ธรณีครวญ
ตอนที่ 2
ต้องอดทน
“เอ้า! นี่ สักผ้าให้ฉันด้วย วันนี้ฉันจะออกไปข้างนอก”
เสียงแจ้วๆ เดินเข้ามาหาเด็กหนุ่มพร้อมวางตะกร้าผ้าทำจากหวายมีผ้าชิ้นเล็กชิ้นน้อยอยู่ในนั้น คนถือมานี้ชื่อ มะกอก
เธอเป็นคนใช้ของคุณหญิงโดยตรง และมาอยู่ก่อนหน้าหม่อนจะเข้ามาบ้านหลังนี้อีก เธอมีรูปร่างสูงโปร่ง แต่ผิวสีแทน นิสัย
ชอบยกยอปอปั้นเป็นที่สุดไม่ต่างอะไรไปจากสีผิวของเธอเลย
ไม่มีใครรู้ความจริงเรื่องนี้นอกจากหม่อนกับป้าเข็ม เมื่อไหร่ที่คุณท่านกับคุณบอร์นไม่อยู่ เห็นทีจะต้องคอยรับมือทั้งคุณ
หญิงและคนรับใช้หนักเลยทีเดียว ไม่ต่างจากครั้งนี้ที่ มะกอก กำลังทำอยู่ตรงหน้า
“มองอะไรยะ! ไม่พอใจหรือยังไง นี่คำสั่งคุณหญิงเลยนะ”
“ครับ เดี๋ยวผมซักให้ ขอผมซักเสื้อผ้าผมก่อนนะ”
“ไม่ได้! ต้องซักตอนนี้ เพราะพรุ่งนี้ฉันจะใส่เสื้อผ้าของฉันไปเดินตลาด” เธอพูดพลางนึกฝันไปว่าได้ใส่เสื้อผ้าสวยๆไปเดินด้าน
นอก แปลกแต่จริงเสื้อผ้าของใครใครก็ต้องซักเอง หรือไม่ก็จ้างซัก ไม่มีใครเขามาฝากคนอื่นทำให้แบบนี้หรอก หม่อนได้แต่คิด
ในใจ
“แหม อีมะกอก คราวนี้จะแกล้งอะไรไอ้หม่อนมันอีกล่ะ เสื้อผ้าของมึง มึงก็ซักเองสิ”
“เรื่องอะไรล่ะป้า คุณหญิงเธอสั่งฉันมาเองว่า มีอะไรแกล้งไอ้กาฝากนี่ ก็ให้ทำๆไปได้เลย ฉันก็แค่สนองปากคุณหญิงทำนะสิ ”
มะกอกพูดลอยหน้าลอยตาไม่คิดเกรงใจป้าเข็ม ทั้งที่มีศักดิ์และอายุมากกว่าเธออีก
“อีขี้ข้าเลียแข้งอย่างมึงนี่ เมื่อไหร่นะที่จะออกจากบ้านนี้ไปซะที” ป้าเข็มแกเหลืออดพลางเดินเข้าไปหามะกอกทันที
“อย่าครับป้าเข็ม! ไม่เป็นไรหรอก หม่อนเองก็ซักให้พี่มะกอกทุกครั้ง ผมไม่เหนื่อยหรอก”
“แกก็เป็นซะอย่างนี้ไง เอาเรื่องนี้ไปบอกคุณท่านก็สิ้นเรื่อง อย่างคุณหญิงนะคุณท่านพูดอะไร เธอก็ทำตามทั้งนั้น ”
“ป้า! อย่าคิดเสี้ยมไอ้หม่อนมันนักเลย เสียเวลาเปล่า คนโง่ๆอย่างไอ้หม่อนมีหรือจะกล้าต่อกร นี่คงไม่คิดจะเนรคุณคุณหญิง
หรอกนะหม่อนจ๋า” มะกอกยิ้มแสยะให้เด็กหนุ่มอย่างได้ใจ
“มึงจะไปไหน มึงก็ไปเลยไปอีมะกอก ก่อนที่มะกอกในมือกูจะลงหัวมึงเข้าจริงๆ” ป้าเข็มขู่เสียงดัง
“โอ้ย ป้า! จะอะไรกับฉันนักหนาเนี่ย ไปก็ได้เชอะ!”
หม่อนค่อยๆปล่อยมือออกจากแขนป้าเข็มแล้วกลับมานั่งลงที่ตั่งไม้ ก้มหน้าก้มตาจัดการกับเสื้อผ้าในกะละมังที่เหลือให้
หมด
“ไม่ต้องไปซักให้มันนะ ถ้าขืนแกยอมมันอยู่อย่างนี้แล้วเมื่อไหร่กันล่ะ ที่แกจะสบายซักที”
“ไม่เอาน่าป้า ผมทำได้ เสื้อผ้าพี่มะกอกก็ไมได้เยอะอะไรมากมาย ป้าไปพักผ่อนเถอะนะ ”
“แกนี่นะจริงๆเลยไอ้หม่อน เครื่องซักผ้าก็มีกลับไม่ใช้ แปลกคนจริงๆ”
“หม่อนชินกับการซักมือครับป้า มันสะอาดกว่าแล้วก็ถนอมผ้าด้วย”
“เออๆจะทำอะไรก็ทำ เสร็จแล้วก็รีบๆมากินข้าวเที่ยงด้วย ป้าแบ่งเตรียมไว้ให้ต่างหากแล้ว อยู่ในฝาชีนะ”
“ครับป้า”
สิ่งที่โดนกระทำจากบ้านหลังนี้ ยังไม่หมดลงเท่านี้หรอก ผมจะเล่าให้หมดทุกอย่างถึงความเลวร้ายและกระทบ
จิตใจผมมากมายเหลือเกิน ไม่มีใครช่วยผมได้จริงๆ คนอื่นๆที่สงสารก็ทำได้แต่สังเวทและเป็นกำลังใจให้ ป้าเข็มคือผู้ที่ผมเคารพ
และเทิดทูนที่สุดแล้วรองจากคุณท่าน เวลาเสียใจหรือเศร้าใจก็มีแต่ป้าเข็มเท่านั้นที่ปลอบใจ
“ป้าครับ ข้าวของหม่อนป้าเก็บไว้ที่ไหนครับ?”
“อ้าว ไม่อยู่ในฝาชีหรอ?”
“ไม่ครับ มีแต่จานข้าวกับเศษอาหารเหมือนเพิ่งจะกินไปเอง”
“ตายแล้ว! แมวที่ไหนมาแอบกินได้นะ” ป้าเข็มเปรียบเทียบไปอย่างนั้นไม่คิดว่าแมวจะมากินจริงๆหรอก
“มีอะไรกันหรอจ้ะ ป้าหลาน?”อีกครั้งที่หญิงสาวรุ่นพี่คนเดิมเดินเข้ามาในห้องครัวพร้อมท่าทางที่มาก่อกวนอีกตามเคย แต่กลับ
ไม่มีใครสนใจมะกอกเท่าไหร่นัก
“เดี๋ยวป้าเจียวไข่ให้แกกินก็แล้วกันนะ”
“ขอบคุณครับป้า”
“ตายจริงนี่ไอ้หม่อน มึงยังไมได้กินข้าวเที่ยงหรอวะ น่าสงสารเนอะ!” มะกอกเน้นประโยคสุดท้ายเสียงดังพร้อมจริตสีหน้าแววตา
ตาด้วยแล้ว อดสงสัยไมได้จริงๆว่าจะเป็นมะกอกอีกเช่นเคยที่ทำเรื่องนี้
“ก็ใช่นะสิวะ ผีห่า นรกหลุดมาจากไหนก็ไม่รู้มาแอบกินของของคนอื่น ทั้งๆที่ไมได้จุดธูปเชิญ” ป้าเข็มกำลังตอกไข่อยู่หันมา
พูดจากระแทกจิตใจของมะกอก
“ป้า! นี่ป้าว่าฉันนี่นา?”
“อะไรของมึงอีมะกอก กูก็พูดเดาไปเรื่อย หรือว่าเป็นมึงหรอกหรอที่มาขอส่วนบุญ”
“ป้า!” มะกอกโวยวายไม่ยอมทำท่าเหมือนจะเดินเข้ามาหา
“อย่านะพี่มะกอก ถ้าพี่ไมได้ทำพี่ก็อย่ามีปากเสียงกับป้าเข็มเลย ยังไงป้าเข็มแกก็เป็นป้าของพวกเรานะ”
หม่อนเดินไปขวางหน้าเอาไว้ เขาไม่ยอมให้มะกออกเข้ามาทำอะไรป้าเข็มแน่
“เชอะ! เอาเถอะ ฉันไม่ได้กินข้าวของแกก็แล้วกันไอ้หม่อน กินเสร็จก็ไปล้างจานด้วย กองอยู่ที่อ่างล้างแล้ว”
“อีมะกอก นั่นหน้าที่มึงไม่ใช่หรอวะฮะ” ป้าเข็มโมโหตะโกนด่า
“มันก็ใช่นะจ๊ะป้า แต่วันนี้ไม่ใช่ ฉันไปก่อนนะ”
ทั้งหม่อนและป้าเข็มมองตามหลังหญิงร่างสูงผิวเข้มไปด้วยความแปลกใจและสงสัย หมายความว่ายังไงวันนี้ไม่ใช่?
“ไม่ต้องไปทำนะหม่อน แกมีหน้าที่กินข้าวเที่ยงแล้วก็ไปตัดแต่งต้นไม้ในสวนหย่อม”
“แต่ว่า…”
“ไม่มีแต่ ถ้าคุณหญิงไม่เห็นแกไปตัดแต่งสวนหย่อม แกนั่นแหละจะแย่เอา”
“ครับป้า”
“นั่งรอเดี๋ยวนะ ไข่เจียวจนจะสุขแล้ว”
ป้าเข็มบอกอย่างไม่สบอารมณ์เท่าไหร่ ก่อนจะหันไปเจียวไข่ในกระทะต่อ หม่อนรู้สึกหนักใจทุกครั้งไม่เคยชิน
เลยเสียที เวลาคุณท่านกับคุณบอร์นไม่อยู่เป็นต้องเจอเรื่องแบบนี้ตลอด และมาไม่ซ้ำรูปแบบเลย ใจคอของคุณหญิงนั้นหม่อน
ทราบดีมาตลอดว่าอยากให้เขาออกจากบ้านหลังนี้ไปให้เร็วที่สุด เพียงแต่เขาเองไม่รู้ว่าเพราะด้วยเหตุผลอะไรคุณหญิงถึงได้
กีดกันเขานัก
วันเวลาผ่านไป หม่อนยืนยัดและทนอยู่บ้านหลังนี้ต่อไป จนกระทั่งอีก 2 ปีผ่านมา รวมอายุได้ 16 ปี หม่อนในปัจจุบัน
สูงขึ้นกว่าเดิม 10 เซนติเมตร แต่นั่นก็เพียง 165 เซนติเมตรเท่านั้น ใบหน้าน่ารักน่าเอ็นดูเช่นเดิม ถูกแทนที่ด้วยใบหน้าคมคาย
หล่อขึ้นกว่าเดิม แต่สิ่งที่ไม่เปลี่ยนไปเลยคือความรู้สึกที่มีต่อคุณบอร์น พี่ชายสมมติในชีวิตจริงของเขา
“นี่หม่อน หยิบหนังสือที่หัวเตียงนอนให้พี่หน่อยสิ”
เสียงทุ้มไหว้วานจากพี่ชายสุดหล่อบอกทั้งๆที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวโปรด หม่อนมีหรือจะไม่ทำตาม
“เล่มไหนครับพี่บอร์น มันมีสองเล่ม”
“เล่มที่เขียนว่า เที่ยวยุโรปอ่ะ”
“นี่ครับพี่ หนังสือที่พี่ต้องการ”
มือเล็กๆถือหนังสือเล่มดังกล่าวไปให้ บอร์นรับมันมาและไม่ลืมที่จะเงยหน้าบอกน้องชายของเขา
“ขอบใจนะ นี่ก็เรียนมอ 4 แล้วสิ ไม่คิดจะมีแฟนบ้างหรอ?”
“แฟนอะไรกันครับพี่บอร์น ผมไม่มีหรอก” หม่อนทำสีหน้าหงอยๆ
“เป็นอะไรอีกล่ะ หรือว่ากำลังจะงอนพี่อีกแล้ว”
“เปล่าครับ แค่ช่วงนี้รู้สึกว่าพี่ชายไปยุโรปบ่อยจังเลยก็เท่านั้น”
“เอาไว้ปิดเทอมเมื่อไหร่พี่จะพาไปเที่ยวแล้วกันนะ แต่ครั้งนี้ที่พี่ไป พี่ไปเรื่องงานแต่งงานของเพื่อนสมัยเรียนที่อังกฤษ พี่ไปแป๊บ
เดียวเดี๋ยวก็กลับ”
“ครับ!” หม่อนตอบสั้นๆ เขาไม่มีสิทธิ์จะห้ามหรือยั้งความคิดของหนุ่มรุ่นพี่ที่บัดนี้อายุปาเข้าไป 24 ปีแล้ว
“หม่อน จบมอปลายแล้วอยากเรียนเกี่ยวกับอะไร?”
“ยังไมได้คิดหรอกครับ ผมเองก็ไม่รู้ว่าอยากจะเป็นอะไรเหมือนกัน ” ร่างบางบอกคนตรงหน้าไป
“อยากไปเรียนต่างประเทศไหม พี่ขอพ่อกับแม่ให้ได้นะ”
“อย่าเลยครับ ผมไม่อยากไปไหน ผมอยากอยู่ที่ประเทศไทย อยากตอบแทนพระคุณคุณท่านที่คอยช่วยเหลือและเลี้ยงดูผมมา”
“อ้าวแล้วพี่ล่ะ ไม่อยากตอบแทนหรือไง?”
“ก็…ตอบแทนสิครับ แล้วพี่บอร์นอยากให้ผมตอบแทนอะไรดี?”
“ยังคิดไม่ออกหรอก ไว้คิดออกแล้วจะบอก ดึกมากแล้วน้องนอนเถอะ เดี๋ยวตื่นไปโรงเรียนไม่ทันนะ ”
“แล้วพี่บอร์นไม่นอนพร้อมกันหรอครับ”
“พี่ขอดูสถานที่ท่องเที่ยวต่ออีกนิดแล้วกัน น้องไม่ต้องรอพี่หรอก นอนก่อนเลย”
“ครับพี่ฝันดีนะครับ”
“ครับน้องพี่!”
ร่างบางช่างน่าสงสารและน่าเห็นใจ คำอวยพรส่งเข้านอนทุกคืนตั้งแต่ 2 ปีก่อนนั้น มันแฝงอะไรไว้ชัดเจน หากแต่
บอร์นไม่คิดที่จะตีความเป็นอื่นเลยแม้แต่น้อย ชีวิตนี้หม่อนคงทำได้แค่นี้สินะ
และแล้ววันนั้นก็มาถึง วันที่บอร์นเดินทางไปต่างประเทศตามที่เคยเปรยไว้ก่อนหน้านี้ และคุณท่านก็ออกไปทำงาน
ที่สถานีตำรวจเช่นเคย ชีวิตของหม่อนก็วนเวียนเข้าวัฏจักรเดิม นั่นคือชีวิตการเป็นอยู่ที่ไม่ต่างอะไรไปจากคนรับใช้เลยแม้แต่น้อย
นิด
คืนนั้นท้องฟ้าเปิด มองเห็นดาวและดวงจันทร์ส่องประกายอยู่เต็มท้องฟ้า หม่อนปลีกตัวออกมานั่งชันเข่ากับพื้นดิน
ในสวนหย่อมเช่นนี้ทุกครั้งที่มีโอกาส ดวงตาที่มองขึ้นไปบนท้องฟ้านั้นเพื่ออะไรกัน? เขาเองก็ไม่เข้าใจตัวเอง แต่ก็ได้แต่มองมัน
อยู่อย่างนั้น จนกระทั่งสายตาของหม่อนจับภาพนั้นทัน ดาวตกอย่างไรล่ะ
“ดาวตก! ขอพรอะไรดีนะ?”
หนุ่มน้อยทำสีหน้าดีใจ พร้อมกับพนมมือขอพรหนึ่งข้ออยู่ในใจทันที พรข้อนั้นไมได้ขอเพื่อตัวเองแม้แต่น้อย สิ่งที่เขา
ขอครั้งนั้นคือ ขอให้บอร์นเดินทางไปกลับปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ ยิ่งหม่อนอายุมากขึ้นเท่าไหร่ ความรู้สึกที่คิดต่อพี่ชายคนนี้ยิ่ง
มากขึ้นเรื่อยๆ จนเขาเองมั่นใจแล้วว่ามันเป็นความรักของชายรักชาย แต่คนที่เขาแอบรักช่างสูงส่งเหลือเกิน มันไม่มีทางเป็นไป
ได้เลย ถึงแม้เขาจะเกิดเป็นหญิงก็ตาม ไม่มีทางสมหวังเรื่องความรักกับบอร์นได้แน่
“อ้าว! นี่เธอเองหรอกหรอหม่อน ดึกขนาดนี้แล้วทำไมยังไม่นอนอีก” เสียงทักของใครบางคนเดินเข้ามาในสวนหย่อม เด็กหนุ่ม
ตกใจเล็กน้อยพลางหันไปทางต้นเสียงกลับเจอทั้งคุณหญิงและมะกอก ยืนยิ้มเยาะหยันอยู่
“เอ่อ…ผม ผมกำลังจะกลับไปนอนเดี๋ยวนี้แหละครับ”
“เดี๋ยว! ทางกลับห้องไม่ใช่ทางนั้น แกต้องนอนกับป้าเข็มไปจนกว่าลูกชายของฉันจะกลับมา เข้าใจไหม?”
“ครับคุณหญิง” หม่อนขานรับพร้อมๆกับยืนก้มหน้าก้มตา
“ฉันถามจริงๆหน่อยเถอะ ไม่คิดอยากจะไปอยู่ที่ไหนซักที่ ที่เป็นบ้านของเธอเองหรือไง? ฉันมีเงินให้เธอไปตั้งตัวได้ก้อนหนึ่งเลย
นะ”
“ผมยังไม่คิดเรื่องนั้นหรอกครับ ผมอยากเรียนให้จบปริญญาก่อน!”
“ปริญญาหรอ ฮ่าๆๆๆๆ นังมะกอก ได้ยินเหมือนฉันไหม เด็กคนนี้อยากเรียนถึงปริญญา ไม่ฝันหวานไปหน่อยหรอพ่อหนุ่มน้อย”
คุณหญิงกอดอกพูด
“ฉันจะบอกให้นะหม่อน ชีวิตเธอเดินทางมาได้ถึงขนาดนี้ ฉันว่ามันก็ดีมากมายพอแล้ว นี่ก็ส่งเสียให้เรียนฟรีอยู่ฟรีจนถึงมอ 4 ลูก
หลานฉันก็ไม่ใช่ ใครที่ไหนก็ไม่รู้ พื้นหลังประวัติจริงเท็จแค่ไหนนั้นไม่มีใครรู้ ก่อนหน้าจะมาอยู่ที่นี่ เด็กอย่างเธอเองอาจจะทำ
เรื่องไม่ดีมามากพอสมควรเสียด้วยซ้ำ นับวันรอออกจากบ้านฉันได้เลยเถอะ กลับไปคิดดูให้ดี เด็กอายุเท่าเธอ หลายคนเขาเอา
ตัวรอดกันได้ หางานทำ มีเงินมีทองใช้กันได้เยอะแยะ”
“คุณหญิงครับ ผมไหว้นะครับ ขอให้ผมเรียนจบปริญญาก่อน แล้วผมจะไปจากที่นี่นะครับ”
“ไม่ได้ ฉันไม่ไว้ใจแก เชื้อไม่มีแถว แนวไม่มีกอ แบบนี้ฉันไม่ชอบ!”
“จริงค่ะคุณหญิง ” มะกอกอเสริมขึ้นมาทันที
“ไปคิดดูให้ดีนะ เงินที่ฉันจะให้เธอไปตั้งตัวมันมากพอ ที่ชีวิตของเธอไม่มีวันจะได้เห็นอีกแล้วในชีวิตนี้แน่”
“คุณหญิง ผมกราบล่ะครับ เมตตาผมด้วย ผมรับรองว่าผมจะไม่สร้างความลำบากใจ จะทำงานตามที่คุณหญิงบอกทุกอย่างครับ”
“ขอบใจนะหม่อนที่เสนอเงื่อนไขนี้ให้ฉัน ฉันเชื่อแน่นอนว่าเธอทำได้ตามที่เธอบอก แต่ตอนนี้ฉันไม่ต้องการเธอแล้ว ก่อนหน้านี้
ฉันเวทนาเธอหรอกนะ เพราะเห็นเป็นเด็กอยู่เลยรับเลี้ยงไว้ตามที่สามีฉันขอ แต่ตอนนี้เธอโตพอที่จะดูแลตัวเองได้แล้ว อีกสอง
วันฉันจะให้คนขับรถพาเธอไปที่บ้านหลังใหม่ ฉันเตรียมไว้หมดแล้ว คราวนี้ขึ้นอยู่กับเธอเสียแล้วล่ะนะว่าจะยินยอมและตกลง
หรือไม่ก็ไปเร่ร่อนนอกถนน!”
“คุณหญิง ฮึก ฮือ ได้โปรด อย่าเพิ่งไล่ผมไปไหน ผมไม่ได้ทำผิดอะไร คุณอย่าไล่ผมเลยนะครับ”
“มึงนี่น่ารำคาญจริงๆเลยไอ้หม่อน คุณหญิงคะอย่าไปฟังเลยค่ะ กลับห้องไปนอนดีกว่านะคะ”
“ก็ดี จัดการต่อให้ฉันด้วยนะมะกอก”
“คุณหญิงจะจงเกลียดจงชังผมไปทำไมครับ ผมทำอะไรให้คุณหญิงไม่สบายใจ ผมพร้อมปรับปรุงตัวครับ ฮึก ฮือ ฮือ”
“ไม่มีประโยชน์หรอกหม่อน สิ่งที่เธอเป็นอยู่ เธอไม่มีทางเปลี่ยนแปลงได้ อย่าให้ฉันต้องพูดไปตรงๆว่าสาเหตุที่แท้จริงนั้นคือ
อะไร อย่าคิดว่าฉันจะดูเธอไม่ออก”
“คุณหญิงพูดเรื่องอะไรครับ ฮึก! ”
“อย่าซื่อไปหน่อยเลยหม่อน เธอกับบอร์น ลูกชายฉัน ฉันรับรู้ได้!”
“ฮึก ฮือออออ คุณหญิง คุณหญิงจะทำแบบนี้ไม่ได้นะครับ ฮึก ฮือออ”
เป็นอย่างไรชีวิตฉากนี้ของผม ผมจำฉากนี้ได้แม่นเลย ผมหน้าชาอย่างบอกไม่ถูก ไม่คิดว่าจะมีคนดูผมออก คุณหญิงรู้
แล้วว่าผมไม่ใช่ผู้ชาย เธอกำลังปกป้องและกีดกันผม เพื่อความปลอดภัยของลูกชายสินะ ผมจำได้ว่าตอนนั้นผมเสียน้ำตาไปเท่า
ไหร่ ต้องถูกยินยอมทั้งๆที่อีกฝ่ายมัดมือชัดอย่างนั้น
ผมรู้สึกกลัวขึ้นมาจับใจ ที่นี่เหมือนครอบครัวผมไปแล้ว แต่ตอนนี้เหมือนผมจะถูกกระเด็นออกสู่โลกภายนอกอีกครั้ง
ชีวิตของผมที่จะไมได้เจอหน้าพี่ชายที่แอบรักและแอบชอบอีกแล้วสินะ ชีวิตของผมมันยังถูกย่ำยีไม่พอหรือยังไง แต่ตอนนี้ผม
ตอบได้เต็มปากว่าเรื่องราวของผมยังไม่หมดแค่นี้หรอก นี่แค่เริ่มต้นเท่านั้น ต่อให้ต้องเสียน้ำตาจนขาดใจตาย ผมว่าคงไม่มีใคร
สนใจผมหรอก…
...อ้อมอกแม่นี้ยังคอยซับน้ำตา
ให้ไหลพรั่งพรูออกมา
ให้ความเศร้าจางหายไป
อกแม่นี้แม่ธรณีที่ยิ่งใหญ่
รองรับความทุกข์ไว้
ให้น้ำตาเหือดหายในพื้นดิน...
*********************************