ตอนที่ 9 : น่าลัก“พี่เสือเป็นอะไรครับ” ไออุ่นรับหน้าที่เป็นตัวแทนเหมาเข้าไปถามไถ่เสือ เพราะตั้งแต่เช้ายังไม่มีใครเข้าหน้าติด
“ไม่มีอะไร”
“แน่นะครับ”
“อืม”
“ครับ พี่เสือว่าไม่มีก็ไม่มีแต่ถ้ามีอะไรคุยกับผมได้” ไออุ่นพูดทิ้งทายก่อนจะเดินออกจากมุมหนังสือที่เสือกำลังจัดอยู่
“เดี๋ยวอุ่น”
“ครับ?”
“นายรเมศน้องคุณทินเป็นเกย์หรือเปล่า”
“ครับ?!!” ไออุ่นขึ้นเสียงสูง ไม่คิดว่าเสือจะถามเรื่องนี้
“พี่เสือถามทำไมเหรอครับ”
“เปล่าๆ ไม่มีอะไร เห็นดูสำอางนึกขึ้นได้เลยถาม พี่ไม่ได้สนใจอะไรนะ” เสือรีบออกตัว เหงื่อเขาเริ่มตกเมื่อไออุ่น
เดินเข้ามาใกล้แถมมองเหมือนจับผิดเขาอีก
“สำอางเหรอครับ ผมไม่เห็นจะเป็นแบบนั้นเลย” ในสายตาไออุ่นรเมศเป็นหนุ่มลูกครึ่งที่มีรูปร่างดีมาก หล่อล่ำ
สมกับเป็นนายแบบแถวหน้า
“ตกลงว่าไม่ใช่ใช่ไหม” ใจของเสือค่อยชื้นขึ้นมาหน่อย สงสัยไอ้เด็กนรกนั่นแค่แกล้งเขา
“ไม่ทราบครับ” ไออุ่นดับทุกความหวังของเสือ ตกลงมันเป็นหรือไม่เป็นวะ เขาจะไปหาความกระจ่างได้จากที่ไหน
อึ๋ย เขาก็จูบกับไอ้เด็กเปรตนั่นได้ตั้งนาน ไม่อยากยอมรับเลยว่าเขาก็เคลิ้มใช่ย่อย
“พี่เสือ”
หือ?”
“ผมว่ามันมีอะไรแปลกๆ นะ เมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า”
“ไม่มี” เสือรีบตอบ ไม่รู้เขาตอบไวไปไหมดูมีพิรุธชอบกล
“จะมีอะไรได้ยังไงล่ะอุ่น คิดมาก”
“ครับ ไม่มีก็ไม่มี” ไออุ่นยอมวางมือจากเสือ เดินกลับไปทำงานตามเดิม
เสือค่อยๆ ผ่อนลมหายใจออกมา เพราะไอ้เด็กนรกนั่นคนเดียว พาเขาไปค้างห้องไออุ่นก็สิ้นเรื่อง แต่ก็นั่นแหละจะโทษก็พูด
ได้ไม่เต็มปาก เมื่อคืนกว่าจะกลับกันเขาเดาว่าคงเลยตีสอง เพราะครั้งสุดท้ายที่พอจำความได้เขามองนาฬิกามันตีหนึ่ง
เข้าไปแล้ว กว่าจะถึงคอนโดคงเกือบตีสาม ไม่ใช่เวลาจะไปเคาะห้องรบกวนใคร โว้ย!! ช่างมันเถอะ ขี้เกียจคิดแล้ว
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++
“อุ่น ฟ้าคุยกับคุณทินแล้วนะ”
“อะไรนะ!!” ไออุ่นยอมรับว่าตกใจมาก เมื่ออยู่ๆ เพื่อนรักก็พูดขึ้นมาโดยไม่มีปี่มีขลุ่ย
“ฟ้าบอกว่าฟ้าคุยกับคุณทินแล้ว วันนี้เอง”
“แล้วพี่ทินว่ายังไงบ้าง”
“ก็ไม่เห็นว่ายังไง ยังยิ้มดีอยู่นี่” ญาดาใช้ส้อมพันเส้นสปาเก็ตตี้เข้าปาก เธอกับไออุ่นออกมาทานข้าวกลางวันด้วยกัน
“ถามได้ไหมว่าฟ้าคุยอะไรกับพี่ทินบ้าง”
“ได้สิ ก็กะจะมาเล่าให้ฟังอยู่แล้ว ถึงชวนออกมาทานข้าวด้วย” ญาดายกผ้าเช็ดปากขึ้นเช็ด ก่อนเอนหลังพิงพนักเก้าอี้
“วันนี้คุณทินแวะเข้ามาตรวจเอกสาร แล้วคุณทินชวนฟ้าไปทานข้าวด้วยเย็นนี้ ฟ้าก็เลยบอกไปว่าฟ้าติดธุระ แต่ก็ขอบคุณพี่ชายสุดแสนใจดีที่ชวน”
“แค่นั้น” ไออุ่นถามย้ำเมือเห็นญาดาไม่เล่าอะไรต่อ
ใช่ แค่นั้น”
“แล้วพี่ทินพูดอะไรบ้าง”
“ก็พูดว่าพี่ชายเหรอครับ แล้วก็หัวเราะออกมา ต่อด้วยได้ครับน้องสาว อยากให้พี่ชายเลี้ยงเมื่อไหร่บอกได้เลย”
“พี่ทินคงไม่อยากให้ฟ้าไม่สบายใจ ฟ้าทำไมไม่พูดดีๆ”
“อ้าวแล้วฟ้าพูดไม่ดีตรงไหนอุ่นก็ พูดแบบนี้แหละไม่ขายหน้ากันทั้งสองฝ่าย คุณทินยังไม่เคยบอกชอบฟ้า เพียงแต่
แสดงออกว่าสนใจว่าจีบเท่านั้นเอง อย่างนี้ก็ยังมองหน้ากันติด”
“ก็จริงของฟ้า” ไออุ่นเริ่มเห็นด้วยว่าบอกเป็นนัยๆ แบบนี้ก็ดี ต่างฝ่ายต่างร่วมงานกันได้ โชคดีที่ทินภัทรเข้าใจอะไรได้ง่าย
“แต่ฟ้าว่านะโชคดีแล้วล่ะที่ฟ้าตัดใจ”
“ตัดใจ?” ไออุ่นสงสัยคำว่าตัดใจของเพื่อน
“คือ..ฟ้าหมายถึงตัดใจบอกไปตรงๆ น่ะ” ญาดาลอบถอนใจเบาๆ โชคดีที่เธอยังไหลเอาตัวรอดไปได้
“ทำไมเหรอฟ้า”
“ก็ฟ้าว่าคุณทินดูไม่เห็นจะเสียใจหรือทำท่าอาลัยอาวรณ์หรือลองตื้อฟ้าต่อเลย ยอมรับแบบเฉยๆ”
“พี่ทินคงไม่อยากให้ฟ้ารู้สึกไม่ดี จริงๆ พี่ทินอาจกำลังเสียใจอยู่ก็ได้”
“ไม่รู้สิ ฟ้าคงไปช่วยปลอบให้ไม่ได้หรอกเดี๋ยวไปกันใหญ่ คงต้องให้คนอื่นช่วยปลอบแล้วล่ะนะงานนี้”
ญาดาเน้นคำว่าคนอื่นเพื่อกระตุ้นไออุ่น อยู่ๆ เธอก็รู้สึกเสียดายขึ้นมา เมื่อกี้น่าจะโกหกไปว่าทินภัทรเศร้านิดๆ
จะได้เร่งปฏิกิริยาไออุ่นได้ง่ายขึ้น
“เฮ้อ พออุ่นพูดแบบนี้ฟ้าชักเป็นห่วง เพิ่งกลับมาซะด้วยสิ ลูกก็ทิ้งไม่ได้ จะนัดเพื่อนสังสรรค์ก็คงลำบาก นี่ละน้าชีวิต
พ่อหม้ายลูกติด” ไม่ได้ทางนึงก็ต้องเล่นอีกทางนึง ญาดาไม่ยอมให้ตัวเองถอยแล้วคนอื่นได้ไปกินหรอก เธอถอยให้เพื่อน
เพื่อนต้องได้สิ ขืนชักช้าเดี๋ยวจะไม่ทันการ
“ใช่ น่าสงสาร” อยู่ๆ ไออุ่นก็รู้สึกว่าเขากินข้าวไม่ลง ไม่นึกอยากทานอาหารที่วางอยู่ตรงหน้า รู้อย่างนี้เขาไม่ควรบอกฟ้า
ให้รีบไปคุยกับทินภัทรเลย บางทีถ้าเขาไม่เข้าไปยุ่ง นานๆ ไปฟ้าอาจจะใจอ่อนก็ได้
“อุ่นคิดอะไรอยู่” ญาดาเห็นเพื่อนทำหน้าเศร้า มือเอาแต่ถือช้อนเขี่ยอาหารไปมา
“เปล่าๆ ไม่มีอะไร”
“ไม่มีก็ทาน เขี่ยอยู่นั่นแหละ”
“อืม” ไออุ่นจำใจต้องฝืนตักอาหารเข้าปาก เพื่อไม่ให้ญาดาสงสัย ป่านนี้ทินภัทรจะเป็นยังไงบ้างนะ
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
“อายอุ่น” ลูกหมูตัวอ้วนกระโดดเข้ากอดไออุ่นทันทีที่เขาเปิดประตูรับ
“ว่าไงครับทะเลของอาอุ่น คิดถึงจังเลย” ไออุ่นอุ้มเด็กชายทะเลขึ้นหอมแก้มซ้ายขวา เขาคิดถึงลูกหมูทะเลจริงๆ ถึงแม้ว่า
เขาจะใช้เรื่องนี้โทรไปหาทินภัทรเพื่อนัดเจอก็ตาม
“คิดถึงอายอุ่น”
“คิดถึงแล้วทำไมไม่ไปหาอาอุ่นที่ร้านครับ”
“แด๊ดใจย้าย” ลูกหมูทะเลรีบฟ้องทันที วันนี้แด๊ดไปทำงานแต่ไม่ยอมพาเขาไปด้วย
“อ้าวอ้าวลูกหมู เดี๋ยวก็พากลับเสียนี่ ใจร้ายแล้วใครเป็นคนขับรถพาเราพาหาอาอุ่น”
“แด๊ดใจดี” ลูกหมูทะเลพลิกได้เร็วมาก จนไออุ่นอดขำไม่ได้
“จะทานข้าวเลยไหมครับพี่ทิน”
“เอาสิ ทะเลน่าจะหิวแล้ว”
“หิวหิว”
“งั้นมาเลย” ไออุ่นอุ้มลูกหมูทะเลไปนั่งที่โต๊ะอาหาร เขาเลือกนั่งข้างทะเลเสียเองเพื่อจะได้ช่วยดูแลแทนทินภัทร
เขาอยากให้ชายหนุ่มได้พักผ่อนมากๆ อยากจนตัดสินใจโทรหาโดยอ้างว่าเขาคิดถึงทะเล อยากให้ทินภัทรพามาเล่น
ที่ร้านบ้าง ซึ่งทินภัทรก็ตอบว่าทะเลก็คิดถึงเขาเช่นกัน จนเป็นที่มาของการนัดทานข้าวเย็นมื้อนี้
“ทะเลทานผักด้วยสิครับ” ไออุ่นพูดเมื่อเห็นเด็กชายทะเลเขี่ยผักที่ตนตักให้ออก ก่อนหน้านี้ไออุ่นไม่เคยสังเกตเพิ่งมา
คิดได้ว่าเวลาทานข้าวทินภัทรมักจะสั่งแต่ของไม่มีผักให้ทะเล
“มันไม่หย่อย”
“แต่มันมีประโยชน์ครับ ดีต่อสุขภาพ”
“แด๊ดบอกพี่ทะเลไม่ต้องกิน” ไออุ่นหันขวับไปมองคนที่นั่งอยู่ตรงข้าม อีกฝ่ายรีบปฏิเสธเป็นพัลวัน
“ไม่ใช่นะ พ่อบอกว่า..”
“ม่ายต้องกิน” ลูกชายตัวดีพูดต่อให้จนจบ คนเป็นพ่อลูบคอ หัวเราะแก้เก้อ
“พี่อยากให้ทานนะแต่ทะเลไม่ยอมทาน บังคับมากก็พาลไม่กินข้าว ร้องไห้โยเย” ไออุ่นนึกอยากจะตีคนเป็นพ่อ
ที่ยอมสารภาพออกมแต่โดยดี
“พี่ทะเลฟังอาอุ่นนะครับ”
“คับ”
“พี่ทะเลเป็นพี่แปลว่าต้องเก่งๆ ใช่ไหม”
“ใช่คับ พี่ทะเลเก่งๆ เลย” ลูกหมูทะเลรีบยกนิ้วโป้งขึ้นการันตีตัวเอง
“ใช่ครับ แต่คนเก่งเขากินผักกันนะ พี่ทะเลไม่กินผักต่อไปต้องเป็นแค่ลูกหมูทะเลแล้ว เป็นพี่ไม่ได้”
“ไม่ ไม่ พี่ทะเลเก่ง พี่ทะเลกินผัก”
ลูกหมูทะเลกลัวโดนลดขั้น รีบเอาส้อมจิ้มแครอทนึ่งที่ไออุ่นหั่นเป็นลูกเต๋าชิ้นเล็กๆ ใส่เข้าปาก ตาก็หยีรอไว้ล่วงหน้า
“อุ๊!! อายอุ่น หย่อย หย่อย” ลูกหมูทะเลเคี้ยวไปพยักหน้าไป ตาเลิกหยีกลับมากินตามปกติ
“เห็นไหมครับพี่ทะเลเก่ง กินผักได้ ผักอร่อย”
“ช่าย พี่ทะเลเก่ง กินผักหย่อย”
“อุ่นทำได้ยังไงพูดแค่นี้เอง พี่ก็พูด พูดตั้งเยอะลูกหมูไม่เห็นเคยฟัง เอาแต่เบะปากร้องไห้” ทินภัทรมองไออุ่นอย่างทึ่งๆ
เรื่องที่ยากสำหรับเขาทำไมดูง่ายดายสำหรับไออุ่น
“พี่ทินเอาอะไรให้ทะเลทานล่ะครับ เริ่มต้นด้วยผักอะไร จะให้เด็กชอบทานผัก ต้องเริ่มจากผักที่มีรสชาติก่อนครับ
ให้ชัวร์ก็เอาพวกออกหวานๆ แครอทหรือฟักทองก็ได้ อย่าเพิ่งเอาผักใบเขียวให้ทาน
“ก็พี่ไม่รู้นี่” ทินภัทรพูดเสียงอุบอิบอยู่ในคอ เขาคิดว่าเขาศึกษาจากตำรามาบ้างว่าอายุเท่าไหร่ควรเริ่มทานอะไร ไม่เห็นเคย
รู้เรื่องพวกนี้เลย
“ห้ามแก้ตัวครับ” ไออุ่นเผลอทำเสียงดุใส่ เขาช่วยแม่เลี้ยงน้องมาหลายคน เรื่องพวกนี้เลยพอรู้อยู่บ้าง
“ครับ พี่ไม่แก้ตัวแล้วครับ อย่าดุสิ”
“คิกคิก แด๊ดโดดดุ แด๊ดโดนดุ” ลูกหมูทะเลตบมือ หัวเราะชอบใจ ที่เห็นพ่อทำหน้าหงอใส่อาอุ่น
“ผม..ผมขอโทษครับ” พอทะเลพูดขึ้นมาไออุ่นถึงนึกได้ว่าเขาทำอะไรลงไป เขาไม่ควรเข้าไปก้าวก่ายเรื่องการเลี้ยงดูลูก
ของทินภัทร
“ไม่เห็นต้องขอโทษ พี่ต้องขอบคุณต่างหาก ดีที่อุ่นช่วย ไม่อย่างนั้นลูกหมูทะเลคงไม่กินผักไปอีกนาน”
“ไม่เป็นไรครับ” ไออุ่นรีบก้มหน้าลงตักอาหารเข้าปาก เขารู้สึกอายเวลาเห็นสายตาอ่อนโยนที่ทินภัทรมองมา
จิตใจข้างในมันหวั่นไหวสั่นคลอนทุกครั้ง เขาก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมเขาถึงแพ้ผู้ชายคนนี้มากมายนัก ไม่ว่าทินภัทรจะ
ทำอะไรสำหรับเขามันดูดีไปเสียหมด
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ไออุ่นลอบมองทินภัทร เขาอยากถามว่าเป็นอย่างไรบ้าง สบายดีไหม แต่ก็จนใจเพราะถ้าถามเรื่องญาดาออกไป
ก็เหมือนพวกเขาเอาทินภัทรมาพูดถึงลับหลังมันฟังดูไม่ดี แต่พอเลือกที่จะไม่ถามไออุ่นก็อึดอัด เขาเป็นห่วง อยากรู้
“อุ่น”
“ครับ”
“ช่วงนี้อุ่นว่างไหม งานที่ร้านยุ่งหรือเปล่า”
“เรื่อยๆ ครับ พี่ทินมีอะไรให้ผมช่วยหรือเปล่าครับ”
“ปีหน้าพี่จะส่งลูกหมูเข้าโรงเรียน กำลังดูๆ อยู่ว่าเป็นที่ไหนดี อยากไปดูสถานที่จริงด้วย แต่ไม่รู้จะปรึกษาใคร
พี่ไม่อยากถามจากญาติๆ ไม่อยากให้เข้ามาวุ่นวาย ถ้ารู้คงรีบเข้ามาช่วยพี่กลัวลูกหมูจะอึดอัดเรื่อง....”
ทินภัทรไม่พูดคำสุดท้ายแต่ไออุ่นเดาว่าคงเป็นเรื่องแม่ของทะเล เขาไม่ทราบเรื่องราวมากนัก ทราบแต่ว่า
แต่งงานและหย่ากันแล้ว
“พี่ทินอยากให้ผมช่วยดูๆ โรงเรียนให้ใช่ไหมครับ ไม่มีปัญหา”
“ใช่ แล้วก็จะรบกวนอุ่นไปไหม ถ้าวันไหนพี่จะชวนอุ่นไปดูโรงเรียนด้วยกัน พี่ว่าอุ่นละเอียดกว่าพี่”
“ได้สิครับ เดี๋ยวผมไปเป็นเพื่อน” ไออุ่นตอบรับทินภัทรด้วยความเต็มใจ เขาอยากช่วยแบ่งเบาเท่าที่จะทำได้
“ขอบคุณครับ อุ่นน่ารักที่สุดพี่ยังยืนยันคำเดิม” ทินภัทรส่งยิ้มขอบคุณจากใจจริงให้ไออุ่น
“อายอุ่นน่ายัก” ลูกหมูทะเลที่นอนกลิ้งดูการ์ตูนอยู่บนตักของไออุ่น ตะกายขึ้นมาขอมีส่วนร่วมด้วยคน
“ฮ่าๆๆ อาอุ่นน่ารักหรือน่ายักครับลูกหมูทะเล เอาดีๆ” ไออุ่นแซวลูกหมูตัวอ้วนที่พูดไม่ชัดเสียที
“น่ายัก” ลูกหมูทะเลยังยืนยันคำเดิม
“น่ารักครับ” ไออุ่นพยายามจะสอนให้ลูกหมูออกเสียงให้ชัดเจน
“น่าลัก” ถึงยังไม่มีเสียงควบกล้ำแต่อย่างน้อยก็ใกล้เคียงแล้ว ไออุ่นถือว่าแค่นี้ก็ใช้ได้
“ฮ่าๆ งั้นเราลักอาอุ่นกลับบ้านกันไหมลูกหมู เอาไหม ลักอาอุ่นไปอยู่บ้าน”
“อาว อาว ลูกหมูเอาอายอุ่นกับบ้าน” ทินภัทรคิดจะแซวไออุ่นเล่นเมื่อลูกหมูพูดคำว่าน่าลัก แต่ลูกชายเขาดันดีใจใหญ่เพราะเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง
“น้า อายอุ่นไปอยู่กับพี่ทะเล น้า” เด็กชายทะเลกระโดดโหยงเหยงอยู่บนโซฟา ไม่ดูแล้วการ์ตูนเอาอาอุ่นกลับบ้านดีกว่าเยอะ
“พี่ทินนน” ไออุ่นหันไปมองคนก่อเหตุที่ตอนนี้ทำคอย่นใส่เขา
“ไป กับ แด๊ดกับบ้านกัน” เด็กชายทะเลอยากกลับบ้านแล้ว เขาดีใจจะได้พาอาอุ่นไปด้วย
“กลับก็ได้ครับ แต่วันหลังเราค่อยพาอาอุ่นไปนะ” ทินภัทรต่อรอง ได้แต่หวังว่าคราวหน้าลูกของเขาจะลืมไปแล้ว
“ไม่” ฟังจากเสียงแหลม มองจากปากที่เริ่มเบะ ตาที่เริ่มแดงของลูกชายแล้ว เขาเริ่มเห็นเค้าลางความยุ่งยากจากคำพูดของตัวเอง
“วันนี้อาอุ่นยังไม่ได้เก็บของเลยครับ เอาไว้วันหลังดีไหม วันนี้พี่ทะเลกลับไปก่อน” ไออุ่นพยายามช่วยทินภัทรตะล่อมอีกแรง
“ม่ายยยย” ลูกหมูทะเลร้องเสียงดังคราวนี้น้ำหูน้ำตามาเต็ม สะอื้นฮักๆ จนไออุ่นต้องรีบดึงเข้ามากอด
“โอ๋โอ๋คนดีของอาอุ่น ไม่ร้องครับ ไม่ร้อง” ไออุ่นโยกตัวเด็กน้อยไปมา
“อายอุ่น..ฮึก..ไปนะ.ฮึก..ไปกับพี่ทะเลนะ..”
“เอ่อ..”
“โฮๆๆๆๆๆ”
“ครับ ไปครับ เดี๋ยวอาอุ่นไปส่งทะเลที่บ้าน ไม่ร้องนะครับ”
“ม่าย.ฮึก..ม่ายฉ่ง..ฮึก..ฮึก”
“ครับ ไม่ส่งครับ อาอุ่นไปกับพี่ทะเลครับ” ไออุ่นตัดใจปฏิเสธไม่ลง เมื่อเห็นลูกหมูทะเลหอบจนตัวโยน ตาเปรอะไปด้วยน้ำตา
ดูน่าสงสารจนเขาทนไม่ไหว
“ฮึก..ฮึก..” ลูกหมูทะเลค่อยๆ สงบลงในอ้อมกอดของไออุ่น พอควบคุมสถานการณ์ได้แล้วไออุ่นถึงเพิ่งนึกได้ว่าตลอดเวลา
เขาไม่ได้ยินเสียงทินภัทรสักคำ
ไออุ่นหันไปมองคนที่นั่งเงียบอยู่ข้างๆ ทินภัทรส่งยิ้มมาให้ ก่อนรีบชิงพูดตัดหน้าเขา
“พี่รู้ว่าอุ่นเอาอยู่”
“พี่ทินนน” สมกับเป็นพ่อลูกกันจริงๆ ร้ายพอกัน งานนี้ไม่รู้ทำไมไออุ่นรู้สึกว่าเขาเสียเปรียบอยู่คนเดียว
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
“กู๊ดไนท์ครับ” ไออุ่นปิดหนังสือนิทานในมือ ก้มลงหอมแก้มนุ่มๆ ของลูกหมูทะเล
“แด๊ด” เด็กชายทะเลหันไปทวงกู๊ดไนท์คิสจากพ่อบ้าง
“กู๊ดไนท์ครับลูกหมูของพ่อ” ทินภัทรหอมแก้มแล้วตามด้วยกดจูบลงกลางหน้าผากลูกชาย
“แด๊ด อายอุ่น” ไออุ่นสะดุ้งโหยง นึกว่าลูกหมูคงลืมไปแล้ว พอโดนเรียกชื่อเขาถึงรู้ว่าเด็กชายทะเลไม่เคยลืม
“กู๊ดไนท์ครับไออุ่น” จมูกโด่งแตะลงบนแก้มของเขา ก่อนตามด้วยริมฝีปากร้อนบนหน้าผาก ไออุ่นพยายามสะกดใจ
ไม่ให้มันเต้นแรง แต่ตอนนี้ไม่มีอะไรในร่างกายเชื่อฟังเขาเลย แม้แต่สีแดงเรื่อบนหน้า
ทินภัทรรีบผละออกจากหน้าของไออุ่น ก่อนที่เขาจะเผลอตัวจูบลงไปอีกหน คืนนี้ต้องยอมรับว่าเขาไม่ได้กู๊ดไนท์เพื่อเอาใจ
ทะเล เขาดีใจด้วยซ้ำที่ลูกชายพูดเรื่องนี้ขึ้นมา เป็นโอกาสให้เขาได้สัมผัสแก้มนุ่มๆ ของไออุ่นอีกครั้ง
“นอนได้แล้วครับ” ทินภัทรจัดผ้าห่มให้ลูกชาย แต่วันนี้ดูเหมือนทะเลจะไม่ยอมนอนง่ายๆ
“นอนๆ อายอุ่นนอนกับพี่ทะเล” เด็กชายทะเลตบลงข้างๆ ตัว ก็อาอุ่นบอกเขานี่นาว่ามาอยู่กับเขาก็ต้องนอนด้วยกันสิ
“นอนไปก่อน เดี๋ยวทะเลหลับสนิทสักพัก พี่ไปส่ง” ไออุ่นหน้าแดงขึ้นเป็นสองเท่า เมื่อทินภัทรชะโงกตัวข้ามทะเลมากระซิบชิดใบหู
“ครับ” ไออุ่นนอนลงข้างเด็กชายทะเล เขากอดไปบนตัวเด็กน้อย ลูกหมูขยับตัวเข้าหาซุกหน้าซบอยู่กับอกของไออุ่น
ทินภัทรปิดไฟกลางห้อง เขาไม่ได้เดินออกไป แต่ตัดสินใจเดินกลับมาที่เตียง เขาล้มตัวลงนอนข้างทะเล
เอื้อมมือไปกอดลูกชายเอาไว้ นั่นเท่ากับว่าเขากอดโดนไออุ่นไปด้วย
ทั้งห้องเงียบกริบ มีเพียงเสียงลมหายใจของเด็กชายทะเลที่ดังอย่างสม่ำเสมอ เด็กชายตัวน้อยค่อยๆ หลับสนิทท่ามกลาง
อ้อมกอดของคนทั้งสอง
“พี่ทินครับ” ไออุ่นลองเรียกเบาๆ เขาไม่แน่ใจว่าทินภัทรหลับไปแล้วหรือยัง
“ครับอุ่น” ทินภัทรตอบรับให้รู้ว่าเขายังไม่หลับ
“พีทินสบายดีใช่ไหมครับ”
“หือ?”
“เอ่อ..ผมหมายถึงพี่ทินมีความสุขดีใช่ไหมครับ” ไออุ่นอยากเขกหัวตัวเองยิ่งพูดยิ่งดูแย่ สุดท้ายทินภัทรก็จะจับได้
ว่าเขารู้เรื่องจากฟ้าแล้ว
“พี่มีความสุขดีครับ อุ่นอย่าห่วงเลย”
“ครับ” ค่อยยังชั่ว คำหลังไออุ่นพูดในใจ แค่นี้เขาก็สบายใจแล้ว
“อุ่น”
“ครับ”
“เพราะอุ่นนะ”
“อะไรนะครับ” ไออุ่นรีบลดเสียงลงเมื่อลูกหมูทะเลขยับเบาๆ
“วันนี้...พี่มีความสุขเพราะอุ่นนะ ขอบคุณมากครับ”
ทินภัทรเงียบเสียงไปแล้ว ทั้งห้องเหลือเพียงเสียงของลมหายใจเหมือนเดิม แต่สำหรับไออุ่นเสียงหัวใจของเขากำลังดังกลบทุกอย่าง
ทินภัทรคงหมายถึงเรื่องของทะเล เรื่องที่เขายอมมาด้วย ต้องเพราะเรื่องนั้นแน่ๆ อย่าบ้าเข้าข้างตัวเองน่าไออุ่น
มันไม่ใช่หรอก ไม่ใช่
>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>TBC<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<
Darin ♥ FANPAGE