ความทรงจำ [ the Remember ] # PART 20 ( อวสาน ) และบทส่งท้ายครับ
เดี่ยวเหลือบมองนาฬิกาข้อมือ ที่เวลามันจวนจะ 5 โมงเย็น แล้ว เขาขับรถมาท่ามกลางความมึนหลังจากได้รับโทรศัพท์ลึกลับ ที่เพิ่งโทรมาเมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้ว
“ เดี่ยว นายรีบมาที่หอประชุมโรงเรียน ถ้านายยังรักเก่งอยู่ให้รีบมาให้ทัน ก่อน 5 โมง เรามีเรื่องของเก่งจะบอกนาย “ เสียงนั่นดูฟังคุ้นๆ แต่นึกไม่ออก แถมยังไม่บอกชื่ออีก เดี่ยวคิดว่าตัวเองช่างเชื่อคนง่ายเหลือเกิน เพราะไม่แน่ใจว่าใครจะเล่นตลกรึเปล่า นี่แค่บอกว่าจะพูดเรื่องของเก่งมันก็ทำให้เขาวุ่นวายจนต้องรีบแล่นออกมา
เดี่ยวกระวนกระวายใจเมื่อ รถยังคงติดอยู่ไม่ยอมขยับ มองนาฬิกา นี่มันจะ 5 โมงแล้ว เอาไงดี เดี่ยวถอนใจยังคงสับสนวุ่นวายในหัว นี่เขาเป็นอะไร ทำไมต้องมาทำอะไรบ้าๆอย่างนี้ ต้องการจะรู้เรื่องของเก่งไปทำไม ถึงแม้รู้เก่งก็ยังไม่รักเขาอยู่ดี สู้กลับตอนนี้ยังพอจะทัน เดี่ยวมองดูจุดกลับรถกับไฟจราจรที่กำลังเขียว แล้วเลือกที่จะตรงข้ามแยกไป!
รถBMW ของเดี่ยวจอดเข้าที่จอดอย่างรีบๆ เขาวิ่งเข้าห้องประชุมอย่างรีบจนเหงือชุ่มเสื้อ เสียงมือถือดังขึ้นอีกหลังจากที่ เขายืนหันรีหันขวางอยู่นาน
“ ฮัล โหล นั่นใครบอกมาว่าเรียกให้มาทำไม “ เดี่ยวเริ่มหงุดหงิดเมื่อเข้ามาแล้วไม่เจอแม้แต่เงาของเก่ง
“ นี่ ใจเย็นก่อน หันมาทางขวาแล้วเดินตรงมา “ เดี่ยวทำตามเดินตรงไปจนสุดก็เจอกับ ชายหนุ่มร่างเล็กที่ไว้ผมยาว เดี่ยวกดวางสายด้วยความมึนงง
“ นายเองเรอะแก้ว ที่เป็นคนโทรหาเรา “ แก้วยังคงยิ้มให้
“ เดี่ยว นายมาสาย ไป 15 นาทีวะ นายต้องรอให้งานประมูลจบก่อน แล้วเราจะบอกเรื่องไอ้เก่ง “เดี่ยวขมวดคิ้วมองแก้วอย่างไม่เข้าใจ พยายามมองหาเก่ง
“ นายมองหาเก่งมันเรอะ มันกลับไปแล้ว มันบอกว่าทันดูของที่มันรักถูกประมูลไม่ได้ “
เดี่ยวงงจะถามแต่ถูกแก้วดักคอไว้ก่อน
“ เราว่านายทำตามที่เราบอกดีกว่า อยู่รอจนงานจบแล้วนายจะรู้อะไรดีๆ ไปๆ ไปนั่งตรงนู้นกัน” แก้วชี้มือไปยังที่นั่งที่ยังว่างอยู่ 2 ที่คนที่นั่งถัดไปคือไอ้พัฒน์ บีม ไอ้เคนและแพท
“ อ้าวนายมาแล้วเหรอเดี่ยว นายมาไม่ทันไอ้เก่งกลับนะ “ เสียงไอ้พัฒน์บอก แต่เดียวยังคงงงหนัก
“ พวกนายเล่นไรกันเนี้ยไม่ขำนะ จะบอกเรื่องอะไรของไอ้เก่งก็รีบบอกมา “
“ พวกเราจะไม่บอกจนกว่างานประมูลจะเลิก ถ้านายทนไม่ไหวก็ตามใจนาย เราก็ไม่อยากให้เก่งมันยุ่งกับคนไม่มีความอดทนอย่างนายหรอก “ เสียงแก้วทำให้เดี่ยวเงียบได้ แต่ก็ยังคงนั่งขมวดคิ้วหงุดหงิดอยู่
การประมูลดำเนินมาจนเกือบ จะ 2 ชั่วโมง เดี่ยวถอนใจไปเกือบ 50 เฮือกได้แล้วมั้งถ้านับกันจริงๆ เบื่อที่จะต้องรออะไรนานๆ เหลือบมองไปทางเพื่อนๆของเก่งทุกคนยังคงทำหน้านิ่งไม่รู้ไม่ชี้
“ เอาล่ะคะ ภาพนี้เป็นภาพสุดท้ายแล้วนะคะ ชื่อภาพ the lover in sleep” ค่ะ ศิลปินผู้เขียนภาพคือ เก่งกาจ สินธุวงศ์ “ เสียงฮือฮาจาคนประมูลจนเดี่ยวต้องหันดูภาพนั่น มัน เดี่ยวถึงกับอึ้งไปชั่วขณะ เพราะหน้าคนในภาพเหมือนกับหน้าของเขา
“ภาพนี้เขียนเมื่อ 5 ปีที่แล้วค่ะ เป็นภาพสีน้ำมัน วาดแบบศิลปะคลาสสิกนะคะ เป็นภาพชายหนุ่มที่หลับใหลในยามเข้าที่มีแสงสว่างส่องกระทบตัว ขอเริ่มราคาประมูลที่ 20,000 บาทค่ะ “
นี่มันอะไรกันนี่มันรูปของเขา ! นี่ใครเป็นคนวาด เอ๊ะ! ศิลปินชื่อเก่งกาจ งั้น เก่งเป็นคนวาดรูปเขาไว้หรือนี่
“ นี่ไง ของที่ไอ้เก่งมันรักมาก รักมาตลอดจนถึงทุกวันนี้ “ เสียงแก้วที่บอกออกมา ทำให้เดี่ยวเริ่มย้อนคิด อะไรบ้างอย่าง ภาพนี้เก่งรักมากหรือ แล้วทำไมมันไม่รักเรา
“ แก้ว เราไม่เข้าใจ ถ้าเก่งรักเราทำไมต้องบอกเลิก” เดี่ยวเสียงแผ่ว รู้สึกร้อนรนอยู่ในใจไปหมด
“ เพราะมันรักนายยังไงล่ะ รักเลยไม่อยากให้นายเสียชื่อ เพราะรักเลยต้องบอกเลิก “ เดี่ยวหันมองหน้าแก้ว ผู้ซึ่งเป็นคนเขี่ยเศษของความเจ็บปวดที่ติดอยู่ที่ใจให้หลุดออก มองภาพที่เก่งวาดแล้วนึกอยากเจอเก่งเหลือเกินอยากเจอตอนนี้
“ เก่งอยู่ไหนตอนนี้ “ เดี่ยวถามด้วยใจที่ร้อนรน
“ เดี่ยวนายมาช้าไปแล้ว ไอ้เก่งมันเลิกรักนายไปแล้ว “ ไอ้พัฒน์แทรกขึ้นมา
“ 25,000 บาทครับ “ พร้อมเสนอราคาภาพขึ้นแล้วหันมายิ้มเยาะ
“ 25,000 นะคะ มีใครจะเสนอเพิ่มไหมคะ” เสียงของผู้ดำเนินการประมูลยังคงร้องถาม
“ เราว่ามันไม่สายหรอก เพราะเรารักเก่ง และเราก็แน่ใจว่าเก่งก็รักเรา 35,000 ครับ “ เดี่ยวบอกพร้อมเสนอราคาให้สูงขึ้น “ 35,000 แล้วนะคะมีใครจะให้ราคาเพิ่มไหมคะ “
“ 40,000 ครับ “ เสียงไอ้พัฒน์บอกพร้อมหันมายักคิ้วให้ “ เราจะเอารูปนี้ไปติดร้านกาแฟเรา เราไม่ให้นายง่ายๆหรอก “
เดี่ยวมองหน้าไอ้พัฒน์ขวางๆ
“ เราก็ไม่ยอมนายหรอก 60,000 ครับ “ เดี่ยวบอกแล้วหันไปยักหน้าพัฒน์ เสียงผู้คนฮือฮา เพราะราประมูลเริ่มสูงขึ้น เสียผู้ดำเนินการประมูลยังคงร้องถาม มีใครให้มากว่าอีกไหมคะ เดี่ยวมองหน้าพัฒน์แล้วยักหน้าให้ประมูลสู้กัน “ ok เรายอมแพ้ นายเอารูปนี้ไปเลย “
Ok งั้นจบที่ราคา 60,000 นะคะ เชิญผู้ประมูลมารับรูปด้านหลังนะคะ ต่อไปขอเชิญแขกทุกท่านร่วมสังสรรค์ในงานเลี้ยงคะ “ เดี่ยวผละออกจากกลุ่มเพื่อนของเก่ง เพื่อไปรับรูป แล้วกลับมาอีกครั้งในเวลาไม่นาน พร้อมหน้าที่ถมึงทึง
” ตอนนี้เก่งมันอยู่ไหน “ เสียงถามที่ร้อนทำให้เพื่อนๆของเก่งหัวเราะขำๆ
“ มันไปไหนเราจะไปรู้ได้ไง มันอาจจะไปสถานที่ในภาพมั้ง “ ได้ยินแค่นั้นเดี่ยวก็วิ่งออกไปทันที
“ เฮ้ย ขอให้หาเจอนะ “
เดี่ยวขับรถออกจากโรงเรียนเก่า ในหัวยังคงคิด ว่าเก่งไปไหน สถานที่ในภาพนี้มันที่ไหน รึจะเป็นหัวหิน น่าจะเป็นที่นั่น เก่งมุ่งหน้าไปขับรถไปด้วยใจที่ร้อนรน……
เดี่ยวขับรถอย่างร้อนใจกลับมาจาก ไปเที่ยวค้นหาเด็กน้อยของเขาอย่างวุ่นวาย แต่ก็ไม่เจอ สมองยังคงคิดอย่างหนักว่า เก่งไปอยู่ไหน สถานที่ในภาพ คือที่ไหน โอ๊ย คิดไม่ออก เดี่ยวรู้สึกเหนื่อยมากเมื่อจอดรถอยู่หน้าบ้านของตัวเอง วันนี้สงสัยคงหาไม่เจอแล้ว เขาถอนใจหยิบรูปที่เพิ่งได้มาเดินเข้าบ้านด้วยใจห่อเหี่ยว
หลังจากอาบน้ำจนสดชื่นเดี่ยวเดินมาหยุดมองภาพของตัวเองที่เพิ่งแขวนพร้อมครุ่นคิด สถานที่ในภาพงั้นเหรอ เท่าที่จำได้ เก่งมักมานอนห้องเขาแต่ก็ไม่ได้หยิบอุปกรณ์มาด้วย เฮ้ย ! งั้นรูปนี้ต้องวาดในห้องของเก่งสิ โธ่เอ๊ย ! ไมโง่งี้วะตู ตอนนี้ไอ้เก่งมันอยู่บ้านแน่ๆ เดี่ยวผลุนผลันวิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว
ไฟที่เปิดสว่างชัดเจนทำให้เห็นพนังที่โล่งไร้รูปแขวนไว้ ผิดกับเมื่อวาน เก่งมากแล้วรู้สึกสะท้อนใจ รู้งี้ไม่เอาไปประมูลก็ดี นั่นเป็นสมบัติที่เค้ารักมากที่สุดเลย ตอนนี้อะไรๆที่เกี่ยวเดี่ยวก็หายไปหมดแล้ว จี้หยกไม่รู้ไปตกหายที่ไหน รูปก้ไม่มี เออยังดีที่เหลือ ตุ้งติ้งเส้นเดียว เฮ้อ ทำอย่างนี้แล้วไม่เห็นตัดได้เลย ยังทรมานกว่าเดิมอีก ไม่เอาไม่คิดแลนอนดีกว่า ....
“ เก่ง ! เก่ง! “ เสียงทำให้เก่งชะงัก ใครเรียกวะ ! เขาหน้ายุ่งเดินไปยังระเบียงห้อง ร่างสูงๆคุ้นตาอยู่ในความมืดสลัว แต่ที่เห็นแจ่มชัดที่สุดคงจะเป็นรอยยิ้มกว้างบนหน้าขาวที่ส่งมาให้
“ เก่ง! ออกมาคุยกับเราหน่อยเรามีเรื่องจะคุยด้วย “
“ เราไม่มีอะไรจะคุยกะนายกลับบ้านไปซะ “ แม่งเอ๊ย ตามรังควานกันอยู่ได้แล้วงี้จะตัดใจได้ไง
“ เก่ง ! ออกมาคุยกันเดี๋ยวนี้นะ เร็ว ! “ เสียงสั่งที่แสดงให้เห็นว่าโกรธ ทำให้เก่งโกรธวูบขึ้นมาเหมือนกัน
“ ไม่ เราไม่ไป นายฝันไปเหอะ “ แล้วหันหลังเดินเข้าห้องทันทีที่พูดจบ
“ ไม่ยอมเปิดใช่มั้ย “ เก่งสะใจเมื่อได้ยินเสียงคำรามอย่างขัดใจอยู่ข้างล่าง
“ฮ่าๆ สมน้ำหน้า เก่งจริงก็ขึ้นมาให้ได้สิ “ เก่งตะโกนบอกพร้อมล้มตัวลงนอน เสียงของเดี่ยวเงียบไปแล้ว สงสัยคงกลับบ้านไปแล้ว รู้สึกเคลิ้มแต่ต้องตกใจเมื่อมีร่างบางร่างโถมทับเข้ามาจนกระดิกตัวไม่ได้ ผีอำ ! จะไม่น่ากลัวมากไปกว่าคนตัวโตที่นอนทับเขาจนกระดิกไม่ได้
“ นายนี่ยังตัวหอมเหมือนเดิมนะ “ คนตัวใหญ่มีกลิ่นเหงือจาง กล้ามเนื้อชุ่มไปด้วยเหงือลื่นๆ ลมหายใจร้อนรดหน้าเขาอยู่ตลอดเวลา
“วันหลังนายหัดล็อกกระจกบานเลื่อนมั่งนะ เดี๋ยวมีคนปีนขึ้นมาแล้วจะยุ่ง หึๆ” เสียงหัวเราะขำดังมาจากคนร่างใหญ่หายใจแรงๆ ตัวที่เบียดกันชักจะเริ่มร้อนขึ้นมา จนคนตัวใหญ่ชักทนไม่ไหวก้มลงมากดจมูกแรงๆ บนแก้มอย่างหมั่นเขี้ยว
“ เฮ้ย อย่าทำไรนาเว้ย จะคุยไรก็คุยมา “ เก่งดิ้นเพราะมันเริ่มจะมาอีกแล้ว
“ นายนี่ยังไงพอเรียกให้คุยกันดีกลับไม่คุย พอเวลาเราอยากคุยไม่คุย นายกลับจะคุย “ เก่งหน้าแดงเพราะแรงที่เบียดมากขึ้นทำให้อารมณ์ฟุ้งซ่าน
“ เก่งนายรักเราทำไมนายไม่บอกเรา “ เสียงเดี่ยวเว้าวอนนัยน์ตาเยิ้มไปหมด
“ ใครว่าเรารักนาย เราไม่ได้รักนาย “ เสียงตอบที่สั่นๆเมื่อเดี่ยวก้มหน้าลงมาจนชิด
“ เก่งนายนี่ปากแข็งไม่เลิกนะ นอกจากปากแข็งแล้วปากนายยังหวานน่าจูบด้วย “ เดี่ยวยิ้มก่อน ประกบปากลง เก่งหน้าตื่นสะบัดหน้าออก
“ เราไม่ได้รักนาย อย่ามาทำบ้าๆงี้นะเว้ย “
“แน่ใจนะ งั้นนายมากับเรา เราจะทำให้นายปฏิเสธไม่ได้ว่านายไม่ได้รักเรา “ คนตัวใหญ่กำข้อมือเก่งไว้จนแน่น แล้วลากเก่งให้เดินตามจนออกมานอกตัวบ้าน
“ เฮ้ย ไปไหน ไม่ไป ปล่อยเว้ย “ แต่เดี่ยวทำเหมือนไม่ได้ยินยังคงลากเก่งให้เดินตามต่อไปอย่างเร็ว ๆ จนเก่งเดินตามไม่ทัน
“ เฮ้ย พามาบ้านนาย ทำไม ! “ หัวเก่งเริ่มขึ้นอะไรขึ้นมาหลายอย่างขนเริ่มลุกซู่ นี่มันจะพาเรามาทำอย่างว่ารึเปล่าวะ
“ ตามเหอะ ยังไม่ทำอะไรตอนนี้หรอ ก “ เหมือนคนเดินนำหน้าจะรู้ตัว บอกออกมาแล้วหัวเราะขำ แต่เก่งไม่ได้ขำด้วยเลย มันว่าจะไม่ทำไรตอนนี้แล้วถ้าเลยตอนนี้ไปมันคงทำงั้นสิ แต่เพราะแกะมือไม่ออก เก่งก็ยังต้องเดินตามแรงดึงจนมาถึงห้องนอนของเดี่ยว
“ ที่นายบอกว่านายไม่ได้รักเราแล้ว รูปนี้มันหมายความว่าไง “ เก่งยืนจ้องรูปที่คิดว่าคงจะไม่ได้อีกเจอแล้วอย่างตะลึง
“ นายได้รูปนี้มาได้ไง “ เก่งถามขณะที่เอื้อมมือจับภาพอย่างทะนุถนอม รู้สึกดีใจที่ได้เจอสมบัติที่มีค่าของตนอีกครั้ง
“ เราประมูลมันมา เพราะเราคิดว่ามันคงเก็บความรักที่นายมีต่อเราไว้ เยอะน่าดู “ เสียงของเดี่ยวมาพร้อมอ้อมกอดอุ่นที่มาจากข้างหลัง
“ ตกลงนายจะปฏิเสธอีกเปล่าว่านายไม่รักเรา” อ้อมกอดนั่นรัดแน่นเสียงหัวใจของคนตัวโตดังจนเก่งได้ยิน เก่งตัวเบาหวิวเมื่อคนตัวโตฝังจมูกลงที่แก้มแล้วเลื่อนไปยังซอกคอ รู้สึกตัวอีกทีก็เมื่อหลังสัมผัสกับที่นอนนุ่มๆ เนื้อตัวเปลือยเปล่า โดยมีเดี่ยวทับอยู่
“ เก่ง นายช่วยบอกยืนยันอีกทีได้มั้ยเราอยากฟัง “
เก่งมองสบตานิ่งกับตาคู่นั้น ตาที่มี่หวานเยิ้มคู่นั้น เก่งหน้าแดงยิ้มตอบ ชะโงกหน้ากระซิบที่ข้างหู
“ บอกเราดังได้มั้ยเราไม่ได้ยินเลย “ เสียงของเดี่ยวร้องอ้อน จนเก่งสายหัว
“ ก็ได้ เดี่ยว เรารักเดี่ยวนะ รักมานานแล้ว “
คนตัวโต ยิ้มรับพร้อมประกบปากลงเนิ่นนานนำพาเก่งไปสู่อารมณ์ปรารถนา เสียงพึมพำผสมกับเสียงลมหายแรง ทุกอย่างดำเนินไปตามอารมณ์เร้าร้อนและ แรงกายของคนทั้ง 2
“ เก่ง เราต้องการนาย “ เสียงพึมพำยังคงดังกระซิบข้างหู แรงอารมณ์ของเดี่ยวนำพาแรงกายที่เร่าร้อนและรุนแรงมาเข้ามาสู่เก่ง
“ เก่ง..เรารักนาย รักนายตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกันแล้ว “ เสียงบอกที่ดังแผ่วกระท่อนแท่นเมื่อเดี่ยวสั่นสะท้านไปทั้งตัว กอดเก่งไว้จนแน่นอยู่เนิ่นกว่าที่จะคลายอ้อมกอดออก เก่งยิ้มเมื่อได้สิ่งที่รอคอยมานานแล้ว ในที่สุดก็ได้คำบอกรักจากเดี่ยว......แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว ไม่ต้องการอะไรแล้ว ไม่กลัวอะไรอีกแล้ว ......
บทส่งท้าย
“ มึงเป็นไงมั่งวะ ช่วงนี้ ขอโทษที่ไม่ได้ไปงานรับปริญญานะ ก็มึงแหละไม่ยอมบอกก่อน กูเลยกะเวลาไม่ถูก แต่ยังไงกูมีของขวัญไปให้มึงแน่นอน ตอนนี้ที่อังกฤษฝนตกไม่ค่อยชอบวะ ไม่ค่อยได้ไปไหน ไม่ค่อยได้ไปเที่ยว ได้แต่ช่วยงานร้านอาหารของพ่อแม่ไอ้เดี่ยว ช่วงนี้คนโคตรเยอะเลย หัวหมุนไปหมด ไม่น่าเชื่อเลย เปิดมาแค่ 1 ปีเดียวลูกค้าจะเยอะขนาดนี้ เดือนหน้ากูก็จะกลับเมืองไทยแล้วไอ้เดี่ยวมันก็จะกลับพร้อมกันด้วย มันว่ากูไปไหนมันไปด้วย ไอ้นี่ตามติดอย่างกับตังเม ความจริงมันขอให้กูอยู่กับพ่อแม่มันที่อังกฤษเลย แต่กูก็คิดถึงเมืองไทย คิดถึงพ่อแม่แล้วก็พวกมึงก็ เลยกลับเมืองไทยดีกว่า เอาไว้ค่อยไปเยี่ยมพ่อแม่ของไอ้เดี่ยวบ่อยๆแล้วกัน ดีใจมั้ยมึงที่กูคิดถึงพวกมึง อย่าลืมมารับด้วยนะ ไว้ได้วันกลับที่แน่นอนจะโทรมาบอก นี่ๆ ได้ข่าวตอนนี้มึงมีหนุ่มหล่อมาคอยเฝ้าเรอะ ฮ่าๆๆ เสร็จแน่ไอ้แก้ว วันนั้นไอ้พัฒน์มันนินทาให้กูฟังว่าพี่เค้ามาเฝ้ามึงที่ร้านกาแฟไอ้พัฒน์นี้ แหม มึงไปทำอะไรพี่เขาวะถึงได้หลงมึงซะขนาดนั้น นี่ถ้ามึงชอบเขาก็ตอบรับเค้าไปเหอะ รอนานเดี๋ยวก็แก่หรอกมึง แล้วตอนนั้นจะมานั่งเสียใจไม่ได้นะเว้ย
กูแนบรูปที่กูไปเทียวมาให้มึงดูด้วย ดูรูปแล้วอย่าอ้วกนะมึง กกูกะไอ้เดี่ยวรักกันนี่ ถ่ายรูปมามันก็ต้องอย่างนี้แหละ ถ้าอิจฉาก้รีบมีซะ เชื่อกูชีวิตคนเรามันสั้นนะเว้ย อะไรที่มึงอยากจะทำมึงก็ทำไปเลย ถ้าไม่เดือนร้อนใคร มึงอย่าเอาอย่างกูที่กว่าจะเข้าใจกับไอ้เดี่ยวก็เกือบจะสาย มันอาจมีคนรับไม่ได้บ้างก็คงต้องปล่อยวะ เพราะไม่นานเขาก็ชินไปเอง แต่นี่พูดจริงนะ ไม่รู้พ่อแม่กูจะร้รึยัง กูยังเสียวๆ อยู่เหมือนกัน กลัวเค้าทำใจไม่ได้ อ้าวโทษทีเริ่มเศร้า เอาเป็นตอนนี้กูมีความสุขดี ที่นีเค้าไม่ค่อยถือเรื่องชายรักชายว่ะ กูกะไอ้เดี่ยวเลยสวีทกันน่าดูเลย
อ้อ แล้วอีกอย่างนึง เมื่อไหร่มึงจะสมัคร msn ซะทีวะ กูกะมึงจะได้คุยกันบ่อยกว่านี้ กูขี้เกียจเขียนจดหมาย ถ้ามึงสมัครแล้วให้ให้พัฒน์มันเมลล์ E.mail มึงมาบอกกูด้วย
ปล.ห้ามเข้ามาคุยกับกูตอนกูจะนอนนะ เดี๋ยวโดนไอ้เดี่ยวมันบ่นเอา เพราะกูมีไรต้องทำกับมันเยอะเลย
ไม่มีเวลาว่ะ อิๆๆ อย่าลืมดูรูปนะมึง
คิดถึงนะโวย
เก่ง(เพื่อนของมึงแหละ)
“ ขำอะไรน่ะแก้ว แล้วนั่นจดหมายใคร พี่เห็นเราอ่านแล้วนั่งยิ้มไปยิ้มมาอยู่ได้ “ เสียงของผู้ชายร่างสูงที่เดินมาจากโต๊ะคอมพิวเตอร์มุมห้องเข้านั่งชิด จนแก้วต้องขยับหนี
“ จดหมายเพื่อน ครับ “
“ เหรอ อ่านจบยัง ไปไปนอนกันได้แล้ว “ เสียงพี่ใหญ่ดังมาใกล้หูมือดึงแก้วให้เดินตามไปนอน โอยหน้าแดง ไอ้เก่งนะไอ้เก่งอุตส่าห์จะไม่คิดเรื่องนี้แล้วเชียวเสือกปลุกระดม ไอ้พัฒน์เหมือนกันตัวดีนักนะมึง ปากโป้ง ถ้าเจอกันครบละก็พวกมึงตายแน่
“ เอ้า นอนได้แล้ว “ แก้วหลับตาตามเสียงสั่งปล่อยให้มืออุ่นนั่นรัดให้ความอบอุ่นอีกครั้ง นี่เรื่องของจะเหมือนเรื่องของไอ้เก่งรึเปล่านะ ...........เฮ้ย ! คิดอะไรเนี้ย ...
{ เช่นเคยครับ หากมีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยด้วยครับ ไงช่วย comment ด้วยน่ะครับ ผมจะได้ปรับปรุง }