Sad song series :: 1st song :: Don't speakhttps://www.youtube.com/v/TR3Vdo5etCQDon't speakby : Tasaitatsu
“กูขอร้องเพลงนี้” ผมเอ่ยพร้อมกับเปิดเพลงในไอพอดให้เพื่อนในวงฟัง หลังจากที่พวกมันรวบช้อนส้อมเข้าด้วยกันบนจานข้าวที่ว่างเปล่า
“มึงแน่ใจ?” กัน มือกลองเอ่ยถามย้ำ
“อืม กูอยากลองร้องเพลงบนเวทีสักครั้ง ไหนๆก็เป็นไลฟ์ครั้งสุดท้าย กูอยากลองทำดู”
“ที่จริง” ธีร์มือกีตาร์พวกหัวหน้าวงเอ่ยขึ้นพร้อมกับเคาะบุหรี่ออกจากซอง มันเงยหน้าขึ้นมาผมเล็กน้อย “มึงมาเป็นนักร้องนำแทนไอดินก็ได้นะ กูยังจำได้ตอนที่ได้ฟังเสียงมึงครั้งแรก”
“ไม่ละ กูขอผ่าน เล่นกีตาร์อย่างเดียวก็มีความสุขแล้ว”
“มึงแน่ใจ” ธีร์ถามย้ำอีกครั้งก่อนจะอัดบุหรี่เข้าปอด
“อืม” ผมตอบมันสั้น แล้วก็ทิ้งตัวลงไปพิงกับพนักเก้าอี้ที่นั่งอยู่
“ไหน” ผมเงยหน้าขึ้นมามองธีร์อีกครั้ง “จะให้บอกไอดินไหม?”
ผมส่ายหน้า “ไม่หวะ”
“พวกกูเข้าใจละ เอาใส่ไว้ก่อน 2 เพลงสุดท้าย มึงโอเคไหม?”
“อืม ขอบใจ” กันไม่ได้พูดอะไร มันแค่เอื้อมมือมาตบไหล่ผมเบาๆ
ผมว่าเพลงนี้มันตรงกับใจผมที่สุดแล้ว Don’t speak ของ No Doubt น่ะ เพราะผมอยากให้ไอดินหยุดพูดว่าเราเลิกกันเสียที ผมไม่อยากฟังคำนั้นของไอดินอีกแล้ว ใช่ ผมยอมรับ ว่าผมน่ะ อ่อนแอเกินกว่าที่จะฟังคำนั้นได้ และเราคงไม่มีวันกลับมาเป็นเหมือนเดิมอย่างแน่นอน ถึงจะรักมากแค่ไหนก็ตาม
.
.
.
ความฝันของไอดินมีอยู่สองอย่างคือผู้กับกำหนังกับนักร้อง ตอนสอบเข้ามหาวิทยาลัยไอดินเลือกแค่คณะเดียวคือนิเทศ ส่วนผม ผมชอบงานออกแบบเลยเลือกที่จะเรียนสถาปัตย์สาขาออกแบบภายใน เราเรียนอยู่มหาวิทยาลัยเดียวกัน พักอยู่หอเดียว ห้องข้างๆกัน นานวันเข้าไอดินเข้ามาสิงอยู่ห้องผมมากกว่าห้องตัวเอง
ผมชอบเวลาที่ไอดินตัดเล็บให้ เค้าดูตั้งใจ ค่อยๆตัด ค่อยๆตะไบ พอตัดเล็บผมเสร็จไอดินก็มักจะยื่นกรรไกรตัดเล็บกลับมาให้ผมแล้วบอกว่า
‘เปลี่ยนกันไง’ ถึงผมจะชอบบ่นว่าถ้าตัดเข้าเนื้อห้ามโกรธ ห้ามโทษกัน ไอดินมักจะหัวเราะมองผมด้วยสายที่เต็มเปลี่ยมไปด้วยความมั่นใจว่าผมจะไม่ตัดเล็บเข้าเนื้อเค้าอย่างแน่นอน
‘ไม่หรอก ไหนไม่ทำแบบนั้นหรอก’ เรารู้จักกันตอน ม.5 เราอยู่คนละห้องกัน ที่รู้จักกันเพราะธีร์มันเป็นคนมาชวนผมมาเข้าวง ธีร์บอกว่าอยากได้มือกีตาร์อีกคนและมันสนใจผม ผมก็งงว่าทีมันไปเห็นผมเล่นกีตาร์ตอนไหน มันเลยบอกกับผมว่า มันเห็นผมนั่งเล่นกีตาร์ที่ข้างสนามบอลเมื่อตอนงานกีฬาสีปีที่แล้ว ใช่ปีที่แล้วเราอยู่ ม.4 กัน ธีร์มันติดใจคือผมเล่นกีตาร์มือซ้าย ทั้งที่กีตาร์ตัวนั้นไม่ได้กลับคอร์ด มันเลยอยากให้ผมไปเป็นมือกีตาร์ในวง ผมตัดสินใจอยู่เป็นเดือน ธีร์ก็มาตื้อทุกวัน และมันก็พวงไอดินมาด้วยทุกวัน
สุดท้ายเราตั้งวงกันจนได้ และตอน ม.6 พวกเราเคยไปประกวดวงดนตรีของเด็กมัธยมด้วยนะ ตอนนั้นเข้ารอบสิบทีมสุดท้ายก็ดีใจกันอย่างกับชนะ เราเล่นดนตรีด้วยหัวใจจริงๆ เข้ามหาวิทยาลัยเราก็ยังเล่นอยู่ เริ่มเข้าไปสมัครตามร้านอาหารบ้าง ตามผับบ้าง จนพวกเราจบมหาวิทยาลัย มีการมีงานประจำทำกันหมดแล้ว แต่ก็ยังคงเล่นดนตรีกันอยู่
จำไม่ได้แล้วว่าผมกับไอดินเราคบกันตอนไหน รู้แต่เพียงว่าเราอยู่ด้วยกันแทบจะทุกวัน ยกเว้นเวลาเรียน แม้จะกลับบ้านแล้วก็ไอดินก็ยังคงโทรมาคุยกับผมทุกคืน โปรโมชั่นมือถือเลยเป็นแบบโทรฟรีห้าเบอร์ในเครือข่ายเดียวกัน แน่นอน 1ใน 5 เบอร์นั้น ต้องมีเบอร์ของไอดินอยู่ด้วย
ไอดินเป็นคนที่หน้าตาดีมาก มีสาวแวะเวียนเข้ามาขายขนมจีบอยู่ตลอด พอเริ่มไปร้องเพลงตามผับจากที่มีสาวๆมาขายขนมจีบก็มีหนุ่มๆเพิ่มเข้ามาด้วยเช่นกัน เค้าเป็นมีเสน่ห์ ใครๆก็อยากเข้าหา ส่วนผมน่ะเหรอ ก็ไอ้แว่นลูกคนจีนธรรมดาทั่วไปมีให้เห็นกันดาษดื่น ความสูงพอไปวัดไปวาได้ร้อยเจ็ดสิบเจ็ด ส่วนไอดินร้อยแปดสิบหก
ผมเคยบอกไอดินว่า แบบส่วนสูงมาให้สักสามสิ อยากสูงร้อยแปดสิบบ้าง ไอดินหัวเราะยกมือมายีหัวผม
‘ไหนสูงแค่นี้ก็พอแล้ว สูงกว่านี้ไหนจะเป็นเด็กขี้ก้าง แค่นี้พอแล้ว’ ไอดินส่งรอยยิ้มที่มันยิ้มจนตาเหลือขีดเดียวกับมาให้ผม
‘ไหนอยากสูงกว่านี้อะ อยากมีกล้ามแบบเฮียหว้าด้วย แต่กินเท่าไหร่ก็ได้แค่นี้ ขนาดให้เจ้หยีขุนทุกวันก็ยังได้เท่านี้เลย’
‘เท่านี้ก็พอแล้ว ไหนเชื่อดินสิ’ที่ผมเล่นกีตาร์เป็นนั้นไม่ใช่เพราะใคร เพราะพ่อผมเป็นนักดนตรี ผมเห็นพ่อเล่นกีตาร์มาตั้งแต่เด็กๆ พอโตขึ้นมือเริ่มจับคอร์ดเป็น พ่อก็เริ่มสอนเทคนิคต่างๆนานาของพ่อ แต่ผมเป็นคนถนัดซ้ายเลยมีกีตาร์ประจำตัวอยู่ 2 ตัว พ่อบอกว่าผมมีพรสวรรค์ด้านดนตรี พ่อยังอึ้งตอนที่ผมเล่นกีตาร์กลับคอร์ด ความจริงแล้วเพราะผมอยากลองเล่นกีตาร์ตัวเทพของพ่อ เลยหัดกลับคอร์ดเอง เพื่อกีตาร์ตัวนั้น ผมเลยเล่นกีตาร์ของคนถนัดได้
‘ดินชอบเวลาที่ไหนเล่นกีตาร์คลอในดินนะ ดินว่าเสียงกีตาร์ของไหนมันอ่อนโยนดี ดินอยากเล่นให้ได้แบบไหน แต่ลองแล้วมันไม่ได้แบบไหนเลย เพราะงั้น ไหนเล่นคลอให้ดินแบบนี้ไปตลอดเลยนะ’
‘อืม’ ผมตอบดินออกไปสั้นๆด้วยความเขิน
เวลาผมนั่งเล่นกีตาร์อยู่ในห้อง ไอดินชอบเดินมานั่งซ้อนกอดเอวผมอยู่ข้างหลัง เค้าชอบซบลงบนไหล่ผม แม้มันจะดูเกะกะ พยายามไล่แล้วแต่เค้าก็ไม่ไป นั่งมันอยู่แบบนั้น แล้วก็ร้องเพลงคลอไปด้วย
‘นี่ถ้าสาวๆมาเห็นภาพบาดตาบาดใจของพี่ไอดินกับน้องลูกไหนแบบนี้ คงอกแตกตายกันเป็นแถว ห้องมึงสองคนนี่มดขนน้ำตาลไปหมดหรือยังวะ ถ้ายัง เอาน้ำตาลมาแบ่งใส่ก๋วยเตี๋ยวกูบ้างดิ’ กันมันชอบแซะ ชอบแดกผมกับไอดินแบบนี้ตลอด บางทีแค่นั่งใกล้กันมันก็แซะ
เสียงเคาะประตูดังขึ้น ผมหยุดมือที่เกากีตาร์ครู่หนึ่งก่อนจะส่งเสียงออกไปขานรับคนที่อยู่ข้างนอก
“ครับ”
“ลูกไหน นอนยัง เจ้เข้าไปนะ”
“ครับ” สิ้นเสียงตอบผมเจ้หยีก็เปิดประตูห้องเข้ามา ผมก็ยังคงนั่งเกากีตาร์อยู่บนเตียง เจ้หยีเดินเข้ามาในห้อง เจ้ลากเก้าอี้หน้าคอมมานั่งมองผมเล่นกีตาร์
“ป๊ากับม๊า ให้เจ้ขึ้นมาถามอีกครั้งว่าตกลงจะไปจริงๆใช่ไหม?”
“ครับ ไหนไม่เปลี่ยนใจ”
“เรียน กอร์ดอง เบลอ ก็ได้”
ผมหยุดเกากีตาร์ ยกมือขึ้นมาดันแว่นให้กลับเข้าที่ “ให้ผมไปเถอะเจ้ ผมอยู่ไม่ไหวจริงๆ”
“ไหนบอกดินกับเพื่อนๆหรือยัง” ผมส่ายหน้า
“ผมรู้ว่าผมเห็นแก่ตัวที่ไม่ยอมฟังคำใคร แต่ผมอยู่ที่นี่ไม่ไหวจริงๆ ผมมันก็แค่คนอ่อนแอที่ยอมรับความจริงเรื่องที่ไอดินบอกเลิกแล้วออกจากวงเพื่อไปทำความฝันตัวเอง แต่ถ้าผมอยู่ที่นี่ สักวันผมคงเห็นแต่ตัวมากกว่านี้โดนการเดินกลับไปหาไอดินเพื่อเป็นตัวถ่วง เป็นตัวรั้งอนาคตไอดินไว้ ผมรักไอดินมากนะเจ้ มากจนสามารถทำลายความฝันของไอดิน ผมไม่อยากเป็นแบบนั้น”
“เอาละ เจ้เข้าใจละ ถ้ามันทำให้ไหนสบายใจ เจ้ก็โอเค”
“ไหนสบายใจแต่ทำให้เจ้ ป๊า ม๊าและเฮียทุกข์ใจ ไหนเป็นลูกที่แย่มากเลยนะเจ้ เป็นน้องที่ไม่เอาไหนด้วย”
“เจ้ยอมให้ไหนเห็นแก่ตัวตอนนี้ ดีกว่ายอมให้ไหนเห็นแก่ตัวในวันข้างหน้า เจ้รู้ ไหนพยายามหยุดตัวเองอยู่ ไหนถึงเลือกที่จะไป เลือกที่จะไม่รับรู้เรื่องราวต่างๆต่อจากนี้”
“ถ้าไหนพร้อม ไหนจะกลับมา แต่ไหนไม่รู้ว่ามันจะใช้เวลานานเท่าไหร่ ที่ไหนจะสามารถส่งยิ้มให้ไอดินได้อย่างบริสุทธ์ใจ”
ผมรู้สึกถึงแรงกอด แรงโอบรัดของอ้อมแขนเจ้หยี รู้สึกถึงความอบอุ่น รู้สึกถึงฝามือเจ้ที่ลับหลังผมเบาๆ ตอนนี้ผมเป็นเพียงคนอ่อนแอที่เอาแต่คร่ำครวญถึงอดีต คร่ำครวญถึงความรักที่กำลังจะพังทลายลงมา เพราะผมยึดติดกับไอดินมากเกินไป ผมจึงไม่สามารถยืนหยัดขึ้นมาเองได้ในตอนนี้
.
.
.
“ไหน ไหน ลูกไหน ไหนเหม่ออะไรอยู่ เสียงกีตาร์ไหนมันพังไปหมดแล้ว” ไอดินเดินมาจับมือข้างที่กำลังดีดกีตาร์ของผมออก พอผมได้สติก็พบว่าเสียงเพลงในห้องซ้อมมันเงียบไปหมดแล้ว
“กูว่า พักก่อนเถอะ” กันเอ่ยขึ้นพร้อมกับลุกขึ้นยืน “ไหน มึงพักก่อนเถอะ เกิดมือเจ็บขึ้นมาจะยุ่ง กูไม่อยากหาใครมาแทนมึงนะไหน”
“ขอโทษ” ผมถอนหายใจออกยาว
“ไม่เป็นไรมึง ไปหาข้าวแดกกัน เมื่อตอนหัวค่ำกูซื้อของทะเลมายัดไว้ในตู้เย็น คืนนี้พวกมึงจะได้แดกต้มยำกุ้งแน่ๆ จ่ายตังค์กูมาด้วย”
“เอ่อๆ” พวกกันขานรับ จากนั้นธีร์ก็เดินมาตบไหล่ผมเบาๆ พวกมันก็ทยอยเดินออกไปจากห้องซ้อม เหลือแค่ผมกับไอดินเพียงสองคน
ไอดินปลดสายกีตาร์ออกจากไหล่ผม เค้าเอากีตาร์ไปวางไว้ที่ขาตั้งแล้วเดินกลับมาหาผมที่ยืนอยู่ที่เดิม ผมยังคงก้มหน้ามองปลายเท้าตัวเอง
“ไหน” ไอดินใช้สองมือของเค้าโอบอุ้มใบหน้าของผม แล้วบังคับให้ผมเงยหน้าขึ้นมาจากปลายเท้าตัวเองมองหน้าเค้า “ไหน ดินรู้ว่ามันเป็นเรื่องยากที่จะทำใจ แต่ดินไม่อยากให้ปัญหาทุกอย่างที่มันจะเกิดขึ้นในวันข้างหน้าดึงไหนเข้ามาเกี่ยวด้วย ดินไม่อยากให้ใครมายุ่งกับไหน ไม่อยากให้ใครมาขุดคุ้ยเรื่องไหนกับครอบครัว”
“ไหนรู้ ไหนรู้ว่าดินทำเพื่อปกป้องไหนในอนาคตข้างหน้า แต่ดินคิดบ้างมั้ย ว่าเราจะกลับมาคุยกันแบบเพื่อนอย่างที่ดินต้องการเหมือนเดิมได้อีก”
“ดินยังเป็นเหมือนเดิม จะแบบเพื่อนก็ยังรักไหนเหมือน”
“เหทอนเดิม แต่สุดท้ายก็ต้อง . . . ไหนไม่อยากให้มันเป็นแบบนี้”
“ดินขอโทษ”
“ไม่หรอก ดินไม่จำเป็นต้องขอโทษเลย ดินไม่ได้ทำอะไรผิด”
“ไหนต่างหากที่เห็นแก่ตัว”
“ไหน เรา. . .”
“ได้โปรดอย่าพูดมันออกมาเลยดิน ไหนไม่พร้อมที่จะฟังมันจริงๆ”
“ไหน” ไอดินดึงผมไปกอดไว้ กดหัวผมให้ซบลงที่ไหล่เค้า ผมรู้สึกว่าตัวเองตัวเล็กลง เล็กลงเรื่อยๆ อยากจะยิ้มให้เค้าได้อย่างบริสุทธิ์ใจ อยากจะยิ้มกว้างๆส่งกำลังใจไปให้ แต่กลับทำไม่ได้
“ให้เวลาไหนเถอะ ตอนนี้ไหนไม่พร้อมจริงๆ” ผมรู้สึกถึงแรงโอบรัดของอ้อมแขนไอดิน ทำไมมันถึงเจ็บปวดได้มากขนาดนี้
.
.
.
วันสุดท้ายของวงที่ตั้งมาตั้งแต่ ม.6 ก็มาถึง ผมและเพื่อนๆในวงมาถึงที่ผับกันตอนสองทุ่ม เรามีคิวเล่นตอนห้าทุ่มครึ่งจนถึงตีหนึ่ง วันนี้คนค่อนข้างเยอะ อาจเป็นเพราะนี้คืนนี้เป็นคืนวันเสาร์และอีกสาเหตุหนึ่งคงเป็นเพราะเราประกาศในเพจของวงว่าคืนนี้จะเล่นเป็นคืนสุดท้ายก่อนที่ทุกคนในวงจะแยกย้ายกันไปทำงานของตัวเอง แต่เรายังไม่ได้บอกว่าไอดินจะไปเดบิวต์เป็นศิลปินเต็มตัวกับอีกวงหนึ่งที่มาทาบทามให้เป็นนักร้องนำและกำลังจะเซ็นสัญญากับค่ายเพลงยักษ์ใหญ่
หลังจากจบเพลงที่ดีเจเปิดเป็นให้ทุกคนได้โยกย้ายร่างกายเพลงสุดท้าย พวกเราก็ขึ้นไปซาวด์เช็คกัน จากนั้นก็เปิดเพลงแรกด้วยเพลงมีเธอของโปเตโต้ เราเล่นทั้งเพลงไทยและสากล มีเพลงร๊อคของญี่ปุ่นเข้ามาแจมเพลงหนึ่ง เป็นเพลงของช้าของ ONE OK ROCK ปิดเบรกให้ไอดินได้พักโดยให้ป้องมือคีย์บอดมาร้องสองเพลง โอ่งมือเบสร้องหนึ่งเพลง และปิดที่ผม
ตอนผมเดินไปเปลี่ยนกีตาร์ไฟฟ้าเป็นกีตาร์โปร่ง ไอดินทำหน้าสงสัยเล็กน้อย ผมรู้สึกได้ว่าไอดินกำลังมองผมอยู่ ผมเอากีตาร์ขึ้นมาสะพายไว้ เดินไปปรับระดับความสูงของไมโครโฟน ตอนนี้เริ่มมีเสียงกรี๊ดดังขึ้นเรื่อยๆ ป้องเอาเก้าอี้มาให้ผมนั่ง ผมเหลือบไปเห็นไอดินกำลังกระซิบถามธีร์ที่ยืนอยู่ใกล้ๆ
“รู้สึกประหม่ายังไงก็ไม่รู้” ผมเอ่ยขึ้น คนดูก็ส่งเสียงตะโกนขึ้นมาให้กำลังใจ ขึ้นมาแซวผม “เห็นคนอื่นในวงเค้าร้องกัน ผมเลยอยากจะร้องบ้าง ไม่เพราะก็ทนฟังผมสักสี่นาทีครึ่งนะครับ” ผมยิ้ม คนดูหัวเราะออกมาน้อยๆให้กับมุขของผม
ผมเริ่มเกาคอร์ดซีวนไปมาอยู่สี่รอบก่อนจะเริ่มเข้าเนื้อเพลง
You and me we used to be together
Everyday together always
คุณกับผม เราเคยใช้วันเวลาร่วมกัน
เราอยู่ด้วยกันทุกวัน ไปด้วยกันเสมอแค่ขึ้นต้นท่อนแรกเสียงกรี๊ดและเสียงตะโกนร้องท่อนต่อไปก็ดังขึ้น อ่า ดีจังที่ทุกคนร้องเพลงนี้กันได้
I really feel, that I'm losing my best friend
I can't believe this could be the end
ผมรู้สึกราวกับว่าผมกำลังจะสูญเสียเพื่อนคนสำคัญไป
ผมไม่อยากจะเชื่อเลย ว่าเรากำลังจะมาถึงจุดจบ
It looks as though you're letting go
and if it's real, well I don't want to know
ราวกับว่าคุณกำลังจะทำให้มันจบ
และถ้ามันเป็นเรื่องจริงแล้วละก็ ผมขอไม่รับรู้อะไรทั้งนั้น
Don't speak
I know just what you're saying
So please stop explaining
Don't tell me cause it hurts
อย่าเอ่ยมันออกมาก
ผมรู้ว่าคุณจะพูดอะไร
ได้โปรด ได้โปรดอย่าอธิบายอะไรอีกเลย
ไม่ต้องบอกผม เพราะมันเจ็บ
Don't speak
I know what you're thinking
I don't need your reasons
Don't tell me cause it hurts
อย่าเอ่ยออกมาเลย
ผมรู้ว่าคุณกำลังคิดอะไรอยู่
ผมไม่ได้อยากรู้เหตุผลของคุณ
ไม่ต้องบอกผม เพราะมันเจ็บ
Our memories
Well, they can be inviting
But some are altogether
Mighty frightening
As we die, both you and I
With my head in my hands I sit and cry
ความทรงจำของพวกเรา
มันหมุนย้อนวนกลับมา
แต่ในความทรงจำเหล่านั้น บางความทรง
มันกลับทำให้เราใจหาย
ราวกับว่าเรากำลังจะขาดใจตาย ทั้งคุณและผม
ได้แต่นั่งเอามือทึ้งผมและร้องไห้มันอยู่อย่างนั้น
Don't speak
I know just what you're saying
So please stop explaining
Don't tell me cause it hurts (no, no, no)
อย่าเอ่ยมันออกมาก
ผมรู้ว่าคุณจะพูดอะไร
ได้โปรด ได้โปรดอย่าอธิบายอะไรอีกเลย
ไม่ต้องบอกผม เพราะมันเจ็บ
Don't speak
I know what you're thinking
I don't need your reasons
Don't tell me cause it hurts
อย่าเอ่ยออกมาเลย
ผมรู้ว่าคุณกำลังคิดอะไรอยู่
ผมไม่ได้อยากรู้เหตุผลของคุณ
ไม่ต้องบอกผม เพราะมันเจ็บ
It's all ending
I gotta stop pretending who we are...
ทุกอย่างทันกำลังจะจบลง
ให้ผมหยุดแสร้งแกล้งทำเป็นคนอื่นเสียที แล้วตอนนี้พวกเราเป็นใครกันถึงท่อนโซโล่กีตาร์ ผมเงยหน้าขึ้นไปมองไอดินอยู่ครู่หนึ่ง ผมเห็นไอดินถือขวดน้ำนั่งชันเข่าในอยู่ในมุมมืดของเวที เราจองมองกันครู่หนึ่ง เป็นผมเอง ที่หลบสายตาคู่คมของเค้าก่อน ผมคิดว่าหลังจากเล่นไฟล์จบในคืนนี้ เค้าคงมีอย่างสิ่งหลายอย่างที่อยากพูดกับผมมากมาย แต่ผมไม่อยากฟัง แล้วผมจะเดินหนีเค้ายังไง
You and me I can see us dying...are we?
ทั้งคุณและผม พวกเรากำลังจะตายใช่ไหม?
Don't speak
I know just what you're saying
So please stop explaining
Don't tell me cause it hurts (no, no, no)
อย่าเอ่ยมันออกมาก
ผมรู้ว่าคุณจะพูดอะไร
ได้โปรด ได้โปรดอย่าอธิบายอะไรอีกเลย
ไม่ต้องบอกผมหรอก เพราะมันเจ็บ
Don't speak
I know what you're thinking
I don't need your reasons
Don't tell me cause it hurts
อย่าเอ่ยออกมาเลย
ผมรู้ว่าคุณกำลังคิดอะไรอยู่
ผมไม่ได้อยากรู้เหตุผลของคุณ
ไม่ต้องบอกผม เพราะมันเจ็บ
Don't tell me cause it hurts!
I know what you're saying
So please stop explaining
อย่าเอ่ยมันออกมา
ผมรู้ว่าคุณจะพูดอะไร
ได้โปรด ได้โปรดอย่าอธิบายอะไรอีกเลย
Don't speak, don't speak, don't speak,
ได้โปรดอย่าเอ่ย อย่าพูด อย่าเอ่ยมันออกมา
oh I know what you're thinking
And I don't need your reasons
โอ้ ที่รัก ผมรู้ว่าคุณกำลังคิดอะไรอยู่
และผมเองก็ไม่ได้อยากรู้เหตุผลของคุณ
I know you're good, I know you're good,
I know you're real good
ผมรู้ว่าคุณหวังดี ผมรู้ว่าคุณช่างแสนดี
ผมรู้ว่าคุณนั้นแสนดีแค่ไหน
Oh, la la la la la la La la la la la la ผมเห็นทุกคนโบกมือไปทางเดียวกัน ทุกคนกำลังเพลงนี้ไปพร้อมๆกับผม
Don't, Don't, uh-huh Hush, hush darlin'
Hush, hush darlin'
Hush, hush don't tell me tell me cause it hurts
อย่า ได้โปรด มันเจ็บ มันทรมาน ที่รัก
เจ็บแล้ว พอแล้ว ได้โปรดอย่าเอ่ยอะไรกับผม เพราะมันทำให้ผมเจ็บ
Hush, hush darlin' Hush, hush darlin'
Hush, hush don't tell me tell me cause it hurts
อย่า ได้โปรด มันเจ็บ มันทรมาน ที่รัก
เจ็บแล้ว พอแล้ว ได้โปรดอย่าเอ่ยอะไรกับผม เพราะมันทำให้ผมเจ็บมันจบลงแล้ว ไลฟ์สุดท้ายของวงเราจบลงแล้ว ตอนนี้พวกเรากำลังเก็บของกันอยู่ ผมกำลังง้วนเก็บกีตาร์ลงในกล่อง ทำเป็นยุ่งๆ ทำเป็นไม่สนใจว่ามีใครบางคนกำลังรอที่จะพูดกับผมอยู่
ผมยกกระเป๋ากีตาร์โปร่งขึ้นมาสะพาย และกำลังจะก้มลงไปจับหูจับของกล่องกีตาร์ไฟฟ้า แต่กลับมีมือของใครบางคนฉวยมันไปเสียก่อน ผมกำลังจะเอื้อมมือไปคว้ามันมาถือเองแต่คนที่ชิงถือก่อนกลับซบหน้าลงบนไหล่ผม
“ได้โปรด ไหน”
ผมลดมือลงกลับมาที่เดิม
“ไหนกลับยังไง ให้ผมไปส่งนะ”
“อย่าเลย ไหนบอกเฮียหว้าไว้แล้ว ตอนนี้เฮียหว้ารออยู่ที่ลานจอดรถ”
“ให้ดินเดินไปส่ง ขอร้องอย่าห้ามดินเลย ถ้าไหนไม่อยากฟัง ดินก็จะไม่พูด เราต่างก็เจ็บปวดด้วยกันทั้งคู่”
“กลับเถอะ เฮียรอไหนอยู่”
“อืม”
เราสองคนเดินไปด้วยกันจนถึงลานจอดรถ ระหว่างทางเราต่างไม่มีใครพูดอะไรออกมา
“เฮียหว้า สวัสดีครับ” ไอดินยกมือขึ้นมาไหว้เฮีย
“จากนี้ไปคงเหนื่อยไม่น้อย อย่าท้อละดิน”
“ขอบคุณครับเฮีย” ผมเดินมารับกล่องกีตาร์ที่ไอดินถือไว้ และปล่อยให้เค้าคุยกับเฮียไป
ผมกลับเข้าไปนั่งในรถ รอเฮียคุยกับไอดินเสร็จ
เฮียกลับเข้ามานั่งในรถแล้ว และเฮียกำลังสตาร์ทเครื่องยนต์ ผมเงยหน้าจากมือขึ้นไปมองหน้ารถ เห็นไอดินยืนมองอยู่ เราสบตากันครู่หนึ่ง แล้วเฮียก็ขับรถผ่านหน้าไอดินไป
เฮียยกมือขึ้นมาหยีหัวเบาๆแล้วเอื้อมมือไปเปิดเพลง ผมยกขาขึ้นมานั่งชันเข่า ก้มหน้าลงซบแขนแล้วร้องไห้ออกเสียมากมาย มันเจ็บจริงๆ ผมบ่ายเบี่ยงที่จะไม่ฟังคำบอกลาของไอดิน ทั้งที่บ่ายเบี่ยงและหลบหลีกมาได้แท้ๆ แต่ทำไมมันถึงเจ็บเหลือเกิน เจ็บจนแทบทนไม่ไหว ไอดินก็คงรู้สึกเช่นเดียวกัน
:: End ::
สวัสดีค่ะ เมื่อก่อนเราเคยลงนิยายในเล้า อยู่ 2 เรื่อง แล้วเราก็หายไปเพราะหายสาเหตุ
คราวนี้กลับมาลงอีกครั้ง และพยายามจะลงให้ได้เรื่อยๆ
Sad song series จะเป็นเรื่องสั้นหลายเรื่องค่ะ
เราเอา Don't speak ของ No Doubt มาประเดิมเป็นเรื่องแรกของซีรีย์นี้ค่ะ
เราแปลเนื้อเพลงนี้เอง ผิดถูกยังไงแนะนำเราได้นะ
เพราะเราแปลโดยเอาความรู้สึกของลูกไหนเป็นที่ตั้ง
เพื่อให้เข้าใจอารมณ์และความรู้สึกของลูกไหนค่ะ
ขอบคุณที่หลงเข้ามาอ่านนิยายของเราค่ะ
Tasaitatsuでした。