ก็บอกว่าไม่ชอบเด็กไง
ตอนที่ 49
' ไม่รัก'
“ คุณคีย์ ลุกขึ้นเถอะครับ " เสียงของเพื่อนฟานอย่างทามดึงตัวเองลงมานั่งย่อตัวข้างๆผม เค้าที่ผ่อนลมหายใจออกมา ท่ามกลางใครหลายๆคนที่มองผมอยู่อย่างอยากรู้ " เดี๋ยวผมจะลงไปส่งคุณข้างล่าง ลุกขึ้นเถอะนะ "
“ แต่ว่าฟาน ฉันยังอยากจะคุยกับเค้าก่อน " มือของผมที่ยังคงทุบอยู่ที่ประตู " ฟาน คุยกับฉันก่อนสิ ฟานนะ ได้โปรดเถอะ อย่าทำแบบนี้เลย "
“ เสียเวลาเปล่าครับอย่าเลย " เค้าห้ามมือผมไว้ แต่ผมก็สะบัดมือออกจากมือของเค้าแล้วทุบประตูนั่นต่อไป
“ ฟาน ไม่จริงใช่มั้ย นายไม่ได้รักฉันแล้วเหรอ ฟานไม่จริงอะ ไม่จริง ฟาน.." หลับตาแน่นร้องไห้ออกมากับคำพูดที่ยังได้ยินชัดอยู่ในใจ ' รักของเรามันจบไปแล้ว ผมไม่ได้รักคุณอีกแล้ว ' น้ำตาหยดใสไหลลงกระทบมือที่ได้แต่นั่งนิ่งๆอยู่แบบนั้น ไม่รักแล้ว ไม่รักกันอีกแล้ว ไม่เหลืออะไรแล้ว ไม่มีอีกแล้วรักของเรา ฟานจากไปแล้ว เค้าไปแล้ว ไม่ว่าจะขอร้องเท่าไหร่ อ้อนวอนแค่ไหน หรือหาเหตุผลอะไรมาบอก ก็ไม่มีเค้าอีกแล้ว ผมเสียคนที่รักผมที่สุดไปแล้ว เสียไปเพราะตัวผม ผมที่โง่เอง
“ คุณคีย์ลุกขึ้นเถอะ ผมจะไปส่งคุณข้างล่างนะ " ทามเอื้อมมือมาจับตัวของผมให้ลุกขึ้นยืน ร่างที่เดินไปตามแรงดันของเค้า ลิฟต์ที่เปิดออกมาเค้าดันตัวผมให้ยืนด้านในก่อนจะถอนหายใจออกมา เค้ามองหน้าผมที่กำลังร้องไห้อยู่ในตอนนั้น " กลับไปก่อนเถอะครับ ตอนนี้มันคงไม่ฟังอะไรทั้งนั้น ถ้ายังดึงดันจะอยู่ก็ยิ่งมีแต่ทำให้คุณเสียใจมากขึ้นเท่านั้นแหละ ฟานน่ะ มันไม่ใช่คนที่จะให้อภัยใครง่ายๆหรอก "
“ ฉันรักเค้า ฉันรักเค้ามากจริงๆนะ " ผมที่ปิดตาร้องไห้ออกมาจนตัวโย เสียงสะอึกสะอื้นที่ดังก้องไปทั้งลิฟต์ไม่ได้สนใจเลยว่าคนข้างๆจะเป็นคนที่ตัวเองไม่เคยสนิทด้วย ความเสียใจที่อยากจะร้องไห้ออกมาแค่อย่างเดียว " ทำไมมันต้องกลายเป็นแบบนี้ด้วย ทุกอย่างฉันถอยออกมาแล้ว ฉันถอยออกมาแล้วจริงๆนะ ฉันไม่ได้คิดกับหัวหน้าแบบนั้น ฉันพยายามปรับตัวแล้วแต่ทุกอย่าง มันก็ไม่ทัน ฉันต้องเสียเค้าไปจริงนะเหรอ อึก ฮือออ ฉันจะเสียคนที่ฉันรักคนนี้ไปจริงๆนะเหรอ ถ้าฉันรู้แบบนี้ฉันจะบอกรักเค้าให้มากกว่านี้ จะบอกทุกวัน ว่าฉันรักเค้า ฉันรักเค้ามาก "
“ พอเถอะครับ เลิกร้องไห้ได้แล้ว "
“ นายเป็นเพื่อนฟานนิ " ผมหันไปมองหน้าอีกคน มือที่คว้าเอามือของเค้ามาจับ " บอกฉันมาเถอะนะ ว่ามันมีทางไหนที่จะทำให้ฟานกลับมาคืนดีกับฉันได้บ้าง ฉันจะทำทุกอย่างที่นายแนะนำเลย บอกฉันมาเถอะนะ "
“ อย่าพยายามเลยครับ " เสียงนิ่งๆของอีกคนที่บอกออกมาก่อนจะถอนหายใจ " ไอ้ฟานนะมันไม่มีทางกลับมารักคุณเหมือนเดิมได้หรอก เพราะมันเคยรักคุณมากที่สุดแล้ว แล้วคุณก็ทำให้มันเสียใจ ตลอดสองวันที่ผ่านมามันเหมือนคนบ้าที่เอาแต่ขังตัวเองอยู่ในห้อง ร้องไห้แล้วไม่คุยกับใคร คนเรามีระบบป้องกันตัวเองไม่ใช่เหรอ แล้วตอนนี้คุณก็เป็นคนที่ถูกมันเปิดระบบนั่นใส่แล้วละ คุณก็คือคนที่ไม่ต่างจากพ่อแม่มัน ที่ทิ้งมันไป คนที่สัญญาว่าจะอยู่ แต่กลับไม่อยู่กับมัน มันทุ่มเทให้คุณทุกอย่างแล้วมันก็ทำทุกอย่างที่เคยคิดว่าจะทำเพื่อให้พ่อแม่เข้าใจ มันทำทุกอย่างแล้ว แต่คุณ ก็ไม่เห็นค่ามันเอง "
“ ฉัน..”
“ คุณคิดว่าคนเรา มันจะแสนดีได้ขนาดนั้นเลยเหรอ คุณคิดว่าเพราะอะไรมันถึงแสนดีกับคุณขนาดนั้น ถ้ามันไม่รักคุณมากจริงๆ มันที่พยายามทำให้คุณชอบมาตลอด แล้วสุดท้ายคุณก็หักหลังความพยายามของมัน " เค้าว่าก่อนจะถอนหายใจออกมา " ผมไม่มีอะไรจะแนะนำหรอก ยกเว้นว่า อย่ามาที่นี่อีกอย่างที่มันบอกคุณไว้ เพราะถ้าคุณไม่ฟังมัน คุณเองนั่นแหละที่จะเจ็บตัว ฟานไม่ใช่คนแสนดีอย่างที่คุณคิดหรอก เวลาที่มันโกรธมันทำได้ทุกอย่างแหละ แม้กระทั้งว่าคุณจะเป็นคนที่มันรักก็เถอะ "
“ แต่ฉันไม่อยากจะเสียเค้าไป โดยที่ตัวเองไม่ได้พยายามที่จะทำอะไรเลย แล้วกลัวแม้แค่คำพูดเตือนของคนอื่น ฉันจะลองทำมันก่อน ฉันทำให้เค้าเสียใจ ฉันต้องรับผลการกระทำของตัวเอง "
" ผมก็ได้แค่เตือนครับ สุดท้ายแล้วจะเป็นยังไง ก็เรื่องของคุณ " เค้าพูดสั้นๆก่อนจะเดินออกไปเรียกรถแท็กซี่ที่ขับผ่านไปมา " คุณจะให้ไปส่งที่ไหนละ คอนโดในเมืองที่ฟานไปอยู่วันก่อนรึเปล่า "
“ ใช่ " ผมพยักหน้ารับ " ว่าแต่นายรู้ได้ยังไง "
“ เคยได้ยินไอ้ฟาน ขอติดรถเพื่อนไปลงแถวนั้นบ่อยๆ " ผมพยักหน้ารับก่อนจะยืนเหม่อกับความคิดของตัวเองอยู่นานก่อนคนที่อาสาเรียกรถให้จะเรียกรถได้แล้วหันมาบอก " เชิญครับ "
" ขอบคุณมากนะที่เป็นธุระให้ "
" ไม่เป็นไรครับ แต่ว่าคุณคีย์..” อีกคนที่ชะงักไปเหมือนอยากจะพูดบางอย่างออกมาแต่พูดไม่ได้ แต่ผมก็รู้แหละว่าเค้าต้องการสื่ออะไร
" ขอบคุณที่เตือนนะทาม แต่ฉันปล่อยให้ทุกอย่างมันจบลงโดยไม่ทำอะไรเลยไม่ได้หรอก " ผมหันกลับไปมองตึกสูงที่อยู่ด้านหลัง เพราะคำที่พูดว่ารัก ในตอนนี้มันคงเป็นแค่คำพูดนึงที่ไม่มีค่าอะไร เพราะงั้นผมจะพยายามแสดงให้เค้ารู้ว่าสิ่งที่ผมพูดมันคือเรื่องจริง ผมรักเค้าจริงๆ แล้วเค้าก็เป็นคนสำคัญของผม คนที่ไม่ว่ายังไงผมก็ขาดไปไม่ได้
......................................................
“ วันนี้ก็จะไปหาฟานอีกเหรอ " ลิปที่ยืนอยู่ข้างผมเอ่ยถามออกมา ผมหยักหน้ารับอีกคนตอนที่เรายืนรอรถไฟที่กำลังเข้ามาเทียบชานชาลาพร้อมๆกัน เมื่อวานค่าเดินทางไปหาฟานที่ต้องจ่ายให้แท็กซี่รวมถึงค่าทางด่วนเยอะมากเพราะไม่ได้คิดคำนวนทุกอย่างให้ดี วันนี้พอตั้งสติได้ก็เลยคิดว่าจะนั่งรถไฟไปก่อนจนสุดสายเมื่อไหร่ก็ค่อยต่อแท็กซี่ไป เร็วกว่าแถมยังประหยัดกว่าด้วย " แล้วเมื่อวานไปแล้ว เค้ายังไม่หายโกรธเหรอ "
“ อื้ม " พยักหน้ารับอีกคนซ้ำผมก็ยิ้มออกมาจางๆ " นอกจากจะไม่คืนดีแล้ว ยังบอกเลิกฉันอีก แต่ว่า เพราะเค้ายังโกรธมากฉันก็เลยคิดว่าถ้ายังง้อต่อไปเรื่อยๆ ความโกรธมันจะลดลงแล้วเค้าจะหันมาใจอ่อนกับฉันบ้างน่ะ "
“ คีย์ ทำเท่าที่ทำไหวนะ " ลิปเตือนออกมาสั้นๆ ผมที่หันไปมองเค้าอีกคนก็ยิ้มแห้งๆ " ฉันหมายถึงว่าอย่าทรมานตัวเองด้วยการหลอกมันเลย " เค้าเว้นเสียงก่อนจะก้มหน้าลง " ขอพูดตรงๆนะ ถ้าเค้าไม่รักก็คือไม่รักนั่นแหละ นายอย่าไปพยายามฝืนเลย "
“ จะไม่รักได้ยังไง แค่สองวันเองนะเว้ยที่เราทะเลาะกันน่ะ แล้วเราก็คบกันมานานแล้วด้วย จะบ้าเหรอ " ผมที่ยังหลอกตัวเองกับเรื่องนั้นอยู่ ฟานน่ะ จะไม่รักผมได้ยังไง แค่สองวันเองที่เราไม่ได้คุยกัน ความรักมันเปลี่ยนแปลงไม่ได้เร็วขนาดนั้นหรอก เพราะงั้นผมจะไปหาเค้าทุกวัน ไปให้เค้าเห็นว่าผมยังรักเค้าอยู่ ยังอยู่ตรงนี้แล้วจะไม่ไปไหนอีก จะทำให้เค้าเชื่อ เชื่อในตัวผม
" คนบางคนถ้าบอกว่าตัดก็คือตัดนะ ฟานที่นายรู้จักเค้าเป็นแบบนั้นรึเปล่าละ " ผมเงียบเป็นคำตอบให้เค้า ผ่อนลมหายใจออกมาอย่างไม่รู้จะพูดอะไร " ฉันเป็นกำลังใจให้นายอยู่แล้ว แต่จะไม่พูดตอแหลเพื่อให้นายมีความสุขว่าเค้าจะกลับมาหรอกนะ เพราะเค้าอาจจะไม่กลับมาก็ได้ เพราะงั้นถ้านายไหวอยู่ นายก็ทำ แต่ถ้าไม่ไหวก็หยุดซะนะ ของบางอย่างเราเอากลับมาเป้นของเราไม่ได้หรอก ก็นายทิ้งมันไปแล้วนี่ "
ผมไม่ได้ตอบอะไรคนข้างๆอีก นั่งรถไฟต่อรถแท็กซี่มาจนถึงหอพักของฟานในช่วงที่ยังไม่ดึกมาก มองไปรอบๆตัวเองเมื่อวานก็ลืมขอเบอร์ทามเอาไว้จะได้ใช้ติดต่อถามว่าฟานอยู่ไหน
นั่งลงที่หน้าหอพักของเค้าเมื่อมาถึง มันเป็นระเบียงเล็กๆที่มีนั่งศึกษาสาวสองสามคนนั่งอยู่ ไม่รู้ว่าวันนี้จะโชคดีได้เจอเหมือนเมื่อวานรึเปล่า แต่มาแล้วก็ขอให้เจอหน่อยก็ได้ จะด่า จะทำให้ร้องไห้อีกก็ไม่เป็นไร แต่ขอให้ได้เจอ ผมอยากเจอเค้า
“ กินเหล้ากันดีกว่า ฉลองเปิดเทอม " ผมเงยหน้ามองต้นเสียงที่ดังออกมาจากในหอพัก ร่างของหนุ่มสองสามคนที่เดินออกมา ผมหลุดยิ้มออกมาตอนที่เห็นหน้าเค้า
“ ฟาน " ทั้งสามคนที่เดินออกมาชะงักฝีเท้าลงทันที แววตาของร่างสูงที่หันมามองผม ผมยิ้มให้เค้าอีกคนก็ผ่อนลมหายใจ
“ มึงฟังภาษาคนไม่ออกเหรอวะ กูบอกแล้วไม่ใช่รึไง ว่าอย่างมาให้กูเห็นหน้าอีก "
“ แต่ฉันอยากจะเจอฟานนะ อยากจะคุยกับฟานให้รู้เรื่อง "
“ แต่กูไม่มีอะไรจะคุยกับมึง " เค้าพูดย้ำทีละคำก่อนจะผ่อนลมหายใจออกมา " ไปกันเถอะพวกมึง อย่าไปมองแม่งให้เสียสายตาเลย " ฟานที่เดินออกไปว่าแบบนั้นก่อนจะเข้าไปกอดเอวสาวสวยคนนึงที่ก็นั่งอยู่ข้างผมเมื่อครู่ ใบหน้าคมที่วางอยู่บนไหล่เธอ สาวเจ้าที่หันมามองก็ยิ้มให้ กับคำถามที่อีกคนเอ่ยถาม " รอนานรึเปล่า "
“ ไม่นานหรอก เพิ่งมาถึงเหมือนกัน ไปกันเลยมั้ย "
“ ไปสิ " เค้าตอบรับ ก่อนจะเดินควงเธอออกไป โดยที่ไม่ได้แคร์เลยว่า มีผมคนนี้ยืนมองเค้าอยู่
“ คุณคีย์กลับไปเถอะครับ " ทามเดินเข้ามาบอกผม " เราจะไปกินเหล้ากัน อีกนานคงกว่าจะกลับ คุณกลับไปเถอะ วันนี้มันคงเมา คงคุยกับคุณไม่รู้เรื่องหรอก " ผมเงียบเป็นคำตอบให้คนที่เตือน สองร่างที่กำลังจะเดินไปผมเรียกเค้าไว้
“ เดี๋ยวสิทาม "
“ ครับ "
“ ฉันขอไปด้วยได้มั้ย "
“ จะไปเหรอ " เค้าถามซ้ำผมก็พยักหน้ารับ แววตาแดงๆที่มองคนที่ก็ได้แต่ผ่อนลมหายใจออกมา " แต่คุณก็เห็นอยู่ว่ามันนัดกิ๊กมันไปด้วย คุณก็ยังจะไปอีกเหรอ "
“ ไม่เห็นเป็นไรเลย คิดซะว่า ก็ดีกว่ากลับไปแล้วต้องไปนั่งจินตนาการว่า เค้าจะทำอะไรกัน สู้ไปเห็นด้วยตาไม่ดีกว่าเหรอ " ไม่รู้เหตุผลอะไรผมถึงคิดออกมาแบบนี้ ทั้งที่รู้ว่าจะต้องเจ็บแน่ๆ ถ้าไปเห็นเค้านั่งอยู่ข้างคนคนนั้น เค้าที่ถ้าเมาคงจะแสดงความรู้สึกที่ลึกซึ้งต่อกันออกมา แต่ว่าถ้าเกิดว่าเค้าเมาแล้วพูดความรู้สึกจริงๆออกมา ความรู้สึกเกี่ยวกับเรื่องของผม แบบนั้นผมก็อยากจะไปนะ อยากจะเป็นคนฟังมัน แล้วอธิบายมันให้เค้าฟังทั้งหมด " ขอไปด้วยคนนะ "
“ คุณนี่มัน.. " คนฟังที่ได้แต่ถอนหายใจออกมา " อยากเจ็บมากนัก งั้นก็ตามใจ "
ร้านเหล้าเล็กๆที่ผมเดินตามเพื่อนสองคนของฟานมา ในระหว่างทางที่มาผมขอเบอร์โทรศัพท์ของทามไว้ใช้ติดต่ออีกคนก็ให้มาแม้จะมีทีท่าลังเลอยู่สักหน่อย ร้านเหล้าของเด็กมหาลัยตกแต่งเป็นแบบเปิดมากกว่าจะอยู่ในร้านปิดๆ ฟานนั่งอยู่ที่โต๊ะกับสาวที่เค้าพามาตอนที่ผมเดินเข้าไป เค้าก็ถอนหายใจ
“ นี่มึงจะพามันมาทำไมวะ "
“ กูไม่ได้ชวน เค้าขอมาเอง " ทามบอก ก่อนที่เราจะนั่งลง ผมนั่งตรงข้ามฟานที่ส่งสายตาเชิงไล่มาทางผม ก่อนจะหลบตาไปมองผู้หญิงข้างๆเค้าที่ก็เหมือนกระซิบอะไรสักอย่าง
“ ไม่ต้องกระซิบหรอก ถามออกมาตรงๆเลยก็ได้ คิดซะว่า ไม่มีแม่งอยู่ เพราะไม่มีใครเชิญแม่งมาอยู่แล้ว เสือกอยากจะมาเอง "
“ เอ๋ ? “ ผู้หญิงคนนั้นขมวดคิ้วน้อยๆตอนที่ร่างสูงบอก ก่อนจะเค้าจะเอ่ยถามผมออกมาเสียงเบาๆ " พี่เป็น ใครเหรอคะ "
“ คนหน้าด้านที่ฉัน ไล่เท่าไหร่ก็ไม่ไปสักที " เธอหันไปมองร่างสูงที่ตอบออกมาแบบนั้น
“ อย่าบอกนะว่าเค้าเป็นคนที่มาแอบชอบฟานแต่ฟานไม่ชอบอะไรแบบนี้ ก็เลยออกปากไล่แต่ไล่เท่าไหร่ก็ไม่ไปสักที "
“ สั่งเหล้าเถอะ อย่าไปพูดถึงคนที่ทำให้กูหงุดหงิดเลย "
“ โอ๋ๆ อย่าเพิ่งหงุดหงิดนะ " เธอว่าก่อนจะเอื้อมมือมากอดคออีกคน " สั่งเหล้ากันนะ เดี๋ยวฉันไปสั่งให้นะ แบบปกติที่กินกันใช่มั้ย "
" อื้ม " ฟานตอบรับก่อนจะยื่นเงินให้เธอจำนวนนึงที่ก็เดินไปจัดการทุกอย่างให้
ภายในโต๊ะที่ผมไม่ได้พูดคุยอะไร ได้แต่ฟังคนในโต๊ะพูดคุยกันถึงเรื่องเรียนบ้าง เพื่อนบ้าง อย่างที่ฟานบอก ไม่มีใครสนใจผมจริงๆ ไม่มีใครทำเหมือนว่าผมตรงอยู่ตรงนั้นด้วยซ้ำไป เหล้าที่ถูกยกมาเสิร์ฟแก้วมีจำนวนห้าแก้วตามที่คนนั่ง เพื่อนของฟานที่ชื่อชินเป็นคนชงเหล้า เค้าชงครบสี่แก้วก่อนจะหยิบขึ้นมาอีกแก้วฟานก็เอ่ยทัก
“ ครบคนแล้วมึงจะชงอีกทำไมวะไอ้ชิน "
“ ก็คุณคีย์ "
“ กูไม่เลี้ยงไอ้เหี้ยนี่นะ อยากจะแดกก็ให้ไปหาแดกเอง กูเลี้ยงเฉพาะคนที่กูชวนมา " เค้าพูดก่อนจะยกเหล้าขึ้นดื่ม มือหนาที่เอื้อมมือไปลูบขาสวยๆของคนข้างเธอก็ดึงตัวเองเอียงมาซบ
“ ฉันไม่กินเหล้าหรอก ไม่เป็นไร " ผมบอกเพื่อนของร่างสูงที่พยักหน้ารับเข้าใจแต่บรรยากาศภายในโต๊ะมันก็ไม่ได้ดีนัก ทุกอย่างมันดูอึดอัด ในตอนนั้นฟานก็ดึงบุหรี่ขึ้นมาจากในกระเป๋ากางเกงข้างหลัง มวลบุหรี่กลมๆที่ถูกจุดก่อนที่เค้าจะพ่นควันมาทางผมเต็มๆ ราวกับไม่เห็นว่าใครกำลังนั่งอยู่
“ แค่กๆ " ผมไอออกมาเพราะควันจำนวนมากพวกนั้น ตอนที่ปัดมือไล่ควันตรงหน้าเค้าก็ยกยิ้มขึ้นมา แต่ก็ไม่พูดอะไรสักคำฟานหันไปกินเหล้าต่อ เค้าทั้งสูบบุหรี่ ทั้งกินเหล้า หัวเราะสังสรรค์กับเพื่อน เหล้าเต็มขวดพร่องลงไปเยอะจนใกล้หมด คอที่เริ่มแห้งเพราะควันบุหรี่จากทั้งของเค้าและโต๊ะอื่นที่พัดเข้ามา " เดี๋ยวฉันมานะ " ทุกคนที่หกำลังคุยกันมามองผมที่อยู่ๆก็พูดขึ้นมา
“ ใครอยากรู้วะ " ฟานบอก ตอนที่ผมเดินออกไปแต่ยังไม่ทันพ้นโต๊ะ เสียงเอะอะที่โต๊ะก็ดังขึ้น " หาเก้าอี้อยู่เหรอวะ เอาไปสิ นั่นอะ ว่างอยู่ตัวนึง "
“ เชี้ยฟาน มึงให้เค้าไปแล้วคุณคีย์จะนั่งไหน ร้านนี้หาเก้าอี้ยากจะตาย "
“ ช่างหัวมันประไร ยืนไปดิ ทนไม่ได้ก็กลับไปซะกูรำคาญ นั่งอยู่ได้ เห็นแล้วรกตา " เค้าว่าก่อนจะเชิดไปทางโต๊ะมาใหม่ที่กำลังนั่งลงแล้วหาเก้าอี้ " เอาไปเลย ไม่มีคนนั่งหรอก " ผมผ่อนลมหายใจออกมาเดินตรงที่เค้าเตอร์ สั่งน้ำขวดเล็กมาขวดนึงตอนที่เดินกลับมาก็ไม่มีเก้าอี้ของตัวเองแล้ว แต่ท่าทางที่ไม่มีคนสนใจก็ต้องทำให้ผมเดินออกไปหาเก้าอี้ด้วยตัวเองแทน
“ ขอโทษนะครับ ตัวนี้มีคนนั่งมั้ย "
“ มีค่ะ " เธอบอก ผมก็เดินไปหาอีกโต๊ะ
" ขอโทษนะครับ ไม่ทราบว่าเก้าอี้ตัวนี้มีคนนั่งมั้ย "
" มีครับ " มองไปรอบๆที่มีแต่เก้าอี้ที่มีคนจอง ขอไปเท่าไหร่ก็ไม่มีเก้าอี้ตัวที่ว่าง จนสุดท้ายก็ต้องเดินไปบอกพนักงานที่ก็จัดการหาเก้าอี้ให้แต่นั่นก็นานกว่าจะได้มาสักตัว ผมกลับมานั่งที่เดิม เปิดขวดน้ำของตัวเองขึ้นดื่มก่อนจะถอนหายใจออกมา
“ ขอไปเข้าห้องน้ำแปปนะ " สาวที่นั่งข้างๆฟานบอก เธอที่ลุกออกไปสักพักก็มีคนมาขอเก้าอี้ตัวที่ว่างนั่นเหมือนกัน
“ เก้าอี้ตัวนี้มีคนนั่งมั้ย " ผู้ชายคนนึงที่ถามร่างสูงที่สูบบุหรี่อยู่ก่อนจะหันไปบอก
“ มีครับ " แค่คำตอบสั้นๆ ก็ชวนให้หัวใจผมมันว่างเปล่าไปหมด แต่จริงๆหัวใจของผมมันก็ว่างเปล่าไปตั้งแต่เข้ามาในร้านนี้แล้ว นั่งอยู่ร่วมโต๊ะกันแต่เค้าก็ไม่ได้สนใจ ทำเหมือนไม่มีตัวตน แถมยังมีสารพัดคำด่า คำไล่พูดออกมา คิดถึงตัวเองเมื่อครู่ที่เที่ยวไล่หาเก้าอี้ไปทั่วร้าน ต่างจากกับเธอคนนั้นที่อีกคนจับจองให้โดยที่ไม่ต้องออกแรงไปหาใหม่
พอไม่ใช่คนที่รักแล้วก็แบบนี้ ความสำคัญไม่มี การกระทำก็เลยไร้ความใส่ใจลงไปด้วย
“ ไปนานจัง คิดถึงอะ " เค้าทักคนที่กลับมานั่งลงที่เดิมก่อนจะกอดเอวเธอไว้หลวมๆ ใบหน้าคมก้มลงจูบที่ข้างแก้ม สาวสวยที่หันหน้ามามองอีกคนเธอยิ้มจางๆตอนที่ยกมือขึ้นลูบแก้มอีกคน
“ เมาซะแล้วละมั้ง คนนี้น่ะ "
“ อะไร ยังกินไหวอยู่ " ฟานว่ายิ้มๆ " แต่ว่านะ ฉันอยากจะกินอย่างอื่นมากกว่า " เค้ายื่นหน้าเข้าไปใกล้เธอ ริมฝีปากที่จูบกันเบาๆนั้น ผมนิ่งค้างอยู่นานในมือที่กำขวดน้ำของตัวเองไว้แน่น ในตอนที่จูบนั้นดูดดื่มขึ้นเรื่อยๆ ใจของผมสั่น น้ำตาของผมไหล มือที่กำขวดนั้นไว้แน่น แล้ววินาทีต่อมานั้นผมเปิดมันออกก่อนจะสาดไปที่คนสองคนที่กำลังจูบกันอยู่ตรงหน้า
“ เชี้ย! " ร่างที่ผละออกจากกัน ฟานหันมาชักสายตาใส่ผมก่อนจะยืนขึ้นแล้วผลักอกผมอย่างแรง " ทำเหี้ยไรวะ "
“ เฮ้ย ไอ้ฟาน ใจเย็นก่อน " ทามที่ลุกขึ้นห้ามแต่ก็ไม่มีทีท่าว่าร่างสูงจะหยุด
“ มึงสาดน้ำใส่กูทำไม " ผมไม่ตอบอีกคนก็ยกยิ้ม " เจ็บเหรอ หรือยังไง ทนไม่ได้เหรอที่จูบกับคนอื่น แต่โทษทีนะกูเชิญมึงมารึไง ก็เปล่า มึงเสือกมาของมึงเอง แล้วเสือกมาทนไม่ไหวเอง ทนไม่ไหวก็ออกไปสิวะ จะมานั่งมองอยู่ทำไม กูไม่ได้มาขอร้องให้มึงมาสักหน่อย ไปอยู่กับผัวแก่ของมึงไป!!”
“ เพี๊ยะ! ” ผมฟาดมือลงไปบนหน้าเค้าในวินาทีที่ที่ได้ยินคำนั้น ฟานก็คว้าถังน้ำแข็งที่อยู่ใกล้มือสาดใส่หน้าผมเสียเต็มแรง ถังน้ำแข็งสเตเลสตกลงพื้นเสียงดังลั่นร้าน แต่ทุกคนที่อยู่ในเหตุการ์ณนั้น กลับเบิกตากว้างตอนที่เห็นหน้าผม ความชาที่ไม่ได้ทำให้รู้สึกอะไรเพราะน้ำที่เย็นจัด แต่กลิ่นคาวเลือดที่ไหลซึมออกมาตรงปลายคิ้วไหลลงอาบแก้มผมลงมาช้าๆ กลิ่นคาวที่เตะจมูกนั้นผมเอื้อมมือสั่นๆไปจับเลือดสีแดงๆนั่นก่อนจะมองคนทำที่ก็ยังนิ่ง
“ กูบอกแล้วว่าอย่ามา มึงเสือกรนหาที่เจ็บตัวเองนะ " เค้าคว้ามือบางของผู้หญิงที่นั่งนิ่งด้วยความตกใจขึ้นมา ขาที่เดินออกไปนอกร้าน ผมก็เดินตามเค้าไป
“ ฟานเดี๋ยวสิ " ผมคว้ามือเค้าไว้อีกคนก็หยุดเดิน " นายจะไปไหนน่ะ "
“ เสือก กูจะไปไหนก็เรื่องของกู "
“ ตอบฉันก่อนสิ จะไปมีอะไรกับเธอใช่มั้ย " ผมถามสิ่งที่ตัวเองอยากจะรู้ออกไปตรงๆ เค้าที่ถอนหายใจออกมา หันมามองผมที่ยังคงยื่นนิ่งอย่างต้องการฟังคำตอบจากปากเค้าทั้งๆที่ทุกอย่างมันชัดเจนอยู่แล้ว เมาเหล้า จูบกัน แล้วจูงมือกันกลับ ช่วงเวลาหลังจากนั้นไม่ต้องเดาก็รู้อยู่แล้ว ทุกอย่างมันบอกอยู่แล้วแต่นั่นแหละที่ไม่อยากจะให้มันเกิดขึ้น ฟานของเค้าที่กำลังจะไปมีอะไรกับคนอื่น สองมือที่เคยโอบกอดผมกำลังจะไปกอดคนอื่น ความอบอุ่นที่เคยเป็นของผม เค้ากำลังจะแบ่งปันไปให้คนอื่น น้ำตาของผมไหลออกมาพร้อมกับความเจ็บของแผลที่มีเลือดซึมออกมา แผลที่แสดงอาการช้าๆเพราะความชาที่เริ่มหายไป แต่นั่นก็ไม่ใช่สิ่งที่ผมจะมาสนใจตอนนี้ สิ่งที่ผมสนใจคือฟาน ฟานที่กำลังจะไปกับเธอคนนั้น " อย่าไปเลยนะ อย่าทำแบบนั้นกับเค้าเลย ฟาน "
" เหอะ! มาดูคนหน้าด้านคนนี้ดิวะ มึงนี่ตลกวะ ขนาดกูที่ขอร้องมึงว่าอย่าทำ อย่าไปมึงยังไม่ฟังเลย ทำไมวันนี้กูต้องฟังมึงวะ "
" แต่มันไม่เหมือนกัน "
" เห็นแก่ตัว!! มันไม่เหมือนกันได้ไงวะ มึงเสียใจมั้ยละ กูเองก็เสียใจ แล้วมันจะไม่เหมือนกันได้ไง ในเมื่อเราก็เสียใจด้วยกันทั้งคู่! “ เค้าทีหันมาตะคอกใส่ผมทุกอย่างนิ่งไปสักพัก ก่อนที่เค้าจะเดินออกไปผมก็คว้าเอาไว้อีก
" ฟาน ไปมีอะไรกับฉันเถอะ ถ้านายต้องการฉันจะให้นายเอง " ผมบอกเค้า ฝ่ายผู้หญิงที่ยืนข้างๆก็เบิดตากว้าง
" นี่เดี๋ยวนะ มียางอายบ้างปะเนี้ย ชวนผู้ชายที่เค้าไล่เหมือนหมูเหมือนหมาว่าไม่เอา ไปเอาด้วยเนี้ยอะนะ บ้ารึเปล่า " เธอถามผม แต่เสียงนั้นก็ไม่ใช่เสียงที่ผมสนใจ คนที่ผมสนใจคือฟานที่กำลังฟังอยู่ตังหาก
“ นะฟาน.. ถ้านายอยากจะมีอะไรกับใคร มีอะไรกับฉันสิ ฉันจะทำให้นายทุกอย่างที่นายต้องการเลย " คว้ามือเอื้อมจับเค้าไว้อีกคนที่เหมือนกำลังจะคิดแต่ก็สะบัดมันออกไปแบบไม่ใยดี
“ ไม่เอาอะ กูไม่ชอบใช้ของร่วมกับคนอื่น น้ำของไอ้เหี้ยนั่น ต้องยังติดอยู่แน่ๆ คงโสโครกน่าดู ไม่เอาอะ กูรังเกียจ " เค้าสะบัดมือผมให้หลุดออกก่อนจะเช็ดแขนที่ผมจับกับเสื้อตัวเองด้วยสีหน้ารังเกียจ
“ ฟาน "
“ นี่! เค้าบอกว่าไม่เอายังไงรบเร้าอีก เงี่ยนมาก็ไปเอาคนอื่นสิค่ะ ไปซื้อผู้ชายเอาก็ได้ ไปกันเถอะฟานอย่าไปใส่ใจเลย คนหน้าด้าน " เธอบอกก่อนจะดึงให้อีกคนเดินออกไปห่างจากผม แต่ขาที่ยังเดินไปคว้าตัวเค้าไว้อย่างไม่ยอมแพ้ ผมจับมือเค้าไว้แน่นพยายามรั้งเค้าไว้
“ อย่าทำแบบนี้เลยนะ นายเองก้รู้ว่าฉันไม่ได้มีอะไรกับเค้า ฉันไม่ได้มีอะไรเกินเลยกับเค้าเลยแม้แต่นิดเดียว ฉันไม่เคยให้เค้าสัมผัสอะไรของฉันเพราะฉันรู้ว่ามันเป็นของนาย แล้วฉันก็รู้แล้วว่ามันเจ็บปวดแค่ไหนที่ต้องรู้สึกเห็นคนที่ตัวเองรักไปจูบกับคนอื่น ไปกอดคนอื่นที่ไม่ใช่เรา ถ้านายอยากจะให้ฉันเจ็บปวดวันนี้ฉันก็เจ็บปวดแล้วนะ พอเถอะ พอได้แล้ว อย่าทำแบบนั้นเลยนะ ฉันไม่ได้มีอะไรกับเค้าเลยฟาน ไม่เคยมีเลย อย่าเลยนะ อย่ามีอะไรกับเธอเลย อย่าทำแบบนั้น "
“ นี่! “ เค้าหันมาคว้าตัวผมไว้ แววตาที่จ้องมองผมลึกลงไปใน ในแววตาคู่นั้นที่ไม่มีผมอยู่แล้ว ผมมองมันด้วยแววตาสั่นระริกน้ำตาที่ไหลอาบแก้มเค้าพูดออกมาเสียงหนักแน่น " กูไม่รู้ว่ามึงเคยมีอะไรกับเค้ารึเปล่า กูไม่มั่นใจในความร่านของมึงหรอก เพราะมึงก็ดูหวั่นไหวง่ายด้วยสิ ใครจะรู้ว่าจริงๆอาจจะเผลอไปเอากับมันแล้วก็ได้ "
“ ไม่นะ ไม่เคยเลย จริงๆนะ นายพิสูจน์ก็ได้ มีอะไรกันแล้วนายก็รู้ ฟาน..” ผมส่ายหน้าบอกอีกคนก็ยกยิ้ม
“ อย่าเลย กูไม่ได้อยากจะเอากับมึง แล้วกลับไปซะเถอะ อย่าให้กูเห็นหน้าอีก เพราะถ้ามึงดึงดันที่จะกลับมา มึงจะไม่เจ็บแค่นี้แน่ " เค้าปล่อยมือตัวผม ตอนที่เดินไปคว้ามือของเธอคนนั้นแล้วจะเดินจากไป ผมก็ดึงมือเค้าไว้อีก แต่ทว่ามันคงสิ้นสุดความอดทนของเค้าแล้ว ในตอนที่ผมยังดึงดันคว้าเค้าไว้ ฟานก็หันมาคว้าตัวผมสองแขนที่บีบไหล่ผมแน่นก่อนจะผละแรงจนตกลงขอบฟุตบาทฝ่ามือที่ค้ำตัวขูดกับพื้นถนนจนหนังถลอกเลือดซิบ แต่ตอนที่กำลังจะลุกขึ้นรั้งไว้อีก เค้ากลับตะโกนใส่หน้า " กลับไป!! กลับไปซะ!! แล้วอย่ามายุ่งกับชีวิตกูอีก!! " ฟานว่าแบบนั้นเค้าที่ถอนหายใจออกมาเบาๆ " ถือว่ากูขอร้อง ปล่อยกูไปเถอะ "
น้ำตาที่ไหลออกมาของผมต่อให้ขอร้องและอ้อนวอนแค่ไหนไม่มีวันได้ใครคนนั้นกลับมาแล้ว อย่างงั้นเหรอ ทุกอย่างมันเป็นเหมือนที่ลิปบอกอย่างงั้นเหรอ ' เค้าไม่รักก็คือไม่รักนั่นแหละ นายอย่าไปพยายามฝืนเลย '
“ ฟาน นายไม่รักฉันจริงๆแล้วอย่างั้นเหรอ "
...............................................................
เหมือนไม่มีแม้ศักดิ์ศรีอะไรเลยทั้งนั้น
เมื่อถึงจุดที่เราพยายามจะรั้งใครไว้สักคน เราจะทำทุกอย่าง ไม่สนแม้สิ่งใด
ฟานเองก็เคยเป็นแบบนั้น เสียศักดิ์ศรีลุกเข่าขอร้องคีย์มาแล้ว ทั้งคุกเข่า ทั้งให้อภัยทุกอย่าง
ต่างจิตต่างใจกันไป จะเรียกว่าทีใครทีมันก็คงได้
ความรักในอีกรูปแบบ ตอนหน้าจะเป็นพาสน้องฟานบ้างไรบ้าง
ยังไงฝากแท็ก #ฟานคีย์ ในทวิตด้วยนะคะ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์จ้า
