ก็บอกว่าไม่ชอบเด็กไง
ตอนที่ 29
' ตรวจสุขภาพ '
' โปรแกรมตรวจสุขภาพ ' ผมขมวดคิ้วมองโบชัวร์ที่ตั้งอยู่บนโต๊ะด้วยความสงสัย หยิบมันขึ้นมากระดาษแผ่นสีฟ้าของโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งมันคือคำอธิบายของการตรวจสุขภาพขั้นพื้นฐาน เหมือนสมัยทำงานใหม่ๆแล้วเค้าให้ไปตรวจสุขภาพยังไงอย่างงั้นเลย
“ คุณคีย์ "
“ อะไร "
" เมื่อไหร่จะไปโรงพยาบาลกับผมครับ " คำถามที่ดังขึ้นจากในครัวผมวางโบชัวร์นั่นลงก่อนจะทำเป็นไม่สนใจแล้วเดินไปที่โต๊ะอาหารทันที ข้าวถ้วยเล็กๆถูกวางไว้ตรงหน้าแล้ว เมนูวันนี้เป็นหมูผัดพริกไทย น่าตาน่ากินมากไม่รู้เพราะหิวหรือเพราะอะไรแต่ฟานก็ทำเมนูทุกเมนูที่เค้าบ่นอยากจะกินได้อร่อยๆมากจริงๆ เมนูนี้ก็คงเหมือนเดิม ทุกวันนี้แทบอยากจะหอบอาหารกลางวันไปกินอยู่แล้วด้วยความอร่อยของมัน ก็รู้สึกเสียดายนิดหน่อยที่ได้กินแค่มื้อเดียว
“ น่ากินจัง " ฟานที่นั่งลงตรงข้ามกันผมแสร้งพูดเรื่องอาหารตอนที่อีกคนกำลังพูดเรื่องซ้ำๆเดิมๆนั่นออกมาอีก เรื่องโปรแกรมตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาล มันเป็นเรื่องตั้งเมื่อปลายอาทิตย์ก่อนที่ผมดันเมาแล้วก็.. มีอะไรกับหมอนี้ ตอนนั้นดันหลุดปากไปว่าอยากจะมีอะไรกันแบบไม่ใส่ถุงยาง แต่ไอ้ลูกหมานี่ดันมาจริงจังกับคำพูดของคนเมาอย่างผม บอกว่าความคิดของคนเมามันออกมาจากใจที่สุด หลังจากนั้นก็วอแวเรื่องจะให้ไปตรวจสุขภาพกันเรื่อยมา เหตุผลเพราะ ' เราจะได้มีเซ็กส์กันแบบไม่ใส่ถุงยาง ' ประสาทใครจะทำ ผมปัดความคิดนั้นออกไปอย่างไม่ใยดี การไปตรวจสุขภาพแล้วทุกอย่างออกมาโอเคหลังจากนั้นเราก็มีเซ็กส์กัน บ้างน่า การมีเซ็กส์แบบตั้งใจแบบนั้น จะให้ผมทนทำหน้านิ่งอยู่ได้ ได้ยังไง ช่วงเวลาที่ถือเอกสารแลกเปลี่ยนกัน กลับมาที่ห้องในช่วงเวลาที่เงียบสงบนั้น เค้าก็เข้ามาใกล้ๆ แล้วหลังจากนั้น .. พอกันที ไม่ว่าคิดยังไงก็เขินเกินกว่าจะทำอะไรออกไปแบบนั้น แม้จะยอมรับว่าความคิดของฟานจะเป็นความคิดที่ดีก็เถอะนะ
“ อย่ามาแกล้งเปลี่ยนเรื่องเลยครับคุณคีย์ ผมรู้นะ "
“ รู้อะไร " มองหน้าเค้าที่ถอนหายใจออก
“ เรื่องที่ผมชวนคุณไปตรวจสุขภาพเย็นนี้ไงครับ "
“ ฉันอาจจะต้องนั่งทำงานจนดึกก็ได้ ช่วงนี้งานฉันยุ่งจะตายไป "
“ เมื่อวานมีใครสักคน บอกผมว่า งานเสร็จแล้ว " ชะงักข้าวที่กำลังกินอยู่ทันที ผมพยายามนึกถึงเรื่องเมื่อวานว่าไปบอกเค้าตอนไหน จำได้ว่าก็ดีใจมากๆที่งานเสร็จแล้วเพราะเป็นงานที่โหดหินเอาเรื่องเหมือนกันและคิดว่าหัวหน้าต้องส่งงานกลับมาให้แก้แน่ๆ แต่ก็ไม่ พอเป็นแบบนั้นก็ยิ่งดีใจมากจำได้ว่าฮัมเพลงมาตลอดทางกลับบ้านแถมยังแวะซื้อขนมกลับมาให้ฟานด้วย " จำไม่ได้เหรอครับ เมื่อวานคุณกลับบ้านมาแบบอารมณ์ดีมากๆ พอผมถามคุณก็บอกว่า เพราะงานเสร็จแล้วแถมยังไม่ต้องแก้เลยด้วย "
“ เอ่อ..อย่างงั้นเหรอ " เพราะความดีใจจนเกินลิมิตของกูสินะที่ทำให้ไอ้หมอนี่รู้เข้าจนได้ว่างานเสร็จแล้ว คราวนี้จะเบี่ยงการไม่ไปโรงพยาบาลด้วยเหตุผลอะไรอีกดีละนั่น
“ คุณคีย์ " ฟานที่เอ่ยเรียกชื่อผมด้วยน้ำเสียงจริงจัง เค้าวางช้อนลงก่อนจะผ่อนลมหายใจออกมาช้าๆ แววตาคมที่จ้องมองผม " ที่ผมอยากจะให้คุณไปตรวจกับผมไม่ใช่ว่าผมไม่มั่นใจหรือว่าอยากจะทำเรื่องอย่างงั้นกับคุณอย่างเดียวหรอกนะ ก็ยอมรับครับว่าอยากจะมีเซ็กส์แบบนั้นกับคุณเป็นคนแรกแต่ที่ผมอยากจะให้คุณไปเพื่อให้คุณได้มั่นใจในตัวผมมากกว่า ว่าผมจะไม่ได้นำโรคร้ายหรืออะไรที่คุณไม่สบายใจก็ตามมาให้คุณ ผมอยากจะให้คุณสบายใจ และมีความสุขในช่วงเวลาที่เราไม่ได้ป้องกัน
' กูจะไม่ไปก็เพราะมึงพูดว่า ' จะได้มีความสุขกับช่วงเวลาที่เราไม่ได้ป้องกัน ' นี่แหละ ' เบือนหน้าหนีอีกฝ่ายอย่างไม่รู้จะพูดอะไรออกมา
ก้มหน้าลงมองจานข้าวก็พลอยทำให้กินไม่ลงเข้าไปด้วย มันก็จริงที่เราต้องตรวจเพื่อความสบายใจในการจะมีเซ็กส์แบบไม่ป้องกัน แต่ การทำแบบนั้นมันเหมือนเราตั้งใจจะมีเซ็กส์กันชัดๆเลยนี่หว่า พอคิดว่าเป็นแบบนั้นก็ชวนให้ไม่อยากจะไปสักนิด ก็เขินนี่หว่าจะให้ทำไง
“ คุณคีย์ครับ "
“ ไว้ค่อยคุยเรื่องนี้กันทีหลังก็แล้วกัน " ผมลุกขึ้นจากเก้าอี้ที่นั่งคว้าเอากระเป๋าทำงานของตัวเองขึ้นสะพายแล้วเตรียมจะเดินออกไป แต่ทว่าคนที่นั่งอยู่กลับลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วคว้าแขนผมไว้ได้ทัน
“ คุณคีย์ "
“ ก็บอกว่าไว้ค่อยคุยกันไงเรื่องนี้น่ะ วันนี้ฉันต้องรีบไปทำงานแล้ว "
“ ขอโทษที่เห็นแก่ตัวครับ " เสียงทุ้มที่พูดขึ้นผมหันไปมองเค้าที่กำลังจ้องหน้าผมพลางถอนหายใจออกมา " ที่อยากให้คุณไปตรวจจริงๆแล้ว ก็เพราะอยากจะให้คุณสบายใจที่จะทำแบบนั้นกับผม ผมรู้สึกเห็นแก่ตัว อยากจะเป็นคนแรกที่คุณให้ทำเรื่องแบบนั้นได้ อยากจะผูกมัดคุณไว้ ไม่อยากให้คุณเป็นของใคร เวลาคุณเมาก็ชอบเรียกร้องอะไรแบบนั้น ผมเลยคิดว่าจิตใจลึกๆคุณคงไม่ชอบใส่ถุงยางเท่าไหร่ เพราะงั้นถ้าคุณรู้สึกอยากจะทำแบบนั้น ให้ผมทำให้ได้มั้ยครับ อยากจะเป็นคนที่คุณคีย์ยอมให้ทำเรื่องแบบนั้นด้วย เป็นคนเดียวที่จะได้ทำ ผมขอได้มั้ย ผมอยากจะเป็นคนคนนั้นครับ " ผ่อนลมหายใจออกมาตอนที่มองแววตาจริงจังที่กำลังส่งความรู้สึกออกมาให้ผมรู้
' เซ็กส์ ' มันสำคัญขนาดนั้นเลยเหรอ ตลอดมาผมไม่เคยคิดอะไรแบบนั้นเลย เหมือนแค่เราถูกใจเราก็ขึ้นเตียงกันมันคือเรื่องปกติ แค่เราป้องกันนั่นก็โอเคแล้ว ผมไม่เคยซีเรียสกับครั้งแรกของตัวเอง จำไม่ได้แล้วด้วยซ้ำว่ามันเกิดขึ้นเมื่อไหร่และตอนไหน เพราะไม่เคยใส่ใจเลยไม่เข้าใจเลยว่าทำไม เค้าถึงใส่ใจกับมันนัก
“ ทำไม.. นายถึงได้จริงจังกับเรื่องแค่นั้นกันนะ "
“ มันไม่ได้เป็นเรื่องแค่นั้นนะครับ " อีกคนเถียง“ ถ้าคุณคิดว่าการไม่ใส่ถุงยางแล้วมีเซ็กส์กันเป็นเรื่องแค่นั้น คุณคีย์ก็คงมีอะไรกับผมแบบไม่ใส่ถุงยางมาตั้งนานแล้วละ แต่เพราะถึงจะอยากจะทำยังไงแต่ก็กลัวใช่มั้ยละ ว่าจะติดโรคจากการมีเซ็กส์ เพราะคุณแคร์ไม่ใช่เหรอ คุณเลยไม่เคยทำแม้จะอยากทำ "
“ ถึงจะพูดแบบนั้นก็เถอะ แต่การที่เราไปโรงพยาบาลกันสองคนเพื่อไปตรวจร่างกายแล้วสุดท้ายก็เอาผลมานั่งดูกัน ตอนนั้นนายจะให้ฉันทำหน้ายังไง ก็ตั้งใจจะไปตรวจเพื่อมีเซ็กส์กันไม่ใช่เหรอ แบบนั้นแล้ว จะให้ฉัน ทำหน้ายังไงตอนเอามันให้นายดูละ " ก้มหน้าลงตอนที่อธิบายเรื่องความเขินอายของตัวเอง ไม่ใช่ว่าไม่อยากมีอะไรแบบนั้นกับเค้า สำหรับฟานตอนนี้เหมือนเค้าเป็นคนที่ใช่จนแทบอยากจะให้ทุกอย่างๆ เพราะคิดแบบนั้นก็เลยเขินเกินกว่าจะโรงพยาบาลเพื่อตรวจแล้วกลับมาตั้งใจทำเรื่องแบบนั้นด้วยกัน
“ ถ้าคุณเขินเราแยกกันไปดีมั้ย " ฝ่ามือหนาเอื้อมมือประคองใบหน้าหวานให้เงยหน้าขึ้นมามองเค้า รอยยิ้มอบอุ่นที่ยิ้มให้กัน " คุณไปตรวจของคุณ ผมก็ไปตรวจของผม แล้วเราก็ค่อยเอาผลตรวจมาแลกกันดีมั้ยครับ "
“ ก็ได้ " ในที่สุดก็ยอมตกลงไปเพราะสายตาอบอุ่นที่จ้องมองมานั่นอีกแล้ว จะต้องอ่อนไหวไปกับเสียงนุ่มอบอุ่นแบบนั้นไปถึงเมื่อไหร่กัน ผ่อนลมหายใจออกมาในตอนที่ฟานกอดผมไว้มันเป็นความรู้สึกที่พูดออกมาเป็นประโยคไม่ได้ แต่รู้สึกว่า ' ชอบจัง ความรู้สึกแบบนี้ ' ตอนที่เค้ากอดก็อยากจะกอดตอบ แต่ก็ไม่กล้า เขิน " ฉันไปทำงานก่อนนะ "
“ ครับ " เค้าก้มลงมาจูบที่ริมฝีปากก่อนจะยิ้ม " โชคดีครับ ตอนเย็นเจอกันนะ "
“ อื้ม เจอกัน " เดินออกมาจากห้องของตัวเอง ผ่อนลมหายใจออกมาอีกครั้งในที่สุดก็ต้องยอมตามใจเค้าอีกจนได้ ทำไมถึงได้พ่ายแพ้กับแววตาและคำพูดพวกนั้นได้ง่ายเหลือเกินนะ ทั้งๆที่ไม่เคยยอมให้เด็กคนไหนแท้ๆ แต่ทำไมพอเป็นฟานแล้วก็เหมือนต้องยอมให้เค้าทั้งหมด บ้าชะมัดเลยคีย์ ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้นะ
..............................................
เงยหน้าจากจอคอมพิวเตอร์ที่เอาแต่เล่นทั้งวันเพราะงานที่รับผิดชอบหมดไปแล้ว งานใหม่ที่จะเข้ามาอีกทีวันจันทร์นั้น ผมบิดขี้เกียจเล็กน้อยตอนที่มองไปรอบๆก็พบว่าพนักงานคนอื่นในออฟฟิศเริ่มเดินออกไปจากโต๊ะของตัวเองบ้างแล้ว
“ พักเที่ยงแล้วเหรอวะ " พูดกับตัวเองเบาๆตอนที่เงยหน้ามองนาฬิกาก็บอกเวลาพักเที่ยงพอดีจริงๆด้วย ผมหันไปหาลิปที่กำลังจดจ่อกับงานของตัวเอง " ลิป เที่ยงแล้วไปกินข้าวกันมั้ย "
“ วันนี้ไม่ไปอะคีย์ นายไปเถอะ ฉันต้องรีบทำงานนี้ให้เสร็จ ลูกค้าเร่งแล้ว "
“ เหรอ " ผมพยักหน้ารับ " งั้นฉันขอไปโรงพยาบาลหน่อยนะ "
“ โรงพยาบาล " อีกฝ่ายทวนคำพูดก่อนจะหันหน้ามามองผม " ไปทำไม นายเป็นอะไร ไม่สบายเหรอ "
“ จะไปตรวจสุขภาพหน่อยอะ ช่วงนี้รู้สึกปวดหัวบ่อยๆ "
“ ไม่ใช่เพราะว่ามีแฟนเด็กแล้วทำให้ปวดหัวเหรอ ถ้าแบบนั้นไม่ต้องตรวจหรอกมันปกติอยู่แล้ว " เค้าพูดพลางหัวเราะผมก็ยกยิ้มแห้งๆออกมา เออ จะว่าแบบนั้นก็ถูกก็เพราะกูมีไอ้ลูกหมานั่นไงเลยต้องลากสังขารไปโรงพยาบาลตอนนี้ เพื่อจะได้เอาผลตรวจร่างกายไปแลกกับมันตอนเย็น แถมวันต่อมายังเป็นวันเสาร์อาทิตย์ที่หยุดอีก ขอทำงานลากไปถึงวันจันทร์ไม่กลับบ้านได้มั้ย รู้สึกไม่ปลอดภัยต่อชีวิตชะมัด
“ ฉันว่าจะตรวจแล้ว ตอนเย็นก็ค่อยไปรับผล "
“ ก็คงใช้เวลาไม่นานหรอก ไปโรงพยาบาลเอกชนสิใกล้ๆตรงนี้เอง "
“ คิดว่าอย่างงั้นแหละ " พยักหน้าตอบรับอีกคนก่อนจะว้าเอากระเป๋าสตางค์แล้วเดินออกไปจากออฟฟิศ ผ่อนลมหายใจออกมาช้าๆตอนที่กำลังรอจะเรียกแท็กซี่ผมกลับเห็นรุ่นน้องผู้ชายตัวเล็กๆหน้าตาน่ารักที่เพิ่งเข้ามาทำงานในบริษัทได้ไม่นาน ยืนอยู่ไม่ไกลจากบริษัทมากนัก " น้องเนย์เหรอวะ ทำไมมายืนเหมือนรออะไรอยู่ตรงนั้น " ขมวดคิ้วเสือกเรื่องชาวบ้านแบบงงๆ ความสงสัยของผมชะลงเมื่อมีรถคันสีดำคุ้นตาขับเข้ามาจอดเทียบก่อนที่เค้าจะขึ้นแล้ว มันก็ถูกขับออกไปด้วยความเร็ว แต่ทว่าผมน่ะ รู้จักเจ้าของรถคันนี้เป็นอย่างดีเลย " รถหัวหน้านี่หว่า แล้วทำไมถึงมารับน้องเนย์ไปหรือว่า.. " ปล่อยความคิดแย่ๆให้ไห้ไหลไปตามจินตนาการ คงจะเกิดเหตุการณ์กินข้าวเสร็จกินเธอต่อแน่ๆ ไม่ก็กินข้าวเสร็จ เย็นนี้ก็มากินเธอต่อ ผมหลุดยิ้มออกมาไม่คิดว่าจะมาเจออะไรแบบนี้เลยนะเนี้ย เพราะช่วงนี้ตอนพักเที่ยงถ้าไม่มีอาหารจากฟานก็พึ่งแซนวิชตรงชั้นล่างของตึก ไม่ได้ออกไปหาอะไรกิน ขี้เกียจต่อแถวแย่งกินกับใครมันอึดอัด
“ อ๊ะ " รถแท็กที่ขับเข้ามา ผมเอื้อมมือไปโบกก่อนจะเดินขึ้นไป มิสเตอร์ถูกกดหลังจากที่ผมบอกปลายทางเป็นโรงพยาบาลเอกชนที่อยู่ใกล้ๆ แห่งนึง " นี่ครับ " ยื่นเงินไปให้ก่อนจะได้รับตังค์ที่ไม่ครบเท่าไหร่แต่นั่นก็ช่างมัน ผมเดินลงจากแท็กซี่เดินเข้าไปในโรงพยาบาลก่อนจะสอบถามกับพนักงานเค้าเตอร์
“ สวัสดีครับ ไม่ทราบว่าจะตรวจสุขภาพต้องไปที่ชั้นไหนครับ "
“ ตรวจสุขภาพเพื่อสมัครงานใช่มั้ยคะ "
“ ไม่ใช่ครับ " ผมบอก " ตรวจสุขภาพเพื่อ..เอ่อ คือ เอ่อ ” ทุกอย่างเริ่มนิ่งจะพูดออกไปยังไงดี ผมเหลือบมองทุกอย่างรอบตัว ก่อนจะเห็นผู้หญิงท้องที่เดินผ่านมา สามีเธอที่พยุงอยู่นั้น " เพื่อการมีลูกครับ "
“ การมีลูกเหรอคะ "
“ ครับ " ยิ้มแห้งๆให้เธอ ที่พยักหน้ารับก่อนจะยื่นโบชัวร์แผ่นนึงให้ผมอย่างสุภาพ
“ อยู่ที่ชั้นสามนะคะ "
“ ขอบคุณมากครับ " รีบเดินออกจากโต๊ะประชาสัมพันธ์แล้วเดินเร้วแบบตรงดิ่งมาที่ลิฟต์ทันที กดลิฟต์ขึ้นไปที่ชั้นสามก็เจอกับประชาสัมพันธ์อีกครั้ง
“ สวัสดีค่ะ มาติดต่อเรื่องอะไรคะ "
“ มาตรวจสุขภาพ เพื่อพร้อมที่จะมีบุตรนะครับ " ทำไมพอพูดว่ามาตรวจสุขภาพเพื่อพร้อมที่จะมีบุตร พนักงานต้องเหลือบมองผม ด้วยสายตา ' คุณนี่มีเมียเหรอคะ ' ด้วยวะ ทำไมหน้าตากูไม่แมนพอที่จะมีเมียเหรอ
“ งั้นช่วยกรอกเอกสารตรงนี้ด้วยนะคะ " เอกสารที่ยื่นมาตรงหน้าผมถอนหายใจออกมา การที่บอกว่ามาตรวจเพื่อจะมีบุตรจะใช้การตรวจเดียวกันกับการตรวจเพื่อมีเซ็กส์มั้ยนะ
“ เอ่อ ขอโทษนะครับ "
“ ค่ะ "
“ จริงๆผมมาตรวจสุขภาพเกี่ยวกับโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ครับ ไม่ทราบว่ามันเป็นเอกสารเดียวกันกลับที่ต้องเขียนตอนนี้มั้ยครับ " ทุกอย่างนิ่งไปนานหลายวิก่อนที่พนักงานจะยิ้มแล้วเปลี่ยนกระดาษให้ผม
“ แผ่นนี้ค่ะ เปลี่ยนแผ่นนะคะ " ก้มหน้าก้มตาลงเขียนประวัติของตัวเอง ผมชะงักกับคำถามที่ถามว่าเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายคือเมื่อไหร่ ' วันอาทิตย์ละมั้ง หรือว่าวันพุธที่ผ่านมากันนะ ชักจะไม่แน่ใจ ' เขียนไปว่าวันพุธที่ผ่านมาก็แล้วกัน
“ เสร็จแล้วครับ " ยื่นกระดาษคืนให้เธอที่มองดูจนครบถ้วนก่อนจะอธิบายแพ็คเก็จการตรวจมีทั้งการตรวจ HIV ตรวจซิฟิลิส เพื่อตรวจแอนติบอดี้ ตรวจหนองใน แล้วก็ไวรัสตับอักเสธ A B “ ตรวจทั้งหมดนี่แหละครับ "
“ ตรวจหามะเร็งปากทวารหนักด้วยมั้ยคะ มาตรวจแล้วก็ตรวจให้ครบไปเลย "
“ ก็ได้ครับ " ชีวิตต้องมาถึงจุดนี้แล้ว รู้สึกคลื่นไส้จะอ้วกจะชะมัดแม่งเกร็งไปหมด
“ รอเรียกชื่อสักครู่นะคะ " เดินออกไปนั่งบนโซฟาที่ไม่ค่อยมีคน ผ่อนลมหายใจออกมาช้าๆตอนที่หยิบมือถือออกมาดู ก็เจอกับข้อความนึงของฟานส่งเข้ามา
' ผมมาตรวจสุขภาพแล้วนะครับ ตื่นเต้นจัง '
“ ตื่นเต้นอะไรของนาย " ผมบ่นก่อจะส่งสติกเกอร์ไลน์กลับไปให้เค้าแค่ตัวเดียว จะว่าไปตอนนี้ มันน่าอายมากกว่าจะตื่นเต้นนะ เอาจริงๆก็พอเข้าใจอยู่ว่าทำไมใครๆถึงไม่ค่อยมาตรวจร่างกายก่อนมีเซ็กส์กันนักคงเพราะในสภาพแวดล้อมของเรามันไม่ได้เป็นเรื่องปกติสักหน่อยที่ผู้ชายจะมาตรวจโรคอะไรแบบนั้น ทั้งๆที่ว่าการ Safe Sex เป็นเรื่องที่ดี แต่ก็นะ.. ไม่มีใครอยากจะบอกให้คนนอกรู้หรอกว่าเราเป็นเกย์น่ะ ยังไงเรื่องแคร์สายตาชาวบ้านก็ต้องมาก่อนเรื่องสุขภาพอยู่แล้ว ใครหลายคนมักคิดแบบนั้นซึ่งจะว่าไปก็ไม่ดีเลยนะ อย่างเราเองถ้าไม่คบกับฟานแล้วอีกฝ่ายขอให้มาตรวจก็คงไม่มาหรอก เพราะอายที่ต้องสบตาใครตรงๆ หลายๆคนก็คงคิดแบบนั้น
“ เชิญค่ะ " พยาบาลที่เดินมาตรงหน้า ผายมือออกไปที่ห้องตรวจห้องนึงที่มีคุณหมอรออยู่ คุณหมอเป็นผู้หญิงหน้าตาดูใจดีแต่มีอายุแล้ว ผมทักทายเธอก่อนจะนั่งลงตรงหน้า การตรวจมากมายกินเวลาไปมากกว่าหนึ่งชั่วโมงกว่าจะตรวจหมดทั้งคอร์ส สิ่งสุดท้ายที่ตรวจคือการตรวจมะเร็งปากทวารหนักนี่แหละ แม่ง ต้องไปนอนโก่งตูดให้หมอตรวจน่าอายชิบหาย โชคดีที่หมอเป็นผู้หญิงและแก่แล้วไม่งั้นถ้าเป็นผู้ชายนะ ชีวิตต้องบรรลัยถึงขั้นไม่กล้ามาโรงพยาบาลนี้อีกแน่ๆ เปลี่ยนเสื้อผ้ากลับไปใส่ชุดเดิมก่อนจะเดินมาที่เค้าเตอร์พนักงานก็อธิบายผลตรวจ " ตรวจเสร็จหมดแล้วนะคะ ส่วนผลตรวจอย่างเช่นตรวจเลือด ตรวจ HIV ซิฟีลิสแล้วก็ไวรัสตับอักเสบเนี้ย จะได้ผลภายในหนึ่งชั่วโมงค่ะ จะรับผลตรวจก่อนมั้ยค่ะ หรือว่าจะรอผลตรวจมะเร็วปากทวารหนักทีเดียว อันนั้นต้องรอผลตรวจสองอาทิตย์ค่ะ "
“ งั้นรอสองอาทิตย์ครับ " ผมบอกเธอก็พยักหน้ารับ ผมมั่นใจแน่ๆว่าตัวเองไม่ได้เป็นเอดส์หรืออะไรแบบนั้นหรอก มะเร็งก็ไม่น่าเป็น แต่ที่รอ เพราะหมั่นไส้ไอ้คนที่แม่งคะยั้นคะยอให้มาตรวจนี่แหละ ' เชิญรอไปเลยครับไอ้ลูกหมา สองอาทิตย์ '
“ ใบตรวจจะให้ส่งไปที่บ้านหรือว่ามารับเองค่ะ ถ้ามารับเองทางเราโทรไปแจ้งเมื่อเสร็จ แต่ถ้าให้ส่งไปจะมีค่าส่งแล้วก็รอประมานอีกสามวันหลังผลตรวจออกค่ะ "
“ มารับเองครับ " พนักงานพยักหน้ารับ เธอเขียนใบรับผลตรวจเป็นกระดาษบางๆมาให้ผม
“ ได้ผลตรวจเมื่อไหร่จะแจ้งไปนะคะ "
“ ขอบคุณมากครับ " เดินออกจากโรงพยาบาลด้วยการถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ผ่านพ้นไปสักทีกับการตรวจสุขภาพบ้าบออะไรนี่ ไม่รู้ฟานจะตรวจออกมาเป็นยังไงบ้างนะ ผลตรวจคงจะออกมาภายในวันนี้แหละ เพราะว่าหมอนั่นคงไม่ต้องตรวจมะเร็งปากทวารหนักหรอกมั้งก็เป็นฝ่ายรุกเรามาตลอด
เอ๊ะ ? หรือว่า เราจะมีเพื่อนสาว ท่าทางทำกับข้าวฉับชวนเอาไว้เอาใจหนุ่ม ส่ายหน้าออกมาก่อนจะหัวเราะกับตัวเองแล้วเดินนั่งรถกลับไปที่บริษัท ตื่นเต้นจังนะไม่รู้ผลจะออกมาเป็นยังไง
ลากสังขารกลับจากที่ทำงานช้ากว่าที่คาดคิดไว้หน่อย เพราะลิปงานยุ่งมากก็เลยเผลอตัวเข้าไปช่วยเค้าไว้เหตุเกิดจากการว่างจัดแบบไม่มีอะไรทำ กระชับกระเป๋าของตัวเองกดกริ่งประตูห้องสักพักก็มีคนวิ่งออกมาเปิดประตู " กลับมาแล้วเหรอครับ "
“ อื้ม " ตอบรับสั้นๆตอนที่เดินเข้าไปข้างในผมโยนกระเป๋าไว้ที่โต๊ะกินข้าว แล้วหันมาเปิดตู้เย็นหยิบเบียร์กระป๋องเย็นๆขึ้นมาเปิดแล้วยกดื่มให้ชื่นใจ ท่อนแขนหนาที่ดึงตัวผมเข้าไปกอด ตอนที่ลดกระป๋องเบียร์ลงเค้าก็ก้มลงมาจูบดูดดื่มเสียนานก่อนจะผละออกจากกัน
“ สำหรับคุณคีย์ครับ " ฟานยื่นซองกระดาษสีขาวมาให้ ผมที่รับไว้อีกคนก็แบมือมาตรงหน้าผม
“ อะไร "
“ ก็ไหนบอกว่าเราจะแลกกันไง "
“ ของฉันไม่มี " ผมบอกอีกคนก็ปล่อยมือจากเอวผมอัตโนมัติ สีหน้าที่กำลังเสียใจที่ได้ยินคำพูดนั้น เค้าพูดออกมาเสียงเบาๆ ราวกับผิดหวังอยู่มาก ' น่าฟาดด้วยหลังมือสักทีจริงๆไอ้เด็กนี่ '
“ ทำไมไม่มีละครับ ไหนบอกวันนี้จะไปตรวจไง " ทำไมต้องทำเสียงละห้อยอะไรขนาดนั้น นี่หวังเคลมกันแบบสดๆอยู่ใช่มั้ย ไอ้เด็กหื่น
“ ก็ไปตรวจแล้ว " ดึงตัวเองออกห่างจากอีกคนที่ยังยืนมองผมด้วยสายตาผิดหวัง
“ แล้วทำไม "
“ ก็ไปตรวจแล้วแต่ผลตรวจฉันมันต้องรอสองอาทิตย์ "
“ เหรอครับ "
“ นี่หยุดทำเสียงเสียความรู้สึกจะได้มั้ย นายนี่มัน "
“ ก็ผมน่ะเตรียมตัวไว้แล้วแท้ๆ วาดฝันไปต่างๆนานาเลยด้วย " วาดฝันอะไรของเอ็งวะ เบือนหน้าหนีเค้าที่ก้มหน้าลงต่ำฟานถอนหายใจออกมา " เจลหล่อลื่นที่ซื้อมาวันก่อน แกะพลาสติกแล้วนะครับ "
“ แล้วจะให้ทำยังไง ก็มันไม่ได้ผลตรวจมาละ หื้มมม " ประคองหน้าของอีกฝ่ายขึ้นมาถาม จะว่าไปก็น่าเอ็นดูเหมือนกัน โถ่ ลูกหมาน้อยคิดว่าจะได้ขยำฉันแล้วละสิ ผิดหวังเลย น่าสงสาร
“ แล้วทำไมผลตรวจของคุณคีย์มันถึงได้อีกสองอาทิตย์ละครับ "
“ ฉันตรวจมะเร็งด้วยน่ะ "
“ มะเร็ง " อีกคนทวนเสียงผมก็พยักหน้ารับ
“ อ๋อออ เข้าใจแล้ว ตรวจเพราะว่าคุณเป็นฝ่ายรับสินะ "
“ อื้ม " ยักคิ้วบอกอีกคนก็ยิ้ม
" ดีจัง ผมน่ะ คิดว่าพอตรวจแล้วเราก็ควรไปตรวจทุกปีเลยเป็นไงครับ ผมว่าตรวจสุขภาพทุกปีก็ดี ปลอดภัยหายห่วง อีกอย่างจะได้สบายใจว่าคุณคีย์น่ะ จะอยู่กับผมไปอีกนานเลย "
“ นี่ฉันเพิ่งแค่ 25 นะ ฉันต้องอยู่กับนายไปอีกนานอยู่แล้ว " หันหลังหนีอีกคน ตอนที่ยกเบียร์ขึ้นดื่ม ขามันก็เดินมาที่ทีวีแล้วหยิบรีโมตเปิดขึ้น แต่ทว่าสองแขนหนาที่เดินมากอดผมไว้ เค้าที่กอดรัดไปแทบทั้งตัวก็ทำให้ผมนิ่งไปสักพัก " ฟาน "
“ จะอยู่กับผมไปอีกนานเลยใช่มั้ย จนกว่าเราจะตายจากกันเลยนะ "
“ อื้ม จนกว่าจะตายจากกัน แต่บอกไว้ก่อนนะ ฉันน่ะ จะไม่มีวันตายหลังนายเด็ดขาด " ผมบอกก่อนจะถอนหายใจออกมา ก้มหน้าลงต่ำกับความรู้สึกที่อัดแน่นอยู่ในใจลึกๆ ความจริงที่ตัวเองรู้สึก " เพราะฉันน่ะ ไม่อยากจะอยู่คนเดียวโดยที่ไม่มีนายอีกแล้ว "
“ คุณคีย์ "
“ เพราะฉะนั้น " ดึงตัวเองออกจากอ้อมกอดอีกคน ตอนที่เงยหน้ามองใบหน้าคมที่กำลังส่งยิ้มมาให้ " นายต้องดูแลสุขภาพให้ดีแล้วตายหลังฉันเข้าใจมั้ย "
“ เป็นคำสั่งเหรอครับนั่นน่ะ " เค้าถามก่อนจะเดินเข้ามาใกล้ สองแขนที่ดึงตัวผมเข้าไปกอดเอาไว้ ซบหน้าลงบนแผ่นอกนั่นก่อนจะสูดกลิ่นตัวอุ่นๆที่ชอบเข้าไปเสียเต็มปอด ทุกวันนี้เหมือนมีทั้งคนดูแลแล้วก็คนคอยออกคำสั่งให้ทำนู้นทำนี่เหมือนมีผู้ปกครองอยู่กลายๆ แต่ถึงอย่างงั้นกลับรู้สึกว่า ชีวิตที่มีเค้า มีความสุขกว่าชีวิตที่เคยอยู่คนเดียวตั้งหลายเท่า หาเหตุผลไม่ได้เหมือนกันว่าทำไม แต่หลายๆอย่างคงเพราะ มันเป็นฟานละมั้ง
“ ใช่ เป็นคำสั่ง " คำพูดเอาแต่ใจของผม ร่างสูงที่ผละอ้อมกอดออกก่อนจะก้มลงจูบลงบนริมฝีปากของผมเสียเนิ่นนานก่อนจะผละตัวเองออก
“ งั้นก็รับทราบครับ ผมจะทำตามคำสั่งของคุณ "
คำสั่งที่ห้ามทิ้งผมไว้คนเดียว นั่นคือคำสั่งที่ผมสั่งเค้าเอาไว้
.................................................................
คือ... ตอนแรกจะเขียนสั้นๆ พอกรุบกริบในความน่ารัก
แต่พอเขียนแล้วลากยาวไปมาก.. ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
อ่านเพื่อความบันเทิงไปแล้วกันนะคะ
ตอนหน้า .. ผลตรวจจะเป็นอย่างไร ลุ้นต่อไปค่ะ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์
เจอกันตอนหน้าค่าาาา
ฝากแท็ก #ฟานคีย์ ด้วยนะคะ
ขอบคุณมากๆค่ะ
