ตอนที่14 part2 “เง๊ออออออ”ร้องหลงคีย์ไปหมด สติแตก หลับตาปี๋ มือจิกแขนเสื้อคนข้างๆแน่น
“มัวแต่หลับตาจะดูรู้เรื่องไหม ลืมตาเร็ว ดูดิ ไคล์แม็กซ์เลย อีกเดี๋ยวผีต้องโผล่มาแฮ่แน่”
“เลววววววว”ผมกระซิบเสียงด่าลอดไรฟัน ด่ามันรวดทั้งสามคนนั้นแหละ ข้างกายผมคือครอส ถัดไปคือเคสและแวนตามลำดับ ส่วนข้างผมอีกฝั่งคือทางเดิน!
คนจองที่แม่งเลว นั่งติดทางเดินมืดๆงี้เวลามีคนเดินผ่านผมก็สะดุ้งหมดอะ ลูกเด็กเล็กแดงกูไม่สนกูกลัวหมด แล้วพวกมันก็จงใจให้ผมมานั่งตรงนี้นะ แกล้งกันเห็นๆ หลอกแต๊ะอั๋งกูสุดๆไปเล้ยยยย เพราะพอยิ่งผมเตลิดเท่าไหร่ก็ยิ่งเกาะแขนครอสแน่นขึ้นเท่านั้น
เชี่ยครอสมันยิ้มทุกครั้งที่ผมผวาไปเกาะมัน อารมณ์ดีราวกับดูหนังตลกอยู่
“ครอส...”ผมเอานิ้วสะกิดคนข้างๆยิก”ปวดฉี่อะ”
มันขำ! เกลียดอะ ก็บอกแล้วว่ากลัวๆๆๆๆ ก็แกล้งกันอยู่นั่นแหละ คราวหน้าถ้าอยากให้กอดนักก็พูดกันดีๆยอมกอดฟรีสองทีเลย!
ผมลากแขนไอ้เลวออกมาเข้าห้องน้ำ ปล่อยให้มันยืนรออยู่ด้านหน้าพอจัดการธุระเสร็จก็ล้างมือเดินออกไปมาหามัน
“หน้าโคตรซีดเลย ไหวป่ะเนี่ย”
“ไม่”ผมตอบเสียงเหวี่ยง งอนขั้นสุด
“งั้นไปนั่งพักกัน ไม่ต้องเข้าไปละ”ร่างสูงเดินนำไปยังมุมโซฟา ผมเพิ่งเห็นประโยชน์ของไอ้โซฟาพวกนี้ก็ตอนนี้แหละ พอทิ้งตัวลงนั่งก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ ไหลตัวลงกับเบาะอย่างหมดสภาพ
“อาการหนักว่ะ ขอโทษนะ ว่าจะชวนออกมานานแล้วแหละ แต่เพลินไปหน่อย ผมมึงหอมดี”
“ชิส์ แก้แค้นกูอยู่ก็บอกมาตรงๆ”
“อย่าใส่ร้ายสิ น้อยใจนะเนี่ย ครอสไม่เคยคิดแค้นเคืองโกรธโทษเพลินสักครั้ง เสียใจจรุงง”ตอแหลตั้งแต่น้ำเสียง หน้าตาและคำพูดที่ใช้เลยสัส ผมโคตรมันเขี้ยวมันเลยยกมือเขกกะโหลกไปทีนึง
“หรา~ แล้วเคสของมึงนั่นโผล่มาจากไหนวะ ไม่ได้กะจะประชดอะไรกูเลยว่างะ...”หง่า...ไม่นะ พูดอะไรออกไป๊
คำพูดของผมเหมือนคนกำลังหึงไม่มีผิด ไม่ๆๆๆๆ ไม่ได้ ไม่นะ อย่าแซว ขอร้อง เขิน!
รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏขึ้นบนมุมปากคม ร่างสูงขยับเข้ามาชิดผมจนตัวของเราชนกัน ผมขยับหนีมันก็ขยับตามมีการเอาแขนมาพาดไหล่กันด้วย อย่าทำอย่างเนร้~ คนอื่นเขามองแล้วเห็นไหม
“หึงเหรอจ๊ะคนสวย”
“หึงเหี้ยไร ไม่ต้องมายิ้ม! ไม่สวยด้วย! กูหล่อ!”
ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ ครอสยิ้มกว้างขึ้นอีกยิ้มแล้วก็เอาแต่จ้องหน้าผมจนผมทนสบตามันต่อไม่ไหวเป็นฝ่ายเบือนหน้าหนีก่อน
“ปล่อยเลย แล้วก็เลิกลีลาได้ละ บอกกูมาดิว่าเคสเป็นใคร กูไม่เชื่อว่าเพื่อนมึง”ผมพยามยันตัวมันออกสุดฤทธิ์กระทั่งครอสรู้สึกเวทนาและขยับออกไปเอง
“หึงก็บอกว่าหึง”
“ไม่ได้หึงโว้ยย”
“โกหกว่าหึงก็ยังดี แล้วจะเฉลย”
“วุ๊! ไม่ได้อยากรู้ขนาดนั้นมะ คำว่าหึงเขาเอาไว้ใช้กับคนที่ชอบป๊ะ!?”
“งั้นอาการแบบนี้แปลว่าอะไร?”
“เกือบหึง!! พอใจรึยัง!?”
โอ๊ยยยยย ผมพูดอะไรออกไป๊!? เขินจนไม่กล้าเงยหน้าสู้ใครแล้ว ผมเก็บมือที่เกิดเกะกะขึ้นกะทันหันมากอดไว้กับอก เสหน้าแดงก่ำของตัวเองมองพนักงานตรวจตั๋วเหมือนมีอะไรน่าสนใจนักหนาปล่อยให้คนข้างตัวยิ้มจนพอใจ
ครอสขยี้หัวผมอย่างมันมือก่อนจะเอ่ยคำพูดชวนช็อคออกมาว่า
“เคสเป็นน้องกูเอง ที่เล่าให้ฟังเมื่อวันนั้น”
“!?”ผมมองหน้าคนที่พูดคุยกับลูกหญิงชู้อย่างสนิทสนมแบบไม่อยากเชื่อหูตัวเอง
“ก็วันนั้นเพลินบอกเองหนิว่าน้องไม่ผิด ให้คุยกับน้องดีๆ...ก็นะ ยังไงพ่อก็ยัดน้องเขามาอยู่คอนโดกูตั้งแต่วันที่กูหนีไปหามึงแล้วจะสนิทกันก็ไม่แปลก....”
มิน่าวันนั้นมันถึงคร่ำครวญไม่อยากกลับห้องตัวเอง มิน่าเคสมันถึงเรียกครอสว่าพี่ทั้งๆที่อายุเท่ากัน และมิน่าเมื่อกี้พอผมจะไปค้างห้องครอสเคสมันเลยต้องหาที่นอนใหม่ และมิน่าอีกว่าชื่อมันก็มาโทนเดียวกันซะขนาดนี้ คริส ครอส เคส แต่ผมเสล่อแป๊ะดูไม่ออก
ที่สำคัญคือมิน่าไอ้ครอสมันถึงดีอกดีใจจนออกนอกหน้าตอนผมว่ามันว่าเคสเป็นใครเหมือนคนกำลังหึง เพราะมันคงคิดไม่ถึงว่าผมจะดูไม่ออกว่าเคสเป็นน้องมันขนาดนั้น
อย่างงี้ไม่ความรักบังตาก็โง่เข้าขั้นซึ่งผมไม่รู้จะน้อมรับข้อสันนิษฐานไหนไว้ถูกดี
“เอ๊ะ คอนโดมึงมีห้องนอนกี่ห้อง”
“สอง ทำไมเหรอ”
“งั้นทำไมน้องมึงต้องไปนอนห้องแวนด้วยวะ?”ผมถามอย่างแปลกใจ
“ไม่รู้สิ...มันอาจจะอยากเปิดโอกาสให้กูกับมึงกุ๊กกิ๊กกันหรือไม่ก็....หึหึหึ”
“ไม่ก็อะไร”
“อย่ารู้เลย”
“เห้ย! อย่างแกล้งดิ บอกมาไม่งั้นกูกลับไปนอนบ้านนะเว้ย!”ขู่ไปนี่ช่วยกลัวหน่อยเถอะขอร้อง ไม่ใช่มานั่งยิ้มกรุ้มกริ่ม แล้วแขนน่ะเมื่อไหร่จะเอาออก พาดมาได้หนักนะเหวย
“ไม่กลัวก็ตามใจ อย่าหาว่าไม่เตือน ระวังจะโดะ...”
“หยุดเดี๋ยวนี้นะ! ไม่อยากรู้แล้วก็ได้ พอใจรึยัง ชิส์ๆๆๆๆๆ”
ต่อมเผือกของผมทำงานหนักมาก ทว่าก็ไม่ได้ประเด็นอะไรเลยครอสเอาแต่บ่ายเบี่ยงเปลี่ยนประเด็นอยู่นั่นแหละ รอสักพักหนังก็จบแวนและเคสเดินออกมาหาพวกเราด้วยหน้าตาเปรมปรี พวกเราสี่คนกินข้าวเย็นกันในห้าง กินไปคุยกันไปสนุกดี
แม้ว่าส่วนใหญ่คนพูดจะเป็นเคสและคนเสริมจะเป็นครอสก็ตาม
เท่าที่สังเกตผมว่าเคสมันไม่ใช่คนใสๆแบบที่คิดไว้
ถ้าเป็นผู้หญิงคงเรียกว่าแรดเงียบล่ะมั้ง
แต่มันไม่ได้มาจิกใส่ผมแบบซันนี่พวกเราก็เลยสนิทกันเร็ว แลกเฟสแลกไลน์กันเสร็จสรรพ เชี่ยครอสบ่นกระปอดกระแปดเลยว่ากว่ามันจะได้มาต้องแลกด้วยหยาดเหงื่อและคราบน้ำตาไปเท่าไหร่ทำไมผมให้น้องมันง่ายๆงู้นงี้
และแล้วงานเลี้ยงก็มีวันเลิกราผมขึ้นรถของครอสส่วนแวนกับเคสก็แยกไปด้วยกัน ทว่าเส้นทางที่สารถีกิตติมาศักดิ์เลือกใช้กลับทำให้ผมขมวดคิ้วมุ่น นี่มันทางไปมหาลัยไม่ใช่ทางกลับคอนโดของครอส
“มีธุระที่มอเหรอ?”นาฬิกาดิจิตอลบนคอนโซลรถบอกเวลาเกือบหกโมงแล้วไปตอนนี้เขาคงปิดตึกกลับบ้านกันหมด
“อ๋อ...เปล่าๆ จะไปส่งมึงที่หอเพื่อนไง”
“อ้าว ไม่ได้จะให้กูไปค้างกับมึงหรอกเหรอ!?”แล้วถ้าจะไม่ให้ผมไปค้างตั้งแต่แรกมันจะปล่อยน้องตัวเองไปกับแวนทำไม
ครอสกระตุกยิ้มมุมปาก มันไม่ยอมตอบจนกระทั่งโฟล์คบีทเทิลเทียบท่าหน้าหอของซัง
“ขืนหิ้วกลับไปนอนด้วยคืนนี้มีคนเสียซิงแหง”นัยน์ตาสีเข้มของมันฉายแววเจ้าเล่ห์ กรอบหน้าคมค่อยๆเลื่อนเข้ามาใกล้ ครอสปลดเข็มขัดนิรภัยของผมออกอย่างเนิบนาบแขนของมันดูเหมือนโอบผมอยู่แบบกลายๆ ฉากหลังของมันคือซอยแคบๆกับเสาไฟฟ้าที่มีสายโทรศัพท์พันระโยงรยางค์ไปหมด เหมือนกับคืนวันนั้น
คืนที่ผมปิดประตูใส่หน้ามัน
สิ่งที่ต่างไปจากเดิมก็คือท้องฟ้าข้างนอกยังไม่มืดสนิท...และตัวผมที่ค่อยๆปรือตาลงยามสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นๆที่เป่ารดใบหน้า
ความรู้สึกหวิวๆตรงท้องน้อยโลดแล่นเข้าสู่หัวใจจนเต้นรัวผิดเพี้ยนจังหวะไปหมด
ริมฝีปากของเราจรดกันอย่างแผ่วเบา แต่นั่นก็เพียงพอให้ใบหน้าของผมเห่อร้อนจนเป็นสีแดงแจ๋ มือแกร่งเลือกขึ้นมาประคองท้ายทอยเพื่อรั้งให้พวกเราแนบชิดกันยิ่งขึ้นก่อนมันจะขบเม้มกลีบปากของผมอย่างนุ่มนวล ลิ้นร้อนไล้เลียแต่ไม่ได้รุกร้ำเข้ามา
เพียงชั่วเวลาสั้นๆแต่รู้สึกเหมือนต้องมนต์ พ่อมดผู้ร้ายกาจก็ผละตัวออกไป จดจ้องใบหน้าของผมด้วยแววตาแพรวพราว
ผมประหม่าจนทำตัวไม่ถูก ยกมือขึ้นทาบแก้มแล้วสะบัดหัวไปมา การกระทำของผมคงน่าเอ็นดูมากในสายตาของใครบางคนที่ยกมือขึ้นมาขยี้เส้นผมของผมจนเสียทรงไปหมด
“ลงไปได้แล้ว เดี๋ยวก็โดนอีกรอบหรอก”
ต้องให้มันไล่ผมถึงรู้สึกตัวว่าควรจะลงๆจากรถคันนี้ได้แล้ว
โคตรเขินเลยอ๊ะ!
" ' " ' " ' " ' " ' " ' " ' " ' " ' " ' " ' " ' " ' " ' " ' " ' " ' " ' " ' " ' " ' " ' " ' " ' " ' " ' " '
ตอนนี้สั้นอย่างไม่น่าให้อภัย
แต่ก็ให้อภัยเก๊าเตอะนะ 
เพราะตอนหน้าคนเดินเรื่องจะไม่ใช่เพลิน 
ปล.ขอบคุณที่ทักเรื่องคำผิดนะคะ
เพจตัวใหญ่ๆกลัวไม่เห็น 55555+
สามารถเข้าไปตามทวงนิยายหรือชวนคุยได้ตลอดเวลาเลยค่ะ คนแต่งเหงา(?)