ตอนที่ 18
ยามเช้าที่น่าอึดอัด….เชอเบทตื่นแล้ว ฟ้าลั่นก็เช่นกันแต่ไม่มีใครคิดจะขยับหรือพูดอะไรสักคำ เชอเบทยังคงนอนนิ่งอยู่ในอ้อมแขนฟ้าลั่น เหมือนที่ฟ้าลั่นก็ทอดสายตาออกไปที่หน้าต่างบานใหญ่
ความอึดอัดกระอักกระอ่วนเกิดขึ้นระหว่างกัน เชอเบทมองแผ่นอกสีน้ำผึ้งที่มีรอยแดงเป็นหย่อมๆ…น่าจะเพราะหนวดเขามันเสียดสีเพราะเมื่อคืนตอนเช็ดตัวอีกฝ่ายยังไม่มีรอยพวกนี้ ฟ้าลั่นหลุบตามองกลุ่มผมยาวได้กลิ่นแชมพูจางๆปล่อยให้เวลาผ่านไปเรื่อยเปื่อยจน
กระทั่งเสียงโทรศัพท์อีกฝ่ายดังขึ้น
เชอเบทขยับออกจากอ้อมแขนอบอุ่น…ไม่สบตาอีกฝ่ายแต่ลุกไปหยิบมือถือที่วางกองอยู่กับพื้นข้างเตียงมาดู เฌอแตมโทรมา
“อือว่าไง”
“เมื่อเป็นไงบ้างหลังกูกลับ?”
“กูมาส่งเพื่อนเอง ที่เมาต่อยกับชาวบ้านนั่นล่ะ”
เชอเบทได้ยินเสียงหัวเราะทุ้มๆดังมาตามสาย ดูเฌอแตมอารมณ์ดีแปลกๆ
“ไปส่งกันแล้วก็คุยกันสิ”
“คุยอะไร”
“เรื่องของมึงกับเขาไง”
“รู้มากว่ะ”
“หน้ามึงมีพิรุธกับคนนี้ เมื่อวานมันกินเหล้าโต๊ะกูเห็นมันมองตลอด…มึงก็ไม่หันมาทางโต๊ะกูเลย แล้วที่มันเมากูว่าก็เพราะมึง”
กลอกตาให้กับความขี้เสือกของแฝดตัวเอง คุยกันอีกนิดหน่อยก่อนจะต้องวางเพราะเฌอแตมไปเรียน ส่วนเขาสภาพนี้คงโดด…ดูเวลาก็กินคาบเรียนเข้าไปแล้วแถมคนเรียนวิชาเดียวก็นอนนิ่งอยู่บนเตียง ก็คุยกันเลยแล้วกันเพราะเขาหนีมันมาสองวันแล้ว
สองวัน…ที่โคตรอึดอัด มันเกินหนึ่งอาทิตย์แล้วนะที่เขายังผูกติดกับมัน มันคนแรกที่เป็นแบบนี้ อาจจะด้วยปัจจัยอะไรก็แล้วแต่ เฮ้อ…
มือเรียวขยี้กลุ่มผมยาวของตัวเองแล้วเดินกลับไปที่เตียง เท้าหยุดชะงักมองแผ่นหลังฟ้าลั่นที่นอนตะแคง…แผ่นหลังกว้างที่คุ้นเคย
“ฟ้า”
“อือ”
“ปวดหัวหรือเปล่า”
ทรุดนั่งลงข้างเตียง ยกมือแปะลงที่หน้าผากสีน้ำผึ้ง…อุ่นๆนิดหน่อยแต่ไม่ถึงกับตัวร้อน ไม่มีไข้แม้ใบหน้าจะบวมช้ำ แขนขามีรอยฟกช้ำบ้างประปราย มุมปากที่แดงก่ำเมื่อคืนเริ่มกลายเป็นสีม่วง
เพราะเขา…
“นิดหน่อย”
มือหนาดึงมือเรียวที่แตะอยู่บนหน้าผากมากุมไว้ ก่อนจะยกขึ้นจรดปลายจมูกตาหลุบลงหอมฝ่ามือขาว…ก่อนจะจูบเบาๆไปตามข้อนิ้ว ก่อนประทับจูบเนิ่นนานที่ข้อมือด้านใน…
เชอเบทหลุบตาลงมองตักตัวเอง ความรู้สึกแปลกๆที่ไม่ค่อยชัดเจนนักเกิดขึ้นในอก…อาจจะเพราะมือที่ถูกฟ้าลั่นจูบ…แต่ก็ไม่คิดจะดึงออก
“ยอมคุยกันแล้วหรอ”
ฟ้าลั่นพลิกตัวกลับมารวบเอวอีกคนเข้าไปกอด ยกตัวขึ้นเล็กน้อยนอนหนุนตัก…และซุกหน้าลงกับแผ่นท้องแบนราบใต้เสื้อยืดตัวบาง
“อยากคุยอะไรล่ะ”
“เรื่องปริ๊นซ์”
สูดลมหายใจเฮือกใหญ่…เพราะฟ้าลั่นไม่คิดจะอ้อมเคยเลยสักนิด ปัญหาเรื่องนี้ที่ทำให้ผิดใจกันผสมปนเปไปกับอารมณ์และความรู้
สึกแปลกๆ
“อือว่าไง”
“กูไม่ได้ชอบเพื่อนมึง มึงเข้าใจผิด”
เชอเบทพึมพำรับในลำคอ มือเผลอยกลูบกลุ่มผมที่ยุ่งชี้โด่ชี้เด่ของคนบนตักไปเรื่อยเปื่อย แอบกลั้นหายใจเมื่อจมูกโด่งของอีกฝ่ายขยับเบาๆบนแผ่นท้องให้รู้สึกจักจี้
“แล้วมึงล่ะเชอ…”
“กู….เคยชอบมัน”
เชอเบทหลุบตาลงมองสบตากับคนบนตักที่หันหน้าขึ้นมาสบตากัน นัยน์ตาสีเข้มของฟ้าลั่นมีพลังดึงดูดให้ถอนตัวไม่ขึ้น…รอยยิ้มจางที่ดูเศร้า…เสียใจที่ทำให้รู้สึกผิด ทั้งที่ก็ปลอบตัวเองว่าไม่ได้ผิดอะไรสักหน่อย
“เคยก็แสดงว่าไม่แล้ว”
“แต่ก็จูบ”
“กูกับมึงก็จูบ เฟรนด์คิส”
“อย่าวางตำแหน่งกูไว้เท่ากับคนอื่นจะได้หรือเปล่า”
คำพูดเสียทุ้ม…ที่เหมือนน้ำหยดลงบนผืนน้ำสงบกลางใจให้เกิดผลกระทบวงกว้าง…ทำไมต้องมองด้วยสายตาอ้อนวอน ทำไมต้องใช้หางเสียงขอร้อง…ทำไมต้องทำให้รู้สึกได้ขนาดนี้
“ไม่จูบมันแล้วได้มั้ย…”
“ฟ้า…”
“จูบกูคนเดียวไม่ได้หรอเชอ…”
“ฟ้า นั่นมันแฟน”
“…”
“กูกับมึงไม่ใช่แฟนกัน”
มือที่ลูบผมฟ้าลั่นชะงัก ตาคมที่บวมช้ำจากการมีเรื่องหลุบลงก่อนจะปิดสนิท…สองเขนที่กอดเอวค่อยๆปล่อยลงเหมือนไร้เรี่ยวแรง หัวใจทรยศไปรู้สึกเจ็บ…
“ไปเถอะ…”
ฟ้าลั่นลืมตาคลี่ยิ้มจาง…ก่อนจะผละตัวลุกหนีจากตักของเชอเบท ยืดตัวขึ้นนั่งเสยผมตัวเองแรงๆก่อนจะลุกจากเตียงเดินลงไปข้างล่าง ไม่แม้แต่จะหันมาสบตาคนที่มองตามแผ่นหลัง
เชอเบทใจหาย…ทำไมต้องยิ้มเศร้าขนาดนั้น ยิ้มแบบนั้นมันตอกย้ำว่าเขาเป็นคนใจร้าย ซึ่งมันก็จริง…ความสัมพันธ์ชั่วคราวที่เขาไม่อยากให้มันล้ำเส้น เขาไม่พร้อมจะมีใคร
แต่อีกเสี้ยวหนึ่งดันบอกให้รั้งอีกฝ่ายไว้…
ทั้งอยากมีและไม่อยากมีในเวลาเดียวกัน
“เวลามันสัมพัทธ์” คำพูดของเฌอแตมยังชัดเจน แต่เขาไม่รู้จักมัน มันไม่รู้จักเขา ระหว่างเรามันมีแค่ความสัมพันธ์บนเตียง…ไม่มีอะไรเลย มันแค่หลงเข้ามาในโลกของเขานิดหน่อยเหมือนที่เขาได้แวะไปโลกของมันมาบ้าง
แต่ก็ยังแปลกหน้า
เชอเบทรู้สึกหน่วงที่ใจ สุดท้ายก็ยืดตัวเต็มความสูงเดินตามลงไปชั้นล่าง แต่ไม่มีฟ้าลั่น…ฟ้าลั่นไม่อยู่ไหนเลยในบ้านหลังนี้ เดินไปหน้าบ้านก็ยังเห็นรถจอดอยู่ หันกลับมาเจอประตูกระจกที่เชื่อมไปสระว่ายน้ำเปิดอยู่
ฟ้าลั่นอยู่ที่นี่….กับบุหรี่หนึ่งมวนปล่อยควันสีเทาให้ลอยละล่อง นั่งอยู่ขอบสระขาจุ่มลงไปในน้ำ อีกมือยันไว้กับพื้นด้านหลังเป็นหลักให้ตัวเอง….
“ไม่ไปอีก”
คำไล่กลายๆ…
“ไปหาหมอดีกว่าปะ?”
“ไม่เป็นไร”
ตอบทั้งๆที่ไม่หันไปสบตา แค่อัดควันบุหรี่ทำร้ายตัวเองแล้วปล่อยให้มันลอยละล่องหายไปบนฟ้า…เป็นควันที่แตะต้องไม่ได้ ทำได้แค่สัมผัสอยู่ชั่วระยะหนึ่งและต้องปล่อยมันไป
“งั้นกูกลับแล้วนะ”
“อือ กลับเองได้นะ?”
“เดี๋ยวเรียกแท็กซี่”
เชอเบทเดินกลับเข้าไปในบ้าน เท้าสองข้างเหมือนมีลูกตุ้มอันใหญ่ถ่วงไว้ให้แต่ละย่างก้าวมันยากเย็นขึ้นทุกที ก็ไม่ได้ทะเลาะกันแล้วไง? ฟ้าลั่นก็ดูไม่พยายามจะคุยอะไรอีกแล้ว ทำไมเป็นเขาเองที่อยากให้มันใส่อารมณ์มากกว่านี้ แบบนี้ก็ดีแล้วไม่ใช่หรอ?
ก็เหมือนคนอื่นๆไงที่เข้าใจได้ง่ายๆว่าเขาก็แค่ผ่านมาและจะผ่านไป….
คนเราก็พบเพียงเพื่อผ่าน….ความรัก ความรู้สึก มันจะเกิดขึ้นได้จริงๆหรอ?
คนที่แต่งงานกันยังเลิกกันเลย….อยู่กันตั้งหลายปียังหันหลังให้กัน แล้วฟ้าลั่นจะมาติดใจอะไรกับเวลาแค่สั้นๆ แล้วเขาจะใส่ใจทำไม
ถอนหายใจหนัก…แต่สุดท้ายก็ทิ้งตัวลงบนเตียงคิงไซส์ที่มีกลิ่นไอของอีกฝ่าย…คว้าหมอนที่มีกลิ่นแชมพูราคาแพงของฟ้าลั่นมากอดแน่น ซุกหน้าลงกับความรู้สึกถึงตัวตนของคนอีกคน
ใจที่ตั้งใจว่าจะกลับเหมือนถูกกลิ่นไอที่ล้อมรอบตัวมัดให้อยู่ตรงนี้ อยากอยู่ตรงนี้นานอีกนิด ไม่เข้าใจตัวเองเลยจริงๆว่าต้องการอะไรกันแน่
ทุกอย่างมันทำให้เขาสับสน ทั้งความรู้สึกที่สวนทางกับความคิด เหมือนอยู่กลางสี่แยกที่ตัดสินใจไม่ได้ว่าต้องไปทางไหน ป้ายบอกทางสักอันก็ไม่มี
หลงทาง….หลงอยู่ในห้วงความรู้สึก
อึดอัด…แต่ก็ไม่รู้จะต้องทำยังไง
ฟ้าลั่นสูบบุหรี่ต่อเป็นมวนที่สองก็ยังไม่เห็นอีกฝ่ายลงมา ทำให้ไม่กล้าที่จะเข้าไปเหมือนกัน ตลกนะ? ทั้งๆที่เป็นบ้านตัวเองแท้ๆ กลัวเหลือเกินว่าเข้าไปจะเจอมันเดินลงมาบอกลากัน
มันกำลังจะกลายเป็นควันที่หายไป
ตลกว่ะ…ยังไม่ได้พูดกันสักคำว่าเลิกเป็นเพื่อนแต่ทำไมมันเหมือนรู้ได้เองว่าทุกอย่างกำลังจะจบลง
จบทั้งๆที่ไม่มีอะไรเลย…ก็แค่คนสองคนมีอะไรกันแล้วแยกกันไป มือที่ว่างขยี้หัวตัวเองแรงๆอีกที อยากขจัดความฟุ้งซ่านนี่ออกไปสักที
กับคนอื่นก็แบบนี้ไม่ใช่หรอวะ? ก็แค่อยู่กันชั่วคราวแล้วก็แยกแต่ทำไมคราวนี้ถึงวิ่งตามมันอยู่ได้ตั้งหลายวัน วางแผนบ้าบอให้ตัวเองต้องเจ็บตัวเพื่อที่จะคุยกับมัน…แล้วยังจะทำใจไม่ได้ที่มันจะไป เขาเป็นบ้าอะไรกันแน่
อยากโทรหาแท๊ปอยากถามว่าตัวเองเป็นอะไร…แต่มือถือเจ้ากรรมก็อยู่ที่ชั้นสอง
อยากออกไปข้างนอก…แต่มีแค่บ๊อกเซอร์ตัวเดียวติดกาย เสื้อผ้าก็อยู่ชั้นบน
เอาเถอะ…มันคงไม่มีอะไรเลวร้ายไปกว่านี้ละ
ขยี้บุหรี่ลงกับที่เขี่ยบุหรี่บนโต๊ะริมสระแล้วเดินเข้าบ้าน พาตัวเองไปที่ชั้นสอง ในหัวสมองคิดไปว่าอีกฝ่ายคงกำลังอาบน้ำเตรียมตัวกลับหรือเปล่า หรือเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่ หรือกำลังเดินลงมาสวนกัน…ชะงักเมื่อเจอคนที่บอกว่าจะไปแล้วนอนกอดหมอนของเขา ขดตัว
เหมือนหอยทาก…
เชอเบทเหมือนจะรู้ตัวรีบทำหน้าตื่นลุกขึ้นมา…ปากอ้ำอึ้งพูดอะไรไม่ถูก ผมยาวยุ่งนิดหน่อยแกว่งไปมาตามการขยับของอีกฝ่าย
“ยังไม่ไป?”
“กำลังจะไปแล้ว”
“แล้วทำไมกลับมานอน”
“…ไม่มีเสื้อผ้า”
“ก็เอาของกูไปก่อน”
“กลัวไม่ได้เอามาคืน”
“ก็เอาไปเลย”
“แต่มันของมึง”
“กูให้ได้”
“กูไม่อยากได้”
“แล้วถ้ากูจะให้?”
“ก็ถ้ากูจะไม่เอาล่ะ”
ฉับพลันเหมือนขาดสติ…ฟ้าลั่นก้าวที่เดียวถึงตัวอีกฝ่าย มือหนาจับคางอีกฝ่ายแน่นแล้วประทับจูบลงไปบนกลีบปากนุ่ม…จูบที่ราวกับขาดน้ำมานาน
ในหัวเชอเบทเหมือนมีคนกดปิดสวิตซ์ ตัดขาดทุกความรู้สึก สองมือยกโอบรอบคอแกร่งจูบตอบกลับ…ทั้งโดยขบเม้มจนรู้สึกเจ็บแต่ไม่คิดจะหยุด แต่กลับสอดลิ้นเข้าไปเกี่ยวกระหวัดรัดกับลิ้นอุ่นที่ควานหากันจนเจอ…สองร่างล้มลงบนเตียงอีกครั้ง
สุดท้ายฟ้าลั่นก็นอนหอบเบาๆหน้าซุกอยู่กับซอกคอขาว …เชอเบทกระพริบตามองเพดานสองมือยังขยำอยู่บนกลุ่มผมสั้น…ร่างกาย
ที่มีฟ้าลั่นทับอยู่ทรยศว่าต้องการอ้อมแขนนี้…
ประเด็นไร้สาระเรื่องเสื้อผ้าที่เถียงกันเหมือนถ่วงเวลาถูกพับเก็บไป…
“ทำไมยังไม่ไป”
“กูไม่รู้”
ไม่มีเรื่องของปริ๊นซ์อีกต่อไปแล้ว…ที่ต่างฝ่างต่างยังลังเลคือความรู้สึกของตัวเอง มันคล้ายๆภาพที่อยู่หลังม่านน้ำ ไม่ชัดเจน ไม่แน่ใจ ไม่กล้าแม้แต่จะแหวกม่านน้ำตกนั้นออกไปให้เห็นภาพที่ชัดเจน
“ถ้ามึงเป็นแบบนี้….กูจะปล่อยมึงไปไม่ได้”
“กู…กูเริ่มไม่อยากไป”
อยากจะร้องไห้…ทำไมสมองกับหัวใจมันช่างสวนทางกันคนละขั้ว สมองเหมือนตะโกนเตือนว่าเส้นที่กั้นไว้อีกฝ่ายจะข้ามมาแล้วนะ แต่หัวใจกับเชื้อเชิญอีกฝ่ายอย่างยินดี
เหมือนกับคนที่ยืนอยู่บนขอบเหว…รู้ว่ากระโดดลงไปก็คงจะตาย…แต่หัวใจดันบอกว่าตัวเองบินได้… “ทำไม”
“อย่าถาม…ว่าทำไมกูยังอยู่”
ไม่มีคำตอบที่จะให้ฟ้าลั่นและตัวเอง ใบหน้าคมที่ซุกอยู่กับซอกคอเงยขึ้นมาสบตา…นัยน์ตาคมราวเหล็กกล้ามองด้วยสายตาที่เชอเบทตีความไม่ออก
ฟ้าลั่นรู้สึกเหมือนหัวใจกำลังทรยศตัวเองอีกครั้ง…ยังจำได้ว่าคาดหวังแค่อยากให้จบด้วยดี ออกปากเองด้วยซ้ำว่าให้มันไป แต่แค่เห็นอีกฝ่ายยังอยู่ตรงนี้ ยังอยู่บนเตียงที่มีหมอนของเขาในอ้อมกอด…
ความเชื่อมันห่วยๆมันก็พัง…ร่างกายมันไปเองโดยที่ไม่อาจควบคุมได้เลย
“งั้นก็อย่าถาม…ว่าทำไมถึงกูอยากให้มึงอยู่”
เพราะเขาห็หาคำตอบไม่ได้ มันดูคล้ายความชัดเจนในภาพลางๆ แต่อีกฝ่ายขีดเส้นให้เขาเป็นแค่เพื่อนทำให้ไม่กล้าจะทำให้มันชัดเจน
เหมือนกำลังจะกระโดดข้ามตึกสูง…รู้ทั้งรู้ว่ายังไงก็โดดไม่ถึง…แต่หัวใจดันบอกว่าตัวเองมีปีก หลังจากปล่อยกันและกันให้อยู่ในความเงียบก็ผลัดกันไปอาบน้ำเพื่อหาอะไรกินสักที ไม่มีใครพูดเรื่องนั้นขึ้นมาอีก ต่างยิ้มให้กันเหมือนอย่างเคย พายุรุนแรงที่ถูกซ่อนไว้หลังเงาเมฆนุ่มนิ่ม…
เชอเบทเปลี่ยนมาใส่ชุดฟ้าลั่น เลือกเสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อนกับกางเกงขาสั้นสีดำ หวีผมหน้ากระจกของฟ้าลั่นเอียงหน้ามองตัวเองในกระจก…หนวดที่ตั้งใจไว้เริ่มยาวคงต้องโกนออกบางส่วน
ฟ้าลั่นนุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียวเดินเข้ามาในห้องแต่งตัว มืออีกข้างมีผ้าเช็ดตัวผืนเล็กขยี้หัวเปียกๆของตัวเอง แค่ยิ้มให้อีกฝ่ายผ่านกระจกแล้วไปเลือกเสื้อผ้ามาใส่
เสื้อเชิ้ตสีเขียวอ่อนกับกางเกงขาสั้นสีขาว แล้วเดินมายืนข้างกันหน้ากระจก เลิกคิ้วมองอีกฝ่ายที่ยังพิจารณาใบหน้าตัวเองไม่เลิก
“ไม่มีอะไรติดหน้าซะหน่อย”
“อยากโกนหนวดว่ะ”
“หือ?”
“มันเริ่มยาวละ ทิ่มอกมึงแดงด้วยกูเห็น”
ฟ้าลั่นยิ้มจางกับความใส่ใจเล็กน้อย…ถึงจะเพิ่งผ่านความสับสนวุ่นวายของอารมณ์กันและกันแต่ในเมื่อทั้งเขาและมันพูดชัดเจนแล้วว่าห้ามถามก็ต้องปล่อยไป
“โกนปะล่ะ”
“มีมีดโกนติดบ้านปะล่ะ”
“มี เดี๋ยวโกนให้”
ความกระอักกระอ่วนกรุ่นกลิ่นไอแปลกๆ เชอเบทนั่งอยู่บนโถส้วม มีฟ้าลั่นกำลังถือมีดโกนสีน้ำเงินเข้มยืนก้มตัวอยู่ข้างหน้า
ตาเรียวหลุบลงไม่กล้าสบตาคมที่จ้องซะจนรู้สึกแปลกๆ
มือหนาที่จับคางอยู่นี่อีก…กลิ่นกายดิบของฟ้าลั่นมันช่างชัดเจน…
“กูโกนเองก็ได้ เอาออกนิดเดียวเองตรงที่เริ่มยาว”
“เถอะน่า นั่งนิ่งๆล่ะ”
คางถูกจับเอียงซ้ายขวาให้ฟ้าลั่นโกนหนวดช้าๆ บางจังหวะลมหายใจของอีกฝ่ายรดรินผิวเนื้อจนใจเต้น…ฟ้าลั่นก็รู้สึกไม่ต่างกัน กลิ่นสบู่จางๆจากตัวเชอเบท ผิวเนื้อขาวเนียนที่มือเขาสัมผัสมันช่างชวนฝัน
เหมือนความฝัน…แต่มันคือความจริงที่เขาได้อีกฝ่ายคืนมา
โกนจนเรียบร้อยก็ปล่อยให้อีกฝ่ายปัดเศษหนวดออกจากตัว แล้วไปเชคตัวเองหน้ากระจก
“หน้าโล่งเลยว่ะ”
มือลูบไรหนวดที่สั้นลง ฟ้าลั่นมือนิ่งพอตัวถึงกะได้พอดีกับที่โกนประจำ
“ก็เหมือนเดิม ออกแค่นิดเดียว”
“แต๊งกิ้ว”
“อ่าห้ะ”
ยิ้มเก้อเล็กน้อย ยิ่งสำรวจตัวเองหน้ากระจกแล้วมียิ้มมุมปากของฟ้าลั่นยืนซ้อนอยู่ด้านหลังยิ่งทำหน้าไม่ถูกเลยรีบหันตัวหนี
ออกจากห้องน้ำ แต่ฟ้าลั่นก็กลั้นทางไว้
“อะไรเล่า…”
โวยวายเสียงแผ่ว
“ขอกอดแปปนึง”
เอวบางถูกรวบเข้าไปกอดแน่นในอ้อมแขนอุ่น…ก่อนมือขาวจะยกขึ้นโอบรอบแผ่นหลังกว้างเช่นกัน
“น้องเชอ…พี่ฟ้าคิดถึง”
“คิดถึงพี่ฟ้า…”
ปลายจมูกโด่งของฟ้าลั่นจรดลงที่กลุ่มผมนิ่มเนิ่นนาน…น้ำใสเอ่อคลออยู่บนดวงตาเรียวของคนถูกกอด
ฟ้าลั่นได้เชอเบทกลับมา…เชอเบทก็ได้ฟ้าลั่นคืนมาเช่นกัน
==================================================
-.- คนปากแข็งก็อยู่กันไปแบบมึนๆละกัน
มาเม้นกันเถอะ เพื่อม็อกกิ้งเจย์หน้าเรื่องของเรา 5555
มีฉากโกนหนวดแล้วนะคะ ถึงหนวดจะเหลือเท่าเดิม 555555555555555555555555555555555 ถือว่าโกนแล้วนะ
เจอกันตอนหน้าค่ะ จุ้บจุ้บ