วิหารจันทรา
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

โพลล์

คุณชอบตอนจบแบบไหนของนิยายเรื่องนี้

รพีพันธ์ได้เจอกับจันทิรักษ์
204 (80.3%)
รพีพันธ์ได้ลูกชายฝาแฝด คืออัสสะ&จันทริ
50 (19.7%)

จำนวนผู้โหวตทั้งหมด: 165

ผู้เขียน หัวข้อ: วิหารจันทรา  (อ่าน 232698 ครั้ง)

ken_krub

  • บุคคลทั่วไป
เป็นกำลังใจให้ครับ

Kirimanjaro

  • บุคคลทั่วไป
ผมว่าชื่ออาทิตย์ดูไม่เหมาะเป็นชื่อเล่นน่ะครับ
น่าจะใช้คำพื้น ๆ ธรรมดา  อย่างเช่นคำว่า 
ตาวัน, วัน, ทิว(า) ที่มีความหมายเกี่ยวพันน่าจะดูสมจริงกว่าครับผม

ส่วนจันทรินี่  ถ้าชื่อเล่นว่า โสม  ก็น่าจะดีแฮะ  เพราะหมายถึงสุราด้วย  ดื่มแล้วเมา(รัก)  อิอิ

ออฟไลน์ บุหรง

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 854
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +709/-3
    • My FB
ผมว่าชื่ออาทิตย์ดูไม่เหมาะเป็นชื่อเล่นน่ะครับ
น่าจะใช้คำพื้น ๆ ธรรมดา  อย่างเช่นคำว่า 
ตาวัน, วัน, ทิว(า) ที่มีความหมายเกี่ยวพันน่าจะดูสมจริงกว่าครับผม

ส่วนจันทรินี่  ถ้าชื่อเล่นว่า โสม  ก็น่าจะดีแฮะ  เพราะหมายถึงสุราด้วย  ดื่มแล้วเมา(รัก)  อิอิ
เรื่องของชื่อ ผมคิดว่า ชื่อก็คืำอคำใช้เรียกบุคคล จะใช้คำอย่างไรก็ได้ และคำว่า อาทิตย์ คือคำที่สามัญที่สุด ในความหมายของ พระอาทิตย์ มันชัดดีครับ ที่สำคัญคือ แปลมาจาำกชื่อจริงชือ รพี แล้วต้องการจะใช้ในความหมายอื่นอีกในตอนอื่น
จันทริ ไม่มีชื่อเล่นครับ เพราะเป็นคนที่อยู่คนละยุค แล้วที่ผมเลือกใช้ชื่อนี้ เดี๋ยวตอนจบจะรู้ครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-07-2008 17:21:59 โดย บุหรง »

ออฟไลน์ บุหรง

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 854
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +709/-3
    • My FB
๐๖

รพีพันธ์ ค่อนข้างสับสน ตั้งแต่ก่อนจะเดินลงมาจากไหล่เขา ผ่านมาตามทางเดินค่อนข้างกว้าง ที่ได้รับการตัดถางอย่างดี สองฟากข้างมีทั้งต้นไม้ใหญ่ และพุ่มไม้เตี้ยๆ มองดูร่มรื่น ไม่นานนักก็ถึงตัวหมู่บ้าน ที่มีบ้านเรือนเรียงรายกันอยู่หลายสิบหลังคาเรือน ตัวบ้านมีลักษณะเป็นเรือนไม้ใต้ถุนสูง คล้ายบ้านตามชนบทที่เขาเคยเห็น ใต้ถุนบ้านจัดวางด้วยเครื่องเรือนเครื่องใช้ต่างๆกันไป บางหลังมีคนทอผ้าอยู่ในบริเวณใต้ถุนบ้าน บ้างก็ทำงานจิปาถะกันอยู่ ส่วนใหญ่จะเป็นคนสูงอายุเสียเป็นส่วนมาก เสื้อโปโลแขนสั้นสีแดงสด กางเกงขาสั้นสีเทา รองเท้าสานอย่างดี ที่เขาสวมใส่ กลายเป็นการแต่งกายที่ค่อนข้างประหลาด เพราะคนที่เขาเห็นล้วนแต่งตัวด้วยเสื้อกางเกง ตัดเย็บจากผ้าดิบย้อมสีน้ำเงินเข้ม หรือสีดำ รพีพันธ์สังเกตว่าหลายคนที่มองมายังเขานั้น มีสายตากึ่งยำเกรง กึ่งหวาดกลัวอยู่บ้าง

“คนไปไหนกันหมด” รพีพันธ์ ถามคนที่เดินนำอยู่ข้างหน้า
“คน...” จันทริ หยุดเดิน หันตัวมามอง รพีพันธ์ แล้วมองไปรอบๆก่อนจะหันกลับมาพูดอีกครั้ง “แล้วที่ท่านเห็นอยู่นั่น มิใช่หรือไร”
... เออนะ พูดแบบนี้ กวนนี่หว่า ... รพีพันธ์ คิดในใจ แต่เมื่อมองเห็นสีหน้าของ จันทริ ที่เปี่ยมไปด้วยความสงสัย พลางขมวดคิ้วแนบแน่น เขาก็อดหัวเราะเบาๆไม่ได้
“ผมหมายถึงคนหนุ่มสาว แล้วก็พวกเด็กๆน่ะ” รพีพันธ์ พูดยิ้มๆ
“อ้อ” จันทริ ถึงได้เข้าใจ “คนหนุ่มสาวและคนที่พอจะทำงานได้ ต่างออกทำงานที่ไร่ท้ายหมู่บ้าน บ้างก็เข้าป่าล่าสัตว์ หาสมุนไพร ส่วนเด็กๆนั้น เวลานี้เป็นเวลาร่ำเรียน”
เมื่อเห็น รพีพันธ์ พยักหน้าเหมือนเข้าใจ จันทริ ก็หันกลับเดินนำ รพีพันธ์ แล้วเดินเข้าไปยังใต้ถุนบ้านหลังหนึ่ง

“แม่เฒ่า ข้านำผ้าปักมาให้” จันทริ ทักทาย แล้วนั่งลงข้างๆหญิงชรา ที่นั่งอยู่บนเสื่อ และกำลังจัดด้ายสีต่างๆให้เป็นกลุ่ม
“เสร็จแล้วหรือ” หญิงชรายื่นมือรับผ้าสีสดหลายผืน มาวางไว้ข้างๆตัว หยิบผ้าผืนบนสุด คลี่กางออกแล้วชูขึ้นดู
“งามเช่นเคย” หญิงชรายิ้มอย่างพอใจ เมื่อมองเห็นลายปักรูปดอกไม้หลากสี ที่ดูเด่นอยู่บนผืนผ้าสีเหลืองสด
“พรุ่งนี้ข้าจักให้คนนำผ้าใหม่และด้ายสี นำขึ้นไปให้ท่าน” หญิงชราพูดพลางค่อยๆพับผ้า
“ใยมิให้ข้านำไปเองวันนี้เสียเลย”
“ผ้าที่ย้อมไว้ยังมิแห้งสนิทดี” หญิงชราหันมาตอบ “ท่านเองก็เถิด มิจำเป็นต้องนำลงมาส่งให้ ด้วยตนเองเช่นนี้” หญิงชราพูดด้วยสีหน้าเกรงใจ
“หาเป็นไรไม่ ข้าเองก็อยากลงมาเยี่ยมเยียนพบหน้าพวกท่านบ้าง มิได้พบกันนานวัน ข้าคิดถึงมิน้อย”
หญิงชราได้ฟัง ก็ยิ้มพลางมอง จันทริ ด้วยสายตาอ่อนโยน แต่ก็แฝงไว้ด้วยความเคารพ แล้วเหลือบสายตาไปที่ รพีพันธ์
“เขาอยากมาดูให้เห็น ว่าที่นี่เป็นสถานที่เยี่ยงใดกันแน่”
จันทริ พูดพลางมอง รพีพันธ์ ด้วยสายตาห่วงใย แล้วหันกลับมาพูดกับหญิงชราด้วยสีหน้าที่อ่อนโยน แต่แฝงไว้ด้วยความน่าเกรงขาม
“นับแต่นี้ไปสามราตรี ผู้เดินทางไกลจักกลับมาในยามเที่ยง”
“จริงรึ” หญิงชราพูดด้วยน้ำเสียงดีใจ แต่แล้วก็ต้องเปลี่ยนเป็นท่าทางที่เคารพ และนอบน้อมต่อคนเบื้องหน้าเป็นอย่างยิ่ง เมื่อมองเห็นประกายแสงอ่อนๆ ปรากฎขึ้นกลางหน้าผากของ จันทริ

รพีพันธ์ ยืนฟังคำพูดคุย ที่ใช้ถ้อยคำและรูปประโยคแปลกๆ ด้วยความรู้สึกประหลาดใจ
... นี่เขาหลงมิติมาเหรอ ... เมื่อเขาถาม จันทริ ว่าวันนี้เป็น วันเดือนปี อะไร ก็ไม่ได้รับคำตอบ นอกจากสีหน้าที่เต็มไปด้วยความสงสัย ในสิ่งที่เขาถาม
“จังหวัดและประเทศคือสิ่งใดหรือ” เป็นคำตอบของ จันทริ เมื่อเขาถามไปว่า ที่ที่เขาอยู่ในตอนนี้ เป็นพื้นที่ของจังหวัดอะไร และอยู่ในประเทศไหนกัน
รพีพันธ์ แทบจะทำใจให้เชื่อไม่ได้จริงๆ ว่าเขาอาจจะหลงมาอยู่ในช่วงใดช่วงหนึ่ง ของห้วงเวลาในอดีต เหมือนในภาพยนต์หลายเรื่องที่เขาเคยดู แต่ตอนนี้สิ่งนั้นกำลังเกิดขึ้นกับตัวเขาเอง รู้สึกใจชื้นอยู่บ้าง ที่ภาษาของที่นี่ยังเป็นภาษาไทย ถึงแม้คำที่ใช้และการเรียงประโยค จะดูแปลกๆ แต่ก็ยังพอจะสื่อสารกันได้ เรื่องของการดำเนินชีวิต คงจะไม่ลำบากเท่าใด เขาคงจะได้รับการช่วยเหลือ จากคนในหมู่บ้านนี้ตามสมควร แต่สิ่งที่เขากังวลเป็นอย่างมาก ก็คือเขาจะยังมีโอกาสกลับไปยังโลกเดิมของเขาหรือไม่ จะเป็นไปได้ไหมที่เขาพบหน้าพ่อแม่ เพื่อนๆ รวมทั้งคนรักของเขาอีกครั้ง

“หน้าท่านขาวซีด รู้สึกไม่สบายที่ใดหรือไม่” รพีพันธ์ หันไปตามเสียงด้วยความตกใจ จันทริ นั่นเอง ไม่รู้ว่าลุกเดินมายืนอยู่ข้างๆเขาตั้งแต่ตอนไหน
“เอ้อ ... ผมคิดอะไรเพลินๆไปหน่อย ไม่เป็นอะไรหรอก”
“มิเป็นไรดอก มิต้องเป็นกังวลในสิ่งใด” กึ่งกลางหน้าผากของ จันทริ เหมือนส่องประกายสีขาวออกมา
“ท่านจักได้กลับคืนสู่ถิ่นฐานของท่านอย่างแน่นอน ท่านจักกลับคืนสู่บุคคลอันเป็นที่รักของท่าน เมื่อถึงเวลาอันสมควร มินานนักดอก”

รพีพันธ์ ยกมือขึ้นขยี้ตา เขาแทบไม่เชื่อสายตาของตนเอง รอยสีขาวรูปจันทร์เสี้ยว ปรากฏวูบขึ้นมาบนกึ่งกลางหน้าผากของ จันทริ จันทร์เสี้ยวดวงนั้นส่องประกายสว่างอยู่ชั่วครู่ แล้วค่อยๆจางหายไป

และในช่วงเวลานั้น หากมีใครมองมาที่ รพีพันธ์ จะเห็นแสงสีแดงส่องสว่างลอดผ่านเนื้อผ้า บริเวณหน้าอกของชายหนุ่ม แสงนั้นสว่างวูบวาบอยู่พักหนึ่ง แล้วค่อยๆจางหายไป พร้อมๆกับการหายไปของจันทร์เสี้ยว กลางหน้าผากของ จันทริ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-07-2008 07:19:24 โดย บุหรง »

ken_krub

  • บุคคลทั่วไป
มาเป็นกำลังใจให้ครับ

ออฟไลน์ กิมตี๋หัดขับ

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1466
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-3

มาอ่านด้วยคนน่ะ อิอิอิ  :a5:  :m4:

ออฟไลน์ Tetjinen

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 390
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-0
 :m29: สงสัยจังตอบจบจะได้อยู่ด้วยกันไมเนีย

๐๖

รพีพันธ์ ค่อนข้างสับสน ตั้งแต่ก่อนจะเดินลงมาจากไหล่เขา ผ่านมาตามทางเดินค่อนข้างกว้าง ที่ได้รับการถากถางอย่างดี สองฟากข้างมีทั้งต้นไม้ใหญ่ และพุ่มไม้เตี้ยๆ มองดูร่มรื่น ไม่นานนักก็ถึงตัวหมู่บ้าน

ดูจากบริบทแล้วน่าจะเป็น ถาง หรือ แผ้วถาง หรือเปล่า?  :confuse:

sun

  • บุคคลทั่วไป


จะต้องมีอะไรสำคัญเกิดขึ้น เป็นแน่แท้ชิมิ   รพีพันธ์ ถึงได้หลุดมาอยู่ ที่หมู่บ้านจันทรา ได้

ออฟไลน์ อิง

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 840
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +137/-6
 :oni2: อ่านทันแล้ว  o7

หมู่บ้านจันทรา อยู่ตรงไหน อ่านแล้วอยากหลงไปอยู่บ้างจัง ท่าทางจะดูสงบดี  :laugh:

รอลุ้นตอนต่อไปว่า “นับแต่นี้ไปสามราตรี ผู้เดินทางไกลจักกลับมาในยามเที่ยง” จะเป็นใคร?

เป็นกำลังใจให้คุณบุหรงต่อไปค่ะ  :L2:


ออฟไลน์ บุหรง

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 854
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +709/-3
    • My FB
๐๗

“ดื่มนี่เสีย” จันทริ ยื่นถ้วยดินเผาใบเล็กๆให้ รพีพันธ์ ในถ้วยบรรจุด้วยน้ำผึ้ง แต่มีสีขุ่นๆและกลิ่นแปลกๆปนอยู่ คงจะมีอย่างอื่นผสมอยู่ด้วย
“อะไร” รพีพันธ์ ถามอย่างระแวง
“ท่านยังมีไข้อยู่ ดื่มยานี้เสียหน่อย จักได้หายขาด” จันทริ พูดพลางยิ้มให้ รอยยิ้มนั้นอ่อนหวาน จน รพีพันธ์ แทบจะลืมไปว่า คนที่อยู่ตรงหน้าเขานี้ เป็นผู้ชาย สายตาที่เปี่ยมไปด้วยไมตรีจิตร และความจริงใจ ทำให้ รพีพันธ์ ดื่มยาในถ้วยจนหมด

จันทริ ถือถาดอาหารและอ่างล้างมือออกไปนอกเพิง แล้วกลับเข้ามา พร้อมกับอ่างดินเผาที่บรรจุน้ำสะอาดไว้เกือบเต็ม นำไปวางไว้บนโต๊ะปลายเตียง แล้วหันไปพูดกับชายหนุ่ม
“มานั่งตรงนี้” รพีพันธ์ ได้ยินก็เขยิบตัวมานั่งที่ปลายเตียง
“ข้าจะเช็ดตัวให้ ท่านจะได้สบายตัว” พูดแล้ว จันทริ ก็เอื้อมมือมาจับที่ชายเสื้อ เหมือนจะถอดเสื้อของชายหนุ่มออก
“ผมทำดีกว่า คุณ ... เอ้อ ... คุณรอข้างนอกก็ได้” รพีพันธ์ พูดอย่างขัดเขิน ไม่รู้ตัวเหมือนกันว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้
“เช็ดตัวแล้วก็เปลี่ยนเสื้อผ้าเสีย เสื้อผ้าพวกนี้ท่านคงพอใส่ได้” จันทริ เอื้อมมือไปหยิบผ้าผืนย่อม มาวางไว้ข้างๆอ่างน้ำ พลางชี้ไปที่เสื้อผ้าที่วางอยู่อีกด้านของโต๊ะ
“ข้าจะไปอาบน้ำสักครู่ แล้วจะรีบกลับมา” พูดแล้ว จันทริ ก็เดินออกไปจากเพิง

รพีพันธ์ค่อยๆถอดเสื้อผ้าออก เหลือไว้เพียงกางเกงใน แล้วเอาผ้าชุบน้ำบิดหมาดๆ ค่อยๆเช็ดไปตามใบหน้าและร่างกาย เมื่อเสร็จแล้วก็แต่งตัวด้วยเสื้อผ้าที่ตัดเย็บจากผ้าฝ้ายสีน้ำเงินเข้ม มีแม้กระทั่งกางเกงขาสั้นที่คล้ายกางเกงในบอกเซอร์ จากนั้นเขาก็เดินออกมาสูดอากาศนอกเพิง จากที่เขาทราบ ช่วงนี้เป็นช่วงกลางฤดูร้อน อากาศภายในหมู่บ้านมีความร้อนอบอ้าวอยู่บ้าง แต่ภายในบริเวณที่เขายืนอยู่นี้ กลับเหมือนมีลมอ่อนๆพัดให้รู้สึกสบายอยู่ตลอดเวลา ช่วงนี้เป็นเวลาพระอาทิตย์เริ่มลับขอบฟ้า มองลอดไประหว่างเงาไม้ เห็นแสงสีส้มอ่อนๆเลือนลาง เสียงร้องแว่วๆของเหล่านกที่เริ่มบินกลับรัง และเสียงจิ้งหรีดเรไรที่กรีดร้องกันอยู่เบาๆ ฟังดูแล้วช่างน่ารื่นรมย์นัก

“เฮ้อ....” เขาถอนหายใจยาว แล้วรู้สึกว่าหนังตาเริ่มหนักขึ้น
“ทำไมง่วงแล้ววะ เพิ่งจะเริ่มมืดเอง” เขาบ่นออกมาเบาๆ
“เพราะยาที่ข้าให้ท่านดื่ม” เสียงเบาๆดังขึ้นที่ด้านหลัง รพีพันธ์ หมุนตัวไปด้วยความตกใจ ก็พบว่าเป็น จันทริ นั่นเอง เขาขยี้ตาตัวเองเบาๆ เพราะเหมือนกับว่าเขาเห็นร่างของ จันทริ มีแสงส่องออกมาเป็นประกายอยู่รอบตัว
“เข้าไปพักผ่อนเถิด ยาที่ข้าจัดให้จักทำให้ท่านหลับสบาย ตื่นมาวันพรุ่ง ความเจ็บป่วยจักได้หายไปสิ้น”
จันทริ เอื้อมมือมาจับมือของ รพีพันธ์ เอาไว้ เขาเพ่งตามองอีกครั้ง ก็เห็นว่าแสงเรืองๆที่เหมือนกระจายออกมาจากร่างของ จันทริ นั้น หายไปแล้ว เหลือแต่หยดน้ำเล็กน้อย ที่หยดจากเส้นผมที่เปียกชื้น กับใบหน้าที่ประดับด้วยรอยยิ้มอันอ่อนโยน เขาเดินตาม จันทริ ที่จูงมือเขาเข้าไปในเพิง แล้วนั่งลงบนเตียง จันทริ ขยับตัวไปจัดหมอนให้เข้าที่
“นอนเถิดท่าน มิต้องกังวลเรื่องใด ข้าจักดูแลท่านเอง”

ด้วยความง่วงงุนที่เริ่มจู่โจม รพีพันธ์ จังเอนตัวลงนอน จันทริ คลี่ผ้าห่มผืนบางคลุมตัวเขาไว้ แล้วนั่งลงข้างๆ
“อยู่ข้างๆผมนะ อย่าไปไหน” รพีพันธ์ พูดเบาๆพลางเอื้อมมือไปจับมือของ จันทริ ไว้ เขาปฏิเสธไม่ได้เลยว่ายังมีความกลัวอยู่บ้าง เพราะตอนนี้เขาแน่ใจแล้วว่า เขาอยู่ในที่ที่เขาไม่รู้จัก ที่ที่เขาไม่มีใครเลย นอกเสียจากคนที่อยู่กับเขาตอนนี้ ... จันทริ
“วางใจเถิด ข้าจะอยู่ข้างๆท่าน” จันทริ พูดพลางใช้มืออีกข้างหนึ่ง ลูบไปตามปอยผมบริเวณกกหูของ รพีพันธ์ อย่างแผ่วเบา
“มิต้องกังวลสิ่งใด ที่แห่งนี้ท่านจักปลอดภัย ไม่มีอันตรายใดคุกคามต่อท่านได้ ทุกผู้คนล้วนยินดีในการมาถึงของท่าน และจะให้ความเคารพต่อท่าน เฉกเช่นที่พวกเขามีต่อข้า แล้ววันหนึ่ง ท่านจะได้กลับคืนสู่บ้านของท่าน ข้าให้สัญญา”

บ้าน ... รพีพันธ์ คิดแล้วรู้สึกอบอุ่นขึ้นมา เขาลืมตามองดูหน้า จันทริ อีกครั้ง รอยยิ้มนั้นอบอุ่น อ่อนโยน ทำให้เขาอุ่นใจจนขยับตัวเปลี่ยนไปนอนหนุนตักของ จันทริ โดยที่ไม่รู้ตัว ก่อนที่เขาจะหลับตาลง ก็มองเห็นแสงอ่อนๆปรากฏขึ้นอีกครั้งที่หน้าผากของ จันทริ แสงสว่างของจันทร์เสี้ยว คำพูดของใครบางคนผุดขึ้นมาในความคิดของ รพีพันธ์ ก่อนที่เขาจะหลับไป

... ปานรูปจันทร์เสี้ยวสีขาว สัญลักษณ์ของร่างทรงแห่งจันทราเทพ ...

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






BEta-K

  • บุคคลทั่วไป
มาต่อตอนใหม่เร็วๆนะครับ  :m4:  :oni2:

ken_krub

  • บุคคลทั่วไป
เป็นกำลังใจให้ครับ

ออฟไลน์ กิมตี๋หัดขับ

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1466
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-3

น่าติดตามยิ่งนัก จันทริ  อิอิอิ :m1:

ออฟไลน์ Tetjinen

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 390
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-0
 :m1: หุหุอาทิตย์อ้อนจันทร์

ออฟไลน์ patee

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3732
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +276/-3
สุริยัน - จันทรา

ถึงจะคู่กัน แต่ก็อยู่กันคนละเวลา

อย่าเป็น sad story นะ

three

  • บุคคลทั่วไป
น่าสนุกมากๆครับรีบมาต่อนะครับผม :L2:

ออฟไลน์ zandwizz

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2245
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +148/-7
 :m13: :m13: หุหุ  นอนหนุนตักกันด้วย อิอิ


ออฟไลน์ บุหรง

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 854
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +709/-3
    • My FB
๐๘

“ตื่นแล้วหรือ” เสียงทักทายดังขึ้นมาจากทางปลายเตียง เมื่องัวเงียตื่นขึ้นมา “ล้างหน้าเสียก่อน ข้าจะจัดเตรียมอาหารเช้ามาให้” พูดจบ จันทริ ก็เดินออกไปจากเพิง

รพีพันธ์ ลุกจากเตียงเดินมาที่โต๊ะ หยิบกิ่งข่อยที่ทุบด้านหนึ่งจนแหลกมาแปรงฟัน แล้วใช้ถ้วยใบเล็กตักน้ำในอ่างน้ำขึ้นมาบ้วนปาก บ้วนน้ำลงไปในอ่างเปล่าอีกใบหนึ่ง จากนั้นก็ตักน้ำขึ้นมาอีกเทน้ำใส่มือ เพื่อชำระล้างไปตามใบหน้าและลำคอ จากนั้นก็เช็ดหน้าด้วยผ้าสะอาดที่พับเตรียมไว้อย่างเรียบร้อย
“กินมื้อเช้าเสียก่อน ให้แดดออกพออุ่นขึ้นอีกสักนิด ข้าจะพาไปอาบน้ำชำระกาย” จันทริ บอกเขาในขณะที่กำลังวางถาดอาหาร และอ่างน้ำสำหรับล้างมือลงบนเตียง
... อาบน้ำเหรอ ดีเหมือนกัน ได้แต่เช็ดตัวมาหลายวันแล้ว ... รพีพันธ์ คิดพลางเดินไปนั่งลงบนเตียง มองไปที่ถาดอาหารก็เห็นเป็นอาหารง่ายๆเช่นเคย ผลไม้ของมื้อนี้ เป็นมะละกอสุก ที่หั่นเป็นชิ้นเล็กพอดีคำ
“กินอาหารคล้ายๆกันมาหลายมื้อ เบื่อบ้างหรือไม่ หากต้องการสิ่งใดเป็นพิเศษ ก็บอกมา จะได้ลองจัดหามาให้” พอฟังสำเนียงการพูดแปลกๆ ที่เริ่มคุ้นเคยมากขึ้น รพีพันธ์ รับรู้ถึงความห่วงใย ความเอาใจใส่ที่แฝงมาในคำพูดนั้น
“คุณล่ะ กินข้าวเช้าแล้วเหรอ” เขาถามพลางตักผักดองเข้าปาก ตามด้วยข้าวต้มอีกคำ
“ข้ากินแล้ว” จันทริ พูดยิ้มๆ พลางนั่งเงียบๆ มองดูชายหนุ่มกินอาหารจนเสร็จ แล้วเก็บถาดอาหารและอ่างล้างมือออกไป แล้วเดินไปนั่งปักผ้าที่ก้อนหินใหญ่ใต้ต้นไม้ ที่เดิมที่เขาเห็นตลอด ๓ วันที่ผ่านมา

รพีพันธ์ ได้รับการดูแลและการปรนนิบัติอย่างดีจาก จันทริ มาตลอดช่วง ๓ วัน อาหารทุกมื้อจะถูกส่งมาจากหมู่บ้านข้างล่าง รวมทั้งเสื้อผ้าชุดใหม่ที่ต้องผลัดเปลี่ยน ภาชนะที่ใช้แล้วและเสื้อผ้าที่ใส่แล้ว จะถูกนำลงไปทำความสะอาดโดยคนในหมู่บ้าน นอกจากอาหารมื้อหลักแล้ว ด้านนอกของเพิงยังมีแคร่วางของเล็กๆ วางไว้ด้วยผลไม้นานาชนิด และกระปุกเคลือบบรรจุผลไม้แห้ง ผลไม้เชื่อม ผลไม้แช่อิ่ม หรือ เมล็ดแตง เมล็ดทานตะวัน ให้ได้กินเล่นในบางเวลาด้วย และยังมีไหน้ำผึ้งอีกไหใหญ่ที่เขามักจะเห็น จันทริ ใช้ถ้วยใบเล็กๆตักขึ้นมากินอยู่บ่อยๆ

บางวัน จันทริ จะพาชายหนุ่มเดินไปดูรอบๆบริเวณหมู่บ้าน ดูคนทำงานในสวนผลไม้ สวนผัก สวนฝ้าย หรือดูผึ้งที่คนในหมู่บ้านลี้ยงไว้ บางครั้งก็เข้าไปพูดคุยกับคนในหมู่บ้าน พาไปนั่งในศาลาใหญ่ที่ใช้เป็นที่เรียนหนังสือของเด็กๆ ซึ่งตั้งอยู่ทั้งสี่ทิศของหมู่บ้าน คนในหมู่บ้านล้วนแต่มีรูปร่างค่อนข้างสูงใหญ่ ผู้ชายสูงพอๆกับเขา บางคนสูงกว่าเขาเสียด้วยซ้ำ ส่วนผู้หญิงก็สูงประมาณ ๑๗๐ เซนติเมตรเป็นส่วนใหญ่ ใบหน้าทุกคนล้วนประดับด้วยรอยยิ้ม แสดงถึงความเป็นมิตร ถึงแม้จะมีแววแตกตื่นกันอยู่บ้างเมื่อเห็นชายหนุ่มในวันแรกๆ บางที จันทริ ก็พาชายหนุ่มไปเดินเล่นริมแม่น้ำใหญ่ ที่อยู่ไม่ไกลจากหมู่บ้านนัก จากที่เขาเห็นหมู่บ้านแห่งนี้นับเป็นหมู่บ้านขนาดใหญ่ทีเดียว การใช้ชีวิตท่ามกลางธรรมชาติอันสุขสงบ ทำให้เขาลืมความวุ่นวายใจไปได้บ้างเหมือนกัน

ความวุ่นวายใจอันเนื่องมาจากความแปลกที่ แปลกถิ่น แปลกทั้งการดำเนินชีวิต และอนาคตที่มองไม่ออกเลยว่าจะเป็นเช่นไรต่อไป
“เฮ้อ...” รพีพันธ์ ถอดหายใจยาว แล้วลุกเดินออกจากเพิง ไปนั่งลงที่พื้นข้างๆก้อนหินใหญ่ที่ จันทริ นั่งอยู่ พลางชำเลืองมองผ้าสีแดงสดในกรอบไม้ขนาดใหญ่ ที่กำลังปักเป็นรูปนกยูงกำลังรำแพนหาง สีเขียวสดแกมน้ำเงิน
“ทำไมคุณมาอยู่ที่นี่ล่ะ” รพีพันธ์ ถามขึ้น
“ตรงนึ้นั่งสบาย”
“ไม่ใช่” ชายหนุ่มพูดพลางหัวเราะเบาๆ “ผมหมายความว่า ทำไมคุณมาปลูกเพิงอาศัยอยู่ตรงนี้ ทำไมไม่ไปอยู่กับคนในหมู่บ้าน”
“ที่นี่มิใช่ที่พำนักของข้า” จันทริ ตอบพลางหันมายิ้มให้ “ข้าพำนักอยู่ด้านบนของเนินเขาแห่งนี้ นับแต่ข้าอายุได้ ๑๐ หนาว”
... ๑๐ หนาว คงหมายถึงอายุ ๑๐ ปีมั๊ง ... รพีพันธ์ คิดพลางจ้องมอง จันทริ อย่างตั้งใจ ว่าจะพูดอะไรต่อไป
“ส่วนเพิงแห่งนี้ ปลูกขึ้นมาเพื่อเป็นที่พำนักชั่วคราว ของผู้ที่จะเดินทางมา ... คนผู้นั้นคือท่าน”
“แปลว่าตอนนี้ ที่นี่เป็นบ้านของผมเหรอ”
“มิใช่บ้าน เป็นเพียงแต่ที่พำนักชั่วคราวเท่านั้น”
“ชั่วคราว” รพีพันธ์ ทวนคำด้วยความสงสัย “ถ้าอย่างนั้นต่อไปผมต้องย้ายไปอยู่ที่ไหน”
จันทริ ปักเข็มค้างไว้กับผ้า แล้วเอื้อมมือมาจับมือ รพีพันธ์
“ไปอยู่ยังที่พำนักของข้า ไปอยู่ร่วมกับข้า ท่านรังเกียจหรือไม่”
“อยู่กับคุณน่ะเหรอ ... ก็ดีเหมือนกันนะ กลัวแต่คุณจะเบื่อที่ต้องดูแลผมน่ะสิ” รพีพันธ์ พูดยิ้มๆ
“มันเป็นหน้าที่ของข้า” พูดแล้วใบหน้าของ จันทริ ก็เปลี่ยนเป็นสีแดงเรื่อ แววตาก็เปลี่ยนเป็นอ่อนหวานกว่าปรกติ
 “เอ้อ...” พอเห็นท่าทางแบบนี้แล้ว รพีพันธ์  รู้สึกเหมือนตัวเองหน้าแดงไปด้วยอีกคน
“ว่าแต่ บ้านคุณอยู่ตรงไหนล่ะ”
“ที่พำนักของข้าอยู่ด้านบนของภูเขานี้ เมื่อเดินขึ้นไป จักเป็นถ้ำใหญ่ นั่นแหละที่พำนักของข้า”
“ถ้ำเหรอ” รพีพันธ์ ขมวดคิ้วอีกครั้ง “ถ้ำอะไร จะอยู่ได้ยังไง”
“เมื่อท่านเห็น ท่านจะทราบ”
“แล้วถ้ำนั้นมีชื่อรึเปล่า”
“ย่อมมี ถ้ำอันเป็นที่พำนักของข้านั้น เรียกว่า วิหารจันทรา”

ออฟไลน์ กิมตี๋หัดขับ

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1466
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-3

ปลาไหล จะเข้าถ้ำแร้ววววววว อิอิอิ :m4:

ken_krub

  • บุคคลทั่วไป
เป็นกำลังใจให้ครับ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
หุหุ  :m32: :m32:

nartch

  • บุคคลทั่วไป
:o8:
สำนวนหวานดีจัง...อ่านแล้วเหมือนล่องลอยในความฝัน

Kirimanjaro

  • บุคคลทั่วไป
หุหุหุ  ปลาไหลหรือมังกรเดี๋ยวรู้กัน  อิอิ

ออฟไลน์ อิง

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 840
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +137/-6
อ๊ากก จะพากันไปเป็นมนุษย์ถ้ำแล้ว  :o8:

จันทริแม่บ้านแม่เรือนดีจริง ๆ ทั้งการบ้านการเรือนมิได้ขาด ปักผ้า อาหารการกิน ดูแลรพีพันธ์ตลอด

รอลุ้นตอนต่อไปนะคะ  :L2:

three

  • บุคคลทั่วไป
น่ารักทั้งคู่เลยครับ :L2:

ออฟไลน์ zandwizz

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2245
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +148/-7
 :m4: :m4: :m4:

แอบสงสัยจัง ว่าใคร เป็น รุก ใคร เป็นรับหว่า   :m20: :m20: :m20:

ขอบคุณนะคับที่มาต่อ รออ่านตอนต่อไปอยู่น๊า......

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ บุหรง

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 854
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +709/-3
    • My FB

แอบสงสัยจัง ว่าใคร เป็น รุก ใคร เป็นรับหว่า   :m20: :m20: :m20:

ขอบคุณนะคับที่มาต่อ รออ่านตอนต่อไปอยู่น๊า......
ช่วยอธิบายหน่อยได้มั๊ยค๊าบ ว่ามีฉากไหนทำให้คิดแบบนั้น ...  o1
คือ อยากได้ไว้เป็นข้อมูลน่ะครับ  :o8:

ออฟไลน์ บุหรง

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 854
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +709/-3
    • My FB
๐๙

“วิหารจันทรา” รพีพันธ์ พูดเบาๆกับตัวเอง ขณะที่แช่ตัวอยู่ในสายน้ำ
ชายหนุ่มเรียบเรียงความคิด ช่วงก่อนที่จะเกิดอุบัติเหตุตกลงไปในแอ่งเก็บน้ำ แล้วฟื้นขึ้นมาในสถานที่ที่แปลกประหลาดเช่นนี้ เขานั่งเครื่องบินไปรอเพื่อนที่ตัวจังหวัดลำปาง แต่รถตู้ที่เพื่อนๆโดยสารล่วงหน้ามาก่อน เกิดอุบัติเหตุขึ้นที่จังหวัดตาก เขาจึงต้องเดินทางไปยังเขื่อนกิ่วลมตามลำพัง เพื่อจัดการเรื่องที่พักให้เรียบร้อย แล้วเพื่อนๆของเขาก็ตามมาถึงในช่วงดึกของวันเดียวกัน วันรุ่งขึ้นเขานั่งเรือแพเพื่อชมทัศนียภาพของบริเวณแอ่งเก็บน้ำ แล้วเกิดอุบัติเหตุขึ้น

... แต่ช่วงเวลาที่เขาอยู่ในตัวเมืองลำปางนั้น เขากลับจำไม่ได้เลยว่า มีอะไรเกิดขึ้นบ้าง ...

“น้ำเย็นสบายดีหรือไม่” เสียงนุ่มๆถามขึ้นทางด้านหลัง
รพีพันธ์ หันตัวกลับไป ก็พบ จันทริ ยืนอยู่บนฝั่งไม่ไกล กำลังมองไปตามร่างกายเขาด้วยความชื่นชม
“ขึ้นมาใส่เสื้อผ้าเถิด มิเช่นนั้นจะไม่ทัน”
“ไม่ทันอะไรเหรอ” รพีพันธ์ ถามขณะที่เดินขึ้นมาจากน้ำ แล้วยื่นมือรับผ้าผืนใหญ่ที่ จันทริ ส่งให้ นำมาพันร่างกายท่อนล่างไว ถอดกางเกงที่เปียกน้ำออกมา แล้วยื่นมือไปรับผ้าอีกผืนหนึ่งจาก จันทริ มาเดไปตามใบหน้า เส้นผม และร่างกายที่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำ
“เที่ยงนี้ เหล่าผู้เดินทางจักกลับถึงบ้าน นี่ก็ใกล้เวลาแล้ว” จันทริ ตอบพลางยื่นเสื้อผ้าให้ รพีพันธ์ สวมใส่ที่ละชิ้น จนกระทั่งชายหนุ่มแต่งตัวเสร็จ
จันทริ เก็บรวบรวมผ้าที่เปียกน้ำบิดหมาดๆ แล้วนำมาห่อรวมกันไว้ ด้วยผ้าผืนที่ รพีพันธ์ ใช้เช็ดตัว จากนั้นก็นำมาถือไว้แล้วชักชวน รพีพันธ์ เดินไปยังหมู่บ้าน

“ทำไมวันนี้คนเยอะจัง” รพีพันธ์ พูดพึมพำเมื่อเห็นว่า ในหมู่บ้านเต็มไปด้วยผู้คน ซึ่งปรกติจะออกไปทำงานตามไร่
“ข้าบอกท่านแล้ว ผู้เดินทางจักกลับมา ทุกคนจึงอยู่พร้อมกันเพื่อต้อนรับ”
มีเด็กหญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาหาคนทั้งสอง จันทริ ยื่นห่อผ้าในมือให้ เด็กหญิงรับไว้แล้วยิ้มกว้างให้ ก่อนที่จะวิ่งหายลับไปอีกทางหนึ่ง ทั้งสองพากันเดินมาจนถึงลานกว้างกลางหมู่บ้าน ซึ่งมีชายชราสี่คนยืนอยู่ก่อนแล้ว

... ผู้เฒ่าทั้งสี่เป็นผู้อาวุโสของหมู่บ้าน พวกท่านละทิ้งนามเดิม ดำรงไว้แต่นามอันสืบทอดมาแต่ผู้อาวุโสสูงสุดเท่านั้น วายุ อัศนี วรุณ อัคนี นามซึ่งผู้อื่นมิอาจนำมาใช้เป็นนามแห่งตนได้ ... เป็นคำบอกเล่าเกี่ยวกับชื่อของชายชราทั้งสี่ ที่ชายหนุ่มได้ฟังมาจาก จันทริ

ปู๊น~~~~~~~~~~~
เสียงดังเหมือนเสียงเป่าเขาดังมาจากทางเหนือของหมู่บ้าน สักพักใหญ่ก็มีเสียงเอะอะดังขึ้น ขบวนรถเข็นที่ลากมาด้วยลาประมาณ ๑๐ คันรถ และชายฉกรรจ์ราวๆ ๓๐ กว่าคน เดินเข้ามาในลานกว้าง ผู้เฒ่าทั้งสี่ก็เดินออกไปต้อนรับ และยืนสนทนาอยู่กับชายวัยกลางคน ซึ่งดูเหมือนจะเป็นผู้นำของกลุ่ม รพีพันธ์ มองดูกลุ่มคนที่เพิ่งมาถึง มีทั้งคนหนุ่มและคนวัยกลางคน ต่างล่ำสันแข็งแรง มีคนหนึ่งดูสะดุดตาเป็นพิเศษ เป็นคนที่ยืนอยุ่ด้านหลังของชายวัยกลางคนที่คุยกับผู้เฒ่าทั้งสี่อยู่ ชายหนุ่มร่างสูงพอๆกับเขา ผิวคล้ำ รูปร่างล่ำสันเต็มไปด้วยมัดกล้าม ใบหน้าประดับด้วยคิ้วดกหนา ดวงตากลมโต ริมฝีปากหนาแต่แดงเรื่อ ชายหนุ่มคนนั้นหันหน้ามามองที่เขาและ จันทริ อยู่บ่อยครั้ง สักพักหนึ่งชายวัยกลางคนนั้นก็เดินออกจากกลุ่มมาหา จันทริ ในขณะที่ผู้เฒ่าทั้งสี่หันไปสนทนากับคนอื่นต่อ

“ยินดีต้อนรับสู่บ้าน ท่านหัวหน้า” จันทริ พูดทักทายด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม “การเดินทางลำบากมากหรือไม่”
“ราบรื่นดี แลกของมาได้มากมาย ว่าแต่ว่า ...” ชายกลางคนหันไปมองที่ รพีพันธ์
“ผู้นี้คือหัวหน้าหมู่บ้าน ท่านกรินทร์” จันทริ หันไปบอกกับ รพีพันธ์
“นี่คือผู้เดินทางมาจากถิ่นไกล รพีพันธ์ บุรุษที่พวกท่านรอคอย” จันทริ หันกลับไปบอก กรินทร์
“จริงรึ” กรินทร์ ถามด้วยสีหน้ายินดี
“ย่อมจริงแน่นอน สัญลักษณ์นั้นประจักษ์แก่ข้าแล้ว และพวกท่านจะได้เห็นเองในคืนเพ็ญ”
กรินทร์ เดินกลับไปหากลุ่มคนแล้วเหมือนจะพูดอะไร ๒-๓ ประโยค แล้วก็มีเสียงตะโกนด้วยความยินดีของผู้คน
“เฮ....”
“พวกเค้าดีใจอะไรกัน” รพีพันธ์ หันไปถาม จันทริ ด้วยความสงสัย
“ดีใจในการมาถึงของท่านไงเล่า ข้าเคยบอกท่านแล้ว ว่าทุกคนที่นี่จะยินดีต่อการมาของท่าน และจะให้ความเคารพต่อท่าน”

รพีพันธ์ ยังคงงุนงงไม่ค่อยเข้าใจในสิ่งที่ จันทริ พูดเท่าไรนัก แต่สิ่งหนึ่งที่เขาเข้าใจคือ ท่านกลางความยินดีของผู้คน กลับมีคนคนหนึ่ง ที่มองเขาด้วยสายตาไม่พอใจ ปนไปด้วยความเกลียดชัง

ออฟไลน์ zandwizz

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2245
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +148/-7
 :m4: :m4: :m4: :m4: :m4:


จิ้ม ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ  ก่อนไปอ่านค๊าบ.......

ขอบคุณนะคับที่มาต่อ

 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:

ออฟไลน์ zandwizz

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2245
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +148/-7
Re: วิหารจันทรา : ตอ&#
«ตอบ #89 เมื่อ29-07-2008 20:54:34 »

ตอนแรกรีบมาจิ้มไปหน่อย เลยไม่เห็นคำถามค๊าบ.....

“อยู่กับคุณน่ะเหรอ ... ก็ดีเหมือนกันนะ กลัวแต่คุณจะเบื่อที่ต้องดูแลผมน่ะสิ” รพีพันธ์ พูดยิ้มๆ
“มันเป็นหน้าที่ของข้า” พูดแล้วใบหน้าของ จันทริ ก็เปลี่ยนเป็นสีแดงเรื่อ แววตาก็เปลี่ยนเป็นอ่อนหวานกว่าปรกติ

ประโยคนี้มันเหมือนฝ่ายรับอ่ะ เพราะไม่คิดว่าผู้ชายหรือฝ่ายรุกจะหน้าแดงเพราะประโยคนี้อ่า

แต่ตอนแรกที่อ่านเลยเนี่ย คิดว่า จันทริ เป็นรุกอ่า

ผมแค่คิดเฉย ๆ น๊า........

 :m20: :m20: :m20: :m20: :m20:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด