“หนวดกูไปเข้าห้องน้ำนะ”
“อืม”
“ไปมั้ย”
“ไม่”
“โอเค” ไม่ถามแม่งละ รีบลุกพาสังขารตัวเองออกไปอย่างเร็วรี่ แต่เดินยังไม่ถึงครึ่งทางไปส้วม ผมก็โดนเรียกจากเพื่อนพ้องชาวประชาให้เข้าร่วมวงเหล้าเหมารอบแดนซ์หน้าเวทีซะก่อน จากที่กะจะเยี่ยวตอนนี้ไม่เยี่ยวแล้วครับ กูเมาแทน
“ไอ้ฟรอยด์ชนแก้วๆ กรี๊ดดดดดดดดดดด” แม่งเรียกชื่อกูพร้อมกับหลอกจับหรรมกูเล่นอีก ชะนี!!
“อยากได้มึงเป็นผัวอ่าาาา”
“จะมายุ่งกับกูทำไม กูมีผัวแล้ว”
“ฮ่าๆ ขอเป็นเมียน้อยมึงได้มั้ย”
“หน้าด้านอีก”
“ล้อเล่งๆ อ่ะ โชนๆ” เพื่อนผู้หญิงคนหนึ่งชูแก้วเหล้าขึ้นมาชนกับผมด้วยสีหน้ามึนเมาเต็มแก่ เสียงเพลงโจ๊ะพรึมๆ กับแอลกอฮอล์ฤทธิ์รุนแรงทำให้ผมแทบเสียงสติ ทั้งแดก ทั้งเต้นจนหน้าม้าแตก รู้ตัวอีกทีก็ถูกใครคนหนึ่งหามแหวกทางออกมาจากหน้าเวทีซะแล้ว
“ครายยยยย มึงเปงครายยยยยย”
“ช่วยดูหน้ากูด้วยตัวเหี้ย มึงเมาหนักมากแล้ว”
“กูจะเต้งๆๆๆๆๆๆ และเด้งเป้าใส่เพื่อนกู”
“เด้งเหี้ยอะไรล่ะ กลับบ้าน!” เสียงนี้มันคุ้นๆ เนาะ คุ้นเหมือนเสียงผัวคนแรกและคิดว่าน่าจะเป็นผัวคนสุดท้ายของกูด้วย
“เมิงรู้จักบ้านกูด้วยหราาาาาา”
“...”
“เคๆ ให้ไปส่งก้าได้”
“ว่าง่ายๆ บ้างก็ดี”
“บ้านกูหลังเล็กนิดเดียว แต่ผัวกูโหดมากกกกกกกก” ความจริงมันดีมาก กูมีความสุขดี
“เออโหดดิ มีเมียแรดขนาดนี้”
จากนั้นผมก็ไม่ได้ยินประโยคอะไรหลุดออกมาจากปากอีกฝ่ายอีกเลย นอกจากความรู้สึกของการถูกหามพาดบ่าและเดินออกไปจากงานเลี้ยงรุ่นเงียบๆ
ผมไม่รู้อะไรหรอก แม่งอยากอ้วกอย่างเดียว แต่ก็ไม่กล้าอ้วกใส่เสื้อมัน ไอ้คนอุ้มผมน่ะมันคือไอ้หนวด ผมจำกลิ่นตัวมันได้ เพราะงั้นผมเลยไม่กล้าอ้วก ไม่ใช่เพราะกลัวว่ามันจะด่าหรือกระทืบหรอก แต่นี้คือเสื้อของมัน เสื้อผ้าทุกตัวของมัน มันรักหมด
ผมเลยไม่กล้า...
ไม่ว่าหนวดจะรักอะไรกูก็รักหมดนั่นแหละ เพราะกู...รักมึง
และไม่ว่าหนวดจะไม่มีอะไร แค่มีมึงกูก็ไม่อยากได้อะไรแล้วเหมือนกัน เช้าวันอาทิตย์...
สลับกับผัวตื่นสายกันคนละวัน เพราะนาฬิกาบนหัวเตียงบอกได้เป็นอย่างดีว่านี่เที่ยงแล้ว แถมไอ้หนวดมันไม่ยังยอมปลุกด้วยนะ อูยยยยยย ปวดหัวเลย สงสัยแฮงก์หนัก เมื่อคืนแทบจะตายซะให้ได้ เช้ามาผมเลยไม่มีแรงลุกขึ้นมาจากเตียงด้วยความสำออย
“ตื่นแล้วเหรอตัวเหี้ย” นั่นไง ตายยากฉิบหาย นึกถึงมัน มันก็โผล่มาทันที
“มึงเห็นกูหลับอยู่หรือไง”
“กวนตีนได้ตลอดนะมึง อ่ะข้าวต้ม แดกซะ”
“ขอนมอุ่นพอ มึงไม่เคยดูละครเหรอ ทำตัวให้เหมือนพระเอกหน่อยสิ”
“มโนเหรอมึง นี่เที่ยงแล้ว แดกแต่นมตอนท้องว่างเดี๋ยวมึงก็ขี้แตกใส่กางเกงอีกหรอก เมื่อคืนก็จัดเสื้อใหม่กูไปตัวนึงละ”
“ฮะ!” กูขี้ใส่เสื้อมึงเหรอ”
“อ้วกครับเมีย ดูผลงานมึงด้วย” ไอ้ผัวหน้าหนวดรีบชี้หลักฐานที่แขวนอยู่ตรงประตูห้องน้ำทันที
“อ่า กูไม่รู้ตัว”
“เมาอย่างหมา รู้ตัวก็เหี้ยละ”
“งั้นกูเป็นหมาก็ได้ กูไม่อยากเป็นเหี้ย”
“วันนี้กูไม่รับมุก ช่วยไปเล่นไกลๆ ด้วย” มีวันที่รับมุกไม่รับมุกด้วยเหรอ ปกติเล่นอะไรไปไอ้หนวดมันก็ตบให้ตลอด แบบนี้ไม่ไหวว่ะ สงสัยจะโกรธแรงทำเสื้อใหม่มันเปื้อนอ้วกไปอี๊ก
“หนวดดดดดด”
“มึงจะบีบเสียงเล็กทำส้นตีนอะไรเนี่ย”
“วันเสาร์หน้ากูว่าง มึงเองก็ว่าง”
“ว่างสิก็เป็นวันหยุด มึงจะให้กูดั้นทำงานเหรอ”
“นั่นไง เราไปเดทกันมั้ย แบบสวนสนุกก็ได้” แม้ความทรงจำเกี่ยวกับสวนสนุกระหว่างผมกับมันจะไม่ดีงามเลยก็ตาม กูบอกอยากแดกสายไหม เดินถ่ายรูปน่ารักๆ กับมัน แต่แม่งกลับพากูไปโหนรถไฟเหาะ เล่นไวกิ้ง นอนกลิ้งในอุโมงค์ สรุปกลับมาได้อย่างมีลมหายใจก็ถือว่าบุญนำพาโคตรๆ
“นอนอยู่บ้านก็ดีอยู่แล้ว อยู่กับที่กับทางบ้างเถอะ ไม่ใช่เตลิดออกไปข้างนอกเหมือนสติของมึง”
จึ่ก!
ด่าแรงขนาดนี้ ลุกมาถีบหน้ากูให้ครบวงเถอะครับ
“กูอยากใช้เวลากับมึงบ้าง”
“ทุกวันนี้ยังใช้ไม่พออีกเหรอ”
“หนวด...มึงแม่งไม่โรแมนติกเลย”
“มึงจะเอาอะไรกับคนแข็งกระด้างอย่างกู อยู่บ้านเนี่ยแหละ หัดทำข้าวกล่องให้กูไปทำงานแบบอร่อยๆ บ้าง”
“มึงก็...โอเคๆ หัดทำข้าวกล่องให้มึงที่บ้านก็ได้ มึงจะได้ไปอวดคนอื่นบ้างว่ามีเมียดี” แม้ตอนกลับมาผมจะเห็นว่าข้าวเละๆ เป็นโจ๊กยังคงอัดอยู่เต็มกล่องในรถของมันก็ตาม เห้อมมมม
อันยองเช้าวันเสาร์ที่มีความสุข เหมือนชีวิตผมกับไอ้หนวดไม่มีจันทร์ถึงศุกร์เลยเนาะ แป๊บๆ เสาร์ แป๊บๆ อาทิตย์ แหม...ช่วงเวลาแห่งการทำงานมันคือนรกครับ อย่าไปคิดถึงมัน ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขด้วยการลืมหัวหน้างานแล้วหันมาหั่นพริกอยู่ในครัวก็ดูมีความสุขกว่าเยอะ
วันนี้ผมเตรียมเมนูพิเศษเอาไว้ให้ผัวตื่นมาแดก เป็นเบรกฟาสต์สไตล์ไทยประยุกต์ฝรั่ง ประยุกต์เขมร ประยุกต์ทุกชาติที่อยู่บนโลกนี้เพราะกูเป็นคนทำ ซึ่งนั่นก็คือแทแดมมมมมมมม
ไข่ในพริกหวาน บริ๊ง! บริ๊ง!
แถมปิ้งขนมปังให้มันสองแผ่น
ผมจัดการเปิดสูตรทำอาหารจากในกูเกิ้ล เริ่มขั้นตอนการเตรียมวัตถุดิบอย่างช้าๆ และตรงกับอัตราส่วนที่เขากำหนดไว้เป๊ะๆ หูย...แค่เห็นรูปก็น่าแดกแล้ว ไม่อยากจะคิดเลยว่าไอ้หนวดจะตกตะลึงแค่ไหนตอนที่ได้กินอาหารฝีมือเมียที่อร่อยที่สุดในโลก
ยิ่งคิดก็ยิ่งกระหยิ่มยิ้มย่อง วันนี้ถ้าทำตัวดีผัวอาจจะจัดให้สักดอกสองดอก นี่ก็ร้างรากันมาสามสี่วันได้แล้วอ่ะ เพราะไอ้หนวดแหละ มัวแต่หลับแต่นอนปล่อยให้เมียอย่างผมนอนเสี้ยนอยู่คนเดียว
“ตัวเหี้ย”
“...”
“ไอ้ตัวเหี้ย”
อ๊ากกกกกกกก ผัวตื่นแล้ว ต้องรีบเร่งมือสินะ ต้องสู้ๆ เข้าไว้
“อะไรเหรอหนวด”
“หิว”
“อาบน้ำเสร็จยัง”
“เออ” พูดจบประโยคไปสักพัก สารร่างเขื่องๆ ของไอ้หนวดก็พาสังขารตัวเองเข้ามาในครัวด้วยสายตาเบื่อหน่าย คู่อื่นเขาเดินเข้ามากอดเอวเมียถามว่าทำอะไรอยู่ครับ แต่สำหรับมันเดินเข้ามาในครัวเพื่อเปิดตู้เย็นหยิบน้ำแดก แล้วก็เดินออกไปเหมือนกูเป็นวิญญาณ
ไอ้ถอก! เกลียดผัวแข็งกระด้างโว้ย
“ไอ้หนวด! มึงจะไม่ถามหน่อยเหรอว่ากูกำลังทำอะไร” ผมตะโกนออกไปด้านนอก
“ก็เห็นอยู่ว่ามึงทำกับข้าว”
“ก็นั่นไง มึงอยากกินมะ”
“ไม่”
“แม่ง”
“เออๆ ทำมา กูหิวแล้ว”
“รออีกแป๊บนึงนะ”
“กี่นาที”
“สิบ”
“โอเค บวกเพิ่มอีกครึ่งชั่วโมง สรุปอีกสี่สิบนาทีกูได้แดกสินะ” ไอ้ฟาย แม่งชอบรู้ทันตลอด ก็ธรรมดาแหละครับเราอยู่กันมาห้าปีแล้ว ถ้าจะไม่รู้เหี้ยอะไรกันเลยก็คงจะแปลกพิลึก
ผมรีบลงมือทำอาหารอย่างตั้งใจ กระทั่งสี่สิบนาทีให้หลังเมนูไข่ในพริกหวานก็เสร็จสมบูรณ์พร้อมเสิร์ฟทันที
“ตัวเหี้ย มึงทำเสร็จยังกูหิวแล้ว”
“เสร็จแล้วคร้าบบบบบบ”
พูดพลางถือจานออกมาหนึ่งใบเพื่ออัญเชิญแก่ผัวผู้เป็นนิรันดร์ แต่ในใจก็เต้นตุบตับกลัวมันจะสวนตีนกลับมาเมื่อสิ่งที่กูคิด VS ความเป็นจริงนั้น มันช่างแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
“นี่คือเมนูส้นตีนอะไรของมึงเนี่ย” ไอ้หนวดเงยหน้าถามจนคิ้วแทบผูกเป็นปม ก่อนก้มมองอาหารในจานสลับกับหน้ากูไปมา
“ไข่ในพริกหวานไง”
“ไหนไข่”
“นี่” ผมชี้นิ้วไปยังเศษไข่ที่เปรอะไปทั่วจานพร้อมกับยิ้มแหย
“ไหนพริก”
“นี่ไงหนวด มึงแกล้งกูป่ะเนี่ย”
“กูน่าจะถามมึงมากกว่าตัวเหี้ย นี่มึงแกล้งกูใช่มั้ย ควายไหนมันจะกินลงวะ”
“กูไง”
กูควายเลย...ที่หายใจฟืดฟาดนี่คือโมโหหิวแล้วไม่ได้แดกดั่งใจ
“เดี๋ยวกูโทรสั่งข้าวให้ เอาอาหารญี่ปุ่นมั้ย หรือจะเป็นอิตาเลี่ยนดี” เห็นผมพึมพำเหมือนนางเอกละครอยากให้พระเอกได้ยินอย่างนี้ ในใจกูอ่ะไม่ได้ระริกระรี้อย่างนั้นหรอก ก็คนมันอุตส่าห์ตั้งใจทำตั้งแต่เช้า แหกขี้ตาตื่นขึ้นมาตั้งแต่พระอาทิตย์ยังไม่ขึ้น ขนาดล้างหน้าแปรงฟันกูยังไม่ตัดใจทำเลย กลัวไม่ได้พ่นน้ำลายใส่อาหารให้หนวดมันแดก
แต่ในเมื่อหนวดหงุดหงิด เมียอย่างผมก็ทำอะไรไม่ได้ครับ
“เดี๋ยว! ยังไม่ต้องโทร” ปล่อยกูพึมพำไปสักพัก มันก็เบรกผมดังเอี๊ยด
“ทำไมอ่ะ”
“ยังมีข้าวเหลืออยู่ในหม้อมั้ย” สักพักมันก็หันมาถามหาข้าว โฮ...มึงจะไม่ชิมฝีมือกูเลยเหรอ ไอ้ส้นตีน ไอ้ผัวไม่มีจิตใจละมุนละไม
“มะ...มี”
“มึงจะสะอื้นทำไมเนี่ย ไปตักข้าวมา ตักของมึงมาด้วย”
“ก็ได้” มิอยากจะเถียง เลยได้แต่ทำตามคำสั่ง กลับมาอีกทีก็รีบยื่นข้าวให้ไอ้หนวดมันไปโดยไร้ซึ่งคำถาม หรือมันจะสั่งให้ตักข้าวมาแดกเปล่าๆ แก้อาการอยากอาหารขั้นรุนแรงกันแน่
“ยืนมองอีก นั่งแดกดิ”
“ฮะ! แดกอะไร”
“ก็ไข่ในพริกหวานมึงไง คลุกข้าวไปด้วยเดี๋ยวมึงก็รอด” พูดจบไอ้หนวดก็โชว์พาวตักเศษไข่บนจานโปะข้าวยัดเข้าปากอย่างเร็วรี่ เห็นอย่างนี้ผมเลยรีบทำตามบ้าง โอ้โห...น้ำตาจะไหล ไม่ได้ซึ้งนะ
เค็ม!!
“โคตรเหี้ยเลยเนาะ” ผมเงยหน้ามองคนตรงข้าม ก่อนมันจะพูดทั้งที่กำลังเคี้ยวข้าวเต็มปาก
“อืม ก็เหี้ยทำ”
“กูออกไปซื้อข้าวให้มึงได้นะ”
“แดกๆ ไปเถอะ มึงอุตส่าห์ทำแล้ว”
“แต่มันเค็ม”
“มึงก็กินข้าวเยอะๆ สิ เดี๋ยวมันก็อร่อยเอง” ขณะที่พูดผมยังไม่เห็นมันจะหยุดตักเมนูเปิบพิสดารเข้าปากเลย นี่แหละคือไอ้หนวด นี่แหละคือห้าปีที่ผมเรียนรู้และใช้ชีวิตอยู่กับมัน จริงๆ หนวดไม่ใช่คนแข็งกระด้าง และจิตใจมันก็ไม่ได้เลวทรามอย่างที่ผมบ่นๆ หรอก
เพราะทุกความเหนื่อย ทุกการกระทำของมัน...มีผมอยู่ในนั้น
นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมผมถึงอยู่กับคนไม่มีอะไร และ...รักอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
เกลียดมากกกกกกก เกลียดเช้าวันจันทร์เมื่อต้องพรากจากผัวไปที่ทำงาน สุดสัปดาห์ที่ผ่านมาผมต้องบอกเลยว่าฝึกปรือฝีมือการทำข้าวกล่องมาอย่างดี แต่วันนี้เสือกตื่นสายเลยต้องปล่อยให้หนวดตาละห้อยไปซื้ออาหารแถวออฟฟิตแดก โอ๋ๆ ไม่เป็นไรนะ เห็นทำหน้าเสียดายเชียว
“ตัวเหี้ยมึงจะมองหน้ากูหาสวรรค์วิมานอะไร รีบไปทำงานไม่ใช่เหรอ”
“มึงแม่งขัดกูตลอดเลยหนวด หงุดหงิดใช่มั้ยที่กูไม่ทำข้าวกล่องให้มึงไปแดก”
“อืม เสียใจ” แต่ตามึงยิ้ม ไอ้สัด
“พรุ่งนี้กูจะตื่นแต่เช้า”
“อย่าตื่นเลย”
“หมายความว่าไง”
“หมายความว่ามึงรีบตายไปเลยไง กูจะได้หาเมียใหม่”
“โอ๊ะไอ้ควายยยยยย ยิ่งมึงว่าเหมือนยิ่งยุ กูจะหนังเหนียวอยู่ต่อไปจนกว่าหรรมมึงจะหดเอาใครไม่ได้โน่นแหละ” พูดจบก็รีบสะบัดตูดตรงดิ่งไปยังรถยนต์ติดผ่อนของตัวเอง ก่อนไอ้หนวดจะขับตามมาไม่ห่างหลังปิดประตูรั้วบ้านเสร็จ
ที่ทำงานของผมกับผัวไม่ห่างกันมาก แค่อยู่คนละฟากของกรุงเทพฯ พอออกปากซอยผมเลี้ยวซ้าย ไอ้หนวดเลี้ยวขวา แยกทางกันเหมือนทุกวัน วันนี้ก็เช่นกัน
“ขับรถดีๆ ตัวเหี้ย อย่าไปชนใครเขาล่ะ”
“กูรู้แล้วน่า มึงก็เหมือนกัน”
“ประกันชั้นหนึ่งกูยังไม่หมด”
“จ้าไอ้ขี้หลงประเด็น!” ผมปิดกระจกลง โบกมือให้อีกฝ่ายไปมา พลางขับรถแยกขึ้นถนนสายหลักทันที จัดการตอกบัตรเข้างานแบบตรงเวลาเป๊ะ นั่งทำงานอย่างขยันขันแข็ง มีแวะเล่นเดอะซิมส์บ้างตอนเจ้านายไม่อยู่ เพราะอยากเรียนรู้การออกแบบบ้านแบบสามมิติบ้าง
พอใกล้ๆ เที่ยงผมก็ได้รับข่าวดีจากรุ่นพี่ว่าจะมาขอผลัดเวรด้วย ในใจเมียโมเอะอย่างผมเลยลิงโลดวิ่งเต้นจะกลับบ้านไปทำข้าวกล่องเซอร์ไพรส์ไอ้หนวดถึงที่ทำงาน คิดได้เท่านั้นก็รีบจัดเลย เมนูกลางวันวันนี้คืออาหารเพื่อสุขภาพ ผัดซีอิ๊วเส้นหมี่ข้าวกล้อง ผัดด้วยน้ำมันมะกอก ปรุงด้วยซีอิ๊วดำ ซีอิ๊วขาว ผงชูรสครึ่งซอง และน้ำมันหอยครึ่งขวด
เสร็จสรรพตักใส่กล่อง ยัดใส่รถ พร้อมเสียงพากย์พิธีกรรายการกระจกหกด้าน จากนั้นก็ขับรถนำโด่งไปยังที่ทำงานของผัวสุดเลิฟ เอ...ตอนนี้จะพักเที่ยงแล้วหรือยังนะ
จะตื่นเต้นมั้ยนะ
“หนวดดดดดดดดด เซอร์ไพรส์” ขึ้นลิฟต์มาถึงออฟฟิตมันที่อยู่ชั้นสาม ผมก็เดินถลาเข้าไปหาร่างสูงของมันทันที
“มาทำไมเนี่ย” อ้าวไม่ได้ดีใจเลย ทำหน้าไม่พอใจใส่ด้วย
“วันนี้พี่ที่ทำงานมาขอเปลี่ยนกะ กูเลยว่าทำข้าวกลางวันมาให้มึงกินไง” เมียดีอย่างกูหาไม่ได้แล้ว เพื่อเป็นการยืนยันผมเลยรีบหยิบข้าวกล่องในถุงผ้าโปเกม่อนของไอ้หนวดขึ้นมา
“กูแดกแล้ว” ไม่พูดเปล่า มันรีบชี้ไปยังกล่องข้าวที่ว่างเกลี้ยงเป็นแอ่งน้ำกลางทะเลทรายอย่างเร็วรี่
ดับฝันกูอีกแล้วไอ้ฟาย ไม่เคยทำให้กูได้ภูมิใจกับการทำอาหารสักครั้ง
“ข้าวกล่องใคร”
“น้องที่ทำงาน”
“แล้วใครล่ะ”
“น้องฝึกงานคนใหม่ มึงไม่รู้จักเขาหรอก”
“อ่ะแล้วทำไมเขาต้องทำให้มึง”
“ก็เป็นการขอบคุณที่กูช่วยสอนงานไง”
“อ่ะแล้วกูควรรู้สึกยังไง”
“...”
“อ่ะแล้วข้าวกล่องกูล่ะ”
“วางไว้ตรงนี้แหละ เดี๋ยวกูเข้าประชุมเสร็จจะกลับมาแดก พอใจยัง” ท้ายประโยคทำเอายิ้มกริ่ม
“เออก็ได้ๆ อย่าลืมกินนะ” พูดทิ้งท้ายไว้เสร็จสรรพก็หอมแก้มมันไปฟอดใหญ่ เดินผิวปากลงลิฟต์อย่างมีความสุข จริงๆ เวลานี้ผมไม่อยากกลับไปนอนเปื่อยที่บ้านหรอก ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ตัดสินใจเดินเลี้ยวเข้าร้านกาแฟมุมตึกดีกว่า อย่างน้อยอเมริกาโน่ก็ช่วยให้การรอผัวผ่อนคลายขึ้น
พอมันเลิกงานเราจะได้กลับพร้อมกัน อิ๊ย่าาาาาาาา
ห้าโมงเย็น...
เวลาเลิกงานของหนวด ผมรีบกระเด้งขึ้นมาจากเก้าอี้ หยิบเงินจ่ายตังค์ ก่อนย่ำเท้าขึ้นออฟฟิตไปหามันอีกรอบเพื่อจะได้กลับบ้านพร้อมกัน แต่ภาพที่ปรากฏตรงหน้านั้น...กลับเป็น
การที่ผัวกูนั่งเอาช้อนแคะอาหารในกล่องลงถังขยะ พร้อมกับมีแม่บ้านมารอเก็บเสร็จสรรพ คือบับ...ช็อก แล้วทุกครั้งที่ห่อให้ไปแต่ไม่โยนกลับมาที่บ้านคือมึงทิ้งแบบนี้ใช่มั้ย
หัวใจ...
ทำไมแม่งเจ็บอย่างนี้วะ
ไม่อร่อยโดนด่านี่รับได้ เหลือกลับมาที่บ้านบอกรสชาติหมาไม่แดกก็รับได้ แต่โยนลงถังขยะแบบนี้กูรับไม่ได้! มันทำร้ายจิตใจกันเกินไป ฮือออออออ
คิดเสร็จก็วิ่งทั้งน้ำตานองหน้า ขึ้นรถ ตบเกียร์ขับกลับบ้านแม่งเลย
คงได้แค่ห้าปีสินะความสัมพันธ์ของผมกับมัน ช่วงนี้ยิ่งห่างเหินกันอยู่ด้วย เห็นมันซ่อนตังค์ไว้ก็ตั้งหลายที่ กูนอนอ่อยให้เอาฟรีมันก็ไม่เอา แถมน้องที่ทำงานก็ยังทำกับข้าวอร่อยๆ มาให้มันกินอีกต่างหาก
ก้มกลับมามองตัวเอง แม่ง...ไม่มีอะไรดีเลยเว้ย ถ้ามันจะทิ้งไปตอนนี้ผมควรยินดีใช่มั้ย
คืนนี้เข้านอนตามปกติ แต่เพราะแดกข้าวเย็นตอนสามทุ่มไม่ลงเลยหนีขึ้นมาห้องนอนก่อน ในมือก็ถือโทรศัพท์นั่งอ่านกระทู้ในพันทิปไปมากะคลายเครียด แต่สุดท้ายกลับเครียดกว่าเดิม
ไอ้หนวดเองก็เพิ่งอาบน้ำเสร็จ กระโดดขึ้นเตียงโหยงๆ พร้อมจะหลับเหมือนทุกวัน
เอาไงดีวะ จะพูดกับมันดีมั้ย หรือปล่อยให้มันหลับไปเลย
“เป็นอะไรตัวเหี้ย ข้าวเย็นก็กินไปนิดเดียว มึงไม่สบายเหรอ”
“กูสบายดี”
“...” เงียบ
“ข้าวกล่องอร่อยมั้ย” ผมถามต่อ
“อร่อย”
“กินหมดป่ะ”
“อืม ถามทำไม”
“เปล่า”
“พรุ่งนี้ทำมาอีกก็ได้นะ”
“ไม่ทำแล้ว ไม่ว่าง ขี้เกียจด้วย เมื่อยมือเว่อร์” พูดไปก็เบะปากจะร้องไห้ สัด อย่าร้องนะกูอาย กูกลัวผัวจับได้ดังนั้นต้องสตรองเข้าไว้
“ตัวเหี้ย”
“ไร”
“มึงร้องไห้เหรอ”
“ใครร้องไห้ มั่วแล้ว มึงก็เห็นอยู่ว่ากูอ่านกระทู้ในพันทิป”
“เป็นอะไร”
“...”
“กระทู้แม่งดราม่า”
“กูไม่ได้ถามถึงกระทู้ กูถามถึงความรู้สึกมึง”
“มึงสนใจด้วยเหรอ ปกติมึงไม่สนใจอยู่แล้วหนิ”
“...” เงียบไปเลยผัวกู รู้งี้ไม่พูดดีกว่ากลัวโดนผัวตบแรง
“หนวด”
“อะไร”
“มึงเบื่อกูป่ะ คือเราก็อยู่ด้วยกันมาห้าปีแล้ว แต่กูยังทำอะไรไม่ได้เลย อาหารก็ทำไม่เป็น ห้องก็ไม่ชอบเก็บ แถมยังขี้เกียจอีกต่างหาก มึงอายคนอื่นมั้ยที่มีเมียอย่างกู”
“...” เดตแอร์
ไม่ตอบอะไรเลย
“ใจไม่ดีว่ะ” ผมยังคงพูดต่อ
“มึงเป็นผู้ชาย ทำกับข้าวไม่ได้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก ไม่เก็บห้องก็ไม่ใช่เรื่องแปลก งานละเอียดอ่อนอะไรที่มึงพยายามทำแล้วมันไม่เป็นอย่างหวัง มันเป็นเรื่องธรรมดา มึงจะคิดมากทำไม”
“ไม่รู้ดิ”
“มึงอ่ะชอบเป็นในสิ่งที่คนอื่นอยากให้เป็น ทั้งที่ตัวมึงเป็นแบบนี้มันก็ดีที่สุดแล้ว กูดีใจมากที่เมียกูนั่งเชียร์บอลด้วยกันจนถึงเช้า ดีใจมากที่กูมีเพื่อนก๊งยาดองในวันเทศกาล ดีใจมากที่มึงช่วยเปลี่ยนยางในวันฝนตก ทุกอย่างที่คนอื่นไม่ทำ แต่ทึงทำ มันดีที่สุดแล้ว”
โฮ...ผัวทำซึ้ง น้ำตากูพรากเลย
“งั้นกูถามมึงบ้างนะตัวเหี้ย กูเนี่ยอยู่กับมึงมาห้าปี มีบ้านหลังใหญ่ให้มึงมั้ย หน้าที่การงานเติบโตเหมือนคนอื่นมั้ย เคยหวานกับมึงเหมือนคู่รักคู่อื่นๆ หรือเปล่า กูก็ไม่มีอะไรดีเลยแล้วทำไมมึงถึงอยู่กับกู มึงฝืนเหรอ”
“กูเปล่า ทำไมกูต้องฝืนที่จะอยู่กับมึงด้วย”
“ก็นั่นแหละความรู้สึกเดียวกัน”
“หนวด...ไม่ว่าวันข้างหน้าเราจะไม่มีอะไร มึงกับกูจะทำให้ชีวิตคู่ล่มจมขนาดไหน แต่กูว่า...กูคิดไม่ผิดที่สุดท้ายกูเลือกที่จะอยู่กับมึง”
“เหมือนกันแหละ แทนที่กูจะได้เจอสิ่งดีๆ แต่มาอยู่กับตัวเหี้ยอย่างมึงก็โอเคนะ”
สัด! ไม่เคยซึ้งอะไรเลย นอกจากเอื้อมมือดึงผมเข้าไปกอดแล้วโยกไปมา
“แล้ววันนี้เป็นอะไร”
“กูเห็นมึงเทข้าวกล่องกูทิ้ง”
“แม่งบูด ไม่ได้ตั้งใจทิ้ง เสียดายเหมือนกัน แต่ถ้าเหลือกลับบ้านมึงก็จะน้อยใจอีก”
“ทุกทีมึงก็เหลือกลับบ้าน”
“บางวันเหอะ วันอื่นกูก็แดกนะครับควายน้อย”
“แล้วพรุ่งนี้เอาไง”
“ตื่นเช้าๆ ดิ ทำให้กูเหมือนที่มึงชอบทำนั่นแหละ ไม่อยากกินฝีมือคนอื่น แม่งแดกแต่ของอร่อยแล้วลืมความเหี้ยในรสมือมึงไป กูกลัวว่าจะอายุยืน”
“ไอ้หนวด! มึงจะโรแมนติกสักนาทีได้มั้ย”
“อยากเข้าช่วงโรแมนติกว่างั้น”
“อือ...อื้อออออออ” ร้อนแรงดั่งพริกแกงในตู้เย็น พูดไม่ทันขาดคำผัวกูก็บดจูบทันทีราวกับหื่นกระหาย ไม่ขอเล่าต่อนะครับว่าเกิดอะไรขึ้น ตัดเข้าไปที่โคมไฟเลย
โธ่...รู้งี้งอนบ่อยๆ ก็ดี อยากโดนจนยับ อยากโดนให้หนำใจ ใส่เข้ามาเลยพี่หนวดกูพร้อมรับเสมอ
“อู้ววววววววว ซี๊ดดดดดดดดดด อ๊าส์ส์ส์ส์ส์ส์ส์ส์ส์ส์”
สามเดือนผ่านไป...
ซีนเดิม ณ เตียงหลังเก่า ได้เวลานอนแล้ว แต่กูก็ยังแหกขี้ตาอ่านหนังสือการ์ตูนที่ผัวเช่ามาอย่างมีความสุข ไอ้สันขวานนี่มันเลวจริงๆ ยุให้ติดการ์ตูนจนไม่เป็นอันทำอะไรแล้วเนี่ย
“จบยัง” เสียงเข้มเอ่ยขึ้น
“ยัง ทำไมไอ้ซันจิแม่งควายอย่างนี้วะ”
“มึงด่าไอดอลกูได้ยังไงเนี่ย เก็บเลยๆ”
“ยังไม่ดึกเลยมึงจะรีบนอนไปไหนวะ” ผมตอบอย่างหงุดหงิด แต่ก็ไม่อาจต้านแรงแร้งทึ้งของผัวสุดโหดได้
“เดี๋ยวกูไปปิดไฟ ไม่ต้องผงกหัวขึ้นมาอีกนะ” ชี้หน้าขู่เสร็จก็เดินตุ๊บป่องๆ ไปปิดสวิตช์ ห้องทั้งห้องเลยอยู่ในความมืด ผมรับรู้ได้ถึงแรงโถมตัวยิ่งกว่าโพไซดอนกะซวกน้ำของไอ้หนวด พร้อมกับปิดเปลือกตาลง
“ตัวเหี้ย” สั่งให้กูหลับ แต่เสือกพูดขึ้นมาเนี่ยนะ
“อ่าฮะ”
“มึงขี้เกียจหาตังค์ที่กูซ่อนไว้แล้วหรือเปล่า” มึงจะขุดคุ้ยความชั่วของตัวเองขึ้นมาทำไมเนี่ย ผมก็อุตส่าห์เนียนไม่ถามขึ้นแล้วนะ วันนั้นก็เจอพันนึงเหน็บอยู่ในแจกันศาลพระภูมิ แถมยังแอบเห็นสมุดบัญชีธนาคารวับๆ แวมๆ อยู่ใต้ลิ้นชักด้วย แต่เปิดไม่ได้ไง ไอ้หนวดแม่งเสือกฉลาดล็อกไว้ซะงั้น
“ไม่ขี้เกียจหรอก ตราบใดที่กูเจอเงินมึง นั่นหมายความว่ากระเป๋า Herm’es ของกูก็ใกล้เข้ามาทุกที”
“ไอ้มนุษย์เมีย มึงมัน...”
“ให้กูมีความสุขก็ถือว่าเป็นบุญนะมึง กูชอบหาเงินที่มึงซ่อน สนุกดี”
“พูดเหมือนเด็ก พอแล้วนะ”
“...”
“เงินที่กูซ่อนมึงเอาไว้มากพอแล้วนะ บอกแม่ด้วยกูจะไปขอมึงกับแม่แล้ว” อึ้ง! ไม่คิดว่าจะมีวันนี้ อยู่กินด้วยกันจนลืมไปเลยว่าแม่กูยังไม่ได้เงินสินสอด มีแต่หนี้
“ตัวเหี้ย” เรียกกูซะหมดโรแมนติกเลย
“หืม...”
“เงินกูพอจะสร้างบ้านหลังใหม่ด้วย บ้านที่มีหน้าต่างเยอะๆ แบบที่มึงอยากได้ บ้านที่มึงจะได้ออกแบบภายในด้วยตัวเอง บ้านที่มีแอร์เย็นๆ ให้มึงนอนตากพุง บ้านที่มีโรงรถกันแดดกันฝนให้ลูกรักของมึง บ้านที่มีครัวให้มึงซ้อมทำข้าวกล่องจนพังคามือ และก็บ้านที่มีผัวหล่อๆ และเอาโคตรแรงอย่างกู”
“-_-”
ประโยคสุดท้ายกูไม่อยากได้
น้ำตากูพรากแล้ว ผมกับไอ้หนวดกำลังจะมีบ้านอย่างที่เราอยากมี
“หนวด กูซึ้ง ขอบคุณนะ” ผมกอดร่างสูงไว้แน่น ก่อนไอ้หนวดจะเอื้อมมือไปเปิดไฟหัวเตียง
“นี่ครับเมีย”
“อะไรเหรอ”
แหวน...ต้องเป็นแหวนแน่ๆ แต่ทำไมมันถึงแบนๆ วะ
“หนี้ทั้งหมดที่เราต้องช่วยกันใช้ในชาตินี้”
“เหี้ย!!”
“สมรสและภาระไงมึง”
“พ่อมึงดิ ไอ้หนวด ไอ้ควายยยยยยย กูไม่เอา”
“เป็นชื่อมึงกับกู”
“ไม่!!”
“เราจะแยกจากกันไม่ได้ เพราะเรา...มีหนี้ที่ต้องใช้ร่วมกัน”
โฮ...กูร้องไห้แป๊บ
แม้แต่วินาทีสุดท้าย มันก็ทำให้ผมรู้สึกได้ถึงความอัปรีย์ แต่ไม่ว่าจะยังไง ชีวิตสิ้นไร้ไม้ตอกแค่ไหน ตอนที่ไม่เหลืออะไรเลยผมยังคงมีมันอยู่ข้างๆ ยอมรับและอดทนก้าวข้ามทุกอย่างไปด้วยกัน
ถึงวันนี้ผมไม่เคยเสียใจเลย ที่เลือกอยู่กับไอ้หนวด
ผู้เป็นรักแรกและรักสุดท้าย...
ถือเป็นเรื่องสั้นคัมแบ็กสเตทของจิตติเรนแล้วกันนะคะ
ฮ่าๆ ชีวิตคนเรา ถ้าได้เจอคนที่อยู่ด้วยกันแล้วสบายใจ ถึงลำบากหน่อย
แต่มันก็โอเคนะ เราจะรู้สึกว่ามันคุ้มค่าที่สุดตอนที่ผ่านช่วงเลวร้ายมาด้วยกัน
และยังไม่คิดทิ้งกันไปไหน (แด่คู่ผัวเมียตัวเหี้ยแต่หนี้บาน)
แท็กทวิต #เมียกากมิพรากเธอ