}Preorder{เป็นเกย์กันมั้ย? (ซัน-โป้) พิเศษมูน-จิน5 P.14 [31/10/60]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: }Preorder{เป็นเกย์กันมั้ย? (ซัน-โป้) พิเศษมูน-จิน5 P.14 [31/10/60]  (อ่าน 170773 ครั้ง)

ออฟไลน์ Silver Fish

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-0
    • Fanpage
ยกที่7 หอน้อยคอยรัก
   
   ตอนนี้ทั้งตอนเป็นเรื่องราวของผม ผู้ชายที่หน้าหล่อที่สุดในโลก ‘อาทิตย์’ ชื่อเล่นคือ ‘ซัน’ ครอบครัวเปิดรีสอร์ทอยู่ที่กาญจนบุรี มีพี่ชายหนึ่งคนดูแลรีสอร์ทที่ลำปาง

   พอผมกลับมาตามคำสั่ง พี่ชายผมยืนยิ้มหวานรออยู่หน้ารีสอร์ท น่าสยดสยองเกินบรรยาย เขาคนนี้ชื่อ ‘ติชิลา’ แปลว่าพระจันทร์ ชื่อเล่นว่า ‘มูน’ ถอดผิวขาว หน้าสวยมาจากแม่เต็มๆ ต่างจากผมที่ถอดความหล่อและดำจากพ่อราวกับโขกมาจากพิมพ์เดียวกัน พี่มูนอายุมากกว่าผมห้าปี ตัวเล็กกว่ามาก แต่พละกำลังยิ่งกว่าพญาช้าง ภายใต้ชุดแสนสวยคือมัดกล้ามดีๆ นี่เอง

   อีกอย่าง พี่ชายผมเป็นเกย์แถมยังเป็นฝ่ายรุก! สเปคของพี่คือหนุ่มสูงยาวเข่าดี หล่อ มีกล้ามสมส่วน ซึ่งไอ้คนประเภทนี้ปกติมันมีแต่รุกทั้งนั้น ในขณะที่ผมคิดว่าพี่ชายคงจะขึ้นคานตลอดกาลเป็นแน่ นรกกลับส่งผู้ชายโชคร้ายคนหนึ่งมา

   พี่จินผู้มีใบหน้าหล่อคมคายและหุ่นดีปานนายแบบ เจ้าของห้างชื่อดังในกรุงเทพฯ ฉลาดเก่งรวยและมีความสามารถสูง ตรงสเปคพี่มูนทุกอย่าง ผมไม่เข้าใจ พี่มูนไปเล่นเสน่ห์น้ำมันพรายใส่พี่จินใช่มั้ย ถึงหลงผิดยอมเป็นของพี่มูนได้ มันยังคงเป็นปริศนาดำมืดจนถึงทุกวันนี้ และไม่มีใครกล้าแตะต้องแม้กระทั่งผมเอง

   เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือจอมยุทธยังมีมนุษย์เมีย เหนือมนุษย์เถื่อนนิสัยคุณชายอย่างผม ยังมีพี่ชายหน้าสวยสุดโฉด อยากกลับหอไปมองหน้าโป้ชะมัด อย่างน้อยๆ ทางนั้นก็สวยไร้พิษภัย...
   
   “นินทาฉันในใจไฟแล่บเชียวนะ กว่าจะโผล่หัวมาได้ ติดสาวรึไง”

   ไม่ได้ติดสาว กำลังสับสนอยู่กับผู้ชายคนหนึ่ง มันคือความคิด ตรงข้ามกับสิ่งที่พูด

   “ผมไม่อยากรีบกลับมาเป็น ก ข ค ง จ ฉ พวกพี่ไง”

   “ให้มันน้อยๆ หน่อย ไปอาบน้ำอาบท่าไป อย่าลืมไปไหว้แม่กับพ่อด้วย”

   ผมรับคำเสียงกวน แล้วใส่เกียร์หมาวิ่งหนีเท้าพี่ชายพุ่งจากรีสอร์ทกลับบ้าน บ้านผมเป็นบ้านเดี่ยวสองชั้น มีสามห้องนอน สองห้องน้ำ สมัยตอนยังอยู่ด้วยกันพร้อมหน้า จนกระทั่งพี่ชายย้ายไปดูแลรีสอร์ทที่ลำปาง แถมยังมีแฟนเป็นตัวเป็นตน พี่เลยแยกไปอยู่บ้านอีกหลัง ขนาดเล็กกว่าบ้านใหญ่เท่าหนึ่ง เห็นว่าแยกไปแบบนั้นรังแกคนรักสะดวกดี ผมขอยืนไว้อาลัยให้พี่สะใภ้หน้าหล่อสามวิ

   ก้าวเท้าเข้าบ้าน สิ่งแปลกปลอมภายในบ้านทำให้คิ้วผมขมวดเป็นปม ยกมือไหว้พ่อกับแม่ และตรงไปตบหัวคนที่นั่งหัวโด่อยู่ในบ้านคนอื่น

   “ใครเชิญมาวะไอ้วาคิน”

   มันหันมาทำหน้าโฉด พอเห็นว่าเป็นผมค่อยเลิกคิ้วยกมุมปาก

   “มาเยี่ยมคุณพ่อคุณแม่ มึงไม่เกี่ยวไปไกลๆ”

   ตบอีกสักที มันเสือกหลบได้ ‘วาคิน’ หรือ ‘วา’ เพื่อนสมัยเด็กของผม หน้ามันหล่อคม มีดีกรีความกวนเกรียนไม่น้อยกว่าผม ต่างกันแค่เวลาอยู่กับคนไม่สนิท มันจะทำตัวเป็นรูปปั้นหน้าตาย ที่สำคัญ มันขี้รำคาญอย่างที่สุด เห็นภายนอกนิ่งๆ ความจริงมันเอาแต่ใจอารมณ์ร้อนกว่าผมสามเท่าตัว

   หางตาเห็นกระเป๋าเป้อยู่ข้างตัวมัน สงสัยเพิ่งมาถึง

   “ซันนิสัยเสียไม่เปลี่ยน ไหนๆ ก็มาแล้ว พาเพื่อนขึ้นไปบนห้องเร็ว”

   แม่ผมสั่ง ผมรับคำลากเพื่อนขึ้นห้อง ต่างฝ่ายต่างโยนกระเป๋าไปคนละมุม ผมนั่งที่เตียงจ้องเขม็งถามอย่างคาดคั้น น้ำหน้าอย่างมันช่วงปิดเทอมไม่ยอมกลับบ้าน แต่ดันหนีมาอยู่บ้านผม ปัญหามีอยู่อย่างเดียว

   “พ่อมึงอยู่บ้านรึไง ถึงเสนอหน้ามาบ้านกู”

   “เออ รำคาญ บ่นเรื่องเดิมๆ กูไปอยู่เหนือก็แย่พอแล้ว ไม่อยากกลับไปปวดหัวที่บ้านอีก”

   ตบบ่ามัน พอเข้าใจ บ้านมันรับราชการทั้งบ้าน พ่อมันเป็นอัยการมีชื่อ อยากให้มันเจริญรอยตาม เตรียมการทุกอย่างเอาไว้แล้ว มันต้องอยู่ในโอวาทของพ่อ จนช่วงม.ปลาย มันทนไม่ไหวระเบิดลง เลือกเข้ามหา’ลัยตามที่ตัวเองชอบโดยไม่สนคำทัดทาน ผลคือพ่อมันโกรธมาก แทบตัดพ่อตัดลูก แต่แม่มันขอเอาไว้เลยกลายเป็นอย่างทุกวันนี้

   ผมว่านิสัยของวาจริงๆ ก็ได้จากพ่อมันมานั้นแหละ เอาแต่ใจ มั่นใจในตัวเอง ยึดความคิดตัวเองเป็นหลัก ทุกอย่างต้องเป็นไปตามที่วางแผนไว้ อารมณ์แบบ คนที่นิสัยเหมือนกัน มักอยู่ด้วยกันไม่ได้

   พูดว่าร้ายมันซะเยอะ จริงๆ มันนิสัยดี รักความถูกต้อง ยึดมั่นในอุดมการณ์ของตัวเอง รักเพื่อนฝูงไม่ต่างจากผม

   “ไมบอกว่าอยู่เหนือแย่วะ หรือที่นั่นเค้าดูแลมึงไม่ดี ให้กูช่วยพูดกับอาจารย์เปลี่ยนคนอื่นไปดีมั้ย”

   “ไม่ หน้าที่กู กูต้องทำเอง จะโยนให้ใครไม่ได้ กูไม่อยากเป็นคนไร้ความรับผิดชอบ อีกอย่าง ทางนั้นดูแลกูดีอยู่”

   “อ้าว งั้นอะไรที่มึงบอกว่าแย่”

   มันทิ้งตัวนั่งข้างเตียง หน้านิ่วคิ้วขมวด

   “ตอนกูไปหอพักมันเต็ม เขาเลยให้กูไปอยู่กับผู้บริหารวิทยาเขตเชียงใหม่ อ.แกใจดี ภรรยาก็น่ารัก ห้องสะดวกสบายกว่าหออีก เหมือนกูเป็นลูกชายอีกคน ปัญหาอยู่ที่ลูกเขานี้แหละ”

   ผมหันหน้าเข้าหามัน เรื่องนี้ชักน่าสนใจซะแล้ว

   “เล่าต่อดิ้”

   มันถอนหายใจ คล้ายระบายความอัดอั้น ผมกับมันถือเป็นเพื่อนรักกัน ไม่มีเรื่องปิดบัง มันเลยเล่ามาแบบหมดเปลือก ใส่อารมณ์กับความรู้สึกของตัวเองเข้าไปด้วย

   วาพล่ามว่า ลูกชายของเขาชอบแต่งตัวเป็นผู้หญิง ไม่พอยังชอบมากวนมันตลอดทุกวี่ทุกวัน ขนาดไปเรียนยังไม่วายบุกไปหาถึงคณะ แต่อีกฝ่ายเป็นลูกของอธิการ เจ้าของบ้านให้มันซุกหัวนอน มันเลยทำอะไรไม่ได้ ยิ่งมันเป็นคนขี้รำคาญอยู่แล้ว เจอแบบนี้ไม่แปลกที่มันจะยิ่งหงุดหงิดหนัก

   “คนอะไรไม่รู้ น่าฆ่าหมกส้วมวันละสิบเที่ยว นิสัยร่าเริงเหมือนคนบ้า ตัวก็เล็ก ผิวก็นุ่มหอมยิ่งกว่าผู้หญิงที่กูเคยควงอีก ทำอะไรก็ไม่เป็น อ่อนแอเหยาะแหยะ ต้องให้กูช่วยตลอด ถ้ามันไม่มีดุ้น กูคงเข้าใจว่ามันเป็นผู้หญิงไปแล้ว ปล่อยให้คลาดสายตาเป็นไม่ได้ อย่างตอนนั้นอีก ลากกูไปช่วยซื้อเสื้อใน กูแค่แวบไปเข้าห้องน้ำแป๊บเดียว เสือกโดนผู้ชายลวนลาม มันน่าจะจับล่ามโซ่ขังไว้ในห้องไม่ต้องเห็นเดือนเห็นตะวัน จะได้เลิกสร้างปัญหาสักที”

   ผมอึ้ง ฟังมันแบบมึนๆ ช่วงแรกมันยังเล่าว่าเขานิสัยแย่งั้นงี้ ไหงฟังไปฟังมา มันชมเขาซะเยอะ ดูเป็นห่วงออกนอกหน้า อาการแบบนี้มันว่ามันตะหงิดๆ นา

   “ไม่ใช่ว่ามึงกดลูกเขาไปแล้วหรอกนะ” หลุดปากถามไปไม่ทันคิด

   “มึงรู้ได้ยังไง” มันทำหน้าเหมือนอเมซิ่งมากที่ผมเดาถูก

   “เหี้ย! นั่นมันลูกผู้บริหารไม่ใช่เหรอ” คำอุทานติดปากดังกระแทกหน้ามัน ถึงมันจะเสือผู้หญิงแต่ไม่เคยเห็นมันควงผู้ชายสักครั้ง มันถูกลูกเขาล้างสมองรึเปล่าเนี่ย แต่มันไม่ควรไปแดกลูกในบ้านเขานะเว้ย

   “มันมายั่ว อ่อยกูถึงห้อง กูก็แค่สนอง ผิดตรงไหน”

   ผมกลอกตา อยากถีบมัน ติดที่ยังคุยไม่จบ เดี๋ยวจะกลายเป็นทะเลาะกันจนไม่ได้คุย

   “กูถามจริง ตกลงมึงเกลียดหรือชอบกันแน่วะ ปากบอกว่ารำคาญ แต่นอนกับเขา แถมยังตามดูแล กูจำได้ว่ามึงไม่ใช่คนนิสัยงี้นี่หว่า”

   มันตาโต ยกมือแตะคางครุ่นคิดอย่างหนัก ที่ผ่านมาผมไม่เคยเห็นมันจะไปเดินช่วยแฟนคนไหนเลือกซื้อชุดชั้นในหรือตามดูแลแบบนี้มาก่อน อย่างมาแค่ควงแล้วเลิก ที่สำคัญ มันไม่ใช่พวกไก่อ่อน เรื่องควบคุมความต้องการของตัวเอง สามารถทำได้สบายมาก ต่อให้ผู้หญิงมาเปลือยเต้นยั่วต่อหน้า ถ้ามันไม่นึกจะเอา มันก็ไม่เอา

   “ไม่มั่ง ไม่หรอก คิดไปเอง”

   เหมือนมันพูดกับตัวเองมากกว่า จัดการโบกหัวไปที

   “อย่าเพิ่งจมสู่ภวังค์ ลุกมาจัดของก่อน กูไม่เก็บเสื้อผ้าให้มึงหรอกนะ”

   ความจริงมันจะไปนอนห้องพี่มูนก็ได้ ยังไงเจ้าตัวก็ย้ายออกไปแล้ว แต่วามันขยาดไม่แพ้ผม เรียกได้ว่าความฝังใจในวัยเยาว์ อาณาเขตศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่ควรเข้าไปยุ่ง

   ยัดเสื้อผ้าเสร็จเราลงมาชั้นล่าง โดนพี่มูนลากไปใช้แรงงานในรีสอร์ททั้งคู่ แม้จะไม่ใช่หน้าท่องเที่ยว ก็ยังมีคนเข้าพักอยู่ตลอด ด้วยความที่หน้าผมกับวามันไม่รับแขก เรื่องอยู่ตรงเคาน์เตอร์ตัดไปได้เลย ตำแหน่งงานของเราคือการใช้แรงงาน

   ถามว่าทำไมลูกชายเจ้าของรีสอร์ทต้องมาทำเรื่องแบบนี้ สาเหตุมาจากพ่อสอนพี่มูนกับผมตั้งแต่เด็ก จะคุมคนอื่นได้ ต้องรู้งานที่พวกเขาทำ วิธีศึกษาไวที่สุดคือลงไปทำงานด้วยตัวเอง ดังนั้นเราเลยทำมาแทบทุกตำแหน่งเท่าที่ทำได้ในรีสอร์ท เป็นกันเองกับลูกน้อง ไม่ถือตัว อยู่กันเหมือนญาติ แบบนี้ถึงจะซื้อใจเขาได้ คุมด้วยอำนาจการเงินมันไม่ยั่งยืนเท่าความรู้สึก

   วามันชอบหนีพ่อมาสถิตย์อยู่บ้านผมเลยโดนหางเลขไปด้วย งานแรกคือการแบกของสดที่ชาวบ้านมาส่งเข้าไปในครัว อย่างพวกผักผลไม้สด เนื้อสัตว์สำหรับทำอาหารให้ลูกค้าและเลี้ยงพนักงานในรีสอร์ท กว่าจะหมดคันรถได้เล่นเอาเหงื่อท่วม นับเป็นการออกกำลังกายที่ไม่เลว เราหยิบน้ำเย็นคนละขวดกระดกเดินออกจากด้านหลังมานั่งตากลมที่ล็อบบี้โรงแรม

   จู่ๆ มันหยุดเดินดื้อๆ ผมกระดกน้ำอยู่กระแทกเข้าไปเต็มๆ เจ็บเชี่ย!

   “หยุดไมวะ!”

   “กูเพิ่งรู้ รีสอร์ทมึงมีคนดังมาพักด้วย”

   ผมถลึงตาใส่มัน รีสอร์ทผมออกจะดี จะคนดังไม่ดังชอบหมดแหละ พอมองตามที่นิ้วมันชี้ เห็นชายหนุ่มร่างสูงในชุดเสื้อยืดคอวีสีทึบแบบผู้ใหญ่ กางเกงขายาวผ้านุ่มดูสบาย มือข้างหนึ่งถือหนังสือพิมพ์ เกือบจะให้มาดนักธุรกิจแล้ว ถ้าไม่ติดที่มืออีกข้าง แทนที่จะถือกาแฟ ดันเป็นแก้วนม

   ใบหน้าคมคาย จมูกโด่งเป็นสัน ตาคมเข้ากับคิ้วเข้ม ผมมองด้วยรอยยิ้มนิดๆ ก็นึกว่าใคร

   “นั่นมันเจ้าของห้างในกรุงเทพไม่ใช่เหรอ กูเห็นในนิตยสารธุรกิจบ่อยๆ”

   “อ่าฮะ”

   ผมเดินดุ่มๆ เข้าไปตบบ่าคนที่นั่งอยู่ ไอ้วารีบจ้ำตามมาดึงห้ามไม่ให้ผมไปกวนเขา สมัยก่อนผมไม่สนใจข่าวธุรกิจเท่าไหร่หรอก พอรู้จักคนตรงหน้า เห็นทีไรอดหยิบขึ้นมาอ่านไม่ได้ อ่านทีขำที อิมเมจเวลาทำงานกับเวลาอยู่ที่รีสอร์ทต่างกันราวฟ้ากับเหว

   “หวัดดีพี่จิน”

   “เหงื่อท่วมเชียว โดนมูนใช้แรงงานรึไง”

   ใบหน้าหล่อยกยิ้มมุมปาก พี่สะใภ้ผมเอาอีกละ หว่านเสน่ห์ไปทั่ว ดูซิพนักงานสาวกับลูกค้าหญิงที่เมียงๆ มองๆ พากันตาเป็นรูปหัวใจหมด เดี๋ยวพี่มูนได้หึงหน้ามืดอีกพอดี ผมถือวิสาสะนั่งตรงหน้า ลากเพื่อนมานั่งด้วยก่อนแนะนำตัว

   “นั่นพี่จิน แฟนพี่มูน ส่วนนี่ วาคินเพื่อนผมเอง”

   ไอ้วาอ้าปากค้าง ไม่แปลกที่มันจะอึ้ง ถึงมันจะพอรู้ว่าพี่มูนมีแฟนเป็นผู้ชาย แต่ไม่รู้ลึกว่าใครคือผู้โชคร้าย ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อนด้วย ในเมื่อพี่มูนอยู่ที่ลำปาง พี่จินเทียวไปเทียวมา นานทีปีหนจะมากาญกับพี่มูนสักที เจ้าตัวงานยุ่ง แค่หาเวลาปลีกตัวมาอยู่กับพี่มูนก็ยากเต็มทนแล้ว

   “หน้าเกรียนเหมือนซันมันเลยนะ” ปากพี่ท่านก็เหลือร้ายเช่นกัน วาถึงกับคิ้วกระตุก ยกมือไหว้ค้าง

   “ไมพี่มานั่งถ่ายเอ็มวีอยู่ตรงนี้ พี่มูนไปไหนแล้ว” ก่อนหน้านี้ผมเห็นพี่ชายแวบๆ อยู่แถวเคาน์เตอร์นะ
   
   “พาลูกค้าไปดูห้องพัก มาก็ดี เอากาแฟให้หน่อย”

   ผมหรี่ตามองไปทางด้านหลังพี่จิน หัวเราะหึหึในคอ พี่จินติดกาแฟหนักมาก รวมถึงบุหรี่ด้วย ปัจจุบันโดนพี่มูนหักดิบเลิกบุหรี่ไปแล้ว เหลือแต่กาแฟที่เลิกยากเพราะเจ้าตัวต้องทำงานหนัก พี่มูนเลยอนุโลมให้ดื่มน้อยลงและเวลาอยู่กับเจ้าตัวห้ามแตะกาแฟเด็ดขาด นี่คือที่มาของแก้วนมตรงหน้า

   “เมื่อกี้พูดว่าไงนะ”

   เสียงหวานเจี๊ยบแต่น่าสะพรึงหนัก พี่จินสะดุ้งโหยง ขนาดวายังแอบผงะ

   “ไม่มีอะไร แค่ทักทายกันเฉยๆ” รีบแก้ตัวเชียวนะพี่จิน

   “เมื่อคืนโดนไม่พอรึไง หรืออยากเอาอีก มูนไม่ขัดนะ เพื่อจินแล้วมูนสามารถ”

   เสียงหัวเราะราวกับแม่มดผู้ชั่วร้าย ผมเห็นพี่จินเหงื่อตก ส่งสายตาให้ผมช่วยโดยด่วน มีพี่สะใภ้รวยก็ดีงี้ เวลาของฝาก ของขวัญทีไม่น้อยหน้าคนอื่น ให้หรูกว่าพี่มูนอีก ดังนั้นไม่ต้องพูดถึงค่าปิดปากหรือสินบนกันตาย น่าเสียดาย ตอนนี้ผมไม่อยากได้อะไร อยากเห็นความทุกข์ของคนอื่นมากกว่าเลยทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ ใส่ไฟเข้าไปเพิ่ม

   “พี่มูนปล่อยพี่จินมานั่งเป็นอาหารตาชาวบ้านตรงนี้ได้ไง เดี๋ยวก็ถูกใครโฉบไปหรอก”

   “ถ้าฉันลุกไปได้ ตายแน่เจ้าซัน” พี่จินกัดฟันพูดเสียงต่ำ คงอยากยกขาถีบเต็มที่

   “จินน่ะสิ ดื้อจะมานั่งแถวนี้ ทั้งที่พี่ก็ใช่จะอยู่ตรงนี้ตลอดซะเมื่อไหร่ กลับบ้านกันมั้ยจิน เดี๋ยวมูนพยุงกลับ”

   สมเป็นพี่น้องกัน นิสัยขี้แกล้ง ช่างแหย่ไม่มีใครเกิน โดยมีวาเป็นผู้ชมที่ดี มองภาพเบื้องหน้าอย่างสนอกสนใจ

   “ไม่ต้อง ฉันเดินเองได้”

   พี่จินฮึดฮัด ใช้มือเท้าพนักลุกยืนเหมือนขาเจ็บ ซึ่งความจริงมันไม่ใช่ โธ่ๆ เมื่อคืนพี่มูนคงจะหนักมือไปหน่อย ที่มานั่งมองพี่มูนได้คงเป็นพลังความรักล้วนๆ

   “ไม่แกล้งแล้ว มาๆ เดี๋ยวมูนพากลับบ้านนะ เย็นนี้จะทำของโปรดให้ทานด้วย ซันพี่ฝากดูรีสอร์ทต่อที พี่จะไปดูแลสามีผู้น่ารักสักหน่อย”

   ผมหัวเราะก๊าก ปากบอกไม่แกล้ง แต่วาจายังไม่จบ สามีอะไรปวดสะโพก ส่วนภรรยางี้หน้าตาชื่นมื่นอย่างกับปีศาจได้รับพลังชีวิตเต็มเปี่ยม ดูหน้าพี่จินซะก่อน งอนตุบป่องกัดฟันเดินจากไปแบบหล่อๆ โดยมีพี่มูนตามไปแหย่ควงแขนช่วงพยุงอยู่ข้างๆ

   วามองตามสองคนนั้นสีหน้าฉายความแปลกใจชัดเจน

   “เหลือเชื่อ อดีตคาสโนว่าตัวพ่อ เก่งกาจด้านธุรกิจ สามารถเป็นเจ้าของกิจการใหญ่ตั้งแต่อายุยังหนุ่ม มาเป็นแฟนกับพี่มูนเนี่ยนะ”

   “เห็นว่าไปเจอกันที่ห้างพี่จินนั่นแหละ พี่มูนไปช้อปเล่นดันเจอเหตุการณ์พี่จินไล่สาวอุ้มลูก เลยตบเข้าให้ มารู้ที่หลังว่าเป็นความเข้าใจผิด หลังจากนั้นถูกชะตาติดต่อกันจนคบเป็นแฟน”

   “เป็นการพบกันที่แปลกดี” ผมเหล่มองคนข้างตัว เอ็งแปลกกว่าพี่ข้าอีก ไปอยู่บ้านเขา เสือกแดกลูกชายเขาในบ้าน

   “จบเรื่องส่วนตัว เราอยู่ที่แจ้งไม่น่าพูดเท่าไหร่ มึงมาช่วยกูทำงานดีกว่า”

   อาศัยหน้าตาของวามันต้อนรับลูกค้า ส่วนผมคอยแก้ปัญหา สั่งพนักงานในรีสอร์ทไปตามสมควร อันไหนสำคัญค่อยโทรไปหาพ่อให้พ่อช่วยตัดสินใจให้ ส่วนพี่มูนเวลานี้คงไม่เหมาะ และคาดว่าเย็นนี้คงไม่มาทานข้าวที่บ้านใหญ่ชัวร์ ชักสงสารพี่จินตะหงิดๆ

   ช่วงวันหยุดนี้ ผมกับวาช่วยทำงานในรีสอร์ทไปเรื่อย ในระหว่างที่ผมกำลังทำงานเป็นคนสวนโดยมีวาเป็นคนแบกปุ๋ย มือถือเสือกดังขึ้น ลำบากต้องล้างมือกดรับ กำลังจะกรอกเสียงด่า เสียงที่ดังผ่านสายมาทำให้หมดต้องยั้งปากตัวเอง

   /โหล ซัน มึงว่างปะ/

   โป้? โทรมาทำไมหว่าหรือมันกลับหอแล้ว เฮ้ย ไวไปมั้ง ยังเหลือวันหยุดตั้งเยอะ คิดพลางโยนต้นไม้ให้วาปลูกต่อ ตัวเองหลบไปคุยโทรศัพท์

   “ว่าง โทรมามีไร อย่าบอกนะว่ามึงกลับห้องแล้ว?”

   ไอ้วาชูนิ้วกลางใส่ โทษฐานโยนงานให้มันส่วนตัวเองมาคุยโทรศัพท์สบายใจเฉิบ

   /ยัง กูแค่จะโทรมาถามอะไรนิดหน่อย เพื่อนมึงที่มาอยู่เหนือชื่อวาคินใช่มั้ย/ ผมขมวดคิ้ว หรือพวกมันจะรู้จักกัน ไม่มีทาง วามันไปเรียนวิทยาเขตเหนือตอนโป้มากรุงเทพแล้วนี่หว่า

   “เออ มึงเจอมันเหรอ ฝากถีบหน้ามันที” ปากฝาก แต่เท้าผมยกยันแล้ว พวกมึงไปรู้จักกันตอนไหนวะ!

   /ไม่เจอ แต่เจอเจ้าของบ้านที่เพื่อนมึงไปอยู่ด้วย กูว่ามึงกับกูมานั่งไว้อาลัยให้เพื่อนมึงสักสามวิเถอะ แค่นี้ก่อนนะ ไว้เอาของกินไปฝาก/

   “ไอ้เหี้ย อะไรของมันวะเนี่ย โทรมาถามๆ อยู่ฝ่ายเดียว อย่าให้กูกลับกรุงเทพนะมึง”

   ผมขู่อาฆาต ในใจรู้สึกโล่งอก จากที่ฟัง แสดงว่าโจทย์วาเป็นเพื่อนโป้เลยรู้ชื่อเต็มวา เพราะปกติพวกผมจะเรียกมันแค่วาคำนำหน้าเท่านั้น

   “มีเรื่องอะไรวะ ใครโทรมากวนตีนมึง” วารอดพ้นเท้า หันมาถามผมคิ้วขมวด

   “ไม่มีอะไร ดูเหมือนว่ารูมเมทกูจะเป็นเพื่อนกับโจทก์มึงว่ะ”

   “รูมเมทมึงชื่ออะไร?”

   “ปีโป้”

   “มึงเกลียดปีโป้ไม่ใช่เหรอหรือเดี๋ยวนี้มึงหันมาชอบตระกูลเยลลี่แล้ว”
   
   “ไม่ใช่เว้ย ไอ้ของแหยะๆ หยึยๆ ให้ตายยังไงก็กูไม่แดก มันเป็นชื่อรูมเมทกูต่างหาก แล้วของมึงล่ะชื่อไร” ผมดึงมันลงมาทำสวน ปากพูดมือต้องขยับ ไม่งั้นเดี๋ยวงานไม่เสร็จอดข้าวเย็นพอดี เป็นคำสั่งจากพี่มูน

   “ชื่อเจเล่ ตระกูลเยลลี่คงเพราะบ้านเขาสนิทกัน เล่ชอบพูดถึงคนชื่อนี้ให้กูฟังอยู่เรื่อย แล้วรูมเมทมึงหน้าตาเป็นไง นิสัยล่ะโอเครึเปล่า”

   ตกลงมันถามเพราะเป็นห่วงเพื่อน หรือห่วงคนที่มันชอบโดยไม่รู้ตัวเนี่ย

   “หน้าสวย แม่ศรีเรือน ผิวขาว นิสัยกวนตีน ปากดี”

   “อ้าว รูมเมทมึงเป็นผู้หญิง?”

   “ผู้หญิงหน้ามึงสิ ถึงมันจะออกไปทางสวยแต่ยังมีความหล่ออยู่เว้ย แถมแรงควายฉิบหายอยู่สถาปัตย์ด้วย”

   วามองผมด้วยสายตาเหมือน ข้ารู้ข้าเห็นพลางหัวเราะในคอ

   “มาบอกแต่กูชอบเล่ มึงเองก็เถอะ หลงโป้คนนั้นรึเปล่า”

   เสียมในมือชะงักกึก ความเงียบเข้าปกคลุม ผมนึกย้อนกลับไปถึงการกระทำของตัวเองกับความรู้สึกที่มีให้โป้ในช่วงหลัง วาเองก็เงียบระทึกความหลังเช่นกัน ก่อนพวกเราจะหันมามองหน้าอย่างตกใจ พากันสบถคนละคำ ไม่ว่าผมหรือมันต่างเจอคนที่ตรงสเปค แต่เสือกเป็นผู้ชายทั้งคู่ อีกอย่าง สองคนนั้นดันเป็นเพื่อนกันเหมือนกับพวกเรา พระเจ้ากำลังเล่นตลกกับพวกผมแหง

   “ช่างเถอะ คงไม่มั้ง” ผมพึมพำ

   “กูก็ว่างั้น เลิกคิดรีบทำให้เสร็จ กูชักหิวละ” วาตอบ พวกเราก้มหน้าก้มตาเร่งมือทำสวนอย่างไว เสร็จทันก่อนมืดเฉียดฉิว วันนี้พี่มูนลงมือเข้าครัวเองเพราะพี่จินมานั่งทานข้าวด้วย พร้อมหน้ากันที่บ้านใหญ่ อาหารมากมายถูกวางเรียง มีของโปรดครบทุกคนมันถึงได้เยอะ ทีแรกคิดว่าจะกินกันไม่หมด แต่ผมลืมไป มีผมกับวาชอบสูบ เกลี้ยงเกลาทุกจาน

   พอกินเสร็จพี่จินคุยเรื่องธุรกิจกับพ่อ ส่วนผมกับวายืนล้างจานในครัว แม่เตรียมของหวานกับพี่มูน อยู่บ้านมันเปรมจริงๆ ของกินเยอะ ตอนอยู่หอมหา’ลัยแม่งลำบาก ทำอะไรกินก็ไม่ได้ ร้านทั่วไปก็หมาไม่แดก กินพอประทังชีวิตไปวันๆ พักหลังค่อยดีหน่อย ย้ายไปอยู่หอนอกกับโป้ มีคนทำกับข้าวอร่อยๆ ให้กิน

   โป้มันทำอาหารเก่งดี ขอรีเควสอะไรทำได้หมด อันไหนมันไม่เคยทำ รอบแรกอาจจะเค็มไป จืดไปบ้าง แต่รอบสองรับรองความอร่อย นึกถึงแล้วอยากกลับไปกิน

   “เฮ้อ/เฮ้อ”

   “อยากกลับกรุงเทพ/เชียงใหม่”

   พี่มูนหัวเราะกับท่าทางพวกผม ตักต้มถั่วเขียวใส่ถ้วยเล็ก

   “เป็นอะไรไปสองหนุ่ม ทำอย่างกับคิดถึงแฟน”

    โครม!

   จานในมือร่วงลงอ่างอย่างพร้อมเพรียง ดีนะที่ไม่แตก พี่มูนหัวเราะเสียงใดเดินถือถาดออกไปข้างนอก แม่ผมตบบ่าพวกเราให้รีบล้างจะได้ออกไปทานของหวาน


   ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ผมกับวาต่างคนต่างถามวันเวลากันวันละสิบเที่ยว สร้างความขบขันให้พี่มูนอย่างที่สุด กระทั่งถึงเวลาสามวันก่อนเปิดเทอม วาตัดสินใจกลับเหนือก่อนกำหนด ส่วนผมยังอยู่ต่ออีกวันค่อยขับรถเข้ากรุงเทพ ผมมาถึงห้องก่อนอย่างที่คิดไว้

   ทีแรกยังเฉย คิดว่าโป้คงจะกลับมาก่อนวันเรียนเลย ที่ไหนได้ วันนี้ป่าไปสามทุ่มผมยังไม่เห็นหัว ได้ข่าวว่าพรุ่งนี้มันมีเรียนเช้า ผมตัดสินใจโทรหาแม่ง พอมันกดรับสายปุ๊บ ผมกรอกเสียงใส่ทันที

   “มึงอยู่ไหนวะ”

   /อยู่บนรถ ฮ้าว มีไร/ ดูท่ามันกำลังนอน เสียงอู้อี้

   “รถอะไร” ผมถามอย่างใจเย็น ไม่แน่ว่ามันอาจจะนั่งรถแท็กซี่จากสนามบินมาหอ

   /รถทัวร์/

   “กูบอกให้มึงนั่งเครื่องกลับมาไม่ใช่เหรอวะ! แล้วงี้มึงจะถึงกี่โมง พรุ่งนี้มีเรียนเช้านะเว้ย วิชาหลักมึงด้วย”

   /กูทันแน่มึงไม่ต้องห่วง แค่นี้ก่อนนะ อยู่บนรถคนนอนทั้งคันไม่อยากคุยมาก/

   “เดี๋ยว มึงใกล้ถึงขนส่งแล้วโทรบอกกู กูจะออกไปรับ”

    /ไม่ต้อง กูนั่งแท๊กซี่กลับเองได้/

   “หุบปากแล้วทำตามที่สั่ง!”

   ผมกดตัดสายบ้าง เวลาเกือบตีสามผมงีบไปหน่อย ได้ยินเสียงโทรศัพท์กดมารับเป็นไอ้โป้ เลยต้องลุกหยิบเอากุญแจรถบึ่งไปรับมันที่ขนส่ง คนโคตรโล่ง แทบไม่มีใครอยู่เลย เห็นมันยืนพิงเสาสัปหงก ผมเดินเข้าไปแย่งเป้ใส่เสื้อกับถุงของฝากมันมาถือ

   “ตื่นมึง กลับห้อง”

   โป้ผงกหัวเดินตามผมขึ้นรถ มันหลับตลอดทางขนาดถึงแล้วยังไม่ตื่น อย่างว่า ถึงไม่ได้ขับ แต่การนั่งรถนานๆ มันทำให้เพลียเหมือนกัน แล้วนี่มันนั่งมาจากเชียงใหม่ ผมอยากจะบ้าตาย ของฝากอะไรช่างแม่ง ผมขออุ้มมันเข้าห้องก่อนแล้วกัน

   พอผมเปิดประตูก้มลงไปอุ้ม มันสะดุ้งตื่นดันอกผมออก

   “ทำไรวะ”

   “เงียบแล้วอยู่เฉยๆ”

   “กูแค่ง่วง ไม่ได้เป็นง่อย กูเดินเองได้”

   มันชักสีหน้า ผลักผมออก คงหงุดหงิดเพราะความง่วง ผมเองก็อารมณ์ขึ้น นี่กูเป็นห่วงมึงนะ เผลอออกแรงกระชากแขนมันไม่ให้เดินหนี แล้วกดกับรถ รั้งท้ายทอยจูบแดกปาก จะได้เลิกพล่ามมาก ปกติมันคงสวนกลับแบบไม่ยอมแพ้ คราวนี้มันไม่มีอารมณ์มาเล่นด้วย ซัดเข่าใส่ท้องผมเต็มๆ จุกเหี้ย ผมยิ่งกำข้อมือมันแน่นบดปากแบบไม่เกรงใจจนมันหอบ กัดปากมันทิ้งท้ายสักทีค่อยผละออก

   “จำไว้ กูพูด มึงต้องฟัง”

   มันถ่มน้ำลายลงพื้น ดูอารมณ์เสียมากกว่าปกติ

   “ถุ้ย! ฟังKไร มึงเป็นพ่อกูเหรอ อึก!”
   
   จับดึงให้มันแหงนคอ แล้วกัดแบบไม่ออมแรง พูดเสียงรอดไรฟันข่มอารมณ์กรุ่น

   “อยู่นิ่งๆ ถ้ามึงไม่อยากเล่นหนังสดที่ลานจอดรถ!”

   สุดท้ายโป้ต้องยอมสงบ รอบนี้มันแบกมันขึ้นบ่า ไม่มาอุ้มถนอมแบบตอนแรก ถึงห้องโยนมันลงเตียงกระแทกประตูปิดกลับห้องตัวเอง

   พอเช้ามาได้ยินเสียงเคาะประตู มีอยู่คนเดียวเท่านั้นแหละ ผมเปิดออกไปปุ๊บหมัดลอยกระแทกพุงซ้ำที่เดิม ไอ้โป้ยืนมองผมกุมท้องจุก

   “เอาคืนที่มึงทำกับกู” มันดึงคอเสื้อนศ.ออก เฮ้ย รอยฟันชัดมาก อยู่ระหว่างคอกับบ่า ขนาดผมเป็นคนทำเองยังตกใจ เมื่อคืนกูลงแรงขนาดนั้นเลยเหรอวะ จำได้ว่ายั้งไว้บ้างนะ ต้องโทษมันขาวมากกว่า ไม่งั้นคงไม่ชัดแบบนี้

   “นู่น แดกซะ ขอโทษที่หงุดหงิดใส่มึงเมื่อคืน พอดีกูง่วง มีปัญหากับปู่ก่อนมาเลยพาล” มันชี้ไปทางโต๊ะอาหาร มีข้าวต้มหมูร้อนๆ วางอยู่สองถ้วย นี่มันแหกขี้ตาตื่นก่อนผมเพื่อมาทำ ทั้งที่มันนั่งรถมาทั้งคืน เชื่อมันเลย

   “เออ” ผมตอบมันสั้นๆ ผมเองก็ผิดที่ไปทำรุนแรงกับมัน ปากโป้เจ่อเลยวุ้ย สงสัยเย็นนี้ผมต้องหาเรื่องให้ไอ้ตัวเล็กมาเที่ยวห้องใหม่ ช่วยดึงความสนใจลดบรรยากาศอึมครึมระหว่างผมกับโป้ จะได้ให้ของฝากด้วย

   แผนการเป็นไปได้ด้วยดี เลิกเรียนผมแวะไปรับโป้อ้างว่าจะรับปอนด์ไปเที่ยวห้องแล้วโทรไปหาเป้าหมาย ก่อนขับรถไปดักรอ อย่างที่คิดไว้ไม่มีผิด พอมีปอนด์โป้ดูสงบลง เอาแต่นอนจนถึงห้อง ผมเห็นมันหลับสบายไม่อยากปลุก ว่าจะอุ้มสักหน่อย มันดื้ออีกละ ผมเลยก้มลงไปกระซิบข้างหูขู่มัน

   “จะยอมให้กูอุ้มไปดีๆ หรือทำแบบเมื่อวานโชว์ปอนด์”

   มันนิ่ง ไม่ดิ้นอีก ได้ผลดีเป็นบ้า คราวหลังต้องตบรางวัลเป็นขนมให้ปอนด์เยอะๆ

   ปอนด์โทรไปรายงานเฮีย ขานั้นเห็นว่าพวกผมย้ายห้องใหม่เลยอยากมาดูและแวะรับปอนด์กลับทีเดียว ผมไม่ปฏิเสธ ชวนให้เฮียมาทำอะไรกินกันที่ห้อง กินเสร็จค่อยกลับไปพร้อมกับโป้ที่อารมณ์ดีขึ้น จัดว่าแจ่ม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31-10-2016 00:02:12 โดย Silver Fish »

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :hao6:  ใกล้แล้ว ฮี่ๆ ดูจากการจูบแล้วคงอีกไม่นานหรอกเนอะซัน
น้องปอนด์นี่ช่างเป็นโซ่ทองคล้องใจของซันโป้จริงๆเลย
งงตรงนี้อะค่ะ   " เสียมในชะงักกึก " ว่าแต่จะมีเรื่องของเจเล่ไหมเอ่ย
 :L2: 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-02-2016 15:15:42 โดย ❣☾月亮☽❣ »

ออฟไลน์ boobooboo

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-2
รักกันแล้ววว

ออฟไลน์ powvera

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 702
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +75/-3
ยิ่งอ่านยิ่งรู้สึกว่า  ซันกับโป้ ชักจะร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ  คึคึ


 :z1:   :z1:    :z1:

ออฟไลน์ imfckwn

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 277
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
รักแท้แพ้ความใกล้ชิดดดดดดด  :hao6:

ออฟไลน์ เมื่อนั้นฝันว่า

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 323
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 :hao6: :hao6: :hao6: ชอบซันจังเลยง้าาา

ออฟไลน์ PiSCis

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 346
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-2
ซันนี่ยังไงๆอยู่นะ มีหึงด้วย ทั้งหวงและห่วงโป้มากกกกกกกกกก ว่าแต่รักแบบฮาร์ดคอดีนะ  :mew5:  :laugh:

แล้วเล่นี่เสร็จวาไปแล้ว!  o22

ออฟไลน์ Silver Fish

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-0
    • Fanpage
:hao6:  ใกล้แล้ว ฮี่ๆ ดูจากการจูบแล้วคงอีกไม่นานหรอกเนอะซัน
น้องปอนด์นี่ช่างเป็นโซ่ทองคล้องใจของซันโป้จริงๆเลย
งงตรงนี้อะค่ะ   " เสียมในชะงักกึก " ว่าแต่จะมีเรื่องของเจเล่ไหมเอ่ย
 :L2:

แก้ไขแล้วครับ ตกคำว่า 'มือ' ไปคำหนึ่ง
เรื่องของเจเล่ต้องรอดูกันต่อไป แต่คู่นี้จะโผล่มาแซมเป็นระยะ

ออฟไลน์ Bk borz.

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
มาต่อเถอะนะรอทุกวันเลยรีวันละหลายรอบมากชอบนะสนุกมากติดตามๆๆ..

ออฟไลน์ boobooboo

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-2
มาต่อได้แล้วครับ  รออยู่

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Silver Fish

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-0
    • Fanpage
ยกที่8 คนป่วยไม่ผิด

   ตั้งแต่กลับมาจากบ้าน ผมว่าซันมันเปลี่ยนไป ทำตัวเหมือนหมาหวงก้างจนผมเริ่มไม่เข้าใจแล้วว่า ตกลงมันเป็นห่วงในฐานะเพื่อนหรือในใจมันคิดอะไรมากกว่านั้น อยากจะถามหลายรอบ พอเห็นท่าทางสับสนในตัวเองของมัน ผมเลยพูดไม่ออก

   คุณคิดว่าคนๆ หนึ่งเปลี่ยนความรสนิยมทางเพศของตัวเองมันยากแค่ไหน ผมบอกได้เลยว่ายาก! แค่คนรอบตัวก็ว่าหนักแล้ว ยังรวมถึงครอบครัวญาติพี่น้องจะคิดยังไง ยิ่งบ้านไหนเป็นคนมีหน้ามีตา ปัญหายิ่งเยอะ แบบผมนี่ไง คนที่รับผมได้มีแค่พ่อกับแม่ ญาติพี่น้องคนอื่นไม่เอาผมสักคนและไม่กล่าวถึงด้วย ซึ่งผมไม่ว่าอะไร ขอแค่พ่อแม่ผมโอเค คนอื่นช่างหัวมัน

   กรณีของซัน พี่ชายมันเป็นเกย์ไปแล้ว เพื่อนๆ รอบตัวก็ดูจะไม่รอดสักราย เขาว่าคนคล้ายกันมักดึงดูดกันท่าจะเป็นเรื่องจริง เหลือไอ้ซันหมาดำในฝูงหมาม่วง ไม่รู้มันรอดถึงวันนี้ได้ยังไง แต่มันจะจอดเพราะผมนี่แหละ

   ผมท้าวคางมองมันสะบัดหัวไปมาเหมือนหมาบ้า หลังจากเห็นผมคุยกับเก้าเจ้าเก่าที่มหา’ลัยตอนพักเที่ยง พอกลับถึงห้องมันก็คว้าตัวผมมาถามว่าเป็นอะไรกับเก้า ผมบอกไปว่าทางนั้นชอบ แต่ผมไม่สนเลยคบกันในฐานะเพื่อน มันนิ่งแล้วทำตัวงุ่นง่านอยู่ในห้อง

   มองไปมองมาชักตาลาย หลังเลิกเรียนโดนมันลากกลับห้องไม่ทันแวะซื้อของสดที่ตลาดด้วย ถือโอกาสอู้สักวันแล้วกัน

   “ซัน มึงเดินต่อไปจนพื้นทะลุกูไม่ว่า แต่เย็นนี้กูไม่ทำข้าวเย็นนะ” มันชะงักกึก หันมามอง

   “มึงโกรธ?”

   กลับเป็นผมที่มึนแทน ไหงมันคิดว่าผมโกรธ

   “ไมกูต้องโกรธมึงด้วย” เอาล่ะสิ มีประเด็น

   “พักหลังกูจุ้นจ้านกับมึงบ่อยๆ มีหลายครั้งที่มึงทำเหมือนรำคาญ กูขอโทษโป้ กูไม่รู้ว่าตัวเองเป็นเหี้ยอะไรเหมือนกัน”

   ถือว่ามันยังรู้ตัว ผมผ่อนลมหายใจ กวักๆ มือเรียกให้มันมานั่งคุยกันดีๆ ซึ่งมันยอมทำตามเหนือความคาดหมาย โอ้โหเฮ้ย ดูท่าผมจะมีอิทธิพลสำหรับมันพอสมควร

   “ถึงจะรำคาญจริง แต่กูไม่ได้โกรธมึง ถ้ามึงมันวุ่นวายมากๆ เดี๋ยวกูก็กระทืบมึงเองแหละ ที่วันนี้กูไม่ทำอาหาร” ผมชี้ไปที่นาฬิกา ”มึงดูเวลา นี่มันกี่ทุ่มแล้ว ตลาดสดที่ไหนจะเปิดวะ อีกอย่างกูรู้สึกเหนื่อยๆ เพลียๆ ขอกูอู้บ้างอะไรบ้างสักวันหนึ่งแล้วกัน”

   “มึงไม่สบาย?” ดูมันโฟกัสแค่ประโยคหลัง แถมยังลุกขึ้นเดินมายืนข้างผม เอาหน้าผากมาแตะหน้าผากผมเพื่อวัดไข้ บ้านมึงวัดไข้เพื่อนแบบถึงเนื้อถึงตัวขนาดนี้เลยเหรอวะ ผมหมั่นไส้ คว้าหลังคอมันมาจูบดูดปาก เขาบอกคนเมาความยับยั้งชั่งใจไม่มี คนป่วยก็เช่นกัน แต่ออกแนวหงุดหงิดเอาแต่ใจเพราะรู้สึกไม่สบายตัวมากกว่า

   คิดว่าไอ้ซันจะผลักผมออก ยกมือปิดปากเหมือนสาวน้อยถูกพระเอกจูบ? ฝัน!! มันดูดปากผมกลับจนผมเป็นฝ่ายหายใจไม่ทัน กูป่วยอยู่ครับเพื่อน ช่วยถนอมกูนิด

   ซันผละออก มองผมตาโตเหมือนอึ้งกับการกระทำของตัวเอง ในเวลาแบบนี้คนส่วนใหญ่จะคิดบางอย่างออกมาเพื่อหักล้างความสับสน…

   “เพราะมึงเลยเริ่มก่อน กูเป็นผู้ชายทั้งแท่ง โดนรุกมาก็โต้กลับสิวะ” นั่นปะไร

   “เอาที่มึงสบายใจเลยเพื่อน ตกลงว่าวันนี้กูไม่ทำอาหารนะ ลงไปหาซื้ออะไรข้างล่างกินกันเหอะ”

   ผมชวนมันเปลี่ยนเรื่อง ไม่อยากให้ฟื้นฝอยหาตะเข็บ ดูมันไม่ให้ความร่วมมือสักเท่าไหร่ ลากผมไปที่โซฟา ดันไหล่ให้นอนลงแล้วเดินเข้าห้องไปเอาผ้าห่มมาคลุม

   “มึงไม่ต้องลงไป เดี๋ยวกูซื้อของกินขึ้นมาให้ ตะกี้ตัวมันร้อนจี๋ ถึงว่าทำไมวันนี้หน้าแดงตาเยิ้มแปลกๆ ที่ห้องมียาแก้ไข้มั้ยเนี่ย” ท้ายประโยคเหมือนพึมพำกับตัวเองมากกว่า

   ผมทำท่าจะไปหายากินเอง ห้องนี้อยู่ด้วยกัน แต่ส่วนใหญ่ผมจะเป็นคนจัดเก็บห้อง ไม่แปลกที่ซันมันจะไม่รู้ว่ายาเก็บไว้ที่ไหน พอมันเห็นผมลุกก็หันมาถลึงตาใส่ ดันผมลงนอนอย่างเก่า ผมจะอ้าปากบอกว่าจะไปหายากิน มันชิงพูดตัดหน้า

   “ห้ามขยับไปไหนเดี๋ยวกูมา”

   พูดจบมันออกจากห้องไปทันทีไม่ปล่อยให้ผมอุทรณ์ใดๆ ทั้งสิ้น กำลังจะบอกอยู่ว่าอยากกินข้าวต้มกุ้ง อดเลย...

   ผ่านไปไม่ถึงครึ่งชั่วโมง มันกลับมาพร้อมข้าวต้มสองถุงอย่างที่คิด แต่เป็นข้าวต้มหมู แถมยาพาราอีกหนึ่งแผง ซันแกะเทใส่ถ้วยยกมาเสิร์ฟถึงโต๊ะหน้าทีวีให้ผมกิน ส่วนมันโซ้ยอยู่ข้างๆ กินหมดมันยื่นยากับแก้วน้ำให้ ส่วนมันเก็บถ้วยไปล้างในห้องครัว เรียกได้ว่าทุกขั้นตอนไม่ต้องพูดสักคำ มันจัดการให้หมด

   หนังท้องตึง หนังตาหย่อน ผมเดินหาวเข้าห้องไปอาบน้ำนอน ช่วงแรกยังสบายดีอยู่ กลางดึกถึงรู้สึกปวดหัวเหมือนมีใครเอาค้อนมาทุบเป็นระยะ ร่างกายร้อนผ่าว เหงื่อออกท่วมตัว คิดจะลุกไปหาผ้าเช็ดเหงื่อโลกดันหมุนจนทรุดลงไปนั่งบนเตียงตามเดิม

   ผมนั่งเหม่อลังเลว่าจะนอนมันทั้งแบบนี้หรือลุกไปเรียกซันมาช่วยเฝ้าไข้ดี ปกติผมเป็นคนร่างกายแข็งแรงไม่ค่อยป่วยอย่างใครเขา ซึ่งคนจำพวกนี้ถ้าลองป่วยทีจะเป็นหนักมาก สุดท้าย ตัดสินใจเดินไปห้องซัน ลองบิดประตูไม่ได้ล็อก ถือวิสาสะเข้าไปเห็นผ้าห่มป่องๆ ผมทิ้งตัวไปนอนทับมันทั้งอย่างงั้น ไอ้ซันตกใจสะดุ้งตื่นยกขาถีบซะผมลงไปกองบนพื้นห้อง

   เวรเอ๊ย!! กูป่วยมาขอความช่วยเหลือ ไม่ได้มาให้มึงซ้ำเติม

   ไอ้ซันรีบลุกขึ้นมาดูผลงานตัวเอง เห็นเป็นผมนอนพะงาบๆ บนพื่นมันรีบถลาลงมาพยุง ดีมันไม่เหยียบผมซ้ำ ซันลากผมขึ้นไปนอนบนเตียงแทน

   “เฮ้ย! ทำไมตัวร้อนงี้วะ ก่อนนอนกูให้กินยาแล้วนี่ อย่าบอกนะว่ามึงอาบน้ำ?”

   มันถาม ผมพยักหน้ารับ เราขี้ร้อนทั้งคู่เลยไม่คิดติดเครื่องทำน้ำอุ่น พออาบน้ำทีก็เป็นน้ำเย็นเจี๊ยบสูตรแช่ท่อคอนโด ส่งผลให้ผมไข้ขึ้นหนักกว่าเก่า ช่วยไม่ได้ ตอนแรกไม่คิดว่าอาบน้ำแค่นี้จะเป็นหนัก

   ซันด่าผมหนึ่งชุดใหญ่ จ้ำพรวดออกจากห้องไปเอาน้ำกับยามากรอกปาก พร้อมกะละมังกับผ้าชุบน้ำ ผมป่วยแต่ยังมีสติ เห็นมันจะเช็ดตัวให้เลยถอดเสื้อยืดกับกางเกงออก ไอ้ซันตาโตแทบหลุดออกจากเบ้า

   “มึงจะถอดทำไม!”

   “เอ้า มึงจะเช็ดตัวให้กูไม่ใช่เหรอ ไม่ถอดแล้วจะเช็ดไงวะ ถ้ามึงไม่อยากทำเดี๋ยวกูทำเองก็ได้”

   ผมป่วยแล้วหงุดหงิด คว้าผ้าจากมือมันมาเช็ดตัวเอง มันแย่งผมคืนเหมือนเด็ก แล้วจ้องบังคับทางสายตาให้ผมอยู่เฉยๆ มือหนาลากผ้าชุบน้ำบิดหมาดเช็ดไปตามตัว พอถึงช่วงขามันชะงักมือ ผมเลิกคิ้วมองหัวเราะในใจ แสร้งยกขาให้มันเช็ดง่ายๆ ซันยังไม่รู้เจตนาอย่างแกล้งของผม เลยตั้งอกตั้งใจถูอย่างกับหาเลข พอเสร็จมันรีบหยิบเอาเสื้อยืดในตู้ตัวเองมาใส่ให้ผมอย่างไว

   “มึงนอนไป กูจะไปนอนห้องมึงแทน”

   มันทำท่าจะเดินหนี ผมมือไวคว้าแขนมันได้ก่อน มาตอนนี้เพิ่งสังเกต ซันมันไม่ใส่เสื้อ ท่อนล่างมีแค่บ็อกเซอร์ตัวเดียว ผมนึกสนุกอยากแกล้งมันอีกหน่อย ออกแรงดึงจังหวะมันไม่ทันตั้งตัว จนร่างหนาล้มทับอยู่ด้านบน ผมตวัดขาล็อกเอวมันไว้ไม่ให้ลุกหนี

   “จะรีบไปไหนวะซัน ไม่นอนด้วยกันเลยล่ะ นี่ห้องมึงนะ”

   มันใช้สองแขนท้าวไว้บนเตียงระหว่างตัวผมเพื่อพยุงตัวเองไม่ให้ถูกแรงรั้งร่วงมาทับผมทั้งตัว ซันมองภาพที่แสนจะยั่วยวนใต้ร่าง ใบหน้าออกสวยแดงระเรื่อชื้นเหงื่อ เสียงหอบหายใจจากพิษไข้แล้วมันชวนให้คิดอกุศลแบบสุดๆ ยิ่งอยู่ในท่าสุดล่อแหลมด้วยมันยิ่งชวนให้ของขึ้น!

   หากซันเห็นสภาพโป้ก่อนหน้านี้คงไม่รู้สึกอะไร ถ้าไม่เจอเรื่องของวากระตุ้นความคิดขึ้นมา ว่าตกลงแล้วตัวเองคิดยังไงกับโป้กันแน่ ในฐานะเพื่อนเขาก็ดูจะเป็นห่วงปนหวงเกินหน้าเกินตาไปหน่อย ตอนอยู่บ้านก็คิดแต่อยากกลับมาเจอหน้า ที่สำคัญโป้เองก็ตรงสเปคทุกอย่าง ติดอย่างเดียวที่เป็นผู้ชาย

   ไม่สิ...ผู้ชายแล้วยังไง ขนาดพี่เขายังรักกับพี่สะใภ้หวานชื่น...
 
   “ซัน หลับในแล้วเหรอวะ?”

   ได้เสียงอีกฝ่ายเรียกถึงได้สติกลับมาสู่เหตุการณ์ปัจจุบัน

   “ปล่อยได้แล้ว กูไม่อยากติดไข้มึง” ถอยทัพไปนั่งทบทวนความรู้สึกก่อนดีกว่า ซันคิดพลางแงะตัวเองออกจากปีโป้เปื่อยแรงควาย

   “ก็ดีนะ กูจะได้หายไง เขาว่ากันว่าถ้าจูบกันอีกคนจะเป็นไข้แทน ลองกันหน่อยมั้ยพวก” คนป่วยยักคิ้วท้าทายไม่เจียมสังขาร โป้อาศัยว่าตัวเองเป็นไข้ทำอะไรไม่ยั้งคิด รั้งคออีกฝ่ายมาประกบจูบ

   ซันรู้สึกถึงสัมผัสร้อนกว่าปกติแนบชิดจนเผลอตอบรับแล้วรุกกลับ ลิ้นสอดเกี่ยวกระหวัดดูดดื่ม มือหนาลูบไล้ไปตามผิวกายร้อนผ่าวอย่างลืมตัว ก่อนชะงักแล้วผละออก ติดที่ขาล็อกเอวไว้เลยลุกไปไหนไม่ได้ เจ้าของห้องถลึงตามอง

   “โป้ มึงอย่ามายั่วกูดีกว่า กูไม่ใช่พระอิฐพระปูนที่โดนมึงยั่วแล้วยังเฉย” ยิ่งกูกำลังสับสนในตัวเองแบบนี้ เดี๋ยวแดกมึงไขข้อข้องใจซะเลยหนิ ซันได้แต่คิดในใจ

   “กูไม่รู้ กูป่วย” โป้ยังคงหน้ามึนแกล้งซันต่อไป ถือเป็นการทดสอบด้วย ถ้ามันเป็นผู้ชายแท้ ให้ตายยังไงก็ไม่มีอารมณ์กับผู้ชายด้วยกันหรอก ถามว่าเกิดมันไม่แท้ขึ้นมาผมจะทำยังไง ก็ปล่อยเลยตามเลยสิยากอะไร!

   โดนก่อกวนไปสักพัก คนบางคนเริ่มตบะแตก

   “เหี้ย!! กูเตือนมึงแล้วนะ”

   มันตวาดอย่างเหลืออด คิดจะทำให้อีกคนสำนึกซะบ้าง มือหนากระตุกเสื้อที่เพิ่งสวมโยนทิ้งไปอีกทาง ใช้จมูกโด่งซุกไซร้ลำคอที่เล็งไว้แต่แรก ก่อนจะย้ายมาย้ำจูบหนักๆ ดูดให้ปากบวมเจ่อ

   จังหวะที่จะผละออก หยุดการสั่งสอนแต่เพียงเท่านี้ บังเอิญว่ามือลากผ่านอก โป้สะดุ้งเล็กๆ ดึงความสนใจของซันไปยังจุดนั้น หนุ่มเถื่อนลองเค้นคลึงเบาๆ อีกคนก็ยิ่งสั่นพร้อมส่วนล่างตื่นตัวจนทิ่มโคนขา เหมือนค้นพบสิ่งแปลกใหม่ ทำไปทำมาคนที่คิดสั่งสอนชักเตลิดซะเอง

   “กูเพิ่งรู้ว่าอกผู้ชายก็ทำให้เสียวได้” เอ่ยพลางแสยะยิ้ม นึกสนุกก้มลงไปใช้ปากครอบดูดตามใจ ความเจ็บปนเสียวทำให้คนป่วยเริ่มกู่ไม่กลับ โป้หอบหายใจสะท้านกับอารมณ์ที่ถูกปลุก

   “ซัน มึงจะทำหรือมึงจะเล่นเอาสักอย่าง” คนป่วยบ่นด้วยอารมณ์หงุดหงิด เหมือนไปกดสวิทช์มันเข้า ซันตัดสินใจมันเดี๋ยวนั้น ยกมือหยาบลูบสำรวจไปทั่วร่าง พอขาขาวเลื่อนหลุดจากเอวมันก็ยกไปล็อกไว้ที่ตามเดิม

   “งั้นกูทำเลยแล้วกัน!” เสียงทุ้มพร่ากระซิบข้างหู เบื้องล่างถูกล้วงออกมาเสียดสีกัน เกิดความรู้สึกสุดบรรยาย ซันใช้มือรวบทั้งคู่แล้วรูดไปพร้อมกัน กระทั่งส่วนปลายเปียกชื้นจนปลดปล่อย

   หนุ่มเถื่อนมองมือตัวเองที่เลอะไปด้วยน้ำกาม รอยยิ้มมุมปากทำให้ผมเสียวสันหลังวาบ

   “กูเคยมีอะไรแค่กับผู้หญิง แต่ผู้ชายแม่งมีรูเดียวนี่นะ...”

   มันถอดกางเกงชั้นในแล้วคลำหา ผมสบถไม่เป็นคำ พอนิ้วเจอเป้าหมายก็สอดเข้าไปแบบไม่เกรงใจ จุกจนยกมือโบกหัวมัน ถึงกูมีไข้แต่ไม่ได้หมายความว่าก็จะสิ้นฤทธิ์นะโว้ย

   “ค่อยๆ ทำสิวะ”

   “กูไม่เคยนี่หว่า” ร่างสูงบ่นอุบยอมค่อยๆ ทำตามที่บอก พอเพิ่มนิ้วที่สองไม่ทันไรมันกลับดึงออกแล้วจ่อของตัวเองเข้าไปโดยที่ผมไม่ทันออกปากห้าม อยากจะด่ามันใจจะขาด มึงเพิ่งจะเตรียมไปแค่สองนิ้วเองนะเว้ย ขนาดของมึงสามนิ้วยังไม่พอเลยมั้ง เชี่ย!!

   ความแข็งร้อนค่อยๆ ฝืนกดเข้ามา ผมผ่อนลมหายใจเฮือกไปหลายที พยายามผ่อนอาการเกร็งเพื่อไม่ให้ตัวเองเจ็บ ถึงอย่างงั้นก็ยังเจ็บอยู่ดี ผมตีบ่าให้มันหยุด มันดันเข้าใจตรงกันข้ามฝืนกดจนมิดโคน ทำเอาผมร้องไม่เป็นคำ ทั้งจุกทั้งแน่น

   “อืออ...ไม่ไหวแล้วว่ะโป้ กูขยับเลยนะ” มันสูดปากเริ่มขยับสะโพก ด้วยความที่ไม่มีเจลหล่อลื่นมันเลยฝืดเกินบรรยาย ผมจิกบ่ามันระบายความทรมาน มันก้มลงมากัดอกอย่างหมั่นเชี้ยวจนเป็นรอยฟัน เบื้องล่างเริ่มเร่งจังหวะ พอเข้าที่เข้าทางความเจ็บถูกโยนทิ้ง ผมหลุดครางเสียงสั่นอย่างลืมตัว มันได้ยิน ยิ่งได้ใจขยับตามใจตัวเอง

   เสียงเตียงโยกแข่งกับเสียงหอบคราง ซันพึมพำเหมือนสติหลุดอยู่ข้างหู

   “โคตรดี อ่า...โป้ โป้ มึงเป็นของกู”

   พูดจบเลื่อนมาจูบดูดปาก ไซร้คอให้ขนลุกซู่ไปทั้งตัว ช่วงจวนจะเสร็จ มันใช้มือรูดของผมให้เสร็จไปพร้อมกัน ผมกระตุกกายปลดปล่อยเลอะมือกับหน้าท้อง ร่างสูงจงใจสอดลึกเสร็จสมข้างใน

   จังหวะที่มันหยุดพักก้มลงมาดูดปากผมซ้ำ ผมค่อยมีเวลาฝืนตัวเองดันอกกว้าง เจ็บคอจนเสียงแหบพร่า

   “แฮ่ก... ซันพอก่อน”

   ลำคอแห้งผาก ปวดหัวแทบระเบิด ตัวร้อนอย่างกับกองไฟ ได้ยินเสียงซันมันกลืนน้ำลายอึก ก่อนมันจะเอื้อมไปหยิบขวดน้ำตรงหัวเตียงมากระดกเข้าปากแล้วเชยคางผมขึ้นป้อนน้ำ รู้สึกชุ่มคอขึ้นมาหน่อย แต่ความอึดอัดเบื้องล่างยังคงอยู่ ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ ทุกการกระทำเมื่อครู่ มันทำทั้งที่ยังแช่ค้างไม่ยอมถอนออก ไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี ไม่น่าไปยั่วจนมันตบะแตกเลย

   “ตัวมึงร้อนจี๋ แต่โคตรน่าเอา ขออีกนะโป้” หมาหื่นก้มลงมาซุกจูบปากซ้ำๆ ดูจะเป็นส่วนที่มันชอบที่สุด แล้วสะโพกหนาขยับอีกรอบและอีกรอบ...

   กว่าจะเสร็จสมใจ อีกคนก็สลบคาอกไปแล้ว ซันเบิกตากว้าง เพิ่งระลึกได้ว่าอีกฝ่ายป่วยอยู่ รีบผละกายออกจับคนป่วยเช็ดตัวทำความสะอาด เปลี่ยนผ้าปูใหม่แล้วนั่งเฝ้าไข้ตลอดคืนลืมสนใจตัวเองไปเสียสนิท เผลอหลับไปตอนไหนก็ยังไม่รู้ตัว กระทั่งได้เสียงมือถือดังมาจากห้องโป้แทนเสียงนาฬิกาปลุก

   เจ้าของห้องตื่นขึ้นมาดูอาการคนป่วยเป็นอันดับแรก เปลี่ยนผ้าวางบนหน้าผากแล้วค่อยเดินเกาพุงเข้าห้องเพื่อน หยิบมือถือมากดรับสายโดยไม่ดูชื่อ คิ้วขมวดแบบบี้ยุงตาย

   “ใครวะ!” น้ำเสียงเหวี่ยงสุดติ่งเพราะถูกรบกวนเวลานอน ไม่นำพาเลยว่ามือถือที่ตัวเองถือวิสาสะรับน่ะมันของรูมเมท ปลายสายแอบสะดุ้งโหยง

   /ไมเสียงโหด หรือว่าโป้ถูกซันฆ่าหมกห้องไปแล้ว!/ เสียงเล็กโวยวาย ซันยกโทรศัพท์ดูชื่อคนโทรเข้าชัดๆ เห็นเป็นชื่อเพื่อนตัวเล็กค่อยดรอปเสียงลงอยู่ในระดับปกติ

   “ไม่ใช่เว้ย โทรมามีไร” ซันถามกลับ ปอนด์หันไปมองพี่ชายตัวเอง วันนี้พวกเขาสามคนมีนัดกัน ทีแรกเฟย์จะมาเที่ยวซื้อของกับปอนด์ แต่โป้อยากให้เฟย์ช่วยเลือกหนังสือทำอาหารเลยนัดกันที่ห้างตอนสิบเอ็ดโมง จนตอนนี้เวลาล่วงเลยไปเกือบเที่ยงยังไม่เห็นโป้แม้แต่เงา

   /โป้บอกว่าจะออกมาซื้อหนังสือด้วยกัน เลยโทรมาถามว่าถึงไหน/

   “มันป่วยไปไม่ได้” ตอบทันทีแบบไม่ต้องคิด อีกอย่างเมื่อคืนโป้รับศึกหนัก แค่คลานออกจากห้องได้ก็นับว่าสุดยอดแล้ว

   /โป้ป่วย!? เป็นไปได้ไง เพราะซันแน่ๆ ทำจนโป้ป่วยเลยเรอะ เอางี้ ไหนๆ ซื้อของเสร็จแล้วเดี๋ยวไปเยี่ยมที่ห้องนะ/

   ปอนด์มัดมือชกกดวางสายไป ทิ้งให้ใครอีกคนยังยืนค้าง

   “มันรู้ได้ยังว่ากูกดโป้ไปแล้ว โว้ย! กูทำอะไรลงไปวะเนี่ย” สีหน้าเริ่มเครียด หารู้ไม่ เพื่อนตัวเล็กมันก็พูดไปงั้น ดันเป็นความจริงซะนี่ ส่วนคนไม่รู้อย่างซัน เริ่มนั่งไม่ติด รีบเคลียร์ห้องเท่าที่ทำได้ วิ่งลงไปข้างล่างซื้อข้าวต้มร้านตามสั่งมาให้โป้กินก่อนทานยา

   คนป่วยตื่นขึ้นมาสภาพง่วนงุน ซันเป่าข้าวต้มยกขึ้นจ่อปาก

   “รีบแดกเร็ว จะได้ทานยา กูจะเช็ดตัวให้มึงอีกรอบด้วย”

   เห็นท่าทีลุกลี้ลุกลนแปลกๆ อย่างกับกลัวใครมาจับผิด อดออกปากถามไม่ได้ ระหว่างยอมทานข้าวต้มมื้อเช้ากับเที่ยงรวมกัน

   “เป็นอะไรวะ เรื่องที่มึงมีอะไรกับกูไม่ต้องคิดมาก กูยั่วมึงเอง”

   ช้อนที่กำลังตักคำที่สองชะงักอยู่กับที่ ซันกัดฟันกรอดจ้องใส่คนป่วยนิสัยเสีย

   “ไม่ใช่เรื่องนั้น เอาไว้กูกับมึงค่อยเคลียร์กัน แต่ปอนด์กับเฮียเฟย์จะมาที่ห้อง” ประโยคนี้ถึงคราวโป้ตาโตอ้าปากค้าง ซันสบโอกาสตักข้าวยัดใส่ปาก เกือบสำลัก ความจริงเพิ่งมีอะไรกันไป ควรจะถนอมกันหน่อยไม่ใช่เหรอวะ นี่แม่งจะฮาร์ดคอร์ไปไหน คนป่วยคิดทั้งน้ำตา เอาเถอะ มันดูแลผมทั้งคืน แถมยังทำหน้าหมาสำนึกผิด เป่าข้าวต้มป้อนทีละคำก็น่าดีใจแล้ว

   ข้าวต้มหมดถ้วย ซันยื่นยากับน้ำมาให้ ผมรับมากินกระดกน้ำตาม ซันยกถ้วยไปเก็บ ก่อนเปลี่ยนน้ำในกะละมังบรรจงเช็ดตัวให้คนป่วย ผมยกแขนขยับตัวให้มันเช็ดง่ายๆ มองใบหน้าหล่อคมกับคิ้วเข้มที่ขมวดแน่นเลยใช้นิ้วจิ้มนวดตรงหว่างคิ้วให้

   “กังวลอะไรของมึง กูไม่ใช่ผู้หญิงแตกในก็ไม่ท้องหรอก อีกอย่างเฮียเฟย์กับปอนด์เป็นเพื่อน ไม่ใช่พ่อแม่ ดูมึงทำอย่างกับเด็กใจแตกแอบพาลูกเขามากกแล้วโดนจับได้”
   
   “มึงก็เปรียบเทียบซะ... มันก็จริง กูจะตกใจไปทำไมวะ”

   เห็นหมาหงอย อดไม่ได้ยื่นมือไปลูบหัว มันจับมือผมออกมากุมไว้บนตัก นิ้วโป้งสากลูบหลังมือผมไปมาดูใจลอย เสียงออดหน้าห้องดังนั้นแหละมันถึงได้สติ กำลังจะลุกไปเปิดประตู พอหันมาเห็นผมเช็ดตัวเสร็จแต่ยังไม่ใส่เสื้อ มันเลยหยิบเสื้อใหม่มาใส่ให้ ก่อนคว้ากางเกงที่พาดไว้แถวนั้นมาสวมออกไปเปิดประตู ผมกุมขมับอยู่ในห้อง มันรู้ตัวรึเปล่าทำแบบนี้ยิ่งชัดเจน

   ผมใส่เสื้อมัน ส่วนมันใส่แค่ท่อนล่างด้านบนเปลือย อีกอย่างรอยเล็บบนบ่ามันยังอยู่ครบ ที่สำคัญ ผมยังนอนเสนอหน้าอยู่ในห้องมันนะ สองคนนั้นเป็นหนุ่มวายขนานแท้ ทั้งเสพทั้งผลิตเอง(?) เดาไม่ออกก็บ้าแล้ว

   “เฮ้ย! นี่มีอะไรกันจริงๆ เหรอเนี่ย”

   เสียงโวยของปอนด์ดังโหวกเหวกหลังเห็นสภาพซัน สมองพลันนึกถึงเพื่อนอีกคน เจ้าตัววิ่งลิ่วผ่านตัวคนเปิดประตูเข้ามาในห้อง ได้ยินเสียงปอนด์เปิดประตูห้องนอนผม พอไม่เจอเจ้าตัวเลยมาเปิดห้องซันแทน ไอ้ผมอยู่ในสภาพป่วยนอนห่มผ้าอยู่ ปอนด์มือไวดึงผ้าห่มออกถลกเสื้อดู พอเห็นรอยจูบกับรอยฟันพลันอ้าปากเหวอเป็นรูปตัวโอ

   “ทำอะไรกัน!”

   ซันมันวิ่งตามมาคว้าปอนด์โยนไปทางเฮียเฟย์ ดึงเสื้อผมปิดห่มผ้าทับจนถึงคอ เฮียเฟย์นี่แหละอันตรายที่สุด ดวงตาคมพราวระยับ รอยยิ้มกรุ้มกริ่มนั่นอีก หลักฐานคาตาไม่มีโอกาสปฏิเสธ

   “เข้าใจว่าวัยรุ่นฮอร์โมนมันพลุ่งพล่าน ถึงงั้นก็ไม่ควรหักโหมจนโป้ป่วยแบบนี้นะซัน” เฮียเฟย์หันไปสั่งสอนซันด้วยใบหน้าเปี่ยมรอยยิ้มเมตตาสมกับเป็นฝ่ายรุกระดับอาวุโส

   “ไม่ใช่ โป้มัน... เฮ้อ! เฮียผมขอคุยด้วยเดี๋ยว ปอนด์ ฝากดูโป้ด้วย ห้ามทำอะไรเด็ดขาด”

   อย่างปอนด์จะทำอะไรผมได้ ทางเฮียเฟย์เลิกคิ้วหมุนตัวไปนั่งรอบนโซฟา ส่วนปอนด์ดี๊ด๊าดีใจอย่างกับถูกหวยจงใจเปิดประตูแบบแง้มนิดนึงให้ได้ยินเสียงข้างนอก ผมไม่ห้ามเพราะอยากได้ยินเหมือนกันว่าซันจะคุยอะไรกับเฮียเฟย์

   “เอ้า... ว่ามา มีเรื่องอะไรจะปรึกษาพี่ ถ้ากลัวโป้ท้องไม่ต้องห่วง พี่พิสูจน์มาแล้ว ไม่เห็นลูกแมวจะท้องสักที”

   โครม!

   เสียงปอนด์ร่วงตกจากเก้าอี้ เรียกเสียงหัวเราะทุ้มนุ่มจากผู้อาวุโส พี่แกรู้นี่หว่าว่าในห้องแอบฟัง ไหนๆ ก็รู้แล้วไม่เกรงใจล่ะ ผมดึงปอนด์มานั่งส่องตรงประตู เรื่องอาการป่วยไม่ต้องห่วง แค่เป็นไข้แต่ยังสติดีครบถ้วน ไม่ถึงกับพิการ อาจจะเสียดๆ ช่วงล่างบ้าง แต่ถ้าเดินมานั่งแบบนี้สบายมาก

   ซันมันรินน้ำมาให้พี่เฟย์ตามประสาเด็กมารยาทดีผิดกับหน้าตา แล้วเริ่มปรึกษาปัญหาชีวิต มันเป็นคนที่ชอบทำอะไรให้เคลียร์ ไม่ชอบค้างคา ดังนั้นไม่แปลกที่จะใจร้อน พอมีคนให้ปรึกษาเลยขอความเห็นทันที

   “ผมไม่เข้าใจเรื่องอะไรนิดหน่อย”

   “อ่าฮะ ว่ามา” เฮียเฟย์ยิ้มขำ ผมไม่แปลกใจว่าทำไมปอนด์ถึงหลงเฮียนัก ท่านั่งสุดคูล หยิบแก้วน้ำขึ้นจิบดูดีทุกท่วงท่าจนน่าอิจฉา

   ”เฮียรู้แล้วใช่มั้ยว่าผมกับโป้...”

   “อืม รู้แล้ว”

   “ผมเป็นผู้ชาย ที่ผ่านมาเคยแต่ผู้หญิง ไม่เคยยุ่งกับผู้ชายมาก่อน”

   “ทุกอย่างย่อมมีครั้งแรกเสมอ” คนหนึ่งถาม อีกคนหนึ่งตอบฉับไว

   “เฮียจะชกผมก็ได้ แต่ผมขอถามหน่อย เฮียกับผู้ชายคนแรกเป็นยังไงครับ” ซันถามด้วยสีหน้าจริงจัง ส่วนคนฟังแทบสำลักน้ำ มาดสุดคูลจนถึงเมื่อครู่ละลายหายไปในอากาศ ผมกลั้นขำอยู่ในห้องแทบตาย เหล่มองปอนด์ที่ลุ้นคำตอบเฮียเฟย์มากกว่าเรื่องของพวกผมอีก เล็บแทบจิกเข้าไปในกำแพง

   ร่างสูงกระแอมไอเรียกมาดกลับมา เฮียเฟย์เรียบเรียงคำพูดชั่วครู่ ใบหน้าหล่อดูดีแบบผู้ใหญ่ยิ้มละมุนละไมระหว่างระลึกถึงอดีต เห็นรอยยิ้มแบบนั้นเพื่อนตัวเล็กเกร็งตัวอย่างเห็นได้ชัด เฮ้อ ดูท่าเรื่องราวความรักของผม มันชอบไปเกี่ยวข้องกับความรักของคนอื่นอยู่เรื่อย ถือว่าเบิกเนตรแล้วกัน

   “พูดไปอาจจะไม่เชื่อ แต่ผู้ชายคนแรกของพี่คือปอนด์” ผมกับซันพากันอึ้ง ในขณะที่เฮียเฟย์พูดต่อ “ยอมรับว่าตอนแรกพี่เองก็ไม่มั่นใจเหมือนกันว่าจะหลงชอบเด็กตัวเล็กๆ อายุพอกับน้องชายตัวเองได้ยังไง จนเพื่อนเตือนสตินั้นแหละถึงเข้าใจว่าพี่ชอบปอนด์แล้วจริงๆ”

   “แล้วหลังจากนั้น เฮียตัดสินใจยังไงถึงคบกับปอนด์”

   เฮียเฟย์ยักไหล่กับคำถามซันแล้วหันมามองปอนด์ที่เปลี่ยนร่างเป็นแมวสีชมพูด้วยรอยยิ้มบาง

   “พอมั่นใจว่าชอบ อย่างอื่นก็ไม่สำคัญแล้ว แค่ทำตามความรู้สึกของตัวเองก็พอ เราล่ะคิดยังไง”

   โดนเฮียเฟย์ถามกลับ ซันเป็นฝ่ายนิ่งไป ค่อยๆ ถ่ายทอดคำพูดของตัวเองออกมาตามความรู้สึก

   “ถึงตอนนี้ผมก็ยังไม่รู้ว่าชอบโป้รึเปล่า แต่ผมไม่เคยห่วงเพื่อนคนไหนเท่าโป้มาก่อน ตอนกอดไม่มีความคิดว่าขยะแขยงหรือรังเกียจสักนิด ออกจะถูกใจด้วยซ้ำ เลยเผลอ เอ่อ... หน้ามืดไปหน่อย ผมคงเป็นเกย์แล้วสินะ” ซันถอนหายใจ เฮียเฟย์ยกมือตบบ่า

   “เป็นเกย์หรือไม่เป็น มันไม่สำคัญ บอกแล้วว่าของแบบนี้อยู่ที่ความรู้สึก พี่เข้าใจว่าเรากำลังสับสน ค่อยๆ คิดไป” คำแนะนำชวนให้ใจชื้น ซันยิ้มรับกับคำนั้น ก่อนหน้าหงิกกับประโยคต่อมา

   “จากที่ดู พี่ว่าโป้น่าจะเสน่ห์แรง ผู้ชายทำงานบ้านงานเรือนเก่งช่างดูแล รูปร่างหน้าตาดีแบบนี้ต่อให้เป็นชายแท้ยังหวั่นไหว เรื่องนี้พี่ว่าซันน่าจะรู้ดีที่สุด เพราะงั้นอย่ามัวแต่คิดเพลินจนโดนคนอื่นคาบตัดหน้านะ ไปปอนด์กลับบ้าน”

   ทิ้งบอมบ์เสร็จ เฮียเฟย์เดินมาจูงลูกแมวที่เขินม้วนจากไปอย่างสงบ ใจจริงคงจะมานั่งคุยเล่นด้วย แต่เห็นว่าผมป่วย แถมซันมันยังเป็นซะอย่างงี้ เลยเปิดโอกาสให้พวกเราคุยกัน สงสัยหายเมื่อไหร่คงต้องทำของกินอร่อยๆ ไปตอบแทนสองคนนั้นสักหน่อย

   เห็นซันนั่งเงียบอยู่ในห้อง ผมไม่เซ้าซี้ ความจริงที่ยั่วมันไปแค่แกล้งเล่นแต่ดันเตลิด มาถึงตอนนี้ต้องรับผลการกระทำของตัวเอง มันตัดสินใจยังไงผมไม่ว่า เอาไว้จีบใหม่ก็ยังไม่สาย อย่างน้อยๆ มันก็ดูมีใจให้ผมบ้างเหมือนกัน

   ผมย้ายสารร่างตัวเองออกจากห้องซัน คนที่นั่งอยู่หันขวับมามอง

   “มึงจะไปไหน”

   “กลับไปนอนห้องตัวเอง จะให้ยึดห้องมึงไปตลอดคงไม่ดีมั้ง”

   มันก้าวฉับๆ จับผมแบกขึ้นบ่ากลับห้องตัวเองแล้วโยนผมลงบนเตียง นั่งทำหน้าเหมือนหมาขี้ไม่ออกอยู่ข้างๆ โอเค ไม่นอนห้องตัวเองก็ได้ ผมขยับตัวได้ที่ พอหมดเรื่องตื่นเต้นฤทธิ์ยาเริ่มทำงาน จังหวะที่ผมเคลิ้มจวนจะหลับ ซันมันเรียกผม

   “โป้!” ถึงกับสะดุ้งตื่นมองหน้ามันเหลอหลา “มึงกำลังจะหลับเหรอ ขอโทษ กูมีเรื่องต้องบอกมึง ไม่อยากให้มันค้างคา” ผมพยักหน้ารับ พยายามถ่างตาตื่น มันยังไม่เห็นเลยพล่ามต่อไปเรื่อย

   “คือกูยังไม่มั่นใจว่าชอบมึงรึเปล่า แต่กูไม่เคยรังเกียจมึงจริงๆ มันอาจจะดูเห็นแก่ตัว…” เรื่องเห็นแก่ตัวผมไม่รู้ ถ้าเรื่องเอาแต่ใจนี่มึงเป็นมานานแล้วซัน ผมตอบมันในใจ รอว่ามันจะพูดอะไรต่อในสภาพครึ่งหลับครึ่งตื่น

   “โป้... คบกับกูได้มั้ย กูสาบานว่าจะดูแลมึงอย่างดี ถ้าเกิดมึงมีคนที่ชอบ...”

   “มึงจะปล่อยกูไปสินะ” ตามพล็อตพระเอกทั่วไป ซันหันมาจ้องผมเขม็งแผ่รังสีอำมหิต

   “มึงคิดว่ากูจะยอมให้มึงเลิกมั้ยล่ะ หึหึ มึงเลิกกับกูมึงตาย... รับรองเลยว่ากูจะเอาให้มึงตายคาอกจนมึงนึกไม่ถึง ส่วนไอ้เหี้ยนั่นก็จะตายคาตีนกูด้วย” มันกระซิบเสียงรอดไรฟัน แววตาฉายชัดว่ามันเอาจริง แล้วมึงจะถามความสมัครใจกูทำเพื่อ!

   “จะทำอะไรก็ตามใจ... แต่ตอนนี้มึงออกไปก่อน กูจะนอน กูง่วง กูป่วย อย่ามากวนไอ้สัตว์!” ผมยันมันโครมแล้วคลุมโปงหันก้นให้มันระบายความหงุดหงิดที่ถูกกวนเวลาพักผ่อนกับแก้เขิน ซันหงายหลังลงไปกองบนพื้น มันตะกายกลับขึ้นมานั่งข้างเตียงใหม่เพื่อเฝ้าไข้ผม ได้ยินเสียงบ่นพึมพำ

   “เหมือนกูเห็นอนาคตตัวเองชอบกล”
   
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31-10-2016 00:03:01 โดย Silver Fish »

ออฟไลน์ boobooboo

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-2
โป้นี่สุด ๆ ไปเลย

ออฟไลน์ temaripik

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 55
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
แม่คะ เขาได้กันแล้วค่ะ  :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ nightsza

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2035
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-1
ซันดูแลโป้ดีๆล่ะ

ออฟไลน์ alt1991

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :hao6:  ซันเสร็จโป้แล้วล่ะ ยินดีด้วยนะ
แมวเหมียวปอนด์มาเพื่อเสพความฟินชัดๆเลยงานนี้ ฮ่าๆ
 :L2:  รอดูอนาคตอันสดใสของซันนะจ๊ะ

ออฟไลน์ imfckwn

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 277
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
กลัวเมียแบบไม่ต้องสืบ 5555555555555555555555555

ออฟไลน์ fannaio

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 26
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
อนาคตที่สดใสรอเราอยู่ค่ะซัน
ขอต้อนรับสู่สมาคมพ่อบ้านใจกล้า  :impress2:

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
หูววว

เรื่องนี้มีคู่รองกี่คู่คะนี่

อยากรู้เรื่องมิทมากมาย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
สะบะระหึ้มกันแล้วจ้า :m25:

ออฟไลน์ powvera

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 702
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +75/-3
ลุ้นอยู่นานในที่สุดก็ได้ฟินแบบเสียเลือดเสียที  คึคึ

 :z1:        :haun4:     :haun4:

ออฟไลน์ Silver Fish

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-0
    • Fanpage
หูววว

เรื่องนี้มีคู่รองกี่คู่คะนี่

อยากรู้เรื่องมิทมากมาย

ตอบจ้า
5 คู่ครับ
เฟย์-ปอนด์
ซัน-โป้
xx-มิท
วา-เล่
ริว-xx
ปัจจุบัน แต่งควบสองคู่อยู่ครับ เฟย์ปอนด์มาก่อน ตามด้วยซันโป้

เฟย์ปอนด์ตามลิงค์นี้เลยครับ แต่งไปแล้ว24ตอน

V V V

http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47430.msg3098238#msg3098238

ปล.ติดตามข่าวสารที่เพจก็ได้ครับ ความจริงคู่มิท แต่งขำๆ ไปแล้วสองตอน ต้องคุ้ยหาในเพจ ไม่ได้ทำสารบัญ เพราะยังไม่จับจริงจัง
https://www.facebook.com/SilverFsih/ << เพจครับ

ออฟไลน์ PiSCis

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 346
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-2
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

และแล้วโป้ก็ยั่วจนซันตบะแตก จัดการโป้จนได้  :z1: :hao6:  :hao7:

ออฟไลน์ Bk borz.

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
รอนะรอทุกวันแต่ถ้าวันนี้ได้มาต่อจะดีมาก555555เรารอเธออยู่นะ5555ชอบโป้อ่ะน่ารัก

ออฟไลน์ Silver Fish

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-0
    • Fanpage
ยกที่9 แฟน

   เสียงริงโทนดังขึ้น ผมเอื้อมมือปัดป่ายคว้าเอามือถือที่วางไว้บนพื้นข้างเตียงมาหยีตาดู เห็นเป็นชื่อเพื่อนในคณะเลยกดรับอย่างเสียมิได้ ให้ตายสิ ขนาดว่าหยุดนอนพักอยู่กับห้องไปหนึ่งวันเต็มยังรู้สึกขัดๆ ตามร่างกายอยู่เลย แต่นับว่าดีกว่าเมื่อวานมากโข ทั้งไข้และอาการอย่างว่า

   “มีไรวะแม็ค” ผมถามเสียงห้วน อยากนอนต่อชะมัด ถ้ามันโทรมาเพราะเรื่องไร้สาระ ผมจะเอาไม้ทีไปเฉาะหน้ามัน

   /เสียงมึงแปลกๆ ยังไม่ตื่นเหรอวะ/

   “เออ กูไม่สบาย วันนี้กูไม่ไปเรียน”

   /เฮ้ย! ไม่ได้ วันนี้จารย์พ่อ.../

   สหายไม่ทันพูดจบ เจอมือดีคว้ามือถือไปหน้าด้านๆ ผมหันไปมองไอ้ซันที่ยังหน้านิ่วคิ้วขมวด อมขี้ฟันเมาขี้ตาเพ่งมือถืออย่างกับว่ามันเป็นชู้ผม มันชันตัวนั่งเอนหลังกับหัวเตียง ผ้าห่มร่นลงเผยให้เห็นท่อนบนเปลือยเปล่า ใบหน้าหล่อเข้มหันมามองช้าๆ เอ่ยวาจาด้วยน้ำเสียงน่าสะพรึง

   “ใคร”

   เสียงทุ้มแหบพร่าเพราะเพิ่งตื่น ดูเซ็กซี่อย่างร้ายกาจและน่าสยดสยองเวลามันมาพร้อมกับสายตาคาดคั้น ถามว่าผมกลัวมั้ย?

   ไม่!

   “เพื่อนที่คณะ มึงนอนไปเหอะ เฝ้าไข้กูมาทั้งคืน”

   ผมบอกมันแล้วคว้ามือถือคืน เห็นแม็คยังไม่วางสายเลยแนบหูคุยต่อ อีกมือดันหัวไอ้ซันให้มันไถลตัวนอนตามเดิม มันยอมนอนด้วยวุ้ย หรือเมื่อกี้มันละเมอ?

   “ตายยังแม็ค”

   /ยังเว้ย! ตะกี้เสียงใครวะโคตรน่ากลัว พ่อมึงมานอนที่ห้องเหรอ/ พ่อแท้ๆ อ่ะอยู่เหนือ แต่ถ้าเป็นพ่อทูนหัวล่ะก็ใช่ ผมคิดตอบมันในใจ เรื่องผมกับซันคบกันเพิ่งตกลงปลงใจกันเมื่อคืน จะให้แหกปากป่าวประกาศก็กระไรอยู่ ถึงมันจะมองออกแต่แรกก็เถอะว่าผมเป็นเกย์

   “พ่อมึงสิ! ตกลงจารย์พ่อว่าไร”

   /กูไม่อยากได้แม่ตีนหนัก/ มันบ่นอุบอิบ /จารย์พ่อบอกว่าให้พรีเซนท์งานวันนี้เพราะอาทิตย์หน้าจารย์ไม่ว่าง ไม่มีรอบแก้ตัวด้วย มึงต้องมาเพื่ออนาคตอันสดใสของกู/

   ผมเหล่มองนาฬิกาบนหัวเตียง ตอนนี้สิบโมง คาบเรียนเริ่มบ่ายมีเวลาเหลือเฟือให้ผมนั่งปรับสภาพตัวเองก่อนลากสังขารไปมหา’ลัย

   “เดี๋ยวกูไป เจอกันที่ห้องเรียนเลย”

   กรรับคำแล้วโอดครวญอีกหลายประโยคกว่าจะยอมวางสาย ผมโยนโทรศัพท์ไปบนเตียงด้วยความเคยชิน ได้ยินเสียงอุ๊กตามมา หันไปมอง มือถือเจ้ากรรมแปะอยู่บนหน้าซันที่จ้องผมตาขวาง เวร ลืมไปไม่ได้นอนคนเดียว ผมหัวเราะหยิบมือถือไปวางโต๊ะข้างเตียงดีๆ ยกมือลูบหน้าให้ซันนอน มันปัดมือผมออก

   ตอนนี้ผมอยู่ห้องซัน เพราะมันบอกว่าดูแลง่ายกว่า ไว้ผมหายป่วยเมื่อไหร่ค่อยกลับห้องตัวเอง ถามว่าทำไมคบกันเป็นแฟนไม่นอนห้องเดียวกัน มันไม่จำเป็นหรอกครับ

   “มึงต้องไปมหา’ลัย?” มันเลิกคิ้วถาม ผมพยักหน้ารับนั่งอยู่ข้างเตียงในสภาพเสื้อตัวเดียวของไอ้ซัน หลับตามือนวดขมับดึงสติ ไข้หายแล้วแต่ยังไม่หายสนิท คงต้องกินยาอีกสักระยะ ส่วนร่างกาย... ลองขยับแขนไล่ความเมื่อย พอจะลุกขึ้นยืนต้องขมวดคิ้ว ยังเสียดอยู่นิดหน่อยขนาดพักไปหนึ่งวันเต็มแล้วนะเนี่ย

   ผลจากครั้งแรกที่ผมโดนเสียบ ปกติเป็นฝ่ายเสียบชาวบ้านเขา ซันมันเห็นอาการผม ยื่นมือหนามาช่วยนวดคลึงแถวสะโพก เข้าใจว่าไม่มีเจตนาแอบแฝง แต่มือร้อนสากกับสภาพล่อแหลมช่างเป็นอันตรายเสียจริง ผมจับมือมันออก

   “กูไม่เป็นไร มึงนอนต่อไปเหอะ”

   “อย่าทำเก่ง เดี๋ยวกูไปส่งมึงที่คณะ วันนี้กูมีเรียนบ่ายเหมือนกัน”

   มันพูดเสียงเข้ม ไม่รู้มีเรียนจริงป่าว แต่ช่างหัวมัน อาสาเป็นคนขับรถก็ดี ไม่อยากไปนั่งรถโดยสารให้สะเทือนก้น ผมแยกกลับห้องตัวเอง ถอดเสื้อเข้าห้องน้ำพลางมองตัวเองในกระจก

   สิ่งที่สะท้อนกลับมาคือภาพชายคนหนึ่งหน้าตายังไม่ตื่นดี ดวงตาสีดำกับเส้นผมยุ่งเล็กน้อยถึงปานกลาง ผิวขาวมีแต่รอยแต้มแดง ตรงอกกับไหล่มีรอยฟันที่ละรอย ขอบอกต่อทุกคนเลยว่าไอ้ซันมือโคตรหนัก รู้สึกขอบคุณชุดนศ.สุดร้อนก็วันนี้ แขนยาวขายาวปิดมิดดีนักแล

   หลังอาบน้ำออกมาช่วยไอ้ซันเตรียมมื้อเช้าควบเที่ยงมานั่งทานกันก่อนไปเรียน ทานหมดแทนที่จะเก็บโต๊ะมันยังมานั่งจ้องหน้าผมอยู่ได้ ผมเก็บจานซ้อนเขี่ยเศษอาหารเลื่อนไปตรงหน้ามัน

   “เก็บดิมึง”

   “มึงลืมไรป่ะ” ดวงตาคมยังคงจ้องนิ่ง ผมเลิกคิ้วหันไปมองเป้ที่มีแต่พวกอุปกรณ์เครื่องเขียนสารพัด สมุดเขียนแบบ สมุดสเก็ตภาพ สมุดไว้จดเวลาไอเดียเกิด ส่วนงานที่ต้องพรีเซนท์อยู่ที่ไอ้แม็ค ก็ไม่ลืมอะไรนี่หว่า ซันมันทำหน้าบึ้ง รวบจานเดินดุ่มๆ มายืนอยู่ด้านข้าง

   “เงยหน้าดิ้”

   ดูมันออกคำสั่ง

   “อะไรของมึง” ปากถามแต่ก็ยอมทำตาม ไม่เงยได้ไง ตัวสูงพอๆ กัน มันยืนผมนั่งเก้าอี้ ไม่เงยหน้าคงคุยกับอกมันแล้ว คนตรงหน้ายกยิ้มมุมปาก ก่อนก้มลงมาแนบริมฝีปากเร็วๆ

   จุ๊บ

   “นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป มึงต้องจูบกับกูตอนตื่นและก่อนนอน ไม่งั้นเจอดี!” ขู่เสร็จพี่ท่านสะบัดตัวเข้าห้องครัวไปล้างจาน

   “เดี๋ยวๆ กูไปตกลงกับมึงตอนไหนวะ” จำไม่เห็นได้ จะบอกว่าผมเป็นไข้จนเบลอ? ไม่มีทาง ถึงผมจะป่วยแต่ไม่หนักขนาดนั้น ผมจ้องไล่หลังไปยืนเท้าแขนตรงเคาน์เตอร์มองแผ่นหลังกว้างที่ใส่แค่เสื้อกล้าม เห็นตรงบ่ามันมีรอยเล็บ ก้มมองมือตัวเอง สงสัยผมคงได้ฤกษ์ตัดเล็บเร็วๆ นี้

   “ในฝันกู” มันตอบโดยไม่หันมามอง เจริญเถอะท่าน ในโลกนี้ไม่มีใครมัดมือชกได้เท่าซันอีกแล้ว เอาที่มันสบายใจแล้วกัน ผมส่ายหน้าหน่ายๆ


   รถ Toyota Camry สีบลอนด์เงินจอดเทียบหน้าคณะสถาปัตย์ หนุ่มหล่อรองเดือนคณะก้าวลงมาจากรถให้สายลมพัดผมทรงรากไทร แขนท้าวกับขอบประตูคุยกับคนในรถท่ามกลางสายตาคนแถวนั้น ก่อนที่จะถูกมือดีคว้าคอเสื้อเข้ารถ ยื้อกันไม่ถึงนาที คุณรองที่เคารพยกเท้ายันเข้าไปด้านในแบบไม่เกรงใจ ก่อนจะปิดประตูรถเสียงดัง ยกแขนเสื้อเช็ดปากแบบเซ็งๆ เข้าคณะ

   “เฮ้ย! เมื่อกี้อะไรวะ มีเรื่องเหรอ?”

   นายแม็คโผล่มาหาเพื่อนอย่างรวดเร็ว ไม่รู้ว่าเป็นห่วงหรืออยากรู้อยากเห็นอยากเสือกเรื่องชาวบ้านกันแน่ ผมยกมือยันหน้ามันไปห่างๆ

   “ไม่มีอะไร แค่แสดงความรักกันเฉยๆ” ผมตอบหน้าตาย แม็คแทบหัวทิ่ม มันสะพายเป้เหมือนกัน ติดที่มือข้างหนึ่งถือฟิวเจอบอร์ดภาพสเก็ตงานออกแบบภายในร้านส้มตำตามโจทย์ที่กรมันจับฉลากได้ในคาบก่อนแล้วช่วยกันออกแบบ แบ่งหน้าที่กันทำ

   “แสดงความรักกันบ้านไหนวะ กระชากคอเสื้อมีถีบด้วย” ได้ยินเสียงพึมพำจากคนข้างตัว ผมทำหูทวนลมไม่สนใจ เดินนำมันขึ้นลิฟท์ไปห้องเรียน ผมไม่ใช่เด็กเรียนรีบเข้าห้องอะไรหรอกนะ พอดีตะกี้ไอ้ซันมันเล่นบ้าๆ หน้าคณะ ไม่รู้ใครเห็นมั่งต้องหลบก่อน ผมยิ่งมีคนรู้จักเยอะอยู่ ขี้เกียจมานั่งตอบคำถามคน

   “กูเห็นแวบๆ ว่าแฟนมึงเป็นผู้ชายใช่ไหมวะ”

   มันเปรยระหว่างทิ้งตัวนั่งข้างผม ตำแหน่งที่นั่งอยู่หลังสุดติดหน้าต่าง เหมาะแก่การแอบวาดรูปและหาอารมณ์สุนทรีย์จากต้นไทรติดหน้าต่าง... มองไปมองมาหลอนพิลึก สาบานเลยว่าถ้าตอนเย็นผมจะไม่เดินผ่านตรงจุดนี้เด็ดขาด

   “เออ” ผมตอบมันสั้นๆ ที่นี่ไม่สะดวก เพื่อนร่วมสายเริ่มทยอยกันเข้าห้อง แต่มีหรือไอ้กรจะสนใจในเมื่อไม่ใช่เรื่องของมัน พอจะอ้าปากพูดอีก ผมเลยคว้าเอาถุงขนมที่ไม่รู้ใครกินทิ้งใต้โต๊ะยัดใส่ปากมันซะ แม็คโวยลั่นคายทิ้งชี้หน้าเอาเรื่อง ปล่อยมันโวยไปดีกว่าถามอะไรบ้าๆ

   ประจวบเหมาะกับอาจารย์พ่อเดินเข้ามาพอดี มาถึงพ่อท่านไม่เช็คชื่อ เรียกให้ออกมาพรีเซนท์ ใครไม่มีงานถือว่าขาดเรียนและชวดคะแนนงานส่วนนี้ไป บางคนมาไม่ครบคู่ก็ถูกตัดสินเหมือนกัน โหดสมเป็นอาจารย์พ่อ

   การพรีเซนท์ผ่านไปได้อย่างราบรื่นเพราะไอ้แม็คมันแถเก่ง อาจารย์ถามอะไรมันตอบได้หมด บางอย่างไม่ได้ตกลงกันด้วยซ้ำมันยังพูดเป็นตุเป็นตะ เชื่อว่าอาจารย์พ่อรู้แหละ แต่มันดันแถแบบมีเหตุผลและไม่ขัดกับความเป็นจริงเลยรอดไป

   ช่วงที่รอคนอื่นพรีเซนท์จนกว่าจะหมดคาบ นั่งไปนั่งมารู้สึกร้อนดันเลือกมานั่งใต้แอร์ในห้องที่เครื่องประอากาศมันผีเข้าผีออก ลองยกมือจับหลังคอ ผมรากไทรงี้เปียกเพราะเหงื่อ ลำบากผมต้องขอยางมัดผมจากเพื่อนสาวเซอร์ในสาขามาจัดการมัดจุกน้อยที่ท้ายทอย

   พอเลิกคลาสผมแยกกับแม็คทันที ผมเป็นพวกเข้ากับคนง่าย ทำงานกับใคร อยู่กลุ่มไหนได้หมด จะให้อยู่โดดๆ คนเดียวก็ไม่มีปัญหา มีพักหลังนี่แหละที่ผมมักรวมกลุ่มกับพวกซันทุกครั้งที่มีโอกาส ไม่ได้มีอะไรแอบแฝงจริงๆ นะ

   ว่าแต่ ทำไมตลอดทางที่ผมเดินผ่านมีแต่คนมองแปลกๆ วะ ก้มดมรักแร้ตัวเอง ไม่เหม็นนี่หว่า เสื้อผ้าก็ซัก กางเกงไม่ใส่ซ้ำถ้าไม่จำเป็น ยกมือลูบหน้าไม่มีอะไรติด

   ขณะเดินกินลมชมวิว ล้วงกระเป๋ากางเกง ดึงชายเสื้อออก รูดไทเก็บใส่เป้ เพื่อไปยังโต๊ะประจำกลุ่มที่อยู่อาคารรวมพลางมองเวลาในมือถือ ซันมันยังไม่น่าจะเลิกเรียน คาบนี้ผมเรียนสามชั่วโมง ของซันมันสี่ชั่วโมง มิทผมไม่รู้ ลูกแมววันนี้ไม่ได้มาเพราะไม่มีเรียน

   ส่วนริว มันยืนหลบอยู่หลังต้นไม้นั่นไง ทำอะไรของมันลับๆ ล่อๆ ทีแรกว่าจะทักมันอยู่ แต่เห็นมันใจจดจ่อกับอะไรบางอย่าง ผมเลยนิ่งมองตามสายตามันไป เห็นพวกรุ่นพี่ปีสามสวมเสื้อช้อปสาขาเดียวกับริว วิศวะอุตสาหฯ อยู่รอรถอยู่อาคารฝั่งตรงข้าม รอยยิ้มผุดขึ้นมุมปาก มีเรื่องสนุกให้ทำฆ่าเวลาแล้ว

   “ริว ทำไรอยู่วะ” ผมตบบ่าเรียก ริวสะดุ้งหันขวับมามองตาโต

   “มึงมาตั้งแต่เมื่อไหร่!” ตกใจโอเวอร์มาก เจ้าสตอล์กเกอร์

   “เมื่อกี้ เห็นมึงเลยทัก ตกลงมึงทำอะไร”

   “ยืนรับลมเฉยๆ” เพื่อนริวตอบหน้าตาย อ่าฮะ เฉยมาก เกาะหลังต้นไม้จ้องเขม็งอย่างกับจะกินเขาไปทั้งตัว ใครเชื่อก็บ้าแล้ว!

   “ทำเลยืนรับลมมึงดีเนอะ มีถังขยะอยู่ข้างๆ กลิ่นกำลังได้ที่” พูดถึงก็โชยมาเลย จุดที่เราคุยอยู่ใต้ลมด้วยนะ ผมเลยขยับมาหน่อยให้ตัวเองยืนเหนือลม ไม่ไหวกับกลิ่นขยะ ผมไม่ได้จมูกบอดอย่างริว ครึ่งญี่ปุ่นที่เสือกตัวสูงอย่างกับเปรตยกมือเกาแก้มแก้เขิน

   “ริชอบรุ่นพี่เหรอวะ อุตสาหฯ ซะด้วย ได้ข่าวว่าโหด” เหล่ตามอง หนุ่มหน้ามนหันหนี

   “พี่เค้าเป็นลุงรหัสกู” มันตอบเสียงค่อย ผิดวิสัยริวที่มักจะไล่ต้อนคนอื่นคู่กับมิท

   “โอ้โห! เล่นถึงลุงรหัส” ผมหัวเราะตบบ่ามันป้าบๆ อย่างจงใจ ริวเลิกลั่กพยายามบอกให้ผมเงียบ สายไปแล้วเพื่อนเอ๋ย รุ่นพี่ทั้งหลายกำลังหันมามองทางพวกเรา หนึ่งในนั้นกำลังข้ามฟากมาหา ชัดเจนเลยว่าคนนี้แหละ เป้าหมายไอ้ริวมัน ร่างสูงโปร่งเตี้ยกว่าริวแต่ตัวหนากว่า ใบหน้าคมคายตามประสาคนไทย ตัดทรงชายทั่วไปดูจริงจังแฝงความโหดอยู่ลึกๆ ผมดำตาสีเดียวกันชวนมอง

   ริวรีบยกมือไหว้เผื่อแผ่ไปทางรุ่นพี่ที่อยู่อีกฟาก ผมยกมือไหว้ตาม ยังไงรุ่นน้องต้องเคารพรุ่นพี่แม้ว่าจะต่างสาขาก็ตาม ถามว่าผมไม่กลัวโดนยำตีนเหรอ แน่นอนว่าไม่ ส่วนใหญ่พวกรุ่นพี่ปีสามขึ้นไปไม่ค่อยมายุ่งเรื่องพวกนี้หรอก ต้องทำงาน เคลียร์อะไรหลายๆ อย่าง ที่สำคัญผมมีริวอยู่ มันคงไม่ปล่อยให้เพื่อนโดนรุมมั้ง

   “สวัสดีครับพี่ธัน” ริวทักด้วยรอยยิ้ม อย่างกับว่ามันมีหูหางงอกออกมา ส่ายเหมือนหมาเจอเจ้านาย ถือเป็นอีกมุมมองที่ผมไม่เคยเห็น

   “อืม มาทำไรแถวนี้ น้องถาปัตย์ใช่มั้ย ถ้ายังไม่อยากงานเข้าอย่าเฉียดใกล้คณะพี่ดีกว่า” คำเตือนด้วยความหวังดี ผมยิ้มรับ

   “เอ่อ... พี่ธัน นี่เพื่อนผมเองชื่อปีโป้ กลุ่มเดียวกันนั่นแหละ แฟนซันมัน คนนี้พี่ธันวาลุงรหัสกูเอง” ริวรีบแทรกเพราะกลัวจะเกิดปัญหา แถมบอกฐานะเสร็จสรรพ เห็นเจ้าตัวมองมาทางผมคล้ายจะขอโทษที่โมเมตำแหน่งแฟนให้ อย่าห่วงเลยเพื่อน มันคือความจริง กูไม่โทษมึงหรอก

   “ฮะ! แฟนเด็กผีอย่างไอ้ซันอ่ะนะ เฮ้ย น้อง! คิดถูกคิดผิดวะ ถ้าโดนมันบังคับบอกพี่ได้ เดี๋ยวพี่ช่วยเคลียร์ให้” พี่ธันผงะมองผมเหมือนไม่อยากเชื่อ ผมชักสงสัยแล้วสิ ซันมันก่อวีรกรรมอะไรในคณะมันบ้าง ขนาดรุ่นพี่ต่างสายยังแสดงอาการแบบนี้

   พี่ธันดูเหมือนจะดุ เอาเข้าจริงใจดีแฮะ มิน่าริวมันถึงชอบ ที่หายหัวบ่อยๆ มิทบอกว่าตามรุ่นพี่คือแบบนี้เองสินะ

   “ผมไม่ได้โดนบังคับ ขอบคุณที่เป็นห่วงครับ” ผมตอบจากใจ พี่เขาอือออส่งๆ แล้วหันไปจ้องเขม็งใส่ริว

   “เสาร์นี้อย่าลืมไปติวบ้านกู ถ้าสอบแล้วมึงยังเกรดร่วงทั้งที่เสนอหน้าขอให้กูติวให้ กูจะฆ่ามึงหมกส้วม!”

   “โห พี่ธัน... อย่าโหดกับหลานรหัสนักสิ” ริวรีบถลาไปเกาะแขนรุ่นพี่ทั้งที่สภาพไม่ให้ ผมหรี่ตาจะได้ไม่เห็นเด็กโข่งทำตัวน่าถีบ จะเบนหน้าไปทางอื่นก็เกรงใจ

   “ไม่ต้องมาอ้อน ต่อให้แลบลิ้นส่ายหางทำหน้าโง่เหมือนเจ้าหมาที่บ้าน กูก็ไม่ใจอ่อนให้มึงหรอก” คุณรุ่นพี่สะบัดแขนทิ้งไร้เยื่อใย ริวแสร้งทำท่าเจ็บปวดหนักหนา ไม่ทันจะคุยอะไรกันต่อ เพื่อนพี่ธันตะโกนเรียกให้ขึ้นรถของมหา’ลัย เพราะหากช้าคงจะต้องรอจนขาแข็งอีก รุ่นพี่ในดวงใจริวเลยต้องเลิกกระชากมิตรกับหลานรหัสเพื่อกระโดดขึ้นรถไปกับพวกเพื่อน

   หมาใหญ่อย่างริวเลยได้แต่มองตามรถตาละห้อย ผมหัวเราะในคอ

   “วิ่งไล่เห่ามั้ย”

   “ไม่เอา ไม่ใช่คนในเครื่องแบบ โธ่ โป้... อย่าแซวสิ”

   อือหือ กล้าพูด ทีเรื่องคนอื่นนี่รับเป็นลูกคู่กับไอ้มิท แซวชาวบ้านเขาซะ ผมส่ายหัวเอือมเริ่มออกเดินไปโต๊ะประจำ ริวเดินมาด้วยเพราะมีปลายทางเดียวกัน แหงล่ะ รุ่นพี่ไปแล้วมันเลยต้องกลับมาตายรัง

   “เมื่อกี้โทษทีที่อ้างว่าเป็นแฟนซัน พอดีคณะเรามีกฎ แฟนใครแฟนมันห้ามยุ่ง ห้ามแตะต้อง และถือว่าเป็นครอบครัวเดียวกันถ้าเป็นแฟนกับวิศวะ” ริวก้มหัวปลกๆ ผมโบกมือไม่ใส่ใจ ก็มันเรื่องจริง จะเดือดร้อนทำไม

   “ไม่เป็นไร เข้าใจว่าช่วยไม่ให้โดนเขม่น” ผมตอบตามที่คิด จู่ๆ ริวมันหยุดเดินดื้อๆ แล้วยังถอยหลังมองด้านหลังผมอีก พอผมหันไปเห็นมันทำสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก

   “มีไรวะ”

   “โป้ กูว่ามึงแกะผมดีกว่า” มันมองซ้ายมองขวา อย่างกับกลัวเจ้าหนี้มาทวงเงิน

   “อะไรมึง จะแซวว่ากูมัดแล้วเหมือนผู้หญิงรึไง” ออกจะติส มีแต่สาวชมว่าหล่อ เพื่อนในคณะหลายคนยังอิจฉา ทรงนี้ถ้าไม่หน้าตาดีจริงทำไม่ได้นะเนี่ยบอกเลย

   “เอาออกเถอะเชื่อกู” เห็นมันทำสีหน้าจริงจังซะเหลือเกิน ผมจำยอมแกะออก ยี่ให้มันเข้าทรงนิดหน่อย สีหน้าริวถึงดูดีขึ้น

   “ถามหน่อย มึงมัดผมตั้งแต่เมื่อไหร่”

   “ตอนเรียน” ผมตอบ มันทำหน้าแปลกๆ อีกแล้ว “อะไรของมึงเนี่ย กูมัดผมแปลกตรงไหน ปกติก็มัดออกบ่อย” ใช่ว่ามันไม่เคยเห็น ยังขอยางจากผมไปมัดจุกหางหมาให้มิทมันอยู่เลย

   “ไม่แปลกหรอก แต่หลังคอมึงอ่ะ”

   “หลังคอกู?” ผมลองยกมือลูบดู ไม่มีอะไรติด สุดท้ายเลยหยิบมือถือส่งให้มัน

   “ถ่ายให้กูดูหน่อยว่ามันเป็นอะไรกันแน่”

   ริวท่าทางลังเล มองรอบตัวพอเห็นว่าไม่ค่อยมีคนค่อยเดินมายืนด้านหลัง ผมแหวกผมออกให้มันถ่ายหลังคอผมให้ เริ่มรู้สึกตงิดแล้วล่ะว่ามันคืออะไร จังหวะที่ริวขยับเข้ามาถ่ายได้ยินเสียงกดไปสองแชะ มีร่างหนึ่งจ้ำพรวดเข้ามาแทรกระหว่างพวกเราจนปลิวไปคนละทิศ ดีที่ริวมันมือเหนียวจับมือถืออยู่ ไม่งั้นมีร่วงจอแตกกันบ้างแหละ

   ผมหันมามองคนก่อเหตุ ร่างคุ้นตายืนยิ้มมองผมสลับกับริว

   “จุ๊ๆ ไม่ดีนะทั้งสองคน โป้ซันมันจองแล้ว มึงไม่ควรเข้ามาเป็นมือที่สามนะริว” ไอ้มิทที่ไม่รู้มันโผล่หัวมาจากหลุมอากาศไหน ทำหน้าระรื่นกอดคอผมกับริว

   “กูยังไม่คิดสั้นขนาดนั้นเว้ย ยังไม่อยากตายคาตีนมัน” ริวบ่นอุบ ผมกับมิทหัวเราะกับท่าทางโอเวอร์อย่างกับซันมันเป็นฆาตกรโรคจิต

   สรุป ผมก็ยังไม่ได้ดูว่าตกลงหลังคอตัวเองมีอะไร มิทมันเล่นชวนคุยป่วนตลอดจนถึงโต๊ะ อาศัยช่วงมันสองคนแวะไปซื้อน้ำกิน ผมหยิบมือถือขึ้นมากดดูภาพถ่ายล่าสุด ภาพที่เห็นทำให้ผมรู้สึกเหมือนมีเงาดำบดบังไปครึ่งหน้า กดโทรศัพท์โทรหาไอ้ตัวต้นเหตุ รอไม่นานก็มีคนรับ

   /โทรมามี.../ มันยังไม่ทันพูดจบประโยค ผมแทรกมันซะก่อน

   “มึงอยู่ไหน” บอกได้เลยว่าเสียงตัวเองตอนนี้เอาเรื่องมาก ริวกับมิทกลับมาได้ยินพอดียังผงะ พากันไปนั่งเบียดกันที่เก้าอี้ไกลจากผมที่สุด

   /อยู่ห้อง เพิ่งเลิกเรียน/

   “กูกับมึงมีเรื่องต้องเคลียร์กัน ขับรถมาที่อาคารรวม”

   /หา??/ ปลายสายร้องแบบงงๆ ผมกดตัดสายแบบไม่รอให้มันพูดอะไรอีก แล้วนั่งรออย่างสงบ ริวกับมิทไม่มีใครกล้าพูดอะไรสักคำ จนกระทั่งรถคันเดียวกับที่มาส่งผมขับมาจอดอยู่ลานจอดรถอาคารรวม ผมโบกมือลาสองสหายเดินดุ่มๆ ไปที่รถ ลากไอ้ซันที่กำลังจะเดินมาหาผม ยัดเข้าไปในรถแล้วปิดประตูตามเข้าไปนั่งกันอยู่เบาะหลัง มีพื้นที่ให้ออกแรง

   ซันมันเอียงคอน้อยๆ ราวกับจะถามว่าเกิดอะไรขึ้น? ขอโทษที ถ้าเป็นเจ้าปอนด์ทำมันก็คงน่ารักดีอยู่ แต่นี่นอกจากไม่น่ารักแล้วยังน่าถีบให้กลิ้งอีกต่างหาก เสียสายตาชิบเป๋ง!!

   “รอยที่คอกูนี่มันอะไรฮะ!” ผมกระชากคอเสื้อมันเขย่าๆ เพราะอยู่ในรถกันสองคน แถมกระจกฟิลม์มองไม่เห็นด้านใน ผมเลยไม่ต้องเก็บอาการของตัวเองอีก รับรู้เลยว่าความร้อนกำลังไปรวมอยู่ที่หน้า ในเมื่อรอยที่หลังคอมันคือรอยคิสมาร์ค! ที่สำคัญผมยังเดินร่อนไปร่อนมาค่อนมหา’ลัย มิน่าคนถึงมองกันเต็มไปหมด ยังดีนะที่ผมยาวพอปิดได้บ้าง

   “หือ ไหนวะ?”

   ซันร้องในคออย่างสงสัย แล้วเอี้ยวตัวมาเปิดผมยาวที่ปิดหลังคอออกดู เพราะเมื่อเช้าเจ้าตัวไม่ทันได้ดูเหมือนกัน มัวแต่จูบแล้วรับเท้าก่อนเข้าเรียนก่อนแยกย้ายคณะใครคณะมัน เลยไม่รู้เรื่องสักนิด

   พอเห็นรอยแดงเด่นชัดบนผิวขาว ถึงกับร้องลั่น

   “เฮ้ย! อันนี้กูไม่รู้จริงๆ ตอนตื่นกูไม่เห็นด้วย ขอโทษๆ” ยิ้มแห้งให้อีกฝ่ายที่หักมือเตรียมซ้อมเต็มกำลัง

   “มึงไม่รู้เรื่องแล้วหมาที่ไหนทำวะ มีแค่มึงตัวเดียวนี้แหละ” ว่าแล้วก็ขอซัดสักที ข้อหาแอบทำรอยโดยไม่บอกจนชาวบ้านเค้าเห็นกันทั่ว หมัดหนักซัดเข้ามุมปากเบาะๆ หนึ่งที ซันไม่ขัดขืนหรือว่าตั้งตัวไม่ทันก็ไม่อาจทราบได้ แต่ที่แน่ๆ ซันได้แผลตรงมุมปากไปหนึ่งรอย อยากแถมอีกสักหมัด ถ้ามันไม่คว้าข้อมือผมก่อน

   “พอแล้วโป้ มึงจะต่อยให้กูฟันร่วงรึไงวะ สัตว์ เจ็บ มือหนักตีนหนักชิบ!”

   “ไง เจอความโหดกู เปลี่ยนใจเลิกเป็นแฟนกับกูมะ” ผมถามมันเล่นๆ แต่ถ้ามันตกลงจริงนี่เป็นผมนะที่จะพูดไม่ออก พอเห็นสีหน้าซัน โอเค ไม่ต้องห่วง เล่นจ้องเขม็งแบบจะกินเลือดกินเนื้อ

   “ไม่เลิกเว้ย! ต่อให้มึงซ้อมกู กูค่อยเอาคืนมึงบนเตียงก็ได้” พูดพลางยักคิ้วหลิ่วตา ยิ้มกรุ่มกริ่ม ขอซัดมันอีกสักทีได้มั้ย ผมใช้นิ้วจิ้มตรงมุมปากด้วยความหมั่นไส้ ตอนเป็นเพื่อนยังมีความเกรงใจกันอยู่บ้าน พอเป็นคู่ผัวตัวเมียสิ่งเหล่านั้นลอยหายไปในอากาศ ผมแสดงความโหดได้เต็มที่ตามความกวนบาทาของไอ้ซัน

   หลังคุยกันเสร็จ ซันมันปีนไปนั่งตำแหน่งคนขับ ผมปีนตามไปนั่งด้านข้าง ไหนๆ เราก็อยู่บนรถกันทั้งคู่ ผมเป็นคนโทรไปบอกริวกับมิทว่าขอกลับก่อน จะได้แวะตลาดเพื่อซื้อวัตถุดิบมาทำมื้อเย็น

   ผมคิดเมนูเอาไว้แล้ว เย็นนี้จะทำอะไรให้ซันมันกิน หึหึ

   ที่ตลาดผมมีหน้าที่ซื้อ ซันมีหน้าที่เป็นคนถือเดินตามต้อยๆ พอกลับบ้านโยนของทิ้งไว้บนโต๊ะเข้าครัวเริ่มทำอาหาร กับข้าววางเรียงบนโต๊ะพร้อมใบหน้าเหมือนตกนรกทั้งเป็นของซัน

   “มึงแม่งโหดร้าย… ดูกับข้าวที่มึงทำแต่ละอย่างดิ๊”

   “โหดร้ายตรงไหนวะ ก็แค่ต้มยำปลาช่อน ยำรวมมิตรกับหมูสามชั้นผัดพริกแกง” ผมแสยะยิ้มอย่างสะใจ มันปากแตกแบบนั้นเจอบรรดาอาหารรสจัดตายห่าแน่มึง แล้วมันดันชอบกินพวกอาหารรสจัดฝีมือผมซะด้วย

   “ซี๊ดด แสบโว้ยย!!” คนตรงหน้ากินไปร้องไปด้วยความแสบปาก กับข้าวแต่ละอย่างล่อมาซะแบบเผ็ดจี๊ดจัดเต็มพิกัดอีกต่างหาก งานนี้เลยกินไปสูดปากไป เมียใครวะโหดชิบ

   ขอหัวเราะเยาะมันสักหน่อย ก่อนตักข้าวกินบ้าง อืม รอบนี้ทำออกมาได้ไม่เลว เผ็ดถึงใจกำลังอร่อย ถ้าเป็นซันปกติคงซัดเรียบหมดทุกจานแน่ แต่คงไม่ใช่ซันตอนนี้ ดูๆ ไปก็น่าสงสารนะ เข้าใจความทรมานแบบ ปากอยากกินแต่กินแล้วแสบถึงทรวง ผมถอนหายใจ รวบช้อนทั้งที่ยังทานไม่หมดแล้วลุกขึ้น

   “ไปไหน”

   ลุกปุ๊บถามทันที อย่างกับเด็กน้อยกลัวแม่หาย

   “มึงแดกไปเหอะ”

   ผมตอบแล้วเข้าครัวตอกไข่ ซอยหอมแดงใส่เจียวแล้วเทลงกระทะ พอมันฟูกำลังดีค่อยตักใส่จานมาวางตรงหน้ามัน ไข่เจียวสีเหลืองหอมน่าทาน ซันมันมองหน้าผมตาปริบๆ ยอมรับว่ามันทำแบบนี้ก็น่ารักดี

   “เห็นแล้วอนาถลูกตา กินไข่เจียวไป จะได้ลดเผ็ดลงบ้าง”

   “โป้...” ชายถึกมองผมด้วยสายตาซาบซึ้ง ผมเค้นเสียงในคอ หน้าหล่อยิ้มจนตาหยี

   “ขอบคุณ กูนี่โชคดีจังได้มึงเป็นเมีย ทำอาหารก็เก่ง สู้คนก็เป็น เอาใจใส่ช่างดูแลด้วย”

   “เออๆ กูไม่บ้ายอหรอก แดกไป ของหวานเป็นเยลลี่นะ”

   “ไอ้เชี่ยโป้! กูเกลียดเยลลี่!!”

   หลุดขำพรืด เพิ่งจะชมผมอยู่แหม่บๆ ด่าใส่ซะละ ผมนั่งมองมันเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันด้วยความเคือง ในใจรู้สึกดีอย่างประหลาด อยู่แบบนี้ก็ไม่เลว ไม่จำเป็นต้องหวานแหววเหมือนคู่รักคู่ไหน แค่อยู่ด้วยกันแล้วมีความสุขสบายใจก็พอ แต่ผมยังไม่ลืมหรอกนะ สถานะพวกเรามันยังก่ำกึ่งกันระหว่างเพื่อนกับแฟน

   ต้องรอดูต่อไปในอนาคต ว่าจุดสิ้นสุดของเส้นทางนี้พวกเราจะเป็นสถานะไหนกันแน่ คงต้องรอเวลาแลเตรียมใจเอาไว้ ไม่ว่าจะจบแบบไหน ผมก็อยากให้อยู่ข้างกันเหมือนเดิม...
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31-10-2016 00:03:40 โดย Silver Fish »

ออฟไลน์ imfckwn

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 277
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
แลดูโหดทั้งคู่ 55555

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
ผัวเมียคู่นี้โหดมันฮาจริงๆ

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :hao6:   หลังจากเอาคืนกันไปมาบนโต๊ะทานข้าวจากนั้นก็ได้เวลาที่ซันจะได้เอาคืนบนเตียงบ้างสินะ
ดุเดือดร้อนแรงมากๆคู่นี้
พี่เฟย์อย่ายอมฮ่าๆๆๆ. ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ peaceminus1

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 71
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ชอบเรื่องนี้มากกก
ถึงกับสมัครสมาชิกมาคอมเม้นท์ให้กำลังใจนักเขียนคิดดูละกัน อิอิ สู้ๆนะคะ อยากอ่านเรื่องนี้จนจบ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด