เพราะความรัก...ทำให้มีกำลังใจสวัสดีเช้าวันจันทร์ที่ไม่น่าพิสมัย เด็กมัธยมปลายปีสุดท้ายกำลังเร่งฝีตีนฝ่าฝันดันกันเข้าโรงเรียน ในขณะที่เพลงชาติไทยกำลังดังขึ้น
“อีกแล้วนะพวกเธอ! คิดว่าอยู่ม.6 แล้วจะทำอะไรก็ได้ตามใจชอบงั้นเหรอ” ตามใจชอบอะไรวะ จารย์จะรู้บ้างไหมว่าเมื่อคืนพวกกูอ่านหนังสือกันถึงกี่โมง! อยากจะสวนกลับไปอย่างนั้น แต่ความเป็นจริง นายธัชพล ทำได้แค่ก้มหน้าฟังอาจารย์ที่มีผมอยู่บนหัวอยู่จึ๋งนึง
“ซวยทุกวันเลยโว้ย” ว่าเสร็จก็เหวี่ยงกระเป๋าไปวางไว้บนโต๊ะอย่างแรงจนไอ้ภีมสะดุ้งเฮือก ก่อนจะทำหน้าไม่สนใจเมื่อเห็นคนที่กำลังหน้ายุ่งอยู่ตอนนี้คือไอ้ธัชพลจอมเกรียนประจำห้อง
“มาสายอีกละ กูบอกแล้วว่าไม่ต้องอ่านหรอก สมัยนี้เขาพึ่งดวงกันแล้วเว้ย” ไอ้ไม้ เพื่อนสนิทอีกคนของธัชพลเอ่ยขึ้น แขนสีแทนมีมัดกล้ามแต่พอควรยกขึ้นพาดคอคนตัวเล็กกว่า ก่อนจะพ่นลมใส่หูขาวๆของธัชพล จนเจ้าของร่างเล็กขนลุกซู่ ธัชพลเบ้หน้าใส่ไอ้ไม้ เพื่อนสนิทที่ไม่ค่อยอยากสนิทด้วยเท่าไหร่ ปัดแขนตัวไอ้คนตัวดำทิ้ง แล้วหย่อนก้นนั่งลงบนเก้าอี้
“ดวงพ่อมึงสิ กูมันคนดวงไม่ดีเฟ้ย กูต้องอ่าน ต้องอ่านเท่านั้น กูจะได้ติดที่เดียวกับธาม อิอิ” ธัชพลพูดด้วยสีหน้าชื่นมื่น ต่างจากคนฟังที่เบ้ปากไปจนเกือบถึงใบหู
“เฮอะ ธามๆๆๆ เบื่อมึงจริงๆ” ว่าเสร็จคนผิวแทนก็สะบัดหน้าอย่างสะดีดสะดิ้งแล้วไสก้นลงนั่งที่ของตัวเอง
“เบื่อความสะดิ้งของมึงจริงๆ สู้ธามสุดหล่อของกูก็ไม่ได้ ฮึ้ยย เขินเว้ย” ใบหน้าขาวที่เต็มไปด้วยกระของธัชพลขึ้นสี ร่างเล็กบิดตัวไปมา ก่อนจะตบหน้าตัวเองเพื่อเรียกสติ ที่ตอนนี้ร่องลอยไปหาบุคคลที่ชื่อว่าธามเสียแล้ว
เวลาพักกลางวันที่เหมือนทัวร์นรกของเหล่าเด็กมัธยมปลายได้เริ่มขึ้นแล้ว ธัชพลเบียดตัวเข้าต่อแถวร้านข้าวแกงของป้าน้อมเจ้าประจำ ที่มันซื้อกินตั้งแต่ ม.1 ร้านป้าน้อมยังคนเยอะเหมือนทุกวัน แต่ป้าน้อมทำอาหารเร็ว เอาจริงๆก็แค่ตักแกงใส่ข้าวสวยอะเนอะ จะทำช้าเพื่ออะไร ธัชพลส่ายหน้าให้กับความคิดไร้สาระของตัวเอง ก่อนจะยื่นมือจับเอวคนข้างหน้าไว้ เมื่อมีเด็กผู้หญิงผมยาวเดินชนเสียอย่างแรง
“ขอโทษค่ะพี่” ไอ้คนหน้าขาวพยักหน้าให้พร้อมกับยิ้มน้อยๆอย่างไม่ถือสา
ป้าป
“เหี้ยไรของมึงเนี่ยไอ้ไม้ กูเจ็บนะ!” ธัชพลร้องลั่น เมื่อจู่ๆไอ้คนที่ยืนต่อแถวอยู่ข้างหน้าก็โบกมือใส่หัวมันอย่างแรง
“ตบให้มึงหายโง่ไงไอ้ควายเนม มึงไม่รู้รึไงว่าเขาจงใจชนมึงน่ะห๊ะ”
“หือ อะไร ใครตั้งใจ” ได้ฟังดังนั้นไอ้ไม้ถึงกับยกมือกุมขมับมันทันที
“ไอ้ควาย ก็น้องผู้หญิงคนที่ชนมึงเมื่อกี้ไง”
“อ่อออ ห่ะ! เขาตั้งใจชนกูหรอ” ธัชพลถามขึ้นอย่างไม่แน่ใจ
“เออออออออออ” ไอ้ไม้ลากเสียงจนน่าตบ ก่อนจะหันหน้าไปต่อคิวรอซื้อข้าวจากป้าน้อมของมันต่อ ปล่อยให้ไอ้ธัชพลหรือไอ้เนมคนหน้ามึนยืนครุ่นคิดต่อไป
แล้วเขาจะตั้งใจชนกูทำไมวะ มันได้แต่คิด แล้วยกมือเกาหัวด้วยความสงสัย
“เลิกเรียนแล้ว วู้วววว” เสียงโหวกเหวกโวยวายที่ดังออกมาอย่างน่ารำคาญนั้น จะใช่ของใครได้ ถ้าไม่ใช่ของไอ้ไม้คนตัวดำ
“มึงจำเป็นต้องแสดงความดีใจออกนอกหน้าขนาดนี้ไหมอ่ะ สงสัย”
“มึงไม่เข้าใจกูหรอก ไอ้เนมเด็กเกรียน เอ้ยเด็กเรียน” เด็กเรียนที่ว่า ยกนิ้วกลางส่งกลับไป ก่อนจะตวัดกระเป๋าสะพายหลังขึ้นบ่า สอดแขนใส่ทั้งสองข้าง แล้วดึงสายสะพายข้างหน้าลงมา ทำให้ตัวเป๋าด้านหลังถูกดันขึ้นจนติดต้นคอ ไอ้ไม้มองภาพแล้วได้แต่สายหัวไปมาในความเนิร์ดของมัน ถ้าไม่ติดว่ามันเกรียนมากนะ ไอ้ไม้คงไม่กล้าที่จะเอ่ยคำหยาบใส่มันเชียวล่ะ
เดินออกมานอกห้องเรียนได้ไม่เท่าไหร่ ความซวยก็มาเยือนไอ้เตี้ยนามว่าเนมทันที
ธัชพลยืนมองลูกบาสที่เด้งจากหัวตัวเองมากองอยู่บนพื้น ก่อนจะสบถคำหยาบเบาๆให้กับความโชคร้าย แล้วเตะโด่งไอ้ลูกสีน้ำตาลส้มจนมันลอยออกไป แล้วก็
ฟิ้ววว
ปึ่ก
ลงถึงขยะสีเขียวอย่างสวยงาม
“หึหึ” ในขณะที่ไอ้เนมกำลังชื่นชมผลงานของตัวเองอยู่นั้น เสียงหล่อๆก็ดังขึ้นข้างหู ใบหน้าขึ้นสีของธัชพลแสดงออกเลยว่ารู้จักเจ้าของเสียงนั้นเป็นอย่างดี
“ธ…ธาม” ลมจะจับไอ้เนมก็ตอนนี้แหละ โอ๊ย ไม่เคยใกล้คนหล่อขนาดนี้เลยเฟ้ย
………………………
“เอ้ามึง แล้วไงต่อวะ เล่าสิ” ไอ้ไม้ตัวดำเร่งยิกๆ เมื่อเพื่อนตัวดีหยุดเล่าประสบการณ์ฟินกรี๊ดแตกของมัน แล้วนั่งเขินบิดตัวไปมา
“มึงนี่ ใจเย็นสิวะ กูขอฟินก่อน โอ๊ย เออๆเล่าแล้ว!” รัชพลเอ่ยอย่างหงุดหงิด หลังจากโดนไอ้ไม้เอากล่องดินสอฟาดหัวไปโป๊กนึง “คืองี้เว่ย…”
หลังจากทำใจกล้าได้พักหนึ่ง ก็นะอยู่ใกล้คนหล่อขนาดนี้ ขอตั้งสติแปป ไม่งั้นได้กรี๊ดแตกใส่แน่ๆ ธัชพลคิดในใจก่อนจะหันตัวอย่างเหนียมอายกลับไปหาพ่อรูปหล่อของมัน
หืม แค่กลิ่นเหงื่อยังรู้เลยว่าหล่ออ่ะ กรี๊ดดด
หันไปเห็นคนหล่อเพียงเสี้ยวหน้าก็ทำไอ้เนมขาอ่อน คนตัวเล็กที่ตอนนี้หัวใจเต้นระรัวอย่างกับกลองชุด พยายามทำใจกล้า ดึงสติที่หลุดลอยไปกับใบหน้าใสที่มีเม็ดเหงื่อผุดขึ้นน้อยๆ
โอ๊ย กูอยากเป็นเหงื่อให้เขาจังโว้ย
“ไงเนม ช่วงสอบนี่หายหน้าเลยนะ” ธามหรือธวมินทร์ เอ่ยทักคนตัวเล็กที่แรงไม่เล็ก ถึงกับขนาดเตะลูกบาสเขาไปได้ไกลขนาดนั้น แรงคงมีเยอะพอสมควรเลยล่ะ
“กะ…ก็เรายังมะ…ไม่ติดที่ไหนนี่” ธัชพลพูดตะกุกตะกุก เมื่อเหลือบมองใบหน้าคนหล่อของมัน
“แล้วจะเอาที่ไหนเหรอ” ไม่เพียงพูด คนหน้าหล่อของเนมก็โน้มตัวลงมาให้เท่ากับคนตัวเล็กที่ยืนเป็นคู่สนทนา
“มะ…ไม่รู้” ไอ้เนมก้าวถอยหลังน้อยๆ แต่ธวมินทร์ก็ก้าวหน้าตาม ทำให้ระยะห่างของทั้งสองคนที่ความสูงต่างกัน อยู่ไกลกันไม่ถึงคืบ
“หืม…ไม่รู้หรอ” ว่าเสร็จก็ยื่นหน้าลงมาอีก ไอ้เน้มได้แต่หลับตาปี๋ เพราะมันไม่สามารถทนดาเมจของผู้ชายคนนี้ได้ ก่อนจะรีบรัวฝีปากออกไปเพื่อหยุดสถานการณ์นี้
“ที่ xxx !”
“นั่นก็ที่เดียวกับเราไม่ใช่เหรอ” น้ำเสียงหยอกล้อดังขึ้น พร้อมกับร่างสูงที่ถอยตัวออกตัว ทำให้ไอ้เนมค่อยๆลืมตา ก่อนจะผ่อนลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก
“กะ..ก็เราอยากเรียนที่นั่นเหมือนกันนี่” เอาวะ มันคงไม่รู้หรอกมั้งว่าเราเรียนตามมันอะ ไอ้เนมคิดในใจ
ธวมินทร์อมยิ้มเล็กๆ ก่อนจะพยักหน้าให้
“งั้นก็ขอให้ติดที่เดียวกับเรานะ ไว้เจอกัน ตัวเล็ก” ว่าแล้วก็วิ่งไปหยิบลูกบาสลูกใหม่ก่อนจะไสเท้ากลับเข้าสนามที่เจ้าตัวเดินออกมา ปล่อยให้ไอ้เนมยืนดีดดิ้นอยู่คนเดียว
…………………….
“มึงงงง มันเรียกกูว่าตัวเล็กอะ ฮือออ กูฟินอะ ทำไงดี อยากกรี๊ดมาก กะ..อุ๊บ” ไอ้ไม้รีบตะครุบปากธัชพลทันทีเมื่อเห็นมันเตรียมอ้าปากจะกรีดร้องตุ๊ดแต๋วอะไรของมันออกมา คนแมนอย่างไอ้ไม้รับไม่ได้ยิ่งนัก
“อัดไอ๊อ่อยยย” (สัสไม้ปล่อยยย)
“สัญญากับกูก่อน ว่าถ้ากูปล่อยมึงจะไม่กรี๊ด”
ไอ้เนมพนักหน้าหงึกๆ มือสีแทนจึงผละออกจากปากแดง แล้วไอ้เนมก็ทำตามอย่างที่สัญญา คือมันไม่กรีดร้องออกมาเสียงดัง แต่ปิดปากฉึบ แล้วดีดดิ้นแบบไร้เสียงของมันต่อ ไอ้ไม้ทำหน้าเอือมระอาใส่เพื่อนสนิทของมัน ก่อนจะเลิกสนใจแล้วหันไปสนใจอาจารย์ที่เพิ่งเดินเข้ามาในห้องแทน
………………………
ช่วงนี้ธัชพลเครียดกับการสอบแกทแพทที่จะมาถึงมาก ถึงแม้จะทำแกทเชื่อมโยงไปเรื่องละสิบกว่าครั้งแล้วก็ตาม แต่มันก็ยังไม่มั่นใจในตัวเอง จึงฝึกฝนทำทุกวัน วันละหลายรอบ อีกทั้งยังท่องศัพท์ภาษาอังกฤษทุกที่ทุกเวลา ไม่ว่าจะเข้าห้องน้ำ ขึ้นรถเมล์ แม้กระทั่งพาหมาไปเดินเล่น มันยังพกสมุดเล็กๆประจำตัวไปทุกที่
ไอ้ไม้ถึงขนาดกุมขมับเมื่อเวลาชวนไอ้เพื่อนตัวเล็กเที่ยว กลับได้คำตอบกลับมาว่า
‘ไม่! กูจะอ่านหนังสือ จะได้ติดที่เดียวกับที่รักกู’
ดังนั้นไอ้ไม้จึงเลิกสนใจเพื่อนเตี้ยๆ แล้วมาเดินชิลๆดูหนังคนเดียวที่เซนทรัลเวิลด์ ขณะที่กำลังนั่งจกป๊อปคอร์นกินรอเวลาเข้าโรงภาพยนตร์นั้น สายตาไม่รักดีก็ดันเหลือบไปเห็นขวัญใจไอ้เนม เดินควงคู่มากับหญิงสาวหน้าตาสละสวยที่ไหนก็ไม่รู้ คราวนี้ไอ้คนตัวดำรีบหยิบไอโฟนรุ่นล่าสุดขึ้นมาถ่ายภาพนั้น แล้วส่งไปในไลน์เพื่อนสุดที่รักทันที
หึหึ
คราวนี้มึงไม่ได้อ่านหนังสือแน่ ไอ้เพื่อนเวร
ความชั่วร้ายของไอ้โม้ ได้ส่งตรงมาที่โทรศัพท์มือถือของธัชพล มือเล็กชั่งใจเพียงชั่วครู่ ก่อนจะผละจากหนังสือมาจับมือถือของตน สไลด์นิ้วปลดล็อคหน้าจอ แล้วกดเข้าแอพพลิเคชั่น line ที่เล่นกันทั่วบ้านทั่วเมือง
ธัชพลจ้องภาพที่ไอ้ไม้ส่งมานิ่ง ก่อนจะรัวนิ้วพิมพ์ตอบกลับไอ้เพื่อนนิสัยเสีย
‘เออ ไอ้สัด รอกูอยู่นั่น เดี๋ยวกูไป’
แล้วก็เป็นอีกครั้งที่ธัชพลพ่ายแพ้ให้กับไอ้ไม้เพื่อนตัวดำ
………………
ใช้เวลาเพียงไม่นาน ร่างแน่งน้อยที่ชุ่มไปด้วยเหงื่อก็มาหยุดอยู่หน้า Box office ที่ไอ้ไม้ได้แชร์โลเคชั่นไว้ ดวงตากลมโตกวาดมองไปรอบบริเวณ แต่ก็ยังไม่เห็นวี่แววไอ้เพื่อนชั่วสักที มันจึงนั่งลงอย่างเหนื่อยหอบ โบกมือพัดให้ตัวเองไปมา แต่มันก็ไม่ได้ทำให้เหงื่อที่ผุดขึ้นสลายไปแม้แต่น้อย
“อ้าวเนม มาดูหนังหรอ” ธัชพลหยุดมือที่กำลังโบกสะบัด หันไปหาเจ้าของเสียงช้าๆพร้อมกับยิ้มแหย
“อะ…อ้าวธาม” ไอ้เนมทำได้แค่ยกมือทักทายแบบเสร่อๆ พลางเหลือบมองผู้หญิงข้างกายหนุ่มหน้ามนของมัน แล้วพยักหัวหงึกๆ ทักทายอีกฝ่ายเหมือนกัน
“อื้มเราเอง แล้วเนมมาดูหนังหรอ” ไอ้หนุ่มหน้ามนคนหน้าตาดีที่ไม่รู้ว่าคู่สนทนาของมันกำลังก้มเก็บเศษหัวใจที่แตกกระจายอยู่เอ่ยถามขึ้น
“อะ…อื้ม ใช่” ตอบเสร็จก็เสมองไปทางอื่น เพราะไม่อยากเห็นภาพบาดตาบาดใจ คนสวยที่ยืนอยู่ข้างเจ้าของหัวใจของไอ้เนม เขยิบตัวชิดดันหน้าตาดูมๆที่ไอ้เนมคนแมนนั้นไม่มี เบียดเสียดใส่แขนของธวมินทร์
ไอ้เนมอาจจะไม่เห็น แต่ว่าธามของมันพยายามที่จะดันร่างสะอวดสะองออกไปเต็มที่ แต่สาวเจ้าก็ยังขืนแรงไว้จับยืดแขนไอ้หนุ่มหน้าหล่อไว้มั่น
“แล้วมากับใครหรอ” ธวมินทร์ยังไม่หยุดที่จะรัวคำถามใส่ร่างเล็ก ธัชพลได้ส่งยิ้มฝืนไปให้ พลางเอ่ยบอก
“มาคนเดียวน่ะ แต่นัดไอ้ไม้ไว้”
“หืม..เมื่อกี้เราเพิ่งสวนกับไม้ ไม้บอกว่าจะกลับบ้านแล้วนะ”
“ห่ะ!” ไอ้เนมเบิกตากว้าง อ้าปากค้างจนธามของมันอดที่จะส่งเสียงหัวเราะเบาๆไม่ได้ เมื่อมันรู้ตัวว่ามันกำลังเป็นที่น่าขันของคนรูปหล่อ มันก็หุบปากฉับ ล้วงมือเข้าในกระเป๋ากางเกงแล้วหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดโทรออกทันที
ดีนะที่ใช้รายเดือน ไม่งั้นคงต้องตกอยู่ในสถานการณ์แบบนิยายรักสีชมพูที่ ‘โอ๊ะ ตังในมือถือหมด ขอยืมโทรออกหน่อย’ อะไรประมาณนี้ คงเป็นพล็อตเรื่องที่น่าเบื่อน่าดู
ตื้ดๆๆ
หมายเลขที่ท่านเรียก ไม่สามารถ..
ตื้ดๆๆ
หมายเลขที่ท่านเรียก ไม่สามารถ..
ตื้ดๆๆ
หมายเลขที่ท่านเรียก ไม่สามารถ..
สามรอบแล้ว…เป็นคำตอบที่ชัดเจน คือไอ้ไม้เพื่อนเลวหลอกมันมาที่นี่ เพื่อที่ให้ไอ้เนมสติแตก ไม่ต้องอ่านหนังสือ
ไอ้เพื่อนชั่วววววว!!!!!
……………….
ไม่เคยนั่งรถคันไหนแล้วอึดอัดเท่านี้มาก่อน ขนาดนั่งวินซ้อนสามกับไอ้ไม้ยังไม่อึดอัดเท่านี้เลย
ดวงตากลมโตเหลือบมองคนขับสุดหล่อที่ตอนนี้หน้าบึ้งตึง ไม่มีรอยยิ้มสว่างไสวอย่างที่ไอ้เนมชอบ ก่อนจะขยับลูกตามองคู่กรณีของเจ้าหัวใจไอ้เนม ใบหน้าหญิงสาวที่กำลังเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันใส่มัน ก็ได้แต่สะดุ้ง แล้วรีบก้มหน้าลงฉับพลัน
ใครอยากจะสู้กับคุณเธอวะ ไม่เอาอะ ยกนี้ไอ้เนมยอม ไอ้เนมไม่สู้คนโว้ย (ยกเว้นไอ้ไม้ไว้คน)
“มุกจะให้ผมไปส่งที่ไหน”
“ธามไปส่งเพื่อนธามก่อนสิคะ แล้วเราไปหาอะไรทานด้วยกันต่อนะ”
“อย่าดีกว่า ผมกะว่าจะไปกินข้าวเย็นที่บ้านเนมเลย”
ห่ะ! บ้านเนม? วอท?
บ้านเนม is a บ้านกู
บ้านกู ห้ะ! บ้านกู!!
“เอ่อธะ..”
“ไม่ต้องพูดอะไรเนม เดี๋ยวเราไปส่งมุกก่อน แล้วไปกินข้าวบ้านเนมกันนะ บอกแม่ให้เตรียมข้าวไว้ให้ธามด้วยนะที่รัก”
ห่ะ!!!!!!
เดี๋ยวๆๆ!!!
ที่รัก
ที่รัก
ที่รัก
อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกก ที่ร้ากกกกกกกกกก T///T
ถึงแม้ว่าไอ้เนมมันจะงุนงง ไม่เข้าใจการกระทำพ่อรูปหล่อของมัน แต่มันก็ปัดความสงสัยนั้นทิ้งไป เหลือไว้แต่ความฟินของมัน แล้วหลงอยู่ในความเพ้อฝันของมันต่อไป
ธวมินทร์มองดูคนตัวเล็กที่กำลังบิดตัว กระทืบเท้าเล็กน้อยอย่างขบขัน
‘อ่อนจังเลยนะเนม แค่นี้ก็ไปไม่เป็นซะละ’
หลังจากส่งแม่นางมุก หรือไข่มุกชื่อเต็มๆของเธอเสร็จ ไอ้เนมก็ถูกลากตัวให้ไปนั่งข้างพ่อยอดขมองอิ่มของมัน ธวมินทร์เหลือบมองคนตัวเล็กที่นั่งจิกมือ กัดปากตัวเอง แล้วส่งเสียงหัวเราะในลำคอ
เมื่อไอ้เนมได้ยินเสียงหัวเราะคนหล่อของมัน ก็ได้แต่หันไปยิ้มแหยๆ พลางเกาหัวตัวเองอย่างนึกเก้อเขิน
“เรามีอะไรน่าขำหรอ”
“หึหึ ก็ป่าวหรอก”
“แล้วขำไมอะ” ไอ้ตัวเล็กเริ่มยู่หน้า เมื่อธวมินทร์ยังไม่หยุดหัวเราะ
“ก็ป่าว…เห็นว่าน่ารักดี”
นะ…น่ารัก
.////.
“น…น่ารักน่าเริ้กอะไรล่ะ ธามก็พูดไปเรื่อย” ถึงปากจะพูดออกไปอย่างนั้น แต่ไม่อยากจะบอกว่าหัวใจไอ้เนม ที่แตกหักตอนอยู่หน้าบ็อกซ์ออฟฟิซ ตอนนี้มันกลับมาประกอบตัวเข้าหากันติดปีก เตรียมพร้อมที่จะโบยบินแล้ว
“เอ้า ก็น่ารักจริงๆ แล้ว…” ธวมินทร์ลากเสียงยาว ในขณะที่ไอ้เนมนั่งชิดเบาะรถจนแทบจะสิง สองมือเล็กเกี่ยวกวัดไปมาด้วยความเขิน
“ละ..แล้วอะไรหรอ?” ถามเสร็จธัชพลก็กัดปาก หลับตาแน่น ลำตัวเกร็งไปหมดระหว่างที่รอคำตอบจากชายหนุ่ม ธวมินทร์อดขำเบาๆกับภาพที่เห็นไม่ได้
“แล้ว…มีแฟนรึยัง” โอเค หัวใจไอ้เนมได้กระพือปิกบินออกไปแล้ว แต่ไปได้ไม่ไกลหรอกนะ มันลอยไปหาคนข้างๆต่างหาก ว่าแล้วไอ้เนมคนนี้อยากจะกลับโดดลงจากรถนัก ความเขินนี้ขอขายต่อได้ไหม เหมือนเป็นคนตลกนะ แต่ตอนนี้เขินเฟ้ย ไม่ได้ตลก
“ยังๆๆ เรายังไม่มี โสดม๊ากมาก โสดแบบ โสดสุดๆเลยล่ะ” ไอ้คนที่บอกปาวๆว่าเขินอย่างนู้นอย่างนี้ รีบเอ่ยออกมาอย่างเร็ว ทำให้เจ้าของใบหน้าหล่อหัวเราะออกมาเสียงดัง
“ฮ่าๆๆ โอเค เราเชื่อแล้วว่าโสดจริง”
“ใช่ โสดจริงๆ แล้วก็เอ่อ…จีบได้นะ” ไอ้เนมรีบยกมือขึ้นมาปิดปาก เมื่อรู้ตัวว่าเผลอพูดความในใจออกไป มันรีบหันไปมองคนที่กำลังฮัมเพลงอยู่ แต่ก็ต้องรีบหันกลับเมื่อปากที่กำลังขยับร้องเพลงอยู่นั้น ฉีกยิ้มกว้างให้มัน แล้วก็เอ่ยคำที่ทำเอาไอ้เนมอยากจะรีบกลับไปอ่านหนังสือเดี๋ยวนี้เลย
“ก็ถ้าสอบติดที่เดียวกันเมื่อไหร่ จะไปจีบถึงคณะเลย”
โอเค! แกทแพท 9สามัญ โอเน็ต ไอ้เนมคนนี้พร้อมไฝว้กับพวกแกแล้วเฟ้ยยย
end
อ่านเอาสนุกๆเนอะ เป็นกำลังใจให้เด็กม.6 ทุกคนค่า