** ตัวอย่างเรื่องสั้นอยู่ด้านล่างค่ะ
สวัสดีค่า ขออนุญาตแจ้งข่าวการจำหน่ายหนังสือนิยาย ของหายอยากได้คืน
เปิดจำหน่ายครั้งแรกที่ งาน Y Book Fair ครั้งที่ 3 สนพ. ฟาไฉบูธ F3-4
วันอาทิตย์ที่ 7 กรกฎาคม 2562 ณ กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ (BTS สนามเป้า)
รายละเอียดดังนี้ค่ะ :
ของหายอยากได้คืน ❤
จำนวน 310 หน้า ราคา 309 บาท / ตอนพิเศษ 5 ตอน
พิเศษ รอบงานวายบุ๊คและรอบไปรฯ >> รับมินิโนเวล รัก❤ข้างเคียง ราคา 69 บาท ฟรี
(จัดทำจำนวนจำกัด หากมีเหลือจะนำออกขาย)
เพิ่มเติม
รอบไปรฯ เปิดจำหน่ายวันที่ 7-8 ก.ค. 19 นี้
หากทางสนพ.เปิดให้จองแล้วจะเข้ามาอัปเดตข้อมูลให้ทราบอีกทีค่ะ
ขอบคุณมากค่ะ
. . . . . . . . . .
รัก❤ข้างเคียง
(**เป็นเรื่องใหม่ ไม่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับเรื่องหลักนะคะ ลงเพื่อเป็นตัวอย่างค่ะ)
บทนำ
ตัวป่วน
เสียงตะโกนโหวกเหวกจากข้างรั้วบ้าน ทำให้สมาธิของธารแตกกระเจิง เขาถอนใจออกมาเบาๆ พยายามตั้งสมาธิจดจ่อกับงานตรงหน้า แต่ดูเหมือนเจ้าของเสียงไม่ให้ความร่วมมือสักนิด ชื่อของเขาถูกกตะโกนเรียกไม่หยุด สุดท้ายธารก็ยอมแพ้ ร่างสูงลุกขึ้นยืน เดินตรงไปยังหน้าต่าง เด็กหนุ่มรูปร่างผอมเก้งก้างยืนเกาะรั้วส่งยิ้มกว้างให้เขา
“ว่าแล้วต้องอยู่”
“มีอะไร”
สายตาหงุดหงิดของธารมองใบหน้าของเด็กหนุ่มนามว่าพาย ลูกชายวัยรุ่นของเพื่อนบ้าน พายเรียนอยู่ชั้นมัธยมปลายปีที่ห้า ส่วนเขาเรียนจบแล้ว พวกเขามีอายุต่างกันถึงเจ็ดปีเต็ม
“ผมไปนั่งเล่นด้วยคนสิ”
“พี่ทำงาน” ธารตอบกลับแบบไร้เยื่อใย แต่เด็กหนุ่มยังยิ้มร่าเริงเหมือนเดิม
“ผมไม่กวน”
“แค่เรามาก็กวนพี่แล้ว”
“รู้ได้ไงผมยังไม่ได้ไปเลย”
ธารถอนใจยาว นึกสงสัยว่าเขาจำเป็นต้องยืนต่อล้อต่อเถียงกับเด็กหนุ่มจริงหรือ
“ถ้าว่างก็ออกไปเที่ยวเถอะ พี่ไม่ว่าง”
“ผมก็มีการบ้านต้องทำ” เด็กหนุ่มยกสมุดในมือขึ้นให้เขาดู
“แต่ทำไม่ได้ พี่ธารสอนหน่อยสิครับ” รอยยิ้มเผล่ของอีกฝ่ายที่ส่งมาทำให้ธารรู้ชะตากรรมของตัวเอง ถ้าเขาปฏิเสธก็คงตื้ออยู่แบบนี้ สุดท้ายเขาก็ไม่มีสมาธิทำงานอยู่ดี
“ข้ามมา”
“ขอบคุณครับ” น้ำเสียงตอบกลับร่าเริง พายกับครอบครัวเพิ่งย้ายมาเป็นเพื่อนบ้านของเขาได้ไม่ถึงปี แต่สำหรับธารแล้วเหมือนสิบปี ชีวิตของเขาไม่เคยสงบสุขอีกเลย
“เสร็จแล้วใช่ไหม”
“ครับ” เด็กหนุ่มพยักหน้า ปิดสมุดกับหนังสือ ยกมือขึ้นบิดขี้เกียจ
“เสร็จก็กลับไปได้แล้ว พี่จะทำงาน”
“แม่ไม่อยู่บ้าน พ่อก็ไม่อยู่ พี่เค้กก็ไม่อยู่ ผมขอนั่งเล่นที่นี่ได้ไหม กลับบ้านมันเหงา” คนพูดทำหน้าเศร้า เห็นหน้าจ๋อยๆ ของเด็กหนุ่ม ธารก็ใจดำไม่ลง
“ตามใจ แต่ถ้าทำเสียงดังรบกวนพี่ พี่จะไล่เรากลับบ้าน”
“ครับผม” คนพูดยกมือขึ้นตะเบ๊ะ ธารมั่นใจว่าเขาเชื่อถือเด็กหนุ่มไม่ได้ แต่ก็ใจอ่อนเอ่ยปากอนุญาตไปแล้ว
“พี่ธารหิวไหม” เวลาผ่านไปไม่ถึงสิบนาที ใบหน้าของพายก็ยื่นเข้ามาใกล้
“ไม่” ธารตอบกลับโดยไม่เงยหน้าขึ้นมองให้เสียเวลา
“ผมหิวจัง ไม่รู้แม่จะกลับกี่โมง”
“ที่บ้านไม่มีอะไรทานเลยเหรอ”
“มี แต่ผมทำไม่เป็น”
ร่างสูงถอนใจยาว “อยู่มอห้าแล้วต้มมาม่าไม่เป็นหรือไง”
“ต้มเป็นครับ แต่ตอนเช้าผมก็เพิ่งกินมาม่า แม่รีบมากเลยไม่ได้ทำข้าวเช้าไว้ให้ บอกให้ออกไปหากินเอง”
“งั้นก็ออกไปกิน”
“เดี๋ยวพี่ธารไม่ให้เข้าบ้าน”
ธารเผลอหลุดยิ้มออกมา ก็ยังดีที่รู้ว่าเขารำคาญ ชายหนุ่มเลือกที่จะไม่โต้ตอบ เขาคิดว่าเด็กหนุ่มโตแล้วพอหิวมากๆ ก็ออกไปหาอะไรกินเอง แต่ดูเหมือนเขาจะคิดผิด เสียงท้องร้องดังติดๆ กัน ในที่สุดคนที่ทนไม่ไหวก็คือเขาเอง
ธารถอนใจยาว เงยหน้าขึ้นมองเด็กหนุ่มที่ก้มอ่านหนังสือการ์ตูนที่พกติดมือมาด้วย อยากรู้ว่าเขาเป็นหนี้เด็กหนุ่มมาตั้งแต่ชาติปางไหน
“ไปไหนครับ” พายเงยหน้าขึ้นมองเมื่อเขาลุกขึ้นยืน
“จะกินไหม”
“กินครับ พี่ธารใจดีที่สุด” น้ำเสียงและสายตาของคนพูดชื่นชม แต่ธารรู้ว่าเขาห่างไกลจากคำนั้นมาก เพราะในใจเขาภาวนาให้ครอบครัวของเด็กหนุ่มกลับมาไวๆ หมอนี่จะได้เลิกรบกวนเขาเสียที
“อร่อยจัง” คนพูดลูบท้องโชว์ สปาเก็ตตี้ไวท์ซอสเกลี้ยงจานเป็นหลักฐานว่าอีกฝ่ายพูดจริง ธารวางส้อมลง
“พี่ธารอิ่มแล้วเหรอครับ”
“อืม”
“เดี๋ยวผมล้างจานให้”
“ไม่ต้อง”
“เชื่อมือผมได้ พี่ธารทำให้ทานแล้วแค่ล้างจานผมทำได้สบาย ผมช่วยแม่บ่อย”
“ก็ตามใจ” ดีเหมือนกันอย่างน้อยเขาจะได้มีเวลาส่วนตัวสักห้าถึงสิบนาที
ร่างผอมเก็บรวบรวมภาชนะ เสียงร้องเพลงดังหงุงหงิงดังเข้าหู ธารทำใจทันทีว่าสิบนาทีที่เขาคิดไว้คงเป็นได้แค่ฝันไป
“กลับมากันแล้ว”
ชายหนุ่มลอบถอนหายใจ เมื่อเด็กหนุ่มเดินไปที่หน้าต่างและหันกลับมาบอกเขา
“พี่ธารเหงาไหม ผมอยู่เป็นเพื่อนก่อนก็ได้นะ”
“ไม่ต้อง กลับไปเถอะ”
“ไม่เลี้ยงหมาสักตัวละพี่ จะได้ไม่เหงา”
“ไม่”
“แม่ก็ไม่ให้ผมเลี้ยง พี่ธารเลี้ยงสิครับ น่ารักนะ ผมจะได้มาเล่นด้วย”
ดวงตาที่มองมาเป็นประกาย เขาคิดอยู่แล้วว่าเจ้าเด็กนี่ต้องคิดอะไรอยู่ ธารเงยหน้าขึ้นสบตา ก่อนพูดช้าๆ ด้วยเสียงลงน้ำหนัก
“ไม่”
คนฟังทำปากจู๋ ก่อนหยิบสมุดกับหนังสือขึ้นมาถือ “ผมกลับก่อนครับ ขอบคุณมากๆ เลย”
“อืม”
ธารไม่เสียเวลาเดินไปส่ง เขายินดีด้วยซ้ำที่เด็กหนุ่มเดินออกประตูไป บ้านกลับเข้าสู่สภาวะปกติ ทุกอย่างเงียบสงบ ทำให้เขากลับมามีสมาธิอีกครั้ง
เสียงข้อความเข้าดังขึ้นท่ามกลางความเงียบ ธารละสายตาจากงานไปมอง เขาแทบจะปาโทรศัพท์ทิ้งเมื่อสิ่งที่ได้รับ คือภาพสุนัขพันธุ์เล็กที่พายส่งมาให้ พร้อมกับคำบรรยายความน่ารักของเจ้าตูบสี่ขา
เจ้าเด็กนี่!!
ธารไม่สามารถหาถ้อยคำมาบรรยายความรู้สึกของตัวเองได้ สิ่งที่เขาอยากรู้ที่สุดตอนนี้ก็คือ เมื่อไหร่เจ้าเด็กจอมป่วนจะมีแฟนเหมือนคนอื่น จะได้เลิกยุ่งวุ่นวายกับเขาเสียที