ก็บอกว่าไม่ชอบเด็กไง
ตอนที่ 26
' พลาด '
“ นายคิดดีแล้วเหรอ ที่จะทำแบบนั้นน่ะ " ผมหันไปตามเสียงที่อยู่ๆก็ถามขึ้นมา วางมือจากคีย์บอร์ดที่กำลังทำงานหันไปหาอีกคนที่ยังคงมีสีหน้าที่เป็นห่วงผม " ก็นายบอกว่าคุณเมษเค้าไม่ให้ทำ แล้วนายแอบไปสมัครเป็นโฮสแบบนั้นมันจะดีเหรอ "
“ ก็ฉันอยากจะลองทำดูนี่ " ตอบอีกคนด้วยความดื้อดึงแบบไม่มียอมแพ้ เมื่อวานก็คุยกับคุณเมษแล้วเรื่องที่อยากจะขอสมัครเป็นโฮสเพราะว่าทางนู้นก็ขาดคนทำงานพอดี แต่เค้าที่สั่งห้ามออกมาแบบนั้นก็ยิ่งทำให้ผมอยากจะทำงานนั้นมากขึ้นไปอีก อยากจะรู้ว่ามันเป็นยังไง แล้วทำไมเค้าถึงสั่งห้ามผมนัก เป็นพวกนิสัยไม่ดีที่ยิ่งห้ามก็ยิ่งยุ นิสัยด้านแย่ของผมที่ไม่ว่ายังไงก็แก้ไม่หายจริงๆ
เมื่อวานหลังจากออกมาจากคอนโดของเค้า ผมขึ้นรถไฟกลับไปที่คอนโดตัวเองระหว่างนั้นก็แอบเอามือถือเข้าเว็บโฮสของเค้าแล้วก็แอบเห็นปะรกาศรับสมัครงานพอดี ก็เลยลองอ่านรายละเอียดดูพอเห็นว่าคนที่สัมภาษณ์ไม่ใช่ชื่อของเค้า ผมก็ลองกรอกใบสมัครแล้วก็ส่งไป
จดหมายตอบกลับที่ได้รับแบบรวดเร็วในตอนเช้า การนัดสัมภาษณ์ก็เกิดขึ้นในตอนเที่ยงวันของวันนี้ เมื่อครู่ที่ล๊อปบี้ชั้นล่างของตึกที่ผมทำงาน ผู้ชายที่มาสัมภาษณ์เป็นคนรูปร่างผมสูงหน้าตาหล่อเหลา เค้าแนะนำตัวว่าเค้าชื่อ ' โท ' เป็นโฮสแล้วก็พ่วงด้วยตำแหน่งรองประธานของบริษัท การสัมภาาณ์เป็นการตอบคำถามส่วนตัวแล้วก็ จำลองสถานการณ์ง่ายๆ ซึ่งแน่นอนว่าผ่านฉลุย อาจเพราะช่วงนี้คีย์มีแฟน ผมก็เลยเหมือนได้ฝึกให้คำปรึกษามากขึ้น
“ แล้วนายไม่กลัวเค้าโกรธรึไง "
“ ทีนายทำอะไรยังไม่กลัวฟานจะโกรธเลย " พอหันไปพูดแบบนั้นเข้าหน่อย คนฟังก็ผ่อนลมหายใจออกมาเหมือนจะเถียงแต่ก็คงเถียงไม่ออก " คนเรามันมีความดื้ออยู่ในตัวทั้งนั้นแหละ เอาเป็นว่าถ้าเค้าโกรธฉัน ฉันก็แค่เลิกทำงานและจะไม่ดื้อดึงต่อ เหมือนนายไง ที่ต้องรอให้แฟนโกรธถึงจะสำนึกได้ว่าตัวเองผิด "
“ ทำไมต้องเป็นแบบนั้นด้วยวะ " อีกคนพูดออกมาเสียงเบาๆ เหมือนไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน เราก็รู้ว่าเราผิดแต่ก็ยังทำตัวเหมือนเด็กๆที่แบบ ไว้ถ้าเค้าโกรธเราก็ค่อยง้อแล้วก็ขอโทษ มันไม่เรื่องที่ดีเลยในความรู้สึกของผมแต่ก็ไม่รู้สิ จะเรียกมันว่าอะไรดีละ ความรู้สึกแบบนี้น่ะ ' ยิ่งห้ามก็ยิ่งยุ ' เหรอ ? หรือว่า ' เป็นพวกคนดื้อด้านที่ไม่ยอมฟังอะไรดี '
“ คงเพราะ เรายังไม่เคยเห็นด้านที่เค้าโกรธเราแบบจริงๆ จังๆละมั้ง ? เราเลยไม่กลัวไง " ทั้งๆที่มีความคิดว่า ต้องรอให้โกรธจริงๆจังๆก่อนรึไง แต่ว่า.. ความดื้อ ยังไงมันก็เป็นความดื้ออยู่ดีนั่นแหละนะ ยากจะห้ามปรามจริงๆเมื่อมันอยากทำ ก็เหมือนว่าต้องทำมันให้ได้ " เอาเป็นว่าอย่าคิดมากในสิ่งที่ตัดสินใจไปแล้วเลย อีกอย่างฉันเองก็ตอบตกลงเซ็ตสัญญาไปแล้ว วันนี้จะไปถ่ายภาพลงเว็บไซต์โปรโมทเป็นพนักงานใหม่ด้วย "
“ เหรอ "
“ เค้าบอกว่า พบลูกค้าก่อนสามคนเพื่อลองงาน ถ้าผ่านได้สามคน ก็ถือว่า ผ่านเป็นพนักงานเต็มตัวได้ "
“ นายตั้งใจจะเป็นพนักงานเต็มตัวเลยเหรอ " คีย์ถาม
“ ก็ไม่ขนาดนั้น "
“ แล้วทำไมถึงไปสมัคร อยากจะลองของให้เค้าหึงรึไงว่าจะเป็นยังไง "
“ ใช่ที่ไหนเล่า แค่อยากจะรู้จักงานของเค้าให้มากขึ้นก็เท่านั้นแหละ "
“ นี่ลิป ฉันว่าที่เค้าไม่อยากจะให้ทำมันต้องเหตุผลอะไรบางอย่าง แล้วนายมั่นใจเหรอว่าสิ่งที่นายอยากรู้มันจะน่ารู้จริงๆ " คำถามที่ทำให้ผมหันไปมองหน้าอีกคน ก็คิดนะ อย่างที่คีย์บอก ผมเองก็คิดว่าจะดีเหรอ ก็เค้าไม่อยากให้รู้แล้วจะรู้ไปทำไม แต่เพราะมันเป็นแบบนั้นไง ในใจลึกๆมันก็สงสัย มันอยากจะรู้ ทำไมอะ ทำไมไม่ได้ " ถ้าเกิดอะไรขึ้น ต้องรับให้ได้นะ แล้วอย่ามาเสียใจทีหลังละ ก็เค้าบอกแล้วว่าอย่าทำ "
“ อื้ม ฉันจะรับมันให้ได้ " ก็ในเมื่ออยากจะรู้เอง มันก็เหมือนอย่างที่อีกคนบอกจริงๆ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ต้องรับให้ได้นะ
ปิดคอมพิวเตอร์ของตัวเองเก็บของตัวเองใส่กระเป๋าเรียบร้อย ก่อนจะลุกจากเก้าอี้แล้วหันไปบอกลาเพื่อนร่วมงานที่ก็พยักหน้ารับ ก่อนจะเดินลงมาที่ชั้นล่างของตึกแล้วพบว่าคนที่นัดไว้ว่าจะมารับผมไปที่บริษัท เพื่อจะทำเรื่องเกี่ยวกับถ่ายภาพของผมที่จะลงเว็บไซต์ก็นั่งคอยอยู่แล้ว
“ คุณโท รอนานมั้ยครับ "
“ ไม่นานครับ เพิ่งมาก่อนหน้า ห้านาทีเอง " ผมพยักหน้ารับเค้า อีกคนก็ส่งยิ้มมาให้ " เราไปกันเลยมั้ย "
“ โอเคครับ ไปกันเลย "
“ เดี่ยวผมจะพาคุณไปถ่ายภาพนะครับ แล้วก็พูดคุยกันนิดหน่อย "
“ แล้วผมจะเริ่มงานได้เมื่อไหร่เหรอครับ " หันไปถามอีกคนตอนที่เรากำลังเดินทางไปที่บริษัท นั่งรถไฟต่อไปแค่สามสถานีเท่านั้นก็ถึงที่หมาย
“ พออัพภาพลงเว็บก็รอให้คนเลือกคุณ จากนั้นก็สามารถทำงานได้เลยครับ "
“ ต้องทำให้ผ่านสามคน ถึงจะได้เป็นพนักงานจริงๆใช่มั้ยครับ "
“ ใช่แล้ว " เค้าหันมาพยักหน้ารับ
“ แล้วมีคนที่ไม่ผ่านเยอะมั้ยครับคุณโท "
“ ตั้งแต่ทำงานมา ก็สัก ห้าคนมั้งครับ แต่ผมว่าส่วนนึงมันอยู่ที่โชคนะ "
“ ยังไงเหรอ " ถามเค้าด้วยความสนใจอีกคนก็หันมาเล่า
“ บางคนก็ได้เครสยากๆตั้งแต่เริ่มทำงานวันแรก มันก็ยากที่จะทำให้เค้าพึงพอใจ แต่บางคนได้เครสที่คนไม่เรื่องมาก เค้าก็ผ่าน ผมเลยมองว่า ส่วนนึงก็อยู่ที่โชคนิดหน่อย " พยักหน้ารับอีกคนเบาๆ ตอนที่ถอนหายใจออกมา คุณโทก็ถาม " ตื่นเต้นเหรอครับ "
“ ก็นิดหน่อยน่ะครับ " ตื่นเต้นกว่าการเจอลูกค้าก็กลัวว่าเรื่องจะโป๊ะแตกเจอคุณเมษเอาตั้งแต่วันแรกนี่แหละ อยากจะลองดูก่อนเพราะงั้นก็อย่าได้เจอกันเลยนะ
“ ถึงแล้วครับ บริษัทเราอยู่ชั้นที่ 20 นะครับ " ผมพยักหน้ารับตอนที่เดินเข้าไปในลิฟต์ที่ขึ้นตรงสู่ชั้นที่ 20 ประตูลิฟต์ที่เปิดออกบริษัทเล็กๆที่มีคนทำงานอยู่จำนวนนึง " ที่นี่เราจะมีพนักงานโทรศัพท์โทรเช็คความพึงพอใจของลูกค้า แล้วก็คนจัดการตารางเวลานะครับ คนจัดการตารางเวลาเนี้ย เค้าจะโทรบอกแจังนัดกับคุณว่าต้องไปเจอลูกค้าที่ไหน รายละเอียดของลูกค้า เดี่ยวผมจะแนะนำให้รู้จัก เอ่อ ธีร์ "
“ ครับ " เสียงผู้ชายที่ขานรับกับท่าทางซื่อๆ ผมก้มหน้าทักทายอีกฝ่ายก็ก้มหน้าทักทายกลับมา
“ ฉันพาโฮสคนใหม่มาแนะนำ นี่คุณลิปนะ ส่วนคุณลิปนี่ ธีร์นะครับเป็นหัวหน้าคนจัดการเวลาที่จะโทรไปแจ้งเรื่องคิวงานของคุณ "
“ ยินดีที่ได้รู้จักครับ "
“ เช่นกันครับ " พยักหน้ารับอีกฝ่ายที่ส่งยิ้มให้
“ แล้วท่านช่างถ่ายภาพมารึยัง " คุณโทหันไปถามอีกคนที่ก็พยักหน้ารับ
“ มาแล้วครับอยู่ในห้อง กำลังรออยู่เลย " เค้าบอกอีกฝ่ายก็หันมามองผม
“ ไปครับ เดี๋ยวผมจะพาไปแนะนำให้รู้จัก "
“ คุณโท ผมถามอะไรหน่อยสิ "
“ ครับ " เค้าที่เดินนำหันมาหาผมแต่มือก็คว้าลูกบิดของห้องห้องนึง
“ ช่างภาพคุณ ชื่ออะไรเหรอครับ " เพราะจำได้ว่า อาชีพหลักของคุณเมษคือช่างภาพ แล้วเค้าจะเสียเงินจ้างคนอื่นทำไมในเมื่อตัวเองก็เป็นช่างภาพอยู่แล้ว ประตูที่เปิดออกกว้างผมมองเข้าไปข้างในแล้วตอนนั้นคำตอบทุกอย่างมันก็ฉายเป็นภาพชัดจนหน้าใจหาย
“ ชื่อเมษครับ " กลืนน้ำลายคงคอตอนที่เบื้องหลังนั้นเงยหน้าขึ้นจากกล้องถ่ายภาพแล้วมองมาเช่นกัน ต่างฝ่ายที่ต่างนิ่งผมรู้สึกเหมือนทุกอย่างรอบตัวมันมืดไปหมด สว่างจ้าอยู่แค่ตัวเค้าเท่านั้น พร้อมกับคำพูดที่เอ่ยเรียกชื่อผมเบาๆ
“ ลิป "
“ อ้าว รู้จักกันแล้วเหรอ " คุณโทที่เอ่ยออกมางงๆ เค้ามองหน้าผม แล้วก็มองหน้าหัวหน้าของตัวเอง " รู้จักกันได้ไงวะ "
“ เอ่อ..” ผมที่ได้แต่นิ่งไม่รู้จะพูดอะไรอีกฝ่ายก็เดินเข้ามาถาม
“ นี่มันอะไรกัน นายมาที่นี่ได้ยังไง "
“ คือ..”
“ ก็นี่ไงโฮสคนใหม่ที่กูเล่าให้ฟัง ว่าจะพามาแนะนำมึงแล้วให้มึงถ่ายรูปลงโปรโมตในเว็บให้ไง " คุณเมษยกยิ้มขึ้นมาก่อนจะก้มหน้าลงอยู่สักพัก เค้าถอนหายใจออกมา
“ มึงออกไปก่อน "
“ กูเหรอ " คุณโทชี้นิ้วเข้ามาตัวเอง อีกฝ่ายก็จ้องหน้าเหมือนจะหาเรื่อง
“ ใช่ ออกไป "
“ เอ่อ คุณโทครับคือว่า " ผมหันไปบอกเค้าตอนนี้อีกฝ่ายที่กำลังงงๆ " ผมไปด้วยสิ "
“ ส่วนนายอะอยู่นี่ " เสียงทุ้มพูดผมก็กลืนน้ำลายลงคอไปด้วยความกลัว บิงโกมาเจอคุณหัวหน้าตั้งแต่ยังไม่ถ่ายรูปลงโปรโมตเลยด้วยซ้ำ แม่งจะเรียกว่าซวย หรือซวยมากๆดีวะ " ฉันจะสัมภาษณ์โฮสใหม่แบบตัวต่อตัวหน่อย "
“ คือมึงช่วยบอกกูที ว่ามึงรู้จักเค้าใช่มั้ย กูจะได้เบาใจ " คุณโทถามอีกฝ่ายก็ยกยิ้ม
“ ยิ่งกว่ารู้จักอีก คนนี้อะ เมียกู "
“ ห๊า!! “ คุณโทอ้าปากค้างก่อนจะถูกดันให้ออกไปจากห้องด้วยมือหนาที่ล๊อคห้องทันทีแล้วหันมามองผมที่ได้แต่ยืนนิ่งแล้วก้มหน้าลง ร่างสูงเดินเข้ามาใกล้ ผมเองก็ถอยหลังจนสุดกำแพงก่อนจะเงยหน้ามองเค้าแบบกล้าๆกลัวๆอีกคนก็ค้ำมือกับผนังข้างหลัง
“ ฉันน่าจะเอะใจตั้งแต่ที่โทเล่าให้ฟังว่า โฮสใหม่น่ะ ทั้งน่ารักแล้วก็ช่างพูด " เค้าหลุดยิ้มออกมาก่อนจะจับปลายคางของผมให้เงยขึ้นจ้องหน้าเค้า " ฉันน่าจะเอะใจว่าเป็นนายตั้งแต่แรกแล้วว่ามั้ย ลิป "
“ คุณเมษ "
“ ทำไมถึงได้ดื้อขนาดนี้ ไม่เคยคิดจะฟังกันเลยใช่มั้ย " คำถามที่ทำให้ผมได้แต่เม้มปาก " นายอยากรู้มากเหรอว่าทำไมฉันถึงไม่อยากจะให้นายเป็น มาสิฉันจะบอกให้ " เงยหน้ามองเค้าในตอนที่อีกคนก้มลงมาจูบริมฝีปากของผมเอาไว้ เบิกตากว้างตอนที่ลิ้นนั้นพยายามแทรกตัวเข้ามาในโพรงปาก ผมเม้นริมฝีปากเเน่นแต่มือหนาของเค้าก็ดึงปลายคางให้เผยอริมฝีปากออก เค้าไล่มือปลดกระดุมเสื้อก่อนจะดึงชายเสื้อออกจากกางเกง ผละริมฝีปากออกก่อนจะไล่จูบลงต่ำไปบนลำคอ
“ คุณเมษ ไม่เอา หยุดนะ ถ้าไม่หยุดจะฟ้องเลยนะ "
“ ฟ้อง ? “ เค้าเงยหน้าขึ้นถาม " ฟ้องฉันในข้อหาอะไรไม่ทราบ "
“ ในข้อหาคุกคามทางเพศลูกน้องในบริษัท " ผมบอกอีกคนก็ยิ้ม
“ ข้อหานี้ถูกยอมความเพราะลูกน้องฉันคนนี้ พ่วงด้วยตำแหน่งพิเศษอีกตำแหน่งนั่นคือ แฟนฉัน " เค้ายกคิ้วท้าทายตอนที่ก้มลงจูบที่คอของผมอีกครั้ง " ไหนบอกว่าอยากจะรู้ไงว่าบริษัทฉันมันทำอะไรบ้าง นี่ไงฉันกำลังทำให้นายดู ว่านายอาจจะโดนลูกค้าชวนทำเรื่องแบบนี้ก็ได้นะ "
“ แต่มันมีกฏข้อห้ามว่าห้ามทำนี่ แล้วผมก็ไม่คิดจะทำด้วย " ผละอกเค้าอีกคนก็ยังดึงดันเข้ามาหา เค้าที่ไม่ยอมฟังอะไรเอาแต่หงุดหงิดที่เห็นหน้าผมโผล่มาสมัครโฮสทั้งๆที่ห้ามเอาไว้แล้ว ริมฝีปากอุ่นที่แนบสัมผัสลงบนต้นคอผมได้แต่เม้มริมฝีปากแล้วดึงตัวเองหนี แต่อีกคนก็ยังตามมาไม่ลดละ
“ กฏข้อห้ามสำหรับบางคนมันก็ใช้ไม่ได้หรอกนะจะบอกให้ โดยเฉพาะคนดื้อดึงที่ไม่ฟังอะไรมันก็มีเยอะแยะ จะให้ยกตัวอย่างง่ายๆ ก็นายไง " เค้าที่กระซิบลงข้างหูก่อนจะเลื่อนมือไปสัมผัสเรือนร่างของผมมากขึ้น
“ นี่! ปล่อยนะคุณ รู้จักสถานที่ซะบ้างสิ " ผมตะคอกใส่อีกคนตอนที่ผละเค้าให้ออกห่างได้ คุณเมษก็จับข้อมือของผมทั้งสองข้างก่อนจะขึงให้ชิดกับริมฝาผนังก่อนจะตะคอกกลับมา
“ ทำไมฉันต้องฟังนายด้วยทีนายยังไม่ฟังฉันเลย นายไม่เคยฟัง ฉันห้าม ฉันพูดกี่ครั้งแล้วว่าไม่ให้ทำ ก็คือไม่ให้ทำ แล้วทำไมนายมาขอให้ฉันฟังนาย ทั้งๆที่นายยังไม่เคยฟังฉันเลย อยากจะเป็นโฮสจริงๆเหรอ มาสิ บริการฉันให้ถึงใจก่อนแล้วฉันจะให้ผ่าน "
“ แล้วผมที่อยากจะรู้จักอาชีพคุณมากขึ้น ผมผิดรึไงกันล่ะ! ” เสียงตะคอกที่ดังขึ้นของผม " ผมแค่อยากรู้ว่ามันต้องยังไงบ้าง อยากรู้ว่าทำไมคุณถึงชอบทำ ทำไมคุณถึงบอกว่ามันให้แง่คิดดีๆกับคุณ ทำไมคุณถึงรักงานนี้ ก็แค่อยากจะลองดู แล้วผมก็คิดว่าถ้าผมอยากรู้อยากลองอยู่ในขอบเขตสายตาของคุณก็คงไม่เป็นไร ก็เลยมาสมัครที่นี่ ถ้าผมคิดแค่อยากจะเป็นโฮสจริงๆ ผมไปสมัครที่อื่นก็ได้นี่ ทำไมต้องมาสมัครกับคุณด้วย แล้วคุณมองผมไปในแง่ไหนกันเหรอ มองไปถึงเรื่องเซ็กส์ กับเรื่องอย่างว่าแล้วเหรอ โฮสของคุณจริงๆ ขายเรื่องอย่างงี้รึไง ถึงกลัวไปถึงขนาดนั้นน่ะ!”
“ ลิป " เค้าเอ่ยเรียกชื่อผม มือหนาที่ค่อยๆลดมือที่จับกุมผมอยู่ คว้าเสื้อของตัวเองเข้ามาก่อนจะหันหลังติดกระดุมที่หลุดลุ่ยนั้น
“ ผมดื้อ ผมไม่ฟังคุณก็พูดกันดีๆก็ได้นี่ ทำไมต้องทำอะไรแบบนี้ด้วยวะ คุณดูเหมือนคนเถื่อนที่ชอบทำเรื่องอย่างงั้นเวลาไม่พอใจอะไร " ดูจากหลายๆครั้งที่เราเถียงกัน ไม่ว่าเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่เค้าก็ชอบทำแบบนี้ ไม่ได้คุยกันดีเหมือนผู้ใหญ่เค้าทำแต่กลับใช้กำลังใช้เซ็กส์มากกว่า ซึ่งต่างจากเค้าก่อนหน้านี้ที่ทั้งอบอุ่นและขี้เล่น
“ เรื่องนั้น ฉันขอโทษที " เค้าพูดก่อนจะถอนหายใจออกมา ก่อนที่ทุกอย่างจะเงียบไปหมด เงียบจนในห้องสี่เหลี่ยมนี้มันอึดอัด
“ ช่างมันเถอะ " ผมบอกก่อนจะถอนหายใจ ขาที่กำลังจะเดินออกไป ถูกมือของอีกคนจับไว้
“ แล้วจะไปไหน "
“ กลับบ้าน " เงยหน้ามองเค้าที่มองมา แววตาที่ไม่สบอารมณ์เท่าไหร่หันไปมองทางอื่น เค้าก็ถอนหายใจ
“ เรื่องนั้นผมขอโทษจริงๆนะ อย่างอนกันสิ " เหลือบตามองเค้าแบบไม่ได้พูดอะไร " ลิป "
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูที่ดังขึ้นก่อนกลอนที่ล็อคจะถูกไขออกมา ผมหลบหน้าคุณโทที่เดินเข้ามาด้วยสีหน้าไม่เข้าใจสถานการณ์เท่าไหร่นัก เค้ามองผมสลับกับหน้าของคุณเมษพลางเอ่ยถาม " โอเคแล้วนะ "
“ อื้ม " คุณเมษตอบ
“ นี่กูถามได้ยัง "
“ จะถามอะไร " ร่างสูงถาม
“ มึงกับคุณลิปนี่..คือเป็น แฟนกันเหรอ " เค้าถามแบบไม่ค่อยกล้าเท่าไหร่ สีหน้าที่ดูลังเล แต่คุณเมษก็พยักหน้ารับ
“ อื้ม แฟนกัน "
“ อ่าา " เสียงทุ้มที่พยักหน้ารับ " แล้วเค้าขอมึงทำงานนี้ตั้งแต่ทีแรกแต่มึงไม่ให้ทำ "
" อื้ม "
" แล้วตกลงว่า มาถึงขนาดนี้แล้ว คุณลิป ยังทำมั้ยครับ โฮสนี่..”
“ ก็แล้วแต่เค้าสิ " เสียงทุ้มพูดขึ้นก่อนจะเดินไปจับกล้องของตัวเองขึ้นมาอย่างไม่สนใจ " ถ้าอยากจะทำก็ทำ สิทธิของคุณ เรื่องของคุณ "
“ เอ่อ..” คุณโทหันมาหาผม เหมือนจะถามว่าจะทำรึเปล่า แต่ท่าทางของอีกฝ่ายที่กำลังงอนนั้นก็ทำให้ผมลังเลที่จะตอบออกไป
“ เค้าเหมือนจะงอนนะผมว่า "
“ ไม่เหมือนหรอก กำลังงอนเลยแหละ " คุณโทพูดก่อนจะยกยิ้ม " เค้าคงกลัวใครมาจีบคุณละมั้ง เพราะเอาตัวเองเป็นเกณฑ์แบบว่า โดนลูกค้าจีบบ่อย " เสียงหัวเราะเงียบลงตอนที่คุณเมษหันมามอง เค้าที่ถอนหายใจออกมา
“ อยากจะทำก็มายืนตรงนี้ ฉันจะถ่ายรูปให้ "
“ ถ้าทำแล้ว เรามีปัญหากันผมก็จะไม่ทำ เพราะแค่นี้ก็มีปัญหากันอยู่แล้ว "
“ ไม่รับปาก " เค้าพูดก่อนจะดึงแขนผมให้เข้าไปยืนอยู่หน้าเฟรมที่ใช่ถ่ายภาพ " เพราะนายก็เห็นว่าเวลาฉันโกรธฉันจะเป็นยังไง แต่ถ้านายอยากจะลองของ ก็ตามแต่ใจแล้วกัน ดื้อมาได้ครึ่งทางแล้วนิ ก็ดื้อให้มันสุดๆเลยเป็นไง "
“ คุณเมษ " ไอ้คนขี้ประชด
“ แต่ถ้าเกิดอะไรขึ้นจะมาหาว่าผมใจร้ายไม่ได้นะ เพราะผมก็หวงของของผม คุณเป็นของผมในฐานะแฟนเหมือนกัน "
“ พูดซะน่ากลัวเลย " คุณโทพูดออกมาเสียงเบาๆ ก่อนจะหัวเราะ ผมจ้องหน้าคมของอีกฝ่ายที่ยกกล้องขึ้นถ่ายภาพผม เสียงชัตเตอร์ที่กดลง ผมเอียงหน้ามองเค้าก็กด
“ แล้วต้องทำท่าแบบไหนละ "
“ แบบไหนก็ได้ครับ น่ารักไปหมดเลยแหละ " คุณโทพูดเค้าที่ยืนมองภาพในคอมพิวเตอร์ที่ตั้งอยู่ คุณเมษก็ลดกล้องลงแล้วหันมามองเพื่อนตัวเอง " แค่ชมก็ไม่ได้เหรอวะ "
“ แล้วทำไมมึงต้องชม "
" อ้าว ไอ้นี่ ก็ภาพเค้าน่ารัก ดูสิ มันไม่น่ารักเหรอ " เค้าชี้ไปที่หน้าจอก่อนจะเอียงหน้าตามภาพของผม " แค่เอียงหน้าเฉยๆยังน่ารักเลย "
“ มึงออกไปเลยไป "
“ อ้าว.. อะไรอะ หวงเกินไปแล้วมึง กูชมแค่นี้ยังรับไม่ได้ ไอ้พวกลูกค้า ถ้าสมมุติเค้าได้เป็นลูกค้าผู้ชายเค้าทำมากกว่านี้อีก ยิ่งได้ไอ้พวกกามๆหน่อยนะสัด " สายตาคมหันมาจ้องเขม็งไปที่เพื่อน ที่ก็ต้องเม้มปากแน่นทันที คุณเมษถอนหายใจก่อนจะวางกล้องลง " ไม่ถ่ายแล้ว ? “
" ถ่ายแค่นี้แหละ " เค้าพูด
“ มึงจะถ่ายแค่สองภาพไม่ได้ เราต้องถ่ายหลายๆมุม มึงอย่ามาหวงไม่เข้าท่า "
“ ก็กูจะถ่ายแค่นี้ " ย้ำแค่นั้นก่อนจะเลื่อนเม้าส์ไปมา แล้วสักพักเสียงของคุณโทก็ดังขึ้นอีก
“ แล้วมึงลบภาพเอียงหน้านั่นทำไม ภาพนี้มันไม่ค่อยสวย ไอ้เชี้ยยย "
“ เอาไป " เค้าพูดก่อนจะยื่นที่บันทึกข้อมูลอันเล็กๆส่งให้เพื่อนที่ก็บ่นอุบอิบแต่ก้ยอมรับไป
“ ไอ้ขี้หวงเอ้ย "
“ ออกไปทำงานของมึงได้แล้ว "
“ จะทำอะไรกันน่ะ " สายตาล้อๆที่ถาม ก่อนจะโดนอีกคนผลักแล้วปิดประตูใส่ คุณเมษถอนหายใจออกมาก่อนจะหันมามองหน้าผมที่ก็หลบตาไปทางอื่น
“ ช่วยกล้าหันมามองหน้าฉัน เหมือนที่นายกล้าจะขัดใจฉันหน่อยได้มั้ย "
“ ถ้าคุณไม่อยากจะให้ทำ ผมไม่ทำก็ได้ ทำไมต้องประชดกันด้วย "
“ แล้วทำไมทีแบบนี้ถึงว่าง่ายขึ้นมาละ " เค้าถามก่อนจะเดินไปหยิบกล้องของตัวเองขึ้นมาเช็คอะไรบางอย่าง " ตอนที่บอกว่าไม่ให้ทำตั้งแรก ทำไมถึงดื้อมาสมัคร " คำถามที่ไม่รู้จะตอบอะไรก็ได้แต่นิ่งแบบนั้น ทุกอย่างมันเริ่มมาจากผมที่ไม่ยอมฟังอะไร เอาแต่ดื้อ ก็รู้ว่าสุดท้ายต้องเจออะไรแบบนี้แต่ก็ยังทำ " มันไม่ใช่ว่าคุณไม่รู้นิ ว่าถ้าทำลงไปแล้วจะเจออะไร คุณไม่ใช่เด็ก จะมาบอกว่าไม่รู้ ก็ไม่ได้นะ "
“ แล้วทำไมคุณต้องขู่ด้วย "
“ ไม่ได้ขู่ " เค้าบอก " มันไม่ได้สวยงามอย่างตอนที่ผมเจอคุณหรอก ถ้านายดวงดี นายอาจจะเจอคนดี แต่ถ้านายซวยนายอาจจะเจอคนที่เค้าอยากจะสานสัมพันธ์ต่อ คนที่เค้าเดินตามนายจนมาถึงบ้าน รู้ที่อยู่ ที่ทำงาน แล้วก็ตามไปในทุกที่จนคุณต้องจิตตก บางทีก็ต้องย้ายหนี "
“ งั้นคุณก็ไปกับผมสิ "
“ ไม่ " เค้าพูดเสียงเด็ดขาด
“ คุณเมษ "
“ ไม่ต้องมาอ้อน คุณเลือกที่จะทำเอง คุณเลือกที่จะดื้อเอง คุณต้องจัดการมันด้วยตัวเอง " ใบหน้าคมที่กำลังนิ่งจ้องมองมาทางผมด้วยสีหน้าที่กำลังโกรธ สิ่งที่เค้าขู่ตอนนี้น่ากลัวพอๆกับอารมณ์ของเค้าที่ค่อยๆกรุ่นขึ้นมา
“ อย่าโกรธผมสิ ผมขอโทษที่ดื้อกับคุณ "
“ ทั้งๆฉันพยายามจะปกป้องนาย ไม่อยากให้มีอันตรายจากสิ่งที่เคยได้ยิน เคยเจอ แต่นายก็ดันทุรังที่อยากจะทำ งั้นก็ทำเถอะ ทำอย่างที่นายดื้อที่จะทำมันไง ลืมความหวังดีของฉันไปซะ ไม่มีค่าอะไรหรอก "
“ คุณ.. " ผมเรียกเค้าเสียงอ่อน แต่ไม่มีทีท่าว่าอีกฝ่ายจะยอมใจอ่อนลงเลย รู้สึกผิดเต็มประตูจนไม่รู้จะง้อเค้ายังไงดีเลยได้แต่เงียบอยู่แบบนั้น
“ ผมละอยากให้คุณเจอแบบน่ากลัวๆจริงๆ จะได้รู้ว่าไง ว่าทำไมถึงหวง ถึงห่วง "
“ ขอโทษ " ยื่นมือไปจับชายเสื้อของเค้าที่ได้แต่ถอนหายใจออกมา ผมดึงตัวเองเข้าไปใกล้กอดเค้าไว้แน่นอีกคนก็เบือนหน้าหนี " อย่าโกรธผมเลยนะ ก็ผมไม่รู้นี่น่าว่ามันจะมีเรื่องแบบนั้น ผมก็แค่อยากจะรู้จักคุณ รู้จักงานของคุณ มันก็เท่านั้น ผมยอมรับว่าผมดื้อ แต่คุณอย่าประชดด้วยคำพูดแบบนั้นสิ " เงยหน้ามองเค้าตอนที่เขย่งเท้าหอมแก้มอีกคนที่ก็ยอมก้มหน้าลงมาสบสายตาผม
“ จำเอาไว้อย่างนึงนะ ถ้าเกิดว่าฉันโมโหแล้วทำอะไรแบบที่นายไม่ชอบขึ้นมา ก็อย่ามาหาว่าใจร้ายก็แล้วกัน เพราะฉันจะไม่ใจดี กับเหตุผลของเด็กดื้ออย่างนาย แล้วฉันก็เตือนแล้ว แต่นาย ไม่ฟังเอง " คำพูดขู่ที่ทำให้ผมกลัว ทำได้แค่ถอนหายใจออกมาเพราะความไม่สบายใจ สมควรแล้ว คิดจะดื้อไม่เข้าท่า ตอนนี้ก็ได้แต่กลัว ทั้งคนที่จะมาเป็นลูกค้ารายแรก แล้วที่กลัวที่สุดก็คือคนตรงหน้า เรียกได้ว่า กลัวที่สุดเลย
' พลาดแล้วลิป นายไม่น่าไปเล่นกับของจริงเข้าเลย '
...................................................
คนบางคนไม่เห็นโรงศพ ก็คงไม่หลั่งน้ำตา...
แถวบ้านเรียก ลองของ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ช่วงนี้ยังคงเป็น เมษลิป นะคะ
ตอนหน้าก็เช่นกัน มาดูกันว่า ลูกค้าคนแรกของน้องลิปจะเป็นใคร
เจอกันตอนหน้าค่ะ
ฝากแท็ก #ฟานคีย์ ในทวิตด้วย
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและ คอมเม้นท์ค่าาา
