บทส่งท้าย ☂ How F a r is near? ไกลแค่ไหนคือใกล้ ผมลืมตาตื่นขึ้นมาในตอนเช้า.. พร้อมกับร่างของคนตัวเล็กที่นอนกอดผมไว้
พอผมขยับตัว.. ดิวก็ขยับตัวเองลงไปซุกกับผ้าห่มอุ่นๆแทน
ใบหน้าที่ขาวผ่อง.. กับซอกคอขาวๆที่มีรอยสีสวยๆประดับอยู่เล็กน้อย
ชวนให้ผมอดใจไม่ได้ที่จะโน้มหน้าลงไปหอมที่แก้มของดิว
“อื้อออ.. จะนอน อย่ามากวนน่ะ!”ดิวผลักหน้าผมออก พร้อมๆกับบ่นออกมาเบาๆ
ผมก็ไม่อยากจะกวนดิวมาก เพราะเมื่อคืนก็เอาแต่ใจตัวเองไปซะเยอะเลย
“เดี๋ยวไปหาข้าวมาให้ทานนะ” ผมตัดสินใจลุกขึ้นไปอาบน้ำ
ถึงจะอยากนอนกอดดิวมากแค่ไหนก็ต้องพยายามห้ามใจตัวเอง
เพราะดิวคงต้องกินข้าวและต้องกินยา...
จรรยาบรรณแพทย์ที่มีอยู่ทำให้ต้องรีบหายาให้ดิวทาน
แต่จริงๆคือเป็นห่วงและก็สงสารดิวนั้นแหละครับ โดนผมแกล้งทั้งคืน....
หลังจากที่ผมจัดการอาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้วก็รีบลงไปหาซื้อข้าวมาให้ดิว
กลับขึ้นห้องมาก็เห็นว่าดิวอาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้ว และกำลังนั่งดูทีวีอยู่ที่โซฟาตรงห้องรับแขก
“อ้าว.. ตื่นแล้วหรอ?”ผมทักดิวเสร็จแล้วก็เดินไปทางห้องครัว เพื่อเตรียมข้าวให้ดิวทาน
“ไปไหนมา” ดิวเดินตามเข้ามาก่อนจะดึงเก้าอี้ออกมานั่ง
“ไปหาซื้อข้าวมาไง ทำไมหรอ? ตื่นมาแล้วอยากกอดพี่ใช่ไหม?”ผมพูดจบก็แกล้งเนียนโน้มหน้าลงไปหอมแก้มขาวๆของดิว
แต่ดิวก็นั่งเฉยๆให้ผมหอมนะ ก่อนจะมองหน้าผม
“เปล่า.. แค่แปลกใจว่าหายไปไหน”ดิวตอบผมกลับมา พร้อมๆกับรับถ้วยโจ้กจากผมไปนั่งทาน
เรานั่งทานโจ้กกันไปเงียบๆ ก่อนที่ผมจะรีบหายาแก้ไข้กับยาแก้อักเสบมาให้ดิวทาน
“ต้องกินด้วยหรอ?” ดิวรับยาไปถือไว้ ก่อนจะหันมามองหน้าผม
“ก็เผื่อเป็นไข้ไง ทานไปเถอะ พี่ไม่อยากให้ดิวป่วย”พอได้รับคำตอบแล้ว.. ดิวก็ยอมกินยาที่ผมให้อย่างว่าง่าย
เวลาดิวไม่ดื้อ ไม่บ่น ไม่เถียง... นี้โคตรน่ารักเลยครับ : )
“เข้าไปนอนพักในห้องไหม?”ผมถามดิวที่กำลังเดินไปนั่งที่โซฟาหน้าทีวีอีกครั้ง
“อืมก็ได้ “ พูดจบดิวก็เดินหายเข้าไปในห้องนอน
ส่วนผมเองก็ไม่ได้อยากเข้าไปกวนใจดิว เลยเอาหนังสือมานั่งอ่านที่โซฟาหน้าทีวีแทน
แต่นั่งได้ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ดิวก็เดินหน้างอออกมาหาผม
เห็นหน้าดิวตอนนี้แล้ว... อยากจะกัดปากยื่นๆนั้นมากเลยครับ กัดปาก ทำปากงอนๆอีก
โอ๊ะ.. คนอะไรทำไมน่ารักแบบนี้วะเนี้ยยยย!
“อ้าววว.. ออกมาทำไม อยากได้ไรบอกพี่สิ พี่จะไปหยิบให้”ดิวยังไม่ยอมตอบ แต่ยืนกอดอก และเอาตัวพิงประตูห้องไว้
“เห้ย พี่ทำไรให้ไม่พอใจป่าว? ทำไมมองพี่แบบนั้นละ”ตอนนี้ผมโคตรใจเสียเลยครับ ไม่รู้ผมไปทำอะไรให้น้องโกรธ
ดิวถึงยืนมองหน้าผม แล้วทำหน้าไม่พอใจขนาดนั้น
“ทำไมไม่ตามเข้าไปในห้อง!!!!!!”ดิวตะโกนใส่หน้าผม ก่อนจะเดินเข้ามาประชิดกับตัวผมทันที
แล้วเอื้อมมือก็มาขยุ้มเสื้อตรงหน้าอกผมไว้
“ปากบอกว่ารักๆ เมื่อคืนก็ทำแบบนั้นไปแล้ว เช้ามาทำไมไม่นอนกอดก่อนละ หายไปแบบนี้ให้คิดไง
แล้วเมื่อกี้อีกบอกให้ไปนอนในห้อง แล้วทำไมตัวเองไม่ตามไป นี้จะหลอกฟันอย่างเดียวใช่ไหม
ดิวมันง่ายแบบที่คนอื่นบอกพี่ใช่ไหมละ”สิ่งที่ดิวพูดมาทำผมตกใจมากเลยครับ คือ....... เหนือสิ่งอื่นใดแล้วนั้น
หน้าดิวตอนนี้โคตรน่ารักเลยวะ !!
เอ้ยย.. มันผิดประเด็นสิ ตอนนี้ดิวกำลังคิดมากนี้หว่า!!!!!
ผมรีบดึงดิวเข้ามากอดทันทีเลยครับ ลูบหัวดิวเบาๆ ตอนแรกดิวก็ไม่ยอมกอดผม
พยายามดิ้นให้หลุดออกจากอ้อมกอดของผม แต่สุดท้ายดิวก็แพ้ครับ
ยอมกอดผมกลับมา เอาหน้าซบลงกับอกผม แล้วร้องไห้สะอื้น
“ใจเย็นลงยัง?” ดิวตอบกลับมาด้วยการกัดเข้าที่อกของผมแรงๆ
“งั่มมม ไอ้คนนิสัยไม่ดี!”เจ็บนะครับ แต่ก็ขำ..... 5555+ ไอ้เด็กคิดมากก!
“ฟังพี่นะ.. พี่ก็ไม่อยากลุกไปหรอกเมื่อเช้านะ อยากนอนกอดดิวนานๆ
แต่พี่กลัวดิวหิว และก็กลัวดิวไม่สบายนะ เลยรีบตื่นลงไปซื้อข้าวแล้วเตรียมยาให้ดิวทาน
แล้วเมื่อกี้นะ.. พี่กลัวดิวเจ็บตรงนั้นอะ ก็เมื่อคืนพี่ใส่ซะแรงเลย แล้วตั้งหลายรอบด้วย”
“ไอ้บ้า!! ไม่ต้องย้ำได้ไหมละ” ดิวทุบกำปั้นลงมาที่อกผม พอให้ผมได้เจ็บนิดๆ
“ก็นั้นแหละพี่เลยคิดว่าดิวน่าจะนั่งไม่ไหว เลยให้เข้าไปนอนพักในห้องไงครับ”
“แล้วทำไมไม่ตามเข้ามาละ”ดิวเงยหน้ามาสบตากับผม.. สายตาที่สั่นไหว และฉายแววสับสนในตอนนี้
มันโคตรน่ากดลงกับเตียงจริงๆเลยยย!!
(หยุดหื่นสัก 5 นาทีได้ไหมคะพี่เจ้นท์?)
“ก็พี่กลัวเข้าไปกวนดิวนิครับ พี่เลยเอาหนังสือมานั่งอ่านตรงโซฟานี้แทน
ก็ใครจะอดใจไหวละ ดิวน่ารักขนาดนี้ พี่ก็อยากกอด อยากหอม อยากฟัดจะตาย
ขืนนอนด้วยกันอีก พี่คงอดใจไม่ไหวแน่ๆ”
“เมื่อคืนก็บอกแล้ว ก็ไม่เห็นต้องทนนิ” เสียงดิวพูดกลับมาเบาๆ
แต่ไอ้คำที่ดิวพูดนี้มันคล้ายๆกับคำเชิญชวนหรือเปล่า????
“แปลว่าอนุญาตหรอ?”ผมถามซ้ำกลับไปด้วยความตื่นเต้น
“ไม่ใช่สิ!! โว้ยย ไม่พูดด้วยแล้ว”ดิวโวยวายใส่ผมก่อนจะเดินหนีกลับเข้าไปในห้อง .... ผมจะรอช้าทำไมละครับ
รีบวิ่งตามเข้าไปในห้องทันที
“เข้ามาทำไม” ดิวปาหมอนใส่หน้าผม ก่อนจะล้มตัวลงนอนบนที่นอน
แล้วดึงผ้าห่มมาคลุมตัวเองไว้
ผมรีบเดินเข้าไปล้มตัวนอนข้างๆดิว แล้วแทรกตัวเข้าไปในผ้าห่มอุ่นๆนั้นทันที
“อย่ามากอดสิวะ ไอ้หมอเถื่อน ไอ้หมอนิสัยเสีย”เสียงด่าที่ไม่ได้จริงจังอะไรมากหนัก กับแรงที่ดิ้นเมื่อครู่ก็สงบนิ่งไป
“หมออยากกอดเมีย... ผิดหรอครับ”ผมโน้มหน้าไปหอมแก้มดิว... ก่อนจะถามคำถามที่ทำให้ดิวใจเต้นแรง
ขนาดผมกอดดิวไว้ตรงนี้.. ยังได้ยินเสียงหัวใจดิวเต้นเลย
“เมียบ้าบออะไรละ!! ขอคบหรือยัง? “ ดิวหันหน้ามาเผชิญหน้ากับผม
ก่อนจะมองหน้าผมด้วยอารมณ์หงุดหงิดเล็กน้อย
“อ่ออ.. ที่อารมณ์ไม่ดีนี้เพราะคิดว่าพี่ไม่จริงใจด้วยหรอครับ?
ก็ไม่เห็นต้องขอคบนี้น๊า.. ไหนๆก็ข้ามขั้นมาขนาดนี้แล้ว
เป็นผัวเมียกันเลยก็ได้นี้”ผมตอบเสร็จก็รีบโน้มหน้าไปจูบปากสีสวยของดิวทันที
“อื้ออ.. อย่ามาจูบแบบนี้สิ! ไม่ขอคบได้ไง คนบ้าอะไรจะข้ามขั้นแบบนั้น”
“อ้าวว ก็เราได้กันแล้วนะดิว หรือว่าดิวลืม?? พี่ทบทวนเรื่องเมื่อคืนให้เอาไหม?”ดิวตอบกลับมาด้วยหมัดเล็กๆ ทุบมาที่อกของผม
แต่ครั้งที่จุกครับ 555+ โดนหลายๆรอบมันก็เจ็บนะ
“คนอื่นๆมึงก็ไปเอาเค้าแล้วทิ้ง... กับกูมึงก็จะทำแบบนั้นหรอ? ข้ามขั้นมาเป็นผัวเมียอะไรไม่เอาหรอก”ตอนนี้ดิวเริ่มร้องไห้ออกมาแล้ว... หื้ออออ นี้ผมตอบอะไรผิดไปหรือเปล่า?
“ไม่เหมือนสิ... เห้ยย ขอโทษๆ คือดิวก็น่าจะรู้ว่าตั้งแต่พี่ได้กับดิววันนั้นพี่ไม่ได้ไปนอนกับใครอีกเลยนะ
ชีวิตพี่ก็ผูกติดกับดิวตลอด ยืนข้างๆดิวตลอด แค่นี้ก็น่าจะรู้แล้วนิครับว่าพี่รักดิว เมื่อคืนพี่ก็บอกรักดิวนะ บอกทั้งคืนเลย”
“อื้อออ.. อย่ามาจูบสิวะ ไอ้บ้า!! ขอคบก่อนสิ ถ้าจริงใจก็ต้องคบกันก่อน”โอ้ยยย.. เมียกูน่ารักจริงๆเลยเว้ยยยยย!!!!
“ครับๆ หยุดร้องไห้นะคนดี หยุดร้องก่อนนะ”ดิวยกมือขึ้นมาปาดน้ำตาตัวเอง ก่อนจะขยับตัวเข้ามาชิดกับผมอีก
จนตอนนี้ดิวกับผมตัวติดกันจนแทบจะไม่มีช่องว่างใดๆแล้วละครับ
ไอร้อนจากตัวของดิว.. ทำให้ผมพอจะทราบแล้วละว่าไอ้อาการงอแงของดิวตอนนี้
มันน่าจะมาจากอาการเป็นไข้ของดิวแน่ๆ
“ดิวครับ.. พี่เจ้นท์รักดิวนะ เป็นแฟนพี่ เป็นเมียของพี่ตลอดไปเลยนะ”
“ก็แค่นี้แหละ” ดิวบ่นงึมงำออกมา แล้วก็ซุกหน้าเข้ากับอกของผม ก่อนจะจับเอามือของผมให้ไปกอดที่เอวของดิว
“คำตอบละ?” ผมแกล้งดึงมือกลับ ไม่ยอมกอดดิวแบบที่ดิวต้องการ
“อื้ออ ก็นี้ไง ก็ให้กอดนี้ไงละ จะเอาคำตอบอะไรอีก?”ดิวฟึดฟัดใส่ผมอีกรอบแล้วครับ... เวลาไม่สบายนี้งอแงเอาเรื่องเหมือนกันนะ
ต้องจำเอาไว้,,, จะได้รู้วิธีปราบคนป่วย
“ทีดิวยังอยากให้พี่ขอคบดิวเลย แล้วพอพี่พูดแล้วทำไมดิวไม่ตอบพี่ละ?”ผมแกล้งงอแงกลับบ้างแล้วครับ ขยับตัวออกห่างจากดิวด้วย
ดิวนิ่งเงียบไปสักพัก ก่อนจะลุกขึ้นมานั่งคร่อมตัวผมไว้ แล้วจับตัวผมให้นอนหงาย
“อย่าหนีหน้าดิวแบบนี้นะพี่เจ้นท์... ห้ามเมินดิวด้วย ฮึกกก... ฮือออ ไหนบอกว่ารักไง
ทำไมมาเมินใส่ดิวแบบนี้”อ้าวววววว... งอแงร้องไห้จนได้เลย
นี้สรุปได้เมีย หรือได้ลูกเพิ่มขึ้นมากันแน่วะกู - -‘
“ดิวรักพี่ไหม?”ผมพยายามถามดิวอย่างใจเย็น.. จริงๆผมชอบนะที่ดิวงอแงแบบนี้นะ
ผมชอบปากแดงๆ หน้าแดงๆเวลาดิวร้องไห้ : )
“รัก”
“คบกับพี่นะ เป็นเมียพี่โอเคไหม”
“อืม”ดิวพยักหน้ากลับมา แล้วก็ยกชายเสื้อขึ้นเช็ดน้ำตา
หื้ออออ... ตกลงคบกันปุ๊บ ก็อ่อยเลยใช่ไหม?
ไอ้หน้าท้องขาวๆ ที่มีรอยจูบสีสวยแบบนั้นมันช่างเชิญชวนจริงๆ
แต่สติที่เป็นคนดีของผม.. ย้ำเตือนให้ผมรู้ว่าเมื่อคืนผมเพิ่งเอาแต่ใจใส่ดิว
จนตอนนี้ดิวไม่สบาย.. ฉะนั้นห้ามทำอะไรดิวเด็ดขาด!!
“ขอนอนบนนี้ได้ไหม? เจ้นท์ตัวเย็นมากเลย ดิวชอบ”พูดจบดิวก็ล้มตัวลงมา.. นอนทับกับตัวของผมทันที
หน้าของดิวซบลงอยู่ตรงซอกคอของผม... ไอ้ลมหายใจอุ่นๆที่รดต้นคอนี้แหละ
ที่มันทำให้สติที่เป็นคนเลวของผม... มันย้ำเตือนกับผมว่าผมควรฉลองสถานะแฟนที่เพิ่งได้รับจากดิว
ไหนๆก็ไม่สบายอยู่แล้ว .. สักรอบสองรอบคงไม่ป่วยกว่าเดิมหรอกนะ!!
คุณว่า... สติส่วนไหนของผมชนะหรอครับ?
คุณตอบถูกครับ... สติส่วนคนเลวครับ
ผมมันหื่นกับเมียตัวเอง!!!
“ดิวครับ.. ตัวร้อนแบบนี้พี่เจ้นท์ขอตรวจร่างกายหน่อยได้ไหม?”ดิวพยักหน้าลงบนอกผม ก่อนจะค่อยๆปล่อยตัวเองให้เลื่อนลงมานอนหงายอยู่ข้างๆผม
ผมได้แต่นอนมองดิวที่ขยับตัวเองให้นอนหงายดีๆรอการตรวจจากผม
“ตรวจเลยสิ”ผมไม่รู้นะว่าดิวตอบมาแบบใสซื่อ หรือเชิญชวน
แต่ตอนนี้ผมถือว่ามันคือคำเชิญชวนละกัน
“อื้ออ.. อึกกก เจ้นท์ หื้อออ มะ ไม่ เอา.. ดิว อื้ออออ” “ไอ้จ้านนนนน!!! มาตรวจเมียกูให้หน่อย... เอายามาด้วยนะ”เสียงของผมโทรตามไอ้จ้านน้องรักในดึกของคืนวันนั้น
วันที่ผมฉลองสถานะแฟนกับดิว...
ดิวป่วยหนัก... และมีอาการเพ้อ TT
พี่ขอโทษ... พี่มันหื่น พี่มันรักดิวมากไปอีกแล้ว
“อีกแล้วหรอวะเจ้นท์... มึงมันไอ้หมอเถื่อน!!! ไอ้คนไม่ได้เรื่อง!!!!”เสียงไอ้จ้านด่าผมมาจากปลายสาย และรอไม่นาน หมอจ้านกับเนียร์ก็มาถึงคอนโดของผม
“ผมโคตรเชื่อเลย.. พี่มันหมอเถื่อนแบบหมอจ้านบอกจริงๆ ไอ้ดิวมันป่วยหนักขนาดนี้เลยหรอเนี้ย?
พี่เจ้นท์.. วันหลังพี่ใช้มือบริการตัวเองบ้างนะครับ”โหยย เนียร์แม่งงง ด่ากูว่ากูหื่น หรือด่าว่าเชี้ยเลยก็ได้นะครับมึง!
“ไอ้เจ้นท์.. มึงไปหาข้าวมาให้กูกับเนียร์กินเลย แล้วก็ไปเสาอะไรก็ได้มา กูจะใส่น้ำเกลือให้น้องดิว
ไอ้ห่า.. เอากันกี่รอบก็เรียกเลือดเรียกหมอแม่งทุกรอบ ซ้อกูจะมีชีวิตยืนยาวป่าววะ?”
“นี้กูพี่มึงนะไอ้หมอจ้าน... แล้วก็กูไม่ได้ทำไรรุนแรงเลย ดิวป่วยอยู่แล้วกูก็ไป... อืมมม ทำมันแค่นั้นเอง”ผมตอบกลับไปเบาๆ แต่จริงๆผมก็ผิดนั้นแหละครับ
“แล้วดิวป่วยได้ไง? เมื่อวานตอนจะกลับจากมหาลัยยังดีๆอยู่เลย” เนียร์หันมามองหน้าผมอย่างจับผิด
“คือ ... เออ!! กูทำเองแหละ ครั้งหน้าไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว”
“มึงต้องงดไปเลย 3 เดือน กว่าแผลจะหาย กว่าจะหายไข้อีก แล้วมึงก็ไปตรวจเลือดด้วยนะไอ้พี่ชั่ว
ยัง... ยังจะนั่งหน้าบื้ออีก ไปซื้อข้าวได้แล้ว กูหิวเว้ยยย”สรุปนี้ผมเป็นพระเอกอยู่ใช่ไหมครับ?
ทำไมผมโดนทุกคนรุมด่าขนาดนี้ละ ...
หลังจากที่ผมหาข้าวหาขนมมาประเคนให้น้องชายและแฟนมันเสร็จแล้ว
ผมก็เข้ามาเช็ดตัวให้ดิวที่นอนหลับอยู่ด้วยสีหน้าอิดโรย...
“พี่ขอโทษนะ”ผมบอกกับดิวไปเบาๆ แต่ดิวกลับลืมตาขึ้นมามองหน้าผม
“ดิวผิดเองแหละ” ดิวส่งยิ้มจางๆมาให้ผม ก่อนจะนอนหลับตาไปอีกครั้ง
และครั้งนี้ดิวคงหลับสนิทไปแล้ว เพราะร่างกายที่อ่อนเพลีย และจากฤทธิ์ยาจากไอ้หมอจ้าน
ผมห่มผ้าให้ดิว ก่อนจะเดินออกมานั่งคุยกับไอ้จ้านและเนียร์
“ไง.. ตกลงกันเรียบร้อยนะ” จ้านส่งกระป๋องเบียร์มาให้ผม
ผมก็รับมาดื่ม ก่อนจะหันไปยักคิ้วให้มันแทนคำตอบ
“ซ้อใหญ่ตกลงแล้ว ซ้อเล็กก็โอเคแล้ว ... พ่อแม่เราโอเคยังวะ?”
“พอก่อนไอ้จ้าน... เอาแค่เรื่องเมียกูโอเคแล้วก็พอ เรื่องพ่อแม่เรา กับพ่อแม่ดิวเอาไว้เครียดกันทีหลังได้ไหมวะ
กูเพิ่งมีเมียเป็นตัวเป็นตนได้ไม่ครบ 24 ชั่วโมงเลยนะ มึงจะพากูเครียดอีกแล้วหรือไง?”ผมด่าไอ้จ้านกลับไปเบาๆ ไม่อยากเสียงดังให้ดิวตื่น
“แล้วพี่เจ้นท์รู้สึกรักดิวมันตอนไหนอะ? ปกติพวกเราก็ไม่ค่อยเจอกันอยู่แล้วป่ะ?”เนียร์นั่งข้างๆไอ้จ้าน ยกกระป๋องโค้กขึ้นมาดื่ม แล้วหันมาถามผม
“ชอบตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นนั้นแหละมั้ง? วันนั้นไอ้แว่นเอารูปดิวมาให้ดู พร้อมๆกับตัวมันที่มานั่งเจิดจ้าอยู่ในร้านพี่ชาญ กูอาจจะตกหลุมรักมันตั้งแต่ครั้งแรกที่สบตากันเลยก็ได้.. มันนั่งมองโทรศัพท์ที่หน้าจอสว่างตลอดเวลา แต่มันทำหน้าเบื่อๆเซ็งๆ แววตาของมันเหมือนสับสน และกังวลอะไรหลายๆอย่าง แต่พอมันเดินออกมาเจอกูโดนพวกไอ้โต้ต่อย มันกลับไม่กลัวอะไรเลยวิ่งเข้ามาช่วยกู และยังกล้าพาคนแปลกหน้าแบบกูกลับมาที่คอนโด ตอนนั้นความมักมากกูมันเยอะเลยคิดว่ามันขายตัวจริงๆ แต่เอาตรงๆ กูชอบสายตาของมัน ชอบนิสัยของมัน ใจดีกับคนเค้าไปทั่ว ยิ้มให้กับคนทั่วไปแบบเป็นมิตร ซึ่งมันอาจจะเหมือนมันอ่อยคนนั้นคนนี้.. แต่มันเหมือนมีเสน่ห์วะ.. มันดึงดูดให้กูทำเรื่องไม่ดีกับมัน ยิ่งพอรู้ว่ามันไม่ได้ขายตัวแบบที่คิดไว้... ความรู้สึกผิดกูก็มีนะ... แต่ความดีใจเสือกมีมากกว่า”ผมตอบเนียร์กลับไปอย่างที่ใจรู้สึก.. ถึงไอ้จ้านจะส่งสายตาล้อเลียนผมกลับมาแต่ผมก็ไม่นึกอาย
“ทั้งๆที่รู้ว่ามันมีเมียอยู่แล้วนะหรอ?”เนียร์ทำตัวอย่างกับนักข่าว.. ถามลึกจริงๆ แต่ผมก็ยินดีจะตอบนะ
เนียร์เป็นเพื่อนของดิว... ยังไงๆเอาใจเนียร์ไว้ก็ดีครับเผื่อดิวโกรธผม เนียร์จะได้ช่วยพูดให้
“ก็ไม่รู้ดิ.. ตอนนั้นหวานอยู่ตั้งไกล แต่กูอยู่ตรงนี้ ใกล้ๆมันตรงนี้
กูไม่ได้คิดอะไรไม่ได้หวังอะไรด้วยในตอนนั้น ขอแค่เป็นคนที่ได้อยู่ใกล้ๆมัน
ได้ดูแลมัน ได้ช่วยเหลือมัน... แค่นั้นเอง”
“ตอนแรกมาอย่างชั่ว ทำไมหลังๆแม่งโคตรพระเอกเลยวะพี่ชายกู”ไอ้จ้านอดจะออกปากแซวผมออกมาไม่ได้ ...
ช่วยไม่ได้นะมึงเรื่องนี้กูเป็นพระเอก... ไม่เชื่อถามคนเขียนได้เลย
“ความรักชนะทุกอย่าง”ผมตอบกลับไป.. และก็ได้เสียงอ๊วกกลับมาจากคู่รักตรงหน้าผม 55555+
“ขออีกคำถาม.. ทำไมต้องเพลงไกลแค่ไหนคือใกล้ด้วยอะ พี่ชอบร้องเพลงนี้และเปิดเพลงนี้บ่อยมาก”ไอ้เนียร์ก็ยังจะถามอีกครับ... เบียร์หมดไป 3 กระป๋องแล้วนะ ปล่อยผมไปนอนกอดเมียผมเถอะ
“ครั้งแรกที่สบตาดิว... เพลงที่ร้านพี่ชาญเปิดเพลงนี้
ครั้งแรกที่นั่งบนรถดิว... เพลงบนรถดิวเปิดเพลงนี้
ครั้งแรกที่ได้กันในห้องนอนห้องเล็กของดิว.. กูเปิดเพลงนี้
และหลังจากนั้น.. ทุกๆครั้งที่ได้อยู่กับดิว หรือบังเอิญเดินไปที่ไหนก็จะได้ยินแต่เพลงนี้ตลอด
เพลงรอสายของดิวก็เพลงนี้.. จนหลังๆดิวเปลี่ยน Ringtone เป็นเพลงนี้เหมือนกัน
กูเลยชอบเพลงนี้.. มันทำให้คิดถึงดิว.. คิดถึงทุกๆอย่างที่เป็นดิว”
“กูเชื่อแล้ว.. ว่าความรักแม่งเปลี่ยนคนได้จริง”ไอ้จ้านวางกระป๋องเบียร์ไว้บนโต๊ะ ก่อนจะหันไปโอบไหล่เนียร์ที่นั่งข้างๆไว้
“แล้วมึงละ.. รักกูแบบที่ไอ้เจ้นท์รักดิวไหม?”
“หมอจ้าน.. นี้เรื่องของไอ้ดิวกับพี่เจ้นท์ เรื่องของเราคนเขียนยังไม่ลง
จะมาแย่งซีนอะไรจากคู่อื่นเค้าเนี้ย!!”เนียร์ตอบกลับไอ้จ้าน พร้อมๆกับผลักหน้าไอ้จ้านที่โน้นหน้าลงไปหวังจะจูบปากสวยๆของเนียร์ออก
“งั้น... ก็แยกย้ายกันได้แล้ว กูต้องเข้าไปดูแลดิวแล้วละ”ผมพูดจบก็เดินไปหยุดยืนที่หน้าห้องนอน ก่อนจะหันมามองหน้าไอ้จ้านอีกรอบ
“ห้องนอนมึงก็ว่างเข้าไปใช้ได้.. แต่ห้ามเสียงดังเพราะเดี๋ยวกูได้ยินเสียงพวกมึงแล้วกูหื่นทำร้ายดิวอีก”
“โถ่วว นึกว่าจะห่วงดิว .. แม่งง หมอเถื่อนอย่างพี่หมอจ้านบอกจริงๆเลย”เนียร์โยนกระป๋องโค้กเปล่าๆใส่ผม ซึ่งผมก็ได้แต่หัวเราะออกมา
ก่อนจะเดินกลับเข้ามาในห้องนอน แล้วรีบไปอาบน้ำแต่งตัวแล้วลงมานอนข้างๆดิว
“ฝันดีนะครับ.. พี่รักดิวนะ”ผมจูบแก้มซีดๆของดิวอีกครั้ง ก่อนจะสอดแขนเข้าไปรองใต้คอของดิว
และดึงดิวเข้ามากอดอย่างแผ่วเบา
เสียงเพลงที่ดังมาเบาๆจากที่ไหนสักแห่ง
อาจจะเป็นเสียงจากมือถือของเนียร์ หรือไอ้จ้านก็ตาม....
แต่เพลงนี้มันเพราะ... และมีความหมายสำหรับผมและดิวที่สุดแล้ว
“อีกไกลแค่ไหน.. จนกว่าฉันจะใกล้บอกที
อีกไกลแค่ไหนจนกว่าเธอจะรักฉันเสียที........” จะไม่มีคืนไหนจากนี้ไป.. ที่เราจะห่างกัน
จะไม่มีวันไหนๆที่เราจะได้เป็นแค่คนใกล้แต่ไม่รู้ใจกัน
เพราะตั้งแต่วินาที.. จากนี้และตลอดนี้ไป
พี่เจ้นท์คนนี้.. จะเป็นคนในใจ คนใกล้ตัว คนรัก.. คนสำคัญของดิวตลอดไป. “รักพี่เจ้นท์เหมือนกันนะ”ดิวขยับตัวเข้าไปจูบๆที่ปลายคางของเจ้นท์ .. และกระซิบบอกรักเจ้นท์อย่างแผ่วเบา
ก่อนจะขยับตัวเข้าไปให้ชิดกับอกอุ่นๆ ของคนรัก.
ความอบอุ่น ความรู้สึกปลอดภัย และความรักนี้.. ที่เป็นของดิว
และของดิวเพียงคนเดียว.----------------------------------------------------
เรื่องของ #เจ้นท์ดิว จบลงแล้วนะคะ
ขอขอบคุณทุกๆคนที่แวะเข้ามาอ่าน มาคอมเม้นต์ให้กำลังใจกัน
เรื่องนี้อาจจะเดินเรื่องเรื่อยๆ ไม่ได้หวือหวามากนัก
ยังไงก็จะปรับปรุงผลงานให้ดียิ่งๆขึ้นไปอีกค่ะ
ได้แต่หวังว่า.. ทุกๆคนจะยังเป็นกำลังใจ และติดตามผลงานของเจไปอีกเรื่อยๆนะ
แล้วพบกันเรื่องหน้าจ๊า