Line : 2
เท้าของผมที่กำลังก้าวจากห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งแถวๆนี้และกำลังมุ่งหน้าไปสู่สถานีสยามที่อยู่ติดๆกัน กลับหยุดชะงักลง
และเดินกลับเข้าไปในตัวอาคารอีกครั้งหนึ่ง ไหนๆก็มาถึงนี้แล้ว ถ่ายรูปเก็บผลงานเอาไว้ซักหน่อยดีกว่าแหะ ว่าแล้วก็ขึ้นไป
ยังห้องน้ำห้องเดิมที่ผมพิ่งเสร็จจากกิจกรรมเมื่อครู่นี้ ผมทำอะไรแบบนี้บ่อยครับ บ่อยจนรู้สึกว่าระยะหลังๆนี้มันคงไม่ใช่
งานอดิเรกหรือกิจกรรมยามว่างเฉยๆละมั้ง...
ภายในห้องน้ำห้องเดิม ห้องที่คุ้นเคยยังคงเงียบสงัดเหมือนเดิม แม้จะเป็นเย็นวันศุกร์ที่แสนพลุกพล่านเช่นนี้ ไม่รอช้าผม
จัดการปลุกไอ้น้องชายตัวดีให้ตื่นและเริ่มถ่ายภาพต่างๆหน้ากระจกโดยไม่ให้เห็นหน้า หลังจากนั้นผมจึงรูดซิปกางเกง
นักเรียนสีดำของตัวเองแล้วนำน้องชายตัวดีออกมาสู่โลกภายนอกเพื่อถ่ายภาพเก็บไว้เป็นที่ระทึก หึหึ
.
.
สถานีสยามในยามนี้ เวลาประมาณ3ทุ่ม คนเยอะเป็นพิเศษ คงเป็นเพราะเป็นเย็นวันศุกร์ที่ค่อนไปทางสิ้นเดือนล่ะมั้ง จนที่สุดแล้วผมก็ฝ่าฝูงชนจำนวนมหาศาลมาถึงคอนโดอันเป็นที่รักของผมจนได้ เห้ออ เหนื่อยชิบหาย...
.
.
ผมแตะคีย์การ์ดเพื่อเข้าห้อง ห้องสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ ภายในห้องมืดสนิท ผมจึงบรรจงเปิดไฟและ
เปิดแอร์ให้เย็นช่ำ ก่อนจะเดินไปเปิดผ้าม่าน..คอนโดอยู่กลางเมืองแบบนี้ สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดก็คือตึกสูงๆพวกนี้แหละครับ
ป่าคอนกรีตแบบนี้เป็นวิวที่คุ้นชินมาโดยตลอด เพราะผมอยู่แบบนี้มาตั้งแต่จบม.1แล้วล่ะครับ
หลังจากนั้นจึงเข้าไปในห้องนอนและล้มตัวลงบนที่นอนขนาดคิงไซส์
ในห้องก็ไม่ได้มีอะไรมากหรอกครับ
ก็มีทีวี เฟอร์นิเจอร์ ชั้นวางหนังสือ iMac , Macbook บนโต๊ะทำงานในห้องนอน และหนังสือเรียนรวมถึงหนังสือประเภท
อื่นๆอีกเยอะแยะพอสมควร นอกจากนั้นก็ยังมีพวกเกียรติบัตรจากการแข่งขันรายการต่างๆไม่ว่าจะเป็นทางวิชาการหรือกีฬา
หรือแม้กระทั่งเกียรติบัตรผลการเรียนดีเด่นของปีที่แล้วที่พิ่งติดบนฝาผนัง ระบุชื่อ “กณิฏฐ์ เศวตวชิรสกุล” ไม่ต้องตกใจ
ครับ นั้นชื่อจริง-นามสกุลจริงผมเอง แปลใจล่ะสิครับ คิดว่าผมทำอะไรแบบนี้แล้วผมจะเลวแหลกงั้นหรอ ถ้าพวกคุณคิด
แบบนั้น พวกคุณคิดผิดครับ..จริงๆแล้วใน ‘ด้านสว่าง’ ของผมน่ะ ผมก็เป็นเด็กนักเรียนม.ปลายธรรมดาๆคนนึงนั้นแหละ
ครับ ไม่ได้เป็นหัวโจก แต่ก็ไม่ได้เนิร์ดมากเสียจนเพื่อนไม่อยากจะคบ หึ...แต่เอาจริงๆแล้วผมก็เคยเนิร์ดมากขนาดเพื่อนไม่
อยากจะคบเหมือนกัน แต่นั้นมันก็ตั้งแต่ม.1โน้นแหละครับ เรื่องมันผ่านมานานแล้ว ผมก็ไม่อยากจะรื้อฟื้นถึงมันซะเท่าไหร่
ที่ผมต้องทำอะไรแบบนี้ หมายถึง ลงแข่งขันอะไรต่างๆมากมาย มีความประพฤติดี เพื่ออะไรน่ะหรอครับ ก็เพื่ออยากให้ป๊า
กับม๊าสนใจผมบ้างไงครับ... ผมเป็นลูกคนสุดท้อง ลูกคนสุดท้องที่...พ่อแม่ไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่ ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้
เหมือนกัน ที่ผมเริ่ม ‘เรียกร้องความสนใจ’ แบบนี้เพื่อให้พวกท่านสนใจผมบ้าง แต่มันก็เป็นอะไรที่ค่อนข้างประสบ
ความสำเร็จนะครับ ตั้งแต่ผมไปสร้างชื่อเสียงให้กับโรงเรียนด้วยการเป็นตัวแทนนักกีฬาบาสเกตบอลของโรงเรียนไปแข่ง
แล้วได้รับชัยชนะลำดับต้นๆของประเทศ... และตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้เหมือนกัน ที่ผมรู้สึกว่าพวกท่านให้ความสนใจพวกพี่ๆ
ผมมากกว่าผม ผมไม่ค่อยอยากจะนึกถึงมันเท่าไหร่หรอกครับ...
ผมสะบัดหัวแรงๆไล่ความคิดฟุ้งซ่านเหล่านั้น ก่อนจะเข้าแอพทวิตเตอร์บนโทรศัพท์iphone6s ของผม ทวิตเตอร์ด้านมืดของ
ผม มีคนติดตามหลายหมื่นคน ผมเลือกที่จะลงรูปที่พิ่งถ่ายไปจากที่สยามลงในทวิตเตอร์ส่วนตัวของผม พร้อมแคปชั่น
ยั่วยวนให้คนเข้ามากดรีทวิตและกดหัวใจให้ผม นี่ไง...ไม่ทันไรก็มีคนมากดรีทวิตและกดหัวใจให้เพียบเลย เห็นไหม หึหึ
ผมตัดสินใจเปิดAirplane mode เสียบโทรศัพท์เข้ากับสายชาร์จและปลั๊กไฟก่อนจะเสียบเข้าเต้าเสียบอีกทีนึง และตัดสินใจ
ไปอาบน้ำชำระล้างร่างกายซักหน่อยก่อนจะเข้านอน รีบนอนหน่อยดีกว่าแหะ พรุ่งนี้มีเรียนพิเศษอีก...
**************************************************
เช้าวันเสาร์ผมโหนBTSไปเรียนพิเศษแถวๆสยามนั้นแหละครับ นี่ขนาดเช้าวันเสาร์ สยามคนยังเริ่มแน่นๆแล้วเลยครับ
เมื่อกี้
นั่งBTS มาจากสถานีใกล้ๆคอนโดนผมคนยังไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่และเริ่มเยอะขึ้นเรื่อยๆเมื่อเข้าใกล้สยาม ผมที่เดินมึนๆออก
จากขบวนสู่ชานชาลาและเดินลงชานชาลาลงไปยังสถานี เมื่อคืนก็หลับเป็นตาย อาบน้ำแต่งตัวเสร็จ หัวถึงหมอนก็หลับเลย
ไม่รู้ทำไมเหมือนกันว่าเช้านี้ถึงยังรู้สึกมึนๆแบบนี้อยู่ แต่ก็ช่างเถอะครับ เมื่อเดินออกจากสถานีสยามได้และเข้าไปที่ตึกที่มี
สถาบันติวเตอร์ที่อยู่ใกล้ๆกัน สิ่งแรกที่ผมทำก็คือซื้อมอคค่าเย็นเพิ่มวิปแก้วใหญ่ๆหนึ่งแก้วถ้วนและเดินขึ้นไปยังที่เรียนพิเศษ
ระหว่างรอเรียนผมก็ดูดมอคค่าเย็นในมือพร้อมกับเช็คฟีดในเฟสบุ๊คหน่อยว่ามีอะไรเคลื่อนไหวบ้าง เพราะเมื่อคืนก็อย่างที่
บอกนั้นแหละครับ ส่วนเช้านี้ก็รีบออกมาโดยที่ยังไม่ได้ดูอะไรเลย แต่ให้ตายเถอะ ผมว่า3Gผมก็ยังไม่หมดโควตาการใช้งาน
นะ ทำไมมันช้าขนาดนี้วะ ! หงุดหงิดแต่เช้าเลยเว้ยยยย
หลังจากบ่นไปแปปเดียว หน้านิวฟีดผมก็ขึ้นมาครับ เห็นว่ามีเพื่อนในห้องแทคข้อความหาผม กดเข้าไปดูจึงพบว่าพวกแม่
งวางแผนกันไปหาเหล้ากระแทกปากคืนนี้ ร้านเดิม แถวทองหล่อเหมือนเดิม ผมน่ะหรอครับจะพลาด หึหึ Work hard Play
Harder ครับ ไม่รอช้าจึงรีบโผเข้าไปตอบสเตตัสนั้นโดยไว
Kanit Sawejwachirasakul คืนนี้เจอกันเว้ยยยยย กูเสี้ยนเหล้ามาหลายวันละ หึหึ คืนนี้พ่อจะแดกให้ล้มเลย
Oat Theera ไอ้สัส เอาอีกแล้วนะมึงง ไอ้บาส คราวที่แล้วไม่เข็ดรึไงวะ
Boom Thanakorn เห้ยยยย นานๆทีหน่า เอาให้เต็มที่เว้ยเพื่อน หึหึ
Nine Narongkorn เจอกันคืนนี้เว้ยเพื่อนนนน
ผมคอมเม้นและนั่งอ่านคอมเม้นเพื่อนๆผมไปก็อดขำไม่ได้ ‘คราวนั้น’ ที่ไอ้โอ้ตมันว่าน่ะ คือ ตอนฉลองปิดเทอมตอนม.4
ครับ ผมแม่งเมาแล้วเรื้อนชิบหายเลยว่ะ ก็ไอ้เชี่ยตัวไหนก็ไม่รู้ดิครับ สั่งวอดก้ามา ผมก็กินเอาๆๆ กินไปไม่กี่ช็อตเท่านั้น
แหละ ล้มครับ ฮ่าๆ ลำบากพวกแม่งอีกนั้นแหละที่ต้องมาเก็บศพผมเนี่ยย
ผมกับพวกแม่งคบกันมาแบบนี้ตั้งแต่ม.1แล้วล่ะครับ จะมีก็แต่ไอ้โอ้ตนั้นแหละที่รู้จักกันมาตั้งแต่สมัยประถม เพราะบ้านเรา
อยู่ใกล้กัน เรียนโรงเรียนเดียวกันมาตลอด เรียกได้ว่าเราโตมาด้วยกันเลยล่ะครับ และมันก็เป็นคนเดียวในกลุ่มเพื่อนที่ล่วงรู้
ความลับเรื่องผมมีกิจกรรมยามว่างอะไรแบบนี้ เพราะอะไรน่ะหรอครับ..
พูดไปมันก็ทำให้อดรู้สึกไม่ได้ว่าโลกเรานี่แม่งโคตรกลม ตอนผมเริ่มเล่นอะไรแบบนี้ตอนประมาณปลายๆม.3 คนแรกที่ผม
นัดเจอได้ก็คือมันนั้นแหละครับ ไอ้เชี่ยยย บังเอิญชิบหายเลยว่าไหมครับ ตอนนั้นผมว่ามันก็รู้สึกแปลกๆนิดหน่อยเหมือนกันแหละครับ
เพราะมันบอกว่าเรียนที่เดียวกับผม ผมเลยนัดมันว่า เจอกันที่โรงเรียนละกัน พอเจอกันเท่านั้นแหละ ต่างคนต่างอึ้ง ทำไรไม่ถูก
เป็นคุณคุณจะอึ้งไหมอ่ะครับ ถ้าเกิดนัดเจอใครซักคนเพื่อจะทำกิจกรรมอย่างว่า แล้วดันเจอเพื่อนตัวเอง เหอะๆ
และแทนที่จะได้ทำอะไรกันก็เลยกลายเป็นว่าครั้งแรกของเราสองคนไม่ได้ทำอะไรกัน นอกจาก...กลับมานั่งเล่นเกมกันที่
บ้านผมเหมือนเดิม... และก็นั้นแหละครับ มันทำให้เราสัญญากันว่าเราจะปิดเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ มันเลิกเล่นไปแล้วตั้งแต่
จบม.4 ส่วนผมยังเล่นต่อจนถึงทุกวันนี้แหละครับ...
นั่งอ่าน นั่งดูอะไรได้ไม่นาน ก็ใกล้ได้เวลาเรียน ผมเลยเปิดAirplane mode ไว้เพื่อไม่ให้อะไรมารบกวนเวลาเรียนขอผม
เสียงอาจารย์ในแผ่นดีวีดีที่ฉายอยู่บนทีวีจอแบนบอกเลิกเวลาเรียนพร้อมทั้งบอกให้ไปฝึกทำโจทย์มาล่วงหน้าด้วย เวลาเรียน
จะได้ไม่มีปัญหา จบลง ภาพบนทีวีก็ค่อยๆเปลี่ยนเป็นภาพนิ่ง นั้นเป็นสัญญานที่บ่งบอกว่าหมดเวลาเรียนสำหรับวันนี้แล้ว
ผมยังมีเรียนตอนบ่ายอีกวิชานึง แต่อันนั้นเป็นการเรียนด้วยตัวเองกับคอมพิวเตอร์ครับ จองเวลาเอาไว้แล้ว 2 ชั่วโมง อืมมม
ยังพอมีเวลากลับไปอาบน้ำแต่งตัวใหม่...
.
.
.
ค่ำวันนี้ผมกลับมาพร้อมกับเสื้อเชิร์ตสีดำเข้ารูปกับกางเกงยีนส์ขาเดฟสีดำอีกเช่นกัน ผมมาถึงก่อนเวลาที่พวกมันนัดกัน
เล็กน้อย ก่อนที่พวกมันจะทยอยกันมาจนครบองค์ประชุมนั้นแหละครับ
วันนี้เราสนุกกันมากจริงๆทั้งๆที่เราก็เจอกันทุกวันที่โรงเรียน แต่ก็ไม่รู้ทำไมเหมือนกันผมถึงรู้สึกสนุกและมันส์ขนาดนี้เหมือนได้
ปลดปล่อยอะไรบางอย่างออกไปแบบนี้มานานแล้วเหมือนกันครับ บนโต๊ะมีซากอารยธรรมมากมาย ทั้งทาวเวอร์เบียร์เปล่าๆ แบ
ล็ค บลู ไอ้สัส พิ่งจะเห็น ใครแม่งสั่งบลูวะ ไอ้พวกเพื่อนเวร สั่งเอาๆ แถมยังมีซากกับแกล้มอีกเยอะแยะ แล้วใครมันมากดหัวกูไว้
วะ ทำไมรู้สึกหัวกูมันหนักๆ...
และนั้นก็เป็นความทรงจำสุดท้ายที่ผมมีสติพอจะรับรู้ ก่อนที่ภาพจะตัดไป....
TBC
น้องภีมพระเอกของเราจะปรากฏตัวออกมาในตอนหน้านะค้าบบบ ตอนนี้ส่วนใหญ่จะเน้นบรรยายถึงภูมิหลังของบาสและเพื่อนๆนะครับ ตอนนี้อยากจะบอกว่าผมปรับแก้หลายรอบมากครับ พิมพ์เสร็จแล้วต้องกลับมาแก้บางส่วนใหม่อีกหลายรอบเลย เพราะรู้สึกว่ามันแปล่งๆแปลกๆ แหะๆ ยังไงก็ฝากติชมและติดตามต่อไปด้วยนะค้าบบ ตอนต่อไปเร็วๆนี้เช่นเคยครับ