ตอนที่17
“งืมมมม”ผมรู้สึกตัวขึ้นมาเพราะแสงแดดที่เล็ดลอดผ่านผ้าม่านเข้ามาในห้อง รู้สึกหนักหัวจนลุกขึ้นนั่งแทบไม่ไหว เหมือนมีน้ำหนักถ่วงอยู่ตรงหัวทำให้เอียงตกลงมาฟุบกับหมอนอีกครั้ง กว่าผมจะเอาชนะแรงโน้มถ่วงของโลกแล้วขยับลงจากนานได้ก็เล่นเอาเกือบแย่
กวาดสายตามองไปรอบๆก็พบว่าที่นี่ไม่ใช่ทั้งทาวน์โฮมหรือหอของเพื่อนสนิท
“เรากลับมาบ้านได้ยังไงหว่า...”จำได้ว่าเมื่อวานไปกินเหล้ากับเพื่อนไม่ใช่เหรอ? หื๊ม
แล้วความทรงจำต่างๆก็ย้อนเข้ามาในสมองเป็นฉากๆจนครบถ้วนแม้กระทั่งตอนที่ยืนคุยโทรศัพท์กับแม่ที่ระเบียงร้าน!!
“ครอส!!”ผมรีบร้องหาไอ้คนที่น่าจะซวยที่สุดในเหตุการณ์นี้ทันที แต่ทว่าในห้องนอนของผมก็มีแค่ผมกับตุ๊กตาหมีเน่าตรงหัวเตียงเท่านั้น
หรือจะโดนไล่กลับไปแล้ว?
ในใจนึกภาวนาไม่ให้แม่ตัวเองใจร้ายถึงขึ้นไล่คนที่มาส่งลูกชายตัวเองกลับบ้านดึกดื่นหรอกนะ แต่ตอนนี้ผมยังใส่เสื้อผ้าชุดเดิมอยู่เลย ถ้าครอสค้างที่นี่เมื่อคืนมันน่าจะถือโอกาสเนียนๆเปลี่ยนเสื้อให้ผมไปแล้วสิ
ผมชั่งใจ นั่งรวบรวมแรงก่อนเดินออกจากห้องลงไปยังชั้นล่าง
“พี่เพลง?”ผมเอ่ยทักพี่สาวคนสวยที่เปิดประตูห้องตรงข้ามออกมาพอดี เธออยู่ในชุดนักศึกษาแต่คนละมหาลัยกับผม”จะเข้ามอเหรอ?”
“อืม มีพรีเซ้นส์งานนิดหน่อย ว่าแต่เราน่ะสนใจเรื่องของตัวเองแทนดีไหม รีบล้างหน้างแปรงฟันแล้วลงไปข้างล่างนู่น ผู้ชายที่ตามจีบเราแล้วเราก็อ่อยเขาอยู่กำลังจะแย่แล้วนะ”
ฉ่า~~~~ เสียงหน้าผมไหม้เพราะร้อนจัด ตอนแรกผมจะวิ่งลงไปล้างหน้าแต่ถูกมือของพี่สาวคว้าคอเสื้อเอาไว้ก่อน
“จะบ้าเหรอ!? บอกว่าให้ล้างหน้าล้างตาก่อนไง! จะลงไปหาผู้ชายทั้งขี้ตาแบบนี้หรือไงฮะ! ไม่ได้เรื่องเลยจริงๆน้องฉัน มานี่เลย ไหนๆก็ไหนๆอาบน้ำแต่งตัวใหม่เลยละกัน!”
“ตะ แต่พี่บอกว่ามันกำลังแย่...”
“โอ๊ยยยย ต้องสวยไว้ก่อนค่ะคุณน้อง แค่นี้สุดหล่อของเราไม่ตายหรอก...แค่สาหัส...นิดหน่อย ล่ะมั้ง”โฮ่ยยยยย ทำไมท้ายประโยคมันเสียงอ่อยจังฟะ! แล้วอย่างงี้ผมจะสบายใจหรือกังวลหนักกว่าเดิมล่ะเนี่ย!?
ผมยอมอาบน้ำแต่งตัวตามคำสั่งของพี่สาวซึ่งพอผมแต่งตัวเสร็จก็ไม่พบแม้แต่เงา
“สงสัยไปมหาลัยแล้ว”พึมพำกับตัวเองเบาๆก่อนก้าวขาลงบันไดไปอย่างหวั่นๆ ได้ยินเสียงทีวีดังแว่วมาจากห้องนั่นเล่น เป็นรายการเล่าข่าวเสาร์อาทิตย์ที่แม่ชอบดูเลยตัดสินใจเดินเข้าไปหา
“อ่า...”พอผมเลื่อนประตูเข้าไปแม่ก็เงยหน้าขึ้นมามอง มุมปากมีรอยยิ้มอ่ายยากประดับอยู่”แม่อยู่คนเดียวเหรอ?”
“พ่อเข้าโรงงานแต่เช้าส่วนเพลงพึ่งออกไปเมื่อกี้”แม่ตอบพลางตบที่นั่งว่างข้างตัวแทนคำสั่งให้ผมไปนั่ง
รู้ว่าลูกชายถามหาอะไรแต่ไม่ยอมบอก! ร้ายกาจ!
“เป็นไง ทำข้อสอบได้ไหม”โคตรนอกเรื่องเลย แถมบรรยากาศกดดันจนไม่กล้าทักท้วงอีก เห็นแม่ยิ้มๆตลอดอย่างงี้คือฟ้าใสก่อนพายุเข้า
“พอได้ครับ แต่ตัดเกรดหลายคณะเลยเครียดนิดหน่อย แฮ่ๆ”
“คงเครียดมากสินะถึงขนาดหนีไปเที่ยวไม่บอกไม่กล่าว ทำไมล่ะคะ? กลัวแม่ไม่อนุญาตหรือยุ่งๆจนลืมคะน้องเพลิน”แม่มักจะเรียกผมแบบนี้เพราะติดมาตั้งแต่ผมยังเด็กส่วนผมก็ไม่ได้ท้วงอะไรเพราะเห็นว่าน่ารัก แต่พอประดับด้วยน้ำเสียงเย็นๆแบบนี้เล่นเอาเสียวสันหลังวูบวาบ
“ลืมครับ”ผมตอบตามความจริง ส่วนสายตาก็สอดส่องหาคนที่อยากพบ
“มองหาอะไรอยู่เหรอคะน้องเพลิน”
“อ๊ะ...เอ่อคือ...แล้ว แล้วครอสล่ะครับ”ผมถามอย่างกล้าๆกลัวๆ
“อ๋อ สุดหล่อที่มาส่งลูกน่ะเหรอ เขากลับไปแล้วล่ะจ่ะ”
“เมื่อเช้า?”ผมเลิกคิ้วถาม
“เมื่อคืน”แม่ก็ตอบกลับมาพร้อมรอยยิ้มตามแบบฉบับผู้ดีก่อนกล่าวสมทบว่า
”พออุ้มเราขึ้นไปข้างบนเสร็จก็ขอโทษแม่ที่พาลูกเขาหนีเที่ยวซะเป็นทางการเชียว สงสัยที่บ้านสอนมาดี บุคลิคดีมากเลยอันนี้แม่แอบชม แต่ตอนนั้นต้องเก๊กหน้าตึงอยู่ไง ลำบ๊าก ลำบาก เนี่ย เมื่อเช้าก็เล่าให้เพลงฟัง เสียดายไม่มีรูปเลยอดอวดเลย ดูซิ น้องชายเขามาได้ขนาดนี้แต่คนพี่มัวทำอะไรอยู่ไม่รู้ ฮึ”แม่ส่งเสียงขึ้นจมูก
“อ้าว...”
แม้จะยังรักษามาดคุณหญิงเอาไว้ตามเดิมแต่เนื้อหากับน้ำเสียงที่พูดนี่ไปคนละทางเลย
ผมกะพริบตาถี่มองแม่ตัวเองอย่างฉงน
“งงอะไรคะน้องเพลิน รู้ไหมว่าแม่รอเราตื่นนานมาก ไหนเล่ามาซิว่าเขาเป็นใคร เจอกันได้ยังไง เนี่ย เมื่อคืนแม่ก็ชวนให้ค้างด้วยกันนะ ยอมถึงขั้นให้นอนห้องน้องเพลินด้วยแต่เขาก็ปฏิเสธท่าเดียว ขอชมอีกรอบนะคะ แม่ดูออกว่าเขาตื่นเต้นแค่ไหนตอนคุยกับแม่ แต่ยังรักษามาดไว้แบบไม่มีหลุดเลย ผู้ชายอะไร ทำไมลูกชายบ้านนี้ไม่เป็นอย่างงั้นบ้างก็ไม่รู้”
“แฮ่ๆ...”
สรุปว่าผมโดนพี่เพลงแกล้งสินะ นอกจากจะไม่เจอไอ้ครอสกับตัวแล้วพี่สาวผมยังพูดซะเหมือนมันกำลังจะโดนแม่เชือดทิ้ง...
ผมเล่าเรื่องทั้งหมดให้แม่ฟังโดยเว้นเรื่องจูบกับพี่นารายณ์ไว้
แม่รู้เรื่องผมแอบชอบพี่นารายณ์ดี พวกเราเป็นแม่ลูกที่สนิทกันพอสมควร แต่ไม่คิดว่าจะสนิทกันถึงขั้นสนับสนุนลูกชายกับชายอื่นออกหน้าออกตาขนาดนี้
“อืม...แสดงว่าเราไม่รู้เรื่องที่บ้านเขาเลยสินะ ไหนบอกนามสกุลมาซิ แม่จะเอาไปสืบ...”แม่ผมอาการหนักนะเนี่ย แม่ปักใจเชื่อไปแล้วว่ามันต้องเป็นคุณชายหลุดมาจากคฤหาสน์ แต่ก็เอาเถอะ เพราะดูจากรถผมก็ไม่คิดว่าบ้านมันจนหรอก ผมบอกนามสกุลแม่ไปปั๊บแม่ก็เอาไปแชทถามสมาคมคุณหญิงคุณนายของตัวเองทันที
ผมไม่ได้พูดเรื่องพ่อมันมีชู้หรอก
เดี๋ยวคะแนนตก
เหอๆ ทำไมผมต้องช่วยมันด้วยเนี่ย!?
“อืม เดี๋ยวรอได้ข่าวแล้วแม่จะบอกน้องเพลินนะคะ”
ไม่อยากรู้เฟ้ยยย!
“ว่าแต่วันจันทร์เลิกเรียนคะ แม่ต้องไปทำธุระแถวนั้นตอนบ่ายๆพอดี จะได้แวะไปส่งที่ทาวน์โฮม”
“อ่อ มีแข่งกีฬาเฟรชชี่ตอนเย็นครับ คงไปไม่ได้”
“เปิดเทอมมาตั้งนานแล้วยังแข่งกันไม่เสร็จอีกเหรอคะ”
“เพิ่งเริ่มครับ เขาจัดหลังสอบกลางภาคนี่แหละ”
“แหม...ทีประกวดดาวเดือนล่ะรีบจัดกันเชียวนะ อ๊ะ จะว่าไป...งั้นคนที่ให้ดอกไม้เรากลางเวทีก็คือครอสน่ะสิ”
“ชะ...ใช่ครับ”ทำไมพอย้อนคิดถึงเรื่องนั้นแล้วผมต้องหน้าแดงด้วยเนี่ย ตอนนั้นเอาไปเล่าให้แม่ฟังด้วยความแค้นไม่คิดเลยว่าจะ
มาถึงวันที่นั่งอายกับเรื่องเดียวกันได้
“ต๊ายยย...ออกตัวแรงนะเนี่ย คิกๆ อ่ะๆ ไม่แซวค่ะไม่แซว...ว่าแต่น้องเพลินลงกีฬาอะไรล่ะคะ”
“แบทครับ”ทีแรกก็อยากลงบาสตามไอ้ซังอยู่หรอก แต่เขาไม่รับ ชิส์ ใช่สิ กูมันเตี้ยนี่!
“กีฬาหน่อมแน้มเชียวลูก”
“ก็แม่เป็นคนส่งผมเรียนเองไม่ใช่เหรอ!?”คนอื่นเขาส่งลูกเรียนคาราเต้ ว่ายน้ำ เตะบอลอะไรก็ว่าไปแต่แม่กลับส่งไปเรียนแบทแล้วยังมีหน้ามาแซวกันอีกนะ
“คิกๆ อย่าโกรธสิคะน้องเพลิน น่ารักดีออก ไม่เชื่อแม่ก็ไปถามครอสดูสิ”
“แม๊!!”ผมหน้าแดงไปหมดละเนี่ย โดนแม่แซวอ่ะ!
“ว่าแต่ครอสเขาลงเล่นอะไรเหรอลูก”
“เอ...ไม่รู้แฮะ...”ผมท่านึกแต่ก็คิดขึ้นได้ว่ายังไม่เคยถามมันเลยจะไปนึกอะไรออก
“ไม่ได้เรื่องเลยลูกคนนี้ ใส่ใจเขาบ้างสิคะ เดี๋ยวเขาก็ทิ้งไปหาสาวๆน่ารักๆขี้เอาใจหรอก”ดูแม่พูดเข้า
“งั้นเดี๋ยวแชทไปถาม”ผมพูดพร้อมกดเปิดแอพ ที่รีบถามทันทีไม่ใช่เพราะกลัวมันไปหาคนอื่นหรอกนะ แต่เพราะแม่เร่งให้ถามต่างหาก จริงๆ เชื่อสิ!!
" " " " " " " " " " " " " " " " " " " " " " " " " " " " " " " " " " " " " " " " " "
คุณแม่ของน้องเพลินนี่คุณน๊ายคุณนาย 555555+
แต่เป็นคุณนายแบบน่ารักๆนะคะ
เคยมีโอกาสได้สอนพิเศษลูกคุณหนูเจ้าของธุรกิจอยู่พักใหญ่ๆ เขาพูดกันด้วยภาษาแบบนี้เลย
เราคิดว่ามันผู้ดีแบบน่ารักมากๆเลย คิดถึงจัง บ้านเขาสวยมากเลยค่ะ 