ก็บอกว่าไม่ชอบเด็กไง
ตอนที่ 53
' ปล่อย '
แสงของเช้าวันใหม่สาดเข้ามาในห้อง ผมลืมตาขึ้นมาจากโซฟาตัวที่นั่งอยู่ช้าๆ ไม่รู้เผลอหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ เพราะตอนที่คุณลิปร้องไห้จนตัวโยแฟนเค้าก็เข้ามารับแล้วกลับกันออกไป ผมก็ดึงตัวเองกลับมานั่งที่โซฟาตัวนี้ แล้วคิดทบทวนในสิ่งที่อีกคนพูดด้วยความรู้สึกหลากหลายที่อยู่ในใจ ' ฉันแค่อยากรู้ว่าเค้าผิดขนาดนั้นเลยเหรอ ' ผิิดขนาดที่เราต้องสั่งคนไปแกล้งเป็นว่า ข่มขืนเค้าเพื่อให้เค้ากลัว เพื่อไม่ให้มาหาเรา เพื่อปกป้องตัวเองไม่ให้เห็นหน้าเค้าอีก เพื่อที่จะทำให้ลืมทุกอย่างได้ง่ายขึ้น แต่ไม่ได้คิดถึงความรู้สึกของอีกคนเลย ว่าเค้าจะรู้สึกยังไง ทั้งๆที่ตอนทำก็คิดแค่ว่า ' ช่างมัน เค้าไม่ใช่คนที่เราจะรักอีก ' แต่ตอนนี้มันไม่ใช่.. เพราะแม้แต่ในฐานะเพื่อนร่วมโลกคนนึง มันก็โหดร้ายเกินไป
..ครืน..
เสียงเลื่อนประตูที่ทำให้ผมหันไปมอง ร่างบางที่คิดว่าหลับสนิทอยู่ตื่นขึ้นมาในเวลาเช้าเค้าหลบตาลงตอนที่เห็นผมนั่งอยู่ ก่อนจะพาตัวเองมานั่งที่โต๊ะกินข้าวเล็กๆ ที่ติดกับห้องครัว
“ ไม่นอนต่ออีกหน่อยละ "
“ นอนไม่หลับแล้วละ " เค้าพูดสั้นๆ ผมก็ลุกขึ้นยืน แล้วเดินเข้าไปในครัว
“ จะกินอะไรหน่อยมั้ย นม กาแฟ จะลงไปซื้อให้ "
“ แค่กาแฟก็พอ " เค้าบอกสั้นๆก่อนจะทำทีลุกขึ้น แต่ผมก็เอ่ยห้ามไว้
“ ไม่ต้องลุกหรอก เดี๋ยวชงให้เอง กินแบบเดิมใช่มั้ยละ "
“ อื้ม " เสียงตอบรับเบาๆ ผมหยิบแก้วใบเดิมของเค้า ชงกาแฟแบบที่เค้ากินบ่อยๆให้ ในห้องที่ไม่มีแม้ขนมปังสักชิ้น แค่กาแฟแล้วก็น้ำเปล่า เพราะของทุกอย่างที่มันเคยมีผมทิ้งไปหมดแล้วก่อนที่จะออกไป ไม่อยากจะหลงเหลืออะไรเกี่ยวกับตัวเองที่เคยทำไว้ที่นี่อีก เป็นคนที่คิดอยู่เสมอว่า ถ้าจะตัดอะไรก็ต้องตัดให้ขาด เพราะถ้าตัดไม่ขาดมันก็จะต้องเป็นแบบนี้ แบบที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก
“ นี่ กาแฟ " ยื่นแก้วกาแฟส่งไปให้เค้า ผมนั่งลงตรงหน้าอีกคนที่ก็มองผมก่อนจะก้มลงกินกาแฟ " คิดจะพูดเลยรึเปล่า เรื่องที่อยากจะพูด จะได้ฟัง "
“ เรื่องวานที่เกิดขึ้นกับฉัน คงทำให้นายลำบาก ขอโทษด้วยนะ " เค้ากำแก้วนั่นแน่นตอนที่พูดประโยคนั้นออกมากับผม ริมฝีปากที่เม้มสนิท ผมรู้ว่าเค้าคงคิดถึงเรื่องราวเหล่านั้นที่เกิดขึ้นกับเค้าตอนที่พูดถึงเรื่องนั้นออกมา คงคิดถึงผู้ชายสองคนนั้น คิดถึงเหตุการณ์แย่ๆที่มันเกิดขึ้น คิดถึงเสียงกรีดร้องของตัวเอง หรือแม้แต่มือที่ลูบไล้ไปตามเรือนร่าง " ฉัน..”
“ ไม่ต้องขอโทษ ฉันเป็นสั่งให้มันสองคนไปทำแบบนั้นเอง " ทุกอย่างเงียบแม้แต่คนที่กำลังจะพูดตรงหน้าก็ทำได้แค่มองผมด้วยความรู้สึกไม่เชื่อ สายตาที่กำลังสั่นไหวนั่นผมมองเค้าจ้องมาที่แววตาของผมที่ทำได้แค่ถอนหายใจแล้วก้มหน้าลงต่ำ " ฉันขอโทษ มันเป็นความคิดที่งี่เง่าและสิ้นคิดของฉันเอง "
“ ฟาน .. เกลียดฉันขนาดนั้นเลยเหรอ " คำถามที่ทำให้ผมเงยหน้ามองเค้า น้ำตาที่ไหลออกมามาของเค้า " นายเกลียดฉันขนาดนั้นเลยเหรอ "
“ อื้ม " ยอมรับออกไปสั้นๆ น้ำลายเหนียวๆของผมก็เหมือนจะชวนให้ความรู้สึกตอนนี้ที่แม้จะหายใจยังรู้สึกอึดอัด คนสองคนที่นั่งตรงกันข้ามที่โต๊ะอาหาร ในห้องที่เงียบเชียบของเวลาเช้า บรรยากาศที่ชวนให้กลืนไม่เข้าคายไม่ออก " ฉันเกลียดนาย เกลียดที่ต้องเห็นหน้า หงุดหงิดที่ต้องมาเห็นน้ำตาที่ร้องไห้ออกมา มันรู้สึกน่าสมเพช จะอ้วก หึ..” ผมหลุดหัวเราะ " ขอโทษนะที่พูดอะไรออกไปตรงๆ "
“ ไม่เป็นไร " เค้าบอก
“ ฉันแค่คิดถึงตอนที่ฉันคุกเข่าขอร้อง คิดถึงตอนที่ให้ทุ่มเททุกอย่างให้นาย คิดถึงช่วงเวลาที่นายนอกใจฉัน พอคิดถึงตอนนั้นมันทำให้ฉันตั้งคำถามกับตัวเองแล้วอยากจะถามนายออกไปว่า ' ร้องไห้ทำไมวะ ก็ทำตัวเองทั้งนั้นไม่ใช่เหรอ ? ' จะคร่ำครวญหาสวรรค์วิมารอะไรฉันขอร้องให้นายนอกใจฉันเหรอ ก็เปล่าใช่มั้ยละ ตัวนายเองทำตัวเองแท้ๆ แล้วอีกอย่างที่สงสัยคือ คนเรามันก็แปลกทีตอนฉันขอร้องนาย นายไม่เห็นเคยฟัง แต่วันนี้กลับมาขอร้องฉัน ให้ฉันฟังนาย ถามจริงๆเถอะ ไม่คิดว่าตัวเองเห็นแก่ตัวเกินไปเหรอ "
“ ฉันขอโทษ "
“ เลิกพูดคำนั้นเถอะ ต่อให้ฟังอีกกี่ครั้ง ฉันก็ไม่ให้อภัยนายเพราะแค่คำพูดนั้นหรอก " ผมว่ายิ้มๆ " เพราะงั้นตอนนี้ก็พูดในสิ่งที่อยากจะพูดมาก็แล้วกัน ฉันจะฟัง "
“ ทำไมถึงสั่งให้คนไปทำแบบนั้นกับฉัน "
“ เพราะไม่อยากจะเห็นขี้หน้านายอีก ไม่ว่าจะทำยังไง ไล่ยังไง ขอร้องยังไงก็ยังกลับมา แบบนั้นก็เลยสั่งคนไปทำให้กลัว เพื่อที่จะไม่ให้มาที่นั่นอีก แต่ฉันก็ไม่ได้บอกว่าข่มขืนจริงๆหรอกนะ แค่ให้ขู่ให้กลัว " น้ำตาของอีกฝ่ายไหลออกมา เค้าที่ก้มหน้าร้องไห้อยู่ตรงหน้าผม ชวนให้ทุกอย่างเงียบไปทั้งๆที่ผมกำลังเป็นเด็กปากดีอยู่แท้ๆ
“ ทุกอย่างมันเป็นเพราะฉันอีกแล้วสินะ เพราะฉันดึงดันที่จะเข้าไปหานายมันก็เลยต้องเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น เพราะฉันเองสินะ " เค้าพูดเสียงเบาๆออกมาในขณะนั้น " เมื่อวานทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก ผู้ชายสองคนที่เดินตามฉันมาเค้าน่ากลัวมากตอนที่เค้าคว้ามือฉันให้ออกห่างจากแท็กซี่แล้วฉุดเข้าไปหลังกำแพง มือสากๆที่ลูบไปตามร่างกายของฉันมันน่าขยะแขยงไปหมด " เค้าว่าพลางเอามือลูบไปตามตามร่างกายของตัวเองแรงๆ " รอยยิ้มของเค้ามือที่ปิดปากฉันไม่ว่าจะร้องขอยังไงก็ไม่มีวันปล่อยฉันไป ได้โปรดปล่อยฉันไปเถอะ ฉันพูดแบบนั้นกับเค้าซ้ำแล้วซ้ำเล่าออกมาจากปากที่มือนั่นปิดอยู่ " เค้ายกมือขึ้นเช็ดปากตัวเองแรงๆไปมาเสียหลายที " ฉันบอกเค้าว่า ได้โปรดไว้ชีวิตฉันด้วย ฉันบอกเค้าว่าอย่าทำร้ายฉันเลย ฉันขอร้อง ฉัน..อึก ฉันไม่เหลืออะไรแล้ว ฉันบอกเค้า อึก ฮือๆ ฉันบอกเค้าว่าขอให้ฉันได้เหลือความเป็นคนไว้เถอะนะ เพราะฉันไม่เหลืออะไรแล้ว อึก ฮือๆ แล้ว แล้วในตอนนั้นเค้าก็ถอดกระดุมเสื้อของฉัน มือที่ลูบไปตามเนื้อตัว มันสกปรกมากๆ ฉันรู้สึกว่าตัวเองสกปรกมากๆ น่าขยะแขยง ไม่ว่าจะอาบน้ำเท่าไหร่ ถูให้แรงยังไง มันก็ยังสกปรกอยู่ แม้แต่ตอนนี้ฉันก็ยังรู้สึกว่า ตัวฉันมันสกปรก มันสกปรกมากๆเลย ฮือๆ " น้ำตาที่ไหลออกมามากมายของเค้า แขนเล็กๆกอดตัวเองเอาไว้แน่นราวกับว่าตัวเค้ามีแค่ตัวเค้าเท่านั้นที่คอยเป็นที่พึ่งพิง " มันเป็นความผิดของฉันเองสินะ ฉันรนหาที่เอง มันเป็นความผิดของฉันเองที่ยังดึงดันไปหานาย ทั้งๆที่นายเองก็เตือนฉันแล้วว่าอย่าทำ ทุกอย่างที่มันเกิดขึ้นมันเป็นความผิดของฉัน หัวหน้าจะข่มขืนฉันมันก็เป็นความผิดของฉัน ผิดที่ฉันไปหวั่นไหวกับเค้าก่อน นายที่ทำร้ายฉันมันก็ผิดเพราะฉันเองที่ทำร้ายนายก่อน "
ผมหลบตาลงต่ำตอนที่ฟังคำพูดนั้น ไม่เห็นต้องมีคำพูดด่าทอแรงๆ หรืออะไรอย่างที่ผมพูดกับเค้าเลย แต่ทุกอย่างก็ฟังแล้วทำให้รู้สึกเจ็บจุกอยู่ในอกจนอยากจะร้องไห้ออกมา ผมอยากจะกอดเค้าไว้ เค้าไม่ได้น่ารังเกียจหรือน่าขยะแขยงอะไร เค้าไม่ได้ไม่เหลืออะไรแล้ว มันไม่ได้เสียอะไรไปทั้งนั้น ทุกอย่างมันยังอยู่อย่าคิดแบบนั้น แต่อีกใจก็ไม่อยากจะทำอะไร ' แล้วยังไงเค้าไม่ใช่คนเรารักแล้วแคร์อะไรอีก ' แต่ว่าในฐานะเพื่อนมนุษย์ด้วยกันสิ่งที่ผมทำกับเค้าก็ดูแย่เกินกว่าจะมาบอกว่าไม่ต้องแคร์ไม่ใช่เหรอ เราไม่ได้ทำร้ายแค่ร่างกาย ตอนนี้ผมทำร้ายเค้าไปหมด ทั้งร่างกายและจิตใจ
นึกถึงคำพูดของพี่คอมที่เตือนผมว่าอย่าทำ แต่ตอนนั้นผมที่คิดสั้นๆแค่ว่าแค่โดนลูบไล้ ไม่เป็นไร มีผัวใหม่เดี๋ยวก็ลืม .. แต่ตอนนี้มันไม่ใช่แล้ว ทุกอย่างที่เกิดขึ้นอยู่ตรงหน้ามันไม่ใช่ นึกถึงคำถามของคุณลิปที่เอ่ยถามผมไว้แต่ผมไม่ได้ตอบ
' ฉันแค่อยากรู้ว่าเค้าผิดขนาดนั้นเลยเหรอ '
' เปล่า เค้าไม่ได้ผิดอะไรขนาดนั้น ไม่ได้ผิดถึงขั้นจะต้องมาโดนทำร้ายความรู้สึกขนาดนี้ "
“ ขอโทษ ฉันขอโทษ " ผมเองก็พูดได้แค่นั้น ทั้งๆที่เพิ่งบอกเค้าไปก่อนหน้านี้แท้ๆ ว่าคำพูดนั้น ต่อให้ฟังอีกกี่ครั้ง ก็ให้อภัยเพราะคำพูดนั้นไม่ได้ เรื่องบางเรื่องคำว่าขอโทษก็เป็นคำพูดที่ใช้งานไม่ได้ ผมเองให้อภัยเค้าไม่ได้ด้วยแค่คำว่าขอโทษ เพราะเค้านอกใจแล้วทำให้ผมเสียใจ ส่วนเค้าเองก็คงให้อภัยผมไม่ได้เหมือนกันที่ทำแบบนั้นกับเค้า
“ เพราะนายไม่ได้รักฉันแล้ว มันก็ไม่แปลกหรอกที่นายจะทำร้ายฉัน ฉันผิดเองที่ทำร้ายนายก่อน ฉันผิดเอง ที่ไม่ยอมฟังคำพูดของลิปที่ก็เตือนฉันแล้ว ถ้าเค้ารักเราเค้าจะไม่ทำให้เราต้องเจ็บปวดหรอก " เค้าบอกก่อนจะเอื้อมมือไปจับแผลที่หน้าผากของตัวเอง แผลที่ผมเผลอสาดถังน้ำแข็งใส่เค้าจนเลือดอาบ " ขอโทษที่ฉันยังดึงดันให้นายกลับมา ขอโทษที่ฉันคิดว่าแค่สองวันที่เราทะเลาะกัน ฟานจะไม่รักฉันแล้วอย่างงั้นเหรอ จะเป็นไปได้ยังไง " เค้าว่ายิ้มๆ " แต่วันนี้ฉันรู้แล้ว ว่าฟานคนนั้นมันไม่มีแล้ว นายไม่ได้รักฉันแล้วจริงๆ ฉันไม่มีอะไรจะพูดกับนายแล้วละ เรื่องที่อยากจะพูดกับนาย ตอนนี้ก็ไม่อยากพูดแล้ว "
“ งั้นฉันมีอะไรจะถาม " เค้าเงยหน้ามองผมตอนที่พูดออกไปแบบนั้น " คุณรักผมมั้ย ผมแค่อยากรู้ ว่าตลอดมาคุณรักผมมั้ย "
“ รักสิ "
“ รักจริงๆ หรือแค่เสียดายกันแน่ รักจริงๆ หรือแค่คิดว่า กูต้องกลายป็นคนโง่แน่ๆถ้าเสียคนคนนี้ไป กูต้องมีเค้าอยู่เพราะเค้าดีกับกู เหตุผลที่คุณบอกว่ารักผม เหตุผลที่คุณยังพยายามดึงดันมัน เพราะรักผมจริงๆ ไม่อยากจะเสียผมไปจริงๆ หรือจริงๆแค่เพราะตอนนี้ไม่เหลือใครแล้ว เลยกลับมา กลับมาเพราะยังรู้สึกว่า ผมยังรักคุณอยู่ เพราะผมเคยรักคุณมาก ตลอดเวลาที่เราอยู่ด้วยกัน คุณรู้สึกยังไงกับผมเหรอ "
“ ฉันมีความสุขที่มีนายอยู่ " เค้าบอก " ในทุกวันที่ตื่นขึ้นมาฉันเห็นนาย นายที่กำลังกอดฉัน นายที่ทำทุกอย่างให้ฉัน ฉันมีความสุขที่ได้รับมัน มีความสุขที่นายอยู่ข้างๆฉัน ฉันไม่เคยรู้เลยว่า มันเรียกความรู้สึกพวกนั้นว่าอะไร นอกจากความสุข ชอบเหรอ หรือว่ารักฉันไม่ได้หาคำตอบพวกนั้น ไม่เคยแปลความสุขของฉันเป็นความหมายที่เฉพาะตัวอะไร และเพราะคิดมาตลอดว่า เราไม่จำเป็นต้องหาความรู้สึกพวกนั้นว่าคืออะไรหรอก วันไหนที่มันรู้สึกมากขึ้นมันคงจะเปลี่ยนจากคำว่าความสุขที่ฉันคิด เป็นคำอื่นเองนั่นแหละ แล้วพอวันที่จะเสียนายไปฉันเลยได้รู้ ว่าจริงๆแล้วฉันรู้สึกยังไง "
“ อื้ม .. แล้วทำไมถึงนอกใจผมละ ถ้ามีความสุข แล้วนอกใจกันทำไม "
“ ฉัน...” ท่าทางอึกอักของเค้า คำพูดที่ไม่กล้าพูดออกมา
“ พูดออกมาเถอะ คำพูดที่อยากจะพูด ตอนนี้ผมไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดอะไรที่ได้ฟังมันหรอก "
“ หัวหน้าเป็นคนในแบบที่ฉันชอบมาตลอด ฉันแอบรักเค้ามาสามปี จนกระทั้งมาเจอนาย ฉันไม่ได้ชอบคนอายุน้อยกว่านายเองก็น่าจะรู้เรื่องนั้นดี "
“ อื้ม " ใช่ ผมรู้ดีเพราะเรื่องที่จะทำให้เค้าชอบเป็นเรื่องที่ผมพยายามมาตลอด
“ ทั้งๆที่ไม่ชอบคนอายุน้อยกว่าเลยแต่ฉันกลับมีความสุขมากๆที่ได้อยู่กับนาย มันเหมือนว่าฉันเป็นตัวเองได้มากที่สุด ไม่ต้องทำตัวให้ดีเหมือนใครๆ ไม่ต้องเกร็งเหมือนตอนที่แอบชอบหัวหน้า แต่พอหัวหน้ารู้ว่าฉันมีแฟนตั้งแต่นั่นเค้าก็เริ่มเข้าหาฉันมากขึ้น เพราะงานที่มีปัญหาทำให้ฉันรู้สึกดีกับเค้าเพราะเค้าช่วยเหลือฉันไว้ แล้วก็ตอนที่เค้าช่วยฉันไว้ที่ตอนที่เจอคนลวนลามในรถไฟอีก นั่นก็ทำให้ฉันรู้สึกดีขึ้นไปอีก ฉันหวั่นไหว แล้วก็ลังเลมากขึ้นทั้งๆที่ฉันในตอนนั้นมีนายอยู่แล้ว ฉันจะไม่ขอแก้ตัวว่าไม่รู้สึก ฉันรู้สึกดีกับเค้ามาก เพราะเค้าเป็นคนที่ฉันชอบมาตลอดและเลิกหวังไปแล้วว่าเค้าจะมามีใจ แต่แล้วเค้าก็หันมาชอบฉัน ฉันก็เลยหวั่นไหว แต่พอรู้สึกหวั่นไหวจนถล้ำลึกมากขึ้นฉันก็มีปัญหาทะเลาะกับนายขึ้นมา ตอนที่นายขอให้ฉันเลิกไปกินข้าวกับหัวหน้าแล้วฉันไม่ยอม นายบอกฉันว่า นายจะทำแบบฉันบ้าง ฉันจะได้รู้ว่านายรู้สึกยังไง " ผมพยักหน้ารับตอนที่เค้าพูดออกมา ทุกอย่างที่เค้าเล่าผมเองก็จำมันได้ดี
" ตอนนั้นตอนที่นายพูดแล้วเดินจากฉันไป ฉันกลัวมาก มันไม่ใช่แค่ว่ากลัวว่านายไปเป็นกินข้าวกับคนอื่น แต่ฉันกลัวมากกว่านั้น กลัวว่านายจะหวั่นไหวไปกับคนอื่นอย่างที่ฉันเป็น กลัวว่านายจะเผลอชอบคนอื่นมากกว่า กลัวว่านายจะเป็นแบบฉัน แบบที่ฉันกำลังทำไม่ดีกับนายอยู่ คิดไปว่าถ้านายเจอใครสักคนที่ดีกว่าฉันแล้วทิ้งฉันไป คิดถึงการที่ไม่มีนายอยู่ ตอนนั้นฉันก็เลยคิดได้ว่า คนที่สำคัญกับฉันและฉันไม่อยากจะเสียไปคือใคร แต่มันก็สายไปแล้ว เพราะฉันเข้าไปเล่นด้วยกับหัวหน้าและเค้าก็ไม่ยอมปล่อยฉันไปง่ายๆอย่างที่ฉันคิด ภาพหลุด หลุดออกมา ตอนนั้นฉันทะเลาะกับนาย หน้ำซ้ำยังต้องไปงานสัมมนา ทั้งๆที่ไปขอร้องให้รองหัวหน้าไปแทน แต่หัวหน้าก็ไม่ยอม เค้าจะให้ฉันไปกับเค้าให้ได้ ส่วนนายเองก็ไม่ให้ฉันไป ฉันยอมรับว่าฉันกลัวว่านายจะไม่ได้รักฉันจริงแล้วทิ้งฉันไป ปล่อยให้ฉันที่ลาออกจากงานกลายเป็นคนไม่มีที่ไป เพราะฉันทำเลวกับนายไว้เยอะฉันก็กลัวว่ามันจะไม่เป็นอย่างที่นายสัญญา ฉันเลยอยากจะออกจากงานแบบเป็นขั้นตอน ถ้านายทิ้งฉัน ฉันจะได้หางานใหม่ทำ แต่ทั้งหมดก็ต้องไปงานสัมมนานั่นอยู่ดี "
“ อื้ม "
“ ฉันไม่ได้คิดว่าอยากจะไปงานสัมมนานั่น ฉันพยายามติดต่อนายแต่นายไม่ตอบกลับเลย ฉันพยายามโทรแต่นายก็ไม่รับสาย ฉันอยากจะให้เราเข้าใจกัน ฉันไม่อยากให้นายคิดแบบที่นายกำลังเข้าใจผิด เข้าใจผิดว่าฉันอยากจะไปงานนั่นกับหัวหน้า เข้าใจผิดว่าที่ฉันไปเพราะอยากจะไปมีอะไรกับหัวหน้า มันไม่ใช่แบบนั้น ฉันไปเพราะต้องไปมันเป็นเหตุผลของงานที่เลี่ยงไม่ได้ มันไม่ใช่ว่าถ้าบอกว่าจะลาออก พรุ่งนี้จะออกได้เลย แต่ว่าถ้าฉันออกกลางคันแบบนั้น สมมุติว่าไปสมัครที่ใหม่ เค้าก็ต้องไปถามที่เก่าอยู่ดีว่าประวัติงานของเราเป็นยังไง แล้วแน่นอนว่ามันคงไม่ดีแน่ ถ้าฉันออกจากงานแบบคนไม่มีความรับผิดชอบแบบนั้น " เค้าอธิบายผมเรื่อยๆ ทั้งเรื่องที่เกิดขึ้นและเรื่องที่เค้ารู้สึก เรื่องที่เค้าคิด " แต่พอฉันไปงานสัมมนา ฉันก็รู้ความจริงทุกอย่าง ความจริงที่ว่าทุกอย่างเป็นแผนของหัวหน้า ตั้งแต่ตั้งใจจะไม่ตรวจงานฉันจนทำให้มีปัญหา ให้คนมาลวนลามฉันบนรถไฟ จ้างช่างกล้องมาถ่ายภาพฉันกับเค้า แล้วก็เป็นคนส่งเมล์นั่นไปให้แผนก ทุกอย่างมันเป็นแผนของเค้า ฉันมารู้ความจริง ก็ตอนที่เค้าพยายามจะข่มขืนฉันตอนที่ฉันมัวแต่โทรศัพท์หานายอยู่คนเดียวที่หน้าโรงแรมแบบไม่ได้สนใจอะไร "
“ งั้นก็เรื่องจริงสินะที่ว่า เค้าจะข่มขืนนาย "
“ อื้ม ตอนนั้นเค้าบอกความจริงทั้งหมดกับฉัน ก่อนจะหยิบยาที่เค้าบอกว่าเป็นยาปลุกเซ็กส์ขึ้นมาจะให้ฉันกิน เค้าพูดว่าจะถ่ายวิดีโอตอนที่ฉันกับเค้ามีอะไรกับเพื่อเอาไว้แบล็คเมล์ฉัน ฉันจะได้มามีอะไรกับเค้าตลอดเวลาที่เค้าต้องการ เป็นเหมือนเครื่องสนองตันหาของเค้า "
“ แล้วสำเร็จมั้ย " ผมถามอีกคนก็เงยจ้องหน้า ก่อนจะส่ายหน้า
“ ไม่ พนักงานโรงแรมช่วยฉันได้ทัน ตอนนี้ขวดยานั่นก็ถูกส่งไปตรวจ หัวหน้าเองก็ถูกพักงานจนกว่าเรื่องนี้มีผลที่แน่นอนออกมา "
“ ถ้ามันใช่เค้าก็คงโดนไล่ออก แต่ถ้าไม่ละ..”
“ คงเป็นฉันที่โดนไล่ออกแทน " ก็คงเป็นแบบนั้นอยู่แล้วหนำซ้ำอาจจะโดนกล่าวหาว่าใส่ความไอ้เหี้ยนั่นด้วยก็ได้ " ตลอดมาเพราะฉันไม่เคยห่างจากนายมาก่อน ไม่เคยมีความรู้สึกที่ว่าจะสูญเสียนายไปเพราะนายอยู่ใกล้ๆฉันมาตลอดแต่ว่าตอนนี้ ฉันที่ไม่มีนายอยู่ข้างๆแล้ว เลยเข้าใจแล้วว่าตลอดมาฉันรู้สึกยังไง " แววตาของเค้าที่เงยหน้าขึ้นมองผม " นายเป็นคนสำคัญของฉันนะ เป็นคนที่ฉันจะขาดไม่ได้ ฉันรักนาย พอไม่มีนายก็เพิ่งจะรู้ตัวว่ารักมากแค่ไหน "
“ แต่ตอนที่รู้ตัว มันสายไปแล้วละ เอาจริงๆผมก็เห็นใจคุณนะที่เกิดเรื่องร้ายๆกับคุณแบบนั้น แต่ความรู้สึกของผมมันเสียไปแล้วละ จะพูดว่าเกลียดคุณมั้ย หรือตอนนี้รู้สึกยังไงกับคุณ คำตอบคือก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ที่รู้คือ ไม่ได้รักมากเหมือนเมื่อก่อนแล้ว ไม่ได้อยากจะทุ่มเทอะไรให้มากมายอีกแล้ว จะบอกว่าไงดีละ ผมรู้สึกเสียใจที่ผมทำให้คุณต้องมาเจอเรื่องแบบนั้นเหมือนย้ำเรื่องที่คุณเจอกับหัวหน้าของคุณ ผมอยากจะกอดคุณนะ อยากจะปลอบคุณ รับผิดชอบในเรื่องที่ผมทำ แต่ว่าเรื่องของคุณกับหัวหน้าอันนี้ผมยังลังเลเลยว่า.. เหรอ ไม่ได้อยากจะเป็นของเค้าตั้งแต่แรกเหรอวะ ฮ่าๆๆๆ เอาจริงๆ ผมว่าคุณคงไม่อยากจะเสียผมที่ตอนนั้นรักคุณมากๆไปก็แค่นั้น ไม่อยากจะให้ใครมองว่าโง่เท่านั้นแหละ เพราะคงเหมือนอย่างที่คุณบอกไว้ตั้งแต่ต้น คนที่รักกันจริงๆเค้าจะไม่ทำให้อีกฝ่ายต้องเสียใจหรอก คุณจะมาบอกว่าไม่รู้ว่าจะทำให้ผมเสียใจไม่ได้นะ เพราะการนอกใจยังไงอีกฝ่ายก็ต้องเสียใจอยู่แล้ว คุณรู้อยู่แล้วแต่ยังทำ แบบนั้นคุณก็คงไม่ได้รักผมหรอก "
“ ฟาน มัน.. "
“ ไม่ต้องเสียดายไอ้เด็กแสนดีคนนั้นหรอกครับ เพราะมันไม่มีแล้วละ ผมคนนั้นน่ะ เพราะต่อไปนี้ผมตั้งใจว่าจะไม่ทุ่มเทให้ใครอีก ไม่แสนดีกับใครทั้งนั้น จะไม่พยายามอะไรทั้งนั้นเกี่ยวกับเรื่องความรัก งี่เง่า บ้าบอ เหี้ยอะไรพวกนี้อีกแล้ว เพราะงั้นก็วางใจได้เลย ผมกลับไปเป็นคนเก่าไม่ได้หรอก ไม่ต้องเสียดายหรอกนะ "
“ แต่ฉันรักนายนะ จะไม่กลับมาเป็นเหมือนเดิมก็ได้ เพราะฉันก็ยอมรับว่าฉันผิดเอง "
“ ใช่ ถูกต้องครับ คุณเป็นฝ่ายผิด แต่ไม่เป็นไรหรอกก็คิดซะว่า ชอบเค้ามาตั้งนาน ได้เห็นธาตุแท้ของเค้า แต่ก็ได้อย่างเสียอย่างละนะ ต่อไปนี้คุณก็หาใครสักคนในแบบที่ชอบจริงๆเถอะ " ถอนหายใจออกมา ตอนที่มองหน้าคนที่จ้องหน้าผม " เพราะผมไม่อยากจะกลับมารักคุณอีกแล้ว "
“ แต่ฉันคงรักใครไม่ได้อีก ฉันไม่ได้อยากจะรักคนอื่น ฉันแค่อยากจะรักนาย ฉันแค่อยากจะเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อนาย ฉันอยากจะเป็นคนที่ดี คนในแบบที่นายชอบ อยากจะให้เราหันหน้ากลับมาเข้าใจกันอีกครั้ง ฉันรู้ว่ามันยาก แต่ฉันอยากจะพิสูจน์ให้นายเห็น ว่าฉันจริงๆ ฉันรู้สึกยังไงกับนาย "
" เลิกกันแรกๆเค้าก็พูดกันแบบนี้ทั้งนั้นแหละ " ผมบอก " แต่พอเจอใหม่เดี๋ยวก็ทำใจได้ แล้วก็รักกับคนใหม่เองนั่นแหละ แล้วอย่างที่ผมบอกก็คือ ผมไม่ใช่คนเก่าแล้ว ต่อให้เรากลับมารักกันมีแต่จะทำให้คุณต้องเจ็บปวดนะ สู้ไปหาคนใหม่ไม่ดีกว่าเหรอ "
" เจ็บปวดมากเลยสินะ ที่ฉันทำแบบนั้นกับนาย นายที่ทุ่มเทให้ฉันมาตลอด " คำถามที่ทำให้ผมนิ่งค้างไปสักพัก " ฉันรู้ดีว่าถึงจะพูดว่าขอโทษกับอีกกี่สิบครั้งก็ไม่สามารถลบความรู้สึกเสียใจของนายได้ แต่ถ้าความเจ็บปวดของฉันสามารถลบความรู้สึกเจ็บปวดทั้งหมดของนายได้ ฉันเองก็ยินดีจะรับมันไว้ เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับฉัน เรื่องแผลนี้ " เค้าชี้ไปที่แผลที่หน้าผากของเค้า " เรื่องที่นายผลักฉันล้มหรือแม้แต่เรื่องที่นายสั่งให้คนมาขู่แล้วทำเป็นข่มขืนฉันให้ฉันกลัว ถ้าเรื่องพวกนี้มันคือวิธีระบายความเจ็บปวดของนายแล้วละก็ ฉันจะรับมันไว้เอง ฉันยกโทษให้นาย แต่ต่อไปจากนี้เราไม่มีอะไรติดค้างกันได้มั้ย ฉันรู้ว่ามันยาก ฉันรู้ว่าฉันเห็นแก่ตัวที่เอาความเจ็บปวดของตัวเองมาแลกกับความเจ็บปวดของนาย แต่ฉันแค่ไม่อยากให้เราผิดใจกัน ฉันทำให้นายเจ็บ นายเองทำให้ฉันเจ็บ เราไม่ติดค้างกันได้มั้ย ในเมื่อต่างฝ่ายก็เจ็บด้วยกันทั้งคู่แล้ว "
“ ที่พูดหมายความว่าไง " ผมไม่เข้าใจในสิ่งที่อีกคนพูด " พูดเหมือนกำลังบอกว่า เรามาเริ่มต้นใหม่ได้มั้ย ไม่ติดค้างอะไรกันแล้วนะ มันง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ ทั้งเรื่องที่คุณทำให้ผมเจ็บ ทั้งเรื่องที่ผมทำให้คุณเจ็บ มันลบกันง่ายๆแบบนี้เลยเหรอ "
“ ไม่หรอก มันไม่ง่าย " เค้าส่ายหน้า " แต่ฉันแค่อยากจะให้นายอยู่ใกล้ๆันมันก็เท่านั้นเอง ฉันอยากจะให้เรากลับมาเป็นเหมือนเดิม ฉันอยากจะแก้ไข ฉันไม่อยากจะอยู่โดยไม่มีนาย ฉันอยากจะทำให้นายรู้ว่า ฉันรักนายจริงๆ จากความรู้สึกของฉัน อยากจะพิสูจน์ให้นายเห็น "
“ ที่คุณไม่อยากจะเสียผมไป เพราะคุณแค่เสียดาย "
“ เพราะนายคิดแบบนั้นไง ฉันก็เลยอยากจะทำให้นายรู้ว่าฉันรู้สึกยังไงกับนาย "
“ หน้าด้านไปมั้ยคุณ อย่ามาทำเป็นรักผมตอนนี้จะได้มั้ย บอกอีกทีแล้วว่าให้ไปหาผู้ชายคนใหม่ ไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ดีกว่า "
“ ฉันเริ่มต้นใหม่ไม่ได้หรอก แค่ตอนนี้คิดว่าจะต้องลงไปซื้ออะไรสักอย่างมากินยังไม่กล้าเลย แค่คิดว่าถ้ามีใครเดินตามหลังฉันมาฉันก็ไม่กล้าจะออกไปไหนแล้ว แล้วแบบนั้นจะให้ฉันไปเริ่มต้นใหม่กับใครละ นายอกหักนายยังเริ่มต้นใหม่ได้ แต่ว่าฉัน..”
“ เอาตรงๆ คือจะให้ฉันรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้นสินะ เอาแบบนี้มั้ย ฉันจะจ่ายค่ารักษาให้นาย นายก็ไปพบจิตแพทย์ ฉันจะจ่ายให้จนกว่าจะหายเลย บอกเลขบัญชีจดมาแล้วกัน " ผมที่ล้วงมือถือเตรียมจะเอามาบันทึกแต่คนตรงหน้ากลับนิ่งก่อนจะมองผมด้วยสายตาเสียใจ ความผิดหวังในแววตาของเค้า มันเหมือนว่าทุกอย่างมันจบแล้ว เหมือนเค้าบอกกับตัวเองว่า ' พอเถอะ '
“ งั้นก็ไม่ต้องหรอก เพราะฉันไม่คิดว่ามันจะรักษาง่ายขนาดนั้น " เค้าว่าก่อนจะถอนหายใจออกมา " นายรู้มั้ยฉันหวังว่าเราจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ แม้จะไม่ใช่นายคนเดิมฉันเองก็ยังอยากจะได้รักกับนายอยู่ดีด้วยเหตุผลโง่ๆของฉันที่ยังคิดถึงช่วงเวลาดีๆของเราแล้วอยากจะปรับตัวใหม่เพื่อนาย พิสูจน์ให้นายที่ไม่เชื่อเลยว่า ฉันรักนาย ให้นายได้เห็นก่อนที่จะตัดสินใจว่าฉันเป็นยังไง เพราะตลอดมาฉันไม่เคยแสดงออกให้นายรู้ ฉันเลยอยกาจะลองเปลี่ยนมัน แต่ตอนนี้ฉันรู้สึกแล้วว่ามันเปลี่ยนไม่ได้หรอก อย่าพยายามพูดอะไรอีกเลย " เค้ายิ้มก่อนจะลุกขึ้นยืน " เอาเป็นว่า ฉันจะไม่โกรธนายที่นายทำแบบนี้กับฉัน ฉันจะให้อภัยนายเพราะไม่อยากจะติดค้างอะไรกับนายอีก อโหสิกรรมให้กันไปแล้วกัน แต่สิ่งสุดท้ายที่ฉันอยากจะบอกนายก็คือ นายลองไปให้ใครข่มขืนตัวนายเองดูสิ นายจะได้รู้ว่ามันรู้สึกยังไง เจ็บปวดและทรมานมากแค่ไหน แล้วนายลองรักษากับจิตแพทย์ด้วยนะ ลองดูว่าหายมั้ย แล้วจะได้คิดได้สักทีว่า ไม่สมควรที่จะพูดกับฉันแบบนั้นในเรื่องสั่งคนมาข่มขืนฉันแบบนี้ แล้วนายเองก็จะได้รู้ด้วยว่า ที่ตัวเองทำมันเลวยิ่งกว่าสัตว์ซะอีก " เค้าเงียบไปสักพักก่อนจะหันมาพูดมาต่อ " ฉันไม่เคยคิดอยากจะให้นายมารับผิดชอบเรื่องเหี้ยๆที่นายทำ แต่สิ่งที่ฉันอยากได้ คือนายที่จะกลับมาอยู่ข้างๆเพื่อให้ฉันได้แก้ตัวในสิ่งที่ฉันทำลงไปมากกว่า "
“ ต่อให้เรากลับมารักกัน เราก็กลับมารักกันแบบเดิมไม่ได้หรอก เพราะความรู้สึกที่เสียไปแล้ว มันเอากลับมาไม่ได้แล้ว " ผมบอกอีกคนที่พยักหน้ารับด้วยความเข้าใจในท้ายที่สุด
“ ใช่ อย่างที่ฉันกำลังพยายามเอามันกลับมา ทั้งๆที่ก็รู้ดีว่า ฉันเอากลับมาไม่ได้แล้ว แล้วตอนนี้ก็คงต้องปล่อยมันไปจริงๆ "
คนเรามันก็เหมือนกันทุกคน เมื่อพยายามทำทุกอย่างแล้ว แต่ไม่ได้อะไรกลับมา
เราก็แค่ต้องหยุด.. หยุด และยอมรับความจริง
..................................................................
ฟานนิสัยไม่ดีเลย ไม่น่ารัก
คีย์เองก็ดีแล้ว ที่ตัดสินใจปล่อยเค้าไป ทำทุกอย่างแล้วที่จะรั้งไว้เมื่อ มันถึงจุดที่คิดว่าพอ ก็ควรพอ
ให้อภัยกันไป อโหสิกรรม อย่าได้มาเจอคนแบบนี้อีกเลย
บัยยยยย
จริงๆ มีคนอ่านถามว่า ฟานจะได้บทเรียนมั้ย คงต้องได้นะคะ
แต่ถามว่าดราม่ามั้ย คงไม่แล้วละมั้ง คือไม่ดราม่าของหนมอาจจะดราม่าของคนอ่านก็ได้นะ อันนี้ตัดสินใจกันเอง
ตอนต่อๆไปมันจะเป็นช่วงของบทสรุปแล้วค่ะ
เพราะงั้นอ่านกันไปจนถึง บทสุดท้าย ยันตอนพิเศษกันเลยนะคะ
ฝากแท็ก #ฟานคีย์ ในทวิตด้วยนะคะ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์จ้าา
