักด้วย “
“ เล็ก หยุดยุ่งกับมันซะที “ ใหญ่ยืนมองอยู่ได้ซักพักแล้วชักรำคาญ เล็กหันมาทำหน้าเซ็งๆใส่
“ แค่แกล้งนิดเดียวเอง “ เขาพูดพึมพำ น้องตัวเล็กเหมือนชะงักเมื่อเห็นพี่ใหญ่เดินเข้ามาใกล้ คิมเงยหน้าขึ้นมองพี่ชายตัวโตกว่ากำลังมองตัวเอง
“ รู้อะไรมั้ย อยากกินขนมก็ต้องเดินไปเอาเอง “
“...........”
“ หรือคิดว่าตัวเองเป็นเด็กแล้วต้องให้คนอื่นมาเอาใจรึไง เป็นแค่ลูกเมียน้อยอย่าบังอาจใช้ให้คนอื่นทำอะไรให้ “
“ พี่ชาย พูดอะไรน่ะ “ เล็กขมวดคิ้ว
“ บอกแล้วใช่มั้ยว่าอย่ายุ่งกับไอ้เด็กนี่ ห้ามมายุ่งกับมัน “ ใหญ่หันมาพูดกับน้องชายตัวเองแล้วเดินขึ้นห้องไปเลย เล็กมองตามแล้วหันมามองเด็กข้างๆตัวเองเขายังเด็กจนไม่เข้าใจว่าทำไมพี่ต้องบอกว่าอย่ามายุ่งกับลูกหมาน่ารักตัวนี้ แต่ที่แน่ๆดูเหมือนพี่ชายจะไม่ชอบเอาซะเลย
ใหญ่เดินขึ้นมาบนห้องด้วยสภาวะอารมณ์ไม่ดี เห็นผู้หญิงที่เพิ่งเข้ามาอยู่ในบ้านกำลังเดินยิ้มหน้าระรื่นเสแสร้งเข้ามาแล้วยิ่งทำให้เขาต้องหยุดมองผู้หญิงคนนั้นด้วยสายตาที่ประเมินค่าอะไรซักอย่าง
“ กลับมาแล้วเหรอใหญ่ “
“ เธอเป็นใครถึงกล้ามาเรียกชื่อได้ไม่ทราบ “
“ เป็นเด็กเป็นเล็กพูดจาแบบนี้กับผู้ใหญ่กว่า แม่เธอไม่สั่งสอนรึไงจ๊ะ “
“ เมียเก็บ.. เป็นแค่เมียเก็บไม่มีปัญญาจะออกไปชูคอข้างนอกด้วยซ้ำ แล้วคิดจะมาวางอำนาจในบ้านได้รึไง “
“ ห๊ะ! แกว่าอะไรนะ! “
“ ไปฟ้องป๊าซิ อยากจะรู้เหมือนกันว่าคนอย่างเธอจะมีปัญญาทำอะไรฉันได้ “
“ ไอ้ใหญ่!! “
“ เกิดอะไรขึ้นน่ะ “ ร่างบางของคุณหญิงเดินหน้าตื่นเข้ามาทันทีเมื่อได้ยินเสียงหวีดร้องของผู้หญิง แล้วยิ่งตกใจคือลูกชายของเธอกำลังยืนอยู่ด้วย
“ สั่งสอนลูกยังไงคะถึงได้กล้ามาพูดอวดดีต่อหน้าฉัน! “ พิมพ์ประภาหันไปแว๊ดใส่คุณหญิงอย่างโมโห ร่างบางเดินเข้ามาหาลูกชายตัวเอง
“ ใจเย็นก่อนภา มันเกิดอะไรขึ้น “
“ บอกแม่แกไปซิว่าแกพูดจาบจ้วงอะไรฉัน “ หญิงสายเดือดดานอยากจับไอ้เด็กอวดดีนั่นมาสั่งสอนแม้แต่แม่มันเดินมายังกล้าใช้สายตาเหนือกว่ามองเธอ
“ ใหญ่ เกิดอะไรขึ้นลูก “
“ ม๊าจะสนใจผู้หญิงสันดานไม่ดีคนนี้เหรอครับ “
“ ใหญ่ ทำไมพูดแบบนั้นลูก “ คุณหญิงตกใจเมื่อลูกชายพูดคำแบบนี้ออกมาจากปาก
“ แกว่าใครสันดานไม่ดี “
“ กิ้งก่าได้ทอง “ คุณชายพูดเสียงเรียบนิ่งแต่สายตาเหยียดหยามกันชัดๆ ร่างโปร่งเดินเข้าห้องตัวเองไปทันทีไม่อยากได้ยินเสียงผู้หญิงคนนี้
“ คุณพี่! ถ้าไม่สั่งสอนไอ้เด็กนี่ฉันจะฟ้องคุณภาคินแน่! “ พิมพ์ประภาหันมาหาเรื่องผู้หญิงตรงหน้า
“ ภา ใจเย็นๆได้มั้ยเขายังเด็ก “
“ หยิ่งเหมือนแม่มันน่ะซิ! “
“ หยุดพูดอะไรก้าวร้าวแบบนี้ซักที เธอควรทำตัวให้เป็นผู้ใหญ่ให้เด็กเคารพมากกว่าจะเอาชนะนะ พี่ขอเตือน “ คุณหญิงพูดด้วยน้ำเสียงเหนื่อยหน่ายก่อนจะเดินหนีไม่อยากอยู่ใกล้ พิมพ์ประภากัดปากแน่นอยากจะกรี๊ดให้ดังลั่น ไม่ได้ดั่งใจตัวเองเลยซักนิด.. คุณหญิงเปิดประตูห้องลูกชายเข้ามาในห้อง ใหญ่หันมามองเมื่อเห็นแม่เลยทำได้แค่ถอนหายใจเบาๆใบหน้าเรียบนิ่งแสดงความไม่พอใจชัดเจน
“ อารมณ์ไม่ดีเหรอลูก “ แม่เดินมานั่งใกล้ๆมือบางจับมือของลูกชายมาบีบเอาไว้
“ ม๊า ทำไมถึงยอมให้ผู้หญิงคนนั้นเข้ามาครับ “
“ ทำไมล่ะ “
“ ผมเกลียดมัน “
“ ใหญ่ ไม่เอานะอย่าคิดแบบนั้น “
“ ผมเกลียดมันทั้งแม่ทั้งลูก ผมเกลียดป๊าด้วย “ ใหญ่พูดเสียงน่ากลัว เขากำลังแค้นเจ็บจนหาที่ระบายไม่ได้ ถึงได้อยู่ในอารมณ์นี้ไม่อยากแม้แต่เห็นหน้าใครทั้งนั้น
“ ใหญ่จะเกลียดป๊าเหรอ “
“...........”
“ ป๊าไม่ได้ตั้งใจให้มันเกิดขึ้นหรอกนะ แต่ตอนนี้มันเกิดขึ้นแล้วเราทำอะไรไม่ได้หรอกแล้วอีกอย่าง ใหญ่เป็นเด็กจะพูดคำไม่ดีแบบนั้นกับผู้ใหญ่ไม่ได้นะจ๊ะ ต่อให้ไม่พอใจเขาก็ต้องอดทนเอาไว้เพราะถึงยังไงเขาก็เป็นผู้ใหญ่ “
“ ทำไมม๊าต้องปกป้องป๊า ต้องปกป้องพวกมันด้วย! “
“ ม๊าทำให้ลูกคิดแบบนั้นเหรอหื้ม “
“ ........... “
“ เขาอยากทำอะไรก็ปล่อยให้เขาทำไป ถ้าเราเอาตัวเองลงไปเกลือกกลั้วด้วยตัวเราเองนั่นแหละที่กลายเป็นฝ่ายแพ้ ม๊าไม่ได้รู้สึกแพ้พิมพ์ประภาหรือว่าอยากเอาชนะเขา ม๊าอยู่ในที่ของม๊าเราไม่ได้ออกนอกเส้นใครจะทำอะไรเราได้ “
“ แต่ผู้หญิงคนนั้นพูดอะไรไม่ดีกับม๊า แล้วถ้ามันเอาเรื่องแบบนี้ไปบอกป๊าจะทำยังไง ม๊าก็เห็นว่ามันเป็นคนยังไง “
“ ใหญ่คิดว่าป๊าจะกล้าทำแบบนี้กับม๊าเหรอ “
“ .......... “
“ พิมพ์ประภาเป็นเมียอีกคนก็จริง แต่ใหญ่กับเล็กเป็นลูกของป๊า เชื่อม๊านะต่อให้ใครคิดจะทำไม่ดีกับลูกในฐานะพ่อกับแม่จะต้องปกป้องลูกๆ ป๊าเขาก็เหมือนกันใหญ่ไม่ต้องกังวลเรื่องที่จะถูกผู้หญิงคนนั้นไปพูดอะไรไม่ดีกับป๊าหรอกนะ “
“ ม๊าเชื่อใจป๊าเกินไปแล้วนะครับ “ 
“ เป็นคู่ชีวิต เป็นสามีเป็นภรรยาเราต้องเชื่อใจกัน ต่อไปถ้าลูกจะมีคนที่รักก็ต้องเชื่อใจเขา “
“............”
 “ อีกอย่างใหญ่อย่ามองคิมหันต์ไม่ดีเลยนะลูก น้องยังเด็กเขาไม่รู้เรื่องอะไรด้วยหรอก “
“ ซักวันมันก็ต้องเหมือนแม่มัน “
“ ตัดสินจากบุพการีก็ไม่ได้อีกเหมือนกัน น้องน่ารักใหญ่ก็เห็นเขายังไร้เดียงสาถ้าเขาอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดีเขาก็จะโตขึ้นเป็นเด็กดี ใหญ่กับเล็กเป็นพี่ชายต้องปกป้องน้องรู้มั้ย “
“ ผมไม่ใจดีเหมือนม๊าหรอก จะให้ผมญาติดีกับคนพวกนั้นไม่มีทางครับ “  ร่างโปร่งลุกขึ้นขอตัวไปเปลี่ยนเสื้อผ้าไม่ขอคุยถึงเรื่องนี้อีก คนเป็นแม่ได้แค่ถอนหายใจเบาๆถึงจะเป็นเด็กแต่ความคิดแบบนี้ก็ไม่ควร เธอไม่รู้ว่าจะต้องสอนให้ใหญ่คลายอักคติและลดทิฐิของตัวเองลงยังไง
ใหญ่อาบน้ำลงมาด้านล่างอีกครั้ง ป้าอรกำลังจัดโต๊ะอาหารเย็น ส่วนน้องชายตัวแสบหายไปเล่นกับเอ็มตรงสวนข้างบ้าน ตาคมมองเด็กตัวป้อมกำลังนั่งต่อเลโก้ในห้องนั่งเล่นเพียงคนเดียว คำพูดของแม่ดังเข้ามาในหูแต่เจ้าตัวเลือกที่ไม่สนใจ เขาไม่อยากสนใจ ไม่อยากมองหน้า ไม่อยากเห็นใครอยู่ในสายตาทั้งนั้น 
“ พี่ชาย “  เสียงเรียกทำให้ใหญ่หันมาสนใจ คิมลุกขึ้นเดินเร็วๆมาจับมือเขาแล้วถามด้วยน้ำเสียงกล้าๆกลัวๆ ดวงตากลมโตแสนซื่อจับจ้องเขาด้วยแววตาเหงาหงอย แต่ก็กระตือรือร้นอยากจะเล่นกับใครซักคน
“ ......... “
“ ต่อบ้านด้วยกันมั้ยฮะ “
................................................................................





Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-09-2016 23:59:01 โดย งินจัง »

ออฟไลน์ งินจัง

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 11
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
ใหญ่เพิ่งกลับจากเรียนพิเศษเห็นรถอีกคันจอดอยู่แต่แค่เดินผ่านประตูเข้ามาเสียงตวาดลั่นของใครบางคนดังเข้ามา ร่างโปร่งรีบเดินเข้าไปในห้องโถงทันที ป้าอรยืนทำหน้าไม่ค่อยดีเขายิ่งกังวลกลัวว่าพ่อกับแม่จะทะเลาะกัน
“ เกิดอะไรขึ้นเหรอครับป้าอร “
“ คุณใหญ่กลับมาแล้วเหรอคะ “
“ เกิดอะไร ทำไมเสียงดังขนาดนี้ “
“ เอ่อ คือ “ ป้าอรไม่กล้าตอบ เขาจะเดินเข้าไปก็โดนแม่นมดึงรั้งเอาไว้พร้อมกับส่ายหน้าเบาๆคล้ายกับบอกว่าไม่ควรเข้าไปตอนนี้
[ผมไม่ยอมครับ]
[อะไรคือไม่ยอม แกยังมีหน้าพูดแบบนี้ต่อหน้าฉันเหรอห๊ะ!! ] เสียงทุ้มตวาดดังลั่น ไม่สนใครหน้าไหนในบ้านตอนนี้แม้แต่เจ้าของบ้านยังต้องยอมนั่งฟังเฉยๆโดยที่มีพ่อตายืนค้ำหัวชี้หน้าด่าอยู่
[อี๋หลินเป็นเมียผม เธอก็ต้องอยู่กับผมเท่านั้น]
[ฉันจะพาลูกสาวกับหลานฉันกลับ คนอย่างแกไม่มีสิทธ์มาต่อรองอะไรทั้งนั้น!]
[คุณ ใจเย็นๆก่อนคุยกันดีๆก็ได้นี่คะ ] ภรรยาพูดกับสามีให้ใจเย็นลงก่อน เธอมองลูกสาวกับลูกเขยกำลังทำหน้าลำบากใจแล้วก็นึกสงสาร โดยเฉพาะกับลูกสาวของตัวเอง เรื่องที่ภาคินพาผู้หญิงกับลูกติดเข้าบ้านรู้ถึงหูของพวกเขา คนเป็นพ่อแม่ต่างก็เป็นห่วงลูกทั้งนั้น แต่ที่โกรธและโมโหที่สุดคงไม่พ้นผู้ชายที่กำลังแสดงท่าทางไม่พอใจอยู่
[ใจเย็นอะไร คนที่เสียหายมันลูกสาวเรา! คิดไว้แล้วไม่มีผิดคนพวกตระกูลเฉินมันคบไม่ได้!]
[ผมยอมรับว่าตัวเองผิดทำให้อี๋หลินเสียใจ แต่ผมจะยอมให้คุณพ่อกับคุณแม่พาเมียกับลูกผมไปไม่ได้นะครับ]
[เอานังผู้หญิงชั้นต่ำมาอยู่ในบ้าน ยังดูถูกเมียแกไม่พออีกรึไง! ]
[กรุณาฟังที่ผมจะอธิบายด้วยนะครับ]
[จริงซินะ เมียเก่า คนรักเก่าหรือชู้ หึ ไม่ว่าจะเรียกอะไรสุดท้ายแกก็หักหลังลูกสาวฉันอยู่ดี!]
[ตอนนี้ผมรักอี๋หลินคนเดียว เรื่องที่เกิดขึ้นยังไงผมก็ต้องรับผิดชอบ]
[ทำมันท้องแกต้องรับผิดชอบเหรอห๊ะ แล้วที่แกหยามศักดิ์ศรีฉันทำลูกสาวฉันท้องแกต้องรับผิดชอบด้วยใช่มั้ย!!]
[...........]
[ไปเก็บเสื้อผ้า แล้วหลานกลับมารึยัง]
[ป๊าคะ ]
[ไปเก็บเสื้อผ้า จะให้สั่งซ้ำใช่มั้ยโจวอี๋หลิน!] คำสั่งของพ่อทำให้เธอต้องทำอะไรไม่ได้ ร่างบางขยับตัวลุกขึ้นแต่มือหนาของสามีกลับดึงรั้งเอาไว้
“ อยู่กับผมนะ “
“............”
“ นะครับ “  ภาคินบีบมือบางของภรรยาแน่นถ้าปล่อยไปอีกครั้ง เขาคงต้องเสียไปตลอดกาลแน่ อี๋หลินเม้มปากแน่นสายตามั่งคงและขอร้องให้อยู่เคียงข้างทำให้เธอลังเลจะทำตามคำสั่งของป๊า ร่างสูงของโจวหมิงเทียนเห็นลูกสาวใจอ่อนให้ยิ่งเดือดดาลเดินเข้าไปกระชากแขนอี๋หลินให้พ้นจากลูกเขยตัวดีออกมา
[แกจะโง่ไปถึงไหนห๊ะ! ให้มันหลอกซ้ำซากแค่นี้ก็เกินพอแล้ว!! กลับไปกับป๊า] แรงบีบและคำพูดทำให้อี๋หลินไม่มีสิทธ์จะทักท้วง ดวงตากลมโตสั่นไหวจะปล่อยให้น้ำตาไหลออกมา
[ คุณพ่อผมขอร้องครับ] ร่างสูงของภาคินรีบลุกขึ้นทันที แค่จะเข้าไปดึงร่างของภรรยากลับมายังไม่กล้าเพราะคนที่สร้างกำแพงสูงชันนั้นไว้ยังแข็งกร้าวไม่ยอมให้เขาผ่านไปอีกแล้ว
[ไม่ต้องมาเรียกฉันว่าพ่อ! ] คนเป็นใหญ่ที่สุดในตอนนี้ตวาดเสียงแข็งกร้าวมองเจ้าของบ้านก้มลงคุกเข่าต่อหน้าตัวเองเป็นครั้งที่สอง  อี๋หลินร้องไห้ออกมาพยายามบิดข้อมือจากป๊า
[ผมเคยสัญญาต่อหน้าคุณพ่อว่าจะรักและดูแลลูกสาวคุณพ่อไปจนกว่าตัวเองจะตายจากไป ผมยังรักษาสัญญานั้น ให้โอกาสผมดูแลอี๋หลินกับลูกต่อไปเถอะนะครับ]
[แกคิดว่าแกได้ลูกสาวฉันไปง่ายๆแล้วจะทิ้งขว้างได้ง่ายๆรึไงเฉินหย่งเจิ้น รู้เอาไว้เลยนะไม่ว่าจะอยู่ในฐานะไหนแกก็ไม่คู่ควรกับลูกสาวฉันตั้งแต่แรก!]
[ผมไม่เคยคิดจะทิ้งขว้าง ผมรักและให้เกียรติอี๋หลินเสมอมาและยังเคารพคุณพ่อกับคุณแม่เช่นเดิมครับ ให้อภัยผมอีกครั้งเถอะนะครับอย่าพาอี๋หลินกลับไป] ภาคินก้มหัวลงจนชิดพื้นขอร้องให้พ่อตาปล่อยภรรยา กลับมาให้เขา
[คุณตาครับ] ร่างโปร่งตัดสินใจจะเดินเข้ามาในห้องโถงยิ่งเห็นแล้วบรรยากาศยิ่งจะแย่ลงทุกที ทุกคนในนั้นหันมาสนใจเขาแม้แต่คุณตาก็เช่นกันทำให้อี๋หลินได้จังหวะบิดมือตัวเองออกแล้วรีบเข้าไปหาสามีทันที แขนแกร่งดึงร่างบางของภรรยาเข้ามาในอ้อมกอดของตัวเอง
[ต้าอวี๋กลับมาแล้วเหรอลูก] คุณยายพยายามยิ้มอ่อนโยนให้หลานชายทั้งที่ไม่น่าจะยิ้มออกในตอนนี้มีเรื่องเกิดขึ้นบรรยากาศคลุมเครือ ร่างโปร่งของหลานชายก้มหัวลงให้ทั้งคุณตาและคุณยาย
[สวัสดีครับ]
[น้องอยู่ที่ไหน] โจวหมิงเทียนหันมาถามด้วยน้ำเสียงน่ากลัว แต่ก็อ่อนลงมากแล้ว
[วันนี้เขามีเรียนพิเศษยังไม่กลับครับ]
[สั่งให้คนไปรับ ตาจะพาหลานกับแม่กลับบ้านของเรา]
[คุณตาจะพาม๊ากลับไปด้วยเหรอครับ] ใหญ่หันไปมองพ่อกับแม่แล้วกลับมาสบตากับผู้อาวุโสที่สุด
[ใช่ ตาจะพาม๊ากับหลานไปให้พ้นผู้ชายเห็นแก่ตัวคนนี้]
[ผมรู้ว่าสิ่งที่ป๊าทำคือสิ่งผิดพลาดและเห็นแก่ตัวครับ แต่ม๊าบอกผมว่าคนที่เป็นสามีและภรรยาต้องเชื่อใจกัน]
[..........]
[คุณตาจะพาม๊ากลับไปทั้งที่ไม่ถามม๊าซักคำเลยเหรอครับ] ใหญ่พยายามพูดให้คุณตาหันมาสนใจเขามากกว่าไปจัดการพ่อแม่ของตัวเอง
[คิดว่าถ้าถามแล้วม๊าแกจะยอมเหรอ ตาถึงต้องมาที่นี่ ]
[.........]
[ผู้ชายคนนี้มันต้องถูกทำโทษ! แกก็เลือกเอาเองละกันอี๋หลินจะกลับไปกับฉันหรือจะอยู่ที่นี่แต่ถ้าแกจะอยู่กับผู้ชายสารเลวนี่ต้าอวี๋กับจิ๋นอวี่ต้องกลับไปกับฉัน] ตาคมตวัดกลับมามองลูกสาวของตัวเองอย่างน่ากลัว ยิ่งเห็นมันปกป้องกันแล้วยิ่งน่าโมโห
[ ฮึกก ป๊าคะ ไม่ได้นะอย่าทำอย่างนี้] อี๋หลินร้องเสียงหลงแค่ได้ยินเธอก็หัวใจแตกสลายแล้ว
[นี่เป็นคำสั่ง]
[ถ้าคุณตาจะต้องพาใครซักคนกลับไปด้วย ผมจะยอมไปเองนะครับ ]
“ ไม่ได้! ป๊าไม่ยอมให้แกไปนะใหญ่! “
“ หรือป๊าจะให้ม๊ากลับไปกับคุณตาครับ “
“ ป๊าไม่ยอมให้ใครไปทั้งนั้นล่ะ! “
[แกมีสิทธ์ออกคำสั่งรึไงเฉินหย่งเจิ้น! นี่มันยังน้อยไปที่แกจะโดนคนอย่างฉันสั่งสอน] ร่างสูงของประมุขตระกูลโจวเดินหน้าบึ้งตึงออกไป ใหญ่เดินเข้ามาหาพ่อกับแม่
“ ม๊าไม่ให้ลูกไปนะ อึกก หนูยังเด็กม๊าไม่ให้ไปหรอก “ มือบางของแม่กุมมือของลูกชายตัวเองแน่นพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือดวงตาแดงก่ำ
“ ถ้ามันจะทำให้คุณตาโกรธน้อยลงมันดีกว่าจะทำให้ท่านโกรธมากขึ้นนะครับ “ ใหญ่พูดถึงหลักความเป็นจริงหันมามองคุณยายที่อยู่ข้างๆ
[ม๊าคะ ฮึ่กก อย่าพาลูกหนูไปเลยนะม๊าช่วยพูดกับป๊าให้หนูด้วยนะคะ ]
[อี๋หลิน หนูก็รู้ว่าถ้าป๊าเขาออกคำสั่งแล้วใครก็ขัดไม่ได้ ] มือบางของแม่เช็ดน้ำตาให้อย่างอ่อนโยน
[ผมขอโทษครับคุณแม่ ]
[เธอทำได้แค่ขอโทษอย่างเดียวไม่ได้หรอกนะอาเจิ้น ตอนนี้สิ่งที่เธอต้องทำคือต้องแก้ไขมัน แล้วก็อี๋หลินหนูเลือกเองก็ต้องอดทนผ่านไปให้ได้ส่วนเรื่องของหลานไม่ต้องห่วงนะใช่ว่าพวกเขาจะไม่เคยอยู่ที่นั่น ] คำพูดปลอบโยนแต่ก็ใช่ว่าจะช่วยให้คนฟังรู้สึกดีขึ้น การถูกพรากลูกของตัวเองไปคนเป็นพ่อแม่ล้วนแต่เจ็บปวด ใหญ่ถูกแม่ดึงไปกอดเอาไว้แน่นเอาแต่ร้องไห้
ร่างบางของอี๋หลินถูกพากลับมาที่ห้องนอนตอนนี้มีป้าอรและคุณยายช่วยดูแลอยู่ ภาคินเข้าไปคุยอะไรบางอย่างกับพ่อตาของตัวเองถึงจะไม่ช่วยให้อีกฝ่ายเปลี่ยนการตัดสินใจได้ก็ตาม แต่ถึงยังไงเขาก็ไม่ยอมให้ลูกชายต้องไปอยู่ที่นั่นตลอดไป
ร่างโปร่งยืนคิดอะไรคนเดียวตรงระเบียงห้อง การตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยวและรวดเร็วของตัวเองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ใหญ่ต้องกลับมาทบทวนอีกครั้ง แต่คำตอบของเขาก็ยังเป็นเช่นเดิม อาจเป็นเพราะตัวเองอยากหนีออกไปจากที่นี่หรือว่าอยากปกป้องคนที่รักกันแน่มันบอกไม่ได้จริงๆในใจรู้ดีว่าม๊ารักป๊ามากเท่านั้น  ตาคมเผลอเหลือบไปเห็นเด็กตัวเล็กกำลังวิ่งไปวิ่งมาอยู่ในสวนมีพี่เลี้ยงคอยดูแลอยู่ก็จริงแต่เด็กนั่นก็ต้องเล่นคนเดียวอยู่ดี ใหญ่ยืนกอดอกไม่ละสายตาอยู่ในระดับสายตาเขาก็แค่มองเท่านั้น
แกร็ก!
“ พี่ใหญ่! อยู่ไหน! “
“ นี่ บอกแล้วใช่มั้ยว่าให้เคาะประตู “ ใหญ่ถอนหายใจเบาๆเมื่อได้ยินเสียงไอ้แสบเปิดประตูผางเข้ามา ร่างโปร่งเดินกลับเข้าไปในห้องแล้วพูดเสียงแข็งใส่
“ พี่จะไปไหน ทำไมถึงต้องไปล่ะ “
“ พูดเรื่องอะไร “
“ ผมรู้จากคุณยายแล้ว ผมไม่ให้พี่ไปนะผมจะบอกให้ปะป๊าสั่งไม่ให้พี่ไป “
“ เลิกเอาแต่ใจตัวเองซักทีเถอะ “
“ แต่พี่จะไปได้ยังไง แล้วหม่าม๊าล่ะ แล้วผมล่ะ “ เล็กเบ้หน้าทันที แค่รู้เรื่องที่พี่ชายจะไปกับคุณตาคุณยายเขาก็ตกใจแล้ว มันไม่ใช่ใกล้ๆกันซักหน่อย คุณตากับคุณยายอยู่เมืองจีนอยู่ที่ไกลมากๆ
“ ไปไม่นานหรอก “
“ พี่ไม่ไปได้มั้ย นะแล้วผมจะอยู่กับใคร “
“ อยู่เป็นเพื่อนม๊า แล้วอย่าให้ผู้หญิงคนนั้นทำอะไรม๊านี่เป็นคำสั่งพี่เข้าใจรึเปล่า “ ใหญ่พูดกับน้อง เล็กทำหน้าเหมือนจะไม่ยอมแต่พอถูกใหญ่โยกหัวสองสามครั้งแล้วเดินไปหยิบอะไรบางอย่างในตู้ยื่นมาให้
“ อะไรอ่ะ “ เล็กขมวดคิ้วก้มลงดูของในกล่อง
“ อยากได้อยู่ไม่ใช่เหรอ พี่ยกให้อย่าทำพังซะล่ะ “
“ อึกก พี่ใหญ่ “ เล็กเบ้หน้าจะร้องไห้จริงๆ โถมเข้ามากอดพี่ตัวเองแน่นจนใหญ่กรอกตาไปมาแต่เขาก็ไม่ได้ผลักน้องออกให้มันกอดให้พอใจไปเลย
ใหญ่ลงมาด้านล่างเห็นป๊านั่งอยู่คนเดียวเงียบๆ ภายในบ้านเงียบกว่าครั้งไหนๆตอนนี้ม๊าถูกดูแลอยู่ด้านบน ส่วนคุณตายังไม่ออกมาจากห้องเลยคงเพราะโกรธมากจนไม่อยากเห็นหน้าใคร ร่างสูงเดินหลีกไปให้ไกลจากสายตาป๊าเพราะไม่อยากคุยด้วย เดินออกมาไปนั่งตรงศาลาริมสระบัวขนาดใหญ่ภายในสวน ลมเย็นๆกับบรรยากาศเงียบๆรู้สึกทำให้ตัวเองสงบใจได้มากกว่าอยู่คนเดียวบนห้อง เสียงย่ำหนักๆเหมือนมีคนวิ่งเข้ามาทำให้เขาละสายตาหันไปมอง
“ พี่ชาย “
“ ใครบอกให้มาวิ่งในนี้ “
“ คิมเห็นพี่ชายอยู่ที่นี่เลยวิ่งมาหา “
“ ไปไกลๆได้มั้ย “
“ แต่ว่า พี่ชายอยู่คนเดียวนี่ฮะ “
“ ไปไกลๆ “ ใหญ่ถอนหายใจเซ็งๆ เขาเดินผ่านไอ้เด็กที่เข้ามากวนใจแต่คิมก็ยังเดินก้าวฉับๆตามเขามาอีก พอเขาหันไปทำหน้าไม่พอใจใส่คิมก็หยุดแล้วปล่อยให้พี่เดินห่างออกไป 
“ คุณใหญ่ จะทานอะไรมั้ยคะเดี๋ยวป้าทำให้ “
“ ม๊าเป็นไงบ้างครับป้าอร “
“ ตอนนี้พักผ่อนอยู่ค่ะ คุณใหญ่จะไปจริงๆเหรอคะ “
“ ครับ “
“ ไม่มีวิธีที่ดีกว่านี้แล้วเหรอคะ “
“ ถ้าไม่มีใครยอมคุณตาเลยจะยิ่งทำให้ท่านโกรธครับ แล้วอีกอย่างผมก็ชินกับที่นั่นไม่มีปัญหาอะไรน่าห่วงหรอกนะครับ “
“ แล้วคุณเล็กจะต้องไปด้วยเหรอคะ คุณผู้หญิงเอาแต่ร้องไห้ “
“ ผมจะคุยเรื่องนี้กับคุณตาเองครับ เดี๋ยวป้าอรช่วยให้คนยกชาไปให้คุณตาด้วยนะครับท่านชอบจิบจะทำให้ท่านคลายอารมณ์โมโหได้ง่ายด้วย “ ใหญ่ขอช่วยให้ป้าอรช่วยจัดการเรื่องนี้ให้ คนที่นี่อาจไม่รู้แต่เขารู้วิธีทำให้คุณตาอารมณ์ดีขึ้นได้
“ ป้าอรฮะ “ เสียงใสแจ๋วดังขึ้นทำให้พวกเขาหันไปมอง
“ คุณหนูทำไมอยู่คนเดียวคะ แล้วพี่จิ๊บไปไหน “ ป้าอรเบิกตากว้างเมื่อเห็นคุณหนูคิมหันต์วิ่งเล่นอยู่คนเดียวไม่มีพี่เลี้ยง
“ พี่จิ๊บบอกว่าเดี๋ยวมาฮะ “ 
“ คุณหนูหิวรึยัง เดี๋ยวป้าเอาของว่างมาให้นะคะ “ ป้าอรยิ้มบางๆย่อตัวลงพูดคุยกับคุณหนูตัวเล็ก คิมพยักหน้าหงึกๆแล้วมองพี่ชายที่กำลังจ้องมองเขาอยู่ ใหญ่แค่เดินกลับขึ้นไปข้างบนต้องเข้าไปคุยเรื่องน้องชายกับคุณตาให้รู้เรื่อง ขอร้องให้ยอมโอนอ่อนให้เล็กอยู่ที่นี่น้องยังเด็กเกินกว่าจะอยู่ห่างจากป๊ากับม๊าได้ ส่วนตัวเขาโตพอจะแยกห่างไปได้แล้ว

กระเป๋าถูกเด็กรับใช้ขนลงไปที่รถ ใหญ่แต่งตัวเสร็จได้ซักพักแล้วครอบครัวเขาจะไปส่งที่สนามบิน มือหนาหยิบเป้อีกหนึ่งใบกับพาสปอร์ตออกไปจากห้อง ขาเรียวหยุดชะงักเมื่อไอ้เด็กน่ารำคาญนั่นวิ่งหน้าตื่นมาหาเขา
“ พี่ชายฮะ “ เด็กตัวป้อมวิ่งฉับๆมาขวาง ในมือกำอะไรบางอย่างมาด้วยแต่เขาไม่สนใจจะมอง
“ มีอะไร “
“ พี่ชายจะไปไหนเหรอฮะ “
“ แล้วยุ่งอะไรด้วย “
“ พี่ชายจะไปนานมั้ยฮะ “ คิมยังถามดวงตากลมโตฉายแววเศร้าเหมือนทุกครั้ง ใหญ่ก้าวเดินผ่านเด็กตรงหน้าไปอีกครั้งแต่ครั้งนี้คิมกลับวิ่งมาดึงเสื้อรั้งเขาไว้จนใหญ่ต้องหันกลับมาด้วยท่าทางรำคาญ แต่เมื่อเด็กตัวน้อยยื่นดอกสีขาวกลิ่นหอมทำให้เขาหยุดนิ่งมองดอกไม้ในมือเล็กๆ ดอกซ่อนกลิ่นบานอยู่ในสวน ความตั้งใจแน่วแน่ทำให้มือหนาเอื้อมไปหยิบมาถือไว้แล้วย่อตัวลงให้เท่าเด็กตัวน้อย แก้มขาวเนียนขึ้นสีแดงฝาดคิมยิ้มให้ทันทีที่พี่ชายยอมรับของๆตัวเอง
“ ไปไม่นานหรอก “
“ อื้อ รีบกลับมานะฮะ “
“............”
“ คุณใหญ่คะ เอ่อ คุณท่านให้มาตามค่ะ “ เสียงเด็กรับใช้ดังมาจากด้านหลัง ใหญ่ลุกขึ้นหันไปมองแล้วพยักหน้าเข้าใจแค่นั้น เขาหันกลับมามองเด็กตัวน้อยที่เม้มปากแน่น นิ้วเรียวเกลี่ยแก้มนิ่มเบาๆแค่นั้นแล้วเดินออกไปที่รถ
ทุกคนรอพร้อมจะขึ้นรถกันหมดแล้วใหญ่หันมาไหว้ป้าอรเหลือบไปมองผู้หญิงที่กำลังกอดอกทำหน้าเฉยๆได้น่าหมั่นไส้มากแต่พอเห็นคิมหลบอยู่ด้านหลังของแม่ทำหน้าเศร้าๆให้เขาแล้วมันตีรวนจนบอกอารมณ์ไม่ถูก ร่างสูงขึ้นรถเข้าไปนั่งข้างๆน้องชายตาคมมองเด็กตัวน้อยที่ยืนส่งผ่านกระจกสีทึบ พิมพ์ประภาและเด็กน้อยคิมไม่อนุญาตให้ไปด้วย รถค่อยๆเคลื่อนออกจากตัวบ้านตรงไปสนามบิน ภายในรถมีแต่ความเงียบแม้แต่ป๊ากับม๊าก็เช่นกัน มันเป็นความเศร้าที่ไม่สามารถบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้  ใหญ่มองออกไปนอกรถตลอดเวลาแต่ในมือยังถือดอกสีขาวเล็กๆเอาไว้ในมือ 
กลิ่นอบอวนบางเบารายรอบอยู่รอบตัว เขารู้สึกได้ถึงกลิ่นหอมหวานของดอกไม้ในมือได้ใหญ่ละสายตาจากสิ่งภายนอกกลับมามองดอกไม้สีขาวบริสุทธ์ในมือของตัวเอง เขายกขึ้นมาแตะใกล้จมูก เป็นครั้งแรกที่ตัวเองดมกลิ่นดอกไม้ใกล้ๆขนาดนี้
เขาไม่สามารถรู้ได้ว่าตัวเองจะได้กลับมาที่นี่อีกเมื่อไหร่ ความคิดถึงและอาทรคือความรู้สึกทั้งหมดที่อยู่ภายในหัวใจ แม้แต่กลิ่นหอมของดอกไม้ในมือก็ไม่แน่ใจว่าจะได้สัมผัสมันอีกมั้ย



7ปี
“ คิมหันต์ ช้าจริงๆเลยจะสายอยู่แล้ว “ เสียงพี่ชายดังขึ้นเมื่อเห็นน้องรีบสะพายเป้ลงมาจากด้านบน
“ ขอโทษฮะ “
“ เมื่อคืนมึงนอนดึกรึไงวะ ตื่นก็สาย ป๊าไม่อยู่แล้วทำตัวยุ่งยากนะมึง “ เล็กขมวดคิ้วพูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด
“ คุณคิมไม่ทานข้าวก่อนเหรอคะ “ ป้าอรเดินออกมารีบถามคุณหนูที่รู้สึกว่าวันนี้จะลงมาช้า คิมส่ายหน้าด้วยใบหน้าซีดๆ
“ ไม่ฮะ แค่นี้ก็สายแล้ว “
“ คุณเล็กคะ คุณหนูยังไม่ทานข้าวเช้าเลยนะคะ “ ป้าอรหันไปพูดกับคุณชาย
“ ก็มันตื่นสายช่วยไม่ได้ ผมไม่รอแล้ว ไอ้เอ็มไปกัน “ เล็กหันไปสั่งเพื่อนอีกคนให้ขึ้นรถได้แล้ว ป้าอรส่ายหน้าเบาๆตอนนี้ไม่มีทั้งคุณผู้ชายและคุณผู้หญิงอยู่ที่บ้านไปต่างประเทศกันทั้งคู่ คุณนายพิมพ์ประภาก็กลับดึกตอนนี้ยังไม่ตื่นขึ้นมาเลย เธอมีหน้าที่ต้องดูแลทุกคนในบ้านโดยเฉพาะคุณชายจอมดื้อ
คิมเดินไปขึ้นรถไปโรงเรียนด้วยกันกับพี่ชายเป็นเรื่องปกติจนถึงทุกวันนี้ พวกเขาทั้งสามคนเรียนโรงเรียนเอกชนชื่อดัง พี่เล็กและพี่เอ็มห่างจากคิมสองปีกำลังเรียนมัธยมต้น. คนที่ใจดีที่สุดคงเป็นพี่เอ็มส่วนพี่เล็กตั้งแต่ที่พี่ชายคนโตไม่อยู่ก็ไม่ค่อยคุยกับเขาเท่าไหร่ นอกจากแกล้งบ้างเป็นเวลา  พี่เล็กรูปร่างสูงทั้งที่แค่อายุสิบสี่แต่กลับเด่นชัดที่สุดทั้งหน้าตาและผิวพรรณ โครงหน้าหล่อเหลาเป็นผู้ชายที่ชวนให้ผู้หญิงหลงใหล แม้แต่ตอนนี้ก็มีแฟนสาว ส่วนพี่เอ็มสูงไม่ต่างจากพี่เล็กมีร่างกายที่แข็งแรงเพราะเป็นนักกีฬาของโรงเรียนสีผิวไม่ขาวจัดเหมือนเล็ก แต่ไม่ได้คล้ำเป็นคนใจดีเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน นอกจากพี่เล็กกับคิมแล้วพี่เอ็มก็ไม่ค่อยยิ้มให้ใครง่ายๆ คิมโตมาพร้อมๆกับพี่ชายทั้งสองคนแต่กับอีกคน เขาแทบจำหน้าไม่ได้แล้วมันเลือนรางจนพร่าเลือนไปหมดเพราะอีกฝ่ายไม่เคยแม้แต่กลับมาที่นี่มีแค่ป๊ากับคุณป้าไปเยี่ยมเท่านั้น
“ วันนี้วันศุกร์ไปไหนดีวะมึง “ เล็กถามเพื่อนที่นั่งอยู่เบาะหน้า
“ จะไปไหนเหรอครับ “
“ ป๊ากับม๊าไม่อยู่ เราไปเที่ยวผับที่ครั้งก่อนกูพามึงไปดีมั้ยวะ “
“ คุณเล็กครับ อย่าไปเลยนะครับเราอายุยังไม่ถึงเลยไม่ควรเที่ยวสถานที่แบบนั้นนะครับ “ เอ็มหันมาพูดด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงจริงๆ
“ ใครจะกล้าทำอะไรคนอย่างกูห๊ะ กูมีพี่ชินช่วยอยู่ “ เล็กพูดถึงพี่ชายญาติลูกพี่ลูกน้องของตัวเอง เป็นลูกชายของลุงแต่พวกเขาสนิทกันมาก
“ แต่คุณชินไม่ได้อยู่เมืองไทยตอนนี้นะครับ “ เอ็มถอนหายใจเบาๆ พูดกับคุณเล็กก็เหมือนตักน้ำใส่ตุ่มรั่วๆพูดไปก็ไม่เคยฟัง
“ กูมีวิธีก็แล้วกัน “
“ แล้วคุณคิมล่ะครับ เย็นนี้คุณหนูมีเรียนพิเศษถึงสามทุ่มเลยนะครับ คุณเล็กก็มีเรียนเทควันโดเหมือนกันจะหนีเรียนผมว่าไม่ใช่ทางออกที่ดีนะครับ “
“ กูแม่งเซ็ง “ เล็กทิ้งหลังลงบนเบาะแล้วเหลือบตามามองน้องชายที่นั่งอยู่ข้างๆ
“............”
“ เมื่อคืนแม่มึงกลับตอนไหนคิมหันต์ “
“ ไม่ทราบฮะ “
“ ระวังให้ดีนะ ถ้าป๊ารู้ว่าแม่มึงกล้าออกไปข้างนอกตอนเขาไม่อยู่แล้วเป็นเรื่องแน่ หึ เลี้ยงไม่เชื่อง “ เล็กหัวเราะในลำคอ ตอนนี้เขาโตพอจะรู้ว่าอะไรเป็นอะไรเจอนิสัยเมียน้อยของป๊าเข้าไปเต็มๆหลายครั้งแล้ว ดีแค่เขาเองก็ปากหมาใช้ได้อยู่เลยไม่กลัว แต่ไอ้เด็กนี่ยิ่งโตหน้าก็ยิ่งกระเดียดไปทางผู้หญิงไม่แปลกที่ครั้งนึงเขาเคยเข้าใจผิดคิดว่ามันเป็นเด็กผู้หญิง 
โรงเรียนเอกชนชื่อดังเต็มไปด้วยลูกหลานของคนมีเงินเข้ามาเรียนยิ่งเป็นโรงเรียนที่ขึ้นชื่อไม่ต่างจากโรงเรียนรัฐบาลมีเด็กระดับแนวหน้า พวกเขาต้องอยู่ในสังคมที่แตกต่างจากคนธรรมดามีเพื่อนที่มีความคิดเดียวกัน คิมแทบไม่มีเพื่อนสนิทมากนักแต่ก็พอมีเพื่อนที่คุยด้วยได้แตกต่างจากพี่เล็ก คนๆนั้นมีเพื่อนล้อมรอบตลอดเวลาแต่คนที่อยู่ใกล้ชิดที่สุดคงเป็นพี่เอ็มถึงขั้นตัวติดกันตลอดเวลา คิมรู้สึกถึงความโดดเดี่ยวของตัวเองอย่างชัดเจน โลกของเขาไม่มีใครเลยซักคนแต่ตัวเองก็อยู่มาได้จนถึงตอนนี้ อนาคตที่มองไม่เห็นมืดมนต้องปล่อยให้ตัวเองเดินไปตามโชคชะตาเท่านั้น
.............................................................................

รถที่ไปรอรับคุณหนูอี๋หลินแล่นเข้ามาในรั้วอาณาเขตของบ้านตระกูลโจว นักธุรกิจที่มีอิทธิพลของเมืองปักกิ่ง ประตูรถถูกคนที่รออยู่เปิดให้ทันทีที่รถมาจอดเทียบด้านหน้า ร่างสูงของภาคินและคุณหนูอี๋หลินก้าวลงจากรถเดินเข้าไปภายในบ้าน วันนี้พวกเขาจะมารับลูกชายกลับบ้านตามกำหนดสัญญาที่ตัวเองได้ขอไว้กับโจวหมิงเทียนก่อนที่จะส่งลูกชายมาอยู่ที่นี่
[อี๋หลินมาแล้วเหรอลูก ] คุณผู้หญิงยิ้มให้ลูกสาวทันที ภาคินก้มหัวลงให้แม่ยายอย่างเคารพผู้หญิงคนนี้เป็นผู้มีพระคุณอีกหนึ่งคน
[สวัสดีครับคุณแม่]
[มากันเหนื่อยๆไปพักผ่อนก่อนดีกว่ามั้ยจ๊ะ]
[ป๊าล่ะคะ]
[ยังไม่กลับหรอก ออกไปดูงานกับพี่ชายเรานั่นแหละเดี๋ยวคงจะกลับมาแล้วล่ะ]
[แล้วต้าอวี๋ล่ะคะ]
[อ๋อ หึๆ สงสัยอยู่กับอาเซิ่นน่ะ ช่วงนี้เห็นวุ่นวายกันใหญ่เลยนะ]
[ม๊าบอกต้าอวี๋รึเปล่าคะว่าหนูจะมารับเขากลับบ้าน]
[รู้แล้วล่ะแต่คงไม่คิดว่าลูกจะมากันวันนี้นะไหนบอกว่าจะมาถึงพรุ่งนี้เย็นไง อยู่ๆก็โทรมาบอกว่าถึงแล้วม๊าก็ตั้งตัวไม่ทัน พวกเด็กๆก็ไม่อยู่กันด้วยซิ]
[ก็อาเจิ้นว่างพอดีก็เลยมาเลยดีกว่า ]
[งั้นก็ไปพักผ่อนก่อน มากันเหนื่อยๆ]
[คือหนูกับอาเจิ้นจะไปหาคุณพ่อกับคุณแม่ก่อนค่ะ ยังไม่ได้กลับไปหาท่านเลย] อี๋หลินหมายถึงพ่อแม่สามี ตั้งแต่ที่พวกเขาแต่งงานแล้วกลับไปอยู่เมืองไทย พ่อแม่ของสามีก็ขอย้ายกลับมาอยู่เมืองจีนเพราะเป็นบ้านเกิดของตัวเองทั้งคู่





ออฟไลน์ งินจัง

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 11
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
ปัง ปัง ปัง!
[ ต้าอวี๋ คุณย่าโทรมาน่ะ!] เสียงเรียกของพี่ชายดังเข้ามาเป็นจังหวะที่ใหญ่ดึงแม็กปืนออก มือหนาปลดที่ครอบหูออกแล้วเดินออกไปหาอีกคนที่รออยู่ด้านในกำลังจิบกาแฟกับอาจิน
[โทรมาทำไม] เขาถอดถุงมือออกแล้วรับโทรศัพท์มือถือจากพี่ชาย
[ถามเอาเอง] อาเซิ่นไหวไหล่ไม่อยากรู้อยากเห็นด้วย ใหญ่มองหน้าพี่ชายแล้วยกโทรศัพท์ขึ้นแนบหู
[ครับคุณยาย]
([หลานอยู่ไหนจ๊ะ])
[ผมอยู่สนามยิงปืน คุณยายมีอะไรด่วนเหรอครับถึงโทรหาผม]
([พ่อกับแม่หลานมาถึงแล้วนะ เมื่อกี้นี่แหละ])
[แต่แม่บอกว่าจะมาถึงพรุ่งนี้นะครับ]
([ตอนนี้มาถึงแล้วล่ะ แต่ตอนนี้ไปหาย่าของหลานน่ะ])
[เข้าใจแล้วครับ ผมจะรีบกลับไปครับ] ใหญ่พูดเพียงแค่นั้นอีกฝ่ายก็วางสายไป ตอนนี้ทั้งอาเซิ่นและอาจินกำลังมองเขาอยู่
[มีอะไร คุณอามาถึงแล้วเหรอ] อาเซิ่นเลิกคิ้วถาม แต่เหมือนน้องจะไม่ยอมพูดอะไร
[............]
[เตรียมตัวกลับบ้านซะแล้วซิ แบบนี้น่าเบื่อจังเลยผมอุตส่าห์จะแนะนำสาวให้พี่อยู่ด้วยนะ] อาจินยิ้มกวนๆมาให้นิสัยขี้เล่นไม่เปลี่ยน
[เลิกเจ้าชู้ซักทีเถอะแกน่ะ เอาเวลาไปเรียนเถอะเป็นเด็กเป็นเล็กพูดเรื่องผู้หญิงแล้ว] อาเซิ่นว่าน้องแต่เหมือนไอ้นี่จะไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่ อายุแค่สิบสี่มันเล่นเอาผู้หญิงไปกินแล้วไม่มีอะไรน่ากลัวเท่าไอ้เด็กนี่หรอก ถ้าไม่หล่อไม่รวยผู้หญิงคนไหนจะเล่นกับมัน
[ทำไมขี้บ่นจังอ่ะ ตัวเองก็ไม่บริสุทธ์แล้วแท้ๆ] อาจินยักคิ้วให้พี่ชายตัวเองอย่างถือชัย ใหญ่เลื่อนเก้าอี้นั่งลงหมดอารมณ์จะทำอะไรแล้ว
[ดูตัวอย่างต้าอวี่นี่ เป็นน้องที่น่ารัก]
[พี่ก็พูดได้ไม่ดูหนังหน้านะ คนนี้แหละตัวดีผมจะบอกให้ว่าโชกโชนกว่าผมเยอะ สาวๆในห้องผมกรี๊ดกร๊าดกันใหญ่] อาจินเผาใส่ไฟไม่หยุด อาเซิ่นกำลังเรียนมหาลัยเลยไม่ได้อยู่เห็นความคืบหน้าของไอ้สองคนนี้
[ไร้สาระพอรึยัง] ใหญ่พูดอาจินหัวเราะหึๆ
[ไม่อยากกลับก็บอกคุณอาไปตรงๆซิ ไม่เห็นเป็นไรไหนๆแกก็จะคิดจะไปเรียนต่ออยู่แล้วไม่ใช่เหรอ ]
[ผมบอกตอนไหนว่าอยากเรียนต่อเมืองนอก]
[อ่าว จะไม่ไปจริงเหรอ ]
[ตอนนี้ยังไม่คิด กลับกันเถอะครับ] ใหญ่ตัดบทง่ายๆ ร่างสูงลุกขึ้นกลับไปเก็บปืนกระสุนใส่ซองให้เรียบร้อย สามพี่น้องเดินออกมาจากสนามยิงปืนเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวตระกูลโจว พวกเขาถึงได้รับอภิสิทธ์เข้ามาได้ ใหญ่มาอยู่ที่นี่จนกระทั่งผ่านมาเจ็ดปีเติบโตในสิ่งแวดล้อมเดียวกันกับพี่ชาย ครอบครัวตระกูลโจวและเฉินยังแข่งขันอย่างดุเดือดไม่ต่างจากเดิมถึงแม้จะมีการเกี่ยวดองแต่งงานกันแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นเพราะมีใหญ่เป็นตัวกั้นกลางอยู่ถึงได้ลดทิฐิแรงกล้าลงได้ไม่มากก็น้อย  อาเซิ่นต้องรับช่วงต่อเป็นผู้นำกิจการของครอบครัว ลูกชายทุกคนของที่นี่ต้องแข็งแกร่งแม้แต่เรื่องศิลปะป้องกันตัวก็ต้องเรียนอย่างหนัก พวกเขาสามคนอยู่ในอายุใกล้เคียงกันถึงได้เติบโตมาด้วยกันทำอะไรเหมือนๆกันแม้แต่เรื่องที่ต้องเล่นของอันตราย อาจินเป็นคนขับรถเหมือนปกติวันนี้ไม่ได้ไปไหนต่อนอกจากกลับบ้านเท่านั้น เสียงคุยของอาเซิ่นดังอยู่ตลอดเวลาทั้งบ่นอาจินทั้งพูดเรื่องไร้สาระพวกเขามาถึงบ้านมีรถของจอดอยู่แล้ว ใหญ่เดินเข้าไปในบ้าน ห้องโถงใหญ่มีแขกรออยู่แล้ว
[สวัสดีครับคุณอา] อาเซิ่นกับอาจินทักทายคุณอาคนสวย อี๋หลินยิ้มเมื่อเห็นร่างบางลุกขึ้นเดินมาหาลูกชายมือบางยกขึ้นจับใบหน้าเรียวคมแล้วกอดร่างสูงของลูกแทบทันที
“ ม๊าคิดถึงลูกมากเลยนะ “
“ ........... “
“ กลับบ้านเรานะ ป๊ากับม๊ามารับใหญ่กลับบ้าน “ แม่พูดขณะที่กอดใหญ่เอาไว้แน่น
 “ แม่บอกว่าจะมาพรุ่งนี้ไงครับ “
“ จะวันนี้หรือพรุ่งนี้ก็เหมือนกัน ไม่เจอกันเกือบสองปีลูกดูโตกว่าครั้งก่อนมากรู้มั้ย ม๊าแทบจำไม่ได้ “ คุณอี๋หลินยิ้มทั้งน้ำตา ลูกชายสูงขึ้นกว่าเมื่อสองปีมากร่างกายมีกล้ามเนื้อขึ้นโครงหน้าเปลี่ยนไปตามร่างกาย ถึงยังไงเธอก็จำได้เด็กคนนี้เหมือนสามีเธอมาก
“ ผมอายุสิบเจ็ดแล้วนะครับ “
“ ลูกมาอยู่ที่นี่ตั้งแต่อายุแค่สิบขวบเองนะ เจ็ดปีมานี้ม๊าไม่มีความสุขเลย กลับบ้านเรานะลูก “
“ ถ้าคุณตาอนุญาตผมก็ไม่มีปัญหาครับ “
“ คุณตาสัญญากับป๊าแล้วจ๊ะ “ เธอพูดยิ้มๆ พวกเขาทั้งสองคนมาหาลูกทุกครั้งก็เพื่อมาขอขมาและขอให้ทางนี้ยอมให้ใหญ่กลับไป แต่ไม่ว่าจะกี่ครั้งก็ไม่เคยสำเร็จจนครั้งนี้ดูเหมือนป๊าจะยอมให้แล้ว  ผู้ใหญ่ทุกคนตั้งแต่ผู้อาวุโสที่สุดของบ้านคุณลุงทั้งสามคนรวมทั้งพ่อกับแม่อยู่ด้วยกันพร้อมหน้า เพราะรู้ดีว่าหลานชายกำลังจะถูกพ่อแม่จริงๆพากลับไปแล้วถ้าได้ทานข้าวด้วยกันซักมื้อก็คงจะดี ครอบครัวใหญ่ในบ้านสมาชิกทุกคนถึงได้รวมตัวกันในมื้อเย็นของวันนั้น  อาจินเปิดโรงเล่าวีรกรรมของพี่ต้าอวี่ตอนอยู่โรงเรียนให้คุณอาฟังอย่างเมามัน เสือยิ้มยากแต่เก็บหัวใจผู้หญิงได้ไม่จำกัดแต่ถึงยังไงก็ยังพูดถึงความเก่งและเป็นผู้นำอย่างเหนือความคาดหมาย
[จะกลับกันวันไหนล่ะ ]
[ผมมีงานต้องเคลียอีกนิดหน่อยครับ คงต้องขอกลับกันก่อนอาจจะเป็นวันอาทิตย์ครับ]
[แล้วต้าอวี๋จัดการเรื่องโรงเรียนรึยังลูก] คุณยายหันมาถามหลานชายอย่างเป็นห่วงเรื่องนี้ พวกเขาบอกกันอย่างกะทันหัน
[ผมให้คนจัดการเรียบร้อยแล้วครับคุณแม่ เรื่องนี้ไม่ต้องห่วง]
[อืม ใจหายจังรู้สึกเหมือนอยู่กับยายแค่แป็บเดียวเอง ต้องกลับไปอยู่กับม๊าเขาซะแล้ว นี่ถ้าพาตัวแสบมาด้วยก็คงดีนะไม่ได้เจอจิ๋นอวี่นานแล้วจะโตกว่าอาจินรึเปล่าก็ไม่รู้ซิ]
[คุณย่า หลานคุณย่าหล่อทุกคนครับผมฟันธงล่ะ] อาจินหัวเราะเบาๆ 
[จ๊ะ พ่อสุดหล่อ] คนถูกชมได้แต่เชิดหน้าหันไปยักคิ้วให้พี่ชายของตัวเอง  หลังจากทานข้าวเสร็จใหญ่ขึ้นมาจัดกระเป๋าของตัวเองเอาไว้ ของบางอย่างเขาก็ทิ้งเอาไว้ที่นี่อาเซิ่นเข้ามาคุยด้วยนิดหน่อยก่อนจะเข้านอนแต่คนที่นอนไม่หลับคงเป็นเขาเองมากกว่า ไม่ได้กลับไปเลยตลอดเจ็ดปีที่ผ่านมาเขาไม่รู้ว่าที่นั่นจะมีอะไรเปลี่ยนไปบ้างที่แน่ๆเขาต้องเจอกับผู้หญิงคนนั้นอีกครั้ง แค่คิดก็แทบอารมณ์เสีย แต่เหมือนมีอะไรบางอย่างกำลังบอกให้เขากลับไปที่นั่น

วันอาทิตย์..
วันอาทิตย์เป็นวันที่ต้องเดินทางกลับ ทั้งอาจินและอาเซิ่นเป็นฝ่ายมาส่งที่สนามบินก่อนหน้านั้นก็ไปลาคุณปู่คุณย่ามาแล้ว ใหญ่ขึ้นเครื่องตอนบ่ายโมงยืนคุยกับพี่อีกนิดหน่อยแล้วก็ต้องไปเช็คอินขึ้นเครื่อง ข้างๆเขาเป็นแม่กับป๊าเกือบสามชั่วโมงที่อยู่บนเครื่อง เครื่องบินลงจอดเมื่อถึงสุวรรณภูมิ ป๊าเดินเคียงคู่ไปกับแม่เมื่อลงจากเครื่องโดยมีเขาเดินตามหลัง คนของป๊ามารอรับอยู่ก่อนแล้วกระเป๋าเดินทางถูกยกขึ้นรถ ตาคมมองออกไปนอกรถตลอดทางที่กลับบ้านมีอะไรเปลี่ยนไปเยอะจนแทบจำเค้าเดิมไม่ได้ แม้แต่บ้านของตัวเองก็ถูกต่อเติมดูใหญ่ขึ้น ต้นไม้ก็ถูกปลูกขึ้นแซมอีกหลายจุด ใหญ่เปิดประตูลงจากรถเมื่อมันจอดเทียบด้านหน้าบ้านเหมือนทุกครั้ง ร่างสูงกวาดตามองเก็บรายละเอียดอย่างรวดเร็วแล้วก้าวเข้าไปในบ้านตามพ่อกับแม่ไป
“ กลับมาแล้วเหรอคะ คุณผู้หญิงไม่โทรมาบอกก่อนล่วงหน้าเลยว่าจะกลับมาวันนี้ “
“ อรดูซิใครมา “ คุณผู้หญิงฉีกยิ้มเมื่อบอกให้คนสนิทของตัวเองหันไปสนใจหนุ่มน้อยอีกคน ใหญ่ยกมือไหว้แม่นมของตัวเอง
“ สวัสดีครับป้าอร “
“ อ่ะ คุณใหญ่ “ มือบางยกขึ้นปิดปากมือไม้สั่นไปหมด เหมือนจะชะงักไปได้ซักพักแต่พอตั้งสติได้เธอรีบเข้าไปกอดคุณชายตัวน้อยที่เลี้ยงมาเองกับมือไม่ได้เจอมานานมาก ตอนนี้โตเป็นหนุ่มหล่อขนาดนี้แล้ว
 “ คุณชายของป้า โตเป็นหนุ่มขนาดนี้แล้วเหรอคะ “
“ ผมอายุสิบเจ็ดแล้วครับ “
“ เจ็ดปีแล้วเหรอคะ ป้านึกว่าจะไม่ได้เจอคุณใหญ่อีกแล้ว “
“ ผมต้องกลับมาอยู่แล้วครับ “ ใหญ่ยิ้มบางๆให้ 
“ แล้วเล็กล่ะ “ คุณผู้หญิงถามหาลูกชายอีกคน
“ คุณเล็กน่าจะอยู่กับเอ็มนะคะ เดี๋ยวให้เด็กไปตามให้ค่ะ “ ป้าอรรีบเรียกให้เด็กรับใช้สั่งงานให้ไปตามคุณเล็กมาเร็วๆ
“ เดี๋ยวเอากระเป๋าไปเก็บด้วย ป๊าสั่งให้ขยายต่อเติมห้องนอนของลูกให้ใหม่แล้วนะ “  ร่างสูงของภาคินเดินตามเข้ามาทีหลังสั่งให้เด็กรับใช้ไปขนกระเป๋าท้ายรถ
“ ที่จริงไม่จำเป็นก็ได้ครับ “
“ แกก็โตแล้ว ต่อเติมใหม่น่าจะดีกว่า “
“ งั้นก็ขอบคุณครับ “  ใหญ่พูดขอบคุณ
“ เฮีย!! “ เสียงดังลั่นของน้องชายตัวแสบดังมาลั่นบ้านเมื่อเห็นว่าใครยืนอยู่ ร่างสูงของเล็กรีบก้าวเร็วๆเบิกตากว้างอย่างดีใจเข้ามาหาพี่ชาย
“ อะไร ทำเป็นไม่เคยเจอไปได้ “
“ เฮียได้กลับมาแล้วเหรอครับ คุณตาให้เฮียกลับมาแล้วใช่มั้ยครับ! “ เล็กเขย่าร่างพี่ไปมาจนใหญ่ต้องปลดมือน้องออก มันสะเทือนจนเขาปวดหัว
“ โวยวายไปได้ ถ้าไม่ได้กลับจะได้ยืนอยู่ตรงนี้รึไง “ ใหญ่ส่ายหน้าเบาๆ
“ โอ้ยย ผมโคตรดีใจเลยเฮีย ขอกอดทีครับ! “ เล็กร้องโวยวายอย่างดีใจเข้าไปกอดร่างพี่ชายตัวเองแน่น ใหญ่ถอนพ่นลมหายใจเซ็งๆแต่ก็อยู่เฉยๆให้น้องกอดบ่นอะไรของมันไม่รู้เรื่อง ตาคมมองเห็นอีกคนที่ตามน้องชายตัวเองมา เอ็มยิ้มอย่างดีใจเมื่อเห็นว่าคุณใหญ่หันมามองตัวเองเขาโน้มตัวก้มหัวลงให้ทันที
“ เสียงดังโวยวาย อ๊ะ คุณพี่กลับมาแล้วเหรอคะ “ ร่างบางที่เพิ่งลงมาจากด้านบนขมวดคิ้วเมื่อได้ยินเสียงดังเลยต้องเดินออกมาดู เห็นเล็กกำลังกอดใครบางคนอยู่เธอไม่คุ้น
“ เพิ่งตื่นรึไง “ เจ้าของบ้านอย่างภาคินถามเมียอีกคนด้วยน้ำเสียงปกติ เล็กผละจากพี่ชายหันมาทำหน้าเซ็งเมื่อใครเข้ามาขัดจังหวะ
“ แหม พูดอะไรแบบนั้นคะแล้วกลับกันมาตอนไหนคะ แล้วนี่.. “
“ ใหญ่ สวัสดีคุณน้าซิลูก “ คุณผู้หญิงบอกลูกชายด้วยรอยยิ้ม ทำให้พิมพ์ประภาหันขวับไปมองคนๆนั้นอีกครั้ง ใหญ่เพียงแค่ไล่สายตามองผู้หญิงตรงหน้าตั้งแต่หัวจรดปลายตามนิสัยแล้วยืนเฉยๆไม่ได้ทักทายอะไร
“ ตายจริง คุณใหญ่.. กลับมาแล้วเหรอคะ นึกว่าทางนั้นจะไม่ยอมให้กลับมาแล้วซะอีก “
“ พอดีว่านี่มันบ้านฉัน “
“ จองหองเหมือนเดิมเลยนะคะ “
“ พิมพ์ประภา พูดอะไรน่ะ “ เสียงทุ้มของท่านเจ้าสัวดังขัดขึ้น เธอถึงได้กระแอมไอในลำคอแล้วหันไปยิ้มกลบเกลื่อนเดินเข้าไปทิ้งลงนั่งข้างๆสามีโดยไม่สนใจสายตาเมียหลวง
“ จริงๆเด็กก็ไม่ควรพูดแบบนี้ไม่ใช่เหรอคะคุณพี่ “
“ เธอก็ไม่ควรพูดแบบนั้นเหมือนกัน “
“ ขอโทษค่ะ ขอโทษนะจ๊ะใหญ่ “ พิมพ์ประภาหันมาพูดขอโทษดัตจริตจนน่าหมั่นไส้ ใหญ่หัวเราะหึออกมาอย่างสมเพช เขามองแม่ที่ยังทำหน้าเหมือนเดิมทั้งที่ตอนนี้ตัวเองถูกผู้หญิงอีกคนหยามกันซึ่งๆหน้า
“ ผมขอตัวก่อนนะครับ “ ใหญ่พูดเสียงเรียบนิ่งก่อนจะขอตัวเดินขึ้นห้อง เล็กส่ายหน้าเบาๆมองเมียน้อยของพ่อแต่ก็ยังสาวเท้าเดินมานั่งข้างๆแม่
“ ม๊า ไปพักผ่อนดีกว่านะครับกลับมาเหนื่อยๆ “
“ จ๊ะ “ มือบางของแม่ยกขึ้นลูบเบาๆบนแก้มของลูกชาย ก่อนที่เธอจะขอตัวขึ้นไปด้านบนอีกครั้ง
“ ป๊า.. ผมนี่ขี้ฟ้องเลยนะครับ ระวังเรื่องนี้จะถึงหูคุณตานะ “
“ นี่มันเรื่องของเด็กเหรอจ๊ะคุณเล็ก พูดอะไรไม่รู้จักกาลเทศะ “ พิมพ์ประภาออดอ้อนสามีตาจิกกัดลูกเมียหลวงอย่างแรงกล้า
“ พูดอย่างกับเธอเป็นผู้ดีเนอะคุณเมียน้อย “ เล็กยักคิ้วให้ยิ้มกวนๆอีกต่างหาก
“ นี่!! คุณพี่ทำไมถึงไม่พูดอะไรบ้างคะ! “
“ อย่าโวยวาย ปวดหัว “ ร่างสูงของภาคินลุกขึ้นกรอกตาเซ็งๆ เขาไม่ได้หูหนวกหรอกได้ยินที่ลูกชายพูดทุกประโยคนั่นแหละ
“ คุณพี่จะไปไหนคะ! “
“ นี่.. รู้จักมั้ยกาลเทศะน่ะ “ เล็กยังย้ำคำนี้เยอะๆเห็นคุณคนสวยกระทืบเท้าอย่างโมโหหันมาจ้องเขาอีกรอบก่อนจะเดินไปให้พ้น   ใหญ่เปิดประตูห้องนอนของตัวเองมันถูกจัดแต่งใหม่หมด ห้องก็ถูกขยายกว้างขึ้นทั้งเตียงส่วนของระเบียงด้านนอกทุกๆอย่างไม่มีเค้าโครงเดิมเอาไว้เลยกระเป๋าถูกวางอยู่ตรงกลางห้องร่างสูงเดินออกไปด้านนอกระเบียงด้านหลังเป็นสวนไม่ต่างจากเดิมมาก ต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงาแต่ที่สะดุดตาคงเป็นต้นที่มีดอกสีขาวอยู่ไม่ไกลมากนัก หลังจากที่อาบน้ำแต่งตัวใหม่จนเสร็จใหญ่ลงไปด้านล่างอีกครั้งโชคดีที่ไม่เจอกับผู้หญิงคนนั้นอีกไม่งั้นเขาได้ประสาทแตกอีกแน่ ร่างสูงเดินเข้าไปในสวนพวกดอกไม้ที่ปลูกไว้มีหลายต้นหลายสายพันธุ์แต่ที่เด่นตาชัดเจนตอนนี้คงเป็นต้นดอกไม้สีขาวนี่ล่ะ เขาไม่เคยสังเกตมันซักเท่าไหร่รู้แค่มันบานส่งกลิ่นหอมบางๆให้ได้กลิ่น
“ คุณใหญ่มาทำอะไรตรงนี้คะ “ ป้าอรจะเดินกลับไปที่บ้านแต่ดันเห็นคุณชายกำลังยืนดูอะไรซักอย่างอยู่
“ มาเดินเล่นน่ะครับ “
“ ที่จริงน่าจะพักผ่อนให้หายเหนื่อยก่อนนะคะ “ ป้าอรพูดยิ้มๆ
“ ผมไม่ได้เหนื่อยขนาดนั้น “
“ งั้นจะทานของว่างมั้ยคะ ป้าจะไปเอามาให้ “
“ ไม่ต้องครับ ป้าอรนี่ต้นอะไร “ ใหญ่มองเอื้อมมือไปจับพุ่มดอกไม้สีขาวถามด้วยความอยากรู้
“ อ๋อ ดอกซ่อนกลิ่นค่ะ มันจะเริ่มบานและก็หอมมากตอนกลางคืนค่ะ “
“ อืม “ ใหญ่พยักหน้าเบาๆ กลิ่นหอมเย็นๆเหมือนจะคุ้นแต่ก็จำไม่ค่อยได้แล้ว
“ ส่วนมากไม่ค่อยมีใครปลูกหรอกนะคะ โบราณของคนไทยเขาเชื่อว่ามันไม่ดีค่ะแต่คุณผู้หญิงเป็นคนให้เอามาปลูกเพราะมันหอมมาก “
“ อ่า มันก็แค่ความเชื่อ “
“ ดีใจที่คุณใหญ่ชอบนะคะ “
“............”
“ งั้นป้าขอตัวก่อนนะคะ อ๊ะ คุณคิมไปไหนมาคะป้าตามหาซะทั่วเลย “ ป้าอรหันไปเห็นคุณหนูคิมหันต์เข้าเลยหันไปทักใหญ่หันไปมองตามเสียงของป้าอร เด็กน้อยที่เคยตัวเล็กป้อมตอนนี้สูงขึ้นตามวัยอายุของตัวเองผิวที่เคยขาวชมพูกลายเป็นขาวซีดรูปร่างผอมบางผมสีดำขลับตัดซอยไปตามรูปหน้าใบหน้าเรียวไข่ดวงตากลมโต จมูกโด่งขึ้นเป็นสันไม่มากและริมฝีปากแดงอิ่ม กลิ่นหอมของดอกซ่อนกลิ่นแผ่ซ่านออกมาให้เขาได้นึกออกอีกครั้งว่าความคุ้นเคยคืออะไร เขาเคยได้กลิ่นนี้เมื่อนานมาแล้ว นานจนนึกไม่ออกว่าได้มันมายังไงแต่เด็กคนนี้เป็นความทรงจำสุดท้ายที่เขาเห็นมันก่อนจะไปจากที่นี่
ร่างบางของคิมชะงักที่ถูกเรียกเขาเดินเข้าไปหาไม่กล้ามองผู้ชายที่ยืนอยู่ข้างป้าอร กลัวว่าจะเป็นแขกของที่บ้านแล้วเขาจะเผลอทำนิสัยไม่ดี
“ ป้าอรมีอะไรเหรอฮะ “
“ หายไปไหนมาทั้งวันคะ ป้าตามหาซะทั่วเลย อ๊ะจริงซิ.. จำได้รึเปล่าคะ “ ป้าอรพูดยิ้มๆ คิมเงยหน้าขึ้นมองแล้วยกมือไหว้ตามมารยาท
“ สวัสดีครับ “
“ คุณหนูจำคุณใหญ่ไม่ได้เหรอคะ “ ป้าอรช่วยเตือนสติให้อีกครั้ง คิมชะงักแค่คำว่าพี่ใหญ่ความรู้สึกเหมือนโดนของแหลมทิ่มแทง มือบางที่เคยถือสมุดการบ้านอยู่ถูกบีบเอาไว้แน่นก่อนที่เขาจะรีบก้มหน้าลงทันที
“.............”
“ นั่นซินะ ตอนนั้นคุณคิมยังเด็กอยู่เลยค่ะ “
“ ป้าอร ช่วยบอกให้เด็กเอาน้ำเปล่ามาให้ผมหน่อยนะครับ “
“ อ๋อ ได้ค่ะเดี๋ยวป้าจะเอาของว่างมาให้ด้วยค่ะ “ ป้าอรยิ้มแล้วเดินกลับไปที่บ้านใหญ่ คิมจะเดินตามป้าอรไปให้ได้แต่กลับถูกมือหนาเชยคางมนขึ้นให้สบตาด้วยอย่างจัง หัวใจดวงน้อยเต้นตึกตักเหมือนโดนอะไรมาทุบแรงๆแม้แต่ร่างกายก็ยังถูกตรึงเอาไว้ พี่ชายในความทรงจำช่างเลือนรางแต่สายตาเย็นชาที่จ้องมองเขายังคงเช่นเดิมไม่เปลี่ยนแปลง
“ หน้าเหมือนแม่ไม่มีผิด “

สีขาวที่แสนบริสุทธ์ ไร้เดียงสาเหมือนกลิ่นหอมแรกเริ่ม หอมหวานหลอกล่อให้แมลงตัวผู้เข้าไปติดกับ
ดอกซ่อนกลิ่นคือรักซ่อนใจไม่อาจเปิดเผย จะมีใครบ้างจะรู้ความหมายที่ลึกซึ้งนี้ได้...

ออฟไลน์ งินจัง

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 11
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
2ปี
“ ทำไมถึงไม่ไปเรียนต่อเมืองนอกล่ะลูก มหาลัยดีๆมีให้ลูกเลือกมากมายอีกอย่างพวกพี่ๆก็อยู่มันอาจดีกว่าเรียนอยู่ที่นี่นะ “
“ แม่ “
“ หืม “
“ ผมตัดสินใจไปแล้วครับ อีกอย่างผมเพิ่งจะกลับมาอยู่บ้านยังไม่อยากไปไหนไกลตอนนี้ “
“ แต่ว่า “
“ มหาลัยที่ผมเลือกอยู่ตอนนี้ก็ดีมากครับ ผมคุยกับป๊าแล้ว “ ร่างสูงของลูกชายเดินมานั่งลงข้างๆแม่
“ แน่ใจ “
“ แน่ใจครับ แม่ไม่ต้องห่วงหรอกผมอยากอยู่บ้านอีกซักพักเดี๋ยวจบมหาลัยที่นี่ผมก็คิดจะไปต่อโทอยู่แล้วจะได้เรียนรู้งานของพวกพี่ๆด้วย “
“...........”
“ ป๊าก็ตกลงแบบนั้น “
“ เฮ้ออ แล้วพวกเพื่อนๆลูกล่ะ “
“ เมืองนอกครับ “ ใหญ่ตอบอย่างไม่ปิดบัง เพื่อนร่วมชั้นส่วนมากต่างก็มุ่งมั่นจะไปเรียนต่อเมืองนอกมีไม่มากที่เอ็นทรานต่อมหาลัยในประเทศต่างก็ได้คณะที่ดีกันทั้งนั้นแล้วด้วย
“ แม่ ผมกลับมาแล้ว! “ เสียงทุ้มของลูกชายอีกคนดังขึ้นทำให้คนที่นั่งคุยกันอยู่หันมาสนใจ
“ กลับมาแล้วก็ไปอาบน้ำ “
“ เฮีย ยินดีด้วยนะครับเรื่องมหาลัยน่ะ “
“ อืม “
“ สาวๆในห้องผมอยากสารภาพรักกับพี่ชายสุดหล่อของผมกันเป็นขบวนเลยว่ะ“
“ หืมม ขนาดนั้นเชียว “
“ โห่แม่ ผมพูดจริงนะได้ของขึ้นครูมาเพียบเลย “
“ ของขึ้นครู? “ คุณผู้หญิงทำหน้าแปลกใจ ไม่เข้าใจที่ลูกชายตัวดีพูดซักนิดแต่ไม่ใช่กับใหญ่แค่ได้ฟังก็ประจักแจ่มแจ้งแล้วว่าถูกไอ้น้องเฮงซวยเอาไปขาย
“ ก็ติดสินบนไงครับ แค่ลากเฮียใหญ่ไปให้พวกหล่อนจับต้องนิดหน่อยก็พอแล้ว“
“ ไม่ไป “
“ โถ่เฮีย โผล่หน้าไปหน่อยก็ได้ “
“ เดี๋ยวนี้ดังใหญ่เชียว มีแฟนรึยังลูก “ คุณหญิงหันมายิ้มหยอกเย้าลูกชายคนโต เล็กหัวเราะหึๆก่อนจะเดินมานั่งขนาบแม่อีกข้าง
“ แม่จะได้ลูกสะใภ้ก่อนเฮียจะเรียนจบด้วยซ้ำ “ เสียงทุ้มกระซิบกระซาบกับแม่อย่างอารมณ์ดี
“ ไอ้เล็ก “
“ แบบนั้นก็ดีซิ แม่ก็อยากอุ้มหลานนะ “ ดูเหมือนแม่จะเล่นด้วยไล่ต้อนให้ใหญ่ทำหน้าเซ็งออกมาชัดเจน คงมีแต่น้องชายตัวแสบเอาแต่คะยั้นคะยอยุให้เขาไปงานเลี้ยงส่งจากรุ่นน้องให้ได้
“ อ่าวคิม เพิ่งกลับเหรอลูก “ คุณหญิงเผลอหันไปเห็นเด็กอีกคนเดินเข้ามาพอดี เล็กหันไปเหยียดยิ้มให้น้องชายต่างแม่อีกคน วันนี้คิมหันต์มีเรียนพิเศษเลยกลับช้ากว่าแค่นั้น
“ สวัสดีครับคุณป้า “ คิมยกมือขึ้นไหว้ผู้ใหญ่อีกคนอย่างเคารพ เห็นพี่ชายทั้งสองนั่งอยู่ด้วยเลยไม่กล้าสบตามากนัก
“ จ๊ะ วันนี้มีเรียนพิเศษเหรอ “
“ ครับ “
“ ไปอาบน้ำจะได้ลงมาทานข้าวกัน ซักพักป๊าคงจะกลับมาแล้วล่ะ “ เธอยิ้มใจดีไม่เปลี่ยน คิมตอบรับเบาๆแล้วขอตัวเดินกลับขึ้นห้องของตัวเอง
“ นับวันหน้ามันก็ยิ่งกระเดียดไปทางผู้หญิง “ เล็กโพล่งขึ้นคล้อยหลังน้องไปไม่นาน ใหญ่ยกแก้วชากลิ่นหอมขึ้นมาจิบไม่ได้สนใจฟังน้องตัวเองพูด
“ พูดอะไรของแกน่ะเล็ก ตบปากเดี๋ยวนี้เลยน้องได้ยินจะเสียใจ “
“ ก็มันจริงนี่แม่ ไอ้คิมนะถ้าไม่บอกว่ามันเป็นน้องผมไม่มีใครเชื่อหรอก “
“ ............. “
“ หน้าไม่เหมือนกันซักนิดใครจะไปเชื่อ เฮอะ! นี่ถ้าป๊าเอามันมาตอนโตนะจ้างผมสิบล้านก็ไม่เชื่อว่ามันเป็นลูกป๊า “ คำพูดบางอย่างทำให้คนบางคนชะงักมือไปชั่วขณะในหัวสมองคิดตามอย่างนึกไม่ถึง
“ เล็ก “ คุณหญิงทำเสียงเข้มเตือนให้ลูกหยุดพูดซะ
“ อ่าว ก็ดูหน้ามันซิ “
“ คิมเหมือนแม่เขามาก จะให้เหมือนแกรึไงหื้ม “
“ มันก็ลูกป๊านะแม่ ไม่ได้เชื้อเลยรึไง “
“ แบบนี้เขาเรียกว่าพาล เลิกคิดฟุ้งซ่านแล้วขึ้นไปอาบน้ำจะได้ลงมาทานข้าวเดี๋ยวป๊ากลับมาจะโดนว่า “ มือบางดันหลังลูกชายตัวแสบให้ลุกขึ้นไปได้แล้ว มัวแต่มานั่งพูดเรื่องไร้สาระอยู่นั่นล่ะ
“ แม่น่ะเข้าข้างแต่ไอ้คิม มันน่ารักแม่เลยรักมันล่ะซิ “
“ ก็น้องเขาไม่ดื้อเหมือนใครบางคนนี่ “
“ ผมไม่ดื้ออยู่แล้ว “ เล็กเดินลอยชายออกไปจากห้องโถง ซักพักป้าอรให้เด็กรับใช้ยกผลไม้มาให้คุณผู้หญิงชิมชวนคุยกันตามประสาผู้หญิง ใหญ่ถึงได้ขอตัวออกมาจากตรงนั้นร่างสูงเดินออกมาด้านนอกคิ้วเข้มขมวดกันเล็กน้อยตอนนี้เขากำลังชั่งน้ำหนักคำพูดของน้องชายถึงความเป็นไปได้บางอย่างที่พวกเขาเลือกจะละเลยมัน
มื้ออาหารเย็นเป็นปกติมีทุกคนอยู่ที่โต๊ะ วันนี้ป๊ากลับบ้านเร็วแต่ถึงยังไงก็เป็นคนสุดท้ายที่ถึงบ้านอยู่ดีครอบครัวนี้มีคุณผู้หญิงและคุณนายเป็นอาณาจักรของท่านเจ้าสัวภาคิน มีลูกชายเกิดจากเมียแต่งสองคนและลูกชายจากเมียน้อยอีกหนึ่ง
“ จริงซิใหญ่ อยากได้อะไรมั้ย “ เสียงทุ้มหัวโต๊ะถามขึ้นเมื่อนึกขึ้นได้ คนถูกเรียกเลยต้องหันมาสนใจป๊า
“ อะไรครับ “
“ จะอะไรอีกล่ะ เอ็นท์เข้ามหาลัยได้เป็นที่หนึ่งป๊ากับแม่ก็ต้องภูมิใจซิ แล้วอยากได้อะไร “ ใบหน้าคมบ่งบอกถึงความปลื้มใจสุดๆ ถึงจะไม่ยอมเข้ามหาลัยที่เขาหาไว้ให้แต่ก็เอ็นท์ทรานเข้าไปได้เป็นอันดับต้นแค่นี้คนเป็นพ่อก็ยิ้มปากแทบฉีกแล้ว
“ ยังคิดไม่ออกครับ “
“ อืม ไหนๆก็เข้ามหาลัยแล้วก็ต้องใช้รถซินะ อยากได้แบบไหน “
“ โห่ ผมก็อยากได้นะป๊า “
“ เข้ามหาลัยก่อนแล้วค่อยว่ากัน “ ป๊าหันมาดักคอไอ้ตัวแสบกำลังตัดเพ้อ
“ เฮียผมแนะนำออดี้เลยเฮีย แม่งตอนนี้กำลังมาแรง “ เล็กหันไปสนใจพี่ชายตัวเองทันทีแต่เหมือนใหญ่จะไม่ได้สนใจอะไรมาก
“ แหม ดีใจด้วยนะคะคุณใหญ่ เก่งได้ขนาดนี้สมกับเป็นทายาทของคุณพี่ “ พิมพ์ประภาหันมายิ้มประจบให้สามียิ่งเห็นอีกฝ่ายหัวเราะอย่างอารมณ์ดีด้วยแล้วยิ่งหมั่นไส้
“ ทำดีก็ต้องได้รางวัล หึๆ จะได้มีกำลังใจทำดีต่อไปไงล่ะ “
“ ตอนนั้นคุณเองก็เอ็นท์ติดมหาลัยได้เป็นอันดับหนึ่งด้วย คุณพ่อคุณก็ซื้อรถให้คุณเหมือนกันใช่มั้ยคะ ฉันยังจำได้เลยคุณขับรถมารับฉันถึงบ้าน บอกอยากให้ฉันนั่งเป็นคนแรก “ พิมพ์ประภาตั้งใจเน้นประโยคหลังย้ำให้ชัดๆถึงอดีตที่ไม่มีได้รับรู้นอกจากเธอกับสามีเท่านั้น
“ ยังจำได้อีกเหรอ ฮ่ะๆๆ “
“ จำได้ซิคะ เรื่องดีๆแบบนี้ใครจะลืมได้ลง “
“ เป็นแค่ตุ๊กตาหน้ารถยังอวดดีพูดให้ฟัง หึ น่าสมเพช “ เสียงทุ้มของเด็กรุ่นลูกดังแทรกเข้ามาเล่นเอาทั้งโต๊ะหันไปสนใจแทบทันที เล็กเหยียดยิ้มเต็มที่ไม่ต้องสอดปากหรอกเขารอให้เฮียใหญ่จัดแล้วค่อยรอหัวเราะทีหลัง
“ ใหญ่ พูดอะไรน่ะลูก “
“ คุณใหญ่คะ ไม่รู้จักมารยาทบนโต๊ะรึไง “ พิมพ์ประภากัดฟันพูดส่งสายตาอาฆาตออกนอกหน้า แต่ไอ้เด็กเวรนั่นก็ยังไม่คิดจะสนใจ
“ คนที่พร่ำเพ้อถึงอดีตน่าคลื่นไส้มากกว่ามั้งที่ไม่มีมารยาท ว่าไปก็ไม่มีใครอยากฟังตอนเธอกับป๊าเอากันด้วยหรอกนะ “
“ ไอ้เด็กบ้า! “
“ เฮ้ออ พอ “
“ คุณพี่! ดูไอ้เด็กนี่มันพูดเถอะ “
“ คุณพิมพ์ประภา เป็นแค่น้อยก็อยู่อย่างน้อยเถอะ นี่ดีแค่ไหนแล้วที่ผมต้องร่วมโต๊ะกับคุณทุกวันบอกตรงๆแค่เห็นหน้าก็ระคายเคืองลูกตาจะแย่ “ ใหญ่พูดเสียงนิ่งแต่เหยียดหยามเต็มที่ คนที่ฟังเดือดผุดๆอย่างกับโดนน้ำร้อนลวก
“ ไอ้ใหญ่! “
“ หยุดซักทีได้มั้ย! “ เสียงทุ้มขึ้นเสียงหยุดสงครามบนโต๊ะ ทั้งเมียทั้งลูกเงียบปากทั้งคู่รู้เต็มอกว่าสองคนนี้ไม่ถูกกัน
“............”
“ ใหญ่.. แกก็ไม่ใช่เด็กแล้วจะทำอะไรก็ระงับอารมณ์ตัวเองหน่อยไอ้ความไม่ชอบน่ะเก็บไว้บ้างก็ได้ “ ภาคินใช้สายตาเฉียบคมของตัวเองมองลูกชายคนโตเอ่ยเตือนไม่ได้ตวาดข่มขู่อะไร เมื่อเห็นใหญ่เงียบนิ่งไม่มีท่าทีขัดเขาถึงได้หันไปสนใจอีกคนที่ควบคุมอารมณ์ไม่ได้
“............”
“ ส่วนเธอพิมพ์ประภา.. เธอเองก็เป็นผู้ใหญ่พอคงไม่ต้องมาทะเลาะกับเด็กรุ่นลูกหรอกนะ “
“ ก็ดูมันพูดกับฉันซิคะ! “
“ ยังไม่หยุดอีก “ คำพูดน่ากลัวดังลอดออกมาอีกครั้งทำเอาคนถูกว่ายอมนิ่งเงียบ
“...........”
“ กินข้าวโต๊ะเดียวกันแท้ๆยังทะเลาะกันไม่หยุด ไม่เห็นหัวฉันก็อายคนใช้บ้างเถอะ “ ท่านเจ้าสัวพูดเสียงนิ่งแต่น่ากลัวก่อนจะลุกขึ้นจากโต๊ะไม่อยากอยู่ตรงนี้แล้ว พิมพ์ประภากัดปากแน่นตวัดสายตาขึ้นมองทั้งเมียหลวงทั้งลูกมันทั้งสอง  คิมยิ่งต้องก้มหน้าเอาไว้ไม่ยอมเงยหน้าขึ้นสบตาใครทั้งนั้นเขากลัวสายตาพี่ชายที่มองเขากับแม่อย่างเกลียดชังเต็มที
นับจากวันนั้นไม่นานรถคันหรูของขวัญชิ้นสำคัญของลูกชายคนโตก็เข้ามาจอดแสดงศักดาให้คนขี้อิจฉาอย่างพิมพ์ประภาหมั่นไส้ขึ้นไปอีกเท่าตัว คิมเป็นคนที่ถูกบันดานโทสะใส่ ส่วนพี่ชายอย่างใหญ่ได้ความชอบไป
ใหญ่เริ่มเรียนมหาลัยที่ตัวเองตั้งใจเข้ามาตั้งแต่แรกพร้อมกับเพื่อนสนิทอีกหนึ่งคน แวร์เป็นลูกชายนักธุรกิจไม่แพ้กันควรจะเลือกเรียนมหาลัยต่างประเทศเหมือนลูกคนรวยคนอื่นแต่กลับเลือกจะเอ็นท์เข้ามาพร้อมๆกันกับใหญ่ได้คณะเดียวกัน คะแนนสูสีตีคู่แค่ไอ้คุณใหญ่ชนะไปแบบเส้นยาแดง เข้ามาเรียนได้ไม่กี่เดือนก็มีเพื่อนสนิทอีกคนนิสัยต่างกันสุดโต้งอัจฉริยะกันไปคนละแบบแค่มันเป็นเด็กหมอชอบทำตัวลึกลับโรคจิต เคนเป็นลูกชายครอบครัวคุณหมออย่างแท้จริงทั้งโคตรเป็นหมอกิจการที่บ้านก็เป็นโรงพยาบาลเอกชนมือดี ดูแล้วไม่น่าคบกันได้แต่ก็คบกัน
“ ไอ้ใหญ่ วันนี้น้องสายไหมบอกว่าอยากเจอมึงว่ะ “ แวร์เสนอหน้าโผล่หัวเข้ามานั่งข้างๆเพื่อนสนิทในหอสมุด
 “ พอซักที “
“ อะไรของมึงวะ กูอุตส่าห์แบกหน้ามาบอก “
“ ช่วงนี้กูยุ่ง อยากเอาก็เชิญ “
“ หึๆ เป็นเพื่อนเลิฟโคตรๆของกูจริงๆเลยมึงเนี่ย “ แวร์กอดคอเพื่อนใหญ่แล้วอิงแอบน่าขนลุกซู่ ผู้ชายสองคนร่างถึกๆนั่งซบกันมันน่าขนลุกขนาดไหน?
“ ปากเหม็นว่ะไอ้แวร์ ไปเห่าตรงอื่นเลยไป “ นักศึกษาแพทย์เดินเข้ามานั่งขนหนังสือมาวางกองเหมือนเคย แวร์เบ้หน้าใส่ขยับตัวนั่งดีๆแล้วท้าวคางมองเพื่อนอีกคน ว่างกันก็มาขลุกอยู่ในหอสมุดเขาเกลียดอะไรที่เงียบเหมือนป่าช้าแต่ไอ้สองตัวนี่มันชอบมาสิงสถิต
“ ไอ้หมอ ปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมอยากโดนกูดูดอีกรอบเหรอมึง “
“ พ่องมึง “
“ ไปไกลๆตีน “ ใหญ่พูดเสียงธรรมดาบอกได้เลยว่ารำคาญหูชิบหาย
“ งั้นกูไปก่อนละกัน “ แวร์ตัดปัญหาลุกขึ้นจากโต๊ะ มือหนาผลักหัวไอ้หมอตามนิสัยแล้วเดินล้วงกระเป๋ากางเกงออกไปจากตรงนี้ เคนทำหน้าเซ็งไม่อยากด่าให้เสียปาก
“ มองอะไรของมึง “ เคนเลิกคิ้วเมื่อเห็นสายตาเรียบเฉยไร้อารมณ์ของใหญ่จ้องมองเขาอยู่
“ เปล่า “
“ อย่ามองกูแบบนั้น บอกตรงๆกูขนลุก “
“ .......... “
“ จริงซิ วันก่อนที่มึงจะให้กูช่วยน่ะกูแอบคุยกับพี่แล้วนะ “ เคนเปิดประเด็นเรื่องบางอย่างขึ้นเมื่ออยู่กับเพื่อนสองต่อสองไม่มีคนอื่น
“ แล้วเป็นไง “ ใหญ่ถามแต่ไม่ได้มองหน้าเพื่อน
“ พี่บอกจะช่วย แต่มึงยังไม่บอกกูเลยนะว่าจะเอาผลตรวจพวกนี้ไปทำไม “
“..........”
“ ตรวจดีเอ็นเอเลยนะมึง เรื่องใหญ่นะ “
“ อืม “
“ จะไม่บอกอะไรกูหน่อยรึไงวะ “
“ เรื่องคอขาดบาดตาย มึงอยากจะเกี่ยวข้องมั้ยไม่แน่ซักวันกูอาจฆ่าปิดปากมึงด้วยก็ได้ “
“ อ่าวไอ้สัส “
“ ตกลงว่ายังอยากรู้รึเปล่า “
“ เออๆ อยากทำอะไรก็เรื่องของมึงกูไม่เกี่ยวข้อง ไม่ขอเกี่ยว “ เคนเน้นย้ำไม่ขอเกี่ยวทั้งนั้นไม่อยากรับรู้อะไรด้วย ใหญ่เลยเลิกสนใจกลายเป็นลุกขึ้นจากโต๊ะเดินออกไปปล่อยให้ว่าที่คุณหมออ่านหนังสือไปตามสบาย
ใหญ่ขับรถกลับบ้านก่อนเวลาปกติกว่าทุกวันยังไม่มีใครกลับมารวมทั้งน้องชายด้วย ที่ต้องหาตอนนี้คืออะไรซักอย่างที่ใช้เป็นหลักฐานยืนยันได้อย่างชัดเจน เขายังไม่มีความสามารถพอจะสืบสาวราวเรื่องของพิมพ์ประภากับพ่อตัวเองหรอก แต่ผลลัพธ์ที่ได้ตอนนี้มันชัดเจนกว่าอะไรทั้งนั้น ความเป็นพ่อลูกทางดีเอ็นเอมันแม่นยำที่สุด ร่างสูงเปิดประตูห้องใหญ่ที่สุดในบ้านทุกอย่างถูกจัดอย่างเป็นระเบียบทุกเช้าจะมีแม่บ้านเข้ามาทำความสะอาดอยู่แล้วไม่มีทางเจอได้ง่ายๆแต่คงไม่ใช่กับของใช้ส่วนตัวหรอก ไม่ใช่ที่โกนหนวดก็ต้องเป็นแปรงหวีผม
คิมลงจากรถเมื่อถึงบ้านเรียบร้อย วันนี้เล็กมีแข่งบาสเลยไม่ได้กลับมาพร้อมกันรวมทั้งพี่เอ็มด้วย ร่างบางในชุดนักเรียนเดินสะพายเป้ขึ้นห้องระหว่างทางก็ไม่เจอผู้ใหญ่ด้วยบ้านก็ดูเงียบ
“ อ๊ะ “ คิมชะงักกึกเมื่อเผลอปะทะกับร่างสูงของใครบางคน ขาเรียวแทบถอยหลังออกมาไม่ทัน
“...........”
“ อ่ะ.. สะ..สวัสดีครับ “ เด็กที่สุดในบ้านรีบยกมือไหว้พี่ชายคนโตนานๆจะปะทะกันระยะประชิดแบบนี้
“ ไอ้เล็กล่ะ “
“ เอ่อ พี่เล็กยังไม่กลับครับ “ คิมพูดตอบเสียงเบา
“ เวลาพูดมองหน้าคนฟังซิวะ “ มือหนาบีบปลายคางดึงให้เด็กตรงหน้าเงยหน้าขึ้นมาอย่างนึกหมั่นไส้ ใหญ่สะบัดมือออกอย่างแรงเล่นเอาร่างของคิมเซไปตามแรง
“ ........... “
“ รู้ไว้เป็นมารยาทเบื้องต้น เวลาพูดกับใครหัดมองหน้าซะ ดูอย่างแม่มึงเอาไว้เป็นตัวอย่างจิกตาอย่างกับนางมารร้าย หึ “  ใหญ่สอดมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงแล้วมองน้องชายต่างแม่ด้วยสายตาเรียบนิ่ง
“ ครับ “ คิมรีบพยักหน้าตอบรับ ทำอะไรก็ได้ให้ไปให้พ้นจากคนๆนี้
“ เห็นแล้วมันขวางหูขวางตา “
“ งั้น..คิมขอตัว “
“ เดี๋ยว “ ใหญ่พูดแทรกขึ้นก่อนที่คิมจะพูดจบ
“ พี่ใหญ่..มีอะไรกับคิมเหรอ “ เสียงหวานเอ่ยกลับมาอย่างไม่มั่นคง ใหญ่มองเด็กตรงหน้านิ่งแม้คิมจะเอาแต่ก้มหน้าไม่ยอมสบตากับเขาตรงๆ ใบหน้าคมก้มลงมาประชิดจนคิมชะงักหน้าตื่นถอยหลังห่างไปแต่โดนมือหนาคว้าบีบต้นแขนดึงร่างบางของเด็กอายุสิบสามแสนบอบบางเข้ามาอีกครั้ง
“ กลัวอะไร “
“ มะ..ไม่ฮะ “ คิมรีบส่ายหน้า
“ แม่มึงน่ากลัวกว่ากูเยอะ เล่ห์เหลี่ยมแพรวพราวร้ายกาจอย่างกับนางแม่มด ใครๆก็ดูออกหมดนั่นล่ะว่าผู้หญิงคนนั้นจับผู้ชายหน้าไม่อายอย่างป๊า มีมึงออกมาก็น่ารังเกียจ คนที่มึงควรกลัวไม่ใช่กูหรอกนะคิมหันต์แต่เป็นแม่มึงต่างหาก เลือดมันข้นกว่าน้ำอยู่แล้ว “ ใหญ่ก้มลงกระซิบระยะเผาขนทั้งเสียงทั้งการกระทำมันน่ากลัวสำหรับเด็กคนหนึ่งที่ไม่เคยมีปฏิสัมพันธ์กับคนตรงหน้า  ร่างบางตัวแข็งทื่อจนกระทั่งถูกใหญ่ดันตัวออกแล้วเดินผ่านร่างเขาไป
นอกจากป๊ากับแม่แล้วคิมกลัวพี่ใหญ่ไม่เป็นรองใครเลย
ถามว่าพวกเขาเคยคุยดีๆกันบ้างมั้ย.. ตอบได้เลยว่าไม่..
มือหนาดันประตูห้องนอนปิดล็อกเอาไว้เมื่อเข้ามาด้านใน เส้นผมดำขลับไม่กี่เส้นของน้องชายต่างแม่ถูกใส่ลงถุงซิปขนาดเล็กแยกต่างหากจากของป๊า ใช้โอกาสทำให้กลัวแล้วดึงออกมาโดยตรงดีกว่าเข้าไปหาในห้องนอนของเด็กคนนั้นให้เสียศักดิ์ศรี แม้แต่ย่างเข้าไปเขายังไม่อยากทำเลย ความอคติมันมีมากล้นจนกลายเป็นทิฐิ และทิฐิผันแปรเป็นความเกลียดจนถึงตอนนี้ เขาเกลียดทุกสิ่งทุกอย่างของผู้หญิงแพศยาคนนั้นจนกระทั่งลูกของมัน




ออฟไลน์ งินจัง

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 11
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
ว่าที่คุณหมอในอนาคตเดินหน้าเรียบเฉยมาพบเพื่อนตามที่ถูกเรียกให้มา แอบหนีออกมาจากห้องด้วยซ้ำวันนี้มีเรียนจนชักปวดหัวจริงๆ ร่างสูงในชุดนักศึกษาแต่ดูดีขนาดที่บอกได้เลยว่าทายาทกรภัครวัฒน์เป็นที่ภาคภูมิใจให้พ่อกับแม่มันจริงๆผู้หญิงอยากจับไอ้หมอนี่กันทุกคนล่ะพนันได้เลย
“ เรียกกูมาทำไมวะ “
“ มีเรียนรึไง “
“ เออ กูคงไม่ว่างมายืนหล่อเหมือนพวกมึงหรอก แล้วมีอะไรวะ “ เคนถามตรงๆไม่อยากอ้อมค้อมเขาออกมานานไม่ได้ ใหญ่เดินไปเปิดประตูรถหยิบเอาซองกระดาษสีน้ำตาลเข้มมายื่นให้เขาเป็นอันรู้กัน มือเรียวขาวของเคนยื่นไปรับแล้วเปิดดูคร่าวๆ
“ เรื่องใหญ่ระดับสิบรึไงวะถึงบอกกูไม่ได้ “ เคนถามหน้าเฉยๆปิดซองนั่นไว้อย่างเดิม
“ กูให้ค่าเหนื่อยแน่ “
“ เรื่องนั้นมันแน่นอนอยู่แล้ว กูติดสินบนพี่เอาไว้มึงเองนั่นแหละต้องหามาถวายใส่พาน “ เคนพูดท่าทางจริงจังแต่ถึงยังไงคนฟังก็ได้แค่ฟังไม่ได้เดือดร้อน รู้อยู่หรอกว่าเงินสำหรับอย่างไอ้ใหญ่ไม่ใช่สาระสำคัญของชีวิต ไม่งั้นมันจะขับรถคันนึงเป็นสิบๆล้านตอนเข้าเป็นแฟรซชี่น้องใหม่ได้รึไง มหาลัยที่นี่มีคนรวยอยู่ก็เยอะแต่เด่นระดับความดังมีไม่กี่คนหรอก หนึ่งในนั้นบอกตรงๆมีไอ้แวร์กับไอ้ใหญ่อยู่ด้วยแน่นอน
“ อย่าบอกใครเด็ดขาด “
“ กูมีจรรยาบรรณเว้ย แล้วมึงไม่มีเรียนเหรอวะ “
“ อีกสิบนาที “
“ เออ งั้นไว้เจอกันกูต้องกลับไปแล้วว่ะ “
“ อืม “
“ ผลตรวจน่าจะได้ประมาณสามวัน เดี๋ยวกูโทรหาอีกที “ เคนหันมาบอกเหมือนนึกขึ้นได้ก่อนจะหันตัวเดินไปทางเดิม มาทางไหนก็ต้องกลับไปทางนั้นที่สำคัญคงต้องเร่งฝีเท้าให้มันเร็วขึ้น  .ใหญ่ยืนมองเพื่อนจนสุดสายตาก่อนจะกลับขึ้นรถขับออกไปจากคณะแพทย์ ในหัวก็มีแต่คำพูดของเพื่อนตัวเองซ้ำไปมาแค่สามวันเขาก็รู้แล้วเด็กคนนั้นมีสายเลือดเกี่ยวพันกันแท้จริงรึเปล่า ถ้าคำตอบคือใช่เขาก็คงต้องยอมรับความจริง.. แต่ถ้าไม่ใช่.. รับรองได้เลยเขาจะถลกหนังนังแม่มดนั่นให้เจ็บเจียนตาย
“ ไอ้คุณใหญ่ ทางนี้โว้ย “ เสียงเรียกของแวร์ดังขึ้นเมื่อใหญ่เปิดประตูห้องเรียนเข้ามา วันนี้มีเรียนรวมกับคณะอื่นด้วยนักศึกษาส่วนมากเลยมีเสียงเอ่อดังไม่ต่างจากตลาด ร่างสูงเดินขึ้นไปหากลุ่มเพื่อนจับจองที่นั่งด้านบนสุด
“ เป็นไรวะ “ แวร์กระแซะเพื่อนเบาๆเมื่อใหญ่นั่งลงข้างๆทางมุมสุด
“ เปล่า “
“ หน้ามึงเย็นชากว่าเมื่อวาน จะไม่เป็นไรได้ไง “
“ มันเกี่ยวกันตรงไหน หน้ากูเป็นแบบนี้มาชาตินึงแล้ว “ ใหญ่พูดเสียงรำคาญ ยิ่งได้ยินแวร์หัวเราะขำด้วยแล้วยิ่งน่ารำคาญ
“ หึๆ หน้าตายอย่างมึงมีหลายอารมณ์กูรู้ “
“...........”
“ จริงซิ เมื่อกี้กูปิ้งเด็กคนนึงเข้าว่ะ เอกอักษรตัวเล็กน่ารักปากนิดจมูกหน่อย ที่สำคัญเสียงหวานสัสๆตอนครางมันต้องเจ๋งแน่ๆ “
“ คลื่นไส้ “
“ ไอ้เหี้ยใหญ่ ไอ้เพื่อนชั่ว ตอนมึงสลับรางไม่ทันถ้าไม่มีกูคอยช่วยอย่างมึงคงโดนรถไฟทับตายห่าไปนานแล้ว ขอบคุณปรมาจารย์แวร์ซะ “
“ ขอบคุณที่ช่วยนะ แต่ไม่จำเป็น กูก็อยากรู้เหมือนกันคนอย่างกูผู้หญิงหน้าไหนมันจะกล้า “ ใหญ่พูดเสียงเรียบยโสได้ใจจนแวร์ต้องเหยียดปากอย่างหมั่นไส้
“ กูล่ะเกลียดความอวดดีมึงจริงๆเลยไอ้เหี้ยใหญ่ ขอให้มึงได้เมียเร็วๆนะไอ้สัส กูอยากเห็นนักแลเวลามึงเกรงใจเมียหัวหดมันเป็นยังไง หึ “
“ ไม่อยากโดนคุมต้องเอาเมียเด็กว่ะ งี่เง่าหน่อยแต่ก็ฟังนะเว้ย “ เสียงเพื่อนหนึ่งในนั้นดังแทรกเข้ามา แวร์หันไปมองแล้วหัวเราะในลำคออย่างสะใจยกแขนขึ้นพาดไหล่เพื่อนรักอย่างใหญ่
“ เมียเด็กขั้นเทพกูฟันธงอีกคน มึงชอบออกคำสั่งอยู่แล้วนี่หว่าทางสว่างเลยว่ะ ฮ่ะๆๆๆ “ แวร์กรอกหูเห็นใหญ่เอาแต่นั่งเฉยๆไม่ด่ากลับใส่เลยหันไปแปะมือกับเพื่อนอีกคนอย่างสนุกสนาน
“ ว่าไปช่วงนี้มึงมีใครควงอยู่บ้างมั้ยวะ “ เพื่อนในกลุ่มโผล่หน้ามาถามคนที่นั่งอยู่ริมสุด
“ ช่วงนี้มันเบื่อโลก มึงมีอะไรแนะนำมั้ยล่ะ “ แวร์เสนอหน้าตอบให้อย่างมั่นคง ใหญ่ทำหน้าเฉยชาแต่เต็มไปด้วยความละเหี้ยใจอย่างบอกไม่ถูก
“ มี.. ของดี พวกมึงจะลองมั้ย “
ชี้โพรงให้กระรอกแท้ๆ
กลุ่มชายหนุ่มรูปหล่อพ่อรวยดีกรีเอกบริหารจับจองพื้นที่ส่วนตัวผับชื่อดังในกรุงเทพ มีลูกท่านหลานเธอในกลุ่มนี้เป็นหุ้นส่วนอยู่เลยได้อภิสิทธ์ห้องวีไอพี แฮลกอฮอล์ของมึนเมามีระดับใช้เป็นเครื่องดับความร้อนรุ่มของวัยหนุ่มกำลังรักสนุกได้อย่างดี ขาดไม่ได้ก็คงเป็นผู้หญิง ใครคนไหนมีแฟนสาวก็พามาด้วยคนไหนไม่มีก็หาเอาในนี้หนึ่งในนั้น ใหญ่เป็นรองสุดท้ายที่เข้ามาที่นี่ตอนนี้พวกเพื่อนในกลุ่มกำลังเสพของมึนเมาทั้งมียาอยู่ด้วยไม่ต้องสงสัย ร่างสูงเดินไปนั่งตรงโซฟาอีกตัวที่ว่างแล้วกวาดตามองในนี้อย่างรวดเร็ว
“ แล้วไอ้แวร์ล่ะ “
“ ลงหายไปข้างล่างซักพักแล้วว่ะ “ เพื่อนข้างๆตอบพร้อมกับยื่นมวนบุหรี่ที่ถูกจุดเอาไว้แล้วมาให้ ใหญ่รับมาดูดทีนึงแล้วส่งคืนเพื่อนไปมือหนายกแก้วเหล้าขึ้นกระดกเข้าลำคอไปไม่มาก อย่างน้อยก็ช่วยให้ไม่ต้องรับรสของยาที่ดูดเข้าไปเมื่อกี้
“ ไอ้แวร์ มึงไปล่อเหยื่อติดไว้อีกแล้วเหรอวะ “ เสียงเพื่อนดังขึ้นเรียกให้คนอื่นหันไปมอง แวร์โอบไหล่เด็กผู้ชายร่างบางคนหนึ่งเข้ามาด้วย ต้องใช้คำว่าเด็กถูกต้องที่สุดเพราะแค่เห็นก็บอกอายุได้เลยไม่เกินสิบเจ็ดแน่
“ เอ้า ไอ้พวกไม่มีตาน้องเขาเด่นหรามาไกลๆพวกมึงก็เห็น “ แวร์หัวเราะในลำคออย่างเจ้าเล่ห์พาเด็กใหม่ของตัวเองเข้ามารวมกลุ่มเพื่อน 
“ กูไม่คิดว่ามึงจะกินเด็กนี่หว่า “ พวกเพื่อนๆแซวกันอย่างสนุก เห็นของใหม่มาแล้วต้องแดกดันเข้าไว้
“ อะไรวะ ไม่แดกเด็กจะให้กูแดกคนแก่รึไง! “
“ ใช้ได้นะมึง หน้าตาน่ารัก เอวเล็กแต่ก้นแน่นว่ะ “ มือหนาของใครในนั้นตะครุบป้าบลงบนสะโพกนิ่มของเด็กน้อยที่สุดแถมยังบีบขยำเป็นการยืนยันให้เด็กมันอายอีกต่างหาก
“ ไอ้สัส รอให้กูก่อน “ แวร์หันไปด่าเพื่อนไม่จริงจังแล้วก้มลงกระซิบกระซาบกับเด็กในอ้อมแขนพามานั่งกันอย่างออดอ้อน
“ เปลี่ยนรสนิยมเมื่อไหร่ “ ใหญ่ถามขึ้นโต้งๆไม่อาย
“ อะไร ของแบบนี้มันต้องเปลี่ยนไปตามแฟร์ชั่นเว้ย จะลองมั้ยล่ะ “ แวร์กระหยิ่มยิ้มให้เพื่อน รู้ๆกันอยู่เรื่องเซ็กส์ไม่มีขีดจำกัดอยู่แล้ว เขายังเคยโดนผู้หญิงรุมตั้งสองคนมาแล้วด้วยไม่มีอะไรเสียหายเอาความสุขเข้าว่าอย่างเดียว
“ บอกตรงๆว่าไม่ถนัด “
“ หึๆ ของแบบนี้ได้ลองแล้วจะติดใจ “
“ ระวังโรคเอาไว้หน่อยก็ดีนะ “
“ ไอ้สัสใหญ่ ไอ้ปากปีจอ “
“ ก็มึงเล่นเอาทุกอย่างที่มีรู โชกโชนซะกูขนลุก “ ใหญ่พูดปรายตามองเด็กหนุ่มในอ้อมแขนของเพื่อนอย่างพิจารณาเป็นครั้งแรก เขาไม่เคยนอนกับผู้ชายมาก่อนและไม่มีรสนิยมด้วยถึงจะแปลกใจที่เพื่อนเล่นของแบบนี้แต่ก็ไม่ได้สนใจ แวร์หัวเราะกระซิบกับเด็กในอ้อมแขนกันเบาๆดวงตากลมโตของเด็กน้อยวัยกำลังแตกหนุ่มหันไปสนใจอีกคนที่นั่งอยู่อีกด้านประเมินค่าอย่างรวดเร็ว รอยยิ้มใสซื่อหันกลับมามอบให้แวร์ราวกับตกลงกับสิ่งที่อีกฝ่ายยื่นให้ 
เพื่อนหนึ่งคนเข้ามานั่งเบียดลงข้างใหญ่ชวนคุยเรื่องทั่วไปแล้วยื่นแก้วเหล้าที่ตัวเองถือมาให้ไม่ต่างจากทุกครั้ง เหล้านอกของดีเป็นข้ออ้างให้ใหญ่ต้องรับไปไม่ต้องขัด
“ ไอ้ใหญ่ ไม่ชวนไอ้หมอมาด้วยวะ “ ร่างสูงของแวร์เดินวนมาสะกิดให้คนอื่นถอยออกไปแล้วทิ้งตัวลงนั่งข้างเพื่อนรัก
“ แล้วทำไมมึงไม่ชวนมันมาล่ะ “ ใหญ่ตอบตรงๆไม่มองหน้ามันด้วยซ้ำ ตรงหน้าที่เขาเห็นคงเป็นคู่ขาของเพื่อนนี่ล่ะเล่นส่งสายตาให้ท่าเปิดเผยปิดไม่มิดขนาดนั้น
“ มันยอมรับโทรศัพท์กูที่ไหน “ แวร์ไหวไหล่ยกแก้วเหล้าตัวเองชนกันเบาๆ
“ ก็มึงเล่นทำตัวมั่วไม่เลือก ก็สมควร “
“ ไอ้สัสนี่ คิดว่ากำความลับกูไว้แล้วจะยอมง่ายๆนะมึง “
“ เรื่องที่มึงได้กับไอ้หมอเมื่อเดือนก่อนเหรอวะ “ ใหญ่หันมาเลิกคิ้วถามตรงๆ แวร์แทบเบิกตากว้างเม่นใส่เพื่อนทันที ดีที่เสียงเพลงมันดังไม่มีใครอื่นได้ยิน
“ ไอ้ชั่วใหญ่ หุบปากไปเลย “ แวร์เค้นเสียงข่มขู่แต่ก็ยังหันไปหยิบขวดเหล้ามาเทใส่แก้วของใหญ่ให้อีก คนถูกยัดเยียดคงได้แค่เขย่าแก้วเบาๆให้แฮลกอฮอล์ดีกรีสูงละลายผสมกับน้ำแข็งจะได้เจือจาง
“ จริงซิ กูมีเรื่องให้มึงช่วย “ อยู่ๆแวร์ก็พูดขึ้น
“ อะไร “
“ เรื่องไอ้หมอนั่นแหละ “
“ พวกมึงทะเลาะกันแล้วมายุ่งอะไรกับกูวะ “
“ ถ้ามึงยอมช่วย กูมีของสัมมนาคุณ “
“ มึงชอบมันเหรอ “
“ เพื่อนกันเว้ย “ แวร์ตอบสวนทันขวับไม่ต้องคิดให้มาก ใหญ่หัวเราะในลำคออย่างสมเพชไม่ต้องบอกก็รู้ว่าไม่มีทางเชื่อแถมยังตามไอ้เพื่อนเจ้าเล่ห์ทันอีกด้วย แวร์ทำเป็นไม่สนใจก่อนจะเหลือบไปมองเด็กตัวเองอีกด้านพร้อมกับเลิกคิ้วให้
“ จริงซิ กูลืมแนะนำเด็กใหม่กูเลยว่ะ “
“ ไม่อยากรู้ “
“ รู้ไว้เถอะน่า “ แวร์กระดิกนิ้วเรียกให้เด็กหนุ่มน่ารักลุกเดินเข้ามาหา ร่างบางเดินมาทรุดตัวลงนั่งบนตักของแวร์ ดวงตากลมโตแสนยั่วเย้าและเจ้าเล่ห์ปะทะสายตากับคนที่มองอย่างไม่สนใจ
“ สวัสดีฮะ ผมชื่อคิม “เด็กน้อยแนะนำชื่อตัวเองเสียงหวาน ทำให้คนฟังชะงักมือแล้วหันมาสนใจเด็กคนนี้จริงจัง
“ คิม? “
“ ใช่ฮะ พี่ชื่ออะไรฮะ “ เด็กที่ชื่อคิมยิ้มยั่วยวน แต่พอเห็นอีกฝ่ายลากสายตามองเขาตั้งแต่ปลายเท้าขึ้นมาสบตาตรงๆด้วยกลับรู้สึกร้อนระอุไปทั้งตัว อยากจะหลบตาก็ไม่กล้ามันเหมือนถูกอีกฝ่ายใช้เชือกขึงร่างเขาไว้จนขยับไม่ได้
“ น่าแปลก คนที่ชื่อนี้มีอะไรเหมือนๆกันนะ “
“ ยังไงเหรอฮะ “
“ น่าไม่อาย “
“..........”
“ รู้สึกเหมือนตัวเองบ้างรึเปล่า “
“ คนที่พี่เจอ กับผมคงไม่เหมือนกันหรอกฮะ “
“ ใช่ ไม่เหมือน “
“ ยังไม่ลองรู้จักผมเลย จะตัดสินว่าผมเหมือนเขาคนนั้นไม่ได้นะครับ “ คนที่ถูกหยามอยู่ส่งยิ้มพิมพ์ใจลุกขึ้นจากตักของแวร์ย้ายตัวเองมาทิ้งตัวลงบนตักของใหญ่อย่างใจเด็ด แขนบางโอบลำคออีกฝ่ายเอาไว้ก้มหน้าลงใกล้จนแทบสัมผัสลมหายใจ คงมีแต่แวร์ที่กำลังสมใจอยาก
“...........”
“ ขึ้นเตียงกันเร็วสุดฮะ คิมจะทำให้พี่ลืมผู้หญิงทุกคนที่เคยขึ้นเตียงกับพี่เลยล่ะ “ เสียงกระซิบเบาๆข้างหูดังลอดเข้ามา ริมฝีปากนิ่มเบียดเสียดได้ไม่ถึงอึดใจเสียงร้องลั่นของเด็กที่ถูกจับเหวี่ยงลงบนพื้นอย่างไม่เป็นท่าเรียกสายตาทุกคนในนั้นแทบทันที แม้แต่แวร์ยังทำหน้าไม่ถูกตอนเห็นเด็กตัวเองถูกเพื่อนจับเหวี่ยงออกจากตัว
“ ไอ้แวร์ เอาไอ้เด็กโสเภณีนี่ออกไป “ ใหญ่พูดเสียงนิ่งน่ากลัวจ้องหน้าเด็กคนนั้น
“ เอ่อ ใจเย็นมึง “ แวร์พูดไม่ออก รู้อีกทีตอนใหญ่เดินออกไปจากห้อง เสียงปิดประตูดังลั่นจนเพื่อนในนั้นเงียบเชียบไม่มีใครพูดอะไรออกมามีแต่มองตามคนที่อารมณ์เสียกะทันหันโดยไม่รู้สาเหตุ
“ พี่แวร์ ฮึกก “
“ ทำยังไงให้มันโกรธได้ล่ะ “ แวร์ถอนหายใจเบาๆเอื้อมมือไปดึงเด็กน้อยที่กำลังเสียขวัญมาปลอบ  ใหญ่ขับรถออกจากที่นั่นด้วยความเร็วไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันเกิดอะไรขึ้นรู้แค่ตัวเองโกรธมากจนทนไม่ได้
คิมเดินเอาแก้วนมมาเก็บในครัว ตอนนี้เกือบห้าทุ่มป้าอรกลับบ้านไปแล้วในครัวเลยไม่มีใครอยู่ส่วนคนอื่นในบ้านก็ขึ้นห้องกันหมด มือบางเปิดตู้เย็นรินน้ำเย็นเฉียบมาดื่มล้างปากรู้สึกเหมือนได้ยินเสียงรถแล่นเข้ามาชัดเจนที่สุดคงเสียงล้อครูดกับพื้นจอดด้านหน้านั่นแหละ คิมปิดตู้เย็นแล้วเดินออกไปดูพอเห็นใครเปิดประตูบ้านเข้ามาร่างบางก็รีบถอยล่นกลับเข้าไปในครัวอย่างรวดเร็ว   
ใหญ่เดินมาทิ้งตัวลงบนโซฟาห้องโถงไม่ได้ขึ้นห้องไปในทีเดียวเขารู้ดีตอนนี้ไม่มีใครอยู่แล้ว มือหนาจุดบุหรี่ขึ้นสูบรู้สึกมึนๆจากแฮลกอฮอล์ที่อัดเข้าไปถึงไม่เมาแต่มันก็แรงพอ  ใหญ่นั่งดูดบุหรี่เงียบๆคนเดียวจนเห็นอะไรผิดแปลกนั่นแหละ
“ ทำอะไรน่ะ “ เสียงทุ้มเรียกอีกคนที่กำลังชะเง้อมองไปทางบันได ร่างบางสะดุ้งโหยงหันขวับมาตามเสียง
“ อ่ะ..เอ่อ คือ “
“ จะทำอะไร “
“ คะ.. คิมเอาแก้วนมมาเก็บฮะ กำลังจะขึ้นไปนอนแล้วล่ะ “
“ แล้วมาทำอะไรลับๆล่อๆ “
“ เปล่าฮะ “ น้องชายต่างแม่ส่ายหน้าเบาๆ ใหญ่ลากสายตามองอีกฝ่ายเงียบๆคิมใส่ชุดนอนใหญ่กว่าตัวดูเตี้ยกว่าตอนใส่เสื้อผ้าอย่างอื่น
“ เข้าไปเอาน้ำมาหน่อย “
“ เอา..เอาน้ำมาทำอะไรเหรอฮะ “
“ โง่มากรึไง “ ใหญ่พูดเสียงน่ากลัว อารมณ์เมื่อกี้มันชักพุ่งอีกรอบคิมรีบหมุนตัวกลับเข้าไปในครัวซักพักกลับมาพร้อมกับแก้วน้ำเย็นเฉียบ ใหญ่ขยี้เศษบุหรี่ทิ้งยื่นไปรับแก้วน้ำมาวางไว้บนโต๊ะ
“ พี่ใหญ่มีอะไรอีกมั้ยฮะ “
“ ไม่มี “
“ งั้น..งั้นคิมขอตัวก่อนนะฮะ “ คิมพูดรัวเร็วก่อนจะรีบหันตัวเดินไปจากตรงนี้ มือหนาของใหญ่คว้าข้อแขนเล็กกระชากร่างเด็กคนนั้นถลาล้มลงทับเขาแทบทั้งตัวดีที่คิมใช้แขนดันโซฟาเอาไว้  ใหญ่มองใบหน้าทั้งตกใจทั้งเกร็งจนน่าตลกแต่ไม่กล้าร้องออกมา กลิ่นสบู่จากตัวของคิมแตกต่างจากเด็กแก่แดดคนนั้นราวฟ้ากับเหว ท่าทางตอนอยู่บนตัวเขาในตำแหน่งเดียวกันแต่ก็ยังแตกต่างกันอยู่ดี คิมหันต์ตัวสั่นระริกเหมือนลูกนกด้วยความกลัวแต่เด็กคนนั้นอาจหาญอย่างน่าอนาจ
“ ตัวสั่นทำไม “
“ ปะ..ปล่อยฮะ “ คิมพูดเสียงกระท่อนกระแท่น
“ ไปนอนไป “ ใหญ่ดันร่างบางออกอย่างไม่แยแสว่าคิมจะตกลงไปบนพื้นรึเปล่า รู้แค่ตัวเองลุกขึ้นแล้วเดินขึ้นไปด้านบนปล่อยให้น้องชายต่างแม่อยู่ตรงนั้นคนเดียว  ร่างสูงปิดประตูห้องถอดเสื้อเข้าไปอาบน้ำต่อด้วยนอนแช่น้ำให้ร่างกายสบายตัวขึ้น ในหัวคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยประเด็นหลักๆคงเป็นเรื่องของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในผับกับความโกรธที่ยากอธิบายเป็นคำพูด ความรู้สึกมันคืออะไรไม่รู้ แต่เขาควบคุมมันไม่ได้จริงๆ ใหญ่ขมวดคิ้วกันจนขึ้นปมเมื่อได้คำตอบ กลิ่นหอมอ่อนๆของเด็กคิมหันต์ยังติดจมูกจนน่ารำคาญ
มันน่ารำคาญจริงๆ..
.............................................................................

เคนนั่งรอในร้านร้านกาแฟในช่วงสายบนโต๊ะถัดจากแก้วกาแฟเป็นซองเอกสารปิดผนึกอย่างดี แม้แต่เขาเองก็ไม่รู้ว่าด้านในนั้นมีข้อความสำคัญอะไรบ้าง เขามีหน้าที่แค่เป็นคนถือมาให้เจ้าของอีกที
“ รอนานรึเปล่า “ ร่างสูงของใหญ่เดินมานั่งตรงข้ามกัน เคนเงยหน้าขึ้นมองขมวดคิ้วใส่
“ ช้ามากไอ้ใหญ่ “
“ โทษที เดี๋ยวมึงมีเรียนรึเปล่า “
“ มี แต่กูเอาของมาให้มึงก่อน “ เคนพูดพร้อมกับยื่นของที่ว่าให้เพื่อน ใหญ่รับมาถือมองมันเพียงแว็บเดียวเท่านั้นไม่ได้เปิดออกทันที
“ ...........”
“ จริงซิ ไอ้แวร์มาเล่าให้กูฟังว่าวันก่อนมึงโมโหมันเหรอวะ “
“ มันบอกมึงแบบนั้นเหรอ “
“ โกรธอะไรกันวะ “
“ เปล่า “
“ เปล่า? แต่มึงยังไม่คุยกับมันเลยไม่ใช่เหรอ ไอ้เหี้ยแวร์มันมาบ่นกับกูว่าโดนมึงเมิน “
“...........”
“ น่ามึง เรื่องเล็กน้อยก็ปล่อยๆไปเถอะ “
“ เรื่องที่มันนอกใจมึงก็เล็กน้อยด้วยซิ “
“ กูกับมันไม่ได้เป็นอะไรกัน “
“..........”
“ เอาเถอะ เอาเป็นว่าเลิกเมินมันแล้วกัน ดูท่ามันจะกลัวมึงโกรธจริงๆว่ะกูเองก็ไม่เคยเห็นมันทำหน้าเครียดคอขาดบาดตายขนาดนี้เลยนะ “
“ อย่างไอ้แวร์อย่างมากก็ตอแหล อย่าเชื่อมันให้มากระวังจะโดนมันหลอก “
“ นิสัยเหี้ยจริงๆนั่นแหละ “ เคนหัวเราะหึๆไม่ถือสาแต่ก็นึกขำ ใหญ่สั่งกาแฟมานั่งจิบคุยกันฆ่าเวลาก่อนจะเข้ามหาลัย หลังจากเคนขอตัวไปก่อนเพราะมีเรียนมีแต่ใหญ่ที่นั่งอยู่คนเดียวในโต๊ะซองเอกสารถูกเปิดอย่างไม่รีบร้อนไล่สายตาอ่านด้วยใบหน้าเฉยชา ตัวอักษรตามภาษาทางการของแพทย์ว่าด้วยเรื่องพิสูจน์ความสัมพันธ์ทางสายเลือดระหว่างคนสองคนถูกตีความหมายภายในหนึ่งหน้ากระดาษพร้อมกับผลสรุปเพียงสั้นๆในส่วนท้าย  มือหนาพับเอกสารส่วนสำคัญเก็บกลับเข้าไปในซองแล้ววางลงบนโต๊ะเหมือนเดิม แก้วกาแฟถูกยกขึ้นแตะริมฝีปากที่กำลังเหยียดยิ้มเหี้ยมจนน่าขนลุก
มันต้องอย่างนี้ซิ ถึงจะน่าสนุก.. 

จบ..

ส่วนหนึ่งในตอนเเรกสุดคับบบ เรื่องยาวงินพยายามใส่เท่าที่จะทำได้ค่ะ

ฝากติดตามเรื่อง รักร้ายผู้ขายอันตรายด้วยนะคะ เป็นเด็กใหม่อาจมีอะไรผิดพลาดก็ขออภัยด้วยค่ะ


http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54589.0

เเนวมาเฟียนิดๆ กินเด็กหน่อยๆ เฮียใหญ่โหดนิ่งเย็นชาซักหน่อย ไม่รู้ว่าจะเเต่งออกมาได้ดีเเค่ไหนก็ขอฝากด้วยนะค๊าบบบบ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-07-2016 23:25:10 โดย งินจัง »

ออฟไลน์ Serioz

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 265
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
สงสารคิมมาก คิมดูจะไม่มีใครเลย
แม้แต่เล็กตอนแรกก็นึกว่าจะโอเค ที่ไหนได้ก็ไม่สนใจน้องเลย
ใหญ่อย่าร้ายกับน้องมากนะ น้องไม่รู้เรื่องอะ น้องก็คงไม่อยากให้เกิดขึ้นแบบนี้
สู้ ต่อไปนะคะนักเขียน

ออฟไลน์ MAILOVEZ

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 81
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
พี่ใหญ่ไม่เห็นบ้างเลยหรอคะว่าน้องคิมมีจิตใจบริสุทธิ์ขนาดไหน อย่าใจร้ายกับน้องมากเลยนะคะสงสารน้อง

คนที่สมควรได้รับบทเรียนอย่าสูงสุดมีแค่นังพิมพ์ประภาคนเดียวน้องคิมไม่ได้ทำอะไรผิดพี่ใหญ่ต้องมีเหตุผลนะคะ สวดมนต์ขอให้พระเอกไม่โดนหม้อ ตะหลิวนะคะ ลักษณะจะต้องเจอแน่ๆ

พระเอกเรื่องนี้น่ากลัวนะคำพูดคำจาการกระทำกลัวแล้วค่า ส่วนน้องคิมนี่เราเอ็นดูน้องตั้งแต่น้อง 4 ขวบทำไมพี่ใหญ่มองไม่เห็นความน่ารักของน้อง

ชอบฉากก่อนพี่ใหญ่ไปจีนที่น้องคิมเอาดอกไม้มาให้อ่านแล้วรู้สึกว่าน้องคิมนี่แหละผู้ที่จะทำลายกำแพงน้ำแข็งของพี่ใหญ่ได้แน่ๆ ความเป็นน้องสักวันจะทำให้พี่ใหญ่มองน้องเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นแน่ๆ

เป็นกำลังใจให้นะคะแต่งให้จบน้าชอบพล็อตและการบรรยายเรื่องมากเลยอ่านแล้วอินสุดๆ สู้ๆ นะคะ

ออฟไลน์ Raina

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 341
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-2
"จบในตอน" นี่หมายถึงแค่ตอนแรกเหรอคะ? แอบงง

พี่ใหญ่ใจร้ายจัง น้องคิมไม่ได้รู้เรื่องอะไรด้วย โดนอารมณ์ของคนรอบข้างซัดใส่ไปเต็มๆ   :monkeysad:

ออฟไลน์ dena

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 71
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ janeyuya

  • ชี่น้อยวิ่งหัวซุกหัวซุน... (*¯︶¯*)
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
    • สมาคมศรีพันยาแห่งบ้านทาคาคิ
เอาเฮียใหย่กับน้องคิมมาลงเล้า
ดีใจจจจจจจจจจ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ azure

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 772
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
อยากรู้ปลตรวจdnaมาก :katai1:

ออฟไลน์ งินจัง

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 11
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
****************************

[attachment deleted by admin]
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-09-2016 22:51:14 โดย งินจัง »

ออฟไลน์ งินจัง

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 11
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-09-2016 22:50:41 โดย งินจัง »

ออฟไลน์ งินจัง

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 11
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-09-2016 22:50:02 โดย งินจัง »

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด